รายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชา (เขมร: បញ្ជីរាយនាមព្រះមហាក្សត្រកម្ពុជា។) ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์กัมพูชาเป็นประมุขแห่งรัฐของประเทศกัมพูชาที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์วรมัน พระมหากษัตริย์พระองค์แรกคือ พระนางโสมา และพระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 112 ตามพระราชพงศาวดารกัมพูชาที่ได้บันทึกพระราชวงศ์วรมันนั้นได้แก่ เอกสารมหาบุรุษเขมร และพระราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา ฉบับ โดยการแบ่งบันทึกพระราชพงศาวดารดังกล่าวจะเป็นเป็น 2 ภาค อันได้แก่ ภาคแรก เป็นตำนานที่ได้มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เริ่มจากรัชกาลของพระทอง-นางนาค จนถึง รัชกาลของพระบาทนิพพานบท
อาณาจักรฟูนาน
(พ.ศ. 611 – 1170)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรฟูนาน (พ.ศ. 611 – 1170) | ||||
1 | พระนางโสมา (นางนาค) | พ.ศ. 611 – ศตวรรษที่ 1 | ปฐมกษัตริย์แห่งกัมพูชา พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Liǔyè (柳葉) หรือ Yèliǔ (葉柳) เป็นตำนานพระทอง-นางนาค | |
2 | พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 1 (พระทอง) | ศตวรรษที่ 1 – 2 | เป็นพระราชสวามีของพระนางโสมา พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùntián (混塡) หรือ Hùnhuì (混湏) เป็นตำนานพระทอง-นางนาค | |
3 | – | ศตวรรษที่ 2 – 2 | ไม่ปรากฏพระนาม | |
4 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | ศตวรรษที่ 2 – พ.ศ. 741 | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùnpánkuàng (混盤況) | |
5 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | พ.ศ. 741 – 744 (3 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Pánpán (盤盤) | |
6 | พ.ศ. 744 – 768 (24 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน ชือม่าน (范師蔓) | ||
7 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | พ.ศ. 768 – 768 (น้อยกว่า 1 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จินเซิง (范金生) | |
8 | พ.ศ. 768 – 787 (19 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จาน (范旃) | ||
9 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | พ.ศ. 787 – 787 (น้อยกว่า 1 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เฉิง (范長) | |
10 | พ.ศ. 787 – 832 (45 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน สุน (范尋) | ||
11 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | พ.ศ. 832 – 900 (68 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เทียนจู | |
12 | (พระนามในบันทึกเอกสารจีน) | พ.ศ. 900 – 953 (53 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Zhāntán (旃檀) | |
13 | พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 2 | พ.ศ. 953 – 978 (25 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú (僑陳如) | |
14 | พ.ศ. 977 – 978 (1 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Chílítuóbámó (持梨陀跋摩) | ||
15 | – | พ.ศ. 978 – 981 (3 ปี) | ไม่ปรากฏพระนาม | |
16 | – | พ.ศ. 981 – 1027 (46 ปี) | ไม่ปรากฏพระนาม | |
17 | พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 | พ.ศ. 1027 – 1057 (30 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú Shéyébámó (僑陳如闍耶跋摩) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 2 | |
18 | พระเจ้ารุทรวรมัน | พ.ศ. 1057 – 1093 (36 ปี) | พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Liútuóbámó (留陁跋摩) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรฟูนานพระองค์สุดท้าย และพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 ที่ประสูติจากพระสนม เมื่อพระราชบิดาสวรรคตพระองค์ก็ทำการแย่งชิงราชสมบัติและสังหาร รัชทายาทโดยชอบธรรมที่ประสูติจากพระนางกุลประภาวดี พระอัครมเหสี จึงมีการทำสงครามยืดเยื้อกับพระนางกุลประภาวดี เป็นสาเหตุให้อาณาจักรฟูนานอ่อนแอและล่มสลายลงในที่สุด เมื่อพระเจ้าภววรมันที่ 1 ร่วมกันกับเจ้าชายจิตรเสน (พระเจ้ามเหนทรวรมัน) พระอนุชา ทำสงครามเพื่อชิงราชสมบัติและบุกยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จ | |
สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1093 – 1170) | ||||
– | พ.ศ. 1093 – 1143 (50 ปี) | สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ | ||
– | พ.ศ. 1143 – 1158 (15 ปี) | สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ | ||
– | พ.ศ. 1158 – 1170 (12 ปี) | สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ |
อาณาจักรเจนละ
(พ.ศ. 1093 – 1345)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1093 – 1256) | ||||
– | พระเจ้าศรุตวรมัน | พ.ศ. 1093 – 1098 (5 ปี) | ทรงปลดแอกอาณาจักรเจนละจากการปกครองของอาณาจักรฟูนานในศตวรรษที่ 5 พระองค์สืบเชื้อสายมาจาก ซึ่งเป็นราชวงศ์ของพราหมณ์กัมพูสวยัมภูวะกับพระองค์ทรงเป็นพระราบิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน | |
– | พระเจ้าเศรษฐวรมัน | พ.ศ. 1098 – 1103 (5 ปี) | เป็นพระโอรสของพระเจ้าศรุตวรมัน เป็นผู้สถาปนาเมืองเศรษฐปุระเป็นเมืองหลวง ที่เชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินวัดพู พระองค์ทรงเป็นพระราชบิดาในพระนางกัมพุชราชลักษมี | |
– | พระเจ้าวีรวรมัน | พ.ศ. 1103 – 1118 (15 ปี) | ||
– | พระนางกัมพุชราชลักษมี | พ.ศ. 1118 – 1123 (5 ปี) | เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน ต่อมามอบราชสมบัติให้แก่พระเจ้าภววรมันที่ 1 ซึ่งเป็นพระราชสวามีของพระนาง | |
19 | พระเจ้าภววรมันที่ 1 | พ.ศ. 1123 – 1143 (20 ปี) | เป็นเชษฐาของพระเจ้ามเหนทรวรมัน พระองค์เป็นเชื้อพระวงศ์ในอาณาจักรฟูนานที่ปกครองเมืองภวปุระ พระองค์ได้ร่วมมือกันกับเจ้าชายจิตรเสน ยกกองทัพเข้าชิงราชสมบัติจากพระเจ้ารุทรวรมัน เพราะเห็นว่าพระเจ้ารุทรวรมันขาดความชอบธรรมในการขึ้นครองราชสมบัติโดยหลังจากที่พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3สวรรคต พระเจ้ารุทรวรมันก็ทำการสังหารรัชทายาทที่ชอบธรรมที่ประสูติจากพระอัครมเหสี แล้วขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฟูนาน ซึ่งพระเจ้าภววรมันที่ 1 ก็ได้รับชัยชนะเหนือพระเจ้ารุทรวรมันและยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จ | |
20 | พระเจ้ามเหนทรวรมัน | พ.ศ. 1143 – 1159 (16 ปี) | เป็นอนุชาของพระเจ้าภววรมันที่ 1 | |
21 | พระเจ้าอิศานวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1159 – 1178 (19 ปี) | เป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามเหนทรวรมัน | |
22 | พระเจ้าภววรมันที่ 2 | พ.ศ. 1182 – 1200 (18 ปี) | ||
23 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1200 – 1224 (24 ปี) | สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาทที่เป็นชายหลงเหลืออยู่เลย พระมเหสีของพระองค์ คือ พระนางชยเทวี จึงสืบราชสมบัติต่อ และทำให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนออกเป็นภาคส่วนต่าง ๆ | |
24 | พระนางชยเทวี | พ.ศ. 1224 – 1256 (32 ปี) | เป็นพระมเหสีของพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 | |
อาณาจักรเจนละ ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรเจนละบกและอาณาจักรเจนละน้ำ[] | ||||
อาณาจักรเจนละน้ำ (พ.ศ. 1256 – 1345) | ||||
25 | พ.ศ. 1256 – 1256 (น้อยกว่า 1 ปี) | |||
26 | พ.ศ. 1256 – 1259 (3 ปี) | |||
27 | พ.ศ. 1259 – 1273 (14 ปี) | |||
28 | พ.ศ. 1273 – 1303 (30 ปี) | ทรงรวมเจนละเข้าเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง[] | ||
29 | พ.ศ. 1303 – 1323 (20 ปี) | |||
30 | พระเจ้ามหิปติวรมัน | พ.ศ. 1303 – 1345 (42 ปี) | สวรรคตจากการโดนพระเจ้าสัญชัยตัดพระเศียร เมื่อ พ.ศ. 1345 | |
อาณาจักรศรีวิชัย เข้ายึดครองอาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1345) |
อาณาจักรพระนคร
(พ.ศ. 1345 – 1974)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรพระนคร (พ.ศ. 1345 – 1974) | ||||
สถาปนา มเหนทรบรรพต เป็นเมืองหลวง | ||||
สถาปนา หริหราลัย เป็นเมืองหลวง | ||||
31 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1345 – 1378 (33 ปี) | ประกาศอิสรภาพกัมพูชาจากการยึดครองของอาณาจักรศรีวิชัย สถาปนาอาณาจักรพระนคร และรับการอภิเษกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ณ พนมกุเลนและริเริ่มลัทธิเทวราชขึ้นเป็นครั้งแรกในกัมพูชา | |
32 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 3 | พ.ศ. 1378 – 1420 (42 ปี) | เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 | |
33 | พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1420 – 1432 (12 ปี) | ภาคิไนยในพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระองค์ได้สร้าง โดยอุทิศแด่พระราชบิดาและพระอัยกา และสร้างปราสาทบากอง | |
สถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง | ||||
34 | พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1432 – 1453 (21 ปี) | พระราชโอรสในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทโลเลย ย้ายราชธานีไปตั้งที่กรุงยโศธรปุระล้อมรอบด้วย อีกทั้งยังทรงโปรดให้ขุดบารายตะวันออก | |
35 | พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1453 – 1466 (13 ปี) | พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทปักษีจำกรุง | |
36 | พระเจ้าอิศานวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1466 – 1471 (5 ปี) | พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระเชษฐาในพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 พระองค์มีบทบาทในการชิงพระราชบัลลังก์พระมาตุลาของพระองค์เอง (พระเจ้าชัยวรมันที่ 4) พระองค์โปรดให้สร้าง | |
สถาปนา เกาะแกร์ เป็นเมืองหลวง | ||||
37 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 | พ.ศ. 1471 – 1484 (13 ปี) | พระราชนัดดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 (ประสูติแต่พระนางมเหนทรเทวี พระธิดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1) พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับพระนางชยเทวี พระขนิษฐาในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ทรงราชาภิเษกโดยอ้างสิทธิ์ทางสายพระราชมารดา และเป็นผู้สถาปนาเกาะแกร์เป็นราชธานี | |
38 | พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1484 – 1487 (3 ปี) | พระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 | |
สถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง | ||||
39 | พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1487 – 1511 (24 ปี) | เป็นพระปิตุลาและพระภาดาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 พระองค์ได้ชิงพระราชบัลลังก์จากพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2และทรงย้ายราชธานีกลับมาที่เมืองพระนคร ทรงโปรดให้สร้าง ปราสาทหินพนมรุ้ง และ, ทรงเริ่มทำสงครามกับอาณาจักรจามปาในปี ค.ศ. 946 | |
สถาปนา พระนคร เป็นเมืองหลวง | ||||
40 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 | พ.ศ. 1511 – 1544 (33 ปี) | พระราชโอรสของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่คือเมืองชัยเยนทรนครและ ให้เป็นศูนย์กลางแทนเมืองศรียโศธรปุระ | |
41 | พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1544 – 1549 (5 ปี) | เป็นยุคแห่งความวุ่นวาย เนื่องจากมีพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ครองราชย์พร้อมกันทำให้เกิดความขัดแย้ง | |
42 | พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1549 – 1593 (42 ปี) | ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์โจฬะและสู้รบกับอาณาจักรตามพรลิงก์ โปรดให้สร้าง ปราสาทหินพิมาย พระองค์ได้หันมานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน | |
43 | พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1593 – 1609 (16 ปี) | ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ พระองค์สืบราชสันตติวงศ์แต่พระมเหสีในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 โปรดให้สร้างปราสาทบาปวน โปรดให้ขุดบารายตะวันตกและโปรดให้สร้างปราสาทแม่บุญตะวันตกและปราสาทสด็อกก็อกธม | |
44 | พระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 | พ.ศ. 1609 – 1623 (14 ปี) | แย่งราชบัลลังก์จากพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ตั้งศูนย์กลางพระนครที่ปราศาทบาปวน การรุกรานของอาณาจักรจามปาในปี พ.ศ. 1617 และ 1625 | |
45 | พระเจ้าชัยวรรมันที่ 6 | พ.ศ. 1623 – 1650 (27 ปี) | พระองค์ชิงราชบัลลังก์จากวิมายปุระ เป็นปฐมกษัตริย์ต้นสายราชสกุลมหิธรปุระ โปรดให้สร้างปราสาทพิมาย | |
46 | พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 | พ.ศ. 1650 – 1656 (6 ปี) | ชิงราชบัลลังก์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 | |
47 | พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1656–1688 (32 ปี) | ลอบปลงพระชนม์พระปัยกาและแย่งชิงเพื่อขึ้นครองราชสมบัติต่อ และยังโปรดให้สร้าง ปราสาทนครวัด, บันทายสำเหร่, , และ อีกทั้งยังทำศึกสงครามรุกรานกับอาณาจักรไดเวียต และ จามปา | |
48 | พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1693 – 1703 (10 ปี) | เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 | |
49 | พระเจ้ายโศวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1703 – 1710 (7 ปี) | ถูกยึดอำนาจโดยพระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน | |
50 | พระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน | พ.ศ. 1710 – 1720 (10 ปี) | อาณาจักรจามปาได้เข้ามารุกรานเมื่อปี พ.ศ. 1720 จนกระทั่งเสียพระนครให้แก่จามปาในรัชสมัยพระเจ้าชัยอินทรวรมันที่ 4 กษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา ในอีกหนึ่งปีต่อมา คือเมื่อปี พ.ศ. 1721 | |
ถูกรุกรานโดยอาณาจักรจามปา (ว่างเว้นกษัตริย์ พ.ศ. 1721 – 1724) | ||||
สถาปนา นครธม เป็นเมืองหลวง | ||||
51 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พ.ศ. 1724 – 1761 (37 ปี) | เป็นผู้นำกองทัพชาวพระนครในการกอบกู้เอกราชของอาณาจักรพระนครให้พ้นจากการปกครองของอาณาจักรจามปา จนได้รับชัยชนะและเป็นเอกราชอีกครั้งในปี พ.ศ. 1734 หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำศึกครั้งนั้นแล้ว จึงได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญเช่น การสร้างอโรคยศาลา พระราชวัง สระน้ำหลวง รวมไปถึงปราสาทองค์สำคัญ เช่น ปราสาทตาพรหม, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทบายน ใน นครธม และ ปราสาทนาคพันธ์ เป็นต้น | |
52 | พระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 | พ.ศ. 1762 – 1786 (24 ปี) | เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในรัชสมัยของพระองค์นั้นได้สูญเสียดินแดนทางฝั่งตะวันตกโดยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้ทำการฟื้นฟูอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และดินแดนทางฝั่งตะวันออกนั้น อาณาจักรจามปา ก็ยังได้ประกาศเอกราชขึ้นมาอีกในรัชสมัยเดียวกัน | |
53 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 | พ.ศ. 1786 – 1838 (52 ปี) | ถูกชาวมองโกลนำโดยกุบไลข่าน รุกรานในปี พ.ศ. 1826 และทำสงครามกับอาณาจักรสุโขทัย | |
54 | พระเจ้าอินทรวรมันที่ 3 | พ.ศ. 1838 – 1851 (13 ปี) | ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ผู้เป็นพระสัสสุระ ทำให้พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ มีการรับนักการทูตชาวจีนหยวน โจว ต๋ากวาน (พ.ศ. 1839 – 1840) | |
55 | พระเจ้าอินทรวรมันที่ 4 | พ.ศ. 1851 – 1870 (19 ปี) | ||
56 | พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 | พ.ศ. 1870 – 1879 (9 ปี) | มีพระนามปรากฏในศิลาจารึกภาษาสันสกฤตเป็นพระองค์สุดท้าย สิ้นสุดการปกครองโดยราชสกุลมหิธรปุระหลังจากที่ได้ปกครองอาณาจักรมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี | |
57 | พระเจ้าแตงหวาน | พ.ศ. 1879 – 1883 (4 ปี) | ต้นสายราชสกุลตระซ็อกประแอม | |
58 | พระบรมนิพพานบท | พ.ศ. 1883 – 1889 (6 ปี) | ||
59 | พระสิทธานราชา | พ.ศ. 1889 – 1890 (1 ปี) | ||
60 | พระบรมลำพงษ์ราชา | พ.ศ. 1890 – 1896 (6 ปี) | ||
อาณาจักรอยุธยา ตีนครธมแตก แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป | ||||
61 | พระบาสาต (พระบากระษัตร) | พ.ศ. 1896 – 1899 (3 ปี) | ||
62 | พระบาอาต (พระบาอัฐ) | พ.ศ. 1899 – 1900 (1 ปี) | ||
63 | พระกฎุมบงพิสี | พ.ศ. 1900 (น้อยกว่า 1 ปี) | ||
64 | พระศรีสุริโยวงษ์ | พ.ศ. 1900 – 1906 (6 ปี) | ||
65 | พระบรมรามา | พ.ศ. 1906 – 1916 (10 ปี) | ||
66 | พระธรรมาโศกราช | พ.ศ. 1916 – 1936 (20 ปี) | ||
อาณาจักรอยุธยา นำโดยสมเด็จพระราเมศวร ตีนครธมแตกครั้งที่ 2 แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป | ||||
67 | พระอินทราชา (พญาแพรก) | พ.ศ. 1931 – 1964 (33 ปี) | ||
สถาปนา เป็นเมืองหลวง |
(Khom colony
อาณาจักรเขมรจตุมุข
(พ.ศ. 1974 – 2083)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเขมรจตุมุข (พ.ศ. 1974 – 2083) | ||||
พ.ศ. 1974 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา เสด็จยกทัพมาตีนครธม ได้สำเร็จ และทรงแต่งตั้ง พระราชโอรสครองเมืองนครธมต่อไป ในฐานะประเทศราช ต่อมาอาณาจักรอยุธยาได้แต่งตั้งให้ พระราชโอรสอีกพระองค์ในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 มาครองนครธม จนกระทั่งถูกเจ้าพระยาญาติ เชื้อพระราชวงศ์วรมันกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ พระองค์ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 ส่วนเจ้าพระยาแพรกถูกปลงพระชนม์ | ||||
สถาปนา เป็นเมืองหลวง | ||||
68 | พระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 (พระบรมราชาเจ้าพญาญาติ) | พ.ศ. 1916 – 1976 (60 ปี) | ย้ายราชธานีมายังกรุงจตุมุข เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรจตุมุข | |
ย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ พระนคร | ||||
69 | พระนารายณ์รามาธิบดี (พระนารายณ์ราชาที่ 1 , พญาคำขัด) | พ.ศ. 1976 – 1980 (4 ปี) | ย้ายราชธานีกลับมาเมืองพระนคร | |
70 | พระศรีราชา | พ.ศ. 1980 - 1981 (1 ปี) | ถูกพระศรีสุริโยไทยราชา พระอนุชาชิงราชสมบัติ | |
71 | พระศรีสุริโยไทยราชา (เจ้าพญาเดียรราชา) | พ.ศ. 1981 – 2019 (38 ปี) | เป็นพระราชโอรสเจ้าพญาญาติ กับพระอิทรมิตรา (พระราชธิดาสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา) ถูกพระพระธรรมราชาชิงราชสมบัติ | |
ย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ | ||||
72 | สมเด็จพระธรรมราชาธิราชรามาธิบดีที่ 1 (พระศรีธรรมราชาที่ 1) | พ.ศ. 2011 – 2047 (36 ปี) | เป็นพระราชโอรสพระศรีสุริโยไทยราชา กับธิดาขุนทรงพระอินทร์ (ขุนนางอยุธยาที่ถูกส่งมาเป็นเจ้าเมืองโพธิสัตว์) ถูกพระอนุชาก่อกบฏ แต่สามารถขอกำลังอยุธยาปราบกบฏได้ทัน และย้ายราชธานีกลับมาเมืองจตุรมุขอีกครั้ง | |
สถาปนา เป็นเมืองหลวง | ||||
73 | พระศรีสุคนธบท (พญางามขัต , เจ้าพระยาฎำขัตราชา) | พ.ศ. 2047 – 2055 (8 ปี) | สถาปนาบาสาณเป็นราชธานี | |
74 | พระเจ้าไชยเชษฐาฐิราช (เจ้ากน, ขุนหลวงพระเสด็จ) | พ.ศ. 2055 – 2068 (13 ปี) | ชิงราชสมบัติพระศรีสุคนธบท | |
อาณาจักรเขมรจตุมุข เปลี่ยนมาเป็นอาณาจักรเขมรละแวก และได้ตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา |
อาณาจักรเขมรละแวก
(พ.ศ. 2083 – 2140)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเขมรละแวก (พ.ศ. 2083 – 2140) | ||||
สถาปนา เป็นเมืองหลวง | ||||
75 | พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทร์) | พ.ศ. 2059 – 2109 (50 ปี) | ย้ายราชธานีมายังกรุงละแวก เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรละแวก | |
76 | สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก, ปรมินทราชา) | พ.ศ. 2109 – 2119 (10 ปี) | ประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา, ทำสงครามและเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยา | |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3ทรงประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรเขมรละแวกได้เอกราชจากกรุงศรีอยุธยา | ||||
77 | สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) | พ.ศ. 2119 – 2137 (18 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชโอรส | |
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพมาตีกรุงละแวกได้สำเร็จ อาณาจักรเขมรละแวกได้ตกเป็นประเทศราชกรุงศรีอยุธยา) เป็นครั้งที่สอง | ||||
78 | พระไชยเชษฐาที่ 1 (นักพระสัตถา) | พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระบรมราชาที่ 5 | |
79 (1) | พระบรมราชาที่ 5 (พญาตน) | พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระไชยเชษฐาที่ 1 |
อาณาจักรเขมรศรีสันธร
(พ.ศ. 2140 – 2162)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเขมรศรีสันธร (พ.ศ. 2140 – 2162) | ||||
สถาปนา ศรีสันธร เป็นเมืองหลวง | ||||
80 | พระบาทรามเชิงไพร (พระรามที่ 1) | พ.ศ. 2137 – 2139 (2 ปี) | ย้ายราชธานีมายังกรุงศรีสันธร เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรศรีสันธร | |
81 | พระรามที่ 2 (พญานูร) | พ.ศ. 2139 – 2140 (1 ปี) | ||
79 (2) | พระบรมราชาที่ 5 (พญาตน) | พ.ศ. 2140 – 2142 (2 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | |
82 | พระบรมราชาที่ 6 (พญาอน) | พ.ศ. 2142 – 2143 (1 ปี) | ||
83 | พระแก้วฟ้าที่ 1 (เจ้าพญาโญม) | พ.ศ. 2143 – 2145 (2 ปี) | ||
84 | พระบรมราชาที่ 7 (ศรีสุริโยพรรณ, พระศรีสุพรรณมาธิราช) | พ.ศ. 2145 – 2162 (17 ปี) |
อาณาจักรเขมรอุดง
(พ.ศ. 2162 – 2384)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเขมรอุดง (พ.ศ. 2162 – 2384) | ||||
สถาปนา อุดงมีชัย เป็นเมืองหลวง | ||||
85 | พระไชยเชษฐาที่ 2 (พระชัยเจษฎา) | พ.ศ. 2162 – 2170 (8 ปี) | ย้ายราชธานีมายังกรุงอุดงมีชัย เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรอุดง | |
86 | พระศรีธรรมราชาที่ 2 (พญาตู) | พ.ศ. 2170 – 2175 (5 ปี) | ||
87 | พระองค์ทองราชา (องค์ทอง) | พ.ศ. 2175 – 2183 (8 ปี) | ||
88 | พระปทุมราชาที่ 1 (องค์นน) | พ.ศ. 2183 – 2185 (2 ปี) | ||
89 | พระรามาธิบดีที่ 1 (พระยาจันทร์) | พ.ศ. 2185 – 2201 (16 ปี) | ||
90 | พระบรมราชาที่ 8 (นักองค์สูร) | พ.ศ. 2202 – 2215 (13 ปี) | ||
91 | พระปทุมราชาที่ 2 (พระศรีชัยเชษฐ์) | พ.ศ. 2215 – 2216 (1 ปี) | ||
92 | พระแก้วฟ้าที่ 2 (นักองค์ชี) | พ.ศ. 2216 – 2220 (4 ปี) | ||
93 (1) | พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) | พ.ศ. 2220 – 2238 (18 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 | |
94 | (นักองค์ยง) | พ.ศ. 2238 – 2239 (1 ปี) | ||
93 (2) | พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) | พ.ศ. 2239 – 2243 (4 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | |
95 (1) | (นักองค์อิม) | พ.ศ. 2243 – 2244 (1 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 | |
93 (3) | พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) | พ.ศ. 2244 – 2245 (1 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 3 | |
96 (1) | พ.ศ. 2245 – 2247 (2 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 | ||
93 (4) | พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) | พ.ศ. 2247 – 2250 (3 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 4 | |
96 (2) | พ.ศ. 2252 – 2258 (6 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | ||
95 (2) | (นักองค์อิม) | พ.ศ. 2258 – 2265 (7 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | |
97 (1) | พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) | พ.ศ. 2265 – 2272 (7 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 | |
95 (3) | (นักองค์อิ่ม) | พ.ศ. 2272 – 2272 (น้อยกว่า 1 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 3 | |
97 (2) | พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) | พ.ศ. 2272 – 2280 (8 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | |
96 (3) | พ.ศ. 2281 – 2293 (12 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 3 | ||
98 | (นักองค์อิ่ม) | พ.ศ. 2293 – 2293 (น้อยกว่า 1 ปี) | ||
99 (1) | พระรามาธิบดีที่ 3 (นักองค์ทอง) | พ.ศ. 2293 – 2294 (1 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 | |
97 (3) | พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) | พ.ศ. 2294 – 2294 (น้อยกว่า 1 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 3 | |
100 | พระศรีไชยเชษฐ์ (นักองค์สงวน) | พ.ศ. 2294 – 2300 (6 ปี) | ||
99 (2) | พระรามาธิบดีที่ 3 (นักองค์ทอง) | พ.ศ. 2301 – 2303 (2 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 | |
101 | พระนารายน์ราชารามาธิบดี (นักองค์ตน) | พ.ศ. 2303 – 2318 (15 ปี) | ||
อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรธนบุรี (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรอยุธยาล่มสลายเมื่อ พ.ศ. 2310 และถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ในนามอาณาจักรธนบุรี) | ||||
102 | สมเด็จพระรามราชาธิราช (นักองค์โนน) | พ.ศ. 2318 – 2322 (4 ปี) | ||
103 | สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดีศรีสุริโยพรรณ (นักองค์เอง) | พ.ศ. 2322 – 2325 (3 ปี) | ||
อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรธนบุรีสิ้นสภาพจากการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และมีการสถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ขึ้นแทนที่ใน พ.ศ. 2325) | ||||
เกิดสงครามขึ้นระหว่างอาณาจักรรัตนโกสินทร์ กับราชวงศ์เหงียน เพื่อแย่งชิงอิทธิพลเหนือกัมพูชา นำไปสู่สงครามอานัมสยามยุทธ | ||||
104 | สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี (นักองค์จัน) | พ.ศ. 2349 – 2377 (28 ปี) | ||
105 | กษัตรีองค์มี (นักองเม็ญ) | พ.ศ. 2349 – 2377 (28 ปี) | พระนางได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามให้พระนางได้สถาปนาเป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาเพื่อถ่วงดุลกับสยามในช่วงอานัมสยามยุทธ | |
106 | สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) | พ.ศ. 2384 – 2403 (19 ปี) | ||
ตำแหน่งว่าง พ.ศ. 2383 – 2384 (1 ปี) |
รัฐอารักขาของฝรั่งเศส
(พ.ศ. 2406 – 2496)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อารักขาฝรั่งเศส (พ.ศ. 2406 – 2496) | ||||
กัมพูชาตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และกลายเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2406 (เข้าสู่ยุคกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส) (หมายเหตุ: กัมพูชาพ้นจากความเป็นประเทศราชของสยาม ทางฝ่ายสยามถือเป็นการเสียอิทธิพลให้ฝรั่งเศส) | ||||
107 | พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) | พ.ศ. 2403 – 2447 (44 ปี) | พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) | |
108 | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) | พ.ศ. 2447 – 2470 (23 ปี) | พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระอนุชาต่างพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) | |
109 | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) | พ.ศ. 2470 – 2484 (14 ปี) | พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) | |
110 (1) | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ | พ.ศ. 2484 – 2498 (14 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) | |
ในปี พ.ศ. 2496 กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ จึงมีการสถาปนาพระราชอาณาจักรกัมพูชาโดยใช้ระบอบสังคมราษฎรนิยม พ.ศ. 2496 – 2513 กัมพูชาเข้าสู่ยุคสังคมราษฎรนิยม |
ราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 1
(พ.ศ. 2496 – 2513)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
ราชอาณาจักรกัมพูชา (พ.ศ. 2496 – 2513) | ||||
111 | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต | พ.ศ. 2498 – 2503 (5 ปี) | เป็นพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) | |
เกิดรัฐประหารปี พ.ศ. 2513 ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ถูกยกเลิก (หมายเหตุ: ยุบเลิกราชอาณาจักรกัมพูชา เปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นสาธารณรัฐเขมร พ.ศ. 2513 – 2536) |
ราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 2
(พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน)
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
ราชอาณาจักรกัมพูชา (พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน) | ||||
ฟื้นฟูราชอาณาจักรกัมพูชาขึ้นใหม่ พ.ศ. 2536 | ||||
110 (2) | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ | พ.ศ. 2536 – 2547 (11 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 2 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต | |
112 | พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี | พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน (19 ปี+) | เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ |
อ้างอิง
- ศานติ ภักดีคำ. "เอกสารกัมพูชากับการศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา" (PDF). ดำรงวิชาการ. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2564.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "The women who made Cambodia". The Phnom Penh Post. 19 May 2010.
- "C. 87 Stela from Mỹ Sơn B6". Corpus of the Inscriptions of Campā.
- សៀវភៅសិក្សាសង្គម ថ្នាកទី១០ ឆ្នាំ២០១៧ របស់ក្រសួងអប់រំ យុវជន និងកីឡា ទំព័រទី១៣៤
- Jacobsen, Trudy, Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history, NIAS Press, Copenhagen, 2008
- "SPLIT RUN: D_83499_Myova_Orgov_SP_4C.p1.pdf [US only]". Urologic Oncology: Seminars and Original Investigations. 39 (10): IFC. October 2021. doi:10.1016/s1078-1439(21)00417-8. ISSN 1078-1439.
- Miksic, John N. (2007). Historical dictionary of ancient Southeast Asia. Lanham, Md.: Scarecrow Press. ISBN . OCLC 263614934.
- Coedes, George (May 15, 2015). "The Making of South East Asia (RLE Modern East and South East Asia)". doi:10.4324/9781315697802.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help)) - Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN .
- Higham, Charles. Early Mainland Southeast Asia. River Books Co., Ltd. ISBN .
- เจ้าพิธีลัทธิเทวราช อยู่สด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว ชุมทางเครือข่ายอำนาจ.สุจิตต์ วงษ์เทศ,มติชนสุดสัปดาห์,2562
- Kenneth T. So. (PDF). Cambosastra. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ July 8, 2021. สืบค้นเมื่อ February 16, 2023.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rayphranamphramhakstriykmphucha ekhmr បញ ជ រ យន មព រ មហ ក សត រកម ព ជ tngaetxditthungpccubn phramhakstriykmphuchaepnpramukhaehngrthkhxngpraethskmphuchathisubechuxsaymacakrachwngswrmn phramhakstriyphraxngkhaerkkhux phranangosma aelaphramhakstriyphraxngkhpccubnkhux phrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni epnphramhakstriyrchkalthi 112 tamphrarachphngsawdarkmphuchathiidbnthukphrarachwngswrmnnnidaek exksarmhaburusekhmr aelaphrarachphngsawdarkrungkmphucha chbb odykaraebngbnthukphrarachphngsawdardngklawcaepnepn 2 phakh xnidaek phakhaerk epntananthiidmikarcdbnthukepnlaylksnxksr erimcakrchkalkhxngphrathxng nangnakh cnthung rchkalkhxngphrabathniphphanbthxanackrfunan ph s 611 1170 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrfunan ph s 611 1170 1 phranangosma nangnakh ph s 611 stwrrsthi 1 pthmkstriyaehngkmphucha phranaminbnthukexksarcinwa Liǔye 柳葉 hrux Yeliǔ 葉柳 epntananphrathxng nangnakh2 phraecaekathinyachywrmnthi 1 phrathxng stwrrsthi 1 2 epnphrarachswamikhxngphranangosma phranaminbnthukexksarcinwa Huntian 混塡 hrux Hunhui 混湏 epntananphrathxng nangnakh3 stwrrsthi 2 2 impraktphranam4 phranaminbnthukexksarcin stwrrsthi 2 ph s 741 phranaminbnthukexksarcinwa Hunpankuang 混盤況 5 phranaminbnthukexksarcin ph s 741 744 3 pi phranaminbnthukexksarcinwa Panpan 盤盤 6 ph s 744 768 24 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan chuxman 范師蔓 7 phranaminbnthukexksarcin ph s 768 768 nxykwa 1 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan cinesing 范金生 8 ph s 768 787 19 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan can 范旃 9 phranaminbnthukexksarcin ph s 787 787 nxykwa 1 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan eching 范長 10 ph s 787 832 45 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan sun 范尋 11 phranaminbnthukexksarcin ph s 832 900 68 pi phranaminbnthukexksarcinwa fan ethiyncu12 phranaminbnthukexksarcin ph s 900 953 53 pi phranaminbnthukexksarcinwa Zhantan 旃檀 13 phraecaekathinyachywrmnthi 2 ph s 953 978 25 pi phranaminbnthukexksarcinwa Qiaochenru 僑陳如 14 ph s 977 978 1 pi phranaminbnthukexksarcinwa Chilituobamo 持梨陀跋摩 15 ph s 978 981 3 pi impraktphranam16 ph s 981 1027 46 pi impraktphranam17 phraecaekathinyachywrmnthi 3 ph s 1027 1057 30 pi phranaminbnthukexksarcinwa Qiaochenru Sheyebamo 僑陳如闍耶跋摩 epnphrarachoxrskhxngphraecaekathinyachywrmnthi 218 phraecaruthrwrmn ph s 1057 1093 36 pi phranaminbnthukexksarcinwa Liutuobamo 留陁跋摩 epnphramhakstriyaehngxanackrfunanphraxngkhsudthay aelaphramhakstriyaehngxanackrcampa epnphrarachoxrskhxng phraecaekathinyachywrmnthi 3 thiprasuticakphrasnm emuxphrarachbidaswrrkhtphraxngkhkthakaraeyngchingrachsmbtiaelasnghar rchthayathodychxbthrrmthiprasuticakphranangkulpraphawdi phraxkhrmehsi cungmikarthasngkhramyudeyuxkbphranangkulpraphawdi epnsaehtuihxanackrfunanxxnaexaelalmslaylnginthisud emuxphraecaphwwrmnthi 1 rwmknkbecachaycitresn phraecamehnthrwrmn phraxnucha thasngkhramephuxchingrachsmbtiaelabukyudrachthaniwyathpuraidsaercsngkhramxanackrfunan xanackrecnla ph s 1093 1170 ph s 1093 1143 50 pi sngkhramxanackrfunan xanackrecnla ph s 1143 1158 15 pi sngkhramxanackrfunan xanackrecnla ph s 1158 1170 12 pi sngkhramxanackrfunan xanackrecnlaxanackrecnla ph s 1093 1345 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrecnla ph s 1093 1256 phraecasrutwrmn ph s 1093 1098 5 pi thrngpldaexkxanackrecnlacakkarpkkhrxngkhxngxanackrfunaninstwrrsthi 5 phraxngkhsubechuxsaymacak sungepnrachwngskhxngphrahmnkmphuswymphuwakbphraxngkhthrngepnphrarabidainphraecaesrsthwrmn phraecaesrsthwrmn ph s 1098 1103 5 pi epnphraoxrskhxngphraecasrutwrmn epnphusthapnaemuxngesrsthpuraepnemuxnghlwng thiechingekhasungepnthitngkhxngprasathhinwdphu phraxngkhthrngepnphrarachbidainphranangkmphuchrachlksmi phraecawirwrmn ph s 1103 1118 15 pi phranangkmphuchrachlksmi ph s 1118 1123 5 pi epnphrarachthidainphraecaesrsthwrmn txmamxbrachsmbtiihaekphraecaphwwrmnthi 1 sungepnphrarachswamikhxngphranang19 phraecaphwwrmnthi 1 ph s 1123 1143 20 pi epnechsthakhxngphraecamehnthrwrmn phraxngkhepnechuxphrawngsinxanackrfunanthipkkhrxngemuxngphwpura phraxngkhidrwmmuxknkbecachaycitresn ykkxngthphekhachingrachsmbticakphraecaruthrwrmn ephraaehnwaphraecaruthrwrmnkhadkhwamchxbthrrminkarkhunkhrxngrachsmbtiodyhlngcakthiphraecaekathinyachywrmnthi 3swrrkht phraecaruthrwrmnkthakarsngharrchthayaththichxbthrrmthiprasuticakphraxkhrmehsi aelwkhunepnphramhakstriyaehngfunan sungphraecaphwwrmnthi 1 kidrbchychnaehnuxphraecaruthrwrmnaelayudrachthaniwyathpuraidsaerc20 phraecamehnthrwrmn ph s 1143 1159 16 pi epnxnuchakhxngphraecaphwwrmnthi 121 phraecaxisanwrmnthi 1 ph s 1159 1178 19 pi epnphrarachoxrskhxngphraecamehnthrwrmn22 phraecaphwwrmnthi 2 ph s 1182 1200 18 pi 23 phraecachywrmnthi 1 ph s 1200 1224 24 pi swrrkhtodyimmirchthayaththiepnchayhlngehluxxyuely phramehsikhxngphraxngkh khux phranangchyethwi cungsubrachsmbtitx aelathaihekidkaraebngaeykdinaednxxkepnphakhswntang 24 phranangchyethwi ph s 1224 1256 32 pi epnphramehsikhxngphraecachywrmnthi 1xanackrecnla thukaebngaeykxxkepn 2 xanackr khux xanackrecnlabkaelaxanackrecnlana txngkarxangxing xanackrecnlana ph s 1256 1345 25 ph s 1256 1256 nxykwa 1 pi 26 ph s 1256 1259 3 pi 27 ph s 1259 1273 14 pi 28 ph s 1273 1303 30 pi thrngrwmecnlaekhaepnhnungediywxikkhrng txngkarxangxing 29 ph s 1303 1323 20 pi 30 phraecamhiptiwrmn ph s 1303 1345 42 pi swrrkhtcakkarodnphraecasychytdphraesiyr emux ph s 1345xanackrsriwichy ekhayudkhrxngxanackrecnla ph s 1345 xanackrphrankhr ph s 1345 1974 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrphrankhr ph s 1345 1974 sthapna mehnthrbrrpht epnemuxnghlwngsthapna hrihraly epnemuxnghlwng31 phraecachywrmnthi 2 ph s 1345 1378 33 pi prakasxisrphaphkmphuchacakkaryudkhrxngkhxngxanackrsriwichy sthapnaxanackrphrankhr aelarbkarxphieskepnphraecackrphrrdi n phnmkuelnaelarierimlththiethwrachkhunepnkhrngaerkinkmphucha32 phraecachywrmnthi 3 ph s 1378 1420 42 pi epnphrarachoxrsinphraecachywrmnthi 233 phraecaxinthrwrmnthi 1 ph s 1420 1432 12 pi phakhiinyinphraecachywrmnthi 2 phraxngkhidsrang odyxuthisaedphrarachbidaaelaphraxyka aelasrangprasathbakxngsthapna yosthrpura epnemuxnghlwng34 phraecayoswrmnthi 1 ph s 1432 1453 21 pi phrarachoxrsinphraecaxinthrwrmnthi 1 phraxngkhidsrangprasatholely yayrachthaniiptngthikrungyosthrpuralxmrxbdwy xikthngyngthrngoprdihkhudbaraytawnxxk35 phraecahrrswrmnthi 1 ph s 1453 1466 13 pi phrarachoxrsinphraecayoswrmnthi 1 phraxngkhidsrangprasathpksicakrung36 phraecaxisanwrmnthi 2 ph s 1466 1471 5 pi phrarachoxrsinphraecayoswrmnthi 1 phraechsthainphraecahrrswrmnthi 1 phraxngkhmibthbathinkarchingphrarachbllngkphramatulakhxngphraxngkhexng phraecachywrmnthi 4 phraxngkhoprdihsrangsthapna ekaaaekr epnemuxnghlwng37 phraecachywrmnthi 4 ph s 1471 1484 13 pi phrarachnddainphraecaxinthrwrmnthi 1 prasutiaetphranangmehnthrethwi phrathidainphraecaxinthrwrmnthi 1 phraxngkhidxphiesksmrskbphranangchyethwi phrakhnisthainphraecayoswrmnthi 1 phraxngkhthrngrachaphieskodyxangsiththithangsayphrarachmarda aelaepnphusthapnaekaaaekrepnrachthani38 phraecahrrswrmnthi 2 ph s 1484 1487 3 pi phrarachoxrsinphraecachywrmnthi 4sthapna yosthrpura epnemuxnghlwng39 phraecaraechnthrwrmnthi 2 ph s 1487 1511 24 pi epnphrapitulaaelaphraphadakhxngphraecahrrswrmnthi 2 phraxngkhidchingphrarachbllngkcakphraecahrrswrmnthi 2aelathrngyayrachthaniklbmathiemuxngphrankhr thrngoprdihsrang prasathhinphnmrung aela thrngerimthasngkhramkbxanackrcampainpi kh s 946sthapna phrankhr epnemuxnghlwng40 phraecachywrmnthi 5 ph s 1511 1544 33 pi phrarachoxrskhxngphraecaraechnthrwrmnthi 2 thrngsthapnarachthaniaehngihmkhuxemuxngchyeynthrnkhraela ihepnsunyklangaethnemuxngsriyosthrpura41 phraecaxuthythitywrmnthi 1 ph s 1544 1549 5 pi epnyukhaehngkhwamwunway enuxngcakmiphramhakstriy 3 phraxngkhkhrxngrachyphrxmknthaihekidkhwamkhdaeyng42 phraecasuriywrmnthi 1 ph s 1549 1593 42 pi prabdaphieskkhunepnphramhakstriyidsaerc daeninnoybayepnphnthmitrkbrachwngsoclaaelasurbkbxanackrtamphrlingk oprdihsrang prasathhinphimay phraxngkhidhnmanbthuxsasnaphuththnikaymhayan43 phraecaxuthythitywrmnthi 2 ph s 1593 1609 16 pi prabdaphieskkhunepnphramhakstriyidsaerc phraxngkhsubrachsnttiwngsaetphramehsiinphraecayoswrmnthi 1 oprdihsrangprasathbapwn oprdihkhudbaraytawntkaelaoprdihsrangprasathaembuytawntkaelaprasathsdxkkxkthm44 phraecahrrswrmnthi 3 ph s 1609 1623 14 pi aeyngrachbllngkcakphraecaxuthythitywrmnthi 2 tngsunyklangphrankhrthiprasathbapwn karrukrankhxngxanackrcampainpi ph s 1617 aela 162545 phraecachywrrmnthi 6 ph s 1623 1650 27 pi phraxngkhchingrachbllngkcakwimaypura epnpthmkstriytnsayrachskulmhithrpura oprdihsrangprasathphimay46 phraecathrninthrwrmnthi 1 ph s 1650 1656 6 pi chingrachbllngkkhxngphraecachywrmnthi 647 phraecasuriywrmnthi 2 ph s 1656 1688 32 pi lxbplngphrachnmphrapykaaelaaeyngchingephuxkhunkhrxngrachsmbtitx aelayngoprdihsrang prasathnkhrwd bnthaysaehr aela xikthngyngthasuksngkhramrukrankbxanackridewiyt aela campa48 phraecathrninthrwrmnthi 2 ph s 1693 1703 10 pi epnlukphiluknxngkhxngphraecasuriywrmnthi 249 phraecayoswrmnthi 2 ph s 1703 1710 7 pi thukyudxanacodyphraecatriphuwnathitywrmn50 phraecatriphuwnathitywrmn ph s 1710 1720 10 pi xanackrcampaidekhamarukranemuxpi ph s 1720 cnkrathngesiyphrankhrihaekcampainrchsmyphraecachyxinthrwrmnthi 4 kstriyaehngxanackrcampa inxikhnungpitxma khuxemuxpi ph s 1721thukrukranodyxanackrcampa wangewnkstriy ph s 1721 1724 sthapna nkhrthm epnemuxnghlwng51 phraecachywrmnthi 7 ph s 1724 1761 37 pi epnphunakxngthphchawphrankhrinkarkxbkuexkrachkhxngxanackrphrankhrihphncakkarpkkhrxngkhxngxanackrcampa cnidrbchychnaaelaepnexkrachxikkhrnginpi ph s 1734 hlngcakprasbkhwamsaerccakkarthasukkhrngnnaelw cungidptibtiphrarachkrniykicthisakhyechn karsrangxorkhysala phrarachwng sranahlwng rwmipthungprasathxngkhsakhy echn prasathtaphrhm prasathphrakhrrkh prasathbayn in nkhrthm aela prasathnakhphnth epntn52 phraecaxinthrwrmnthi 2 ph s 1762 1786 24 pi epnphrarachoxrskhxngphraecachywrmnthi 7 inrchsmykhxngphraxngkhnnidsuyesiydinaednthangfngtawntkodyphxkhunsrixinthrathityidthakarfunfuxanackrsuokhthykhun aeladinaednthangfngtawnxxknn xanackrcampa kyngidprakasexkrachkhunmaxikinrchsmyediywkn53 phraecachywrmnthi 8 ph s 1786 1838 52 pi thukchawmxngoklnaodykubilkhan rukraninpi ph s 1826 aelathasngkhramkbxanackrsuokhthy54 phraecaxinthrwrmnthi 3 ph s 1838 1851 13 pi lxbplngphrachnmphraecachywrmnthi 8 phuepnphrasssura thaihphraphuththsasnanikayethrwathepnsasnapracachati mikarrbnkkarthutchawcinhywn ocw takwan ph s 1839 1840 55 phraecaxinthrwrmnthi 4 ph s 1851 1870 19 pi 56 phraecachywrmnthi 9 ph s 1870 1879 9 pi miphranampraktinsilacarukphasasnskvtepnphraxngkhsudthay sinsudkarpkkhrxngodyrachskulmhithrpurahlngcakthiidpkkhrxngxanackrmaxyangyawnankwa 300 pi57 phraecaaetnghwan ph s 1879 1883 4 pi tnsayrachskultrasxkpraaexm58 phrabrmniphphanbth ph s 1883 1889 6 pi 59 phrasiththanracha ph s 1889 1890 1 pi 60 phrabrmlaphngsracha ph s 1890 1896 6 pi xanackrxyuthya tinkhrthmaetk aetyngkhngmiphramhakstriykhrxngrachytxip61 phrabasat phrabakrastr ph s 1896 1899 3 pi 62 phrabaxat phrabaxth ph s 1899 1900 1 pi 63 phrakdumbngphisi ph s 1900 nxykwa 1 pi 64 phrasrisurioywngs ph s 1900 1906 6 pi 65 phrabrmrama ph s 1906 1916 10 pi 66 phrathrrmaoskrach ph s 1916 1936 20 pi xanackrxyuthya naodysmedcphraraemswr tinkhrthmaetkkhrngthi 2 aetyngkhngmiphramhakstriykhrxngrachytxip67 phraxinthracha phyaaephrk ph s 1931 1964 33 pi sthapna epnemuxnghlwng Khom colonyxanackrekhmrctumukh ph s 1974 2083 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrekhmrctumukh ph s 1974 2083 ph s 1974 smedcphrabrmrachathirachthi 2 aehngxanackrxyuthya esdcykthphmatinkhrthm idsaerc aelathrngaetngtng phrarachoxrskhrxngemuxngnkhrthmtxip inthanapraethsrach txmaxanackrxyuthyaidaetngtngih phrarachoxrsxikphraxngkhinsmedcphrabrmrachathirachthi 2 makhrxngnkhrthm cnkrathngthukecaphrayayati echuxphrarachwngswrmnkxbkuexkrachidsaerc phraxngkhprabdaphieskkhunepnphrabrmracharamathibdithi 1 swnecaphrayaaephrkthukplngphrachnmsthapna epnemuxnghlwng68 phrabrmracharamathibdithi 1 phrabrmrachaecaphyayati ph s 1916 1976 60 pi yayrachthanimayngkrungctumukh ekhasuyukhxanackrekhmrctumukhyayemuxnghlwngklbmathi phrankhr69 phranaraynramathibdi phranaraynrachathi 1 phyakhakhd ph s 1976 1980 4 pi yayrachthaniklbmaemuxngphrankhr70 phrasriracha ph s 1980 1981 1 pi thukphrasrisurioyithyracha phraxnuchachingrachsmbti71 phrasrisurioyithyracha ecaphyaediyrracha ph s 1981 2019 38 pi epnphrarachoxrsecaphyayati kbphraxithrmitra phrarachthidasmedcphrabrmrachathirachthi 2 aehngxanackrxyuthya thukphraphrathrrmrachachingrachsmbtiyayemuxnghlwngklbmathi72 smedcphrathrrmrachathirachramathibdithi 1 phrasrithrrmrachathi 1 ph s 2011 2047 36 pi epnphrarachoxrsphrasrisurioyithyracha kbthidakhunthrngphraxinthr khunnangxyuthyathithuksngmaepnecaemuxngophthistw thukphraxnuchakxkbt aetsamarthkhxkalngxyuthyaprabkbtidthn aelayayrachthaniklbmaemuxngcturmukhxikkhrngsthapna epnemuxnghlwng73 phrasrisukhnthbth phyangamkht ecaphrayadakhtracha ph s 2047 2055 8 pi sthapnabasanepnrachthani74 phraecaichyechsthathirach ecakn khunhlwngphraesdc ph s 2055 2068 13 pi chingrachsmbtiphrasrisukhnthbthxanackrekhmrctumukh epliynmaepnxanackrekhmrlaaewk aelaidtkepnpraethsrachkhxngkrungsrixyuthyaxanackrekhmrlaaewk ph s 2083 2140 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrekhmrlaaewk ph s 2083 2140 sthapna epnemuxnghlwng75 phrabrmrachathi 2 phyacnthr ph s 2059 2109 50 pi yayrachthanimayngkrunglaaewk ekhasuyukhxanackrekhmrlaaewk76 smedcphrabrmrachathi 3 phrayalaaewk prminthracha ph s 2109 2119 10 pi prakasxisrphaphcakkrungsrixyuthya thasngkhramaelaekhaocmtikrungsrixyuthyasmedcphrabrmrachathi 3thrngprakasxisrphaphcakkrungsrixyuthya xanackrekhmrlaaewkidexkrachcakkrungsrixyuthya77 smedcphrabrmrachathi 4 nkphrasttha ph s 2119 2137 18 pi khrxngrachyrwmkbphrarachoxrssmedcphranerswrmharachthrngykthphmatikrunglaaewkidsaerc xanackrekhmrlaaewkidtkepnpraethsrachkrungsrixyuthya epnkhrngthisxng78 phraichyechsthathi 1 nkphrasttha ph s 2127 2137 10 pi khrxngrachyrwmkbphrarachbida aelaphrabrmrachathi 579 1 phrabrmrachathi 5 phyatn ph s 2127 2137 10 pi khrxngrachyrwmkbphrarachbida aelaphraichyechsthathi 1xanackrekhmrsrisnthr ph s 2140 2162 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrekhmrsrisnthr ph s 2140 2162 sthapna srisnthr epnemuxnghlwng80 phrabathramechingiphr phraramthi 1 ph s 2137 2139 2 pi yayrachthanimayngkrungsrisnthr ekhasuyukhxanackrekhmrsrisnthr81 phraramthi 2 phyanur ph s 2139 2140 1 pi 79 2 phrabrmrachathi 5 phyatn ph s 2140 2142 2 pi khrxngrachykhrngthi 282 phrabrmrachathi 6 phyaxn ph s 2142 2143 1 pi 83 phraaekwfathi 1 ecaphyaoym ph s 2143 2145 2 pi 84 phrabrmrachathi 7 srisurioyphrrn phrasrisuphrrnmathirach ph s 2145 2162 17 pi xanackrekhmrxudng ph s 2162 2384 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrekhmrxudng ph s 2162 2384 sthapna xudngmichy epnemuxnghlwng85 phraichyechsthathi 2 phrachyecsda ph s 2162 2170 8 pi yayrachthanimayngkrungxudngmichy ekhasuyukhxanackrekhmrxudng86 phrasrithrrmrachathi 2 phyatu ph s 2170 2175 5 pi 87 phraxngkhthxngracha xngkhthxng ph s 2175 2183 8 pi 88 phrapthumrachathi 1 xngkhnn ph s 2183 2185 2 pi 89 phraramathibdithi 1 phrayacnthr ph s 2185 2201 16 pi 90 phrabrmrachathi 8 nkxngkhsur ph s 2202 2215 13 pi 91 phrapthumrachathi 2 phrasrichyechsth ph s 2215 2216 1 pi 92 phraaekwfathi 2 nkxngkhchi ph s 2216 2220 4 pi 93 1 phraichyechsthathi 3 nkxngkhsur ph s 2220 2238 18 pi khrxngrachykhrngthi 194 nkxngkhyng ph s 2238 2239 1 pi 93 2 phraichyechsthathi 3 nkxngkhsur ph s 2239 2243 4 pi khrxngrachykhrngthi 295 1 nkxngkhxim ph s 2243 2244 1 pi khrxngrachykhrngthi 193 3 phraichyechsthathi 3 nkxngkhsur ph s 2244 2245 1 pi khrxngrachykhrngthi 396 1 ph s 2245 2247 2 pi khrxngrachykhrngthi 193 4 phraichyechsthathi 3 nkxngkhsur ph s 2247 2250 3 pi khrxngrachykhrngthi 496 2 ph s 2252 2258 6 pi khrxngrachykhrngthi 295 2 nkxngkhxim ph s 2258 2265 7 pi khrxngrachykhrngthi 297 1 phrastthathi 2 nkxngkhchi ph s 2265 2272 7 pi khrxngrachykhrngthi 195 3 nkxngkhxim ph s 2272 2272 nxykwa 1 pi khrxngrachykhrngthi 397 2 phrastthathi 2 nkxngkhchi ph s 2272 2280 8 pi khrxngrachykhrngthi 296 3 ph s 2281 2293 12 pi khrxngrachykhrngthi 398 nkxngkhxim ph s 2293 2293 nxykwa 1 pi 99 1 phraramathibdithi 3 nkxngkhthxng ph s 2293 2294 1 pi khrxngrachykhrngthi 197 3 phrastthathi 2 nkxngkhchi ph s 2294 2294 nxykwa 1 pi khrxngrachykhrngthi 3100 phrasriichyechsth nkxngkhsngwn ph s 2294 2300 6 pi 99 2 phraramathibdithi 3 nkxngkhthxng ph s 2301 2303 2 pi khrxngrachykhrngthi 2101 phranaraynracharamathibdi nkxngkhtn ph s 2303 2318 15 pi xanackrekhmrxudngidtkepnpraethsrachkhxngxanackrthnburi hmayehtu syaminnamxanackrxyuthyalmslayemux ph s 2310 aelathukfunfukhunihminnamxanackrthnburi 102 smedcphraramrachathirach nkxngkhonn ph s 2318 2322 4 pi 103 smedcphranaraynramathibdisrisurioyphrrn nkxngkhexng ph s 2322 2325 3 pi xanackrekhmrxudngidtkepnpraethsrachkhxngxanackrrtnoksinthr hmayehtu syaminnamxanackrthnburisinsphaphcakkarswrrkhtkhxngsmedcphraecakrungthnburi aelamikarsthapnaxanackrrtnoksinthrkhunaethnthiin ph s 2325 ekidsngkhramkhunrahwangxanackrrtnoksinthr kbrachwngsehngiyn ephuxaeyngchingxiththiphlehnuxkmphucha naipsusngkhramxanmsyamyuthth104 smedcphraxuithyrachathirachramathibdi nkxngkhcn ph s 2349 2377 28 pi 105 kstrixngkhmi nkxngemy ph s 2349 2377 28 pi phranangidrbkarsnbsnuncakewiydnamihphranangidsthapnaepnphraecakrungkmphuchaephuxthwngdulkbsyaminchwngxanmsyamyuthth106 smedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng ph s 2384 2403 19 pi taaehnngwang ph s 2383 2384 1 pi rthxarkkhakhxngfrngess ph s 2406 2496 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxarkkhafrngess ph s 2406 2496 kmphuchatkepnxananikhmkhxngfrngess aelaklayepnrthinxarkkhakhxngfrngessemux ph s 2406 ekhasuyukhkmphuchainxarkkhakhxngfrngess hmayehtu kmphuchaphncakkhwamepnpraethsrachkhxngsyam thangfaysyamthuxepnkaresiyxiththiphlihfrngess 107 phrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi ph s 2403 2447 44 pi phrarachoxrsinsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng 108 phrabathsmedcphrasisuwtthi nkxngkhsisuwtthi ph s 2447 2470 23 pi phrarachoxrsinsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng phraxnuchatangphrarachmardainphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi 109 phrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs nkxngkhsisuwtthi muniwngs ph s 2470 2484 14 pi phrarachoxrsinphrabathsmedcphrasisuwtthi nkxngkhsisuwtthi 110 1 phrabathsmedcphranordm sihnu ph s 2484 2498 14 pi khrxngrachykhrngthi 1 phrarachnddainphrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs nkxngkhsisuwtthi muniwngs inpi ph s 2496 kmphuchaidrbexkrachcakfrngessodysmburn cungmikarsthapnaphrarachxanackrkmphuchaodyichrabxbsngkhmrasdrniym ph s 2496 2513 kmphuchaekhasuyukhsngkhmrasdrniymrachxanackrkmphuchathi 1 ph s 2496 2513 phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehturachxanackrkmphucha ph s 2496 2513 111 phrabathsmedcphranordm suramvt ph s 2498 2503 5 pi epnphrarachbidakhxngphrabathsmedcphranordm sihnu phrarachnddainphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi ekidrthpraharpi ph s 2513 taaehnngphramhakstriythukykelik hmayehtu yubelikrachxanackrkmphucha epliynaeplngkarpkkhrxngipepnsatharnrthekhmr ph s 2513 2536 rachxanackrkmphuchathi 2 ph s 2536 pccubn phramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehturachxanackrkmphucha ph s 2536 pccubn funfurachxanackrkmphuchakhunihm ph s 2536110 2 phrabathsmedcphranordm sihnu ph s 2536 2547 11 pi khrxngrachykhrngthi 2 epnphrarachoxrsinphrabathsmedcphranordm suramvt112 phrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni ph s 2547 pccubn 19 pi epnphrarachoxrsinphrabathsmedcphranordm sihnuxangxingsanti phkdikha exksarkmphuchakbkarsuksaprawtisastrxyuthya PDF darngwichakar subkhnemux 23 mkrakhm ph s 2564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help The women who made Cambodia The Phnom Penh Post 19 May 2010 C 87 Stela from Mỹ Sơn B6 Corpus of the Inscriptions of Campa ស វភ ស ក ស សង គម ថ ន កទ ១០ ឆ ន ២០១៧ របស ក រស ងអប រ យ វជន ន ងក ឡ ទ ព រទ ១៣៤ Jacobsen Trudy Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history NIAS Press Copenhagen 2008 SPLIT RUN D 83499 Myova Orgov SP 4C p1 pdf US only Urologic Oncology Seminars and Original Investigations 39 10 IFC October 2021 doi 10 1016 s1078 1439 21 00417 8 ISSN 1078 1439 Miksic John N 2007 Historical dictionary of ancient Southeast Asia Lanham Md Scarecrow Press ISBN 978 0 8108 6465 8 OCLC 263614934 Coedes George May 15 2015 The Making of South East Asia RLE Modern East and South East Asia doi 10 4324 9781315697802 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Coedes George 1968 Walter F Vella b k The Indianized States of Southeast Asia trans Susan Brown Cowing University of Hawaii Press ISBN 978 0 8248 0368 1 Higham Charles Early Mainland Southeast Asia River Books Co Ltd ISBN 9786167339443 ecaphithilththiethwrach xyusdkkxkthm c sraaekw chumthangekhruxkhayxanac sucitt wngseths mtichnsudspdah 2562 Kenneth T So PDF Cambosastra khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux July 8 2021 subkhnemux February 16 2023