สมัยละแวก มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ เมืองละแวก (เขมร: លង្វែក,อังกฤษ: Lovek) ปัจจุบัน คือ อำเภอกำปงตระลาจ จังหวัดกำปงชนัง โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2096 ถึง พ.ศ. 2136 ตรงกับช่วงประมาณสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง เป็นยุคสมัยที่อาณาจักรเขมรรุ่งเรืองขึ้นเป็นครั้งแรกหลักจากประสบกับความเสื่อมโทรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี โดยเขมรในสมัยนี้มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกับสเปน (ผิดกับชาติเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่นพม่า ไทย เวียดนาม มลายู ซึ่งติดต่อกับโปรตุเกสเป็นส่วนใหญ่) ประกอบกับการที่อาณาจักรอยุธยากำลังอ่อนแอด้วยการรุกรานของพม่า ทำให้เขมรยกทัพเข้ากวาดต้อนชาวบ้านตามหัวเมืองต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกของอาณาจักรอยุธยา จึงทำให้สามารถขึ้นมาเป็นฝ่ายรุกได้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาอันสั้นเท่านั้น เพราะกรุงละแวกได้ถูกเผาทำลายลงด้วยกองทัพของทัพสยามในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้พระยาละแวกต้องหลบหนีออกจากเมืองไปหลบซ่อนอยู่ที่เมืองสตรึงแตรง ทำให้เขมรเข้าสู่กลียุคอีกครั้งและตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรอยุธยายาวนานสี่ร้อยกว่าปี
แผนที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณปี พ.ศ. 2083: สีเขียวอ่อน: ละแวก สีม่วงน้ำเงิน: อยุธยา สีชมพู: ล้านช้าง สีน้ำเงิน: ล้านนา สีม่วง: สีชมพู:จามปา |
พระศรีสุคนธบท กษัตริย์เขมรเมืองปาสาณได้ถูกเสนาบดีชื่อว่า เจ้ากอง ทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์และทรงถูกสำเร็จโทษ พระยาจันทราชาพระอนุชาต่างพระราชมารดาเสด็จลี้ภัยไปยังกรุงศรีอยุธยา ต่อมาถึงกลับเข้ามาเขมรอีกครั้งพร้อมกับกองทัพอยุธยาเพื่อทำสงครามทวงราชบัลลังก์คืนจากเจ้ากอง โดยเจ้ากองสิ้นพระชนม์ในการรบกับพระยาจันทราชาใน พ.ศ. 2069 โดยเมื่อหมดเสี้ยนหนามแล้ว พระยาจันทราชาได้ประกอบพิธีราชาภิเษกขึ้นเป็น พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทน์) สมเด็จพระบรมราชาฯ ก็โปรดฯ ให้สร้างราชธานีแห่งใหม่ ชื่อว่า เมืองละแวก หรือ ลงแวก
เมืองละแวกเมื่อแรกสร้างนั้นเป็นค่าย สมเด็จพระบรมราชาฯ โปรดฯ ให้หล่อพระพุทธรูปอัฐรัศขึ้นสี่องค์ แต่ละองค์หันหน้าสี่ทิศประดิษฐานอยู่ในพระวิหารจตุรมุขมหาปราสาท หรือวัดตรอแลงแกงอันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองละแวก
ความรุ่งเรืองของกัมพูชาในยุคกรุงละแวก
ใน พ.ศ. 2083 พงศาวดารเขมรกล่าวว่า สมเด็จพระไชยราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยาทรงนำทัพเข้ามารุกรานเมืองกัมพูชาด้วยพระองค์เอง แต่สมเด็จพระบรมราชาฯ ก็สามารถต้านทานและเอาชนะกองทัพอยุธยาได้และจับได้เชลยเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระไชยราชาฯทรงต้องเสด็จหนีกลับไป ใน พ.ศ. 2096 สมเด็จพระบรมราชาฯ ได้ทรงประกอบพิธีบรมราชาภิเษกใหม่ที่กรุงละแวก เป็น พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดีฯ ใน พ.ศ. 2098 เจ้าพระยาโอง หรือ พระสิทธนราช พระโอรสในพระศรีราชาที่ถูกทัพอยุธยาจับกลับไปนั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงชุบเลี้ยงไว้และให้เป็นเจ้าเมืองสวรรคโลก และทรงส่งเจ้าพระยาโองมาตีนครกัมพูชาเพื่อทวงสิทธิ์ในราชบัลลังก์ สมเด็จพระบรมราชาฯ ทรงนำทัพออกไปพร้อมกับพระรามาธิบดีมหาอุปราชพระราชโอรสออกไปรบกับเจ้าพระยาโอง เจ้าพระยาโองสิ้นพระชนม์ในที่รบ สมเด็จพระบรมราชาฯ โปรดฯ ให้นำพระศพเจ้าพระยาโองมาจัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ และออกนามเจ้าพระยาโองว่า สมเด็จพระเรียม
สมเด็จพระบรมราชาฯ สวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2109 พระมหาอุปราชรามาธิบดีก็สิ้นพระชนม์ไปก่อนหน้า พระโอรสองค์เล็กคือพระปรมินทร์ราชาจึงขึ้นครองราชสมบัติต่อเป็น สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 มีพระโอรสกับพระมเหสีคือ นักพระสัตถา และมีพระโอรสกับพระสนมคือ พระศรีสุพรรณมาธิราช และกับพระสนมอีกนางหนึ่ง คือ เจ้าพญาอน ปีเสียกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2112 สมเด็จพระบรมราชาฯ อาศัยจังหวะที่อยุธยาอ่อนแอยกทัพบุกมาล้อมกรุงศรีฯ ไว้แต่ถูกสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชขับกลับมา เมื่อ พ.ศ. 2119 สมเด็จพระบรมราชาฯ ก็ทรงย้ายไปประทับที่เมืองกัมปงกระสัง เพื่อทรงบัญชาการการเข้าตีเมืองนครราชสีมาของอยุธยาโดยสำเร็จ จับเชลยกลับมาได้เป็นจำนวนมาก ในปีเดียวกันนั้นเองตามพงศาวดารเขมร เจ้ามหาอุปราชแห่งล้านช้าง (ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า) ได้ส่งช้างมาท้าดวลกับช้างทรงของสมเด็จพระบรมราชาฯ หากเมืองไหนแพ้ต้องเป็นเมืองขึ้นของอีกฝ่าย ปรากฏว่าช้างของฝ่ายกัมพูชาชนะ สมเด็จพระบรมราชาฯ จึงทรงกันไพร่พลลาวที่ติดตามมากับช้างไว้ ปล่อยแต่ช้างกลับไป พระมหาอุปราชพิโรธเป็นอย่างมากที่ทรงเสียทีแก่สมเด็จพระบรมราชาฯ จึงทรงนำทัพเรือลาวมาด้วยพระองค์เองลงมาเพื่อบุกเมืองกัมพูชา กษัตริย์สองประเทศกระทำยุทธการกันที่เกาะเจ้าราม สมเด็จพระบรมราชาฯ ทรงชนะ ทัพทางบกเขมรก็เอาชนะลาวได้ และจับเชลยได้เป็นจำนวนมาก ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ได้มีชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อเป็นครั้งแรก เป็นชาวสเปนชื่อ กาสปาร์ด เดอ ครุซ (Gaspard de Cruz) นับแต่นั้นมาอาณาจักรละแวกก็มีความสัมพันธ์อีกดีต่อสเปน
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 สวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2119 นักพระสัตถาขึ้นครองราชสมบัติต่อ เป็น สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) มีพระโอรสกับพระมเหสีคือ สมเด็จพระไชยเชษฐา มหาอุปราช และพญาตน ใน พ.ศ. 2127 สมเด็จพระบรมราชาฯ โปรดให้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกให้แก่พระราชบุตรทั้งสอง คือ สมเด็จพระไชยเชษฐา เป็น สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช และพญาตน เป็น พระบรมราชาที่ 5 เท่ากับในขณะนั้นเมืองกัมพูชามีกษัตริย์สามองค์ในเวลาเดียวกัน ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 นี่เอง ที่นักผจญภัยชาวสเปนชื่อ บลาสรุยซ์ (Blas Ruiz de Hernán Gonzáles) และเบลูซู (Diego Veloso) ชาวโปรตุเกส ได้เข้ามารับใช้สนองพระบาท สมเด็จพระบรมราชาฯ ทรงรับเป็นพระโอรสบุญธรรม และทรงจ้างทหารองค์รักษ์เป็นชาวสเปนและโปรตุเกสเสียสิ้น
เหตุการณ์เสียกรุงละแวก
ใน พ.ศ. 2136 สมเด็จพระนเรศวร ทรงกรีฑาทัพสยามเข้ามาบุกเมืองกัมพูชา ทรงเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ได้ สมเด็จพระบรมราชาฯ พระสัตถามีพระราชโองการให้อย่านำทัพเข้าขัดขวางทัพสยาม แต่ให้อพยพคนหลีบหนีออกจากเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวร และมีพระราชสาสน์ถึงวิศรอยสเปนประจำเมืองมะนิลาเพื่อขอทัพฝรั่งมาช่วยต้านทัพสยาม ฝ่ายเมืองมะนิลาเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่อาจจะได้กัมพูชาเป็นเมืองขึ้นจึงส่งทัพ 120 นายมาป้องกันกรุงละแวก แต่ไม่ทันสมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพมาถึงเมืองละแวกก่อน สมเด็จพระสัตถาประทับช้างทรงออกมานอกเมืองพบกับพระนเรศวรหมายจะกระทำยุทธหัตถี แต่ช้างทรงของสมเด็จพระสัตถากลับคร้ามกลัวช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรและวิ่งเตลิดหนีไป สมเด็จพระสัตถาทรงเสียท่าดังนั้นแล้วจึงพาพระโอรสกษัตริย์ทั้งสองและพระมเหสีหนีไปเมืองศรีสุนทร สมเด็จพระนเรศวรทรงเข้าบุกเผาทำลายเมืองละแวกจนย่อยยับ แล้วใน พ.ศ. 2137 กษัตริย์ทั้งสามและพระมเหสีทรงพากันเสด็จหนีไปเมืองสตึงแตรงของล้านช้าง สมเด็จพระสัตถาและสมเด็จพระไชยเชษฐาฯ พระราชบุตรประชวรสิ้นพระชนม์ที่เมืองสตึงแตรง ฝ่ายทางเมืองกัมพูชาเมื่อไม่มีกษัตริย์คอยดูแล อำนาจจึงตกแก่เชื้อพระวงศ์ชั้นผู้น้อยแต่เป็นขุนนางตำแหน่งสูงชื่อ พระบาทรามเชิงไพร เป็นผู้นำฝ่ายเขมรที่ต่อต้านการยึดครองของสยาม มีฐานที่มั่นที่เมืองศรีสุนทร ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรโปรดให้เลิกทัพกลับไป พร้อมกับกวาดต้อนชาวเขมรกลับไปเป็นจำนวนมาก โดยนำพระศรีสุริโยพรรณพระอนุชาของสมเด็จพระบรมราชาฯ พระสัตถากลับไปด้วย และยังทรงแต่งตั้งพระเอกกษัตรี พระธิดาของพระศรีสุริโยพรรณเป็นพระมเหสี
สมเด็จพระนเรศวรโปรดให้พระมหามนตรีคุมสถานการณ์ในเขมรไว้ที่เมืองอุดงมีชัย พระบาทรามเชิงไพรจึงกรีฑาทัพมาขับไล่พระมหามนตรีที่เมืองอุดงมีชัยใน พ.ศ. 2138 พระมหามนตรีถอยทัพกลับสยาม พระบาทรามเชิงไพรจึงเป็นเอกกษัตริย์แห่งกัมพูชา ฝ่ายนายบลาสรุยซ์ ซึ่งได้หนีไปเมืองมะนิลา และนายเบลูซูหนีไปมะละกา ได้กลับมายังเมืองกัมพูชาอีกครั้งและได้ทราบข่าวว่าพระราชวงศ์เดิมเสด็จลี้ภัยไปยังสตึงแตรงแล้ว จึงตามเสด็จไปเมืองสตึงแตรงปรากฏว่าพระบรมราชาฯ พระสัตถาได้ประชวรสวรรคตไปเสียแล้ว ฝรั่งสองคนจึงพากันคับแค้นใจมากและวางแผนจะกอบกู้บัลลังก์คืนให้แด่พระบรมราชาที่ 5 พระโอรส ใน พ.ศ. 2139 ฝรั่งทั้งสองได้เดินทางลงมาเฝ้าพระบาทรามเชิงไพร ฝ่ายพระรามเชิงไพรไม่ไว้วางใจฝรั่งทั้งสองจึงวางแผนสังหาร แต่ฝรั่งรู้ตัวก่อนจึงชิงปลงพระชนม์พระรามเชิงไพรเสีย แล้วเชิญพระบรมราชาที่ 5 นิวัติกรุงกัมพูชาอีกครั้ง ขึ้นครองราชสมบัติที่กรุงศรีสุนทร
รายพระนามกษัตริย์เขมรละแวก
รายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชา | ||||
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อาณาจักรเขมรละแวก (พ.ศ. 2083 – 2140) | ||||
สถาปนา เป็นเมืองหลวง | ||||
76 | พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทร์) | พ.ศ. 2059 – 2109 (50 ปี) | ย้ายราชธานีมายังกรุงละแวก เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรละแวก | |
77 | สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก, ปรมินทราชา) | พ.ศ. 2109 – 2119 (10 ปี) | ประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา, ทำสงครามและเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยา | |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3ทรงประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรเขมรละแวกได้เอกราชจากกรุงศรีอยุธยา | ||||
78 | สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) | พ.ศ. 2119 – 2137 (18 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชโอรส | |
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพมาตีกรุงละแวกได้สำเร็จ อาณาจักรเขมรละแวกได้ตกเป็นประเทศราชกรุงศรีอยุธยา) เป็นครั้งที่สอง | ||||
79 | พระไชยเชษฐาที่ 1 | พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระบรมราชาที่ 5 | |
80 (1) | พระบรมราชาที่ 5 (พญาตน) | พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) | ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระไชยเชษฐาที่ 1 |
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smylaaewk misunyklangkarpkkhrxngxyuthi emuxnglaaewk ekhmr លង វ ក xngkvs Lovek pccubn khux xaephxkapngtralac cnghwdkapngchnng odytngaet ph s 2096 thung ph s 2136 trngkbchwngpramansngkhramkhrawesiykrungsrixyuthyakhrngthihnung epnyukhsmythixanackrekhmrrungeruxngkhunepnkhrngaerkhlkcakprasbkbkhwamesuxmothrmmaxyangtxenuxngepnewlasxngrxykwapi odyekhmrinsmynimikartidtxkhakhaykbchawtangchati odyechphaakbsepn phidkbchatiephuxnbanxun echnphma ithy ewiydnam mlayu sungtidtxkboprtueksepnswnihy prakxbkbkarthixanackrxyuthyakalngxxnaexdwykarrukrankhxngphma thaihekhmrykthphekhakwadtxnchawbantamhwemuxngtang thangphakhtawnxxkkhxngxanackrxyuthya cungthaihsamarthkhunmaepnfayrukid aetkepnchwngewlaxnsnethann ephraakrunglaaewkidthukephathalaylngdwykxngthphkhxngthphsyaminrchsmysmedcphranerswrmharach thaihphrayalaaewktxnghlbhnixxkcakemuxngiphlbsxnxyuthiemuxngstrungaetrng thaihekhmrekhasukliyukhxikkhrngaelatkxyuphayitkarpkkhrxngkhxngxanackrxyuthyayawnansirxykwapiaephnthiexechiytawnxxkechiyngitpramanpi ph s 2083 siekhiywxxn laaewk simwngnaengin xyuthya sichmphu lanchang sinaengin lanna simwng sichmphu campa phrasrisukhnthbth kstriyekhmremuxngpasanidthukesnabdichuxwa ecakxng thakarptiwtilmrachbllngkaelathrngthuksaercoths phrayacnthrachaphraxnuchatangphrarachmardaesdcliphyipyngkrungsrixyuthya txmathungklbekhamaekhmrxikkhrngphrxmkbkxngthphxyuthyaephuxthasngkhramthwngrachbllngkkhuncakecakxng odyecakxngsinphrachnminkarrbkbphrayacnthrachain ph s 2069 odyemuxhmdesiynhnamaelw phrayacnthrachaidprakxbphithirachaphieskkhunepn phrabrmrachathi 2 phyacnthn smedcphrabrmracha koprd ihsrangrachthaniaehngihm chuxwa emuxnglaaewk hrux lngaewk emuxnglaaewkemuxaerksrangnnepnkhay smedcphrabrmracha oprd ihhlxphraphuththrupxthrskhunsixngkh aetlaxngkhhnhnasithispradisthanxyuinphrawiharcturmukhmhaprasath hruxwdtrxaelngaekngxnepnsylksnpracaemuxnglaaewkkhwamrungeruxngkhxngkmphuchainyukhkrunglaaewkaephnthikrunglaaewkodychawdtch in ph s 2083 phngsawdarekhmrklawwa smedcphraichyrachathirachaehngkrungsrixyuthyathrngnathphekhamarukranemuxngkmphuchadwyphraxngkhexng aetsmedcphrabrmracha ksamarthtanthanaelaexachnakxngthphxyuthyaidaelacbidechlyepncanwnmak smedcphraichyrachathrngtxngesdchniklbip in ph s 2096 smedcphrabrmracha idthrngprakxbphithibrmrachaphieskihmthikrunglaaewk epn phrabathsmedcphrabrmrachathirachramathibdi in ph s 2098 ecaphrayaoxng hrux phrasiththnrach phraoxrsinphrasrirachathithukthphxyuthyacbklbipnn smedcphramhackrphrrdithrngchubeliyngiwaelaihepnecaemuxngswrrkholk aelathrngsngecaphrayaoxngmatinkhrkmphuchaephuxthwngsiththiinrachbllngk smedcphrabrmracha thrngnathphxxkipphrxmkbphraramathibdimhaxuprachphrarachoxrsxxkiprbkbecaphrayaoxng ecaphrayaoxngsinphrachnminthirb smedcphrabrmracha oprd ihnaphrasphecaphrayaoxngmacdphithixyangsmphraekiyrti aelaxxknamecaphrayaoxngwa smedcphraeriym smedcphrabrmracha swrrkhtemux ph s 2109 phramhaxuprachramathibdiksinphrachnmipkxnhna phraoxrsxngkhelkkhuxphraprminthrrachacungkhunkhrxngrachsmbtitxepn smedcphrabrmrachathi 3 miphraoxrskbphramehsikhux nkphrasttha aelamiphraoxrskbphrasnmkhux phrasrisuphrrnmathirach aelakbphrasnmxiknanghnung khux ecaphyaxn piesiykrungsrixyuthya emux ph s 2112 smedcphrabrmracha xasycnghwathixyuthyaxxnaexykthphbukmalxmkrungsri iwaetthuksmedcphramhathrrmrachathirachkhbklbma emux ph s 2119 smedcphrabrmracha kthrngyayipprathbthiemuxngkmpngkrasng ephuxthrngbychakarkarekhatiemuxngnkhrrachsimakhxngxyuthyaodysaerc cbechlyklbmaidepncanwnmak inpiediywknnnexngtamphngsawdarekhmr ecamhaxuprachaehnglanchang tkxyuphayitkarpkkhrxngkhxngphma idsngchangmathadwlkbchangthrngkhxngsmedcphrabrmracha hakemuxngihnaephtxngepnemuxngkhunkhxngxikfay praktwachangkhxngfaykmphuchachna smedcphrabrmracha cungthrngkniphrphllawthitidtammakbchangiw plxyaetchangklbip phramhaxuprachphiorthepnxyangmakthithrngesiythiaeksmedcphrabrmracha cungthrngnathpheruxlawmadwyphraxngkhexnglngmaephuxbukemuxngkmphucha kstriysxngpraethskrathayuththkarknthiekaaecaram smedcphrabrmracha thrngchna thphthangbkekhmrkexachnalawid aelacbechlyidepncanwnmak inrchkalsmedcphrabrmrachathi 3 idmichawtawntkekhamatidtxepnkhrngaerk epnchawsepnchux kaspard edx khrus Gaspard de Cruz nbaetnnmaxanackrlaaewkkmikhwamsmphnthxikditxsepn smedcphrabrmrachathi 3 swrrkhtemux ph s 2119 nkphrastthakhunkhrxngrachsmbtitx epn smedcphrabrmrachathi 4 nkphrasttha miphraoxrskbphramehsikhux smedcphraichyechstha mhaxuprach aelaphyatn in ph s 2127 smedcphrabrmracha oprdihprakxbphithibrmrachaphieskihaekphrarachbutrthngsxng khux smedcphraichyechstha epn smedcphraichyechsthathirach aelaphyatn epn phrabrmrachathi 5 ethakbinkhnannemuxngkmphuchamikstriysamxngkhinewlaediywkn inrchkalsmedcphrabrmrachathi 4 niexng thinkphcyphychawsepnchux blasruys Blas Ruiz de Hernan Gonzales aelaeblusu Diego Veloso chawoprtueks idekhamarbichsnxngphrabath smedcphrabrmracha thrngrbepnphraoxrsbuythrrm aelathrngcangthharxngkhrksepnchawsepnaelaoprtueksesiysinehtukarnesiykrunglaaewkxanackrxyuthyainpi ph s 2148 phayhlngkarthphkhxng smedcphranerswrmharach in ph s 2136 smedcphranerswr thrngkrithathphsyamekhamabukemuxngkmphucha thrngekhayudemuxngtang id smedcphrabrmracha phrastthamiphrarachoxngkarihxyanathphekhakhdkhwangthphsyam aetihxphyphkhnhlibhnixxkcakesnthangedinthphkhxngsmedcphranerswr aelamiphrarachsasnthungwisrxysepnpracaemuxngmanilaephuxkhxthphfrngmachwytanthphsyam fayemuxngmanilaehnwaepnoxkasxndithixaccaidkmphuchaepnemuxngkhuncungsngthph 120 naymapxngknkrunglaaewk aetimthnsmedcphranerswrthrngykthphmathungemuxnglaaewkkxn smedcphrastthaprathbchangthrngxxkmanxkemuxngphbkbphranerswrhmaycakrathayuththhtthi aetchangthrngkhxngsmedcphrastthaklbkhramklwchangthrngkhxngsmedcphranerswraelawingetlidhniip smedcphrastthathrngesiythadngnnaelwcungphaphraoxrskstriythngsxngaelaphramehsihniipemuxngsrisunthr smedcphranerswrthrngekhabukephathalayemuxnglaaewkcnyxyyb aelwin ph s 2137 kstriythngsamaelaphramehsithrngphaknesdchniipemuxngstungaetrngkhxnglanchang smedcphrastthaaelasmedcphraichyechstha phrarachbutrprachwrsinphrachnmthiemuxngstungaetrng faythangemuxngkmphuchaemuximmikstriykhxyduael xanaccungtkaekechuxphrawngschnphunxyaetepnkhunnangtaaehnngsungchux phrabathramechingiphr epnphunafayekhmrthitxtankaryudkhrxngkhxngsyam mithanthimnthiemuxngsrisunthr faysmedcphranerswroprdihelikthphklbip phrxmkbkwadtxnchawekhmrklbipepncanwnmak odynaphrasrisurioyphrrnphraxnuchakhxngsmedcphrabrmracha phrastthaklbipdwy aelayngthrngaetngtngphraexkkstri phrathidakhxngphrasrisurioyphrrnepnphramehsi smedcphranerswroprdihphramhamntrikhumsthankarninekhmriwthiemuxngxudngmichy phrabathramechingiphrcungkrithathphmakhbilphramhamntrithiemuxngxudngmichyin ph s 2138 phramhamntrithxythphklbsyam phrabathramechingiphrcungepnexkkstriyaehngkmphucha faynayblasruys sungidhniipemuxngmanila aelanayeblusuhniipmalaka idklbmayngemuxngkmphuchaxikkhrngaelaidthrabkhawwaphrarachwngsedimesdcliphyipyngstungaetrngaelw cungtamesdcipemuxngstungaetrngpraktwaphrabrmracha phrastthaidprachwrswrrkhtipesiyaelw frngsxngkhncungphaknkhbaekhnicmakaelawangaephncakxbkubllngkkhunihaedphrabrmrachathi 5 phraoxrs in ph s 2139 frngthngsxngidedinthanglngmaefaphrabathramechingiphr fayphraramechingiphrimiwwangicfrngthngsxngcungwangaephnsnghar aetfrngrutwkxncungchingplngphrachnmphraramechingiphresiy aelwechiyphrabrmrachathi 5 niwtikrungkmphuchaxikkhrng khunkhrxngrachsmbtithikrungsrisunthrrayphranamkstriyekhmrlaaewkrayphranamphramhakstriykmphuchaphramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxanackrekhmrlaaewk ph s 2083 2140 sthapna epnemuxnghlwng76 phrabrmrachathi 2 phyacnthr ph s 2059 2109 50 pi yayrachthanimayngkrunglaaewk ekhasuyukhxanackrekhmrlaaewk77 smedcphrabrmrachathi 3 phrayalaaewk prminthracha ph s 2109 2119 10 pi prakasxisrphaphcakkrungsrixyuthya thasngkhramaelaekhaocmtikrungsrixyuthyasmedcphrabrmrachathi 3thrngprakasxisrphaphcakkrungsrixyuthya xanackrekhmrlaaewkidexkrachcakkrungsrixyuthya78 smedcphrabrmrachathi 4 nkphrasttha ph s 2119 2137 18 pi khrxngrachyrwmkbphrarachoxrssmedcphranerswrmharachthrngykthphmatikrunglaaewkidsaerc xanackrekhmrlaaewkidtkepnpraethsrachkrungsrixyuthya epnkhrngthisxng79 phraichyechsthathi 1 ph s 2127 2137 10 pi khrxngrachyrwmkbphrarachbida aelaphrabrmrachathi 580 1 phrabrmrachathi 5 phyatn ph s 2127 2137 10 pi khrxngrachyrwmkbphrarachbida aelaphraichyechsthathi 1xangxinghttp www royalark net Cambodia camboa2 htm http www royalark net Cambodia camboa3 htm phngsawdarlaaewk kxnhna smylaaewk thdipcturmukh rachthanikmphucha ph s 2069 ph s 2136 srisunthr 11 51 53 N 104 45 14 E 11 86472 N 104 75389 E 11 86472 104 75389