กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส (อังกฤษ: French protectorate of Cambodia; เขมร: ប្រទេសកម្ពុជាក្រោមអាណាព្យាបាលបារាំង; ฝรั่งเศส: Protectorat français du Cambodge) เป็นระยะเวลาช่วงที่กัมพูชาเข้าเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสก่อนจะถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพอินโดจีนที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส จนกระทั่งกลายเป็นดินแดนที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง จากนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพฝรั่งเศส และต่อสู้จนได้รับเอกราชในที่สุด
ราชอาณาจักรกัมพูชา កម្ពុជា Cambodge | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2406–พ.ศ. 2488 พ.ศ. 2488–พ.ศ. 2496 | |||||||||||||
ธงชาติ (พ.ศ. 2406–2491) ตราประจำพระราชอาณาจักร | |||||||||||||
สถานะ | สมบูรณาญาสิทธิราชย์, รัฐในอารักขาของฝรั่งเศส | ||||||||||||
เมืองหลวง | อุดงมีชัย (จนถึง พ.ศ. 2410) พนมเปญ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2410) | ||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาฝรั่งเศส (ทางราชการ) ภาษาเขมร | ||||||||||||
ศาสนา | ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท 70% (ชาวกัมพูชา), ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 30% (ชาวฝรั่งเศส) | ||||||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ภายใต้การบริหารอาณานิคม (2406–2490) รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญภายในสหภาพฝรั่งเศส (2490–2496) | ||||||||||||
พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา | |||||||||||||
• พ.ศ. 2403-2447 | พระนโรดม (องค์แรก) | ||||||||||||
• พ.ศ. 2484-2496 | นโรดม สีหนุ (องค์สุดท้าย) | ||||||||||||
ผู้สำเร็จราชการ ฝ่ายฝรั่งเศส | |||||||||||||
• พ.ศ. 2406-2409 | แอร์แน็สต์ ดูดาร์ เดอ ลาเกร | ||||||||||||
ข้าหลวงใหญ่ | |||||||||||||
• พ.ศ. 2496 | Jean Risterucci | ||||||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคจักรวรรดินิยมใหม่ | ||||||||||||
• เริ่มเป็นรัฐในอารักขา | พ.ศ. 2406 พ.ศ. 2406 | ||||||||||||
• ผนวกเข้ากับอินโดจีนฝรั่งเศส | พ.ศ. 2436 | ||||||||||||
• ได้รับเอกราชตามอนุสัญญาเจนีวา | พ.ศ. 2496 พ.ศ. 2496 | ||||||||||||
รหัส ISO 3166 | |||||||||||||
|
การเข้ามามีอิทธิพลในกัมพูชาของฝรั่งเศส
การติดต่อระหว่างฝรั่งเศสและกัมพูชาครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อคณะทูตของ กงสุลฝรั่งเศสประจำเซี่ยงไฮ้เข้ามาทำสนธิสัญญากับไทยแบบเดียวกับสนธิสัญญาเบาว์ริงของอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2399 เมื่อเดินทางออกจากไทย มงติญีได้เดินทางต่อไปยังกัมพูชา แต่พระองค์ด้วงกษัตริย์ในกัมพูชาขณะนั้นตอบว่ากัมพูชาเป็นเมืองน้อยไม่อาจทำสัญญาได้ตามลำพัง ต้องปรึกษาสยามก่อน คณะทูตของมงติญีจึงเดินทางต่อไปยังราชสำนักเว้ของเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะทูตของมงติญีกลับไปไม่นาน พระองค์ด้วงได้ส่งหนังสือไปยังกงสุลฝรั่งเศสของสิงคโปร์เมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2399 เพื่อนำไปถวายพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ของฝรั่งเศส เพื่อขอให้ฝรั่งเศสช่วยคุ้มครองกัมพูชาให้พ้นจากอำนาจของสยามและเวียดนาม ต่อมา ใน พ.ศ. 2406 หลังจากที่ฝรั่งเศสดำเนินนโยบายแข็งกร้าวในการยึดครองดินแดนเวียดนาม พลเรือเอก เดอ ลากรองดิแยร์ ได้เป็นข้าหลวงอินโดจีนฝรั่งเศสได้เข้ามาติดต่อกัมพูชาอีกครั้ง เพื่อให้กัมพูชาเป็นดินแดนในอารักขาของฝรั่งเศส ในสมัยนั้น กษัตริย์กัมพูชาคือพระนโรดม พระโอรสของพระองค์ด้วง ได้ตกลงใจทำสนธิสัญญาดังกล่าว
การคัดค้านของสยาม
หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2406 พระนโรดมได้ทำหนังสือกราบทูลรัชกาลที่ 4 ว่าถูกฝรั่งเศสบังคับให้ทำสัญญา สยามได้พยายามรักษาสิทธิของตนเหนือกัมพูชาโดยทำสนธิสัญญาลับสยาม-กัมพูชา เมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2406 เพื่อยืนยันสิทธิของสยามเหนือกัมพูชา พระนโรดมยินยอมลงนามในสนธิสัญญานี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝรั่งเศสทราบถึงการทำสนธิสัญญาลับสยาม-กัมพูชา ฝรั่งเศสได้เข้ามาคัดค้านและเจรจาเพื่อขอยกเลิกสนธิสัญญา ในที่สุด ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม พ.ศ. 2410 โดยสยามประกาศสละสิทธิ์การอ้างสิทธิใดๆเหนือกัมพูชา โดยเสียมราฐและพระตะบองยังเป็นของสยาม ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เวียดนามรบแพ้ฝรั่งเศส ยอมรับว่าโคชินจีนเป็นของฝรั่งเศส
การปกครองของฝรั่งเศส
การปกครองระยะแรก
การปกครองกัมพูชาในช่วงแรกของฝรั่งเศส (พ.ศ. 2406 - 2427) ฝรั่งเศสไม่ได้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในกัมพูชามากนัก บทบาทในช่วงนี้ของฝรั่งเศสได้สนับสนุนให้สถานะของกษัตริย์มั่นคงขึ้น เช่นการปราบระหว่างพ.ศ. 2408 - 2410 และการปราบกบฏชาวนาที่นำโดยพูกอมโบเมื่อ พ.ศ. 2410 ในช่วงนี้ ฝรั่งเศสควบคุมด้านการทหาร การต่างประเทศ และการคลังเป็นหลัก นอกจากนั้นได้แต่งตั้งให้พระสีสุวัตถ์ที่เคยมีข้อขัดแย้งกับพระนโรดมก่อนขึ้นครองราชย์ให้เป็นอุปราชของกัมพูชา และปี พ.ศ. 2409 ภายใต้คำปรึกษาของฝรั่งเศสของพระบาทสมเด็จพระนโรดมจึงได้มีพระราชดำริให้ย้ายราชธานีจากกรุงอุดงมีชัยมาที่กรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงของประเทศอีกครั้งทำให้กรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงนับแต่นั้นเป็นต้นมา สิ้นสุดยุคสมัยอุดงที่ดำเนินมาหลายร้อยปี
หลัง พ.ศ. 2426 ซึ่งฝรั่งเศสยึดครองเวียดนามได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ฝรั่งเศสเปลี่ยนนโยบายในการปกครองกัมพูชา เริ่มจาก พ.ศ. 2427 ข้าหลวงทอมสันเสนอให้มีการปฏิรูปในกัมพูชาครั้งใหญ่ ทั้งด้านการเก็บภาษี การตำรวจและการยกเลิกระบบไพร่ทาส แต่พระนโรดมไม่ให้ความร่วมมือ พยายามร้องเรียนไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส จนข้าหลวงทอมสันนำเรือปืนเข้ามาทอดสมอริมพระราชวังและข่มขู่ให้พระนโรดมลงพระนามาภิไธย พระนโรดมจึงทรงลงพระนามาภิไธยเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2427
การต่อต้านฝรั่งเศส พ.ศ. 2427 - 2430
ผลที่เกิดมาตามจากการบังคับให้ปฏิรูปของฝรั่งเศสคือการเกิดกบฏชาวนาภายในประเทศ องค์กลับมาเป็นผู้นำกบฏที่มีฐานที่มั่นทางตะวันออกของกัมพูชา ฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทหารเข้าปราบปรามกบฏและตั้งข้อสงสัยพระนโรดมอยู่เบื้องหลังการก่อกบฏครั้งนี้ ผลจากการปราบปรามทำให้ชาวกัมพูชาอพยพเข้าพระตะบองที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสยามกว่า 40,000 คน การกบฏกินระยะเวลากว่าสองปี ยุติลงเมื่อข้าหลวงคนใหม่คือฟิลิปินีเข้าเจรจากับพระนโรดมให้ยุติการกบฏภายใน 1 มกราคม พ.ศ. 2430 โดยฝรั่งเศสจะชะลอการปฏิรูประบบไพร่ทาส พระนโรดมจึงออกประกาศเรียกร้องให้ยุติการกบฏและประกาศนิรโทษกรรม องค์พระสีวัตถาหนีเข้าไปอยู่ที่แม่น้ำโขงตามแนวชายแดนกัมพูชา - ลาว การกบฏจึงสิ้นสุดลง
การรวมเข้ากับสหภาพอินโดจีนและลิดรอนอำนาจของกษัตริย์
ฝรั่งเศสจัดตั้งสหภาพอินโดจีนขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2430 โดยให้ขึ้นกับกระทรวงอาณานิคม ข้าหลวงใหญ่ประจำสหภาพอินโดจีนประจำที่ฮานอย ส่วนกัมพูชาเป็นรัฐในอารักขาจึงมีผู้ว่าการสูงสุดเป็นตัวแทนของฝรั่งเศส
เมื่อพระนโรดมประชวรหนักเมื่อ พ.ศ. 2440 ขณะมีพระชนม์ได้ 61 พรรษา ฝรั่งเศสเตรียมการสถาปนาพระสีสุวัตถ์เป็นกษัตริย์โดยให้พระองค์ยอมมอบอำนาจการบริหารทั้งหมดให้ฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม เมื่อพระนโรดมหายประชวร ไม่ได้สวรรคตอย่างที่คาด ฝรั่งเศสจึงบังคับให้พระองค์ออกพระราชบัญญัติลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 เพื่อปฏิรูปการปกครอง ได้แก่การให้สิทธิประชาชนครอบครองทรัพย์สิน และกำหนดให้กฎหมายที่ใช้บังคับได้ต้องมีผู้ว่าการสูงสุดของฝรั่งเศสลงนาม
ในพ.ศ. 2443 โอรสของพระนโรดมเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อเปิดเผยความไม่ยุติธรรมของฝรั่งเศสให้สื่อมวลชนทราบและเรียกร้องการปกครองตนเอง ผลคือพระองค์ยุคนธรถูกถอดออกจากบรรดาศักดิ์ และต้องลี้ภัยในสยามตลอดชีวิต พระนโรดมสวรรคตเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2447 พระสีสุวัตถ์ขึ้นครองราชสมบัติขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ และได้ลงนามมอบอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินให้ฝรั่งเศสจนหมด กัมพูชาจึงกลายเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์
สภาพเศรษฐกิจระหว่างการเป็นอาณานิคม
ไม่นานหลังจากฝรั่งเศสเข้าปกครองกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2406 ฝรั่งเศสสร้างความฝันว่ากัมพูชาจะเป็น"สิงคโปร์แห่งอินโดจีน" แต่สภาพเศรษฐกิจของกัมพูชาก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมมากนัก ฝรั่งเศสเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในสภาพเศรษฐกิจระดับหมู่บ้านของกัมพูชา ชาวกัมพูชากลายเป็นกลุ่มที่เสียภาษีมากที่สุดในอินโดจีน การปฏิรูปภาษีทำให้ชาวนากัมพูชากว่าหมื่นคนเข้ามายังพนมเปญเพื่องร้องเรียนต่อกษัตริย์ให้ลดภาษีเมื่อ พ.ศ. 2458 - 2459 แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ใน พ.ศ. 2468 ชาวกัมพูชาได้ฆ่าเจ้าหน้าที่เก็บภาษีของฝรั่งเศส
ในบางพื้นที่ ได้มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจในช่วงที่ฝรั่งเศสปกครอง ฝรั่งเศสสร้างถนนและทางรถไฟในกัมพูชา มีการสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมพนมเปญเข้ากับชายแดนไทยที่พระตะบอง มีการปลูกข้าวโพดและยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ จังหวัดพระตะบองและจังหวัดเสียมราฐกลายเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญในอินโดจีน กัมพูชาปลูกข้าวโพดและยางได้เพียงพอ แต่หลังจากเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทั่วโลกเมื่อ พ.ศ. 2472 เริ่มเกิดสภาวะขาดแคลนในกัมพูชา โดยเฉพาะชาวนาที่รายได้ไม่พอกับหนี้สิน
มีการวางรากฐานอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูปวัตถุดิบเพื่อใช้ในท้องถิ่นและส่งออก มีการอพยพย้ายถิ่นเข้ามาในกัมพูชาแบบเดียวกับที่เกิดในพม่าและมาเลเซียที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ชาวเวียดนามจำนวนมากเข้ามาเป็นคนงานในสวนยางพารา ชาวประมงและนักธุรกิจ รวมทั้งชาวเขมรต่ำหรือแขมร์กรอมที่มาจากเมืองโจดกและเตย์นิญในโคชินจีน ชาวจีนที่เคยมีบทบาทโดดเด่นในเศรษฐกิจของกัมพูชามาก่อนถูกฝรั่งเศสควบคุมอย่างเข้มงวดกว่า แต่ก็มีเครือข่ายเศรษฐกิจของคนจีนตลอดอินโดจีน
เงินตราที่ใช้ในสมัยอาณานิคมฝรั่งเศส
เมื่อฝรั่งเศสเข้าปกครองกัมพูชา กัมพูชาก็ถูกรวมเข้ากับสหภาพอินโดจีนของฝรั่งเศสซึ่งใช้สกุลเงินเปียส (Piastre) โดยธนบัตรสกุลเงินเปียสสามารถใช้จ่ายชำระหมุนเวียนได้ในเวียดนามและลาวด้วย
- ธนบัตร 1 เปียส อินโดจีนกัมพูชา
- ธนบัตร 5 เปียส อินโดจีนกัมพูชา
- ธนบัตร 100 เปียส อินโดจีนกัมพูชา (ด้านหน้า)
- ธนบัตร 100 เปียส อินโดจีนกัมพูชา (ด้านหลัง)
- ธนบัตร 1 เปียส พระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เริ่มออกใช้ ค.ศ. 1952
การศึกษาในระหว่างการเป็นอาณานิคม
การศึกษาในกัมพูชาช่วงที่เป็นอาณานิคมส่วนใหญ่ยังเป็นการเรียนในวัดแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่เหมาะกับการทำงานในระบบราชการของฝรั่งเศส การที่ฝรั่งเศสนำชาวเวียดนามเข้ามาทำงานในระบบราชการของฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสละเลยที่จะจัดการศึกษาในกัมพูชาดังที่ได้จัดในเวียดนาม การจัดการศึกษาด้วยระบบโรงเรียนแบบตะวันตกมีเฉพาะแต่ในเมืองใหญ่และไม่ทั่วถึง นักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของชาวเวียดนามและชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแห่งแรกในกัมพูชาคือ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2478 แต่มีผู้สำเร็จการศึกษาในช่วงแรกน้อยมาก ใน พ.ศ. 2483 มีผู้สำเร็จการศึกษาราวๆ 4 คน ส่วนผู้ต้องการเรียนระดับอุดมศึกษาต้องไปเรียนที่เวียดนามหรือฝรั่งเศส
สิ่งก่อสร้างสมัยอาณานิคม
- สร้างในปี ค.ศ. 1920 โดยจอร์จ โกลสเลอร์
- พระบรมราชวังกรุงพนมเปญ สร้างในปี ค.ศ. 1860 สมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ สร้างโดยความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส
- ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1929 สมัยพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
- สิ่งก่อสร้างสมัยกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
การเกิดลัทธิชาตินิยมกัมพูชา
แนวคิดชาตินิยมของกัมพูชาต่างจากในเวียดนามที่นิ่งเงียบจนถึง พ.ศ. 2473 ซึ่งอาจเป็นเพราะยังมีกษัตริย์กัมพูชาครองราชย์อยู่ และการรู้หนังสือขอชาวกัมพูชาในเวลานั้นน้อยกว่าในเวียดนาม แนงคิดชาตินิยมกัมพูชาเกิดขึ้นในกลุ่มของชาวเมืองที่มีการศึกษา หลังจากที่มีการก่อตั้งโรงเรียนบาลีระดับมัธยมเมื่อ พ.ศ. 2457 ทำให้เกิดพระสงฆ์กลุ่มใหม่ซึ่งเป็นหัวก้าวหน้า นิยมการวิพากษ์วิจารณ์ การค้นพบนครวัดของฝรั่งเศสและมีการเผยแพร่ให้ชาวกัมพูชารับรู้ผ่านทางวารสารของพุทธศาสนบัณฑิตย์ซึ่งเป็นสมาคมที่ฝรั่งเศสสนับสนุนให้ตั้งขึ้นได้ทำให้ชาวกัมพูชาตื่นตัวถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของตนเอง สิ่งเหล่านี้ต่างล้วนส่งผลให้ลัทธิชาตินิยมของกัมพูชาเป็นรูปเป็นร่างขึ้น นักชาตินิยมในยุคแรก ๆ เป็น (เขมรต่ำ) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเวียดนาม เซิง งอกทัญ และแปช เชือน ออกหนังสือพิมพ์ภาษาเขมรฉบับแรกชื่อ “นครวัด” ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของฝรั่งเศส การฉ้อราษฎร์บังหลวง ความยากลำบากในชนบท อิทธิพลของชาวต่างชาติด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งแนวคิดของเวียดนามที่จะสร้างจักรวรรดินิยมในอินโดจีน
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลวิชีของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2483 กองทัพญี่ปุ่นได้เคลื่อนเข้าสู่เวียดนามและเข้าแทนที่การปกครองของฝรั่งเศส ช่วงกลางปี พ.ศ. 2484 กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนเข้าสู่กัมพูชาแต่ยอมให้รัฐบาลวิชีปกครองดังเดิม รัฐบาลไทยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามได้เรียกร้องดินแดนบางส่วนในลาวและกัมพูชาคืนจากฝรั่งเศสจนนำไปสู่กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสที่เริ่มขึ้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ในที่สุด ญี่ปุ่นเข้ามาไกล่เกลี่ยโดยที่ไทยได้จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐและบางส่วนของจังหวัดสตึงแตรง ยกเว้นปราสาทนครวัดยังอยู่ในเขตแดนของฝรั่งเศส แต่กรณีพิพาทนี้ ไม่ได้มีผลต่อชาวกัมพูชาที่อยู่ห่างไกลจากกรณีพิพาท
พระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์กษัตริย์กัมพูชาสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2484 แม้ว่าพระโอรสของพระองค์คือพระโมนิเชาจะมีสิทธิได้รับราชสมบัติ แต่ฝรั่งเศสกลับเลือกพระนโรดม สีหนุขึ้นเป็นกษัตริย์ทั้งที่ยังทรงพระเยาว์ ญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งวงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพาและสนับสนุนขบวนการชาตินิยมในกัมพูชา แม้ว่านโยบายของญี่ปุ่นจะยอมให้ฝรั่งเศสปกครองกัมพูชาต่อไป เมื่อพระภิกษุชาวกัมพูชา เฮม เชียวถูกฝ่ายฝรั่งเศสจับกุมเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2485 หนังสือพิมพ์นครวัดเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวทำให้แปต เชือนถูกจับ และเซิง งอกทัญลี้ภัยไปญี่ปุ่น
ต่อมา ญี่ปุ่นได้สลายการปกครองของฝรั่งเศสในกัมพูชาและสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2488 กัมพูชาได้ประกาศเอกราชภายใต้วงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพาของญี่ปุ่น โดยมีพระนโรดม สีหนุเป็นประมุขรัฐ เซิง งอกทัญเดินทางกลับมากัมพูชาในเดือนพฤษภาคมและขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากญี่ปุ่นยอมแพ้เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้ามาในพนมเปญ เซิง งอกทัญถูกจับกุมตัวพร้อมทหารญี่ปุ่นจากนั้น จึงส่งไปกักตัวที่ฝรั่งเศส กลุ่มต่อต้านฝรั่งเศสจัดตั้งขบวนการเขมรอิสระและตั้งมั่นในบริเวณที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของไทย
การต่อสู้เพื่อความเป็นเอกภาพของเขมร
รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะรวมอินโดจีนเข้ากับสหภาพฝรั่งเศส ในพนมเปญ พระนโรดม สีหนุพยายามเจรจากับฝรั่งเศสเพื่อเรียกร้องเอกราชที่สมบูรณ์ ในขณะที่เขมรอิสระและเวียดมิญมองว่าพระองค์อยู่ฝ่ายเดียวกับฝรั่งเศส เขมรอิสระได้ใช้การสู้รบแบบกองโจรตามแนวชายแดน โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มฝ่ายซ้ายทั้งที่นิยมและไม่นิยมเวียดนาม รวมทั้งกลุ่มเขมรเสรีซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ของเซิง งอกทัญด้วย แต่บทบาทของเซิง งอกทัญลดลงหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490 ส่วนสมาคมเขมรอิสระที่ได้รับการสนับสนุนจากเวียดมิญสามารถยึดครองพื้นที่ในกัมพูชาได้ถึงร้อยละ 50 ใน พ.ศ. 2497
ใน พ.ศ. 2489 ฝรั่งเศสยอมให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองในกัมพูชา และให้มีการเลือกตั้งภายในประเทศ พรรคการเมืองหลัก 2 พรรคที่จัดตั้งโดยเชื้อพระวงศ์คือพรรคประชาธิปไตยของพระสีสุวัตถิ์ ยุทธวงศ์ซึ่งเรียกร้องเอกราช ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่เป็นครู นักการเมืองที่นิยมศาสนาพุทธ และผู้ที่ได้รับแนวคิดจากหนังสือพิมพ์นครวัดที่ถูกฝรั่งเศสสั่งปิดไปเมื่อ พ.ศ. 2485 อีกพรรคหนึ่งคือของพระนโรดม นรินทเดช ซึ่งเป็นตัวแทนของชนบทแบบดั้งเดิม ยังต้องการความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสไปพร้อมกับการปฏิรูปประชาธิปไตย การเลือกตั้งในเดือนกันยายน พ.ศ. 2489 พรรคประชาธิปไตยได้ 50 จาก 67 ที่นั่ง
ในฐานะที่ได้เสียงส่วนใหญ่ในสภา พรรคประชาธิปไตยได้เสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของกัมพูชาซึ่งได้แบบมาจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 อำนาจส่วนใหญ่เป็นของสภา พระมหากษัตริย์เป็นเพียงศูนย์รวมจิตวิญญาณของรัฐ ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2490 พรรคประชาธิปไตยได้เสียงส่วนใหญ่อีกครั้ง แต่พระสีสุวัตถิ์ ยุเทวงศ์ผู้ก่อตั้งกลับถึงแก่อนิจกรรมและไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำพรรคอย่างชัดเจน ระหว่าง พ.ศ. 2491 – 2492 มีความเป็นเอกภาพเฉพาะสถานะที่ได้รับการสนับสนุนจากพระมหากษัตริย์ หัวข้อหลักที่พระมหากษัตริย์ได้ต่อสู้คือเรียกร้องเอกราชให้กัมพูชาเป็นอิสระจากสหภาพฝรั่งเศส ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2492 มีการเจรจาระหว่างพระนโรดม สีหนุกับรัฐบาลฝรั่งเศส ได้มีการเจรจาระหว่างพระนโรดม สีหนุกับรัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสผ่อนคลายความเข้มงวดในการปกครองกัมพูชาลง คือการปกครองแบบอาณานิคมอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลง กัมพูชาได้บริหารในเขตปกครองตนเอง มีการจัดตั้งกองทัพแห่งชาติกัมพูชาภายในเขตปกครองตนเองในจังหวัดเสียมราฐและพระตะบองที่ได้คืนมาจากไทย นโยบายการต่างประเทศถูกควบคุมโดยสภาสูงของสหภาพฝรั่งเศส ฝรั่งเศสยังคงควบคุมระบบการศาล การเงิน การขนส่งทางทะเล และฝรั่งเศสยังคงกองทหารไว้ในกัมพูชา การประกาศกฎอัยการศึกนอกเขตปกครองตนเองเป็นอำนาจของฝรั่งเศส ใน พ.ศ. 2493 กัมพูชาได้รับการรับรองจากสหรัฐและประเทศที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ แต่ในเอเชียมีเฉพาะไทยกับเกาหลีใต้
พรรคประชาธิปไตยยังคงครองเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งสภาแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2494 พระนโรดม สีหนุได้ขอให้ฝรั่งเศสปล่อยตังเซิง งอกทัญและยอมให้เขาเดินทางกลับประเทศ เซิง งอกทัญกลับมาถึงกัมพูชาเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ต่อมาเขาได้ออกหนังสือพิมพ์ชื่อ Khmer Krok (เขมรตื่นเถิด) ใน พ.ศ. 2495 แต่ถูกระงับการตีพิมพ์ ในที่สุด เซิง งอกทัญได้ออกจากพนมเปญไปต่อสู้กับเขมรอิสระ เขาได้ลี้ภัยจนลน นลประกาศตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรเมื่อ พ.ศ. 2513
การเรียกร้องเอกราช
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2495 พระนโรดม สีหนุได้ประกาศเข้าควบคุมรัฐบาลในฐานะนายกรัฐมนตรี ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2496 ได้ประกาศยุบสภาแห่งชาติและประกาศกฎอัยการศึกแม้จะไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน พระองค์เข้าปกครองประเทศโดยตรงเป็นเวลาเกือบสามปี จากเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2495 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 โดยตั้งสภาที่ปรึกษาขึ้นแทนสภาแห่งชาติที่ถูกยุบไป
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2496 พระนโรดม สีหนุเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อเจรจาให้กัมพูชาได้รับเอกราชที่สมบูรณ์ และพระองค์กล่าวว่าถ้าไม่ได้รับเอกราชโดยทันที ประชาชนจะหันไปสนับสนุนเซิง งอกทัญและเขมรอิสระ การเจรจามีทีท่าล้มเหลว พระนโรดม สีหนุเดินทางต่อไปยังสหรัฐ แคนาดา และญี่ปุ่นและประกาศว่าจะไม่กลับกัมพูชาจนกว่าจะได้รับเอกราชที่สมบูรณ์ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2496 สีหนุเดินทางออกจากพนมเปญมายังประเทศไทย แต่ด้วยการต้อนรับที่ไม่อบอุ่น พระองค์จึงเดินทางต่อไปยังเขตปกครองตนเองในเสียมราฐ ซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของลน นล
แม้ว่าการต่อสู้ของพระนโรดม สีหนุอาจทำให้ฝรั่งเศสปลดพระองค์ออกจากการเป็นกษัตริย์และเลือกเชื้อพระวงศ์อื่นขึ้นมาแทนได้ แต่ด้วยสถานการณ์ทางทหารในอินโดจีนที่ตึงเครียด ทำให้ฝรั่งเศสตัดสินใจในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 ที่จะให้เอกราชที่สมบูรณ์แก่กัมพูชา ลาวและเวียดนาม พระนโรดม สีหนุยืนยันให้ฝรั่งเศสให้อำนาจในการป้องกันประเทศ เอกราชทางการศาลและการเงิน ฝรั่งเศสยอมโอนตำรวจและศาลให้กัมพูชาในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และในเดือนตุลาคม กัมพูชาจึงมีอำนาจควบคุมกองทัพอย่างแท้จริง วันที่ได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์คือ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2496 ทำให้พระนโรดม สีหนุกลายเป็นวีรบุรุษของชาวกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เอกราชทางการเงินและการจัดการงบประมาณเป็นของกัมพูชาใน พ.ศ. 2497
รายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
รายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชา | ||||
พระมหากษัตริย์ | ครองราชย์ | |||
---|---|---|---|---|
รัชกาล | พระรูป | พระนาม | ระหว่าง | หมายเหตุ |
อารักขาฝรั่งเศส (พ.ศ. 2406 – 2496) | ||||
กัมพูชาตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และกลายเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2406 (เข้าสู่ยุคกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส) (หมายเหตุ: กัมพูชาพ้นจากความเป็นประเทศราชของสยาม ทางฝ่ายสยามถือเป็นการเสียอิทธิพลให้ฝรั่งเศส) | ||||
108 | พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) | พ.ศ. 2403 – 2447 (44 ปี) | พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) | |
109 | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) | พ.ศ. 2447 – 2470 (23 ปี) | พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระอนุชาต่างพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) | |
110 | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) | พ.ศ. 2470 – 2484 (14 ปี) | พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) | |
111 (1) | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ | พ.ศ. 2484 – 2498 (14 ปี) | ครองราชย์ครั้งที่ 1 พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) | |
ในปี พ.ศ. 2496 กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ จึงมีการสถาปนาพระราชอาณาจักรกัมพูชาโดยใช้ระบอบสังคมราษฎรนิยม พ.ศ. 2496 – 2513 กัมพูชาเข้าสู่ยุคสังคมราษฎรนิยม |
อ้างอิง
- ธำรงศักดิ์, 2552 หน้า 12 - 24
- ธำรงศักดิ์, 2552 หน้า 12 - 24
- ธิบดี บัวคำศรี, ประวัติศาสตร์กัมพูชา, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ. 2555).
บรรณานุกรมและแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
- ธิบดี บัวคำศรี. (2555). ประวัติศาสตร์กัมพูชา. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
- ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์. (2552). สยามประเทศไทยกับดินแดนในกัมพูชาและลาว. กรุงเทพฯ. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์.
- ยิ่งยศ บุญจันทร์. (2561). แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นชาติและการเคลื่อนไหวด้านชาตินิยมของปัญญาชนเขมร ค.ศ. 1930-1955. วิทยานิพนธ์ อ.ม. (ประวัติศาสตร์). นครปฐม: ภาควิชาประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. (ออนไลน).
- วุฒิชัย นาคเขียว และธนาพล ลิ่มอภิชาต. (2561, ส.ค.-2562, ก.ค.). กัมพุชสุริยา: การผลิตและการเผยแพร่งานเขียนประวัติศาสตร์ในกัมพูชาสมัยอาณานิคม ค.ศ. 1926-1941. วารสารประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. 43, น. 171-194.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Son Ngoc Thanh
- Cambodian Genealogy 2018-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kmphuchainxarkkhakhxngfrngess xngkvs French protectorate of Cambodia ekhmr ប រទ សកម ព ជ ក រ មអ ណ ព យ ប លប រ ង frngess Protectorat francais du Cambodge epnrayaewlachwngthikmphuchaekhaepnrthinxarkkhakhxngfrngesskxncathukrwmekhaepnswnhnungkhxngshphaphxinodcinthiepnxananikhmkhxngfrngess cnkrathngklayepndinaednthithukyipunyudkhrxngrahwangsngkhramolkkhrngthisxng caknnklayepnswnhnungkhxngshphaphfrngess aelatxsucnidrbexkrachinthisudrachxanackrkmphucha កម ព ជ Cambodgeph s 2406 ph s 2488 ph s 2488 ph s 2496thngchati ph s 2406 2491 trapracaphrarachxanackrephlngchati lamaraesaeys source source track track nkhrrach source track track track track track track track track track track track thitngkhxngkmphuchasthanasmburnayasiththirachy rthinxarkkhakhxngfrngessemuxnghlwngxudngmichy cnthung ph s 2410 phnmepy tngaet ph s 2410 phasathwipphasafrngess thangrachkar phasaekhmrsasnasasnaphuththnikayethrwath 70 chawkmphucha sasnakhristnikayormnkhathxlik 30 chawfrngess karpkkhrxngsmburnayasiththirachyphayitkarbriharxananikhm 2406 2490 rthediyw rabbrthspha rachathipityphayitrththrrmnuy phayinshphaphfrngess 2490 2496 phramhakstriyaehngkmphucha ph s 2403 2447phranordm xngkhaerk ph s 2484 2496nordm sihnu xngkhsudthay phusaercrachkar fayfrngess ph s 2406 2409aexraenst dudar edx laekrkhahlwngihy ph s 2496Jean Risterucciyukhprawtisastryukhckrwrrdiniymihm erimepnrthinxarkkhaph s 2406 ph s 2406 phnwkekhakbxinodcinfrngessph s 2436 idrbexkrachtamxnusyyaecniwaph s 2496 ph s 2496rhs ISO 3166kxnhna thdipyukhmudkhxngkmphuchakaryudkhrxngkmphuchakhxngyipun karyudkhrxngkmphuchakhxngyipunrachxanackrkmphucha ph s 2497 2513 karekhamamixiththiphlinkmphuchakhxngfrngessphrarachphithibrmrachaphieskkhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar n krungxudngmichy emux ph s 2406 odymikhnathutfrngessyundansayaelakhnaphuaethncaksyamyundankhwaekharwminphithi ephuxyunyneruxngphlpraoychnkhxngtnehnuxdinaednkmphucha khunnangekhmrkalnghmxbkrabxyutrngklang kartidtxrahwangfrngessaelakmphuchakhrngaerkekidkhunemuxkhnathutkhxng kngsulfrngesspracaesiyngihekhamathasnthisyyakbithyaebbediywkbsnthisyyaebawringkhxngxngkvsemux ph s 2399 emuxedinthangxxkcakithy mngtiyiidedinthangtxipyngkmphucha aetphraxngkhdwngkstriyinkmphuchakhnanntxbwakmphuchaepnemuxngnxyimxacthasyyaidtamlaphng txngpruksasyamkxn khnathutkhxngmngtiyicungedinthangtxipyngrachsankewkhxngewiydnam xyangirktam hlngcakkhnathutkhxngmngtiyiklbipimnan phraxngkhdwngidsnghnngsuxipyngkngsulfrngesskhxngsingkhopremux 23 phvscikayn ph s 2399 ephuxnaipthwayphraecanopeliynthi 3 khxngfrngess ephuxkhxihfrngesschwykhumkhrxngkmphuchaihphncakxanackhxngsyamaelaewiydnam txma in ph s 2406 hlngcakthifrngessdaeninnoybayaekhngkrawinkaryudkhrxngdinaednewiydnam phleruxexk edx lakrxngdiaeyr idepnkhahlwngxinodcinfrngessidekhamatidtxkmphuchaxikkhrng ephuxihkmphuchaepndinaedninxarkkhakhxngfrngess insmynn kstriykmphuchakhuxphranordm phraoxrskhxngphraxngkhdwng idtklngicthasnthisyyadngklaw karkhdkhankhxngsyam hlngcakkarlngnaminsnthisyyaemux 11 singhakhm ph s 2406 phranordmidthahnngsuxkrabthulrchkalthi 4 wathukfrngessbngkhbihthasyya syamidphyayamrksasiththikhxngtnehnuxkmphuchaodythasnthisyyalbsyam kmphucha emux 1 thnwakhm ph s 2406 ephuxyunynsiththikhxngsyamehnuxkmphucha phranordmyinyxmlngnaminsnthisyyaniechnkn xyangirktam emuxfrngessthrabthungkarthasnthisyyalbsyam kmphucha frngessidekhamakhdkhanaelaecrcaephuxkhxykeliksnthisyya inthisud idmikarlngnaminsnthisyyafrngess syam ph s 2410 odysyamprakasslasiththikarxangsiththiidehnuxkmphucha odyesiymrathaelaphratabxngyngepnkhxngsyam sungchwngewlannepnchwngewlaediywkbthiewiydnamrbaephfrngess yxmrbwaokhchincinepnkhxngfrngesskarpkkhrxngkhxngfrngesskarpkkhrxngrayaaerk karpkkhrxngkmphuchainchwngaerkkhxngfrngess ph s 2406 2427 frngessimidekhamaaethrkaesngkickarphayinkmphuchamaknk bthbathinchwngnikhxngfrngessidsnbsnunihsthanakhxngkstriymnkhngkhun echnkarprabrahwangph s 2408 2410 aelakarprabkbtchawnathinaodyphukxmobemux ph s 2410 inchwngni frngesskhwbkhumdankarthhar kartangpraeths aelakarkhlngepnhlk nxkcaknnidaetngtngihphrasisuwtththiekhymikhxkhdaeyngkbphranordmkxnkhunkhrxngrachyihepnxuprachkhxngkmphucha aelapi ph s 2409 phayitkhapruksakhxngfrngesskhxngphrabathsmedcphranordmcungidmiphrarachdariihyayrachthanicakkrungxudngmichymathikrungphnmepyepnemuxnghlwngkhxngpraethsxikkhrngthaihkrungphnmepyepnemuxnghlwngnbaetnnepntnma sinsudyukhsmyxudngthidaeninmahlayrxypi hlng ph s 2426 sungfrngessyudkhrxngewiydnamidxyangsmburn thaihfrngessepliynnoybayinkarpkkhrxngkmphucha erimcak ph s 2427 khahlwngthxmsnesnxihmikarptirupinkmphuchakhrngihy thngdankarekbphasi kartarwcaelakarykelikrabbiphrthas aetphranordmimihkhwamrwmmux phyayamrxngeriynipyngrthbalfrngess cnkhahlwngthxmsnnaeruxpunekhamathxdsmxrimphrarachwngaelakhmkhuihphranordmlngphranamaphiithy phranordmcungthrnglngphranamaphiithyemux 17 mithunayn ph s 2427 kartxtanfrngess ph s 2427 2430 phlthiekidmatamcakkarbngkhbihptirupkhxngfrngesskhuxkarekidkbtchawnaphayinpraeths xngkhklbmaepnphunakbtthimithanthimnthangtawnxxkkhxngkmphucha frngessidsngkalngthharekhaprabpramkbtaelatngkhxsngsyphranordmxyuebuxnghlngkarkxkbtkhrngni phlcakkarprabpramthaihchawkmphuchaxphyphekhaphratabxngthiyngxyuphayitkarpkkhrxngkhxngsyamkwa 40 000 khn karkbtkinrayaewlakwasxngpi yutilngemuxkhahlwngkhnihmkhuxfilipiniekhaecrcakbphranordmihyutikarkbtphayin 1 mkrakhm ph s 2430 odyfrngesscachalxkarptiruprabbiphrthas phranordmcungxxkprakaseriykrxngihyutikarkbtaelaprakasnirothskrrm xngkhphrasiwtthahniekhaipxyuthiaemnaokhngtamaenwchayaednkmphucha law karkbtcungsinsudlng karrwmekhakbshphaphxinodcinaelalidrxnxanackhxngkstriy kharachkarkmphucharbxiththiphlaetngkaycakfrngess hlngkaryayemuxnghlwngmakrungphnmepy rchsmyphrabathsmedcphrasisuwtthistrirachsankkmphucharchsmyphrasisuwtthi frngesscdtngshphaphxinodcinkhunemux ph s 2430 odyihkhunkbkrathrwngxananikhm khahlwngihypracashphaphxinodcinpracathihanxy swnkmphuchaepnrthinxarkkhacungmiphuwakarsungsudepntwaethnkhxngfrngess emuxphranordmprachwrhnkemux ph s 2440 khnamiphrachnmid 61 phrrsa frngessetriymkarsthapnaphrasisuwtthepnkstriyodyihphraxngkhyxmmxbxanackarbriharthnghmdihfrngess xyangirktam emuxphranordmhayprachwr imidswrrkhtxyangthikhad frngesscungbngkhbihphraxngkhxxkphrarachbyytilngwnthi 11 krkdakhm ph s 2440 ephuxptirupkarpkkhrxng idaekkarihsiththiprachachnkhrxbkhrxngthrphysin aelakahndihkdhmaythiichbngkhbidtxngmiphuwakarsungsudkhxngfrngesslngnam inph s 2443 oxrskhxngphranordmedinthangipfrngessephuxepidephykhwamimyutithrrmkhxngfrngessihsuxmwlchnthrabaelaeriykrxngkarpkkhrxngtnexng phlkhuxphraxngkhyukhnthrthukthxdxxkcakbrrdaskdi aelatxngliphyinsyamtlxdchiwit phranordmswrrkhtemux 25 emsayn ph s 2447 phrasisuwtthkhunkhrxngrachsmbtikhunepnphrabathsmedcphrasisuwtthi aelaidlngnammxbxanackarbriharrachkaraephndinihfrngesscnhmd kmphuchacungklayepnxananikhmkhxngfrngessxyangsmburnsphaphesrsthkicrahwangkarepnxananikhmimnanhlngcakfrngessekhapkkhrxngkmphuchaemux ph s 2406 frngesssrangkhwamfnwakmphuchacaepn singkhopraehngxinodcin aetsphaphesrsthkickhxngkmphuchakimidtangipcakedimmaknk frngessekbphasiidxyangmiprasiththiphaph aetkidsrangkhwamepliynaeplnginsphaphesrsthkicradbhmubankhxngkmphucha chawkmphuchaklayepnklumthiesiyphasimakthisudinxinodcin karptirupphasithaihchawnakmphuchakwahmunkhnekhamayngphnmepyephuxngrxngeriyntxkstriyihldphasiemux ph s 2458 2459 aetkthaxairimid in ph s 2468 chawkmphuchaidkhaecahnathiekbphasikhxngfrngess inbangphunthi idmikarphthnathangesrsthkicinchwngthifrngesspkkhrxng frngesssrangthnnaelathangrthifinkmphucha mikarsrangthangrthifephuxechuxmphnmepyekhakbchayaednithythiphratabxng mikarplukkhawophdaelayangpharaepnphuchesrsthkicthisakhy cnghwdphratabxngaelacnghwdesiymrathklayepnaehlngplukkhawthisakhyinxinodcin kmphuchaplukkhawophdaelayangidephiyngphx aethlngcakesrsthkicthdthxykhrngihythwolkemux ph s 2472 erimekidsphawakhadaekhlninkmphucha odyechphaachawnathirayidimphxkbhnisin mikarwangrakthanxutsahkrrmephuxaeprrupwtthudibephuxichinthxngthinaelasngxxk mikarxphyphyaythinekhamainkmphuchaaebbediywkbthiekidinphmaaelamaelesiythixyuphayitkarpkkhrxngkhxngxngkvs chawewiydnamcanwnmakekhamaepnkhnnganinswnyangphara chawpramngaelankthurkic rwmthngchawekhmrtahruxaekhmrkrxmthimacakemuxngocdkaelaetyniyinokhchincin chawcinthiekhymibthbathoddedninesrsthkickhxngkmphuchamakxnthukfrngesskhwbkhumxyangekhmngwdkwa aetkmiekhruxkhayesrsthkickhxngkhncintlxdxinodcin engintrathiichinsmyxananikhmfrngess emuxfrngessekhapkkhrxngkmphucha kmphuchakthukrwmekhakbshphaphxinodcinkhxngfrngesssungichskulenginepiys Piastre odythnbtrskulenginepiyssamarthichcaycharahmunewiynidinewiydnamaelalawdwy thnbtr 1 epiys xinodcinkmphucha thnbtr 5 epiys xinodcinkmphucha thnbtr 100 epiys xinodcinkmphucha danhna thnbtr 100 epiys xinodcinkmphucha danhlng thnbtr 1 epiys phrabrmchayalksnsmedcphranordm sihnu erimxxkich kh s 1952karsuksainrahwangkarepnxananikhm karsuksainkmphuchachwngthiepnxananikhmswnihyyngepnkareriyninwdaebbdngedim sungimehmaakbkarthanganinrabbrachkarkhxngfrngess karthifrngessnachawewiydnamekhamathanganinrabbrachkarkhxngfrngess thaihfrngesslaelythicacdkarsuksainkmphuchadngthiidcdinewiydnam karcdkarsuksadwyrabborngeriynaebbtawntkmiechphaaaetinemuxngihyaelaimthwthung nkeriynswnihyepnlukhlankhxngchawewiydnamaelachawkmphuchaechuxsaycin orngeriynradbmthymsuksaaehngaerkinkmphuchakhux tngkhunemux ph s 2478 aetmiphusaerckarsuksainchwngaerknxymak in ph s 2483 miphusaerckarsuksaraw 4 khn swnphutxngkareriynradbxudmsuksatxngiperiynthiewiydnamhruxfrngess singkxsrangsmyxananikhm sranginpi kh s 1920 odycxrc oklselxr phrabrmrachwngkrungphnmepy sranginpi kh s 1860 smyphrabathsmedcphranordm phrhmbrirks srangodykhwamchwyehluxcakfrngess kxtnginpi kh s 1929 smyphrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs singkxsrangsmykmphuchainxarkkhakhxngfrngesskarekidlththichatiniymkmphuchaaenwkhidchatiniymkhxngkmphuchatangcakinewiydnamthiningengiybcnthung ph s 2473 sungxacepnephraayngmikstriykmphuchakhrxngrachyxyu aelakarruhnngsuxkhxchawkmphuchainewlannnxykwainewiydnam aenngkhidchatiniymkmphuchaekidkhuninklumkhxngchawemuxngthimikarsuksa hlngcakthimikarkxtngorngeriynbaliradbmthymemux ph s 2457 thaihekidphrasngkhklumihmsungepnhwkawhna niymkarwiphakswicarn karkhnphbnkhrwdkhxngfrngessaelamikarephyaephrihchawkmphucharbruphanthangwarsarkhxngphuththsasnbnthitysungepnsmakhmthifrngesssnbsnunihtngkhunidthaihchawkmphuchatuntwthungkhwamyingihyinxditkhxngtnexng singehlanitanglwnsngphlihlththichatiniymkhxngkmphuchaepnrupepnrangkhun nkchatiniyminyukhaerk epn ekhmrta sungepnchnklumnxyinewiydnam esing ngxkthy aelaaepch echuxn xxkhnngsuxphimphphasaekhmrchbbaerkchux nkhrwd sungaesdngkhwamkngwlekiywkbnoybaykhxngfrngess karchxrasdrbnghlwng khwamyaklabakinchnbth xiththiphlkhxngchawtangchatidanesrsthkic rwmthngaenwkhidkhxngewiydnamthicasrangckrwrrdiniyminxinodcin rahwangsngkhramolkkhrngthisxng emuxmikarcdtngrthbalwichikhxngfrngessemux ph s 2483 kxngthphyipunidekhluxnekhasuewiydnamaelaekhaaethnthikarpkkhrxngkhxngfrngess chwngklangpi ph s 2484 kxngthphyipunekhluxnekhasukmphuchaaetyxmihrthbalwichipkkhrxngdngedim rthbalithyinsmycxmphl p phibulsngkhramideriykrxngdinaednbangswninlawaelakmphuchakhuncakfrngesscnnaipsukrniphiphathxinodcinfrngessthierimkhunemux 19 thnwakhm ph s 2484 inthisud yipunekhamaiklekliyodythiithyidcnghwdphratabxng esiymrathaelabangswnkhxngcnghwdstungaetrng ykewnprasathnkhrwdyngxyuinekhtaednkhxngfrngess aetkrniphiphathni imidmiphltxchawkmphuchathixyuhangiklcakkrniphiphath phrasisuwtthi muniwngskstriykmphuchasinphrachnmemux ph s 2484 aemwaphraoxrskhxngphraxngkhkhuxphraomniechacamisiththiidrbrachsmbti aetfrngessklbeluxkphranordm sihnukhunepnkstriythngthiyngthrngphraeyaw yipunideriykrxngihmikarcdtngwngiphbulyaehngmhaexechiyburphaaelasnbsnunkhbwnkarchatiniyminkmphucha aemwanoybaykhxngyipuncayxmihfrngesspkkhrxngkmphuchatxip emuxphraphiksuchawkmphucha ehm echiywthukfayfrngesscbkumemuxeduxnkrkdakhm ph s 2485 hnngsuxphimphnkhrwderiykrxngihmikarplxytwthaihaept echuxnthukcb aelaesing ngxkthyliphyipyipun txma yipunidslaykarpkkhrxngkhxngfrngessinkmphuchaaelasnbsnunkarcdtngrthbalhunechidinwnthi 9 minakhm ph s 2488 kmphuchaidprakasexkrachphayitwngiphbulyaehngmhaexechiyburphakhxngyipun odymiphranordm sihnuepnpramukhrth esing ngxkthyedinthangklbmakmphuchaineduxnphvsphakhmaelakhunepnnaykrthmntri hlngcakyipunyxmaephemuxeduxnsinghakhm ph s 2488 kxngthphfaysmphnthmitridekhamainphnmepy esing ngxkthythukcbkumtwphrxmthharyipuncaknn cungsngipkktwthifrngess klumtxtanfrngesscdtngkhbwnkarekhmrxisraaelatngmninbriewnthiyngxyuphayitkarpkkhrxngkhxngithykartxsuephuxkhwamepnexkphaphkhxngekhmrrthbalidtdsinicthicarwmxinodcinekhakbshphaphfrngess inphnmepy phranordm sihnuphyayamecrcakbfrngessephuxeriykrxngexkrachthismburn inkhnathiekhmrxisraaelaewiydmiymxngwaphraxngkhxyufayediywkbfrngess ekhmrxisraidichkarsurbaebbkxngocrtamaenwchayaedn odyidrwmmuxkbklumfaysaythngthiniymaelaimniymewiydnam rwmthngklumekhmresrisungepnklumtxtanrachwngskhxngesing ngxkthydwy aetbthbathkhxngesing ngxkthyldlnghlngkarrthpraharinpraethsithy ph s 2490 swnsmakhmekhmrxisrathiidrbkarsnbsnuncakewiydmiysamarthyudkhrxngphunthiinkmphuchaidthungrxyla 50 in ph s 2497 in ph s 2489 frngessyxmihmikarcdtngphrrkhkaremuxnginkmphucha aelaihmikareluxktngphayinpraeths phrrkhkaremuxnghlk 2 phrrkhthicdtngodyechuxphrawngskhuxphrrkhprachathipitykhxngphrasisuwtthi yuththwngssungeriykrxngexkrach prachathipityaebbrthspha phusnbsnunswnihyepnkhru nkkaremuxngthiniymsasnaphuthth aelaphuthiidrbaenwkhidcakhnngsuxphimphnkhrwdthithukfrngesssngpidipemux ph s 2485 xikphrrkhhnungkhuxkhxngphranordm nrinthedch sungepntwaethnkhxngchnbthaebbdngedim yngtxngkarkhwamsmphnthkbfrngessipphrxmkbkarptirupprachathipity kareluxktngineduxnknyayn ph s 2489 phrrkhprachathipityid 50 cak 67 thinng inthanathiidesiyngswnihyinspha phrrkhprachathipityidesnxrangrththrrmnuyihmkhxngkmphuchasungidaebbmacaksatharnrthfrngessthi 4 xanacswnihyepnkhxngspha phramhakstriyepnephiyngsunyrwmcitwiyyankhxngrth inkareluxktngemuxeduxnthnwakhm ph s 2490 phrrkhprachathipityidesiyngswnihyxikkhrng aetphrasisuwtthi yuethwngsphukxtngklbthungaekxnickrrmaelaimmiphusubthxdtaaehnngphunaphrrkhxyangchdecn rahwang ph s 2491 2492 mikhwamepnexkphaphechphaasthanathiidrbkarsnbsnuncakphramhakstriy hwkhxhlkthiphramhakstriyidtxsukhuxeriykrxngexkrachihkmphuchaepnxisracakshphaphfrngess ineduxnknyayn ph s 2492 mikarecrcarahwangphranordm sihnukbrthbalfrngess idmikarecrcarahwangphranordm sihnukbrthbalfrngesssungthaihrthbalfrngessphxnkhlaykhwamekhmngwdinkarpkkhrxngkmphuchalng khuxkarpkkhrxngaebbxananikhmxyangepnthangkarsinsudlng kmphuchaidbriharinekhtpkkhrxngtnexng mikarcdtngkxngthphaehngchatikmphuchaphayinekhtpkkhrxngtnexngincnghwdesiymrathaelaphratabxngthiidkhunmacakithy noybaykartangpraethsthukkhwbkhumodysphasungkhxngshphaphfrngess frngessyngkhngkhwbkhumrabbkarsal karengin karkhnsngthangthael aelafrngessyngkhngkxngthhariwinkmphucha karprakaskdxykarsuknxkekhtpkkhrxngtnexngepnxanackhxngfrngess in ph s 2493 kmphuchaidrbkarrbrxngcakshrthaelapraethsthiimichkhxmmiwnist aetinexechiymiechphaaithykbekahliit phrrkhprachathipityyngkhngkhrxngesiyngswnihyinkareluxktngsphaaehngchatiemux ph s 2494 phranordm sihnuidkhxihfrngessplxytngesing ngxkthyaelayxmihekhaedinthangklbpraeths esing ngxkthyklbmathungkmphuchaemux 29 tulakhm ph s 2494 txmaekhaidxxkhnngsuxphimphchux Khmer Krok ekhmrtunethid in ph s 2495 aetthukrangbkartiphimph inthisud esing ngxkthyidxxkcakphnmepyiptxsukbekhmrxisra ekhaidliphycnln nlprakastngrthbalsatharnrthekhmremux ph s 2513kareriykrxngexkrachineduxnmithunayn ph s 2495 phranordm sihnuidprakasekhakhwbkhumrthbalinthananaykrthmntri txmaineduxnmkrakhm ph s 2496 idprakasyubsphaaehngchatiaelaprakaskdxykarsukaemcaimmixanactamrththrrmnuythichdecn phraxngkhekhapkkhrxngpraethsodytrngepnewlaekuxbsampi cakeduxnmithunayn ph s 2495 thungeduxnkumphaphnth ph s 2498 odytngsphathipruksakhunaethnsphaaehngchatithithukyubip ineduxnminakhm ph s 2496 phranordm sihnuedinthangipfrngessephuxecrcaihkmphuchaidrbexkrachthismburn aelaphraxngkhklawwathaimidrbexkrachodythnthi prachachncahnipsnbsnunesing ngxkthyaelaekhmrxisra karecrcamithithalmehlw phranordm sihnuedinthangtxipyngshrth aekhnada aelayipunaelaprakaswacaimklbkmphuchacnkwacaidrbexkrachthismburn ineduxnmithunayn ph s 2496 sihnuedinthangxxkcakphnmepymayngpraethsithy aetdwykartxnrbthiimxbxun phraxngkhcungedinthangtxipyngekhtpkkhrxngtnexnginesiymrath sungxyuinekhtxiththiphlkhxngln nl aemwakartxsukhxngphranordm sihnuxacthaihfrngesspldphraxngkhxxkcakkarepnkstriyaelaeluxkechuxphrawngsxunkhunmaaethnid aetdwysthankarnthangthharinxinodcinthitungekhriyd thaihfrngesstdsinicinwnthi 3 krkdakhm ph s 2496 thicaihexkrachthismburnaekkmphucha lawaelaewiydnam phranordm sihnuyunynihfrngessihxanacinkarpxngknpraeths exkrachthangkarsalaelakarengin frngessyxmoxntarwcaelasalihkmphuchainchwngplayeduxnsinghakhm aelaineduxntulakhm kmphuchacungmixanackhwbkhumkxngthphxyangaethcring wnthiidrbexkrachodysmburnkhux 9 phvscikayn ph s 2496 thaihphranordm sihnuklayepnwirburuskhxngchawkmphucha xyangirktam exkrachthangkarenginaelakarcdkarngbpramanepnkhxngkmphuchain ph s 2497rayphranamphramhakstriykmphuchainxarkkhakhxngfrngessrayphranamphramhakstriykmphuchaphramhakstriy khrxngrachyrchkal phrarup phranam rahwang hmayehtuxarkkhafrngess ph s 2406 2496 kmphuchatkepnxananikhmkhxngfrngess aelaklayepnrthinxarkkhakhxngfrngessemux ph s 2406 ekhasuyukhkmphuchainxarkkhakhxngfrngess hmayehtu kmphuchaphncakkhwamepnpraethsrachkhxngsyam thangfaysyamthuxepnkaresiyxiththiphlihfrngess 108 phrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi ph s 2403 2447 44 pi phrarachoxrsinsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng 109 phrabathsmedcphrasisuwtthi nkxngkhsisuwtthi ph s 2447 2470 23 pi phrarachoxrsinsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng phraxnuchatangphrarachmardainphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi 110 phrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs nkxngkhsisuwtthi muniwngs ph s 2470 2484 14 pi phrarachoxrsinphrabathsmedcphrasisuwtthi nkxngkhsisuwtthi 111 1 phrabathsmedcphranordm sihnu ph s 2484 2498 14 pi khrxngrachykhrngthi 1 phrarachnddainphrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs nkxngkhsisuwtthi muniwngs inpi ph s 2496 kmphuchaidrbexkrachcakfrngessodysmburn cungmikarsthapnaphrarachxanackrkmphuchaodyichrabxbsngkhmrasdrniym ph s 2496 2513 kmphuchaekhasuyukhsngkhmrasdrniymxangxingtharngskdi 2552 hna 12 24 tharngskdi 2552 hna 12 24 thibdi bwkhasri prawtisastrkmphucha phimphkhrngthi 2 krungethph emuxngobran 2555 brrnanukrmaelaaehlngkhnkhwaephimetimthibdi bwkhasri 2555 prawtisastrkmphucha krungethph emuxngobran tharngskdi ephchrelisxnnt 2552 syampraethsithykbdinaedninkmphuchaaelalaw krungethph mulnithiokhrngkartarasngkhmsastr yingys buycnthr 2561 aenwkhidekiywkbkhwamepnchatiaelakarekhluxnihwdanchatiniymkhxngpyyachnekhmr kh s 1930 1955 withyaniphnth x m prawtisastr nkhrpthm phakhwichaprawtisastr bnthitwithyaly mhawithyalysilpakr xxniln wuthichy nakhekhiyw aelathnaphl limxphichat 2561 s kh 2562 k kh kmphuchsuriya karphlitaelakarephyaephrnganekhiynprawtisastrinkmphuchasmyxananikhm kh s 1926 1941 warsarprawtisastr mhawithyalysrinkhrinthrwiorth 43 n 171 194 aehlngkhxmulxunSon Ngoc Thanh Cambodian Genealogy 2018 04 25 thi ewyaebkaemchchin