บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (เขมร: ព្រះបាទស៊ីសុវតិ្ថ; พระบาทสีสุวัตถิ์, ในเอกสารไทยเรียกว่า "สมเด็จพระศรีสวัสดิ์") ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 110 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมฉายาลักษณ์ในปี 2465 | |||||
พระมหากษัตริย์กัมพูชา | |||||
ครองราชย์ | 27 กุมภาพันธ์ 2447 – 9 สิงหาคม 2470 | ||||
ราชาภิเษก | 28 เมษายน 2449 | ||||
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระนโรดม | ||||
ถัดไป | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ | ||||
พระราชสมภพ | 7 กันยายน พ.ศ. 2383 กรุงอุดงมีชัย อาณาจักรเขมรอุดง (ปัจจุบันคือ จังหวัดกันดาล) | ||||
สวรรคต | 9 สิงหาคม พ.ศ. 2470 (86 พรรษา) พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล พนมเปญ กัมพูชา | ||||
คู่อภิเษก | 20 พระองค์ | ||||
พระราชบุตร | 29 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ตรอซ็อกผแอม (ราชสกุลสีสุวัตถิ์) | ||||
พระราชบิดา | สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี | ||||
พระราชมารดา | สมเด็จพระวรราชินี (เภา) | ||||
ศาสนา | ศาสนาพุทธ |
พระองค์ปกครองพระราชอาณาจักรกัมพูชาระหว่างปี พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2470 ในช่วงการปกครองอาณานิคมของฝรั่งเศส พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์กัมพูชายุคอาณานิคม
พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) และเป็นพระอนุชาต่างพระมารดาของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี)
พระราชประวัติ
เสด็จพระราชสมภพเมี่อวันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2383 ที่กรุงอุดงมีชัย นครหลวงเก่าของกัมพูชา ทรงเป็นกษัตริย์แห่งกัมพูชาองค์ที่ 3 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
- พระชนมายุ 18 ได้รับพระสุพรรณบัฎเป็น สมเด็จพระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้า
- พระชนมายุ 24 อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดบวรนิเวศ กรุงเทพมหานคร 1 พรรษา
- พระชนมายุ 36 (พ.ศ. 2413) ได้รับแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระมหาอุปราชบรมบพิตรกรุงกัมพูชา
- พระชนมายุ 65 (24 มีนาคม พ.ศ. 2447) ครองราชย์เป็นกษัตริย์กัมพูชาต่อจากพระนโรดม (พระเชษฐา) ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ จอมจักรพงศ หริราชปรมินทร์ภูวนัย ไกรแก้วฟ้าสุราลัย พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี"
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ ทรงขึ้นครองราชย์เมี่อ พ.ศ. 2447 สืบต่อจากพระเชษฐา พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ด้วยการสนับสนุนจากฝรั่งเศส
ช่วงที่พระองค์ครองราชย์ ฝรั่งเศสได้เรียกร้องเอาเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และเกาะกง คืนจากสยามไปรวมกับกัมพูชาเหมือนเดิม
- พระชนมายุ 67 (พ.ศ. 2449) ได้เสด็จประพาสประเทศฝรั่งเศส
พระราชกรณียกิจ
การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกับฝรั่งเศส
เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้อุบัติในทวีปยุโรป ฝรั่งเศสซึ่งในขณะนั้นปกครองกัมพูชาในฐานะเจ้าอาณานิคม ได้เริ่มมีนโยบายเกณฑ์ผู้คนไปเป็นทหารในแนวหน้า เพื่อทดแทนทหารฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตในแนวรบด้านตะวันตก ในดินแดนอินโดจีนของฝรั่งเศสได้เริ่มมีการเกณฑ์ผู้คนไปเป็นทหารจากทั้งในตังเกี๋ย อันนัม และกัมพูชา
ในปี พ.ศ. 2458 (ค.ศ. 1915) มีโปสเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏในเมืองและหมู่บ้านต่างๆใสพระราชอาณาจักรกัมพูชาชี้แจงให้ประชาชนเข้าร่วมสงครามโลก จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1916) พระองค์ทรงออกพระราชกฤษฎีกาเรียกร้องให้อาสาสมัครมีส่วนร่วมในสงครามโลกกับฝรั่งเศส
ข้าหลวงใหญ่แห่งอินโดจีนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2459 เรียกเกณฑ์ผู้ชาย 7,000 คน (เท่ากับทหารจำนวนเจ็ดกองพัน) เพื่อจัดตั้งทหารกองหนุนและทหารประจำการจากอินโดจีนเพื่อที่จะส่งไปยังฝรั่งเศสและขออาสาสมัครเพิ่มเติมอีก 12,000 คน, แรงงานที่มีทักษะ 10,000 คน (พยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรม, ล่าม ฯลฯ ) และแรงงานไร้ฝีมือ 20,000 คน
กัมพูชาถูกเรียกตัวให้จัดพลทหารอาสา 1,000 คนและคนงาน 2,500 คนไปช่วยฝรั่งเศสทำสงคราม ชาวเขมรหลายกองกำลังในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งถูกนำไปใช้หลังแนวหน้าเช่นอินโดจีนหรือไม่ก็ไปทำงานเป็นแรงงานในโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ฝรั่งเศส
สวรรคต
เสด็จสวรรคตที่ กรงุพนมเปญ เมี่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2470 รวมพระชนมายุ 88 พรรษา ทรงครองราชย์ 24 ปี
กำหนดการพระราชพิธีพระบรมศพ
พิธีกรรมวันแรก สรงน้ำพระบรมศพ แผ่นทองที่ครอบพระพักตร์นั้น เป็นแผ่นทองที่จารึกอายตนะ 6 (พระปรมาภิไธยและวันเวลาพระราชสมภพและวันเสด็จสวรรคต) มีซับพระพักตร์ตาดเงินขาวคลุมบนแผ่นทอง และมีทรงสะพักตาดเงินขาวคลุมบนพระองค์
ตอนสรงน้ำพระศพนั้น สรงบนพระแท่นสานด้วยหวาย มีถาดหรือรางสังกะสีรองอยู่ใต้พระแท่น เมื่อสรงเสร็จแล้วก็เชิญพระศพไปประดิษฐานบนพระแท่นที่สวรรคต
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2470 (หลังสวรรคต 1 เดือน) พระสีสุวัตถิ มุนีวงศ์ (ไทยเรียกพระศรีสวัสดิ์ มณีวงศ์)กษัตริย์พระองค์ใหม่ ถวายพระนามให้กษัตริย์ที่สวรรคตว่า "พระกรุณาในพระบรมราชานุโกศ"
พิธีในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2471 (หลังสวรรคต 7 เดือน) อัญเชิญพระศพในพระบรมโกศทอง(สูง 2 เมตร 80 ซม.) เพื่อจะขึ้นรถแห่ไปยังพระเมรุ
งานพระราชพิธีพระบรมศพ
- กระบวนแห่พระบรมศพ
- อัญเชิญพระบรมโกศขึ้นเกรินสู่พระจิตกาธานบนพระเมรุมาศ
- พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ทรงตักเตือนให้ประชาชนผู้มาเข้าเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพอยู่ในความสงบ ก่อนที่จะทรงสอนขนบธรรมเนียมปฏิบัติในพระราชพิธี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ฝรั่งเศส | พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) | เครื่องอิสริยาภรณ์กรัวซ์ดูเมรีตแองโดชีนัวส์ ชั้นกางเขนทอง | |
สยาม | พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) | เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎสยาม | |
สยาม | พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) | เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก | |
ฝรั่งเศส | พ.ศ. 2449 (ค.ศ. 1906) | เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ | |
หลวงพระบาง | พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ล้านช้างร่มขาว | |
รัฐในอารักขาอันนัม | พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) | ||
สเปน | พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) | ||
สวีเดน | พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) |
เกร็ดความรู้
- สนับพระชงฆ์ผ้าขาว ๑ สนับพระชงฆ์มีเชิงงอนทอง ๑ พระภูษาเยียรบับขาว ๑ สายรัดพระองค์ทองฝังเพชร ๑ (ที่ใช้ในพระราชพิธีเหมือนราชประเพณีในจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๓)
- ในบันทึกจดหมายเหตุ ที่เก็บรักษาไว้ในเก๋งพระอาลักษณ์ กล่าวว่า เครื่องที่ถวายพระบรมศพทรงทั้งหมดนั้นราคากว่า ๑๐,๐๐๐ เหรียญ (ฝรั่งเศส) เป็นพระราชทรัพย์พระกรุณาในพระบรมราชานุโกศ และจะต้องเรียกเอาออกในเวลาที่เชิญพระบรมศพใส่ลงในพระโกศเงินกาไหล่ทอง เพื่อแห่ไปสู่พระเมรุมาศ และสิ่งของนี้จะต้องสร้างเป็นพระพุทธรูป ๑ องค์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระกรุณาในพระบรมราชานุโกศ
- มีประเพณีเหมือนของไทยอีกอย่างหนึ่งคือแต่งเครื่องขาวไว้ทุกข์ แต่ไม่ได้โกนผม สมัยโบราณอาจโกนผมกันทั้งแผ่นดิน ทว่า พ.ศ. ๒๔๗๐ ในอาณัติฝรั่งเศส คงจะเลิกประเพณีนี้ไป เว้นเสียแต่พวกเจ้านายฝ่ายในที่อายุมาก และพวกฝ่ายใน เพราะมีบรรยายไว้ในราชกำหนดว่า
"มีนางร้องไห้ประจำยาม ๒๐ คน ล้วนแต่โกนผมนุ่งขาวไว้ทุกข์ ร้องยำยามตามบทที่กรมพระราชนิพนธ์ (คงจะพระนามทรงกรมของเจ้านายองค์ใดองค์หนึ่ง-จุลลดาฯ) ได้แต่งถวายสำหรับพระบรมศพ ในเวลาที่ร้องยำยามถวายนั้น มีกลองชนะ ๑๐ จ่าปี่ ๑ จ่ากลอง ฯลฯ"
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-17. สืบค้นเมื่อ 2008-04-08.
- "Fighting for colonial masters: Khmers in the First World War". The Phnom Penh Post. 19 มิถุนายน 2541. สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - จดหมายเหตุ หนังสือพระราชกำหนดการ พระราชพิธีพระบรมศพ พระกรุณาฯ ศรีสวัสดิ์ - เก๋งพระอาลักษณ์ พระบรมมหาราชวังเขมรินทร์
38
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระบาทสมเด็จพระนโรดม | พระมหากษัตริย์กัมพูชา (ราชสกุลสีสุวัตถิ์) (24 เมษายน พ.ศ. 2447- 9 สิงหาคม พ.ศ. 2470) | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul phrabathsmedcphrasisuwtthi khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phrabathsmedcphrasisuwtthi ekhmr ព រ ប ទស ស វត ថ phrabathsisuwtthi inexksarithyeriykwa smedcphrasriswsdi thrngepnphramhakstriyrchkalthi 110 aehngrachxanackrkmphuchaphrabathsmedcphrasisuwtthiphrabrmchayalksninpi 2465phramhakstriykmphuchakhrxngrachy27 kumphaphnth 2447 9 singhakhm 2470rachaphiesk28 emsayn 2449kxnhnaphrabathsmedcphranordmthdipphrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngsphrarachsmphph7 knyayn ph s 2383 krungxudngmichy xanackrekhmrxudng pccubnkhux cnghwdkndal swrrkht9 singhakhm ph s 2470 86 phrrsa phrabrmrachwngctumukhsirimngkhl phnmepy kmphuchakhuxphiesk20 phraxngkhphrarachbutr29 phraxngkhphranametmphrabathsmedcphrasisuwtthi cxmckrphngs hrirachprminthrphuwny ikraekwfasuraly phraecakrungkmphuchathibdirachwngsrachwngstrxsxkphaexm rachskulsisuwtthi phrarachbidasmedcphrahrirksrammhaxisrathibdiphrarachmardasmedcphrawrrachini epha sasnasasnaphuthth phraxngkhpkkhrxngphrarachxanackrkmphucharahwangpi ph s 2447 ph s 2470 inchwngkarpkkhrxngxananikhmkhxngfrngess phraxngkhepnphramhakstriyladbthi 3 inprawtisastrkmphuchayukhxananikhm phraxngkhthrngepnphrarachoxrskhxngsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi nkxngkhdwng aelaepnphraxnuchatangphramardakhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar nkxngkhrachawdi phrarachprawtiphramhakstriyaehngkmphuchayukhihmsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdiphrabathsmedcphranordm brmramethwawtarphrabathsmedcphrasisuwtthiphrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngsphrabathsmedcphranordm sihnu khrngthi 1 phrabathsmedcphranordm suramvtphrabathsmedcphranordm sihnu khrngthi 2 phrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmunidkxnuesawriykhxngphrabathsmedcphranordm sisuwtthithiralungthungkarthikmphuchaidrbcnghwdphrawihar phratabxngaelaesiymrathkhuncaksyamodykarkddncakfrngess esdcphrarachsmphphemixwnxngkharthi 7 knyayn ph s 2383 thikrungxudngmichy nkhrhlwngekakhxngkmphucha thrngepnkstriyaehngkmphuchaxngkhthi 3 aehngrachxanackrkmphucha phrachnmayu 18 idrbphrasuphrrnbdepn smedcphrahrirachdnyikraekwfa phrachnmayu 24 xupsmbthepnphraphiksuxyuthiwdbwrniews krungethphmhankhr 1 phrrsa phrachnmayu 36 ph s 2413 idrbaetngtngepn smedcphramhaxuprachbrmbphitrkrungkmphucha phrachnmayu 65 24 minakhm ph s 2447 khrxngrachyepnkstriykmphuchatxcakphranordm phraechstha thrngphranamwa phrabathsmedcphrasisuwtthi cxmckrphngs hrirachprminthrphuwny ikraekwfasuraly phraecakrungkmphuchathibdi phrabathsmedcphrasisuwtthi thrngkhunkhrxngrachyemix ph s 2447 subtxcakphraechstha phrabathsmedcphranordm brmramethwawtar dwykarsnbsnuncakfrngess chwngthiphraxngkhkhrxngrachy frngessideriykrxngexaemuxngphratabxng esiymrath aelaekaakng khuncaksyamiprwmkbkmphuchaehmuxnedim phrachnmayu 67 ph s 2449 idesdcpraphaspraethsfrngessphrarachkrniykickarekharwmsngkhramolkkhrngthihnungkbfrngess kxngthharxinodcinthifrngesseknthmachwythasukaenwrbtawntkkxngthharxinodcinedinrksakarninaenwrbtawntk emuxsngkhramolkkhrngthihnung idxubtiinthwipyuorp frngesssunginkhnannpkkhrxngkmphuchainthanaecaxananikhm iderimminoybayeknthphukhnipepnthharinaenwhna ephuxthdaethnthharfrngesssungesiychiwitinaenwrbdantawntk indinaednxinodcinkhxngfrngessiderimmikareknthphukhnipepnthharcakthngintngekiy xnnm aelakmphucha inpi ph s 2458 kh s 1915 miopsetxrkhnadihypraktinemuxngaelahmubantangisphrarachxanackrkmphuchachiaecngihprachachnekharwmsngkhramolk cnkrathngeduxnkumphaphnthpi ph s 2459 kh s 1916 phraxngkhthrngxxkphrarachkvsdikaeriykrxngihxasasmkhrmiswnrwminsngkhramolkkbfrngess khahlwngihyaehngxinodcinineduxnmkrakhm ph s 2459 eriykeknthphuchay 7 000 khn ethakbthharcanwnecdkxngphn ephuxcdtngthharkxnghnunaelathharpracakarcakxinodcinephuxthicasngipyngfrngessaelakhxxasasmkhrephimetimxik 12 000 khn aerngnganthimithksa 10 000 khn phyabalthiphankarfukxbrm lam l aelaaerngnganirfimux 20 000 khn kmphuchathukeriyktwihcdphlthharxasa 1 000 khnaelakhnngan 2 500 khnipchwyfrngessthasngkhram chawekhmrhlaykxngkalnginsngkhramolkkhrngthihnungthuknaipichhlngaenwhnaechnxinodcinhruximkipthanganepnaerngnganinorngnganphlitxawuthyuthothpkrnfrngessswrrkhtesdcswrrkhtthi krnguphnmepy emixewla 16 00 n wnthi 9 singhakhm ph s 2470 rwmphrachnmayu 88 phrrsa thrngkhrxngrachy 24 pi smedckrmsalaerccnaekhmr thrngthayrup phrarachphithisrngphrabrmsph smedcphraecakrungkmphuchathibdi sriswsdi kxnxyechiyphrabrmsphlnginphrabrmokskahndkarphrarachphithiphrabrmsph phithikrrmwnaerk srngnaphrabrmsph aephnthxngthikhrxbphraphktrnn epnaephnthxngthicarukxaytna 6 phraprmaphiithyaelawnewlaphrarachsmphphaelawnesdcswrrkht misbphraphktrtadenginkhawkhlumbnaephnthxng aelamithrngsaphktadenginkhawkhlumbnphraxngkh txnsrngnaphrasphnn srngbnphraaethnsandwyhway mithadhruxrangsngkasirxngxyuitphraaethn emuxsrngesrcaelwkechiyphrasphippradisthanbnphraaethnthiswrrkht wnsukrthi 9 knyayn ph s 2470 hlngswrrkht 1 eduxn phrasisuwtthi muniwngs ithyeriykphrasriswsdi mniwngs kstriyphraxngkhihm thwayphranamihkstriythiswrrkhtwa phrakrunainphrabrmrachanuoks phithiinwnthi 2 minakhm ph s 2471 hlngswrrkht 7 eduxn xyechiyphrasphinphrabrmoksthxng sung 2 emtr 80 sm ephuxcakhunrthaehipyngphraemru nganphrarachphithiphrabrmsph krabwnaehphrabrmsph xyechiyphrabrmokskhunekrinsuphracitkathanbnphraemrumas phrakruna phrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs phramhakstriyphraxngkhihm thrngtketuxnihprachachnphumaekhaefathwayskkaraphrabrmsphxyuinkhwamsngb kxnthicathrngsxnkhnbthrrmeniymptibtiinphrarachphithiekhruxngrachxisriyaphrn frngess ph s 2443 kh s 1900 ekhruxngxisriyaphrnkrwsduemritaexngodchinws chnkangekhnthxngsyam ph s 2443 kh s 1900 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudsyamsyam ph s 2443 kh s 1900 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk frngess ph s 2449 kh s 1906 ekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxrhlwngphrabang ph s 2452 kh s 1909 ekhruxngrachxisriyaphrnlanchangrmkhawrthinxarkkhaxnnm ph s 2455 kh s 1912 sepn ph s 2455 kh s 1912 swiedn ph s 2455 kh s 1912 ekrdkhwamrusnbphrachngkhphakhaw 1 snbphrachngkhmiechingngxnthxng 1 phraphusaeyiyrbbkhaw 1 sayrdphraxngkhthxngfngephchr 1 thiichinphrarachphithiehmuxnrachpraephniincdhmayehturchkalthi 3 inbnthukcdhmayehtu thiekbrksaiwinekngphraxalksn klawwa ekhruxngthithwayphrabrmsphthrngthnghmdnnrakhakwa 10 000 ehriyy frngess epnphrarachthrphyphrakrunainphrabrmrachanuoks aelacatxngeriykexaxxkinewlathiechiyphrabrmsphislnginphraoksenginkaihlthxng ephuxaehipsuphraemrumas aelasingkhxngnicatxngsrangepnphraphuththrup 1 xngkh thwayepnphrarachkuslaedphrakrunainphrabrmrachanuoks mipraephniehmuxnkhxngithyxikxyanghnungkhuxaetngekhruxngkhawiwthukkh aetimidoknphm smyobranxacoknphmknthngaephndin thwa ph s 2470 inxantifrngess khngcaelikpraephniniip ewnesiyaetphwkecanayfayinthixayumak aelaphwkfayin ephraamibrryayiwinrachkahndwa minangrxngihpracayam 20 khn lwnaetoknphmnungkhawiwthukkh rxngyayamtambththikrmphrarachniphnth khngcaphranamthrngkrmkhxngecanayxngkhidxngkhhnung cullda idaetngthwaysahrbphrabrmsph inewlathirxngyayamthwaynn miklxngchna 10 capi 1 caklxng l xangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 04 17 subkhnemux 2008 04 08 Fighting for colonial masters Khmers in the First World War The Phnom Penh Post 19 mithunayn 2541 subkhnemux 18 phvsphakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help cdhmayehtu hnngsuxphrarachkahndkar phrarachphithiphrabrmsph phrakruna sriswsdi ekngphraxalksn phrabrmmharachwngekhmrinthr 38 kxnhna phrabathsmedcphrasisuwtthi thdipphrabathsmedcphranordm phramhakstriykmphucha rachskulsisuwtthi 24 emsayn ph s 2447 9 singhakhm ph s 2470 phrabathsmedcphrasisuwtthi muniwngs