พระองค์เม็ญ (หรือ มี),พระองค์เจ้ามี หรือ นักองค์เม็ญ (เขมร: អង្គមី; พ.ศ. 2358 — ธันวาคม พ.ศ. 2417) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรเขมรอุดง เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี หรือนักองค์จัน ทั้งนี้พระองค์เม็ญเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่เป็นสตรีไม่กี่คนในประวัติศาสตร์กัมพูชา พระองค์เม็ญทรงเป็นที่รู้จักในนาม บา กง จั๊ว (พระนางเจ้าหญิง) หรือพงศาวดารกัมพูชาออกพระนามว่า บากุ๋นภู มีพระนามเป็นภาษาเวียดนามว่า เจ้าหญิงหง็อก เวิน (Công chúa Ngọc Vân, 玉雲) และภายหลังมีตำแหน่งเป็น เจ้าหญิงหมี เลิม (Quận chúa Mỹ Lâm, 美林)
พระองค์เม็ญ | |
---|---|
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัมพูชา | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2378–2384 และ พ.ศ. 2387–2388 (6 ปี) |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี |
ถัดไป | สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 2358 |
สวรรคต | ธันวาคม พ.ศ. 2417 (ราว 59 พรรษา) อุดงฦๅไชย อาณาจักรเขมร |
ราชวงศ์ | ตรอซ็อกผแอม |
พระราชบิดา | สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี |
พระราชมารดา | นักนางกระจับ |
หลังสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีเสวยทิวงคตในช่วงสงครามอานามสยามยุทธ พระเจ้ากรุงญวนจึงขุนนางจัดพระราชพิธีอภิเษกให้พระองค์เม็ญเสวยราชย์แทนพระราชบิดาขณะพระชนมายุ 20 พรรษา เพราะในช่วงเวลานั้นเจ้านายเขมรที่เป็นชายเข้าไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระเจ้ากรุงสยาม คงเหลือแต่เจ้านายเขมรผู้หญิง ฝ่ายญวนจึงกวาดเจ้านายเขมรไปเมืองญวน หวังให้เป็นประเทศราช พระองค์เม็ญถูกแต่งตั้งเป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาและปลดออกสองครั้ง พระองค์และพระภคินีถูกนำไปไว้ที่เมืองไซ่ง่อนและเว้ ตามลำดับ เพื่อให้กัมพูชาสิ้นเจ้านายปกครอง
ต่อมาราชสำนักเว้ก็ส่งพระองค์กลับพนมเปญหวังให้ชาวเขมรคลายความเจ็บแค้น เมื่อพระเจ้ากรุงญวนทรงเห็นว่าไม่มีขุนนางเขมรนิยมชมชอบพระองค์เม็ญ จึงส่งพระองค์เม็ญไปเมืองเมียดจรูก ภายหลังทัพญวนมิอาจต้านทานกองทัพประสมสยามกับเขมร จึงขอหย่าศึก ยอมปล่อยพระราชวงศ์เขมรที่ถูกนำไปควบคุมไว้ที่เว้ให้เป็นอิสระตั้งแต่ พ.ศ. 2388 เป็นต้นมา
พระราชประวัติ
พระชนม์ชีพช่วงต้น
พระองค์เม็ญประสูติเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน สัปตศก 1177 (พ.ศ. 2358) เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี หรือนักองค์จัน ประสูติแต่นักนางกระจับ บาทบริจาริกาชั้นพระแม่นาง พระราชชนกโปรดให้จัดพระราชพิธีเกศากันต์ แล้วถวายพระนามให้ว่าพระองค์เจ้ามี (เอกสารไทยเรียก เม็ญ) มีพระอนุชาร่วมพระชนกชนนีแต่ไม่ปรากฏพระนามพระองค์หนึ่ง ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2363 แต่สิ้นพระชนม์ด้วยโรคฝีดาษเมื่อชันษาเพียง 7 ปี และมีพระภคินีร่วมพระชนกได้แก่ นักองค์แบน บ้างออกนามว่า แป้น หรือแม้น (ประสูติแต่นักเทพ)นักองค์เภา (ประสูติแต่นักนางยศ) และนักองค์สงวน (ประสูติแต่นักนางแป้น น้องสาวนักนางกระจับ)
ผังเครือญาติของพระองค์เม็ญ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ทว่าหลังสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีผู้มีนโยบายนิยมญวน เสด็จทิวงคตเมื่อ พ.ศ. 2377 ราชสำนักกัมพูชาขาดผู้สืบราชสันตติวงศ์ เพราะพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศมีพระราชธิดาอยู่สี่พระองค์ คือ นักองค์แบน นักองค์มี นักองค์เภา และนักองค์สงวน สมความมุ่งหมายของทั้งสยามและญวนที่ต้องการให้วงศ์กษัตริย์กัมพูชาสูญไป ในเวลานั้นพระอนุชาในสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีสองพระองค์ คือ สมเด็จศรีไชยเชฐ พระมหาอุปราช หรือนักองค์อิ่ม และสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี หรือนักองค์ด้วง ซึ่งประทับอยู่ในสยามอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ทันที แต่ฝ่ายญวนที่ปกครองเขมรอยู่นั้นไม่ยอมรับให้ทั้งสองสืบราชบัลลังก์ โดยเฉพาะสมเด็จพระศรีไชยเชษฐ หรือนักองค์อิ่ม ที่ในภายหลังทรงหลงกลและถูกญวนคุมตัวไปไว้เมืองญวน เพราะหวังว่าฝ่ายญวนจะยกพระองค์ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินเขมร
เบื้องต้นฝ่ายพระเจ้ากรุงญวนที่คิดจะเอาดินแดนเขมรมาไว้ในปกครอง จะตั้งให้เจ้านายผู้หญิงคือนักองค์แบนเสกสมรสกับพระราชโอรสพระเจ้ากรุงญวน ส่วนพระราชธิดาในสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีทั้งสามพระองค์ให้ครองราชย์ร่วมกัน ทว่าในเวลาต่อมาราชสำนักเว้และขุนนางเขมร หมายจะให้นักองค์แบน พระราชธิดาในสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี ขึ้นเสวยราชย์สืบบิดา แต่เพราะเจ้าหญิงพระองค์นี้นิยมสยาม และยังเป็นหลานสาวของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ขุนนางเขมรที่ฝักใฝ่สยาม จึงมิได้ถูกเลือก ในขณะที่นักองค์เม็ญได้รับการโน้มน้าวจากขุนนางญวนให้เสกสมรสกับพระราชโอรสของจักรพรรดิซา ล็อง (เอกสารไทยเรียก ยาลอง หรือองเชียงสือ) แต่แผนการนี้ถูกขุนนางเขมรคัดค้านอย่างหนัก โดยให้เหตุผลว่ามีวัฒนธรรมต่างกัน และไม่เหมาะควรที่จะให้เจ้านายผู้หญิงปกครองประเทศยาวนาน
หุ่นเชิด
พฤษภาคม พ.ศ. 2378 ราชสำนักเว้สถาปนานักองค์เม็ญ หรือหง็อก เวิน (Ngọc Vân, 玉雲) เป็น "เจ้าหญิงเมืองขึ้น" (Quận chúa, 郡主) และมีฐานันดรศักดิ์ต่ำกว่าเจ้าหญิงพระราชธิดากรุงญวน (Công chúa, 公主) ส่วนพระภคินีพระองค์อื่น คือ นักองค์แบน หรือหง็อก เบี่ยน (Ngọc Biện, 玉卞) นักองค์เภา หรือหง็อก ทู (Ngọc Thu, 玉秋) และนักองค์สงวน หรือหง็อก เงวียน (Ngọc Nguyên, 玉源) มีบรรดาศักดิ์เป็น "ท่านหญิงหัวเมืองน้อย" (Huyện quân, 縣君) ฝ่ายญวนทำการอารักขาพระองค์เม็ญอย่างใกล้ชิด มีทหารรักษาพระองค์สองกองร้อย รวม 100 นาย ส่วนพระภคินีอีกสามพระองค์ มีทหารอารักขาพระองค์ละ 30 นาย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้เจ้านายเขมรคิดหลบหนีไปพึ่งสยาม
ในรัชสมัยของพระองค์เม็ญ มีพระราชบัญชาให้สตรีเขมรทุกคนสวมชุดญวนแทนการนุ่งผ้าสมปัก และไว้ผมยาวตามอย่างหญิงญวน ในตลาดมีการวางจำหน่ายอาหารญวน เลิกเปิบข้าวด้วยมือ นาฏกรรมเขมรเริ่มรับอิทธิพลจีนและญวน ข้าราชการเขมรต้องสวมชุดญวน และวัดพุทธของชาวเขมรถูกแปลงเป็นวัดแบบญวนเพื่อทำลายอัตลักษณ์เขมร สถานที่ต่าง ๆ ถูกเปลี่ยนเป็นภาษาญวน บริเวณโดยรอบกรุงพนมเปญถูกเรียกว่า (Trấn Tây Thành, 鎮西城) หรือเขตบริหารฝั่งตะวันตก และญวนเรียกการกระทำนี้ว่าเป็น "ภารกิจแห่งความศิวิไลซ์" ด้วยมองว่าตนเองนั้นมี "อารยะ" มากกว่าเขมร ชาวเขมรภายใต้การปกครองของเจ้านายผู้หญิง สิ้นหวังกับนโยบายการแผลงให้เป็นเวียดนาม (Vietnamization) จึงเรียกร้องให้ฝ่ายสยามแต่งตั้งนักองค์ด้วง พระอนุชาของสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี เสวยราชย์แทน
พ.ศ. 2383 นักองค์แบน พระเชษฐภคินีของพระองค์เม็ญ ถูกทางการญวนจับได้ว่าทรงวางแผนหลบหนีไปสยาม จากการลับลอบติดต่อกับนักเทพ พระชนนี และพระองค์แก้ว ผู้เป็นลุง ที่พลัดไปเมืองพระตะบองซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของสยาม จักรพรรดิมิญ หมั่ง จึงมีพระบรมราชโองการให้จับเจ้านายเขมรไปคุมขังที่พนมเปญเพื่อพิจารณาคดี ต่อมามีพระราชโองการปลดพระองค์เม็ญในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2384 ก่อนเนรเทศเจ้าหญิงเขมรพร้อมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ไปไซ่ง่อน บรรดาขุนนางและข้าราชการเขมรมองว่าการที่ญวนทำเช่นนี้ เสมือนการล้างบางเจ้าเขมรให้สูญวงศ์ อาณาประชาราษฎร์ต่างพากันโกรธแค้นและเจ็บปวดกับนโยบายของญวน ขุนนางญวนส่งเจ้าหญิงเขมรทั้งสี่พระองค์ไว้ที่เมือง (Long Hồ, 龍湖) เอกสารเขมรเรียกเมืองลงโฮ ส่วนเอกสารไทยเรียกเมืองล่องโห้ เซือง วัน ฟ็อง (Dương Văn Phong) เอกสารเขมรเรียก กุงดก เจ้าเมืองล็องโห่ นำส่งเจ้าหญิงเขมรสามพระองค์คือ นักองค์มี นักองค์เภา และนักองค์สงวนให้ (Trương Minh Giảng, 張明講) หรือเอกสารไทยเรียก องเตียนกุน แม่ทัพญวนที่ปกครองเขมร ส่งต่อไปยังเมืองไซ่ง่อน แต่กุมนักองค์แบนไว้ เพราะพระชนนีของพระองค์หนีไปพึ่งสยามในกรุงเทพฯ ฝ่ายญวนมองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการทรยศ เซือง วัน ฟ็องจึงนำนักองค์แบนผู้แปรพักตร์ไปสำเร็จโทษที่เมืองล็องโห่ เมื่อพระชันษา 32 ปี เอกสารเขมรระบุว่านักองค์แบนสิ้นพระชนม์จากถูกจับใส่ถุงถ่วงน้ำที่แม่น้ำโขง ส่วนเอกสารของคิน สก (Khin Sok) ระบุว่านักองค์แบนถูกทรมานจนสิ้นพระชนม์ ทหารญวนจึงนำพระศพไปทิ้งน้ำ ในเวลาต่อมา พระองค์เม็ญ พระขนิษฐา และสมเด็จศรีไชยเชษฐ ถูกนำไปไว้ที่เมืองเว้
เมื่อไร้พระเจ้าแผ่นดิน ขุนนางเขมรก็เริ่มตั้งยศตัวเอง รวบรวมสมัครพรรคพวกสังหารขุนนางญวนในเขมร และแสดงตนกระด้างกระเดื่องไม่อ่อนน้อมต่อพระเจ้ากรุงญวน ช่วงเวลานั้นสยามจึงขยายอิทธิพลเข้ากัมพูชา และพยายามแต่งตั้งนักองค์ด้วงเสวยราชย์ ก่อให้เกิดอานัมสยามยุทธขึ้น ขุนนางญวนในพนมเปญกราบบังคมทูลให้พระองค์เม็ญนิวัตกรุงกัมพูชาด้วยหวังจะคลายปัญหากบฏลง แต่จักรพรรดิมิญ หมั่งทรงปฏิเสธ สอดคล้องกับหนังสือของสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดีถึงจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 โดยทรงเล่าความหลังเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ว่า "ครั้นพี่ตูตาย [ตู – สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี] ยังอยู่แต่บุตรหญิง เจ้ามินมางทำโทษให้เอาบุตรพี่ตูกับมารดาตูบุตรตูไปกักขังไว้ที่เมืองไซ่ง่อน ให้ฆ่าบุตรหญิงพี่ตูเสียคน ๑ ให้ขุนนางผู้ใหญ่ในเมืองเขมรและราษฎรแยกกันไปอยู่เกาะบ้าง ไปอยู่เมืองตังเกี๋ยใกล้เมืองจีนบ้าง ราษฎรเขมรรู้ทั้งสิ้นว่าเจ้าเมืองญวนใจร้ายก็กำเริบฆ่าญวนตายเป็นอันมาก ไปขอตูแก่กรุงเทพมหานครมาเป็นเจ้า"
เมื่อทนแรงกัดดันไม่ไหว ทางราชสำนักญวนจึงส่งพระองค์เม็ญ พระขนิษฐา พระชนนี และพระองค์อิ่มพระปิตุลาคืนกรุงพนมเปญเมื่อขึ้น 7 ค่ำ เดือน 6 (ตรงกับวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2384) โดย ปลูกเรือนถวายหนึ่งหลัง แล้วถวายตราลัญจกรของสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี พร้อมพระขรรค์ประจำแผ่นดินแก่พระองค์เม็ญ โอกาสนั้นพระองค์เม็ญทรงแต่งตั้งขุนนางตำแหน่งต่าง ๆ แล้วทำหนังสือไปยังขุนนางเขมรนัยว่าให้ขุนนางและข้าราชการทั้งหลายสนับสนุนพระองค์ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสวามิภักดิ์ ในเวลาเดียวกันกับนักองค์ด้วงที่เป็นพระปิตุลาอีกพระองค์หนึ่ง ได้รับเสียงสนับสนุนจากราชสำนักกรุงอุดงฦๅไชย ต่อมาพระองค์เม็ญและเจ้านายผู้หญิงที่ถูกฝ่ายญวนจับกุม เพราะทรงลักลอบส่งหนังสือไปหานักองค์ด้วง เนื้อหาระบุว่าให้ขุนนางเขมรไปรับ จะเสด็จหนีออกไปอยู่ด้วย เมื่อองเตียนกุนทราบก็ตั้งกองกำลังเข้มแข็งขึ้น ต่อมาแรม 6 ค่ำ เดือน 11 (ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2384) เจ้าเมืองไซ่ง่อนส่งสมเด็จพระศรีไชยเชษฐหรือนักองค์อิ่มขึ้นมายังพนมเปญ องเตียนกุนจึงปลูกเรือนหลังหนึ่งให้นักองค์อิ่มไปอาศัยรวมกับเจ้านายผู้หญิงซึ่งรวมไปถึงพระองค์เม็ญด้วย เรียกว่าสำนักตาแก้ว และให้นักองค์อิ่มเกลี้ยกล่อมขุนนางเขมรให้เข้าฝ่ายญวน แต่ไม่สำเร็จ ในเวลาต่อมาพระเจ้ากรุงญวนทรงเห็นว่าไม่มีขุนนางเขมรนิยมชมชอบพระองค์เม็ญ จึงส่งพระองค์เม็ญและเจ้านายอื่น ๆ ไปเมืองเมียดจรูก หรือเอกสารไทยเรียกโจฎก เมื่อแรม 11 ค่ำ เดือน 12 (ตรงกับวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2384) ช่วงปีนั้นสมเด็จพระศรีไชยเชษฐหรือนักองค์อิ่ม ได้นักองค์เภาเป็นชายา ส่วนนักองค์พิมพ์ พระโอรสของสมเด็จพระศรีไชยเชษฐ ได้นักองค์สงวนเป็นชายา ครั้น พ.ศ. 2387 สมเด็จพระศรีไชยเชษฐถึงทิวงคตที่เมืองเมียดจรูก
ภายหลังทัพญวนมิอาจต้านทานกองทัพประสมสยามกับเขมรนำโดยเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) หลังทำสงครามกันมายาวนาน จึงขอหย่าศึกที่ตำบลโพธิ์สามต้นใน พ.ศ. 2389 และทยอยปล่อยเจ้านายเขมรคืนกัมพูชา แรม 8 ค่ำ เดือน 11 (ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2389) ฝ่ายญวนส่งนักนางรศ หม่อมกลีบ และพระธิดาองค์หนึ่งของนักองค์ด้วงคืนกรุงพนมเปญ แต่ยังไม่ส่งพระองค์เม็ญและเจ้านายผู้หญิงให้ โดยฝ่ายญวนแจ้งว่า หากต้องการ ให้ส่งพระราชสาสน์แต่งบรรณาการไปทูลขอเจ้าเวียดนามก็จะโปรดให้
ต่อมาแรม 3 ค่ำ เดือน 6 (ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2390) ขุนนางญวนแต่งตั้งนักองค์ด้วงขึ้นเป็น เตามันกวักเอือง หรือเตาบางกวิกเกวิง (Cao Miên Quốc vương, 高棉國王 กาวเมียนโกว๊กเวือง) แปลว่า "เจ้าเขมรอยู่คนหนึ่ง" รับตราตั้งสององค์พร้อมฉลองพระองค์แบบญวน และฝ่ายญวนอ้างว่าจะคืนดินแดนเขมรที่ญวนยึดครองอยู่ให้ไปด้วย หลังจากนั้นขึ้น 6 ค่ำ เดือน 7 (ตรงกับวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2390) องต๋าเตืองกุน ขุนนางญวนก็นำนักองค์เม็ญ นักองค์เภา และนักองค์สงวน คืนแก่นักองค์ด้วง ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 7 (ตรงกับวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2390) แม่ทัพนายกองญวนในพนมเปญก็เลิกทัพไปหมด ส่วนหนึ่งก็เพราะญวนเผชิญกับการกบฏบริเวณตังเกี๋ย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ครั้นขึ้น 14 ค่ำ เดือน 2 (ตรงกับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2391) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาเพ็ชรพิไชย (เสือ) กับเจ้าพนักงานทุกตำแหน่ง คุมเครื่องประกอบพระอิสริยยศ สุพรรณบัตรจารึกพระนามออกไปเมืองเขมร อภิเษกนักองค์ด้วงพร้อมด้วยเจ้าพระยาบดินทรเดชาเมื่อขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4 (ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2391) เป็นเจ้าแผ่นดินกัมพูชา พระนามว่า องค์พระหริรักษ์เจ้ากรุงกัมพูชา
ปลายพระชนม์และสวรรคต
ครั้นสิ้นรัชสมัยของพระองค์เม็ญ พระองค์ต้องอยู่กับมลทินมัวหมองมาตลอดสองทศวรรษหลัง เมื่อสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดีสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารก็เสวยราชสมบัติต่อ และย้ายราชธานีไปยังกรุงพนมเปญ ทิ้งให้พระองค์เม็ญประทับอยู่ในพระราชวังอุดงฦๅไชยกับข้าราชบริพารเก่าแก่ บางแหล่งข้อมูลระบุว่าพระองค์เม็ญคุ้มดีคุ้มร้ายเมื่อไม่ได้สิทธิในสินค้าอย่างที่ราชินีควรจะได้ เหล่าข้าราชบริพารจึงเข้ามายุ่งย่ามปิดปากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าเสีย
พระองค์เม็ญมีพระราชบุตรสองพระองค์ ที่ประสูติกับบุรุษไม่ทราบนาม พระองค์เม็ญและพระสวามีประสบอุบัติเหตุ เสวยทิวงคตหลังเดือนธันวาคม พ.ศ. 2417 พระบรมศพได้รับการพระราชทานเพลิงที่กรุงพนมเปญในปี พ.ศ. 2427[]
พระราชินีนาถผู้มัวหมอง
ใน และเอกสารอื่น ๆ มักเสนอด้านลบของพระองค์เม็ญ เป็นต้นว่า สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี หรือนักองค์ด้วง ต้องให้ความสำคัญกับพระองค์เม็ญและฝ่ายญวนเพื่อนำเจ้านายผู้หญิงคืนแผ่นดินเขมร รวมทั้งติเตียนการปกครองของพระองค์เม็ญที่ทำให้สูญเสียสัญญาทาส และระบุอีกว่าราชสำนักเขมรยอมให้พระองค์เม็ญเสวยราชสมบัติ ก็เพื่อรอให้นักองค์อิ่มหรือนักองค์ด้วงมาครองราชย์ในภายหลัง รวมทั้งข่าวลือว่าพระองค์เม็ญเป็นอนุภริยาของ หรือเอกสารไทยเรียก องเตียนกุน ชาวญวนผู้เข้ามาปกครองพนมเปญ แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใด ๆ ยืนยันเรื่องราวดังกล่าว และมีการกล่าวถึงพระองค์เม็ญว่า "หญิงงามผู้มิได้ขายเรือนร่าง หากแต่ขายชาติแก่พวกญวน"
ในช่วงวิกฤตการณ์การสืบราชสันตติวงศ์กัมพูชา พระองค์เม็ญพยายามหาทางออกอย่างสันติ ทรงลักลอบติดต่อกับนักองค์ด้วง ด้วยทรงปรารถนาว่าพระราชวงศ์เขมรจะกลับมาพร้อมหน้าด้วยกันอย่างสันติสุข ส่วนเอกสารของฝ่ายเวียดนามระบุว่า ในวันเสวยราชสมบัติพระองค์เม็ญเป็นพระยุวราชนารีผู้ชาญฉลาด แต่จากการที่พระองค์ถูกญวนคุมเป็นองค์ประกันไปไซ่ง่อนและเว้ รวมทั้งการปลงพระชนม์นักองค์แบน พระเชษฐภคินี ทำให้พระองค์เม็ญแสดงพฤติกรรมเปลี่ยนไป พระองค์ไม่เป็นมิตรกับผู้อื่น และในช่วงท้ายของรัชกาล มีรายงานว่าพระองค์มีพระสัญญาวิปลาส
พระองค์เม็ญตกเป็นแพะรับบาปของประวัติศาสตร์กัมพูชา เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในรัชสมัยของพระองค์เม็ญ ซึ่งครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี หรือนักองค์จัน พระมหากษัตริย์และพระชนกผู้มีนโยบายโอนอ่อนต่อราชสำนักเว้ และพิธีราชาภิเษกของพระองค์เม็ญก็ถูกจัดโดยขุนนางญวน เอกราชและวัฒนธรรมของกัมพูชาแทบสูญสลายไปภายใต้การปกครองของเวียดนาม
พงศาวลี
พงศาวลีของพระองค์เม็ญ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 242
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 212
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 114
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 166
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 239
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 98
- បញ្ជីព្រះនាមព្រះមហាក្សត្រខ្មែរពីសតវត្សទី១ ដល់បច្ចុប្បន្ន
- Female Heads of State of Cambodia
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 233
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 251
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 192
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 239
- เขมร "ถกสยาม", หน้า 100
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 221
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 214-215
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 222
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4, หน้า 184
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 113-114
- เขมร "ถกสยาม", หน้า 99
- Sexual Culture in the east Asia pp, 127–155
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 238
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 214-215
- ยุทธมรรคา เส้นทางเดินทัพไทย-เขมร, หน้า 40-41
- ศิลปะเขมร, หน้า 21
- Gender in election, p. 7
- A Comparation analysis of traditional and contemporary of female house hold p 48 by Andrey Riffaund
- Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history by Trudy Jacobsen, p. 112
- ยุทธมรรคา เส้นทางเดินทัพไทย-เขมร, หน้า 42
- Fieldnote, 2005, 2006
- Violent against woman in Asian society 2003, p. 107
- David P. Chandler, A History of Cambodia,pp. 124 - 127
- Cambodian people by Sipar, p. 29
- Phnom Penh: a cultural and literary history By Milton Osborne, p. 51
- ชุด "อาเซียน" ในมิติประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์กัมพูชา, หน้า 17
- . www.Chiangmai-Chiangrai.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 August 2017. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.
- "Siam, Cambodia, and Laos 1800-1950 by Sanderson Beck". www.san.Beck.org. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 240
- Trudy Jacobsen, Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history, p. 113
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 241
- Chandler 2008, pp. 159.
- Chandler 2008, pp. 161.
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 244
- Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen, p.114
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 245
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 249-250
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 242
- ยุทธมรรคา เส้นทางเดินทัพไทย-เขมร, หน้า 43
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 296
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4, หน้า 185
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 305-306
- ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 258
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3, หน้า 307
- River Road to China: The Search for the Source of the Mekong, 1866-73 By Milton Osborne p.26
- WOMEN IN POWER 1800-1840
- Khmer woman on the move, p.113
- River Road to China: The Search for the Source of the Mekong, 1866-73 By Milton Osborne p.25
- Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen p. 117
- "Andy's Cambodia: www.andybrouwer.co.uk: Jacobsen rewrites history". www.AndyBrouwer.co.uk. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.
- Phnom Penh Post, 20 December 2002 – 2 January 2003, p 14
- Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen p.116
- บรรณานุกรม
- ทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3. กรุงเทพฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006), 2560. 360 หน้า. ISBN
- ทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4. กรุงเทพฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006), 2563. 500 หน้า. ISBN
- ธิบดี บัวคำศรี. ชุด "อาเซียน" ในมิติประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์กัมพูชา. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2555. 188 หน้า. ISBN
- เรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนรัชต์), พันตรี หลวง. ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา. กรุงเทพฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006), 2563. 336 หน้า. ISBN
- รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง และศานติ ภักดีคำ. ศิลปะเขมร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 232 หน้า. ISBN
- ศานติ ภักดีคำ. เขมร "ถกสยาม". กรุงเทพฯ : มติชน, 2553. 208 หน้า. ISBN
- ศานติ ภักดีคำ. เขมรสมัยหลังพระนคร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2556. 224 หน้า. ISBN
- ศานติ ภักดีคำ. ยุทธมรรคา เส้นทางเดินทัพไทย-เขมร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 288 หน้า. ISBN
- Chandler, David P. (2008). A history of Cambodia (4th ed.). Westview Press. ISBN .
ก่อนหน้า | พระองค์เม็ญ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี | พระมหากษัตริย์กัมพูชา (พ.ศ. 2377–2383) | สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraxngkhemy hrux mi phraxngkhecami hrux nkxngkhemy ekhmr អង គម ph s 2358 thnwakhm ph s 2417 epnphramhakstriyaehngxanackrekhmrxudng epnphrarachthidainsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi hruxnkxngkhcn thngniphraxngkhemyepnhnunginphupkkhrxngthiepnstriimkikhninprawtisastrkmphucha phraxngkhemythrngepnthiruckinnam ba kng cw phranangecahying hruxphngsawdarkmphuchaxxkphranamwa bakunphu miphranamepnphasaewiydnamwa ecahyinghngxk ewin Cong chua Ngọc Van 玉雲 aelaphayhlngmitaaehnngepn ecahyinghmi elim Quận chua Mỹ Lam 美林 phraxngkhemysmedcphrarachininathaehngkmphucha khrxngrachyph s 2378 2384 aela ph s 2387 2388 6 pi kxnhnasmedcphraxuithyrachathirachramathibdithdipsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdiphrarachsmphphph s 2358swrrkhtthnwakhm ph s 2417 raw 59 phrrsa xudngliichy xanackrekhmrrachwngstrxsxkphaexmphrarachbidasmedcphraxuithyrachathirachramathibdiphrarachmardanknangkracb hlngsmedcphraxuithyrachathirachramathibdieswythiwngkhtinchwngsngkhramxanamsyamyuthth phraecakrungywncungkhunnangcdphrarachphithixphieskihphraxngkhemyeswyrachyaethnphrarachbidakhnaphrachnmayu 20 phrrsa ephraainchwngewlannecanayekhmrthiepnchayekhaipphungphrabrmophthismpharphraecakrungsyam khngehluxaetecanayekhmrphuhying fayywncungkwadecanayekhmripemuxngywn hwngihepnpraethsrach phraxngkhemythukaetngtngepnphraecakrungkmphuchaaelapldxxksxngkhrng phraxngkhaelaphraphkhinithuknaipiwthiemuxngisngxnaelaew tamladb ephuxihkmphuchasinecanaypkkhrxng txmarachsankewksngphraxngkhklbphnmepyhwngihchawekhmrkhlaykhwamecbaekhn emuxphraecakrungywnthrngehnwaimmikhunnangekhmrniymchmchxbphraxngkhemy cungsngphraxngkhemyipemuxngemiydcruk phayhlngthphywnmixactanthankxngthphprasmsyamkbekhmr cungkhxhyasuk yxmplxyphrarachwngsekhmrthithuknaipkhwbkhumiwthiewihepnxisratngaet ph s 2388 epntnmaphrarachprawtiphrachnmchiphchwngtn phraxngkhemyprasutiemuxwnsukr khun 6 kha eduxnyi pikun sptsk 1177 ph s 2358 epnphrarachthidainsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi hruxnkxngkhcn prasutiaetnknangkracb bathbricarikachnphraaemnang phrarachchnkoprdihcdphrarachphithieksaknt aelwthwayphranamihwaphraxngkhecami exksarithyeriyk emy miphraxnucharwmphrachnkchnniaetimpraktphranamphraxngkhhnung prasutiemux ph s 2363 aetsinphrachnmdwyorkhfidasemuxchnsaephiyng 7 pi aelamiphraphkhinirwmphrachnkidaek nkxngkhaebn bangxxknamwa aepn hruxaemn prasutiaetnkethph nkxngkhepha prasutiaetnknangys aelankxngkhsngwn prasutiaetnknangaepn nxngsawnknangkracb phngekhruxyatikhxngphraxngkhemynkxngkhtnnkxngkhexngnkxngkhcnnkxngkhdwngnkxngkhaebnnkxngkhemynkxngkhephankxngkhsngwnnkxngkhrachawdinkxngkhsriswsdinkxngkhwttha thwahlngsmedcphraxuithyrachathirachramathibdiphuminoybayniymywn esdcthiwngkhtemux ph s 2377 rachsankkmphuchakhadphusubrachsnttiwngs ephraaphraecaxyuhwinphrabrmoksmiphrarachthidaxyusiphraxngkh khux nkxngkhaebn nkxngkhmi nkxngkhepha aelankxngkhsngwn smkhwammunghmaykhxngthngsyamaelaywnthitxngkarihwngskstriykmphuchasuyip inewlannphraxnuchainsmedcphraxuithyrachathirachramathibdisxngphraxngkh khux smedcsriichyechth phramhaxuprach hruxnkxngkhxim aelasmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi hruxnkxngkhdwng sungprathbxyuinsyamxangsiththiinrachbllngkthnthi aetfayywnthipkkhrxngekhmrxyunnimyxmrbihthngsxngsubrachbllngk odyechphaasmedcphrasriichyechsth hruxnkxngkhxim thiinphayhlngthrnghlngklaelathukywnkhumtwipiwemuxngywn ephraahwngwafayywncaykphraxngkhkhunepnphraecaaephndinekhmr ebuxngtnfayphraecakrungywnthikhidcaexadinaednekhmrmaiwinpkkhrxng catngihecanayphuhyingkhuxnkxngkhaebnesksmrskbphrarachoxrsphraecakrungywn swnphrarachthidainsmedcphraxuithyrachathirachramathibdithngsamphraxngkhihkhrxngrachyrwmkn thwainewlatxmarachsankewaelakhunnangekhmr hmaycaihnkxngkhaebn phrarachthidainsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi khuneswyrachysubbida aetephraaecahyingphraxngkhniniymsyam aelayngepnhlansawkhxngecaphrayaxphyphuebsr aebn khunnangekhmrthifkifsyam cungmiidthukeluxk inkhnathinkxngkhemyidrbkaronmnawcakkhunnangywnihesksmrskbphrarachoxrskhxngckrphrrdisa lxng exksarithyeriyk yalxng hruxxngechiyngsux aetaephnkarnithukkhunnangekhmrkhdkhanxyanghnk odyihehtuphlwamiwthnthrrmtangkn aelaimehmaakhwrthicaihecanayphuhyingpkkhrxngpraethsyawnan hunechid phvsphakhm ph s 2378 rachsankewsthapnankxngkhemy hruxhngxk ewin Ngọc Van 玉雲 epn ecahyingemuxngkhun Quận chua 郡主 aelamithanndrskditakwaecahyingphrarachthidakrungywn Cong chua 公主 swnphraphkhiniphraxngkhxun khux nkxngkhaebn hruxhngxk ebiyn Ngọc Biện 玉卞 nkxngkhepha hruxhngxk thu Ngọc Thu 玉秋 aelankxngkhsngwn hruxhngxk engwiyn Ngọc Nguyen 玉源 mibrrdaskdiepn thanhyinghwemuxngnxy Huyện quan 縣君 fayywnthakarxarkkhaphraxngkhemyxyangiklchid mithharrksaphraxngkhsxngkxngrxy rwm 100 nay swnphraphkhinixiksamphraxngkh mithharxarkkhaphraxngkhla 30 nay thngnikephuxpxngknmiihecanayekhmrkhidhlbhniipphungsyam inrchsmykhxngphraxngkhemy miphrarachbychaihstriekhmrthukkhnswmchudywnaethnkarnungphasmpk aelaiwphmyawtamxyanghyingywn intladmikarwangcahnayxaharywn elikepibkhawdwymux natkrrmekhmrerimrbxiththiphlcinaelaywn kharachkarekhmrtxngswmchudywn aelawdphuththkhxngchawekhmrthukaeplngepnwdaebbywnephuxthalayxtlksnekhmr sthanthitang thukepliynepnphasaywn briewnodyrxbkrungphnmepythukeriykwa Trấn Tay Thanh 鎮西城 hruxekhtbriharfngtawntk aelaywneriykkarkrathaniwaepn pharkicaehngkhwamsiwiils dwymxngwatnexngnnmi xarya makkwaekhmr chawekhmrphayitkarpkkhrxngkhxngecanayphuhying sinhwngkbnoybaykaraephlngihepnewiydnam Vietnamization cungeriykrxngihfaysyamaetngtngnkxngkhdwng phraxnuchakhxngsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi eswyrachyaethn ph s 2383 nkxngkhaebn phraechsthphkhinikhxngphraxngkhemy thukthangkarywncbidwathrngwangaephnhlbhniipsyam cakkarlblxbtidtxkbnkethph phrachnni aelaphraxngkhaekw phuepnlung thiphldipemuxngphratabxngsungxyuinekhtxiththiphlkhxngsyam ckrphrrdimiy hmng cungmiphrabrmrachoxngkarihcbecanayekhmripkhumkhngthiphnmepyephuxphicarnakhdi txmamiphrarachoxngkarpldphraxngkhemyineduxnsinghakhm ph s 2384 kxnenrethsecahyingekhmrphrxmekhruxngrachkkuthphnthipisngxn brrdakhunnangaelakharachkarekhmrmxngwakarthiywnthaechnni esmuxnkarlangbangecaekhmrihsuywngs xanapracharasdrtangphaknokrthaekhnaelaecbpwdkbnoybaykhxngywn khunnangywnsngecahyingekhmrthngsiphraxngkhiwthiemuxng Long Hồ 龍湖 exksarekhmreriykemuxnglngoh swnexksarithyeriykemuxnglxngoh esuxng wn fxng Dương Văn Phong exksarekhmreriyk kungdk ecaemuxnglxngoh nasngecahyingekhmrsamphraxngkhkhux nkxngkhmi nkxngkhepha aelankxngkhsngwnih Trương Minh Giảng 張明講 hruxexksarithyeriyk xngetiynkun aemthphywnthipkkhrxngekhmr sngtxipyngemuxngisngxn aetkumnkxngkhaebniw ephraaphrachnnikhxngphraxngkhhniipphungsyaminkrungethph fayywnmxngwakarkrathaechnniepnkarthrys esuxng wn fxngcungnankxngkhaebnphuaeprphktripsaercothsthiemuxnglxngoh emuxphrachnsa 32 pi exksarekhmrrabuwankxngkhaebnsinphrachnmcakthukcbisthungthwngnathiaemnaokhng swnexksarkhxngkhin sk Khin Sok rabuwankxngkhaebnthukthrmancnsinphrachnm thharywncungnaphrasphipthingna inewlatxma phraxngkhemy phrakhnistha aelasmedcsriichyechsth thuknaipiwthiemuxngew emuxirphraecaaephndin khunnangekhmrkerimtngystwexng rwbrwmsmkhrphrrkhphwksngharkhunnangywninekhmr aelaaesdngtnkradangkraeduxngimxxnnxmtxphraecakrungywn chwngewlannsyamcungkhyayxiththiphlekhakmphucha aelaphyayamaetngtngnkxngkhdwngeswyrachy kxihekidxanmsyamyuththkhun khunnangywninphnmepykrabbngkhmthulihphraxngkhemyniwtkrungkmphuchadwyhwngcakhlaypyhakbtlng aetckrphrrdimiy hmngthrngptiesth sxdkhlxngkbhnngsuxkhxngsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdithungckrphrrdinopeliynthi 3 odythrngelakhwamhlngekiywkbehtukarndngklawiwwa khrnphitutay tu smedcphrahrirksrammhaxisrathibdi yngxyuaetbutrhying ecaminmangthaothsihexabutrphitukbmardatubutrtuipkkkhngiwthiemuxngisngxn ihkhabutrhyingphituesiykhn 1 ihkhunnangphuihyinemuxngekhmraelarasdraeykknipxyuekaabang ipxyuemuxngtngekiyiklemuxngcinbang rasdrekhmrruthngsinwaecaemuxngywnicraykkaeribkhaywntayepnxnmak ipkhxtuaekkrungethphmhankhrmaepneca emuxthnaerngkddnimihw thangrachsankywncungsngphraxngkhemy phrakhnistha phrachnni aelaphraxngkhximphrapitulakhunkrungphnmepyemuxkhun 7 kha eduxn 6 trngkbwnthi 27 emsayn ph s 2384 ody plukeruxnthwayhnunghlng aelwthwaytralyckrkhxngsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi phrxmphrakhrrkhpracaaephndinaekphraxngkhemy oxkasnnphraxngkhemythrngaetngtngkhunnangtaaehnngtang aelwthahnngsuxipyngkhunnangekhmrnywaihkhunnangaelakharachkarthnghlaysnbsnunphraxngkh aetkimmiphuidswamiphkdi inewlaediywknkbnkxngkhdwngthiepnphrapitulaxikphraxngkhhnung idrbesiyngsnbsnuncakrachsankkrungxudngliichy txmaphraxngkhemyaelaecanayphuhyingthithukfayywncbkum ephraathrnglklxbsnghnngsuxiphankxngkhdwng enuxharabuwaihkhunnangekhmriprb caesdchnixxkipxyudwy emuxxngetiynkunthrabktngkxngkalngekhmaekhngkhun txmaaerm 6 kha eduxn 11 trngkbwnthi 6 tulakhm ph s 2384 ecaemuxngisngxnsngsmedcphrasriichyechsthhruxnkxngkhximkhunmayngphnmepy xngetiynkuncungplukeruxnhlnghnungihnkxngkhximipxasyrwmkbecanayphuhyingsungrwmipthungphraxngkhemydwy eriykwasanktaaekw aelaihnkxngkhximekliyklxmkhunnangekhmrihekhafayywn aetimsaerc inewlatxmaphraecakrungywnthrngehnwaimmikhunnangekhmrniymchmchxbphraxngkhemy cungsngphraxngkhemyaelaecanayxun ipemuxngemiydcruk hruxexksarithyeriykocdk emuxaerm 11 kha eduxn 12 trngkbwnthi 9 phvscikayn ph s 2384 chwngpinnsmedcphrasriichyechsthhruxnkxngkhxim idnkxngkhephaepnchaya swnnkxngkhphimph phraoxrskhxngsmedcphrasriichyechsth idnkxngkhsngwnepnchaya khrn ph s 2387 smedcphrasriichyechsththungthiwngkhtthiemuxngemiydcruk phayhlngthphywnmixactanthankxngthphprasmsyamkbekhmrnaodyecaphrayabdinthredcha singh singhesni hlngthasngkhramknmayawnan cungkhxhyasukthitablophthisamtnin ph s 2389 aelathyxyplxyecanayekhmrkhunkmphucha aerm 8 kha eduxn 11 trngkbwnthi 13 tulakhm ph s 2389 fayywnsngnknangrs hmxmklib aelaphrathidaxngkhhnungkhxngnkxngkhdwngkhunkrungphnmepy aetyngimsngphraxngkhemyaelaecanayphuhyingih odyfayywnaecngwa haktxngkar ihsngphrarachsasnaetngbrrnakaripthulkhxecaewiydnamkcaoprdih txmaaerm 3 kha eduxn 6 trngkbwnthi 2 phvsphakhm ph s 2390 khunnangywnaetngtngnkxngkhdwngkhunepn etamnkwkexuxng hruxetabangkwikekwing Cao Mien Quốc vương 高棉國王 kawemiynokwkewuxng aeplwa ecaekhmrxyukhnhnung rbtratngsxngxngkhphrxmchlxngphraxngkhaebbywn aelafayywnxangwacakhundinaednekhmrthiywnyudkhrxngxyuihipdwy hlngcaknnkhun 6 kha eduxn 7 trngkbwnthi 20 phvsphakhm ph s 2390 xngtaetuxngkun khunnangywnknankxngkhemy nkxngkhepha aelankxngkhsngwn khunaeknkxngkhdwng khun 11 kha eduxn 7 trngkbwnthi 25 phvsphakhm ph s 2390 aemthphnaykxngywninphnmepykelikthphiphmd swnhnungkephraaywnephchiykbkarkbtbriewntngekiy sungxyuthangtxnehnuxkhxngpraeths khrnkhun 14 kha eduxn 2 trngkbwnthi 19 mkrakhm ph s 2391 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwoprdeklaoprdkrahmxmihphrayaephchrphiichy esux kbecaphnknganthuktaaehnng khumekhruxngprakxbphraxisriyys suphrrnbtrcarukphranamxxkipemuxngekhmr xphiesknkxngkhdwngphrxmdwyecaphrayabdinthredchaemuxkhun 4 kha eduxn 4 trngkbwnthi 8 minakhm ph s 2391 epnecaaephndinkmphucha phranamwa xngkhphrahrirksecakrungkmphucha playphrachnmaelaswrrkht khrnsinrchsmykhxngphraxngkhemy phraxngkhtxngxyukbmlthinmwhmxngmatlxdsxngthswrrshlng emuxsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdiswrrkht phrabathsmedcphranordm brmramethwawtarkeswyrachsmbtitx aelayayrachthaniipyngkrungphnmepy thingihphraxngkhemyprathbxyuinphrarachwngxudngliichykbkharachbripharekaaek bangaehlngkhxmulrabuwaphraxngkhemykhumdikhumrayemuximidsiththiinsinkhaxyangthirachinikhwrcaid ehlakharachbripharcungekhamayungyampidpakehlaphxkhaaemkhaesiy phraxngkhemymiphrarachbutrsxngphraxngkh thiprasutikbburusimthrabnam phraxngkhemyaelaphraswamiprasbxubtiehtu eswythiwngkhthlngeduxnthnwakhm ph s 2417 phrabrmsphidrbkarphrarachthanephlingthikrungphnmepyinpi ph s 2427 txngkarxangxing phrarachininathphumwhmxngin aelaexksarxun mkesnxdanlbkhxngphraxngkhemy epntnwa smedcphrahrirksrammhaxisrathibdi hruxnkxngkhdwng txngihkhwamsakhykbphraxngkhemyaelafayywnephuxnaecanayphuhyingkhunaephndinekhmr rwmthngtietiynkarpkkhrxngkhxngphraxngkhemythithaihsuyesiysyyathas aelarabuxikwarachsankekhmryxmihphraxngkhemyeswyrachsmbti kephuxrxihnkxngkhximhruxnkxngkhdwngmakhrxngrachyinphayhlng rwmthngkhawluxwaphraxngkhemyepnxnuphriyakhxng hruxexksarithyeriyk xngetiynkun chawywnphuekhamapkkhrxngphnmepy aetkimmihlkthanthangprawtisastrid yunyneruxngrawdngklaw aelamikarklawthungphraxngkhemywa hyingngamphumiidkhayeruxnrang hakaetkhaychatiaekphwkywn inchwngwikvtkarnkarsubrachsnttiwngskmphucha phraxngkhemyphyayamhathangxxkxyangsnti thrnglklxbtidtxkbnkxngkhdwng dwythrngprarthnawaphrarachwngsekhmrcaklbmaphrxmhnadwyknxyangsntisukh swnexksarkhxngfayewiydnamrabuwa inwneswyrachsmbtiphraxngkhemyepnphrayuwrachnariphuchaychlad aetcakkarthiphraxngkhthukywnkhumepnxngkhpraknipisngxnaelaew rwmthngkarplngphrachnmnkxngkhaebn phraechsthphkhini thaihphraxngkhemyaesdngphvtikrrmepliynip phraxngkhimepnmitrkbphuxun aelainchwngthaykhxngrchkal miraynganwaphraxngkhmiphrasyyawiplas phraxngkhemytkepnaepharbbapkhxngprawtisastrkmphucha ephraaptiesthimidelywainrchsmykhxngphraxngkhemy sungkhrxngrachytxcaksmedcphraxuithyrachathirachramathibdi hruxnkxngkhcn phramhakstriyaelaphrachnkphuminoybayoxnxxntxrachsankew aelaphithirachaphieskkhxngphraxngkhemykthukcdodykhunnangywn exkrachaelawthnthrrmkhxngkmphuchaaethbsuyslayipphayitkarpkkhrxngkhxngewiydnamphngsawliphngsawlikhxngphraxngkhemy 16 smedcphraxuithyracha osr 8 phranaraynracharamathibdi 17 smedcphramhakrastri epha 4 smedcphranaraynramathibdisrisurioyphrrn 9 nknangichy 2 smedcphraxuithyrachathirachramathibdi 5 nknangoxd 11 yaymk 1 phraxngkhemy 3 nknangkracb xangxingechingxrrthrachphngsawdarkrungkmphucha hna 242 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 212 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 114 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 166 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 239 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 98 បញ ជ ព រ ន ម ព រ មហ ក សត រ ខ ម រ ព សតវត ស ទ ១ ដល បច ច ប បន ន Female Heads of State of Cambodia rachphngsawdarkrungkmphucha hna 233 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 251 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 192 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 239 ekhmr thksyam hna 100 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 221 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 214 215 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 222 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 4 hna 184 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 113 114 ekhmr thksyam hna 99 Sexual Culture in the east Asia pp 127 155 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 238 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 214 215 yuththmrrkha esnthangedinthphithy ekhmr hna 40 41 silpaekhmr hna 21 Gender in election p 7 A Comparation analysis of traditional and contemporary of female house hold p 48 by Andrey Riffaund Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history by Trudy Jacobsen p 112 yuththmrrkha esnthangedinthphithy ekhmr hna 42 Fieldnote 2005 2006 Violent against woman in Asian society 2003 p 107 David P Chandler A History of Cambodia pp 124 127 Cambodian people by Sipar p 29 Phnom Penh a cultural and literary history By Milton Osborne p 51 chud xaesiyn inmitiprawtisastr prawtisastrkmphucha hna 17 www Chiangmai Chiangrai com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 August 2017 subkhnemux 6 August 2017 Siam Cambodia and Laos 1800 1950 by Sanderson Beck www san Beck org subkhnemux 6 August 2017 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 240 Trudy Jacobsen Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history p 113 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 241 Chandler 2008 pp 159 Chandler 2008 pp 161 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 244 Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen p 114 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 245 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 249 250 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 242 yuththmrrkha esnthangedinthphithy ekhmr hna 43 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 296 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 4 hna 185 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 305 306 rachphngsawdarkrungkmphucha hna 258 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 hna 307 River Road to China The Search for the Source of the Mekong 1866 73 By Milton Osborne p 26 WOMEN IN POWER 1800 1840 Khmer woman on the move p 113 River Road to China The Search for the Source of the Mekong 1866 73 By Milton Osborne p 25 Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen p 117 Andy s Cambodia www andybrouwer co uk Jacobsen rewrites history www AndyBrouwer co uk subkhnemux 6 August 2017 Phnom Penh Post 20 December 2002 2 January 2003 p 14 Lost goddesses the denial of female power in Cambodian history By Trudy Jacobsen p 116 brrnanukrmthiphakrwngsmhaoksathibdi kha bunnakh ecaphraya phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 3 krungethph ithykhwxlitibukhs 2006 2560 360 hna ISBN 978 616 514 575 6 thiphakrwngsmhaoksathibdi kha bunnakh ecaphraya phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 4 krungethph ithykhwxlitibukhs 2006 2563 500 hna ISBN 978 616 514 661 6 thibdi bwkhasri chud xaesiyn inmitiprawtisastr prawtisastrkmphucha krungethph emuxngobran 2555 188 hna ISBN 978 974 7727 58 6 eruxngedchxnnt thxngdi thnrcht phntri hlwng rachphngsawdarkrungkmphucha krungethph ithykhwxlitibukhs 2006 2563 336 hna ISBN 978 616 514 668 5 rungorcn thrrmrungeruxng aelasanti phkdikha silpaekhmr krungethph mtichn 2557 232 hna ISBN 978 974 02 1324 6 santi phkdikha ekhmr thksyam krungethph mtichn 2553 208 hna ISBN 978 974 02 0418 3 santi phkdikha ekhmrsmyhlngphrankhr krungethph mtichn 2556 224 hna ISBN 978 974 02 1147 1 santi phkdikha yuththmrrkha esnthangedinthphithy ekhmr krungethph mtichn 2557 288 hna ISBN 978 974 02 1342 0 Chandler David P 2008 A history of Cambodia 4th ed Westview Press ISBN 0813343631 kxnhna phraxngkhemy thdipsmedcphraxuithyrachathirachramathibdi phramhakstriykmphucha ph s 2377 2383 smedcphrahrirksrammhaxisrathibdi