บทความนี้ไม่มีจาก |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 เป็นพระมหากษัตริย์กัมพูชา พระองค์ประสูติในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2062 และครองราชย์สมบัติในสมัยที่เมืองละแวกเป็นราชธานี ระหว่าง พ.ศ. 2108 – 2119 ในรัชสมัยของพระองค์นั้น ได้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาสองครั้ง ซึ่งมีบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ และราชพงษาวดารกัมพูชา โดยในเอกสารไทยเรียกพระองค์ว่า พระยาละแวก แต่เป็นคนละพระองค์กับพระยาละแวกที่กล่าวถึงในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งคือพระบรมราชาที่ 4 ซึ่งเป็นพระโอรสของพระองค์
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์กัมพูชา | |||||||||
ครองราชย์ | พ.ศ. 2108-2119 | ||||||||
ราชาภิเษก | พ.ศ. 2109 | ||||||||
รัชกาลก่อนหน้า | พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทน์) | ||||||||
รัชกาลถัดไป | สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) | ||||||||
ประสูติ | พ.ศ. 2062 | ||||||||
สวรรคต | พ.ศ. 2119 (57 พรรษา) | ||||||||
พระอัครมเหสี | สมเด็จพระภัควดีศรีรัตนราชเทวี | ||||||||
พระราชบุตร | สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) พระบรมราชาที่ 6 พระบรมราชาที่ 7 พระบาทองค์ทองราชา (พญานน) | ||||||||
| |||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์วรมัน | ||||||||
พระราชบิดา | พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทน์) | ||||||||
พระมารดา | พระแม่นางปทุมบุปผา |
ครั้งแรกนั้น สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ทรงยกทัพมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2113 ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา โดยยกทัพเข้ามาถึงกรุงศรีอยุธยา ตั้งทัพอยู่ที่บ้านสามพิหาร (ในพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์) หรือบ้านกะทุ่ม (ในพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์) ในการศึกครั้งนี้ ฝ่ายสยามใช้ปืนใหญ่ยิงพระจำปาธิราช กองหน้าฝ่ายเขมรถึงแก่อนิจกรรมบนคอช้าง สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ให้ยกทัพเข้าปล้นเมือง 3 ครั้งก็ไม่สำเร็จ จึงเลิกทัพกลับไป โดยเจ้าเมืองจันทบุรี ระยอง นาเรือง และฉะเชิงเทรา นายกองทัพฝ่ายสยามเสียชีวิตในศึกครั้งนี้
ต่อมา ใน พ.ศ. 2118 ในพงศาวดารฉบับกรมราชบัณฑิต สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ได้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง โดยยกทัพมาทางเรือ ผ่านทางปากน้ำพระประแดง นนทบุรี แต่เข้าปล้นกรุงศรีอยุธยาไม่สำเร็จ ได้แต่กวาดต้อนเชลยกลับไป พร้อมกับนำพระรูปเทพารักษ์ สำริด ที่พบในลำน้ำที่เมืองพระประแดงไปด้วย 2 องค์ ในยุคพระมหาธรรมราชา เมื่อไทยกลับมามีอำนาจหลังยุคบุเรงนอง หลังจากนั้น เมืองละแวก กัมพูชา กับกรุงศรีอยุธยา สยาม กลับมามีไมตรีกัน
พระมหากษัตริย์ กัมพูชา พระองค์ต่อไป ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระองค์ก่อน และไทยก็ใช้นามเดิมเรียกว่า พระยาละแวก เคยส่งพระอนุชามาช่วยการศึกกับพม่า แต่มีเรื่องบางอย่าง ขัดพระทัยกันในภายหลัง ทำให้กัมพูชามีการปล้นเมืองชายแดน กวาดต้อนหัวเมืองสยามอีก และเมื่อพระนเรศวรขึ้นครองราชย์ ทรงตั้งพระทัยว่าจะจัดทัพ ไปตีเมืองละแวก แต่ติดศึกด้านอื่น หลังสงครามยุทธหัตถึ เสร็จศึกกับหงศาวดี และยึดได้ตะนาวศรี ทวาย มะริด พระนเรศวรมหาราช ได้จัดทัพสี่ทัพ เข้าตีกัมพูชา ทั้งทางบกและทางทะเล จนเข้าถึงเมืองละแวก เมืองหลวงขณะนั้น ในพงศาวดารบางแห่งบอกว่ามีการพิธีประถมกรรม แต่ในหลายแห่งข้อมูลสมัยใหม่ มีการวิจัยไม่ตรงกัน และมีข้อมูลว่าพระยาละแวกหนีไปทางลาว อย่างไรก็ตาม ทัพไทยได้กวาดต้อน ชาวเมือง และชาวพระราชวัง ทั้งขุนนาง และฝ่ายใน จำนวนมาก มาชุบเลี้ยงตั้งบ้านเรือนในสยาม
อ้างอิง
- ศานติ ภักดีคำ. เขมรรบไทย. กทม. มติชน. 2554. หน้า 166 - 172[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir smedcphrabrmrachathi 3 epnphramhakstriykmphucha phraxngkhprasutiinchwngrahwang ph s 2062 aelakhrxngrachysmbtiinsmythiemuxnglaaewkepnrachthani rahwang ph s 2108 2119 inrchsmykhxngphraxngkhnn idykthphmatikrungsrixyuthyasxngkhrng sungmibnthukiwinphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti aelarachphngsawdarkmphucha odyinexksarithyeriykphraxngkhwa phrayalaaewk aetepnkhnlaphraxngkhkbphrayalaaewkthiklawthunginsmysmedcphranerswrmharach sungkhuxphrabrmrachathi 4 sungepnphraoxrskhxngphraxngkhsmedcphrabrmrachathi 3phramhakstriykmphuchakhrxngrachyph s 2108 2119rachaphieskph s 2109rchkalkxnhnaphrabrmrachathi 2 phyacnthn rchkalthdipsmedcphrabrmrachathi 4 nkphrasttha prasutiph s 2062swrrkhtph s 2119 57 phrrsa phraxkhrmehsismedcphraphkhwdisrirtnrachethwiphrarachbutrsmedcphrabrmrachathi 4 nkphrasttha phrabrmrachathi 6 phrabrmrachathi 7 phrabathxngkhthxngracha phyann phranametmsmedcphrarachoxngkar phrabrmracharamathibdiphranamedimphrayalaaewkrachwngsrachwngswrmnphrarachbidaphrabrmrachathi 2 phyacnthn phramardaphraaemnangpthumbuppha khrngaerknn smedcphrabrmrachathi 3 thrngykthphmaocmtikrungsrixyuthyaemux ph s 2113 trngkbsmysmedcphramhathrrmracha odyykthphekhamathungkrungsrixyuthya tngthphxyuthibansamphihar inphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti hruxbankathum inphrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn inkarsukkhrngni faysyamichpunihyyingphracapathirach kxnghnafayekhmrthungaekxnickrrmbnkhxchang smedcphrabrmrachathi 3 ihykthphekhaplnemuxng 3 khrngkimsaerc cungelikthphklbip odyecaemuxngcnthburi rayxng naeruxng aelachaechingethra naykxngthphfaysyamesiychiwitinsukkhrngni txma in ph s 2118 inphngsawdarchbbkrmrachbnthit smedcphrabrmrachathi 3 idykthphmatikrungsrixyuthyaxikkhrng odyykthphmathangerux phanthangpaknaphrapraaedng nnthburi aetekhaplnkrungsrixyuthyaimsaerc idaetkwadtxnechlyklbip phrxmkbnaphrarupethpharks sarid thiphbinlanathiemuxngphrapraaedngipdwy 2 xngkh inyukhphramhathrrmracha emuxithyklbmamixanachlngyukhbuerngnxng hlngcaknn emuxnglaaewk kmphucha kbkrungsrixyuthya syam klbmamiimtrikn phramhakstriy kmphucha phraxngkhtxip sungepnphrarachoxrskhxngphraxngkhkxn aelaithykichnamedimeriykwa phrayalaaewk ekhysngphraxnuchamachwykarsukkbphma aetmieruxngbangxyang khdphrathykninphayhlng thaihkmphuchamikarplnemuxngchayaedn kwadtxnhwemuxngsyamxik aelaemuxphranerswrkhunkhrxngrachy thrngtngphrathywacacdthph iptiemuxnglaaewk aettidsukdanxun hlngsngkhramyuththhtthu esrcsukkbhngsawdi aelayudidtanawsri thway marid phranerswrmharach idcdthphsithph ekhatikmphucha thngthangbkaelathangthael cnekhathungemuxnglaaewk emuxnghlwngkhnann inphngsawdarbangaehngbxkwamikarphithiprathmkrrm aetinhlayaehngkhxmulsmyihm mikarwicyimtrngkn aelamikhxmulwaphrayalaaewkhniipthanglaw xyangirktam thphithyidkwadtxn chawemuxng aelachawphrarachwng thngkhunnang aelafayin canwnmak machubeliyngtngbaneruxninsyamxangxingsanti phkdikha ekhmrrbithy kthm mtichn 2554 hna 166 172 rabukhxmulthangbrrnanukrmimkhrb