บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
นครราชสีมา หรือรู้จักในชื่อ โคราช เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ 20,493 ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ชื่อเมืองนครราชสีมาปรากฏที่เป็นบทความเป็นครั้งแรกเป็นเมืองพระยามหานครในการปฏิรูปการปกครองในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา) ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีรับสั่งให้ย้ายเมืองนครราชสีมามาตั้งบริเวณพื้นที่ปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ.2199-2231
จังหวัดนครราชสีมา | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Nakhon Ratchasima |
(ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน): ปราสาทหินพิมาย, อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ประตูชุมพล, พระประธานในปราสาทหินพนมวัน | |
คำขวัญ: เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมาเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 20,493.964 ตร.กม. (7,912.764 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 2 |
ประชากร (พ.ศ. 2566) | |
• ทั้งหมด | 2,625,794 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 2 |
• ความหนาแน่น | 128.12 คน/ตร.กม. (331.8 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 37 |
รหัส ISO 3166 | TH-30 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | โคราช, ราชสีมา |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | สาธร |
• ดอกไม้ | สาธร |
• สัตว์น้ำ | ปลาบ้า |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ถนนมหาดไทย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000 |
• โทรศัพท์ | 0 4424 3798 |
• โทรสาร | 0 4425 5070 |
เว็บไซต์ | www |
ที่มาของชื่อ
มีผู้เสนอว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่ เมืองนครราช คือเมืองเดียวกันกับเมืองราด ของพ่อขุนผาเมือง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเมืองพระนครหลายประการ นอกจากนี้รูปสลักกองทัพชาวสยามบนระเบียงด้านหนึ่งของ นครวัด อาจเป็นชาวสยามจากลุ่มแม่น้ำมูลที่เกี่ยวข้องกับเมืองนครราช และยังมีการกล่าวถึงเมืองนครราชสีมาในพงศาวดารของกัมพูชาหลายครั้งด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีมุมมองอีกด้านหนึ่งก็ว่า นครราชสีมา นั้นเป็นคำไทยเป็นคำใหม่ แยกเป็นคำได้คือ นคร, ราช และ สีมา หมายความว่า "เมืองใหญ่อันเป็นขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักร" (ราช+สีมา) ส่วนคำว่า โคราช (สำเนียงถิ่น: โค-ร่าด, ไทยกลาง: โค-ราด, เขมร: โก-เรียช) นั้น น่าจะเพี้ยนมาจาก นครราช (อ่านตามสำเนียงว่า คอน-หฺราด ซึ่งเป็นคำเรียกนครราชสีมาแบบย่อ ๆ ของชาวบ้าน) หรือ อังกอร์เรียจ ต่อมาลดรูปเป็น กอร์เรียจ และเพี้ยนเป็นโคราชในที่สุด แต่ไม่ได้เพี้ยนมาจากชื่อเมืองโคราฆปุระ (Gorakhpur) ที่เป็นชื่อเมืองสมัยใหม่ในแคว้นเดียวกับเมืองอโยธยา (Ayodhya) ในอินเดีย ตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพแต่อย่างใด เนื่องจากเมืองโคราชที่สูงเนินมีความเก่าแก่กว่าเมืองโคราฆปุระ ส่วนบันทึกของซิมง เดอ ลาลูแบร์ ทูตชาวฝรั่งเศสที่เข้ามากรุงศรีอยุธยาในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้เขียนชื่อบนแผนที่บริเวณนี้ว่า Corazema หรือ โคราชเสมา
เดิมทีนั้นชื่อเมืองนครราชสีมา มีการใช้ "นครราชสีมา" และ "นครราชสีห์มา" สลับกันไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2445 (พ.ศ. 2444 เดิม) ได้มีพระบรมราชโองการฯ ให้ประกาศว่า
ชื่อมณฑลแลเมืองนครราชสีห์มา ซึ่งใช้ตัว ห การันต์ด้วยนั้น เปนการผิดจากความหมายของชื่อเมือง แต่นี้ต่อไปอย่าให้ใช้ตัว ห.การันต์ ให้ใช้ว่า นครราชสีมา ในการที่จะออกชื่อเกี่ยวด้วยมณฑลแลเมืองนี้ในที่ทั้งปวง
— ราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๒ มกราคม ร.ศ. ๑๒๐ เล่ม ๑๘ หน้า ๗๙๑
ประวัติศาสตร์
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ภาพเขียนสีเขาจันทร์งามที่วัดเขาจันทร์งามอำเภอสีคิ้วเป็นภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามีชุมชนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคหินใหม่ต่อเนื่องมาถึงยุคสำริดและยุคเหล็กอยู่ที่อำเภอโนนสูงประกอบด้วยและแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด ซึ่งเป็นชุมชนที่มีการอาศัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ประมาณ 3000 ปีก่อนตั้งแต่ยุคหินจนถึงยุคประวัติศาสตร์ ในยุคสำริดมีการค้นพบเครื่องประดับสำริดต่างๆและเครื่องปั้นดินเผา แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัดเป็นแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพบการฝังศพผู้ใหญ่ไว้ในภาชนะดินเผา ที่อำเภอพิมายพบภาชนะดินเผาแบบพิมายดำ (Phimai Black Ware) เมื่อเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเขมรอินเดียและพระพุทธศาสนาเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ชุมชนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ถูกแทนที่ด้วยชุมชนในยุคประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากภายนอก
สมัยโบราณ
อาณาจักรศรีจนาศะ
ในยุคทวารวดีปรากฏมีอาณาจักรศรีจนาศะ หรือ "จนาศะปุระ" ขึ้นซึ่งสันนิษฐานว่ามีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโบราณเสมา ในตำบลเสมาอำเภอสูงเนินในปัจจุบัน พบหลักฐานเกี่ยวกับอาณาจักรศรีจนาศะจากจารึกสองชิ้นได้แก่ พบที่บ้านอีกาอำเภอสูงเนิน กำหนดอายุที่พ.ศ. 1411 ใช้อักษรหลังปัลลวะและจารึกด้วยภาษาสันสกฤตและภาษาเขมร กล่าวถึงพระราชาแห่งศรีจนาศะประทานสัตว์และทาสแก่พระสงฆ์และสรรเสริญอังศเทพผู้สร้างศิวลึงค์ และซึ่งพบที่อยุธยาเป็นอักษรขอมโบราณในภาษาสันกฤตและเขมรกล่าวถึงรายพระนามกษัตริย์แห่งศรีจนาศะจารึกขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 1480 เมืองเสมาเป็นเมืองมีคูน้ำคันดินล้อมรอบเป็นรูปวงกลมรีพบโบราณสถานจำนวนเก้าแห่ง นอกจากนี้ยังมีพระนอนหินทรายที่วัดธรรมจักรเสมารามซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคศรีจนาศะ หลักฐานที่พบแสดงว่าถึงพระพุทธศาสนาในศรีจนาศะซึ่งได้รับอิทธิพลจากทวารวดีอยู่คู่กับศาสนาพราหมณ์ไศวนิกาย เมืองศรีจนาศะมีความสัมพันธ์กับเมืองศรีเทพจังหวัดเพชรบูรณ์และเมืองละโว้ซึ่งอยู่ภายใต้เดียวกัน
เมื่อจักรวรรดิเขมรแผ่ขยายอำนาจมาในพื้นที่เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ทำให้อาณาจักรศรีจนาศะสิ้นสุดลง พ.ศ. 1514 กล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 เมือง "โคราฆะปุระ" ถือกำเนิดขึ้นที่ตำบลโคราชริมมีปราสาทเมืองแขกและซึ่งเป็นศิลปะแบบเกาะแกร์
ปราสาทพิมายและอาณาจักรขอมโบราณ
สันนิษฐานว่าปราสาทหินพิมายถูกสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เนื่องจากรูปแบบศิลปะของซุ้มและมุขหน้าปราสาทประธานเป็นศิลปะแบบบาปวนซึ่งเป็นศิลปะในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 นอกจากปราสาทหินพิมายยังมีปราสาทหินพนมวันที่ตำบลบ้านโพธิ์ซึ่งสร้างขึ้นในยุคเดียวกัน พบจารึกที่ปราสาทพิมายทั้งหมดหกหลัก กล่าวถึงการบูชาและถวายของแด่พระพุทธเจ้า การกล่าวสรรเสริญพระเจ้าสูรยวรมันที่ 1 และการสร้างรูปเคารพรวมทั้งพิธีกรรมต่างๆ จารึกปราสาทหินพิมาย 2 พ.ศ. 1579 กล่าวถึงพระนาม“ศรีสูรยวรมะ” ปราสาทหินพิมายเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาวัชรยาน ทับหลังของปราสาทประธานสลักเป็นรูปของพระชินพุทธะและพบสัญลักษณ์และรูปเคารพของวัชรยานอื่นๆ เมืองพิมายหรือ "วิมายปุระ" เป็นฐานที่มั่นของราชวงศ์มหิธรปุระซึ่งเริ่มต้นขึ้นที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 และต่อมาได้ครองจักรวรรดิเขมร จารึกปราสาทหินพิมาย 3 พ.ศ. 1651 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 กล่าวว่า “...กมรเตงอัญศรีวิเรนทราธิบดีวรมะเมืองโฉกวะกุลสถาปนากมรเตงชคตเสนาบดีไตรโลกยวิชัย ซึ่งเป็นเสนาบดีแห่งกมรเตงชคตวิมายะ" ในยุคนี้มีการสร้างปราสาทพิมายเพิ่มเติมในศิลปะยุคนครวัดซึ่งเป็นศิลปะในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ปราสาทหินพิมายจึงเป็นการรวมกันของศิลปะยุคบาปวนและศิลปะยุคนครวัด
เมื่อราชวงศ์มหิธรปุระได้ขึ้นครองจักรวรรดิเขมรเมืองวิมายประทวีความสำคัญขึ้นในฐานะศูนย์กลางการปกครองของขอมโบราณในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 บูรณะปราสาทพิมายเนื่องจากเป็นเมืองเกิดของพระมารดา จากที่ปรากฏในพ.ศ. 1734 ที่นครธมซึ่งกล่าวถึงเส้นทางการคมนาคมในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กล่าวว่า“จากเมืองหลวงไปยังเมืองวิมาย (มี) ที่พักพร้อมด้วยไฟ 17 แห่ง” แสดงให้เห็นว่าเมืองวิมายเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่สำคัญ พบรูปประติมากรรมเหมือนของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ปราสาทพิมาย ต่อมาเมื่อจักรวรรดิเขมรเสื่อมอำนาจลงและอาณาจักรอยุธยาแผ่ขยายอำนาจเข้ามาจึงลดความสำคัญลง
สมัยอยุธยา
ฉบับปลีก เลขทะเบียน ๒๒๒ ๒/ก ๑๐๔ กล่าวถึงสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) “อยู่ปีหนึ่ง ท่านให้ก็ตกแต่งช้างม้ารี้พล ทั้งปวงจะยกไปเมืองพิมายพนมรุ้งไซร้ พอเจ้าเมืองทั้งหลายถวายบังคมพระบาทผู้เป็นเจ้าๆก็ให้พระราชทานรางวัลแล้วคืนไปอยู่ตามภูมิลำเนา” ซึ่งตรงกับศิลาซึ่งจารึกขึ้นเมื่อพ.ศ. 1974 และพบที่อำเภอลำสนธิจังหวัดลพบุรี กล่าวถึงสมเด็จพระอินทราบรมจักรพรรดิธรรมิกราชโปรดฯให้ขุนศรีไชยราชมงคลเทพ "เอาจตุรงค์ช้างม้ารี้พลไปโจมจับพระนครพิมายพนมรุ้ง" แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรอยุธยาแผ่ขยายอำนาจเข้ามาในเขตลุ่มแม่น้ำมูลตอนบนและที่ราบสูงโคราชด้านตะวันตกในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าสามพระยาฯ
ในสมัยอยุธยาเมืองนครราชสีมาคือ "เมืองโคราฆะ" ริมแม่น้ำลำตะคองในตำบลโคราชอำเภอสูงเนินในปัจจุบันซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเมืองเสมา เมืองนครราชสีมามีความสำคัญในฐานะเป็นฐานการปกครองของอยุธยาในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบนและเป็นรอยต่ออาณาเขตของอยุธยากับอาณาจักรล้านช้างและ ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจากกฎมณเฑียรบาลเมืองนครราชสีมาเป็นหนึ่งในเมืองพระยามหานครแปดเมืองซึ่งเจ้าเมืองต้องถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ในพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน นาทหารหัวเมือง ปรากฏราชทินนามของเจ้าเมืองนครราชสีมาว่า ออกญากำแหงสงครามรามภักดีอภัยพิรียบรากรมภาหุ ศักดินา 10,000 ไร่ พงศาวดารเขมรระบุว่าในพ.ศ. 2113 เมื่อสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 แห่งอาณาจักรเขมรละแวกเข้าตีกรุงศรีอยุธยาไม่สำเร็จจึงยกทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้สำเร็จสมเด็จพระนเรศวรฯทรงจัดการปกครองหัวเมืองขึ้นใหม่โดยเมืองนครราชสีมามีฐานะเป็นเมืองชั้นโท นอกจากนี้พงศาวดารเขมรยังระบุอีกว่าในพ.ศ. 2173 รัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระศรีธรรมราชาที่ 2 แห่งอาณาจักรเขมรอุดงยกทัพมากวาดต้อนผู้คนในเขตเมืองนครราชสีมา
ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเห็นว่านครราชสีมามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านของอยุธยาติดกับพรมแดนลาวล้านช้าง จึงโปรดฯให้ย้ายเมืองนครราชสีมาจากเมืองโคราฆะเดิมและเมืองเสมามาสร้างเมืองใหม่ที่อำเภอเมืองนครราชสีมาในปัจจุบัน วางผังเมืองโดยเดอลามาร์ (De la Mare) วิศวกรชาวฝรั่งเศส เป็นตารางรูปสีเหลี่ยมกว้าง 1,000 เมตร ความยาว 1,700 เมตร มีกำแพงเมืองขนาดใหญ่ตามแบบตะวันตกมีป้อมค่ายหอรบ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรวมชื่อเมืองโคราฆะและเมืองเสมาแล้วพระราชทานนามเมืองใหม่ว่า "เมืองนครราชสีมา" เมื่อจุลศักราช 1036 (พุทธศักราช 2217) และทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ บันทึกไว้ในจดหมายเหตุลาลูแบร์ว่า เมืองโคราชสีมา (Corazema) เป็นหัวเมืองใหญ่หนึ่งในเจ็ดมณฑล ตั้งอยู่ติดชายแดนของราชอาณาจักรสยามกับเมืองลาว มีเมืองบริวาร 5 เมืองได้แก่ เมืองนครจันทึก (อำเภอสีคิ้ว) เมืองชัยภูมิ เมืองพิมาย เมืองบุรีรัมย์ และเมืองนางรอง
เมื่อสมเด็จพระเพทราชาทรงยึดอำนาจในพ.ศ. 2231 พระยายมราช (สังข์) เจ้าเมืองนครราชสีมาที่แต่งตั้งโดยสมเด็จพระนารายณ์ฯแข็งเมืองไม่ไปถือน้ำพิพัฒน์สัตยา พระเพทราชาทรงส่งทัพเข้าล้อมเมืองนครราชสีมาในพ.ศ. 2232 แต่ไม่สำเร็จและถอยกลับไป พระเพทราชาจึงทรงส่งทัพมาอีกครั้งในปีถัดมาสามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้ในที่สุด พระยายมราช (สังข์) หลบหนีไปยังเมืองนครศรีธรรมราช จากนั้นปีพ.ศ. 2241 ชาวบ้านในเมืองนครราชสีมาชื่อบุญกว้างพร้อมพรรคพวกอีกยี่สิบแปดคนสามารถยึดอำนาจในเมืองนครราชสีมาจากเจ้าเมืองคนใหม่ได้ นำไปสู่ พระเพทราชาทรงส่งทัพเข้าล้อมเมืองนครราชสีมาอีกครั้งกินเวลายืดเยื้ออยู่นานถึงสามปี ฝ่ายอยุธยาใช้อุบายผูกหม้อดินระเบิดกับว่าวจุฬาแล้วชักให้ลอยไปตกในเมืองนครราชสีมาเพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ จนกระทั่งเจ้าเมืองนครราชสีมาออกอุบายให้บุญกว้างและพรรคพวกยกทัพไปตั้งที่ลพบุรีทัพหลวงจึงเข้าตีทัพบุญกว้างพ่ายแพ้ไป ในขณะที่พงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศกล่าวว่าหลังจากถูกล้อมบุญกว้างและพรรคพวกหลบหนีออกจากเมืองนครราชสีมาไปได้
เมื่อทัพพม่าเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาในพ.ศ. 2309 กรมหมื่นเทพพิพิธพระโอรสในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จจากหัวเมืองชายทะเลตะวันออกมาเกลี้ยกล่อมให้พระยานครราชสีมาเจ้าเมืองนครราชสีมาให้การสนับสนุนแด่พระองค์ในการกอบกู้อยุธยาจากการล้อมของพม่า แต่พระยานครราชสีมาไม่ยินยอมด้วย กรมหมื่นเทพพิพิธจึงทรงส่งหม่อมเจ้าประยงพระโอรสและหลวงมหาพิชัยลักลอบนำกองกำลังเข้าเมืองนครราชสีมาและทำการลอบสังหารพระยานครราชสีมา กรมหมื่นเทพพิพิธจึงทรงสามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้แต่เพียงไม่นานน้องชายของพระยานครราชสีมาที่ถูกสังหารไปนั้นคือหลวงแพ่งหลบหนีไปยังเมืองพิมายขอความช่วยเหลือจากพระพิมายผู้เป็นเจ้าเมืองพิมายในการยึดเมืองนครราชสีมาคืนจากกรมหมื่นเทพพิพิธ พระพิมายและหลวงแพ่งยกทัพจากเมืองพิมายเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้สำเร็จและจับกุมกรมหมื่นเทพพิพิธ พระพิมายไว้พระชนม์ชีพกรมหมื่นเทพพิพิธและเชิญกรมหมื่นเทพพิพิธไปประทับที่เมืองพิมาย หลวงแพ่งได้เป็นพระยานครราชสีมา
สมัยกรุงธนบุรี
หลังกรุงศรีอยุธยาล่มสลายในพ.ศ. 2310 เจ้าเมืองพิมายจึงยกให้กรมหมื่นเทพพิพิธขึ้นเป็น"เจ้าพิมาย" เกิดขึ้น เจ้าพิมายกรมหมื่นเทพพิพิธทรงแต่งตั้งเจ้าเมืองพิมายเดิมเป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (พระพิมาย) ยกทัพเข้าลอบสังหารพระยานครราชสีมา (หลวงแพ่ง) ชุมนุมเจ้าพิมายมีเขตอำนาจตั้งแต่สระบุรีขึ้นไปจรดเขตแดนของอาณาจักรล้านช้าง เป็นหนึ่งในชุมนุมต่างๆที่เกิดขึ้นหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาโดยมีกรมหมื่นเทพพิพิธหรือเจ้าพิมายป็นผู้นำ ในพ.ศ. 2311 หลังจากที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงตีค่ายโพธิ์สามต้นแตกแล้ว มองย่าปลัดทัพฝ่ายพม่าหลบหนีมาเข้าพวกกับชุมนุมพิมาย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงยกทัพติดตามขึ้นมาตีชุมนุมเจ้าพิมาย เจ้าพิมายให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ (พระพิมาย) ตั้งรับอยู่ที่ด่านจอหอ (ตำบลจอหอ อำเภอเมือง) และให้พระยาวรวงษาธิราชบุตรชายของเจ้าพระศรีสุริยวงษ์ตั้งทัพอยู่ที่ด่านขุนทด ทัพหลวงของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงยกทัพเข้ายึดค่ายของเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ (เจ้าพิมาย) ที่จอหอได้สำเร็จ เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ (พระพิมาย) ถูกจับกุมและประหารชีวิต พระราชวรินทร์ (ทองด้วง) ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระมหามนตรี (บุญมา) ต่อมาคือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เข้ายึดค่ายของพระยาวรวงษาธิราชที่ด่านขุนทดได้สำเร็จ เมื่อทัพทั้งสองพ่ายแพ้แก่ธนบุรีเจ้าพิมายจึงหลบหนีจากเมืองพิมายไปยังลาวล้านช้างแต่ขุนชนะจับเจ้าพิมายมาถวายแด่พระเจ้ากรุงธนบุรี พระเจ้ากรุงธนบุรีฯทรงสำเร็จโทษเจ้าพิมายและแต่งตั้งให้ขุนชนะเป็นพระยากำแหงสงครามครองเมืองนครราชสีมา ชุมนุมเจ้าพิมายจึงสิ้นสุดลงและนครราชสีมาจึงเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของธนบุรี
ในสมัยธนบุรีปรากฏมีนามเจ้าเมืองนครราชสีมาได้แก่ พระยากำแหงสงคราม (ขุนชนะ) และ"เจ้าพระยานครราชสีมา"(ปิ่น) เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกทรงยกทัพไปอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ปีพ.ศ. 2321 นั้น เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ได้เป็นทัพหน้า ในพ.ศ. 2323 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงให้พระยากำแหงสงคราม (ขุนชนะ) ย้ายไปรับราชการที่ธนบุรีและแต่งตั้งให้หลวงนายฤทธิ์ (ทองอิน) เป็นพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา (ต่อมาคือเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์) และพระอภัยสุริยา (บุญเมือง) เป็นปลัดเมืองนครราชสีมา (ต่อมาคือเจ้าฟ้ากรมหลวงธิเบศรบดินทร์) ในช่วงปลายรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีฯเมื่อเกิดการกบฏพระยาสรรค์ขึ้น พระยาสุริยอภัยเจ้าเมืองนครราชสีมาได้นำกำลังทหารของนครราชสีมาเข้าควบคุมสถานการณ์ที่กรุงธนบุรีไว้ก่อนที่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์จะยกทัพกลับมาจากกัมพูชาและเกิดการเปลี่ยนแผ่นดิน
สมัยรัตนโกสินทร์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงแต่งตั้งให้ บุตรของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา เมื่อสยามมีอำนาจเหนือหัวเมืองประเทศราชลาวล้านช้างทำให้เมืองนครราชสีมามีความสำคัญในฐานะเป็นช่องทางและสื่อกลางระหว่างส่วนกลางที่กรุงเทพฯและประเทศราชลาว เมืองนครราชสีมาจึงถูกยกฐานะขึ้นมาเป็นเมืองชั้นเอก เจ้าเมืองนครราชสีมามีอำนาจในการสอดส่องดูแลประเทศราช ๓ เมือง คือ เวียงจันทน์ นครพนม จำปาศักดิ์ รวมทั้งหัวเมืองเขมรป่าดง ในสมัยรัชกาลที่ 2 พ.ศ. 2362 เกิดที่อาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ มีรับสั่งให้พระยานครราชสีมา (เที่ยง) นำกองทัพไปปราบ ผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองนครราชสีมาต่อจากพระยานครราชสีมา (เที่ยง) คือเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) เป็นบุตรบุญธรรมของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น)
ในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ. 2369 ขณะที่เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) กับพระปลัดเมืองนครราชสีมากำลังอยู่ในราชการที่เมืองขุขันธ์อยู่นั้น เจ้าอนุวงศ์ยกทัพลาวมายึดครองเมืองนครราชสีมาได้และสั่งให้กวาดต้อนชาวเมืองนครราชสีมาไปยังเวียงจันทน์ พระยาพรหมยกกระบัตรเมืองนครราชสีมาจำต้องยอมจำนนต่อเจ้าอนุวงศ์ ฝ่ายพระปลัดเมืองนครราชสีมาเมื่อทราบว่าฝ่ายลาวเข้ายึดเมืองนครราชสีมาแล้วจึงรีบเดินทางกลับมายังนครราชสีมาแสร้งทำทีว่าเข้าสวามิภักดิ์ต่อเจ้าอนุวงศ์ พระปลัดเมือง พระยาพรหมยกกระบัตร จึงนำชาวเมืองนครราชสีมาติดตามเจ้าอนุวงศ์ไปจนกระทั่งถึงทุ่งสัมฤทธิ์ (ตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย) พระปลัดเมืองและพระยาพรหมจึงนำกองกำลังชาวเมืองนครราชสีมาเข้าโจมตีฝ่ายลาว ในขณะที่คุณหญิงโมภริยาของพระปลัดเมืองฯนำทัพของผู้หญิงถืออาวุธเป็นกระบองและหลาวทำจากไม้เข้าต่อสู้กับฝ่ายลาว นำไปสู่ นางสาวบุญเหลือบุตรีของหลวงเจริญกรมการเมืองผู้น้อยฯวิ่งนำคบเพลิงไปจุดชนวนเกวียนบรรทุกกระสุนดินดำทำให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง นางสาวบุญเหลือสละชีพเสียชีวิตไปพร้อมกับขุนพลฝ่ายลาว เหตุการณ์วีรกรรมที่ทุ่งสัมฤทธิ์ทำให้เจ้าอนุวงศ์ต้องถอยทัพกลับไปโดยให้เจ้าโถงผู้เป็นหลานตั้งมั่นอยู่ที่เมืองพิมาย ต่อมาในพ.ศ. 2370 คุณหญิงโมจึงได้รับการปูนบำเหน็จแต่งตั้งให้เป็น "ท้าวสุรนารี" กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพทรงยกทัพมาตั้งมั่นที่นครราชสีมา เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) เข้าเฝ้ากรมพระราชวังบวรฯ กรมพระราชวังบวรฯมีพระบัณฑูรให้เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) อยู่ฟื้นฟูเมืองนครราชสีมาให้กลับขึ้นมาดังเดิม พระยาราชสุภาวดี (สิงห์) ต่อมาคือเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สามารถตีทัพของเจ้าโถงแตกพ่ายไปแล้วยึดเมืองพิมายคืนมาได้
เมื่อ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) ถึงแก่กรรม พระพรหมบริรักษ์ (เกษ) บุตรชายคนโตของเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองนครราชสีมาคนต่อมา
เมื่อว่างเว้นจากสงคราม เมืองโคราชได้ฟื้นตัวขึ้นใหม่กลายเป็นชุมทาง การค้าที่สำคัญ ในการติดต่อระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคกลาง มีกองเกวียน กองคาราวานการค้า ขนาดใหญ่ผ่าน และ หยุดพักอยู่เสมอ
ในสมัยรัชกาลที่ 4 บาทหลวงปาลเลกัวซ์ ได้เขียนว่า ตัวเมืองโคราชล้อมรอบด้วยกำแพงตั้งอยู่บนที่ราบสูง เดินทางจากบางกอกใช้เวลา 6 วันโดยไต่ระดับสูงขึ้นไปตามเส้นทาง ดงพญาไฟ ประชากรโคราชมีประมาณ 60,000 คน ครึ่งหนึ่งเป็นคนสยาม อีกครึ่งหนึ่งเป็นคนเขมร ในตัวเมืองมีประชากร 7,000 คน มีคนจีนประมาณ 700 คน มีเหมืองแร่ทองแดง มีโรงหีบอ้อย สินค้า คือ ข้าว งาช้าง หนังสัตว์ เขาสัตว์ ไม้เต็ง อบเชย
ในรัชกาลนี้ เจ้าพระยานครราชสีมา (เกษ) ได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยามุขมนตรี (เกษ) และ เจ้าเมืองนครราชสีมาคนต่อมาคือ พระยานครราชสีมา (แก้ว) บุตรชายคนรองของเจ้าพระยาบดินทรเดชา หลังจากนั้น พระยานครราชสีมา (แก้ว) ได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยายมราช (แก้ว) และ เจ้าเมืองคนต่อมาคือ พระยานครราชสีมา (เมฆ) บุตรชายคนโตของ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน)
ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระยานครราชสีมา (เมฆ) บุตรของ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) ได้เป็นแม่ทัพบกไปปราบจีนฮ่อที่เมืองหนองคาย ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งมณฑลนครราชสีมาเพื่อควบคุมดูแลหัวเมืองในบริเวณใกล้เคียง เป็นมณฑลแรกของประเทศ มีพระยานครราชสีมา (กาจ สิงหเสนี) บุตรเขยของพระยานครราชสีมา (เมฆ) เป็นผู้ว่าราชการคนแรก มีการจัดตั้งกองทหารประจำมณฑลตามหลักสากล มีการตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่นครราชสีมา มีการสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพฯ ผ่านอยุธยา สระบุรี ดงพญาไฟ ไปสู่นครราชสีมา จนเปิดการเดิน สายกรุงเทพ - นครราชสีมา ได้สำเร็จ การคมนาคมติดต่อสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก ในช่วงเดียวกันฝรั่งเศสได้เข้ามามีอำนาจเหนือคาบสมุทรอินโดจีน ทำให้สยามจำต้องเร่งการปรับปรุงพัฒนาราชอาณาจักรโดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการจัดตั้งการขนส่งปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ และ สายการบินระหว่าง กรุงเทพ - นครราชสีมา มีการขยายเส้นทางรถไฟสายอีสาน จนสามารถขยายเส้นทางการเดินรถไฟจาก นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น และ นครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ได้สำเร็จในสมัยรัชกาลที่ 7
ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระองค์เจ้าบวรเดช ได้รวบรวมกองกำลังทหารจากมณฑลนครราชสีมาเป็นหลัก ร่วมกับ พันเอกพระยาศรีสิทธิ์สงคราม เพื่อทำการต่อสู้กับคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง คณะผู้ก่อการได้ยกกองกำลังเข้ามาล้อมกรุงเทพฯ แต่เมื่อการต่อสู้ยืดเยื้อในที่สุดก็ต้องถอยทัพและประสบความพ่ายแพ้เนื่องจากมีกำลังที่น้อยกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ พันโทหลวงพิบูลสงครามผู้บัญชาการกองกำลังผสมฝ่ายรัฐบาล มีอำนาจในการควบคุมกำลังทหารมากขึ้นส่งผลให้ได้อำนาจทางการเมืองและจัดตั้งรัฐบาลทหารได้ในเวลาต่อมา
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทหารในสังกัด มณฑลทหารบกที่ 3 นครราชสีมา ได้ทำการร่วมรบในกรณีพิพาทอินโดจีน กองทัพไทยสามารถยึดดินแดนกลับคืนมาบางส่วน เป็นการชั่วคราว หลังสงครามยุติสหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือสร้างถนนมิตรภาพ จาก สระบุรี ถึง นครราชสีมา ซึ่งเป็นทางหลวงที่ได้มาตรฐานดีที่สุดของประเทศในขณะนั้น
ในช่วงสงครามเวียดนาม สหรัฐอเมริกาได้ขอใช้นครราชสีมาเป็นฐานบัญชาการการรบ มีการสร้างฐานบินโคราช และต่อมาไทยได้เปลี่ยนให้เป็น กองบิน 1 ซึ่งเป็นฐานกำลังรบทางอากาศหลักของกองทัพอากาศไทยในปัจจุบัน โดยมีมีเครื่องบิน F-16 ประจำการอยู่สองฝูงบิน
ในปี พ.ศ. 2523 มีความพยายามรัฐประหารโดยกลุ่มทหารของ พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา แต่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่นครราชสีมา กองกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 นำโดยพลตรี อาทิตย์ กำลังเอกได้เป็นกองกำลังหลักในการปราบกบฏลงได้ในที่สุด หลังจากนั้น อดีตผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 หลายท่านได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในเวลาต่อมา
เนื่องจากความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ปัจจุบัน นครราชสีมา จึงได้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองที่สำคัญรองจากกรุงเทพมหานคร เป็นประตูสู่อิสาน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของกองฐานกำลังรบหลักของกองทัพบก และกองทัพอากาศในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2553 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากฝนช่วงปลายฤดูตกหนักในบริเวณต้นแม่น้ำมูล นับเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับสมณญานามว่าเป็น “ประตูสู่ภาคอีสาน” เพราะเป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่วิ่งมาจากภาคกลางในถนนมิตรภาพ อยู่บนที่ราบสูงโคราช ห่างจากกรุงเทพ 259 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 20,493.964 ตารางกิโลเมตร (12,808,728 ไร่) เป็นพื้นที่ป่าไม้ 2,297,735 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติคืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานร้อยละ 61.4 และเป็นแหล่งน้ำ 280,313 ไร่ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดชัยภูมิ และขอนแก่น ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดบุรีรัมย์ และทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดสระบุรี ชัยภูมิ และลพบุรี
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 150-300 เมตร มีเทือกเขาสันกำแพง และเทือกเขาพนมดงรัก เป็นแนวยาวทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก ส่วนบริเวณตอนล่างค่อนไปทางเหนือและตะวันออกเป็นที่ราบลุ่ม โดยมีลำตะคองและลำน้ำสาขาอื่น ๆ ไหลหล่อเลี้ยงบริเวณด้านเหนือของเมือง และ เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำมูลซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของจังหวัดนครราชสีมาจัดอยู่ในประเภททุ่งหญ้าเขตร้อน มีลมมรสุมหลักพัดผ่านคือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง กับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีอากาศชุ่มชื้นและมีฝนตกชุก โดยทั่วไปสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม มีฝนตกชุก ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในเดือนตุลาคม ฤดูหนาว สภาพอากาศจะเริ่มเปลี่ยนจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ระยะนี้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมหนาวและแห้งพัดจากประเทศจีน และฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่ราบสูง มีป่าและทิวเขาสูงกั้นเขตแดนเป็นแนวยาว อากาศจึงค่อนข้างร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน และในฤดูหนาวก็ค่อนข้างหนาวเย็นโดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 27.4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 33 อาศาเซลเซียส มีค่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดทั้งปี 71 % ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ย 89% ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดเฉลี่ย 49 %
ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. 2504-2533) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 30.6 (87.1) | 33.5 (92.3) | 35.8 (96.4) | 36.5 (97.7) | 34.9 (94.8) | 34.1 (93.4) | 33.6 (92.5) | 33.1 (91.6) | 32.1 (89.8) | 30.9 (87.6) | 29.7 (85.5) | 29.3 (84.7) | 32.84 (91.12) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 16.8 (62.2) | 20.0 (68) | 22.2 (72) | 24.0 (75.2) | 24.5 (76.1) | 24.3 (75.7) | 23.9 (75) | 23.7 (74.7) | 23.6 (74.5) | 22.6 (72.7) | 20.2 (68.4) | 17.1 (62.8) | 21.91 (71.44) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 5.9 (0.232) | 17.8 (0.701) | 37.1 (1.461) | 63.5 (2.5) | 140.5 (5.531) | 108.3 (4.264) | 113.7 (4.476) | 146.2 (5.756) | 221.6 (8.724) | 143.4 (5.646) | 27.3 (1.075) | 2.8 (0.11) | 1,028.1 (40.476) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) | 0.9 | 2.2 | 5.1 | 7.7 | 13.8 | 13.3 | 13.5 | 16.4 | 18.1 | 12.2 | 4.0 | 0.7 | 107.9 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 284.2 | 245.1 | 253.8 | 248.1 | 237.5 | 208.6 | 194.6 | 187.3 | 169.0 | 233.4 | 257.3 | 282.0 | 2,800.9 |
แหล่งที่มา 1: WMO | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: CMA |
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ จรดจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดบุรีรัมย์
- ทิศตะวันออก จรดจังหวัดบุรีรัมย์
- ทิศใต้ จรดจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสระแก้ว,
- ทิศตะวันตก จรดจังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรีและจังหวัดนครนายก
เขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
แบ่งปกครองแบ่งออกเป็น 32 อำเภอ 289 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน
แผนที่ | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
หมายเลขในแผนที่ | รหัสเขตการปกครอง | ชื่ออำเภอ | ชั้น | พื้นที่ (ตร.กม.) | ห่างจาก ศาลากลาง จังหวัด (กม.) | ตั้งเมื่อ (พ.ศ.) | จำนวน ตำบล | จำนวน หมู่บ้าน | ประชากร | ||
ชาย | หญิง | รวม | |||||||||
1 | 3001 | พิเศษ | 755.596 | 0 | 2438 | 25 | 243 | 214,809 | 224,657 | 439,466 | |
8 | 3008 | 1 | 1,428.14 | 84 | 2451 | 16 | 220 | 62,900 | 63,881 | 126,781 | |
12 | 3012 | 1 | 305.028 | 101 | 2440 | 10 | 121 | 41,776 | 41,984 | 83,760 | |
14 | 3014 | 1 | 1,374.32 | 34 | 2451 | 16 | 213 | 56,797 | 59,349 | 116,146 | |
15 | 3015 | 1 | 896.871 | 60 | 2440 | 12 | 208 | 64,039 | 65,925 | 129,964 | |
20 | 3020 | 1 | 1,247.07 | 45 | 2441 | 12 | 169 | 60,967 | 61,704 | 122,671 | |
21 | 3021 | 1 | 1,825.17 | 85 | 2501 | 12 | 217 | 92,953 | 94,097 | 187,050 | |
2 | 3002 | 2 | 1,816.85 | 58 | 2482 | 12 | 152 | 46,578 | 47,683 | 94,261 | |
6 | 3006 | 2 | 501.672 | 40 | 2496 | 8 | 108 | 34,979 | 35,138 | 70,117 | |
7 | 3007 | 2 | 503.917 | 30 | 2448 | 10 | 126 | 38,581 | 40,364 | 78,945 | |
10 | 3010 | 2 | 676.981 | 37 | 2440 | 16 | 195 | 61,941 | 64,443 | 126,384 | |
13 | 3013 | 2 | 600.648 | 97 | 2506 | 13 | 148 | 38,900 | 38,948 | 77,848 | |
18 | 3018 | 2 | 782.853 | 36 | 2444 | 11 | 125 | 39,140 | 41,065 | 80,205 | |
16 | 3016 | 2 | 495.175 | 65 | 2506 | 10 | 120 | 37,826 | 37,254 | 75,080 | |
17 | 3017 | 2 | 540.567 | 98 | 2502 | 9 | 130 | 41,132 | 41,179 | 82,311 | |
3 | 3003 | 3 | 1,200.24 | 88 | 2519 | 6 | 84 | 34,440 | 34,188 | 68,628 | |
4 | 3004 | 3 | 454.737 | 79 | 2481 | 10 | 155 | 40,231 | 41,067 | 81,298 | |
9 | 3009 | 3 | 541.994 | 28 | 2443 | 10 | 131 | 35,584 | 36,675 | 72,259 | |
11 | 3011 | 3 | 297.769 | 50 | 2511 | 7 | 72 | 21,537 | 21,722 | 43,259 | |
23 | 3023 | 3 | 107.258 | 130 | 2529 | 5 | 56 | 18,656 | 18,828 | 37,484 | |
25 | 3025 | 3 | 1,130.00 | 70 | 2535 | 5 | 83 | 20,992 | 21,078 | 42,070 | |
5 | 3005 | 4 | 218.875 | 85 | 2519 | 4 | 39 | 10,733 | 10,859 | 21,592 | |
22 | 3022 | 4 | 590.448 | 52 | 2526 | 9 | 104 | 29,847 | 29,882 | 59,729 | |
26 | 3026 | 4 | 357.465 | 90 | 2538 | 4 | 58 | 12,087 | 11,755 | 23,842 | |
28 | 3028 | 4 | 359.522 | 45 | 2539 | 5 | 74 | 20,982 | 21,255 | 42,237 | |
31 | 3031 | 4 | 162.825 | 85 | 2540 | 5 | 50 | 12,177 | 12,167 | 24,344 | |
30 | 3030 | 4 | 106.893 | 103 | 2540 | 4 | 45 | 12,296 | 12,473 | 24,769 | |
24 | 3024 | 4 | 193.407 | 75 | 2532 | 5 | 65 | 12,536 | 12,950 | 25,486 | |
19 | 3019 | 4 | 203.605 | 22 | 2509 | 5 | 46 | 14,404 | 14,418 | 28,822 | |
27 | 3027 | 4 | 255.522 | 110 | 2538 | 4 | 44 | 14,156 | 13,925 | 28,081 | |
29 | 3029 | 4 | 308.457 | 120 | 2539 | 4 | 59 | 16,166 | 16,066 | 32,232 | |
32 | 3032 | 4 | 254.093 | 18 | 2539 | 5 | 61 | 17,191 | 17,777 | 34,968 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
มีจำนวนทั้งสิ้น 334 แห่ง แบ่งออกเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 4 แห่ง เทศบาลตำบล 85 แห่ง และ องค์การบริหารส่วนตำบล 243 แห่ง โดยเทศบาลสามารถจำแนกได้ตามพื้นที่ดังนี้
อำเภอเมืองนครราชสีมา
อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอบัวใหญ่ อำเภอปักธงชัย
อำเภอด่านขุนทด | อำเภอพิมาย อำเภอโนนสูง
อำเภอโชคชัย อำเภอครบุรี อำเภอเทพารักษ์
อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอคง อำเภอโนนไทย อำเภอห้วยแถลง | อำเภอเสิงสาง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอจักราช อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชุมพวง อำเภอโนนแดง อำเภอบัวลาย อำเภอประทาย อำเภอพระทองคำ อำเภอเมืองยาง อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีดา อำเภอหนองบุญมาก อำเภอแก้งสนามนาง
|
รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
รายชื่อ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|
1. | รศ.115 – 120 (พ.ศ. 2439 – 2444) |
2. พระรังสรรค์สารกิจ (เลื่อน ศรีเพ็ญ) | รศ.120 – 123 (พ.ศ. 2444 – 2447) |
3. พระยาสุริยเดช (จาบ สุวรรณทัต) | รศ.123 – 124 (พ.ศ. 2447 – 2448) |
4. พระยาวรวิไชยวุฒิกร (เลื่อม สนธิรัตน) | รศ.124 – 125 (พ.ศ. 2448 – 2449) |
5. พระบรมราชบรรหาร (สวัสดิ์ วิเศษศิริ) | รศ.125 – 129 (พ.ศ. 2449 – 2453) |
6. พระไชยนฤนาท (ทองดี) | รศ.129 – 131 (พ.ศ. 2453 – 2455) |
7. พระเทพราชธานี (โหมด ชลายนคุปต์) | พ.ศ. 2455 – 2456 |
8. พระยศสุนทร (ศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) | พ.ศ. 2456 – 2458 |
9. พระยาสุริยราชวราภัย (จร รัตนปิณฑะ) | พ.ศ. 2458 – 2460 |
10. พันตรี พระยาบรมราชบรรหาร (เย็น ภะระมรทัต) | พ.ศ. 2460 – 2465 |
11. พระยานครราชเสนี (สหัส สิงหเสนี) | พ.ศ. 2465 – 2471 |
12. พระยาพิริยะพิชัย (เทียบ สุวรรณนิน) | พ.ศ. 2471 – 2474 |
13. พระยานายกนรชน (เจริญ ปริยานนท์) | พ.ศ. 2474 – 2476 |
14. พระยากำธรพายัพทิศ (ดิส อินทโสฬส) | 2 พ.ย. 2476 – 1 มี.ค. 2479 |
15. พันเอก หลวงอาจศรศิลป (ประพันธ์ ธนพุทธิ) | พ.ศ. 2479 – 2484 |
16. นายสุรินทร์ ชิโนทัย | พ.ศ. 2484 – 2484 |
17. พระสาครบุรานุรักษ์ (ปริก สุวรรณานนท์) | 19 ธ.ค. 2484 – 30 ก.ย. 2486 |
18. ขุนทะยานราญรอน (วัชระ วัชรบูล) | 1 ต.ค. 2486 – 21 ธ.ค. 2487 |
19. หลวงวิวิธสุรการ (ถวิล เจียรมานพ) | 22 ธ.ค. 2487 – 31 ก.ค. 2488 |
20. นายอุดม บุญประกอบ | 1 ส.ค. 2488 – 31 ก.ค. 2489 |
21. นายถนอม วิบูลมงคล | 7 ส.ค. 2489 – 5 ธ.ค. 2490 |
22. ขุนบริบาลบรรพตเขตต์ (สังเวียน บริบาลบรรพตเขตต์) | 6 ธ.ค. 2490 – 21 มี.ค. 2492 |
23. ขุนวรคุตต์คณารักษ์ (บุญฤทธิ์ วรคุตานนท์) | 22 มี.ค. 2492 – 20 มี.ค. 2495 |
24. นายยุทธ จรัณยานนท์ | 21 มี.ค. 2495 – 11 ต.ค. 2497 |
25. นายสุวรรณ รื่นยศ | 12 ต.ค. 2497 – 22 พ.ค. 2500 |
26. พันตำรวจเอก เลื่อน กฤษณามระ | 23 พ.ค. 2500 – 6 มี.ค. 2501 |
27. นายเจริญ ภมรบุตร | 6 มี.ค. 2501 – 4 มี.ค. 2507 |
28. นายสวัสดิ์วงศ์ ปฏิทัศน์ | 4 มี.ค. 2507 – 2 ต.ค. 2511 |
29. นายสมชาย กลิ่นแก้ว | 2 ต.ค. 2511 – 15 เม.ย. 2513 |
30. ร้อยตำรวจโท ระดม มหาศรานนท์ | 13 เม.ย. 2513 – 30 ก.ย. 2516 |
31. นายประมูล ศรัทธาทิพย์ | 1 ต.ค. 2516 – 5 ธ.ค. 2516 |
32. นายวิชิต ศุขะวิริยะ | 6 ธ.ค. 2516 – 31 ธ.ค. 2518 |
33. นายจำรูญ ปิยัมปุตระ | 1 ม.ค. 2519 – 30 ก.ย. 2520 |
34. นายเลิศ หงษ์ภักดี | 1 ต.ค. 2520 – 31 มี.ค. 2524 |
35. นายสมบูรณ์ ไทยวัชรามาศ | 1 เม.ย. 2524 – 30 ก.ย. 2531 |
36. นาย | 1 ต.ค. 2531 – 30 ก.ย. 2533 |
37. นายดำรง รัตนพานิช | 1 ต.ค. 2533 – 30 ก.ย. 2537 |
38. นายสุพร สุภสร | 1 ต.ค. 2537 – 30 ก.ย. 2539 |
39. นายประวิทย์ สีห์โสภณ | 1 ต.ค. 2539 – 19 ต.ค. 2540 |
40. นายโยธิน เมธชนัน | 20 ต.ค. 2540 – 22 เม.ย. 2544 |
41. นายสุนทร ริ้วเหลือง | 23 เม.ย. 2544 – 30 ก.ย. 2547 |
42. นายพงศ์โพยม วาศภูติ | 1 ต.ค. 2547 – 30 ก.ย. 2548 |
43. นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ | 1 ต.ค. 2548 – 30 ก.ย. 2550 |
44. นายสุธี มากบุญ | 1 ต.ค. 2550 – 27 พ.ย. 2551 |
45. นายประจักษ์ สุวรรณภักดี | 28 พ.ย. 2551 – 30 ก.ย. 2553 |
46. นายระพี ผ่องบุพกิจ | 1 ต.ค. 2553 – 23 พ.ย. 2554 |
47. นายชวน ศิรินันท์พร | 24 พ.ย. 2554 – 30 ก.ย. 2555 |
48. นายวินัย บัวประดิษฐ์ | 8 ต.ค. 2555 – 1 มิ.ย. 2557 |
49. นายธงชัย ลืออดุลย์ | 2 มิ.ย. 2557 – 30 ก.ย. 2558 |
50. นายวิเชียร จันทรโณทัย | 1 ต.ค. 2558 – 25 พ.ค. 2564 |
51. นายกอบชัย บุญอรณะ | 25 พ.ค. 2564 – 30 ก.ย. 2564 |
50. นายวิเชียร จันทรโณทัย (ครั้งที่ 2) | 1 ต.ค. 2564 – 30 ก.ย. 2565 |
52. นายสยาม ศิริมงคล | 1 ต.ค. 2565 – 18 มี.ค. 2567 |
53. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม | 19 มี.ค. 2567 – ปัจจุบัน |
เศรษฐกิจ
ปี (พ.ศ.) | ผลิตภัณฑ์ มวลรวม จังหวัด (ล้านบาท) | อัตรา การเติบโต (เปอร์เซ็นต์) | ผลิตภัณฑ์ มวลรวม จังหวัดต่อคน (บาท) |
---|---|---|---|
2538 | 83,283 | — | 30,070 |
2539 | 92,906 | +11.55 | 36,548 |
2540 | 96,484 | +3.85 | 37,721 |
2541 | 91,530 | -5.13 | 35,511 |
2542 | 85,317 | -6.79 | 32,847 |
2543 | 87,571 | +2.64 | 33,552 |
2544 | 90,664 | +3.53 | 34,599 |
2545 | 99,028 | +9.23 | 37,200 |
2546 | 111,034 | +12.12 | 41,321 |
2547 | 118,277 | +6.52 | 43,629 |
2548 | 121,141 | +2.42 | 44,295 |
2549 | 134,007 | +10.62 | 48,648 |
2550 | 147,020 | +9.71 | 53,012 |
2551 | 152,069 | +3.43 | 54,503 |
2552 | 159,557 | +4.92 | 56,877 |
2553 | 187,963 | +17.80 | 66,670 |
2554 | 202,014 | +7.48 | 71,405 |
2555 | 239,199 | +18.41 | 95,193 |
2556 | 242,476 | +1.37 | 96,690 |
2557 | 245,248 | +1.14 | 97,963 |
2558 | 264,964 | +8.04 | 106,000 |
2559 | 263,578 | -0.52 | 105,618 |
2560 | 274,898 | +4.29 | 110,301 |
2561 | 295,551 | +7.51 | 117,517 |
2562 | 303,996 | +2.86 | 121,068 |
2563 | 294,604 | -3.09 | 117,521 |
2564 | 315,583 | +7.12 | 126,119 |
อ้างอิง:ผลิตภัณฑ์มวลรวมรายจังหวัด (จีพีพี) และจีพีพีต่อหัวรายจังหวัด |
โครงสร้างเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมามีโครงสร้างที่สำคัญ ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และการค้าส่งค้าปลีก ซึ่งมีอัตราสัดส่วนโครงสร้างร้อยละ 22.46, 19.82 และ 14.91 ตามลำดับ ในภาคการเกษตร จังหวัดมีพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสิ้น 8,931,032 ไร่ แบ่งเป็น ปลูกข้าว จำนวน 4,329,724 ไร่ พืชไร่จำพวกข้าวโพด มันสำปะหลัง ฝ้าย และข้าวฟ่าง จำนวน 3,793,602 ไร่ และปลูกพืชสวน 632,170 ไร่ มีครัวเรือนเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 326,587 ครัวเรือน โดยมีพืชเศรษฐกิจ 3 อันดับแรก คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด การเลี้ยงไหมโดยเฉพาะที่อำเภอปักธงชัยเป็นแหล่งผ้าไหมที่ขึ้นชื่อ อาชีพการทำป่าไม้ และการประมงน้ำจืดตามลุ่มน้ำ
ในภาคอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2560 จังหวัดนครราชสีมามีโรงงานทั้งสิ้น 7,513 โรงงาน มีมูลค่าการลงทุน ประมาณ 188,074 ล้านบาท มีจำนวนคนงานรวม 129,531 คน ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 18.84 อุตสาหกรรมขนส่งเฉลี่ยร้อยละ 12.27 อุตสาหกรรมอโลหะเฉลี่ยร้อยละ 11.38 และอุตสาหกรรมอาหารเฉลี่ยร้อยละ 10.02 สำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ มีแร่ที่สำคัญคือ หินบะซอลต์ หินปูน และ เกลือหิน โดยเฉพาะเกลือหิน พบมากในตอนเหนือและตอนกลางของจังหวัด
ในปี พ.ศ. 2564 (year 2021) จังหวัดนครราชสีมามีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product - GPP) เท่ากับ 315,583 ล้านบาท ( 9.3 Billion US$) อยู่ในลำดับที่ 1 ของภาตตะวันออกเฉียงเหนือ ลำดับที่ 12 ของประเทศ และ ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อคน (GPP per capita) เท่ากับ 126,119 บาท ( 3,699 US$) อยู่ในลำดับที่ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำดับที่ 32 ของประเทศ
ภาคการเงินการธนาคาร จังหวัดนครราชสีมามีจำนวนสำนักงานของธนาคารทั้งสิ้น 152 สำนักงาน(มีนาคม พ.ศ. 2562) เงินรับฝากรวมทุกประเภท (มีนาคม พ.ศ. 2562) ทั้งสิ้น 153,649 ล้านบาท และเงินให้สินเชื่อรวมทุกประเภท (มีนาคม 2562) ทั้งสิ้น 169,203 ล้านบาท
นิคมอุตสาหกรรม
- นิคมอุตสาหกรรมนวนคร 2 นครรราชสีมา
- เขตอุตสาหกรรมสุรนารี
- นิคมอุตสาหกรรมสูงเนิน (โครงการ)
ประชากรศาสตร์
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2550 | 2,552,894 | — |
2551 | 2,565,117 | +0.5% |
2552 | 2,571,292 | +0.2% |
2553 | 2,582,089 | +0.4% |
2554 | 2,585,325 | +0.1% |
2555 | 2,601,167 | +0.6% |
2556 | 2,610,164 | +0.3% |
2557 | 2,620,517 | +0.4% |
2558 | 2,628,818 | +0.3% |
2559 | 2,631,435 | +0.1% |
2560 | 2,639,226 | +0.3% |
2561 | 2,646,401 | +0.3% |
2562 | 2,648,927 | +0.1% |
2563 | 2,633,203 | −0.6% |
2564 | 2,634,145 | +0.0% |
อ้างอิง:กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย |
ประชากรศาสตร์
ส่วนนี้ไม่มีจาก โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่ม เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมามีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติหรือหลายชาติพันธุ์ แต่กลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดนครราชสีมาที่มีจำนวนมากมีอยู่สองกลุ่มใหญ่คือ ไทย (หรือเรียกอีกอย่างว่า ไทโคราช) และอีกกลุ่มคือชาวลาว และ ชาวอีสาน(ตอนบนและด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเขตจังหวัด) และมีชนกลุ่มน้อยอีกได้แก่ มอญ กุย (หรือส่วย) ชาวบน จีน ไทยวน ญวน และแขก
กลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่อยู่ในนครราชสีมาเรียกอีกอย่างว่า ไทโคราช เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา คนกลุ่มนี้ใช้ภาษาคล้ายคนไทยภาคกลาง เพียงแต่เสียงวรรณยุกต์เพี้ยนไปบ้าง และมีคำศัพท์สำนวนบางอย่างที่มีลักษณะเป็นของตนเอง เดิมถิ่นนี้ชาวพื้นเมืองเป็นละว้า ชาวไทยภาคกลางได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองให้ขุนหลวงพะงั่วยกกองทัพมารวบรวมดินแดนแถบนี้เข้ากับกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองโปรดฯให้กองทหารอยุธยาตั้งด่านอยู่ประจำ และส่งช่างชาวอยุธยามาก่อสร้างบ้านเรือนและวัดวาอารามเป็นอันมาก ชาวไทยอยุธยาได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้อพยพมาอยู่นครราชสีมาอีกระลอกหนึ่งคือ คราวเสียกรุงครั้งที่ 2 โดยมีชาวไทยชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้อพยพเข้ามาเพิ่มด้วย ชาวไทยกลุ่มนี้และชาวไทยพื้นเมืองเดิม (เข้าใจว่าเป็นชาวสยามลุ่มน้ำมูล) สืบเชื้อสายเป็นชาวไทยโคราชและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีสืบทอดกันมา
กลุ่มไทโคราชเป็นกลุ่มที่แสดงเอกลักษณ์ของเมืองนครราชสีมา เพราะสำเนียงแตกต่างจากกลุ่มอื่น เป็นกลุ่มที่พูดภาษาไทยโคราชซึ่งคล้ายคลึงภาษาไทยกลางแต่สำเนียงเพี้ยน เหน่อ ห้วนสั้น กร่อนเสียง มีคำไทยลาว (อีสาน) ปะปนบ้างเล็กน้อย ชาวไทยโคราชแต่งกายแบบไทยภาคกลาง รับประทานข้าวเจ้า อาหารทั่วไปคล้ายคลึงภาคกลาง ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมคล้ายไทยภาคกลาง ปัจจุบัน กลุ่มไทยโคราชอาศัยอยู่หนาแน่นในอำเภอต่อไปนี้ เช่น อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอโนนสูง อำเภอโนนไทย อำเภอด่านขุนทด อำเภอพระทองคำ อำเภอเทพารักษ์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอขามทะเลสอ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอโชคชัย อำเภอหนองบุญมาก อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีคิ้ว อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน และ อำเภอพิมาย และยังพบชาวไทยโคราชในบางส่วนของจังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอเทพสถิต และ อำเภอซับใหญ่)และจังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์ นางรอง และหนองกี่)
ชาวไทอีสาน
ชาวไทอีสานเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนประชากรมากรองจากกลุ่มไทโคราช อาศัยอยู่มากในอำเภอต่อไปนี้ของจังหวัดนครราชสีมา เช่น อำเภอบัวใหญ่ อำเภอบัวลาย อำเภอสีดา อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอประทาย อำเภอโนนแดง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอเมืองยาง อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอปักธงชัย อำเภอสูงเนิน อำเภอคง อำเภอห้วยแถลง อำเภอชุมพวง อำเภอจักราชและบางส่วนของ อำเภอพิมาย อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง อำเภอวังน้ำเขียว และ อำเภอสีคิ้ว เป็นต้น ชาวไทยอีสานพูดภาษาอีสานท้องถิ่นคล้ายกับจังหวัดอื่นๆในภาคอีสาน และมีขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือนชาวอีสานทั่วไป
ชาวไทยเชื้อสายลาว
อพยพเข้ามาอยู่สมัยสงครามปราบปรามเมืองเวียงจันทน์ในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยปราบเจ้าอนุวงศ์ในรัชกาลที่3 มีการกวาดต้อนครอบครัวลาวเข้ามาอยู่ในหัวเมืองชั้นในหลายครั้ง และมีการอพยพเข้ามาโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นในระยะหลัง คนกลุ่มที่นี้มักเรียกกันว่า "ลาวเวียง" มีการใช้ภาษาลาวสำเนียงเวียงจันทน์ซึ่งต่างกับภาษาอีสานสำเนียงท้องถิ่นอย่างสิ้นเชิง กระจายอาศัยกันอยู่ทั่วไปในจังหวัดนครราชสีมา โดยส่วนมากมักพบที่อำเภอสูงเนินและอำเภอปักธงชัย ปัจจุบันสืบหาแทบไม่ได้แล้วเนื่อจากการเทครัวมีมานับ200ปีและมีการแต่งงานกับคนพื้นเมือง มีจำนวนน้อยที่สืบหาได้ว่ามีเชื้อสาวลาวเวียงจันทน์ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ เช่น การเก็บรักษาผ้าซิ่นแต่เดิมไว้ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เนื่องจากชาวลาวเวียงจันทน์อพยพมาจากเมืองที่มีวัฒนธรรมสูง มักจะมีของมีค่าติดตัวมาด้วย เช่น ผ้าซิ่น ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบชาวเวียงจันทน์ที่ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ชาวลาวเวียงจันทน์อพยพมากที่สุดในสมัยรัชกาลที่3 เนื่องจากมีการทำสงครามกับเวียงจันทน์หลายครั้ง และเป็นครั้งใหญ่ที่ทำลายนครเวียงจันทน์อย่างราบคราบ จึงทำให้ชาวลาวเวียงจันทน์ถูกเกณฑ์เป็นเชลยจำนวนมาก โดยหัวเมืองใหญ่อย่างนครราชสีมารับชาวเชลยไว้เป็นจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือกระจายไปตามหัวเมืองต่างๆในภาคกลาง
จากการสำรวจสำมะโนประชากรของจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2446 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่า มีชาวมอญอยู่จำนวน 2,249 คน จากจำนวนประชากรของนครราชสีมา 402,668 คน ชาวมอญอพยพเข้ามาอยู่บริเวณเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2318 ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระราชทานครัวมอญที่อพยพเข้ามาสวามิภักดิ์ มีเจ้าพระยามหาโยธา (พญาเจ่ง) ต้นสกุล "คชเสนี" เป็นหัวหน้า แบ่งให้พระยานครราชสีมานำขึ้นมาอยู่ที่เมืองนครราชสีมา ตั้งครัวมอญที่ลำพระเพลิง เขตอำเภอปักธงชัยที่บ้านพลับพลา อำเภอโชคชัย พระยาศรีราชรามัญผู้เป็นหัวหน้าพาญาติพี่น้องมาอยู่ในเมืองเป็นสายกองส่วยทอง ตั้งบ้านเรือนเรียกว่าบ้านมอญ เมื่อเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์ เมื่อ พ.ศ. 2336 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ คชเสนี) คุมกองมอญมาสมทบมาร่วมรบกับกำลังฝ่ายไทย เมื่อเสร็จศึกแล้วพวกมอญเห็นเมืองปักธงชัยอุดมสมบูรณ์จึงมาตั้งถิ่นฐาน ปัจจุบันชาวมอญในนครราชสีมายังรักษาวัฒนธรรมประเพณีมอญไว้ เช่น ภาษา การไหว้ผี การเล่นสะบ้าในเขตบ้านท่าโพธิ บ้านสำราญเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัย ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาษามอญจะใช้พูดในชาวไทยมอญที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป คนรุ่นหลังจากนี้จะพูดภาษาไทยโคราชทั้งสิ้น
ส่วย หรือ ข่า เป็นชนพื้นเมืองของหัวเมืองเขมรป่าดงและเมืองนครราชสีมา พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร ได้อยู่ในพื้นที่นี้ก่อนที่คนไทยจะเข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน เมื่อ พ.ศ. 2362 เจ้าเมืองนครราชสีมา (ทองอินทร์) ตีข่าได้ แล้วนำมายังเมืองนครราชสีมา ภาษาส่วย เป็นภาษาของชาวส่วยที่อพยพมาจากจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ ตำบลห้วยแถลง อำเภอห้วยแถลง ปัจจุบันมีเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ที่ยังคงใช้ภาษาส่วยในกลุ่มของตนเอง นอกจากนั้นจะใช้ภาษาไทยโคราชเป็นพื้น
ญัฮกุร หรือ เนียะกุล เป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาหรือเนินเขาเตี้ย ๆ บริเวณด้านในของที่ราบสูงโคราช ชาวบนอาจสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยทวารวดี อยู่ในบางหมู่บ้านของอำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี และอำเภอหนองบุญมาก ภาษาชาวบน เป็นภาษาตระกูลมอญ-เขมร ปัจจุบันชาวบนพูดภาษาชาวบนเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นใช้ภาษาไทยโคราช
ไทยวน หรือ ไทยโยนก เป็นเผ่าไทยในภาคเหนือของไทย ได้อพยพเข้ามาอยู่ที่อำเภอสีคิ้วสองทางด้วยกันคือ พวกแรกอพยพจากทางเหนือมาอยู่ที่อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ต่อมาเจ้าเมืองสระบุรีต้องการตั้งกองเลี้ยงโคนมที่เมืองนครจันทึก จึงได้แบ่งครอบครัวชาวไทยวนจากอำเภอเสาไห้ไปอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว ส่วนอีกพวกหนึ่งอพยพมาจากเวียงจันทน์ ชาวไทยวนยังรักษาประเพณีและวัฒนธรรมแบบโยนกไว้ได้ดีมาก ภาษาไทยวน ใช้พูดในหมู่ไทยวนด้วยกันเองซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 คน ในเขตอำเภอสีคิ้ว ในท้องที่ตำบลลาดบัวขาว ตำบลสีคิ้ว และตำบลบ้านหัน
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเชื้อสาย ชาวจีน, ชาวเวียดนาม, และแขก (อินเดีย, บังคลาเทศ, ปากีสถาน ฯลฯ)
ดัชนีความก้าวหน้าของคน
ดัชนีความก้าวหน้าของคน (จังหวัดนครราชสีมา) ปี 2564 | |||
---|---|---|---|
ด้านสุขภาพ | ด้านการศึกษา | ด้านชีวิตการทำงาน | ด้านเศรษฐกิจ |
0.6132 | 0.4621 | 0.7888 | 0.6091 |
ด้านที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม | ด้านชีวิตครอบครัวและชุมชน | ด้านการคมนาคมและการสื่อสาร | ด้านการมีส่วนร่วม |
0.7206 | 0.6688 | 0.6736 | 0.5836 |
จังหวัดนครราชสีมา มีค่าดัชนีความก้าวหน้าของคนที่ 0.6331 |
(หรือ เอชเอไอ) เป็นดัชนีติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนามนุษย์ในระดับจังหวัดของไทย เริ่มจัดทำตั้งแต่ปี 2546 โดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (หรือ ยูเอนดีพี) ต่อมาสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้ามาทำหน้าที่นี้แทนตั้งแต่ปี 2560
ดัชนีรวมที่ครอบคลุมขอบเขตสำคัญทั้งหมดแปดด้านของการพัฒนามนุษย์ คือ
- ด้านสุขภาพ
- ด้านการศึกษา
- ด้านชีวิตการทำงาน
- ด้านเศรษฐกิจ (รายได้)
- ด้านที่อยู่อาศัยและชุมชนสภาพแวดล้อม
- ด้านชีวิตครอบครัวและชุมชน
- ด้านการคมนาคมและการสื่อสาร
- ด้านการมีส่วนร่วม
- ดัชนีความก้าวหน้าของคน (หรือ เอชเอไอ) ของจังหวัดนครราชสีมา เปรียบเทียบรายปี
- = สูงขึ้น
- = คงที่
- = ต่ำลง
- ตัวเลขด้านข้างเครื่องหมายแสดงถึงอันดับที่เปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อนหน้า
|
การศึกษา
โรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐ
- โรงเรียนโคราชพิทยาคม
- โรงเรียนจักราชวิทยา
- โรงเรียนโนนสูงศรีธานี
- โรงเรียนนิคมพิมายศึกษา
- โรงเรียนบุญวัฒนา
- โรงเรียนปากช่อง
- โรงเรียนภู่วิทยา
- โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด
- โรงเรียนมัธยมวชิราลงกรณวราราม
- โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
- โรงเรียนสีดาวิทยา
- โรงเรียนเสิงสาง
- โรงเรียนหนองกราดวัฒนา
โรงเรียนมัธยมศึกษาของเอกชน
สถาบันอุดมศึกษา
สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (ศูนย์กลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา)
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
- มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย และศูนย์การศึกษาโคราช
- สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า สีคิ้ว)
- สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา)
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
- มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
- วิทยาลัยนครราชสีมา
- วิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์
- สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน ศูนย์การเรียนรู้จังหวัดนครราชสีมา
- วิทยาลัยพิชญบัณฑิต นครราชสีมา
- วิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติ วิทยาเขตนครราชสีมา
- สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หน่วยการเรียนทางไกลจังหวัดนครราชสีมา
สถาบันอาชีวศึกษา
สถาบันการอาชีวศึกษาของรัฐ
- สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ประกอบด้วยวิทยาลัยในสังกัด 9 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา,วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา,วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี,วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ,วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์,วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง,วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ มีที่ตั้งสำนักงานสถาบัน(ชั่วคราว) อยู่ภายในวิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็น 1 ในสถาบันการอาชีวศึกษา 19 สถาบัน ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎกระทรวงการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2555 สำหรับวิทยาลัยในสังกัดในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่
- วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เปิดสอนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ-ปริญญาตรี (สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ)
- วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี อ.โชคชัย
- วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อ.ด่านขุนทด
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาอื่น ๆ
- (สารพัดช่างนครราชสีมาเดิม)
- วิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยีนครราชสีมา อ.สีคิ้ว
- วิทยาลัยเทคนิคปักธงชัย
- วิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวนครราชสีมา (NR-CBAT) เปิดสอนระดับ ปวช.-ปวส. ในด้านบริหารธุรกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
- วิทยาลัยเทคนิคปากช่อง (การอาชีพปากช่องเดิม)
- (การอาชีพพิมายเดิม)
- วิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ (การอาชีพบัวใหญ่เดิม)
- วิทยาลัยการอาชีพชุมพวง
- สถาบันอาชีวศึกษา (เอกชน)
- วิทยาลัยเทคโนโลยีชนะพลขันธ์ นครราชสีมา
- วิทยาลัยเทคโนโลยีอาชีวศึกษานครราชสีมา
- (ยุบรวมเข้ากับมารีย์บริหารธุรกิจ เมื่อปี 2561)
- (โรงเรียนคาทอลิกในสังกัดเขตมิสซังนครราชสีมา)
วิทยาลัยเฉพาะทาง
- เปิดสอนหลักสูตรนาฏศิลป์ชั้นต้น กลาง และสูง
สถาบันวิจัย
การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลศูนย์
- โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา (1,619 เตียง) เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
- โรงพยาบาลทั่วไป
- (300 เตียง)
- โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา (200 เตียง)
- (144 เตียง)
- โรงพยาบาลชุมชน
|
|
|
|
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (820 เตียง)
- โรงพยาบาลทหาร
- โรงพยาบาลค่ายสุรนารี (420 เตียง)
- (50 เตียง)
- โรงพยาบาลเอกชน
|
|
- โรงพยาบาลเฉพาะทาง
- โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ (300 เตียง)
- อื่นๆ
- (60 เตียง)
การคมนาคม
ทางอากาศ
วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ - ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (จันทร์, พุธ, พฤหัสบดี, เสาร์) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
วันที่ 3 ธันวาคม 2560 สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส เปิดให้บริการเส้นทางบิน นครราชสีมา - เชียงใหม่ และภูเก็ต (ปัจจุบันสายนี้หยุดให้บริการแล้ว)
วันที่ 21 ธันวาคม 2560 สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส เปิดให้บริการเส้นทางบิน นครราชสีมา - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) (ปัจจุบันสายนี้หยุดให้บริการแล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
- เส้นทางผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านรังสิต วังน้อย จนถึงจังหวัดสระบุรี ข้ามทางต่างระดับมิตรภาพ ทางทิศตะวันออก ไปยังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านอำเภอแก่งคอย มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เรื่อยไปจนถึงอำเภอปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน และจังหวัดนครราชสีมา รวมระยะทางประมาณ 256 กิโลเมตร
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 เส้นทางผ่านเขตมีนบุรี อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอพนมสารคาม อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัย จนถึงจังหวัดนครราชสีมา รวมระยะทางประมาณ 273 กิโลเมตร
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305 เส้นทางรังสิต-นครนายก ต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 ไปกบินทร์บุรี แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ผ่านอำเภอวังน้ำเขียว ปักธงชัย เรื่อยไปจนถึงจังหวัดนครราชสีมา
รถโดยสารประจำทาง
จากกรุงเทพมหานคร
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ - นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
- รถปรับอากาศชั้น 1
- บริษัท เชิดชัยโคราช จำกัด (ราชสีมาทัวร์)
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
- บริษัท นครชัย21 จำกัด
- บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)
- รถปรับอากาศชั้น 2
- กลุ่มเดินรถ ป.2 สาย 21
- รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
- เสรี รถตู้ลีมูซีน
- กลุ่มเดินรถตู้จากนครราชสีมาไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
ภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 สถานีรถไฟนครราชสีมา สถานีรถไฟชุมทางจิระ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา เทอร์มินอล 21 โคราช และสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วนหริอเรียกผ่านแอปพลิเคชัน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวนมากกว่า 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย อำเภอห้วยแถลง อำเภอโชคชัย อำเภอหนองบุญมาก และอำเภอเสิงสาง
เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
เดินทางระหว่างประเทศ
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา - นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา หรือ 01.00 น.
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่าง ๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 430,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 12,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ สระบุรี-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา ประกอบด้วย
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 3,000 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 740,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 80,000 คน/วัน หรือประมาณ 19,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ - อุบลราชธานีและกรุงเทพ - หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
รถไฟความเร็วสูง
โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ–นครราชสีมา–หนองคาย) ช่วงที่ 1 กรุงเทพ (บางซื่อ) – นครราชสีมา (กำลังก่อสร้าง เปิดให้บริการในปี 2570)
- สถานีที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมา
- สถานีรถไฟปากช่อง
- สถานีรถไฟนครราชสีมา
- สถานีรถไฟบัวใหญ่ (ในอนาคต)
ทางหลวง
ทางหลวงพิเศษ
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 หรือมอเตอร์เวย์บางปะอิน–สระบุรี–นครราชสีมา (กำลังก่อสร้าง)
- ทางออกในเขตจังหวัดนครราชสีมา
- ปากช่อง
- สีคิ้ว
- ขามทะเลสอ
- นครราชสีมา
- ทางออกในเขตจังหวัดนครราชสีมา
ทางหลวงแผ่นดิน
ทางหลวงสายสำคัญของจังหวัดนครราชสีมามีดังนี้
- ทางหลวงหมายเลขหลักเดียว
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ในเขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจาก กลางดง - ปากช่อง - คลองไผ่ - สีคิ้ว - สูงเนิน - โคกกรวด - นครราชสีมา - จอหอ - ตลาดแค - บ้านวัด - สีดา - สิ้นสุดจังหวัดนครราชสีมาในเขตอำเภอบัวลาย
- ทางหลวงหมายเลขสองหลัก
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (ถนนโชคชัย-เดชอุดม และถนนสถลมารค) ในเขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากทางแยกต่างระดับสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา - รอยต่ออำเภอหนองบุนนากกับอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
- ทางหลวงหมายเลขสามหลัก
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ถนนสุวินทวงศ์) ในเขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากรอยต่อจังหวัดปราจีนบุรีกับอำเภอวังน้ำเขียว - อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ในเขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา - รอยต่ออำเภอด่านขุนทดกับอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 202 ในเขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากรอยต่อ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul cnghwdnkhrrachsima khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir nkhrrachsima hruxruckinchux okhrach epncnghwdhnunginphakhtawnxxkechiyngehnuxkhxngpraethsithy miphunthi 20 493 tarangkiolemtr miphunthikwangihyepnxndb 2 khxngpraeths chuxemuxngnkhrrachsimapraktthiepnbthkhwamepnkhrngaerkepnemuxngphrayamhankhrinkarptirupkarpkkhrxnginrchsmysmedcphrabrmitrolknath tngxyuinphunthixaephxsungenin cnghwdnkhrrachsima inrchsmysmedcphranaraynmharachthrngmirbsngihyayemuxngnkhrrachsimamatngbriewnphunthipccubn emux ph s 2199 2231cnghwdnkhrrachsimacnghwdkarthxdesiyngxksrormn xksrormnChangwat Nakhon Ratchasima tamekhmnalikacakdanbn prasathhinphimay xnusawriythawsurnari xuthyanaehngchatiekhaihy pratuchumphl phraprathaninprasathhinphnmwnthngtrakhakhwy emuxnghyingkla phaihmdi hmiokhrach prasathhin dindanekwiynaephnthipraethsithy cnghwdnkhrrachsimaennsiaedngaephnthipraethsithy cnghwdnkhrrachsimaennsiaedngpraeths ithykarpkkhrxng phuwarachkar chywthn chunoksum tngaet ph s 2567 phunthi thnghmd20 493 964 tr km 7 912 764 tr iml xndbphunthixndbthi 2prachakr ph s 2566 thnghmd2 625 794 khn xndbxndbthi 2 khwamhnaaenn128 12 khn tr km 331 8 khn tr iml xndbkhwamhnaaennxndbthi 37rhs ISO 3166TH 30chuxithyxun okhrach rachsimasylksnpracacnghwd tnimsathr dxkimsathr stwnaplabasalaklangcnghwd thitngthnnmhadithy tablinemuxng xaephxemuxngnkhrrachsima cnghwdnkhrrachsima 30000 othrsphth0 4424 3798 othrsar0 4425 5070ewbistwww wbr nakhonratchasima wbr go wbr thswnhnungkhxngsaranukrmpraethsithythimakhxngchuxmiphuesnxwaxacmikhwamepnipidthi emuxngnkhrrach khuxemuxngediywknkbemuxngrad khxngphxkhunphaemuxng enuxngcakmikhwamsmphnthiklchidkbemuxngphrankhrhlayprakar nxkcaknirupslkkxngthphchawsyambnraebiyngdanhnungkhxng nkhrwd xacepnchawsyamcaklumaemnamulthiekiywkhxngkbemuxngnkhrrach aelayngmikarklawthungemuxngnkhrrachsimainphngsawdarkhxngkmphuchahlaykhrngdwy xyangirktam phuthimimummxngxikdanhnungkwa nkhrrachsima nnepnkhaithyepnkhaihm aeykepnkhaidkhux nkhr rach aela sima hmaykhwamwa emuxngihyxnepnkhxbkhnthsimakhxngrachxanackr rach sima swnkhawa okhrach saeniyngthin okh rad ithyklang okh rad ekhmr ok eriych nn nacaephiynmacak nkhrrach xantamsaeniyngwa khxn h rad sungepnkhaeriyknkhrrachsimaaebbyx khxngchawban hrux xngkxreriyc txmaldrupepn kxreriyc aelaephiynepnokhrachinthisud aetimidephiynmacakchuxemuxngokhrakhpura Gorakhpur thiepnchuxemuxngsmyihminaekhwnediywkbemuxngxoythya Ayodhya inxinediy tamkhxsnnisthankhxngsmedcphraecabrmwngsethx phraxngkhecadiswrkumar krmphrayadarngrachanuphaph aetxyangid enuxngcakemuxngokhrachthisungeninmikhwamekaaekkwaemuxngokhrakhpura swnbnthukkhxngsimng edx laluaebr thutchawfrngessthiekhamakrungsrixyuthyainsmykhxngsmedcphranaraynmharach idekhiynchuxbnaephnthibriewnniwa Corazema hrux okhrachesma edimthinnchuxemuxngnkhrrachsima mikarich nkhrrachsima aela nkhrrachsihma slbknip cnkrathngemuxwnthi 12 mkrakhm ph s 2445 ph s 2444 edim idmiphrabrmrachoxngkar ihprakaswachuxmnthlaelemuxngnkhrrachsihma sungichtw h karntdwynn epnkarphidcakkhwamhmaykhxngchuxemuxng aetnitxipxyaihichtw h karnt ihichwa nkhrrachsima inkarthicaxxkchuxekiywdwymnthlaelemuxngniinthithngpwng rachkiccanuebksa wnthi 12 mkrakhm r s 120 elm 18 hna 791prawtisastrsmykxnprawtisastr phaphekhiynsiekhacnthrngamthiwdekhacnthrngamxaephxsikhiwepnphaphekhiynsikhxngmnusyyukhkxnprawtisastr cakhlkthanthangobrankhdiphbwamichumchnobranyukhkxnprawtisastrtngaetyukhhinihmtxenuxngmathungyukhsaridaelayukhehlkxyuthixaephxonnsungprakxbdwyaelaaehlngobrankhdibanonnwd sungepnchumchnthimikarxasyxyangtxenuxngtngaetpraman 3000 pikxntngaetyukhhincnthungyukhprawtisastr inyukhsaridmikarkhnphbekhruxngpradbsaridtangaelaekhruxngpndinepha aehlngobrankhdibanonnwdepnaehlngobrankhdiyukhkxnprawtisastrthiihythisudinpraethsithy miphbkarfngsphphuihyiwinphachnadinepha thixaephxphimayphbphachnadinephaaebbphimayda Phimai Black Ware emuxekhasuyukhprawtisastrwthnthrrmekhmrxinediyaelaphraphuththsasnaekhamainphunthi thaihchumchninyukhkxnprawtisastrthukaethnthidwychumchninyukhprawtisastrsungidrbxiththiphlthangwthnthrrmcakphaynxk smyobran xanackrsricnasa inyukhthwarwdipraktmixanackrsricnasa hrux cnasapura khunsungsnnisthanwamisunyklangxyuthiemuxngobranesma intablesmaxaephxsungenininpccubn phbhlkthanekiywkbxanackrsricnasacakcaruksxngchinidaek phbthibanxikaxaephxsungenin kahndxayuthiph s 1411 ichxksrhlngpllwaaelacarukdwyphasasnskvtaelaphasaekhmr klawthungphrarachaaehngsricnasaprathanstwaelathasaekphrasngkhaelasrresriyxngsethphphusrangsiwlungkh aelasungphbthixyuthyaepnxksrkhxmobraninphasasnkvtaelaekhmrklawthungrayphranamkstriyaehngsricnasacarukkhunemuxpiph s 1480 emuxngesmaepnemuxngmikhunakhndinlxmrxbepnrupwngklmriphbobransthancanwnekaaehng nxkcakniyngmiphranxnhinthraythiwdthrrmckresmaramsungsnnisthanwasrangkhuninyukhsricnasa hlkthanthiphbaesdngwathungphraphuththsasnainsricnasasungidrbxiththiphlcakthwarwdixyukhukbsasnaphrahmniswnikay emuxngsricnasamikhwamsmphnthkbemuxngsriethphcnghwdephchrburnaelaemuxnglaowsungxyuphayitediywkn emuxckrwrrdiekhmraephkhyayxanacmainphunthiemuxpramanphuththstwrrsthi 15 thaihxanackrsricnasasinsudlng ph s 1514 klawthungphraecachywrmnthi 5 emuxng okhrakhapura thuxkaenidkhunthitablokhrachrimmiprasathemuxngaekhkaelasungepnsilpaaebbekaaaekr prasathphimayaelaxanackrkhxmobran prasathhinphimay srangkhunrawrawphuththstwrrsthi 16 epnobransthanthrngkhxmaebbbapwnthiihythisudinpraethsithy snnisthanwaprasathhinphimaythuksrangkhuninsmykhxngphraecasuriywrmnthi 1 enuxngcakrupaebbsilpakhxngsumaelamukhhnaprasathprathanepnsilpaaebbbapwnsungepnsilpainsmykhxngphraecasuriywrmnthi 1 nxkcakprasathhinphimayyngmiprasathhinphnmwnthitablbanophthisungsrangkhuninyukhediywkn phbcarukthiprasathphimaythnghmdhkhlk klawthungkarbuchaaelathwaykhxngaedphraphuththeca karklawsrresriyphraecasurywrmnthi 1 aelakarsrangrupekharphrwmthngphithikrrmtang carukprasathhinphimay 2 ph s 1579 klawthungphranam srisurywrma prasathhinphimayepnsasnsthaninphuththsasnawchryan thbhlngkhxngprasathprathanslkepnrupkhxngphrachinphuththaaelaphbsylksnaelarupekharphkhxngwchryanxun emuxngphimayhrux wimaypura epnthanthimnkhxngrachwngsmhithrpurasungerimtnkhunthiphraecachywrmnthi 6 aelatxmaidkhrxngckrwrrdiekhmr carukprasathhinphimay 3 ph s 1651 sungtrngkbsmyphraecathrninthrwrmnthi 1 klawwa kmretngxysriwiernthrathibdiwrmaemuxngochkwakulsthapnakmretngchkhtesnabdiitrolkywichy sungepnesnabdiaehngkmretngchkhtwimaya inyukhnimikarsrangprasathphimayephimetiminsilpayukhnkhrwdsungepnsilpainsmykhxngphraecasuriywrmnthi 2 prasathhinphimaycungepnkarrwmknkhxngsilpayukhbapwnaelasilpayukhnkhrwd emuxrachwngsmhithrpuraidkhunkhrxngckrwrrdiekhmremuxngwimayprathwikhwamsakhykhuninthanasunyklangkarpkkhrxngkhxngkhxmobraninlumaemnamultxnbn insmykhxngphraecachywrmnthi 7 burnaprasathphimayenuxngcakepnemuxngekidkhxngphramarda cakthipraktinph s 1734 thinkhrthmsungklawthungesnthangkarkhmnakhminsmyphraecachywrmnthi 7 klawwa cakemuxnghlwngipyngemuxngwimay mi thiphkphrxmdwyif 17 aehng aesdngihehnwaemuxngwimayepnemuxngcudhmayplaythangthisakhy phbruppratimakrrmehmuxnkhxngphraecachywrmnthi 7 thiprasathphimay txmaemuxckrwrrdiekhmresuxmxanaclngaelaxanackrxyuthyaaephkhyayxanacekhamacungldkhwamsakhylng smyxyuthya chbbplik elkhthaebiyn 222 2 k 104 klawthungsmedcphrabrmrachathirachthi 2 ecasamphraya xyupihnung thanihktkaetngchangmariphl thngpwngcaykipemuxngphimayphnmrungisr phxecaemuxngthnghlaythwaybngkhmphrabathphuepnecakihphrarachthanrangwlaelwkhunipxyutamphumilaena sungtrngkbsilasungcarukkhunemuxph s 1974 aelaphbthixaephxlasnthicnghwdlphburi klawthungsmedcphraxinthrabrmckrphrrdithrrmikrachoprdihkhunsriichyrachmngkhlethph exacturngkhchangmariphlipocmcbphrankhrphimayphnmrung aesdngihehnwaxanackrxyuthyaaephkhyayxanacekhamainekhtlumaemnamultxnbnaelathirabsungokhrachdantawntkinrchsmykhxngsmedcphrabrmrachathirachecasamphraya insmyxyuthyaemuxngnkhrrachsimakhux emuxngokhrakha rimaemnalatakhxngintablokhrachxaephxsungenininpccubnsungxyuiklchidkbemuxngesma emuxngnkhrrachsimamikhwamsakhyinthanaepnthankarpkkhrxngkhxngxyuthyainlumaemnamultxnbnaelaepnrxytxxanaekhtkhxngxyuthyakbxanackrlanchangaela inrchsmysmedcphrabrmitrolknathcakkdmnethiyrbalemuxngnkhrrachsimaepnhnunginemuxngphrayamhankhraepdemuxngsungecaemuxngtxngthuxnaphiphthnstya inphraixykartaaehnngnaphleruxn nathharhwemuxng praktrachthinnamkhxngecaemuxngnkhrrachsimawa xxkyakaaehngsngkhramramphkdixphyphiriybrakrmphahu skdina 10 000 ir phngsawdarekhmrrabuwainph s 2113 emuxsmedcphrabrmrachathi 3 aehngxanackrekhmrlaaewkekhatikrungsrixyuthyaimsaerccungykthphekhamayudemuxngnkhrrachsimaidsaercsmedcphranerswrthrngcdkarpkkhrxnghwemuxngkhunihmodyemuxngnkhrrachsimamithanaepnemuxngchnoth nxkcakniphngsawdarekhmryngrabuxikwainph s 2173 rchkalsmedcphraecaprasaththxng phrasrithrrmrachathi 2 aehngxanackrekhmrxudngykthphmakwadtxnphukhninekhtemuxngnkhrrachsima emuxngokhrachsimainaephnthikhxng la luaebr ph s 2236 khrnthungsmykrungsrixyuthyatxnplaysmedcphranaraynmharach thrngehnwankhrrachsimamikhwamsakhythangyuththsastrenuxngcakepnemuxnghnadankhxngxyuthyatidkbphrmaednlawlanchang cungoprdihyayemuxngnkhrrachsimacakemuxngokhrakhaedimaelaemuxngesmamasrangemuxngihmthixaephxemuxngnkhrrachsimainpccubn wangphngemuxngodyedxlamar De la Mare wiswkrchawfrngess epntarangrupsiehliymkwang 1 000 emtr khwamyaw 1 700 emtr mikaaephngemuxngkhnadihytamaebbtawntkmipxmkhayhxrb smedcphranaraynmharachthrngrwmchuxemuxngokhrakhaaelaemuxngesmaaelwphrarachthannamemuxngihmwa emuxngnkhrrachsima emuxculskrach 1036 phuththskrach 2217 aelathrngaetngtngihepnecaemuxng simng edx la luaebr bnthukiwincdhmayehtulaluaebrwa emuxngokhrachsima Corazema epnhwemuxngihyhnunginecdmnthl tngxyutidchayaednkhxngrachxanackrsyamkbemuxnglaw miemuxngbriwar 5 emuxngidaek emuxngnkhrcnthuk xaephxsikhiw emuxngchyphumi emuxngphimay emuxngburirmy aelaemuxngnangrxng emuxsmedcphraephthrachathrngyudxanacinph s 2231 phrayaymrach sngkh ecaemuxngnkhrrachsimathiaetngtngodysmedcphranaraynaekhngemuxngimipthuxnaphiphthnstya phraephthrachathrngsngthphekhalxmemuxngnkhrrachsimainph s 2232 aetimsaercaelathxyklbip phraephthrachacungthrngsngthphmaxikkhrnginpithdmasamarthyudemuxngnkhrrachsimaidinthisud phrayaymrach sngkh hlbhniipyngemuxngnkhrsrithrrmrach caknnpiph s 2241 chawbaninemuxngnkhrrachsimachuxbuykwangphrxmphrrkhphwkxikyisibaepdkhnsamarthyudxanacinemuxngnkhrrachsimacakecaemuxngkhnihmid naipsu phraephthrachathrngsngthphekhalxmemuxngnkhrrachsimaxikkhrngkinewlayudeyuxxyunanthungsampi fayxyuthyaichxubayphukhmxdinraebidkbwawculaaelwchkihlxyiptkinemuxngnkhrrachsimaephuxihekidephlingihm cnkrathngecaemuxngnkhrrachsimaxxkxubayihbuykwangaelaphrrkhphwkykthphiptngthilphburithphhlwngcungekhatithphbuykwangphayaephip inkhnathiphngsawdarchbbphncnthnumasklawwahlngcakthuklxmbuykwangaelaphrrkhphwkhlbhnixxkcakemuxngnkhrrachsimaipid emuxthphphmaekhalxmkrungsrixyuthyainph s 2309 krmhmunethphphiphithphraoxrsinphraecaxyuhwbrmoksesdccakhwemuxngchaythaeltawnxxkmaekliyklxmihphrayankhrrachsimaecaemuxngnkhrrachsimaihkarsnbsnunaedphraxngkhinkarkxbkuxyuthyacakkarlxmkhxngphma aetphrayankhrrachsimaimyinyxmdwy krmhmunethphphiphithcungthrngsnghmxmecaprayngphraoxrsaelahlwngmhaphichylklxbnakxngkalngekhaemuxngnkhrrachsimaaelathakarlxbsngharphrayankhrrachsima krmhmunethphphiphithcungthrngsamarthyudemuxngnkhrrachsimaidaetephiyngimnannxngchaykhxngphrayankhrrachsimathithuksngharipnnkhuxhlwngaephnghlbhniipyngemuxngphimaykhxkhwamchwyehluxcakphraphimayphuepnecaemuxngphimayinkaryudemuxngnkhrrachsimakhuncakkrmhmunethphphiphith phraphimayaelahlwngaephngykthphcakemuxngphimayekhamayudemuxngnkhrrachsimaidsaercaelacbkumkrmhmunethphphiphith phraphimayiwphrachnmchiphkrmhmunethphphiphithaelaechiykrmhmunethphphiphithipprathbthiemuxngphimay hlwngaephngidepnphrayankhrrachsima smykrungthnburi hlngkrungsrixyuthyalmslayinph s 2310 ecaemuxngphimaycungykihkrmhmunethphphiphithkhunepn ecaphimay ekidkhun ecaphimaykrmhmunethphphiphiththrngaetngtngecaemuxngphimayedimepnecaphrayasrisuriywngs ecaphrayasrisuriywngs phraphimay ykthphekhalxbsngharphrayankhrrachsima hlwngaephng chumnumecaphimaymiekhtxanactngaetsraburikhunipcrdekhtaednkhxngxanackrlanchang epnhnunginchumnumtangthiekidkhunhlngkaresiykrungsrixyuthyaodymikrmhmunethphphiphithhruxecaphimaypnphuna inph s 2311 hlngcakthismedcphraecakrungthnburithrngtikhayophthisamtnaetkaelw mxngyapldthphfayphmahlbhnimaekhaphwkkbchumnumphimay smedcphraecakrungthnburicungykthphtidtamkhunmatichumnumecaphimay ecaphimayihecaphrayasrisuriywngs phraphimay tngrbxyuthidancxhx tablcxhx xaephxemuxng aelaihphrayawrwngsathirachbutrchaykhxngecaphrasrisuriywngstngthphxyuthidankhunthd thphhlwngkhxngsmedcphraecakrungthnburithrngykthphekhayudkhaykhxngecaphrayasrisuriywngs ecaphimay thicxhxidsaerc ecaphrayasrisuriywngs phraphimay thukcbkumaelapraharchiwit phrarachwrinthr thxngdwng txmakhuxphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk aelaphramhamntri buyma txmakhuxkrmphrarachwngbwrmhasursinghnath ekhayudkhaykhxngphrayawrwngsathirachthidankhunthdidsaerc emuxthphthngsxngphayaephaekthnburiecaphimaycunghlbhnicakemuxngphimayipynglawlanchangaetkhunchnacbecaphimaymathwayaedphraecakrungthnburi phraecakrungthnburithrngsaercothsecaphimayaelaaetngtngihkhunchnaepnphrayakaaehngsngkhramkhrxngemuxngnkhrrachsima chumnumecaphimaycungsinsudlngaelankhrrachsimacungekhamaxyuphayitkarpkkhrxngkhxngthnburi insmythnburipraktminamecaemuxngnkhrrachsimaidaek phrayakaaehngsngkhram khunchna aela ecaphrayankhrrachsima pin emuxsmedcecaphrayamhakstriysukthrngykthphipxanackrlanchangewiyngcnthnpiph s 2321 nn ecaphrayankhrrachsima pin idepnthphhna inph s 2323 smedcphraecakrungthnburithrngihphrayakaaehngsngkhram khunchna yayiprbrachkarthithnburiaelaaetngtngihhlwngnayvththi thxngxin epnphrayasuriyxphy thxngxin epnecaemuxngnkhrrachsima txmakhuxecafakrmphraxnurksethewsr aelaphraxphysuriya buyemuxng epnpldemuxngnkhrrachsima txmakhuxecafakrmhlwngthiebsrbdinthr inchwngplayrchsmyphraecakrungthnburiemuxekidkarkbtphrayasrrkhkhun phrayasuriyxphyecaemuxngnkhrrachsimaidnakalngthharkhxngnkhrrachsimaekhakhwbkhumsthankarnthikrungthnburiiwkxnthiecaphrayackriaelaecaphrayasursihcaykthphklbmacakkmphuchaaelaekidkarepliynaephndin smyrtnoksinthr thawsurnari inrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk thrngaetngtngih butrkhxngecaphrayankhrrachsima pin epnecaemuxngnkhrrachsima emuxsyammixanacehnuxhwemuxngpraethsrachlawlanchangthaihemuxngnkhrrachsimamikhwamsakhyinthanaepnchxngthangaelasuxklangrahwangswnklangthikrungethphaelapraethsrachlaw emuxngnkhrrachsimacungthukykthanakhunmaepnemuxngchnexk ecaemuxngnkhrrachsimamixanacinkarsxdsxngduaelpraethsrach 3 emuxng khux ewiyngcnthn nkhrphnm capaskdi rwmthnghwemuxngekhmrpadng insmyrchkalthi 2 ph s 2362 ekidthixanackrlanchangcapaskdi mirbsngihphrayankhrrachsima ethiyng nakxngthphipprab phudarngtaaehnngecaemuxngnkhrrachsimatxcakphrayankhrrachsima ethiyng khuxecaphrayankhrrachsima thxngxin epnbutrbuythrrmkhxngecaphrayankhrrachsima pin insmyrchkalthi 3 ph s 2369 khnathiecaphrayankhrrachsima thxngxin kbphrapldemuxngnkhrrachsimakalngxyuinrachkarthiemuxngkhukhnthxyunn ecaxnuwngsykthphlawmayudkhrxngemuxngnkhrrachsimaidaelasngihkwadtxnchawemuxngnkhrrachsimaipyngewiyngcnthn phrayaphrhmykkrabtremuxngnkhrrachsimacatxngyxmcanntxecaxnuwngs fayphrapldemuxngnkhrrachsimaemuxthrabwafaylawekhayudemuxngnkhrrachsimaaelwcungribedinthangklbmayngnkhrrachsimaaesrngthathiwaekhaswamiphkditxecaxnuwngs phrapldemuxng phrayaphrhmykkrabtr cungnachawemuxngnkhrrachsimatidtamecaxnuwngsipcnkrathngthungthungsmvththi tablsmvththi xaephxphimay phrapldemuxngaelaphrayaphrhmcungnakxngkalngchawemuxngnkhrrachsimaekhaocmtifaylaw inkhnathikhunhyingomphriyakhxngphrapldemuxngnathphkhxngphuhyingthuxxawuthepnkrabxngaelahlawthacakimekhatxsukbfaylaw naipsu nangsawbuyehluxbutrikhxnghlwngecriykrmkaremuxngphunxywingnakhbephlingipcudchnwnekwiynbrrthukkrasundindathaihekidraebidxyangrunaerng nangsawbuyehluxslachiphesiychiwitipphrxmkbkhunphlfaylaw ehtukarnwirkrrmthithungsmvththithaihecaxnuwngstxngthxythphklbipodyihecaothngphuepnhlantngmnxyuthiemuxngphimay txmainph s 2370 khunhyingomcungidrbkarpunbaehncaetngtngihepn thawsurnari krmphrarachwngbwrmhaskdiphlesphthrngykthphmatngmnthinkhrrachsima ecaphrayankhrrachsima thxngxin ekhaefakrmphrarachwngbwr krmphrarachwngbwrmiphrabnthurihecaphrayankhrrachsima thxngxin xyufunfuemuxngnkhrrachsimaihklbkhunmadngedim phrayarachsuphawdi singh txmakhuxecaphrayabdinthredcha singh singhesni samarthtithphkhxngecaothngaetkphayipaelwyudemuxngphimaykhunmaid emux ecaphrayankhrrachsima thxngxin thungaekkrrm phraphrhmbrirks eks butrchaykhnotkhxngecaphrayabdinthredchaidrbkaraetngtngihepn ecaemuxngnkhrrachsimakhntxma emuxwangewncaksngkhram emuxngokhrachidfuntwkhunihmklayepnchumthang karkhathisakhy inkartidtxrahwangphakhtawnxxkechiyngehnuxkbphakhklang mikxngekwiyn kxngkharawankarkha khnadihyphan aela hyudphkxyuesmx insmyrchkalthi 4 bathhlwngpalelkws idekhiynwa twemuxngokhrachlxmrxbdwykaaephngtngxyubnthirabsung edinthangcakbangkxkichewla 6 wnodyitradbsungkhuniptamesnthang dngphyaif prachakrokhrachmipraman 60 000 khn khrunghnungepnkhnsyam xikkhrunghnungepnkhnekhmr intwemuxngmiprachakr 7 000 khn mikhncinpraman 700 khn miehmuxngaerthxngaedng miornghibxxy sinkha khux khaw ngachang hnngstw ekhastw imetng xbechy inrchkalni ecaphrayankhrrachsima eks ideluxnepn ecaphrayamukhmntri eks aela ecaemuxngnkhrrachsimakhntxmakhux phrayankhrrachsima aekw butrchaykhnrxngkhxngecaphrayabdinthredcha hlngcaknn phrayankhrrachsima aekw ideluxnepn ecaphrayaymrach aekw aela ecaemuxngkhntxmakhux phrayankhrrachsima emkh butrchaykhnotkhxng ecaphrayankhrrachsima thxngxin insmyrchkalthi 5 phrayankhrrachsima emkh butrkhxng ecaphrayankhrrachsima thxngxin idepnaemthphbkipprabcinhxthiemuxnghnxngkhay txmaemuxmikarcdtngmnthlnkhrrachsimaephuxkhwbkhumduaelhwemuxnginbriewniklekhiyng epnmnthlaerkkhxngpraeths miphrayankhrrachsima kac singhesni butrekhykhxngphrayankhrrachsima emkh epnphuwarachkarkhnaerk mikarcdtngkxngthharpracamnthltamhlksakl mikartngorngeriynnayrxytarwcthinkhrrachsima mikarsrangthangrthifcakkrungethph phanxyuthya sraburi dngphyaif ipsunkhrrachsima cnepidkaredin saykrungethph nkhrrachsima idsaerc karkhmnakhmtidtxsadwkkhunepnxyangmak inchwngediywknfrngessidekhamamixanacehnuxkhabsmuthrxinodcin thaihsyamcatxngerngkarprbprungphthnarachxanackrodyechphaainbriewnphakhtawnxxkechiyngehnux insmyrchkalthi 6 mikarcdtngkarkhnsngprsniyphnththangxakas aela saykarbinrahwang krungethph nkhrrachsima mikarkhyayesnthangrthifsayxisan cnsamarthkhyayesnthangkaredinrthifcak nkhrrachsima thung khxnaekn aela nkhrrachsima thung xublrachthani idsaercinsmyrchkalthi 7 yukhhlngepliynaeplngkarpkkhrxng inchwnghlngepliynaeplngkarpkkhrxng phraxngkhecabwredch idrwbrwmkxngkalngthharcakmnthlnkhrrachsimaepnhlk rwmkb phnexkphrayasrisiththisngkhram ephuxthakartxsukbkhnaphuepliynaeplngkarpkkhrxng khnaphukxkaridykkxngkalngekhamalxmkrungethph aetemuxkartxsuyudeyuxinthisudktxngthxythphaelaprasbkhwamphayaephenuxngcakmikalngthinxykwa ehtukarnkhrngnithaih phnothhlwngphibulsngkhramphubychakarkxngkalngphsmfayrthbal mixanacinkarkhwbkhumkalngthharmakkhunsngphlihidxanacthangkaremuxngaelacdtngrthbalthharidinewlatxma inchwngsngkhramolkkhrngthisxng kxngthharinsngkd mnthlthharbkthi 3 nkhrrachsima idthakarrwmrbinkrniphiphathxinodcin kxngthphithysamarthyuddinaednklbkhunmabangswn epnkarchwkhraw hlngsngkhramyutishrthxemrikaidihkhwamchwyehluxsrangthnnmitrphaph cak sraburi thung nkhrrachsima sungepnthanghlwngthiidmatrthandithisudkhxngpraethsinkhnann inchwngsngkhramewiydnam shrthxemrikaidkhxichnkhrrachsimaepnthanbychakarkarrb mikarsrangthanbinokhrach aelatxmaithyidepliynihepn kxngbin 1 sungepnthankalngrbthangxakashlkkhxngkxngthphxakasithyinpccubn odymimiekhruxngbin F 16 pracakarxyusxngfungbin inpi ph s 2523 mikhwamphyayamrthpraharodyklumthharkhxng phlexksnh citrptima aet phlexkeprm tinsulannthnaykrthmntri idkrabbngkhmthulechiyesdcphrabathsmedcphraecaxyuhwaelaphrarachwngsthrngaeprphrarachthanipprathbthinkhrrachsima kxngkalngthharcakkxngthphphakhthi 2 naodyphltri xathity kalngexkidepnkxngkalnghlkinkarprabkbtlngidinthisud hlngcaknn xditphubychakarkxngthphphakhthi 2 hlaythanidkawekhasutaaehnngphubychakarthharbkinewlatxma enuxngcakkhwamsakhythangyuththsastr pccubn nkhrrachsima cungidklayepnemuxngsunyklangkarpkkhrxngthisakhyrxngcakkrungethphmhankhr epnpratusuxisan epnsunyklangkarkhmnakhmkhxngphakhtawnxxkechiyngehnux rwmthngepnthitngkhxngkxngthankalngrbhlkkhxngkxngthphbk aelakxngthphxakasinpccubn inpi ph s 2553 idekidxuthkphykhrngihyincnghwdnkhrrachsima enuxngcakfnchwngplayvdutkhnkinbriewntnaemnamul nbepnxuthkphykhrngrayaerngthisudinrxb 50 piphumisastrphumipraeths natkehwsuwtinxuthyanaehngchatiekhaihy cnghwdnkhrrachsimaepncnghwdthitngxyuinphakhtawnxxkechiyngehnux idrbsmnyanamwaepn pratusuphakhxisan ephraaepncnghwdaerkinphakhtawnxxkechiyngehnuxthiwingmacakphakhklanginthnnmitrphaph xyubnthirabsungokhrach hangcakkrungethph 259 kiolemtr miphunthithnghmd 20 493 964 tarangkiolemtr 12 808 728 ir epnphunthipaim 2 297 735 ir odyswnihyepnphunthixuthyanaehngchatikhuxxuthyanaehngchatiekhaihyaelaxuthyanaehngchatithblanrxyla 61 4 aelaepnaehlngna 280 313 ir thisehnuxtidtxkbcnghwdchyphumi aelakhxnaekn thisittidtxkbcnghwdpracinburi nkhrnayk aelasraaekw thistawnxxktidtxkbcnghwdburirmy aelathistawntktidtxkbcnghwdsraburi chyphumi aelalphburi phunthiswnihyepnthirab sungcakradbnathaelpanklangrahwang 150 300 emtr miethuxkekhasnkaaephng aelaethuxkekhaphnmdngrk epnaenwyawthangdanthisitaelathistawntk swnbriewntxnlangkhxnipthangehnuxaelatawnxxkepnthirablum odymilatakhxngaelalanasakhaxun ihlhlxeliyngbriewndanehnuxkhxngemuxng aela epnsakhahnungkhxngaemnasakhykhuxaemnamulsungepnaemnasayhlkkhxngphakhtawnxxkechiyngehnux phumixakas sphaphphumixakaskhxngcnghwdnkhrrachsimacdxyuinpraephththunghyaekhtrxn milmmrsumhlkphdphankhux lmmrsumtawnxxkechiyngehnux thaihxakashnaweynaelaaehngaelng kblmmrsumtawntkechiyngit thaihmixakaschumchunaelamifntkchuk odythwipsamarthaebngvdukalxxkidepn 3 vdu khux vdufn erimtngaeteduxnphvsphakhmthungeduxntulakhm mifntkchuk tngaeteduxnemsayncnthungeduxntulakhm odymiprimannafnsungsudineduxntulakhm vduhnaw sphaphxakascaerimepliyncakvdufnipsuvduhnawtngaetklangeduxntulakhmthungklangeduxnkumphaphnth rayaniidrbxiththiphlcaklmmrsumtawnxxkechiyngehnux sungepnlmhnawaelaaehngphdcakpraethscin aelavdurxn erimtngaetklangeduxnkumphaphnth thungklangeduxnphvsphakhm enuxngcakphunthiswnihykhxngcnghwdnkhrrachsimaepnphunthirabsung mipaaelathiwekhasungknekhtaednepnaenwyaw xakascungkhxnkhangrxnxbxawinvdurxn aelainvduhnawkkhxnkhanghnaweynodyxunhphumiechliytlxdthngpipraman 27 4 xngsaeslesiys xunhphumitasudechliy 22 7 xngsaeslesiys xunhphumisungsudechliy 33 xasaeslesiys mikhakhwamchunsmphththechliytlxdthngpi 71 khwamchunsmphththsungsudechliy 89 khwamchunsmphththtasudechliy 49 khxmulphumixakaskhxngcnghwdnkhrrachsima ph s 2504 2533 eduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudechliy C F 30 6 87 1 33 5 92 3 35 8 96 4 36 5 97 7 34 9 94 8 34 1 93 4 33 6 92 5 33 1 91 6 32 1 89 8 30 9 87 6 29 7 85 5 29 3 84 7 32 84 91 12 xunhphumitasudechliy C F 16 8 62 2 20 0 68 22 2 72 24 0 75 2 24 5 76 1 24 3 75 7 23 9 75 23 7 74 7 23 6 74 5 22 6 72 7 20 2 68 4 17 1 62 8 21 91 71 44 hyadnafa mm niw 5 9 0 232 17 8 0 701 37 1 1 461 63 5 2 5 140 5 5 531 108 3 4 264 113 7 4 476 146 2 5 756 221 6 8 724 143 4 5 646 27 3 1 075 2 8 0 11 1 028 1 40 476 wnthimihyadnafaodyechliy 0 1 mm 0 9 2 2 5 1 7 7 13 8 13 3 13 5 16 4 18 1 12 2 4 0 0 7 107 9canwnchwomngthimiaedd 284 2 245 1 253 8 248 1 237 5 208 6 194 6 187 3 169 0 233 4 257 3 282 0 2 800 9aehlngthima 1 WMOaehlngthima 2 CMAxanaekhttidtx thisehnux crdcnghwdchyphumi cnghwdkhxnaeknaelacnghwdburirmy thistawnxxk crdcnghwdburirmy thisit crdcnghwdnkhrnayk cnghwdpracinburiaelacnghwdsraaekw thistawntk crdcnghwdlphburi cnghwdsraburiaelacnghwdnkhrnaykekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh aebngpkkhrxngaebngxxkepn 32 xaephx 289 tabl 3 743 hmuban khxmulxaephxincnghwdnkhrrachsima aephnthiaephnthixaephxincnghwdnkhrrachsimahmayelkhinaephnthi rhsekhtkarpkkhrxng chuxxaephx chn phunthi tr km hangcak salaklang cnghwd km tngemux ph s canwn tabl canwn hmuban prachakrchay hying rwm1 3001 xaephxemuxngnkhrrachsima 0 phiess 755 596 0 2438 25 243 214 809 224 657 439 4668 3008 xaephxdankhunthd 1 1 428 14 84 2451 16 220 62 900 63 881 126 78112 3012 xaephxbwihy 1 305 028 101 2440 10 121 41 776 41 984 83 76014 3014 xaephxpkthngchy 1 1 374 32 34 2451 16 213 56 797 59 349 116 14615 3015 xaephxphimay 1 896 871 60 2440 12 208 64 039 65 925 129 96420 3020 xaephxsikhiw 1 1 247 07 45 2441 12 169 60 967 61 704 122 67121 3021 xaephxpakchxng 1 1 825 17 85 2501 12 217 92 953 94 097 187 0502 3002 xaephxkhrburi 2 1 816 85 58 2482 12 152 46 578 47 683 94 2616 3006 xaephxckrach 2 501 672 40 2496 8 108 34 979 35 138 70 1177 3007 xaephxochkhchy 2 503 917 30 2448 10 126 38 581 40 364 78 94510 3010 xaephxonnsung 2 676 981 37 2440 16 195 61 941 64 443 126 38413 3013 xaephxprathay 2 600 648 97 2506 13 148 38 900 38 948 77 84818 3018 xaephxsungenin 2 782 853 36 2444 11 125 39 140 41 065 80 20516 3016 xaephxhwyaethlng 2 495 175 65 2506 10 120 37 826 37 254 75 08017 3017 xaephxchumphwng 2 540 567 98 2502 9 130 41 132 41 179 82 3113 3003 xaephxesingsang 3 1 200 24 88 2519 6 84 34 440 34 188 68 6284 3004 xaephxkhng 3 454 737 79 2481 10 155 40 231 41 067 81 2989 3009 xaephxonnithy 3 541 994 28 2443 10 131 35 584 36 675 72 25911 3011 xaephxkhamsaaekaesng 3 297 769 50 2511 7 72 21 537 21 722 43 25923 3023 xaephxaekngsnamnang 3 107 258 130 2529 5 56 18 656 18 828 37 48425 3025 xaephxwngnaekhiyw 3 1 130 00 70 2535 5 83 20 992 21 078 42 0705 3005 xaephxbanehluxm 4 218 875 85 2519 4 39 10 733 10 859 21 59222 3022 xaephxhnxngbuymak 4 590 448 52 2526 9 104 29 847 29 882 59 72926 3026 xaephxethpharks 4 357 465 90 2538 4 58 12 087 11 755 23 84228 3028 xaephxphrathxngkha 4 359 522 45 2539 5 74 20 982 21 255 42 23731 3031 xaephxsida 4 162 825 85 2540 5 50 12 177 12 167 24 34430 3030 xaephxbwlay 4 106 893 103 2540 4 45 12 296 12 473 24 76924 3024 xaephxonnaedng 4 193 407 75 2532 5 65 12 536 12 950 25 48619 3019 xaephxkhamthaelsx 4 203 605 22 2509 5 46 14 404 14 418 28 82227 3027 xaephxemuxngyang 4 255 522 110 2538 4 44 14 156 13 925 28 08129 3029 xaephxlathaemnchy 4 308 457 120 2539 4 59 16 166 16 066 32 23232 3032 xaephxechlimphraekiyrti 4 254 093 18 2539 5 61 17 191 17 777 34 968karpkkhrxngswnthxngthin micanwnthngsin 334 aehng aebngxxkepn xngkhkarbriharswncnghwd 1 aehng ethsbalnkhr 1 aehng ethsbalemuxng 4 aehng ethsbaltabl 85 aehng aela xngkhkarbriharswntabl 243 aehng odyethsbalsamarthcaaenkidtamphunthidngni xaephxemuxngnkhrrachsima ethsbalnkhrnkhrrachsima ethsbaltablokhkkrwd ethsbaltablokhksung ethsbaltablcxhx ethsbaltablpruihy ethsbaltablophthiklang ethsbaltablhnxngikhna ethsbaltablhnxngiphlxm ethsbaltablhwthael ethsbaltablemuxngihmokhkkrwd ethsbaltablbanihm ethsbaltablsurnari ethsbaltablbanophthi ethsbaltablichymngkhl ethsbaltablphudsa ethsbaltabltlad xaephxpakchxng ethsbalemuxngpakchxng ethsbaltablhmusi ethsbaltablwngithr ethsbaltablsimamngkhl xaephxsikhiw ethsbalemuxngsikhiw ethsbaltablkhlxngiph ethsbaltablladbwkhaw ethsbaltablhnxngnais xaephxbwihy ethsbalemuxngbwihy ethsbaltablhnxngbwsaxad xaephxpkthngchy ethsbalemuxngemuxngpk ethsbaltablpkthngchy ethsbaltabltakhb ethsbaltablnkxxk ethsbaltablbxplathxng ethsbaltabllanangaekw xaephxdankhunthd ethsbaltabldankhunthd ethsbaltablhnxngkrad ethsbaltablhnxngbwtaekiyd xaephxphimay ethsbaltablphimay ethsbaltablrngkaihy xaephxonnsung ethsbaltablonnsung ethsbaltabldxnhway ethsbaltabltladaekh ethsbaltabldankhla ethsbaltablmakha ethsbaltablihm xaephxochkhchy ethsbaltablochkhchy ethsbaltabldanekwiyn ethsbaltablthaeyiym xaephxkhrburi ethsbaltablkhrburiit ethsbaltablcraekhhin ethsbaltablaecha ethsbaltablithroyng ichywal ethsbaltablxrphimph xaephxethpharks immiethsbal xaephxsungenin ethsbaltablkudcik xaephxkhamthaelsx ethsbaltablkhamthaelsx ethsbaltablphndung xaephxkhamsaaekaesng ethsbaltablkhamsaaekaesng ethsbaltablhnxnghwfan ethsbaltablonnemuxng xaephxkhng ethsbaltablemuxngkhng ethsbaltablethphaly xaephxonnithy ethsbaltablonnithy ethsbaltablokhksway ethsbaltablbllngk xaephxhwyaethlng ethsbaltablhwyaethlng ethsbaltablhindad ethsbaltablkngrth xaephxesingsang ethsbaltablesingsang ethsbaltablonnsmburn xaephxbanehluxm ethsbaltablbanehluxm xaephxckrach ethsbaltablckrach xaephxechlimphraekiyrti ethsbaltablthachang xaephxchumphwng ethsbaltablchumphwng xaephxonnaedng ethsbaltablonnaedng ethsbaltablwnghin xaephxbwlay xaephxprathay ethsbaltablprathay xaephxphrathxngkha ethsbaltablphrathxngkha ethsbaltablsraphra xaephxemuxngyang ethsbaltablemuxngyang xaephxlathaemnchy ethsbaltablchxngaemw ethsbaltablbanyang xaephxwngnaekhiyw ethsbaltablsalecaphx xaephxsida xaephxhnxngbuymak ethsbaltablhnxnghwaert ethsbaltablaehlmthxng xaephxaekngsnamnang ethsbaltablbungsaorngraychuxphuwarachkarcnghwdnkhrrachsimaraychuxphudarngtaaehnngphuwarachkarcnghwdnkhrrachsima aelapldmnthl thahnathi phuwarachkarcnghwdnkhrrachsima raychux warakardarngtaaehnng1 rs 115 120 ph s 2439 2444 2 phrarngsrrkhsarkic eluxn sriephy rs 120 123 ph s 2444 2447 3 phrayasuriyedch cab suwrrntht rs 123 124 ph s 2447 2448 4 phrayawrwiichywuthikr eluxm snthirtn rs 124 125 ph s 2448 2449 5 phrabrmrachbrrhar swsdi wiesssiri rs 125 129 ph s 2449 2453 6 phraichynvnath thxngdi rs 129 131 ph s 2453 2455 7 phraethphrachthani ohmd chlaynkhupt ph s 2455 24568 phrayssunthr siri ethphhsdin n xyuthya ph s 2456 24589 phrayasuriyrachwraphy cr rtnpintha ph s 2458 246010 phntri phrayabrmrachbrrhar eyn pharamrtht ph s 2460 246511 phrayankhrrachesni shs singhesni ph s 2465 247112 phrayaphiriyaphichy ethiyb suwrrnnin ph s 2471 247413 phrayanayknrchn ecriy priyannth ph s 2474 247614 phrayakathrphayphthis dis xinthosls 2 ph y 2476 1 mi kh 247915 phnexk hlwngxacsrsilp praphnth thnphuththi ph s 2479 248416 naysurinthr chionthy ph s 2484 248417 phrasakhrburanurks prik suwrrnannth 19 th kh 2484 30 k y 248618 khunthayanrayrxn wchra wchrbul 1 t kh 2486 21 th kh 248719 hlwngwiwithsurkar thwil eciyrmanph 22 th kh 2487 31 k kh 248820 nayxudm buyprakxb 1 s kh 2488 31 k kh 248921 naythnxm wibulmngkhl 7 s kh 2489 5 th kh 249022 khunbribalbrrphtekhtt sngewiyn bribalbrrphtekhtt 6 th kh 2490 21 mi kh 249223 khunwrkhuttkhnarks buyvththi wrkhutannth 22 mi kh 2492 20 mi kh 249524 nayyuthth crnyannth 21 mi kh 2495 11 t kh 249725 naysuwrrn runys 12 t kh 2497 22 ph kh 250026 phntarwcexk eluxn kvsnamra 23 ph kh 2500 6 mi kh 250127 nayecriy phmrbutr 6 mi kh 2501 4 mi kh 250728 nayswsdiwngs ptithsn 4 mi kh 2507 2 t kh 251129 naysmchay klinaekw 2 t kh 2511 15 em y 251330 rxytarwcoth radm mhasrannth 13 em y 2513 30 k y 251631 naypramul srththathiphy 1 t kh 2516 5 th kh 251632 naywichit sukhawiriya 6 th kh 2516 31 th kh 251833 naycaruy piymputra 1 m kh 2519 30 k y 252034 nayelis hngsphkdi 1 t kh 2520 31 mi kh 252435 naysmburn ithywchramas 1 em y 2524 30 k y 253136 nay 1 t kh 2531 30 k y 253337 naydarng rtnphanich 1 t kh 2533 30 k y 253738 naysuphr suphsr 1 t kh 2537 30 k y 253939 nayprawithy sihosphn 1 t kh 2539 19 t kh 254040 nayoythin emthchnn 20 t kh 2540 22 em y 254441 naysunthr riwehluxng 23 em y 2544 30 k y 254742 nayphngsophym wasphuti 1 t kh 2547 30 k y 254843 naysmburn ngamlksn 1 t kh 2548 30 k y 255044 naysuthi makbuy 1 t kh 2550 27 ph y 255145 naypracks suwrrnphkdi 28 ph y 2551 30 k y 255346 nayraphi phxngbuphkic 1 t kh 2553 23 ph y 255447 naychwn sirinnthphr 24 ph y 2554 30 k y 255548 naywiny bwpradisth 8 t kh 2555 1 mi y 255749 naythngchy luxxduly 2 mi y 2557 30 k y 255850 naywiechiyr cnthronthy 1 t kh 2558 25 ph kh 256451 naykxbchy buyxrna 25 ph kh 2564 30 k y 256450 naywiechiyr cnthronthy khrngthi 2 1 t kh 2564 30 k y 256552 naysyam sirimngkhl 1 t kh 2565 18 mi kh 256753 naychywthn chunoksum 19 mi kh 2567 pccubnesrsthkicpi ph s phlitphnth mwlrwm cnghwd lanbath xtra karetibot epxresnt phlitphnth mwlrwm cnghwdtxkhn bath 2538 83 283 30 0702539 92 906 11 55 36 5482540 96 484 3 85 37 7212541 91 530 5 13 35 5112542 85 317 6 79 32 8472543 87 571 2 64 33 5522544 90 664 3 53 34 5992545 99 028 9 23 37 2002546 111 034 12 12 41 3212547 118 277 6 52 43 6292548 121 141 2 42 44 2952549 134 007 10 62 48 6482550 147 020 9 71 53 0122551 152 069 3 43 54 5032552 159 557 4 92 56 8772553 187 963 17 80 66 6702554 202 014 7 48 71 4052555 239 199 18 41 95 1932556 242 476 1 37 96 6902557 245 248 1 14 97 9632558 264 964 8 04 106 0002559 263 578 0 52 105 6182560 274 898 4 29 110 3012561 295 551 7 51 117 5172562 303 996 2 86 121 0682563 294 604 3 09 117 5212564 315 583 7 12 126 119xangxing phlitphnthmwlrwmraycnghwd ciphiphi aelaciphiphitxhwraycnghwd sankngansphaphthnakaresrsthkicaelasngkhmaehngchati okhrngsrangesrsthkicthisakhykhxngcnghwdnkhrrachsimamiokhrngsrangthisakhy idaek phakhxutsahkrrm phakhkarekstr aelakarkhasngkhaplik sungmixtrasdswnokhrngsrangrxyla 22 46 19 82 aela 14 91 tamladb inphakhkarekstr cnghwdmiphunthiekstrkrrmthngsin 8 931 032 ir aebngepn plukkhaw canwn 4 329 724 ir phuchircaphwkkhawophd mnsapahlng fay aelakhawfang canwn 3 793 602 ir aelaplukphuchswn 632 170 ir mikhrweruxnekstrkrrwmthngsin 326 587 khrweruxn odymiphuchesrsthkic 3 xndbaerk khux khaw mnsapahlng aelakhawophdeliyngstw nxkcakniyngmikareliyngstw ephaaeliyngstwnacud kareliyngihmodyechphaathixaephxpkthngchyepnaehlngphaihmthikhunchux xachiphkarthapaim aelakarpramngnacudtamlumna inphakhxutsahkrrm pi ph s 2560 cnghwdnkhrrachsimamiorngnganthngsin 7 513 orngngan mimulkhakarlngthun praman 188 074 lanbath micanwnkhnnganrwm 129 531 khn sungorngnganxutsahkrrmswnihyepnxutsahkrrmkarekstrmisdswnechliyrxyla 18 84 xutsahkrrmkhnsngechliyrxyla 12 27 xutsahkrrmxolhaechliyrxyla 11 38 aelaxutsahkrrmxaharechliyrxyla 10 02 sahrbxutsahkrrmehmuxngaer miaerthisakhykhux hinbasxlt hinpun aela ekluxhin odyechphaaekluxhin phbmakintxnehnuxaelatxnklangkhxngcnghwd inpi ph s 2564 year 2021 cnghwdnkhrrachsimamiphlitphnthmwlrwmcnghwd Gross Provincial Product GPP ethakb 315 583 lanbath 9 3 Billion US xyuinladbthi 1 khxngphattawnxxkechiyngehnux ladbthi 12 khxngpraeths aela phlitphnthcnghwdtxkhn GPP per capita ethakb 126 119 bath 3 699 US xyuinladbthi 1 khxngphakhtawnxxkechiyngehnux ladbthi 32 khxngpraeths phakhkarenginkarthnakhar cnghwdnkhrrachsimamicanwnsankngankhxngthnakharthngsin 152 sankngan minakhm ph s 2562 enginrbfakrwmthukpraephth minakhm ph s 2562 thngsin 153 649 lanbath aelaenginihsinechuxrwmthukpraephth minakhm 2562 thngsin 169 203 lanbath nikhmxutsahkrrm nikhmxutsahkrrmnwnkhr 2 nkhrrrachsima ekhtxutsahkrrmsurnari nikhmxutsahkrrmsungenin okhrngkar prachakrsastrsthitiprachakrtamthaebiynrasdrcnghwdnkhrrachsimapiprachakr 25502 552 894 25512 565 117 0 5 25522 571 292 0 2 25532 582 089 0 4 25542 585 325 0 1 25552 601 167 0 6 25562 610 164 0 3 25572 620 517 0 4 25582 628 818 0 3 25592 631 435 0 1 25602 639 226 0 3 25612 646 401 0 3 25622 648 927 0 1 25632 633 203 0 6 25642 634 145 0 0 xangxing krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithyprachakrsastr swnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxk pccubncnghwdnkhrrachsimamiprachakrmakepnxndbhnungkhxngphakhtawnxxkechiyngehnux aelamakepnxndbsxngkhxngpraethsrxngcakkrungethphmhankhr prakxbdwyprachakrhlakhlayechuxchatihruxhlaychatiphnthu aetklumchatiphnthuincnghwdnkhrrachsimathimicanwnmakmixyusxngklumihykhux ithy hruxeriykxikxyangwa ithokhrach aelaxikklumkhuxchawlaw aela chawxisan txnbnaeladantawnxxkechiyngehnuxkhxngekhtcnghwd aelamichnklumnxyxikidaek mxy kuy hruxswy chawbn cin ithywn ywn aelaaekhk ithokhrach chawithysyamekbnatal klumchatiphnthuithythixyuinnkhrrachsimaeriykxikxyangwa ithokhrach epnkhnklumihythisudincnghwdnkhrrachsima khnklumniichphasakhlaykhnithyphakhklang ephiyngaetesiyngwrrnyuktephiynipbang aelamikhasphthsanwnbangxyangthimilksnaepnkhxngtnexng edimthinnichawphunemuxngepnlawa chawithyphakhklangidxphyphekhamaxyuxasy smykrungsrixyuthya phraecaxuthxngihkhunhlwngphangwykkxngthphmarwbrwmdinaednaethbniekhakbkrungsrixyuthya phraecaxuthxngoprdihkxngthharxyuthyatngdanxyupraca aelasngchangchawxyuthyamakxsrangbaneruxnaelawdwaxaramepnxnmak chawithyxyuthyaidxphyphekhamaxyuxasyephimkhuninsmysmedcphranaraynmharach aelaidxphyphmaxyunkhrrachsimaxikralxkhnungkhux khrawesiykrungkhrngthi 2 odymichawithychayfngthaelphakhtawnxxkidxphyphekhamaephimdwy chawithyklumniaelachawithyphunemuxngedim ekhaicwaepnchawsyamlumnamul subechuxsayepnchawithyokhrachaelarksakhnbthrrmeniympraephnisubthxdknma klumithokhrachepnklumthiaesdngexklksnkhxngemuxngnkhrrachsima ephraasaeniyngaetktangcakklumxun epnklumthiphudphasaithyokhrachsungkhlaykhlungphasaithyklangaetsaeniyngephiyn ehnx hwnsn krxnesiyng mikhaithylaw xisan papnbangelknxy chawithyokhrachaetngkayaebbithyphakhklang rbprathankhaweca xaharthwipkhlaykhlungphakhklang khnbthrrmeniym praephni aelawthnthrrmkhlayithyphakhklang pccubn klumithyokhrachxasyxyuhnaaenninxaephxtxipni echn xaephxemuxngnkhrrachsima xaephxonnsung xaephxonnithy xaephxdankhunthd xaephxphrathxngkha xaephxethpharks xaephxechlimphraekiyrti xaephxkhamthaelsx xaephxkhamsaaekaesng xaephxochkhchy xaephxhnxngbuymak xaephxkhrburi xaephxesingsang xaephxwngnaekhiyw xaephxsikhiw xaephxpakchxng xaephxsungenin aela xaephxphimay aelayngphbchawithyokhrachinbangswnkhxngcnghwdsraburi cnghwdlphburi cnghwdchyphumi xaephxbaehncnrngkh xaephxethphsthit aela xaephxsbihy aelacnghwdburirmy xaephxemuxngburirmy nangrxng aelahnxngki chawithxisan chawithxisanepnklumhnungthimicanwnprachakrmakrxngcakklumithokhrach xasyxyumakinxaephxtxipnikhxngcnghwdnkhrrachsima echn xaephxbwihy xaephxbwlay xaephxsida xaephxaekngsnamnang xaephxprathay xaephxonnaedng xaephxbanehluxm xaephxemuxngyang xaephxlathaemnchy xaephxpkthngchy xaephxsungenin xaephxkhng xaephxhwyaethlng xaephxchumphwng xaephxckrachaelabangswnkhxng xaephxphimay xaephxkhrburi xaephxesingsang xaephxwngnaekhiyw aela xaephxsikhiw epntn chawithyxisanphudphasaxisanthxngthinkhlaykbcnghwdxuninphakhxisan aelamikhnbthrrmeniympraephniehmuxnchawxisanthwip chawithyechuxsaylaw xphyphekhamaxyusmysngkhramprabpramemuxngewiyngcnthninsmykrungthnburi aelasmyprabecaxnuwngsinrchkalthi3 mikarkwadtxnkhrxbkhrwlawekhamaxyuinhwemuxngchninhlaykhrng aelamikarxphyphekhamaodysmkhricephimkhuninrayahlng khnklumthinimkeriykknwa lawewiyng mikarichphasalawsaeniyngewiyngcnthnsungtangkbphasaxisansaeniyngthxngthinxyangsineching kracayxasyknxyuthwipincnghwdnkhrrachsima odyswnmakmkphbthixaephxsungeninaelaxaephxpkthngchy pccubnsubhaaethbimidaelwenuxcakkarethkhrwmimanb200piaelamikaraetngngankbkhnphunemuxng micanwnnxythisubhaidwamiechuxsawlawewiyngcnthntamkhabxkelakhxngkhnethakhnaek echn karekbrksaphasinaetedimiw aelakhawkhxngekhruxngichtang enuxngcakchawlawewiyngcnthnxphyphmacakemuxngthimiwthnthrrmsung mkcamikhxngmikhatidtwmadwy echn phasin khawkhxngekhruxngich rwmthungwthnthrrmaelawithichiwitaebbchawewiyngcnthnthiyngsubthxdmacnthungpccubn chawlawewiyngcnthnxphyphmakthisudinsmyrchkalthi3 enuxngcakmikarthasngkhramkbewiyngcnthnhlaykhrng aelaepnkhrngihythithalaynkhrewiyngcnthnxyangrabkhrab cungthaihchawlawewiyngcnthnthukeknthepnechlycanwnmak odyhwemuxngihyxyangnkhrrachsimarbchawechlyiwepncanwnhnung swnthiehluxkracayiptamhwemuxngtanginphakhklang mxy cakkarsarwcsamaonprachakrkhxngcnghwdnkhrrachsima emux ph s 2446 insmyrchkalthi 5 phbwa michawmxyxyucanwn 2 249 khn cakcanwnprachakrkhxngnkhrrachsima 402 668 khn chawmxyxphyphekhamaxyubriewnemuxngnkhrrachsima tngaet ph s 2318 insmykrungthnburi smedcphraecakrungthnburi phrarachthankhrwmxythixphyphekhamaswamiphkdi miecaphrayamhaoytha phyaecng tnskul khchesni epnhwhna aebngihphrayankhrrachsimanakhunmaxyuthiemuxngnkhrrachsima tngkhrwmxythilaphraephling ekhtxaephxpkthngchythibanphlbphla xaephxochkhchy phrayasrirachramyphuepnhwhnaphayatiphinxngmaxyuinemuxngepnsaykxngswythxng tngbaneruxneriykwabanmxy emuxekidkbtecaxnuwngs emux ph s 2336 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwidoprdekla ihecaphrayamhaoytha thxeriya khchesni khumkxngmxymasmthbmarwmrbkbkalngfayithy emuxesrcsukaelwphwkmxyehnemuxngpkthngchyxudmsmburncungmatngthinthan pccubnchawmxyinnkhrrachsimayngrksawthnthrrmpraephnimxyiw echn phasa karihwphi karelnsabainekhtbanthaophthi bansarayephling tablnkxxk xaephxpkthngchy prakxbxachiphthana thaswn thaekhruxngpndinepha phasamxycaichphudinchawithymxythixayuekin 60 pikhunip khnrunhlngcaknicaphudphasaithyokhrachthngsin swy swy hrux kha epnchnphunemuxngkhxnghwemuxngekhmrpadngaelaemuxngnkhrrachsima phudphasatrakulmxy ekhmr idxyuinphunthinikxnthikhnithycaekhamamixiththiphlehnuxdinaednbriewnlumaemnamultxnbn emux ph s 2362 ecaemuxngnkhrrachsima thxngxinthr tikhaid aelwnamayngemuxngnkhrrachsima phasaswy epnphasakhxngchawswythixphyphmacakcnghwdsurinthr cnghwdsrisaeks aelacnghwdburirmy thimatnghlkaehlngxyuthi tablhwyaethlng xaephxhwyaethlng pccubnmiechphaaphuthixayuekin 40 pikhunip thiyngkhngichphasaswyinklumkhxngtnexng nxkcaknncaichphasaithyokhrachepnphun yhkur yhkur hrux eniyakul epnchnklumnxythixasyxyutamihlekhahruxeninekhaetiy briewndaninkhxngthirabsungokhrach chawbnxacsubechuxsaymacakkhninsmythwarwdi xyuinbanghmubankhxngxaephxpkthngchy xaephxkhrburi aelaxaephxhnxngbuymak phasachawbn epnphasatrakulmxy ekhmr pccubnchawbnphudphasachawbnechphaaphuthixayuekin 60 pikhunip nxkcaknnichphasaithyokhrach ithywn ithywn hrux ithyoynk epnephaithyinphakhehnuxkhxngithy idxphyphekhamaxyuthixaephxsikhiwsxngthangdwyknkhux phwkaerkxphyphcakthangehnuxmaxyuthixaephxesaih cnghwdsraburi txmaecaemuxngsraburitxngkartngkxngeliyngokhnmthiemuxngnkhrcnthuk cungidaebngkhrxbkhrwchawithywncakxaephxesaihipxyuthixaephxsikhiw swnxikphwkhnungxphyphmacakewiyngcnthn chawithywnyngrksapraephniaelawthnthrrmaebboynkiwiddimak phasaithywn ichphudinhmuithywndwyknexngsungmixyupraman 5 000 khn inekhtxaephxsikhiw inthxngthitablladbwkhaw tablsikhiw aelatablbanhn nxkcakni yngmiklumechuxsay chawcin chawewiydnam aelaaekhk xinediy bngkhlaeths pakisthan l dchnikhwamkawhnakhxngkhn dchnikhwamkawhnakhxngkhn cnghwdnkhrrachsima pi 2564dansukhphaph dankarsuksa danchiwitkarthangan danesrsthkic0 6132 0 4621 0 7888 0 6091danthixyuxasyaelasphaphaewdlxm danchiwitkhrxbkhrwaelachumchn dankarkhmnakhmaelakarsuxsar dankarmiswnrwm0 7206 0 6688 0 6736 0 5836cnghwdnkhrrachsima mikhadchnikhwamkawhnakhxngkhnthi 0 6331 hrux exchexix epndchnitidtamkhwamkawhnainkarphthnamnusyinradbcnghwdkhxngithy erimcdthatngaetpi 2546 odyokhrngkarphthnaaehngshprachachati hrux yuexndiphi txmasankngansphaphthnakaresrsthkicaelasngkhmaehngchati ekhamathahnathiniaethntngaetpi 2560 dchnirwmthikhrxbkhlumkhxbekhtsakhythnghmdaepddankhxngkarphthnamnusy khux dansukhphaph dankarsuksa danchiwitkarthangan danesrsthkic rayid danthixyuxasyaelachumchnsphaphaewdlxm danchiwitkhrxbkhrwaelachumchn dankarkhmnakhmaelakarsuxsar dankarmiswnrwmdchnikhwamkawhnakhxngkhn hrux exchexix khxngcnghwdnkhrrachsima epriybethiybraypi sungkhun khngthi talng twelkhdankhangekhruxnghmayaesdngthungxndbthiepliynaeplngipcakpikxnhna dchniyxy khaaennexchexixkhaaenn 2564 khaaenn 2563 khaaenn 2562 khaaenn 2560 khaaenn 2558dansukhphaph 0 6132 0 0423 0 5709 0 5709 0 0627 0 6336 0 0340 0 6676dankarsuksa 0 4621 0 0701 0 5322 0 0267 0 5055 0 0094 0 5149 0 2260 0 2889danchiwitkarthangan 0 7888 0 1509 0 6379 0 0409 0 6788 0 0349 0 6439 0 0026 0 6375danesrsthkic 0 6091 0 0394 0 5697 0 0293 0 5990 0 0211 0 5779 0 0449 0 6228danthixyuxasyaelachumchnsphaphaewdlxm 0 7206 0 0289 0 6917 0 0083 0 6834 0 1358 0 8192 0 0766 0 8958danchiwitkhrxbkhrwaelachumchn 0 6688 0 0143 0 6831 0 0488 0 6343 0 0922 0 7265 0 0032 0 7233dankarkhmnakhmaelakarsuxsar 0 6736 0 0352 0 6384 0 0217 0 6167 0 0662 0 5505 0 0901 0 4604dankarmiswnrwm 0 5836 0 0139 0 5975 0 0042 0 5933 0 0344 0 5589 0 0214 0 5375khaaennechliythukdchniyxy 0 6331 0 0203 0 6128 0 0051 0 6077 0 0137 0 6214 0 0444 0 5770xndb 49 21 68 10 58 15 43 12 55karsuksaorngeriynmthymsuksakhxngrth orngeriynokhrachphithyakhm orngeriynckrachwithya orngeriynonnsungsrithani orngeriynnikhmphimaysuksa orngeriynbuywthna orngeriynpakchxng orngeriynphuwithya orngeriynmthymdankhunthd orngeriynmthymwchiralngkrnwraram orngeriynrachsimawithyaly orngeriynsidawithya orngeriynesingsang orngeriynhnxngkradwthnaorngeriynmthymsuksakhxngexkchn orngeriynmariywithya orngeriynsarsasnwiethsnkhrrachsima orngeriynxssmchynkhrrachsimasthabnxudmsuksa hxsurnpha phayinmhawithyalyethkhonolyisurnaristhabnxudmsuksakhxngrth mhawithyalyethkhonolyisurnari mhawithyalyrachphtnkhrrachsima mhawithyalyethkhonolyirachmngkhlxisan sunyklangphakhtawnxxkechiyngehnux nkhrrachsima mhawithyalyramkhaaehng mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrrachsima mhawithyalymhamkutrachwithyaly mhapchabdiethriwithyaly aelasunykarsuksaokhrach sthabnbnthitphthnbriharsastr nida sikhiw sthabnbnthitphthnsilp withyalynatsilpnkhrrachsima withyalyphyabalbrmrachchnni nkhrrachsimasthabnxudmsuksaexkchn mhawithyalywngschwlitkul withyalynkhrrachsima withyalyethkhonolyiphnmwnth sthabnkareriynruephuxpwngchn sunykareriynrucnghwdnkhrrachsima withyalyphichybnthit nkhrrachsima withyalyphuththsasnananachati withyaekhtnkhrrachsima sthabnkarcdkarpyyaphiwthn hnwykareriynthangiklcnghwdnkhrrachsimasthabnxachiwsuksa sthabnkarxachiwsuksakhxngrth sthabnkarxachiwsuksaphakhtawnxxkechiyngehnux 5 sthabnkarxachiwsuksaphakhtawnxxkechiyngehnux 5 prakxbdwywithyalyinsngkd 9 aehng idaek withyalyethkhnikhnkhrrachsima withyalyxachiwsuksankhrrachsima withyalyethkhnikhhlwngphxkhun prisuthoth withyalyethkhnikhsurnari withyalyethkhnikhchyphumi withyalyethkhnikhburirmy withyalyethkhnikhkhuemuxng withyalyethkhnikhsurinthr aelawithyalyxachiwsuksasurinthr mithitngsankngansthabn chwkhraw xyuphayinwithyalyethkhnikhhlwngphxkhun prisuthoth epn 1 insthabnkarxachiwsuksa 19 sthabn thicdtngkhuntamkdkrathrwngkarrwmsthansuksaxachiwsuksaephuxcdtngsthabnkarxachiwsuksa ph s 2555 sahrbwithyalyinsngkdincnghwdnkhrrachsima idaek withyalyethkhnikhnkhrrachsima epidsxnradb prakasniybtrwichachiph priyyatri sayethkhonolyihruxsayptibtikar withyalyethkhnikhsurnari x ochkhchy withyalyethkhnikhhlwngphxkhun prisuth oth x dankhunthdwithyalyxachiwsuksaxun sarphdchangnkhrrachsimaedim withyalyekstrkrrmaelaethkhonolyinkhrrachsima x sikhiw withyalyethkhnikhpkthngchy withyalybriharthurkicaelakarthxngethiywnkhrrachsima NR CBAT epidsxnradb pwch pws indanbriharthurkicaelaxutsahkrrmthxngethiyw withyalyethkhnikhpakchxng karxachiphpakchxngedim karxachiphphimayedim withyalyethkhnikhbwihy karxachiphbwihyedim withyalykarxachiphchumphwngsthabnxachiwsuksa exkchn withyalyethkhonolyichnaphlkhnth nkhrrachsima withyalyethkhonolyixachiwsuksankhrrachsima yubrwmekhakbmariybriharthurkic emuxpi 2561 orngeriynkhathxlikinsngkdekhtmissngnkhrrachsima withyalyechphaathang epidsxnhlksutrnatsilpchntn klang aelasungsthabnwicy sthabnwicyaesngsinokhrtrxn xngkhkarmhachn sthabnwicyimklayepnhinaelathrphyakrthrniphakhtawnxxkechiyngehnux echlimphraekiyrtikarsatharnsukhorngphyabalsunyorngphyabalmharachnkhrrachsima 1 619 etiyng epnorngphyabalkhnadihythisudinpraeths sngkdsanknganpldkrathrwngsatharnsukhorngphyabalthwip 300 etiyng orngphyabalethphrtnnkhrrachsima 200 etiyng 144 etiyng orngphyabalchumchnradb M2 268 etiyng 154 etiyng 149 etiyng orngphyabaldankhunthd 126 etiyng 91 etiyng radb F1 119 etiyng 118 etiyng 110 etiyng 87 etiyng 86 etiyng 75 etiyng 72 etiyng radb F2 60 etiyng 60 etiyng 60 etiyng 60 etiyng 60 etiyng 48 etiyng 40 etiyng 36 etiyng 35 etiyng 35 etiyng 33 etiyng 30 etiyng 30 etiyng 30 etiyng radb F3 30 etiyng orngphyabalethpharks 30 etiyng 24 etiyng 10 etiyng 5 etiyng orngphyabalmhawithyalyorngphyabalmhawithyalyethkhonolyisurnari 820 etiyng orngphyabalthharorngphyabalkhaysurnari 420 etiyng 50 etiyng orngphyabalexkchnorngphyabalkrungethphrachsima 150 etiyng orngphyabalkrungethphpakchxng 31 etiyng 35 etiyng 150 etiyng 60 etiyng 50 etiyng 150 etiyng orngphyabalechphaathangorngphyabalcitewchnkhrrachsimarachnkhrinthr 300 etiyng xun 60 etiyng karkhmnakhmthangxakas thaxakasyannkhrrachsima wnthi 2 knyayn 2554 thithaxakasyannkhrrachsima x echlimphraekiyrti c nkhrrachsima bristh Thai Regional Aviation cakd idthakarepidethiywbin suwrrnphumi okhrach suwrrnphumi bristheluxkichekhruxngbinrun Piper Navajo Chieftain sungepnekhruxngbinthiidrbkhwamniymsung aela mikhwamplxdphycakpraethsshrthxemrika ichewlainkaredinthang 40 nathi pccubnhyudihbrikarinsayniaelw wnthi 2 kumphaphnth 2558 saykarbin kantaexr idthakarepidethiywbin cak thaxakasyanechiyngihm thaxakasyannkhrrachsima odythakarbin 4 ethiywbintxspdah cnthr phuth phvhsbdi esar odyichekhruxngbinrun ATR 72 pccubnhyudihbrikarinsayniaelw wnthi 3 thnwakhm 2560 saykarbinniwecn aexrewys epidihbrikaresnthangbin nkhrrachsima echiyngihm aelaphuekt pccubnsaynihyudihbrikaraelw wnthi 21 thnwakhm 2560 saykarbinniwecn aexrewys epidihbrikaresnthangbin nkhrrachsima krungethph dxnemuxng pccubnsaynihyudihbrikaraelw rthynt cakkrungethph samarthedinthangdwyrthynt mayngcnghwdnkhrrachsimaidhlayesnthang khux esnthangphanthanghlwngaephndinhmayelkh 1 phhloythin phanrngsit wngnxy cnthungcnghwdsraburi khamthangtangradbmitrphaph thangthistawnxxk ipyngthanghlwngaephndinhmayelkh 2 thnnmitrphaph phanxaephxaekngkhxy mwkehlk cnghwdsraburi eruxyipcnthungxaephxpakchxng sikhiw sungenin aelacnghwdnkhrrachsima rwmrayathangpraman 256 kiolemtr thanghlwngaephndinhmayelkh 304 esnthangphanekhtminburi xaephxemuxngchaechingethra xaephxphnmsarkham xaephxkbinthrburi xaephxwngnaekhiyw xaephxpkthngchy cnthungcnghwdnkhrrachsima rwmrayathangpraman 273 kiolemtr thanghlwngaephndinhmayelkh 305 esnthangrngsit nkhrnayk txthanghlwngaephndinhmayelkh 33 ipkbinthrburi aelwaeykekhathanghlwngaephndinhmayelkh 304 phanxaephxwngnaekhiyw pkthngchy eruxyipcnthungcnghwdnkhrrachsimarthodysarpracathang cakkrungethphmhankhr mirthodysarthrrmda aela rthprbxakaschn 1 chn 2 aelarthtuprbxakas say 21 krungethph nkhrrachsima wingihbrikarcak sthanikhnsnghmxchit 2 krungethph mayngcnghwdnkhrrachsima thukwntlxd 24 chwomng odymibristhexkchn thiidrbsmpthanepidbrikaredinrthodysarsay 21 dngni rthprbxakaschn 1 bristh echidchyokhrach cakd rachsimathwr bristh aexrokhrachphthna cakd bristh surnariaexr cakd bristh nkhrchy21 cakd bristh enks phxyth cakd mhachn rthprbxakaschn 2 klumedinrth p 2 say 21rthtuprbxakas imrbraythang esri rthtulimusin klumedinrthtucaknkhrrachsimaipyngkrungethph aelacnghwdtang sungcaihbrikar rb sng phuodysarthisthanikhnsngthngsxngaehng khux sthanikhnsngphuodysaraehngthi 1 thnnburinthr aelasthanikhnsngphuodysaraehngthi 2 thnnmitrphaph hnxngkhay nxkcaknn yngsamarththicaeluxkedinthangodyrthodysarpracathangcakkrungethph playthangcnghwdtang inphakhxisanthiphancnghwdnkhrrachsimaid phayincnghwd karedinthangphayinekhtethsbalaelaphunthiiklekhiyng mikhnsngsatharnaihbrikardngnikhux rthodysarpracathanghmwd 1 aelahmwd 4 rthsxngaethw wingbrikarphayinekhtethsbal aela briewniklekhiyng rthodysarhmwd 1 aebngxxkepn 21 say wingbrikarphayinekhtethsbalaelaphunthiiklekhiyngiptamesnthangtang rthckryanyntrbcang rthsamlxekhruxng aelarthsamlx wingihbrikarphuodysarphayinekhttwemuxng rthaethksimietxr Taxi Meter epidihbrikarinchwngkaraekhngkhnkilasiekmskhrngthi 24 emuxeduxnthnwakhm ph s 2550 epncnghwdaerkinphakhtawnxxkechiyngehnux micudcxdrthaethksixyuthisthanikhnsngphuodysaraehngthi 2 sthanirthifnkhrrachsima sthanirthifchumthangcira sunykarkhaedxamxll nkhrrachsima esnthrlphlasa nkhrrachsima ethxrminxl 21 okhrach aelasthanbnething nxkcakniyngsamartheriykichbrikarodyothrsphthelkhhmaydwnhrixeriykphanaexpphliekhchn pccubnmirthihbrikarthngsincanwnmakkwa 70 khn thatxngkaredinthangiptangxaephx camirthodysarpracathanghmwd 4 ihbrikaripyngxaephxtang incnghwdnkhrrachsima hlaysaydwykn samarthkhunrthidthisthanikhnsngaehngthi 1 thnnburinthr mithngpraephthrthsxngaethw aela rthbsodysarpracathangihbrikar camirthodysarip xaephxpkthngchy xaephxprathay xaephxdankhunthd xaephxpakchxng xaephxsungenin sahrbsthanikhnsngphuodysaraehngthi 2 nn camirthodysar ipechphaa xaephxphimay xaephxhwyaethlng xaephxochkhchy xaephxhnxngbuymak aelaxaephxesingsang edinthangrahwangcnghwd mithngrthodysarpracathangthrrmda aelaprbxakas hmwd 2 aela 3 canwnhlayesnthangincnghwdtang wingihbrikarphancnghwdnkhrrachsimathisthanikhnsngphuodysaraehngthi 2 thnnmitrphaph hnxngkhay thukwn edinthangrahwangpraeths krungethph nkhrrachsima nkhrhlwngewiyngcnthn satharnrthprachathipityprachachnlaw krungethph ewiyngcnthn 900 bath nkhrrachsima ewiyngcnthn 540 bath ewla 21 00 n caksthanitnthang krungethph hmxchit 2 thung bkhs nkhrrachsima aehngthi 2 praman 23 50 n ewla 18 00 n caksthanitnthang nkhrhlwngewiyngcnthn thung bkhs nkhrrachsima aehngthi 2 praman 1 nalika hrux 01 00 n ethiywwingnxkwnaelaewlarachkar ekbkhathakarlwngewla khxngdantrwckhnekhaemuxngkhnla 5 bath odycdekbthisthaniedinrth edinthangdwyrthprbxakas 2 chn 32 thinng misukhphnth phnkngantxnrb aelaxaharwang tidtxsthaniedinrthnkhrrachsima othrsphth 044 254964 hrux 1490 eriyk bkhs inkaredinthangkhamaedncakcnghwdnkhrrachsima ipyngnkhrhlwngewiyngcnthn satharnrthprachathipityprachachnlaw samarthichhlkthan khuxhnngsuxedinthangkhuxhnngsuxphanaedn hruxhnngsuxphanaednchwkhrawodymiaenwptibtiaelakhntxndngtxipni ichbtrphanaedn sahrbedinthangekhapraethslawimekin 3 wn 2 khun aelaimedinthangipaekhwngxun karthabtrphanaednthathisalaklangcnghwdthimichayaedntidkblawodyichhlkthan dngni rupthay 1 niw 2 rup saenabtrpracatwprachachn aelabtrcring saenathaebiynban khathrrmeniym hakyngimbrrlunitiphawatxngichsaenasutibtrdwy karkhxwisa phuthuxhnngsuxedinthangthutaelarachkarkhxngithyidrbykewnimtxngkhxwisa samarthxyuinpraethslawid 30 wn sahrbphuthuxhnngsuxedinthangthrrmdatxngkhxwisacaksthanexkxkhrrachthutsatharnrthprachathipityprachachnlaw pracapraethsithythikrungethph hruxsthankngsulihy satharnrthprachathipityprachachnlaw thicnghwdkhxnaeknodytxngichrupthay 1 rup aelaesiykhathrrmeniym 30 dxllarshrthsthanikhnsngphuodysar cnghwdnkhrrachsima misthanikhnsngphuodysarthiihbrikaraekphuthitxngedinthangipyngxaephx hrux cnghwdtang dngni sthanikhnsngphuodysaraehngthi 1 tngxyuelkhthi 86 thnnburinthr tablinemuxng xaephxemuxngnkhrrachsima mienuxthithngsin 7 ir 2 ngan 98 tarangwa epidichtngaet ph s 2510 briharcdkarodyethsbalnkhrnkhrrachsima ichepnsthanikhnsngphayincnghwdepnhlk aelamirthodysarprbxakas saythi 21 krungethphmhankhr nkhrrachsima ihbrikar prakxbipdwy chanchalacxdrthodysar canwn 24 chxngcxd phunthi 3 840 tarangemtr phunthixakharphuodysar 6 194 tarangemtr pccubnsthanikhnsng aehngthi 1 mirthodysarpracathangekhaichbrikarechliywnla 2 000 ethiyw wn hruxpraman 430 000 ethiyw pi aelamiphuodysarhmunewiynekhaichbrikarechliy 30 000 khn wn hruxpraman 12 000 000 khn pi sthanikhnsngphuodysaraehngthi 2 tngxyuthi thnnmitrphaph sraburi hnxngkhay tablinemuxng xaephxemuxngnkhrrachsima mienuxthi 29 ir 50 tarangwa epnsthanikhnsngthiihythisudaelasakhythisudincnghwdnkhrrachsimaaelainphakhtawnxxkechiyngehnux phuidrbibxnuyatcdtng aeladaeninkarsthanikhnsng khux bristh ichepnsthanikhnsngphuodysarrahwangcnghwdepnhlkesnthangthisakhykhux saythi 21 krungethphmhankhr nkhrrachsima prakxbdwy chanchalacxdrthodysar canwn 111 chxngcxd phunthi 17 760 tarangemtr phunthixakharphuodysar 28 416 tarangemtr thicxdrthswnbukhkhlpraman 250 khn aelarthckryanynt praman 1 100 khn pccubnsthanikhnsng aehngthi 2 mirthodysarpracathangekhaichbrikarechliywnla 3 000 ethiyw wn hruxpraman 740 000 ethiyw pi aelamiphuodysarhmunewiynekhaichbrikarechliy 80 000 khn wn hruxpraman 19 000 000 khn pi sthanikhnsngphuodysarxaephxochkhchy tngxyuelkhthi 1 hmuthi 12 tablochkhchy xaephxochkhchy mienuxthi 7 ir briharcdkarodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrrachsima epiddaeninkaremuxpi ph s 2539 prakxbdwy chanchalacxdrthodysar canwn 16 chxngcxd phunthi 3 280 tarangemtr thicxdrthswnbukhkhlpraman 40 khn aelarthckryanynt praman 50 khn sthanikhnsngphuodysarxaephxochkhchy mirthodysarpracathangekhaichbrikarwnlapraman 210 ethiyw sthanikhnsng samarthrxngrbphuodysaridpramanwnla 2 000 khn wn sthanikhnsngphuodysarxaephxphimay tngxyubriewntablinemuxng xaephxphimay mienuxthi 6 ir 54 tarangwa phuidrbibxnuyatcdtng aeladaeninkarsthanikhnsngkhux bristh ithysngwnbrikar cakd epiddaeninkaremuxpi ph s 2538 prakxbdwy chanchalacxdrthodysar canwn 18 chxngcxd phunthi 3 840 tarangemtr thicxdrthswnbukhkhlpraman 15 khn aela rthckryanynt praman 25 khn sthanikhnsngphuodysarxaephxphimay mirthodysarpracathangekhaichbrikarwnlapraman 230 ethiyw sthanikhnsng samarthrxngrbphuodysaridpramanwnla 2 000 khn wn rthif sthanirthifnkhrrachsima mirthifsayphakhtawnxxkechiyngehnuxkrungethph xublrachthaniaelakrungethph hnxngkhaythngkhbwnrthdwnphiess rthdwn rtherwaelarththrrmdawingihbrikarcaksthanirthifkrungethph hwlaophng phancnghwdnkhrrachsimathukwn nxkcakniyngmikhbwnrththxngthinwingihbrikarrahwangsthanirthifnkhrrachsimaipyngsthanirthifcnghwdxun echn surinthr xublrachthani xudrthani hnxngkhay aelaxaephxaekngkhxy cnghwdsraburixikdwy sthanirthifnkhrrachsimasrangkhuninrchsmykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 epnsthanirthifthiihythisudincnghwdnkhrrachsimaaelainphakhtawnxxkechiyngehnux epnsthanirthifchn 1 tngxyuthithnnmukhmntri xaephxemuxngnkhrrachsima cnghwdnkhrrachsima xyuhangcaksthanirthifkrungethphepnrayathang 264 kiolemtr rthifkhwamerwsung okhrngkarrthifkhwamerwsungsaytawnxxkechiyngehnux krungethph nkhrrachsima hnxngkhay chwngthi 1 krungethph bangsux nkhrrachsima kalngkxsrang epidihbrikarinpi 2570 sthanithiphancnghwdnkhrrachsima sthanirthifpakchxng sthanirthifnkhrrachsima sthanirthifbwihy inxnakht thanghlwng thanghlwngphiess thanghlwngphiesshmayelkh 6 hruxmxetxrewybangpaxin sraburi nkhrrachsima kalngkxsrang thangxxkinekhtcnghwdnkhrrachsima pakchxng sikhiw khamthaelsx nkhrrachsimathanghlwngaephndin thanghlwngsaysakhykhxngcnghwdnkhrrachsimamidngni thanghlwnghmayelkhhlkediyw thanghlwngaephndinhmayelkh 2 thnnmitrphaph inekhtcnghwdnkhrrachsima erimcak klangdng pakchxng khlxngiph sikhiw sungenin okhkkrwd nkhrrachsima cxhx tladaekh banwd sida sinsudcnghwdnkhrrachsimainekhtxaephxbwlaythanghlwnghmayelkhsxnghlk thanghlwngaephndinhmayelkh 24 thnnochkhchy edchxudm aelathnnsthlmarkh inekhtcnghwdnkhrrachsima erimcakthangaeyktangradbsikhiw xaephxsikhiw cnghwdnkhrrachsima rxytxxaephxhnxngbunnakkbxaephxhnxngki cnghwdburirmythanghlwnghmayelkhsamhlk thanghlwngaephndinhmayelkh 304 thnnaecngwthna thnnramxinthra thnnsuwinthwngs inekhtcnghwdnkhrrachsima erimcakrxytxcnghwdpracinburikbxaephxwngnaekhiyw xaephxemuxngnkhrrachsima cnghwdnkhrrachsima thanghlwngaephndinhmayelkh 201 inekhtcnghwdnkhrrachsima erimcakxaephxsikhiw cnghwdnkhrrachsima rxytxxaephxdankhunthdkbxaephxcturs cnghwdchyphumi thanghlwngaephndinhmayelkh 202 inekhtcnghwdnkhrrachsima erimcakrxytx