บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) หรือ ทองอินท์, ทองอิน เดิม พระองค์เจ้าทองอินทร์ เจ้าเมืองนครราชสีมาสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ บุตรบุญธรรมในเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) เป็นพระราชโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นแม่ทัพคนสำคัญของไทยในสงครามปราบกบฏเวียงจันทน์ และสงครามอานามสยามยุทธ
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) | |
---|---|
ก่อนหน้า | พระยานครราชสีมา (เที่ยง ณ ราชสีมา) |
ถัดไป | พระยานครราชสีมา (ขำ ณ ราชสีมา) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | พ.ศ. 2323 |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2388 |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงทับทิม รายณสุข ณ ราชสีมา ท่านผู้หญิงบุนนาค สิงหเสนี ชุ่ม รายณสุข ณ ราชสีมา อนุภริยาอื่น |
บุตร | นายศัลยวิชัย หุ้มแพร (ทองคำ ณ ราชสีมา) ทองแก้ว ณ ราชสีมา พระยานครราชสีมา (เมฆ ณ ราชสีมา เจ้าจอมชื่น ในรัชกาลที่ 3 เจ้าจอมทรัพย์ในรัชกาลที่ 3 เจ้าจอมแจ่ม ในรัชกาลที่ 3 คุณหญิงเปี่ยม ณ ราชสีมา เจ้าจอมฉิม ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว บุตรธิดาอื่น |
บุพการี | |
ประวัติ
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) เกิดในปี พ.ศ. 2323 เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงจวน ซึ่ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้พระราชทานแด่เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) ให้เป็นความดีความชอบและด้วยพระเมตตาที่สูญเสียท่านผู้หญิงนครราชสีมาระหว่างการสงคราม
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้สมรสกับท่านผู้หญิงทับทิม ธิดาพระยาสุริยเดช (ทัศน์ รายณสุข ณ ราชสีมา) บุตรคนที่ 3 ของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) ต่อมาท่านผู้หญิงทับทิมได้ถึงแก่อนิจกรรม ได้สมรสใหม่กับ ท่านผู้หญิงบุนนาค ธิดาของเจ้าพระยาอภัยราชา (ปิ่น สิงหเสนี) และเป็นน้องสาวของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นอกจากนั้นยังสมรสกับ ชุ่ม รายณสุข ณ ราชสีมา น้องสาว ท่านผู้หญิงทับทิม และมีอนุภริยาอีกหลายท่าน
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) มีบุตรธิดารวม 50 ท่าน ต่อมาเชื้อสายและเครือญาติ ได้มีบทบาทสำคัญในราชสำนักสยาม และในราชการบ้านเมือง
พ.ศ. 2386 เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้ล้มป่วยลง ทำให้ต้องลาพักราชการสงคราม กลับมาพักรักษาตัว ณ เมืองนครราชสีมา แต่บุตรหลานยังคงอยู่ช่วยงานราชการสงคราม และในปี พ.ศ. 2388 เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ถึงแก่อสัญกรรมด้วยความสงบ
เกียรติประวัติ
ขึ้นเป็นเจ้าเมืองนครราชสีมาแทนพี่ชาย
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้เริ่มรับราชการ ณ เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 โดยช่วยงานราชการ พระยานครราชสีมา (เที่ยง ณ ราชสีมา) บุตรของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย ต่อมาในปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมาสืบแทน และได้รับบรรดาศักดิ์สุดท้ายเป็น "เจ้าพระยากำแหงสงคราม รามภักดี อภัยพิริยบรากรมพาหุ เจ้าเมืองนครราชสีมา"
ปราบเจ้าเมืองขุขันธ์ เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ และเจ้าราชวงศ์แห่งจำปาศักดิ์
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2369 พระยาไกรสงคราม เจ้าเมืองขุขันธ์ วิวาทกับน้องชาย มีพระราชโองการให้เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) กับพระยาปลัดเมืองนครราชสีมา ยกกำลังไปปราบปรามให้สงบ โดยให้หลวงยกกระบัตรอยู่รักษาเมือง แต่ในที่สุดกลับต้องทำการรบติดพันกับพระยาไกรสงครามที่เมืองขุขันธ์ ทำให้เจ้าอนุวงศ์ นำทัพลาวเวียงจันทน์ เข้ายึดเมืองนครราชสีมาโดยง่าย เมื่อความทราบถึงเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) จึงให้พระยาปลัดเมืองนครราชสีมากลับเข้าเมืองนครราชสีมาเพื่อควบคุมครัวเรือนนครราชสีมาให้รวมกันติดที่บ้านปราสาท ในขณะที่ชาวเมืองนครราชสีมา ได้ถูกกวาดต้อนไปกับกองทัพเวียงจันทน์ จากนั้นพระยาปลัดเมืองนครราชสีมา คุณหญิงโมภรรยาปลัดเมือง หลวงยกกระบัตร พระณรงค์สงคราม ได้ร่วมกันนำชาวเมืองนครราชสีมาเข้าต่อสู้กับกองทัพลาวจนได้ชัยชนะในเบื้องต้นจนเกิดเป็นวีรกรรม ณ ทุ่งสำริด และกองกำลังชาวเมืองนครราชสีมาได้ตีทัพลาวที่เจ้าอนุวงศ์ส่งมาช่วยแตกพ่ายไปอีกครั้งหนึ่ง จากวีรกรรมครั้งนี้ คุณหญิงโมได้รับพระราชทานนามเป็น ท้าวสุรนารี ในเวลาเดียวกันเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ยังรบติดพันกับกองทัพเมืองขุขันธ์และกองทัพลาว จากนั้นได้ถอยอ้อมมาทางเมืองเสียมราฐ และเข้าจังหวัดปราจีนบุรีจึงบรรจบกับกองทัพไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าอนุวงศ์รู้ข่าวกองทัพพระนครจึงสั่งถอยทัพออกจากเมืองนครราชสีมาและสั่งทำลายกำแพงเมืองนครราชสีมาสองด้าน พระยาไกรสงครามได้ถอยทัพไปด้วยแต่ในที่สุดถูกเจ้าอนุวงศ์สั่งประหารเนื่องจากไม่สามารถจับเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) ได้ตามแผนที่วางไว้
พ.ศ. 2370 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ได้ชุมนุมทัพที่นครราชสีมา เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้กลับเข้าเมืองนครราชสีมาไปเฝ้า มีรับสั่งให้คุมทัพเมืองนครราชสีมา และหัวเมืองไปช่วยกองทัพพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) ต่อมาคือเจ้าพระยาบดินทรเดชา) ในการปราบเจ้าราชวงศ์ที่เมืองจำปาศักดิ์ หลังจากนั้นให้ไปร่วมตีเมืองเวียงจันทน์ ในครั้งนั้นได้พบครัวเมืองปักธงชัยกลับคืนมาจากการถูกกวาดต้อนไปบริเวณเมืองสกลนคร เมื่อเสร็จสิ้นการปราบกบฏเวียงจันทน์แล้วเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้นำชาวเมืองนครราชสีมาบูรณะเมืองนครราชสีมาให้กลับคืนมาดีเหมือนแต่ก่อน ในครั้งนั้นกองทัพไทยได้ร่วมกันสร้างวัดสามัคคี ในบริเวณนอกกำแพงเมืองด้านเหนือ
เป็นแม่ทัพสำคัญในสงครามกัมพูชา-ญวน
พ.ศ. 2376 กองทัพนครราชสีมาได้เป็นกำลังสำคัญในการทำสงครามกับญวนในดินแดนเขมร เพื่อขับไล่ญวนออกจากเขมร เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้ร่วมกับ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ทำการรบด้วยความสามารถ ต่อมาในปี พ.ศ. 2380 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ทำนุบำรุงเมืองพระตะบองให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยนำชาวเมืองนครราชสีมาจำนวน 2,000 คน ไปปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อย
พ.ศ. 2383 เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) พร้อมด้วย พระยาภักดีนุชิต บุตรชาย คุมกำลังพลไปปรามกบฏนักองค์อิ่มที่เมืองพระตะบอง เพราะนักองค์อิ่มได้ปกครองเมืองพระตะบองแทนพระยาอภัยภูเบศร์ แล้วคิดกบฏไปฝักใฝ่กับญวณ โดยจับกุมกรรมการเมืองพระตะบอง รวมทั้ง พระยาราชานุชิต น้องชายของเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) และกวาดต้อนครอบครัวหนีไป กองทัพจากนครราชสีมาตามขับเคี่ยว จนถึงปี พ.ศ. 2386 เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้ล้มป่วย จึงกลับมาพักรักษาตัวที่เมืองนครราชสีมา ทำให้การรบยืดเยื้อต่อไป ซึ่งการทำสงครามกับญวนนี้ เมืองนครราชสีมาเป็นกำลังสำคัญของราชการทัพมาโดยตลอด
ถวายช้างเผือกแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2377 เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ได้น้อมเกล้าฯ ถวายช้างพลายเผือกหางดำที่พบในเขตเมืองนางรอง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อช้างนั้นว่า "พระยามงคลนาคินทร์ อินทรไอยราววรรณ พรรณสีสังข์สารเศวต กมเลศรังสฤษฎิ์ อิศวรรังรักษ์ จักรกฤษณราชรังสัน มหันตมหาวัฒนาคุณ วิบุลยลักษณเลิศฟ้า" ในปี พ.ศ. 2387 ได้น้อมเกล้าฯ ถวายช้างพลายที่มีคชลักษณ์ดีอีก 3 เชือก (พลายบาน พลายเยียว และพลายแลม) และในปี พ.ศ. 2388 ก่อนอสัญกรรม ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย ช้างพลายที่มีคชลักษณ์ดีอีก 2 เชือก (พลายอุเทน และ พลายสาร)
เชื้อสาย/สกุล
วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2494 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสกุล แก่
- พระยากำธรพายัพทิศ (ดิศ อินทโสฬส) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "อินทโสฬส" จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2457
- พระบุรคามบริรักษ์ (นาค เมนะรุจิ) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "เมนะรุจิ" จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2457
- พันตรี พระพิทักษ์โยธา (พิทักษ์ อธินันทน์) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "อธินันทน์" จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2456
- หลวงเรืองนรารักษ์ (รศ พรหมนารท) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "พรหมนารท" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474
- หลวงอุบลศักดิ์ประชาบาล (พันธ์ พรหมนารท) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "พรหมนารท" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474
- หลวงรามฤทธิรงค์ (เขียว มหาณรงค์) เดิมได้รับพระราชทานนามสกุล "มหาณรงค์" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475
- พันตรี ขุนกำแหงเสนีย์ (กำแหง อินทรกำแหง)
ตามที่ขอพระราชทานเปลี่ยนใหม่ และได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พุทธศักราช 2484 แล้วว่า ณ ราชสีมา (เขียนเป็นอักษรโรมัน na Rajasima) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์) ผู้เป็นต้นสกุล ซึ่งได้รับราชการประกอบคุณงามความดีแก่ นครราชสีมา และทั้งทายาทก็ได้รับราชการด้วยจงรักภักดีเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบเนื่องกันมาในจังหวัดนี้เป็นเวลาหลายรัชกาล
อ้างอิง
- กรมศิลปากร, จดหมายเหตุนครราชสีมา 11 กันยายน พ.ศ. 2497, พิมพ์สนองคุณ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินท์ ณ ราชสีมา), กรุงเทพฯ: ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ป.ป.)
- ต้นสกุล ณ ราชสีมา ย้อนเรื่อง เมืองโคราช
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-28. สืบค้นเมื่อ 2020-04-24.
- อ้างแล้ว, หน้า 67
- อ้างแล้ว, หน้า 69
- ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ ๒๐ - ๑๖๐๑ อินทโสฬส
- ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ ๒๐ - ๑๕๗๘ เมนะรุจิ
- ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ ๑๑ - ๙๑๓ อธินันทน์
- ประกาศพระราชทานนามสกุล พรหมนารท
- ประกาศพระราชทานนามสกุล พรหมนารท
- ประกาศพระราชทานนามสกุล มหาณรงค์
- ต้นสกุล ณ ราชสีมา
- อ้างแล้ว, หน้า 72 ก. ภาพตามแนบ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamidbthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr n rachsima khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr n rachsima hrux thxngxinth thxngxin edim phraxngkhecathxngxinthr ecaemuxngnkhrrachsimasmytnkrungrtnoksinthr butrbuythrrminecaphrayankhrrachsima pin n rachsima epnphrarachoxrsxngkhsudthayinsmedcphraecataksinmharach aelaepnaemthphkhnsakhykhxngithyinsngkhramprabkbtewiyngcnthn aelasngkhramxanamsyamyuththecaphrayankhrrachsima thxngxinthr n rachsima kxnhnaphrayankhrrachsima ethiyng n rachsima thdipphrayankhrrachsima kha n rachsima khxmulswnbukhkhlekidph s 2323esiychiwitph s 2388khusmrsthanphuhyingthbthim raynsukh n rachsima thanphuhyingbunnakh singhesni chum raynsukh n rachsima xnuphriyaxunbutrnayslywichy humaephr thxngkha n rachsima thxngaekw n rachsima phrayankhrrachsima emkh n rachsima ecacxmchun inrchkalthi 3 ecacxmthrphyinrchkalthi 3 ecacxmaecm inrchkalthi 3 khunhyingepiym n rachsima ecacxmchim inphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw butrthidaxunbuphkarismedcphraecataksinmharach ecaphrayankhrrachsima pin n rachsima bida ecacxmmardacwn insmedcphraecataksinmharach marda prawtiecaphrayankhrrachsima thxngxinthr n rachsima ekidinpi ph s 2323 epnphrarachoxrsinsmedcphraecataksinmharach kbecacxmmardaecahyingcwn sung smedcphraecataksinmharach idphrarachthanaedecaphrayankhrrachsima pin n rachsima ihepnkhwamdikhwamchxbaeladwyphraemttathisuyesiythanphuhyingnkhrrachsimarahwangkarsngkhram ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idsmrskbthanphuhyingthbthim thidaphrayasuriyedch thsn raynsukh n rachsima butrkhnthi 3 khxngecaphrayankhrrachsima pin n rachsima txmathanphuhyingthbthimidthungaekxnickrrm idsmrsihmkb thanphuhyingbunnakh thidakhxngecaphrayaxphyracha pin singhesni aelaepnnxngsawkhxngecaphrayabdinthredcha singh singhesni nxkcaknnyngsmrskb chum raynsukh n rachsima nxngsaw thanphuhyingthbthim aelamixnuphriyaxikhlaythan ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr mibutrthidarwm 50 than txmaechuxsayaelaekhruxyati idmibthbathsakhyinrachsanksyam aelainrachkarbanemuxng ph s 2386 ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idlmpwylng thaihtxnglaphkrachkarsngkhram klbmaphkrksatw n emuxngnkhrrachsima aetbutrhlanyngkhngxyuchwynganrachkarsngkhram aelainpi ph s 2388 ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr thungaekxsykrrmdwykhwamsngbekiyrtiprawtikhunepnecaemuxngnkhrrachsimaaethnphichay ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr iderimrbrachkar n emuxngnkhrrachsima tngaetkhrngrchkalthi 1 odychwynganrachkar phrayankhrrachsima ethiyng n rachsima butrkhxngecaphrayankhrrachsima pin sungmiskdiepnphichay txmainplayrchkalphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly cungidrbkaraetngtngihepnecaemuxngnkhrrachsimasubaethn aelaidrbbrrdaskdisudthayepn ecaphrayakaaehngsngkhram ramphkdi xphyphiriybrakrmphahu ecaemuxngnkhrrachsima prabecaemuxngkhukhnth ecaxnuwngsaehngewiyngcnthn aelaecarachwngsaehngcapaskdi insmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw ph s 2369 phrayaikrsngkhram ecaemuxngkhukhnth wiwathkbnxngchay miphrarachoxngkarihecaphrayankhrrachsima thxngxinthr kbphrayapldemuxngnkhrrachsima ykkalngipprabpramihsngb odyihhlwngykkrabtrxyurksaemuxng aetinthisudklbtxngthakarrbtidphnkbphrayaikrsngkhramthiemuxngkhukhnth thaihecaxnuwngs nathphlawewiyngcnthn ekhayudemuxngnkhrrachsimaodyngay emuxkhwamthrabthungecaphrayankhrrachsima thxngxinthr cungihphrayapldemuxngnkhrrachsimaklbekhaemuxngnkhrrachsimaephuxkhwbkhumkhrweruxnnkhrrachsimaihrwmkntidthibanprasath inkhnathichawemuxngnkhrrachsima idthukkwadtxnipkbkxngthphewiyngcnthn caknnphrayapldemuxngnkhrrachsima khunhyingomphrryapldemuxng hlwngykkrabtr phranrngkhsngkhram idrwmknnachawemuxngnkhrrachsimaekhatxsukbkxngthphlawcnidchychnainebuxngtncnekidepnwirkrrm n thungsarid aelakxngkalngchawemuxngnkhrrachsimaidtithphlawthiecaxnuwngssngmachwyaetkphayipxikkhrnghnung cakwirkrrmkhrngni khunhyingomidrbphrarachthannamepn thawsurnari inewlaediywknecaphrayankhrrachsima thxngxinthr yngrbtidphnkbkxngthphemuxngkhukhnthaelakxngthphlaw caknnidthxyxxmmathangemuxngesiymrath aelaekhacnghwdpracinburicungbrrcbkbkxngthphithyxikkhrnghnung emuxecaxnuwngsrukhawkxngthphphrankhrcungsngthxythphxxkcakemuxngnkhrrachsimaaelasngthalaykaaephngemuxngnkhrrachsimasxngdan phrayaikrsngkhramidthxythphipdwyaetinthisudthukecaxnuwngssngpraharenuxngcakimsamarthcbecaphrayankhrrachsima thxngxin idtamaephnthiwangiw ph s 2370 smedcphrabwrrachecamhaskdiphlesph idchumnumthphthinkhrrachsima ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idklbekhaemuxngnkhrrachsimaipefa mirbsngihkhumthphemuxngnkhrrachsima aelahwemuxngipchwykxngthphphrayarachsuphawdi singh singhesni txmakhuxecaphrayabdinthredcha inkarprabecarachwngsthiemuxngcapaskdi hlngcaknnihiprwmtiemuxngewiyngcnthn inkhrngnnidphbkhrwemuxngpkthngchyklbkhunmacakkarthukkwadtxnipbriewnemuxngsklnkhr emuxesrcsinkarprabkbtewiyngcnthnaelwecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idnachawemuxngnkhrrachsimaburnaemuxngnkhrrachsimaihklbkhunmadiehmuxnaetkxn inkhrngnnkxngthphithyidrwmknsrangwdsamkhkhi inbriewnnxkkaaephngemuxngdanehnux epnaemthphsakhyinsngkhramkmphucha ywn ph s 2376 kxngthphnkhrrachsimaidepnkalngsakhyinkarthasngkhramkbywnindinaednekhmr ephuxkhbilywnxxkcakekhmr ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idrwmkb ecaphrayabdinthredcha singh singhesni thakarrbdwykhwamsamarth txmainpi ph s 2380 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw oprdekla ih ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr thanubarungemuxngphratabxngihmnkhngaekhngaerngyingkhun odynachawemuxngnkhrrachsimacanwn 2 000 khn ipptibtingandwykhwameriybrxy ph s 2383 ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr phrxmdwy phrayaphkdinuchit butrchay khumkalngphlippramkbtnkxngkhximthiemuxngphratabxng ephraankxngkhximidpkkhrxngemuxngphratabxngaethnphrayaxphyphuebsr aelwkhidkbtipfkifkbywn odycbkumkrrmkaremuxngphratabxng rwmthng phrayarachanuchit nxngchaykhxngecaphrayankhrrachsima thxngxinthr aelakwadtxnkhrxbkhrwhniip kxngthphcaknkhrrachsimatamkhbekhiyw cnthungpi ph s 2386 ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idlmpwy cungklbmaphkrksatwthiemuxngnkhrrachsima thaihkarrbyudeyuxtxip sungkarthasngkhramkbywnni emuxngnkhrrachsimaepnkalngsakhykhxngrachkarthphmaodytlxd thwaychangephuxkaedphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw ph s 2377 ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr idnxmekla thwaychangphlayephuxkhangdathiphbinekhtemuxngnangrxng phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw oprdekla phrarachthanchuxchangnnwa phrayamngkhlnakhinthr xinthrixyrawwrrn phrrnsisngkhsareswt kmelsrngsvsdi xiswrrngrks ckrkvsnrachrngsn mhntmhawthnakhun wibulylksnelisfa inpi ph s 2387 idnxmekla thwaychangphlaythimikhchlksndixik 3 echuxk phlayban phlayeyiyw aelaphlayaelm aelainpi ph s 2388 kxnxsykrrm idnxmekla thway changphlaythimikhchlksndixik 2 echuxk phlayxuethn aela phlaysar echuxsay skulwnthi 22 knyayn ph s 2494 phrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch miphrabrmrachoxngkaroprdekla phrarachthannamskul aek phrayakathrphayphthis dis xinthosls edimidrbphrarachthannamskul xinthosls cakphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw emuxwnthi 30 knyayn ph s 2457 phraburkhambrirks nakh emnaruci edimidrbphrarachthannamskul emnaruci cakphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw emuxwnthi 30 knyayn ph s 2457 phntri phraphithksoytha phithks xthinnthn edimidrbphrarachthannamskul xthinnthn cakphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw emuxwnthi 13 kumphaphnth ph s 2456 hlwngeruxngnrarks rs phrhmnarth edimidrbphrarachthannamskul phrhmnarth cakphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw emuxwnthi 2 kumphaphnth ph s 2474 hlwngxublskdiprachabal phnth phrhmnarth edimidrbphrarachthannamskul phrhmnarth cakphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw emuxwnthi 2 kumphaphnth ph s 2474 hlwngramvththirngkh ekhiyw mhanrngkh edimidrbphrarachthannamskul mhanrngkh cakphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw emuxwnthi 11 kumphaphnth ph s 2475 phntri khunkaaehngesniy kaaehng xinthrkaaehng tamthikhxphrarachthanepliynihm aelaidcdthaebiyntamphrarachbyytichuxbukhkhl phuththskrach 2484 aelwwa n rachsima ekhiynepnxksrormn na Rajasima ephuxepnxnusrnaek ecaphrayankhrrachsima thxngxinthr phuepntnskul sungidrbrachkarprakxbkhunngamkhwamdiaek nkhrrachsima aelathngthayathkidrbrachkardwycngrkphkdiepnkhunpraoychnaekpraethschatisubenuxngknmaincnghwdniepnewlahlayrchkalxangxingkrmsilpakr cdhmayehtunkhrrachsima 11 knyayn ph s 2497 phimphsnxngkhun ecaphrayankhrrachsima pin n rachsima aela ecaphrayankhrrachsima thxngxinth n rachsima krungethph hxngsmudmhawithyalythrrmsastr m p p tnskul n rachsima yxneruxng emuxngokhrach khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 03 28 subkhnemux 2020 04 24 xangaelw hna 67 xangaelw hna 69 prakasphrarachthannamskul khrngthi 20 1601 xinthosls prakasphrarachthannamskul khrngthi 20 1578 emnaruci prakasphrarachthannamskul khrngthi 11 913 xthinnthn prakasphrarachthannamskul phrhmnarth prakasphrarachthannamskul phrhmnarth prakasphrarachthannamskul mhanrngkh tnskul n rachsima xangaelw hna 72 k phaphtamaenb