เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ คชเสนี) (มอญ: ထဝ်ရ, ทอเรียะ หรือ ทองชื่น คชเสนี) เป็นบุตรเจ้าพระยามหาโยธานราธิบดีศรีพิชัยณรงค์ (พญาเจ่ง) ต้นสกุล คชเสนี เข้ามาอยู่ที่เมืองไทยสมัยพระเจ้าตากสิน พร้อมบิดาเมื่อครั้งบิดาท่านเข้ามาพี่งพระบรมโพธิสมภารราวปี 2318 สันนิษฐานว่าเมื่อเริ่มเข้ารับราชการน่าจะมีบรรดาศักดิ์เป็นอย่างอื่น มาปรากฏนาม พระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เมื่อขึ้นปกครองชาวมอญแทนบิดาท่านในสมัยรัชกาลที่ 2 บางคนเรียกท่านว่า “พญาทอเรียะ” (มอญ: ဗညာထဝ်ရ) ถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เลื่อนเป็นเจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ)
ประวัติ
เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เป็นผู้มีความสามารถหลายด้าน ทั้งในด้านฝีมือในการรบ การทูต การใช้ภาษา เมื่อครั้งยุคล่าอาณานิคมอังฤษยึดอินเดียได้ และได้เริ่มทำสงครามกับพม่าจึงกระทบถึงความมั่นคงของไทย รัชกาลที่ 3 โปรดฯให้ เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) นำทัพไปช่วยอังกฤษรบและเจรจาทางด้านการทูต ด้วยความสามารถและชาติกำเนิดทำให้ เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เป็นที่เคารพนับถึอของชาวมอญ เช่น เมื่อครั้งที่ท่านยกทัพเข้าไปในพม่าทางด่านเจดีย์สามองค์ เจ้าเมืองขะเมิงและเจ้าเมืองทราซี่งเป็นเจ้าเมืองมอญ ได้จัดกองทัพเข้าสมทบกว่า 3,000 คน เมื่อเจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ยกกองทัพเข้าไปตั้งอยู่ที่เมืองเตริน (อัตรัน) ซึ่งเป็นเมืองมอญที่บิดาท่านเคยปกครอง บรรดาเจ้าเมืองมอญทั้งหลายก็เข้าอ่อนน้อมทำให้การศึกเป็นไปโดยง่าย ภายหลังเมื่ออังกฤษมีชัยต่อพม่า อังกฤษมีความคิดที่จะตั้งรามัญประเทศขึ้นใหม่ อังกฤษจึงได้มาทาบทามและเกลี้ยกล่อม เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ไปเป็นกษัตริย์รามัญประเทศที่จะตั้งขึ้น เนื่องด้วยเจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เป็นที่นิยมในหมู่ชาวมอญและมีบิดาเป็นพระภาติยะ (หลานลุง) ในกษัตริย์มอญองค์สุดท้าย แต่เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ตอบปฏิเสธด้วยมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทย อังกฤษจึงเลิกล้มความตั้งใจ
ด้านการศึกสงคราม
เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) มีส่วนร่วมในการทำศึกสงครามแทบทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น
- ปี พ.ศ. 2362 มีข่าวว่าพม่าจะยกทัพมา รัชกาลที่ 2 โปรดฯให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3) เป็นแม่ทัพใหญ่ และให้พระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เป็นทัพหน้าไปคอยขัดตาทัพ
- ปี พ.ศ. 2367 กองทัพไทยช่วยอังกฤษรบกับพม่าครั้งที่หนี่ง รัชกาลที่ 3 โปรดฯให้ เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ควบคุมบังคับบัญชากองมอญเป็นทัพหน้ายกเข้าไปในพม่าทางด่านเจดีย์สามองค์
- ปี พ.ศ. 2368 กองทัพไทยช่วยอังกฤษรบกับพม่าครั้งที่สอง รัชกาลที่ 3 โปรดฯให้เจ้าพระยามหาโยธาเป็นแม่ทัพใหญ่ คุมกองทัพมอญจำนวน 10,000 คนเศษเป็นทัพหน้า จนสามารถรักษาเมืองเมาะตะมะไว้ได้
- ปี พ.ศ. 2369 ครั้งปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ที่เวียงจันทน์ รัชกาลที่ 3 โปรดฯให้ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพเป็นแม่ทัพหลวง และให้เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ยกทัพไปช่วยโคราชแลัวข้ามไปตีเวียงจันทน์ ซึ่งในศึกครั้งนี้ พระยาเกียรติ (ตะโหนก หรือ คุณใหญ่) ผู้เป็นบุตรชายคนโตของท่านสิ้นชีพในสนามรบ แต่รบชนะตีค่ายหนองบัวลำภู จับตัวแม่ทัพและยึดเวียงจันทน์ได้
ด้านศาสนา
เจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ) ได้ดำเนินการสร้างวัดเกาะบางพูด จังหวัดนนทบุรี ต่อจากบิดา และน้อมเกล้าฯถวายแด่รัชกาลที่ 3 ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อตามนามผู้สร้างเป็น วัดเกาะพญาเจ่ง นอกจากนี้รัชกาลที่ 3 ยังโปรดฯให้เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) เป็นผู้สร้างกุฏิสงฆ์ เสนาสนะ กำแพง และเขื่อนรอบวัดราชนัดดารามวรวิหาร รวมถึงตัดถนนทะลุกำแพงลงสู่ท่าน้ำ
บุตร-ธิดา
เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) มีบุตรธิดารวม 11 ท่าน ดังนี้
- พระยาเกียรติ (ตะโหนก หรือ คุณใหญ่ คชเสนี) สิ้นชีพในสนามรบครั้งปราบกฏเจ้าอนุวงศ์
- พระยาเกียรติ (ตะโดด คชเสนี)
- หม่อมชะมด คชเสนี ในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบัว ต้นสกุล ปัทมสิงห์ พระโอรส คือ หม่อมเจ้าเนตร และ หม่อมเจ้าหนูโต
- พระยาดำรงราชพลขันธ์ (จุ้ย คชเสนี) เจ้าเมืองนครเขื่อนขันธ์คนที่ 2 เป็นพระอัยกาฝ่ายพระชนนี(ตา)ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ ประสูติแด่ เจ้าจอมมารดากลิ่น คชเสนี ในรัชกลที่ 4 และ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชอุปัชฌายาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประสูติแด่ พระชนนีเอม (คชเสนี) นพวงศ์ฯ
- พระธรรมวิโรจน์ (นก คชเสนี) พระราชาคณะ เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร
- เจ้าจอมมารดาอิ่ม คชเสนี ในรัชกาลที่ 3 พระราชธิดาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากมุท, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านิเวศน์ และ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณี
เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรียะ) ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2398 สมัยรัชกาลที่ 4 รวมอายุได้ 93 ปี ที่บ้านถนนพระอาทิตย์ ท่านได้ทำพินัยกรรมยกบ้านของท่านเป็นของขวัญสมโภชน์พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากฤดาภินิหาร ผู้เป็นเหลน ไว้เมื่อยามย้ายออกจากพระบรมมหาราชวัง พระเจ้าลูกยาเธอฯ ซึ่งต่อมาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ได้ประทับ ณ วังถนนพระอาทิตย์จนสิ้นพระชนม์
อ้างอิง
- ประยูร พิศนาคะ, 50 เจ้าพระยากรุงรัตนโกสินทร์, พระนคร: คลังวิทยา 2505 หน้า 474
- สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รายงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติ: ครบเครื่องเรื่องรามัญ ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น หรือการกลืนชาติ, อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 14 ตุลาคม 2550
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 หน้า 321
- พระยาอนุชิต, พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 2475 หน้า 197-200
- ศูนย์ข้อมูลกลางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประวัติวัดเกาะพญาเจ่ง
- สำนักหอสมุดกลาง ม.ศิลปากร, วัดราชนัดดารามวรวิหาร 2016-03-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecaphrayamhaoytha thxeriya khchesni mxy ထဝ ရ thxeriya hrux thxngchun khchesni epnbutrecaphrayamhaoythanrathibdisriphichynrngkh phyaecng tnskul khchesni ekhamaxyuthiemuxngithysmyphraecataksin phrxmbidaemuxkhrngbidathanekhamaphingphrabrmophthismpharrawpi 2318 snnisthanwaemuxerimekharbrachkarnacamibrrdaskdiepnxyangxun mapraktnam phrayamhaoytha thxeriya emuxkhunpkkhrxngchawmxyaethnbidathaninsmyrchkalthi 2 bangkhneriykthanwa phyathxeriya mxy ဗည ထဝ ရ thungsmyrchkalthi 3 ideluxnepnecaphrayamhaoytha thxeriya prawtiecaphrayamhaoytha thxeriya haruxkbnayphlexk esxr xarchibld aekhmpebll aemthphfayxngkvs inkarrbkbphmarahwangsngkhramxngkvs phma khrngthi 1 phaphwadody ehm ewchkr ecaphrayamhaoytha thxeriya epnphumikhwamsamarthhlaydan thngindanfimuxinkarrb karthut karichphasa emuxkhrngyukhlaxananikhmxngvsyudxinediyid aelaiderimthasngkhramkbphmacungkrathbthungkhwammnkhngkhxngithy rchkalthi 3 oprdih ecaphrayamhaoytha thxeriya nathphipchwyxngkvsrbaelaecrcathangdankarthut dwykhwamsamarthaelachatikaenidthaih ecaphrayamhaoytha thxeriya epnthiekharphnbthuxkhxngchawmxy echn emuxkhrngthithanykthphekhaipinphmathangdanecdiysamxngkh ecaemuxngkhaemingaelaecaemuxngthrasingepnecaemuxngmxy idcdkxngthphekhasmthbkwa 3 000 khn emuxecaphrayamhaoytha thxeriya ykkxngthphekhaiptngxyuthiemuxngetrin xtrn sungepnemuxngmxythibidathanekhypkkhrxng brrdaecaemuxngmxythnghlaykekhaxxnnxmthaihkarsukepnipodyngay phayhlngemuxxngkvsmichytxphma xngkvsmikhwamkhidthicatngramypraethskhunihm xngkvscungidmathabthamaelaekliyklxm ecaphrayamhaoytha thxeriya ipepnkstriyramypraethsthicatngkhun enuxngdwyecaphrayamhaoytha thxeriya epnthiniyminhmuchawmxyaelamibidaepnphraphatiya hlanlung inkstriymxyxngkhsudthay aetecaphrayamhaoytha thxeriya txbptiesthdwymikhwamcngrkphkditxphramhakstriyithy xngkvscungeliklmkhwamtngicdankarsuksngkhramecaphrayamhaoytha thxeriya miswnrwminkarthasuksngkhramaethbthukkhrng twxyangechn pi ph s 2362 mikhawwaphmacaykthphma rchkalthi 2 oprdih smedcphraecalukyaethxkrmhmunecsdabdinthr rchkalthi 3 epnaemthphihy aelaihphrayamhaoytha thxeriya epnthphhnaipkhxykhdtathph pi ph s 2367 kxngthphithychwyxngkvsrbkbphmakhrngthihning rchkalthi 3 oprdih ecaphrayamhaoytha thxeriya khwbkhumbngkhbbychakxngmxyepnthphhnaykekhaipinphmathangdanecdiysamxngkh pi ph s 2368 kxngthphithychwyxngkvsrbkbphmakhrngthisxng rchkalthi 3 oprdihecaphrayamhaoythaepnaemthphihy khumkxngthphmxycanwn 10 000 khnessepnthphhna cnsamarthrksaemuxngemaatamaiwid pi ph s 2369 khrngprabkbtecaxnuwngsthiewiyngcnthn rchkalthi 3 oprdih smedckrmphrarachwngbwrmhaskdiphlesphepnaemthphhlwng aelaihecaphrayamhaoytha thxeriya ykthphipchwyokhrachaelwkhamiptiewiyngcnthn sunginsukkhrngni phrayaekiyrti taohnk hrux khunihy phuepnbutrchaykhnotkhxngthansinchiphinsnamrb aetrbchnatikhayhnxngbwlaphu cbtwaemthphaelayudewiyngcnthniddansasnaecaphrayamhaoytha thxeriya iddaeninkarsrangwdekaabangphud cnghwdnnthburi txcakbida aelanxmeklathwayaedrchkalthi 3 phayhlngidepliynchuxtamnamphusrangepn wdekaaphyaecng nxkcaknirchkalthi 3 yngoprdihecaphrayamhaoytha thxeriya epnphusrangkutisngkh esnasna kaaephng aelaekhuxnrxbwdrachnddaramwrwihar rwmthungtdthnnthalukaaephnglngsuthanabutr thidaecaphrayamhaoytha thxeriya mibutrthidarwm 11 than dngni phrayaekiyrti taohnk hrux khunihy khchesni sinchiphinsnamrbkhrngprabktecaxnuwngs phrayaekiyrti taodd khchesni hmxmchamd khchesni inphraecarachwrwngsethx phraxngkhecabw tnskul pthmsingh phraoxrs khux hmxmecaentr aela hmxmecahnuot phrayadarngrachphlkhnth cuy khchesni ecaemuxngnkhrekhuxnkhnthkhnthi 2 epnphraxykafayphrachnni ta khxng phraecabrmwngsethx phraxngkhecakvsdaphinihar krmphranersrwrvththi prasutiaed ecacxmmardaklin khchesni inrchklthi 4 aela smedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryanwngs phrarachxupchchayacaryinphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr prasutiaed phrachnniexm khchesni nphwngs phrathrrmwiorcn nk khchesni phrarachakhna ecaxawaswdrachathiwasrachwrwihar ecacxmmardaxim khchesni inrchkalthi 3 phrarachthidakhux phraecabrmwngsethx phraxngkhecakmuth phraecabrmwngsethx phraxngkhecaniewsn aela phraecabrmwngsethx phraxngkhecaklyani ecaphrayamhaoytha thxeriya thungaekxsykrrmemuxpi ph s 2398 smyrchkalthi 4 rwmxayuid 93 pi thibanthnnphraxathity thanidthaphinykrrmykbankhxngthanepnkhxngkhwysmophchnphraecalukyaethx phraxngkhecakvdaphinihar phuepnehln iwemuxyamyayxxkcakphrabrmmharachwng phraecalukyaethx sungtxmakhux phraecabrmwngsethx krmphranerswrvththi idprathb n wngthnnphraxathitycnsinphrachnmxangxingprayur phisnakha 50 ecaphrayakrungrtnoksinthr phrankhr khlngwithya 2505 hna 474 sthabnexechiysuksa culalngkrnmhawithyaly rayngansmmnathangwichakarnanachati khrbekhruxngeruxngramy khwamsmphnthaennaefn hruxkarklunchati xakharmhitlathiebsr culalngkrnmhawithyaly 14 tulakhm 2550 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 2 hna 321 phrayaxnuchit phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr smedcphranngeklaecaxyuhw 2475 hna 197 200 sunykhxmulklangwthnthrrm krathrwngwthnthrrm prawtiwdekaaphyaecng sankhxsmudklang m silpakr wdrachnddaramwrwihar 2016 03 17 thi ewyaebkaemchchin