ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง
ประวัติ
ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
ขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้นำสูตรมาจากโปรตุเกส
คำให้การขุนหลวงหาวัด บันทึกไว้ว่าที่เกาะเมืองอยุธยามีย่านร้านขายอาหารหลากหลาย รวมถึงร้านขายขนมต่าง ๆ เช่น ขนมกงเกวียน ขนมพิมถั่ว ขนมชะมด สัมปันนี ขนมเปีย (ขนมเปี๊ยะ) และหินฝนทอง
ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการพิมพ์ตำราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตำราขนมไทยด้วย จึงนับได้ว่าวัฒนธรรมขนมไทยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ตำราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัวป่าก์
การแบ่งประเภทของขนมไทย
แบ่งตามวิธีการทำให้สุกได้ดังนี้
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการกวน ส่วนมากใช้กระทะทอง กวนตั้งแต่เป็นน้ำเหลวใสจนงวด แล้วเทใส่พิมพ์หรือถาดเมื่อเย็นจึงตัดเป็นชิ้น เช่น ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปูน และผลไม้กวนต่าง ๆ รวมถึง และกะละแม
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่ง ใช้ บางชนิดเทส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลแล้วนึ่ง บางชนิดใส่ถาดหรือพิมพ์ บางชนิดห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าว เช่น ขนมชั้น ข้าวต้มผัด อ่อน สังขยา ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมเทียน ขนมน้ำดอกไม้ ข้าวเกรียบปากหม้อ
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการเชื่อม เป็นการใส่ส่วนผสมลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดจนสุก ได้แก่ ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง กล้วยเชื่อม จาวตาลเชื่อม
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการทอด เป็นการใส่ส่วนผสมลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ จนสุก เช่น กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด ขนมกง ขนมค้างคาว ขนมฝักบัว
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งหรืออบ ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหน้านวล ขนมกลีบลำดวน ขนมทองม้วน สาลี่แข็ง นอกจากนี้ อาจรวม ขนมครก ขนมเบื้อง ที่ใช้ความร้อนบนเตาไว้ในกลุ่มนี้ด้วย
- ขนมที่ทำให้สุกด้วยการต้ม ขนมประเภทนี้จะใช้หม้อหรือกระทะต้มน้ำให้เดือด ใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักขึ้น นำมาคลุกหรือโรยมะพร้าว ได้แก่ ขนมถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเรไร นอกจากนี้ยังรวมขนมประเภทน้ำ ที่นิยมนำมาต้มกับกะทิ หรือใส่แป้งผสมเป็นขนมเปียก และขนมที่กินกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปียก ลอดช่อง ซ่าหริ่ม
วัตถุดิบในการปรุงขนมไทย
ขนมไทยส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวและจะใช้ส่วนประกอบอื่นๆ เช่น สี ภาชนะ กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ข้าวที่ใช้ในขนมไทยมีทั้งใช้ในรูปข้าวทั้งเม็ดและข้าวที่อยู่ในรูปแป้ง นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบอื่นๆ เช่น มะพร้าว ไข่ น้ำตาล ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้าวและแป้ง
การนำข้าวมาทำขนมของคนไทยเริ่มตั้งแต่ข้าวไม่แก่จัด ข้าวอ่อนที่เป็นน้ำนม นำมาทำข้าวยาคู พอแก่ขึ้นอีกแต่เปลือกยังเป็นสีเขียวนำมาทำข้าวเม่า ข้าวเม่าที่ได้นำไปทำขนมได้อีกหลายชนิด เช่น ข้าวเม่าคลุก ข้าวเม่าบด ข้าวเม่าหมี่ กระยาสารท ข้าวเจ้าที่เหลือจากการรับประทาน และที่นำไปทำเป็นแป้ง เช่น แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว นอกจากนั้นยังใช้แป้งมันสำปะหลังด้วย ส่วนแป้งสาลีมีใช้น้อย มักใช้ในขนมที่ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ
มะพร้าวและกะทิ
มะพร้าวนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของขนมไทยได้ตั้งแต่มะพร้าวอ่อนจนถึงมะพร้าวแก่ดังนี้
- มะพร้าวอ่อน ใช้เนื้อผสมในขนม เช่น เปียกสาคู วุ้นมะพร้าว สังขยามะพร้าวอ่อน
- มะพร้าวทึนทึก ใช้ขูดฝอยทำเป็นไส้กระฉีก ใช้คลุกกับข้าวต้มมัดเป็นข้าวต้มหัวหงอก และใช้เป็นมะพร้าวขูดโรยหน้าขนมหลายชนิด เช่น ขนมเปียกปูน ขนมขี้หนู ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของขนมไทย
- มะพร้าวแก่ นำมาคั้นเป็นกะทิก่อนใส่ในขนม นำไปทำขนมได้หลายแบบ เช่น ต้มผสมกับส่วนผสม เช่นกล้วยบวชชี แกงบวดต่างๆ หรือตักหัวกะทิราดบนขนม เช่น สาคูเปียก ซ่าหริ่ม บัวลอย
น้ำตาล
แต่เดิมนั้นน้ำตาลที่นำมาใช้ทำขนมคือน้ำตาลจากตาลหรือมะพร้าว ในบางท้องที่ใช้น้ำตาลอ้อย น้ำตาลทรายถูกนำมาใช้ภายหลัง
ไข่
เริ่มเป็นส่วนผสมของขนมไทยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชซึ่งได้รับอิทธิพลจากขนมของโปรตุเกส ไข่ที่ใช้ทำขนมนี้จะตีให้ขึ้นฟู ก่อนนำไปผสม ขนมบางชนิดเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ต้องแยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน แล้วใช้แต่ไข่แดงไปทำขนม
ถั่วและงา
ถั่วและงาจัดเป็นส่วนผสมที่สำคัญในขนมไทย การใช้ถั่วเขียวนึ่งละเอียดมาทำขนมพบได้ตั้งแต่สมัยอยุธยา เช่นขนมพิมพ์ถั่วทำด้วยถั่วเหลืองหรือถั่วเขียวกวนมาอัดใส่พิมพ์ ถั่วและงาที่นิยมใช้ในขนมไทยมีดังนี้
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ถั่วทอง ถั่วซีก ถั่วเขียวที่ใช้ต้องล้างและแช่น้ำค้างคืนก่อนเอาไปนึ่ง
- ถั่วดำ ใช้ใส่ในขนมไทยไม่กี่ชนิด และใส่ทั้งเม็ด เช่น ข้าวต้มมัด ข้าวหลาม ถั่วดำต้มน้ำตาล ขนมถั่วดำ
- ถั่วลิสง ใช้น้อย ส่วนใหญ่ใช้โรยหน้าขนมผักกาดกวน ใส่ในขนมจ่ามงกุฎ ใส่ในรูปที่คั่วสุกแล้ว
- งาขาวและงาดำ ใส่เป็นส่วนผสมสำคัญในขนมบางชนิดเช่น ขนมแดกงา
กล้วย
กล้วยมีส่วนเกี่ยวข้องกับขนมไทยหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมกล้วย กล้วยกวน กล้วยเชื่อม กล้วยแขกทอด หรือใช้กล้วยเป็นไส้ เช่น ข้าวต้มมัด ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย ข้าวเม่า กล้วยที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยแต่ละชนิดเมื่อนำมาทำขนมบางครั้งจะให้สีต่างกัน เช่น กล้วยน้ำว้าเมื่อนำไปเชื่อมให้สีแดง กล้วยไข่ให้สีเหลือง เป็นต้น
สี
สีที่ได้จากธรรมชาติและใช้ในขนมไทย มีดังนี้
- สีเขียว ได้จากใบเตยโขลกละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ
- สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน เด็ดกลีบดอกอัญชันแช่ในน้ำเดือด ถ้าบีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อยจะได้สีม่วง
- สีเหลืองจากขมิ้นหรือหญ้าฝรั่นหรือก้านดอกกรรณิการ์
- สีแดงจากครั่ง
- สีดำจากกาบมะพร้าวเผาไฟ นำมาโขลกผสมน้ำแล้วกรอง
กลิ่นหอม
กลิ่นหอมที่ใช้ในขนมไทยได้แก่
- กลิ่นน้ำลอยดอกมะลิ ใช้ดอกมะลิที่เก็บในตอนเช้า แช่ลงในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วให้ก้านจุ่มอยู่ในน้ำ ปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นจึงกรอง นำนำไปใช้ทำขนม
- กลิ่นดอกกระดังงา นิยมใช้อบขนมแห้ง โดยเด็ดกลีบกระดังงามาลนเทียนอบให้หอม ใส่ขวดโหลที่ใส่ขนมไว้ ปิดฝาให้สนิท
- กลิ่นเทียนอบ จุดไฟที่ปลายเทียนอบทั้งสองข้างให้ลุกสักครู่หนึ่งแล้วดับไฟ วางลงในถ้วยตะไล ใส่ในขวดโหลที่ใส่ขนม ปิดผาให้สนิท
- กลิ่นใบเตย หั่นใบเตยที่ล้างสะอาดเป็นท่อนยาว ใส่ลงไปในขนม
ขนมไทยแต่ละภาค
ขนมไทยภาคเหนือ
ส่วนใหญ่จะทำจากข้าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้ม เช่น ขนมเทียน ขนมวง ข้าวต้มหัวหงอก มักทำกันในเทศกาลสำคัญ เช่น เข้าพรรษา สงกรานต์ เป็นต้น
ขนมที่นิยมทำในงานบุญเกือบทุกเทศกาลคือ ขนมเทียนหรือขนมจ๊อก ขนมที่หาซื้อได้ทั่วไปคือ ขนมปาด ขนมศิลาอ่อน ข้าวเปี่ยงหรือขนมลิ้นหมา ข้าววิตูหรือข้าวเหนียวแดง ข้าวแตนหรือข้าวแต๋น ขนมเกลือ ขนมที่มีรับประทานเฉพาะฤดูหนาว ได้แก่ ข้าวหนุกงา ซึ่งเป็นงาคั่วตำกับข้าวเหนียว ถ้าใส่น้ำอ้อยด้วยเรียกงาตำอ้อย ข้าวแคบหรือข้าวเกรียบว่าว ลูกก่อ ถั่วแปะยี ถั่วแระ ลูกลานต้ม ส่วนขนมขนมที่หาทานค่อนข้างยากแล้วคือ ขนมข้าวปั้น ของชาวจังหวัดลำปาง เป็นขนมที่ได้อิทธิพลมาจากชาวจีน ในจังหวัดอื่นอาจจะเรียกว่า มี้ปัน หรือขนมถ้วยจีน ลักษณะคล้ายขนมถ้วย ราดด้วยน้ำเชื่อมตามด้วยไชโป๊เค็มสับ และกระเทียมเจียว
ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนมพื้นบ้านได้แก่ ขนมอาละหว่า ซึ่งคล้ายขนมหม้อแกง ขนมเปงม้ง ซึ่งคล้ายขนมอาละหว่าแต่มีการหมักแป้งให้ฟูก่อน ขนมส่วยทะมินทำจากข้าวเหนียวนึ่ง น้ำตาลอ้อยและกะทิ ในช่วงที่มีน้ำตาลอ้อยมากจะนิยมทำขนมอีก 2 ชนิดคือ งาโบ๋ ทำจากน้ำตาลอ้อยเคี่ยวให้เหนียวคล้ายตังเมแล้วคลุกงา กับ แปโหย่ ทำจากน้ำตาลอ้อยและถั่วแปยี มีลักษณะคล้ายถั่วตัด
ขนมไทยภาคกลาง
ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ขนมกลีบลำดวน ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น
ขนมไทยภาคอีสาน
เป็นขนมที่ทำกันง่ายๆ ไม่พิถีพิถันมากเหมือนขนมภาคอื่น ขนมพื้นบ้านอีสานได้แก่ ข้าวจี่ หรือมะขามบ่ายข้าว ข้าวโป่ง นอกจากนั้นมักเป็นขนมในงานบุญพิธี ที่เรียกว่า ข้าวประดับดิน โดยชาวบ้านนำข้าวที่ห่อใบตอง มัดด้วยตอกแบบข้าวต้มมัด กระยาสารท ข้าวทิพย์ ข้าวยาคู ขนมพื้นบ้านของจังหวัดเลยมักเป็นขนมง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวนึ่งจิ้มน้ำผึ้ง ข้าวบ่ายเกลือ คือข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนจิ้มเกลือให้พอมีรสเค็ม ถ้ามีมะขามจะเอามาใส่เป็นไส้เรียกมะขามบ่ายข้าว น้ำอ้อยกะทิ ทำด้วยน้ำอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว ใส่ถั่วลิสงคั่วและมะพร้าวซอย ข้าวพองทำมาจากข้าวตากคั่วใส่มะพร้าวหั่นเป็นชิ้นๆ และถั่วลิสงคั่ว กวนกับน้ำอ้อยจนเหนียวเทใส่ถาด ในงานบุญต่างๆจะนิยมทำขนมปาด (คล้ายขนมเปียกปูนของภาคกลาง) ลอดช่อง และขนมหมก (แป้งข้าวเหนียวโม่ ปั้นเป็นก้อนกลมใส่ไส้กระฉีก ห่อเป็นสามเหลี่ยมคล้ายขนมเทียน นำไปนึ่ง)
ขนมไทยภาคใต้
ชาวใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทำบุญด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำหรือเมซำ ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น
ตัวอย่างของขนมพื้นบ้านภาคใต้ได้แก่
- ขนมหน้าไข่ ทำจากแป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำตาล นำไปนึ่ง หน้าขนมทำด้วย กะทิผสมไข่ น้ำตาล เกลือ ตะไคร้และหัวหอม ราดบนตัวขนม แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง
- ขนมฆีมันไม้ เป็นขนมของชาวไทยมุสลิม ทำจากมันสำปะหลังนำไปต้มให้สุก โรยด้วยแป้ง เก็บไว้ 1 คืน 1 วันจึงนำมารับประทาน
- ขนมจู้จุน ทำจากแป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำเชื่อม แล้วเอาไปทอด มีลักษณะเหนียวและอมน้ำมัน
- ขนมคอเป็ด ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งข้าวเหนียว นวดรวมกับไข่ไก่ รีดเป็นแผ่น ตัดเป็นชิ้นๆ เอาไปทอด สุกแล้วเอาไปเคล้ากับน้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนเหนียวข้น
- ขนมคนที ทำจากใบ ผสมกับแป้งและน้ำตาล นึ่งให้สุก คลุกกับมะพร้าวขูด จิ้มกับน้ำตาลทราย
- ขนมกอแหละ ทำจากแป้งข้าวเจ้ากวนกับกะทิและเกลือ เทใส่ถาด โรยต้นหอม ตัดเป็นชิ้นๆ โรยหน้าด้วย มะพร้าวขูดคั่ว กุ้งแห้งป่น และน้ำตาลทราย
- ขนมก้านบัว ทำจากข้าวเหนียวนึ่งสุก นำไปโขลกด้วยครกไม้จนเป็นแป้ง รีดให้แบน ตากแดดจนแห้ง ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดให้สุก ฉาบด้วยน้ำเชื่อม
- ข้าวเหนียวเชงา เป็นข้าวเหนียวนึ่งสุก ตำผสมกับงาและน้ำตาลทราย
- ข้าวเหนียวเสือเกลือก คล้ายข้าวโพดคลุกของภาคกลางแต่เปลี่ยนข้าวโพดเป็นข้าวเหนียวนึ่งสุกและใส่กะทิด้วย
- ขี้หมาพองเช มีลักษณะเป็นก้อนๆ ทำจากข้าวเหนียวคั่วสุกจนเป็นสีน้ำตาล ตำให้ละเอียดเคล้ากับมะพร้าวขูด น้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนข้น เคล้ให้เข้ากันดี แล้วปั้นเป็นก้อน
- ขนมดาดา เป็นขนมของชาวไทยมุสลิม ใช้ในโอกาสเดียวกับฆานม ประกอบด้วยข้าวเจ้า ข้าวเหนียวผสมน้ำบดให้ละเอียด นำไปละเลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ พับให้เป็นแผ่น กินกับน้ำตาลเหลว
- ขนมกรุบ นิยมทำกันในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำอุ่น นำไปรีดให้แผ่บางบนใบตอง นำไปนึ่งแล้วตากแดดให้แห้ง แล้วทอดให้กรอบคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวเป็นยางมะตูม
- ขนมก้องถึ่ง ทำจากถั่วลิสงคั่ว คลุกกับน้ำตาลร้อนๆ แล้วใช้ไม้ทุบให้ละเอียดจนเป็นแผ่น ตัดเป็นชิ้น
- ขนมด้วง ทำจากแป้งมันและแป้งข้าวจ้าว นวดด้วยน้ำดอกมะลิ ปั้นเป็นก้อนยาวขนาดประมาณสี่เซนติเมตร นำไปนึ่ง เมื่อสุกให้นำมาจัดจาน โดยโรยด้วยมะพร้าวขูดหรือน้ำตาลทราย
ขนมในพิธีกรรมและงานเทศกาล
ขนมไทยมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตไทยในทุกเทศกาลและโอกาสต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ขนมที่ใช้ในงานเทศกาลและพิธีกรรมต่างๆของไทยตลอดทั้งปีสรุปได้ดังนี้
ขนมไทยในงานเทศกาล
- งานตรุษสงกรานต์ ที่พระประแดง และราชบุรี ใช้กะละแมเป็นขนมประงานตรุษ
- สารทไทย เดือน 10 ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ ใช้กระยาสารทเป็นขนมหลัก นอกจากนั้น อาจมี ข้าวยาคู ข้าวมธุปายาส ข้าวทิพย์ ส่วนทางภาคใต้ จะมี ขนมสารทเดือนสิบ โดยใช้ขนมลา ขนมพอง ขนมท่อนใต้ ขนมเจาะหูหรือ ขนมต้ม (ข้าวเหนียวใส่กะทิห่อใบกะพ้อต้ม ต่างจากขนมต้มของภาคกลาง) ยาสาด (กระยาสารท) ยาหนม (กะละแม) โดยขนมแต่ละชนิดที่ใช้มีความหมายคือ เป็นแพพาข้ามห้วงมหรรณพ ขนมกงหรือขนมไข่ปลา เป็นเครื่องประดับ เป็นเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย ขนมบ้า ใช้เป็นลูกสะบ้า ขนมลาเป็นเสื้อผ้าแพรพรรณ
- เทศกาลออกพรรษา การตักบาตรเทโว เดือน 11 นิยมทำข้าวต้มผัดห่อด้วยใบตองหรือใบอ้อย ธรรมเนียมนี้มาจากความเชื่อทางศาสนาที่ว่า เมื่อประชาชนไปรอรับเสด็จพระพุทธเจ้าเมื่อทรงพุทธดำเนินจากเทวโลกกลับสู่โลกมนุษย์ ณ เมืองสังกัสสะ ชาวเมืองที่ไปรอรับเสด็จได้นำข้าวต้มผัดไปเป็นเสบียงระหว่างรอ บางท้องที่มีการทำข้าวต้มลูกโยนใส่บาตรด้วยเช่น ชาวไทยเชื้อสายมอญที่จังหวัดราชบุรี
- ในช่วงออกพรรษา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีประเพณีลากพระและตักบาตรหน้าล้อ ซึ่งจะใช้ขนมสองชนิดคือ ห่อต้ม (ข้าวเหนียวผัดกะทิห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมด้วยใบพ้อ) และห่อมัด (เหมือนห่อต้มแต่ห่อด้วยใบจากหรือใบมะพร้าวอ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยมใช้เชือกมัด)
- ในช่วงถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ชาวไทยมุสลิมนิยมรับประทานขนมอาเก๊าะ
- เดือนอ้าย มีพระราชพิธีเลี้ยงขนมเบื้อง เมื่อพระอาทิตย์โคจรเข้าราศีธนู นิมนต์พระสงฆ์ 80 รูป มาฉันขนมเบื้องในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
- เดือนอ้ายในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีประเพณีให้ทานไฟ โดยชาวบ้านจะก่อไฟและเชิญพระสงฆ์มาผิงไฟ ขนมที่ใช้ในงานนี้มี ขนมเบื้อง ขนมครก ขนมกรอก ขนมจูจุน กล้วยแขก ข้าวเหนียวกวน ขนมกรุบ ข้าวเกรียบปากหม้อ )
- เดือนสาม ทางภาคอีสานมีประเพณีบุญข้าวจี่ ซึ่งจะทำข้าวจี่ไปทำบุญที่วัด
- ชาวไทยมุสลิมมีประเพณีกวนขนมอาซูรอในวันที่ 10 ของเดือนมูฮรอม
ขนมไทยในพิธีกรรมและความเชื่อ
- การสะเดาะเคราะห์และแก้บนของศิลปินวายัง-มะโย่งของชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ ใช้ข้าวเหนียวสามสี (ขาว เหลือง แดง) (ฆีแน) ข้าวตอก (มือเตะ) รา (กาหงะ) และขนมเจาะหู (ลีงอโต๊ะแว)
- ในพิธีเข้าสุหนัต ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน นำเรือใหม่ลงน้ำ ชาวไทยมุสลิมนิยมทำขนมฆานม
- ขนมที่ใช้ในงานแต่งงาน ในภาคกลางนอกกรุงเทพฯออกไปจะมีขนมกงเป็นหลัก นอกจากนั้นมีทองเอก ขนมชะมด ขนมสามเกลอ บางแห่งใช่ขนมพระพายและขนมละมุดก็มี ในบางท้องถิ่น ใช้ กะละแม ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวแก้ว ขนมชั้น ขนมเปี๊ยะ ถ้าเป็นตอนเช้า ยังไม่ถึงเวลาอาหาร จะมีการเลี้ยงของว่างเรียก กินสามถ้วย ได้แก่ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ข้าวตอกนำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ บางแห่งใช้ มันน้ำกะทิ เม็ดแมงลักน้ำกะทิ บางท้องถิ่นใช้ขนมต้มด้วย
- พิธีแต่งงานของชาวไทยมุสลิม จะมีพิธีกินสมางัตซึ่งเป็นการป้อนข้าวและขนมให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ขนมที่ใช้มี กะละแมหรือขนมดอดอย ขนมก้อหรือตูปงปูตู ขนมลาและ
- ขนมที่ใช้ในงานบวชและงานทอดกฐินของชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีได้แก่ ขนมปลาหางดอก และลอดช่องน้ำกะทิ
- ในงานศพ ชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีนิยมเลี้ยงเม็ดแมงลักน้ำกะทิ
- การบูชาเทวดาในพิธีกรรมใดๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิใช้ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว เป็นหลักในเครื่องสังเวยชุดธรรมดา ชุดใหญ่เพิ่ม ข้าวตอก งาคั่ว ถั่วทอง ฟักทองแกงบวด ในพิธีทำขวัญจุกใช้ขนมต้มขาวต้มแดงด้วยเช่นกัน เครื่องกระยาบวชในการไหว้ครูเพื่อทำผงอิทธิเจ ใช้ขนมต้มแดงต้มขาวเช่นกัน
- พิธีเลี้ยงผีของชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีใช้ ขนมบัวลอย ขนมทอด
- ขนมที่ใช้ในพิธีไหว้ครูมวยไทยและกระบี่กระบอง ได้แก่ แกงบวด (กล้วย เผือกหรือมัน) เผือกต้ม มันต้ม ขนมต้มแดงต้มขาว ขนมชั้น ถ้วยฟู ฝอยทอง เม็ดขนุน
- ในการเล่นผีหิ้งของชาวชอง บนหิ้งมีขนมต้ม
ขนมที่มีชื่อเสียงเฉพาะถิ่น
- กรุงเทพมหานคร เขตธนบุรีมีขนมฝรั่งกุฎีจีน เขตปทุมวันมีขนมกลีบลำดวน
- จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ทุเรียนกวน
- จังหวัดฉะเชิงเทรา ขนมชั้น
- จังหวัดชลบุรี ข้าวหลาม(ตลาดหนองมน)
- จังหวัดชุมพร
- จังหวัดตรัง
- จังหวัดนครปฐม ขนมผิงและข้าวหลาม
- จังหวัดนครสวรรค์ ขนมโมจิและ ขนมฟักเขียวกวน
- จังหวัดนครพนม
- จังหวัดปราจีนบุรี ขนมเขียว
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่เป็นผลไม้เชื่อม ผลไม้กวน เช่น มะยมเชื่อม พุทรากวน ที่ ขนมบ้าบิ่น
- จังหวัดพัทลุง มี
- จังหวัดพิษณุโลก อำเภอบางกระทุ่ม มีกล้วยตาก
- จังหวัดเพชรบุรี เป็นแหล่งที่มีขนมหวานที่มีชื่อเสียงมานาน โดยเฉพาะขนมที่ทำมาจากน้ำตาลโตนดเช่น จาวตาลเชื่อม โตนดทอด ตังเม ส่วนขนมชนิดอื่นที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมาคือ ขนมขี้หนู ขนมหม้อแกง
- จังหวัดสตูล มี และข้าวเหนียวกวนขาว
- จังหวัดสมุทรปราการ มีขนมจาก
- จังหวัดสมุทรสงคราม มีขนมจ่ามงกุฎ
- จังหวัดสิงห์บุรี มีมะม่วงกวนหรือ
- จังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า มี
- จังหวัดอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ มีขนมเกสรลำเจียก
- จังหวัดอุตรดิตถ์ มีขนมเทียนเสวย ข้าวหลามทุ่งยั้ง
- จังหวัดอุทัยธานี มีขนมกง ขนมปังสังขยา
- จังหวัดอุบลราชธานี ข้าวหลาม
ขนมไทยที่ได้รับอิทธิพลจากขนมของชาติอื่น
ไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคแบบไทย จนทำให้คนรุ่นหลัง แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ และอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น-โปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงสุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่ไข่มักเป็น "ของเทศ" เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- "ส่อง "อาหารไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา" ต่างชาติว่า คนไทยอยู่กินดีจนขี้เกียจ". ศิลปวัฒนธรรม.
- ตำราขนมหวาน. กทม. แสงแดด. 2539
- ตำราขนมหวาน. กทม. แสงแดด.2539
- ส. พลายน้อย. เกร็ดย่อยร้อยเรื่อง. กทม. ดอกหญ้า. 2537
- วรดุลย์ ตุลารักษ์. วัฒนธรรมอาหารการกิน:ขนมไข่เหี้ย. ครัว. 4 (37) :88 - 89 กรกฎาคม 2540
- อบเชย อิ่มสบาย, บก. ตำรับขนมไทย. กทม. แสงแดด. 2539
- ฆนนกาล มาตยศิริ. กล้วยในขนมไทย. วัฒนธรรมไทย. 36 (4) : 16 -17, มกราคม 2542
- เฟื่อฟ้า เปียจำปา. อาหารคนเมือง ใน เชียงใหม่ หน้า 236 - 237. สุดารา สุจฉายา , บก. กทม. สารคดี. 2540
- ปาริชาติ เรืองวิเศษ. บก., แม่ฮ่องสอน. กทม. สารคดีม. 2536
- ยูร กมลเสรีรัตน์. ขนมอีสานเมื่อวันวาร. วัฒนธรรมไทย. 36 (4) : 42 - 43 มกราคม 2542
- ปาริชาติ เรืองวิเศษ. อาหารพื้นเมืองเลย. ใน เลย หน้า 173. สุดารา สุจฉายาม บก. กทม. สารคดี. 2539
- สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้. กทม. สถาบันทักษิณคดีศึกษา. 2523
- วันดี ณ สงขลา. อาหารไทยในวรรณคดี เล่ม 2. กทม. ผลิตภัณฑ์การพิมพ์. 2527
- สุดารา สุจฉายา. หลากสำรับในถิ่นราชบุรี ใน ราชบุรี. หน้า 282 - 289. สุดารา สุจฉายามบก. กม. สารคดี, 2541
- กิ่งกายจน์ ทิพย์สุขุม. วัฒนธรรมอาหารการกิน: ขนมลา ขนมเซ่น. ครัว. 4 (38) :92-93, สิงหาคม 2540
- ปาริชาติ เรืองวิเศษม บก. นครศรีธรรมราช. กทม. สารคดี. 2537
- กันยารัตน์ พรหมวิเศษ. อาเก๊าะ:ขนมพิมพ์ไข่ของชาวไทยมุสลิมชายแดนปักษ์ใต้. วัฒนธรรมไทย. 32 (4) : 36-39, มกราคม 2542
- สุรีย์ ดารา. วัฒนธรรมอาหารการกิน: ขนมเบื้อง บทพิสูจน์ฝีมือสตรีไทยสมัยก่อน. ครัว. 3 (28) : 92 -93, ตุลาคม 2539
- ยูร กมลเสรีรัตน์. รสลายคราม:ข้าวจี่. ครัว. 1 (8) : 108 กุมภาพันธ์ 2538
- ส. พลายน้อย. กระยานิยาย. กทม. มติชน. 2541
- พลศรี คชาชีวะ. ขนมในพิธีแต่งงานของไทย. แม่บ้านทันสมัย. 7 (96) : 45-48, สิงหาคม 2535
- สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้. กทม. สถาบันทักษิณคดีศึกษา. 2523
- พลศรี คชาชีวะ. ขนมมิ่งมงคล. แม่บ้านทันสมัย. 11 (151) : 20 - 25, พฤศจิกายน 2539
- ธนาภิต. ประเพณี พิธีมงคลและวันสำคัญของไทย. กทม. ชมรมเด็ก. 2539
- เทพย์ สาริกบุตร.พระคัมภีร์พระเวทมหาพุทธาคม.กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร,2525
- (เขียน ขนฺธสโร). อารยธรรมชอง จันทบุรี ใน อารยธรรมชองจันทบุรี และอาณาจักรจันทบูร เมืองเพนียต. กทม. โรงพิมพ์ไทยรายวัน. 2541
- นิยม สุขรองแพ่ง. ขนมเมืองเพชร ใน เพชรบุรี. กุศล เอี่ยมอรุณ, บก. กทม. สารคดี. 2536
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khnmithy miexklksndanwthnthrrmpracachatiithykhux mikhwamlaexiydxxnpranitinkareluxksrrwtthudib withikartha thiphithiphithn rschatixrxyhxmhwan sisnswyngam ruplksnchwnrbprathan tlxdcnkrrmwithithipranitbrrcngkhnmithyhlaychnid xathi thxnghyxd thxnghyib fxythxng sungepnkhnmthimithimacakoprtueks ody thawthxngkibmaprawtiinsmyobrankhnithycathakhnmechphaawarasakhyethann epntnwanganthabuy nganaetng ethskalsakhy hruxtxnrbaekhksakhy ephraakhnmbangchnidcaepntxngichkalngkhnxasyewlainkarthaphxsmkhwr swnihyepn khnbpraephni epntnwa khnmngan enuxnginnganaetngngan khnmphunban echn khnmkhrk khnmthwy l swnkhnminrwinwngcamihnataswyngam pranitwicitrbrrcnginkarcdwangrupthrngkhnmswyngam khnmithydngedim miswnphsmkhux aepng natal kathi ethann swnkhnmthiichikhepnswnprakxb echn thxnghyib thxnghyxd emdkhnun nn mari kimar edx pina thawthxngkibma hyingsawchawoprtueks epnphunasutrmacakoprtueks khaihkarkhunhlwnghawd bnthukiwwathiekaaemuxngxyuthyamiyanrankhayxaharhlakhlay rwmthungrankhaykhnmtang echn khnmkngekwiyn khnmphimthw khnmchamd smpnni khnmepiy khnmepiya aelahinfnthxng insmyrchkalthi 1 mikarphimphtaraxaharxxkephyaephr rwmthungtarakhnmithydwy cungnbidwawthnthrrmkhnmithymikarbnthukepnlaylksnxksrkhrngaerk taraxaharithyelmaerkkhuxaemkhrwhwpakkaraebngpraephthkhxngkhnmithyaebngtamwithikarthaihsukiddngni khnmthithaihsukdwykarkwn swnmakichkrathathxng kwntngaetepnnaehlwiscnngwd aelwethisphimphhruxthademuxeyncungtdepnchin echn khnmlumklun khnmepiykpun aelaphlimkwntang rwmthung aelakalaaem khnmthithaihsukdwykarnung ich bangchnidethswnphsmisthwytailaelwnung bangchnidisthadhruxphimph bangchnidhxdwyibtxnghruxibmaphraw echn khnmchn khawtmphd xxn sngkhya khnmklwy khnmtal khnmethiyn khnmnadxkim khawekriybpakhmx khnmthithaihsukdwykarechuxm epnkarisswnphsmlnginnaechuxmthikalngeduxdcnsuk idaek thxnghyxd thxnghyib fxythxng klwyechuxm cawtalechuxm khnmthithaihsukdwykarthxd epnkarisswnphsmlnginkrathathiminamnrxn cnsuk echn klwythxd khawemathxd khnmkng khnmkhangkhaw khnmfkbw khnmthithaihsukdwykarnunghruxxb idaek khnmhmxaekng khnmhnanwl khnmklibladwn khnmthxngmwn saliaekhng nxkcakni xacrwm khnmkhrk khnmebuxng thiichkhwamrxnbnetaiwinklumnidwy khnmthithaihsukdwykartm khnmpraephthnicaichhmxhruxkrathatmnaiheduxd iskhnmlngipcnsukaelwtkkhun namakhlukhruxorymaphraw idaek khnmthwaepb khnmtm khnmerir nxkcakniyngrwmkhnmpraephthna thiniymnamatmkbkathi hruxisaepngphsmepnkhnmepiyk aelakhnmthikinkbnaechuxmaelanakathi echn klwybwchchi mnaekngbwd sakhuepiyk lxdchxng sahrimwtthudibinkarprungkhnmithysakhuishmu aelakhawekriybpakhmx khnmithyswnihythamacakkhawaelacaichswnprakxbxun echn si phachna klinhxmcakthrrmchati khawthiichinkhnmithymithngichinrupkhawthngemdaelakhawthixyuinrupaepng nxkcaknnyngmiwtthudibxun echn maphraw ikh natal sungcaklawthungraylaexiyddngtxipni khawaelaaepng karnakhawmathakhnmkhxngkhnithyerimtngaetkhawimaekcd khawxxnthiepnnanm namathakhawyakhu phxaekkhunxikaetepluxkyngepnsiekhiywnamathakhawema khawemathiidnaipthakhnmidxikhlaychnid echn khawemakhluk khawemabd khawemahmi krayasarth khawecathiehluxcakkarrbprathan aelathinaipthaepnaepng echn aepngkhaweca aepngkhawehniyw nxkcaknnyngichaepngmnsapahlngdwy swnaepngsalimiichnxy mkichinkhnmthiidrbxiththiphlcaktangchati maphrawaelakathi maphrawnamaichepnswnprakxbkhxngkhnmithyidtngaetmaphrawxxncnthungmaphrawaekdngni maphrawxxn ichenuxphsminkhnm echn epiyksakhu wunmaphraw sngkhyamaphrawxxn maphrawthunthuk ichkhudfxythaepniskrachik ichkhlukkbkhawtmmdepnkhawtmhwhngxk aelaichepnmaphrawkhudoryhnakhnmhlaychnid echn khnmepiykpun khnmkhihnu sungthuxepnexklksnxyanghnungkhxngkhnmithy maphrawaek namakhnepnkathikxnisinkhnm naipthakhnmidhlayaebb echn tmphsmkbswnphsm echnklwybwchchi aekngbwdtang hruxtkhwkathiradbnkhnm echn sakhuepiyk sahrim bwlxynatal aetedimnnnatalthinamaichthakhnmkhuxnatalcaktalhruxmaphraw inbangthxngthiichnatalxxy natalthraythuknamaichphayhlng ikh erimepnswnphsmkhxngkhnmithytngaetsmysmedcphranaraynmharachsungidrbxiththiphlcakkhnmkhxngoprtueks ikhthiichthakhnmnicatiihkhunfu kxnnaipphsm khnmbangchnidechn thxnghyib thxnghyxd fxythxng txngaeykikhkhawaelaikhaedngxxkcakkn aelwichaetikhaedngipthakhnm thwaelanga thwaelangacdepnswnphsmthisakhyinkhnmithy karichthwekhiywnunglaexiydmathakhnmphbidtngaetsmyxyuthya echnkhnmphimphthwthadwythwehluxnghruxthwekhiywkwnmaxdisphimph thwaelangathiniymichinkhnmithymidngni thwekhiywelaaepluxk michuxeriykhlaychux echn thwthxng thwsik thwekhiywthiichtxnglangaelaaechnakhangkhunkxnexaipnung thwda ichisinkhnmithyimkichnid aelaisthngemd echn khawtmmd khawhlam thwdatmnatal khnmthwda thwlisng ichnxy swnihyichoryhnakhnmphkkadkwn isinkhnmcamngkud isinrupthikhwsukaelw ngakhawaelangada isepnswnphsmsakhyinkhnmbangchnidechn khnmaedkngaklwy klwymiswnekiywkhxngkbkhnmithyhlaychnid imwacaepnkhnmklwy klwykwn klwyechuxm klwyaekhkthxd hruxichklwyepnis echn khawtmmd khawehniywpingisklwy khawema klwythiichswnihyepnklwynawa klwyaetlachnidemuxnamathakhnmbangkhrngcaihsitangkn echn klwynawaemuxnaipechuxmihsiaedng klwyikhihsiehluxng epntn si sithiidcakthrrmchatiaelaichinkhnmithy midngni siekhiyw idcakibetyokhlklaexiyd khnexaaetna sinaengincakdxkxychn eddklibdxkxychnaechinnaeduxd thabibnamanawlngipelknxycaidsimwng siehluxngcakkhminhruxhyafrnhruxkandxkkrrnikar siaedngcakkhrng sidacakkabmaphrawephaif namaokhlkphsmnaaelwkrxngklinhxm klinhxmthiichinkhnmithyidaek klinnalxydxkmali ichdxkmalithiekbintxnecha aechlnginnatmsukthieynaelwihkancumxyuinna pidfathingiw 1 khun rungkhuncungkrxng nanaipichthakhnm klindxkkradngnga niymichxbkhnmaehng odyeddklibkradngngamalnethiynxbihhxm iskhwdohlthiiskhnmiw pidfaihsnith klinethiynxb cudifthiplayethiynxbthngsxngkhangihlukskkhruhnungaelwdbif wanglnginthwytail isinkhwdohlthiiskhnm pidphaihsnith klinibety hnibetythilangsaxadepnthxnyaw islngipinkhnmkhnmithyaetlaphakhkhnmithyphakhehnux swnihycathacakkhawehniyw aelaswnihycaichwithikartm echn khnmethiyn khnmwng khawtmhwhngxk mkthakninethskalsakhy echn ekhaphrrsa sngkrant epntn khnmthiniymthainnganbuyekuxbthukethskalkhux khnmethiynhruxkhnmcxk khnmthihasuxidthwipkhux khnmpad khnmsilaxxn khawepiynghruxkhnmlinhma khawwituhruxkhawehniywaedng khawaetnhruxkhawaetn khnmeklux khnmthimirbprathanechphaavduhnaw idaek khawhnuknga sungepnngakhwtakbkhawehniyw thaisnaxxydwyeriykngataxxy khawaekhbhruxkhawekriybwaw lukkx thwaepayi thwaera luklantm swnkhnmkhnmthihathankhxnkhangyakaelwkhux khnmkhawpn khxngchawcnghwdlapang epnkhnmthiidxiththiphlmacakchawcin incnghwdxunxaccaeriykwa mipn hruxkhnmthwycin lksnakhlaykhnmthwy raddwynaechuxmtamdwyichopekhmsb aelakraethiymeciyw incnghwdaemhxngsxn khnmphunbanidaek khnmxalahwa sungkhlaykhnmhmxaekng khnmepngmng sungkhlaykhnmxalahwaaetmikarhmkaepngihfukxn khnmswythaminthacakkhawehniywnung natalxxyaelakathi inchwngthiminatalxxymakcaniymthakhnmxik 2 chnidkhux ngaob thacaknatalxxyekhiywihehniywkhlaytngemaelwkhluknga kb aepohy thacaknatalxxyaelathwaepyi milksnakhlaythwtd khnmithyphakhklang swnihythamacakkhaweca echn khawtng nangeld khawehniywmun aelamikhnmthihludlxdmacakrwwng cnaephrhlaysusamychnthwip echn khnmklibladwn lukchub hmxkhawhmxaekng fxythxng thxnghyib khnmtal khnmklwy khnmephuxk epntn khnmithyphakhxisan epnkhnmthithaknngay imphithiphithnmakehmuxnkhnmphakhxun khnmphunbanxisanidaek khawci hruxmakhambaykhaw khawopng nxkcaknnmkepnkhnminnganbuyphithi thieriykwa khawpradbdin odychawbannakhawthihxibtxng mddwytxkaebbkhawtmmd krayasarth khawthiphy khawyakhu khnmphunbankhxngcnghwdelymkepnkhnmngay echn khawehniywnungcimnaphung khawbayeklux khuxkhawehniywpnepnkxncimekluxihphxmirsekhm thamimakhamcaexamaisepniseriykmakhambaykhaw naxxykathi thadwynaxxythiekhiywcnehniyw isthwlisngkhwaelamaphrawsxy khawphxngthamacakkhawtakkhwismaphrawhnepnchin aelathwlisngkhw kwnkbnaxxycnehniywethisthad innganbuytangcaniymthakhnmpad khlaykhnmepiykpunkhxngphakhklang lxdchxng aelakhnmhmk aepngkhawehniywom pnepnkxnklmisiskrachik hxepnsamehliymkhlaykhnmethiyn naipnung khnmithyphakhit chawitmikhwamechuxinethskalwnsarth eduxnsib cathabuydwykhnmthimiechphaainthxngthinphakhitethann echn khnmla khnmphxng khawtmhxdwyibkaphx khnmbahruxkhnmluksaba khnmdisahruxemsa khnmecaahuhruxecaaru khnmikhpla khnmaedng epntn twxyangkhxngkhnmphunbanphakhitidaek khnmhnaikh thacakaepngkhawecanwdkbnatal naipnung hnakhnmthadwy kathiphsmikh natal eklux taikhraelahwhxm radbntwkhnm aelwnaipnungxikkhrng khnmkhimnim epnkhnmkhxngchawithymuslim thacakmnsapahlngnaiptmihsuk orydwyaepng ekbiw 1 khun 1 wncungnamarbprathan khnmcucun thacakaepngkhawecanwdkbnaechuxm aelwexaipthxd milksnaehniywaelaxmnamn khnmkhxepd thacakaepngkhawecaphsmkbaepngkhawehniyw nwdrwmkbikhik ridepnaephn tdepnchin exaipthxd sukaelwexaipekhlakbnatalotndthiekhiywcnehniywkhn khnmkhnthi thacakib phsmkbaepngaelanatal nungihsuk khlukkbmaphrawkhud cimkbnatalthray khnmkxaehla thacakaepngkhawecakwnkbkathiaelaeklux ethisthad orytnhxm tdepnchin oryhnadwy maphrawkhudkhw kungaehngpn aelanatalthray khnmkanbw thacakkhawehniywnungsuk naipokhlkdwykhrkimcnepnaepng ridihaebn takaeddcnaehng tdepnrupsiehliymphunpha thxdihsuk chabdwynaechuxm khawehniywechnga epnkhawehniywnungsuk taphsmkbngaaelanatalthray khawehniywesuxekluxk khlaykhawophdkhlukkhxngphakhklangaetepliynkhawophdepnkhawehniywnungsukaelaiskathidwy khihmaphxngech milksnaepnkxn thacakkhawehniywkhwsukcnepnsinatal taihlaexiydekhlakbmaphrawkhud natalotndthiekhiywcnkhn ekhlihekhakndi aelwpnepnkxn khnmdada epnkhnmkhxngchawithymuslim ichinoxkasediywkbkhanm prakxbdwykhaweca khawehniywphsmnabdihlaexiyd naiplaelnginkrathathiminamnrxn phbihepnaephn kinkbnatalehlw khnmkrub niymthaknincnghwdsurasdrthani ichaepngkhawehniywnwdkbnaxun naipridihaephbangbnibtxng naipnungaelwtakaeddihaehng aelwthxdihkrxbkhlukkbnatalthiekhiywepnyangmatum khnmkxngthung thacakthwlisngkhw khlukkbnatalrxn aelwichimthubihlaexiydcnepnaephn tdepnchin khnmdwng thacakaepngmnaelaaepngkhawcaw nwddwynadxkmali pnepnkxnyawkhnadpramansiesntiemtr naipnung emuxsukihnamacdcan odyorydwymaphrawkhudhruxnatalthraykhnminphithikrrmaelanganethskalkhnmithymiswnrwminwithichiwitithyinthukethskalaelaoxkastang aesdngihehnthungkhwamphukphnaelaepnswnsakhykhxngwthnthrrmithytngaetsmyobran khnmthiichinnganethskalaelaphithikrrmtangkhxngithytlxdthngpisrupiddngni khnmithyinnganethskal ngantrussngkrant thiphrapraaedng aelarachburi ichkalaaemepnkhnmprangantrus sarthithy eduxn 10 thukphakhykewnphakhit ichkrayasarthepnkhnmhlk nxkcaknn xacmi khawyakhu khawmthupayas khawthiphy swnthangphakhit cami khnmsartheduxnsib odyichkhnmla khnmphxng khnmthxnit khnmecaahuhrux khnmtm khawehniywiskathihxibkaphxtm tangcakkhnmtmkhxngphakhklang yasad krayasarth yahnm kalaaem odykhnmaetlachnidthiichmikhwamhmaykhux epnaephphakhamhwngmhrrnph khnmknghruxkhnmikhpla epnekhruxngpradb epnenginebiysahrbichsxy khnmba ichepnluksaba khnmlaepnesuxphaaephrphrrn ethskalxxkphrrsa kartkbatrethow eduxn 11 niymthakhawtmphdhxdwyibtxnghruxibxxy thrrmeniymnimacakkhwamechuxthangsasnathiwa emuxprachachniprxrbesdcphraphuththecaemuxthrngphuththdaenincakethwolkklbsuolkmnusy n emuxngsngkssa chawemuxngthiiprxrbesdcidnakhawtmphdipepnesbiyngrahwangrx bangthxngthimikarthakhawtmlukoynisbatrdwyechn chawithyechuxsaymxythicnghwdrachburi inchwngxxkphrrsa thicnghwdnkhrsrithrrmrachmipraephnilakphraaelatkbatrhnalx sungcaichkhnmsxngchnidkhux hxtm khawehniywphdkathihxepnrupsamehliymdwyibphx aelahxmd ehmuxnhxtmaethxdwyibcakhruxibmaphrawxxnepnrupsiehliymichechuxkmd inchwngthuxsilxdineduxnrxmdxn chawithymuslimniymrbprathankhnmxaekaa eduxnxay miphrarachphithieliyngkhnmebuxng emuxphraxathityokhcrekharasithnu nimntphrasngkh 80 rup machnkhnmebuxnginphrathinngxmrinthrwinicchy eduxnxayincnghwdnkhrsrithrrmrachmipraephniihthanif odychawbancakxifaelaechiyphrasngkhmaphingif khnmthiichinngannimi khnmebuxng khnmkhrk khnmkrxk khnmcucun klwyaekhk khawehniywkwn khnmkrub khawekriybpakhmx eduxnsam thangphakhxisanmipraephnibuykhawci sungcathakhawciipthabuythiwd chawithymuslimmipraephnikwnkhnmxasurxinwnthi 10 khxngeduxnmuhrxmkhnmithyinphithikrrmaelakhwamechux karsaedaaekhraahaelaaekbnkhxngsilpinwayng maoyngkhxngchawithymuslimthangphakhit ichkhawehniywsamsi khaw ehluxng aedng khiaen khawtxk muxeta ra kahnga aelakhnmecaahu lingxotaaew inphithiekhasuhnt khunbanihm aetngngan naeruxihmlngna chawithymuslimniymthakhnmkhanm khnmthiichinnganaetngngan inphakhklangnxkkrungethphxxkipcamikhnmkngepnhlk nxkcaknnmithxngexk khnmchamd khnmsameklx bangaehngichkhnmphraphayaelakhnmlamudkmi inbangthxngthin ich kalaaem khawehniywaedng khawehniywaekw khnmchn khnmepiya thaepntxnecha yngimthungewlaxahar camikareliyngkhxngwangeriyk kinsamthwy idaek khawehniywnakathi khawtxknakathi lxdchxngnakathi bangaehngich mnnakathi emdaemnglknakathi bangthxngthinichkhnmtmdwy phithiaetngngankhxngchawithymuslim camiphithikinsmangtsungepnkarpxnkhawaelakhnmihecabawecasaw khnmthiichmi kalaaemhruxkhnmdxdxy khnmkxhruxtupngputu khnmlaaela khnmthiichinnganbwchaelanganthxdkthinkhxngchawithyechuxsaymxyincnghwdrachburiidaek khnmplahangdxk aelalxdchxngnakathi inngansph chawithyechuxsaymxyincnghwdrachburiniymeliyngemdaemnglknakathi karbuchaethwdainphithikrrmid echn ykesaexk tngsalphraphumiichkhnmtmaedng khnmtmkhaw epnhlkinekhruxngsngewychudthrrmda chudihyephim khawtxk ngakhw thwthxng fkthxngaekngbwd inphithithakhwycukichkhnmtmkhawtmaedngdwyechnkn ekhruxngkrayabwchinkarihwkhruephuxthaphngxiththiec ichkhnmtmaedngtmkhawechnkn phithieliyngphikhxngchawithyechuxsaymxyincnghwdrachburiich khnmbwlxy khnmthxd khnmthiichinphithiihwkhrumwyithyaelakrabikrabxng idaek aekngbwd klwy ephuxkhruxmn ephuxktm mntm khnmtmaedngtmkhaw khnmchn thwyfu fxythxng emdkhnun inkarelnphihingkhxngchawchxng bnhingmikhnmtmkhnmthimichuxesiyngechphaathinkrungethphmhankhr ekhtthnburimikhnmfrngkudicin ekhtpthumwnmikhnmklibladwn cnghwdcnthburiaelacnghwdtrad thueriynkwn cnghwdchaechingethra khnmchn cnghwdchlburi khawhlam tladhnxngmn cnghwdchumphr cnghwdtrng cnghwdnkhrpthm khnmphingaelakhawhlam cnghwdnkhrswrrkh khnmomciaela khnmfkekhiywkwn cnghwdnkhrphnm cnghwdpracinburi khnmekhiyw cnghwdphrankhrsrixyuthya swnihyepnphlimechuxm phlimkwn echn maymechuxm phuthrakwn thi khnmbabin cnghwdphthlung mi cnghwdphisnuolk xaephxbangkrathum miklwytak cnghwdephchrburi epnaehlngthimikhnmhwanthimichuxesiyngmanan odyechphaakhnmthithamacaknatalotndechn cawtalechuxm otndthxd tngem swnkhnmchnidxunthimichuxesiyngtngaetsmyrchkalthi 4 epntnmakhux khnmkhihnu khnmhmxaekng cnghwdstul mi aelakhawehniywkwnkhaw cnghwdsmuthrprakar mikhnmcak cnghwdsmuthrsngkhram mikhnmcamngkud cnghwdsinghburi mimamwngkwnhrux cnghwdsuphrrnburi xaephxbangplama mi cnghwdxangthxng xaephxwiesschychay mikhnmeksrlaeciyk cnghwdxutrditth mikhnmethiyneswy khawhlamthungyng cnghwdxuthythani mikhnmkng khnmpngsngkhya cnghwdxublrachthani khawhlamkhnmithythiidrbxiththiphlcakkhnmkhxngchatixunithyidrbexawthnthrrmdanxaharkhxngchatitang maddaeplngihehmaasmkbsphaphthxngthin wtthudibthihaid ekhruxngmuxekhruxngich tlxdcnkarbriophkhaebbithy cnthaihkhnrunhlng aeykimxxkwaxairkhuxkhnmthiepnithyaeth aelaxairddaeplngmacakwthnthrrmkhxngchatixun echn khnmthiichikhaelakhnmthitxngekhaetaxb sungekhamainrchsmysmedcphranaraynmharach cakkhunthawthxngkibmaphrryaechuxchatiyipun oprtuekskhxngecaphrayawicheynthr phuepnkngsulpracapraethsithyinsmynn ithymiichephiyngrbthxnghyib thxnghyxd aelafxythxngmaethann hakyngihkhwamsakhykbkhnmehlaniodyichepnkhnmmngkhlxikdwy swnihytarbkhnmthiisikhmkepn khxngeths echn thxnghyib fxythxng thxnghyxdcakoprtueksduephimraykarkhnmithyxangxing sxng xaharithyinsmykrungsrixyuthya tangchatiwa khnithyxyukindicnkhiekiyc silpwthnthrrm tarakhnmhwan kthm aesngaedd 2539 tarakhnmhwan kthm aesngaedd 2539 s phlaynxy ekrdyxyrxyeruxng kthm dxkhya 2537 wrduly tularks wthnthrrmxaharkarkin khnmikhehiy khrw 4 37 88 89 krkdakhm 2540 xbechy ximsbay bk tarbkhnmithy kthm aesngaedd 2539 khnnkal matysiri klwyinkhnmithy wthnthrrmithy 36 4 16 17 mkrakhm 2542 efuxfa epiycapa xaharkhnemuxng in echiyngihm hna 236 237 sudara succhaya bk kthm sarkhdi 2540 parichati eruxngwiess bk aemhxngsxn kthm sarkhdim 2536 yur kmlesrirtn khnmxisanemuxwnwar wthnthrrmithy 36 4 42 43 mkrakhm 2542 parichati eruxngwiess xaharphunemuxngely in ely hna 173 sudara succhayam bk kthm sarkhdi 2539 saranukrmwthnthrrmphakhit kthm sthabnthksinkhdisuksa 2523 wndi n sngkhla xaharithyinwrrnkhdi elm 2 kthm phlitphnthkarphimph 2527 sudara succhaya hlaksarbinthinrachburi in rachburi hna 282 289 sudara succhayambk km sarkhdi 2541 kingkaycn thiphysukhum wthnthrrmxaharkarkin khnmla khnmesn khrw 4 38 92 93 singhakhm 2540 parichati eruxngwiessm bk nkhrsrithrrmrach kthm sarkhdi 2537 knyartn phrhmwiess xaekaa khnmphimphikhkhxngchawithymuslimchayaednpksit wthnthrrmithy 32 4 36 39 mkrakhm 2542 suriy dara wthnthrrmxaharkarkin khnmebuxng bthphisucnfimuxstriithysmykxn khrw 3 28 92 93 tulakhm 2539 yur kmlesrirtn rslaykhram khawci khrw 1 8 108 kumphaphnth 2538 s phlaynxy krayaniyay kthm mtichn 2541 phlsri khchachiwa khnminphithiaetngngankhxngithy aembanthnsmy 7 96 45 48 singhakhm 2535 saranukrmwthnthrrmphakhit kthm sthabnthksinkhdisuksa 2523 phlsri khchachiwa khnmmingmngkhl aembanthnsmy 11 151 20 25 phvscikayn 2539 thnaphit praephni phithimngkhlaelawnsakhykhxngithy kthm chmrmedk 2539 ethphy sarikbutr phrakhmphirphraewthmhaphuththakhm krungethph silpabrrnakhar 2525 ekhiyn khn thsor xarythrrmchxng cnthburi in xarythrrmchxngcnthburi aelaxanackrcnthbur emuxngephniyt kthm orngphimphithyraywn 2541 niym sukhrxngaephng khnmemuxngephchr in ephchrburi kusl exiymxrun bk kthm sarkhdi 2536