บางกระทุ่ม เป็น 1 ใน 9 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก เดิมเป็นพื้นที่ของอำเภอวังทองและอำเภอเมืองพิษณุโลก ในปี พ.ศ. 2470 ได้แยกพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอวังทอง ได้แก่ ตำบลเนินกุ่ม ตำบลไผ่ล้อม ตำบลนครป่าหมาก และแยกพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้แก่ ตำบลบ้านไร่ ตำบลโคกสลุด ตำบลสนามคลี รวมตั้งขึ้นเป็น "กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม" และยกฐานะเป็นอำเภอในปี พ.ศ. 2489
อำเภอบางกระทุ่ม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Bang Krathum |
หลวงพ่อเพชร พระประธานในอุโบสถวัดไพรสุวรรณ | |
คำขวัญ: กล้วยตากฉ่ำหวาน มาตรฐานผลิตภัณฑ์สมุนไพร เลื่อมใสหลวงพ่อหรั่ง โอทอปดังห้าดาว สืบสานตำนานหลวงพ่อยม ชมประเพณีแข่งเรือบก โบสถ์นาคปรกบนดอกบัว | |
แผนที่จังหวัดพิษณุโลก เน้นอำเภอบางกระทุ่ม | |
พิกัด: 16°34′44″N 100°17′50″E / 16.57889°N 100.29722°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | พิษณุโลก |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 447.0 ตร.กม. (172.6 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 45,918 คน |
• ความหนาแน่น | 102.73 คน/ตร.กม. (266.1 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 65110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 6505 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม เลขที่ 300 หมู่ที่ 3 ตำบลบางกระทุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก 65110 |
ส่วนหนึ่งของ |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอบางกระทุ่มมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองพิษณุโลกและอำเภอวังทอง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอวังทอง
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสากเหล็กและอำเภอเมืองพิจิตร (จังหวัดพิจิตร)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสามง่าม (จังหวัดพิจิตร)
ประวัติ
หมู่บ้านบางกระทุ่ม มาจากบรรพบุรุษอพยพโยกย้ายมาจากจังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตั้งหลักแหล่งบริเวณอำเภอบางกระทุ่มปัจจุบัน เห็นว่าเป็นภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์มีน้ำทำนา มีป่าทึบ แสดงถึงความบริบูรณ์ จึงตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ บริเวณ ซึ่งมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นต้นไม้ใหญ่ พุ่มใบหนา ยากต่อการถากถาง แต่ไม่มีผู้ใดรู้จักนามไม้ชนิดนี้ ชนกลุ่มนี้จึงเรียก “ต้นกระพุ่ม” และนามหมู่บ้านก็เรียก “บางกระพุ่ม” ต่อมากลายไปเป็น “บางกระทุ่ม” อีกนามหนึ่งของอำเภอนี้ในอดีตชื่ออำเภอนครป่าหมาก เนื่องจากมีต้นหมากขึ้นมากมาย
- วันที่ 17 กรกฎาคม 2470 แยกพื้นที่ตำบลเนินกุ่ม ตำบลไผ่ล้อม ตำบลนครป่าหมาก จากอำเภอป่าหมาก และตำบลบ้านไร่ ตำบลโคกสลุด ตำบลสนามคลี จากอำเภอเมืองพิษณุโลก มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม และให้ขึ้นการปกครองกับอำเภอเมืองพิษณุโลก
- วันที่ 23 มีนาคม 2472 ตั้งตำบลบางกระทุ่ม แยกออกจากตำบลนครป่าหมาก และตำบลสนามคลี
- วันที่ 8 มีนาคม 2473 เปลี่ยนแปลงชื่อตำบลนครป่าหมาก กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็น ตำบลสามเรือน
- วันที่ 17 เมษายน 2482 เปลี่ยนแปลงชื่อตำบลบางผี กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็น ตำบลท่าตาล และเปลี่ยนแปลงชื่อตำบลสามเรือน กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็น ตำบลนครป่าหมาก
- วันที่ 22 ตุลาคม 2483 โอนพื้นที่หมู่ 9 (ในขณะนั้น) ของตำบลไผ่ล้อม และหมู่ 9 (ในขณะนั้น) ของตำบลบ้านไร่ ไปขึ้นกับตำบลบางกระทุ่ม กับโอนพื้นที่หมู่ 1,2 (ในขณะนั้น) ของตำบลโคกสลุด ไปขึ้นกับตำบลสนามคลี
- วันที่ 3 กันยายน 2489 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็น อำเภอบางกระทุ่ม
- วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลโคกสลุด แยกออกจากตำบลสนามคลี และตำบลบ้านไร่
- วันที่ 26 มกราคม 2500 จัดตั้งสุขาภิบาลบางกระทุ่ม ในท้องที่บางส่วนของตำบลบางกระทุ่ม
- วันที่ 10 สิงหาคม 2508 จัดตั้งสุขาภิบาลเนินกุ่ม ในท้องที่หมู่ที่ 1-12 ของตำบลเนินกุ่ม (ทั้งตำบล)
- วันที่ 21 กันยายน 2514 ตั้งตำบลวัดตายม แยกออกจากตำบลเนินกุ่ม
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลบางกระทุ่ม และสุขาภิบาลเนินกุ่ม เป็นเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม และเทศบาลตำบลเนินกุ่ม ตามลำดับ ด้วยผลของกฎหมาย
- วันที่ 10 มิถุนายน 2556 เปลี่ยนแปลงชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระทุ่ม เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว และจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว ขึ้นเป็น เทศบาลตำบลห้วยแก้ว
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอบางกระทุ่มแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 9 ตำบล 88 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | บางกระทุ่ม | (Bang Krathum) | 9 หมู่บ้าน | ||||
2. | บ้านไร่ | (Ban Rai) | 10 หมู่บ้าน | ||||
3. | โคกสลุด | (Khok Salut) | 10 หมู่บ้าน | ||||
4. | สนามคลี | (Sanam Khli) | 6 หมู่บ้าน | ||||
5. | ท่าตาล | (Tha Tan) | 9 หมู่บ้าน | ||||
6. | ไผ่ล้อม | (Phai Lom) | 11 หมู่บ้าน | ||||
7. | นครป่าหมาก | (Nakhon Pa Mak) | 13 หมู่บ้าน | ||||
8. | เนินกุ่ม | (Noen Kum) | 11 หมู่บ้าน | ||||
9. | วัดตายม | (Wat Ta Yom) | 9 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอบางกระทุ่มประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 9 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลบางกระทุ่ม ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของหมู่ที่ 3-5 ของตำบลบางกระทุ่ม
- เทศบาลตำบลเนินกุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเนินกุ่มและตำบลวัดตายมทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลห้วยแก้ว ครอบคลุมพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 1-2 และหมู่ที่ 6-9 รวมถึงบางส่วนของ หมู่ที่ 3-5 ของตำบลบางกระทุ่ม (นอกเขตเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม)
- เทศบาลตำบลสนามคลี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสนามคลีทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านไร่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกสลุดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตาล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าตาลทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ล้อม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไผ่ล้อมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนครป่าหมาก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนครป่าหมากทั้งตำบล
สถานศึกษาของรัฐ (มัธยมศึกษา)
- โรงเรียนบางกระทุ่มพิทยาคม
- โรงเรียนเนินกุ่มวิทยา
ของดีของอำเภอ
- กล้วยตากบางกระทุ่ม
- ไวน์สมุนไพร
- เครื่องจักสาน
อ้างอิง
- "แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งกิ่งอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44 (0 ง): 1231. วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2470
- "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๔๖๔ สำหรับท้องที่กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก และกิ่งอำเภอเชียงแสนหลวง จังหวัดเชียงรายซึ่งตั้งขึ้นใหม่" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44 (0 ก): 118–119. วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2470
- "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ตั้งกิ่งอำเภอบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก ขึ้นเป็นอำเภอ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 63 (58 ง): 1235–1236. วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2489
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44 (0 ง): 1231. July 17, 1927. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-06-09. สืบค้นเมื่อ 2021-07-15.
- "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๔๖๔ สำหรับท้องที่กิ่งอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก และกิ่งอำเภอเชียงแสนหลวง จังหวัดเชียงรายซึ่งตั้งขึ้นใหม่" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44 (0 ก): 118–119. July 31, 1927.
- "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับตำบลบางกระทุ่ม ตำบลวังอีทก และตำบลทุ่งพันเสา ซึ่งแยกตั้งขึ้นใหม่" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 46 (0 ก): 378–379. March 23, 1929.
- "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับตำบลสามเรือน ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากตำบลนครป่าหมาก ในท้องที่กิ่งบางกระทุ่ม อำเภอเมืองพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 47 (0 ก): 426. March 8, 1930.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 56 (0 ก): 354–363. April 17, 1939. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-02-19. สืบค้นเมื่อ 2021-07-15.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลและอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 57 (0 ง): 2528–2529. October 22, 1940.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 63 (58 ง): 1235–1236. September 3, 1946. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-05-10. สืบค้นเมื่อ 2021-07-15.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (26 ง): 1114–1433. June 10, 1947. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2021-07-15.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลบางกระทุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 74 (10 ง): (ฉบับพิเศษ) 39-40. January 26, 1957.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 82 (64 ง): 2068–2069. August 10, 1965.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอวังทอง และอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 88 (101 ง): 2569–2576. September 21, 1971.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 116 (9 ก): 1–4. February 24, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-07-15.
- "เปลี่ยนชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระทุ่ม ไปเป็น องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว และจัดตั้งเทศบาลจาก องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว เป็นเทศบาลตำบลห้วยแก้ว". June 10, 2013.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bangkrathum epn 1 in 9 xaephxkhxngcnghwdphisnuolk edimepnphunthikhxngxaephxwngthxngaelaxaephxemuxngphisnuolk inpi ph s 2470 idaeykphunthi 3 tablkhxngxaephxwngthxng idaek tableninkum tabliphlxm tablnkhrpahmak aelaaeykphunthi 3 tablkhxngxaephxemuxngphisnuolk idaek tablbanir tablokhkslud tablsnamkhli rwmtngkhunepn kingxaephxbangkrathum aelaykthanaepnxaephxinpi ph s 2489xaephxbangkrathumxaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Bang Krathumhlwngphxephchr phraprathaninxuobsthwdiphrsuwrrnkhakhwy klwytakchahwan matrthanphlitphnthsmuniphr eluxmishlwngphxhrng oxthxpdnghadaw subsantananhlwngphxym chmpraephniaekhngeruxbk obsthnakhprkbndxkbwaephnthicnghwdphisnuolk ennxaephxbangkrathumphikd 16 34 44 N 100 17 50 E 16 57889 N 100 29722 E 16 57889 100 29722praeths ithycnghwdphisnuolkphunthi thnghmd447 0 tr km 172 6 tr iml prachakr 2564 thnghmd45 918 khn khwamhnaaenn102 73 khn tr km 266 1 khn tr iml rhsiprsniy 65110rhsphumisastr6505thitngthiwakarthiwakarxaephxbangkrathum elkhthi 300 hmuthi 3 tablbangkrathum xaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk 65110swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithythitngaelaxanaekhtxaephxbangkrathummixanaekhttidtxkbekhtkarpkkhrxngkhangekhiyng dngni thisehnux tidtxkbxaephxemuxngphisnuolkaelaxaephxwngthxng thistawnxxk tidtxkbxaephxwngthxng thisit tidtxkbxaephxsakehlkaelaxaephxemuxngphicitr cnghwdphicitr thistawntk tidtxkbxaephxsamngam cnghwdphicitr prawtihmubanbangkrathum macakbrrphburusxphyphoykyaymacakcnghwdrachburi cnghwdephchrburi cnghwdkaycnburi ephuxtnghlkaehlngbriewnxaephxbangkrathumpccubn ehnwaepnphumipraethsthixudmsmburnminathana mipathub aesdngthungkhwambriburn cungtngbaneruxnxyu n briewn sungmitnimkhunxyuhnaaennepntnimihy phumibhna yaktxkarthakthang aetimmiphuidrucknamimchnidni chnklumnicungeriyk tnkraphum aelanamhmubankeriyk bangkraphum txmaklayipepn bangkrathum xiknamhnungkhxngxaephxniinxditchuxxaephxnkhrpahmak enuxngcakmitnhmakkhunmakmay wnthi 17 krkdakhm 2470 aeykphunthitableninkum tabliphlxm tablnkhrpahmak cakxaephxpahmak aelatablbanir tablokhkslud tablsnamkhli cakxaephxemuxngphisnuolk matngepn kingxaephxbangkrathum aelaihkhunkarpkkhrxngkbxaephxemuxngphisnuolk wnthi 23 minakhm 2472 tngtablbangkrathum aeykxxkcaktablnkhrpahmak aelatablsnamkhli wnthi 8 minakhm 2473 epliynaeplngchuxtablnkhrpahmak kingxaephxbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk epn tablsameruxn wnthi 17 emsayn 2482 epliynaeplngchuxtablbangphi kingxaephxbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk epn tablthatal aelaepliynaeplngchuxtablsameruxn kingxaephxbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk epn tablnkhrpahmak wnthi 22 tulakhm 2483 oxnphunthihmu 9 inkhnann khxngtabliphlxm aelahmu 9 inkhnann khxngtablbanir ipkhunkbtablbangkrathum kboxnphunthihmu 1 2 inkhnann khxngtablokhkslud ipkhunkbtablsnamkhli wnthi 3 knyayn 2489 ykthanacakkingxaephxbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk epn xaephxbangkrathum wnthi 10 mithunayn 2490 tngtablokhkslud aeykxxkcaktablsnamkhli aelatablbanir wnthi 26 mkrakhm 2500 cdtngsukhaphibalbangkrathum inthxngthibangswnkhxngtablbangkrathum wnthi 10 singhakhm 2508 cdtngsukhaphibaleninkum inthxngthihmuthi 1 12 khxngtableninkum thngtabl wnthi 21 knyayn 2514 tngtablwdtaym aeykxxkcaktableninkum wnthi 25 phvsphakhm 2542 ykthanacaksukhaphibalbangkrathum aelasukhaphibaleninkum epnethsbaltablbangkrathum aelaethsbaltableninkum tamladb dwyphlkhxngkdhmay wnthi 10 mithunayn 2556 epliynaeplngchuxxngkhkarbriharswntablbangkrathum epnxngkhkarbriharswntablhwyaekw aelacdtngxngkhkarbriharswntablhwyaekw khunepn ethsbaltablhwyaekwkaraebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxbangkrathumaebngekhtkarpkkhrxngxxkepn 9 tabl 88 hmuban idaek 1 bangkrathum Bang Krathum 9 hmuban aephnthiaesdngtablinxaephxbangkrathum2 banir Ban Rai 10 hmuban3 okhkslud Khok Salut 10 hmuban4 snamkhli Sanam Khli 6 hmuban5 thatal Tha Tan 9 hmuban6 iphlxm Phai Lom 11 hmuban7 nkhrpahmak Nakhon Pa Mak 13 hmuban8 eninkum Noen Kum 11 hmuban9 wdtaym Wat Ta Yom 9 hmubankarpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxbangkrathumprakxbdwyxngkhkrpkkhrxngswnthxngthin 9 aehng idaek ethsbaltablbangkrathum khrxbkhlumphunthibangswnkhxnghmuthi 3 5 khxngtablbangkrathum ethsbaltableninkum khrxbkhlumphunthitableninkumaelatablwdtaymthngtabl ethsbaltablhwyaekw khrxbkhlumphunthikhrxbkhlumphunthihmuthi 1 2 aelahmuthi 6 9 rwmthungbangswnkhxng hmuthi 3 5 khxngtablbangkrathum nxkekhtethsbaltablbangkrathum ethsbaltablsnamkhli khrxbkhlumphunthitablsnamkhlithngtabl xngkhkarbriharswntablbanir khrxbkhlumphunthitablbanirthngtabl xngkhkarbriharswntablokhkslud khrxbkhlumphunthitablokhksludthngtabl xngkhkarbriharswntablthatal khrxbkhlumphunthitablthatalthngtabl xngkhkarbriharswntabliphlxm khrxbkhlumphunthitabliphlxmthngtabl xngkhkarbriharswntablnkhrpahmak khrxbkhlumphunthitablnkhrpahmakthngtablsthansuksakhxngrth mthymsuksa orngeriynbangkrathumphithyakhm orngeriyneninkumwithyakhxngdikhxngxaephxklwytakbangkrathum iwnsmuniphr ekhruxngcksanxangxing aecngkhwamkrathrwngmhadithy eruxng tngkingxaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 44 0 ng 1231 wnthi 17 krkdakhm ph s 2470 prakaskrathrwngthrrmkar eruxng karichphrarachbyytiprathmsuksa phuththskrach 2464 sahrbthxngthikingxaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk aelakingxaephxechiyngaesnhlwng cnghwdechiyngraysungtngkhunihm PDF rachkiccanuebksa 44 0 k 118 119 wnthi 31 krkdakhm ph s 2470 prakassanknaykrthmntri eruxng tngkingxaephxbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk khunepnxaephx PDF rachkiccanuebksa 63 58 ng 1235 1236 wnthi 3 knyayn ph s 2489 PDF rachkiccanuebksa 44 0 ng 1231 July 17 1927 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 06 09 subkhnemux 2021 07 15 prakaskrathrwngthrrmkar eruxng karichphrarachbyytiprathmsuksa phuththskrach 2464 sahrbthxngthikingxaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk aelakingxaephxechiyngaesnhlwng cnghwdechiyngraysungtngkhunihm PDF rachkiccanuebksa 44 0 k 118 119 July 31 1927 prakaskrathrwngthrrmkar eruxng karichphrarachbyytiprathmsuksa ph s 2464 sahrbtablbangkrathum tablwngxithk aelatablthungphnesa sungaeyktngkhunihm PDF rachkiccanuebksa 46 0 k 378 379 March 23 1929 prakaskrathrwngthrrmkar eruxng karichphrarachbyytiprathmsuksa ph s 2464 sahrbtablsameruxn sungepliynchuxmacaktablnkhrpahmak inthxngthikingbangkrathum xaephxemuxngphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 47 0 k 426 March 8 1930 PDF rachkiccanuebksa 56 0 k 354 363 April 17 1939 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 02 19 subkhnemux 2021 07 15 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhttablaelaxaephxincnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 57 0 ng 2528 2529 October 22 1940 PDF rachkiccanuebksa 63 58 ng 1235 1236 September 3 1946 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 05 10 subkhnemux 2021 07 15 PDF rachkiccanuebksa 64 26 ng 1114 1433 June 10 1947 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 09 subkhnemux 2021 07 15 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibalbangkrathum xaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 74 10 ng chbbphiess 39 40 January 26 1957 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibaleninkum xaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 82 64 ng 2068 2069 August 10 1965 prakaskrathrwngmhadithy eruxng tngaelaepliynaeplngekhttablinthxngthixaephxwngthxng aelaxaephxbangkrathum cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 88 101 ng 2569 2576 September 21 1971 PDF rachkiccanuebksa 116 9 k 1 4 February 24 1999 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 04 09 subkhnemux 2021 07 15 epliynchuxxngkhkarbriharswntablbangkrathum ipepn xngkhkarbriharswntablhwyaekw aelacdtngethsbalcak xngkhkarbriharswntablhwyaekw epnethsbaltablhwyaekw June 10 2013 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help bthkhwamekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk