พระบรมโกศ , พระโกศ และ โกศ คือที่ใส่พระบรมศพ พระมหากษัตริย์ พระบรมราชินี และพระบรมวงศ์ กับโกศที่พระราชทานสำหรับศพข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์สูง ตามคตินิยมของพราหมณ์ที่เชื่อว่า ต้องตั้งพระบรมศพ ,พระศพ และ ศพที่มีบรรดาศักดิ์สูง ในท่ายืน, นั่ง, คุกเข่า หรือกอดเข่าประสานมือ เพื่อส่งดวงพระวิญญาณ /วิญญาณกลับสู่สรวงสวรรค์ ในสมัยปัจจุบันโกศมักจะเป็นเพียงเครื่องยศเท่านั้นเพราะส่วนมากจะเชิญลงหีบ[]
ประเภท
พระโกศเป็นภาชนะมีรูปทรงเป็นกรวยมียอดแหลม อาจแยกตามวัตถุประสงค์การใช้งานเป็น 2 ประเภทคือ พระโกศสำหรับทรงหรือพระศพ และ พระโกศพระบรมอัฐิหรือพระอัฐิ ซึ่งพระโกศพระบรมศพมี 2 ชั้น คือชั้นนอกเรียกว่า "" ทำด้วยโครงไม้หุ้มทองปิดทอง ประดับกระจกอัญมณี และ ชั้นใน เรียก "โกศ" ทำด้วยเหล็ก ทองแดงหรือเงิน ปิดทอง ลองชั้นนอกใช้ประกอบปิดโครงชั้นในสำหรับลอง หรือ พระลอง ที่ประดับอยู่ภายนอกของโกศ ต่อมานิยมเรียกพระลอง เป็นพระโกศแทน จนเข้าใจว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เช่น เรียกพระลองทองใหญ่ ว่าพระโกศทองใหญ่ เป็นต้น
พระโกศและโกศแบ่งตามลำดับยศมีอยู่ 14 อย่าง ดังนี้
ลำดับ | ชื่อเรียก | ใช้กับ | ผู้โปรดให้สร้าง ครั้งแรก | ลักษณะ |
---|---|---|---|---|
ลำดับที่ 1 | พระโกศทองใหญ่ | - พระมหากษัตริย์ - พระอัครมเหสี - พระยุพราช / สยามมกุฎราชกุมาร / สยามบรมราชกุมารี - พระบรมราชชนก / พระบรมราชชนนี | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ทรง 8 เหลี่ยม หุ้มด้วยทองคำตลอดองค์ ประดับดอกไม้เอว ฝายอดมงกุฎ มีดอกไม้เพชรพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับยอด มีดอกไม้ไหวประดับชั้นฝาพระโกศ และฝาพระโกศประดับเฟื่องและพู่เงิน |
ลำดับที่ 2 | พระโกศทองรองทรง (นับเสมอพระโกศทองใหญ่) | - พระมหากษัตริย์ - พระอัครมเหสี - พระยุพราช/ สยามมกุฎราชกุมาร / สยามมกุฎราชกุมารี - พระบรมราชชนก / พระบรมราชชนนี - พระบรมราชวงศ์ที่ทรงโปรดเกล้าพระราชทานเป็นพิเศษ | รัชกาลที่ 5 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ทรง 8 เหลี่ยม หุ้มด้วยทองคำตลอดองค์ ฝายอดมงกุฎ |
ลำดับที่ 3 | - สมเด็จเจ้าฟ้า (ชั้นเอก) | รัชกาลที่ 5 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 8 เหลี่ยม หุ้มด้วย ทองคำทั้งองค์ | |
ลำดับที่ 4 | - สมเด็จเจ้าฟ้า (ชั้น โท - ตรี) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้า (กรมพระยา) - สมเด็จพระสังฆราชเจ้า | รัชกาลที่ 4 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ทรง 8 เหลี่ยม ยอดมงกุฎปิดทองทองประดับกระจก มีดอกไม้เพชรพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับยอดพระโกศ และฝาพระโกศประดับเฟื่องและพู่เงิน | |
ลำดับที่ 5 | - สมเด็จพระสังฆราช | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ทรง 8 เหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑปปิดทองล่อง ชาดประดับ | |
ลำดับที่ 6 | - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า - ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง - ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ - ขุนนางชั้น สมเด็จเจ้าพระยา หรือ เทียบเท่า | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ทรง 8 เหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑปปิดทองประดับกระจกสี | |
ลำดับที่ 7 | - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าขึ้นไป หรือ ทรงกรม | รัชกาลที่ 4 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 4 เหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑปปิดทองประดับกระจกสี ลองในเป็นสี่เหลี่ยม | |
ลำดับที่ 8 | - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า - ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฐมจุลจอมเกล้า - ประธานองคมนตรี / องคมนตรี ที่เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง - ขุนนางชั้น เจ้าพระยา (ชั้น สุพรรณบัฎ) หรือ เทียบเท่า | รัชกาลที่ 4 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 4 เหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑปปิดทองประดับกระจกสี | |
ลำดับที่ 9 | - พระองค์เจ้าฝ่ายกรมพระราชวังบวรสถานมงคล / สถานภิมุข - นายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง - สมเด็จพระราชาคณะ - ขุนนางชั้นเจ้าพระยา (ชั้นสัญญาบัฎ / หิรัญบัฎ) หรือ เทียบเท่า | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายย่อมุม ทรงพระศพหักเหลี่ยมทรงไม้สิบสอง ฝายอดทรงมงกุฎปิดทอง ประดับกระจกสี | |
ลำดับที่ 10 | (มีอีกชื่อว่าพระโกศพระองค์เจ้า เดิมเรียกว่า โกศลังกา) | - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า - หม่อมเจ้า ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ขึ้นไป / เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้า | รัชกาลที่ 4 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 4 เหลี่ยม ฝายอดทรงชฎาพอกปิดทองล่องชาดประดับ ลองในเป็น 4 เหลี่ยมสีขาวคล้ายหีบศพตั้งขึ้น มีฝาเป็นยอด |
ลำดับที่ 11 | - ราชสกุล / ราชินิกุล ที่ได้รับพระราชทาน โกศโถ ให้เปลี่ยนมารับพระราชทาน โกศราชนิกุล แทน | รัชกาลที่ 4 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 4 เหลี่ยม ตัดมุมผ่าทรงชฎาปิดทองประดับกระจกสี | |
ลำดับที่ 12 | - ผู้ที่ได้รับพระราชทานโกศโถ / โกศแปดเหลี่ยม แต่ มีรูปร่างใหญ่ มิสามารถลงลองสามัญได้ ก็ให้ใช้ โกศเกราะ แทน | รัชกาลที่ 4 | มีขนาดใหญ่ มีลวดลายเกราะรัด | |
ลำดับที่ 13 | - พระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรอง - เจ้าจอมมารดา - หม่อมเจ้าที่ไม่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถ้าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานโกศจะได้รับพระราชทาน โกศแปดเหลี่ยม - ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์ช้างเผือก ขึ้นไป / ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ - ขุนนางชั้น พระยาพานทอง หรือ เทียบเท่า | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรง 8 เหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑป ปิดทองล่องชาด ประดับกระจกสี | |
ลำดับที่ 14 | - พระราชาคณะชั้นธรรม - ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย / ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ / ทุติยจุลจอมเกล้า - ขุนนางชั้น พระยา หรือ เทียบเท่า | รัชกาลที่ 1 | ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายรูปกลม ฝายอดปริก ปิดทองประดับกระจก |
- * แต่เดิม ขุนนางชั้น เจ้าพระยา จะได้รับพระราชทาน โกศแปดเหลี่ยม แต่เปลี่ยนมาพระราชทานโกศไม้สิบสอง กับ โกศมณฑป ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
แม้พระโกศ/โกศ มีการแบ่งลำดับตามฐานันดรศักดิ์อย่างชัดเจน แต่บางครั้งอาจมีการเลื่อนลำดับชั้นให้สูงขึ้นได้ ตามแต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ อาทิเช่น
- งานพระศพสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่องานวันถวายเพลิงพระศพจึงได้รับพระราชทานพระโกศทองใหญ่
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรงพระศพ ครั้นเมื่องานวันถวายพระเพลิงพระศพ ณ พระเมรุท้องสนามหลวงจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศทองใหญ่ เป็นกรณีพิเศษ
- งานพระศพ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เลื่อนชั้นจากพระโกศกุดั่นใหญ่ เป็นพระโกศทองน้อย
- งานพระศพพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร เลื่อนชั้นจากพระโกศราชวงศ์ เป็นพระโกศทองน้อย
- งานศพ หม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ เลื่อนชั้นจากโกศมณฑป เป็นโกศกุดั่นน้อย
- งานศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ), สมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) และ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เลื่อนชั้นจากโกศไม้สิบสอง เป็นโกศมณฑป
- งานศพ หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เลื่อนชั้นจากโกศราชวงศ์ เป็นโกศมณฑป
- งานศพท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ เลื่อนชั้นจากโกศแปดเหลี่ยม เป็นโกศมณฑป
- งานศพท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) เลื่อนชั้นจากโกศแปดเหลี่ยม เป็นโกศไม้สิบสอง
- งานศพ พระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร) พระพรหมมงคล วิ. (ทอง สิริมงฺคโล) เลื่อนชั้นจากโกศแปดเหลี่ยม เป็นโกศไม้สิบสอง
- งานศพอภิรดี ยิ่งเจริญ เลื่อนชั้นจากโกศแปดเหลี่ยม เป็นโกศไม้สิบสอง
- งานศพพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทฺโธ) เลื่อนชั้นจากหีบทองทึบ เป็นโกศโถ
- สำหรับพระโกศของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตามอิสริยยศชั้นเจ้าฟ้า ตามแบบแผนจะได้รับพระราชทาน แต่ด้วยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังถวายพระเกียรติสูงสุดตามโบราณราชประเพณี ดังนั้นพระโกศที่ใช้ในงานพระราชพิธีครั้งนี้จึงเป็นพระโกศทองใหญ่ หรือพระลองทองใหญ่ อันเป็นพระโกศที่มีลำดับชั้นสูงสุด
สำหรับพระโกศทองใหญ่ ซึ่งถือเป็นพระโกศที่ประกอบ พระอิสริยยศ ตามธรรมเนียมการประดับตกแต่งพระโกศ มีความลดหลั่นกันเป็นหลายชั้นตามพระเกียรติยศ พระบรมศพ หรือพระศพ
ประวัติ
การใช้โกศบรรจุพระบรมศพ พระศพ และ ศพขุนนางชั้นผู้ใหญ่มีธรรมเนียมทำกันมานานแล้ว โกศนั้นมีชั้นเชิงแตกต่างกัน การที่ไทยใช้โกศนี้ไม่มีผู้ใดทราบว่าเริ่มแต่สมัยใด สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ตรัสเล่าให้ว่า "น่าจะเป็นแต่สมัยที่ไทยโบราณยังเป็นชนที่ไม่มีถิ่นประจำและเร่ร่อนอยู่ จึงต้องเอาศพของพ่อเมืองขึ้นไปด้วย และตั้งในเกวียนตั้งตามแบบโกศง่ายกว่าหีบยาว ๆ" การใช้โกศในไทยปรากฏหลักฐานชัดเจนในสมัยกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงการออกพระเมรุมาศและการบรรจุพระโกศอัฐิในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งโกศทั้งหลายเหล่านั้น น่าจะถูกทำลายตั้งแต่ครั้งการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 หมดแล้ว ส่วนโกศที่เก่าที่สุดที่พบอายุประมาณสมัยกรุงธนบุรี และจากตำนานพระโกศทั้งปวงนี้ตามพงศาวดารบ้าง บอกเล่าบ้าง สันนิษฐานเอาบ้าง เรียงลำดับตามอายุดังนี้
ที่ 1 โกศแปดเหลี่ยม มีอยู่ 4 โกศ มีโกศหนึ่งที่เก่าแก่มาก ไม่ทราบว่าสร้างเมื่อใด มีลวดลาย เป็นอย่างเดียวกับช่างครั้งรัชกาลที่ 1 แต่ฝีมือทำนั้นหยาบมาก ด้วยเหตุที่เวลาว่างการทัพศึกมีน้อย และโกศแปดเหลี่ยมนี้ มีลักษณะอย่างเดียวกันกับพระโกศกุดั่น ที่ปรากฏว่าสร้างครั้งแรกในรัชกาลที่ 1 แต่โกศแปดเหลี่ยมมีมาอยู่ก่อนหน้าแล้ว เข้าใจว่าโกศแปดเหลี่ยมนี้เก่าแก่กว่าโกศอื่นทั้งหมด ด้วยทำยอดเป็นหลังคา ที่แปลงมาจามเหมตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า (โกศที่เก่าแก่ที่สุด) ส่วนอีก 3 โกศนั้น สันนิษฐานว่าทำราวรัชกาลที่ 3 หรือ 4 อีกโกศหนึ่งกรมหมื่นปราบปรปักษ์ทำขึ้นในรัชกาลที่ 5 ใช้ประกอบศพหม่อมแม้น ในสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ครั้งแรก อีกโกศหนึ่ง กรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจ ขอพระบรมราชานุญาตทำถวายในรัชกาลนี้ ใช้ประกอบศพ เป็นครั้งแรก
ที่ 2 โกศโถ มีอยู่ 2 โกศ โกศหนึ่งนั้นเก่ามากลวดลายและฝีมือเหมือนกับโกศแปดเหลี่ยมใบเก่า ใช้มาแต่รัชกาลที่ 1 แล้ว ซึ่งน่าจะประกอบกับฝีมือที่ทำรุ่นเดียวกับโกศแปดเหลี่ยม แต่ทำที่หลังโกศแปดเหลี่ยม ในปัจจุบันใช้สำหรับพระราชทานพระราชาคณะและข้าราชการที่มีบรรดาศักดิ์ ได้รับพระราชทานโกศเป็นชั้นต้น อีกโกศหนึ่งทำขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลังการเป็นผู้ทำ โดยรับสั่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
ที่ 3 พระโกศกุดั่น 2 พระโกศ สร้างในรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2342) ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ และมีการเล่าขานกันว่าพระโกศองค์หนึ่งชำรุดไป สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ทรงค้นได้มาแต่ตัวพระโกศ จึงทรงทำฝาและฐานใหม่ประกอบเข้า เรียกพระโกศองค์นี้ว่า "กุดั่นใหญ่" ส่วนอีกองค์หนึ่งที่สร้างในรัชกาลที่ 1 ที่ไม่ชำรุดเรียก "กุดั่นน้อย" และถือว่าพระโกศกุดั่นใหญ่เกียรติยศสูงกว่าพระโกศกุดั่นน้อย
ที่ 4 พระโกศไม้สิบสอง มีตำนานว่าสร้างในรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2346) ทรงพระบรมศพ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ลอกทองจากพระโกศกุดั่นที่หุ้มไว้แต่เดิม มาหุ้มพระโกศไม้สิบสองแทน นำออกใช้ครั้งแรกประดิษฐานพระโกศไม้สิบสองในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ภายในพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)
ที่ 5 พระโกศทองใหญ่ สร้างในรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2351) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดให้รื้อทองที่หุ้มกระโกศกุดั่นมาทำพระโกศทองใหญ่ขึ้นไว้ สำหรับพระบรมศพของพระองค์ แต่เมื่อ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระอาลัยมาก จึงโปรดฯให้เชิญพระโกศทองใหญ่ไปประกอบพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพเป็นครั้งแรก และเป็นประเพณีในรัชกาลต่อมา ที่พระราชทานพระโกศทองใหญ่ให้ทรงพระศพอื่นเป็นพิเศษนอกจากพระบรมศพ
ที่ 6 พระโกศพระองค์เจ้า มีอยู่ 2 พระโกศ เรียกกันแต่แรกว่าโกศลังกา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำริให้สร้าง แต่ครั้งยังผนวช เป็นลองสี่เหลี่ยมหุ้มผ้าขาว ยอดเป็นฉัตรระบายผ้าขวา ทรงพระศพพระเจ้าลูกเธอที่ยังทรงพระเยาว์อยู่ (ก่อนมีพระโกศมณฑปน้อย) ต่อมาโกศนี้ สำหรับทรงพระศพพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 สมเด็จกรมพระยาบำราบปรปักษ์ จึงทรงคิดทำประกอบนอกขึ้น และกรมหมื่นปราบปรปักษ์ทำเติมขึ้นใหม่อีกพระโกศหนึ่ง
ที่ 7 พระโกศทองน้อย สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2394) โดยกรมพระเทเวศร์วัชรินทร์ โปรดให้สร้างขึ้น สำหรับทรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาผลัดพระโกศทองใหญ่ ไปตั้งในงานอื่น พระโกศทองน้อยนี้ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล) สร้างเมื่อในรัชกาลที่ 5 อีกองค์หนึ่ง พระโกศทองน้อย ใช้ทรงพระศพ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เป็นองค์ล่าสุด
ที่ 8 พระโกศมณฑปน้อย สร้างขึ้นแต่ในรัชกาลที่ 4 โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ พระโกศนี้หุ้มทองคำเฉพาะงาน
ที่ 9 พระโกศมณฑปใหญ่ สร้างขึ้นแต่ในรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2406) โดยกรมขุนราชสีหวิกรม เอาแบบมาแต่พระโกศมณฑปน้อย ทรงพระศพกรมพระพิทักษ์เทเวศร์ ด้วยเหตุที่กรมพระพิทักษ์เทเวศร์พระรูปใหญ่โต พระศพลงลองพระโกศสามัญไม่ได้ ต้องทำลองสี่เหลี่ยมขึ้นโดยเฉพาะ พระโกศมณฑปใหญ่นี้ต่อมาสร้างขึ้นอีกองค์หนึ่ง แต่จะสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ทราบแน่
ที่ 10 โกศเกราะ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2406) สำหรับศพ ด้วยท่านอ้วน ศพลงลองสามัญไม่ได้ ต้องทำลองสี่เหลี่ยม เรียกว่า "โกศเกราะ" เพราะลายสลักเป็นเกราะรัด
ที่ 11 โกศราชนิกุล โปรดฯ ให้กรมขุนราชสีหวิกรมสร้างขึ้นแต่ในรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2406) พระราชทานให้ประกอบศพพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) ท่านแรก
ที่ 12 พระโกศทองเล็ก โปรดฯ ให้กรมหมื่นปราบปรปักษ์สร้างขึ้นแต่ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2430) ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นทีแรก แล้วได้ใช้ทรงพระศพเจ้านายต่อมา
ที่ 13 พระโกศทองรองทรง โปรดฯให้กรมหมื่นปราปรปักษ์สร้างขึ้นแต่ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2443) พระโกศองค์นี้นับเหมือนพระโกศองค์ใหญ่ สำหรับใช้แทนที่พระโกศทองน้อย เวลาที่จะต้องหุ้มทองคำ เพื่อจะไม่ให้ต้องหุ้มเข้าและรื้อออกบ่อยๆ
สถานที่ที่ตั้งโกศ
เมื่อบรรจุพระศพลงพระโกศตามลำดับชั้นของโกศแล้ว จึงจะเชิญพระโกศทรงพระศพ ขึ้นประดิษฐานบนสถานที่ต่าง ๆ ตามพระอิสริยยศและเกียรติยศของโกศนั้น ๆ เป็นสำคัญ โดยแบ่งเป็นการประดิษฐานพระศพภายในพระบรมมหาราชวัง และ การประดิษฐานพระศพนอกพระบรมมหาราชวัง โดยการประดิษฐานในพระราชวังแต่เดิมจะประดิษฐานบนพระแท่นสุวรรณเบญจดลภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ต่อมาในรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้รื้อหอทั้งสามลงแล้วไปปลูกใหม่บริเวณริมกำแพงแก้ว โดยในปัจจุบันการประดิษฐานพระศพจะประดิษฐานบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ศาลาสหทัยสมาคม (สำหรับพระศพ/ศพพิเศษ) โดยไม่ได้ประดิษฐานพระศพบนหอต่างๆ อีก แต่จะเชิญออกไปประดิษฐานยังพระที่นั่งหรือศาลาอื่นแทน อาทิ พระที่นั่งทรงธรรม ศาลามรุพงษ์ ศาลาบัณรศภาคย์ ฯลฯ โดยพระศพที่ประดิษฐานบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจะประดิษฐานเฉพาะพระบรมศพของสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช และพระศพเจ้านายฝ่ายในเท่านั้น เว้นแต่ พระบรมศพของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ส่วนการประดิษฐานพระศพนอกพระราชวังนั้น จะเป็นเจ้านายฝ่ายหน้าเสียส่วนใหญ่และจะเป็นเจ้านายที่ออกวังไปแล้วหากเจ้านายฝ่ายในบางพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ยังวังของเจ้าพี่-เจ้าน้องก็อาจจะพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดิษฐานพระศพยังวังนั้นๆ ได้เช่นกัน แต่ละสถานที่จะมีลำดับเกียรติต่างกัน ดังนี้
ลำดับ | สถานที่ | พระอิสริยยศ | ที่ตั้งของสถานที่ | ชั้นแท่นแว่นฟ้า |
---|---|---|---|---|
ลำดับที่ 1 | พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท | พระมหากษัตริย์ พระอัครมเหสี สมเด็จพระยุพราช พระบรมวงศ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเป็นพิเศษ | พระบรมมหาราชวัง | 5 ชั้น |
ลำดับที่ 2 | พระที่นั่งในพระราชวัง | พระมเหสี สมเด็จเจ้าฟ้า | พระราชวังดุสิต | 5 ชั้น |
ลำดับที่ 3 | พระที่นั่งทรงธรรม | พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเป็นพิเศษ | วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร | 3 ชั้น |
ลำดับที่ 4 | หอธรรมสังเวช หอนิเพธพิทยา หออุเทศทักษิณา | สมเด็จเจ้าฟ้า พระองค์เจ้า | พระบรมมหาราชวัง | 3 ชั้น |
ลำดับที่ 4 | วังต่าง ๆ | เจ้านายฝ่ายหน้าที่ออกวังไปแล้ว ฝ่ายในที่ทรงโปรดเกล้าพระราชทานเป็นพิเศษ | วัง | 3 ชั้น |
ลำดับที่ 5 | ศาลาสหทัยสมาคม | สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ทรงกรม พระราชวงศ์ใกล้ชิด เสนาบดีที่เป็นราชสกุล | พระบรมมหาราชวัง | 3 ชั้น |
ลำดับที่ 5 | ศาลามรุพงษ์ | พระนางเธอลักษมีลาวัณ | วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร | 3 ชั้น |
ลำดับที่ 6 | ศาลาบัณณรศภาค | ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้า , องคมนตรี , นายกรัฐมนตรี และ ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเป็นพิเศษ | วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร | ชั้นเดียว |
ลำดับที่ 6 | ศาลาภานุรังษี | ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ | วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร | ชั้นเดียว |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ตำนานพระโกศ
- เล่าขานโบราณราชประเพณี เรื่องการพระราชพิธี พระศพ 2008-01-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน thairath.co.th
- พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ เล่าขาน...งานพระเมรุ. (กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2539) น.10-11
- สมภพ ภิรมย์, พลเรือตรี. พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยรัตนโกสินทร์. น.33
- เชิญพระโกศทองน้อยประดิษฐานพระศพ “สมเด็จพระสังฆราช”
- ปีย์ มาลากุล, หม่อมหลวง. "ระเบียบการศพ," ในตำนานพระโกศและหีบบรรดาศักดิ์ ระเบียบการศพ และคำเตือนการปฏิบัติราชการในราชสำนัก. น.35.
- หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551 น.10
- ปีย์ มาลากุล, หม่อมหลวง. "ระเบียบการศพ," น.35
- หนังสือพระราชทานในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 2008-11-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน posttoday.com
- นนทพร มั่งมี. "ท้ายจระนำ-ปราสาทจัตุรมุขในวัดพระศรีสรรเพชญ์," ใน ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 28 ฉบับที่ 5 (มีนาคม 2550) หน้า 42-47
- คือโกศแปดเปลี่ยมและโกศโถ อาจถูกสร้างในสมัยกรุงธนนบุรี ดูรายละเอียดใน กรมพระสมมตอมรพันธ์ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัตติวงศ์. "เรื่องตำนานพระโกศและหีบบรรดาศักดิ์," ใน ตำนานพระโกศและหีบบรรศักดิ์ระเบียบการศพ และคำเตือนการปฏิบัติราชการในราชสำนัก. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลย์ศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์เฉลิมลาภ ทวีวงศ์). (พระนคร : โรงพิมพ์พระจันทร์, 2524) หน้า 2-3.
- ตำนานพระโกศ.
- เจ้าชีวิต พระนิพนธ์ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
แหล่งข้อมูลอื่น
- ตำนานพระโกศ - กรมพระสมมตอมรพันธุ์ กรมพระดำรงราชานุภาพ และกรมพระนริศรานุวัติวงศ์
- ตำนานพระโกศ
- เวลาบุคคลสำคัญเสียชีวิตได้รับพระราชทานโกศ แล้วเขาเอาศพใส่ได้อย่างไร
- กรรมวิธีนำศพลงโกศ 2018-07-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrabrmoks phraoks aela oks khuxthiisphrabrmsph phramhakstriy phrabrmrachini aelaphrabrmwngs kboksthiphrarachthansahrbsphkharachkarphumibrrdaskdisung tamkhtiniymkhxngphrahmnthiechuxwa txngtngphrabrmsph phrasph aela sphthimibrrdaskdisung inthayun nng khukekha hruxkxdekhaprasanmux ephuxsngdwngphrawiyyan wiyyanklbsusrwngswrrkh insmypccubnoksmkcaepnephiyngekhruxngysethannephraaswnmakcaechiylnghib txngkarxangxing phraebycapradisthanphraoksthxngihythrngphrabrmsphphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw tiphimphinhnngsux Description du Royaume Thai ou Siam tiphimphphasaithyinchux elaeruxngkrungsyam khxngbathhlwngchxng batist palkw phimphthikrungparis praethsfrngess emux kh s 1854 ph s 2397 phraoksphrabrmxthipraephthphraoksepnphachnamirupthrngepnkrwymiyxdaehlm xacaeyktamwtthuprasngkhkarichnganepn 2 praephthkhux phraokssahrbthrnghruxphrasph aela phraoksphrabrmxthihruxphraxthi sungphraoksphrabrmsphmi 2 chn khuxchnnxkeriykwa thadwyokhrngimhumthxngpidthxng pradbkrackxymni aela chnin eriyk oks thadwyehlk thxngaednghruxengin pidthxng lxngchnnxkichprakxbpidokhrngchninsahrblxng hrux phralxng thipradbxyuphaynxkkhxngoks txmaniymeriykphralxng epnphraoksaethn cnekhaicwaepnsingediywkn echn eriykphralxngthxngihy waphraoksthxngihy epntn phraoksaelaoksaebngtamladbysmixyu 14 xyang dngni ladb chuxeriyk ichkb phuoprdihsrang khrngaerk lksnaladbthi 1 phraoksthxngihy phramhakstriy phraxkhrmehsi phrayuphrach syammkudrachkumar syambrmrachkumari phrabrmrachchnk phrabrmrachchnni phrabrmrachwngsthithrngoprdeklaphrarachthanepnphiess rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlay thrng 8 ehliym humdwythxngkhatlxdxngkh pradbdxkimexw fayxdmngkud midxkimephchrphumkhawbinthpradbyxd midxkimihwpradbchnfaphraoks aelafaphraokspradbefuxngaelaphuenginladbthi 2 phraoksthxngrxngthrng nbesmxphraoksthxngihy phramhakstriy phraxkhrmehsi phrayuphrach syammkudrachkumar syammkudrachkumari phrabrmrachchnk phrabrmrachchnni phrabrmrachwngsthithrngoprdeklaphrarachthanepnphiess rchkalthi 5 thadwyimaekaslklwdlay thrng 8 ehliym humdwythxngkhatlxdxngkh fayxdmngkudladbthi 3 smedcecafa chnexk rchkalthi 5 thadwyimaekaslklwdlaythrng 8 ehliym humdwy thxngkhathngxngkhladbthi 4 smedcecafa chn oth tri smedcphraecabrmwngsethxphraxngkheca krmphraya smedcphrasngkhracheca rchkalthi 4 thadwyimaekaslklwdlay thrng 8 ehliym yxdmngkudpidthxngthxngpradbkrack midxkimephchrphumkhawbinthpradbyxdphraoks aelafaphraokspradbefuxngaelaphuenginladbthi 5 smedcphrasngkhrach rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlay thrng 8 ehliym fayxdthrngmnthppidthxnglxng chadpradbladbthi 6 phraecabrmwngsethx phraxngkheca phusaercrachkaraethnphraxngkhthiesiychiwitkhnadarngtaaehnng phuidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn khunnangchn smedcecaphraya hrux ethiybetha rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlay thrng 8 ehliym fayxdthrngmnthppidthxngpradbkracksiladbthi 7 phraecawrwngsethx phraxngkheca thiidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnchnthutiyculcxmeklakhunip hrux thrngkrm rchkalthi 4 thadwyimaekaslklwdlaythrng 4 ehliym fayxdthrngmnthppidthxngpradbkracksi lxnginepnsiehliymladbthi 8 phraecawrwngsethx phraxngkheca phuidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn pthmculcxmekla prathanxngkhmntri xngkhmntri thiesiychiwitkhnadarngtaaehnng khunnangchn ecaphraya chn suphrrnbd hrux ethiybetha rchkalthi 4 thadwyimaekaslklwdlaythrng 4 ehliym fayxdthrngmnthppidthxngpradbkracksiladbthi 9 phraxngkhecafaykrmphrarachwngbwrsthanmngkhl sthanphimukh naykrthmntri rthmntriwakarkrathrwngthiesiychiwitkhnadarngtaaehnng smedcphrarachakhna khunnangchnecaphraya chnsyyabd hirybd hrux ethiybetha rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlayyxmum thrngphrasphhkehliymthrngimsibsxng fayxdthrngmngkudpidthxng pradbkracksiladbthi 10 mixikchuxwaphraoksphraxngkheca edimeriykwa okslngka phrawrwngsethx phraxngkheca hmxmeca thiidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn prathmaphrnmngkudithy khunip ekhruxngrachxisriyaphrn thutiyculcxmekla rchkalthi 4 thadwyimaekaslklwdlaythrng 4 ehliym fayxdthrngchdaphxkpidthxnglxngchadpradb lxnginepn 4 ehliymsikhawkhlayhibsphtngkhun mifaepnyxdladbthi 11 rachskul rachinikul thiidrbphrarachthan oksoth ihepliynmarbphrarachthan oksrachnikul aethn rchkalthi 4 thadwyimaekaslklwdlaythrng 4 ehliym tdmumphathrngchdapidthxngpradbkracksiladbthi 12 phuthiidrbphrarachthanoksoth oksaepdehliym aet miruprangihy misamarthlnglxngsamyid kihich oksekraa aethn rchkalthi 4 mikhnadihy milwdlayekraardladbthi 13 phrarachakhnachnecakhnarxng khunthawnangsnxngphraoxsth ecacxmmarda hmxmecathiimidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnthacathrngphrakrunaoprdeklaphrarachthanokscaidrbphrarachthan oksaepdehliym phuidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnprathmaphrnchangephuxk khunip thutiyculcxmeklawiess khunnangchn phrayaphanthxng hrux ethiybetha rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlaythrng 8 ehliym fayxdthrngmnthp pidthxnglxngchad pradbkracksiladbthi 14 phrarachakhnachnthrrm phuidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn prathmaphrnmngkudithy pthmdierkkhunaphrn thutiyculcxmekla khunnangchn phraya hrux ethiybetha rchkalthi 1 thadwyimaekaslklwdlayrupklm fayxdprik pidthxngpradbkrack aetedim khunnangchn ecaphraya caidrbphrarachthan oksaepdehliym aetepliynmaphrarachthanoksimsibsxng kb oksmnthp inrchsmyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw aemphraoks oks mikaraebngladbtamthanndrskdixyangchdecn aetbangkhrngxacmikareluxnladbchnihsungkhunid tamaetthrngphrakrunaoprdekla xathiechn nganphrasphsmedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs emuxnganwnthwayephlingphrasphcungidrbphrarachthanphraoksthxngihy smedcphraecabrmwngsethx krmphrayaethwawngsworpkar sinphrachnm phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwoprdekla phrarachthanthrngphrasph khrnemuxnganwnthwayphraephlingphrasph n phraemruthxngsnamhlwngcungoprdekla phrarachthanphraoksthxngihy epnkrniphiess nganphrasph smedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryansngwr eluxnchncakphraokskudnihy epnphraoksthxngnxy nganphrasphphrawrwngsethx krmhmunphithylaphphvthiyakr eluxnchncakphraoksrachwngs epnphraoksthxngnxy ngansph hmxmhlwngthwisnt ldawly eluxnchncakoksmnthp epnokskudnnxy ngansph smedcphraphuthacary ekiyw xupeson smedcphrayanwchiordm wiriyngkh sirin thor aela smedcphrawnrt cunth ph rh mkhut ot eluxnchncakoksimsibsxng epnoksmnthp ngansph hmxmecamngkhlechlim yukhl eluxnchncakoksrachwngs epnoksmnthp ngansphthanphuhying supraphada eksmsnt eluxnchncakoksaepdehliym epnoksmnthp ngansphthawwnidaphicarini bang snithwngs n xyuthya eluxnchncakoksaepdehliym epnoksimsibsxng ngansph phrathrrmpyyabdi thawr tis sanukor phraphrhmmngkhl wi thxng sirimng khol eluxnchncakoksaepdehliym epnoksimsibsxng ngansphxphirdi yingecriy eluxnchncakoksaepdehliym epnoksimsibsxng ngansphphraethphwithyakhm khun prisuth oth eluxnchncakhibthxngthub epnoksoth sahrbphraokskhxngsmedcphraecaphkhiniethx ecafaephchrrtnrachsuda siriosphaphnnwdi aelasmedcphraecaphinangethx ecafaklyaniwthna krmhlwngnrathiwasrachnkhrinthr tamxisriyyschnecafa tamaebbaephncaidrbphrarachthan aetdwyphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrmiphrabrmrachoxngkaroprdekla ihsankphrarachwngthwayphraekiyrtisungsudtamobranrachpraephni dngnnphraoksthiichinnganphrarachphithikhrngnicungepnphraoksthxngihy hruxphralxngthxngihy xnepnphraoksthimiladbchnsungsud sahrbphraoksthxngihy sungthuxepnphraoksthiprakxb phraxisriyys tamthrrmeniymkarpradbtkaetngphraoks mikhwamldhlnknepnhlaychntamphraekiyrtiys phrabrmsph hruxphrasphprawtiphraoksthxngnxypradisthanphrasph phranangecasuwthna phrawrrachethwi n phrathinngthrngthrrm wdebycmbphitrdusitwnaram krungethph ph s 2528 phraokskudnihyprakxbphraxisriyyssungphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch oprdekla phrarachthanepnekiyrtiysaekphrasph smedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach ecriy suwth thon n phratahnkephchr wdbwrniewswihar krungethph ph s 2558 oksothsungphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch oprdekla phrarachthanepnekiyrtiysaeksphphrathrrmwisuththimngkhl bw yansm pn on bnsalakarepriyy wdpabantad xaephxemuxng cnghwdxudrthani ph s 2554 karichoksbrrcuphrabrmsph phrasph aela sphkhunnangchnphuihymithrrmeniymthaknmananaelw oksnnmichnechingaetktangkn karthiithyichoksniimmiphuidthrabwaerimaetsmyid smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs trselaihwa nacaepnaetsmythiithyobranyngepnchnthiimmithinpracaaelaerrxnxyu cungtxngexasphkhxngphxemuxngkhunipdwy aelatnginekwiyntngtamaebboksngaykwahibyaw karichoksinithyprakthlkthanchdecninsmykrungsrixyuthya klawthungkarxxkphraemrumasaelakarbrrcuphraoksxthiinwdphrasrisrrephchy sungoksthnghlayehlann nacathukthalaytngaetkhrngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthi 2 hmdaelw swnoksthiekathisudthiphbxayupramansmykrungthnburi aelacaktananphraoksthngpwngnitamphngsawdarbang bxkelabang snnisthanexabang eriyngladbtamxayudngni thi 1 oksaepdehliym mixyu 4 oks miokshnungthiekaaekmak imthrabwasrangemuxid milwdlay epnxyangediywkbchangkhrngrchkalthi 1 aetfimuxthannhyabmak dwyehtuthiewlawangkarthphsukminxy aelaoksaepdehliymni milksnaxyangediywknkbphraokskudn thipraktwasrangkhrngaerkinrchkalthi 1 aetoksaepdehliymmimaxyukxnhnaaelw ekhaicwaoksaepdehliymniekaaekkwaoksxunthnghmd dwythayxdepnhlngkha thiaeplngmacamehmtngaetkhrngkrungeka oksthiekaaekthisud swnxik 3 oksnn snnisthanwatharawrchkalthi 3 hrux 4 xikokshnungkrmhmunprabprpksthakhuninrchkalthi 5 ichprakxbsphhmxmaemn insmedcphrarachpitulabrmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch khrngaerk xikokshnung krmhlwngsrrphsastrsuphkic khxphrabrmrachanuyatthathwayinrchkalni ichprakxbsph epnkhrngaerk thi 2 oksoth mixyu 2 oks okshnungnnekamaklwdlayaelafimuxehmuxnkboksaepdehliymibeka ichmaaetrchkalthi 1 aelw sungnacaprakxbkbfimuxthitharunediywkboksaepdehliym aetthathihlngoksaepdehliym inpccubnichsahrbphrarachthanphrarachakhnaaelakharachkarthimibrrdaskdi idrbphrarachthanoksepnchntn xikokshnungthakhunihminsmyrchkalthi 5 odyphrawrwngsethx phraxngkhecaxlngkarepnphutha odyrbsng smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayabarabprpks thi 3 phraokskudn 2 phraoks sranginrchkalthi 1 ph s 2342 thrngphrasphsmedcphraecaphinangethx ecafakrmphrayaethphsudawdi aelasmedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks aelamikarelakhanknwaphraoksxngkhhnungcharudip smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayabarabprpksthrngkhnidmaaettwphraoks cungthrngthafaaelathanihmprakxbekha eriykphraoksxngkhniwa kudnihy swnxikxngkhhnungthisranginrchkalthi 1 thiimcharuderiyk kudnnxy aelathuxwaphraokskudnihyekiyrtiyssungkwaphraokskudnnxy thi 4 phraoksimsibsxng mitananwasranginrchkalthi 1 ph s 2346 thrngphrabrmsph smedcphrabwrrachecamhasursinghnath krmphrarachwngbwrsthanmngkhl phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachoprdeklaoprdkrahmxmihlxkthxngcakphraokskudnthihumiwaetedim mahumphraoksimsibsxngaethn naxxkichkhrngaerkpradisthanphraoksimsibsxnginphrathinngsiwomkkhphiman phayinphrarachwngbwrsthanmngkhl wnghna thi 5 phraoksthxngihy sranginrchkalthi 1 ph s 2351 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk oprdihruxthxngthihumkraokskudnmathaphraoksthxngihykhuniw sahrbphrabrmsphkhxngphraxngkh aetemux sinphrachnm phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkthrngphraxalymak cungoprdihechiyphraoksthxngihyipprakxbphrasphsmedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngsrisunthrethphepnkhrngaerk aelaepnpraephniinrchkaltxma thiphrarachthanphraoksthxngihyihthrngphrasphxunepnphiessnxkcakphrabrmsph thi 6 phraoksphraxngkheca mixyu 2 phraoks eriykknaetaerkwaokslngka srangkhuninsmyrchkalthi 4 odyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngdariihsrang aetkhrngyngphnwch epnlxngsiehliymhumphakhaw yxdepnchtrrabayphakhwa thrngphrasphphraecalukethxthiyngthrngphraeyawxyu kxnmiphraoksmnthpnxy txmaoksni sahrbthrngphrasphphrawrwngsethxphraxngkheca txmainsmyrchkalthi 5 smedckrmphrayabarabprpks cungthrngkhidthaprakxbnxkkhun aelakrmhmunprabprpksthaetimkhunihmxikphraokshnung thi 7 phraoksthxngnxy srangkhuninrchkalthi 4 ph s 2394 odykrmphraethewsrwchrinthr oprdihsrangkhun sahrbthrngphrabrmsphphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw ewlaphldphraoksthxngihy iptnginnganxun phraoksthxngnxyni ecaphrayathrrmathikrnathibdi m r w pum malakul srangemuxinrchkalthi 5 xikxngkhhnung phraoksthxngnxy ichthrngphrasph phranangecasuwthna phrawrrachethwi epnxngkhlasud thi 8 phraoksmnthpnxy srangkhunaetinrchkalthi 4 odysmedcecaphrayabrmmhaphiichyyati phraoksnihumthxngkhaechphaangan thi 9 phraoksmnthpihy srangkhunaetinrchkalthi 4 ph s 2406 odykrmkhunrachsihwikrm exaaebbmaaetphraoksmnthpnxy thrngphrasphkrmphraphithksethewsr dwyehtuthikrmphraphithksethewsrphrarupihyot phrasphlnglxngphraokssamyimid txngthalxngsiehliymkhunodyechphaa phraoksmnthpihynitxmasrangkhunxikxngkhhnung aetcasrangkhunemuxidimthrabaen thi 10 oksekraa srangkhuninrchkalthi 4 ph s 2406 sahrbsph dwythanxwn sphlnglxngsamyimid txngthalxngsiehliym eriykwa oksekraa ephraalayslkepnekraard thi 11 oksrachnikul oprd ihkrmkhunrachsihwikrmsrangkhunaetinrchkalthi 4 ph s 2406 phrarachthanihprakxbsphphrayamntrisuriywngs chum bunnakh thanaerk thi 12 phraoksthxngelk oprd ihkrmhmunprabprpkssrangkhunaetinrchkalthi 5 ph s 2430 thrngphrasphsmedcphraecalukyaethx ecafasirirachkkuthphnth epnthiaerk aelwidichthrngphrasphecanaytxma thi 13 phraoksthxngrxngthrngoprdihkrmhmunpraprpkssrangkhunaetinrchkalthi 5 ph s 2443 phraoksxngkhninbehmuxnphraoksxngkhihy sahrbichaethnthiphraoksthxngnxy ewlathicatxnghumthxngkha ephuxcaimihtxnghumekhaaelaruxxxkbxysthanthithitngoksemuxbrrcuphrasphlngphraokstamladbchnkhxngoksaelw cungcaechiyphraoksthrngphrasph khunpradisthanbnsthanthitang tamphraxisriyysaelaekiyrtiyskhxngoksnn epnsakhy odyaebngepnkarpradisthanphrasphphayinphrabrmmharachwng aela karpradisthanphrasphnxkphrabrmmharachwng odykarpradisthaninphrarachwngaetedimcapradisthanbnphraaethnsuwrrnebycdlphayinphrathinngdusitmhaprasath txmainrchkalthi 7 oprdekla ihruxhxthngsamlngaelwipplukihmbriewnrimkaaephngaekw odyinpccubnkarpradisthanphrasphcapradisthanbnphrathinngdusitmhaprasath salashthysmakhm sahrbphrasph sphphiess odyimidpradisthanphrasphbnhxtang xik aetcaechiyxxkippradisthanyngphrathinnghruxsalaxunaethn xathi phrathinngthrngthrrm salamruphngs salabnrsphakhy l odyphrasphthipradisthanbnphrathinngdusitmhaprasathcapradisthanechphaaphrabrmsphkhxngsmedcphraburphmhakstriyathirach aelaphrasphecanayfayinethann ewnaet phrabrmsphkhxngsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar swnkarpradisthanphrasphnxkphrarachwngnn caepnecanayfayhnaesiyswnihyaelacaepnecanaythixxkwngipaelwhakecanayfayinbangphraxngkhthisinphrachnmyngwngkhxngecaphi ecanxngkxaccaphrarachthanphrabrmrachanuyatihpradisthanphrasphyngwngnn idechnkn aetlasthanthicamiladbekiyrtitangkn dngni ladb sthanthi phraxisriyys thitngkhxngsthanthi chnaethnaewnfaladbthi 1 phrathinngdusitmhaprasath phramhakstriy phraxkhrmehsi smedcphrayuphrach phrabrmwngsthithrngphrakrunaoprdeklaphrarachthanepnphiess phrabrmmharachwng 5 chnladbthi 2 phrathinnginphrarachwng phramehsi smedcecafa phrarachwngdusit 5 chnladbthi 3 phrathinngthrngthrrm phranangecasuwthna phrawrrachethwi phraecabrmwngsethx phraxngkheca phuthithrngphrakrunaoprdeklaphrarachthanepnphiess wdebycmbphitrdusitwnaramrachwrwihar 3 chnladbthi 4 hxthrrmsngewch hxniephthphithya hxxuethsthksina smedcecafa phraxngkheca phrabrmmharachwng 3 chnladbthi 4 wngtang ecanayfayhnathixxkwngipaelw fayinthithrngoprdeklaphrarachthanepnphiess wng 3 chnladbthi 5 salashthysmakhm smedcphranangecaxinthrskdisci phrawrrachchaya phraecawrwngsethx phraxngkheca thrngkrm phrarachwngsiklchid esnabdithiepnrachskul phrabrmmharachwng 3 chnladbthi 5 salamruphngs phranangethxlksmilawn wdmkutkstriyaramrachwrwihar 3 chnladbthi 6 salabnnrsphakh phuthiidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chn pthmculcxmekla xngkhmntri naykrthmntri aela phuthithrngphrakrunaoprdeklaepnphiess wdebycmbphitrdusitwnaramrachwrwihar chnediywladbthi 6 salaphanurngsi kharachkarchnphuihy wdethphsirinthrawasrachwrwihar chnediywduephimphraemrumas hibsph olnghinxangxingtananphraoks elakhanobranrachpraephni eruxngkarphrarachphithi phrasph 2008 01 16 thi ewyaebkaemchchin thairath co th phladisy siththithykic elakhan nganphraemru krungethph bnthuksyam 2539 n 10 11 smphph phirmy phleruxtri phraemrumas phraemru aelaemru smyrtnoksinthr n 33 echiyphraoksthxngnxypradisthanphrasph smedcphrasngkhrach piy malakul hmxmhlwng raebiybkarsph intananphraoksaelahibbrrdaskdi raebiybkarsph aelakhaetuxnkarptibtirachkarinrachsank n 35 hnngsuxphimphmtichnraywn wnphvhsbdithi 2 mkrakhm ph s 2551 n 10 piy malakul hmxmhlwng raebiybkarsph n 35 hnngsuxphrarachthaninphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslpyyasmwar 2008 11 04 thi ewyaebkaemchchin posttoday com nnthphr mngmi thaycrana prasathcturmukhinwdphrasrisrrephchy in silpwthnthrrm pithi 28 chbbthi 5 minakhm 2550 hna 42 47 khuxoksaepdepliymaelaoksoth xacthuksranginsmykrungthnnburi duraylaexiydin krmphrasmmtxmrphnth krmphrayadarngrachanuphaph aelasmedcecafakrmphranrisranuwttiwngs eruxngtananphraoksaelahibbrrdaskdi in tananphraoksaelahibbrrskdiraebiybkarsph aelakhaetuxnkarptibtirachkarinrachsank phimphinnganphrarachthanephlingsph phltri hmxmthwiwngsthwlyskdi hmxmrachwngsechlimlaph thwiwngs phrankhr orngphimphphracnthr 2524 hna 2 3 tananphraoks ecachiwit phraniphnthkhxng phraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngsaehlngkhxmulxunwikisxrs mingantnchbbekiywkb tananphraoksth chbbtiphimphkhrngaerkinprachumphngsawdar phakhthi 8 tananphraoks krmphrasmmtxmrphnthu krmphradarngrachanuphaph aelakrmphranrisranuwtiwngs tananphraoks ewlabukhkhlsakhyesiychiwitidrbphrarachthanoks aelwekhaexasphisidxyangir krrmwithinasphlngoks 2018 07 25 thi ewyaebkaemchchin