แผลไหม้ (อังกฤษ: burn) เป็นการบาดเจ็บที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออื่น ๆ มีเหตุจากความร้อน ความเย็น การเสียดสี หรือการแผ่รังสี (เช่น ไหม้แดด) โดยมักเกิดจากของเหลวร้อน (คือถูกลวก) ของแข็งร้อน หรือไฟ แม้อัตราการเกิดจะคล้าย ๆ กันในหญิงชาย แต่เหตุมักจะต่างกัน สำหรับหญิงในภูมิประเทศบางแห่ง ความเสี่ยงมาจากการใช้ไฟหุงต้มแบบเปิดโล่งหรือเตาหุงต้มที่ไม่ปลอดภัย สำหรับชาย ความเสี่ยงมาจากที่ทำงาน ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ รวมทั้งการติดเหล้าและการสูบบุหรี่ ยังอาจเกิดเพราะทำร้ายตัวเองหรือถูกคนอื่นทำร้าย
แผลไหม้ | |
---|---|
แผลไหม้ระดับสองที่มือ | |
สาขาวิชา | เวชบำบัดวิกฤติ ศัลยกรรมพลาสติก |
อาการ | ระดับ 1 - แดงโดยไม่มีตุ่มพอง ระดับ 2 - มีตุ่มพองและเจ็บ |
ภาวะแทรกซ้อน | ติดเชื้อ |
ระยะดำเนินโรค | หลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ |
ประเภท | ระดับ 1-2-3 (Superficial, partial-thickness, full-thickness) |
สาเหตุ | ความร้อน ความเย็น ไฟฟ้า สารเคมี การเสียดสี การแผ่รังสี |
ปัจจัยเสี่ยง | ไฟหุงต้มแบบเปิดโล่ง เตาหุงต้มที่ไม่ปลอดภัย การสูบบุหรี่ การติดเหล้า สถานที่ทำงานซึ่งไม่ปลอดภัย |
การรักษา | ขี้นอยู่กับความรุนแรง |
ยา | ยาระงับปวด ให้น้ำเกลือ วัคซีนบาดทะยัก |
ความชุก | 67 ล้าน (2015) |
การเสียชีวิต | 176,000 (2015) |
แผลไหม้ที่มีผลต่อผิวหนังชั้นบนสุดจัดอยู่ในระดับ 1 (ไหม้ตื้น, superficial) มีสีแดงโดยไม่มีตุ่มพองและเจ็บราว ๆ 3 วัน เมื่อไหม้ลึกถึงหนังข้างใต้ ก็จัดเป็นระดับ 2 (partial-thickness) มักมีตุ่มพองและเจ็บมาก อาจใช้เวลาถึง 8 สัปดาห์กว่าจะหายและอาจมีแผลเป็น แผลไหม้ระดับ 3 (full-thickness) จะไหม้ตลอดหนังทุกชั้น มักไม่เจ็บและแผลจะแข็ง ปกติจะไม่หายเอง แผลไหม้ระดับ 4 ไหม้เนื้อเยื่อที่ลึกยิ่งขึ้น เช่น กล้ามเนื้อ เอ็น หรือกระดูก แผลมักดำและมักเป็นเหตุให้เสียส่วนที่ไหม้นั้น ๆ
แผลไหม้ปกติป้องกันได้ การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรง การไหม้ตื้น ๆ อาจรักษาด้วยแค่ยาระงับปวดธรรมดา ๆ เทียบกับการไหม้มากซึ่งอาจต้องรักษาเป็นเวลานานในศูนย์รักษาแผลไหม้ การแช่น้ำเย็นอาจช่วยลดความเจ็บและความเสียหาย แต่ในบางกรณี การแช่นาน ๆ อาจทำให้ตัวเย็นเกิน แผลไหม้ระดับ 2 อาจต้องทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ แล้วทายาพันแผล วิธีการรักษาตุ่มพองยังไม่แน่ชัด อาจสมควรทิ้งไว้เฉย ๆ ถ้าเล็ก หรือระบายน้ำออกถ้าใหญ่ แผลไหม้ระดับ 3 อาจต้องผ่าตัด เช่น การปลูกถ่ายหนัง (skin grafting) แผลไหม้มาก ๆ มักต้องให้น้ำเกลือจำนวนมาก เพราะหลอดเลือดฝอยรั่วและเพราะบวมน้ำ ภาวะแทรกซ้อนที่สามัญสุดคือการติดเชื้อ ควรให้วัคซีนบาดทะยักถ้าไม่มีภูมิ
ในปี 2015 ไฟและความร้อนทำให้คนบาดเจ็บ 67 ล้านครั้ง ทำให้เข้า ร.พ. 2.9 ล้านครั้งและเสียชีวิต 176,000 ราย ผู้เสียชีวิตโดยมากอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะในเอเชียอาคเนย์ แผลไหม้ขนาดใหญ่อาจทำให้เสียชีวิต แต่การรักษาสมัยใหม่นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1960 ก็ทำให้ได้ผลดีขึ้น โดยเฉพาะในเด็กและคนหนุ่มสาว ในสหรัฐ คนที่รับเข้าศูนย์แผลไหม้เฉพาะทางประมาณร้อยละ 96 รอดชีวิต ผลระยะยาวขึ้นอยู่กับขนาดแผลและอายุคนไข้
อาการ
อาการของแผลไหม้ขึ้นอยู่กับความลึก แผลตื้น ๆ ทำให้เจ็บเป็นเวลา 2-3 วันแล้วหนังก็จะลอกต่อมา แผลที่รุนแรงกว่านั้นอาจทำให้เจ็บหรือตึง แผลระดับ 3 อาจทำให้ไม่รู้สึกการแตะเบา ๆ หรือการถูกเจาะ แผลตื้นมักจะแดง ที่หนักขึ้นอาจเป็นสีชมพู ขาว หรือดำ แผลใกล้ ๆ ปากหรือขนไหม้ในจมูกอาจชี้ว่า มีแผลไหม้ในทางลมหายใจ แต่ก็ไม่แน่นอน อาการน่าเป็นห่วงรวมทั้งหายใจลำบาก เสียงแหบ หายใจเข้ามีเสียงฮื้ด (stridor, wheezing) แผลมักคันเมื่อกำลังหาย โดยเกิดในผู้ใหญ่ร้อยละ 90 และเกือบทั้งหมดในเด็ก ความชาอาจคงยืนเป็นเวลานานถ้าเป็นแผลไหม้เนื่องกับไฟฟ้า แผลไหม้อาจก่อความทุกข์ทางใจ
ประเภท | ชั้นที่เกี่ยวข้อง | การปรากฏ | ผิว | ความรู้สึก | เวลาหาย | พยากรณ์โรค | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ 1 (ตื้น ๆ) | หนังกำพร้า | ผิวแดงไร้ตุ่มพอง | แห้ง | เจ็บปวด | 5-10 วัน | หายได้ดี การไหม้แดดบ่อย ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังภายหลังในชีวิต | |
ระดับ 2 แบบตื้น | ไหม้ไปถึงหนังแท้ที่ผิว ๆ (papillary) | แดงโดยมีตุ่มพองใส ซีดถ้ากด | ชื้น/เปียก | เจ็บมาก | 2-3 สัปดาห์ | อักเสบรอบ ๆ (เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ) แต่ปกติไม่กลายเป็นแผลเป็น | |
ระดับ 2 แบบลึก | ไหม้ไปถึงหนังแท้ส่วนลึก (reticular) | เหลืองหรือขาว ไม่ค่อยซีด อาจเป็นตุ่มพอง | ค่อนข้างแห้ง | ตึงและไม่สบาย | 3-8 สัปดาห์ | เป็นแผลเป็น ผิวตึง (อาจต้องตัดออกหรือปลูกถ่ายผิวหนัง) | |
ระดับ 3 | ไหม้ตลอดหนังแท้ | แข็ง มีสีขาว/น้ำตาลไม่ซีด | เหมือนหนังสัตว์ | ไม่เจ็บ | นาน (เป็นเดือน ๆ) ไม่หายสนิท | แผลเป็น ผิวตึง อาจต้องตัดออก (แนะนำให้ตัดออกตั้งแต่เนื่อง ๆ) | |
ระดับ 4 | ไหม้ตลอดหนัง เข้าไปถึงไขมัน กล้ามเนื้อ และกระดูกข้างใต้ | หนังตายล่อนเป็นสีดำ | แห้ง | ไม่เจ็บ | ต้องตัดออก | ตัดอวัยวะออก พิการอย่างสำคัญ และในบางกรณี ถึงตาย |
- Superficial (first-degree)
- Superficial partial thickness (second-degree)
- Deep partial thickness (second-degree)
- Full thickness (third-degree)
- Fourth-degree
เหตุ
แผลไหม้มีเหตุจากสิ่งภายนอกต่าง ๆ รวมทั้งความร้อน สารเคมี ไฟฟ้า และการแผ่รังสี ในสหรัฐ เหตุสามัญที่สุดคือ ไฟ (ร้อยละ 44), ถูกลวก (ร้อยละ 33), วัตถุร้อน (ร้อยละ 9), ไฟฟ้า (ร้อยละ 4) และสารเคมี (ร้อยละ 3) โดยมากเกิดที่บ้าน (ร้อยละ 60) หรือที่ทำงาน (ร้อยละ 9) โดยมากเป็นอุบัติเหตุ มีร้อยละ 2 ถูกทำร้าย และ ร้อยละ 1-2 มาจากพยายามฆ่าตัวตาย เหตุเหล่านี้อาจก่อแผลไหม้ในทางเดินลมหายใจหรือปอด ซึ่งเกิดราว ๆ ร้อยละ 6 คนจนเกิดแผลไหม้มากกว่า การสูบบุหรี่และการติดเหล้าเป็นปัจจัยเสี่ยง แผลไหม้เนื่องกับไฟสามัญกว่าในเขตที่หนาวกว่า ปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะของประเทศกำลังพัฒนารวมการหุงต้มด้วยไฟที่เปิดโล่งหรือด้วยไฟก่อที่พื้น ปัญหาพัฒนาการในเด็ก และโรคเรื้อรังในผู้ใหญ่
เหตุความร้อน
ในสหรัฐ ไฟและน้ำร้อนเป็นเหตุสามัญสุด สำหรับไฟไหม้ในบ้านที่ทำให้เสียชีวิต การสูบบุหรี่เป็นเหตุร้อยละ 25 และอุปกรณ์ทำความร้อนร้อยละ 22 เกือบครึ่งมีเหตุจากการพยายามดับไฟ การถูกลวกมีเหตุจากน้ำร้อนหรือแก๊สร้อน สามัญที่สุดเนื่องกับเครื่องดื่มร้อน, น้ำร้อนจากก๊อกน้ำหรือฝักบัวอาบน้ำในห้องน้ำ, น้ำมันประกอบอาหาร หรือจากไอน้ำ การถูกลวกสามัญที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยในสหรัฐและออสเตรเลีย เป็นคนไข้เกินกว่า 2/3 การถูกวัสดุร้อนเป็นเหตุแผลไหม้ของเด็กร้อยละ 20-30 ทั่วไปแล้ว การถูกลวกจะก่อแผลไหม้ระดับ 1 หรือ 2 แต่ก็อาจก่อระดับ 3 ด้วยเพราะติดแช่อยู่นานดอกไม้ไฟเป็นเหตุสามัญในช่วงวันหยุดในประเทศหลายประเทศ โดยเฉพาะสำหรับเด็กชายวัยรุ่น
เหตุสารเคมี
สารเคมีเป็นเหตุให้เกิดแผลไหม้ร้อยละ 2-11 แต่เป็นเหตุให้ตายเพราะแผลไหม้ถึงร้อยละ 30 มีสาร 25,000 อย่างที่อาจเป็นเหตุ โดยมากเป็นด่าง (ร้อยละ 55) หรือกรด (ร้อยละ 26) ที่มีฤทธิ์แรง การตายมักเกิดจากการกิน สารสามัญรวมทั้งกรดซัลฟิวริกในผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ โซเดียมไฮโปคลอไรต์ในสารฟอกขาวที่พบในน้ำยาซักผ้าขาว และไฮโดรคาร์บอนที่เพิ่มแฮโลเจนดังที่พบในน้ำยาลอกสีเป็นต้นกรดไฮโดรฟลูออริกอาจก่อแผลลึกที่ไม่มีอาการจนกระทั่งหลังช่วงระยะหนึ่งกรดฟอร์มิกอาจทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงจำนวนมากแตก
เหตุไฟฟ้า
การบาดเจ็บเหตุไฟฟ้าอาจจัดหมู่เป็นแบบไฟฟ้าแรงสูง (>= 1,000 โวลต์) ไฟฟ้าแรงต่ำ (< 1,000 โวลต์) หรือแบบไฟวาบที่เกิดจากอาร์กไฟฟ้า เหตุหลักต่อเด็กเกิดจากสายไฟ (ร้อยละ 60) ตามด้วยปลั๊กไฟ (ร้อยละ 14)ฟ้าผ่าก็อาจเป็นเหตุได้ด้วย ปัจจัยเสี่ยงถูกฟ้าผ่ารวมทั้งการเล่นกีฬากลางแจ้งหรือทำงานกลางแจ้ง อัตราตายเหตุถูกฟ้าฝ่าอยู่ราว ๆ ร้อยละ 10 แม้การบาดเจ็บหลักเนื่องกับไฟฟ้าอาจเป็นแผลไหม้ แต่กระดูกก็อาจหักหรือข้ออาจหลุดเนื่องจากถูกกระแทกหรือเพราะการหดเกร็งกล้ามเนื้อ สำหรับไฟฟ้าแรงสูง ความเสียหายโดยมากอาจอยู่ข้างใน ดังนั้น จึงไม่สามารถรู้ว่าบาดเจ็บแค่ไหนเพียงตรวจดูแค่ผิวหนัง การถูกไฟช็อตไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าแรงสูงหรือแรงต่ำก็ล้วนอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจหยุดเต้น
เหตุการแผ่รังสี
แผลไหม้เหตุการแผ่รังสีอาจมาจากการถูกรังสีอัลตราไวโอเลตนาน ๆ เช่น จากแสงอาทิตย์ จากการเชื่อมอาร์ก เป็นต้น หรือจากการแผ่รังสีแตกไอออน (ionizing radiation) เช่น จากการฉายรังสี จากเอกซเรย์ หรือจากฝุ่นกัมมันตรังสี การตากแดดเป็นเหตุสามัญสุดสำหรับแผลไหม้เหตุแผ่รังสี และสำหรับแผลไหม้ระดับ 1 ด้วย โดยเกิดขึ้นง่ายแค่ไหนขึ้นอยู่กับลักษณะผิว ผลของการแผ่รังสีแตกไอออนต่อผิวจะขึ้นอยู่กับว่าถูกนานแค่ไหน ผมอาจร่วงหลังจากได้ขนาด 3 เกรย์ ผิวแดงหลังจาก 10 เกรย์ หนังลอกหลังจาก 20 เกรย์ เนื้อตายหลังจาก 30 เกรย์ ถ้าผิวแดง อาจจะไม่ปรากฏจนสักระยะหนึ่ง ส่วนการรักษานั้นเหมือนกับแผลไหม้อื่น ๆ แผลไหม้เหตุไมโครเวฟเกิดจากความร้อนที่เนื่องกับคลื่นไมโครเวฟ แม้การถูกเพียงแค่ 2 วินาทีก็อาจก่อแผล แต่นี่ไม่สามัญ
เหตุที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ
ในบุคคลที่เข้า ร.พ. เนื่องกับแผลไหม้เหตุไฟหรือถูกลวก ร้อยละ 3-10 เป็นเพราะถูกทำร้าย รวมทั้งทารุณกรรมต่อเด็ก ทะเลาะกันส่วนตัว ถูกคู่ครองทำร้าย คนแก่ถูกทำร้าย และทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ การแช่ติดอยู่กับของร้อนหรือในน้ำร้อนอาจชี้ว่าเป็นทารุณกรรมต่อเด็ก ซึ่งอาจเกิดเมื่ออวัยวะปลาย ๆ หรือบางครั้งก้น ถูกกดให้แช่น้ำร้อน ปกติมีขอบบนที่ชัดเจนและมักจะเสมอกัน (symmetrical) โดยส่วนพับของผิวหนังอาจทำให้ส่วนนั้นไม่ไหม้ (เรียกในภาษาอังกฤษว่า "sock burns", "glove burns" หรือ "zebra stripes")
แผลไหม้จงใจด้วยไฟบุหรี่มักพบที่หน้า หลังมือ หรือหลังเท้า ตัวชี้ทารุณกรรมอื่น ๆ รวมทั้งแผลไหม้เป็นวง (circumferential burns) การไร้แผลที่เป็นรอยน้ำกระเซ็น แผลไหม้โดยลึกเท่า ๆ กัน และมีลักษณะอาการถูกละเลยและทารุณกรรมอื่น ๆ การเผาเจ้าสาวซึ่งเป็นทารุณกรรมในครอบครัวอย่างหนึ่งเกิดในวัฒนธรรมบางอย่าง เช่นอินเดียที่เผาผู้หญิงเพราะสามีหรือครอบครัวสามีคิดว่าได้สินสอดไม่พอ ในปากีสถาน กรดเป็นเหตุในอัตราร้อยละ 13 เมื่อจงใจทำร้ายผู้อื่นและมักเป็นทารุณกรรมในครอบครัว การเผาตนเองก็ใช้เป็นวิธีการประท้วงอย่างหนึ่งในที่ต่าง ๆ ของโลก
พยาธิสรีรวิทยา
เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 44 องศาเซลเซียส โปรตีนในเซลล์จะเริ่มเสียรูปแล้วสลาย มีผลให้เซลล์และเนื้อเยื่อเสียหาย การทำงานผิดปกติของผิวหนังเป็นผลของแผลไหม้ต่อสุขภาพโดยตรง รวมทั้งการเสียความรู้สึก การป้องกันไม่ให้เสียน้ำโดยระเหย และการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ปัญหาที่เยื่อหุ้มเซลล์ทำให้เซลล์เสียโพแทสเซียมออกนอกเซลล์แล้วได้น้ำกับโซเดียมเพิ่ม
สำหรับแผลใหญ่ (คือมากกว่าร้อยละ 30 ของผิวร่างกายทั้งหมด) จะมีการอักเสบอย่างสำคัญ ทำให้น้ำซึมออกมาจากหลอดเลือดฝอยยิ่งขึ้น แล้วทำให้บวมน้ำต่อมา ทำให้ปริมาตรของเลือดโดยรวมลดลง โดยเลือดที่เหลือก็จะเสียน้ำเลือด (พลาสมา) อย่างสำคัญ และทำให้เลือดข้นขึ้น เลือดที่ไหลได้แย่ลงไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น ไตและทางเดินอาหาร อาจทำให้ไตวายและเกิดแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร (gastric ulcer)
แคเทโคลามีน (catecholamine) และคอร์ติซอล (cortisol) ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ระดับเมแทบอลิซึมสูงผิดปกติเป็นปี ๆ ซึ่งทำให้หัวใจปั๊มเลือดมากขึ้น หัวใจเต้นเร็ว และภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
การวินิจฉัย
แผลไหม้อาจจัดหมวดตามความลึก เหตุให้เกิดแผล ขนาด และการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกัน หมวดที่ใช้มากที่สุดเป็นไปตามความลึก ซึ่งระบุด้วยการตรวจแผล แต่ก็อาจตัดเนื้อออกตรวจ การระบุความลึกให้แม่นยำโดยตรวจเพียงครั้งเดียวอาจยาก จึงอาจต้องตรวจซ้ำหลาย ๆ วัน สำหรับคนที่ปวดหรือเวียนหัวและมีแผลไหม้จากไฟ ควรพิจารณาภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษด้วยไซยาไนด์เป็นพิษก็ควรพิจารณาด้วยเหมือนกัน
ตามขนาด
ขนาดจะวัดโดยสัดส่วนแผลไหม้เทียบกับพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมด (total body surface area ตัวย่อ TBSA) แผลระดับ 1 ที่ปรากฏเป็นสีแดงไร้ตุ่มพองไม่รวมอยู่ในการประเมินเช่นนี้ แผลไหม้โดยมาก (ร้อยละ 70) มีผลต่อพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมดน้อยกว่าร้อยละ 10 มีวิธีระบุสัดส่วนแผลไหม้หลายอย่างรวมทั้ง Wallace rule of nines (กฎเลขเก้าของวอลเลซ), Lund and Browder chart และวิธีประเมินขึ้นกับขนาดมือ กฎเลขเก้าจำได้ง่ายแต่แม่นสำหรับคนอายุมากกว่า 16 ปีเท่านั้น วิธี Lund and Browder chart จะแม่นกว่า เพราะใช้อัตราส่วนร่างกายที่ต่าง ๆ กันสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ขนาดมือของบุคคล (รวมฝ่ามือและนิ้ว) จะราว ๆ ร้อยละ 1 ของพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมด
กฎเลขเก้า (เข้ากับรูปที่แสดงได้) ระบุส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นร้อยละเก้า ๆ รวมทั้ง แขนซ้าย (9%) แขนขวา (9%) ศีรษะกับคอ (9%) หน้าอก (9%) ท้อง (9%) หลังทั้งหมด (18%) ขาซ้าย (18%) ขาขวา (18%) และอวัยวะเพศ/บริเวณขาหนีบ (1%)
ความรุนแรง
น้อย | ปานกลาง | มาก |
---|---|---|
ผู้ใหญ่ <10% TBSA | ผู้ใหญ่ 10-20% TBSA | ผู้ใหญ่ >20% TBSA |
เด็กหรือคนชรา <5% TBSA | เด็กหรือคนชรา 5-10% TBSA | เด็กหรือคนชรา >10% TBSA |
ไหม้ลึก <2% | ไหม้ลึก 2-5% | ไหม้ลึก >5% |
บาดเจ็บเหตุไฟฟ้าแรงสูง | แผลไหม้เหตุไฟฟ้าแรงสูง | |
อาจบาดเจ็บเพราะสูดเข้าไป | รู้ว่าบาดเจ็บเพราะสูดเข้าไป | |
แผลไหม้เป็นวง | แผลไหม้อย่างสำคัญที่หน้า ข้อต่อ มือ หรือเท้า | |
ปัญหาสุขภาพอย่างอื่น | การบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกันอื่น ๆ | |
|
เพื่อระบุการต้องส่งไปศูนย์รักษาแผลไหม้ สมาคมแผลไหม้อเมริกัน (American Burn Association) ได้สร้างระบบการจัดหมวดหมู่ขึ้นอย่างหนึ่ง ในระบบนี้ แผลไหม้อาจเป็นแบบมาก (major) ปานกลาง (moderate) หรือน้อย (minor) ประเมินโดยอาศัยปัจจัยหลายอ่าง รวมทั้งพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมดที่ไหม้ อวัยวะต่าง ๆ ที่ไหม้ อายุ และการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกัน แบบน้อยปกติรักษาได้ที่บ้าน แบบปานกลางมักรักษาที่ รพ. และแบบมากรักษาที่ศูนย์รักษาแผลไหม้
การป้องกัน
ตามประวัติแล้ว แผลไหม้ราว ๆ ครึ่งเชื่อว่าป้องกันได้ โปรแกรมป้องกันการถูกไหม้ได้ลดอัตราแผลไหม้แบบหนักได้อย่างสำคัญ วิธีการป้องกันรวมทั้งจำกัดอุณหภูมิน้ำร้อน เครื่องตรวจควันไฟ ระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิง การสร้างอาคารที่ดี และเสื้อผ้ากันไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิเครื่องทำน้ำร้อนให้ต่ำกว่า 48.8 องศาเซลเซียส วิธีอื่นเพื่อป้องกันน้ำลวกรวมการใช้เทอร์มอมิเตอร์วัดอุณหภูมิน้ำอาบ อุปกรณ์กันกระเด็นที่ใช้กับภาชนะหุงต้ม แม้ผลของกฎหมายควบคุมดอกไม้ไฟจะไม่ชัดเจน แต่ก็มีหลักฐานในเบื้องต้นว่ามีประโยชน์ รวมทั้งการจำกัดขายให้เด็ก
การรักษา
การรักษาพยาบาลเริ่มตั้งแต่ประเมินและรักษาเสถียรภาพทางลมหายใจของบุคคล ของการหายใจ และของการเดินเลือด ถ้าสงสัยว่าสูดความร้อนเข้าไปด้วย การช่วยหายใจด้วยหลอดหายใจอาจจำเป็นตั้งแต่เนื่อง ๆ แล้วจึงรักษาแผลไหม้ คนที่มีแผลใหญ่อาจต้องพันด้วยผ้าสะอาดจนกว่าจะมาถึง รพ. เพราะแผลไหม้เสี่ยงติดเชื้อ ก็จะให้วัคซีนบาดทะยักถ้าไม่ได้ฉีดสร้างภูมิคุ้มกันไว้ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ในสหรัฐ คนไข้แผลไหม้ร้อยละ 95 ที่มายังแผนกฉุกเฉินจะได้รักษาแล้วให้กลับบ้าน ที่เหลือต้องเข้ารักษาใน รพ. ถ้าแผลใหญ่ ต้องให้อาหารตั้งแต่เนื่อง ๆ ควรได้โปรตีนเพิ่ม โดยสารอาหารรอง (trace element) และวิตามินก็มักจำเป็น ในสถานพยาบาลที่มี การให้ออกซิเจนด้วยหีบให้ออกซิเจนในแรงดันอากาศสูง (hyperbaric oxygenation) เพิ่มอาจมีประโยชน์
น้ำเกลือ
สำหรับผู้ที่เลือดไหลเวียนไม่ดี (poor tissue perfusion) ควรให้น้ำเกลือแบบ isotonic crystalloid solution (สารละลายคริสแทลลอยด์ซึ่งมีความดันออสโมซิสเสมอเลือด) ในเด็กที่มีผิวไหม้เป็นเนื้อที่ (ของ total body surface area หรือ TBSA) ร้อยละ 10-20 และผู้ใหญ่ที่มีมากกว่าร้อยละ 15 ควรให้น้ำเกลือและตามเฝ้าสังเกต ในผู้ที่มี TBSA ยิ่งกว่าร้อยละ 25 ควรทำเช่นนี้แม้ก่อนไปถึง รพ. ถ้าเป็นไปได้ สูตรพาร์กแลนด์ (Parkland formula) สามารถใช้ระบุปริมาตรน้ำเกลือที่ต้องให้ใน 24 ชม. แรก เป็นสูตรที่ผลลัพธ์แปรไปตามพื้นที่แผลไหม้เป็นอัตราของ TBSA และน้ำหนัก น้ำเกลือครึ่งหนึ่งจะให้ใน 8 ชม. แรก และที่เหลือใน 16 ชม. ต่อมา เวลาจะคำนวณเริ่มเมื่อถูกไหม้ ไม่ใช่เริ่มตั้งแต่ให้น้ำเกลือ เด็กต้องได้น้ำเกลือประเภทอื่น ๆ รวมทั้งกลูโคส อนึ่ง ผู้ที่บาดเจ็บทางเดินลมหายใจด้วยต้องได้น้ำเกลือมากกว่า แม้การให้ไม่พออาจเป็นปัญหา แต่การให้เกินก็มีผลลบด้วย สูตรเป็นเพียงแค่แนวปฏิบัติ ควรปรับให้ได้ปัสสาวะ >30 มล./ชม. ในผู้ใหญ่ หรือ >1 มล./กก. ในเด็ก โดยมีความดันเลือดแบบ mean arterial pressure (MAP) ยิ่งกว่า 60 mmHg แม้จะมักใช้น้ำเกลือแบบ lactated Ringer's solution แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าดีกว่าน้ำเกลือธรรมดา (normal saline) น้ำเกลือแบบคริสแทลลอยด์ดูเหมือนจะดีเท่า ๆ กับแบบคอลลอยด์ (colloid) แต่เพราะแบบหลังแพงกว่าจึงไม่แนะนำการถ่ายเลือดจำเป็นในกรณีจำนวนน้อย ซึ่งแนะนำก็ต่อเมื่อระดับเฮโมโกลบินตกต่ำกว่า 60-80 ก./ล. (6-8 ก./ดล.) เพราะเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน เข็มให้น้ำเกลืออาจสอดผ่านผิวที่ไหม้ถ้าจำเป็น หรืออาจให้ผ่านไขกระดูก (intraosseous infusion)
การพยาบาลแผล
การแช่เย็นตั้งแต่เนื่อง ๆ (ภายใน 30 นาทีหลังเกิดเหตุ) ลดความลึกของแผลและความเจ็บ แต่ถ้าทำมากเกินไปก็อาจทำให้ตัวเย็นเกิน ควรทำด้วยน้ำเย็นอุณหภูมิระหว่าง 10-25 องศาเซลเซียส โดยไม่ใช้น้ำแข็งเพราะอาจทำให้แย่ลง แผลไหม้เหตุสารเคมีอาจต้องล้างให้มาก ๆ การทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำ, การเอาเนื้อตายออก และการปิดแผลเป็นเรื่องสำคัญ ถ้ามีตุ่มพองที่ยังไม่แตก ไม่ชัดเจนว่าควรทำอย่างไร มีหลักฐานในเบื้องต้นบ้างว่า ควรทิ้งไว้เฉย ๆ แผลไหม้ระดับสองควรตรวจอีกหลังจาก 2 วัน สำหรับแผลไหม้ระดับ 1 และ 2 การปิดแผลเช่นไรดีมีแต่หลักฐานคุณภาพไม่ดี การไม่ปิดแผลไหม้ระดับ 1 นั้นเหมาะสม
แม้มักจะแนะนำยาทาปฏิชีวนะ แต่ก็มีหลักฐานสนับสนุนน้อย ยาปฏิชีวนะซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (silver sulfadiazine) ไม่แนะนำเพราะอาจทำให้หายช้า มีหลักฐานไม่เพียงพอสนับสนุนให้ใช้ผ้าปิดที่มีซิลเวอร์ หรือการปิดแผลแบบดูดอากาศลดความดัน (negative-pressure wound therapy) ซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีนดูไม่ต่างกับโฟมมีซิลเวอร์เพื่อช่วยให้แผลหาย
ยา
แผลไหม้อาจเจ็บมาก แต่ก็มีวิธีลดความเจ็บ เช่นใช้ยาระงับปวดธรรมดา ๆ เช่น ไอบิวพรอเฟนและพาราเซตามอล และใช้ยากลุ่มโอปิออยด์ เช่น มอร์ฟีน ยากลุ่มเบ็นโซไดอาเซพีนอาจให้พร้อมกับยาระงับปวดเพื่อลดความวิตกกังวล เมื่อกำลังหาย อาจนวด ใช้สารต้านฮิสตามีน หรือการกระตุ้นประสาทผ่านผิว (transcutaneous electrical nerve stimulation) เพื่อแก้คัน แต่สารต้านฮิสตามีนก็ได้ผลเพื่อจุดประสงค์นี้เพียงในคนไข้ร้อยละ 20 มีหลักฐานเบื้องต้นสนับสนุนให้ใช้ยา gabapentin (ปกติใช้รักษาโรคลมชัก ความเจ็บปวดเหตุโรคเส้นประสาท อาการวัยทอง อาการขาอยู่ไม่เป็นสุข) คืออาจสมควรกับคนที่ไม่ดีขึ้นเมื่อใช้สารต้านฮิสตามีน ลิโดเคน (lidocaine) ที่ให้ทางเส้นเลือดต้องมีงานศึกษาเพิ่มขึ้นก่อนจะแนะนำให้ใช้แก้ปวด
การให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดแนะนำก่อนการผ่าตัดสำหรับคนไข้ที่ไหม้มาก (>60% TBSA) จนถึงปี 2008 แนวทางปฏิบัติต่าง ๆ ไม่แนะนำให้ทำอย่างนี้โดยทั่วไปเพราะแบคทีเรียอาจดื้อยา และเพราะเสี่ยงติดเชื้อรา แต่หลักฐานเบื้องต้นก็แสดงว่า อาจเพิ่มอัตรารอดชีวิตสำหรับคนไข้ที่มีแผลไหม้ใหญ่และรุนแรง แต่ไซโตไคน์แบบไกลโคโปรตีนคือ อิริโทรพอยเอติน (Erythropoietin) ก็ไม่พบว่ามีผลป้องกันหรือรักษาภาวะเลือดจางในคนไข้แผลไหม้ ในกรณีที่มีเหตุจากกรดไฮโดรฟลูออริก แคลเซียมกลูโคเนต (calcium gluconate) เป็นยาแก้พิษโดยเฉพาะ และอาจให้ทางเส้นเลือดและ/หรือใช้ทา ฮอร์โมนการเติบโตของมนุษย์แบบลูกผสม (recombinant human growth hormone ตัวย่อ rhGH) ในกรณีที่ไหม้เกินร้อยละ 40 ปรากฏว่า ช่วยให้หายเร็วขึ้นแม้ไม่มีผลต่อความเสี่ยงตาย การใช้สเตอรอยด์รักษาไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
การผ่าตัด
แผลที่ต้องปิดด้วยการปลูกถ่ายหนัง (skin graft) หรือแผ่นเนื้อเยื่อปะปลูก (flap) ควรทำให้เร็วที่สุด โดยปกติคือแผลซึ่งยิ่งกว่าแผลไหม้ระดับ 3 เล็ก ๆ แผลไหม้เป็นวงของแขนขาหรือหน้าอกอาจต้องผ่าตัดเอาหนังออกที่เรียกว่า escharotomy เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการเดินเลือดหรือการหายใจ ไม่ชัดเจนว่านี่มีประโยชน์สำหรับแผลที่คอหรือนิ้วหรือไม่ การผ่าตัดพังผืด (fasciotomy) อาจจำเป็นสำหรับแผลไหม้เหตุไฟฟ้า การปลูกถ่ายหนังอาจใช้สิ่งทดแทนหนังชั่วคราว ไม่ว่าจะได้จากสัตว์ (มนุษย์ผู้บริจาคหรือหมู) หรืออาจสังเคราะห์ โดยใช้ปิดแผล ป้องกันการติดเชื้อและการเสียน้ำ แต่ในที่สุดก็จะเอาออก หรือว่า หนังมนุษย์ที่ปลูกถ่ายอาจติดอย่างถาวรถ้าไม่มีปฏิกิริยาปฏิเสธสิ่งปลูกถ่าย
ไม่มีหลักฐานว่าการใช้คอปเปอร์ซัลเฟตเพื่อให้เห็นอนุภาคฟอสฟอรัสแล้วเอาออกจะช่วยให้แผลหายสำหรับแผลไหม้เหตุฟอสฟอรัส และการดูดซึมคอปเปอร์ซัลเฟตเข้าในเลือดก็มีผลร้าย
แพทย์ทางเลือก
น้ำผึ้งใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อช่วยรักษาแผลและอาจมีประโยชน์สำหรับแผลไหม้ระดับ 1 และ 2 มีหลักฐานพอควรว่ามันช่วยแผลที่ไม่ไหม้ตลอดหนัง หลักฐานสนับสนุนให้ใช้ว่านหางจระเข้มีคุณภาพไม่ดี แม้อาจช่วยลดความเจ็บ และงานทบทวนวรรณกรรมของกลุ่มแพทย์ไทยปี 2007 พบหลักฐานเบื้องต้นว่าช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แต่งานทบทวนต่อ ๆ มาตั้งแต่ปี 2012 ก็ไม่พบว่าดีกว่าซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน มีงานทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมเพียง 3 งานที่ใช้พืชรักษาแผลไหม้ คือมี 2 งานเกี่ยวกับว่านหางจระเข้ และงานหนึ่งเกี่ยวกับข้าวโอ๊ต
มีหลักฐานน้อยว่าวิตามินอีช่วยไม่ให้เป็นแผลเป็น ไม่แนะนำให้ใช้เนย ในประเทศมีรายได้น้อย แผลไหม้จะรักษาด้วยแพทย์แผนโบราณอาจถึง 1/3 ซึ่งรวมการทาไข่ โคลน ใบสมุนไพร หรือมูลโค การผ่าตัดจะจำกัดในบางกรณีเพราะจนหรือไม่มีหมอ มีวิธีอื่น ๆ นอกจากยาที่สามารถลดความเจ็บปวดและความวิตกกังวลรวมทั้งการบำบัดด้วยความเป็นจริงเสมือน (virtual reality therapy) การสะกดจิต และวิธีการทางพฤติกรรมต่าง ๆ รวมทั้งวิธีหลอกล่อใจ
พยากรณ์โรค
TBSA | อัตราตาย |
---|---|
0-9% | 0.6% |
10-19% | 2.9% |
20-29% | 8.6% |
30-39% | 16% |
40-49% | 25% |
50-59% | 37% |
60-69% | 43% |
70-79% | 57% |
80-89% | 73% |
90-100% | 85% |
หายใจเข้า | 23% |
พยากรณ์โรคแย่กว่าสำหรับผู้มีแผลใหญ่ คนมีอายุมากกว่า และหญิง การบาดเจ็บเพราะหายใจเอาควันเข้า, การบาดเจ็บสำคัญอื่น ๆ เช่น กระดูกยาวแตก/หัก และการมีสภาพหนักอย่างอื่นร่วม (เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคทางจิตเวช และการตั้งใจฆ่าตัวตาย) ก็มีผลต่อพยากรณ์โรคด้วย ในสหรัฐโดยเฉลี่ย ผู้ที่รับเข้าศูนย์แผลไหม้เฉพาะทางร้อยละ 4 เสียชีวิต โดยผลที่ได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ที่มีแผลไหม้น้อยกว่า 10% TBSA มีอัตราตายน้อยกว่า 1% และคนไข้ที่มีแผลไหม้ยิ่งกว่า 90% TBSA มีอัตราตาย 85% แต่ในอัฟกานิสถาน คนไข้ที่มีแผลไหม้เกิน 60% TBSA ไม่ค่อยรอด
ระบบ Baux score ได้ใช้เพื่อคำนวณพยากรณ์โรคสำหรับแผลไหม้แบบหนัก การคำนวณดั้งเดิมบวกขนาดแผลไหม้ (% TBSA) กับอายุคนไข้ แล้วใช้ผลลัพธ์เป็นอัตราความเสี่ยงตาย แต่เพราะการพยาบาลได้ดีขึ้น ปัจจุบันนี้จึงไม่ค่อยแม่น หนังสือแพทย์ปี 2016 ระบุว่า โดยขึ้นอยู่กับศูนย์แพทย์ คะแนนที่ระบุว่าคนไข้ไม่สามารถรอดชีวิตได้อยู่ที่ 160 และคะแนนที่ระบุว่าคนไข้อาจรอดชีวิตครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 110 โดยจะบวกเพิ่มอีก 17 คะแนนถ้าคนไข้บาดเจ็บเนื่องจากสูดความร้อนเข้าไปด้วย
แผลไหม้ในปี 2013 ทำให้สูญเสียปีสุขภาวะ 12.3 ล้านปี และก่อปีที่บุคคลอยู่อย่างพิการ 1.2 ล้านปี
ภาวะแทรกซ้อน
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง โดยการติดเชื้อสามัญที่สุด ตามลำดับโอกาสการเกิด ภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งปอดบวม เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (cellulitis) การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และการหายใจล้มเหลว ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อรวมทั้ง แผลไหม้เกิน 30% TBSA แผลไหม้ตลอดหนัง (ระดับ 3) อายุน้อยมากหรือแก่มาก แผลไหม้ที่ขาหรือฝีเย็บ ปอดบวมเกิดบ่อยเป็นพิเศษสำหรับผู้สูดความร้อนเข้าไปภาวะเลือดจางเหตุแผลไหม้ตลอดหนังที่กินพื้นที่ยิ่งกว่า 10% TBSA เป็นเรื่องสามัญ แผลไหม้เหตุไฟฟ้าอาจก่ออาการ compartment syndrome (เนื้อเยื่อมีเลือดเลี้ยงไม่พอเพราะแรงดันที่เพิ่มขึ้นในส่วนของร่างกาย) หรือ rhabdomyolysis (กล้ามเนื้อโครงร่างที่เสียหายเกิดสลายตัวอย่างรวดเร็ว) เพราะกล้ามเนื้อเสียหาย ภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำที่ขาประเมินว่าเกิดกับคนไข้ร้อยละ 6-25 ระดับเมแทบอลิซึมที่สูงเป็นปี ๆ หลังแผลไหม้หนักอาจทำให้กระดูกหนาแน่นน้อยลงและเสียกล้ามเนื้อ อาจเป็นแผลเป็นหลังจากหาย โดยเฉพาะในเด็กผิวเข้ม หลังจากเกิดเหตุการณ์ เด็กอาจมีปัญหาทางจิตใจอย่างสำคัญและมีความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ (PTSD) แผลเป็นอาจก่อความคิดความรู้สึกกับร่างกายของตนที่ไม่ดี (disturbance in body image) ในประเทศกำลังพัฒนา แผลไหม้ขนาดสำคัญอาจมีผลให้ถูกแยกตัวออกทางสังคม, ยากจนอย่างรุนแรง และทิ้งลูก
วิทยาการระบาด
ไร้ข้อมูล < 50 50-100 100-150 150-200 200-250 250-300 | 300-350 350-400 400-450 450-500 500-600 > 600 |
ในปี 2015 ไฟและความร้อนทำให้บาดเจ็บ 67 ล้านครั้ง ซึ่งทำให้เข้า รพ. 2.9 ล้านครั้งและคนเสียชีวิต 238,000 ราย โดยลดลงจาก 300,000 คนในปี 1990 จึงจัดเป็นเหตุบาดเจ็บอันดับ 4 รองจากอุบัติเหตุยานยนต์ การตก และความรุนแรง แผลไหม้ร้อยละ 90 เกิดในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งให้เหตุผลว่าเป็นเพราะอยู่กันอย่างแออัดและหุงต้มอย่างไม่ปลอดภัย โดยรวม แผลไหม้ถึงตายเกือบร้อยละ 60 เกิดในเอเชียอาคเนย์โดยมีอัตรา 11.6 คนต่อประชากร 100,000 คน จำนวนคนไข้แผลไหม้ถึงตายได้ลดลงจาก 280,000 คนในปี 1990 เหลือ 176,000 คนในปี 2015 ในประเทศพัฒนาแล้ว ชายผู้ใหญ่มีอัตราตายเหตุแผลไหม้เป็นทวีคูณของหญิง โดยน่าจะเป็นเพราะมีอาชีพและกิจกรรมที่เสี่ยงกว่า แต่ในประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ หญิงเสี่ยงเป็นทวีคูณเทียบกับชาย โดยมักเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครัวหรือความรุนแรงในครอบครัว ในเด็กประเทศกำลังพัฒนา ความตายเหตุแผลไหม้เกิดในอัตราเป็นสิบ ๆ เท่าของประเทศพัฒนาแล้ว รวม ๆ แล้วสำหรับเด็ก มันเป็นเหตุการเสียชีวิตหนึ่งในท๊อป 15 ระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1980 จนถึงปี 2004 อัตราแผลไหม้จนเสียชีวิตและอัตราการเกิดแผลไหม้ทั่วไปได้ลดลงในประเทศหลาย ๆ ประเทศ
ประเทศพัฒนาแล้ว
การบาดเจ็บเหตุแผลไหม้ประมาณ 500,000 รายได้รับการรักษาต่อปีในสหรัฐ ทำให้เสียชีวิตราว ๆ 3,300 รายในปี 2008 การบาดเจ็บ (ร้อยละ 70) และการเสียชีวิตเหตุแผลไหม้โดยมากเกิดกับผู้ชาย แผลไหม้เพราะไฟเกิดมากที่สุดในคนอายุระหว่าง 18-35 ปี เทียบกับการถูกลวกที่เกิดมากสุดในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบและคนชราอายุเกิน 65 ปี แผลไหม้เหตุไฟฟ้าทำให้คนเสียชีวิต 1,000 รายต่อปี ฟ้าผ่าทำให้คนเสียชีวิต 60 รายต่อปี ในยุโรป แผลไหม้แบบตั้งใจเกิดกับชายวัยกลางคนบ่อยสุด
ประเทศกำลังพัฒนา
ในอินเดีย คนประมาณ 7-8 แสนคนต่อปีได้แผลไหม้ที่สำคัญ แต่น้อยคนมากที่จะได้ดูแลในศูนย์รักษาแผลไหม้ อัตราสูงสุดเกิดในหญิงอายุระหว่าง 16-35 ปี เหตุส่วหนึ่งก็เพราะครัวไม่ปลอดภัยและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่หลวม ๆ ตามปกติของคนอินเดีย ประเมินว่า กรณี 1/3 เกิดจากเสื้อผ้าติดไฟจากไฟที่เปิดโล่ง แผลไหม้ที่จงใจเป็นเรื่องสามัญและเกิดในอัตราสูงในหญิงอายุน้อย โดยเกิดจากความรุนแรงในครอบครัวและการทำร้ายตัวเอง
ประวัติ
ภาพวาดถ้ำจาก 3,500 ปีกว่าได้บันทึกเรื่องแผลไหม้และวิธีรักษา บันทึกการรักษาแผลไหม้อียิปต์ที่เก่าแก่สุดกล่าวถึงผ้าปิดแผลที่ใช้กับนมของมารดาที่มีทารกชาย และพาไพรัสของเอดวินสมิทเมื่อ 1,500 ปีก่อน ค.ศ. กล่าวถึงการรักษาด้วยน้ำผึ้งและยาทาที่ทำจากพืช มีวิธีการรักษาอื่น ๆ ที่ใช้ในประวัติศาสตร์ รวมทั้งใบชาที่พบในบันทึกจีน 600 ปีก่อน ค.ศ., ไขมันหมูและน้ำส้มสายชูโดยฮิปพอคราทีสเมื่อ 400 ปีก่อน ค.ศ. และไวน์กับยางไม้หอม (myrrh) โดยนักสารานุกรมชาวโรมัน Aulus Cornelius Celsus ที่บันทึกไว้เมื่อ 100 ปีก่อน ค.ศ. ช่างตัดผม-นักผ่าตัด ชาวฝรั่งเศส Ambroise Paré เป็นผู้กล่าวถึงแผลไหม้ระดับต่าง ๆ เป็นคนแรกในคริสต์ทศวรรษ 1500 ส่วนแพทย์ชาวฝรั่งเศสกีโยม ดิวพวีแตรน (Guillaume Dupuytren) ได้ขยายระดับเช่นนี้เป็นถึง 6 ระดับในปี 1832
รพ. รักษาแผลไหม้แห่งแรกได้เปิดในกรุงลอนดอนปี 1843 และการพัฒนาวิธีการรักษาแผลไหม้ตามที่พบในปัจจุบันก็เริ่มเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง นักเคมีชาวอังกฤษ Henry Drysdale Dakin และศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศส Alexis Carrel ได้พัฒนามาตรฐานการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อแผลกับแผลไหม้โดยใช้สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ซึ่งลดอัตราตายอย่างสำคัญ ในคริสต์ทศวรรษ 1940 ความสำคัญในการตัดหนัง/อวัยวะออกและการปลูกถ่ายหนังก็รู้แล้ว ในเวลาเดียวกัน การให้น้ำเกลือและสูตรการให้ก็ได้พัฒนาขึ้น ในคริสต์ทศวรรษ 1970 นักวิจัยได้แสดงความสำคัญของภาวะมีเมแทบอลิซึมเกินที่ติดตามแผลไหม้ขนาดใหญ่
เชิงอรรถ
-
- m คือ น้ำหนักเป็นกิโลกรัม
- A คือ มีแผลไหม้เป็นอัตราร้อยละของ TBSA
- ตัวอย่างคนไข้หนัก 75 กก. มีแผลไหม้ครอบคลุมร้อยละ 20 ของพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมด ควรให้น้ำเกลือ 4 x 75 x 20 เท่ากับ 6,000 มล. ใน 24 ชม. แรก
- barber-surgeon
อ้างอิง
- "Burns - British Association of Plastic Reconstructive and Aesthetic Surgeons". BAPRAS. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-10.
- Tintinalli, Judith E. (2010). Emergency Medicine: A Comprehensive Study Guide (Emergency Medicine (Tintinalli)). New York: McGraw-Hill Companies. pp. 1374–1386. ISBN .
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 3: Epidemiological, Demographic, and Outcome Characteristics of Burn Injury". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 23. ISBN .
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 4: Prevention of Burn Injuries". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 46. ISBN .
- "Burns". World Health Organization. September 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-21. สืบค้นเมื่อ 2017-08-01.
- Vos, Theo; Allen, Christine; Arora, Megha; Barber, Ryan M.; Bhutta, Zulfiqar A.; Brown, Alexandria; Carter, Austin; Casey, Daniel C.; Charlson, Fiona J.; Chen, Alan Z.; Coggeshall, Megan; Cornaby, Leslie; Dandona, Lalit; Dicker, Daniel J.; Dilegge, Tina; Erskine, Holly E.; Ferrari, Alize J.; Fitzmaurice, Christina; Fleming, Tom; Forouzanfar, Mohammad H.; Fullman, Nancy; Gething, Peter W.; Goldberg, Ellen M.; Graetz, Nicholas; Haagsma, Juanita A.; Hay, Simon I.; Johnson, Catherine O.; Kassebaum, Nicholas J.; Kawashima, Toana; และคณะ (October 2016). "Global, regional, and national incidence, prevalence, and years lived with disability for 310 diseases and injuries, 1990-2015: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015". Lancet. 388 (10053): 1545–1602. doi:10.1016/S0140-6736(16)31678-6. PMC 5055577. PMID 27733282.
- Wang, Haidong; Naghavi, Mohsen; Allen, Christine; Barber, Ryan M.; Bhutta, Zulfiqar A.; Carter, Austin; Casey, Daniel C.; Charlson, Fiona J.; Chen, Alan Zian; Coates, Matthew M.; Coggeshall, Megan; Dandona, Lalit; Dicker, Daniel J.; Erskine, Holly E.; Ferrari, Alize J.; Fitzmaurice, Christina; Foreman, Kyle; Forouzanfar, Mohammad H.; Fraser, Maya S.; Fullman, Nancy; Gething, Peter W.; Goldberg, Ellen M.; Graetz, Nicholas; Haagsma, Juanita A.; Hay, Simon I.; Huynh, Chantal; Johnson, Catherine O.; Kassebaum, Nicholas J.; Kinfu, Yohannes; และคณะ (October 2016). "Global, regional, and national life expectancy, all-cause mortality, and cause-specific mortality for 249 causes of death, 1980-2015: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015". Lancet. 388 (10053): 1459–1544. doi:10.1016/S0140-6736(16)31012-1. PMC 5388903. PMID 27733281.
- . WHO. April 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-10. สืบค้นเมื่อ 2016-03-03.
- Granger, Joyce (Jan 2009). "An Evidence-Based Approach to Pediatric Burns". Pediatric Emergency Medicine Practice. 6 (1). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17.
- Ferri, Fred F. (2012). Ferri's netter patient advisor (2nd ed.). Philadelphia, PA: Saunders. p. 235. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-21.
- Haagsma, JA; Graetz, N; Bolliger, I; Naghavi, M; Higashi, H; Mullany, EC; และคณะ (February 2016). "The global burden of injury: incidence, mortality, disability-adjusted life years and time trends from the Global Burden of Disease study 2013". Injury Prevention. 22 (1): 3–18. doi:10.1136/injuryprev-2015-041616. PMC 4752630. PMID 26635210.
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 1: A Brief History of Acute Burn Care Management". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 1. ISBN .[]
- "Burn Incidence and Treatment in the United States: 2012 Fact Sheet". American Burn Association. 2012. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-21. สืบค้นเมื่อ 2013-04-20.
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 10: Evaluation of the burn wound: management decisions". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 127. ISBN .
- Brunicardi, Charles (2010). "Chapter 8: Burns". Schwartz's principles of surgery (9th ed.). New York: McGraw-Hill, Medical Pub. Division. ISBN .
- Goutos, I; Dziewulski, P; Richardson, PM (Mar–Apr 2009). "Pruritus in burns: review article". Journal of Burn Care & Research. 30 (2): 221–8. doi:10.1097/BCR.0b013e318198a2fa. PMID 19165110. S2CID 3679902.
{{}}
: CS1 maint: date format () - Marx, John (2010). "Chapter 140: Electrical and Lightning Injuries". Rosen's emergency medicine : concepts and clinical practice (7th ed.). Philadelphia: Mosby/Elsevier. ISBN .
- Peck, MD (November 2011). "Epidemiology of burns throughout the world. Part I: Distribution and risk factors". Burns. 37 (7): 1087–100. doi:10.1016/j.burns.2011.06.005. PMID 21802856.
- Lloyd, EC; Rodgers, BC; Michener, M; Williams, MS (January 2012). "Outpatient burns: prevention and care". American Family Physician. 85 (1): 25–32. PMID 22230304.
- Buttaro, Terry (2012). Primary Care: A Collaborative Practice. Elsevier Health Sciences. p. 236. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-13.
- Rosdahl, Caroline Bunker; Kowalski, Mary T (2008). Textbook of basic nursing (9th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. p. 1109. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-12.
- National Burn Repository Pg. i
- Forjuoh, SN (August 2006). "Burns in low- and middle-income countries: a review of available literature on descriptive epidemiology, risk factors, treatment, and prevention". Burns. 32 (5): 529–37. doi:10.1016/j.burns.2006.04.002. PMID 16777340.
- "Death rate from fires and burns, 2017". Our World in Data. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-27. สืบค้นเมื่อ 2019-11-17.
- Eisen, Sarah; Murphy, Catherine (2009). Murphy, Catherine; Gardiner, Mark; Eisen, Sarah (บ.ก.). Training in paediatrics : the essential curriculum. Oxford: Oxford University Press. p. 36. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25.
- Maguire, S; Moynihan, S; Mann, M; Potokar, T; Kemp, AM (December 2008). "A systematic review of the features that indicate intentional scalds in children". Burns. 34 (8): 1072–81. doi:10.1016/j.burns.2008.02.011. PMID 18538478.
- Peden, Margie (2008). World report on child injury prevention. Geneva, Switzerland: World Health Organization. p. 86. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-24.
- World Health Organization. "World report on child injury prevention" (PDF). (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ May 2008.
- Hardwicke, J; Hunter, T; Staruch, R; Moiemen, N (May 2012). "Chemical burns--an historical comparison and review of the literature". Burns. 38 (3): 383–7. doi:10.1016/j.burns.2011.09.014. PMID 22037150.
- Makarovsky, I; Markel, G; Dushnitsky, T; Eisenkraft, A (May 2008). "Hydrogen fluoride--the protoplasmic poison". The Israel Medical Association Journal. 10 (5): 381–5. PMID 18605366.
- Edlich, RF; Farinholt, HM; Winters, KL; Britt, LD; Long, WB (2005). "Modern concepts of treatment and prevention of lightning injuries". Journal of Long-Term Effects of Medical Implants. 15 (2): 185–96. doi:10.1615/jlongtermeffmedimplants.v15.i2.60. PMID 15777170.
- Prahlow, Joseph (2010). Forensic pathology for police, death investigators, and forensic scientists. Totowa, N.J.: Humana. p. 485. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-20.
- Kearns, RD; Cairns, CB; Holmes, JH; Rich, PB; Cairns, BA (January 2013). "Thermal burn care: a review of best practices. What should prehospital providers do for these patients?". EMS World. 42 (1): 43–51. PMID 23393776.
- Balk, SJ (March 2011). "Ultraviolet radiation: a hazard to children and adolescents". Pediatrics. 127 (3): e791-817. doi:10.1542/peds.2010-3502. PMID 21357345.
- Marx, John (2010). "Chapter 144: Radiation Injuries". Rosen's emergency medicine : concepts and clinical practice (7th ed.). Philadelphia: Mosby/Elsevier. ISBN .
- Krieger, John (2001). Clinical environmental health and toxic exposures (2nd ed.). Philadelphia, Pa. [u.a.]: Lippincott Williams & Wilkins. p. 205. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-05.
- Peck, MD (August 2012). "Epidemiology of burns throughout the World. Part II: intentional burns in adults". Burns. 38 (5): 630–7. doi:10.1016/j.burns.2011.12.028. PMID 22325849.
- Gondim, RM; Muñoz, DR; Petri, V (June 2011). "Child abuse: skin markers and differential diagnosis". Anais Brasileiros de Dermatologia. 86 (3): 527–36. doi:10.1590/S0365-05962011000300015. PMID 21738970.
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 61: Intential burn injuries". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. pp. 689–698. ISBN .
- Jutla, RK; Heimbach, D (Mar–Apr 2004). "Love burns: An essay about bride burning in India". The Journal of Burn Care & Rehabilitation. 25 (2): 165–70. doi:10.1097/01.bcr.0000111929.70876.1f. PMID 15091143.
{{}}
: CS1 maint: date format () - Peden, Margie (2008). World report on child injury prevention. Geneva, Switzerland: World Health Organization. p. 82. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-17.
- Marx, John (2010). "Chapter 60: Thermal Burns". Rosen's emergency medicine : concepts and clinical practice (7th ed.). Philadelphia: Mosby/Elsevier. ISBN .
- Rojas, Y; Finnerty, CC; Radhakrishnan, RS; Herndon, DN (December 2012). "Burns: an update on current pharmacotherapy". Expert Opinion on Pharmacotherapy. 13 (17): 2485–94. doi:10.1517/14656566.2012.738195. PMC 3576016. PMID 23121414.
- Hannon, Ruth (2010). Porth pathophysiology : concepts of altered health states (1st Canadian ed.). Philadelphia, PA: Wolters Kluwer Health/Lippincott Williams & Wilkins. p. 1516. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-01.
- Mahadevan, SV; Garmel, GM, บ.ก. (2012). An introduction to clinical emergency medicine (2nd ed.). Cambridge: Cambridge University Press. pp. 216–219. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-20.
- "ABC of burns: Initial management of a major burn: II—assessment and resuscitation". July 2004. doi:10.1136/bmj.329.7457.101.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help)) - Jeschke, Marc (2012). Handbook of Burns Volume 1: Acute Burn Care. Springer. p. 46. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-17.
- Klingensmith, M, บ.ก. (2007). The Washington manual of surgery (5th ed.). Philadelphia, Pa.: Lippincott Williams & Wilkins. p. 422. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-20.
- Rousseau, AF; Losser, MR; Ichai, C; Berger, MM (August 2013). "ESPEN endorsed recommendations: nutritional therapy in major burns". Clinical Nutrition (ภาษาอังกฤษ). 32 (4): 497–502. doi:10.1016/j.clnu.2013.02.012. PMID 23582468.
- Cianci, P; Slade, JB; Sato, RM; Faulkner, J (Jan–Feb 2013). "Adjunctive hyperbaric oxygen therapy in the treatment of thermal burns". Undersea & Hyperbaric Medicine. 40 (1): 89–108. PMID 23397872.
{{}}
: CS1 maint: date format () - Enoch, S; Roshan, A; Shah, M (April 2009). "Emergency and early management of burns and scalds". BMJ. 338: b1037. doi:10.1136/bmj.b1037. PMID 19357185. S2CID 40561988.
- Hettiaratchy, S; Papini, R (July 2004). "Initial management of a major burn: II--assessment and resuscitation". BMJ. 329 (7457): 101–3. doi:10.1136/bmj.329.7457.101. PMC 449823. PMID 15242917.
- Jeschke, Marc (2012). Handbook of Burns Volume 1: Acute Burn Care. Springer. p. 77. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-19.
- Endorf, FW; Ahrenholz, D (December 2011). "Burn management". Current Opinion in Critical Care. 17 (6): 601–5. doi:10.1097/MCC.0b013e32834c563f. PMID 21986459. S2CID 5525939.
- Lewis, SR; Pritchard, MW; Evans, DJ; Butler, AR; Alderson, P; Smith, AF; Roberts, I (August 2018). "Colloids versus crystalloids for fluid resuscitation in critically ill people". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 8: CD000567. doi:10.1002/14651858.CD000567.pub7. PMC 6513027. PMID 30073665.
- Eljaiek, R; Heylbroeck, C; Dubois, MJ (February 2017). "Albumin administration for fluid resuscitation in burn patients: A systematic review and meta-analysis". Burns. 43 (1): 17–24. doi:10.1016/j.burns.2016.08.001. PMID 27613476.
- Curinga, G; Jain, A; Feldman, M; Prosciak, M; Phillips, B; Milner, S (August 2011). "Red blood cell transfusion following burn". Burns. 37 (5): 742–52. doi:10.1016/j.burns.2011.01.016. PMID 21367529.
- Wasiak, J; Cleland, H; Campbell, F; Spinks, A (March 2013). "Dressings for superficial and partial thickness burns". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 3 (3): CD002106. doi:10.1002/14651858.CD002106.pub4. :10072/58266. PMC 7065523. PMID 23543513.
- Avni, T; Levcovich, A; Ad-El, DD; Leibovici, L; Paul, M (February 2010). "Prophylactic antibiotics for burns patients: systematic review and meta-analysis". BMJ. 340: c241. doi:10.1136/bmj.c241. PMC 2822136. PMID 20156911.
- Hoogewerf, Cornelis J.; Van Baar, Margriet E.; Hop, M. Jenda; Nieuwenhuis, Marianne K.; Oen, Irma M. M. H.; Middelkoop, Esther (2013-01-31). "Topical treatment for facial burns". The Cochrane Database of Systematic Reviews (1): CD008058. doi:10.1002/14651858.CD008058.pub2. ISSN 1469-493X. PMID 23440823.
- Barajas-Nava, Leticia A.; López-Alcalde, Jesús; Roqué i Figuls, Marta; Solà, Ivan; Bonfill Cosp, Xavier (2013-06-06). "Antibiotic prophylaxis for preventing burn wound infection". The Cochrane Database of Systematic Reviews (6): CD008738. doi:10.1002/14651858.CD008738.pub2. ISSN 1469-493X. PMID 23740764.
- Storm-Versloot, MN; Vos, CG; Ubbink, DT; Vermeulen, H (March 2010). Storm-Versloot, Marja N (บ.ก.). "Topical silver for preventing wound infection". The Cochrane Database of Systematic Reviews (3): CD006478. doi:10.1002/14651858.CD006478.pub2. PMID 20238345.
- Dumville, JC; Munson, C; Christie, J (December 2014). "Negative pressure wound therapy for partial-thickness burns". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 12 (12): CD006215. doi:10.1002/14651858.CD006215.pub4. PMC 7389115. PMID 25500895.
- Chaganti, P; Gordon, I; Chao, JH; Zehtabchi, S (June 2019). "A systematic review of foam dressings for partial thickness burns". The American Journal of Emergency Medicine. 37 (6): 1184–1190. doi:10.1016/j.ajem.2019.04.014. PMID 31000315.
- Zachariah, JR; Rao, AL; Prabha, R; Gupta, AK; Paul, MK; Lamba, S (August 2012). "Post burn pruritus--a review of current treatment options". Burns. 38 (5): 621–9. doi:10.1016/j.burns.2011.12.003. PMID 22244605.
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 64: Management of pain and other discomforts in burned patients". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 726. ISBN .
- Wasiak, J; Mahar, PD; McGuinness, SK; Spinks, A; Danilla, S; Cleland, H; Tan, HB (October 2014). "Intravenous lidocaine for the treatment of background or procedural burn pain". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 10 (10): CD005622. doi:10.1002/14651858.CD005622.pub4. PMC 6508369. PMID 25321859.
- Herndon, D, บ.ก. (2012). "Chapter 31: Etiology and prevention of multisystem organ failure". Total burn care (4th ed.). Edinburgh: Saunders. p. 664. ISBN .
- Breederveld, RS; Tuinebreijer, WE (September 2014). "Recombinant human growth hormone for treating burns and donor sites". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 9 (9): CD008990. doi:10.1002/14651858.CD008990.pub3. PMC 7119450. PMID 25222766.
- Snell, JA; Loh, NH; Mahambrey, T; Shokrollahi, K (October 2013). "Clinical review: the critical care management of the burn patient". Critical Care. 17 (5): 241. doi:10.1186/cc12706. PMC 4057496. PMID 24093225.
- Jeschke, Marc (2012). Handbook of Burns Volume 1: Acute Burn Care. Springer. p. 266. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-10.
- Orgill, DP; Piccolo, N (Sep–Oct 2009). "Escharotomy and decompressive therapies in burns". Journal of Burn Care & Research. 30 (5): 759–68. doi:10.1097/BCR.0b013e3181b47cd3. PMID 19692906.
{{}}
: CS1 maint: date format () - "General data about burns". Burn Centre Care. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-27.
- Barqouni, Loai; Abu Shaaban, Nafiz; Elessi, Khamis (2014-06-04). Cochrane Wounds Group (บ.ก.). "Interventions for treating phosphorus burns". Cochrane Database of Systematic Reviews (ภาษาอังกฤษ) (6): CD008805. doi:10.1002/14651858.CD008805.pub3. PMC 7173745. PMID 24896368.
- Wijesinghe, M; Weatherall, M; Perrin, K; Beasley, R (May 2009). "Honey in the treatment of burns: a systematic review and meta-analysis of its efficacy". The New Zealand Medical Journal. 122 (1295): 47–60. PMID 19648986.
- Norman, G; Christie, J; Liu, Z; Westby, MJ; Jefferies, JM; Hudson, T; และคณะ (July 2017). "Antiseptics for burns". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 7: CD011821. doi:10.1002/14651858.cd011821.pub2. PMC 6483239. PMID 28700086.
- Jull, AB; Cullum, N; Dumville, JC; Westby, MJ; Deshpande, S; Walker, N (March 2015). "Honey as a topical treatment for wounds". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 3 (3): CD005083. doi:10.1002/14651858.CD005083.pub4. PMID 25742878.
- Dat, AD; Poon, F; Pham, KB; Doust, J (February 2012). "Aloe vera for treating acute and chronic wounds". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 2 (2): CD008762. doi:10.1002/14651858.CD008762.pub2. PMID 22336851.[]
- Maenthaisong, R; Chaiyakunapruk, N; Niruntraporn, S; Kongkaew, C (September 2007). "The efficacy of aloe vera used for burn wound healing: a systematic review". Burns. 33 (6): 713–8. doi:10.1016/j.burns.2006.10.384. PMID 17499928.
- Bahramsoltani, R; Farzaei, MH; Rahimi, R (September 2014). "Medicinal plants and their natural components as future drugs for the treatment of burn wounds: an integrative review". Archives of Dermatological Research. 306 (7): 601–17. doi:10.1007/s00403-014-1474-6. PMID 24895176. S2CID 23859340.
- Juckett, G; Hartman-Adams, H (August 2009). "Management of keloids and hypertrophic scars". American Family Physician. 80 (3): 253–60. PMID 19621835.
- Turkington, Carol; Dover, Jeffrey S; Cox, Birck (2007). The encyclopedia of skin and skin disorders (3rd ed.). New York, NY: Facts on File. p. 64. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-18.
- National Burn Repository, Pg. 10
- Fleisman, Ross J; Ma, O John (2016). "Chapter 255: Trauma in the Elderly". ใน Tintinalli, Judith E.; Stapczynski, J. Stephan; Ma, O. John; Yealy, Donald M.; Meckler, Garth D.; Cline, David M. (บ.ก.). Tintinalli’s Emergency Medicine: A Comprehensive Study Guide (8th ed.). New York, NY: McGraw-Hill Education. p. 1689. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - King, Christopher; Henretig, Fred M.; King, Brent R.; Loiselle, John; Ruddy, Richard M.; Wiley II, James F., บ.ก. (2008). Textbook of pediatric emergency procedures (2nd ed.). Philadelphia: Wolters Kluwer Health/Lippincott Williams & Wilkins. p. 1077. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-22.
- Roberts, Michael C. (2009). Handbook of pediatric psychology (4th ed.). New York: Guilford. p. 421. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-30.
- "WHO Disease and injury country estimates". World Health Organization. 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-11. สืบค้นเมื่อ 2009-11-11.
- GBD 2013 Mortality Causes of Death Collaborators (January 2015). "Global, regional, and national age-sex specific all-cause and cause-specific mortality for 240 causes of death, 1990-2013: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013". Lancet. 385 (9963): 117–71. doi:10.1016/s0140-6736(14)61682-2. PMC 4340604. PMID 25530442.
{{}}
:|author1=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - Lozano, R; Naghavi, M; Foreman, K; Lim, S; Shibuya, K; Aboyans, V; และคณะ (December 2012). "Global and regional mortality from 235 causes of death for 20 age groups in 1990 and 2010: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2010". Lancet. 380 (9859): 2095–128. doi:10.1016/S0140-6736(12)61728-0. :10536/DRO/DU:30050819. PMID 23245604. S2CID 1541253.
- Edlich, RF; Farinholt, HM; Winters, KL; Britt, LD; Long, WB (2005). "Modern concepts of treatment and prevention of electrical burns". Journal of Long-Term Effects of Medical Implants. 15 (5): 511–32. doi:10.1615/jlongtermeffmedimplants.v15.i5.50. PMID 16218900.
- Ahuja, RB; Bhattacharya, S (August 2004). "Burns in the developing world and burn disasters". BMJ. 329 (7463): 447–9. doi:10.1136/bmj.329.7463.447. PMC 514214. PMID 15321905.
- Gupta (2003). Textbook of Surgery. Jaypee Brothers Publishers. p. 42. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-27.
- Pećanac, M; Janjić, Z; Komarcević, A; Pajić, M; Dobanovacki, D; Misković, SS (2013). "Burns treatment in ancient times". Medicinski Pregled. 66 (5–6): 263–7. doi:10.1016/s0264-410x(02)00603-5. PMID 23888738.
- Song, David (2012-09-05). Plastic surgery (3rd ed.). Edinburgh: Saunders. p. 393.e1. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-02.
- Wylock, Paul (2010). The life and times of Guillaume Dupuytren, 1777-1835. Brussels: Brussels University Press. p. 60. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-16.
อ้างอิงอื่น ๆ
- (PDF). American Burn Association. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2013-04-20.
แหล่งข้อมูลอื่น
การจำแนกโรค | D |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |
|
- Parkland Formula 2016-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Burns". MedlinePlus. U.S. National Library of Medicine.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aephlihm xngkvs burn epnkarbadecbthiphiwhnnghruxenuxeyuxxun miehtucakkhwamrxn khwameyn karesiydsi hruxkaraephrngsi echn ihmaedd odymkekidcakkhxngehlwrxn khuxthuklwk khxngaekhngrxn hruxif aemxtrakarekidcakhlay kninhyingchay aetehtumkcatangkn sahrbhyinginphumipraethsbangaehng khwamesiyngmacakkarichifhungtmaebbepidolnghruxetahungtmthiimplxdphy sahrbchay khwamesiyngmacakthithangan pccyesiyngxun rwmthngkartidehlaaelakarsubbuhri yngxacekidephraatharaytwexnghruxthukkhnxuntharayaephlihmaephlihmradbsxngthimuxsakhawichaewchbabdwikvti slykrrmphlastikxakarradb 1 aedngodyimmitumphxng radb 2 mitumphxngaelaecb radb 3 aephlaekhngodyimecbphawaaethrksxntidechuxrayadaeninorkhhlaywncnthunghlayspdahpraephthradb 1 2 3 Superficial partial thickness full thickness saehtukhwamrxn khwameyn iffa sarekhmi karesiydsi karaephrngsipccyesiyngifhungtmaebbepidolng etahungtmthiimplxdphy karsubbuhri kartidehla sthanthithangansungimplxdphykarrksakhinxyukbkhwamrunaerngyayarangbpwd ihnaeklux wkhsinbadthaykkhwamchuk67 lan 2015 karesiychiwit176 000 2015 bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha aephlihmthimiphltxphiwhnngchnbnsudcdxyuinradb 1 ihmtun superficial misiaedngodyimmitumphxngaelaecbraw 3 wn emuxihmlukthunghnngkhangit kcdepnradb 2 partial thickness mkmitumphxngaelaecbmak xacichewlathung 8 spdah kwacahayaelaxacmiaephlepn aephlihmradb 3 full thickness caihmtlxdhnngthukchn mkimecbaelaaephlcaaekhng pkticaimhayexng aephlihmradb 4 ihmenuxeyuxthilukyingkhun echn klamenux exn hruxkraduk aephlmkdaaelamkepnehtuihesiyswnthiihmnn aephlihmpktipxngknid karrksakhunxyukbkhwamrunaerng karihmtun xacrksadwyaekhyarangbpwdthrrmda ethiybkbkarihmmaksungxactxngrksaepnewlananinsunyrksaaephlihm karaechnaeynxacchwyldkhwamecbaelakhwamesiyhay aetinbangkrni karaechnan xacthaihtweynekin aephlihmradb 2 xactxngthakhwamsaxaddwynaaelasbu aelwthayaphnaephl withikarrksatumphxngyngimaenchd xacsmkhwrthingiwechy thaelk hruxrabaynaxxkthaihy aephlihmradb 3 xactxngphatd echn karplukthayhnng skin grafting aephlihmmak mktxngihnaekluxcanwnmak ephraahlxdeluxdfxyrwaelaephraabwmna phawaaethrksxnthisamysudkhuxkartidechux khwrihwkhsinbadthaykthaimmiphumi inpi 2015 ifaelakhwamrxnthaihkhnbadecb 67 lankhrng thaihekha r ph 2 9 lankhrng aelaesiychiwit 176 000 ray phuesiychiwitodymakxyuinpraethskalngphthnaodyechphaainexechiyxakheny aephlihmkhnadihyxacthaihesiychiwit aetkarrksasmyihmnbtngaetkhristthswrrs 1960 kthaihidphldikhun odyechphaainedkaelakhnhnumsaw inshrth khnthirbekhasunyaephlihmechphaathangpramanrxyla 96 rxdchiwit phlrayayawkhunxyukbkhnadaephlaelaxayukhnikhxakarxakarkhxngaephlihmkhunxyukbkhwamluk aephltun thaihecbepnewla 2 3 wn aelwhnngkcalxktxma aephlthirunaerngkwannxacthaihecbhruxtung aephlradb 3 xacthaihimrusukkaraetaeba hruxkarthukecaa aephltunmkcaaedng thihnkkhunxacepnsichmphu khaw hruxda aephlikl pakhruxkhnihmincmukxacchiwa miaephlihminthanglmhayic aetkimaennxn xakarnaepnhwngrwmthnghayiclabak esiyngaehb hayicekhamiesiynghud stridor wheezing aephlmkkhnemuxkalnghay odyekidinphuihyrxyla 90 aelaekuxbthnghmdinedk khwamchaxackhngyunepnewlananthaepnaephlihmenuxngkbiffa aephlihmxackxkhwamthukkhthangic praephth chnthiekiywkhxng karprakt phiw khwamrusuk ewlahay phyakrnorkh twxyangradb 1 tun hnngkaphra phiwaedngirtumphxng aehng ecbpwd 5 10 wn hayiddi karihmaeddbxy caephimkhwamesiyngmaerngphiwhnngphayhlnginchiwitradb 2 aebbtun ihmipthunghnngaeththiphiw papillary aedngodymitumphxngis sidthakd chun epiyk ecbmak 2 3 spdah xkesbrxb esllenuxeyuxxkesb aetpktiimklayepnaephlepnradb 2 aebbluk ihmipthunghnngaethswnluk reticular ehluxnghruxkhaw imkhxysid xacepntumphxng khxnkhangaehng tungaelaimsbay 3 8 spdah epnaephlepn phiwtung xactxngtdxxkhruxplukthayphiwhnng radb 3 ihmtlxdhnngaeth aekhng misikhaw natalimsid ehmuxnhnngstw imecb nan epneduxn imhaysnith aephlepn phiwtung xactxngtdxxk aenanaihtdxxktngaetenuxng radb 4 ihmtlxdhnng ekhaipthungikhmn klamenux aelakradukkhangit hnngtaylxnepnsida aehng imecb txngtdxxk tdxwywaxxk phikarxyangsakhy aelainbangkrni thungtaySuperficial first degree Superficial partial thickness second degree Deep partial thickness second degree Full thickness third degree Fourth degreeehtuaephlihmmiehtucaksingphaynxktang rwmthngkhwamrxn sarekhmi iffa aelakaraephrngsi inshrth ehtusamythisudkhux if rxyla 44 thuklwk rxyla 33 wtthurxn rxyla 9 iffa rxyla 4 aelasarekhmi rxyla 3 odymakekidthiban rxyla 60 hruxthithangan rxyla 9 odymakepnxubtiehtu mirxyla 2 thuktharay aela rxyla 1 2 macakphyayamkhatwtay ehtuehlanixackxaephlihminthangedinlmhayichruxpxd sungekidraw rxyla 6 khncnekidaephlihmmakkwa karsubbuhriaelakartidehlaepnpccyesiyng aephlihmenuxngkbifsamykwainekhtthihnawkwa pccyesiyngodyechphaakhxngpraethskalngphthnarwmkarhungtmdwyifthiepidolnghruxdwyifkxthiphun pyhaphthnakarinedk aelaorkheruxrnginphuihy ehtukhwamrxn See or edit source data xtratayephraaifrahwangpi 1990 2017 inshrth ifaelanarxnepnehtusamysud sahrbifihminbanthithaihesiychiwit karsubbuhriepnehturxyla 25 aelaxupkrnthakhwamrxn rxyla 22 ekuxbkhrungmiehtucakkarphyayamdbif karthuklwkmiehtucaknarxnhruxaeksrxn samythisudenuxngkbekhruxngdumrxn narxncakkxknahruxfkbwxabnainhxngna namnprakxbxahar hruxcakixna karthuklwksamythisudinedkxayutakwa 5 khwb odyinshrthaelaxxsetreliy epnkhnikhekinkwa 2 3 karthukwsdurxnepnehtuaephlihmkhxngedkrxyla 20 30 thwipaelw karthuklwkcakxaephlihmradb 1 hrux 2 aetkxackxradb 3 dwyephraatidaechxyunandxkimifepnehtusamyinchwngwnhyudinpraethshlaypraeths odyechphaasahrbedkchaywyrun ehtusarekhmi sarekhmiepnehtuihekidaephlihmrxyla 2 11 aetepnehtuihtayephraaaephlihmthungrxyla 30 misar 25 000 xyang thixacepnehtu odymakepndang rxyla 55 hruxkrd rxyla 26 thimivththiaerng kartaymkekidcakkarkin sarsamyrwmthngkrdslfiwrik inphlitphnthlanghxngna osediymihopkhlxirt insarfxkkhawthiphbinnayaskphakhaw aelaihodrkharbxnthiephimaeholecndngthiphbinnayalxksiepntnkrdihodrfluxxrik xackxaephllukthiimmixakarcnkrathnghlngchwngrayahnungkrdfxrmik xacthaihesllemdeluxdaedngcanwnmakaetk ehtuiffa karbadecbehtuiffaxaccdhmuepnaebbiffaaerngsung gt 1 000 owlt iffaaerngta lt 1 000 owlt hruxaebbifwabthiekidcakxarkiffa ehtuhlktxedkekidcaksayif rxyla 60 tamdwyplkif rxyla 14 faphakxacepnehtuiddwy pccyesiyngthukfapharwmthngkarelnkilaklangaecnghruxthanganklangaecng xtratayehtuthukfafaxyuraw rxyla 10 aemkarbadecbhlkenuxngkbiffaxacepnaephlihm aetkradukkxachkhruxkhxxachludenuxngcakthukkraaethkhruxephraakarhdekrngklamenux sahrbiffaaerngsung khwamesiyhayodymakxacxyukhangin dngnn cungimsamarthruwabadecbaekhihnephiyngtrwcduaekhphiwhnng karthukifchxtimwacaepniffaaerngsunghruxaerngtaklwnxacthaihhwicetnphidcnghwahruxhwichyudetn ehtukaraephrngsi aephlihmehtukaraephrngsixacmacakkarthukrngsixltraiwoxeltnan echn cakaesngxathity cakkarechuxmxark epntn hruxcakkaraephrngsiaetkixxxn ionizing radiation echn cakkarchayrngsi cakexksery hruxcakfunkmmntrngsi kartakaeddepnehtusamysudsahrbaephlihmehtuaephrngsi aelasahrbaephlihmradb 1 dwy odyekidkhunngayaekhihnkhunxyukblksnaphiw phlkhxngkaraephrngsiaetkixxxntxphiwcakhunxyukbwathuknanaekhihn phmxacrwnghlngcakidkhnad 3 ekry phiwaednghlngcak 10 ekry hnnglxkhlngcak 20 ekry enuxtayhlngcak 30 ekry thaphiwaedng xaccaimpraktcnskrayahnung swnkarrksannehmuxnkbaephlihmxun aephlihmehtuimokhrewfekidcakkhwamrxnthienuxngkbkhlunimokhrewf aemkarthukephiyngaekh 2 winathikxackxaephl aetniimsamy ehtuthiimichxubtiehtu inbukhkhlthiekha r ph enuxngkbaephlihmehtuifhruxthuklwk rxyla 3 10 epnephraathuktharay rwmthngtharunkrrmtxedk thaelaaknswntw thukkhukhrxngtharay khnaekthuktharay aelathaelaakneruxngphlpraoychn karaechtidxyukbkhxngrxnhruxinnarxnxacchiwaepntharunkrrmtxedk sungxacekidemuxxwywaplay hruxbangkhrngkn thukkdihaechnarxn pktimikhxbbnthichdecnaelamkcaesmxkn symmetrical odyswnphbkhxngphiwhnngxacthaihswnnnimihm eriykinphasaxngkvswa sock burns glove burns hrux zebra stripes aephlihmcngicdwyifbuhrimkphbthihna hlngmux hruxhlngetha twchitharunkrrmxun rwmthngaephlihmepnwng circumferential burns kariraephlthiepnrxynakraesn aephlihmodyluketha kn aelamilksnaxakarthuklaelyaelatharunkrrmxun karephaecasawsungepntharunkrrminkhrxbkhrwxyanghnungekidinwthnthrrmbangxyang echnxinediythiephaphuhyingephraasamihruxkhrxbkhrwsamikhidwaidsinsxdimphx inpakisthan krdepnehtuinxtrarxyla 13 emuxcngictharayphuxunaelamkepntharunkrrminkhrxbkhrw karephatnexngkichepnwithikarprathwngxyanghnunginthitang khxngolkphyathisrirwithyaaephlihmradb 1 2 3 cakbnlnglang emuxxunhphumisungkwa 44 xngsaeslesiys oprtininesllcaerimesiyrupaelwslay miphlihesllaelaenuxeyuxesiyhay karthanganphidpktikhxngphiwhnngepnphlkhxngaephlihmtxsukhphaphodytrng rwmthngkaresiykhwamrusuk karpxngknimihesiynaodyraehy aelakarkhwbkhumxunhphumirangkay pyhathieyuxhumesllthaihesllesiyophaethsesiymxxknxkesllaelwidnakbosediymephim sahrbaephlihy khuxmakkwarxyla 30 khxngphiwrangkaythnghmd camikarxkesbxyangsakhy thaihnasumxxkmacakhlxdeluxdfxyyingkhun aelwthaihbwmnatxma thaihprimatrkhxngeluxdodyrwmldlng odyeluxdthiehluxkcaesiynaeluxd phlasma xyangsakhy aelathaiheluxdkhnkhun eluxdthiihlidaeylngipyngxwywatang echn itaelathangedinxahar xacthaihitwayaelaekidaephlepuxyinkraephaaxahar gastric ulcer aekhethokhlamin catecholamine aelakhxrtisxl cortisol thiephimkhunxacthaihradbemaethbxlisumsungphidpktiepnpi sungthaihhwicpmeluxdmakkhun hwicetnerw aelaphumikhumknxxnaexkarwinicchyaephlihmxaccdhmwdtamkhwamluk ehtuihekidaephl khnad aelakarbadecbthiekiywkhxngkn hmwdthiichmakthisudepniptamkhwamluk sungrabudwykartrwcaephl aetkxactdenuxxxktrwc karrabukhwamlukihaemnyaodytrwcephiyngkhrngediywxacyak cungxactxngtrwcsahlay wn sahrbkhnthipwdhruxewiynhwaelamiaephlihmcakif khwrphicarnaphawakharbxnmxnxkisdepnphisdwyisyaindepnphiskkhwrphicarnadwyehmuxnkn tamkhnad inbrrdawithitang radbaephlihmsamarthkahndodykhnadphiwhnngthiihm phaphaesdngxtraswnphiwhnngkhxngswntang inrangkay ephuxchwyrabukhnadaephlihm cakbnlnglang sirsaaelakhx aekhn latw xwywaephs aelakha khnadcawdodysdswnaephlihmethiybkbphunthiphiwrangkaythnghmd total body surface area twyx TBSA aephlradb 1 thipraktepnsiaedngirtumphxngimrwmxyuinkarpraeminechnni aephlihmodymak rxyla 70 miphltxphunthiphiwrangkaythnghmdnxykwarxyla 10 miwithirabusdswnaephlihmhlayxyangrwmthng Wallace rule of nines kdelkhekakhxngwxlels Lund and Browder chart aelawithipraeminkhunkbkhnadmux kdelkhekacaidngayaetaemnsahrbkhnxayumakkwa 16 piethann withi Lund and Browder chart caaemnkwa ephraaichxtraswnrangkaythitang knsahrbedkaelaphuihy khnadmuxkhxngbukhkhl rwmfamuxaelaniw caraw rxyla 1 khxngphunthiphiwrangkaythnghmd kdelkheka ekhakbrupthiaesdngid rabuswntang khxngrangkayepnrxylaeka rwmthng aekhnsay 9 aekhnkhwa 9 sirsakbkhx 9 hnaxk 9 thxng 9 hlngthnghmd 18 khasay 18 khakhwa 18 aelaxwywaephs briewnkhahnib 1 khwamrunaerng radbkhwamrunaerngtam American Burn Association phunthiphiwrangkaythnghmd total body surface area twyx TBSA nxy panklang makphuihy lt 10 TBSA phuihy 10 20 TBSA phuihy gt 20 TBSAedkhruxkhnchra lt 5 TBSA edkhruxkhnchra 5 10 TBSA edkhruxkhnchra gt 10 TBSAihmluk lt 2 ihmluk 2 5 ihmluk gt 5 badecbehtuiffaaerngsung aephlihmehtuiffaaerngsungxacbadecbephraasudekhaip ruwabadecbephraasudekhaipaephlihmepnwng aephlihmxyangsakhythihna khxtx mux hruxethapyhasukhphaphxyangxun karbadecbthiekiywkhxngknxun full thickness burn circumferential burn ephuxrabukartxngsngipsunyrksaaephlihm smakhmaephlihmxemrikn American Burn Association idsrangrabbkarcdhmwdhmukhunxyanghnung inrabbni aephlihmxacepnaebbmak major panklang moderate hruxnxy minor praeminodyxasypccyhlayxang rwmthngphunthiphiwrangkaythnghmdthiihm xwywatang thiihm xayu aelakarbadecbthiekiywkhxngkn aebbnxypktirksaidthiban aebbpanklangmkrksathi rph aelaaebbmakrksathisunyrksaaephlihmkarpxngkntamprawtiaelw aephlihmraw khrungechuxwapxngknid opraekrmpxngknkarthukihmidldxtraaephlihmaebbhnkidxyangsakhy withikarpxngknrwmthngcakdxunhphuminarxn ekhruxngtrwckhwnif rabbhwkracaynadbephling karsrangxakharthidi aelaesuxphaknif phuechiywchayaenanaihtngxunhphumiekhruxngthanarxnihtakwa 48 8 xngsaeslesiys withixunephuxpxngknnalwkrwmkarichethxrmxmietxrwdxunhphuminaxab xupkrnknkraednthiichkbphachnahungtm aemphlkhxngkdhmaykhwbkhumdxkimifcaimchdecn aetkmihlkthaninebuxngtnwamipraoychn rwmthngkarcakdkhayihedkkarrksakarrksaphyabalerimtngaetpraeminaelarksaesthiyrphaphthanglmhayickhxngbukhkhl khxngkarhayic aelakhxngkaredineluxd thasngsywasudkhwamrxnekhaipdwy karchwyhayicdwyhlxdhayic xaccaepntngaetenuxng aelwcungrksaaephlihm khnthimiaephlihyxactxngphndwyphasaxadcnkwacamathung rph ephraaaephlihmesiyngtidechux kcaihwkhsinbadthaykthaimidchidsrangphumikhumkniwinraya 5 pithiphanma inshrth khnikhaephlihmrxyla 95 thimayngaephnkchukechincaidrksaaelwihklbban thiehluxtxngekharksain rph thaaephlihy txngihxahartngaetenuxng khwridoprtinephim odysarxaharrxng trace element aelawitaminkmkcaepn insthanphyabalthimi karihxxksiecndwyhibihxxksiecninaerngdnxakassung hyperbaric oxygenation ephimxacmipraoychn naeklux sahrbphuthieluxdihlewiynimdi poor tissue perfusion khwrihnaekluxaebb isotonic crystalloid solution sarlalaykhrisaethllxydsungmikhwamdnxxsomsisesmxeluxd inedkthimiphiwihmepnenuxthi khxng total body surface area hrux TBSA rxyla 10 20 aelaphuihythimimakkwarxyla 15 khwrihnaekluxaelatamefasngekt inphuthimi TBSA yingkwarxyla 25 khwrthaechnniaemkxnipthung rph thaepnipid sutrpharkaelnd Parkland formula samarthichrabuprimatrnaekluxthitxngihin 24 chm aerk epnsutrthiphllphthaepriptamphunthiaephlihmepnxtrakhxng TBSA aelanahnk naekluxkhrunghnungcaihin 8 chm aerk aelathiehluxin 16 chm txma ewlacakhanwnerimemuxthukihm imicherimtngaetihnaeklux edktxngidnaekluxpraephthxun rwmthngkluokhs xnung phuthibadecbthangedinlmhayicdwytxngidnaekluxmakkwa aemkarihimphxxacepnpyha aetkarihekinkmiphllbdwy sutrepnephiyngaekhaenwptibti khwrprbihidpssawa gt 30 ml chm inphuihy hrux gt 1 ml kk inedk odymikhwamdneluxdaebb mean arterial pressure MAP yingkwa 60 mmHg aemcamkichnaekluxaebb lactated Ringer s solution aetkimmihlkthanwadikwanaekluxthrrmda normal saline naekluxaebbkhrisaethllxydduehmuxncadietha kbaebbkhxllxyd colloid aetephraaaebbhlngaephngkwacungimaenanakarthayeluxdcaepninkrnicanwnnxy sungaenanaktxemuxradbehomoklbintktakwa 60 80 k l 6 8 k dl ephraaesiyngphawaaethrksxn ekhmihnaekluxxacsxdphanphiwthiihmthacaepn hruxxacihphanikhkraduk intraosseous infusion karphyabalaephl karaecheyntngaetenuxng phayin 30 nathi hlngekidehtu ldkhwamlukkhxngaephlaelakhwamecb aetthathamakekinipkxacthaihtweynekin khwrthadwynaeynxunhphumirahwang 10 25 xngsaeslesiys odyimichnaaekhngephraaxacthaihaeylng aephlihmehtusarekhmixactxnglangihmak karthakhwamsaxaddwysbuaelana karexaenuxtayxxk aelakarpidaephlepneruxngsakhy thamitumphxngthiyngimaetk imchdecnwakhwrthaxyangir mihlkthaninebuxngtnbangwa khwrthingiwechy aephlihmradbsxngkhwrtrwcxikhlngcak 2 wn sahrbaephlihmradb 1 aela 2 karpidaephlechnirdimiaethlkthankhunphaphimdi karimpidaephlihmradb 1 nnehmaasm aemmkcaaenanayathaptichiwna aetkmihlkthansnbsnunnxy yaptichiwnasilewxrslfaidxasin silver sulfadiazine imaenanaephraaxacthaihhaycha mihlkthanimephiyngphxsnbsnunihichphapidthimisilewxr hruxkarpidaephlaebbdudxakasldkhwamdn negative pressure wound therapy silewxrslfaidxasinduimtangkbofmmisilewxrephuxchwyihaephlhay ya aephlihmxacecbmak aetkmiwithildkhwamecb echnichyarangbpwdthrrmda echn ixbiwphrxefnaelapharaestamxl aelaichyaklumoxpixxyd echn mxrfin yaklumebnosidxaesphinxacihphrxmkbyarangbpwdephuxldkhwamwitkkngwl emuxkalnghay xacnwd ichsartanhistamin hruxkarkratunprasathphanphiw transcutaneous electrical nerve stimulation ephuxaekkhn aetsartanhistaminkidphlephuxcudprasngkhniephiynginkhnikhrxyla 20 mihlkthanebuxngtnsnbsnunihichya gabapentin pktiichrksaorkhlmchk khwamecbpwdehtuorkhesnprasath xakarwythxng xakarkhaxyuimepnsukh khuxxacsmkhwrkbkhnthiimdikhunemuxichsartanhistamin liodekhn lidocaine thiihthangesneluxdtxngmingansuksaephimkhunkxncaaenanaihichaekpwd karihyaptichiwnathangesneluxdaenanakxnkarphatdsahrbkhnikhthiihmmak gt 60 TBSA cnthungpi 2008 aenwthangptibtitang imaenanaihthaxyangniodythwipephraaaebkhthieriyxacduxya aelaephraaesiyngtidechuxra aethlkthanebuxngtnkaesdngwa xacephimxtrarxdchiwitsahrbkhnikhthimiaephlihmihyaelarunaerng aetisotikhnaebbiklokhoprtinkhux xiriothrphxyextin Erythropoietin kimphbwamiphlpxngknhruxrksaphawaeluxdcanginkhnikhaephlihm inkrnithimiehtucakkrdihodrfluxxrik aekhlesiymkluokhent calcium gluconate epnyaaekphisodyechphaa aelaxacihthangesneluxdaela hruxichtha hxromnkaretibotkhxngmnusyaebblukphsm recombinant human growth hormone twyx rhGH inkrnithiihmekinrxyla 40 praktwa chwyihhayerwkhunaemimmiphltxkhwamesiyngtay karichsetxrxydrksaimmihlkthanthichdecn karphatd aephlthitxngpiddwykarplukthayhnng skin graft hruxaephnenuxeyuxpapluk flap khwrthaiherwthisud odypktikhuxaephlsungyingkwaaephlihmradb 3 elk aephlihmepnwngkhxngaekhnkhahruxhnaxkxactxngphatdexahnngxxkthieriykwa escharotomy ephuxpxngknpyhaekiywkbkaredineluxdhruxkarhayic imchdecnwanimipraoychnsahrbaephlthikhxhruxniwhruxim karphatdphngphud fasciotomy xaccaepnsahrbaephlihmehtuiffa karplukthayhnngxacichsingthdaethnhnngchwkhraw imwacaidcakstw mnusyphubricakhhruxhmu hruxxacsngekhraah odyichpidaephl pxngknkartidechuxaelakaresiyna aetinthisudkcaexaxxk hruxwa hnngmnusythiplukthayxactidxyangthawrthaimmiptikiriyaptiesthsingplukthay immihlkthanwakarichkhxpepxrsleftephuxihehnxnuphakhfxsfxrsaelwexaxxkcachwyihaephlhaysahrbaephlihmehtufxsfxrs aelakardudsumkhxpepxrsleftekhaineluxdkmiphlray aephthythangeluxk naphungichmatngaetsmyobranephuxchwyrksaaephlaelaxacmipraoychnsahrbaephlihmradb 1 aela 2 mihlkthanphxkhwrwamnchwyaephlthiimihmtlxdhnng hlkthansnbsnunihichwanhangcraekhmikhunphaphimdi aemxacchwyldkhwamecb aelanganthbthwnwrrnkrrmkhxngklumaephthyithypi 2007 phbhlkthanebuxngtnwachwyihaephlhayerwkhun aetnganthbthwntx matngaetpi 2012 kimphbwadikwasilewxrslfaidxasin minganthdlxngaebbsumaelamiklumkhwbkhumephiyng 3 nganthiichphuchrksaaephlihm khuxmi 2 nganekiywkbwanhangcraekh aelanganhnungekiywkbkhawoxt mihlkthannxywawitaminxichwyimihepnaephlepn imaenanaihicheny inpraethsmirayidnxy aephlihmcarksadwyaephthyaephnobranxacthung 1 3 sungrwmkarthaikh okhln ibsmuniphr hruxmulokh karphatdcacakdinbangkrniephraacnhruximmihmx miwithixun nxkcakyathisamarthldkhwamecbpwdaelakhwamwitkkngwlrwmthngkarbabddwykhwamepncringesmuxn virtual reality therapy karsakdcit aelawithikarthangphvtikrrmtang rwmthngwithihlxklxicphyakrnorkhphyakrnorkhinshrth TBSA xtratay0 9 0 6 10 19 2 9 20 29 8 6 30 39 16 40 49 25 50 59 37 60 69 43 70 79 57 80 89 73 90 100 85 hayicekha 23 phyakrnorkhaeykwasahrbphumiaephlihy khnmixayumakkwa aelahying karbadecbephraahayicexakhwnekha karbadecbsakhyxun echn kradukyawaetk hk aelakarmisphaphhnkxyangxunrwm echn orkhhwic orkhebahwan orkhthangcitewch aelakartngickhatwtay kmiphltxphyakrnorkhdwy inshrthodyechliy phuthirbekhasunyaephlihmechphaathangrxyla 4 esiychiwit odyphlthiidkhunxyukbkhwamrunaerngkhxngaephl yktwxyangechn khnikhthimiaephlihmnxykwa 10 TBSA mixtrataynxykwa 1 aelakhnikhthimiaephlihmyingkwa 90 TBSA mixtratay 85 aetinxfkanisthan khnikhthimiaephlihmekin 60 TBSA imkhxyrxd rabb Baux score idichephuxkhanwnphyakrnorkhsahrbaephlihmaebbhnk karkhanwndngedimbwkkhnadaephlihm TBSA kbxayukhnikh aelwichphllphthepnxtrakhwamesiyngtay aetephraakarphyabaliddikhun pccubnnicungimkhxyaemn hnngsuxaephthypi 2016 rabuwa odykhunxyukbsunyaephthy khaaennthirabuwakhnikhimsamarthrxdchiwitidxyuthi 160 aelakhaaennthirabuwakhnikhxacrxdchiwitkhrunghnungxyuthi 110 odycabwkephimxik 17 khaaennthakhnikhbadecbenuxngcaksudkhwamrxnekhaipdwy aephlihminpi 2013 thaihsuyesiypisukhphawa 12 3 lanpi aelakxpithibukhkhlxyuxyangphikar 1 2 lanpi phawaaethrksxn xacekidphawaaethrksxnhlayxyang odykartidechuxsamythisud tamladboxkaskarekid phawaaethrksxnrwmthngpxdbwm esllenuxeyuxxkesb cellulitis kartidechuxthangedinpssawa aelakarhayiclmehlw pccyesiyngkartidechuxrwmthng aephlihmekin 30 TBSA aephlihmtlxdhnng radb 3 xayunxymakhruxaekmak aephlihmthikhahruxfieyb pxdbwmekidbxyepnphiesssahrbphusudkhwamrxnekhaipphawaeluxdcangehtuaephlihmtlxdhnngthikinphunthiyingkwa 10 TBSA epneruxngsamy aephlihmehtuiffaxackxxakar compartment syndrome enuxeyuxmieluxdeliyngimphxephraaaerngdnthiephimkhuninswnkhxngrangkay hrux rhabdomyolysis klamenuxokhrngrangthiesiyhayekidslaytwxyangrwderw ephraaklamenuxesiyhay phawalimeluxdxudhlxdeluxddathikhapraeminwaekidkbkhnikhrxyla 6 25 radbemaethbxlisumthisungepnpi hlngaephlihmhnkxacthaihkradukhnaaennnxylngaelaesiyklamenux xacepnaephlepnhlngcakhay odyechphaainedkphiwekhm hlngcakekidehtukarn edkxacmipyhathangciticxyangsakhyaelamikhwamphidpktithiekidhlngkhwamekhriydthisaethuxnic PTSD aephlepnxackxkhwamkhidkhwamrusukkbrangkaykhxngtnthiimdi disturbance in body image inpraethskalngphthna aephlihmkhnadsakhyxacmiphlihthukaeyktwxxkthangsngkhm yakcnxyangrunaerng aelathinglukwithyakarrabadkarsuyesiypisukhphawa DALY enuxngkbiftxprachakr 100 000 khninpi 2004 irkhxmul lt 50 50 100 100 150 150 200 200 250 250 300 300 350 350 400 400 450 450 500 500 600 gt 600 inpi 2015 ifaelakhwamrxnthaihbadecb 67 lankhrng sungthaihekha rph 2 9 lankhrng aelakhnesiychiwit 238 000 ray odyldlngcak 300 000 khninpi 1990 cungcdepnehtubadecbxndb 4 rxngcakxubtiehtuyanynt kartk aelakhwamrunaerng aephlihmrxyla 90 ekidinpraethskalngphthna sungihehtuphlwaepnephraaxyuknxyangaexxdaelahungtmxyangimplxdphy odyrwm aephlihmthungtayekuxbrxyla 60 ekidinexechiyxakhenyodymixtra 11 6 khntxprachakr 100 000 khn canwnkhnikhaephlihmthungtayidldlngcak 280 000 khninpi 1990 ehlux 176 000 khninpi 2015 inpraethsphthnaaelw chayphuihymixtratayehtuaephlihmepnthwikhunkhxnghying odynacaepnephraamixachiphaelakickrrmthiesiyngkwa aetinpraethskalngphthnahlaypraeths hyingesiyngepnthwikhunethiybkbchay odymkekiywkbxubtiehtuinkhrwhruxkhwamrunaernginkhrxbkhrw inedkpraethskalngphthna khwamtayehtuaephlihmekidinxtraepnsib ethakhxngpraethsphthnaaelw rwm aelwsahrbedk mnepnehtukaresiychiwithnunginthxp 15 rahwangkhristthswrrs 1980 cnthungpi 2004 xtraaephlihmcnesiychiwitaelaxtrakarekidaephlihmthwipidldlnginpraethshlay praeths praethsphthnaaelw karbadecbehtuaephlihmpraman 500 000 rayidrbkarrksatxpiinshrth thaihesiychiwitraw 3 300 rayinpi 2008 karbadecb rxyla 70 aelakaresiychiwitehtuaephlihmodymakekidkbphuchay aephlihmephraaifekidmakthisudinkhnxayurahwang 18 35 pi ethiybkbkarthuklwkthiekidmaksudinedkxayunxykwa 5 khwbaelakhnchraxayuekin 65 pi aephlihmehtuiffathaihkhnesiychiwit 1 000 raytxpi faphathaihkhnesiychiwit 60 raytxpi inyuorp aephlihmaebbtngicekidkbchaywyklangkhnbxysud praethskalngphthna inxinediy khnpraman 7 8 aesnkhntxpi idaephlihmthisakhy aetnxykhnmakthicaidduaelinsunyrksaaephlihm xtrasungsudekidinhyingxayurahwang 16 35 pi ehtuswhnungkephraakhrwimplxdphyaelaesuxphaekhruxngnunghmthihlwm tampktikhxngkhnxinediy praeminwa krni 1 3 ekidcakesuxphatidifcakifthiepidolng aephlihmthicngicepneruxngsamyaelaekidinxtrasunginhyingxayunxy odyekidcakkhwamrunaernginkhrxbkhrwaelakartharaytwexngprawtiaephthychawfrngesskioym diwphwiaetrn Guillaume Dupuytren phuphthnakarcdhmwdhmuradbaephlihmkhun phaphwadthacak 3 500 pikwaidbnthukeruxngaephlihmaelawithirksa bnthukkarrksaaephlihmxiyiptthiekaaeksudklawthungphapidaephlthiichkbnmkhxngmardathimitharkchay aelaphaiphrskhxngexdwinsmithemux 1 500 pikxn kh s klawthungkarrksadwynaphungaelayathathithacakphuch miwithikarrksaxun thiichinprawtisastr rwmthngibchathiphbinbnthukcin 600 pikxn kh s ikhmnhmuaelanasmsaychuodyhipphxkhrathisemux 400 pikxn kh s aelaiwnkbyangimhxm myrrh odynksaranukrmchawormn Aulus Cornelius Celsus thibnthukiwemux 100 pikxn kh s changtdphm nkphatd chawfrngess Ambroise Pare epnphuklawthungaephlihmradbtang epnkhnaerkinkhristthswrrs 1500 swnaephthychawfrngesskioym diwphwiaetrn Guillaume Dupuytren idkhyayradbechnniepnthung 6 radbinpi 1832 rph rksaaephlihmaehngaerkidepidinkrunglxndxnpi 1843 aelakarphthnawithikarrksaaephlihmtamthiphbinpccubnkerimemuxplaykhriststwrrsthi 19 aelatnkhriststwrrsthi 20 inchwngsngkhramolkkhrngthihnung nkekhmichawxngkvs Henry Drysdale Dakin aelaslyaephthychawfrngess Alexis Carrel idphthnamatrthankarthakhwamsaxadaelakarkhaechuxaephlkbaephlihmodyichsarlalayosediymihopkhlxirt sungldxtratayxyangsakhy inkhristthswrrs 1940 khwamsakhyinkartdhnng xwywaxxkaelakarplukthayhnngkruaelw inewlaediywkn karihnaekluxaelasutrkarihkidphthnakhun inkhristthswrrs 1970 nkwicyidaesdngkhwamsakhykhxngphawamiemaethbxlisumekinthitidtamaephlihmkhnadihyechingxrrth V 4 m A 100 displaystyle V 4 cdot m cdot A cdot 100 m khux nahnkepnkiolkrm A khux miaephlihmepnxtrarxylakhxng TBSA twxyangkhnikhhnk 75 kk miaephlihmkhrxbkhlumrxyla 20 khxngphunthiphiwrangkaythnghmd khwrihnaeklux 4 x 75 x 20 ethakb 6 000 ml in 24 chm aerk barber surgeonxangxing Burns British Association of Plastic Reconstructive and Aesthetic Surgeons BAPRAS cakaehlngedimemux 2020 08 10 Tintinalli Judith E 2010 Emergency Medicine A Comprehensive Study Guide Emergency Medicine Tintinalli New York McGraw Hill Companies pp 1374 1386 ISBN 978 0 07 148480 0 Herndon D b k 2012 Chapter 3 Epidemiological Demographic and Outcome Characteristics of Burn Injury Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 23 ISBN 978 1 4377 2786 9 Herndon D b k 2012 Chapter 4 Prevention of Burn Injuries Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 46 ISBN 978 1 4377 2786 9 Burns World Health Organization September 2016 cakaehlngedimemux 2017 07 21 subkhnemux 2017 08 01 Vos Theo Allen Christine Arora Megha Barber Ryan M Bhutta Zulfiqar A Brown Alexandria Carter Austin Casey Daniel C Charlson Fiona J Chen Alan Z Coggeshall Megan Cornaby Leslie Dandona Lalit Dicker Daniel J Dilegge Tina Erskine Holly E Ferrari Alize J Fitzmaurice Christina Fleming Tom Forouzanfar Mohammad H Fullman Nancy Gething Peter W Goldberg Ellen M Graetz Nicholas Haagsma Juanita A Hay Simon I Johnson Catherine O Kassebaum Nicholas J Kawashima Toana aelakhna October 2016 Global regional and national incidence prevalence and years lived with disability for 310 diseases and injuries 1990 2015 a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015 Lancet 388 10053 1545 1602 doi 10 1016 S0140 6736 16 31678 6 PMC 5055577 PMID 27733282 Wang Haidong Naghavi Mohsen Allen Christine Barber Ryan M Bhutta Zulfiqar A Carter Austin Casey Daniel C Charlson Fiona J Chen Alan Zian Coates Matthew M Coggeshall Megan Dandona Lalit Dicker Daniel J Erskine Holly E Ferrari Alize J Fitzmaurice Christina Foreman Kyle Forouzanfar Mohammad H Fraser Maya S Fullman Nancy Gething Peter W Goldberg Ellen M Graetz Nicholas Haagsma Juanita A Hay Simon I Huynh Chantal Johnson Catherine O Kassebaum Nicholas J Kinfu Yohannes aelakhna October 2016 Global regional and national life expectancy all cause mortality and cause specific mortality for 249 causes of death 1980 2015 a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015 Lancet 388 10053 1459 1544 doi 10 1016 S0140 6736 16 31012 1 PMC 5388903 PMID 27733281 WHO April 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 11 10 subkhnemux 2016 03 03 Granger Joyce Jan 2009 An Evidence Based Approach to Pediatric Burns Pediatric Emergency Medicine Practice 6 1 cakaehlngedimemux 2013 10 17 Ferri Fred F 2012 Ferri s netter patient advisor 2nd ed Philadelphia PA Saunders p 235 ISBN 9781455728268 cakaehlngedimemux 2016 12 21 Haagsma JA Graetz N Bolliger I Naghavi M Higashi H Mullany EC aelakhna February 2016 The global burden of injury incidence mortality disability adjusted life years and time trends from the Global Burden of Disease study 2013 Injury Prevention 22 1 3 18 doi 10 1136 injuryprev 2015 041616 PMC 4752630 PMID 26635210 Herndon D b k 2012 Chapter 1 A Brief History of Acute Burn Care Management Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 1 ISBN 978 1 4377 2786 9 lingkesiy Burn Incidence and Treatment in the United States 2012 Fact Sheet American Burn Association 2012 cakaehlngedimemux 2013 02 21 subkhnemux 2013 04 20 Herndon D b k 2012 Chapter 10 Evaluation of the burn wound management decisions Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 127 ISBN 978 1 4377 2786 9 Brunicardi Charles 2010 Chapter 8 Burns Schwartz s principles of surgery 9th ed New York McGraw Hill Medical Pub Division ISBN 978 0 07 154769 7 Goutos I Dziewulski P Richardson PM Mar Apr 2009 Pruritus in burns review article Journal of Burn Care amp Research 30 2 221 8 doi 10 1097 BCR 0b013e318198a2fa PMID 19165110 S2CID 3679902 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint date format lingk Marx John 2010 Chapter 140 Electrical and Lightning Injuries Rosen s emergency medicine concepts and clinical practice 7th ed Philadelphia Mosby Elsevier ISBN 978 0 323 05472 0 Peck MD November 2011 Epidemiology of burns throughout the world Part I Distribution and risk factors Burns 37 7 1087 100 doi 10 1016 j burns 2011 06 005 PMID 21802856 Lloyd EC Rodgers BC Michener M Williams MS January 2012 Outpatient burns prevention and care American Family Physician 85 1 25 32 PMID 22230304 Buttaro Terry 2012 Primary Care A Collaborative Practice Elsevier Health Sciences p 236 ISBN 978 0 323 07585 5 cakaehlngedimemux 2016 05 13 Rosdahl Caroline Bunker Kowalski Mary T 2008 Textbook of basic nursing 9th ed Philadelphia Lippincott Williams amp Wilkins p 1109 ISBN 978 0 7817 6521 3 cakaehlngedimemux 2016 05 12 National Burn Repository Pg i Forjuoh SN August 2006 Burns in low and middle income countries a review of available literature on descriptive epidemiology risk factors treatment and prevention Burns 32 5 529 37 doi 10 1016 j burns 2006 04 002 PMID 16777340 Death rate from fires and burns 2017 Our World in Data cakaehlngedimemux 2020 07 27 subkhnemux 2019 11 17 Eisen Sarah Murphy Catherine 2009 Murphy Catherine Gardiner Mark Eisen Sarah b k Training in paediatrics the essential curriculum Oxford Oxford University Press p 36 ISBN 978 0 19 922773 0 cakaehlngedimemux 2016 04 25 Maguire S Moynihan S Mann M Potokar T Kemp AM December 2008 A systematic review of the features that indicate intentional scalds in children Burns 34 8 1072 81 doi 10 1016 j burns 2008 02 011 PMID 18538478 Peden Margie 2008 World report on child injury prevention Geneva Switzerland World Health Organization p 86 ISBN 978 92 4 156357 4 cakaehlngedimemux 2016 04 24 World Health Organization World report on child injury prevention PDF PDF cakaehlngedimemux May 2008 Hardwicke J Hunter T Staruch R Moiemen N May 2012 Chemical burns an historical comparison and review of the literature Burns 38 3 383 7 doi 10 1016 j burns 2011 09 014 PMID 22037150 Makarovsky I Markel G Dushnitsky T Eisenkraft A May 2008 Hydrogen fluoride the protoplasmic poison The Israel Medical Association Journal 10 5 381 5 PMID 18605366 Edlich RF Farinholt HM Winters KL Britt LD Long WB 2005 Modern concepts of treatment and prevention of lightning injuries Journal of Long Term Effects of Medical Implants 15 2 185 96 doi 10 1615 jlongtermeffmedimplants v15 i2 60 PMID 15777170 Prahlow Joseph 2010 Forensic pathology for police death investigators and forensic scientists Totowa N J Humana p 485 ISBN 978 1 59745 404 9 cakaehlngedimemux 2016 05 20 Kearns RD Cairns CB Holmes JH Rich PB Cairns BA January 2013 Thermal burn care a review of best practices What should prehospital providers do for these patients EMS World 42 1 43 51 PMID 23393776 Balk SJ March 2011 Ultraviolet radiation a hazard to children and adolescents Pediatrics 127 3 e791 817 doi 10 1542 peds 2010 3502 PMID 21357345 Marx John 2010 Chapter 144 Radiation Injuries Rosen s emergency medicine concepts and clinical practice 7th ed Philadelphia Mosby Elsevier ISBN 978 0 323 05472 0 Krieger John 2001 Clinical environmental health and toxic exposures 2nd ed Philadelphia Pa u a Lippincott Williams amp Wilkins p 205 ISBN 978 0 683 08027 8 cakaehlngedimemux 2016 05 05 Peck MD August 2012 Epidemiology of burns throughout the World Part II intentional burns in adults Burns 38 5 630 7 doi 10 1016 j burns 2011 12 028 PMID 22325849 Gondim RM Munoz DR Petri V June 2011 Child abuse skin markers and differential diagnosis Anais Brasileiros de Dermatologia 86 3 527 36 doi 10 1590 S0365 05962011000300015 PMID 21738970 Herndon D b k 2012 Chapter 61 Intential burn injuries Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders pp 689 698 ISBN 978 1 4377 2786 9 Jutla RK Heimbach D Mar Apr 2004 Love burns An essay about bride burning in India The Journal of Burn Care amp Rehabilitation 25 2 165 70 doi 10 1097 01 bcr 0000111929 70876 1f PMID 15091143 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint date format lingk Peden Margie 2008 World report on child injury prevention Geneva Switzerland World Health Organization p 82 ISBN 978 92 4 156357 4 cakaehlngedimemux 2016 06 17 Marx John 2010 Chapter 60 Thermal Burns Rosen s emergency medicine concepts and clinical practice 7th ed Philadelphia Mosby Elsevier ISBN 978 0 323 05472 0 Rojas Y Finnerty CC Radhakrishnan RS Herndon DN December 2012 Burns an update on current pharmacotherapy Expert Opinion on Pharmacotherapy 13 17 2485 94 doi 10 1517 14656566 2012 738195 PMC 3576016 PMID 23121414 Hannon Ruth 2010 Porth pathophysiology concepts of altered health states 1st Canadian ed Philadelphia PA Wolters Kluwer Health Lippincott Williams amp Wilkins p 1516 ISBN 978 1 60547 781 7 cakaehlngedimemux 2016 05 01 Mahadevan SV Garmel GM b k 2012 An introduction to clinical emergency medicine 2nd ed Cambridge Cambridge University Press pp 216 219 ISBN 978 0 521 74776 9 cakaehlngedimemux 2016 05 20 ABC of burns Initial management of a major burn II assessment and resuscitation July 2004 doi 10 1136 bmj 329 7457 101 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Jeschke Marc 2012 Handbook of Burns Volume 1 Acute Burn Care Springer p 46 ISBN 978 3 7091 0348 7 cakaehlngedimemux 2016 05 17 Klingensmith M b k 2007 The Washington manual of surgery 5th ed Philadelphia Pa Lippincott Williams amp Wilkins p 422 ISBN 978 0 7817 7447 5 cakaehlngedimemux 2016 05 20 Rousseau AF Losser MR Ichai C Berger MM August 2013 ESPEN endorsed recommendations nutritional therapy in major burns Clinical Nutrition phasaxngkvs 32 4 497 502 doi 10 1016 j clnu 2013 02 012 PMID 23582468 Cianci P Slade JB Sato RM Faulkner J Jan Feb 2013 Adjunctive hyperbaric oxygen therapy in the treatment of thermal burns Undersea amp Hyperbaric Medicine 40 1 89 108 PMID 23397872 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint date format lingk Enoch S Roshan A Shah M April 2009 Emergency and early management of burns and scalds BMJ 338 b1037 doi 10 1136 bmj b1037 PMID 19357185 S2CID 40561988 Hettiaratchy S Papini R July 2004 Initial management of a major burn II assessment and resuscitation BMJ 329 7457 101 3 doi 10 1136 bmj 329 7457 101 PMC 449823 PMID 15242917 Jeschke Marc 2012 Handbook of Burns Volume 1 Acute Burn Care Springer p 77 ISBN 978 3 7091 0348 7 cakaehlngedimemux 2016 05 19 Endorf FW Ahrenholz D December 2011 Burn management Current Opinion in Critical Care 17 6 601 5 doi 10 1097 MCC 0b013e32834c563f PMID 21986459 S2CID 5525939 Lewis SR Pritchard MW Evans DJ Butler AR Alderson P Smith AF Roberts I August 2018 Colloids versus crystalloids for fluid resuscitation in critically ill people The Cochrane Database of Systematic Reviews 8 CD000567 doi 10 1002 14651858 CD000567 pub7 PMC 6513027 PMID 30073665 Eljaiek R Heylbroeck C Dubois MJ February 2017 Albumin administration for fluid resuscitation in burn patients A systematic review and meta analysis Burns 43 1 17 24 doi 10 1016 j burns 2016 08 001 PMID 27613476 Curinga G Jain A Feldman M Prosciak M Phillips B Milner S August 2011 Red blood cell transfusion following burn Burns 37 5 742 52 doi 10 1016 j burns 2011 01 016 PMID 21367529 Wasiak J Cleland H Campbell F Spinks A March 2013 Dressings for superficial and partial thickness burns The Cochrane Database of Systematic Reviews 3 3 CD002106 doi 10 1002 14651858 CD002106 pub4 10072 58266 PMC 7065523 PMID 23543513 Avni T Levcovich A Ad El DD Leibovici L Paul M February 2010 Prophylactic antibiotics for burns patients systematic review and meta analysis BMJ 340 c241 doi 10 1136 bmj c241 PMC 2822136 PMID 20156911 Hoogewerf Cornelis J Van Baar Margriet E Hop M Jenda Nieuwenhuis Marianne K Oen Irma M M H Middelkoop Esther 2013 01 31 Topical treatment for facial burns The Cochrane Database of Systematic Reviews 1 CD008058 doi 10 1002 14651858 CD008058 pub2 ISSN 1469 493X PMID 23440823 Barajas Nava Leticia A Lopez Alcalde Jesus Roque i Figuls Marta Sola Ivan Bonfill Cosp Xavier 2013 06 06 Antibiotic prophylaxis for preventing burn wound infection The Cochrane Database of Systematic Reviews 6 CD008738 doi 10 1002 14651858 CD008738 pub2 ISSN 1469 493X PMID 23740764 Storm Versloot MN Vos CG Ubbink DT Vermeulen H March 2010 Storm Versloot Marja N b k Topical silver for preventing wound infection The Cochrane Database of Systematic Reviews 3 CD006478 doi 10 1002 14651858 CD006478 pub2 PMID 20238345 Dumville JC Munson C Christie J December 2014 Negative pressure wound therapy for partial thickness burns The Cochrane Database of Systematic Reviews 12 12 CD006215 doi 10 1002 14651858 CD006215 pub4 PMC 7389115 PMID 25500895 Chaganti P Gordon I Chao JH Zehtabchi S June 2019 A systematic review of foam dressings for partial thickness burns The American Journal of Emergency Medicine 37 6 1184 1190 doi 10 1016 j ajem 2019 04 014 PMID 31000315 Zachariah JR Rao AL Prabha R Gupta AK Paul MK Lamba S August 2012 Post burn pruritus a review of current treatment options Burns 38 5 621 9 doi 10 1016 j burns 2011 12 003 PMID 22244605 Herndon D b k 2012 Chapter 64 Management of pain and other discomforts in burned patients Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 726 ISBN 978 1 4377 2786 9 Wasiak J Mahar PD McGuinness SK Spinks A Danilla S Cleland H Tan HB October 2014 Intravenous lidocaine for the treatment of background or procedural burn pain The Cochrane Database of Systematic Reviews 10 10 CD005622 doi 10 1002 14651858 CD005622 pub4 PMC 6508369 PMID 25321859 Herndon D b k 2012 Chapter 31 Etiology and prevention of multisystem organ failure Total burn care 4th ed Edinburgh Saunders p 664 ISBN 978 1 4377 2786 9 Breederveld RS Tuinebreijer WE September 2014 Recombinant human growth hormone for treating burns and donor sites The Cochrane Database of Systematic Reviews 9 9 CD008990 doi 10 1002 14651858 CD008990 pub3 PMC 7119450 PMID 25222766 Snell JA Loh NH Mahambrey T Shokrollahi K October 2013 Clinical review the critical care management of the burn patient Critical Care 17 5 241 doi 10 1186 cc12706 PMC 4057496 PMID 24093225 Jeschke Marc 2012 Handbook of Burns Volume 1 Acute Burn Care Springer p 266 ISBN 978 3 7091 0348 7 cakaehlngedimemux 2016 05 10 Orgill DP Piccolo N Sep Oct 2009 Escharotomy and decompressive therapies in burns Journal of Burn Care amp Research 30 5 759 68 doi 10 1097 BCR 0b013e3181b47cd3 PMID 19692906 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint date format lingk General data about burns Burn Centre Care cakaehlngedimemux 2020 07 27 Barqouni Loai Abu Shaaban Nafiz Elessi Khamis 2014 06 04 Cochrane Wounds Group b k Interventions for treating phosphorus burns Cochrane Database of Systematic Reviews phasaxngkvs 6 CD008805 doi 10 1002 14651858 CD008805 pub3 PMC 7173745 PMID 24896368 Wijesinghe M Weatherall M Perrin K Beasley R May 2009 Honey in the treatment of burns a systematic review and meta analysis of its efficacy The New Zealand Medical Journal 122 1295 47 60 PMID 19648986 Norman G Christie J Liu Z Westby MJ Jefferies JM Hudson T aelakhna July 2017 Antiseptics for burns The Cochrane Database of Systematic Reviews 7 CD011821 doi 10 1002 14651858 cd011821 pub2 PMC 6483239 PMID 28700086 Jull AB Cullum N Dumville JC Westby MJ Deshpande S Walker N March 2015 Honey as a topical treatment for wounds The Cochrane Database of Systematic Reviews 3 3 CD005083 doi 10 1002 14651858 CD005083 pub4 PMID 25742878 Dat AD Poon F Pham KB Doust J February 2012 Aloe vera for treating acute and chronic wounds The Cochrane Database of Systematic Reviews 2 2 CD008762 doi 10 1002 14651858 CD008762 pub2 PMID 22336851 lingkesiy Maenthaisong R Chaiyakunapruk N Niruntraporn S Kongkaew C September 2007 The efficacy of aloe vera used for burn wound healing a systematic review Burns 33 6 713 8 doi 10 1016 j burns 2006 10 384 PMID 17499928 Bahramsoltani R Farzaei MH Rahimi R September 2014 Medicinal plants and their natural components as future drugs for the treatment of burn wounds an integrative review Archives of Dermatological Research 306 7 601 17 doi 10 1007 s00403 014 1474 6 PMID 24895176 S2CID 23859340 Juckett G Hartman Adams H August 2009 Management of keloids and hypertrophic scars American Family Physician 80 3 253 60 PMID 19621835 Turkington Carol Dover Jeffrey S Cox Birck 2007 The encyclopedia of skin and skin disorders 3rd ed New York NY Facts on File p 64 ISBN 978 0 8160 7509 6 cakaehlngedimemux 2016 05 18 National Burn Repository Pg 10 Fleisman Ross J Ma O John 2016 Chapter 255 Trauma in the Elderly in Tintinalli Judith E Stapczynski J Stephan Ma O John Yealy Donald M Meckler Garth D Cline David M b k Tintinalli s Emergency Medicine A Comprehensive Study Guide 8th ed New York NY McGraw Hill Education p 1689 ISBN 978 0071794763 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter King Christopher Henretig Fred M King Brent R Loiselle John Ruddy Richard M Wiley II James F b k 2008 Textbook of pediatric emergency procedures 2nd ed Philadelphia Wolters Kluwer Health Lippincott Williams amp Wilkins p 1077 ISBN 978 0 7817 5386 9 cakaehlngedimemux 2016 05 22 Roberts Michael C 2009 Handbook of pediatric psychology 4th ed New York Guilford p 421 ISBN 978 1 60918 175 8 cakaehlngedimemux 2016 04 30 WHO Disease and injury country estimates World Health Organization 2009 cakaehlngedimemux 2009 11 11 subkhnemux 2009 11 11 GBD 2013 Mortality Causes of Death Collaborators January 2015 Global regional and national age sex specific all cause and cause specific mortality for 240 causes of death 1990 2013 a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013 Lancet 385 9963 117 71 doi 10 1016 s0140 6736 14 61682 2 PMC 4340604 PMID 25530442 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a author1 michuxeriykthwip help Lozano R Naghavi M Foreman K Lim S Shibuya K Aboyans V aelakhna December 2012 Global and regional mortality from 235 causes of death for 20 age groups in 1990 and 2010 a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2010 Lancet 380 9859 2095 128 doi 10 1016 S0140 6736 12 61728 0 10536 DRO DU 30050819 PMID 23245604 S2CID 1541253 Edlich RF Farinholt HM Winters KL Britt LD Long WB 2005 Modern concepts of treatment and prevention of electrical burns Journal of Long Term Effects of Medical Implants 15 5 511 32 doi 10 1615 jlongtermeffmedimplants v15 i5 50 PMID 16218900 Ahuja RB Bhattacharya S August 2004 Burns in the developing world and burn disasters BMJ 329 7463 447 9 doi 10 1136 bmj 329 7463 447 PMC 514214 PMID 15321905 Gupta 2003 Textbook of Surgery Jaypee Brothers Publishers p 42 ISBN 978 81 7179 965 7 cakaehlngedimemux 2016 04 27 Pecanac M Janjic Z Komarcevic A Pajic M Dobanovacki D Miskovic SS 2013 Burns treatment in ancient times Medicinski Pregled 66 5 6 263 7 doi 10 1016 s0264 410x 02 00603 5 PMID 23888738 Song David 2012 09 05 Plastic surgery 3rd ed Edinburgh Saunders p 393 e1 ISBN 978 1 4557 1055 3 cakaehlngedimemux 2016 05 02 Wylock Paul 2010 The life and times of Guillaume Dupuytren 1777 1835 Brussels Brussels University Press p 60 ISBN 978 90 5487 572 7 cakaehlngedimemux 2016 05 16 xangxingxun PDF American Burn Association 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2016 03 03 subkhnemux 2013 04 20 aehlngkhxmulxunkarcaaenkorkhDICD 10 T20 t T31 tICD 940 949MeSH D002056 1791thrphyakrphaynxk aephlihm 000030 article 1278244wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb aephlihm Parkland Formula 2016 11 03 thi ewyaebkaemchchin Burns MedlinePlus U S National Library of Medicine