บทความนี้ไม่มีจาก |
เม็ดเลือดแดง (อังกฤษ: red blood cell , Erythrocyte : มาจากภาษากรีก โดย erythros แปลว่า "สีแดง" แปลว่า "ส่วนเว้า" และ cyte แปลว่า "เซลล์") มีหน้าที่ในการส่งถ่ายออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย
เม็ดเลือดแดง | |
---|---|
ภาพถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนของเซลล์เม็ดเลือดแดงของมนุษย์ (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-8 ไมครอน) | |
รายละเอียด | |
หน้าที่ | การขนส่งออกซิเจน |
ตัวระบุ | |
คำย่อ | RBC |
MeSH | D004912 |
H2.00.04.1.01001 | |
FMA | 62845 |
[แก้ไขบนวิกิสนเทศ] |
เม็ดเลือดแดงมีขนาดประมาณ 6-8 ไมครอน มีนิวเคลียสในช่วงที่สร้างขึ้นมาใหม่ๆ แต่เมื่อเซลล์โตเต็มที่ นิวเคลียสจะหายไป มีสีแดง เนื่องจากภายในมีสารฮีโมโกลบิน โดยในกระแสเลือดคนปกติจะพบเม็ดเลือดแดงที่เจริญเติบโตเต็มที่ (Mature red cell) มีเพียงไม่เกิน 2% ที่สามารถพบเม็ดเลือดแดงตัวอ่อน (Reticulocyte) ได้
เม็ดเลือดแดงของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
เม็ดเลือดแดงประกอบด้วยฮีโมโกลบินซึ่งเป็น complex molecule ที่มี เป็นส่วนประกอบให้อะตอมของธาตุเหล็กจับกับออกซิเจนเพื่อส่งไปทั่วร่างกาย โดยออกซิเจนสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของเม็ดเลือดแดงได้อย่างอิสระ นอกจากนี้แล้ว ฮีโมโกลบิน ยังจับกับของเสียที่เป็นบางส่วนกลับมาจากเนื้อเยื่อได้อีกด้วย (ในมนุษย์พบว่าออกซิเจนน้อยกว่า 2% และคาร์บอนไดออกไซด์เกือบทั้งหมด อยู่ในพลาสมา) สารที่ใกล้เคียงกันอย่าง myoglobin ทำหน้าที่เป็นที่เก็บออกซิเจนใน
สีแดงของเลือดมาจากเม็ดเลือดแดง และสีแดงของเม็ดเลือดแดงมาจากหมู่ heme ของ ฮีโมโกลบิน โดยที่พลาสมาเปล่าๆ นั้นมีสีน้ำตาลอ่อน อย่างไรก็ดี สีของเม็ดเลือดแดงอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสถานะของ ฮีโมโกลบิน คือ เมื่อจับกับออกซิเจนจะได้ ซึ่งมีสีแดง และเมื่อไม่จับกับออกซิเจนจะได้ ซึ่งมีสีคล้ำ ซึ่งเมื่อมองผ่านเส้นเลือดจะเห็นมีสีเขียวหรือน้ำเงิน เครื่องมือที่เรียกว่า pulse oxymetry ใช้ข้อมูลนี้ในการวัดปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนในหลอดเลือดแดงจากการเปลี่ยนแปลงของสี ซึ่งมีข้อดีคือสามารถวัดปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนในหลอดเลือดแดงได้โดยไม่ต้องทำการเจาะเส้นเลือด
เม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เม็ดเลือดแดงที่โตเต็มที่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นไม่มีนิวเคลียส นั่นคือไม่มี DNA ในขณะที่เม็ดเลือดแดงของสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่นๆ แทบทุกชนิดต่างมีนิวเคลียสทั้งสิ้น นอกจากนั้นแล้ว เม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยังไม่มีออร์แกเนลล์ ซึ่งรวมถึงไมโทคอนเดรีย และสร้างพลังงานโดยการหมักผ่าน glycolysis ของน้ำตาลกลูโคสทำให้ได้เป็น product นอกจากนั้นแล้ว เม็ดเลือดแดงยังไม่มี ทำให้การนำกลูโคสเข้าเซลล์ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน และเนื่องจากการไม่มีนิวเคลียสและออร์แกเนลล์นี้เอง ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถสร้างโปรตีนโครงร่างใหม่ หรือเอนไซม์ใหม่ได้ จึงมีอายุจำกัด
เม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีลักษณะแบน บุ๋มตรงกลาง หากมองจากด้านข้างจะมีลักษณะคล้ายดัมเบล รูปร่างเช่นนี้ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างเพื่อให้สามารถลอดผ่านหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ได้
ม้ามเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บสำรองของเม็ดเลือดแดง แต่หน้าที่นี้ไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่นักในมนุษย์ ในขณะที่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น เช่น สุนัข หรือม้า ม้ามทำหน้าที่เก็บเม็ดเลือดแดงจำนวนมากไว้สำหรับนำเข้าสู่กระแสเลือดในภาวะกดดันต่างๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้มากขึ้น
เม็ดเลือดแดงของมนุษย์
โดยปกติแล้วเม็ดเลือดแดงของมนุษย์นั้นจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-8 ไมโครเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเซลล์อื่นๆ ของมนุษย์มาก เม็ดเลือดแดงทั่วๆ ไปของมนุษย์จะมีโมเลกุลฮีโมโกลบินอยู่ประมาณ 270 ล้านโมเลกุล แต่ละโมเลกุลมีหมู่ฮีมอยู่สี่หมู่
มนุษย์ที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีเม็ดเลือดแดงอยู่ในร่างกายประมาณ 20-30 ล้านล้านเซลล์ ผู้หญิงจะมีเม็ดเลือดแดงประมาณ 4-5 ล้านเซลล์ต่อไมโครลิตร () ผู้ชายจะมีเม็ดเลือดแดงประมาณ 5-6 ล้านเซลล์ต่อไมโครลิตร และคนที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีความเข้มข้นของออกซิเจนต่ำ เช่น ในที่สูง ก็อาจมีปริมาณเม็ดเลือดแดงมากกว่านี้ได้ เม็ดเลือดแดงเป็นเม็ดเลือดที่พบมากกว่าเม็ดเลือดชนิดอื่นๆ มาก นั่นคือ ในหนึ่งไมโครลิตรของเลือดมนุษย์ จะมีเม็ดเลือดขาวอยู่เพียงประมาณ 4,000-11,000 เซลล์ และมีเกล็ดเลือดอยู่ประมาณ 150,000-400,000 เซลล์ เซลล์เม็ดเลือดแดงทั้งหมดในร่างกายมีธาตุเหล็กอยู่ประมาณ 3.5 กรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณธาตุเหล็กในเนื้อเยื่ออื่นถึงกว่าห้าเท่า
การตรวจสภาพความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count - CBC) จะการตรวจเบื้องต้นเพื่อหาปริมาณของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมทั้งเกล็ดเลือดในร่างกาย ฮีโมโกลบิน (HGB) คือการวัดปริมาณ HGB ในเม็ดเลือดแดง เพื่อประเมินว่ามีภาวะของโลหิตจางหรือไม่ และสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวินิจฉัยโรคอื่นๆ ได้อีกมาก
วงจรชีวิต
กระบวนการการสร้างเม็ดเลือดแดงเรียกว่า erythropoiesis โดยที่เซลล์เม็ดเลือดแดงจะถูกสร้างขึ้นตลอดเวลาในไขกระดูกด้วยอัตราประมาณ 2 ล้านเซลล์ต่อวินาที (ในระยะตัวอ่อน ตับจะเป็นแหล่งสร้างเม็ดเลือดแดงที่สำคัญ) กระบวนการนี้สามารถถูกกระตุ้นได้โดยฮอร์โมน erythropoietin (EPO) ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยไต ฮอร์โมนนี้ถูกใช้เป็นสารกระตุ้นในการแข่งขันกีฬา เซลล์เม็ดเลือดแดงตัวอ่อนที่กำลังจะออกจากไขกระดูกและเพิ่งออกจากไขกระดูกใหม่จะถูกเรียกว่า reticulocyte ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1% ของเซลล์เม็ดเลือดแดงในระบบเลือดทั่วร่างกาย เม็ดเลือดแดงเจริญมาจากเซลล์ต้นกำเนิด () เป็น reticulocyte และเจริญเต็มที่เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงใช้เวลาประมาณเจ็ดวันและจะมีอายุอยู่ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบวัน เซลล์เม็ดเลือดแดงที่หมดอายุแล้วจะมีรูปร่างกลมและจะถูกกินโดย phagocytes เมื่อถูกย่อยแล้ว สารที่เคยประกอบเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงก็จะถูกปล่อยออกมาในเลือด แหล่งสำคัญในการทำลายเม็ดเลือดแดงอยู่ที่ม้าม ส่วน heme ที่เป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินจะถูกขับออกเป็น bilirubin ในที่สุด
ส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ไลปิดบนเยื่อหุ้มเซลล์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โปรตีนบนเยื่อหุ้มเซลล์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนประกอบของไซโทพลาสซึม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เมตาบอลิสมของเซลล์
เมตาบอลิซึม คือกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
- กระบวนการสังเคราะห์พลังงานจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เช่น สังเคราะห์เอากรดอะมิโนกับกลูโคส จากคาร์โบไฮเดรต ซึ่งปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์นี้เรียกว่า โดยมีจะมีการสร้างโมเลกุลใหญ่ๆ ขึ้นมา เช่น โปรตีนกับไกลโคเจน แล้วนำไปเก็บไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อต่างๆ (เก็บสำรองไว้)
- กระบวนการสลาย คือการสลายโมเลกุลใหญ่ในข้อ 1 ที่เก็บสำรองไว้นั้น ให้ไปเป็นโมเลกุลเล็ก เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที พลังงานที่ว่านี้ก็คือเรี่ยวแรงที่นำไปใช้ในการออกกำลังกาย ยืน เดิน นั่ง ต่างๆ นั่นเอง หมายความว่า มีการสำรองไว้ตามข้อ 1 ก่อน จากนั้น เมื่อไรที่ร่างกายต้องการใช้ ก็จะเข้าสู่ข้อ 2 คือสลายของที่ได้จากข้อ 1 เพื่อนำมาเป็นพลังงาน
การแยกส่วนและการให้เลือด
เม็ดเลือดแดงสังเคราะห์
สารที่ในเม็ดเลือดแดงได้รับคืนแก๊สออกซิเจนที่ในร่างกายคนเราได้ถึงในร้อยละ 84.23 ของอัตราหน่วยที่ได้จริงแค่ 45.69 และได้ปรากฏที่ได้เห็นได้ชัดคือหลอดเลือดและผนังหุ้มเลือดและที่สำคัญได้จากการปลูกถ่ายเลือดของอัตราส่วนที่ร่างกายได้รับจริง 45.23
โรคและเครื่องมือวินิจฉัย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
แหล่งข้อมูลอื่นๆ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir emdeluxdaedng xngkvs red blood cell Erythrocyte macakphasakrik ody erythros aeplwa siaedng aeplwa swnewa aela cyte aeplwa esll mihnathiinkarsngthayxxksiecnipeliyngeslltang thwrangkayemdeluxdaedngphaphthaycakklxngculthrrsnxielktrxnkhxngesllemdeluxdaedngkhxngmnusy esnphansunyklangpraman 6 8 imkhrxn raylaexiydhnathikarkhnsngxxksiecntwrabukhayxRBCMeSHD004912H2 00 04 1 01001FMA62845 aekikhbnwikisneths emdeluxdaedngmikhnadpraman 6 8 imkhrxn miniwekhliysinchwngthisrangkhunmaihm aetemuxesllotetmthi niwekhliyscahayip misiaedng enuxngcakphayinmisarhiomoklbin odyinkraaeseluxdkhnpkticaphbemdeluxdaedngthiecriyetibotetmthi Mature red cell miephiyngimekin 2 thisamarthphbemdeluxdaedngtwxxn Reticulocyte idemdeluxdaedngkhxngstwmikraduksnhlngemdeluxdaedngprakxbdwyhiomoklbinsungepn complex molecule thimi epnswnprakxbihxatxmkhxngthatuehlkcbkbxxksiecnephuxsngipthwrangkay odyxxksiecnsamarthaephrphaneyuxhumesllkhxngemdeluxdaedngidxyangxisra nxkcakniaelw hiomoklbin yngcbkbkhxngesiythiepnbangswnklbmacakenuxeyuxidxikdwy inmnusyphbwaxxksiecnnxykwa 2 aelakharbxnidxxkisdekuxbthnghmd xyuinphlasma sarthiiklekhiyngknxyang myoglobin thahnathiepnthiekbxxksiecnin siaedngkhxngeluxdmacakemdeluxdaedng aelasiaedngkhxngemdeluxdaedngmacakhmu heme khxng hiomoklbin odythiphlasmaepla nnmisinatalxxn xyangirkdi sikhxngemdeluxdaedngxacepliynaeplngidkhunxyukbsthanakhxng hiomoklbin khux emuxcbkbxxksiecncaid sungmisiaedng aelaemuximcbkbxxksiecncaid sungmisikhla sungemuxmxngphanesneluxdcaehnmisiekhiywhruxnaengin ekhruxngmuxthieriykwa pulse oxymetry ichkhxmulniinkarwdprimankhwamekhmkhnkhxngxxksiecninhlxdeluxdaedngcakkarepliynaeplngkhxngsi sungmikhxdikhuxsamarthwdprimankhwamekhmkhnkhxngxxksiecninhlxdeluxdaedngidodyimtxngthakarecaaesneluxdemdeluxdaedngkhxngstweliynglukdwynmemdeluxdaedngthiotetmthikhxngstweliynglukdwynmnnimminiwekhliys nnkhuximmi DNA inkhnathiemdeluxdaedngkhxngstwmikraduksnhlngxun aethbthukchnidtangminiwekhliysthngsin nxkcaknnaelw emdeluxdaedngkhxngstweliynglukdwynmyngimmixxraekenll sungrwmthungimothkhxnedriy aelasrangphlngnganodykarhmkphan glycolysis khxngnatalkluokhsthaihidepn product nxkcaknnaelw emdeluxdaedngyngimmi thaihkarnakluokhsekhaesllimxyuphayitkarkhwbkhumkhxnghxromnxinsulin aelaenuxngcakkarimminiwekhliysaelaxxraekenllniexng thaihemdeluxdaedngimsamarthsrangoprtinokhrngrangihm hruxexnismihmid cungmixayucakd emdeluxdaedngkhxngstweliynglukdwynmmilksnaaebn bumtrngklang hakmxngcakdankhangcamilksnakhlaydmebl ruprangechnnithaihesllemdeluxdaedngmikhwamsamarthinkaraelkepliynxxksiecnkbsingaewdlxmiddiyingkhun aelayngsamarthprbepliynruprangephuxihsamarthlxdphanhlxdeluxdfxyelk id mamepnxwywathithahnathiepnaehlngkkekbsarxngkhxngemdeluxdaedng aethnathiniimmiprasiththiphaphetmthinkinmnusy inkhnathiinstweliynglukdwynmchnidxun echn sunkh hruxma mamthahnathiekbemdeluxdaedngcanwnmakiwsahrbnaekhasukraaeseluxdinphawakddntang ephuxihrangkaysamarthsngxxksiecnipeliyngenuxeyuxidmakkhunemdeluxdaedngkhxngmnusyodypktiaelwemdeluxdaedngkhxngmnusynncamikhnadesnphansunyklangpraman 6 8 imokhremtr sungmikhnadelkkwaesllxun khxngmnusymak emdeluxdaedngthw ipkhxngmnusycamiomelkulhiomoklbinxyupraman 270 lanomelkul aetlaomelkulmihmuhimxyusihmu mnusythiecriyetibotetmthiaelwcamiemdeluxdaedngxyuinrangkaypraman 20 30 lanlanesll phuhyingcamiemdeluxdaedngpraman 4 5 laneslltximokhrlitr phuchaycamiemdeluxdaedngpraman 5 6 laneslltximokhrlitr aelakhnthixasyxyuinekhtthimikhwamekhmkhnkhxngxxksiecnta echn inthisung kxacmiprimanemdeluxdaedngmakkwaniid emdeluxdaedngepnemdeluxdthiphbmakkwaemdeluxdchnidxun mak nnkhux inhnungimokhrlitrkhxngeluxdmnusy camiemdeluxdkhawxyuephiyngpraman 4 000 11 000 esll aelamiekldeluxdxyupraman 150 000 400 000 esll esllemdeluxdaedngthnghmdinrangkaymithatuehlkxyupraman 3 5 krm sungmakkwaprimanthatuehlkinenuxeyuxxunthungkwahaetha kartrwcsphaphkhwamsmburnkhxngemdeluxd Complete Blood Count CBC cakartrwcebuxngtnephuxhaprimankhxngemdeluxdaedng emdeluxdkhaw rwmthngekldeluxdinrangkay hiomoklbin HGB khuxkarwdpriman HGB inemdeluxdaedng ephuxpraeminwamiphawakhxngolhitcanghruxim aelasamarthnakhxmulthiidipwinicchyorkhxun idxikmak wngcrchiwit krabwnkarkarsrangemdeluxdaedngeriykwa erythropoiesis odythiesllemdeluxdaedngcathuksrangkhuntlxdewlainikhkradukdwyxtrapraman 2 laneslltxwinathi inrayatwxxn tbcaepnaehlngsrangemdeluxdaedngthisakhy krabwnkarnisamarththukkratunidodyhxromn erythropoietin EPO sungthuksrangkhunodyit hxromnnithukichepnsarkratuninkaraekhngkhnkila esllemdeluxdaedngtwxxnthikalngcaxxkcakikhkradukaelaephingxxkcakikhkradukihmcathukeriykwa reticulocyte sungmixyupraman 1 khxngesllemdeluxdaednginrabbeluxdthwrangkay emdeluxdaedngecriymacakeslltnkaenid epn reticulocyte aelaecriyetmthiepnesllemdeluxdaedngichewlapramanecdwnaelacamixayuxyupramanhnungrxyyisibwn esllemdeluxdaedngthihmdxayuaelwcamiruprangklmaelacathukkinody phagocytes emuxthukyxyaelw sarthiekhyprakxbepnesllemdeluxdaedngkcathukplxyxxkmaineluxd aehlngsakhyinkarthalayemdeluxdaedngxyuthimam swn heme thiepnswnprakxbkhxnghiomoklbincathukkhbxxkepn bilirubin inthisud swnprakxbkhxngeyuxhumesll swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidilpidbneyuxhumesll swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidoprtinbneyuxhumesll swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidswnprakxbkhxngisothphlassum swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidemtabxlismkhxngesll emtabxlisum khuxkrabwnkarthiekidkhunphayinesll sungsamarthcaaenkxxkepn 2 praephthihy iddngni krabwnkarsngekhraahphlngngancakxaharthierarbprathanekhaip echn sngekhraahexakrdxamionkbkluokhs cakkharobihedrt sungptikiriyathiekiywkhxngkbkarsngekhraahnieriykwa odymicamikarsrangomelkulihy khunma echn oprtinkbiklokhecn aelwnaipekbiwthitbaelaklamenuxtang ekbsarxngiw krabwnkarslay khuxkarslayomelkulihyinkhx 1 thiekbsarxngiwnn ihipepnomelkulelk ephuxnaipichepnphlngnganidthnthi phlngnganthiwanikkhuxeriywaerngthinaipichinkarxxkkalngkay yun edin nng tang nnexng hmaykhwamwa mikarsarxngiwtamkhx 1 kxn caknn emuxirthirangkaytxngkarich kcaekhasukhx 2 khuxslaykhxngthiidcakkhx 1 ephuxnamaepnphlngngankaraeykswnaelakariheluxd emdeluxdaedngsngekhraah sarthiinemdeluxdaedngidrbkhunaeksxxksiecnthiinrangkaykhneraidthunginrxyla 84 23 khxngxtrahnwythiidcringaekh 45 69 aelaidpraktthiidehnidchdkhuxhlxdeluxdaelaphnnghumeluxdaelathisakhyidcakkarplukthayeluxdkhxngxtraswnthirangkayidrbcring 45 23orkhaelaekhruxngmuxwinicchyswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb emdeluxdaedng bthkhwamolhitwithyaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk