กัมพูชา (เขมร: កម្ពុជា, กมฺพุชา) ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา (เขมร: ព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា, พฺระราชาณาจกฺรกมฺพุชา) เป็นประเทศตั้งอยู่ในส่วนใต้ของคาบสมุทรอินโดจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร มีพรมแดนทิศตะวันตกติดต่อกับประเทศไทย ทิศเหนือติดกับประเทศไทยและลาว ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดกับเวียดนาม และทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดอ่าวไทย ด้วยประชากรกว่า 15 ล้านคน กัมพูชาเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 66 ของโลก ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งประชากรกัมพูชานับถือมากกว่า 97% ชนกลุ่มน้อยในประเทศมีชาวเวียดนาม ชาวจีน ชาวจาม และชาวเขากว่า 30 เผ่า เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุด คือ พนมเปญ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
ราชอาณาจักรกัมพูชา
| |
---|---|
ที่ตั้งของ ประเทศกัมพูชา (เขียว) ในอาเซียน (เทาเข้ม) — [คำอธิบายสัญลักษณ์] | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | พนมเปญ 11°33′N 104°55′E / 11.550°N 104.917°E |
ภาษาราชการ | เขมร |
ภาษาราชการที่ยอมรับ | |
อักษรราชการ | อักษรเขมร |
กลุ่มชาติพันธุ์ (2019) | |
ศาสนา (2019) |
|
เดมะนิม | |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยโดยเลือกตั้ง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี | |
สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแณต | |
• | สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน |
• | |
สภานิติบัญญัติ | สภาผู้แทนราษฎร |
• สภาสูง | พฤฒสภา |
• สภาล่าง | รัฐสภา |
ก่อตั้ง | |
ค.ศ. 50/68–ค.ศ. 550/627 | |
ค.ศ. 550–802 | |
ค.ศ. 802–1431 | |
• ยุคมืด | ค.ศ. 1431–1863 |
11 สิงหาคม ค.ศ. 1863 | |
• | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1953 |
• จากสหประชาชาติ | 14 ธันวาคม ค.ศ. 1955 |
• | 23 ตุลาคม ค.ศ. 1991 |
• | 24 กันยายน ค.ศ. 1993 |
30 เมษายน ค.ศ. 1999 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 181,035 ตารางกิโลเมตร (69,898 ตารางไมล์) (อันดับที่ 88) |
2.5 | |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2019 | 15,552,211 (อันดับที่ 73) |
87 ต่อตารางกิโลเมตร (225.3 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 96) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 76.635 พันล้านดอลลาร์ |
• ต่อหัว | 4,645 ดอลลาร์ |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 2.6628 หมื่นล้านดอลลาร์ |
• ต่อหัว | 1,614 ดอลลาร์ |
จีนี (ค.ศ. 2013) | 36.0 ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.594 ปานกลาง · อันดับที่ 144 |
สกุลเงิน | เรียล (៛) (KHR) |
เขตเวลา | UTC+7 () |
วว/ดด/ปปปป | |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | |
รหัส ISO 3166 | |
โดเมนบนสุด | .kh |
ราชอาณาจักรกัมพูชาปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี มาจากการเลือกตั้งโดยราชสภาเพื่อราชบัลลังก์ เป็นประมุขแห่งรัฐ ประมุขรัฐบาล คือ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ผู้ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ปกครองกัมพูชามาเป็นระยะเวลากว่า 25 ปี
ใน พ.ศ. 1345 พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ปราบดาภิเษกตนเป็นพระมหากษัตริย์ อันเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวรรดิขะแมร์ อำนาจและความมั่งคังมหาศาลของจักรวรรดิขะแมร์ที่มีพระมหากษัตริย์ครองราชสมบัติสืบต่อกันมานั้นได้มีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลากว่า 600 ปี กัมพูชาถูกปกครองเป็นเมืองขึ้นของประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งถูกฝรั่งเศสยึดเป็นอาณานิคมในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 กัมพูชาได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2496 สงครามเวียดนามได้ขยายเข้าสู่กัมพูชา ทำให้เขมรแดงขึ้นสู่อำนาจ ซึ่งยึดกรุงพนมเปญได้ใน พ.ศ. 2518 ก่อนจะผงาดขึ้นอีกหลายปีให้หลังภายในเขตอิทธิพลสังคมนิยมเป็นสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชากระทั่ง พ.ศ. 2536 ภายหลังสนธิสัญญาสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นการยุติสงครามกับเวียดนามอย่างเป็นทางการ กัมพูชาถูกควบคุมโดยสหประชาชาติในช่วงสั้น ๆ (พ.ศ. 2535-2536) หลังจากหลายปีแห่งการโดดเดี่ยว ชาติซึ่งเสียหายจากสงครามก็ได้รวมเข้าด้วยกันอีกครั้งภายใต้ระบอบราชาธิปไตยในปีเดียวกันนั้นเอง
ในการบูรณะประเทศหลังสงครามกลางเมืองนานหลายทศวรรษ กัมพูชามีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ ประเทศกัมพูชาได้มีหนึ่งในบันทึกเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 6.0% เป็นเวลานาน 10 ปี ภาคสิ่งทอ เกษตรกรรม ก่อสร้าง เสื้อผ้าและการท่องเที่ยวที่เข้มแข็งได้นำไปสู่การลงทุนจากต่างชาติและการค้าระหว่างประเทศ ใน พ.ศ. 2548 มีการพบแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติใต้น่านน้ำอาณาเขตของกัมพูชา การขุดเจาะเชิงพาณิชย์เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2556 รายได้จากน้ำมันสามารถมีผลต่อเศรษฐกิจกัมพูชาอย่างมาก
กัมพูชาเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 รวมถึงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก องค์การการค้าโลก ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และ องค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง ปัญหาหลักของประเทศคือความยากจนการทุจริต การขาดเสรีภาพทางการเมือง อัตราการพัฒนามนุษย์ต่ำ และความอดอยากสูง
นิรุกติศาสตร์
Cambodia และ Kâmpŭchéa (កម្ពុជា ) เป็นชื่อประเทศในภาษาอังกฤษและภาษาเขมรซึ่งทั้งสองคำมาจากการแผลงคำในภาษาฝรั่งเศส Cambodge ซึ่งชาวฝรั่งเศสใช้เรียกดินแดนจักรวรรดิจักรเขมรในยุคโบราณ และชาติตะวันตกอื่น ๆ เริ่มมีการกล่าวถึงชื่อประเทศกัมพูชาตั้งแต่ ค.ศ. 1524 เมื่ออันโตนิโอ พิกาเฟตตา (นักสำรวจชาวอิตาลีที่ติดตามเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน ในการแล่นเรือรอบโลก) มีการอ้างถึงชื่อประเทศกัมพูชาในบันทึกการเดินทางของเขาในชื่อ Camogia และเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนได้เรียกคำนี้ว่า Cambodia
ชาวกัมพูชาส่วนมากนิยมเรียกประเทศตนเองว่า Srok Khmer (ស្រុកខ្មែរ Srŏk Khmêr, ออกเสียงว่า [srok kʰmae]; หมายถึง "ดินแดนแห่งเขมร") และนับตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมเป็นต้นมา ชื่อ Cambodia เป็นที่นิยมใช้โดยทั่วไปในกลุ่มประเทศโลกตะวันตก ในขณะที่ Kampuchea เป็นที่นิยมมากว่าในกลุ่มชาติตะวันออก
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ยุคแรกของกัมพูชา
ความรู้เกี่ยวกับยุคก่อนประวัติศาสตร์ของกัมพูชานั้นมีอยู่น้อยมาก แหล่งโบราณคดีเก่าแก่ที่สุดของกัมพูชาที่ค้นพบในปัจจุบัน คือ ถ้ำ แลง สแปน (Laang Spean) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเชื่อว่าผู้คนเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันเมื่อประมาณ 7,000 ปีก่อนคริสตกาล และแหล่งโบราณคดีสำโรง เซน (Samrong Sen) ซึ่งเชื่อว่าเริ่มมีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อราว 230 ถึง 500 ปีก่อนคริสตกาล
ชาวกัมพูชาเริ่มรู้จักการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกข้าวได้ตั้งแต่เมื่อราว 2,000 ก่อนคริสตกาล สามารถทำเครื่องมือจากเหล็กได้ตั้งแต่ราว 600 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าที่อิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดียจะแผ่นเข้ามาถึงดินแดนแถบนี้ ในราวปีที่ 100 ก่อนคริสตกาล
หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่าพื้นที่หลายส่วนของดินแดนประเทศกัมพูชาในปัจจุบันเริ่มมีผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่เมื่อราวสหัสวรรษแรกและสหัสวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล โดยจัดเป็นวัฒนธรรมยุคหินใหม่ ซึ่งผู้คนกลุ่มนี้อาจอพยพมาจากทางพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ในก่อนช่วงคริสต์ศตวรรษแรก ผู้คนในแถบได้มีวิวัฒนาการสู่การตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง มีการจัดโครงสร้างของสังคมอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาทักษะวิทยาการต่าง ๆ ได้ก้าวหน้ากว่ายุคก่อน ๆ เป็นอย่างมาก กลุ่มที่มีพัฒนาการก้าวหน้าที่สุดอาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่ง ที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง และบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง สามารถเพาะปลูกข้าวและเลี้ยงปศุสัตว์ได้ นักประวัติศาสตร์หลายคนมีความเห็นว่า ผู้คนกลุ่มนี้ได้ตั้งหลักแหล่งอาศัยก่อนหน้าผู้คนในประเทศเพื่อนบ้าน คือ เวียดนาม ไทย และลาว
ผู้คนกลุ่มนี้อาจจัดอยู่ในกลุ่มออสโตรเอเชียติก (Austroasiatic) หรืออย่างน้อยก็มีความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษของมนุษย์กลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ทั่วไปในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาะแก่งต่าง ๆ ของมหาสมุทรแปซิฟิกในปัจจุบัน ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ในงานโลหะ เช่นเหล็กและสำริด โดยเป็นเป็นทักษะที่คิดค้นขึ้นเอง งานวิจัยในปัจจุบันได้ค้นว่า ชาวกัมพูชาในยุคนี้สามารถปรับปรุงสภาพภูมิประเทศมาตั้งแต่ยุคหินใหม่ โดยปรากฏรูปแบบเป็นพื้นที่รูปวงกลมขนาดใหญ่
อาณาจักรฟูนัน
อาณาจักรฟูนันเป็นรัฐที่รุ่งเรืองอยู่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1 – 6 ที่ตั้งของรัฐอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งประเทศกัมพูชา เวียดนามตอนใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย บางตอนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และภาคใต้ของไทย ลงมาถึงแหลมมลายู ฟูนานรวมตัวกันเป็นรัฐแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรัฐชลประทานภายในแผ่นดินที่ประชาชนดำรงชีพด้วยการเกษตร โดยใช้น้ำจากระบบชลประทานที่พัฒนาเป็นอย่างดี นอกจากนั้น ฟูนานยังมีเมืองท่าสำหรับจอดเรือและค้าขายต่างประเทศ ฟูนาน จึงมีรายได้จากการค้าขาย การเดินเรืออีกด้วย
เรื่องราวของรัฐฟูนาน ทราบจากบันทึกของชาวจีนที่เดินทางมาแถบนี้ ได้เขียนเล่าถึงความมั่งคั่ง ความเป็นอยู่ในชุมชนที่มีระเบียบ มีคุณธรรม มีการปกครองระบอบกษัตริย์ มีเมืองต่าง ๆ มาขึ้นด้วยหลายเมือง มีวัฒนธรรมแท้ ๆ ของตนเอง มีการติดต่อกับชาวต่างประเทศ ทั้งในทวีปเอเชียด้วยกัน และโลกตะวันตก ชนชั้นสูงเป็นพวกมาลาโยโพลีนีเซียน ชาวจีนว่าพวกชนชั้นพื้นเมืองของฟูนันหน้าตาน่าเกลียด ตัวเล็ก ผมหยิก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกเนกริโตและเมลานีเซียน ฟูนานมีประวัติความเป็นมา เริ่มจากการรวมตัวกันของผู้คน เป็นชุมชนเล็กขนาดหมู่บ้าน จากหมู่บ้านพัฒนาขึ้นมาเป็นรัฐ วิธีการพัฒนาจากสังคมเผ่าเป็นสังคมรัฐมีปัจจัยและขั้นตอนหลายประการ
อาณาจักรเจนละ (อาณาจักรอิศานปุระ)
ในระหว่าง พ.ศ. 1170-1250 นั้นอาณาจักรเขมรโบราณมีกษัตริย์ครองราชย์คือ พระเจ้าภววรมันที่ 2 พระโอรสของพระเจ้าอีศานวรมันที่ 2 และพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 โอรสของพระเจ้าภววรมันที่ 2 ยุคนี้ได้สร้างศิลปเขมรแบบไพรกเมง ขึ้นระหว่างพ.ศ. 1180-1250 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 นั้นอาณาจักรเจนฬา (เจนละ) นั้นได้แตกแยกเป็นพวกเจนละบกคืออยู่ลุ่มน้ำโขงตอนใต้ และพวกเจนละน้ำ อยู่ในดินแดนลาวตอนกลาง พ.ศ. 1250-1350 ยุคนี้ได้มีการสร้างศิลปเขมรแบบกำพงพระขึ้น
อาณาจักรเขมรโบราณนั้นล่มสลายมาจนถึงรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 หรือพระเจ้าปรเมศวร พ.ศ. 1345-1393 พระองค์ได้รวบรวมพวกเจนละบกและพวกเจนละน้ำเป็นอาณาจักรใหม่โดยรับเอาลัทธไศเลนทร์หรือ เทวราชาเข้ามาทำการสถานปนาอาณาจักรใหม่ขึ้น โดยทำการสร้างราชธานีขึ้นใหม่หลายแห่งและสร้างปราสาทหินหรือเทวาลัยเป็นการใหญ่ ซึ่งมีเหตุการณ์ย้ายราชธานีขึ้นหลายครั้งจนกว่าจะลงตัวที่เมืองหริหราลัยราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรเขมร ต่อมาคือ เมืองยโศธรปุระ และ เมืองนครธมในที่สุด ด้วยเหตุนี้อาณาจักรเขมรสมัยนี้จึงรุ่งเรืองด้วยการสร้างราชธานีขึ้นหลายแห่งและมีปราสาทหินที่เป็นศิลปะเขมรเกิดขึ้นหลายแบบ กล่าวคือ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 นั้นพระองค์ได้ทำการสร้างเมืองอินทรปุระเป็นราชธานี ขึ้นที่บริเวณใกล้เมืองกำแพงจาม สร้างเมืองหริหราลัยหรือร่อลวย เป็นราชธานี สร้างเมืองอมเรนทรปุระ เป็นราชธานี และสร้างเมืองมเหนทรบรรพต หรือ พนมกุเลนเป็นราชธานี ยุคนี้ได้สร้างศิลปเขมรแบบกุเลนขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1370-1420
เมื่อสิ้นรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระโอรสได้ครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 3 หรือ พระเจ้าวิษณุโลก ครองราชย์ พ.ศ. 1393-1420 พระองค์ได้กลับมาใช้เมืองหริหราลัยหรือร่อลอย เป็นราชธานี ต่อมาจนถึงรัชกาลพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้าอิศวรโลก ครองราชย์ พ.ศ. 1420-1432 ยุคนี้ได้สร้างศิลปะเขมรแบบพระโคขึ้นในพ.ศ. 1420-1440
ในสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้าบรมศิวโลก พระโอรสของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ซึ่งครองราชย์เป็นกษัตริย์เขมรในพ.ศ. 1432-1443 นั้น พระองค์ได้สร้างเมืองยโศธรปุระหรือเมืองพระนครแห่งแรกขึ้นที่เขาพนมบาเค็ง เมื่อ พ.ศ. 1436 ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือทะเลสาบเมืองเสียมราฐ เมืองนี้คนไทยเรียก เสียมราฐ การสร้างปราสาทหินขึ้นบนเขาพนมบาเค็งนั้น เป็นอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูที่แผ่อิทธิพลเข้ามายังดินแดนแถบนี้ ซึ่งถูกสมมติขึ้นเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อนั้น นับเป็นศิลปะเขมรแบบบาเค็ง
เมืองยโศธรปุระ ราชธานีแห่งนี้มีกษัตริย์ครองราชย์ต่อมาคือ พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้ารุทรโลก พระโอรสของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ. 1443-1456 และพระเจ้าอีศานวรมันที่ 2 หรือพระเจ้าบรมรุทรโลก พระอนุชาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ. 1456-1468 จึงเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแผ่นดิน
ในที่สุดพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 หรือพระเจ้าบรมศิวบท ซึ่งเป็นน้องเขยของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อาณาจักรเขมรใน พ.ศ. 1471-1485 พระองค์ได้สร้างราชธานีขึ้นที่เมืองโฉกการยกยาร์หรือเกาะแกร์ และพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2หรือพระเจ้าพรหมโลก พระโอรสขององค์ได้ครองราชย์ต่อมาระหว่าง พ.ศ. 1485-1487 ยุคนี้ได้สร้างศิลปะเขมรแบบเกาะแกร์ พ.ศ. 1465-1490 ต่อมาพระเจ้าราเชนทรวรมัน หรือพระเจ้าศิวโลก พระนัดดาของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ได้ครองราชย์ใน พ.ศ. 1487-1511 ได้ย้ายราชธานีมาที่เมืองยโศธรปุระ หรือเมืองพระนครแห่งแรก ยุคนี้ได้สร้างศิลปะเขมรแบบแปรรูป พ.ศ. 1490-1510
เมืองยโศธรปุระ ราชธานีเก่าแห่งนี้มีกษัตริย์ครองราชย์ต่อมาหลายพระองค์ ได้แก่
- พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 หรือพระบรมวีรโลก ซึ่งเป็นพระนัดดาของพระเจ้าราเชนทรวรมัน ครองราชย์ พ.ศ. 1511-1544 สมัยนี้สร้างศิลปะเขมรแบบบันทายศรี พ.ศ. 1510-1550 ขึ้น
- พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 พระนัดดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ครองราชย์ พ.ศ. 1544 สร้างศิลปะเขมรแบบคลังขึ้น พ.ศ. 1510-1560
- พระเจ้าชัยวีรวรมัน ครองราชย์ พ.ศ. 1545 (สวรรคต พ.ศ. 1553)
- พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ. 1545-1593สมัยนี้พระองค์ได้ทำการสถาปนาราชวงศ์ขึ้นใหม่ และน่าจะมีการสร้างเมืองพระนครขึ้นใหม่เป็นแห่งที่สองเป็นยุคที่สร้างศิลปแบบปาบวนขึ้นใช้ใน พ.ศ. 1560-1630 เมืองพระนครแห่งที่สองนี้ ยังไม่มีรายละเอียด จึงสรุปไม่ได้ว่าอยู่ที่ใด
ในดินแดนพายัพนั้น เดิมหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมดเป็นถิ่นที่อยู่ของชนชาติลาว ครั้นเมื่อเขมรมีอำนาจขยายอาณาจักรมาสู่ดินแดนพายัพ จึงตั้งเมืองละโว้ให้เจ้านครเขมรคอยดูแล และพระนางจามเทวีพระธิดาของเจ้าผู้ครองเมืองละโว้ได้ขึ้นไปครองเมืองหริภุญชัย (เมืองลำพูน) ซึ่งเป็นเมืองลูกหลวงของเขมรละโว้ พระธิดาเจ้าผู้ครองเมืองนี้จึงได้ปกครองพวกลาวทั้งปวงในมณฑลพายัพ เมืองหริภุญชัย (เมืองลำพูน) จึงเป็นเมืองลูกหลวงของเขมรละโว้ ที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้ดูแลดินแดนพายัพ ต่อมาได้ตั้งเมืองนครเขลางค์ (เมืองลำปาง) ขึ้นและปกครองร่วมกัน
จักรวรรดิเขมร
จักรวรรดิขแมร์ หรือ อาณาจักรเขมรโบราณ หรือบางแหล่งเรียกว่า อาณาจักรขอม เป็นหนึ่งในอาณาจักรโบราณ เริ่มต้นขึ้น ราวพุทธศตวรรษที่ 6 โดยเริ่มจากอาณาจักรฟูนัน มีที่ตั้งอยู่ในบริเวณประเทศกัมพูชา โดยมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ ประเทศไทย ลาว และบางส่วนของเวียดนามในปัจจุบัน นับเป็นอาณาจักรที่มีแสนยานุภาพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมาได้อ่อนกำลังลงจนเสียดินแดนบางส่วนให้กับอาณาจักรสุโขทัยและแตกสลายในที่สุดเมื่อตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรอยุธยา อาณาจักรเขมรสืบทอดอำนาจจากอาณาจักรเจนฬา มีสงครามผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะกับอาณาจักรข้างเคียง เช่น อาณาจักรล้านช้าง อาณาจักรอยุธยา และอาณาจักรจามปา มรดกที่สำคัญที่สุดของอาณาจักรเขมรคือ นครวัด และ นครธม ซึ่งเคยเป็นนครหลวงเมื่อครั้งอาณาจักรแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุด และยังมีลัทธิความเชื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ศาสนาหลักของอาณาจักรนี้ได้แก่ ศาสนาฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาทซึ่งได้รับจากศรีลังกา เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13
ยุคมืดของกัมพูชา
ยุคมืดของกัมพูชา เริ่มตั้งแต่อาณาจักรอยุธยาได้โจมตีอาณาจักรเขมร และ ได้เผา พระนคร เมืองหลวงของอาณาจักรเขมร ราบเป็นหน้ากลอง ทำให้อาณาจักรเขมรเป็นส่วนหนึ่งของสยามประเทศตั้งแต่บัดนั้นมา เขมรเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในฐานะดินแดนประเทศราช อาณาจักรอยุธยาปกครองเขมรเป็นเวลาเกือบ 400 ปี ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์เขมรตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิสยามอย่างเข้มงวด ในสมัยรัชกาลที่3 ได้เกิด สงครามอานามสยามยุทธทำให้กัมพูชาเป็นรัฐอารักขาระหว่างสยามกับญวณ ก่อนที่จะตกเป็นของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
อาณานิคมของฝรั่งเศส
กัมพูชาตกเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสตามเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2406 ในสมัยพระนโรดม โดยสยามพยามยามคัดค้านแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ในช่วงแรก ฝรั่งเศสปกครองกัมพูชาโดยไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการภายในมากนัก และช่วยค้ำจุนราชบัลลังก์ของกัมพูชา โดยช่วยปราบกบฏต่าง ๆ จน พ.ศ. 2426 - 2427 หลังจากยึดครองเวียดนามได้ทั้งหมด โดยพยายามลิดรอนอำนาจของกษัตริย์และยกเลิกระบบไพร่ทาส ทำให้เกิดการต่อต้านจากประชาชนอย่างรุนแรง จนต้องเจรจากับพระนโรดม กษัตริย์ในขณะนั้น ให้ประกาศสันติภาพ และระงับการแทรกแซงกัมพูชา จนกระทั่งพระนโรดมสวรรคต ฝรั่งเศสได้สนับสนุนให้พระสีสุวัตถ์ขึ้นเป็นกษัตริย์ พร้อมทั้งมอบอำนาจการปกครองทั้งหมดให้ฝรั่งเศส หลังจากฝรั่งเศสเข้าปกครองกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2406 ฝรั่งเศสเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจในเวียดนาม โดยปรับปรุงการเก็บภาษี ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ชาวกัมพูชา และยังนำชาวเวียดนามเข้ามาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในระบบราชการของฝรั่งเศส และเป็นแรงงานทางด้านเกษตรกรรม
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงกลางปี พ.ศ. 2484 กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนเข้าสู่กัมพูชาแต่ยอมให้รัฐบาลวิชีปกครองดังเดิม รัฐบาลไทยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามได้เรียกร้องดินแดนบางส่วนในลาวและกัมพูชาคืนจากฝรั่งเศสจนนำไปสู่กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสที่เริ่มขึ้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ในที่สุด ญี่ปุ่นเข้ามาไกล่เกลี่ยโดยที่ไทยได้จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐและบางส่วนของจังหวัดสตึงแตรง ยกเว้นปราสาทนครวัดยังอยู่ในเขตแดนของฝรั่งเศส พระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์กษัตริย์กัมพูชาสิ้นพระชนม์หลังกรณีพิพาทนี้ไม่นาน ฝรั่งเศสเลือกพระนโรดม สีหนุขึ้นเป็นกษัตริย์ทั้งที่ยังทรงพระเยาว์ ต่อมา ญี่ปุ่นได้สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2488 กัมพูชาได้ประกาศเอกราชภายใต้วงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพาของญี่ปุ่น โดยมีพระนโรดม สีหนุเป็นประมุขรัฐ หลังจากญี่ปุ่นยอมแพ้เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้ามาในพนมเปญ สถาปนาอำนาจของฝรั่งเศสในกัมพูชาอีก
รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะรวมอินโดจีนเข้ากับสหภาพฝรั่งเศส ในพนมเปญ พระนโรดม สีหนุพยายามเจรจากับฝรั่งเศสเพื่อเรียกร้องเอกราชที่สมบูรณ์ ในขณะที่กลุ่มต่อต้านที่เรียกตนเองว่าเขมรอิสระ ได้ใช้การสู้รบแบบกองโจรตามแนวชายแดน โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มฝ่ายซ้ายทั้งที่นิยมและไม่นิยมเวียดนาม รวมทั้งกลุ่มเขมรเสรีซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ของเซิง งอกทัญด้วย ใน พ.ศ. 2489 ฝรั่งเศสยอมให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองในกัมพูชา และให้มีการเลือกตั้งภายในประเทศ พระนโรดม สีหนุยังคงต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชให้กัมพูชาเป็นอิสระจากสหภาพฝรั่งเศส จนฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง จึงยอมมอบเอกราชให้แก่กัมพูชา
ราชอาณาจักรกัมพูชาหลังเอกราช
หลังการประชุมเจนีวาได้มีการเลือกตั้งขึ้นในประเทศกัมพูชาใน พ.ศ. 2498 โดยมีคณะกรรมการควบคุมนานาชาติเป็นผู้สังเกตการณ์ ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2498 พระนโรดม สีหนุได้ประกาศสละราชสมบัติให้พระบิดาของพระองค์คือพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต และทรงตั้งพรรคการเมืองขึ้นคือพรรคสังคมราษฎร์นิยมหรือระบอบสังคม สมาชิกส่วนใหญ่เป็นฝ่ายขวา ซึ่งต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วยความรุนแรง แต่ก็มีสมาชิกฝ่ายซ้ายภายในพรรค เช่น เขียว สัมพัน ฮู ยวน เพื่อถ่วงดุลกับฝ่ายขวา การเลือกตั้งในเดือนกันยายน พ.ศ. 2498 พรรคสังคมชนะการเลือกตั้งโดยได้ 83% ของที่นั่งทั้งหมดในสภา
นอกจากนั้น พระนโรดม สีหนุ ยังดำเนินนโยบายที่จะดึงฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวากลุ่มต่าง ๆ ให้เข้าร่วมกับระบอบสังคมของพระองค์ และกดดันผู้ที่ไม่ยอมเข้าร่วมกับพระองค์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2503 เป็นต้นไป องค์กรที่ต่อต้านระบอบของพระนโรดม สีหนุถูกผลักดันให้กลายเป็นองค์กรใต้ดิน พรรคที่เป็นเอกเทศของฝ่ายซ้าย เช่น กรมประชาชนกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี สถานีวิทยุแห่งชาติได้ออกประกาศว่ากรมประชาชนเป็นหุ่นเชิดของเวียดนาม มีการติดโปสเตอร์ต่อต้านกรมประชาชนโดยทั่วไป หนังสือพิมพ์ของฝ่ายต่อต้านพระองค์ เช่น หนังสือพิมพ์ l'Observateur และหนังสือพิมพ์อื่นที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันถูกสั่งปิดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2506 พระนโรดม สีหนุได้ประกาศชื่อของฝ่ายซ้ายจำนวน 34 คน ว่าเป็นพวกขี้ขลาด หลอกลวง ก่อวินาศกรรม หัวหน้ากบฏ และเป็นคนทรยศ ผลที่ตามมาทำให้ขบวนการฝ่ายซ้ายต้องออกจากเมืองหลวงไปตั้งมั่นในชนบท
การดำเนินนโยบายต่างประเทศของพระนโรดม สีหนุ เป็นการดำเนินนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่มีแนวโน้มเป็นปฏิปักษ์กับไทยและเวียดนามใต้ ในขณะที่เป็นมิตรกับจีนและสนับสนุนเวียดนามเหนือในสงครามเวียดนาม กัมพูชาในสมัยนี้มีกรณีพิพาทกับไทย ทั้งกรณีพิพาทเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร และการกวาดล้างชาวไทยเกาะกงในจังหวัดเกาะกง การปกครองระบอบสังคมของพระองค์สิ้นสุดลงเมื่อถูกรัฐประหาร โดยลน นล เมื่อ พ.ศ. 2513 ซึ่งได้จัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรขึ้นแทน พระนโรดม สีหนุต้องลี้ภัยไปจัดตั้งรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาพลัดถิ่น ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
สาธารณรัฐเขมรและสงคราม
สงครามกลางเมืองกัมพูชา เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (เขมรแดง) สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (เวียดนามเหนือ) และเวียดกงฝ่ายหนึ่งกับรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเวียดนาม (เวียดนามใต้) อีกฝ่ายหนึ่ง
สงครามนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้นจากอิทธิพลและการกระทำของพันธมิตรคู่สงคราม การเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องของกองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) เป็นไปเพื่อป้องกันฐานที่มั่นทางตะวันออกของกัมพูชา ซึ่งหากเสียไปการดำเนินความพยายามทางทหารในเวียดนามใต้จะยากขึ้น หรัฐประหาร 18 มีนาคม พ.ศ. 2513 ทำให้รัฐบาลนิยมอเมริกาและต่อต้านเวียดนามเถลิงอำนาจ และยุติความเป็นกลางในสงครามเวียดนาม กองทัพเวียดนามเหนือจึงถูกคุกคามจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาใหม่ที่ไม่เป็นมิตรทางตะวันตก และกองกำลังสหรัฐและเวียดนามใต้ในเวียดนามทางตะวันออก
หลังจากการสู้รบผ่านไป 5 ปี รัฐบาลฝ่ายสาธารณรัฐเขมรพ่ายแพ้เมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2518 และเขมรแดงได้ประกาศตั้งกัมพูชาประชาธิปไตย ความขัดแย้งนี้แม้จะเป็นการสู้รบในประเทศ แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเวียดนาม (พ.ศ. 2502 – 2518) และมีความเกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างราชอาณาจักรลาว เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ สงครามกลางเมืองนี้นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชา
กัมพูชาประชาธิปไตยและเขมรแดง
กัมพูชาประชาธิปไตย (อังกฤษ: Democratic Kampuchea; ฝรั่งเศส: Kampuchea démocratique; เขมร: កម្ពុជាប្រជាធិបតេយ្យ อ่านว่า ก็อมปูเจียประเจียทิปะเต็ย) คือชื่อของประเทศกัมพูชาระหว่างปี พ.ศ. 2519 - พ.ศ. 2522 ซึ่งเกิดจากการโค่นล้มรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรของนายพลลอลนอล และได้จัดปกครองในรูปแบบรัฐคอมมิวนิสต์โดยพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาหรือเขมรแดง ในสมัยนี้องค์กรของรัฐบาลจะถูกอ้างถึงในชื่อ "อังการ์เลอ" (เขมร: អង្គការលើ; องฺคการเลี - องค์การบน หรือ หน่วยเหนือ) ส่วนพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชานั้น แกนนำของพรรคให้เรียกชื่อว่า "อังการ์ปะเดะวัด" (เขมร: អង្គការបដិវត្ត; องฺคการปฏิวัตฺติ - องค์การปฏิวัติ) โดยผู้นำสูงสุดของประเทศที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดคือนายพล พต ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของเขมรแดงด้วย
ในปี พ.ศ. 2522 กองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาภายใต้การนำของเฮง สัมริน และกองทัพเวียดนามได้รุกเข้ามาทางชายแดนตอนใต้ของกัมพูชาและสามารถโค่นล้มรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยได้สำเร็จ พร้อมทั้งได้จัดการปกครองประเทศใหม่ในชื่อ สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา กองทัพเขมรแดงจึงได้ถอยร่นไปตั้งมั่นในทางภาคเหนือของประเทศและยังคงจัดรูปแบบการปกครองตามระบบของกัมพูชาประชาธิปไตยเดิมต่อไป
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา (อังกฤษ: People's Republic of Kampuchea; PRK; เขมร: សាធារណរដ្ឋប្រជាមានិតកម្ពុជា สาธารณรฏฺฐปฺรชามานิตฺกมฺพูชา) เป็นรัฐบาลที่จัดตั้งในกัมพูชาโดยแนวร่วมสามัคคีประชาชาติกู้ชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นกลุ่มของกัมพูชาฝ่ายซ้ายที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มของเขมรแดง ล้มล้างรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของพล พต โดยร่วมมือกับกองทัพของเวียดนาม ทำให้เกิดการรุกรานเวียดนามของกัมพูชา เพื่อผลักดันกองทัพเขมรแดงออกไปจากพนมเปญ มีเวียดนามและสหภาพโซเวียตเป็นพันธมิตรที่สำคัญ
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาไม่ได้เป็นสมาชิกของสหประชาชาติเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากจีน อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ที่นั่งในสหประชาชาติของประเทศกัมพูชาในขณะนั้นเป็นของแนวร่วมเขมรสามฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลผสมกัมพูชาประชาธิปไตย ซึ่งกลุ่มเขมรแดงของพล พตเข้าร่วมกับกลุ่มที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์อีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของนโรดม สีหนุ และซอน ซาน อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาได้ประกาศเป็นรัฐบาลของกัมพูชาระหว่าง พ.ศ. 2522-2536 โดยมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศที่จำกัด
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเปลี่ยนชื่อเป็นรัฐกัมพูชา (อังกฤษ: State of Cambodia (SOC); เขมร: រដ្ឋកម្ពុជា) ในช่วงสี่ปีสุดท้าย เพื่อให้เกิดการยอมรับในระดับนานาชาติ ในขณะเดียวกันได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระบบจากระบบรัฐเดียวไปสู่การฟื้นฟูราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ในช่วง พ.ศ. 2522 - 2534 โดยนิยมลัทธิมากซ์-เลนินแบบสหภาพโซเวียต การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศกำลังอ่อนแอ จากการทำลายล้างของระบอบเขมรแดง และเป็นรัฐหุ่นเชิดของเวียดนามที่เข้ามาแทรกแซงทางเศรษฐกิจ จนรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป็นรัฐที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแต่ก็ฟื้นฟูและสร้างชาติกัมพูชาได้ใหม่
กัมพูชายุคใหม่
หลังการล่มสลายของกัมพูชาประชาธิปไตย กัมพูชาตกอยู่ภายใต้การรุกรานของเวียดนามและรัฐบาลที่นิยมฮานอยซึ่งก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา สงครามกลางเมืองหลัง พ.ศ. 2523 เป็นการสู้รบระหว่างกองทัพประชาชนปฏิวัติกัมพูชาของรัฐบาลกับแนวร่วมเขมรสามฝ่ายซึ่งถือเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นของกลุ่มต่างๆสามกลุ่มคือ พรรคฟุนซินเปกของพระนโรดม สีหนุ พรรคกัมพูชาประชาธิปไตยหรือเขมรแดง และแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร มีการเจรจาสันติภาพตั้งแต่ พ.ศ. 2532 และนำไปสู่การประชุมสันติภาพที่ปารีสเพื่อสงบศึกใน พ.ศ. 2534 ในที่สุดมีการจัดการเลือกตั้งโดยสหประชาชาติใน พ.ศ. 2536 เพื่อเริ่มต้นฟื้นฟูประเทศ พระนโรดม สีหนุกลับมาเป็นกษัตริย์อีกครั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากมีการเลือกตั้งโดยปกติใน พ.ศ. 2541 การเมืองมีความมั่นคงขึ้น หลังการล่มสลายของเขมรแดง ใน พ.ศ. 2541
การฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์
ในปี พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุได้รับอัญเชิญให้เสด็จกลับกัมพูชาและได้มีการฟื้นฟูในฐานะพระมหากษัตริย์ของกัมพูชา แต่อำนาจทั้งหมดอยู่ในมือของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นหลังจากการเลือกตั้งที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNTAC เสถียรภาพที่เกิดขึ้นหลังจากความขัดแย้งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2540 โดยการทำรัฐประหารซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนร่วมกับพรรคที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ในรัฐบาล หลังจากที่รัฐบาลสามารถรักษาเสถียรภาพภายใต้การบริหารของสมเด็จฮุนเซนแล้วกัมพูชาก็ได้รับการยอมรับเข้าสู่สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2542 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความพยายามในการฟื้นฟูได้ก้าวหน้าและนำไปสู่ความมั่นคงทางการเมืองผ่านประชาธิปไตยระบบการเมืองหลายพรรคภายใต้ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ แม้ว่าการปกครองของฮุนเซนจะถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการคอรัปชั่น, พลเมืองกัมพูชาส่วนใหญ่ในช่วงปี 2000 ยังคงได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล การสัมภาษณ์ชาวเขมรในชนบทในปี 2551 แสดงให้เห็นว่าสถานะที่มั่นคงต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นอย่างรุนแรง
การเมืองการปกครอง
สภาพการเมืองในกัมพูชาปัจจุบันถือว่ามีเสถียรภาพ พรรคการเมืองสองพรรคหลักซึ่งประกอบขึ้นเป็นรัฐบาลกัมพูชา คือ พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของสมเด็จฮุน เซน และพรรคฟุนซินเปก (FUNCINPEC) ของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ สามารถร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านบริหารและด้านนิติบัญญัติ รวมทั้งมีท่าทีที่สอดคล้องกันเป็นส่วนใหญ่ในประเด็นทางการเมืองสำคัญ ๆ ของประเทศ อาทิ เรื่องการนำตัวอดีตผู้นำเขมรแดงมาพิพากษาโทษ เป็นต้น
กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยังไม่มีความเข้มแข็งมากพอ และคงสามารถทำได้เพียงแต่สร้างผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล โดยในทางการเมือง พรรคสม รังสี พรรคการเมืองฝ่ายค้านหนึ่งเดียวในสภาแห่งชาติกัมพูชา ได้เคลื่อนไหวตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลกัมพูชาอย่างแข็งขัน พยายามชี้ให้สาธารณชนและนานาชาติ เห็นถึงการทุจริตและประพฤติมิชอบของรัฐบาล รวมทั้งการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและของพรรค อย่างไรก็ดี ในด้านความมั่นคง มีปรากฏการณ์ใหม่ คือ ได้เกิดกลุ่มติดอาวุธที่มีวัตถุประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน ที่สำคัญคือ Cambodian Freedom Fighters (CFF) ซึ่งมีชาวกัมพูชาสัญชาติอเมริกันเป็นหัวหน้า กลุ่มดังกล่าวได้ก่อการร้ายขึ้นในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 แต่รัฐบาลกัมพูชาสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และอยู่ระหว่างกระบวนการพิพากษาตัวผู้กระทำผิด
รัฐบาล
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาถือเป็นหัวหน้าฝ้ายบริการในพระราชอาณาจักรกัมพูชา ส่วนองค์พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา (ปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี) ทรงเป็นประมุขของรัฐ นายกรัฐมนตรีได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ตามคำแนะนำและโดยความเห็นชอบของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะใช้อำนาจบริหารประเทศ
ในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชามีทั้งสิ้น 36 คน โดยมี สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแณต เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 36 แห่งพระราชอาณาจักร ต่อจากสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน
พระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์ในพระราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ องค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขที่เคารพสักการะ ไม่มีพระราชอำนาจปกครองโดยตรง ทรงยึดถือหลัก "ให้ทรงปกเกล้า แต่ไม่ทรงปกครอง" คล้ายกับระบบพระมหากษัตริย์ในสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ อย่างเป็นทางการและเป็นสัญลักษณ์แห่งสัญลักษณ์ของสันติภาพ เสถียรภาพและสวัสดิภาพของชาติและชาวเขมร ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของกัมพูชา
สถาบันพระมหากษัตริย์กัมพูชาถือเป็นสถาบันที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในทวีปเอเชียรองจากญี่ปุ่น (จักรพรรดิญี่ปุ่น) พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 114 (รัชกาลที่ 114) ทรงสืบพระราชสันตติวงศ์มาจากราชวงศ์วรมัน
การสืบราชสันตติวงศ์
ระบบกษัตริย์ของกัมพูชาไม่เหมือนกับระบบกษัตริย์ส่วนใหญ่ในประเทศอื่น ๆ ที่ราชบัลลังก์จะตกไปสู่ผู้มีลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ลำดับถัดไป (ผู้ที่มีศักดิ์สูงสุดในราชวงศ์ หรือพระราชโอรสองค์โตของกษัตริย์พระองค์ก่อน เป็นต้น) และพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถเลือกผู้ที่จะมาสืบราชสันตติวงศ์ได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์องค์ใหม่นั้นคือ กรมปรึกษาราชบัลลังก์ (Royal Council of the Throne) ซึ่งมีสมาชิกดังนี้
- นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
- ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
- ประธานพฤฒสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
- รองประธานรัฐสภาคนที่หนึ่ง
- รองประธานรัฐสภาคนที่สอง
- รองประธานพฤฒสภาคนที่หนึ่ง
- รองประธานพฤฒสภาคนที่สอง
- สมเด็จพระสังฆราชในศาสนาพุทธ ฝ่ายคณะสงฆ์มหานิกาย
- สมเด็จพระสังฆราชในศาสนาพุทธ ฝ่ายคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย
กรมปรึกษาราชบัลลังก์จะจัดการประชุมในสัปดาห์ที่พระมหากษัตริย์สวรรคตหรือไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ต่อไป และเลือกพระมหากษัตริย์องค์ใหม่จากรายชื่อผู้มีสิทธิ์สืบราชสันตติวงศ์ และเป็นสมาชิกราชวงศ์
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพระราชอาณาจักรกัมพูชาได้ถูกบริหารจัดการโดยภายใต้การดูแลของ ฯพณฯ ท่าน
พระราชอาณาจักรกัมพูชายังเป็นประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ, ธนาคารโลก, และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นประเทศสมาชิกของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน), และได้เข้าร่วมองค์การการค้าโลก ในปี ค.ศ. 2004 และในปี ค.ศ. 2005 กัมพูชาได้เข้าร่วมประชุมพิธีการสถาปนา การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ได้จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย
กัมพูชาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศและได้มีสถานทูตต่างประเทศ 20 แห่งในประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียหลายประเทศและประเทศที่มีบทบาทสำคัญในระหว่างการเจรจาสันติภาพที่ปารีสรวมถึงสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, สหภาพยุโรป (EU),ญี่ปุ่นและรัสเซีย อันเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทำให้องค์กรการกุศลต่าง ๆ ได้ช่วยเหลือโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม,เศรษฐกิจและวิศวกรรมโยธา
ในขณะที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ได้ผ่านไปแล้วข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่ มีความขัดแย้งในหมู่เกาะนอกชายฝั่งและบางส่วนของเขตแดนกับเวียดนามและเขตแดนทางทะเลที่ไม่ได้กำหนด กัมพูชาและไทยก็มีปัญหาความขัดแย้งชายแดนด้วยการปะทะทางการทหารในกรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชาในปี ค.ศ. 2008 ที่เกิดขึ้นใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร นำไปสู่การเสื่อมสภาพในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย
กองทัพ
กองทัพพระราชอาณาจักรกัมพูชา มีชื่อทางการว่า (กองยุทธพลเขมรภูมินท์) ประกอบไปด้วย กองทัพบกกัมพูชา, กองทัพเรือกัมพูชา, กองทัพอากาศกัมพูชาและกองราชอาวุธหัตถ์ จัดตั้งโดยอยู่ภายใต้คำสั่งของ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและมีองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งก็คือ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหมุนีทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพและมีนายกรัฐมนตรีสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด
การริเริ่มโครงสร้างการบังคับบัญชาที่ได้รับการปรับปรุงในต้นปี ค.ศ. 2000 เป็นการนำเสนอที่สำคัญสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรทหารกัมพูชา สิ่งนี้เห็นว่ากระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานย่อยสามแห่งที่รับผิดชอบด้านโลจิสติกส์และการเงินวัสดุและบริการด้านเทคนิคและบริการด้านการป้องกันภายใต้กองบัญชาการสูงสุด (HCHQ)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคือ สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บัญ เตียบัญได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979
ในปี ค.ศ. 2010 กองกำลังทหารกัมพูชาประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่ประจำการประมาณ 102,000 คน (200,000 กองพลสำรอง) ยอดการใช้จ่ายทางทหารของกัมพูชาอยู่ที่ 3% ของ GDP ของประเทศ จำนวนกำลังพลทหารของกองราชอาวุธหัตถ์อยู่ที่ 7,000 คน หน้าที่ด้านกิจการภายในพระราชอาณาจักรของกองทัพ ได้แก่ การจัดหาความปลอดภัยและความสงบสุขของประชาชน, การตรวจสอบและป้องกันอาชญากรรมองค์กรการก่อการร้ายและกลุ่มความรุนแรงอื่น ๆ ; เพื่อปกป้องทรัพย์สินของรัฐและเอกชน เพื่อช่วยเหลือและช่วยเหลือพลเรือนและกองกำลังฉุกเฉินอื่น ๆ ในกรณีฉุกเฉิน, ภัยธรรมชาติ, เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและความขัดแย้งทางอาวุธ
สมเด็จฮุนเซนได้สะสมอำนาจอย่างมากในกัมพูชารวมถึง "กองกำลังป้องกัน" ที่ดูเหมือนว่าจะเทียบเคียงความสามารถของหน่วยทหารปกติของประเทศ ซึ่งมักถูกใช้โดยฮุนเซนเพื่อระงับการต่อต้านทางการเมือง พระราชอาณาจักรกัมพูชายังได้ลงนามในสนธิสัญญาขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
ภูมิศาสตร์
- ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ประกอบด้วยที่ราบรอบทะเลสาบเขมร และที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
- มีทิวเขาล้อมรอบทางเหนือ คือ เทือกเขาพนมดงรัก เทือกเขาบรรทัด เทือกเขาอันนัม
กัมพูชา มีลักษณะภูมิประเทศคล้ายชามหรืออ่าง คือ ตรงกลางเป็นแอ่งทะเลสาบและลุ่มแม่น้ำโขงอันกว้างขวาง มีภูเขาล้อมรอบอยู่ 3 ด้าน ได้แก่
- ด้านตะวันออกมีแนวเทือกเขาอันนัมที่เป็นพรมแดนกับประเทศเวียดนาม
- ด้านเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีแนวเทือกเขาพนมดงรักที่เป็นพรมแดนกับประเทศไทย
- ด้านใต้และตะวันตกใต้มีแนวเทือกเขาบรรทัดที่เป็นแนวพรมแดนกับประเทศไทย
เฉพาะด้านตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
แม่น้ำและทะเลสาบ
- แม่น้ำโขง ไหลจากลาวเข้าสู่ภาคเหนือของกัมพูชาแล้วไหลผ่านเข้าเขตเวียดนาม มีความยาวในเขตกัมพูชารวม 500 กิโลเมตร
- แม่น้ำทะเลสาบ เชื่อมระหว่างแม่น้ำโขงกับทะเลสาบ ความยาว 130 กิโลเมตร
- แม่น้ำบาสัก (Bassac) เชื่อมต่อกับแม่น้ำทะเลสาบที่หน้าพระมหาราชวัง กรุงพนมเปญ ความยาว 80 กิโลเมตร
- ทะเลสาบโตนเลสาบ อยู่ห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 100 กิโลเมตร ฤดูน้ำหลากน้ำท่วมถึง 7,500 ตารางกิโลเมตร ลึกถึง 10 เมตร โตนเลสาบครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กำปงธม กำปงซะนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมราฐ ในโตนเลสาบมีปลาชุกชุมกว่า 300 ชนิด
ภูเขา
ยอดเขาสูงที่สุดของกัมพูชาคือ พนมอาออรัล สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,813 เมตรทิศเหนือของกัมพูชามีเขตแดนติดกับประเทศไทยระยะทางยาว 750 กิโลเมตร ติดกับจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด โดยมีเทือกเขาพนมดงรัก และเทือกเขาบรรทัดกั้น
ป่าไม้
กัมพูชาเป็นประเทศที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มากที่สุดหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันป่าไม้ลดลงอย่างมากหลังจากที่รัฐบาลเปิดให้สัมปทานป่ากับบริษัทเอกชนจากประเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่นส่วนในลาวนั้นก็ตกกำลังอยู่สภาวะเดียวกัน
ภูมิอากาศ
- มีอากาศมรสุมเขตร้อนเป็นแบบร้อนชื้นแถบมรสุม ฤดูฝนเริ่มจากเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดูแล้ง เริ่มจากเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เดือนเมษายนมีอุณหภูมิสูงสุดที่สุด เดือนมกราคมมีอุณหภูมิต่ำที่สุด เดือนตุลาคมมีฝนตกชุกที่สุด
ข้อมูลภูมิอากาศของกรุงพนมเปญ, ประเทศกัมพูชา | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 31.5 (88.7) | 32.8 (91) | 34.9 (94.8) | 34.9 (94.8) | 34.3 (93.7) | 33.5 (92.3) | 32.5 (90.5) | 32.5 (90.5) | 32.3 (90.1) | 31.1 (88) | 29.9 (85.8) | 30.1 (86.2) | 32.5 (90.5) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 21.9 (71.4) | 23.0 (73.4) | 24.1 (75.4) | 25.0 (77) | 25.3 (77.5) | 25.0 (77) | 24.7 (76.5) | 24.6 (76.3) | 24.3 (75.7) | 23.8 (74.8) | 22.7 (72.9) | 21.7 (71.1) | 23.84 (74.92) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 25.5 (1.004) | 11.5 (0.453) | 58.0 (2.283) | 101.0 (3.976) | 111.6 (4.394) | 177.1 (6.972) | 195.9 (7.713) | 172.0 (6.772) | 248.8 (9.795) | 318.9 (12.555) | 135.0 (5.315) | 80.3 (3.161) | 1,635.6 (64.394) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) | 2.8 | 2.4 | 5.2 | 8.6 | 16.4 | 16.6 | 19.6 | 21.4 | 19.8 | 24.0 | 11.8 | 4.8 | 153.4 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 279 | 252 | 248 | 240 | 217 | 180 | 155 | 155 | 150 | 186 | 240 | 279 | 2,581 |
แหล่งที่มา: HKO |
การแบ่งเขตการปกครอง
เมืองหลวง (ราชธานี) และจังหวัด (เขต) เป็นเขตการปกครองระดับแรกสุดของประเทศกัมพูชา แบ่งเป็น 25 จังหวัด (รวมเมืองหลวง) แต่ละจังหวัดจะแบ่งเป็นเทศบาลและอำเภอ ซึ่งเป็นเขตการปกครองระดับที่สอง มีทั้งหมด 159 อำเภอ และ 26 เทศบาล แต่ละอำเภอและเทศบาลแบ่งเป็นตำบล และแต่ละตำบลแบ่งเป็นหมู่บ้าน
| จังหวัดของประเทศกัมพูชา |
---|
เศรษฐกิจ
พระราชอาณาจักรกัมพูชา ใช้สกุลเงิน เรียลกัมพูชา เป็นหน่วยสกุลเงินประจำชาติ
เศรษฐกิจในพระราชอาณาจักรได้รับการชี้นำและบริหารโดยรัฐมนตรีว่าการ คือ ดร. หลวงเศรษฐการ อุน พรมนนิโรธ อุนพรมนนิโรธได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013
เป็นธนาคารกลางของพระราชอาณาจักรและให้การกำกับดูแลภาคการธนาคารของประเทศและรับผิดชอบส่วนหนึ่งในการเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศ ระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง ค.ศ. 2012 จำนวนธนาคารที่อยู่ภายใต้การควบคุมและสถาบันการเงินขนาดเล็กเพิ่มขึ้นจาก 31 หน่วยงานที่ครอบคลุมเป็นสถาบันมากกว่า 70 แห่งซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การเติบโตในภาคการธนาคารและการเงินของกัมพูชา
เศรษฐกิจในพระราชอาณาจักรกัมพูชาที่สำคัญประกอบไปด้วย
- เกษตรกรรม อยู่บริเวณที่ราบภาคกลาง รอบทะเลสาบเขมร พืชที่สำคัญคือ ข้าวเจ้า ยางพารา พริกไทย
- การประมง บริเวณรอบทะเลสาบเขมร เป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค
- การทำป่าไม้ บริเวณเขตภูเขาทางภาคเหนือโดยล่องมาตามแม่น้ำโขง
- การทำเหมืองแร่ ยังไม่ค่อยสำคัญ
- อุตสาหกรรม เป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อม ส่วนใหญ่เป็นโรงสีข้าว โรงเลื่อย รองเท้า
ภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสังคมนิยมเป็นระบอบประชาธิปไตย และหลังจากสงครามภายใน ประเทศกัมพูชาเริ่มสงบลง และเริ่มพัฒนาฟื้นฟูบูรณะประเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น จึงเปิดโอกาสให้ ประเทศทำการค้าขายกับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น กัมพูชาจึงกำหนดนโยบายที่มุ่งหวังการพัฒนาศักยภาพทางการเกษตร การท่องเที่ยว และส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยกำหนดยุทธการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐและได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงกฎหมายด้านเศรษฐกิจ การเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างประเทศ การปฏิรูประบบจัดเก็บภาษีเงินได้ และเร่งรัดพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น สนามบิน ถนน ไฟฟ้า ประปา และสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น ภายใต้ความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย และ UNDP รวมทั้งประเทศที่ให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ
แต่การพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาได้เติบโตอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะในช่วงปี 2540-2541 กัมพูชาต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย และความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศถอนตัวออกจากประเทศกัมพูชา ส่งผลให้การฟื้นฟูบูรณะและการพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า แต่หลังจากปี 2542 สถานการณ์การเมืองกัมพูชาเริ่มมีความมั่นคงพอสมควร และนับเป็นปีแรกที่กัมพูชามีสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในหมดไป ปัจจุบัน กัมพูชากำลังพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (ตุลาคม 2543 - กันยายน 2548) ทั้งนี้เพื่อให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในเกณฑ์ร้อยละ 6-7 ต่อปี ภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาในอดีตที่ผ่านมาสามารถสรุปได้ดังนี้
สินค้าเกษตรกรรมถือว่าเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศประมาณร้อยละ 43 ของ GDP มาจากข้าวและปศุสัตว์ ส่วนการประมงและป่าไม้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 5 สินค้าเกษตรที่ส่งออกได้แก่ข้าว ไม้ และยางพารา รองลงมาได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง สัตว์มีชีวิต ผลไม้ และปลา เป็นต้น ทั่วไปกัมพูชามีสินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ไม้ ยางพารา ข้าว และปลา สินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง บุหรี่ ทอง วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรและเครื่องยนต์
เศรษฐกิจกัมพูชาในปี 2546 คาดการณ์โดย The Economist Intelligence Unit (EIU) มีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเหลือ 5.0 % และ International Monetary Fund (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัว 4.7 % เทียบกับที่ขยายตัวราว 5.5 % ในปี 2545 ปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ได้แก่ รายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ลดลง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์การก่อความไม่สงบ โดยมีการเผาสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เกิดปัญหาการระบาดของโรคทางเดินหายใจ เฉียบพลันรุนแรง (SARS) ประกอบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในกัมพูชา (หลังการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2546 ที่ผ่านมา) ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัยและ ปัญหาการเมืองที่ยังคงไร้เสถียรภาพ ทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในการเข้าไปลงทุนในกัมพูชา ถึงแม้ว่าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2546 สภาแห่งชาติของกัมพูชา (The National Assembly) ได้อนุมัติการออกกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายการลงทุนฉบับลงวันที่ 5 สิงหาคม 2534 (Law on the Amendment to the Law on Investment of the Kingdom of Cambodia) เพื่อเอื้อสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติ ส่วนภาคธุรกิจก่อสร้างยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
ปี 2547 EIU และ IMF คาดว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 % - 5.8 % ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกัมพูชาคาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 5.5 % - 6.0 % เนื่องจากรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับเมื่อเดือนธันวาคม 2546 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มโควตานำเข้าสิ่งทอสำหรับปี 2547 ให้กัมพูชาเพิ่มขึ้นอีก 14 % ซึ่งคาดว่าจะทำให้กัมพูชามีรายได้จากการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และภาคธุรกิจก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และจากการที่กัมพูชาได้เข้าเป็นสมาชิก ใหม่ของ WTO อย่างสมบูรณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2547 ทำให้กัมพูชามีพันธกรณีที่ต้องเร่งปรับปรุงกฎหมายด้านการลงทุนให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายฐานการผลิตเข้าไปตั้งโรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชาเพื่อส่งออก เนื่องจากกัมพูชายังมีอัตราค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ ทางด้านอัตราเงินเฟ้อ EIU และ IMF คาดว่าปี 2547 กัมพูชาจะมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 % - 3.5 % จากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยราว 1.3 % - 2.6 % ในปี 2546 เนื่องจากราคาอาหารในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก (ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, 2547)
การท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผู้มาเยือนจากต่างประเทศในปี 2018 มีจำนวนถึงหกล้านคน เพิ่มขึ้นสิบเท่านับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 21 การท่องเที่ยวกระตุ้นการจ้างงานกว่า 26% ในประเทศ ซึ่งคิดเป็น 2.5 ล้านอัตราสำหรับชาวกัมพูชา นอกจากพนมเปญและนครวัดแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ เมืองพระสีหนุทางตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งมีชายหาดยอดนิยมหลายแห่ง และพระตะบองทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักเดินทางแบ็คแพ็คซึ่งเป็นส่วนสำคัญของผู้มาเยือนกัมพูชา พื้นที่รอบ ๆ กำปอตและแกบรวมถึงสถานีโบกอร์ฮิลล์ก็เป็นที่สนใจของผู้มาเยือนเช่นกัน การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1993 ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในปี 2018 ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รายรับจากการท่องเที่ยวเกิน 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018 คิดเป็นเกือบสิบเปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของราชอาณาจักร อุทยานประวัติศาสตร์นครวัดในจังหวัดเสียมราฐ ชายหาดในพระสีหนุ เมืองหลวงพนมเปญ และกาสิโน 150 แห่งของกัมพูชา (เพิ่มขึ้นจากเพียง 57 แห่งในปี 2014) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ประชากร
ในปี พ.ศ. 2556 ประเทศกัมพูชามีประชากร 15,205,539 คน กว่าร้อยละ 90 มีเชื้อสายเขมรและพูดภาษาเขมรอันเป็นภาษาราชการ นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อยที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศได้แก่ชาวเวียดนาม ร้อยละ 5 และชาวจีน ร้อยละ 1 นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายไทยในจังหวัดเกาะกงชาวจามในจังหวัดกำปงจามและจังหวัดกระแจะชาวลาวในจังหวัดรัตนคีรีและจังหวัดสตึงแตรง และชนเผ่าทางตอนเหนือต่อชายแดนประเทศลาวที่เรียกรวม ๆ ว่า แขมรเลอ
อัตราการเกิดของประชากรเท่ากับ 25.4 ต่อ 1,000 คน อัตราการเติบโตของประชากรเท่ากับ 1.7% สูงกว่าของประเทศไทย, เกาหลีใต้ และอินเดียอย่างมีนัยยะสำคัญ
ภาษา
ภาษาราชการของกัมพูชาคือ ภาษาเขมร อันเป็นภาษาที่จัดอยู่ในกลุ่มภาษามอญ-เขมร อันเป็นภาษากลุ่มย่อยของตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาษาฝรั่งเศสในกลุ่มชาวเขมรผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นภาษาราชการหลักของอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส ปัจจุบันภาษาฝรั่งเศสยังถูกจัดอยู่ในการเรียนการสอนในโรงเรียนบางแห่ง และบางมหาวิทยาลัยที่รัฐบาลฝรั่งเศสให้การสนับสนุน ซึ่งภาษาฝรั่งเศสได้ตกทอดจากยุคอาณานิคมมาถึงในยุคปัจจุบันและยังมีใช้ในรัฐบาลบางวาระโดยเฉพาะในศาล
ในอดีตปี พ.ศ. 2506 รัฐบาลกัมพูชาเคยประกาศห้ามมิให้บุคคลเชื้อสายไทยพูดภาษาไทย และห้ามมีหนังสือไทยไว้ในบ้าน หากเจ้าหน้าที่ค้นพบจะถูกทำลายให้สิ้นซาก โดยเฉพาะหากพูดภาษาไทยจะถูกปรับคำละ 25 เรียล และเพิ่มขึ้นเป็น 50 เรียลในปีต่อมา เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทยในคดีเขาพระวิหาร
ศาสนา
ประเทศกัมพูชา มีศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ ที่มีศาสนิกชนกว่าร้อยละ 95 ถือเป็นศาสนาที่แข็งแกร่งและเป็นที่แพร่หลายในทุกจังหวัด มีอารามในพุทธศาสนา 4,392 แห่งทั่วประเทศ ชาวเขมรมีความผูกพันกับพุทธศาสนามากทั้งประเพณีและวัฒนธรรม แม้ศาสนาพุทธรวมถึงศาสนาอื่น ๆ จะถูกยกเลิกในช่วงปี ค.ศ. 1970 แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ในกลุ่มชนเชื้อสายจีน ยังมีการนับถือควบคู่กันระหว่างมหายานกับลัทธิเต๋า
ศาสนาอิสลาม เป็นที่ยอมรับนับถือในชุมชนที่มีเชื้อสายจามและมลายู มีศาสนิกชนราว 300,000 คน ในจังหวัดกำปงจามมีโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามจำนวนหลายแห่ง ส่วนศาสนาคริสต์ส่วนใหญ่นับถือนิกายโรมันคาทอลิก ตามด้วยนิกายโปรเตสแตนต์ มีชาวคาทอลิกราว 20,000 คนหรือร้อยละ 0.15 นอกจากนี้ยังมีนิกายอื่น ๆ เช่น แบปทิสต์ พยานพระยะโฮวา และมอรมอน
การศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และกีฬา มีหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการศึกษาระดับชาติในประเทศกัมพูชา ระบบการศึกษาของกัมพูชามีการกระจายอำนาจอย่างมาก โดยมีการดูแลในสามระดับได้แก่ ส่วนกลาง ระดับจังหวัด และเขต ซึ่งรับผิดชอบในการบริหารจัดการ รัฐธรรมนูญของกัมพูชาประกาศใช้การศึกษาภาคบังคับฟรีเป็นเวลาเก้าปี รับรองสิทธิสากลในการศึกษาคุณภาพขั้นพื้นฐาน สำมะโนกัมพูชาปี 2019 ประมาณการว่า 88.5% ของประชากรเป็นผู้รู้หนังสือ (91.1% ของผู้ชายและ 86.2% ของผู้หญิง) เยาวชนชาย (15–24 ปี) มีอัตราการอ่านออกเขียนได้ 89% เทียบกับ 86% ในผู้หญิง
สุขภาพ
ชาวกัมพูชามีอายุขัยเฉลี่ย 75 ปีในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 55 ปี การดูแลสุขภาพมีทั้งภาครัฐและเอกชน และการวิจัยพบว่าความไว้วางใจในผู้ให้บริการด้านสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุงการรับบริการดูแลสุขภาพในชนบทกัมพูชา รัฐบาลมีแผนที่จะเพิ่มคุณภาพการดูแลสุขภาพในประเทศโดยสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ มาลาเรีย และโรคอื่น ๆอัตราการเสียชีวิตของทารกในกัมพูชาลดลงจาก 86 ต่อการเกิด 1,000 คนในปี 1998 เป็น 24 ในปี 2018 ในจังหวัดที่ประขากรมีสุขภาพที่แย่ที่สุด รัตนคีรี พบว่ามี 22.9% ของเด็กเสียชีวิตก่อนอายุห้าปี กัมพูชาเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก ตามการประมาณการ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ได้ระเบิดมีส่วนทำให้พลเรือนเสียชีวิตกว่า 60,000 ราย และบาดเจ็บหรือบาดเจ็บอีกหลายพันคนตั้งแต่ปี 1970 จำนวนผู้เสียชีวิตจากทุ่นระเบิดที่รายงานลดลงอย่างมากจาก 800 คนในปี 2005 เป็น 111 คนในปี 2013 (เสียชีวิต 22 คนและบาดเจ็บ 89 คน) ผู้รอดชีวิตจากทุ่นระเบิดมักจะต้องตัดแขนหรือขาหนึ่งข้างหรือมากกว่านั้น รัฐบาลกัมพูชาคาดว่าประเทศจะปลอดจากทุ่นระเบิดภายในปี 2020 แต่ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงเด็กกำพร้าและจำนวนผู้พิการทางร่างกาย คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกัมพูชาไปอีกหลายปี
วัฒนธรรม
ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อวัฒนธรรมกัมพูชา ได้แก่ พุทธศาสนานิกายเถรวาท ศาสนาฮินดู ลัทธิล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส วัฒนธรรมอังกอร์ และโลกาภิวัตน์สมัยใหม่ กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชามีหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรมกัมพูชา วัฒนธรรมกัมพูชาไม่เพียงแต่รวมวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยในที่ราบลุ่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวเขากว่า 20 เผ่าที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่เรียกขานว่าแขมรเลอ (Khmer Loeu) ซึ่งเป็นคำที่สมเด็จนโรดม สีหนุ บัญญัติขึ้นเพื่อส่งเสริมความสามัคคีระหว่างชาวเขาและชาวลุ่มน้ำ ชาวกัมพูชาในชนบทสวมผ้าพันคอแบบกรอมซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเสื้อผ้ากัมพูชา
ซัมเปี๊ยะห์ เป็นคำทักทายแบบกัมพูชาดั้งเดิมหรือวิธีการแสดงความเคารพต่อผู้อื่น วัฒนธรรมกัมพูชาที่พัฒนาและเผยแพร่โดยอาณาจักรเขมรมีรูปแบบการฟ้อนรำ สถาปัตยกรรม และประติมากรรมที่โดดเด่น ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนกับลาวและไทยที่อยู่ใกล้เคียงตลอดประวัติศาสตร์ นครวัด (นครวัด แปลว่า "เมือง" และวัด แปลว่า "วัด") เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมเขมรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในสมัยนครวัด พร้อมด้วยวัดอื่น ๆ อีกหลายร้อยแห่งที่มีการค้นพบรอบ ๆ ภูมิภาค
บุญอมตูก (เทศกาลน้ำและพระจันทร์ของกัมพูชา) การแข่งขันพายเรือประจำปีเป็นเทศกาลประจำชาติกัมพูชาที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด จัดขึ้นในช่วงปลายฤดูฝนเมื่อแม่น้ำโขงเริ่มจมกลับสู่ระดับปกติทำให้แม่น้ำโตนเลสาบไหลย้อนกลับได้ ประมาณ 10% ของประชากรกัมพูชาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ในแต่ละปีเพื่อขอบคุณดวงจันทร์ ชมดอกไม้ไฟ รับประทานอาหาร และเข้าร่วมการแข่งเรือในบรรยากาศแบบงานรื่นเริง กีฬายอดนิยม ได้แก่ ฟุตบอล เตะทราย และหมากรุก ตามปฏิทินสุริยคติคลาสสิกของอินเดียและพุทธศาสนานิกายเถรวาท ปีใหม่กัมพูชาเป็นวันหยุดสำคัญที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน
ทุกปี ชาวกัมพูชาจะไปเยี่ยมชมเจดีย์ทั่วประเทศเพื่อเฉลิมฉลองวันบรรพบุรุษ ในช่วงเทศกาล 15 วัน ผู้คนจะสวดมนต์และอาหารให้กับวิญญาณของญาติที่ล่วงลับไปแล้ว สำหรับชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ เป็นเวลาที่ต้องระลึกถึงญาติพี่น้องซึ่งเสียชีวิตระหว่างการปกครองของเขมรแดง ค.ศ. 1975-1979
อาหาร
ข้าวเป็นอาหารหลักเช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปลาจากแม่น้ำโขงและโตนเลสาบก็เป็นส่วนสำคัญของอาหารเช่นกัน อุปทานของปลาและผลิตภัณฑ์จากปลาสำหรับอาหารและการค้า ณ ปี 2000 คือ 20 กิโลกรัม (44 ปอนด์) ต่อคนหรือ 2 ออนซ์ต่อวันต่อคน ปลาบางชนิดสามารถถนอมอาหารเพื่อเก็บไว้ได้นานขึ้น อาหารของกัมพูชาประกอบด้วยผลไม้เมืองร้อน ซุป และก๋วยเตี๋ยว ส่วนผสมหลักคือ มะกรูด ตะไคร้ กระเทียม น้ำปลา ซีอิ๊ว มะขาม ขิง ซอสหอยนางรม กะทิ และพริกไทยดำ อาหารบางอย่าง ได้แก่ น้ำบาลโชค (នំបញ្ចុក), ปลาอามก (អាម៉ុកត្រី) และ aping (អាពីង) ได้รับความนิยม กัมพูชายังขึ้นชื่อในด้านการมีอาหารข้างทางที่หลากหลายซึ่งได้รับความนิยมสูง อิทธิพลของชาวฝรั่งเศสที่มีต่ออาหารกัมพูชา ได้แก่ แกงเผ็ดกัมพูชากับขนมปังบาแกตต์ปิ้ง ขนมปังบาแกตต์ที่ปิ้งแล้วจุ่มลงในแกงและรับประทาน แกงเผ็ดกัมพูชายังนิยมทานกับข้าวและวุ้นเส้น อาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด กุ้ยเตียว ก็คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูใส่กระเทียมเจียว หอมใหญ่ หัวหอมใหญ่ ที่อาจมีท็อปปิ้งต่าง ๆ เช่น ลูกชิ้น กุ้ง ตับหมู หรือผักกาดหอม พริกไทยกำปอตขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลกและมักทานพร้อมกับปูและปลาหมึกในร้านอาหารริมแม่น้ำ
ส่วนอาหารกัมพูชาที่มีชื่อเสียงได้แก่ (សម្លការី) แกงกะหรี่, (ប្រហុក) ปลาร้าเขมร, (នំបញ្ចុក) ขนมจีนเขมร, สัมลอร์มะจู (សម្លម្ជូរ) แกงส้มเขมร และอาม็อกเตร็ย (អាម៉ុកត្រី) ห่อหมกเขมร
ชาวกัมพูชาดื่มชาในปริมาณมาก ซึ่งปลูกในจังหวัดมณฑลคีรีและรอบ ๆ te krolap เป็นชาที่เข้มข้น ทำจากการใส่น้ำและใบชาจำนวนมากลงในแก้วขนาดเล็ก วางจานรองไว้ด้านบน แล้วพลิกสิ่งทั้งหมดกลับหัวเพื่อชง ก่อนจะจะถูกเทลงในถ้วยอีกใบและเติมน้ำตาลในปริมาณมาก แต่ไม่ใส่นม ชามะนาว te kdau kroch chhma ทำจากชาจีนฝุ่นแดงและน้ำมะนาว ให้ความสดชื่นทั้งร้อนและเย็น และโดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลในปริมาณมาก ในส่วนของกาแฟ เมล็ดกาแฟมักจะนำเข้าจากประเทศลาวและเวียดนาม แม้ว่ากาแฟที่ผลิตในประเทศจากจังหวัดรัตนคีรีและจังหวัดมณฑุลคีรีจะสามารถพบได้ในบางพื้นที่ กาแฟกัมพูชามักคั่วด้วยเนยและน้ำตาล รวมทั้งส่วนผสมอื่น ๆ ตั้งแต่เหล้ารัมไปจนถึงไขมันหมู ทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นแปลก ๆ แต่เป็นเอกลักษณ์ กัมพูชามีโรงเบียร์อุตสาหกรรมหลายแห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดพระสีหนุและพนมเปญ นอกจากนี้ยังมีโรงเบียร์ขนาดเล็กจำนวนมากในพนมเปญและเสียมราฐ ระหว่างปี 2014 ถึงปี 2018 จำนวนโรงเบียร์คราฟต์เพิ่มขึ้นจากสองเป็นเก้าแห่ง ณ ปี 2019 มีโรงเบียร์หรือโรงเบียร์ขนาดเล็ก 12 แห่งในกัมพูชา ไวน์ข้าวเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยม และมักจะผสมกับผลไม้หรือสมุนไพร
กีฬา
ฟุตบอล เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ฟุตบอลถูกเผยแพร่ในกัมพูชาโดยชาวฝรั่งเศสและกลายเป็นที่นิยมในหมู่ชาวบ้านทั่วไป ฟุตบอลทีมชาติกัมพูชาครองอันดับที่ 4 ในเอเชียนคัพ 1972 แต่การพัฒนาได้ชะลอตัวลงตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมือง กีฬาตะวันตก เช่น บาสเกตบอล วอลเลย์บอล เพาะกาย กีฬาฮอกกี้ รักบี้ยูเนี่ยน กอล์ฟ และเบสบอล กำลังได้รับความนิยม วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ กีฬาพื้นเมืองรวมถึงการแข่งเรือแบบดั้งเดิม รวมถึง การแข่งควาย Pradal Serey มวยปล้ำแบบดั้งเดิมของเขมร และ Bokator กัมพูชาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในโอลิมปิกฤดูร้อน 1956 ในกีฬาขี่ม้า
ศิลปะการแสดง
การเต้นรำของกัมพูชาสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก: นาฏศิลป์ท้องถิ่น นาฏศิลป์พื้นบ้าน และนาฏศิลป์ทั่วไป ต้นกำเนิดที่แท้จริงของนาฏศิลป์กัมพูชาเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ นักวิชาการพื้นเมืองส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าการเต้นรำสมัยใหม่ย้อนไปในสมัยของพระนคร โดยเห็นความคล้ายคลึงกันในการแกะสลักของวัดในสมัยนั้น ขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่ารูปแบบการรำสมัยใหม่ได้เรียนรู้ (หรือเรียนรู้ใหม่) จากนักเต้นในราชสำนักสยามใน ค.ศ. 1800 นาฏศิลป์เขมรเป็นรูปแบบของศิลปะการแสดงที่มีสไตล์ซึ่งจัดตั้งขึ้นในราชสำนักของกัมพูชาซึ่งจัดแสดงเพื่อความบันเทิงและเพื่อวัตถุประสงค์ในพิธีการ การเต้นรำเป็นกิจกรรมโดยชายและหญิงที่แต่งกายอย่างประณีตและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในโอกาสสาธารณะ หรือเพื่อสร้างเรื่องราวดั้งเดิมและบทกวีมหากาพย์ เช่น ละโคนโขล ที่มักนำบทในวรรณคดีอย่าง เรียมเกร์ เวอร์ชันเขมรของรามเกียรติ์มาละเล่น โดยมักรู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อ ระบำพระราชทรัพย์ (របាំព្រះរាជទ្រព្ "โรงละครแห่งความมั่งคั่งของราชวงศ์") ถูกกำหนดให้เป็นเพลงของวงดนตรีพร้อมด้วยนักร้องนำ นอกจากนี้นาฏศิลป์ในราชสำนักกัมพูชายังมีการแสดงอย่าง ที่นักแสดงมักจะแต่งกายอย่างนางอัปสรในยุคจักรวรรดิเขมรโบราณ
ส่วนการเต้นรำพื้นบ้านกัมพูชามักแสดงกับดนตรีมาโฮริ เป็นการเฉลิมฉลองกลุ่มวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ต่าง ๆ ของกัมพูชา การเต้นรำพื้นบ้านมีถิ่นกำเนิดในหมู่บ้านและส่วนใหญ่ทำโดยชาวบ้าน การเต้นรำเข้าสังคมคือการเต้นรำของแขกในงานเลี้ยง งานเลี้ยง หรืองานสังสรรค์ทางสังคมอื่น ๆ ที่ไม่เป็นทางการ การเต้นรำทางสังคมแบบดั้งเดิมของกัมพูชามีความคล้ายคลึงกับการเต้นรำของประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างเช่น รำวงร่มวงษ์ รวมทั้งศรวรรณและลำลีฟ การเต้นรำยอดนิยมของชาวตะวันตกสมัยใหม่ ได้แก่ Cha-cha, Bolero และ Madison ก็มีอิทธิพลต่อสังคมกัมพูชาเช่นกัน
ดนตรี
ดนตรีกัมพูชาดั้งเดิมมีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรเขมร ระบำของราชวงศ์ เช่น ระบำอัปสราเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมกัมพูชา เช่นเดียวกับระบำ Mahori รูปแบบดนตรีในชนบท ได้แก่ Chapei และ Ayai เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นเก่าและส่วนใหญ่มักจะเป็นการแสดงเดี่ยวของนักดนตรีชายด้วยกีตาร์กัมพูชา (chapei) เนื้อเพลงมักมีเนื้อหาเกี่ยวกับศีลธรรมหรือศาสนา
ดนตรียอดนิยมของกัมพูชาแสดงด้วยเครื่องดนตรีสไตล์ตะวันตกหรือผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีดั้งเดิมและดนตรีตะวันตก เพลงแดนซ์แต่งขึ้นในสไตล์เฉพาะสำหรับการเต้นรำทางสังคม เพลงของนักร้องประสานเสียง สิน ศรีสมุทร, รส เสรีสุทธา และ แปน รอน ในทศวรรษที่ 1960 ถึง 1970 ถือเป็นเพลงป๊อปคลาสสิกของกัมพูชา ในยุคเขมรแดง นักร้องคลาสสิกและเป็นที่นิยมมากมายในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 ถูกสังหาร อดอยากจนเสียชีวิต หรือถูกบังคับใช้งานหนักจนตาย และมาสเตอร์เทปดั้งเดิมจำนวนมากจากยุคนั้นสูญหายหรือถูกทำลาย ในช่วงทศวรรษ 1980 แก้ว สุทัต (ผู้ลี้ภัยที่อพยพไปตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา) และคนอื่น ๆ ได้สืบทอดมรดกของนักร้องคลาสสิก ซึ่งได้ทำเพลงยอดนิยมสมัยใหม่
ส่วนด้านดนตรีสมัยใหม่ผสมผสานกับดนตรีพื้นบ้านเขมรโบราณที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ วัณณ์ดา (VannDa) เป็นศิลปินแร็ปและฮิปฮอปที่ผสมผสานกับดนตรีพื้นบ้านเขมรโบราณ ผลงานเขาซึ่งเป็นที่รู้จักจากเพลง Time To Rise และ Queen Bee ในปี ค.ศ. 2021 , นโรดม เจนณา นักแสดงและนักร้องกัมพูชารุ่นเยาว์, วง KMENG Khmer ที่ออกผลงานเพลงเศรษฐี (សេដ្ឋី) และ โขกเจิง (ខកជើង) ในปี ค.ศ. 2023 และ Pou Khlaing KHMER ในเพลง (NekaNe 2023) នឹកនា 2023 ทั้งนี้ยังมี (Ton Chanseyma) ศิลปินฮิปฮอปและป็อปกัมพูชาที่มีผลงานเพลง Cambodian Pride
อ้างอิง
- "Constitution of the Kingdom of Cambodia". Office of the Council of Ministers. អង្គភាពព័ត៌មាន និងប្រតិកម្មរហ័ស. สืบค้นเมื่อ 26 September 2020.
- "Ethnic minorities and indigenous people". Open Development Cambodia. 15 July 2016. สืบค้นเมื่อ 1 June 2020.
- "Cambodia Socio-Economic Survey 2019-20" (PDF). Ministry of Planning. National Institute of Statistics. December 2020. สืบค้นเมื่อ 16 May 2021.
- "General Population Census of the Kingdom of Cambodia 2019 – Final Results" (PDF). National Institute of Statistics. . 26 January 2021. สืบค้นเมื่อ 26 January 2021.
- "Cambodia". International Monetary Fund.
- . hdr.undp.org. World Bank. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-10. สืบค้นเมื่อ 29 January 2020.
- Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020. pp. 343–346. ISBN . สืบค้นเมื่อ 16 December 2020.
- Cambodia 2010-12-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. CIA World FactBook.
- . News.xinhuanet.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 August 2013. สืบค้นเมื่อ 15 March 2013.
- Cambodia to outgrow LDC status by 2020 | Business | The Phnom Penh Post – Cambodia's Newspaper of Record 2011-05-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The Phnom Penh Post (May 18, 2011). Retrieved on June 20, 2011.
- Ek Madra (January 19, 2007). "Oil Revenue Not Likely Until 2013: Ministry". Reuters. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-18. สืบค้นเมื่อ December 19, 2011.
- "Consumerism booms as Cambodia embraces once-forbidden capitalism". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2014-09-28. สืบค้นเมื่อ 2021-10-08.
- "2013 Corruption Perceptions Index -- Results". archive.ph. 2013-12-03. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-03. สืบค้นเมื่อ 2022-04-15.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Relazione del primo viaggio intorno al mondo - Wikisource". it.wikisource.org (ภาษาอิตาลี).
- "No. 20 Thai-Yunnan Project Newsletter March 1993". www.nectec.or.th.
- "Definition of Kampuchea | Dictionary.com". www.dictionary.com (ภาษาอังกฤษ).
- Cambodia (ภาษาอังกฤษ). PediaPress.
- ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ (2552). สยามประเทศไทยกับดินแดนกัมพูชาและลาว. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ฯ. หน้า 29–44. ISBN .
- นภดล ชาติประเสริฐ (2540). เจ้านโรดม สีหนุ กับนโยบายความเป็นกลางของกัมพูชา. สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ISBN .
- Owen, Taylor; Kiernan, Ben (ตุลาคม 2006). (PDF). The Walrus: 32–36. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 เมษายน 2016.
The evidence of survivors from many parts of [Cambodia] suggests that at least tens of thousands, probably in the range of 50,000 to 150,000 deaths, resulted from the US bombing campaigns ..."
See ; Owen, Taylor (26 April 2015). "Making More Enemies than We Kill? Calculating U.S. Bomb Tonnages Dropped on Laos and Cambodia, and Weighing Their Implications". The Asia-Pacific Journal. สืบค้นเมื่อ 19 September 2016. - . UN OHCHR Cambodia (9 July 1997)
- Carolyn L. Gates; Mya Than (2001). ASEAN Enlargement: impacts and implications. Institute of Southeast Asian Studies. ISBN .
- . ASEAN Secretariat. 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 May 2011. สืบค้นเมื่อ 28 August 2009.
- Strangio, Sebastian (2014). Hun Sen's Cambodia. Yale University Press. ISBN .
- Brinkley, John (2011). Cambodia's Curse: The Modern History of a Troubled Land. Hachette UK. pp. 460–463. สืบค้นเมื่อ 17 November 2019.
[Javier Merelo de Barbera] spoke to dozens of [villagers] during the 2008 election campaign, and he said he observed a constant theme: 'People were very afraid of the CCP losing. They were very afraid of change.' After all, for centuries change in Cambodia has generally led to misery or death.
- "Cambodia 1993 (rev. 2008)". Constitute. สืบค้นเมื่อ 17 April 2015.
- Royal Government of Cambodia.. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 February 2007.
- Dalpino, Catharin E.; Timberman, David G. (26 March 1998). . Asia Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 October 2005.
- "Preah Vihear temple: Disputed land Cambodian, court rules". BBC News. 11 November 2013. สืบค้นเมื่อ 11 November 2013.
- L.Tanggahma (Recorded). (PDF). The Hague, Netherlands: International Court of Justice. 11 พฤศจิกายน 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2013. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2013.
- Fuller, Thomas (6 January 2014) Cambodia Steps Up Crackdown on Dissent With Ban on Assembly. New York Times
- "Chapter XXVI: Disarmament – No. 9 Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons". United Nations Treaty Collection. 7 July 2017.
- Mom Kunthear. "Kampong Cham's great divide". Phnom Penh Post. สืบค้นเมื่อ 28 October 2014.
- "Cambodia". U.S. Department of State.
- "Tourism statistics report, Year 2018" (PDF). Statistics and Tourism Information Department, Ministry of Tourism.
- (PDF). Statistics and Tourism Information Department, Ministry of Tourism. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 มีนาคม 2011.
- สามก๊กวิว. การพลัดถิ่นของคนเชื้อสายไทยจากเกาะกงสู่ประเทศไทยในยุคเขมรแดง 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เรียกดูเมื่อ 12 มีนาคม 2556
- วรรณทนี รุ่งเรืองสภากุล; ภิญโญ วีระสุขสวัสดิ์. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2013.
- "ผู้อพยพเชื้อสายไทย จ.เกาะกง : เรื่องเล่าบนเส้นทาง พ.ร.บ.สัญชาติ" (Press release). อิศรา. 21 มิถุนายน 2012. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2013.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-05-12. สืบค้นเมื่อ 2014-02-17.
- . CIA – The World Factbook. Cia.gov. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-23. สืบค้นเมื่อ 15 March 2013.
- World Gazetteer
- Punnee Soonthornpoct (มีนาคม 2006). From Freedom to Hell: A History of Foreign Interventions in Cambodian Politics And Wars. page 29, Vantage Press ISBN
- "U.S. helps English program for poor Cambodian students". News.xinhuanet.com. 30 June 2010. สืบค้นเมื่อ 16 March 2013.
- นิติภูมิ นวรัตน์ (17 สิงหาคม 2000). "เขตร์เขมรัฐภูมินทร์". เปิดฟ้าส่องโลก. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 มิถุนายน 2013. สืบค้นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2020.
- รุ่งมณี เมฆโสภณ. คนสองแผ่นดิน. กรุงเทพฯ:บ้านพระอาทิตย์, 2551, หน้า 87. ISBN
- "Cambodia". State.gov. สืบค้นเมื่อ 15 March 2013.
- Brandon Toropov, Chad Hansen. The Complete Idiot's Guide to Taoism. Alpha Books. p. 121. ISBN .
- Bureau of Democracy, Human Rights, and Labour of the US Department of State. International Religious Freedom Report 2005.. Retrieved 24 July 2006.
- "Cambodia Education System". www.scholaro.com.
- "Life expectancy increases to 75 years - Khmer Times" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-01-28.
- "World Development Indicators - เครื่องมือสำรวจของ Google ข้อมูลสาธารณะ". www.google.com.
- . United Nations World Food Programme. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2008. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2021.
- "July 25, 2003 ~ Cambodia Land Mines | July 25, 2003 | Religion & Ethics NewsWeekly | PBS". Religion & Ethics NewsWeekly (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2003-07-25.
- "Landmine Casualties Increase in 2014 - Khmer Times" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2014-06-07.
- . web.archive.org. 2008-09-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-24. สืบค้นเมื่อ 2021-10-08.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - (PDF). EarthTrends. 20 กรกฎาคม 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 กรกฎาคม 2004.
- Chan, Wing Yan (2015-07-21). "10 Delicious Street Food Dishes You Must Try in Cambodia". Culture Trip.
- Smits, Johann. "Khmer brew: exploring the parviflora tea strain". www.phnompenhpost.com (ภาษาอังกฤษ).
- AsiaLIFE. . AsiaLIFE Cambodia (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-11. สืบค้นเมื่อ 2021-10-08.
- "Brewing up nicely: Cambodia's rapidly growing taste for craft beer | ASEAN Today". www.aseantoday.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-05-12.
- . web.archive.org. 2008-06-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-26. สืบค้นเมื่อ 2021-10-08.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - Cravath, Paul (1986). "The Ritual Origins of the Classical Dance Drama of Cambodia". Asian Theatre Journal. 3 (2): 179–203. ISSN 0742-5457.
- Sam-Ang Sam; Chan Moly Sam (1987). (PDF). Newington, CT: Khmer Studies Institute. ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 กันยายน 2009.
- "Cambodian music history". University of Maryland, Baltimore County.
- . Nat Geo Music. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 สิงหาคม 2012.
บรรณานุกรม
- Deth, Sok Udom, and Serkan Bulut, eds. Cambodia's Foreign Relations in Regional and Global Contexts (Konrad-Adenauer-Stiftung, 2017; comprehensive coverage) full book online free.
- Path Kosal, "Introduction: Cambodia’s Political History and Foreign Relations, 1945–1998" pp 1–26
- Strangio, Sebastian (20 ตุลาคม 2020). Cambodia: From Pol Pot to Hun Sen and Beyond. Yale University Press. ISBN .
- Un, Kheang. Cambodia: Return to Authoritarianism (2019) excerpt
- Morris, Stephen J. (1999). Why Vietnam Invaded Cambodia. Stanford University Press. ISBN .
- บทความนี้รวมข้อความจากงานที่มีเนื้อหาเสรี (free content) ลิขสิทธิ์ภายใต้ CC-BY-SA IGO 3.0 ข้อความนำมาจาก UNESCO Science Report: Towards 2030, 698-713, UNESCO, UNESCO Publishing.
แหล่งข้อมูลอื่น
- คู่มือการท่องเที่ยว Cambodia จากวิกิท่องเที่ยว (ในภาษาอังกฤษ)
- Cambodia. The World Factbook. Central Intelligence Agency.
- from UCB Libraries GovPubs
- ประเทศกัมพูชา ที่เว็บไซต์ Curlie
- Cambodia profile from the BBC News
- Cambodia at Encyclopædia Britannica
- Wikimedia Atlas of Cambodia
- ดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศกัมพูชา ที่โอเพินสตรีตแมป
- Key Development Forecasts for Cambodia จาก
- ประเทศกัมพูชา 23 ธันวาคม 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ
- รัฐบาล
- King of Cambodia, Norodom Sihanouk Official website of former King Norodom Sihanouk (ในภาษาฝรั่งเศส)
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 ตุลาคม 2006. Official Royal Government of Cambodia Website (English Version)
- Ministry of Foreign Affairs and International Cooperation
- ประชาสังคม
- Cooperation Committee for Cambodia)
- Cambodian Center for Human Rights
- Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights
- Action IEC Working For Cambodian Community Education Through Media and Culture
- Freedom in the World 2011: Cambodia 23 ตุลาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Freedom of the Press 2011: Cambodia 7 มกราคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kmphucha ekhmr កម ព ជ km phucha chuxxyangepnthangkarwa rachxanackrkmphucha ekhmr ព រ រ ជ ណ ចក រកម ព ជ ph rarachanack rkm phucha epnpraethstngxyuinswnitkhxngkhabsmuthrxinodcininexechiytawnxxkechiyngit miphunthi 181 035 tarangkiolemtr miphrmaednthistawntktidtxkbpraethsithy thisehnuxtidkbpraethsithyaelalaw thistawnxxkaelathisittidkbewiydnam aelathistawntkechiyngittidxawithy dwyprachakrkwa 15 lankhn kmphuchaepnpraethsthimiprachakrmakthisudxndbthi 66 khxngolk sasnaphuththnikayethrwathepnsasnapracachati sungprachakrkmphuchanbthuxmakkwa 97 chnklumnxyinpraethsmichawewiydnam chawcin chawcam aelachawekhakwa 30 epha emuxnghlwngaelaemuxngihysud khux phnmepy sungepnsunyklangthangkaremuxng esrsthkic aelawthnthrrmrachxanackrkmphucha ព រ រ ជ ណ ចក រកម ព ជ ekhmr thngchati traaephndinkhakhwy ជ ត ស សន ព រ មហ ក សត រ chati sasna phramhakstriy ephlngchati បទនគររ ជ nkhrrach source track track track track track track track track track track track aesdnglukolkaesdngaephnthiexechiytawnxxkechiyngitthitngkhxng praethskmphucha ekhiyw inxaesiyn ethaekhm khaxthibaysylksn emuxnghlwng aelaemuxngihysudphnmepy 11 33 N 104 55 E 11 550 N 104 917 E 11 550 104 917phasarachkarekhmrphasarachkarthiyxmrbxksrrachkarxksrekhmrklumchatiphnthu 2019 95 6 ekhmr2 4 cam1 5 cin0 2 0 3 xun sasna 2019 97 1 phuthth sasnapracachati 2 0 0 3 0 5 xun edmanimchawkmphuchaekhmrkarpkkhrxngrthediyw rabbrthspha rachathipityodyeluxktng rachathipityphayitrththrrmnuy phramhakstriyphrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni naykrthmntrismedcmhabwrthibdi hun maaent smedcxkhrmhaesnabdi edoch hun esn sphanitibyytisphaphuaethnrasdr sphasungphvthspha sphalangrthsphakxtng xanackrfunankh s 50 68 kh s 550 627 xanackrecnlakh s 550 802 ckrwrrdiekhmrkh s 802 1431 yukhmudkh s 1431 1863 xarkkhakhxngfrngess11 singhakhm kh s 1863 9 phvscikayn kh s 1953 cakshprachachati14 thnwakhm kh s 1955 23 tulakhm kh s 1991 24 knyayn kh s 1993 ptiyyaxaesiyn30 emsayn kh s 1999phunthi rwm181 035 tarangkiolemtr 69 898 tarangiml xndbthi 88 aehlngna 2 5prachakr samaonprachakr kh s 201915 552 211 xndbthi 73 khwamhnaaenn87 txtarangkiolemtr 225 3 txtarangiml xndbthi 96 cidiphi xanacsux kh s 2019 praman rwm76 635 phnlandxllar txhw4 645 dxllarcidiphi rakhatlad kh s 2019 praman rwm2 6628 hmunlandxllar txhw1 614 dxllarcini kh s 2013 36 0 panklangexchdiix kh s 2019 0 594 panklang xndbthi 144skulengineriyl KHR ekhtewlaUTC 7 ewlaxinodcin ww dd ppppkhbrthdankhwarhsothrsphthrhs ISO 3166odemnbnsud kh rachxanackrkmphuchapkkhrxngaebbrachathipityphayitrththrrmnuy miphrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni macakkareluxktngodyrachsphaephuxrachbllngk epnpramukhaehngrth pramukhrthbal khux smedcxkhrmhaesnabdiedoch hun esn phusungpccubnepnphunathidarngtaaehnngnanthisudinexechiytawnxxkechiyngit odyidpkkhrxngkmphuchamaepnrayaewlakwa 25 pi in ph s 1345 phraecachywrmnthi 2 prabdaphiesktnepnphramhakstriy xnepncuderimtnkhxngckrwrrdikhaaemr xanacaelakhwammngkhngmhasalkhxngckrwrrdikhaaemrthimiphramhakstriykhrxngrachsmbtisubtxknmannidmixiththiphlinexechiytawnxxkechiyngitepnewlakwa 600 pi kmphuchathukpkkhrxngepnemuxngkhunkhxngpraethsephuxnban krathngthukfrngessyudepnxananikhminklangkhriststwrrsthi 19 kmphuchaidrbexkrachin ph s 2496 sngkhramewiydnamidkhyayekhasukmphucha thaihekhmraedngkhunsuxanac sungyudkrungphnmepyidin ph s 2518 kxncaphngadkhunxikhlaypiihhlngphayinekhtxiththiphlsngkhmniymepnsatharnrthprachachnkmphuchakrathng ph s 2536 phayhlngsnthisyyasntiphaphparis ph s 2534 sungepnkaryutisngkhramkbewiydnamxyangepnthangkar kmphuchathukkhwbkhumodyshprachachatiinchwngsn ph s 2535 2536 hlngcakhlaypiaehngkaroddediyw chatisungesiyhaycaksngkhramkidrwmekhadwyknxikkhrngphayitrabxbrachathipityinpiediywknnnexng inkarburnapraethshlngsngkhramklangemuxngnanhlaythswrrs kmphuchamikhwamkhubhnaxyangrwderwindanesrsthkicaelathrphyakrmnusy praethskmphuchaidmihnunginbnthukesrsthkicthidithisudinexechiy odymixtrakaretibotthangesrsthkicechliy 6 0 epnewlanan 10 pi phakhsingthx ekstrkrrm kxsrang esuxphaaelakarthxngethiywthiekhmaekhngidnaipsukarlngthuncaktangchatiaelakarkharahwangpraeths in ph s 2548 mikarphbaehlngnamnaelaaeksthrrmchatiitnannaxanaekhtkhxngkmphucha karkhudecaaechingphanichyerimkhunin ph s 2556 rayidcaknamnsamarthmiphltxesrsthkickmphuchaxyangmak kmphuchaepnsmachikkhxngxngkhkarshprachachatitngaetpi ph s 2498 rwmthungkhwamtklnghunswnthangesrsthkicradbphumiphakh karprachumsudyxdexechiytawnxxk xngkhkarkarkhaolk khbwnkarimfkiffayid aela xngkhkarrahwangpraethskhxngklumpraethsthiichphasafrngess tamrayngankhxngxngkhkarrahwangpraethshlayaehng pyhahlkkhxngpraethskhuxkhwamyakcnkarthucrit karkhadesriphaphthangkaremuxng xtrakarphthnamnusyta aelakhwamxdxyaksungniruktisastrkhawa ekhmr khmay khaaemr khaemr inphasaekhmr source source hakmipyhainkarelniflni duthiwithiichsux Cambodia aela Kampŭchea កម ព ជ epnchuxpraethsinphasaxngkvsaelaphasaekhmrsungthngsxngkhamacakkaraephlngkhainphasafrngess Cambodge sungchawfrngessicheriykdinaednckrwrrdickrekhmrinyukhobran aelachatitawntkxun erimmikarklawthungchuxpraethskmphuchatngaet kh s 1524 emuxxnotniox phikaeftta nksarwcchawxitalithitidtamefxrdinand maeclln inkaraelneruxrxbolk mikarxangthungchuxpraethskmphuchainbnthukkaredinthangkhxngekhainchux Camogia aelaemuxewlaphanip phukhnideriykkhaniwa Cambodia chawkmphuchaswnmakniymeriykpraethstnexngwa Srok Khmer ស រ កខ ម រ Srŏk Khmer xxkesiyngwa srok kʰmae hmaythung dinaednaehngekhmr aelanbtngaetyukhlaxananikhmepntnma chux Cambodia epnthiniymichodythwipinklumpraethsolktawntk inkhnathi Kampuchea epnthiniymmakwainklumchatitawnxxkprawtisastrprawtisastryukhaerkkhxngkmphucha ekhruxngekhluxbhinekhluxbyxnhlngipthungstwrrsthi 12 khwamruekiywkbyukhkxnprawtisastrkhxngkmphuchannmixyunxymak aehlngobrankhdiekaaekthisudkhxngkmphuchathikhnphbinpccubn khux tha aelng saepn Laang Spean thangtawnxxkechiyngehnuxkhxngpraeths sungechuxwaphukhnerimekhamatngthinthanknemuxpraman 7 000 pikxnkhristkal aelaaehlngobrankhdisaorng esn Samrong Sen sungechuxwaerimmiphukhnekhamatngthinthanemuxraw 230 thung 500 pikxnkhristkal chawkmphuchaerimruckkareliyngstwaelaephaaplukkhawidtngaetemuxraw 2 000 kxnkhristkal samarththaekhruxngmuxcakehlkidtngaetraw 600 pikxnkhristkal kxnhnathixiththiphlcakwthnthrrmxinediycaaephnekhamathungdinaednaethbni inrawpithi 100 kxnkhristkal hlkthanthangobrankhdibngchiwaphunthihlayswnkhxngdinaednpraethskmphuchainpccubnerimmiphukhnxasyxyutngaetemuxrawshswrrsaerkaelashswrrsthi 2 kxnkhristkal odycdepnwthnthrrmyukhhinihm sungphukhnklumnixacxphyphmacakthangphunthitawnxxkechiyngitkhxngcin inkxnchwngkhriststwrrsaerk phukhninaethbidmiwiwthnakarsukartngthinthanepnhlkaehlng mikarcdokhrngsrangkhxngsngkhmxyangepnrabb sungthaihsamarthphthnathksawithyakartang idkawhnakwayukhkxn epnxyangmak klumthimiphthnakarkawhnathisudxasyxyuinbriewnchayfng thirablumaemnaokhngtxnlang aelabriewnsamehliympakaemnaokhng samarthephaaplukkhawaelaeliyngpsustwid nkprawtisastrhlaykhnmikhwamehnwa phukhnklumniidtnghlkaehlngxasykxnhnaphukhninpraethsephuxnban khux ewiydnam ithy aelalaw phukhnklumnixaccdxyuinklumxxsotrexechiytik Austroasiatic hruxxyangnxykmikhwamsmphnthkbbrrphburuskhxngmnusyklumdngklaw sungepnklumkhnthixasyxyuthwipindinaednexechiytawnxxkechiyngitaelaekaaaekngtang khxngmhasmuthraepsifikinpccubn phukhnehlanimikhwamruinnganolha echnehlkaelasarid odyepnepnthksathikhidkhnkhunexng nganwicyinpccubnidkhnwa chawkmphuchainyukhnisamarthprbprungsphaphphumipraethsmatngaetyukhhinihm odypraktrupaebbepnphunthirupwngklmkhnadihy xanackrfunn xanaekhtkhxngxanackrfunn xanackrkhrngaerkkhxngchawekhmr xanackrfunnepnrththirungeruxngxyurahwangkhriststwrrsthi 1 6 thitngkhxngrthxyubriewnlumaemnaokhngtxnlang pccubnepnthitngpraethskmphucha ewiydnamtxnit phakhtawnxxkechiyngehnuxkhxngithy bangtxnkhxnglumaemnaecaphraya aelaphakhitkhxngithy lngmathungaehlmmlayu funanrwmtwknepnrthaerkkhxngexechiytawnxxkechiyngit epnrthchlprathanphayinaephndinthiprachachndarngchiphdwykarekstr odyichnacakrabbchlprathanthiphthnaepnxyangdi nxkcaknn funanyngmiemuxngthasahrbcxderuxaelakhakhaytangpraeths funan cungmirayidcakkarkhakhay karedineruxxikdwy eruxngrawkhxngrthfunan thrabcakbnthukkhxngchawcinthiedinthangmaaethbni idekhiynelathungkhwammngkhng khwamepnxyuinchumchnthimiraebiyb mikhunthrrm mikarpkkhrxngrabxbkstriy miemuxngtang makhundwyhlayemuxng miwthnthrrmaeth khxngtnexng mikartidtxkbchawtangpraeths thnginthwipexechiydwykn aelaolktawntk chnchnsungepnphwkmalaoyophliniesiyn chawcinwaphwkchnchnphunemuxngkhxngfunnhnatanaekliyd twelk phmhyik snnisthanwanacaepnphwkenkriotaelaemlaniesiyn funanmiprawtikhwamepnma erimcakkarrwmtwknkhxngphukhn epnchumchnelkkhnadhmuban cakhmubanphthnakhunmaepnrth withikarphthnacaksngkhmephaepnsngkhmrthmipccyaelakhntxnhlayprakar xanackrecnla xanackrxisanpura inrahwang ph s 1170 1250 nnxanackrekhmrobranmikstriykhrxngrachykhux phraecaphwwrmnthi 2 phraoxrskhxngphraecaxisanwrmnthi 2 aelaphraecachywrmnthi 1 oxrskhxngphraecaphwwrmnthi 2 yukhniidsrangsilpekhmraebbiphrkemng khunrahwangph s 1180 1250 smyphraecachywrmnthi 1 nnxanackrecnla ecnla nnidaetkaeykepnphwkecnlabkkhuxxyulumnaokhngtxnit aelaphwkecnlana xyuindinaednlawtxnklang ph s 1250 1350 yukhniidmikarsrangsilpekhmraebbkaphngphrakhun xanackrekhmrobrannnlmslaymacnthungrchsmyphraecachywrmnthi 2 hruxphraecapremswr ph s 1345 1393 phraxngkhidrwbrwmphwkecnlabkaelaphwkecnlanaepnxanackrihmodyrbexalththiselnthrhrux ethwrachaekhamathakarsthanpnaxanackrihmkhun odythakarsrangrachthanikhunihmhlayaehngaelasrangprasathhinhruxethwalyepnkarihy sungmiehtukarnyayrachthanikhunhlaykhrngcnkwacalngtwthiemuxnghrihralyrachthaniaehngaerkkhxngxanackrekhmr txmakhux emuxngyosthrpura aela emuxngnkhrthminthisud dwyehtunixanackrekhmrsmynicungrungeruxngdwykarsrangrachthanikhunhlayaehngaelamiprasathhinthiepnsilpaekhmrekidkhunhlayaebb klawkhux smyphraecachywrmnthi 2 nnphraxngkhidthakarsrangemuxngxinthrpuraepnrachthani khunthibriewniklemuxngkaaephngcam srangemuxnghrihralyhruxrxlwy epnrachthani srangemuxngxmernthrpura epnrachthani aelasrangemuxngmehnthrbrrpht hrux phnmkuelnepnrachthani yukhniidsrangsilpekhmraebbkuelnkhunrahwang ph s 1370 1420 emuxsinrchkalphraecachywrmnthi 2 phraoxrsidkhrxngrachythrngphranamwaphraecachywrmnthi 3 hrux phraecawisnuolk khrxngrachy ph s 1393 1420 phraxngkhidklbmaichemuxnghrihralyhruxrxlxy epnrachthani txmacnthungrchkalphraecaxinthrwrmnthi 1 hrux phraecaxiswrolk khrxngrachy ph s 1420 1432 yukhniidsrangsilpaekhmraebbphraokhkhuninph s 1420 1440 insmyphraecayoswrmnthi 1 hrux phraecabrmsiwolk phraoxrskhxngphraecaxinthrwrmnthi 1 sungkhrxngrachyepnkstriyekhmrinph s 1432 1443 nn phraxngkhidsrangemuxngyosthrpurahruxemuxngphrankhraehngaerkkhunthiekhaphnmbaekhng emux ph s 1436 sungxyuthangtxnehnuxthaelsabemuxngesiymrath emuxngnikhnithyeriyk esiymrath karsrangprasathhinkhunbnekhaphnmbaekhngnn epnxiththiphlkhxngsasnaphrahmnhruxhinduthiaephxiththiphlekhamayngdinaednaethbni sungthuksmmtikhunepnsunyklangkhxngckrwaltamkhwamechuxnn nbepnsilpaekhmraebbbaekhng emuxngyosthrpura rachthaniaehngnimikstriykhrxngrachytxmakhux phraecahrrswrmnthi 1 hrux phraecaruthrolk phraoxrskhxngphraecayoswrmnthi 1 khrxngrachy ph s 1443 1456 aelaphraecaxisanwrmnthi 2 hruxphraecabrmruthrolk phraxnuchakhxngphraecahrrswrmnthi 1 khrxngrachy ph s 1456 1468 cungekidehtukarnepliynaephndin inthisudphraecachywrmnthi 4 hruxphraecabrmsiwbth sungepnnxngekhykhxngphraecayoswrmnthi 1 idkhunkhrxngrachyepnkstriyxanackrekhmrin ph s 1471 1485 phraxngkhidsrangrachthanikhunthiemuxngochkkarykyarhruxekaaaekr aelaphraecahrrswrmnthi 2hruxphraecaphrhmolk phraoxrskhxngxngkhidkhrxngrachytxmarahwang ph s 1485 1487 yukhniidsrangsilpaekhmraebbekaaaekr ph s 1465 1490 txmaphraecaraechnthrwrmn hruxphraecasiwolk phranddakhxngphraecayoswrmnthi 1 idkhrxngrachyin ph s 1487 1511 idyayrachthanimathiemuxngyosthrpura hruxemuxngphrankhraehngaerk yukhniidsrangsilpaekhmraebbaeprrup ph s 1490 1510 emuxngyosthrpura rachthaniekaaehngnimikstriykhrxngrachytxmahlayphraxngkh idaek phraecachywrmnthi 5 hruxphrabrmwirolk sungepnphranddakhxngphraecaraechnthrwrmn khrxngrachy ph s 1511 1544 smynisrangsilpaekhmraebbbnthaysri ph s 1510 1550 khun phraecaxuthythitywrmnthi 2 phranddakhxngphraecachywrmnthi 5 khrxngrachy ph s 1544 srangsilpaekhmraebbkhlngkhun ph s 1510 1560 phraecachywirwrmn khrxngrachy ph s 1545 swrrkht ph s 1553 phraecasuriywrmnthi 1 khrxngrachy ph s 1545 1593smyniphraxngkhidthakarsthapnarachwngskhunihm aelanacamikarsrangemuxngphrankhrkhunihmepnaehngthisxngepnyukhthisrangsilpaebbpabwnkhunichin ph s 1560 1630 emuxngphrankhraehngthisxngni yngimmiraylaexiyd cungsrupimidwaxyuthiid indinaednphayphnn edimhwemuxngfayehnuxthnghmdepnthinthixyukhxngchnchatilaw khrnemuxekhmrmixanackhyayxanackrmasudinaednphayph cungtngemuxnglaowihecankhrekhmrkhxyduael aelaphranangcamethwiphrathidakhxngecaphukhrxngemuxnglaowidkhunipkhrxngemuxnghriphuychy emuxnglaphun sungepnemuxnglukhlwngkhxngekhmrlaow phrathidaecaphukhrxngemuxngnicungidpkkhrxngphwklawthngpwnginmnthlphayph emuxnghriphuychy emuxnglaphun cungepnemuxnglukhlwngkhxngekhmrlaow thitngkhunephuxichduaeldinaednphayph txmaidtngemuxngnkhrekhlangkh emuxnglapang khunaelapkkhrxngrwmkn ckrwrrdiekhmr nkhrwdibhnakhxngphraophthistw phraxwolkietswr thi prasathbayn xanaekhtkhxngckrwrrdiekhmr siaedng ckrwrrdikhaemr hrux xanackrekhmrobran hruxbangaehlngeriykwa xanackrkhxm epnhnunginxanackrobran erimtnkhun rawphuththstwrrsthi 6 odyerimcakxanackrfunn mithitngxyuinbriewnpraethskmphucha odymixanaekhtkhrxbkhlumphunthibangswnkhxng praethsithy law aelabangswnkhxngewiydnaminpccubn nbepnxanackrthimiaesnyanuphaphmakthisudinexechiytawnxxkechiyngit txmaidxxnkalnglngcnesiydinaednbangswnihkbxanackrsuokhthyaelaaetkslayinthisudemuxtkepnemuxngkhunkhxngxanackrxyuthya xanackrekhmrsubthxdxanaccakxanackrecnla misngkhramphldknaephphldknchnakbxanackrkhangekhiyng echn xanackrlanchang xanackrxyuthya aelaxanackrcampa mrdkthisakhythisudkhxngxanackrekhmrkhux nkhrwd aela nkhrthm sungekhyepnnkhrhlwngemuxkhrngxanackraehngnimikhwamecriyrungeruxngthisud aelayngmilththikhwamechuxtang xyanghlakhlay sasnahlkkhxngxanackrniidaek sasnahindu phuththsasnamhayan aelaphuththsasnaethrwathsungidrbcaksrilngka emuxkhriststwrrsthi 13 yukhmudkhxngkmphucha yukhmudkhxngkmphucha erimtngaetxanackrxyuthyaidocmtixanackrekhmr aela idepha phrankhr emuxnghlwngkhxngxanackrekhmr rabepnhnaklxng thaihxanackrekhmrepnswnhnungkhxngsyampraethstngaetbdnnma ekhmrepnswnhnungkhxngxanackrxyuthyainthanadinaednpraethsrach xanackrxyuthyapkkhrxngekhmrepnewlaekuxb 400 pi txmainsmykrungthnburiaelakrungrtnoksinthrekhmrtkxyuphayitkarkhwbkhumkhxngckrwrrdisyamxyangekhmngwd insmyrchkalthi3 idekid sngkhramxanamsyamyuthththaihkmphuchaepnrthxarkkharahwangsyamkbywn kxnthicatkepnkhxngfrngessinewlatxma xananikhmkhxngfrngess kmphuchatkepnrthinxarkkhakhxngfrngesstamemux 11 singhakhm ph s 2406 insmyphranordm odysyamphyamyamkhdkhanaetimepnphlsaerc inchwngaerk frngesspkkhrxngkmphuchaodyimekhaipekiywkhxngkbkickarphayinmaknk aelachwykhacunrachbllngkkhxngkmphucha odychwyprabkbttang cn ph s 2426 2427 hlngcakyudkhrxngewiydnamidthnghmd odyphyayamlidrxnxanackhxngkstriyaelaykelikrabbiphrthas thaihekidkartxtancakprachachnxyangrunaerng cntxngecrcakbphranordm kstriyinkhnann ihprakassntiphaph aelarangbkaraethrkaesngkmphucha cnkrathngphranordmswrrkht frngessidsnbsnunihphrasisuwtthkhunepnkstriy phrxmthngmxbxanackarpkkhrxngthnghmdihfrngess hlngcakfrngessekhapkkhrxngkmphuchaemux ph s 2406 frngessepliynaeplngrabbesrsthkicinewiydnam odyprbprungkarekbphasi sungthaihekidkhwamimphxicinhmuchawkmphucha aelayngnachawewiydnamekhamathanganepnecahnathiinrabbrachkarkhxngfrngess aelaepnaerngnganthangdanekstrkrrm rahwangsngkhramolkkhrngthisxng chwngklangpi ph s 2484 kxngthphyipunekhluxnekhasukmphuchaaetyxmihrthbalwichipkkhrxngdngedim rthbalithyinsmycxmphl p phibulsngkhramideriykrxngdinaednbangswninlawaelakmphuchakhuncakfrngesscnnaipsukrniphiphathxinodcinfrngessthierimkhunemux 19 thnwakhm ph s 2484 inthisud yipunekhamaiklekliyodythiithyidcnghwdphratabxng esiymrathaelabangswnkhxngcnghwdstungaetrng ykewnprasathnkhrwdyngxyuinekhtaednkhxngfrngess phrasisuwtthi muniwngskstriykmphuchasinphrachnmhlngkrniphiphathniimnan frngesseluxkphranordm sihnukhunepnkstriythngthiyngthrngphraeyaw txma yipunidsnbsnunkarcdtngrthbalhunechidinwnthi 9 minakhm ph s 2488 kmphuchaidprakasexkrachphayitwngiphbulyaehngmhaexechiyburphakhxngyipun odymiphranordm sihnuepnpramukhrth hlngcakyipunyxmaephemuxeduxnsinghakhm ph s 2488 kxngthphfaysmphnthmitridekhamainphnmepy sthapnaxanackhxngfrngessinkmphuchaxik rthbalidtdsinicthicarwmxinodcinekhakbshphaphfrngess inphnmepy phranordm sihnuphyayamecrcakbfrngessephuxeriykrxngexkrachthismburn inkhnathiklumtxtanthieriyktnexngwaekhmrxisra idichkarsurbaebbkxngocrtamaenwchayaedn odyidrwmmuxkbklumfaysaythngthiniymaelaimniymewiydnam rwmthngklumekhmresrisungepnklumtxtanrachwngskhxngesing ngxkthydwy in ph s 2489 frngessyxmihmikarcdtngphrrkhkaremuxnginkmphucha aelaihmikareluxktngphayinpraeths phranordm sihnuyngkhngtxsuephuxeriykrxngexkrachihkmphuchaepnxisracakshphaphfrngess cnfrngessphayaephinsngkhramxinodcinkhrngthihnung cungyxmmxbexkrachihaekkmphucha rachxanackrkmphuchahlngexkrach thngchatirachxanackrkmphucharahwang ph s 2498 2513 hlngkarprachumecniwaidmikareluxktngkhuninpraethskmphuchain ph s 2498 odymikhnakrrmkarkhwbkhumnanachatiepnphusngektkarn inwnthi 2 minakhm ph s 2498 phranordm sihnuidprakasslarachsmbtiihphrabidakhxngphraxngkhkhuxphrabathsmedcphranordm suramvt aelathrngtngphrrkhkaremuxngkhunkhuxphrrkhsngkhmrasdrniymhruxrabxbsngkhm smachikswnihyepnfaykhwa sungtxtankhxmmiwnistdwykhwamrunaerng aetkmismachikfaysayphayinphrrkh echn ekhiyw smphn hu ywn ephuxthwngdulkbfaykhwa kareluxktngineduxnknyayn ph s 2498 phrrkhsngkhmchnakareluxktngodyid 83 khxngthinngthnghmdinspha nxkcaknn phranordm sihnu yngdaeninnoybaythicadungfaysayaelafaykhwaklumtang ihekharwmkbrabxbsngkhmkhxngphraxngkh aelakddnphuthiimyxmekharwmkbphraxngkh tngaet ph s 2503 epntnip xngkhkrthitxtanrabxbkhxngphranordm sihnuthukphlkdnihklayepnxngkhkritdin phrrkhthiepnexkethskhxngfaysay echn krmprachachnklayepnepahmaykhxngkarocmti sthaniwithyuaehngchatiidxxkprakaswakrmprachachnepnhunechidkhxngewiydnam mikartidopsetxrtxtankrmprachachnodythwip hnngsuxphimphkhxngfaytxtanphraxngkh echn hnngsuxphimph l Observateur aelahnngsuxphimphxunthimienuxhaiklekhiyngknthuksngpidineduxnminakhm ph s 2506 phranordm sihnuidprakaschuxkhxngfaysaycanwn 34 khn waepnphwkkhikhlad hlxklwng kxwinaskrrm hwhnakbt aelaepnkhnthrys phlthitammathaihkhbwnkarfaysaytxngxxkcakemuxnghlwngiptngmninchnbth kardaeninnoybaytangpraethskhxngphranordm sihnu epnkardaeninnoybayimfkiffayid aetmiaenwonmepnptipkskbithyaelaewiydnamit inkhnathiepnmitrkbcinaelasnbsnunewiydnamehnuxinsngkhramewiydnam kmphuchainsmynimikrniphiphathkbithy thngkrniphiphatheruxngprasathekhaphrawihar aelakarkwadlangchawithyekaakngincnghwdekaakng karpkkhrxngrabxbsngkhmkhxngphraxngkhsinsudlngemuxthukrthprahar odyln nl emux ph s 2513 sungidcdtngrthbalsatharnrthekhmrkhunaethn phranordm sihnutxngliphyipcdtngrthbalrachxanackrkmphuchaphldthin thikrungpkking praethscin satharnrthekhmraelasngkhram chawekhmrnbhmunkhnesiychiwitinchwng inrahwang pi kh s 1970 aela 1973 sngkhramklangemuxngkmphucha epnkhwamkhdaeyngrahwangphrrkhkhxmmiwnistkmphucha ekhmraedng satharnrthprachathipityewiydnam ewiydnamehnux aelaewiydkngfayhnungkbrthbalsatharnrthekhmrthiidrbkarsnbsnuncakshrthxemrikaaelasatharnrthewiydnam ewiydnamit xikfayhnung sngkhramnisbsxnyingkhuncakxiththiphlaelakarkrathakhxngphnthmitrkhusngkhram karekhamiswnekiywkhxngkhxngkxngthphprachachnewiydnam kxngthphewiydnamehnux epnipephuxpxngknthanthimnthangtawnxxkkhxngkmphucha sunghakesiyipkardaeninkhwamphyayamthangthharinewiydnamitcayakkhun hrthprahar 18 minakhm ph s 2513 thaihrthbalniymxemrikaaelatxtanewiydnamethlingxanac aelayutikhwamepnklanginsngkhramewiydnam kxngthphewiydnamehnuxcungthukkhukkhamcakthngrthbalkmphuchaihmthiimepnmitrthangtawntk aelakxngkalngshrthaelaewiydnamitinewiydnamthangtawnxxk hlngcakkarsurbphanip 5 pi rthbalfaysatharnrthekhmrphayaephemux 17 emsayn ph s 2518 aelaekhmraedngidprakastngkmphuchaprachathipity khwamkhdaeyngniaemcaepnkarsurbinpraeths aetkthuxepnswnhnungkhxngsngkhramewiydnam ph s 2502 2518 aelamikhwamekiywkhxngkbpraethsephuxnbanxyangrachxanackrlaw ewiydnamehnuxaelaewiydnamit sngkhramklangemuxngninaipsukarkhalangephaphnthuchawkmphucha kmphuchaprachathipityaelaekhmraedng hxngkhxng miphaphthaynbphnkhxngehyuxthithukkhalangephaphnthuodyekhmraedngecingexksthanthifngsphkhxngprachachncakkarkhalangephaphnthuinyukhekhmraedng kmphuchaprachathipity xngkvs Democratic Kampuchea frngess Kampuchea democratique ekhmr កម ព ជ ប រជ ធ បត យ យ xanwa kxmpueciypraeciythipaety khuxchuxkhxngpraethskmphucharahwangpi ph s 2519 ph s 2522 sungekidcakkarokhnlmrthbalsatharnrthekhmrkhxngnayphllxlnxl aelaidcdpkkhrxnginrupaebbrthkhxmmiwnistodyphrrkhkhxmmiwnistkmphuchahruxekhmraedng insmynixngkhkrkhxngrthbalcathukxangthunginchux xngkarelx ekhmr អង គក រល xng khkareli xngkhkarbn hrux hnwyehnux swnphrrkhkhxmmiwnistkmphuchann aeknnakhxngphrrkhiheriykchuxwa xngkarpaedawd ekhmr អង គក របដ វត ត xng khkarptiwt ti xngkhkarptiwti odyphunasungsudkhxngpraethsthikhrxngxanacyawnanthisudkhuxnayphl pht sungepnphunasungsudkhxngekhmraedngdwy inpi ph s 2522 kxngkalngphrrkhkhxmmiwnistkmphuchaphayitkarnakhxngehng smrin aelakxngthphewiydnamidrukekhamathangchayaedntxnitkhxngkmphuchaaelasamarthokhnlmrthbalkmphuchaprachathipityidsaerc phrxmthngidcdkarpkkhrxngpraethsihminchux satharnrthprachachnkmphucha kxngthphekhmraedngcungidthxyrniptngmninthangphakhehnuxkhxngpraethsaelayngkhngcdrupaebbkarpkkhrxngtamrabbkhxngkmphuchaprachathipityedimtxip satharnrthprachachnkmphucha satharnrthprachachnkmphucha xngkvs People s Republic of Kampuchea PRK ekhmr ស ធ រណរដ ឋប រជ ម ន តកម ព ជ satharnrt thp rchamanit km phucha epnrthbalthicdtnginkmphuchaodyaenwrwmsamkhkhiprachachatikuchatikmphucha sungepnklumkhxngkmphuchafaysaythixyutrngkhamkbklumkhxngekhmraedng lmlangrthbalkmphuchaprachathipitykhxngphl pht odyrwmmuxkbkxngthphkhxngewiydnam thaihekidkarrukranewiydnamkhxngkmphucha ephuxphlkdnkxngthphekhmraedngxxkipcakphnmepy miewiydnamaelashphaphosewiytepnphnthmitrthisakhy satharnrthprachachnkmphuchaimidepnsmachikkhxngshprachachatiephraaimidrbkarsnbsnuncakcin xngkvsaelashrthxemrika thinnginshprachachatikhxngpraethskmphuchainkhnannepnkhxngaenwrwmekhmrsamfaythicdtngrthbalphsmkmphuchaprachathipity sungklumekhmraedngkhxngphl phtekharwmkbklumthiimichkhxmmiwnistxik 2 klum khux klumkhxngnordm sihnu aelasxn san xyangirktam satharnrthprachachnkmphuchaidprakasepnrthbalkhxngkmphucharahwang ph s 2522 2536 odymikhwamsmphnthkbtangpraethsthicakd satharnrthprachachnkmphuchaepliynchuxepnrthkmphucha xngkvs State of Cambodia SOC ekhmr រដ ឋកម ព ជ inchwngsipisudthay ephuxihekidkaryxmrbinradbnanachati inkhnaediywkniderimmikarepliynaeplngrabbcakrabbrthediywipsukarfunfurachxanackrkmphucha satharnrthprachachnkmphuchaepnrthkhxmmiwnist inchwng ph s 2522 2534 odyniymlththimaks elninaebbshphaphosewiyt karkxtngsatharnrthprachachnkmphuchaekidkhuninchwngthipraethskalngxxnaex cakkarthalaylangkhxngrabxbekhmraedng aelaepnrthhunechidkhxngewiydnamthiekhamaaethrkaesngthangesrsthkic cnrthbalkhxngsatharnrthprachachnkmphuchaekhmaekhng xyangirktam aemwaepnrththitxngxyuxyangoddediywaetkfunfuaelasrangchatikmphuchaidihm kmphuchayukhihm hlngkarlmslaykhxngkmphuchaprachathipity kmphuchatkxyuphayitkarrukrankhxngewiydnamaelarthbalthiniymhanxysungkxtngsatharnrthprachachnkmphucha sngkhramklangemuxnghlng ph s 2523 epnkarsurbrahwangkxngthphprachachnptiwtikmphuchakhxngrthbalkbaenwrwmekhmrsamfaysungthuxepnrthbalphldthinkhxngklumtangsamklumkhux phrrkhfunsinepkkhxngphranordm sihnu phrrkhkmphuchaprachathipityhruxekhmraedng aelaaenwrwmpldplxyaehngchatiprachachnekhmr mikarecrcasntiphaphtngaet ph s 2532 aelanaipsukarprachumsntiphaphthiparisephuxsngbsukin ph s 2534 inthisudmikarcdkareluxktngodyshprachachatiin ph s 2536 ephuxerimtnfunfupraeths phranordm sihnuklbmaepnkstriyxikkhrng mikarcdtngrthbalphsm hlngcakmikareluxktngodypktiin ph s 2541 karemuxngmikhwammnkhngkhun hlngkarlmslaykhxngekhmraedng in ph s 2541 karfunfusthabnphramhakstriy phrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphphrabathsmedcphranordm sihnu hlngphraxngkhesdcniwtikmphuchaaelapraethsidmikarfunfusthabnphramhakstriyaelw inpi ph s 2536 phrabathsmedcphranordm sihnuidrbxyechiyihesdcklbkmphuchaaelaidmikarfunfuinthanaphramhakstriykhxngkmphucha aetxanacthnghmdxyuinmuxkhxngrthbalthicdtngkhunhlngcakkareluxktngthiidrbkarsnbsnuncak UNTAC esthiyrphaphthiekidkhunhlngcakkhwamkhdaeyngekidkhuninpi ph s 2540 odykartharthpraharsungnaodynaykrthmntrihunesnrwmkbphrrkhthiimichkhxmmiwnistinrthbal hlngcakthirthbalsamarthrksaesthiyrphaphphayitkarbriharkhxngsmedchunesnaelwkmphuchakidrbkaryxmrbekhasusmakhmprachachatiaehngexechiytawnxxkechiyngit xaesiyn emuxwnthi 30 emsayn ph s 2542 inchwngimkipithiphanmakhwamphyayaminkarfunfuidkawhnaaelanaipsukhwammnkhngthangkaremuxngphanprachathipityrabbkaremuxnghlayphrrkhphayitrachathipityphayitrththrrmnuy aemwakarpkkhrxngkhxnghunesncathukklawhawamikarlaemidsiththimnusychnaelakarkhxrpchn phlemuxngkmphuchaswnihyinchwngpi 2000 yngkhngidrbkarxnumticakrthbal karsmphasnchawekhmrinchnbthinpi 2551 aesdngihehnwasthanathimnkhngtxkarepliynaeplngthixacekidkhunxyangrunaerngkaremuxngkarpkkhrxngphrabathsmedcphranordm sihmuni phramhakstriykmphucha ph s 2547 pccubn smedcmhabwrthibdihun maaent naykrthmntrikmphucha ph s 2566 pccubn sphaphkaremuxnginkmphuchapccubnthuxwamiesthiyrphaph phrrkhkaremuxngsxngphrrkhhlksungprakxbkhunepnrthbalkmphucha khux phrrkhprachachnkmphucha CPP khxngsmedchun esn aelaphrrkhfunsinepk FUNCINPEC khxngsmedckrmphranordm rnvththi samarthrwmmuxknidxyangrabrun thngindanbriharaeladannitibyyti rwmthngmithathithisxdkhlxngknepnswnihyinpraednthangkaremuxngsakhy khxngpraeths xathi eruxngkarnatwxditphunaekhmraedngmaphiphaksaoths epntn khnarthbalinphrarachxanackrkmphucha klumkaremuxngfaytrngkhamrthbalyngimmikhwamekhmaekhngmakphx aelakhngsamarththaidephiyngaetsrangphlkrathbthanglbtxphaphlksnkhxngrthbal odyinthangkaremuxng phrrkhsm rngsi phrrkhkaremuxngfaykhanhnungediywinsphaaehngchatikmphucha idekhluxnihwtrwcsxbkarthangankhxngrthbalkmphuchaxyangaekhngkhn phyayamchiihsatharnchnaelananachati ehnthungkarthucritaelapraphvtimichxbkhxngrthbal rwmthngkarichxanacthangkaremuxngephuxphlpraoychnswntnaelakhxngphrrkh xyangirkdi indankhwammnkhng mipraktkarnihm khux idekidklumtidxawuththimiwtthuprasngkhcaokhnlmrthbalkhxngsmedchun esn thisakhykhux Cambodian Freedom Fighters CFF sungmichawkmphuchasychatixemriknepnhwhna klumdngklawidkxkarraykhuninkrungphnmepyemuxwnthi 25 phvscikayn ph s 2543 aetrthbalkmphuchasamarthkhwbkhumsthankarniwid aelaxyurahwangkrabwnkarphiphaksatwphukrathaphid rthbal naykrthmntrikmphuchathuxepnhwhnafaybrikarinphrarachxanackrkmphucha swnxngkhphramhakstriyaehngkmphucha pccubnkhuxphrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni thrngepnpramukhkhxngrth naykrthmntriidrbkaraetngtngcakphramhakstriytamkhaaenanaaelaodykhwamehnchxbkhxngrthspha naykrthmntriaelaphudarngtaaehnngrthmntricaichxanacbriharpraeths inpccubn naykrthmntriaehngphrarachxanackrkmphuchamithngsin 36 khn odymi smedcmhabwrthibdi hun maaent epnnaykrthmntrikhnthi 36 aehngphrarachxanackr txcaksmedcxkhrmhaesnabdiedochhun esn phramhakstriy phrabrmchayalksnphrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni n rachthaniphnmepy sthabnphramhakstriyinphrarachxanackrkmphuchaepnaebbrachathipityphayitrththrrmnuy xngkhphramhakstriythrngepnphrapramukhthiekharphskkara immiphrarachxanacpkkhrxngodytrng thrngyudthuxhlk ihthrngpkekla aetimthrngpkkhrxng khlaykbrabbphramhakstriyinshrachxanackraelayipun phramhakstriythrngepnpramukhaehngrth xyangepnthangkaraelaepnsylksnaehngsylksnkhxngsntiphaph esthiyrphaphaelaswsdiphaphkhxngchatiaelachawekhmr tamthikahndiwinrththrrmnuykhxngkmphucha sthabnphramhakstriykmphuchathuxepnsthabnthiekaaekthisudepnxndb 2 inthwipexechiyrxngcakyipun ckrphrrdiyipun phramhakstriyphraxngkhpccubnkhux phrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmuni thrngepnphramhakstriyphraxngkhthi 114 rchkalthi 114 thrngsubphrarachsnttiwngsmacakrachwngswrmn karsubrachsnttiwngs rabbkstriykhxngkmphuchaimehmuxnkbrabbkstriyswnihyinpraethsxun thirachbllngkcatkipsuphumiladbkarsubrachsnttiwngsladbthdip phuthimiskdisungsudinrachwngs hruxphrarachoxrsxngkhotkhxngkstriyphraxngkhkxn epntn aelaphramhakstriy imsamartheluxkphuthicamasubrachsnttiwngsiddwytwexng aetphuthimisiththiinkareluxkphramhakstriyxngkhihmnnkhux krmpruksarachbllngk Royal Council of the Throne sungmismachikdngni naykrthmntriaehngrachxanackrkmphucha prathanrthsphaaehngrachxanackrkmphucha prathanphvthsphaaehngrachxanackrkmphucha rxngprathanrthsphakhnthihnung rxngprathanrthsphakhnthisxng rxngprathanphvthsphakhnthihnung rxngprathanphvthsphakhnthisxng smedcphrasngkhrachinsasnaphuthth faykhnasngkhmhanikay smedcphrasngkhrachinsasnaphuthth faykhnasngkhthrrmyutiknikay krmpruksarachbllngkcacdkarprachuminspdahthiphramhakstriyswrrkhthruximsamarthptibtiphrarachkrniykicidtxip aelaeluxkphramhakstriyxngkhihmcakraychuxphumisiththisubrachsnttiwngs aelaepnsmachikrachwngs khwamsmphnthrahwangpraeths exkxkhrrachthutphrarachxanackrkmphuchapracarsesiyinphranamphraecakrungkmphuchathibdi khnaekhaphbnaykrthmntrirsesiy dmitri emdewedfpraethsthimikhwamsmphnththangkarthutkbkmphucha khwamsmphnthrahwangpraethskhxngphrarachxanackrkmphuchaidthukbriharcdkarodyphayitkarduaelkhxng phn than phrarachxanackrkmphuchayngepnpraethssmachikkhxngxngkhkarshprachachati thnakharolk aelakxngthunkarenginrahwangpraeths nxkcakniyngepnpraethssmachikkhxngthnakharphthnaexechiy ADB smakhmprachachatiaehngexechiytawnxxkechiyngit xaesiyn aelaidekharwmxngkhkarkarkhaolk inpi kh s 2004 aelainpi kh s 2005 kmphuchaidekharwmprachumphithikarsthapna karprachumsudyxdexechiytawnxxkthiidcdkhunthipraethsmaelesiy kmphuchaidsthapnakhwamsmphnththangkarthutkbhlaypraethsaelaidmisthanthuttangpraeths 20 aehnginpraeths rwmthungpraethsephuxnbaninexechiyhlaypraethsaelapraethsthimibthbathsakhyinrahwangkarecrcasntiphaphthiparisrwmthungshrthxemrika xxsetreliy aekhnada cin shphaphyuorp EU yipunaelarsesiy xnepnphlmacakkhwamsmphnthrahwangpraethsthaihxngkhkrkarkusltang idchwyehluxokhrngsrangphunthanthangsngkhm esrsthkicaelawiswkrrmoytha inkhnathikhwamrunaerngthiekidkhuninchwngthswrrs 1970 aela 1980 idphanipaelwkhxphiphathchayaednrahwangkmphuchaaelapraethsephuxnbanyngkhngmixyu mikhwamkhdaeynginhmuekaanxkchayfngaelabangswnkhxngekhtaednkbewiydnamaelaekhtaednthangthaelthiimidkahnd kmphuchaaelaithykmipyhakhwamkhdaeyngchayaedndwykarpathathangkarthharinkrniphiphathphrmaednithy kmphuchainpi kh s 2008 thiekidkhuniklbriewnprasathphrawihar naipsukaresuxmsphaphinkhwamsmphnthrahwangpraethskbithy kxngthph kxngthphphrarachxanackrkmphucha kxngyuththphlekhmrphuminth edinswnsnaminchwngkrniphiphathphrmaednithy kmphucha ph s 2554 kxngthphphrarachxanackrkmphucha michuxthangkarwa kxngyuththphlekhmrphuminth prakxbipdwy kxngthphbkkmphucha kxngthpheruxkmphucha kxngthphxakaskmphuchaaelakxngrachxawuthhtth cdtngodyxyuphayitkhasngkhxng naykrthmntrikmphuchaaelamixngkhphramhakstriysungkkhux phrabathsmedcphranordm sihmunithrngdarngtaaehnngcxmthphaelaminaykrthmntrismedcxkhrmhaesnabdiedochhunesn darngtaaehnngphubychakarthharsungsud karrierimokhrngsrangkarbngkhbbychathiidrbkarprbprungintnpi kh s 2000 epnkarnaesnxthisakhysahrbkarprbokhrngsrangxngkhkrthharkmphucha singniehnwakrathrwngklaohmepnhnwynganyxysamaehngthirbphidchxbdanolcistiksaelakarenginwsduaelabrikardanethkhnikhaelabrikardankarpxngknphayitkxngbychakarsungsud HCHQ rthmntriwakarkrathrwngklaohmkhux smedcphichyesna etiy by etiybyiddarngtaaehnngrthmntriklaohmtngaetpi kh s 1979 inpi kh s 2010 kxngkalngthharkmphuchaprakxbdwyecahnathithipracakarpraman 102 000 khn 200 000 kxngphlsarxng yxdkarichcaythangthharkhxngkmphuchaxyuthi 3 khxng GDP khxngpraeths canwnkalngphlthharkhxngkxngrachxawuthhtthxyuthi 7 000 khn hnathidankickarphayinphrarachxanackrkhxngkxngthph idaek karcdhakhwamplxdphyaelakhwamsngbsukhkhxngprachachn kartrwcsxbaelapxngknxachyakrrmxngkhkrkarkxkarrayaelaklumkhwamrunaerngxun ephuxpkpxngthrphysinkhxngrthaelaexkchn ephuxchwyehluxaelachwyehluxphleruxnaelakxngkalngchukechinxun inkrnichukechin phythrrmchati ehtukarnkhwamimsngbthangkaremuxngaelakhwamkhdaeyngthangxawuth smedchunesnidsasmxanacxyangmakinkmphucharwmthung kxngkalngpxngkn thiduehmuxnwacaethiybekhiyngkhwamsamarthkhxnghnwythharpktikhxngpraeths sungmkthukichodyhunesnephuxrangbkartxtanthangkaremuxng phrarachxanackrkmphuchayngidlngnaminsnthisyyakhxngxngkhkarshprachachatiwadwysnthisyyahamxawuthniwekhliyrphumisastrthaelsabykslumotnelsabnatkbriewnthiwekhaphnmkuelnswnihyepnthirab prakxbdwythirabrxbthaelsabekhmr aelathirablumaemnaokhng mithiwekhalxmrxbthangehnux khux ethuxkekhaphnmdngrk ethuxkekhabrrthd ethuxkekhaxnnm kmphucha milksnaphumipraethskhlaychamhruxxang khux trngklangepnaexngthaelsabaelalumaemnaokhngxnkwangkhwang miphuekhalxmrxbxyu 3 dan idaek dantawnxxkmiaenwethuxkekhaxnnmthiepnphrmaednkbpraethsewiydnam danehnuxaelatawntkechiyngehnuxmiaenwethuxkekhaphnmdngrkthiepnphrmaednkbpraethsithy danitaelatawntkitmiaenwethuxkekhabrrthdthiepnaenwphrmaednkbpraethsithy echphaadantawnxxkechiyngitethannthiepnthirablumaemnaokhng aemnaaelathaelsab aemnaokhng ihlcaklawekhasuphakhehnuxkhxngkmphuchaaelwihlphanekhaekhtewiydnam mikhwamyawinekhtkmphucharwm 500 kiolemtr aemnathaelsab echuxmrahwangaemnaokhngkbthaelsab khwamyaw 130 kiolemtr aemnabask Bassac echuxmtxkbaemnathaelsabthihnaphramharachwng krungphnmepy khwamyaw 80 kiolemtr thaelsabotnelsab xyuhangcakkrungphnmepypraman 100 kiolemtr vdunahlaknathwmthung 7 500 tarangkiolemtr lukthung 10 emtr otnelsabkhrxbkhlumphunthi 5 cnghwd idaek kapngthm kapngsanng ophthistw phratabxng aelaesiymrath inotnelsabmiplachukchumkwa 300 chnidphuekha yxdekhasungthisudkhxngkmphuchakhux phnmxaxxrl sungcakradbnathaelpanklang 1 813 emtrthisehnuxkhxngkmphuchamiekhtaedntidkbpraethsithyrayathangyaw 750 kiolemtr tidkbcnghwdxublrachthani srisaeks surinthr burirmy sraaekw cnthburi trad odymiethuxkekhaphnmdngrk aelaethuxkekhabrrthdkn paim kmphuchaepnpraethsthimipaimxudmsmburnmakthisudhakepriybethiybkbpraethsephuxnban pccubnpaimldlngxyangmakhlngcakthirthbalepidihsmpthanpakbbristhexkchncakpraeths xinodniesiy maelesiy aelayipunswninlawnnktkkalngxyusphawaediywkn phumixakas mixakasmrsumekhtrxnepnaebbrxnchunaethbmrsum vdufnerimcakeduxnphvsphakhm tulakhm vduaelng erimcakeduxnphvscikayn emsayn eduxnemsaynmixunhphumisungsudthisud eduxnmkrakhmmixunhphumitathisud eduxntulakhmmifntkchukthisudkhxmulphumixakaskhxngkrungphnmepy praethskmphuchaeduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudechliy C F 31 5 88 7 32 8 91 34 9 94 8 34 9 94 8 34 3 93 7 33 5 92 3 32 5 90 5 32 5 90 5 32 3 90 1 31 1 88 29 9 85 8 30 1 86 2 32 5 90 5 xunhphumitasudechliy C F 21 9 71 4 23 0 73 4 24 1 75 4 25 0 77 25 3 77 5 25 0 77 24 7 76 5 24 6 76 3 24 3 75 7 23 8 74 8 22 7 72 9 21 7 71 1 23 84 74 92 hyadnafa mm niw 25 5 1 004 11 5 0 453 58 0 2 283 101 0 3 976 111 6 4 394 177 1 6 972 195 9 7 713 172 0 6 772 248 8 9 795 318 9 12 555 135 0 5 315 80 3 3 161 1 635 6 64 394 wnthimihyadnafaodyechliy 0 1 mm 2 8 2 4 5 2 8 6 16 4 16 6 19 6 21 4 19 8 24 0 11 8 4 8 153 4canwnchwomngthimiaedd 279 252 248 240 217 180 155 155 150 186 240 279 2 581aehlngthima HKOkaraebngekhtkarpkkhrxng emuxnghlwng rachthani aelacnghwd ekht epnekhtkarpkkhrxngradbaerksudkhxngpraethskmphucha aebngepn 25 cnghwd rwmemuxnghlwng aetlacnghwdcaaebngepnethsbalaelaxaephx sungepnekhtkarpkkhrxngradbthisxng mithnghmd 159 xaephx aela 26 ethsbal aetlaxaephxaelaethsbalaebngepntabl aelaaetlatablaebngepnhmuban thi cnghwd emuxnghlk phunthi tr km prachakr1 kraaeca kraaeca 11 094 318 5232 kndal taekhma 3 568 1 265 8053 kapngcam kapngcam 4 549 1 010 0984 kapngchnng kapngchnng 5 521 472 6165 kapngthm stungaesn 13 814 908 3986 kapngspux cbamxn 7 017 718 0087 kapxt kapxt 4 873 585 1108 ekaakng ekhmrphuminthr 11 160 139 7229 aekb aekb 336 80 20810 tobngkhmum swng 4 928 754 00011 taaekw odnaekw 3 563 843 93112 bnthaymichy sriosphn 16 679 678 03313 phnmepy 758 2 234 56614 phratabxng phratabxng 11 702 1 036 52315 phrawihar phnmtaaebngmichy 13 788 170 85216 phrasihnu phrasihnu 2 536 68 199 90217 ophthistw ophthistw 12 692 397 10718 iphraewng iphraewng 4 883 947 35719 iphlin iphlin 803 70 48220 mnthlkhiri aesnmonrmy 14 288 60 81121 rtnkhiri banlung 10 782 567 45922 stungaetrng stungaetrng 11 092 111 73423 swayeriyng swayeriyng 2 966 498 78524 esiymrath esiymrath 10 229 1 000 30925 xudrmichy saorng 6 158 185 443 cnghwdkhxngpraethskmphuchaesrsthkicthnbtrskulengineriylkmphuchathiralukinworkasphrabathsmedcphrabrmnath nordm sihmunithrngkhrxngsirirachsmbtikhrb 15 phrrsathnnaehnghnunginrachthaniphnmepy phrarachxanackrkmphucha ichskulengin eriylkmphucha epnhnwyskulenginpracachati esrsthkicinphrarachxanackridrbkarchinaaelabriharodyrthmntriwakar khux dr hlwngesrsthkar xun phrmnniorth xunphrmnniorthiddarngtaaehnngrthmntrikrathrwngesrsthkictngaetpi kh s 2013 epnthnakharklangkhxngphrarachxanackraelaihkarkakbduaelphakhkarthnakharkhxngpraethsaelarbphidchxbswnhnunginkarephimkarlngthunodytrngcaktangpraethsinpraeths rahwangpi kh s 2010 thung kh s 2012 canwnthnakharthixyuphayitkarkhwbkhumaelasthabnkarenginkhnadelkephimkhuncak 31 hnwynganthikhrxbkhlumepnsthabnmakkwa 70 aehngsungepntwbngchikaretibotinphakhkarthnakharaelakarenginkhxngkmphucha esrsthkicinphrarachxanackrkmphuchathisakhyprakxbipdwy ekstrkrrm xyubriewnthirabphakhklang rxbthaelsabekhmr phuchthisakhykhux khaweca yangphara phrikithy karpramng briewnrxbthaelsabekhmr epnaehlngpramngnacudthisakhythisudinphumiphakh karthapaim briewnekhtphuekhathangphakhehnuxodylxngmatamaemnaokhng karthaehmuxngaer yngimkhxysakhy xutsahkrrm epnxutsahkrrmkhnadyxm swnihyepnorngsikhaw orngeluxy rxngetha phawaesrsthkickhxngkmphuchahlngcakmikarepliynaeplngkarpkkhrxngcakrabxbsngkhmniymepnrabxbprachathipity aelahlngcaksngkhramphayin praethskmphuchaerimsngblng aelaerimphthnafunfuburnapraeths thaihkhwamtxngkarsinkhaaelabrikarephimmakkhun cungepidoxkasih praethsthakarkhakhaykbtangpraethsmakyingkhun kmphuchacungkahndnoybaythimunghwngkarphthnaskyphaphthangkarekstr karthxngethiyw aelasngesrimihmikarlngthuncaktangchati odykahndyuththkartang ephuxephimrayidkhxngrthaelaiddaeninmatrkartang xyangtxenuxng echn karprbprungkdhmaydanesrsthkic karephimsiththipraoychnaeknklngthuntangpraeths karptiruprabbcdekbphasienginid aelaerngrdphthnaokhrngsrang phunthanthangesrsthkic echn snambin thnn iffa prapa aelasatharnupophkhtang epntn phayitkhwamchwyehluxcakkxngthunkarenginrahwangpraeths thnakharephuxkarphthnaaehngexechiy aela UNDP rwmthngpraethsthiihkhwamchwyehluxxun aetkarphthnaesrsthkickhxngkmphuchaidetibotxyangcha odyechphaainchwngpi 2540 2541 kmphuchatxngephchiykbwikvtiesrsthkicinphumiphakhexechiy aelakhwamkhdaeyngthangkaremuxngphayinpraeths sngphlihnklngthuntangpraethsthxntwxxkcakpraethskmphucha sngphlihkarfunfuburnaaelakarphthnapraethsepnipxyanglacha aethlngcakpi 2542 sthankarnkaremuxngkmphuchaerimmikhwammnkhngphxsmkhwr aelanbepnpiaerkthikmphuchamisntiphaphxyangaethcring ephraapyhakhwamkhdaeyngthangkaremuxngphayinhmdip pccubn kmphuchakalngphthnatamaephnphthnaesrsthkicaelasngkhmaehngchati chbbthi 2 tulakhm 2543 knyayn 2548 thngniephuxihxtrakarecriyetibotthangesrsthkickhyaytwxyangtxenuxng ineknthrxyla 6 7 txpi phawaesrsthkickhxngkmphuchainxditthiphanmasamarthsrupiddngni chawnaekbekiywkhawincnghwdphratabxngthaxakasyannanachatiesiymrath sinkhaekstrkrrmthuxwaepnaehlngrayidhlkkhxngpraethspramanrxyla 43 khxng GDP macakkhawaelapsustw swnkarpramngaelapaimmisdswnpramanrxyla 5 sinkhaekstrthisngxxkidaekkhaw im aelayangphara rxnglngmaidaek khawophd thwehluxng stwmichiwit phlim aelapla epntn thwipkmphuchamisinkhasngxxkthisakhyidaek esuxphaaelaekhruxngnunghm im yangphara khaw aelapla sinkhanaekhathisakhyidaekphlitphnthnamnechuxephling buhri thxng wsdukxsrang ekhruxngckraelaekhruxngynt esrsthkickmphuchainpi 2546 khadkarnody The Economist Intelligence Unit EIU mikarkhyaytwinxtrathichalxlngehlux 5 0 aela International Monetary Fund IMF khadwaesrsthkickhyaytw 4 7 ethiybkbthikhyaytwraw 5 5 inpi 2545 pccysakhythibnthxnkarkhyaytwthangesrsthkickhxngkmphucha idaek rayidcakphakhkarthxngethiywthildlng enuxngcakekidehtukarnkarkxkhwamimsngb odymikarephasthanthutithy n krungphnmepy ekidpyhakarrabadkhxngorkhthangedinhayic echiybphlnrunaerng SARS prakxbkbsthankarnkhwamimaennxnthangkaremuxnginkmphucha hlngkareluxktngthwipsungcdkhunemuxwnthi 27 krkdakhm 2546 thiphanma thaihnkthxngethiywimmnicinkhwamplxdphyaela pyhakaremuxngthiyngkhngiresthiyrphaph thaihnklngthuntangchatikhadkhwamechuxmninkarekhaiplngthuninkmphucha thungaemwawnthi 3 kumphaphnth 2546 sphaaehngchatikhxngkmphucha The National Assembly idxnumtikarxxkkdhmaykarlngthunchbbihm sungaekikhephimetimkdhmaykarlngthunchbblngwnthi 5 singhakhm 2534 Law on the Amendment to the Law on Investment of the Kingdom of Cambodia ephuxexuxsiththipraoychndankarlngthunaeknklngthuntangchati swnphakhthurkickxsrangyngkhngxyuinphawasbesa pi 2547 EIU aela IMF khadwaesrsthkickmphuchacakhyaytwephimkhunepn 5 5 5 8 sungiklekhiyngkbxtrakarkhyaytwthangesrsthkicthirthbalkmphuchakhadwacakhyaytwsungthung 5 5 6 0 enuxngcakrayidcakkarsngxxkephimkhunxyangtxenuxng enuxngcakesrsthkicolkthimiaenwonmfuntwdikhun prakxbkbemuxeduxnthnwakhm 2546 rthbalshrthxemrikaprakasephimokhwtanaekhasingthxsahrbpi 2547 ihkmphuchaephimkhunxik 14 sungkhadwacathaihkmphuchamirayidcakkarsngxxkesuxphasaercrupipshrth ephimkhun aelaphakhthurkickxsrangerimfuntwdikhun aelacakkarthikmphuchaidekhaepnsmachik ihmkhxng WTO xyangsmburnemuxeduxntulakhm 2547 thaihkmphuchamiphnthkrnithitxngerngprbprungkdhmaydankarlngthunihidmatrthansakl sungcathaihnklngthunekidkhwamechuxmnaelaekhaiplngthuninkmphuchaephimkhun odyechphaaxyangyingkaryaythankarphlitekhaiptngorngnganphlitesuxphasaercrupinkmphuchaephuxsngxxk enuxngcakkmphuchayngmixtrakhacangaerngnganthita thangdanxtraenginefx EIU aela IMF khadwapi 2547 kmphuchacamixtraenginefxechliyephimkhunepn 3 1 3 5 cakxtraenginefxechliyraw 1 3 2 6 inpi 2546 enuxngcakrakhaxaharinpraethsprbtwsungkhuntamrakhasinkhaophkhphnthintladolk thnakharephuxkarsngxxkaelanaekhaaehngpraethsithy 2547 karthxngethiyw nkhrwd sasnsthanthiihythisudinolk epnsthanthithxngethiywyxdniymkhxngkmphucha aelaidrbkarykyxngepnmrdkolk xutsahkrrmkarthxngethiywepnxutsahkrrmthiihyepnxndbsxngkhxngpraethsrxngcakxutsahkrrmsingthx phumaeyuxncaktangpraethsinpi 2018 micanwnthunghklankhn ephimkhunsibethanbtngaettnstwrrsthi 21 karthxngethiywkratunkarcangngankwa 26 inpraeths sungkhidepn 2 5 lanxtrasahrbchawkmphucha nxkcakphnmepyaelankhrwdaelw sthanthithxngethiywxun idaek emuxngphrasihnuthangtawntkechiyngitsungmichayhadyxdniymhlayaehng aelaphratabxngthangtawntkechiyngehnux sungthngsxngaehngniepnsthanthiyxdniymsahrbnkedinthangaebkhaephkhsungepnswnsakhykhxngphumaeyuxnkmphucha phunthirxb kapxtaelaaekbrwmthungsthaniobkxrhillkepnthisnickhxngphumaeyuxnechnkn karthxngethiywephimkhunxyangtxenuxngtngaetpi 1993 chawtangchatithiedinthangekhamainpi 2018 swnihyepnchawcin rayrbcakkarthxngethiywekin 4 4 phnlandxllarinpi 2018 khidepnekuxbsibepxresntkhxngphlitphnthmwlrwmprachachatikhxngrachxanackr xuthyanprawtisastrnkhrwdincnghwdesiymrath chayhadinphrasihnu emuxnghlwngphnmepy aelakasion 150 aehngkhxngkmphucha ephimkhuncakephiyng 57 aehnginpi 2014 epnsthanthithxngethiywhlksahrbnkthxngethiywtangchatiprachakrinpi ph s 2556 praethskmphuchamiprachakr 15 205 539 khn kwarxyla 90 miechuxsayekhmraelaphudphasaekhmrxnepnphasarachkar nxkcakniyngmichnklumnxythikracaytwxyuthwpraethsidaekchawewiydnam rxyla 5 aelachawcin rxyla 1 nxkcakniyngmichnklumnxyechuxsayithyincnghwdekaakngchawcamincnghwdkapngcamaelacnghwdkraaecachawlawincnghwdrtnkhiriaelacnghwdstungaetrng aelachnephathangtxnehnuxtxchayaednpraethslawthieriykrwm wa aekhmrelx xtrakarekidkhxngprachakrethakb 25 4 tx 1 000 khn xtrakaretibotkhxngprachakrethakb 1 7 sungkwakhxngpraethsithy ekahliit aelaxinediyxyangminyyasakhy phasa xksrekhmrobranthicarukbnaethnsila odyepnxksrthiphthnamacakxksrpllwacakchmphuthwip phasarachkarkhxngkmphuchakhux phasaekhmr xnepnphasathicdxyuinklumphasamxy ekhmr xnepnphasaklumyxykhxngtrakulphasaxxsotrexechiytik nxkcakniyngmikarichphasafrngessinklumchawekhmrphusungxayu sungepnphasarachkarhlkkhxngxananikhmxinodcinkhxngfrngess pccubnphasafrngessyngthukcdxyuinkareriynkarsxninorngeriynbangaehng aelabangmhawithyalythirthbalfrngessihkarsnbsnun sungphasafrngessidtkthxdcakyukhxananikhmmathunginyukhpccubnaelayngmiichinrthbalbangwaraodyechphaainsal inxditpi ph s 2506 rthbalkmphuchaekhyprakashammiihbukhkhlechuxsayithyphudphasaithy aelahammihnngsuxithyiwinban hakecahnathikhnphbcathukthalayihsinsak odyechphaahakphudphasaithycathukprbkhala 25 eriyl aelaephimkhunepn 50 eriylinpitxma ephuxtxbotrthbalithyinkhdiekhaphrawihar sasna sasnainpraethskmphuchasasna rxylaphuthth 96 4 xislam 2 1 khrist 1 3 xun 0 3 phrasngkhkhnsungaehngphrarachxanackr smnskdiphrarachakhnachnthrrmpradbdwyekhruxngxisriyysphrarachanackrkmphucha praethskmphucha misasnaphuththnikayethrwathepnsasnapracachati thimisasnikchnkwarxyla 95 thuxepnsasnathiaekhngaekrngaelaepnthiaephrhlayinthukcnghwd mixaraminphuththsasna 4 392 aehngthwpraeths chawekhmrmikhwamphukphnkbphuththsasnamakthngpraephniaelawthnthrrm aemsasnaphuththrwmthungsasnaxun cathukykelikinchwngpi kh s 1970 aetkidrbkarfunfukhunihmxikkhrng nxkcakniinklumchnechuxsaycin yngmikarnbthuxkhwbkhuknrahwangmhayankblththieta sasnaxislam epnthiyxmrbnbthuxinchumchnthimiechuxsaycamaelamlayu misasnikchnraw 300 000 khn incnghwdkapngcammiorngeriynsxnsasnaxislamcanwnhlayaehng swnsasnakhristswnihynbthuxnikayormnkhathxlik tamdwynikayopretsaetnt michawkhathxlikraw 20 000 khnhruxrxyla 0 15 nxkcakniyngminikayxun echn aebpthist phyanphrayaohwa aelamxrmxn karsuksa krathrwngsuksathikar eyawchn aelakila mihnathikahndnoybayaelaaenwthangkarsuksaradbchatiinpraethskmphucha rabbkarsuksakhxngkmphuchamikarkracayxanacxyangmak odymikarduaelinsamradbidaek swnklang radbcnghwd aelaekht sungrbphidchxbinkarbriharcdkar rththrrmnuykhxngkmphuchaprakasichkarsuksaphakhbngkhbfriepnewlaekapi rbrxngsiththisaklinkarsuksakhunphaphkhnphunthan samaonkmphuchapi 2019 pramankarwa 88 5 khxngprachakrepnphuruhnngsux 91 1 khxngphuchayaela 86 2 khxngphuhying eyawchnchay 15 24 pi mixtrakarxanxxkekhiynid 89 ethiybkb 86 inphuhying sukhphaph chawkmphuchamixayukhyechliy 75 piinpi 2021 sungephimkhunxyangmaktngaetpi 1995 sungxayukhyechliyxyuthi 55 pi karduaelsukhphaphmithngphakhrthaelaexkchn aelakarwicyphbwakhwamiwwangicinphuihbrikardansukhphaphepnpccysakhyinkarprbprungkarrbbrikarduaelsukhphaphinchnbthkmphucha rthbalmiaephnthicaephimkhunphaphkarduaelsukhphaphinpraethsodysrangkhwamtrahnkekiywkbexchixwi exds malaeriy aelaorkhxun xtrakaresiychiwitkhxngtharkinkmphuchaldlngcak 86 txkarekid 1 000 khninpi 1998 epn 24 inpi 2018 incnghwdthiprakhakrmisukhphaphthiaeythisud rtnkhiri phbwami 22 9 khxngedkesiychiwitkxnxayuhapi kmphuchaekhyepnhnunginpraethsthimithunraebidmakthisudinolk tamkarpramankar thunraebidthiyngimidraebidmiswnthaihphleruxnesiychiwitkwa 60 000 ray aelabadecbhruxbadecbxikhlayphnkhntngaetpi 1970 canwnphuesiychiwitcakthunraebidthiraynganldlngxyangmakcak 800 khninpi 2005 epn 111 khninpi 2013 esiychiwit 22 khnaelabadecb 89 khn phurxdchiwitcakthunraebidmkcatxngtdaekhnhruxkhahnungkhanghruxmakkwann rthbalkmphuchakhadwapraethscaplxdcakthunraebidphayinpi 2020 aetpyhasngkhmaelaesrsthkic sungrwmthungedkkaphraaelacanwnphuphikarthangrangkay khadwacasngphlkrathbtxkmphuchaipxikhlaypiwthnthrrmkaraekhngkhnphayeruxpracapiinngan buyxmtukecabawswmchudkhruyaelathuxdab swnecasawswmchudsib tampraephniaetngngankhxngkmphuchathithuxkhtitananphrathxng nangnakhsmepiyah karthkthayaebbkmphucha pccytang thisngphltxwthnthrrmkmphucha idaek phuththsasnanikayethrwath sasnahindu lththilaxananikhmkhxngfrngess wthnthrrmxngkxr aelaolkaphiwtnsmyihm krathrwngwthnthrrmaelawicitrsilpkmphuchamihnathisngesrimaelaphthnawthnthrrmkmphucha wthnthrrmkmphuchaimephiyngaetrwmwthnthrrmkhxngchnklumnxyinthirablumethann aetyngrwmthungchawekhakwa 20 ephathimikhwamaetktangthangwthnthrrmthieriykkhanwaaekhmrelx Khmer Loeu sungepnkhathismedcnordm sihnu byytikhunephuxsngesrimkhwamsamkhkhirahwangchawekhaaelachawlumna chawkmphuchainchnbthswmphaphnkhxaebbkrxmsungepnlksnaechphaakhxngesuxphakmphucha smepiyah epnkhathkthayaebbkmphuchadngedimhruxwithikaraesdngkhwamekharphtxphuxun wthnthrrmkmphuchathiphthnaaelaephyaephrodyxanackrekhmrmirupaebbkarfxnra sthaptykrrm aelapratimakrrmthioddedn sungidmikaraelkepliynkblawaelaithythixyuiklekhiyngtlxdprawtisastr nkhrwd nkhrwd aeplwa emuxng aelawd aeplwa wd epntwxyangsthaptykrrmekhmrthiidrbkarxnurksiwxyangdithisudinsmynkhrwd phrxmdwywdxun xikhlayrxyaehngthimikarkhnphbrxb phumiphakh buyxmtuk ethskalnaaelaphracnthrkhxngkmphucha karaekhngkhnphayeruxpracapiepnethskalpracachatikmphuchathimiphuekharwmmakthisud cdkhuninchwngplayvdufnemuxaemnaokhngerimcmklbsuradbpktithaihaemnaotnelsabihlyxnklbid praman 10 khxngprachakrkmphuchaekharwmkickrrmniinaetlapiephuxkhxbkhundwngcnthr chmdxkimif rbprathanxahar aelaekharwmkaraekhngeruxinbrryakasaebbnganrunering kilayxdniym idaek futbxl etathray aelahmakruk tamptithinsuriykhtikhlassikkhxngxinediyaelaphuththsasnanikayethrwath piihmkmphuchaepnwnhyudsakhythicdkhunineduxnemsayn thukpi chawkmphuchacaipeyiymchmecdiythwpraethsephuxechlimchlxngwnbrrphburus inchwngethskal 15 wn phukhncaswdmntaelaxaharihkbwiyyankhxngyatithilwnglbipaelw sahrbchawkmphuchaswnihy epnewlathitxngralukthungyatiphinxngsungesiychiwitrahwangkarpkkhrxngkhxngekhmraedng kh s 1975 1979 xahar xaharkmphuchathimichuxesiyng tamekhmnalikacaksaybn lnglang aekngkahri smlxrkari plaraekhmr prxhk khnmcinekhmr smlxrmacu aekngsmekhmr aelaxamxketry hxhmkekhmr khawepnxaharhlkechnediywkbinpraethsxun inexechiytawnxxkechiyngit placakaemnaokhngaelaotnelsabkepnswnsakhykhxngxaharechnkn xupthankhxngplaaelaphlitphnthcakplasahrbxaharaelakarkha n pi 2000 khux 20 kiolkrm 44 pxnd txkhnhrux 2 xxnstxwntxkhn plabangchnidsamarththnxmxaharephuxekbiwidnankhun xaharkhxngkmphuchaprakxbdwyphlimemuxngrxn sup aelakwyetiyw swnphsmhlkkhux makrud taikhr kraethiym napla sixiw makham khing sxshxynangrm kathi aelaphrikithyda xaharbangxyang idaek nabalochkh ន បញ ច ក plaxamk អ ម កត រ aela aping អ ព ង idrbkhwamniym kmphuchayngkhunchuxindankarmixaharkhangthangthihlakhlaysungidrbkhwamniymsung xiththiphlkhxngchawfrngessthimitxxaharkmphucha idaek aekngephdkmphuchakbkhnmpngbaaekttping khnmpngbaaekttthipingaelwcumlnginaekngaelarbprathan aekngephdkmphuchayngniymthankbkhawaelawunesn xaharthiidrbkhwamniymmakthisud kuyetiyw kkhux kwyetiywtmyahmuiskraethiymeciyw hxmihy hwhxmihy thixacmithxppingtang echn lukchin kung tbhmu hruxphkkadhxm phrikithykapxtkhunchuxwadithisudinolkaelamkthanphrxmkbpuaelaplahmukinranxaharrimaemna swnxaharkmphuchathimichuxesiyngidaek សម លក រ aekngkahri ប រហ ក plaraekhmr ន បញ ច ក khnmcinekhmr smlxrmacu សម លម ជ រ aekngsmekhmr aelaxamxketry អ ម កត រ hxhmkekhmr chawkmphuchadumchainprimanmak sungplukincnghwdmnthlkhiriaelarxb te krolap epnchathiekhmkhn thacakkarisnaaelaibchacanwnmaklnginaekwkhnadelk wangcanrxngiwdanbn aelwphliksingthnghmdklbhwephuxchng kxncacathukethlnginthwyxikibaelaetimnatalinprimanmak aetimisnm chamanaw te kdau kroch chhma thacakchacinfunaedngaelanamanaw ihkhwamsdchunthngrxnaelaeyn aelaodythwipcaesirfphrxmkbnatalinprimanmak inswnkhxngkaaef emldkaaefmkcanaekhacakpraethslawaelaewiydnam aemwakaaefthiphlitinpraethscakcnghwdrtnkhiriaelacnghwdmnthulkhiricasamarthphbidinbangphunthi kaaefkmphuchamkkhwdwyenyaelanatal rwmthngswnphsmxun tngaetehlarmipcnthungikhmnhmu thaihekhruxngdummiklinaeplk aetepnexklksn kmphuchamiorngebiyrxutsahkrrmhlayaehng swnihytngxyuincnghwdphrasihnuaelaphnmepy nxkcakniyngmiorngebiyrkhnadelkcanwnmakinphnmepyaelaesiymrath rahwangpi 2014 thungpi 2018 canwnorngebiyrkhraftephimkhuncaksxngepnekaaehng n pi 2019 miorngebiyrhruxorngebiyrkhnadelk 12 aehnginkmphucha iwnkhawepnekhruxngdumaexlkxhxlyxdniym aelamkcaphsmkbphlimhruxsmuniphr kila futbxl epnhnunginkilathiidrbkhwamniymmakthisud futbxlthukephyaephrinkmphuchaodychawfrngessaelaklayepnthiniyminhmuchawbanthwip futbxlthimchatikmphuchakhrxngxndbthi 4 inexechiynkhph 1972 aetkarphthnaidchalxtwlngtngaetekidsngkhramklangemuxng kilatawntk echn basektbxl wxlelybxl ephaakay kilahxkki rkbiyueniyn kxlf aelaebsbxl kalngidrbkhwamniym wxlelybxlepnkilathiidrbkhwamniymmakthisudinpraeths kilaphunemuxngrwmthungkaraekhngeruxaebbdngedim rwmthung karaekhngkhway Pradal Serey mwyplaaebbdngedimkhxngekhmr aela Bokator kmphuchaekharwmkaraekhngkhnkilaoxlimpikkhrngaerkinoxlimpikvdurxn 1956 inkilakhima silpakaraesdng karaesdngkmphucha tamekhmnalikacaksayipkhwa bnlnglang phaphslknangxpsrthinkhrwd karaesdngnatsilprabaethphxpsra silpaeriymekr ramekiyrtichbbkmphucha laokhnokhl okhnekhmr inrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar rchkalthi 109 aehngkmphucha karetnrakhxngkmphuchasamarthaebngxxkepnsampraephthhlk natsilpthxngthin natsilpphunban aelanatsilpthwip tnkaenidthiaethcringkhxngnatsilpkmphuchaepnthithkethiyngknxyu nkwichakarphunemuxngswnihysnnisthanwakaretnrasmyihmyxnipinsmykhxngphrankhr odyehnkhwamkhlaykhlungkninkaraekaslkkhxngwdinsmynn khnathikhnxun echuxwarupaebbkarrasmyihmideriynru hruxeriynruihm caknketninrachsanksyamin kh s 1800 natsilpekhmrepnrupaebbkhxngsilpakaraesdngthimisitlsungcdtngkhuninrachsankkhxngkmphuchasungcdaesdngephuxkhwambnethingaelaephuxwtthuprasngkhinphithikar karetnraepnkickrrmodychayaelahyingthiaetngkayxyangpranitaelaidrbkarfukfnmaxyangdiinoxkassatharna hruxephuxsrangeruxngrawdngedimaelabthkwimhakaphy echn laokhnokhl thimknabthinwrrnkhdixyang eriymekr ewxrchnekhmrkhxngramekiyrtimalaeln odymkruckknxyangepnthangkarinchux rabaphrarachthrphy រប ព រ រ ជទ រព ornglakhraehngkhwammngkhngkhxngrachwngs thukkahndihepnephlngkhxngwngdntriphrxmdwynkrxngna nxkcakninatsilpinrachsankkmphuchayngmikaraesdngxyang thinkaesdngmkcaaetngkayxyangnangxpsrinyukhckrwrrdiekhmrobran swnkaretnraphunbankmphuchamkaesdngkbdntrimaohri epnkarechlimchlxngklumwthnthrrmaelachatiphnthutang khxngkmphucha karetnraphunbanmithinkaenidinhmubanaelaswnihythaodychawban karetnraekhasngkhmkhuxkaretnrakhxngaekhkinnganeliyng nganeliyng hruxngansngsrrkhthangsngkhmxun thiimepnthangkar karetnrathangsngkhmaebbdngedimkhxngkmphuchamikhwamkhlaykhlungkbkaretnrakhxngpraethsxun inexechiytawnxxkechiyngit twxyangechn rawngrmwngs rwmthngsrwrrnaelalalif karetnrayxdniymkhxngchawtawntksmyihm idaek Cha cha Bolero aela Madison kmixiththiphltxsngkhmkmphuchaechnkn dntri wnnda VannDa silpinhiphxpaelaaerpepxrkmphuchanordm ecnna nkrxngaelankaesdngkmphucha dntrikmphuchadngedimmimatngaetsmyxanackrekhmr rabakhxngrachwngs echn rabaxpsraepnsylksnkhxngwthnthrrmkmphucha echnediywkbraba Mahori rupaebbdntriinchnbth idaek Chapei aela Ayai epnthiniyminhmukhnrunekaaelaswnihymkcaepnkaraesdngediywkhxngnkdntrichaydwykitarkmphucha chapei enuxephlngmkmienuxhaekiywkbsilthrrmhruxsasna dntriyxdniymkhxngkmphuchaaesdngdwyekhruxngdntrisitltawntkhruxphsmphsanrahwangekhruxngdntridngedimaeladntritawntk ephlngaednsaetngkhuninsitlechphaasahrbkaretnrathangsngkhm ephlngkhxngnkrxngprasanesiyng sin srismuthr rs esrisuththa aela aepn rxn inthswrrsthi 1960 thung 1970 thuxepnephlngpxpkhlassikkhxngkmphucha inyukhekhmraedng nkrxngkhlassikaelaepnthiniymmakmayinchwngthswrrs 1960 aela 1970 thuksnghar xdxyakcnesiychiwit hruxthukbngkhbichnganhnkcntay aelamasetxrethpdngedimcanwnmakcakyukhnnsuyhayhruxthukthalay inchwngthswrrs 1980 aekw sutht phuliphythixphyphiptngrkrakinshrthxemrika aelakhnxun idsubthxdmrdkkhxngnkrxngkhlassik sungidthaephlngyxdniymsmyihm swndandntrismyihmphsmphsankbdntriphunbanekhmrobranthiidrbkhwamniyminpccubn khux wnnda VannDa epnsilpinaerpaelahiphxpthiphsmphsankbdntriphunbanekhmrobran phlnganekhasungepnthiruckcakephlng Time To Rise aela Queen Bee inpi kh s 2021 nordm ecnna nkaesdngaelankrxngkmphucharuneyaw wng KMENG Khmer thixxkphlnganephlngesrsthi ស ដ ឋ aela okhkecing ខកជ ង inpi kh s 2023 aela Pou Khlaing KHMER inephlng NekaNe 2023 ន កន 2023 thngniyngmi Ton Chanseyma silpinhiphxpaelapxpkmphuchathimiphlnganephlng Cambodian Pridexangxing Constitution of the Kingdom of Cambodia Office of the Council of Ministers អង គភ ពព ត ម ន ន ងប រត កម មរហ ស subkhnemux 26 September 2020 Ethnic minorities and indigenous people Open Development Cambodia 15 July 2016 subkhnemux 1 June 2020 Cambodia Socio Economic Survey 2019 20 PDF Ministry of Planning National Institute of Statistics December 2020 subkhnemux 16 May 2021 General Population Census of the Kingdom of Cambodia 2019 Final Results PDF National Institute of Statistics 26 January 2021 subkhnemux 26 January 2021 Cambodia International Monetary Fund hdr undp org World Bank khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 06 10 subkhnemux 29 January 2020 Human Development Report 2020 The Next Frontier Human Development and the Anthropocene PDF United Nations Development Programme 15 December 2020 pp 343 346 ISBN 978 92 1 126442 5 subkhnemux 16 December 2020 Cambodia 2010 12 29 thi ewyaebkaemchchin CIA World FactBook News xinhuanet com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 25 August 2013 subkhnemux 15 March 2013 Cambodia to outgrow LDC status by 2020 Business The Phnom Penh Post Cambodia s Newspaper of Record 2011 05 21 thi ewyaebkaemchchin The Phnom Penh Post May 18 2011 Retrieved on June 20 2011 Ek Madra January 19 2007 Oil Revenue Not Likely Until 2013 Ministry Reuters cakaehlngedimemux 2012 01 18 subkhnemux December 19 2011 Consumerism booms as Cambodia embraces once forbidden capitalism Reuters phasaxngkvs 2014 09 28 subkhnemux 2021 10 08 2013 Corruption Perceptions Index Results archive ph 2013 12 03 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 03 subkhnemux 2022 04 15 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Relazione del primo viaggio intorno al mondo Wikisource it wikisource org phasaxitali No 20 Thai Yunnan Project Newsletter March 1993 www nectec or th Definition of Kampuchea Dictionary com www dictionary com phasaxngkvs Cambodia phasaxngkvs PediaPress tharngskdi ephchrelisxnnt 2552 syampraethsithykbdinaednkmphuchaaelalaw krungethph mulnithiokhrngkartarasngkhmsastr hna 29 44 ISBN 978 616 7202 01 3 nphdl chatipraesrith 2540 ecanordm sihnu kbnoybaykhwamepnklangkhxngkmphucha sankngankxngthunsnbsnunnganwicy krungethph mhawithyalythrrmsastr ISBN 974 8954935 Owen Taylor Kiernan Ben tulakhm 2006 PDF The Walrus 32 36 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 20 emsayn 2016 The evidence of survivors from many parts of Cambodia suggests that at least tens of thousands probably in the range of 50 000 to 150 000 deaths resulted from the US bombing campaigns See Owen Taylor 26 April 2015 Making More Enemies than We Kill Calculating U S Bomb Tonnages Dropped on Laos and Cambodia and Weighing Their Implications The Asia Pacific Journal subkhnemux 19 September 2016 UN OHCHR Cambodia 9 July 1997 Carolyn L Gates Mya Than 2001 ASEAN Enlargement impacts and implications Institute of Southeast Asian Studies ISBN 978 981 230 081 2 ASEAN Secretariat 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 May 2011 subkhnemux 28 August 2009 Strangio Sebastian 2014 Hun Sen s Cambodia Yale University Press ISBN 978 0 300 19072 4 Brinkley John 2011 Cambodia s Curse The Modern History of a Troubled Land Hachette UK pp 460 463 subkhnemux 17 November 2019 Javier Merelo de Barbera spoke to dozens of villagers during the 2008 election campaign and he said he observed a constant theme People were very afraid of the CCP losing They were very afraid of change After all for centuries change in Cambodia has generally led to misery or death Cambodia 1993 rev 2008 Constitute subkhnemux 17 April 2015 Royal Government of Cambodia khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 12 February 2007 Dalpino Catharin E Timberman David G 26 March 1998 Asia Society khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 October 2005 Preah Vihear temple Disputed land Cambodian court rules BBC News 11 November 2013 subkhnemux 11 November 2013 L Tanggahma Recorded PDF The Hague Netherlands International Court of Justice 11 phvscikayn 2013 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 11 phvscikayn 2013 subkhnemux 16 phvscikayn 2013 Fuller Thomas 6 January 2014 Cambodia Steps Up Crackdown on Dissent With Ban on Assembly New York Times Chapter XXVI Disarmament No 9 Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons United Nations Treaty Collection 7 July 2017 Mom Kunthear Kampong Cham s great divide Phnom Penh Post subkhnemux 28 October 2014 Cambodia U S Department of State Tourism statistics report Year 2018 PDF Statistics and Tourism Information Department Ministry of Tourism PDF Statistics and Tourism Information Department Ministry of Tourism khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 4 minakhm 2011 samkkwiw karphldthinkhxngkhnechuxsayithycakekaakngsupraethsithyinyukhekhmraedng 2016 03 06 thi ewyaebkaemchchin eriykduemux 12 minakhm 2556 wrrnthni rungeruxngsphakul phiyoy wirasukhswsdi khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 10 minakhm 2016 subkhnemux 9 kumphaphnth 2013 phuxphyphechuxsayithy c ekaakng eruxngelabnesnthang ph r b sychati Press release xisra 21 mithunayn 2012 subkhnemux 9 kumphaphnth 2013 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 05 12 subkhnemux 2014 02 17 CIA The World Factbook Cia gov khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 02 23 subkhnemux 15 March 2013 World Gazetteer Punnee Soonthornpoct minakhm 2006 From Freedom to Hell A History of Foreign Interventions in Cambodian Politics And Wars page 29 Vantage Press ISBN 978 0533150830 U S helps English program for poor Cambodian students News xinhuanet com 30 June 2010 subkhnemux 16 March 2013 nitiphumi nwrtn 17 singhakhm 2000 ekhtrekhmrthphuminthr epidfasxngolk ekbcakaehlngedimemux 30 mithunayn 2013 subkhnemux 12 phvsphakhm 2020 rungmni emkhosphn khnsxngaephndin krungethph banphraxathity 2551 hna 87 ISBN 978 9740578420 Cambodia State gov subkhnemux 15 March 2013 Brandon Toropov Chad Hansen The Complete Idiot s Guide to Taoism Alpha Books p 121 ISBN 0028642627 Bureau of Democracy Human Rights and Labour of the US Department of State International Religious Freedom Report 2005 Retrieved 24 July 2006 Cambodia Education System www scholaro com Life expectancy increases to 75 years Khmer Times phasaxngkvsaebbxemrikn 2021 01 28 World Development Indicators ekhruxngmuxsarwckhxng Google khxmulsatharna www google com United Nations World Food Programme khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 minakhm 2008 subkhnemux 8 tulakhm 2021 July 25 2003 Cambodia Land Mines July 25 2003 Religion amp Ethics NewsWeekly PBS Religion amp Ethics NewsWeekly phasaxngkvsaebbxemrikn 2003 07 25 Landmine Casualties Increase in 2014 Khmer Times phasaxngkvsaebbxemrikn 2014 06 07 web archive org 2008 09 24 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 24 subkhnemux 2021 10 08 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk PDF EarthTrends 20 krkdakhm 2004 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 20 krkdakhm 2004 Chan Wing Yan 2015 07 21 10 Delicious Street Food Dishes You Must Try in Cambodia Culture Trip Smits Johann Khmer brew exploring the parviflora tea strain www phnompenhpost com phasaxngkvs AsiaLIFE AsiaLIFE Cambodia phasaxngkvsaebbxemrikn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 08 11 subkhnemux 2021 10 08 Brewing up nicely Cambodia s rapidly growing taste for craft beer ASEAN Today www aseantoday com phasaxngkvsaebbxemrikn 2019 05 12 web archive org 2008 06 26 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 26 subkhnemux 2021 10 08 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Cravath Paul 1986 The Ritual Origins of the Classical Dance Drama of Cambodia Asian Theatre Journal 3 2 179 203 ISSN 0742 5457 Sam Ang Sam Chan Moly Sam 1987 PDF Newington CT Khmer Studies Institute ISBN 0 941785 02 5 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 20 knyayn 2009 Cambodian music history University of Maryland Baltimore County Nat Geo Music khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 18 singhakhm 2012 brrnanukrm Deth Sok Udom and Serkan Bulut eds Cambodia s Foreign Relations in Regional and Global Contexts Konrad Adenauer Stiftung 2017 comprehensive coverage full book online free Path Kosal Introduction Cambodia s Political History and Foreign Relations 1945 1998 pp 1 26 Strangio Sebastian 20 tulakhm 2020 Cambodia From Pol Pot to Hun Sen and Beyond Yale University Press ISBN 978 0300211733 Un Kheang Cambodia Return to Authoritarianism 2019 excerpt Morris Stephen J 1999 Why Vietnam Invaded Cambodia Stanford University Press ISBN 0 8047 3049 0 bthkhwamnirwmkhxkhwamcaknganthimienuxhaesri free content likhsiththiphayit CC BY SA IGO 3 0 khxkhwamnamacak UNESCO Science Report Towards 2030 698 713 UNESCO UNESCO Publishing aehlngkhxmulxunCambodia thiokhrngkarphinxngkhxngwikiphiediy hakhwamhmaycakwikiphcnanukrmphaphaelasuxcakkhxmmxnsenuxhakhawcakwikikhawkhakhmcakwikikhakhmkhxmultnchbbcakwikisxrsaehlngeriynrucakwikiwithyaly khumuxkarthxngethiyw Cambodia cakwikithxngethiyw inphasaxngkvs Cambodia The World Factbook Central Intelligence Agency from UCB Libraries GovPubs praethskmphucha thiewbist Curlie Cambodia profile from the BBC News Cambodia at Encyclopaedia Britannica Wikimedia Atlas of Cambodia dukhxmulthangphumisastrthiekiywkhxngkb praethskmphucha thioxephinstritaemp Key Development Forecasts for Cambodia cak praethskmphucha 23 thnwakhm 2007 thi ewyaebkaemchchin cakewbistkrathrwngtangpraethsrthbalKing of Cambodia Norodom Sihanouk Official website of former King Norodom Sihanouk inphasafrngess khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 5 tulakhm 2006 Official Royal Government of Cambodia Website English Version Ministry of Foreign Affairs and International CooperationprachasngkhmCooperation Committee for Cambodia Cambodian Center for Human Rights Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights Action IEC Working For Cambodian Community Education Through Media and Culture Freedom in the World 2011 Cambodia 23 tulakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin Freedom of the Press 2011 Cambodia 7 mkrakhm 2012 thi ewyaebkaemchchin