ละโคนโขล (เขมร: ល្ខោនខោល) เป็นนาฏกรรมสวมหน้ากากอย่างหนึ่งในประเทศกัมพูชา มีลักษณะใกล้เคียงกับการแสดงโขนของประเทศไทย เนื่องจากได้รับการถ่ายทอดไป ปัจจุบันมีละโคนโขลในกัมพูชาสองรูปแบบได้แก่ ละโคนโขลวัดสวายอัณแดต และละโคนโขล แต่เดิมจะใช้ผู้หญิงในการแสดง ต่างจากโขนของไทยที่จะใช้ผู้ชายแสดง
ละโคนโขลวัดสวายอัณแดต * | |
---|---|
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก | |
ประเทศ | กัมพูชา |
ภูมิภาค ** | เอเชียและแปซิฟิก |
สาขา | ธรรมเนียมและการแสดงออกทางมุขปาฐะ, ศิลปะการแสดง, แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล |
เกณฑ์พิจารณา | U.1, U.2, U.3, U.4, U.5 |
อ้างอิง | 1374 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2561 (คณะกรรมการสมัยที่ 13) |
รายการ | มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการสงวนรักษาอย่างเร่งด่วน |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและการสงวนรักษาที่ดี ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
เดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 กระทรวงวัฒนธรรมของประเทศไทยได้ประกาศขอขึ้นบัญชีโขนเป็นมรดกโลก ทำให้ประชาชนในประเทศกัมพูชาไม่พอใจ และพากันแสดงความคิดเห็นว่าโขนเป็นวัฒนธรรมของคนกัมพูชาเท่านั้น พอล เชมเบอร์ (Paul Chamber) จากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มองว่าเป็นการปลุกกระแสชาตินิยมกัมพูชามากกว่าจะการโต้เถียงเกี่ยวกับมรดกทางศิลปวัฒนธรรม
ยูเนสโกได้พิจารณาขึ้นทะเบียน เฉพาะ ละโคนโขลคณะวัดสวายอัณแดต (ល្ខោនខោល វត្តស្វាយអណ្ដែត) เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 และกัมพูชาได้เขียนคำร้องแก่ยูเนสโกว่า "ขอแลกเปลี่ยนครูโขนจากประเทศเพื่อนบ้านไปช่วย รวมถึงบทละครที่กัมพูชายังไม่ครบสมบูรณ์"
ประวัติ
ยุคต้น
สุจิตต์ วงษ์เทศ นักประวัติศาสตร์ชาวไทยให้ข้อมูลว่ามีการแสดงเรื่องรามายณะครั้งแรกในราชสำนักขอมแถบโตนเลสาบ ก่อนแพร่หลายมายังราชสำนักละโว้-อโยธยาและตกทอดสู่อาณาจักรอยุธยา โดยได้ปรับปรุงให้ต้องกับรสนิยมของตน อย่างเช่นเครื่องแต่งกายที่รับจากอินเดียและเปอร์เซียเป็นอาทิ ส่วนศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ นักโบราณคดีชาวไทย ยกตัวอย่างตัวละครจากรามายณะตัวหนึ่งคือราวณะ ซึ่งมีสิบหน้าขยายออกมาด้านข้าง แต่หัวโขนทศกัณฑ์ของไทยมีสิบหน้าต่อขึ้นไปด้านบนซึ่งเป็นอิทธิพลจากกัมพูชา ตามหลักฐานที่พบตามปราสาทหินของขอมต่าง ๆ แต่กระนั้นก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าภาพแกะสลักดังกล่าวเป็นภาพการแสดงละโคนโขล สุจิตต์อธิบายเพิ่มเติมว่าทั้งโขนและละโคนโขลใช้เครื่องดนตรีเป็นของพื้นเมืองของอุษาคเนย์อยู่แล้ว ส่วนกาพย์เป็นแบบแผนของเขมร และบทเจรจาเป็นร้อยกรองดั้งเดิมของไทยและลาว
สัน พัลลา และชาย ดาวิน นักวิชาการของกระทรวงวิจิตรศิลป์และวัฒนธรรมกัมพูชา ระบุว่าละโคนโขลพัฒนาจากละครภาณีซึ่งเป็นการขับเรื่องมีแต่ยุคพระนครและแพร่หลายไปทั่ว
อย่างไรก็ตามฮิเดโอะ ซาซางาวะ จากสถาบันวัฒนธรรมเอเชีย ให้ข้อมูลว่าหากไทยรับโขนไปตั้งแต่ยุคนครวัดจริง ก็คงถูกปรับปรุงให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไปแล้ว ครั้นกัมพูชาตกอยู่ภายใต้อำนาจของสยาม สยามก็เอานาฏศิลป์ของตนเข้าไปเผยแพร่ และยุคที่กัมพูชาตกเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส ในราชสำนักเขมรเองก็ยอมรับว่ามีนาฏศิลป์ไทยเป็นต้นแบบ และปฐมพงษ์ สุขเล็ก อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ให้ข้อมูลว่า "...กษัตริย์เขมรได้เห็นการแสดงโขนไทย แล้วอาจหยิบเอาการแสดงโขนของไทยบางส่วน ไปปรับประยุกต์ฟื้นฟูโขนเขมรที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยโขนของเขมร มีชื่อเรียกว่า ละโคนโขน อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมไทยในช่วงนี้ มีแนวโน้มว่า ได้แพร่ขยายไปสู่เขมรค่อนข้างมาก" จากข้อความนี้แสดงให้เห็นว่ากัมพูชานั้นรับโขนจากไทยยุคต้นรัตนโกสินทร์และนำไปเผยแพร่ในชั้นหลัง
รองศาสตราจารย์ อาจารย์ภาษาเขมร คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่าบทพากย์เรียมเกร์ของเขมรซึ่งต้องใช้ประกอบในการแสดงละโคนโขลนั้นมีอายุน้อยกว่ารามเกียรติ์ฉบับภาษาไทย น่าจะได้ไปจากบทพากย์สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอย่างแน่นอน เพราะสำนวนมีความคล้ายกันอย่างมาก
ยุคหลัง
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีได้ครูละครจากกรุงเทพฯ ไปเป็นละครนอก ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีคณะละครผู้หญิงชาวสยามของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ไปเมืองเขมรช่วงที่รบกับญวน และได้กลายเป็นครูละครหญิงของสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารทรงหานางละครสยามจากกรุงเทพฯ ไปชุบเลี้ยง โดยมากได้นางละครจากเจ้านายวังหน้าไปเป็นครูละครในเมืองเขมรหลายคน การแสดงในช่วงนั้นนิยมแสดงเป็นภาษาไทยเพียงอย่างเดียว ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ ทรงนำคณะละครนอกและละครในมาเล่นประสมโรง และเล่นเป็นภาษาไทยและเขมร ต่อมาพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิริวัฒนามีความพยายามสร้างอัตลักษณ์ทางนาฏศิลป์เขมร เพื่อปลดเปลื้องอิทธิพลนาฏศิลป์ไทยออก
นอกจากละโคนโขลในราชสำนัก ก็ยังมีโขนเชลยศักดิ์ชายล้วนจากราชสำนักของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ที่ปฏิบัติตามขนบอย่างกรุงเทพฯ ได้ออกมาเล่นนอกพระราชวังเพราะสิ้นความนิยม แต่จากภัยสงครามทำให้ครูละครล้มหายตายจากไปสิ้น หลงเหลือคณะละโคนโขลเพียงคณะเดียวคือที่วัดสวายอัณแดต ทว่าเครื่องแต่งกาย และหัวโขนทำจากวัสดุพื้นเมือง มีครูละครโขนเพียง 5–10 คนที่ล้วนแต่เป็นผู้สูงอายุ นิยมเล่นเพียงตอนกุมภกรรณทดน้ำ ด้วยสภาพไม่พร้อมเช่นนี้ จึงถูกเปรียบเทียบกับการแสดงของไทยว่าไม่ครบท่า ไม่ครบเพลง ไม่ครบเครื่อง หรือการแต่งกายไม่ได้ส่วนสัด เป็นต้น
ปัจจุบันละโคนโขลวัดสวายอัณแดตมีการจัดการแสดงเพียงปีละครั้ง ครั้งหนึ่งแสดงต่อเนื่องกันเจ็ดวัน แต่ปัจจุบันจัดเพียงสามวันเท่านั้น แสดงด้วยนักแสดงชายล้วน มีการสวมหัวโขน บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีดั้งเดิม พร้อมขับคำร้องตามทำนอง เพื่อสร้างความพอใจแก่เนียกทา เทพารักษ์ประจำชุมชนพอใจ และบันดาลฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ใน พ.ศ. 2562 มีชาวเขมรให้ความสนใจและพยายามอนุรักษ์ละโคนโขลด้วยการส่งลูกหลานไปหัดโขนวัดสวายอัณแดตราว 20 คน
อ้างอิง
- "โขนไทย-กัมพูชา ต่างกันตรงไหน". The Bangkok Insight. 30 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ให้กระจ่าง ! ความแตกต่างระหว่าง โขนไทย & ลโคนโขลกัมพูชา". ที่นี่ดอตคอม. 30 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . สนุกดอตคอม. 1 กันยายน 2561. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-02. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "เฟซบุ๊กยูเนสโกเดือด กัมพูชาท้วง 'โขน' ไม่ใช่ของไทย". วอยซ์ทีวี. 1 กันยายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ""โขน" วัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์ ยูเนสโกตัดสิน วิน-วิน ทั้งไทยและกัมพูชา". มติชนออนไลน์. 30 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - อดิเทพ พันธ์ทอง (7 มิถุนายน 2559). ""โขนไทย" มาจาก "เขมร" ?". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ข้อพิพาทครั้งใหม่ "ไทย-กัมพูชา" ผ่านวัฒนธรรม 'โขน' มรดกร่วมทางประวัติศาสตร์". วีโอเอไทย. 8 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "สื่อเขมรตีข่าว 'ยูเนสโก' ขึ้นทะเบียน 'ละคอนโขนกัมพูชา' เป็น 'มรดกโลก'". มติชนออนไลน์. 29 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ผอ.สถาบันไทยคดีฯ แจง หลังยูเนสโก ขึ้นทะเบียน "โขนกัมพูชา" เป็นมรดกโลก!". ข่าวสด. 29 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ยูเนสโกรับรอง 'ละครโขน' ของกัมพูชาขึ้นเป็นมรดกโลก ลุ้น 'โขน' ไทยอยู่ระหว่างรอการพิจารณา". เรื่องเล่าเช้านี้. 29 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - "ชาวเน็ตกัมพูชาแห่แชร์ 'โขนเป็นของกัมพูชา ไม่ใช่ไทย'". วอยซ์ทีวี. 6 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "เขมรหัวร้อนบุกเพจยูเนสโก ย้ำโขนไม่ใช่ของไทย". โพสต์ทูเดย์. 31 สิงหาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ต่างประเทศอินโดจีน : ละคอนโขน". มติชนสุดสัปดาห์. 14 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ""โขนไทย - โขลกัมพูชา" ความต่างในมรดกโลก". โพสต์ทูเดย์. 30 พฤศจิกายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ชำแหละที่มา "โขนเขมร" มาจาก "ราชสำนักไทย"". โพสต์ทูเดย์. 3 กันยายน 2561. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "เจาะดราม่าชนิดไร้ลำเอียง 'โขน' ไทย-เขมร สรุปของใคร?". ไทยรัฐออนไลน์. 9 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ (3 กันยายน 2561). "โขนเป็นของใคร ไทยหรือเขมร หรือควรจะเลิกเถียงกันได้แล้ว". The Standard. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - เอนก นาวิกมูล. นักเดินทางชาวสยาม. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2562, หน้า 85-91
- "เสวนาเรื่อง โขน : รามายณะ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมร่วมในอาเซียน". กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. 9 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - "อัตลักษณ์ 'อัปสรา' ในนาฏศิลป์เขมร". มติชนสุดสัปดาห์. 26 มกราคม 2560. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ชัยวัฒน์ เสาทอง (12 พฤศจิกายน 2562). ""แม่เมือน" นางละครไทยคนสุดท้ายในราชสำนักกัมพูชา และโลกนาฏศิลป์หลังเขมรแดง". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ชาวเขมรส่งลูกหลานเรียนรำละครโขนฟื้นฟูศิลปะชาติหลังเกือบสูญหายในยุคเขมรแดง". ผู้จัดการออนไลน์. 4 มกราคม 2562. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
แหล่งข้อมูลอื่น
- ฮิเดโอะ ซาซางาวะ (6 ธันวาคม 2554). "วาทกรรมยุคหลังอาณานิคมว่าด้วยนาฎศิลป์ราชสำนักกัมพูชา". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ฮิเดโอะ ซาซางาวะ (19 มิถุนายน 2555). "วาทกรรมยุคหลังอาณานิคมว่าด้วยนาฎศิลป์ราชสำนักกัมพูชา". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
laokhnokhl ekhmr ល ខ នខ ល epnnatkrrmswmhnakakxyanghnunginpraethskmphucha milksnaiklekhiyngkbkaraesdngokhnkhxngpraethsithy enuxngcakidrbkarthaythxdip pccubnmilaokhnokhlinkmphuchasxngrupaebbidaek laokhnokhlwdswayxnaedt aelalaokhnokhl aetedimcaichphuhyinginkaraesdng tangcakokhnkhxngithythicaichphuchayaesdnglaokhnokhlwdswayxnaedt mrdkphumipyyathangwthnthrrmodyyuensokpraeths kmphuchaphumiphakh exechiyaelaaepsifiksakhathrrmeniymaelakaraesdngxxkthangmukhpatha silpakaraesdng aenwptibtithangsngkhm phithikrrm aelanganethskaleknthphicarnaU 1 U 2 U 3 U 4 U 5xangxing1374prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn2561 khnakrrmkarsmythi 13 raykarmrdkphumipyyathangwthnthrrmthitxngidrbkarsngwnrksaxyangerngdwn chuxtamthiidkhunthaebiyninbychimrdkphumipyyathangwthnthrrmaelakarsngwnrksathidi phumiphakhthicdaebngodyyuensok eduxnminakhm ph s 2560 krathrwngwthnthrrmkhxngpraethsithyidprakaskhxkhunbychiokhnepnmrdkolk thaihprachachninpraethskmphuchaimphxic aelaphaknaesdngkhwamkhidehnwaokhnepnwthnthrrmkhxngkhnkmphuchaethann phxl echmebxr Paul Chamber caksthabnexechiyxakhenysuksa mhawithyalyechiyngihm mxngwaepnkarplukkraaeschatiniymkmphuchamakkwacakarotethiyngekiywkbmrdkthangsilpwthnthrrm yuensokidphicarnakhunthaebiyn echphaa laokhnokhlkhnawdswayxnaedt ល ខ នខ ល វត តស វ យអណ ដ ត epnmrdkphumipyyathangwthnthrrmthicbtxngimid sungcaepntxngidrbkarkhumkhrxngxyangerngdwnemuxwnthi 29 phvscikayn ph s 2561 aelakmphuchaidekhiynkharxngaekyuensokwa khxaelkepliynkhruokhncakpraethsephuxnbanipchwy rwmthungbthlakhrthikmphuchayngimkhrbsmburn prawtiyukhtn nanglakhrchwngrchsmyphrabathsmedcphrasisuwtthithinkhrwd sucitt wngseths nkprawtisastrchawithyihkhxmulwamikaraesdngeruxngramaynakhrngaerkinrachsankkhxmaethbotnelsab kxnaephrhlaymayngrachsanklaow xoythyaaelatkthxdsuxanackrxyuthya odyidprbprungihtxngkbrsniymkhxngtn xyangechnekhruxngaetngkaythirbcakxinediyaelaepxresiyepnxathi swnsiriphcn ehlamanaecriy nkobrankhdichawithy yktwxyangtwlakhrcakramaynatwhnungkhuxrawna sungmisibhnakhyayxxkmadankhang aethwokhnthsknthkhxngithymisibhnatxkhunipdanbnsungepnxiththiphlcakkmphucha tamhlkthanthiphbtamprasathhinkhxngkhxmtang aetkrannkimsamarthchichdidwaphaphaekaslkdngklawepnphaphkaraesdnglaokhnokhl sucittxthibayephimetimwathngokhnaelalaokhnokhlichekhruxngdntriepnkhxngphunemuxngkhxngxusakhenyxyuaelw swnkaphyepnaebbaephnkhxngekhmr aelabthecrcaepnrxykrxngdngedimkhxngithyaelalaw sn phlla aelachay dawin nkwichakarkhxngkrathrwngwicitrsilpaelawthnthrrmkmphucha rabuwalaokhnokhlphthnacaklakhrphanisungepnkarkhberuxngmiaetyukhphrankhraelaaephrhlayipthw xyangirktamhiedoxa sasangawa caksthabnwthnthrrmexechiy ihkhxmulwahakithyrbokhniptngaetyukhnkhrwdcring kkhngthukprbprungihmiexklksnepnkhxngtwexngipaelw khrnkmphuchatkxyuphayitxanackhxngsyam syamkexanatsilpkhxngtnekhaipephyaephr aelayukhthikmphuchatkepnxananikhmfrngess inrachsankekhmrexngkyxmrbwaminatsilpithyepntnaebb aelapthmphngs sukhelk xacarykhnamnusysastraelasngkhmsastr mhawithyalyrachphtphibulsngkhram ihkhxmulwa kstriyekhmridehnkaraesdngokhnithy aelwxachyibexakaraesdngokhnkhxngithybangswn ipprbprayuktfunfuokhnekhmrthimixyukxnaelw odyokhnkhxngekhmr michuxeriykwa laokhnokhn xyangirktam wthnthrrmithyinchwngni miaenwonmwa idaephrkhyayipsuekhmrkhxnkhangmak cakkhxkhwamniaesdngihehnwakmphuchannrbokhncakithyyukhtnrtnoksinthraelanaipephyaephrinchnhlng rxngsastracary xacaryphasaekhmr khnamnusysastr mhawithyalysrinkhrinthrwiorth klawwabthphakyeriymekrkhxngekhmrsungtxngichprakxbinkaraesdnglaokhnokhlnnmixayunxykwaramekiyrtichbbphasaithy nacaidipcakbthphakysmyrchkalphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachxyangaennxn ephraasanwnmikhwamkhlayknxyangmak yukhhlng hwokhnkhxnglaokhnokhl inrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach smedcphraxuithyrachathirachramathibdiidkhrulakhrcakkrungethph ipepnlakhrnxk txmainrchsmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw mikhnalakhrphuhyingchawsyamkhxngecaphrayabdinthredcha singh singhesni ipemuxngekhmrchwngthirbkbywn aelaidklayepnkhrulakhrhyingkhxngsmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi txmaphrabathsmedcphranordm brmramethwawtarthrnghananglakhrsyamcakkrungethph ipchubeliyng odymakidnanglakhrcakecanaywnghnaipepnkhrulakhrinemuxngekhmrhlaykhn karaesdnginchwngnnniymaesdngepnphasaithyephiyngxyangediyw khrninrchsmyphrabathsmedcphrasisuwtthi thrngnakhnalakhrnxkaelalakhrinmaelnprasmorng aelaelnepnphasaithyaelaekhmr txmaphramhakstriyanisisuwtthimuniwngs kusumanarirtnsiriwthnamikhwamphyayamsrangxtlksnthangnatsilpekhmr ephuxpldepluxngxiththiphlnatsilpithyxxk nxkcaklaokhnokhlinrachsank kyngmiokhnechlyskdichaylwncakrachsankkhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar thiptibtitamkhnbxyangkrungethph idxxkmaelnnxkphrarachwngephraasinkhwamniym aetcakphysngkhramthaihkhrulakhrlmhaytaycakipsin hlngehluxkhnalaokhnokhlephiyngkhnaediywkhuxthiwdswayxnaedt thwaekhruxngaetngkay aelahwokhnthacakwsduphunemuxng mikhrulakhrokhnephiyng 5 10 khnthilwnaetepnphusungxayu niymelnephiyngtxnkumphkrrnthdna dwysphaphimphrxmechnni cungthukepriybethiybkbkaraesdngkhxngithywaimkhrbtha imkhrbephlng imkhrbekhruxng hruxkaraetngkayimidswnsd epntn pccubnlaokhnokhlwdswayxnaedtmikarcdkaraesdngephiyngpilakhrng khrnghnungaesdngtxenuxngknecdwn aetpccubncdephiyngsamwnethann aesdngdwynkaesdngchaylwn mikarswmhwokhn brrelngdwyekhruxngdntridngedim phrxmkhbkharxngtamthanxng ephuxsrangkhwamphxicaekeniyktha ethpharkspracachumchnphxic aelabndalfnihtktxngtamvdukal in ph s 2562 michawekhmrihkhwamsnicaelaphyayamxnurkslaokhnokhldwykarsnglukhlaniphdokhnwdswayxnaedtraw 20 khnxangxing okhnithy kmphucha tangkntrngihn The Bangkok Insight 30 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help ihkracang khwamaetktangrahwang okhnithy amp lokhnokhlkmphucha thinidxtkhxm 30 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help snukdxtkhxm 1 knyayn 2561 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 09 02 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help efsbukyuensokeduxd kmphuchathwng okhn imichkhxngithy wxysthiwi 1 knyayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help okhn wthnthrrmrwmxusakheny yuensoktdsin win win thngithyaelakmphucha mtichnxxniln 30 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help xdiethph phnththxng 7 mithunayn 2559 okhnithy macak ekhmr mtichnxxniln subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help khxphiphathkhrngihm ithy kmphucha phanwthnthrrm okhn mrdkrwmthangprawtisastr wioxexithy 8 mithunayn 2559 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help suxekhmrtikhaw yuensok khunthaebiyn lakhxnokhnkmphucha epn mrdkolk mtichnxxniln 29 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phx sthabnithykhdi aecng hlngyuensok khunthaebiyn okhnkmphucha epnmrdkolk khawsd 29 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help yuensokrbrxng lakhrokhn khxngkmphuchakhunepnmrdkolk lun okhn ithyxyurahwangrxkarphicarna eruxngelaechani 29 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy chawentkmphuchaaehaechr okhnepnkhxngkmphucha imichithy wxysthiwi 6 mithunayn 2559 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help ekhmrhwrxnbukephcyuensok yaokhnimichkhxngithy ophstthuedy 31 singhakhm 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help tangpraethsxinodcin lakhxnokhn mtichnsudspdah 14 thnwakhm 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help okhnithy okhlkmphucha khwamtanginmrdkolk ophstthuedy 30 phvscikayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help chaaehlathima okhnekhmr macak rachsankithy ophstthuedy 3 knyayn 2561 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help ecaadramachnidirlaexiyng okhn ithy ekhmr srupkhxngikhr ithyrthxxniln 9 mithunayn 2559 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phiphthn kraaecacnthr 3 knyayn 2561 okhnepnkhxngikhr ithyhruxekhmr hruxkhwrcaelikethiyngknidaelw The Standard subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help exnk nawikmul nkedinthangchawsyam krungethph aesngdaw 2562 hna 85 91 eswnaeruxng okhn ramayna mrdkphumipyyathangwthnthrrmrwminxaesiyn krmsngesrimwthnthrrm 9 mithunayn 2559 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy xtlksn xpsra innatsilpekhmr mtichnsudspdah 26 mkrakhm 2560 subkhnemux 7 phvsphakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help chywthn esathxng 12 phvscikayn 2562 aememuxn nanglakhrithykhnsudthayinrachsankkmphucha aelaolknatsilphlngekhmraedng silpwthnthrrm subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help chawekhmrsnglukhlaneriynralakhrokhnfunfusilpachatihlngekuxbsuyhayinyukhekhmraedng phucdkarxxniln 4 mkrakhm 2562 subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help aehlngkhxmulxunhiedoxa sasangawa 6 thnwakhm 2554 wathkrrmyukhhlngxananikhmwadwynadsilprachsankkmphucha mulnithielk praiph wiriyaphnthu subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help hiedoxa sasangawa 19 mithunayn 2555 wathkrrmyukhhlngxananikhmwadwynadsilprachsankkmphucha mulnithielk praiph wiriyaphnthu subkhnemux 1 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help