บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่
|
บทความนี้อาจต้องปรับปรุงให้มี เนื่องจากนำเสนอมุมมองเพียงด้านเดียว ดูประกอบ โปรดอย่านำป้ายออกจนกว่าจะมีข้อสรุป |
เจ้าดารารัศมี พระราชชายา (ไทยถิ่นเหนือ: ) (26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476) เป็นเจ้าหญิงในราชวงศ์ทิพย์จักรจากนครเชียงใหม่ ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการรวมล้านนาเข้ากับสยาม โดยการถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมล้านนา
เจ้าดารารัศมี | |
---|---|
พระราชชายา | |
พระราชชายา | |
ดำรงตำแหน่ง | 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 |
ประสูติ | 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 |
สิ้นพระชนม์ | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 (60 ปี) |
พระสวามี | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระบุตร | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี |
ราชวงศ์ | ทิพย์จักร (ประสูติ) จักรี (เสกสมรส) |
พระบิดา | พระเจ้าอินทวิชยานนท์ |
พระมารดา | เจ้าทิพเกสร |
พระประวัติ
ขณะทรงพระเยาว์
เจ้าดารารัศมี พระราชชายา มีพระนามเดิมว่า "เจ้าดารารัศมี" พระนามลำลองเรียกกันในครอบครัวว่า "เจ้าน้อย" และในพระประยูรญาติว่า "เจ้าอึ่ง" ประสูติเมื่อวันอังคาร ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา (หากนับทางเหนือ เป็นเดือน 10) หรือตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 เวลา 00.30 น.เศษ ณ คุ้มหลวงกลางเวียง นครเชียงใหม่ (ปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย) เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์กับเจ้าทิพเกสร มีพระเชษฐภคินีร่วมพระอุทรหนึ่งพระองค์คือ
เมื่อทรงพระเยาว์ เจ้าดารารัศมีทรงพระอักษรทั้งฝ่ายล้านนา สยาม และภาษาอังกฤษ จนแตกฉาน ทั้งยังได้ทรงศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ จนนับได้ว่าทรงเป็นผู้รอบรู้ในด้านขนบประเพณีอันเก่าแก่เหล่านั้นดีที่สุดคนหนึ่งทีเดียว และโปรดการทรงม้าเป็นอย่างยิ่ง
เหตุแห่งการเสด็จเข้าวังหลวง
ในปี พ.ศ. 2426 เมื่อเจ้าดารารัศมีมีพระชนมายุได้ 11 พรรษาเศษ พระบิดาได้จัดให้มีพิธีโสกันต์เจ้าดารารัศมีอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นพิธีโสกันต์ครั้งแรกในล้านนา โดยมีพระยาราชสัมภารากร (เลื่อน สุรนันท์) ข้าหลวงสามหัวเมือง เป็นธุระในเรื่องการจัดพิธีโสกันต์ตลอดงาน ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร (เวลานั้นดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำภาคพายัพ) ได้อัญเชิญพระกุณฑล (ตุ้มหู) และพระธำมรงค์เพชร ไปพระราชทานเป็นของขวัญโกนจุก แก่เจ้าดารารัศมี
คล้อยหลัง 3 ปี ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429 (ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ อัฐศก จุลศักราช 1248) ในปี 2429 นั้น พระเจ้าอินทวิชยานนท์ได้เสด็จลงมายังกรุงเทพฯ เพื่อร่วมในพระราชพิธีลงสรง และสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เจ้าดารารัศมีได้โดยเสด็จพระบิดาลงมากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ด้วย และได้ถวายตัว รับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอม ตำแหน่งพระสนมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเลยประทับอยู่ ณ กรุงเทพมหานครนับแต่นั้นมา
เจ้าจอมมารดา
เมื่อพระองค์เสด็จเข้ามาประทับในพระบรมมหาราชวัง พระบิดาได้ประทานเงินค่าตอไม้ (ค่าสัมปทานไม้สักในเขตแคว้นล้านนา ซึ่งตอนนั้นถือกันว่าป่าไม้สักทั้งหมดในดินแดนล้านนาเป็นของพระเจ้านครเชียงใหม่ทั้งสิ้น จะยกประทานแก่ผู้ใดก็ได้ ในกรณีนี้ทรงยกผลประโยชน์เป็นค่าสัมปทานประทานพระธิดา) เพื่อสร้างตำหนักขนาดใหญ่ขึ้นใหม่ในเขตพระราชฐานชั้นในในพระบรมมหาราชวังเพื่อเป็นที่ประทับของเจ้าจอมดารารัศมีและข้าหลวงในพระองค์ ในระหว่างที่ประทับอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ทรงดำรงพระองค์อย่างเรียบง่าย มิได้สนพระทัยต่อการถูกมองพระองค์ว่าเป็น "เจ้าหญิงเมืองลาว" แต่ประการใด ทรงให้ข้าหลวงในตำหนักแต่งกายด้วยผ้าซิ่นแบบล้านนา เหมือนเมื่อครั้งที่ยังประทับอยู่ ณ นครเชียงใหม่ทุกประการ รวมทั้งโปรดให้ให้ศึกษาศิลปะดนตรีไทย ดนตรีสากล การขับร้อง และการฟ้อนรำ ทั้งนี้ เจ้าจอมดารารัศมีสามารถทรงเครื่องดนตรีได้หลากหลายชนิด แต่ที่โปรดและทรงได้ถนัดที่สุดคือจะเข้ เจ้าจอมดารารัศมี ยังทรงสนพระทัยในการถ่ายรูปซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในสมัยนั้น นอกเหนือไปจากพระปรีชาสามารถด้านการทรงม้า
ขณะนั้นยังทรงเป็นเพียงเจ้าจอมพระสนม ยังไม่ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้านายในราชวงศ์จักรี จนกระทั่งปี 2451 ที่เจ้าจอมมารดาดารารัศมีมีพระประสงค์จะเสด็จกลับไปเยือนนครเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้าจอมมารดาดารารัศมี ขึ้นเป็นพระมเหสีอีกพระองค์หนึ่ง ดำรงพระอิสริยยศ "พระราชชายา" และดำรงฐานันดรศักดิ์เจ้านายในราชวงศ์จักรีนับแต่นั้น ถึงแม้จะทรงศักดิ์เป็นพระมเหสีในตำแหน่งพระราชชายา แต่กระบวนเสด็จพระดำเนินสู่นครเชียงใหม่ครั้งนั้น รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชทานอย่างเต็มตามโบราณราชประเพณีเสมอด้วยทรงครองพระอิสริยยศพระมเหสีในตำแหน่ง "พระอัครชายาเธอ" เลยทีเดียว ดังปรากฏความตามสำเนาพระราชหัตถเลขาที่พระราชทานไปยังผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดกระบวนเสด็จครั้งนั้นอย่างชัดเจน[]
ด้วยการดำรงพระองค์อย่างเรียบง่าย หากแต่แฝงไว้ด้วยพระปรีชาญาณ ความมุ่งมั่น และความเชื่อมั่นในพระองค์ กอปรกับความจงรักภักดีที่ทรงมีต่อพระบรมราชสวามี จึงเป็นที่โปรดปรานฯ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในที่สุดเจ้าดารารัศมี ซึ่งขณะนั้นยังทรงดำรงตำแหน่ง "เจ้าจอมดารารัศมี" ก็ทรงพระครรภ์ และมีพระประสูติกาลพระราชธิดา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2432 ทรงพระนามว่าพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี (อ่านว่า วิ-มน-นาก-นะ-พี-สี) ในคราวนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตำแหน่ง "เจ้าจอมดารารัศมี" ขึ้นเป็น "เจ้าจอมมารดาดารารัศมี"
พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี หรือพระนามเรียกขานในหมู่ข้าหลวงว่า "เสด็จเจ้าน้อย" เป็นที่โปรดปรานฯ ในพระราชบิดายิ่งนัก ด้วยทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์น้อยที่ฉลองพระองค์ซิ่นแบบเจ้านายเมืองเหนือตลอดเวลา เป็นที่น่าเสียดายว่า พระธิดามีพระชันษาเพียง 3 ปี 4 เดือน 18 วัน ก็สิ้นพระชนม์ลง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2435 (ต่อมาทรงได้รับโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระนามพระอัฐิขึ้นเป็น "พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี" "พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี" และ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี" ตามลำดับ)
การสิ้นพระชนม์ของพระราชธิดาในคราวนี้นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระทัยยิ่งนัก ทรงมีรับสั่งกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กล่าวโทษพระองค์เองว่าทรงเสียพระทัยยิ่งนัก ที่ทรงมิได้สถาปนาพระยศพระราชธิดาให้เป็น "เจ้าฟ้า" ตามศักดิ์แห่งพระมารดาซึ่งเป็นเจ้าหญิงพระราชธิดาในพระเจ้าประเทศราช เป็นเหตุให้พระธิดาสิ้นพระชนม์ แต่สำหรับเจ้าจอมมารดาดารารัศมีแล้วนั้น ทรงเสียพระทัยอย่างที่สุด ไม่สามารถรับสั่งเป็นคำพูดได้ ทรงฉีกทำลายพระฉายาลักษณ์ที่พระบรมราชสวามีประทับร่วมอยู่กับพระองค์และพระราชธิดาเสียจนหมดสิ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากทรงได้รับลายพระหัตถ์ จากพระบิดาที่ส่งมาประทานแล้ว ทำให้ทรงมีกำลังพระทัยดีขึ้นโดยลำดับ ต่อมาภายหลัง เจ้าจอมมารดาดารารัศมีมิได้มีพระประสูติกาลอีกเลย ทั้งที่โดยความจริงแล้วนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระทัยเอาไว้ก็ตาม ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าจอมมารดาดารารัศมีก็ยังทรงมุ่งมั่นรับใช้เบื้องพระยุคลบาทและถวายความจงรักภักดีต่อพระบรมราชสวามีอย่างหาที่สุดไม่ได้
พระราชชายา
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศ "เจ้าจอมมารดาดารารัศมี" ขึ้นเป็นเจ้านายในราชวงศ์จักรี มีตำแหน่งเป็นพระมเหสีพระองค์หนึ่งออกพระนามว่า "เจ้าดารารัศมี พระราชชายา" นับเป็นพระอิสริยยศในตำแหน่งพระมเหสีเทวีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงนับได้ว่า "เจ้าดารารัศมี พระราชชายา" เป็นพระมเหสีลำดับที่ 5 ในเวลานั้น (ลำดับที่ 1-4 มีรายพระนามดังนี้ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี และพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ ไม่นับสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา และพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์แรกและพระมเหสีทั้ง 2 พระองค์ที่สวรรคตและสิ้นพระชนม์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว)
การเสด็จประพาสนครเชียงใหม่
นับแต่พระราชชายาเสด็จมาประทับในพระบรมมหาราชวัง ก็มิได้เสด็จกลับเชียงใหม่อีกเลย แม้คราวที่พระบิดาถึงพิราลัยเมื่อ พ.ศ. 2440 ก็ตาม เมื่อปี พ.ศ. 2451 เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ พระเชษฐาต่างพระมารดา (ก็คือเจ้าอินทวโรรสนั้นมิได้ประสูติแต่แม่เจ้าพระมหาเทวีดังเช่นพระราชชายาฯ) ได้ลงมาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชชายาจึงกราบถวายบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จนิวัตินครเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมพระประยูรญาติพร้อมกับเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ พระเชษฐา ในครานั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาต ด้วยไม่ทรงต้องการขัดพระทัยพระราชชายา
อย่างไรก็ตาม การเสด็จประพาสนครเชียงใหม่ของพระราชชายาในคราวนี้นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเป็นห่วงและเอาพระราชหฤทัยใส่ยิ่งนัก ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาส่งเสด็จ พระราชชายาฯ เพื่อทรงประทับในขบวนรถไฟที่นั่ง สถานีรถไฟสามเสน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ และพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ พระโอรสในเจ้าจอมมารดาทิพเกษร โดยเสด็จพระราชดำเนินไปส่งพระราชชายาฯ ถึงตำบลปากน้ำโพ นครสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของทางรถไฟสายเหนือ ตลอดการเสด็จพระดำเนิน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดข้าราชการเป็นหมวดหมู่ กรม กองโดยเสด็จพระราชชายาฯ มีธงดารารัศมี ประจำพระองค์พระราชชายาฯประดับ เพื่อแสดงถึงฐานะของพระมเหสีอันสูงศักดิ์ และให้ข้าราชการ กรมการเมืองทั้งหลายตลอดเส้นทางที่เสด็จพระดำเนินสู่นครเชียงใหม่นั้นจัดเตรียมการรับเสด็จเสมือนหนึ่งว่าทรงดำรงตำแหน่ง พระอัครชายาเธอ ทีเดียว เมื่อ พระราชชายาฯ เสด็จถึงปากน้ำโพ ได้เสด็จพระดำเนินต่อโดยทางเรือ ทรงประทับในเรือเก๋งประพาส มีเรือในขบวนเสด็จกว่า 50 ลำ มีการปักธงทิวเป็นขบวนไปตามลำน้ำปิง เมื่อผ่านเขตอำเภอ จังหวัด มณฑลใด มีเจ้าหน้าที่ปลูกพลับพลาประทับร้อน ประทับแรม และคอยรับเสด็จตลอดเขตของตนทุกแห่งทั่วไป
การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้า ใช้เวลานานถึง 2 เดือน 9 วัน จึงเสด็จพระดำเนินถึงยังนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2452 ณ ที่นั้น เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ซึ่งเป็นข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ พร้อมด้วยพระประยูรญาติเจ้านายฝ่ายเหนือ ข้าราชการทหาร พลเรือน ประชาชนแต่ละอำเภอ คหบดีทั่วทั้งดินแดนล้านนา ต่างจัดขบวนแห่ของตน มีขบวนทหาร ตำรวจ ข้าราชการขี่ม้าเข้าแถวนำ แต่งขบวนเป็นภาพคนสมัยโบราณ คนป่า เรื่องชาดกรามเกียรติ์ และนิทานพื้นบ้าน มีขบวนกลองชนะ กลองสะบัดไชย กลองเมือง แตรวง กลองพม่า ต่อกันเป็นระยะๆ ตามหน้าบ้านมีการตั้งเครื่องบูชารายทางมิได้ขาด จนกระทั่งถึงที่ประทับที่คุ้มหลวงนครเชียงใหม่ ซึ่งจัดเป็นข้างหน้าข้างใน มี สนม กรมวังกำกับอย่างใน พระบรมมหาราชวังทุกประการ และมีทหารกองเกียรติยศตั้งคอยรับเสด็จพระราชชายาฯ อย่างสง่างาม
ระหว่างประทับที่เชียงใหม่ พระราชชายาฯ ได้เสด็จพระดำเนินไปทรงเยี่ยมพระประยูรญาติยังนครลำพูนและนครลำปาง และได้เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในที่ต่าง ๆ รวมทั้งได้เสด็จไปนมัสการพระธาตุ พระพุทธบาท และปูชนียสถานสำคัญต่างๆอย่างทรงสำราญพระทัย ตลอดเวลาในการเสด็จประพาสนครเชียงใหม่ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชโทรเลขและพระราชหัตถเลขาแสดงความรักอาทรห่วงใยมาพระราชทานพระราชชายาฯ ไม่ขาด และพระราชชายาฯ ก็ทรงพระโทรเลขหรือลายพระหัตถ์ตรัสเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถวายกลับไป
การเสด็จนิวัติพระนคร
พระราชชายาฯ ประทับอยู่ ณ นครเชียงใหม่ได้หกเดือนเศษ ก็ถึงคราวเสด็จนิวัติพระนคร ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดเตรียมการรับเสด็จพระราชชายาฯอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนรับเสด็จอย่างมืดฟ้ามัวดิน ขบวนเรือเสด็จประกอบด้วยเรือถึง 100 ลำเศษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประทับเรือยนต์หลวงมารอรับเสด็จพระราชชายาฯ ถึงที่อ่างทอง แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินและพระดำเนินพร้อมกัน 2 พระองค์ไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน ในการนี้ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสร้อยพระกรเพชรล้ำค่าเป็นของพระขวัญ ทรงประทับแรมอยู่ ณ พระราชวังบางปะอิน เป็นเวลา 2 ราตรี จึงเสด็จพระราชดำเนินและเสด็จกลับถึงพระนคร ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดพระราชทานเลี้ยงฉลองขึ้นตำหนักสวนฝรั่งกังไส (พระราชวังดุสิต) ซึ่งเป็นตำหนักใหม่ที่โปรดเกล้าฯ สร้างพระราชทานพระราชชายาฯ เป็นพิเศษ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้านายฝ่ายเหนือที่โดยเสด็จพระราชชายาฯ ลงมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ร่วมโต๊ะเสวยด้วยทุกองค์
พระบรมราชสวามีเสด็จสวรรคต
หลังจากเสด็จนิวัติพระนคร พระราชชายาฯ ได้ทรงประทับอยู่ในพระราชวังดุสิต อย่างสำราญพระทัยที่ได้ทรงกลับมารับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระบรมราชสวามีได้เพียง 10 เดือน ก็ต้องทรงประสบกับเหตุวิปโยคคราใหญ่ในพระชนม์ชีพอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จสวรรคต ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 นับรวมเวลาที่ พระราชชายาฯ ได้ถวายการรับใช้เบื้องพระยุคลบาท เป็นเวลา 23 ปีเศษ
นับแต่สิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชชายาฯ ยังทรงประทับในพระราชวังดุสิตมาโดยตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2457 จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบถวายบังคมทูลลาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จนิวัตินครเชียงใหม่เป็นการถาวร เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว ก็เสด็จพระดำเนินสู่นครเชียงใหม่ โดยเสด็จออกเดินทางเมื่อ วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2457 และเสด็จพระดำเนินถึงยังนครเชียงใหม่ในวันที่ 22 เดือนเดียวกัน ได้เข้าประทับยังคุ้มท่าเจดีย์กิ่ว ริมแม่น้ำปิง ตั้งแต่นั้น
สิ้นพระชนม์
ในบั้นปลายพระชนม์ชีพพระองค์ประทับอยู่ที่พระตำหนักดาราภิรมย์ ณ สวนเจ้าสบาย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสร้างพระราชทานเป็นที่ประทับ โดยแวดล้อมด้วยพระประยูรญาติและข้าหลวงในพระองค์เป็นเวลานานถึง 20 ปี
จนกระทั่ง วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2476 พระองค์เริ่มมีพระอาการประชวรด้วยพระโรคพระปัปผาสะพิการ แพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้พยายามถวายการรักษาอย่างเต็มที่ แต่พระอาการมีแต่ทรงกับทรุด เจ้าแก้วนวรัฐ พระเชษฐาต่างพระมารดา จึงเชิญเสด็จมาประทับ ณ คุ้มรินแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้สะดวกในการที่พระประยูรญาติจะได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้าเฝ้าเยี่ยมพระอาการและเป็นการง่ายที่แพทย์จะถวายการรักษา
ความทราบถึงพระกรรณพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน อัญเชิญด้ายสายสิญจน์มาผูกพระกรพระราชชายาฯ พร้อมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยในการรักษาพระอาการ และโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ถวายรายงานพระอาการให้ทรงทราบเป็นประจำ ขณะเดียวกัน พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายแพทย์กรมรถไฟขึ้นมาประจำกับแพทย์ทางเชียงใหม่ถวายการดูแลพระอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น เจ้าแก้วนวรัฐ พระประยูรญาติ และข้าราชบริพาร ยังได้จัดซื้อเครื่องเอกซเรย์ชนิดย้ายที่ได้จากประเทศอินโดนีเซียเพื่อฉายดูพระปัปผาสะ เป็นการช่วยแพทย์แผนปัจจุบัน แต่พระอาการก็มิได้ทุเลาลงแต่อย่างใด
พระองค์ทรงพระประชวรด้วยวัณโรคมาหลายปีแล้ว แต่ในระยะหลังก่อนวันประสูติครบ 60 พระชันษา พระอาการกระเตื้องขึ้น พระองค์ทรงนึกสนุกว่าจะจัดงานอย่างไรบ้าง แต่เมื่อทรงทราบเรื่องกบฏบวรเดช พระอาการก็ทรุดลงเรื่อย ๆ
พระองค์สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 เมื่อเวลา 15.14 น. ณ คุ้มรินแก้ว สิริพระชันษา 60 ปี 3 เดือน 13 วัน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศกุดั่นน้อยและเครื่องสูง 1 สำรับ พระกลดขาวลายทอง และให้ข้าราชบริพารไว้ทุกข์มีกำหนด 7 วัน เป็นเกียรติยศ
การพระราชทานเพลิงพระศพ
เมื่อเจ้าดารารัศมี พระราชชายา สิ้นพระชนม์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญน้ำพระสุคนธ์พระราชทานไปสรงพระศพ เชิญพระโกศไปประกอบพร้อมด้วยเครื่องสำหรับพระอิสริยยศ ประดิษฐานพระศพไว้ที่คุ้มท่าเจดีย์กิ่ว และโปรดให้ช่างหลวงปลูกสร้างพระเมรุสำหรับพระราชทานเพลิงพระศพที่วัดสวนดอก และโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เสด็จแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล และทรงเป็นประธานในงานพระราชทานเพลิงพระศพ
วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2477 เชิญพระศพสู่พระเมรุ พระราชทานเพลิงพระศพ ออกจากคุ้มท่าเจดีย์กิ่ว ไปตามถนนวิชยานนท์ ถนนราชวงศ์ ถนนช้างม่อย ถนนราชวิถี ถนนพระปกเกล้า ถนนอินทวโรรสและถนนสุเทพ เข้าสู่วัดสวนดอก เวลา 17 นาฬิกา พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ผู้แทนพระองค์เสด็จประทับ ณ วิหารหลวงวัดสวนดอก และเสด็จขึ้นพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ
วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2477 เวลาเช้า พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ทรงทอดผ้าไตรสามหาบของหลวง พระสงฆ์สดับปกรณ์ พนักงานประมวลพระอัฎฐิลงในพระโกศทองคำ ตั้งเหนือพานทอง 2 ชั้น เชิญจากพระเมรุไปประดิษฐานบนม้าหมู่ในวิหารหลวง แล้วประเคนภัตาหารสามหาบแก่พระสงฆ์ พระสงฆ์ฉันเสร็จ ถวายอนุโมทนา เป็นเสร็จการ
ในการนี้จัดให้มีบัญชีสามหาบ ประกอบด้วย สำรับที่ 1 หม่อมราชวงศ์แถวธวัช ศรีธวัช (ผ้าไตร) นายถวิล ดารากร ณ อยุธยา (หาบ) สำรับที่ 2 หม่อมราชวงศ์จิระเดช กฤดากร (ผ้าไตร) นายร้อยตำรวจโท ขุนนครอุปการ (หาบ) สำรับที่ 3 หม่อมหลวงเจิม สุริยกุล (ผ้าไตร) นายชิน มาลากุล ณ อยุธยา (หาบ)
พระกรณียกิจสำคัญ
พระราชชายาฯ มีพระกรณียกิจที่ทรงคุณเอนกอนันต์ต่อล้านนาและสยาม พอสังเขป ดังนี้
ทรงดำรงพระองค์เป็นศูนย์รวมดวงใจของข้าราชบริพารฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้
หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงกล่าวถึง พระราชชายาฯ ซึ่งทรงออกพระนามว่า "เจ้าป้า" ตอนหนึ่งว่า "ข้าพเจ้ารู้สึกทึ่งและประทับใจยิ่งนัก เวลาเห็นพระองค์ท่านประทับอยู่ในที่ว่าราชการ ท่ามกลางข้าราชการฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ จากที่เคยเห็นท่านดำรงพระองค์เรียบง่ายสงบคำเวลาประทับอยู่ในวังหลวง แต่ในที่นั่น พระองค์ท่านมีรับสั่งว่าราชการอย่างฉะฉาน เวลาตรัสกับข้าราชการฝ่ายเหนือก็ตรัสเป็นภาษาเหนือ เวลาตรัสกับข้าราชการฝ่ายใต้ก็ตรัสเป็นภาษาใต้ รับสั่งกลับไปกลับมาอย่างคล่องแคล่วยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของข้าราชการทุกหมู่เหล่าอย่างยิ่ง" นอกจากนั้น ยังทรงกล่าวตอนหนึ่งว่า "ฉันเคยพูดกับพวกฝรั่ง เขาว่านะว่า เจ้าเชียงใหม่ไม่เห็นจะทรงฉลาดซักเท่าไร เห็นจะมีแต่ พริ้นเซสออฟเชียงใหม่ ซึ่งหมายถึง พระราชชายาฯ นี่นะสิ ทรงฉลาดเหลือเกิน"
ทรงฟื้นฟูศิลปะด้านการแสดงล้านนา
ทรงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเรื่องดนตรีพื้นเมือง และศิลปะการแสดงพื้นเมืองนั้น ด้วยมีพระนิสัยโปรดเล่นดนตรีไทย ตั้งแต่ครั้งประทับอยู่ใน พระบรมมหาราชวัง ซึ่ง วงดนตรีไทยประจำพระตำหนักของพระราชชายา นั้น มีกิตติศัพท์เลื่องลือไปทั่วฝ่ายใน เมื่อเสด็จมาประทับนครเชียงใหม่ โปรดให้รื้อฟื้นศิลปะการฟ้อนรำ การดนตรีพื้นเมืองทั้งหมด โปรดให้รวบรวมศิลปินล้านนาเก่าแก่มาเป็นบรมครูผู้ประสาทวิชาเพื่อสนับสนุนให้ความรู้แก่พระญาติและประชาชน รวมทั้งโปรดให้จัดการฝึกสอนขึ้นในพระตำหนัก พระญาติของพระองค์ต่อมาได้มีบทบาทในการสานต่อพระปณิธานดังกล่าว อาทิเช่น เจ้าเครือแก้ว ณ เชียงใหม่ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติ และ ผู้สืบทอดการผลิตเครื่องดนตรีและการเล่นดนตรีพื้นเมือง และทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพโปรดให้ครูช่างฟ้อนเมืองทุกแบบและฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตาในวังมาสอนนักเรียนด้วยเพื่อเป็นการสืบทอดมรดกทางนาฏศิลป์
ทรงฟื้นฟูศิลปะการทอผ้า
ทรงฟื้นฟูและส่งเสริมกิจการทอผ้าซึ่งเคยมีชื่อเสียงมาช้านานในล้านนา ได้ทรงรวบรวมผู้ชำนาญการทอผ้ายก ผ้าซิ่นตีนจก และฝึกสอนช่างทอ โดยสร้างโรงทอผ้าที่หลังตำหนักของพระองค์ มีกี่ทอผ้าประมาณ 20 หลัง ภายหลังพระญาติจากนครลำพูนได้มาศึกษาการทอผ้าซิ่นยกดอก และนำไปฝึกหัดคนในคุ้มหลวงที่ลำพูนจนมีความชำนาญ และได้สืบทอดต่อกันมาจวบจนปัจจุบัน กิจการด้านการทอผ้าได้แพร่หลายไปสู่หมู่ประชาชน จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของเชียงใหม่และลำพูนมาตราบจนปัจจุบัน
ทรงสนับสนุนกิจการด้านการศึกษา
ทรงอุดหนุนการศึกษาของสงฆ์ และการศึกษาในโรงเรียนชายหญิงของนครเชียงใหม่ พระราชชายาฯ ได้ประทานที่ดินและทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้แก่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยและโรงเรียนดาราวิทยาลัย โดยเฉพาะโรงเรียนดาราวิทยาลัยนั้นแต่เดิมเรียกว่าโรงเรียนสตรี ภายหลังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าโรงเรียนพระราชชายา และเปลี่ยนเป็นโรงเรียนดาราวิทยาลัย ตามพระนามของพระราชชายาฯ เมื่อ พ.ศ. 2452
ทรงสนับสนุนกิจการด้านพระศาสนา
นอกจากทรงอุดหนุนการศึกษาของสงฆ์แล้ว ทรงทำนุบำรุงศาสนา บูรณะวัดวาอารามต่างๆ มากมายทั่วนครเชียงใหม่ พระราชชายาฯ ได้ประทานที่ดินส่วนพระองค์อันเป็นที่ตั้งของ พระตำหนักม่อนจ๊อกป๊อก บนดอยสุเทพ ถวายแก่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นอกจากนั้น ได้ทรงรวบรวมพระอัฐิพระเจ้านครเชียงใหม่และแม่เจ้า มหาเทวีแต่ก่อนมาทุกพระองค์ กับทั้งอัฐิของพระราชวงศ์ฝ่ายเหนือทั้งปวงซึ่งเป็นพระประยูรญาติของพระองค์ มาบรรจุรวมกันไว้ ณ กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ ที่วัดสวนดอก (พระอารามหลวง)
ทรงส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่ ทรงริเริ่มการปลูกลำไย
พระราชชายาฯ ได้โปรดให้ใช้พระตำหนักดาราภิรมย์ ณ สวนเจ้าสบาย อำเภอแม่ริม เป็นแปลงทดลองการเกษตรส่วนพระองค์ขนาดใหญ่ โปรดให้เจ้าชื่น สิโรรส พระญาติสายราชวงศ์ทิพย์จักร มาดูแลควบคุมพัฒนาการเกษตร ทรงริเริ่มส่งเสริมการปลูกใบยาสูบเวอร์จิเนีย ใบชา ใบหม่อน ดอกไม้เมืองหนาว และกล้วยไม้ ทั่วนครเชียงใหม่และหัวเมืองใกล้เคียง นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงทดลองปลูกพืชใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น ทรงทดลองปลูกกะหล่ำปลีสีม่วง แครอท แตงโมบางเบิด แคนตาลูป รวมทั้งลำไย ผลไม้ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ในปัจจุบัน พระองค์ท่านก็ทรงนำมาปลูกเป็นพระองค์แรก ที่สำคัญ ทรงให้มีการศึกษาพัฒนาด้านการเกษตรอยู่เสมอ และทรงเน้นการให้ความรู้การเกษตรสมัยใหม่เข้าถึงประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง พระอัจฉริยะภาพและพระกรุณาธิคุณดังกล่าว ปรากฏให้เห็นถึงปัจจุบันที่ การปลูกใบชา ใบหม่อน กล้วยไม้ และลำไย กระจายอยู่ทั่วนครเชียงใหม่และเมืองใกล้เคียง ประชาชนต่างยึดถือเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้เลี้ยงครัวเรือน
ประทานนามกุหลาบพันธุ์หนึ่ง ถวายแด่พระบรมราชสวามีว่า "จุฬาลงกรณ์"
พระราชชายาฯ ทรงเป็นเจ้านายสตรีชั้นนำของประเทศ ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชสมาคมกุหลาบแห่งประเทศอังกฤษ ทรงริเริ่มและสนับสนุนการปลูกกุหลาบทั่วนครเชียงใหม่ และหัวเมืองใกล้เคียง ภายหลังทรงพบกุหลาบขนาดใหญ่พันธุ์หนึ่ง ซึ่งมีสีชมพูระเรื่อ ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา ทำให้ทรงหวนระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว จึงได้ประทานนามกุหลาบพันธ์นั้นตามพระนามในพระบรมราชสวามีว่า "จุฬาลงกรณ์" พระราชชายาฯ โปรดให้สร้างแปลงเพาะพันธุ์บน พระตำหนักม่อนจ๊อกป๊อก บนดอยสุเทพ ซึ่งมีอากาศเย็นทั้งปี เมื่อเสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักดาราภิรมย์ ในช่วงปลายพระชนม์ชีพ ก็โปรดให้ปลูกกุหลาบจุฬาลงกรณ์โดยรอบพระตำหนัก และทรงตัดดอกถวายสักการะพระบรมราชสวามี ซึ่งต่อมาภายหลังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำกุหลาบจุฬาลงกรณ์มาเพาะพันธุ์และโปรดให้ปลูกประดับโดยรอบพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
ที่ประทับ
ในระหว่างที่พระองค์รับราชการเป็นพระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวและหลังจากที่พระองค์เสด็จประทับยังจังหวัดเชียงใหม่ พระองค์ประทับยังสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
- ตำหนักเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ภายในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
- ตำหนักสวนฝรั่งกังไส ภายในพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
- (ตำหนักเจ้าดารารัศมี พระราชชายา) ภายในพระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พระตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- พระตำหนักม่อนจ๊อกป๊อก จังหวัดเชียงใหม่
- คุ้มรินแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
- ตำหนักเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ในพระบรมมหาราชวัง
- ตำหนักสวนฝรั่งกังไส
- ตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ภายในพระราชวังบางปะอิน
- พระตำหนักดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา | |
---|---|
การทูล | ไหว้สาพระบาทเจ้า |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/หม่อมฉัน |
การขานรับ | เกล้ากระหม่อม/เพคะ |
พระอิสริยยศ
- เจ้าดารารัศมี (26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 - 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429)
- เจ้าจอมดารารัศมี (4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429 - 2 ตุลาคม พ.ศ. 2432)
- เจ้าจอมมารดาดารารัศมี (2 ตุลาคม พ.ศ. 2432 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451)
- เจ้าดารารัศมี พระราชชายา (12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระองค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของตระกูลต่าง ๆ ดังนี้
- พ.ศ. 2436 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2469 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 2 (จ.ป.ร.2)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 2 (ป.ป.ร.2)
ธงดารารัศมี
- ดารารัศมี เป็นธงประจำพระองค์พระราชชายา เจ้าดารารัศมี มีพระนามย่อประดับรูปดาว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดทำขึ้น
พระอนุสรณ์
- วันเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ตรงกับวันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสิ้นพระชนม์ของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ซึ่งจะมีการประกอบพิธีบวงสรวงถวายสักการะ พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะบริเวณหน้าพระอนุสาวรีย์เจ้าดารารัศมี พระราชชายา ณ พระตำหนักดาราภิรมย์
- พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ เป็นพระตำหนักของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถวายให้เป็นที่ประทับ หลังจากที่พระองค์กราบบังคมทูลลาขอเสด็จมาประทับนครเชียงใหม่เป็นการถาวร
- เพลง เจ้าดารารัศมี ประพันธ์คำร้องโดย พาริณี พจนสุนทร ทำนองและเรียบเรียงเสียงประสานโดย อภิชาติ ศรีศิริจันทร์
- ค่ายดารารัศมี เป็นที่ตั้งของกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- โรงพยาบาลดารารัศมี เป็นโรงพยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- โรงเรียนดาราวิทยาลัย เป็นโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งชื่อตามพระนามเจ้าดารารัศมี พระราชชายา
- อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และ สถานีรถไฟชุมทางบ้านดารา
พงศาวลี
พงศาวลีของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- จิรวัฒน์ อุตตมะกุล, นายแพทย์. พระภรรยาเจ้า และสมเด็จเจ้าฟ้าในรัชกาลที่ 5. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ลายคำ, 2552, หน้า 376
- ภราดร ศักดา, เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 7 เจ้าดารารัศมีถวายตัวเป็นพระราชชายา ร.5, คอลัมน์ เปิดประตูลานนา, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์, ปีที่ 56 ฉบับที่ 21 1 พฤษภาคม 2552, หน้า 43-44
- เนื่องในวโรกาสพระราชทานเพลิงพระศพ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2553. [ม.ป.ท.]: ม.ป.พ.; 2553.
- ราชกิจจานุเบกษา,ข่าวสิ้นพระชนม์, เล่ม 50, ตอน 0 ง, 31 ธันวาคม พ.ศ. 2476, หน้า 2811
- หมายกำหนดการ ที่ ๒/๒๔๗๗ เรื่อง พระราชทานเพลิงพระศพ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา ณ พระเมรุวัดสวนดอก นครเชียงใหม่ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๗ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ง วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๓฿฿ หน้า ๑๔๕
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๖, หน้า ๓๗๖
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญฝ่ายหน้า, เล่ม 43, ตอน0 ง, 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469, หน้า 3995
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายใน 2011-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 25, ตอน 39, 27 ธันวาคม พ.ศ. 2451, หน้า 1153
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายใน, เล่ม 43, ตอน 0 ง, 12 ธันวาคม พ.ศ. 2469, หน้า 3301
- ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ (23 พฤศจิกายน 2553). . ASTVผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-25. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ศรีรัญจวน (6 ตุลาคม 2557). พระราชชายา "ตอนที่ 39 รักดั่งดวงดาราแห่งเจ้าดารารัศมี พระราชชายา". เดลินิวส์. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่า|url=
((help)); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
- บรรณานุกรม
- นงเยาว์ กาญจนจารี. ดารารัศมี พระประวัติพระราชชายา เจ้าดารารัศมี. เชียงใหม่ : สุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์, พ.ศ. 2539.
- หนานอินแปง. พระราชชายา เจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงแห่งเวียงพิงค์สู่ราชสำนักอย่างทรงเกียรติ. กรุงเทพฯ : ไพลินสีน้ำเงิน, พ.ศ. 2552.
- ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง. เพ็ชร์ล้านนา (ครั้งที่ 2). เชียงใหม่ : ผู้จัดการ ศูนย์ภาคเหนือ, พ.ศ. 2538.
- เจ้าวงศ์สัก ณ เชียงใหม่. คณะทายาทสายสกุล ณ เชียงใหม่, เจ้าหลวงเชียงใหม่. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), พ.ศ. 2539.
- คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์. นาวาอากาศเอก. เจ้านายฝ่ายเหนือ. [ม.ป.ท.] : [ม.ป.พ.], [ม.ป.ป.].
แหล่งข้อมูลอื่น
- ผู้จัดการรายวัน, "เจ้าดารารัศมี" ดวงใจแห่งเมืองเหนือของพุทธเจ้าหลวง 2016-04-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 22 ตุลาคม 2547
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkartrwcsxbkhwamthuktxngcakphuechiywchay bthkhwamnitxngkaraehlngxangxingephimephuxphisucnkhxethccringbthkhwamnixactxngprbprungihmimummxngthiepnklang enuxngcaknaesnxmummxngephiyngdanediyw duhnaxphiprayprakxb oprdxyanapayxxkcnkwacamikhxsrup ecadararsmi phrarachchaya ithythinehnux 26 singhakhm ph s 2416 9 thnwakhm ph s 2476 epnecahyinginrachwngsthiphyckrcaknkhrechiyngihm phumibthbathsakhytxkarrwmlannaekhakbsyam odykarthwaytwepnbathbricarikainphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aelafunfusilpwthnthrrmlannaecadararsmiphrarachchayaphrarachchayadarngtaaehnng12 kumphaphnth ph s 2451 23 tulakhm ph s 2453prasuti26 singhakhm ph s 2416sinphrachnm9 thnwakhm ph s 2476 60 pi phraswamiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwphrabutrphraecabrmwngsethx phraxngkhecawimlnakhnphisirachwngsthiphyckr prasuti ckri esksmrs phrabidaphraecaxinthwichyannthphramardaecathipheksrphraprawtikhnathrngphraeyaw ecadararsmi phrarachchaya miphranamedimwa ecadararsmi phranamlalxngeriykkninkhrxbkhrwwa ecanxy aelainphraprayuryatiwa ecaxung prasutiemuxwnxngkhar khun 4 kha eduxn 8 piraka haknbthangehnux epneduxn 10 hruxtrngkbwnthi 26 singhakhm ph s 2416 ewla 00 30 n ess n khumhlwngklangewiyng nkhrechiyngihm pccubnkhuxorngeriynyuphrachwithyaly epnphrathidainphraecaxinthwichyannthkbecathipheksr miphraechsthphkhinirwmphraxuthrhnungphraxngkhkhux emuxthrngphraeyaw ecadararsmithrngphraxksrthngfaylanna syam aelaphasaxngkvs cnaetkchan thngyngidthrngsuksakhnbthrrmeniympraephnitang cnnbidwathrngepnphurxbruindankhnbpraephnixnekaaekehlanndithisudkhnhnungthiediyw aelaoprdkarthrngmaepnxyangying ehtuaehngkaresdcekhawnghlwng inpi ph s 2426 emuxecadararsmimiphrachnmayuid 11 phrrsaess phrabidaidcdihmiphithioskntecadararsmixyangyingihy sungepnphithioskntkhrngaerkinlanna odymiphrayarachsmpharakr eluxn surnnth khahlwngsamhwemuxng epnthuraineruxngkarcdphithiosknttlxdngan phayhlng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihphraecanxngyaethx krmhmunphichitprichakr ewlanndarngtaaehnngkhahlwngpracaphakhphayph idxyechiyphrakunthl tumhu aelaphrathamrngkhephchr ipphrarachthanepnkhxngkhwyokncuk aekecadararsmi khlxyhlng 3 pi inwnthi 4 kumphaphnth ph s 2429 trngkb wnphvhsbdi khun 11 kha eduxn 3 picx xthsk culskrach 1248 inpi 2429 nn phraecaxinthwichyannthidesdclngmayngkrungethph ephuxrwminphrarachphithilngsrng aelasthapnasmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar ecadararsmiidodyesdcphrabidalngmakrungethph inkhrngnidwy aelaidthwaytw rbrachkarfayinepnecacxm taaehnngphrasnminphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwelyprathbxyu n krungethphmhankhrnbaetnnma ecacxmmarda emuxphraxngkhesdcekhamaprathbinphrabrmmharachwng phrabidaidprathanenginkhatxim khasmpthanimskinekhtaekhwnlanna sungtxnnnthuxknwapaimskthnghmdindinaednlannaepnkhxngphraecankhrechiyngihmthngsin caykprathanaekphuidkid inkrninithrngykphlpraoychnepnkhasmpthanprathanphrathida ephuxsrangtahnkkhnadihykhunihminekhtphrarachthanchnininphrabrmmharachwngephuxepnthiprathbkhxngecacxmdararsmiaelakhahlwnginphraxngkh inrahwangthiprathbxyuinphrabrmmharachwng thrngdarngphraxngkhxyangeriybngay miidsnphrathytxkarthukmxngphraxngkhwaepn ecahyingemuxnglaw aetprakarid thrngihkhahlwngintahnkaetngkaydwyphasinaebblanna ehmuxnemuxkhrngthiyngprathbxyu n nkhrechiyngihmthukprakar rwmthngoprdihihsuksasilpadntriithy dntrisakl karkhbrxng aelakarfxnra thngni ecacxmdararsmisamarththrngekhruxngdntriidhlakhlaychnid aetthioprdaelathrngidthndthisudkhuxcaekh ecacxmdararsmi yngthrngsnphrathyinkarthayrupsungthuxepneruxngihminsmynn nxkehnuxipcakphraprichasamarthdankarthrngma khnannyngthrngepnephiyngecacxmphrasnm yngimidrbkarsthapnaihepnecanayinrachwngsckri cnkrathngpi 2451 thiecacxmmardadararsmimiphraprasngkhcaesdcklbipeyuxnnkhrechiyngihm phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcungthrngphrakrunaoprdekla sthapnaecacxmmardadararsmi khunepnphramehsixikphraxngkhhnung darngphraxisriyys phrarachchaya aeladarngthanndrskdiecanayinrachwngsckrinbaetnn thungaemcathrngskdiepnphramehsiintaaehnngphrarachchaya aetkrabwnesdcphradaeninsunkhrechiyngihmkhrngnn rchkalthi 5 thrngphrakrunaoprdeklaihcdkarphrarachthanxyangetmtamobranrachpraephniesmxdwythrngkhrxngphraxisriyysphramehsiintaaehnng phraxkhrchayaethx elythiediyw dngpraktkhwamtamsaenaphrarachhtthelkhathiphrarachthanipyngphuthimihnathiinkarcdkrabwnesdckhrngnnxyangchdecn txngkarxangxing dwykardarngphraxngkhxyangeriybngay hakaetaefngiwdwyphraprichayan khwammungmn aelakhwamechuxmninphraxngkh kxprkbkhwamcngrkphkdithithrngmitxphrabrmrachswami cungepnthioprdpran in phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw inthisudecadararsmi sungkhnannyngthrngdarngtaaehnng ecacxmdararsmi kthrngphrakhrrph aelamiphraprasutikalphrarachthida emuxwnthi 2 tulakhm ph s 2432 thrngphranamwaphraecalukethx phraxngkhecawimlnakhnphisi xanwa wi mn nak na phi si inkhrawnncungthrngphrakrunaoprdekla iheluxntaaehnng ecacxmdararsmi khunepn ecacxmmardadararsmi phraecalukethx phraxngkhecawimlnakhnphisi hruxphranameriykkhaninhmukhahlwngwa esdcecanxy epnthioprdpran inphrarachbidayingnk dwythrngepnecahyingphraxngkhnxythichlxngphraxngkhsinaebbecanayemuxngehnuxtlxdewla epnthinaesiydaywa phrathidamiphrachnsaephiyng 3 pi 4 eduxn 18 wn ksinphrachnmlng emuxwnthi 21 kumphaphnth ph s 2435 txmathrngidrboprdekla echlimphranamphraxthikhunepn phraecanxngnangethx phraxngkhecawimlnakhnphisi phraecaphinangethx phraxngkhecawimlnakhnphisi aela phraecabrmwngsethx phraxngkhecawimlnakhnphisi tamladb karsinphrachnmkhxngphrarachthidainkhrawninn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngesiyphrathyyingnk thrngmirbsngkbsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph klawothsphraxngkhexngwathrngesiyphrathyyingnk thithrngmiidsthapnaphraysphrarachthidaihepn ecafa tamskdiaehngphramardasungepnecahyingphrarachthidainphraecapraethsrach epnehtuihphrathidasinphrachnm aetsahrbecacxmmardadararsmiaelwnn thrngesiyphrathyxyangthisud imsamarthrbsngepnkhaphudid thrngchikthalayphrachayalksnthiphrabrmrachswamiprathbrwmxyukbphraxngkhaelaphrarachthidaesiycnhmdsin xyangirktam hlngcakthrngidrblayphrahtth cakphrabidathisngmaprathanaelw thaihthrngmikalngphrathydikhunodyladb txmaphayhlng ecacxmmardadararsmimiidmiphraprasutikalxikely thngthiodykhwamcringaelwnnphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngtngphrathyexaiwktam imwacaxyangirecacxmmardadararsmikyngthrngmungmnrbichebuxngphrayukhlbathaelathwaykhwamcngrkphkditxphrabrmrachswamixyanghathisudimid phrarachchaya emuxwnthi 12 kumphaphnth ph s 2451 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidthrngphrakrunaoprdekla sthapnaphraxisriyys ecacxmmardadararsmi khunepnecanayinrachwngsckri mitaaehnngepnphramehsiphraxngkhhnungxxkphranamwa ecadararsmi phrarachchaya nbepnphraxisriyysintaaehnngphramehsiethwithiimekhypraktmakxn cungnbidwa ecadararsmi phrarachchaya epnphramehsiladbthi 5 inewlann ladbthi 1 4 mirayphranamdngni smedcphranangecaesawphaphxngsri phrabrmrachininath smedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi aelaphraxrrkhchayaethx phraxngkhecasayswliphirmy krmkhunsuththasininat imnbsmedcphranangecasunnthakumarirtn phrabrmrachethwi phraxrrkhchayaethx phraxngkhecaxublrtnnarinakh krmkhunxrrkhwrrachklya aelaphraxrrkhchayaethx phraxngkhecaesawphakhynarirtn smedcphraxkhrmehsiphraxngkhaerkaelaphramehsithng 2 phraxngkhthiswrrkhtaelasinphrachnmipkxnhnannaelw karesdcpraphasnkhrechiyngihm nbaetphrarachchayaesdcmaprathbinphrabrmmharachwng kmiidesdcklbechiyngihmxikely aemkhrawthiphrabidathungphiralyemux ph s 2440 ktam emuxpi ph s 2451 ecaxinthworrssuriywngs phraechsthatangphramarda kkhuxecaxinthworrsnnmiidprasutiaetaemecaphramhaethwidngechnphrarachchaya idlngmaefaphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachchayacungkrabthwaybngkhmthulkhxphrarachthanphrabrmrachanuyatesdcniwtinkhrechiyngihm ephuxthrngeyiymphraprayuryatiphrxmkbecaxinthworrssuriywngs phraechstha inkhrannphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachthanphrabrmrachanuyat dwyimthrngtxngkarkhdphrathyphrarachchaya xyangirktam karesdcpraphasnkhrechiyngihmkhxngphrarachchayainkhrawninn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidthrngepnhwngaelaexaphrarachhvthyisyingnk inwnthi 2 kumphaphnth ph s 2451 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcphrarachdaeninphrxmdwyphrabrmwngsanuwngsthngfayhnafayin tlxdcnkharachkarchnphuihymasngesdc phrarachchaya ephuxthrngprathbinkhbwnrthifthinng sthanirthifsamesn thrngphrakrunaoprdekla ihphraecanxngyaethx krmhlwngdarngrachanuphaph aelaphraecalukyaethx phraxngkhecadilknphrth phraoxrsinecacxmmardathipheksr odyesdcphrarachdaeninipsngphrarachchaya thungtablpaknaoph nkhrswrrkh sungepncudsinsudkhxngthangrthifsayehnux tlxdkaresdcphradaenin thrngphrakrunaoprdekla ihcdkharachkarepnhmwdhmu krm kxngodyesdcphrarachchaya mithngdararsmi pracaphraxngkhphrarachchayapradb ephuxaesdngthungthanakhxngphramehsixnsungskdi aelaihkharachkar krmkaremuxngthnghlaytlxdesnthangthiesdcphradaeninsunkhrechiyngihmnncdetriymkarrbesdcesmuxnhnungwathrngdarngtaaehnng phraxkhrchayaethx thiediyw emux phrarachchaya esdcthungpaknaoph idesdcphradaenintxodythangerux thrngprathbineruxekngpraphas mieruxinkhbwnesdckwa 50 la mikarpkthngthiwepnkhbwniptamlanaping emuxphanekhtxaephx cnghwd mnthlid miecahnathiplukphlbphlaprathbrxn prathbaerm aelakhxyrbesdctlxdekhtkhxngtnthukaehngthwip karedinthangepnipxyanglacha ichewlananthung 2 eduxn 9 wn cungesdcphradaeninthungyngnkhrechiyngihm emuxwnthi 9 emsayn ph s 2452 n thinn ecaphrayasursihwisisthskdi echy klyanmitr sungepnkhahlwngihymnthlphayph phrxmdwyphraprayuryatiecanayfayehnux kharachkarthhar phleruxn prachachnaetlaxaephx khhbdithwthngdinaednlanna tangcdkhbwnaehkhxngtn mikhbwnthhar tarwc kharachkarkhimaekhaaethwna aetngkhbwnepnphaphkhnsmyobran khnpa eruxngchadkramekiyrti aelanithanphunban mikhbwnklxngchna klxngsabdichy klxngemuxng aetrwng klxngphma txknepnraya tamhnabanmikartngekhruxngbucharaythangmiidkhad cnkrathngthungthiprathbthikhumhlwngnkhrechiyngihm sungcdepnkhanghnakhangin mi snm krmwngkakbxyangin phrabrmmharachwngthukprakar aelamithharkxngekiyrtiystngkhxyrbesdcphrarachchaya xyangsngangam rahwangprathbthiechiyngihm phrarachchaya idesdcphradaeninipthrngeyiymphraprayuryatiyngnkhrlaphunaelankhrlapang aelaidesdceyiymeyiynrasdrinthitang rwmthngidesdcipnmskarphrathatu phraphuththbath aelapuchniysthansakhytangxyangthrngsarayphrathy tlxdewlainkaresdcpraphasnkhrechiyngihmkhrngni phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrarachothrelkhaelaphrarachhtthelkhaaesdngkhwamrkxathrhwngiymaphrarachthanphrarachchaya imkhad aelaphrarachchaya kthrngphraothrelkhhruxlayphrahtthtrselaeruxngrawtang thwayklbip karesdcniwtiphrankhr phrarachchaya prathbxyu n nkhrechiyngihmidhkeduxness kthungkhrawesdcniwtiphrankhr inkarniphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihcdetriymkarrbesdcphrarachchayaxyangyingihy mikhbwnrbesdcxyangmudfamwdin khbwneruxesdcprakxbdwyeruxthung 100 laess phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidesdcprathberuxynthlwngmarxrbesdcphrarachchaya thungthixangthxng aelwcungesdcphrarachdaeninaelaphradaeninphrxmkn 2 phraxngkhipprathbaerm n phrarachwngbangpaxin inkarniidoprdekla phrarachthansrxyphrakrephchrlakhaepnkhxngphrakhwy thrngprathbaermxyu n phrarachwngbangpaxin epnewla 2 ratri cungesdcphrarachdaeninaelaesdcklbthungphrankhr inwnthi 26 phvscikayn ph s 2452 inkarni phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwyngthrngphrakrunaoprdekla cdphrarachthaneliyngchlxngkhuntahnkswnfrngkngis phrarachwngdusit sungepntahnkihmthioprdekla srangphrarachthanphrarachchaya epnphiess odythrngphrakrunaoprdekla ihecanayfayehnuxthiodyesdcphrarachchaya lngmakrungethph khrngnirwmotaeswydwythukxngkh phrabrmrachswamiesdcswrrkht hlngcakesdcniwtiphrankhr phrarachchaya idthrngprathbxyuinphrarachwngdusit xyangsarayphrathythiidthrngklbmarbichebuxngphrayukhlbathphrabrmrachswamiidephiyng 10 eduxn ktxngthrngprasbkbehtuwipoykhkhraihyinphrachnmchiphxikkhrnghnung emuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidesdcswrrkht inwnthi 23 tulakhm ph s 2453 nbrwmewlathi phrarachchaya idthwaykarrbichebuxngphrayukhlbath epnewla 23 piess nbaetsinrchkalphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachchaya yngthrngprathbinphrarachwngdusitmaodytlxd cnkrathngpi ph s 2457 cungidkhxphrarachthanphrabrmrachanuyatkrabthwaybngkhmthullaphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw ephuxesdcniwtinkhrechiyngihmepnkarthawr emuxidrbphrabrmrachanuyataelw kesdcphradaeninsunkhrechiyngihm odyesdcxxkedinthangemux wnthi 8 mkrakhm ph s 2457 aelaesdcphradaeninthungyngnkhrechiyngihminwnthi 22 eduxnediywkn idekhaprathbyngkhumthaecdiykiw rimaemnaping tngaetnn sinphrachnm kuphraxthiinwdswndxk inbnplayphrachnmchiphphraxngkhprathbxyuthiphratahnkdaraphirmy n swnecasbay xaephxaemrim cnghwdechiyngihm xnepntahnkthiphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwsrangphrarachthanepnthiprathb odyaewdlxmdwyphraprayuryatiaelakhahlwnginphraxngkhepnewlananthung 20 pi cnkrathng wnthi 30 mithunayn ph s 2476 phraxngkherimmiphraxakarprachwrdwyphraorkhphrappphasaphikar aephthythnginpraethsaelatangpraethsidphyayamthwaykarrksaxyangetmthi aetphraxakarmiaetthrngkbthrud ecaaekwnwrth phraechsthatangphramarda cungechiyesdcmaprathb n khumrinaekw intwemuxngechiyngihm ephuxihsadwkinkarthiphraprayuryaticaidphldepliynknekhaefaeyiymphraxakaraelaepnkarngaythiaephthycathwaykarrksa khwamthrabthungphrakrrnphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwcungthrngphrakrunaoprdekla ihphraecabrmwngsethx krmphrakaaephngephchrxkhroythin xyechiydaysaysiycnmaphukphrakrphrarachchaya phrxmthngphrarachthanphrarachthrphyswnphraxngkhephuxchwyinkarrksaphraxakar aelaoprdekla ihaephthythwayraynganphraxakarihthrngthrabepnpraca khnaediywkn phrayaphhlphlphyuhesna phcn phhloythin naykrthmntri idsngkarihnayaephthykrmrthifkhunmapracakbaephthythangechiyngihmthwaykarduaelphraxakarxyangiklchid nxkcaknn ecaaekwnwrth phraprayuryati aelakharachbriphar yngidcdsuxekhruxngexkserychnidyaythiidcakpraethsxinodniesiyephuxchayduphrappphasa epnkarchwyaephthyaephnpccubn aetphraxakarkmiidthuelalngaetxyangid phraxngkhthrngphraprachwrdwywnorkhmahlaypiaelw aetinrayahlngkxnwnprasutikhrb 60 phrachnsa phraxakarkraetuxngkhun phraxngkhthrngnuksnukwacacdnganxyangirbang aetemuxthrngthraberuxngkbtbwredch phraxakarkthrudlngeruxy phraxngkhsinphrachnm emuxwnthi 9 thnwakhm ph s 2476 emuxewla 15 14 n n khumrinaekw siriphrachnsa 60 pi 3 eduxn 13 wn phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwoprdekla phrarachthanokskudnnxyaelaekhruxngsung 1 sarb phrakldkhawlaythxng aelaihkharachbriphariwthukkhmikahnd 7 wn epnekiyrtiys karphrarachthanephlingphrasph emuxecadararsmi phrarachchaya sinphrachnmaelw phrabathsmedcphraecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihecaphnknganechiynaphrasukhnthphrarachthanipsrngphrasph echiyphraoksipprakxbphrxmdwyekhruxngsahrbphraxisriyys pradisthanphrasphiwthikhumthaecdiykiw aelaoprdihchanghlwngpluksrangphraemrusahrbphrarachthanephlingphrasphthiwdswndxk aelaoprdekla ihphraecaphiyaethx krmhlwngkaaephngephchrxkhroythin esdcaethnphraxngkh thrngbaephyphrarachkusl aelathrngepnprathaninnganphrarachthanephlingphrasph wnthi 22 emsayn ph s 2477 echiyphrasphsuphraemru phrarachthanephlingphrasph xxkcakkhumthaecdiykiw iptamthnnwichyannth thnnrachwngs thnnchangmxy thnnrachwithi thnnphrapkekla thnnxinthworrsaelathnnsuethph ekhasuwdswndxk ewla 17 nalika phraecaphiyaethx krmhlwngkaaephngephchrxkhroythin phuaethnphraxngkhesdcprathb n wiharhlwngwdswndxk aelaesdckhunphraemruphrarachthanephlingphrasph wnthi 23 emsayn ph s 2477 ewlaecha phraecaphiyaethx krmhlwngkaaephngephchrxkhroythin thrngthxdphaitrsamhabkhxnghlwng phrasngkhsdbpkrn phnknganpramwlphraxdthilnginphraoksthxngkha tngehnuxphanthxng 2 chn echiycakphraemruippradisthanbnmahmuinwiharhlwng aelwpraekhnphtaharsamhabaekphrasngkh phrasngkhchnesrc thwayxnuomthna epnesrckar inkarnicdihmibychisamhab prakxbdwy sarbthi 1 hmxmrachwngsaethwthwch srithwch phaitr naythwil darakr n xyuthya hab sarbthi 2 hmxmrachwngsciraedch kvdakr phaitr nayrxytarwcoth khunnkhrxupkar hab sarbthi 3 hmxmhlwngecim suriykul phaitr naychin malakul n xyuthya hab phrakrniykicsakhyphrarachchaya miphrakrniykicthithrngkhunexnkxnnttxlannaaelasyam phxsngekhp dngni thrngdarngphraxngkhepnsunyrwmdwngickhxngkharachbripharfayehnuxaelafayit hmxmecaphunphismy diskul phrathidainsmedc krmphrayadarngrachanuphaphidthrngklawthung phrarachchaya sungthrngxxkphranamwa ecapa txnhnungwa khaphecarusukthungaelaprathbicyingnk ewlaehnphraxngkhthanprathbxyuinthiwarachkar thamklangkharachkarfayehnuxaelafayit cakthiekhyehnthandarngphraxngkheriybngaysngbkhaewlaprathbxyuinwnghlwng aetinthinn phraxngkhthanmirbsngwarachkarxyangchachan ewlatrskbkharachkarfayehnuxktrsepnphasaehnux ewlatrskbkharachkarfayitktrsepnphasait rbsngklbipklbmaxyangkhlxngaekhlwyingnk ehnidchdwaphraxngkhthrngepnthiekharphethidthunkhxngkharachkarthukhmuehlaxyangying nxkcaknn yngthrngklawtxnhnungwa chnekhyphudkbphwkfrng ekhawanawa ecaechiyngihmimehncathrngchladskethair ehncamiaet phrinessxxfechiyngihm sunghmaythung phrarachchaya ninasi thrngchladehluxekin thrngfunfusilpadankaraesdnglanna thrngsngesrimsilpwthnthrrmxyangsmaesmx odyechphaaeruxngdntriphunemuxng aelasilpakaraesdngphunemuxngnn dwymiphranisyoprdelndntriithy tngaetkhrngprathbxyuin phrabrmmharachwng sung wngdntriithypracaphratahnkkhxngphrarachchaya nn mikittisphtheluxngluxipthwfayin emuxesdcmaprathbnkhrechiyngihm oprdihruxfunsilpakarfxnra kardntriphunemuxngthnghmd oprdihrwbrwmsilpinlannaekaaekmaepnbrmkhruphuprasathwichaephuxsnbsnunihkhwamruaekphrayatiaelaprachachn rwmthngoprdihcdkarfuksxnkhuninphratahnk phrayatikhxngphraxngkhtxmaidmibthbathinkarsantxphrapnithandngklaw xathiechn ecaekhruxaekw n echiyngihm sungtxmaepnsilpinaehngchati aela phusubthxdkarphlitekhruxngdntriaelakarelndntriphunemuxng aelathrngrbepnxngkhxupthmphorngeriynwthonthyphayphoprdihkhruchangfxnemuxngthukaebbaelafxnmanmuyechiyngtainwngmasxnnkeriyndwyephuxepnkarsubthxdmrdkthangnatsilp thrngfunfusilpakarthxpha thrngfunfuaelasngesrimkickarthxphasungekhymichuxesiyngmachananinlanna idthrngrwbrwmphuchanaykarthxphayk phasintinck aelafuksxnchangthx odysrangorngthxphathihlngtahnkkhxngphraxngkh mikithxphapraman 20 hlng phayhlngphrayaticaknkhrlaphunidmasuksakarthxphasinykdxk aelanaipfukhdkhninkhumhlwngthilaphuncnmikhwamchanay aelaidsubthxdtxknmacwbcnpccubn kickardankarthxphaidaephrhlayipsuhmuprachachn cnklayepnphlitphnthsakhykhxngechiyngihmaelalaphunmatrabcnpccubn thrngsnbsnunkickardankarsuksa thrngxudhnunkarsuksakhxngsngkh aelakarsuksainorngeriynchayhyingkhxngnkhrechiyngihm phrarachchaya idprathanthidinaelathrphyswnphraxngkh ihaekorngeriynyuphrachwithyalyaelaorngeriyndarawithyaly odyechphaaorngeriyndarawithyalynnaetedimeriykwaorngeriynstri phayhlngidrbphrarachthannamcakphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw waorngeriynphrarachchaya aelaepliynepnorngeriyndarawithyaly tamphranamkhxngphrarachchaya emux ph s 2452 thrngsnbsnunkickardanphrasasna nxkcakthrngxudhnunkarsuksakhxngsngkhaelw thrngthanubarungsasna burnawdwaxaramtang makmaythwnkhrechiyngihm phrarachchaya idprathanthidinswnphraxngkhxnepnthitngkhxng phratahnkmxncxkpxk bndxysuethph thwayaekwdphrathatudxysuethphrachwrwihar nxkcaknn idthrngrwbrwmphraxthiphraecankhrechiyngihmaelaaemeca mhaethwiaetkxnmathukphraxngkh kbthngxthikhxngphrarachwngsfayehnuxthngpwngsungepnphraprayuryatikhxngphraxngkh mabrrcurwmkniw n kuecanayfayehnux thiwdswndxk phraxaramhlwng thrngsngesrimkarekstrsmyihm thrngrierimkarpluklaiy phrarachchaya idoprdihichphratahnkdaraphirmy n swnecasbay xaephxaemrim epnaeplngthdlxngkarekstrswnphraxngkhkhnadihy oprdihecachun siorrs phrayatisayrachwngsthiphyckr maduaelkhwbkhumphthnakarekstr thrngrierimsngesrimkarplukibyasubewxrcieniy ibcha ibhmxn dxkimemuxnghnaw aelaklwyim thwnkhrechiyngihmaelahwemuxngiklekhiyng nxkcaknn phraxngkhyngthrngthdlxngplukphuchihm xyuesmx echn thrngthdlxngplukkahlaplisimwng aekhrxth aetngombangebid aekhntalup rwmthnglaiy phlimkhunchuxkhxngechiyngihminpccubn phraxngkhthankthrngnamaplukepnphraxngkhaerk thisakhy thrngihmikarsuksaphthnadankarekstrxyuesmx aelathrngennkarihkhwamrukarekstrsmyihmekhathungprachachnkhxngphraxngkhxyangaethcring phraxcchriyaphaphaelaphrakrunathikhundngklaw praktihehnthungpccubnthi karplukibcha ibhmxn klwyim aelalaiy kracayxyuthwnkhrechiyngihmaelaemuxngiklekhiyng prachachntangyudthuxepnxachiphhlksrangrayideliyngkhrweruxn prathannamkuhlabphnthuhnung thwayaedphrabrmrachswamiwa culalngkrn phrarachchaya thrngepnecanaystrichnnakhxngpraeths thrngepnsmachikkittimskdikhxngrachsmakhmkuhlabaehngpraethsxngkvs thrngrierimaelasnbsnunkarplukkuhlabthwnkhrechiyngihm aelahwemuxngiklekhiyng phayhlngthrngphbkuhlabkhnadihyphnthuhnung sungmisichmphuraerux sngklinhxmtlxdewla thaihthrnghwnralukthungphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthiesdcswrrkhtipaelw cungidprathannamkuhlabphnthnntamphranaminphrabrmrachswamiwa culalngkrn phrarachchaya oprdihsrangaeplngephaaphnthubn phratahnkmxncxkpxk bndxysuethph sungmixakaseynthngpi emuxesdcmaprathb n phratahnkdaraphirmy inchwngplayphrachnmchiph koprdihplukkuhlabculalngkrnodyrxbphratahnk aelathrngtddxkthwayskkaraphrabrmrachswami sungtxmaphayhlngsmedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath idthrngphrakrunaoprdekla ihnakuhlabculalngkrnmaephaaphnthuaelaoprdihplukpradbodyrxbphratahnkphuphingkhrachniewsnthiprathbinrahwangthiphraxngkhrbrachkarepnphrarachchayainphrabathsmedcphraculcxmeklaxyuhwaelahlngcakthiphraxngkhesdcprathbyngcnghwdechiyngihm phraxngkhprathbyngsthanthitang dngni tahnkecadararsmi phrarachchaya phayinphrabrmmharachwng krungethphmhankhr tahnkswnfrngkngis phayinphrarachwngdusit krungethphmhankhr tahnkecadararsmi phrarachchaya phayinphrarachwngbangpaxin cnghwdphrankhrsrixyuthya phratahnkdaraphirmy xaephxaemrim cnghwdechiyngihm phratahnkmxncxkpxk cnghwdechiyngihm khumrinaekw cnghwdechiyngihmtahnkecadararsmi phrarachchaya inphrabrmmharachwng tahnkecadararsmi phrarachchaya inphrabrmmharachwng tahnkswnfrngkngis tahnkphrarachchaya ecadararsmi phayinphrarachwngbangpaxin phratahnkdaraphirmy cnghwdechiyngihmphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng ecadararsmi phrarachchayakarthulihwsaphrabathecakaraethntneklakrahmxm hmxmchnkarkhanrbeklakrahmxm ephkhaphraxisriyys ecadararsmi 26 singhakhm ph s 2416 4 kumphaphnth ph s 2429 ecacxmdararsmi 4 kumphaphnth ph s 2429 2 tulakhm ph s 2432 ecacxmmardadararsmi 2 tulakhm ph s 2432 12 kumphaphnth ph s 2451 ecadararsmi phrarachchaya 12 kumphaphnth ph s 2451 9 thnwakhm ph s 2476 ekhruxngrachxisriyaphrn phraxngkhidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnchnsungsudkhxngtrakultang dngni ph s 2436 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayin ph s 2469 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnsungsud mhawchirmngkud m w m ph s 2451 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 5 chnthi 2 c p r 2 ph s 2469 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 2 p p r 2 thngdararsmi dararsmi epnthngpracaphraxngkhphrarachchaya ecadararsmi miphranamyxpradbrupdaw sungphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihcdthakhunphraxnusrnwnecadararsmi phrarachchaya trngkbwnthi 9 thnwakhm khxngthukpi sungepnwnsinphrachnmkhxngecadararsmi phrarachchaya sungcamikarprakxbphithibwngsrwngthwayskkara phithibaephykuslxuthisthway aelaphithiwangphwngmalathwayrachskkarabriewnhnaphraxnusawriyecadararsmi phrarachchaya n phratahnkdaraphirmy phiphithphnthphratahnkdaraphirmy epnphratahnkkhxngecadararsmi phrarachchaya sungphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla phrarachthanthwayihepnthiprathb hlngcakthiphraxngkhkrabbngkhmthullakhxesdcmaprathbnkhrechiyngihmepnkarthawr ephlng ecadararsmi praphnthkharxngody pharini phcnsunthr thanxngaelaeriyberiyngesiyngprasanody xphichati srisiricnthr khaydararsmi epnthitngkhxngkxngbngkhbkartarwctraewnchayaednphakh 3 tngxyuthixaephxaemrim cnghwdechiyngihm orngphyabaldararsmi epnorngphyabalinsngkdorngphyabaltarwc sankngantarwcaehngchati tngxyuthixaephxaemrim cnghwdechiyngihm orngeriyndarawithyaly epnorngeriynincnghwdechiyngihm tngchuxtamphranamecadararsmi phrarachchaya xaephxphichy cnghwdxutrditth aela sthanirthifchumthangbandaraphngsawliphngsawlikhxngecadararsmi phrarachchaya 16 20 24 ecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw 8 phrayakhafn 17 21 25 4 phrayarachwngs mhaphrhmkhakhng 18 9 2 phraecaxinthwichyannth 20 16 24 ecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw 10 phraecadwngthiphy 21 17 25 5 22 phrayamngkhlyspraethsrach 11 1 ecadararsmi phrarachchaya 24 16 20 ecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw 12 phraecakawila 25 17 21 6 phraecakawiolrssuriywngs 13 3 ecathipheksr 28 phrayathrrmlngka 14 phraecamohtrpraeths 29 7 ecaxusa 15 duephimkarphnwknkhrechiyngihmkhxngsyamxangxingechingxrrthcirwthn xuttmakul nayaephthy phraphrryaeca aelasmedcecafainrchkalthi 5 phimphkhrngthi 5 krungethph laykha 2552 hna 376 phradr skda ecahlwngechiyngihmxngkhthi 7 ecadararsmithwaytwepnphrarachchaya r 5 khxlmn epidpratulanna syamrthspdahwicarn pithi 56 chbbthi 21 1 phvsphakhm 2552 hna 43 44 enuxnginworkasphrarachthanephlingphrasph phrawrwngsethx phraxngkhecawimlchtr n emruhnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas krungethphmhankhr wnxathity thi 7 phvscikayn 2553 m p th m p ph 2553 rachkiccanuebksa khawsinphrachnm elm 50 txn 0 ng 31 thnwakhm ph s 2476 hna 2811 hmaykahndkar thi 2 2477 eruxng phrarachthanephlingphrasph ecadararsmi phrarachchaya n phraemruwdswndxk nkhrechiyngihm emsayn phuththskrach 2477rachkiccanuebksa elm 51 txnthi 0ng wnthi 15 emsayn 23 hna 145 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn elm 10 txn 35 26 phvscikayn ph s 2436 hna 376 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnaelaehriyyfayhna elm 43 txn0 ng 6 kumphaphnth ph s 2469 hna 3995 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrn rchkalpccubnfayin 2011 11 20 thi ewyaebkaemchchin elm 25 txn 39 27 thnwakhm ph s 2451 hna 1153 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrnfayin elm 43 txn 0 ng 12 thnwakhm ph s 2469 hna 3301 sunykhawechiyngihm 23 phvscikayn 2553 ASTVphucdkarxxniln khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 11 25 subkhnemux 15 tulakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help srirycwn 6 tulakhm 2557 phrarachchaya txnthi 39 rkdngdwngdaraaehngecadararsmi phrarachchaya edliniws subkhnemux 15 tulakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkha url help trwcsxbkhawnthiin accessdate help brrnanukrmnngeyaw kaycncari dararsmi phraprawtiphrarachchaya ecadararsmi echiyngihm suriwngsbukhesnetxr ph s 2539 hnanxinaepng phrarachchaya ecadararsmi ecahyingaehngewiyngphingkhsurachsankxyangthrngekiyrti krungethph iphlinsinaengin ph s 2552 prani sirithr n phthlung ephchrlanna khrngthi 2 echiyngihm phucdkar sunyphakhehnux ph s 2538 ecawngssk n echiyngihm khnathayathsayskul n echiyngihm ecahlwngechiyngihm krungethph xmrinthrphrinting aexnd phblichching cakd mhachn ph s 2539 khmphir khmphiryannnth nawaxakasexk ecanayfayehnux m p th m p ph m p p aehlngkhxmulxunphucdkarraywn ecadararsmi dwngicaehngemuxngehnuxkhxngphuththecahlwng 2016 04 27 thi ewyaebkaemchchin 22 tulakhm 2547