ลำดับเหตุการณ์สำคัญในอาณาจักรอยุธยา
สมัยราชวงศ์อู่ทอง (ครั้งที่ 1 : พ.ศ. 1893 – 1913)
- พ.ศ. 1893
- สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในนาม กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา จากการรวมกันของอาณาจักรละโว้และแคว้นสุพรรณภูมิ โดยศูนย์กลางอยู่บริเวณหนองโสน
- สถาปนาราชวงศ์อู่ทองปกครองกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 1896
- (สงครามกับอาณาจักรขอม): เริ่มต้นสงคราม
- พ.ศ. 1897
- (สงครามกับอาณาจักรขอม): สงครามสิ้นสุดลงโดยอยุธยาเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
- พ.ศ. 1900
- (สงครามกับอาณาจักรขอม): ขอมสามารถขับไล่อยุธยาออกจากเมืองพระนครได้สำเร็จ
- พ.ศ. 1912
- สมเด็จพระเจ้าอู่ทองสวรรคต สมเด็จพระราเมศวร พระราชโอรสผู้ครองเมืองลพบุรีสืบราชสมบัติ
สมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิ (ครั้งที่ 1 : พ.ศ. 1913 – 1931)
- พ.ศ. 1913
- สมเด็จพระราเมศวรถวายราชสมบัติให้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) พระมาตุลาผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี สิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์อู่ทอง
- สถาปนาราชวงศ์สุพรรณภูมิปกครองกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 1914
- เจ้านครอินทร์ขณะครองเมืองสุพรรณบุรี ในฐานะราชทูตเสด็จฯ เยือนจีนครั้งแรก ตรงกับรัชกาลจักรพรรดิหงอู่แห่งราชวงศ์หมิง
- พ.ศ. 1920
- เจ้านครอินทร์ เสด็จฯ เยือนจีนครั้งที่ 2
- พ.ศ. 1924
- สงครามที่เมืองชากังราว: กองทัพอยุธยายกทัพไปตีเมืองชากังราว พระมหาธรรมราชาที่ 2 ทรงออกรบด้วยพระองค์เอง ต่อมาทรงยอมแพ้ และอาณาจักรสุโขทัยได้มาเป็นประเทศราชของอยุธยา
- พ.ศ. 1927
- สงครามกับอาณาจักรขอม: กองทัพกรุงศรีอยุธยาสามารถตีเมืองพระนครแตกได้เป็นครั้งที่ 2
- พ.ศ. 1931
- ขุนหลวงพะงั่วสวรรคต สมเด็จพระเจ้าทองลัน พระราชโอรสสืบราชสมบัติ
สมัยราชวงศ์อู่ทอง (ครั้งที่ 2 : พ.ศ. 1931 – 1952)
- พ.ศ. 1931
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระราเมศวรชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระเจ้าทองลัน แล้วเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่ 2 สิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์สุพรรณภูมิ
- สถาปนาราชวงศ์อู่ทองปกครองกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระเจ้าทองลันถูกสำเร็จโทษ
- พ.ศ. 1938
- สมเด็จพระราเมศวรสวรรคต สมเด็จพระเจ้ารามราชา พระราชโอรสสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 1952
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: เกิดการจราจลขึ้นในกรุงศรีอยุธยา
สมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิ (ครั้งที่ 2 : พ.ศ. 1952 – 2112)
- พ.ศ. 1952
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระอินทราชา ผู้ครองเมืองสุพรรณบุรีครองราชสมบัติแทนสมเด็จพระเจ้ารามราชา สิ้นสุดการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ราชวงศ์อู่ทองเป็นการถาวร
- สมเด็จพระอินทราชา สถาปนาการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ราชวงศ์สุพรรณภูมิ เป็นครั้งที่ 2
- พ.ศ. 1962
- การชิงราชสมบัติในกรุงสุโขทัย: เกิดการสมเด็จพระอินทราชาทรงเสด็จฯ ไปจัดการการปกครองหัวเมืองเหนือให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย
- พ.ศ. 1964 – 1965
- การสำรวจของกองเรือมหาสมบัติ: เจิ้ง เหอและเดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 1967
- สมเด็จพระอินทราชาสวรรคต
- สงครามกลางเมืองในกรุงศรีอยุธยา: กับ ทำยุทธหัตถีเพื่อแย่งชิงราชสมบัติ แต่สิ้นพระชนม์ทั้งสองพระองค์
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ผู้ครองเมืองชัยนาท เสด็จขึ้นครองราชย์
- สถาปนาวัดราชบูรณะ
- พ.ศ. 1974
- สงครามกับอาณาจักรขอม: อาณาจักรขอมที่เมืองจตุมุข เกิดการแข็งเมือง สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 จึงยกทัพไปตีจนได้รับชัยชนะ
- สงครามกับอาณาจักรขอม: สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 โปรดฯ ให้พระอินทราชา พระราชโอรสไปครองเมืองเขมร
- พ.ศ. 1976
- การกอบกู้เอกราชของอาณาจักรขอม: อาณาจักรขอมแข็งเมือง และประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา
- การกอบกู้เอกราชของอาณาจักรขอม: พระบรมราชาสำเร็จโทษ ผู้ครองเมืองเขมร พระราชโอรสในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2
- พ.ศ. 1981
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทรงผนวกกรุงสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 1982
- การปราบเมืองพิมายและเมืองพนมรุ้ง: สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทรงเตรียมจะปราบเมืองพิมายและเมืองพนมรุ้ง แต่เจ้าเมืองทั้งสองออกมาถวายบังคม จึงทรงโปรดฯ ให้เป็นเจ้าเมืองต่อไป
- พ.ศ. 1985
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่แต่ไม่สำเร็จ ประกอบกับทรงประชวร จึงยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 1987
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง ได้เชลยมา 120,000 คน
- พ.ศ. 1991
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 สวรรคต สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชโอรสผู้ครองเมืองพิษณุโลกสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 1995
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: กองทัพอยุธยาสามารถยึดเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จ แต่ถูกขับไล่ด้วยการสนับสนุนของอาณาจักรล้านช้าง
- พ.ศ. 2001
- การปฏิรูปการปกครองในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงตราพระราชกำหนดศักดินา
- การปฏิรูปการปกครองในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงตรากฎมณเฑียรบาล เพื่อกฎหมายสำหรับการปกครอง
- พ.ศ. 2006
- การปฏิรูปการปกครองในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงจัดการปกครองแบบใหม่เป็นแบบจตุสดมภ์
- การปฏิรูปการปกครองในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเปลี่ยนระบบการปกครองส่วนภูมิภาค คือยกเลิกระบบเมืองลูกหลวง และเมืองหลานหลวง แล้วเปลี่ยนมาใช้ระบบหัวเมืองชั้นใน และหัวเมืองชั้นนอก
- สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จประทับที่เมืองพิษณุโลก เมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นราชธานีแทนกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2006 ถึง 2031
- สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมราชา พระราชโอรสสำเร็จราชการในกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 2017
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: กองทัพอยุธยาสามารถยึดเมืองเชลียงคืนได้
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: อาณาจักรล้านนาโดยพระเจ้าติโลกราช ขอทำสัญญาสงบศึกกับกรุงศรีอยุธยา อันเป็นการสิ้นสุดสบครามครั้งนี้
- พ.ศ. 2031
- สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถสวรรคต สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระบรมราชา) พระราชโอรสผู้สำเร็จราชการในกรุงศรีอยุธยาสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2034
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 สวรรคต สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐา) พระอนุชาผู้ครองเมืองพิษณุโลกสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2042/2043
- สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงโปรดฯ ให้สร้างพระวิหารวัดพระศรีสรรเพชญ์และหล่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2035/2036 ทรงโปรดฯ ให้สร้างพระมหาสถูป 2 องค์เพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3
- พ.ศ. 2043
- สงครามกับมะละกา: กรุงศรีอยุธยาโดยเมืองนครศรีธรรมราชอันเป็นศูนย์กลางของหัวเมืองใต้ ได้ยกทัพไปตีเมืองมะละกาถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ก็ทำให้บรรดาเมืองมลายูตระหนักถึงอำนาจของกรุงศรีอยุธยา จึงยอมสวามิภักดิ์
- พ.ศ. 2054
- โปรตุเกสเป็นชาติยุโรปแรกที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงศรีอยุธยา ด้วยการส่งดูวาร์ตึ ฟือร์นังดึช (Duarte Fenandes) เป็นทูตมาเฝ้าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 หลังจากที่โปรตุเกสเข้าพิชิตมะละกา
- พ.ศ. 2056
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: พญาแก้วยกทัพมาตีเมืองสุโขทัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงออกทัพไปป้องกันและตีทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไป
- พ.ศ. 2058
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ยกทัพไปตีล้านนา โดยตีได้เมืองลำปาง
- พ.ศ. 2068
- สงครามกับเขมร: อาณาจักรเขมรจตุมุข ตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 2072
- สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สวรรคต สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระอาทิตยวงศ์) พระราชโอรสผู้ครองเมืองพิษณุโลกสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2076
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 สวรรคต สมเด็จพระรัษฎาธิราช พระราชโอรสสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2077
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระรัษฎาธิราชถูกสมเด็จพระไชยราชาธิราชชิงราชสมบัติ
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สมเด็จพระรัษฎาธิราชถูกสำเร็จโทษ
- พ.ศ. 2081
- สงครามเชียงกราน: พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยกทัพมาตีเมืองเชียงกราน สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงยกทัพไปตีกลับคืนมา ในการทัพครั้งนี้ พระองค์นำทหารอาสาชาวโปรตุเกสไปด้วย อาสาชาวโปรตุเกสมีความชำนาญในการใช้ปืนไฟ และได้เริ่มใช้ปืนไฟในการรบเป็นครั้งแรก โดยกรุงศรีอยุธยาสามารถยึดเมืองเชียงกรานกลับคืนมาได้
- ราว พ.ศ. 2083
- จุดกำเนิดหมู่บ้านโปรตุเกสในกรุงศรีอยุธยา ตามพระบรมราชโองการฯ ของสมเด็จพระไชยราชาธิราช ที่พระราชทานที่ดินให้ชาวโปรตุเกส 120 คน โดยเป็นบำเหน็จการทำความดีความชอบจากการเข้าร่วมรบในสงครามเชียงกรานจนได้รับชัยชนะ
- โบราณสถานซานเปโตร หรือ โบสถ์เซนต์โดมินิค ในคณะโดมินิกัน เป็นโบสถ์คริสต์ศาสตร์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในอาณาจักรอยุธยา ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านโปรตุเกส
- พ.ศ. 2085 (ในบางแหล่งระบุเป็น พ.ศ. 2065 แต่น่าจะคลาดเคลื่อน)
- สมเด็จพระไชยราชาธิราชโปรดฯ ให้ขุดคลองลัดแม่น้ำบริเวณเมืองบางกอก จากปากคลองบางกอกน้อยไปยังปากคลองบางกอกใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันคือแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จนถึงปากคลองตลาด
- พ.ศ. 2088
- สงครามอยุธยา–ล้านนา: สมเด็จพระไชยราชาธิราชยกทัพจะไปตีเมืองเชียงใหม่ พระนางจิรประภาเทวียอมสวามิภักดิ์
- พ.ศ. 2089
- สมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคต สมเด็จพระยอดฟ้า พระราชโอรสสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2091
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: นางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ทรงอ้างว่าสมเด็จพระยอดฟ้ายังทรงพระเยาว์ หัวเมืองเหนือก็ไม่เป็นปกติจึงปรึกษากับขุนนางว่าจะให้ขุนวรวงศาธิราชว่าราชการแผ่นดินกระทั่งสมเด็จพระยอดฟ้าทรงเจริญพระชันษา เหล่าขุนนางก็เห็นชอบด้วย เมื่อขุนวรวงศาธิราชขึ้นครองราชย์แล้ว ก็สถาปนานายจันขึ้นเป็นพระมหาอุปราช
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: สำเร็จโทษสมเด็จพระยอดฟ้า
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: ขุนวรวงศาธิราชและแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ถูกปลงพระชนม์ขณะเสด็จฯ ทางชลมารคไปทรงคล้องช้าง
- รัฐประหารในกรุงศรีอยุธยา: เหล่าขุนนางไปทูลเชิญพระเทียรราชาซึ่งอยู่ในสมณเพศให้ขึ้นครองราชย์ พระเทียรราชาจึงลาสิกขาบทแล้วราชาภิเษก เฉลิมพระนาม สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า
- พ.ศ. 2092
- สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้: พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ยกทัพเข้ามาล้อมตีกรุงศรีอยุธยา คราวนี้พระสุริโยทัยได้ปลอมพระองค์เข้ามาร่วมรบและกระทำยุทธหัตถีจนสวรรคตบนคอช้าง
- สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้: สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสด็จไปเข้าเฝ้าพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เพื่อขอหย่าศึก โดยแลกกับช้างเผือก 2 เชือก หงสาวดีจึงยกทัพกลับไป
- พ.ศ. 2093
- สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงให้ก่อกำแพงพระนครศรีอยุธยาก่ออิฐถือปูนตามแบบฝรั่งเป็นครั้งแรก จากเดิมที่ถมดินเป็นเชิงเทินแล้วปักเสาไม้ระเนียดด้านบน
- พ.ศ. 2099
- สงครามกับเขมร: สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงโปรดฯ ให้ยกกองทัพไปตีเมืองเขมร แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
- พ.ศ. 2103
- เริ่มก่อสร้างพระธาตุศรีสองรัก เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต
- พ.ศ. 2104
- : พระศรีศิลป์ลาสิกขาบท แล้วนำกองทัพบุกเข้ากรุงศรีอยุธยา ฝ่ายพระศรีศิลป์สามารถบุกเข้าพระราชวังหลวงได้ แต่ต้องพระแสงปืนสิ้นพระชนม์
- พ.ศ. 2107
- สงครามช้างเผือก: พระเจ้าบุเรงนองยกทัพเข้าตีเมืองพิษณุโลกและได้เมืองในวันที่ 12 มกราคม
- สงครามช้างเผือก: ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเข้าเฝ้าพระเจ้าบุเรงนองเพื่อขอเป็นไมตรี ซึ่งพระเจ้าบุเรงนองได้ทรงขอพระราเมศวร พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ และช้างเผือก 4 ช้างกลับไปกรุงหงสาวดี
- : พระยาตานีศรีสุลต่านพระยาตานีแห่งปัตตานีที่ได้เข้ามาช่วยอยุธยารบกับพม่า ก่อความวุ่นวายในกรุงและได้บุกเข้าไปในวังหลวง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรวงรวบรวมกำลังพลแล้วเข้าตีตอบโต้ ฝ่ายปัตตานีได้ถอยร่นถึงปากอ่าว และพระยาตานีศรีสุลต่านสิ้นพระชนม์ที่ปากอ่าวระหว่างหนี
- พ.ศ. 2112
- การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง: ขณะที่ถูกทัพพม่าปิดล้อมพระนครอยู่นั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคต สมเด็จพระมหินทราธิราช พระราชโอรสสืบราชสมบัติ
- การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง: ทัพพม่านำโดยพระเจ้าบุเรงนองเข้ายึดกรุงได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
สมัยราชวงศ์สุโขทัย (พ.ศ. 2112 – 2173)
- พ.ศ. 2112
- ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่อาณาจักรตองอู พระเจ้าบุเรงนองได้ถอดสมเด็จพระมหินทราธิราชจากราชสมบัติ แล้วราชาภิเษกสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชให้ครองกรุงศรีอยุธยาแทน อันเป็นการสิ้นสุดการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ราชวงศ์สุพรรณภูมิ และสถาปนาราชวงศ์สุโขทัย
- สมเด็จพระมหินทราธิราชสวรรคตที่เมืองแครง ใกล้กรุงหงสาวดี
- พ.ศ. 2124
- เกิดเหตุการณ์
- พ.ศ. 2126
- ราล์ฟ ฟิทช์เป็นชาวอังกฤษคนแรกที่บันทึกว่าได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศไทย โดยเดินทางมายังนครเชียงใหม่
- พ.ศ. 2127
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ที่เมืองแครง
- พ.ศ. 2133
- สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรฯ สืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2135
- สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาได้รับชัยชนะ
- พ.ศ. 2138
- สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงยกทัพไปตีกรุงละแวก กรุงละแวกแตก
- พ.ศ. 2141
- ติดต่อกับสเปนเป็นครั้งแรก
- พ.ศ. 2145
- เรือสำเภาบรรทุกสินค้าของ เฉกอะหมัด กุมมี และน้องชายคือ มะหะหมัด ซาอิด เข้ามาเทียบท่าที่ป้อมเพชร เพื่อเข้ามาตั้งห้างค้าขายอยู่ในกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 2147
- ติดต่อกับฮอลันดาเป็นครั้งแรก
- พ.ศ. 2148
- สมเด็จพระนเรศวรฯ สวรรคต สมเด็จพระเอกาทศรถสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2151
- พ.ศ. 2153
- สมเด็จพระเอกาทศรถทรงมีพระราชสาส์นตอบสาส์นจากโชกุนอิเอยาสุ
- สมเด็จพระเอกาทศรถสวรรคต สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์สืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2154
- สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ถูกสำเร็จโทษ พระศรีสินเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงพระนาม สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
- พ.ศ. 2155
- พ.ศ. 2164
- สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในรัชกาล นำโดยขุนพิชิตสมบัติและขุนประเสริฐ เดินทางถึงเมืองเอโดะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2164
- ติดต่อกับเดนมาร์กเป็นครั้งแรก โดยที่เรือสินค้าเดนมาร์กได้เดินทางมาถึงเมืองตะนาวศรีและได้นำปืนไฟมาขาย
- พ.ศ. 2166
- สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เป็นครั้งที่สองในรัชกาล นำโดยหลวงท่องสมุทรและขุนสิทธิ
- พ.ศ. 2167
- โปรตุเกสซึ่งขณะนั้นรวมประเทศกับสเปน ยึดเรือฮอลันดาในแม่น้ำเจ้าพระยา สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงบังคับให้โปรตุเกสคืนเรือแก่ฮอลันดา ทำให้โปรตุเกสประกาศสงครามต่อกรุงศรีอยุธยา แต่สงครามมิได้เกิดขึ้น
- พ.ศ. 2168
- สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เป็นครั้งที่สามในรัชกาล นำโดยขุนรักษาสิทธิผล
- พ.ศ. 2171
- สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต สมเด็จพระเชษฐาธิราชสืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2172
- มีการส่งคณะทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับญี่ปุ่น นำโดยหลวงสกลเดชและขุนโยคมาตย์ เพื่อแจ้งการเปลี่ยนแผ่นดินใหม่
- สมเด็จพระเชษฐาธิราชถูกสำเร็จโทษ สมเด็จพระอาทิตยวงศ์สืบราชสมบัติ
- สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ถูกถอดจากราชสมบัติ เป็นอันสิ้นสุดการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ราชวงศ์สุโขทัย โดยที่เจ้าพระยากลาโหมขึ้นครองราชย์แทน ฉลองพระนาม สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
สมัยราชวงศ์ปราสาททอง (พ.ศ. 2172 – 2231)
- พ.ศ. 2172
- สมเด็จพระเจ้าปราสาทเสด็จขึ้นครองราชย์ สถาปนาราชวงศ์ปราสาททอง
- พ.ศ. 2173
- สมเด็จพระเจ้าปราสาททองมีพระราชโองการให้ทำลายหมู่บ้านญี่ปุ่น แต่โปรดฯ ให้ฟื้นฟูขึ้นในภายหลัง
- พ.ศ. 2180
- สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ถูกสำเร็จโทษ
- พ.ศ. 2199
- เป็นปีที่มีพระมหากษัตริย์ 4 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จเจ้าฟ้าไชย สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา และสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
- สมเด็จพระเจ้าปราสาททองสวรรคต สมเด็จเจ้าฟ้าไชยสืบราชสมบัติ
- สมเด็จเจ้าฟ้าไชยส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นไม่ตอบรับ อ้างว่าตนดำเนินนโยบายปิดประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2179
- สมเด็จเจ้าฟ้าไชยถูกสำเร็จโทษ สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาเสด็จขึ้นครองราชย์ แต่อยู่ในราชสมบัติได้เพียงสองเดือนเศษ ก็ถูกสมเด็จพระนารายณ์ฯ จับสำเร็จโทษ สมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จขึ้นครองราชย์
- พ.ศ. 2204
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงส่งคณะทูตไปญี่ปุ่น แต่ไม่ปรากฏสาส์นตอบจากโชกุน
- พ.ศ. 2209
- พ.ศ. 2215
- คาดว่าเป็นปีที่พระโหราธิบดีประพันธ์หนังสือจินดามณี (ฉบับพระโหราธิบดี)
- พ.ศ. 2216
- สังฆราชแห่งเฮลิโอโปลิสได้นำพระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และศุภอักษรของ มาถวายสมเด็จพระนารายณ์ฯ เพื่อขอบคุณที่ทรงอนุญาตให้คณะบาทหลวงเผยแพร่ศาสนาได้
- พ.ศ. 2217
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ โปรดฯ ให้ย้ายเมืองโคราฆะเดิมและเมืองเสมามาสร้างเมืองใหม่เป็น "เมืองนครราชสีมา" วางผังเมืองโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส
- พ.ศ. 2223
- บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสได้เข้ามาตั้งสถานีการค้าขึ้นในกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งแรก
- คาดว่าเป็นปีที่มีเริ่มจัดทำพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ
- เริ่มก่อสร้างป้อมวิไชยประสิทธิ์ที่เมืองบางกอก
- พ.ศ. 2228
- คณะราชทูตไทยที่ไปฝรั่งเศสกลับถึงกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 23 กันยายน พร้อมคณะราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยมีเชอวาลีเยเดอโชมงเป็นราชทูต
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงมอบให้ฟอลคอน เป็นผู้แทนพระองค์มีอำนาจเต็มแห่งพระเจ้าอยู่หัว ทำสัญญากับเอกอัครราชทูตวิสามัญ เชอวาลีเยเดอโชมง ตามสัญญาฉบับนี้ฝรั่งเศสได้สิทธิในการเผยแพร่คริสต์ศาสนา และทำการสั่งสอนศิลปวิทยาการแก่ราษฎรไทยได้ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ โปรดเกล้าฯ ให้คณะราชทูตไทยไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พร้อมกับคณะราชทูตฝรั่งเศสที่เข้าเฝ้ากราบถวายบังคมลา คณะราชทูตไทยประกอบด้วย ราชทูต อุปทูต ตรีทูต เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม
- พ.ศ. 2229
- เกิดกบฏมักกะสันที่กรุงศรีอยุธยา ฟอลคอนเป็นหัวหน้าดำเนินการปราบปรามได้สำเร็จ
- คณะราชทูตสยามนำโดยพระวิสูตรสุนทร (โกษาปาน) ถึงฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน และเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแวร์ซาย เมื่อวันที่ 1 กันยายน
- พ.ศ. 2230
- ออกญาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี พระยาพระคลัง และออกพระศรีพิพัทธ์รัตนราชโกษาได้ลงนามในสัญญาการค้ากับฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ให้สัตยาบันต่อกัน จึงไม่มีผลบังคับ
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงประกาศสงครามกับอังกฤษอันเนื่องมาจากข้อพิพาทกันทางการค้าเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แต่รัฐบาลอังกฤษถือว่าเป็นการสงครามระหว่างอยุธยากับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ
- ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ผู้ประพันธ์จดหมายเหตุลาลูแบร์ เดินทางถึงกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 27 กันยายน
- พ.ศ. 2231
- คณะราชทูตสยามออกเดินทางจากสันดอนแม่น้ำเจ้าพระยา สมเด็จพระนารายณ์ฯ โปรดเกล้าฯ ให้บาทหลวง ตาชาร์ด เป็นราชทูตพิเศษอัญเชิญพระราชสาส์นไปถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และ เมื่อวันที่ 4 มกราคม
- ออกพระเพทราชากระทำการรัฐประหารโดยจับกุมเจ้าพระยาวิชเยนทร์ และควบคุมสมเด็จพระนารายณ์ฯ ไว้ในพระราชวังลพบุรีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม
- สมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม สิ้นสุดการปกครองของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์ปราสาททอง
- ภายหลังเหตุการณ์ล้อมบางกอกในการปฏิวัติ พ.ศ. 2231 สยามตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับบรรดาชาติตะวันตก โดยเฉพาะฝรั่งเศสอย่างสิ้นเชิง
สมัยราชวงศ์บ้านพลูหลวง (พ.ศ. 2231 – 2310)
- พ.ศ. 2231
- สมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์และสถาปนาราชวงศ์บ้านพลูหลวง
- คณะราชทูตสยาม อาทิ ออกขุนชำนาญใจจง ออกขุนวิเศษภูบาล และออกหมื่นพิพิธราชา เข้าเฝ้า ที่กรุงโรม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
- พ.ศ. 2232
- คณะราชทูตสยามเข้าเฝ้า ที่กรุงโรม เมื่อวันที่ 5 มกราคม อีกครั้ง และเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในเดือนกุมภาพันธ์
- พ.ศ. 2246
- สมเด็จพระเพทราชาสวรรคต สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) สืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2249
- เกิดอัสนีบาตต้องยอดมณฑปพระมงคลบพิตร เครื่องบนมณฑปทรุดโทรมพังลงมาต้องพระศอพระมงคลบพิตรหัก สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 โปรดฯ ให้รื้อเครื่องบนออก ก่อสร้างใหม่แปลงเป็นมหาวิหาร
- พ.ศ. 2251
- สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 สวรรคต สมเด็จพระเจ้าท้ายสระสืบราชสมบัติ
- ราว พ.ศ. 2260
- ชาวสเปนได้รับพระราชทานหมู่บ้านญี่ปุ่นเป็นที่ตั้งหมู่บ้านของตน
- พ.ศ. 2275
- สมเด็จพระเจ้าท้ายสระสวรรคต
- เกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างเจ้าฟ้าอภัย (พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ) กับเจ้าฟ้าพร
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์
- พ.ศ. 2277
- สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชสมภพเมื่อวันที่ 22 มีนาคม
- พ.ศ. 2279
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 มีนาคม
- พ.ศ. 2296
- กษัตริย์ลังกาได้ส่งราชทูตมาขอพระมหาเถระและคณะสงฆ์ไปช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาในลังกาซึ่งเสื่อมโทรมลงไป สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงทรงโปรดฯ ให้ส่งคณะสมณทูตประกอบด้วยพระราชาคณะสองรูปคือพระอุบาลีเถระและพระอริยมุนี พร้อมคณะสงฆ์อีก 12 รูป ไปลังกาได้ไปตั้งสยามนิกายขึ้นในลังกา
- พ.ศ. 2298
- เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ต้องพระราชอาญาเฆี่ยนและสวรรคต
- พ.ศ. 2301
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรสืบราชสมบัติ
- สมเด็จพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 2303
- พระเจ้าเอกทัศได้ทรงขอให้พระเจ้าอุทุมพรลาผนวชมาช่วยบัญชาการรบ ครั้งพระเจ้าอลองพญาได้ยกกองทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา
- พ.ศ. 2309
- พม่าตีค่ายใหญ่ที่บางระจันแตกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน
- พ.ศ. 2310
- กองทัพพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก อาณาจักรอยุธยาล่มสลาย สิ้นสุดราชธานีกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 7 เมษายน
อ้างอิง
- สมเด็จพระนครินทราธิราช ในหมิงสือลู่ วารสารประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์
- พ่อขุนรามคำแหงไปเมืองจีน เอาเทคโนโลยีทำถ้วยชามกลับมาสุโขทัยจริงหรือ? ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2564
- สุจิตต์ วงษ์เทศ/สยามยึดอยุธยา ความเป็นไทย ในสำเภาจีน มติชนสุดสัปดาห์ สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2561
- “หม่าฮวน” ล่ามในคณะเดินทางของ “เจิ้งเหอ” บันทึกถึงกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างไรบ้าง? ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ 2543
- กบฎกรุงศรีอยุธยา / จิตรสิงห์ ปิยะชาติ กรุงเทพฯ : ยิปซี , 2555
- สุจิตต์ วงษ์เทศ : “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” ประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก รู้อะไร? แบบไหน? มติชนออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2560
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 80
- 500 ปี ความสัมพันธ์ไทย-โปรตุเกส ผู้เขียน:จรัญญา ศรีไพร จาก สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2554
- ทำไมโปรตุเกสเป็นยุโรปชาติแรกที่ตั้งถิ่นในสยาม สู่อิทธิพลการทหาร-การค้า-ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2564
- หมู่บ้านโปรตุเกส ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ กรมศิลปากร สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2562
- คลองขุดในประเทศไทย สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ ๓
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 70
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 107
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 122
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 123
- อาจหมายถึง บุคคลสองคน ได้แก่ พระยาศรีสุลต่าน และพระยาตานี
- จังหวัดชายแดนภาคใต้สมัยอยุธยา บ้านจอมยุทธ
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 124
- ถ้าพิจารณาตามปฏิทินจันทรคติไทย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคตใน พ.ศ. 2111
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 129
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 131
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 129
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม 1, หน้า 172
- กบฎญาณพิเชียร บ้านจอมยุทธ
- CPAmedia.com: The Asia Experts, Ralph Fitch: An Elizabethan Merchant in 16th Century Chiang Mai 2007-08-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 131
- ความสัมพันธ์กับต่างประเทศสมัยกรุงศรีอยุธยา 2020-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน AroundTheWorld
- ย้อนความหลัง'อยุธยา+เปอร์เซีย' ข่าวสดออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2555
- บ้านฮอลันดา หลักฐานแห่งความรุ่งเรืองทางการค้าขายในอดต
- ประวัติสัมพันธไมตรีสยาม-เนเธอร์แลนด์ รัชกาลสมเด็จพระเอกาทศรถ (1) 2021-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สยามรัฐออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2560
- พระราชสาส์นตอบสาส์นจาก โทกูงาวะ อิเอยาซุ
- อยุธยากรุงเก่า 2020-10-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เจ.แอนเดอร์สัน เขียนเล่าถึงสภาพของกรุงศรีอยุธยา
- กบฏต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา เปิดชนวนทั้งแขก-ญี่ปุ่น บุกยึด-ปล้นถึงในพระราชวังได้ 2021-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2564
- เจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น
- The Last Samurai in Nakhon Si Thammarat การเข้ามาในเมืองไทยของ ซามูไร ยามาดะ
- เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ทูตฯเรือสินค้าเดนมาร์ก
- ส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เป็นครั้งที่สอง
- อยุธยากรุงเก่า 2020-10-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เจ.แอนเดอร์สัน เขียนเล่าถึงสภาพของกรุงศรีอยุธยา
- จดหมายฝรั่งระบุเหตุ “กรุงศรีอยุธยา” รบ “กรุงมะนิลา” แห่งหมู่เกาะฟิลิปปินส์!? ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2564
- ส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เป็นครั้งที่สาม
- ส่งคณะทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับญี่ปุ่น แจ้งการเปลี่ยนแผ่นดินใหม่
- หมู่บ้านญี่ปุ่น Talontiew
- ส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น
- ส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น
- ไทยกับฝรั่งเศส 2020-08-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน AroundTheWorld
- เตรียมงบ ๕๐ ล้าน พัฒนา ๑๗ คูเมืองโคราช ให้ประชาชนมีส่วนร่วม โคราชคนอีสาน สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2561
- ชาวโคราช สร้างพระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดครบรอบ 345 ปี สยามรัฐออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2562
- อมวิชัยประสิทธิ์ หรือป้อมวิไชเยนทร์ เป็นป้อมรักษาเมืองทางน้ำ[]
- ลำดับเหตุการณ์การรัฐประหารพระนารายณ์ ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563
- บทวิจารณ์หนังสือ: จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร สำนักพิมพ์ศรีปัญญา. 2552, 685 หน้า
- ออกพระเพทราชา ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ออกคำสั่งประหารฟอลคอน ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2564
- Siam: An Account of the Country and the People, Peter Anthony Thompson, 1910 p.28
- ชาวสเปนได้รับพระราชทานหมู่บ้านญี่ปุ่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ladbehtukarnsakhyinxanackrxyuthyaphaphwadkrungsrixyuthya raw ph s 2206 wadody Johannes Vingboonssmyrachwngsxuthxng khrngthi 1 ph s 1893 1913 ph s 1893 smedcphraramathibdithi 1 phraecaxuthxng thrngsthapnakrungsrixyuthyaepnrachthani innam krungethphthwarwdisrixyuthya cakkarrwmknkhxngxanackrlaowaelaaekhwnsuphrrnphumi odysunyklangxyubriewnhnxngosn sthapnarachwngsxuthxngpkkhrxngkrungsrixyuthya ph s 1896 sngkhramkbxanackrkhxm erimtnsngkhram ph s 1897 sngkhramkbxanackrkhxm sngkhramsinsudlngodyxyuthyaepnfayidrbchychna ph s 1900 sngkhramkbxanackrkhxm khxmsamarthkhbilxyuthyaxxkcakemuxngphrankhridsaerc ph s 1912 smedcphraecaxuthxngswrrkht smedcphraraemswr phrarachoxrsphukhrxngemuxnglphburisubrachsmbtismyrachwngssuphrrnphumi khrngthi 1 ph s 1913 1931 ph s 1913 smedcphraraemswrthwayrachsmbtiih smedcphrabrmrachathirachthi 1 khunhlwngphangw phramatulaphukhrxngemuxngsuphrrnburi sinsudkarpkkhrxngkhxngrachwngsxuthxng sthapnarachwngssuphrrnphumipkkhrxngkrungsrixyuthya ph s 1914 ecankhrxinthrkhnakhrxngemuxngsuphrrnburi inthanarachthutesdc eyuxncinkhrngaerk trngkbrchkalckrphrrdihngxuaehngrachwngshming ph s 1920 ecankhrxinthr esdc eyuxncinkhrngthi 2 ph s 1924 sngkhramthiemuxngchakngraw kxngthphxyuthyaykthphiptiemuxngchakngraw phramhathrrmrachathi 2 thrngxxkrbdwyphraxngkhexng txmathrngyxmaeph aelaxanackrsuokhthyidmaepnpraethsrachkhxngxyuthya ph s 1927 sngkhramkbxanackrkhxm kxngthphkrungsrixyuthyasamarthtiemuxngphrankhraetkidepnkhrngthi 2 ph s 1931 khunhlwngphangwswrrkht smedcphraecathxngln phrarachoxrssubrachsmbtismyrachwngsxuthxng khrngthi 2 ph s 1931 1952 ph s 1931 rthpraharinkrungsrixyuthya smedcphraraemswrchingrachsmbticaksmedcphraecathxngln aelwesdckhunkhrxngrachyepnkhrngthi 2 sinsudkarpkkhrxngkhxngrachwngssuphrrnphumi sthapnarachwngsxuthxngpkkhrxngkrungsrixyuthyaxikkhrng rthpraharinkrungsrixyuthya smedcphraecathxnglnthuksaercoths ph s 1938 smedcphraraemswrswrrkht smedcphraecaramracha phrarachoxrssubrachsmbti ph s 1952 rthpraharinkrungsrixyuthya ekidkarcraclkhuninkrungsrixyuthyasmyrachwngssuphrrnphumi khrngthi 2 ph s 1952 2112 ph s 1952 rthpraharinkrungsrixyuthya smedcphraxinthracha phukhrxngemuxngsuphrrnburikhrxngrachsmbtiaethnsmedcphraecaramracha sinsudkarpkkhrxngodyphramhakstriyrachwngsxuthxngepnkarthawr smedcphraxinthracha sthapnakarpkkhrxngodyphramhakstriyrachwngssuphrrnphumi epnkhrngthi 2 ph s 1962 karchingrachsmbtiinkrungsuokhthy ekidkarsmedcphraxinthrachathrngesdc ipcdkarkarpkkhrxnghwemuxngehnuxihxyuinkhwamsngberiybrxy ph s 1964 1965 karsarwckhxngkxngeruxmhasmbti ecing ehxaelaedinthangekhamayngkrungsrixyuthya ph s 1967 smedcphraxinthrachaswrrkht sngkhramklangemuxnginkrungsrixyuthya kb thayuththhtthiephuxaeyngchingrachsmbti aetsinphrachnmthngsxngphraxngkh smedcphrabrmrachathirachthi 2 ecasamphraya phukhrxngemuxngchynath esdckhunkhrxngrachy sthapnawdrachburna ph s 1974 sngkhramkbxanackrkhxm xanackrkhxmthiemuxngctumukh ekidkaraekhngemuxng smedcphrabrmrachathirachthi 2 cungykthphipticnidrbchychna sngkhramkbxanackrkhxm smedcphrabrmrachathirachthi 2 oprd ihphraxinthracha phrarachoxrsipkhrxngemuxngekhmr ph s 1976 karkxbkuexkrachkhxngxanackrkhxm xanackrkhxmaekhngemuxng aelaprakasxisrphaphcakkrungsrixyuthya karkxbkuexkrachkhxngxanackrkhxm phrabrmrachasaercoths phukhrxngemuxngekhmr phrarachoxrsinsmedcphrabrmrachathirachthi 2 ph s 1981 smedcphrabrmrachathirachthi 2 thrngphnwkkrungsuokhthyekhaepnswnhnungkhxngkrungsrixyuthya ph s 1982 karprabemuxngphimayaelaemuxngphnmrung smedcphrabrmrachathirachthi 2 thrngetriymcaprabemuxngphimayaelaemuxngphnmrung aetecaemuxngthngsxngxxkmathwaybngkhm cungthrngoprd ihepnecaemuxngtxip ph s 1985 sngkhramxyuthya lanna smedcphrabrmrachathirachthi 2 ykthphiptiemuxngechiyngihmaetimsaerc prakxbkbthrngprachwr cungykthphklbkrungsrixyuthya ph s 1987 sngkhramxyuthya lanna smedcphrabrmrachathirachthi 2 ykthphiptiemuxngechiyngihmxikkhrng idechlyma 120 000 khn ph s 1991 smedcphrabrmrachathirachthi 2 swrrkht smedcphrabrmitrolknath phrarachoxrsphukhrxngemuxngphisnuolksubrachsmbti ph s 1995 sngkhramxyuthya lanna kxngthphxyuthyasamarthyudemuxngechiyngihmidsaerc aetthukkhbildwykarsnbsnunkhxngxanackrlanchang ph s 2001 karptirupkarpkkhrxnginkrungsrixyuthya smedcphrabrmitrolknaththrngtraphrarachkahndskdina karptirupkarpkkhrxnginkrungsrixyuthya smedcphrabrmitrolknaththrngtrakdmnethiyrbal ephuxkdhmaysahrbkarpkkhrxng ph s 2006 karptirupkarpkkhrxnginkrungsrixyuthya smedcphrabrmitrolknaththrngcdkarpkkhrxngaebbihmepnaebbctusdmph karptirupkarpkkhrxnginkrungsrixyuthya smedcphrabrmitrolknathepliynrabbkarpkkhrxngswnphumiphakh khuxykelikrabbemuxnglukhlwng aelaemuxnghlanhlwng aelwepliynmaichrabbhwemuxngchnin aelahwemuxngchnnxk smedcphrabrmitrolknathesdcprathbthiemuxngphisnuolk emuxngphisnuolkmithanaepnrachthaniaethnkrungsrixyuthyatngaet ph s 2006 thung 2031 smedcphrabrmitrolknath oprdekla ihphrabrmracha phrarachoxrssaercrachkarinkrungsrixyuthya ph s 2017 sngkhramxyuthya lanna kxngthphxyuthyasamarthyudemuxngechliyngkhunid sngkhramxyuthya lanna xanackrlannaodyphraecatiolkrach khxthasyyasngbsukkbkrungsrixyuthya xnepnkarsinsudsbkhramkhrngni ph s 2031 smedcphrabrmitrolknathswrrkht smedcphrabrmrachathirachthi 2 phrabrmracha phrarachoxrsphusaercrachkarinkrungsrixyuthyasubrachsmbti ph s 2034 smedcphrabrmrachathirachthi 3 swrrkht smedcphraramathibdithi 2 phraechstha phraxnuchaphukhrxngemuxngphisnuolksubrachsmbti ph s 2042 2043 smedcphraramathibdithi 2 thrngoprd ihsrangphrawiharwdphrasrisrrephchyaelahlx hlngcakthikxnhnaniinpi ph s 2035 2036 thrngoprd ihsrangphramhasthup 2 xngkhephuxbrrcuphraxthikhxngsmedcphrabrmitrolknathaelasmedcphrabrmrachathirachthi 3 ph s 2043 sngkhramkbmalaka krungsrixyuthyaodyemuxngnkhrsrithrrmrachxnepnsunyklangkhxnghwemuxngit idykthphiptiemuxngmalakathung 2 khrng aetimprasbphlsaerc aetkthaihbrrdaemuxngmlayutrahnkthungxanackhxngkrungsrixyuthya cungyxmswamiphkdi ph s 2054 oprtueksepnchatiyuorpaerkthiekhamaecriysmphnthimtrikbkrungsrixyuthya dwykarsngduwartu fuxrnngduch Duarte Fenandes epnthutmaefasmedcphraramathibdithi 2 hlngcakthioprtueksekhaphichitmalaka ph s 2056 sngkhramxyuthya lanna phyaaekwykthphmatiemuxngsuokhthy smedcphraramathibdithi 2 thrngxxkthphippxngknaelatithphechiyngihmaetkphayip ph s 2058 sngkhramxyuthya lanna smedcphraramathibdithi 2 ykthphiptilanna odytiidemuxnglapang ph s 2068 sngkhramkbekhmr xanackrekhmrctumukh tkepnpraethsrachkhxngkrungsrixyuthya ph s 2072 smedcphraramathibdithi 2 swrrkht smedcphrabrmrachathirachthi 4 phraxathitywngs phrarachoxrsphukhrxngemuxngphisnuolksubrachsmbti ph s 2076 smedcphrabrmrachathirachthi 4 swrrkht smedcphrarsdathirach phrarachoxrssubrachsmbti ph s 2077 rthpraharinkrungsrixyuthya smedcphrarsdathirachthuksmedcphraichyrachathirachchingrachsmbti rthpraharinkrungsrixyuthya smedcphrarsdathirachthuksaercoths ph s 2081 sngkhramechiyngkran phraecataebngchaewtiykthphmatiemuxngechiyngkran smedcphraichyrachathirachthrngykthphiptiklbkhunma inkarthphkhrngni phraxngkhnathharxasachawoprtueksipdwy xasachawoprtueksmikhwamchanayinkarichpunif aelaiderimichpunifinkarrbepnkhrngaerk odykrungsrixyuthyasamarthyudemuxngechiyngkranklbkhunmaid raw ph s 2083 cudkaenidhmubanoprtueksinkrungsrixyuthya tamphrabrmrachoxngkar khxngsmedcphraichyrachathirach thiphrarachthanthidinihchawoprtueks 120 khn odyepnbaehnckarthakhwamdikhwamchxbcakkarekharwmrbinsngkhramechiyngkrancnidrbchychna obransthansanepotr hrux obsthesntodminikh inkhnaodminikn epnobsthkhristsastraehngaerkthisrangkhuninxanackrxyuthya tngxyubriewnhmubanoprtueks ph s 2085 inbangaehlngrabuepn ph s 2065 aetnacakhladekhluxn smedcphraichyrachathirachoprd ihkhudkhlxngldaemnabriewnemuxngbangkxk cakpakkhlxngbangkxknxyipyngpakkhlxngbangkxkihy sunginpccubnkhuxaemnaecaphrayatngaetbriewnhnamhawithyalythrrmsastrcnthungpakkhlxngtlad ph s 2088 sngkhramxyuthya lanna smedcphraichyrachathirachykthphcaiptiemuxngechiyngihm phranangcirpraphaethwiyxmswamiphkdi ph s 2089 smedcphraichyrachathirachswrrkht smedcphrayxdfa phrarachoxrssubrachsmbti ph s 2091 rthpraharinkrungsrixyuthya nangphrayaaemxyuhwsrisudacnthrthrngxangwasmedcphrayxdfayngthrngphraeyaw hwemuxngehnuxkimepnpkticungpruksakbkhunnangwacaihkhunwrwngsathirachwarachkaraephndinkrathngsmedcphrayxdfathrngecriyphrachnsa ehlakhunnangkehnchxbdwy emuxkhunwrwngsathirachkhunkhrxngrachyaelw ksthapnanaycnkhunepnphramhaxuprach rthpraharinkrungsrixyuthya saercothssmedcphrayxdfa rthpraharinkrungsrixyuthya khunwrwngsathirachaelaaemxyuhwsrisudacnthrthukplngphrachnmkhnaesdc thangchlmarkhipthrngkhlxngchang rthpraharinkrungsrixyuthya ehlakhunnangipthulechiyphraethiyrrachasungxyuinsmnephsihkhunkhrxngrachy phraethiyrrachacunglasikkhabthaelwrachaphiesk echlimphranam smedcphramhackrphrrdirachathiracheca ph s 2092 sngkhramphraecataebngchewti phraecataebngchewtiykthphekhamalxmtikrungsrixyuthya khrawniphrasurioythyidplxmphraxngkhekhamarwmrbaelakrathayuththhtthicnswrrkhtbnkhxchang sngkhramphraecataebngchewti smedcphramhackrphrrdiesdcipekhaefaphraecataebngchewtiephuxkhxhyasuk odyaelkkbchangephuxk 2 echuxk hngsawdicungykthphklbip ph s 2093 smedcphramhackrphrrdithrngihkxkaaephngphrankhrsrixyuthyakxxiththuxpuntamaebbfrngepnkhrngaerk cakedimthithmdinepnechingethinaelwpkesaimraeniyddanbn ph s 2099 sngkhramkbekhmr smedcphramhackrphrrdithrngoprd ihykkxngthphiptiemuxngekhmr aetimprasbphlsaerc ph s 2103 erimkxsrangphrathatusrisxngrk ephuxepnskkhiphyaninkarchwyehluxsungknaelaknrahwangkrungsrixyuthyakbkrungsristnakhnhut ph s 2104 phrasrisilplasikkhabth aelwnakxngthphbukekhakrungsrixyuthya fayphrasrisilpsamarthbukekhaphrarachwnghlwngid aettxngphraaesngpunsinphrachnm ph s 2107 sngkhramchangephuxk phraecabuerngnxngykthphekhatiemuxngphisnuolkaelaidemuxnginwnthi 12 mkrakhm sngkhramchangephuxk ineduxnkumphaphnththungminakhm smedcphramhackrphrrdiekhaefaphraecabuerngnxngephuxkhxepnimtri sungphraecabuerngnxngidthrngkhxphraraemswr phrarachoxrsphraxngkhihy aelachangephuxk 4 changklbipkrunghngsawdi phrayatanisrisultanphrayataniaehngpttanithiidekhamachwyxyuthyarbkbphma kxkhwamwunwayinkrungaelaidbukekhaipinwnghlwng smedcphramhackrphrrdithrwngrwbrwmkalngphlaelwekhatitxbot faypttaniidthxyrnthungpakxaw aelaphrayatanisrisultansinphrachnmthipakxawrahwanghni ph s 2112 karesiykrungsrixyuthyakhrngthihnung khnathithukthphphmapidlxmphrankhrxyunn smedcphramhackrphrrdiswrrkht smedcphramhinthrathirach phrarachoxrssubrachsmbti karesiykrungsrixyuthyakhrngthihnung thphphmanaodyphraecabuerngnxngekhayudkrungidsaerc emuxwnthi 17 singhakhmsmyrachwngssuokhthy ph s 2112 2173 phaphwadthharyipunph s 2112 phayhlngkaresiykrungsrixyuthyaihaekxanackrtxngxu phraecabuerngnxngidthxdsmedcphramhinthrathirachcakrachsmbti aelwrachaphiesksmedcphramhathrrmrachathirachihkhrxngkrungsrixyuthyaaethn xnepnkarsinsudkarpkkhrxngodyphramhakstriyrachwngssuphrrnphumi aelasthapnarachwngssuokhthy smedcphramhinthrathirachswrrkhtthiemuxngaekhrng iklkrunghngsawdi ph s 2124 ekidehtukarn ph s 2126 ralf fithchepnchawxngkvskhnaerkthibnthukwaidedinthangekhamainphunthisungpccubnepnpraethsithy odyedinthangmayngnkhrechiyngihm ph s 2127 smedcphranerswrmharachthrngprakasxisrphaph thiemuxngaekhrng ph s 2133 smedcphramhathrrmrachathirachswrrkht smedcphranerswr subrachsmbti ph s 2135 smedcphranerswr thrngkrathayuththhtthikbphramhaxuprachaidrbchychna ph s 2138 smedcphranerswr thrngykthphiptikrunglaaewk krunglaaewkaetk ph s 2141 tidtxkbsepnepnkhrngaerk ph s 2145 eruxsaephabrrthuksinkhakhxng echkxahmd kummi aelanxngchaykhux mahahmd saxid ekhamaethiybthathipxmephchr ephuxekhamatnghangkhakhayxyuinkrungsrixyuthya ph s 2147 tidtxkbhxlndaepnkhrngaerk ph s 2148 smedcphranerswr swrrkht smedcphraexkathsrthsubrachsmbti ph s 2151 khnarachthutcanwn 20 khn thismedcphraexkathsrsthrngsngipecriysmphnthimtriyngpraethshxlndaidedinthangthungkrungehk emuxwnthi 10 knyayn aelaekhaphbinrungkhun nbwaepnkarsngkhnathutipecriythangsmphnthimtrikbpraethsinthwipyuorpkhrngaerkinprawtisastr ph s 2153 smedcphraexkathsrththrngmiphrarachsasntxbsasncakochkunxiexyasu smedcphraexkathsrthswrrkht smedcphrasriesawphakhysubrachsmbti ph s 2154 smedcphrasriesawphakhythuksaercoths phrasrisinesdckhunkhrxngrachy thrngphranam smedcphraecathrngthrrm ph s 2155 tidtxkbxngkvsepnkhrngaerk ekidehtukarn odythikxngkalngthharyipunbukekhawnghlwnghmaycacbphraecathrngthrrm ph s 2164 smedcphraecathrngthrrmthrngsngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun epnkhrngaerkinrchkal naodykhunphichitsmbtiaelakhunpraesrith edinthangthungemuxngexodaemuxwnthi 13 tulakhm ph s 2164 tidtxkbednmarkepnkhrngaerk odythieruxsinkhaednmarkidedinthangmathungemuxngtanawsriaelaidnapunifmakhay ph s 2166 smedcphraecathrngthrrmthrngsngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun epnkhrngthisxnginrchkal naodyhlwngthxngsmuthraelakhunsiththi ph s 2167 oprtuekssungkhnannrwmpraethskbsepn yuderuxhxlndainaemnaecaphraya smedcphraecathrngthrrmthrngbngkhbihoprtuekskhuneruxaekhxlnda thaihoprtueksprakassngkhramtxkrungsrixyuthya aetsngkhrammiidekidkhun ph s 2168 smedcphraecathrngthrrmthrngsngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun epnkhrngthisaminrchkal naodykhunrksasiththiphl ph s 2171 smedcphraecathrngthrrmswrrkht smedcphraechsthathirachsubrachsmbti ph s 2172 mikarsngkhnathutipecriyphrarachimtrikbyipun naodyhlwngskledchaelakhunoykhmaty ephuxaecngkarepliynaephndinihm smedcphraechsthathirachthuksaercoths smedcphraxathitywngssubrachsmbti smedcphraxathitywngsthukthxdcakrachsmbti epnxnsinsudkarpkkhrxngodyphramhakstriyrachwngssuokhthy odythiecaphrayaklaohmkhunkhrxngrachyaethn chlxngphranam smedcphraecaprasaththxngsmyrachwngsprasaththxng ph s 2172 2231 phaphwadrachthutfrngessekhaefasmedcphranaraynmharach n phrathinngsrrephchymhaprasath wnthi 18 tulakhm ph s 2228 kh s 1685 phaphwadrachthutsyam n phrarachwngaewrsay n wnthi 1 knyayn ph s 2229 kh s 1686 ph s 2172 smedcphraecaprasathesdckhunkhrxngrachy sthapnarachwngsprasaththxng ph s 2173 smedcphraecaprasaththxngmiphrarachoxngkarihthalayhmubanyipun aetoprd ihfunfukhuninphayhlng ph s 2180 smedcphraxathitywngsthuksaercoths ph s 2199 epnpithimiphramhakstriy 4 phraxngkh idaek smedcphraecaprasaththxng smedcecafaichy smedcphrasrisuthrrmracha aelasmedcphranaraynmharach smedcphraecaprasaththxngswrrkht smedcecafaichysubrachsmbti smedcecafaichysngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun aetyipunimtxbrb xangwatndaeninnoybaypidpraethstngaet ph s 2179 smedcecafaichythuksaercoths smedcphrasrisuthrrmrachaesdckhunkhrxngrachy aetxyuinrachsmbtiidephiyngsxngeduxness kthuksmedcphranarayn cbsaercoths smedcphranarayn esdckhunkhrxngrachy ph s 2204 smedcphranarayn thrngsngkhnathutipyipun aetimpraktsasntxbcakochkun ph s 2209 smedcphranarayn oprdekla ihsrangemuxnglphburikhunepnrachthaniaehngthi 2 ph s 2215 khadwaepnpithiphraohrathibdipraphnthhnngsuxcindamni chbbphraohrathibdi ph s 2216 sngkhrachaehngehlioxoplisidnaphrarachsasnkhxngphraecahluysthi 14 aelasuphxksrkhxng mathwaysmedcphranarayn ephuxkhxbkhunthithrngxnuyatihkhnabathhlwngephyaephrsasnaid ph s 2217 smedcphranarayn oprd ihyayemuxngokhrakhaedimaelaemuxngesmamasrangemuxngihmepn emuxngnkhrrachsima wangphngemuxngodywiswkrchawfrngess ph s 2223 bristhxinediytawnxxkkhxngfrngessidekhamatngsthanikarkhakhuninkrungsrixyuthyaepnkhrngaerk khadwaepnpithimierimcdthaphrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith erimkxsrangpxmwiichyprasiththithiemuxngbangkxk ph s 2228 khnarachthutithythiipfrngessklbthungkrungsrixyuthyaemuxwnthi 23 knyayn phrxmkhnarachthutkhxngphraecahluysthi 14 odymiechxwalieyedxochmngepnrachthut smedcphranarayn thrngmxbihfxlkhxn epnphuaethnphraxngkhmixanacetmaehngphraecaxyuhw thasyyakbexkxkhrrachthutwisamy echxwalieyedxochmng tamsyyachbbnifrngessidsiththiinkarephyaephrkhristsasna aelathakarsngsxnsilpwithyakaraekrasdrithyid emuxwnthi 10 thnwakhm smedcphranarayn oprdekla ihkhnarachthutithyipefaphraecahluysthi 14 phrxmkbkhnarachthutfrngessthiekhaefakrabthwaybngkhmla khnarachthutithyprakxbdwy rachthut xupthut trithut emuxwnthi 12 thnwakhm ph s 2229 ekidkbtmkkasnthikrungsrixyuthya fxlkhxnepnhwhnadaeninkarprabpramidsaerc khnarachthutsyamnaodyphrawisutrsunthr oksapan thungfrngessemuxwnthi 18 mithunayn aelaekhaefaphraecahluysthi 14 thiphrarachwngaewrsay emuxwnthi 1 knyayn ph s 2230 xxkyaphraesdcsuernthrathibdi phrayaphrakhlng aelaxxkphrasriphiphththrtnrachoksaidlngnaminsyyakarkhakbfrngess aetimidihstyabntxkn cungimmiphlbngkhb smedcphranarayn thrngprakassngkhramkbxngkvsxnenuxngmacakkhxphiphathknthangkarkhaemuxwnthi 11 singhakhm aetrthbalxngkvsthuxwaepnkarsngkhramrahwangxyuthyakbbristhxinediytawnxxkkhxngxngkvs simng edx la luaebr phupraphnthcdhmayehtulaluaebr edinthangthungkrungsrixyuthyaemuxwnthi 27 knyayn ph s 2231 khnarachthutsyamxxkedinthangcaksndxnaemnaecaphraya smedcphranarayn oprdekla ihbathhlwng tachard epnrachthutphiessxyechiyphrarachsasnipthwayphraecahluysthi 14 aela emuxwnthi 4 mkrakhm xxkphraephthrachakrathakarrthpraharodycbkumecaphrayawicheynthr aelakhwbkhumsmedcphranarayn iwinphrarachwnglphburiemuxwnthi 18 phvsphakhm smedcphranarayn esdcswrrkhtemuxwnthi 11 krkdakhm sinsudkarpkkhrxngkhxngphramhakstriyaehngrachwngsprasaththxng phayhlngehtukarnlxmbangkxkinkarptiwti ph s 2231 syamtdkhwamsmphnththangkarthutkbbrrdachatitawntk odyechphaafrngessxyangsinechingsmyrachwngsbanphluhlwng ph s 2231 2310 khnarachthutsyamphrxmdwybathhlwngtacharekhaefaph s 2231 smedcphraephthrachaprabdaphieskkhunkhrxngrachyaelasthapnarachwngsbanphluhlwng khnarachthutsyam xathi xxkkhunchanayiccng xxkkhunwiessphubal aelaxxkhmunphiphithracha ekhaefa thikrungorm emuxwnthi 23 thnwakhm ph s 2232 khnarachthutsyamekhaefa thikrungorm emuxwnthi 5 mkrakhm xikkhrng aelaekhaefaphraecahluysthi 14 ineduxnkumphaphnth ph s 2246 smedcphraephthrachaswrrkht smedcphrasrrephchythi 8 phraecaesux subrachsmbti ph s 2249 ekidxsnibattxngyxdmnthpphramngkhlbphitr ekhruxngbnmnthpthrudothrmphnglngmatxngphrasxphramngkhlbphitrhk smedcphrasrrephchythi 8 oprd ihruxekhruxngbnxxk kxsrangihmaeplngepnmhawihar ph s 2251 smedcphrasrrephchythi 8 swrrkht smedcphraecathaysrasubrachsmbti raw ph s 2260 chawsepnidrbphrarachthanhmubanyipunepnthitnghmubankhxngtn ph s 2275 smedcphraecathaysraswrrkht ekidsngkhramaeyngchingbllngkrahwangecafaxphy phrarachoxrsinsmedcphraecathaysra kbecafaphr smedcphraecaxyuhwbrmoksprabdaphieskkhunkhrxngrachy ph s 2277 smedcphraecataksinmharachphrarachsmphphemuxwnthi 22 minakhm ph s 2279 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachphrarachsmphphemuxwnthi 20 minakhm ph s 2296 kstriylngkaidsngrachthutmakhxphramhaethraaelakhnasngkhipchwyfunfuphuththsasnainlngkasungesuxmothrmlngip smedcphraecaxyuhwbrmokscungthrngoprd ihsngkhnasmnthutprakxbdwyphrarachakhnasxngrupkhuxphraxubaliethraaelaphraxriymuni phrxmkhnasngkhxik 12 rup iplngkaidiptngsyamnikaykhuninlngka ph s 2298 ecafathrrmthiebsichyechsthsuriywngstxngphrarachxayaekhiynaelaswrrkht ph s 2301 smedcphraecaxyuhwbrmoksswrrkht smedcphraecaxuthumphrsubrachsmbti smedcphrathinngsuriyasnxmrinthresdckhunkhrxngrachyepnphramhakstriyphraxngkhsudthayaehngkrungsrixyuthya ph s 2303 phraecaexkthsidthrngkhxihphraecaxuthumphrlaphnwchmachwybychakarrb khrngphraecaxlxngphyaidykkxngthphekhamatikrungsrixyuthya ph s 2309 phmatikhayihythibangracnaetkemuxwnthi 23 mithunayn ph s 2310 kxngthphphmatikrungsrixyuthyaaetk xanackrxyuthyalmslay sinsudrachthanikrungsrixyuthyaemuxwnthi 7 emsaynxangxingsmedcphrankhrinthrathirach inhmingsuxlu warsarprawtisastr thrrmsastr phxkhunramkhaaehngipemuxngcin exaethkhonolyithathwychamklbmasuokhthycringhrux silpwthnthrrm subkhnemux 5 phvscikayn 2564 sucitt wngseths syamyudxyuthya khwamepnithy insaephacin mtichnsudspdah subkhnemux 1 krkdakhm 2561 hmahwn laminkhnaedinthangkhxng ecingehx bnthukthungkrungsrixyuthyaiwxyangirbang silpwthnthrrm chbbkumphaphnth 2543 kbdkrungsrixyuthya citrsingh piyachati krungethph yipsi 2555 sucitt wngseths phituruthukeruxng prawtisastremuxngphisnuolk ruxair aebbihn mtichnxxniln subkhnemux 26 singhakhm 2560 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 80 500 pi khwamsmphnthithy oprtueks phuekhiyn cryya sriiphr cak sankngancnghwdphrankhrsrixyuthya subkhnemux 10 mithunayn 2554 thaimoprtueksepnyuorpchatiaerkthitngthininsyam suxiththiphlkarthhar karkha sasna silpwthnthrrm subkhnemux 30 emsayn 2564 hmubanoprtueks khxmulphiphithphnth krmsilpakr subkhnemux 2 krkdakhm 2562 khlxngkhudinpraethsithy saranukrmithysahrbeyawchn elmthi 3 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 70 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 107 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 122 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 123 xachmaythung bukhkhlsxngkhn idaek phrayasrisultan aelaphrayatani cnghwdchayaednphakhitsmyxyuthya bancxmyuthth karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 124 thaphicarnatamptithincnthrkhtiithy smedcphramhackrphrrdiswrrkhtin ph s 2111 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 129 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 131 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 129 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha elm 1 hna 172 kbdyanphiechiyr bancxmyuthth CPAmedia com The Asia Experts Ralph Fitch An Elizabethan Merchant in 16th Century Chiang Mai 2007 08 22 thi ewyaebkaemchchin karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 131 khwamsmphnthkbtangpraethssmykrungsrixyuthya 2020 02 19 thi ewyaebkaemchchin AroundTheWorld yxnkhwamhlng xyuthya epxresiy khawsdxxniln subkhnemux 21 mithunayn 2555 banhxlnda hlkthanaehngkhwamrungeruxngthangkarkhakhayinxdt prawtismphnthimtrisyam enethxraelnd rchkalsmedcphraexkathsrth 1 2021 07 14 thi ewyaebkaemchchin syamrthxxniln subkhnemux 9 minakhm 2560 phrarachsasntxbsasncak othkungawa xiexyasu xyuthyakrungeka 2020 10 30 thi ewyaebkaemchchin ec aexnedxrsn ekhiynelathungsphaphkhxngkrungsrixyuthya kbttangchatiinkrungsrixyuthya epidchnwnthngaekhk yipun bukyud plnthunginphrarachwngid 2021 07 14 thi ewyaebkaemchchin silpwthnthrrm subkhnemux 3 knyayn 2564 ecriysmphnthimtrikbyipun The Last Samurai in Nakhon Si Thammarat karekhamainemuxngithykhxng samuir yamada exkxkhrrachthut n krungokhepnehekn thuteruxsinkhaednmark sngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun epnkhrngthisxng xyuthyakrungeka 2020 10 30 thi ewyaebkaemchchin ec aexnedxrsn ekhiynelathungsphaphkhxngkrungsrixyuthya cdhmayfrngrabuehtu krungsrixyuthya rb krungmanila aehnghmuekaafilippins silpwthnthrrm subkhnemux 22 kumphaphnth 2564 sngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun epnkhrngthisam sngkhnathutipecriyphrarachimtrikbyipun aecngkarepliynaephndinihm hmubanyipun Talontiew sngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun sngkhnathutipecriysmphnthimtrikbyipun ithykbfrngess 2020 08 03 thi ewyaebkaemchchin AroundTheWorld etriymngb 50 lan phthna 17 khuemuxngokhrach ihprachachnmiswnrwm okhrachkhnxisan subkhnemux 12 thnwakhm 2561 chawokhrach srangphrachyemuxngnkhrrachsima run chlxngcnghwdkhrbrxb 345 pi syamrthxxniln subkhnemux 17 mithunayn 2562 xmwichyprasiththi hruxpxmwiicheynthr epnpxmrksaemuxngthangna lingkesiy ladbehtukarnkarrthpraharphranarayn silpwthnthrrm subkhnemux 22 phvsphakhm 2563 bthwicarnhnngsux cdhmayehtu la luaebr rachxanackrsyam aeplody snt th okmlbutr sankphimphsripyya 2552 685 hna xxkphraephthracha yudxanacebdesrc xxkkhasngpraharfxlkhxn silpwthnthrrm subkhnemux 18 phvsphakhm 2564 Siam An Account of the Country and the People Peter Anthony Thompson 1910 p 28 chawsepnidrbphrarachthanhmubanyipun