สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง (3 เมษายน พ.ศ. 1857 – พ.ศ. 1912) เป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา: 222 ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 1912 ทรงพระนามว่าพระเจ้าอู่ทองก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 1893 มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับภูมิหลังของพระเจ้าอู่ทอง รวมทั้งอาจเป็นเชื้อสายของพ่อขุนมังราย
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 | |
---|---|
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 | |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | 12 มีนาคม พ.ศ. 1893 – 1912 (19 ปี 0 วัน) |
ก่อนหน้า | สถาปนาอาณาจักร |
ถัดไป | สมเด็จพระราเมศวร |
พระราชสมภพ | 3 เมษายน พ.ศ. 1857 |
สวรรคต | พ.ศ. 1912 (55 พรรษา) |
มเหสี | ไม่ปรากฏพระนาม (พระกนิษฐาในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1) |
พระราชบุตร | สมเด็จพระราเมศวร |
ราชวงศ์ | อู่ทอง |
พระปรมาภิไธย
- สมเด็จพระรามาธิบดี (หลังจากขึ้นครองราชย์)
- พระเจ้าอู่ทอง (กษัตริย์ผู้ครองเมืองอู่ทองแคว้นสุพรรณภูมิ)
- สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทร บรมมหาจักรพรรดิศรราชาธิราช (ในโองการแช่งน้ำ)
- สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสุนทรบรมจักรพัตราธิราช (ในกฎหมายลักษณะอาญาราษฎร์)
- สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุรินทร บรมจักรพรรดิศร บวรมหาธรรมิกราชาธิราช (ในกฎหมายลักษณะอาญาหลวง)
พระราชประวัติ
ระบุว่าพระเจ้าอู่ทองรามาธิบดีเสด็จพระราชสมภพวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล จ.ศ. 676 (ตรงกับวันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 1857) ได้ทรงสถาปนาเมืองหลวงขึ้นในบริเวณที่หนองโสนเมื่อ จ.ศ. 712 ปีขาล โทศก วันศุกร์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 เวลา 3 นาฬิกา 9 บาท ตรงกับวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 1893 หรือ 12 มีนาคม พ.ศ. 1893 ตามปฏิทินไทยสากลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เมื่อครองราชย์ได้รับเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ถึงปีระกา พ.ศ. 1912 เสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ 19 ปี
แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าพระองค์พระราชสมภพที่ไหน และมาจากเมืองไหน เอกสารทางประวัติศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ทั้งไทยและต่างประเทศขัดแย้งกัน โดยมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่มาของพระเจ้าอู่ทองสรุปได้ดังนี้
- แนวความคิดที่ 1
จดหมายเหตุลาลูแบร์ ระบุว่าพระเจ้าอู่ทองอพยพมาจากเชียงแสน
- แนวความคิดที่ 2
จดหมายเหตุวันวลิตระบุว่าทรงอพยพมาจากเมืองเพชรบุรี
- แนวความคิดที่ 3
ชินกาลมาลีปกรณ์และพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากละโว้
- ตามหลักฐานและโบราณคดี
ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ในแนวคิดที่ 4 5 และ 6 สามารถผนวกรวมกันได้ กล่าวคือ เมื่อพิจารณาตำนานทั้งหลายแล้ว เจ้าชายวรเชษฐ์ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมราชา กษัตริย์แห่งอาณาจักรละโว้ (แนวความคิดที่ 6) ต่อมาพระราชชนกโปรดให้ไปครองเมืองพริบพรี (แนวความคิดที่ 4) และหลังจากพระราชชนกเสด็จสวรรคตแล้ว ทรงกลับมาครองเมืองอโยธยา (แนวความคิดที่ 5) จากนั้นจึงเกิดโรคระบาด จึงทรงย้ายที่ตั้งเมืองมายังตำแหน่งปัจจุบัน
พระราชกรณียกิจ
การสถาปนากรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล จุลศักราช 712 ตรงกับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 1893 ชีพ่อพราหมณ์ถวายพระนามว่า สมเด็จพระรามาธิบดี แล้วโปรดให้ขุนหลวงพะงั่ว ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระมเหสีเป็น สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า ไปครองเมืองสุพรรณบุรี ส่วนพระราเมศวร รัชทายาทให้ไปครองเมืองลพบุรี
การสงครามกับเขมร
ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระองค์ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับแว่นแคว้นต่าง ๆ มากมาย แม้กระทั่ง ขอม ซึ่งก็เป็นมาด้วยดีจนกระทั่งกษัตริย์ขอมสวรรคต เนื่องจากการปฏิวัติขอมของนายแตงหวาน ชนชั้นแรงงานได้ยึดอำนาจจากชนชั้นปกครอง และครองเมืองแทนซึ่งรู้จักในนาม พระบาทตระซ็อกประแอม หรือ (เขมร: ត្រសក់ផ្អែម) หรือพระบาทสมเด็จพระศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 (ព្រះបាទស្រីសុរិយោពណ៌ទី១) ซึ่งพระราชนัดดานาม พระบรมลำพงศ์ ทรงขึ้นครองราชย์ ซึ่งก็แปรพักตร์ไม่เป็นไมตรีดังแต่ก่อน สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงให้สมเด็จพระราเมศวรยกทัพไปตีกัมพูชา และให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) ทรงยกทัพไปช่วย เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับพระสหาย พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 จึงสามารถตีเมืองนครธมแตกได้ พระบรมลำพงศ์สวรรคตในศึกครั้งนี้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 จึงแต่งตั้ง พระราชโอรสเป็นกษัตริย์ปกครองอังกอร์ .. จนกระทั่งเมื่อน้องชายของพระบรมลำพงศ์ซึ่งไปลี้ภัยในประเทศลาวได้ยึดเมืองกลับคืนมาและได้สวมมงกุฎที่นั่นในนามพระเจ้าศรยวงศ์ที่ 1
ตรากฎหมาย
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงประกาศใช้กฎหมายถึง 10 ฉบับ ในรัชสมัยของพระองค์ ได้แก่
ในประวัติศาสตร์บางแหล่งบอกว่ามีมากกว่านี้ แต่เท่าที่หาหลักฐานได้ มีเพียงเท่านี้เท่านั้น
การศาสนา
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างวัดต่าง ๆ เช่น วัดพุทไธศวรรย์ (สร้างปี พ.ศ. 1876) (สร้างปี พ.ศ. 1900) และวัดพระราม (สร้างปี พ.ศ. 1912)
การสงครามกับสุโขทัย
รัชกาลของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แห่งกรุงศรีอยุธยานั้นคาบเกี่บวกับรัชสมัยของ พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สุโขทัยมิอาจต้านทานความแข็งแกร่งของอยุธยาได้ แม้ว่าพระมหาธรรมราชาลิไท จะเสด็จไปประทับที่สองแคว (พิษณุโลก) เพื่อเตรียมรับศึกอยุธยาแล้วก็ตาม
แต่สุดท้ายพระมหาธรรมราชาลิไทก็ได้เจรจาประนีประนอมยอมให้กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีคู่กับสุโขทัย และทั้งสองนครนี้ก็เป็นไมตรีต่อกันมาจนตลอดรัชกาลของพระองค์
การค้าขาย และสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ
ในด้านไมตรีกับต่างประเทศในสมัยเมื่อสร้างกรุงศรีอยุธยานั้น ฝรั่งกับญี่ปุ่นยังไม่มีมาค้าขาย แต่การไปมาค้าขายกับเมืองจีน, แขก, จาม, ชวา, มลายู ตลอดจนอินเดีย, เปอร์เซีย และ ลังกานั้นไปถึงกันมานานแล้ว
สำหรับการค้าขายกับจีนนั้น ราชวงศ์อู่ทองของไทย ตรงกับราชวงศ์หมิงของจีน พระเจ้าหงอู่ แห่งราชวงศ์หมิงเมื่อทราบว่ากรุงศรีอยุธยาตั้งเป็นอิสรภาพก็แต่งให้ หลุย จงจุ่น เป็นราชทูตเข้ามาเจริญพระราชไมตรีถึงกรุงศรีอยุธยา พระองค์จึงแต่งให้ราชทูตออกไปเมืองจีนพร้อมกับราชทูตจีน เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับจีนในคราวนั้นด้วย
พระโอรส
- สมเด็จพระราเมศวร พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ราชกิจจานุเบกษา, รายนามแลพระนามผู้ที่ทำลับแลไฟ ทรงพระราชอุทิศในพระเจ้าแผ่นดิน ในพระราชกุศลบรรจบรอบเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๒๕ ปี, เล่ม ๑๐ ตอนที่ ๓๐ หน้า ๓๑๙, ๒๒ ตุลาคม ๑๑๒
- Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN .
- การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, หน้า 21
- นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 49
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 38
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 41
- ทวิช จิตรสมบูรณ์, บ.ก. (13 กุมภาพันธ์ 2554). . ผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มีนาคม 2556.
- อณาจักรอยุธยา คือ กลุ่มคนกลุ่มไหนเป็นผู้ก่อตั้งอณาจักร จากพันทิปดอตคอม
- Zhou, Daguan; Harris, Peter; Zhou, Daguan (2007). A record of Cambodia: the land and its people (1. publ ed.). Chiang Mai: Silkworm Books. ISBN .
- Khin, Sok (1988). Chroniques royales du Cambodge: de 1417 à 1595. Collection de textes et documents sur l'Indochine. Paris: Ecole française d'Extrême-Orient diff. Adrien-Maisonneuve. ISBN .
- ภักดีคำ, ศานติ (2011). "เขมรรบไทย". มติชน. p. 272.
- Coedès, George; Coedès, George (1996). The Indianized states of Southeast Asia. Honolulu: East-West Center Pr. ISBN .
- บรรณานุกรม
- จิตร ภูมิศักดิ์. ข้อคิดใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา. ดวงกมล : กรุงเทพฯ, 2524. ISBN
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
— | พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์อู่ทอง (พ.ศ. 1893-1912) | สมเด็จพระราเมศวร (พ.ศ. 1912-1913) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphraramathibdithi 1 hrux phraecaxuthxng 3 emsayn ph s 1857 ph s 1912 epnpthmkstriyaehngxanackrxyuthya 222 khrxngrachyrahwang ph s 1893 thung ph s 1912 thrngphranamwaphraecaxuthxngkxnesdckhunkhrxngrachyinpi ph s 1893 mihlaythvsdiekiywkbphumihlngkhxngphraecaxuthxng rwmthngxacepnechuxsaykhxngphxkhunmngraysmedcphraramathibdithi 1phrabrmrachanusawriysmedcphraramathibdithi 1phraecakrungsrixyuthyakhrxngrachy12 minakhm ph s 1893 1912 19 pi 0 wn kxnhnasthapnaxanackrthdipsmedcphraraemswrphrarachsmphph3 emsayn ph s 1857swrrkhtph s 1912 55 phrrsa mehsiimpraktphranam phraknisthainsmedcphrabrmrachathirachthi 1 phrarachbutrsmedcphraraemswrrachwngsxuthxngphraprmaphiithysmedcphraramathibdi hlngcakkhunkhrxngrachy phraecaxuthxng kstriyphukhrxngemuxngxuthxngaekhwnsuphrrnphumi smedcphraramathibdi srisinthr brmmhackrphrrdisrrachathirach inoxngkaraechngna smedcphraramathibdi srisunthrbrmckrphtrathirach inkdhmaylksnaxayarasdr smedcphraramathibdisrisurinthr brmckrphrrdisr bwrmhathrrmikrachathirach inkdhmaylksnaxayahlwng phrarachprawtirabuwaphraecaxuthxngramathibdiesdcphrarachsmphphwncnthr khun 8 kha eduxn 5 pikhal c s 676 trngkbwncnthrthi 3 emsayn ph s 1857 idthrngsthapnaemuxnghlwngkhuninbriewnthihnxngosnemux c s 712 pikhal othsk wnsukrkhun 6 kha eduxn 5 ewla 3 nalika 9 bath trngkbwnsukrthi 4 minakhm ph s 1893 hrux 12 minakhm ph s 1893 tamptithinithysaklthiichknxyuinpccubn emuxkhrxngrachyidrbechlimphraprmaphiithywa smedcphraramathibdisrisunthrbrmbphitrphraphuththecaxyuhw thungpiraka ph s 1912 esdcswrrkht xyuinrachsmbti 19 pi aetimpraktaenchdwaphraxngkhphrarachsmphphthiihn aelamacakemuxngihn exksarthangprawtisastraelankprawtisastrthngithyaelatangpraethskhdaeyngkn odymikhxsnnisthanekiywkbthimakhxngphraecaxuthxngsrupiddngni aenwkhwamkhidthi 1 cdhmayehtulaluaebr rabuwaphraecaxuthxngxphyphmacakechiyngaesn aenwkhwamkhidthi 2 cdhmayehtuwnwlitrabuwathrngxphyphmacakemuxngephchrburi aenwkhwamkhidthi 3 chinkalmalipkrnaelaphrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha waphraecaxuthxngmacaklaow tamhlkthanaelaobrankhdi thvsdiekiywkbthimakhxngsmedcphraramathibdithi 1 inaenwkhidthi 4 5 aela 6 samarthphnwkrwmknid klawkhux emuxphicarnatananthnghlayaelw ecachaywrechsth epnphraoxrsinphraecabrmracha kstriyaehngxanackrlaow aenwkhwamkhidthi 6 txmaphrarachchnkoprdihipkhrxngemuxngphribphri aenwkhwamkhidthi 4 aelahlngcakphrarachchnkesdcswrrkhtaelw thrngklbmakhrxngemuxngxoythya aenwkhwamkhidthi 5 caknncungekidorkhrabad cungthrngyaythitngemuxngmayngtaaehnngpccubnphrarachkrniykickarsthapnakrungsrixyuthya smedcphraramathibdithi 1 phraecaxuthxng thrngsthapnakrungsrixyuthyaepnrachthaniemuxwnsukr khun 6 kha eduxn 5 pikhal culskrach 712 trngkbwnthi 4 minakhm ph s 1893 chiphxphrahmnthwayphranamwa smedcphraramathibdi aelwoprdihkhunhlwngphangw sungepnphraechsthakhxngphramehsiepn smedcphrabrmrachathiracheca ipkhrxngemuxngsuphrrnburi swnphraraemswr rchthayathihipkhrxngemuxnglphburi karsngkhramkbekhmr insmysmedcphraramathibdithi 1 phraxngkhthrngecriysmphnthimtrikbaewnaekhwntang makmay aemkrathng khxm sungkepnmadwydicnkrathngkstriykhxmswrrkht enuxngcakkarptiwtikhxmkhxngnayaetnghwan chnchnaerngnganidyudxanaccakchnchnpkkhrxng aelakhrxngemuxngaethnsungruckinnam phrabathtrasxkpraaexm hrux ekhmr ត រសក ផ អ ម hruxphrabathsmedcphrasrisurioyphnthuthi 1 ព រ ប ទស រ ស រ យ ពណ ទ ១ sungphrarachnddanam phrabrmlaphngs thrngkhunkhrxngrachy sungkaeprphktrimepnimtridngaetkxn smedcphraramathibdithi 1 cungihsmedcphraraemswrykthphiptikmphucha aelaihsmedcphrabrmrachathirachthi 1 khunhlwngphangw thrngykthphipchwy ephuxepnkarlangaekhnihkbphrashay phraecachywrmnthi 9 cungsamarthtiemuxngnkhrthmaetkid phrabrmlaphngsswrrkhtinsukkhrngni smedcphrabrmrachathirachthi 1 cungaetngtng phrarachoxrsepnkstriypkkhrxngxngkxr cnkrathngemuxnxngchaykhxngphrabrmlaphngssungipliphyinpraethslawidyudemuxngklbkhunmaaelaidswmmngkudthinninnamphraecasrywngsthi 1 trakdhmay smedcphraramathibdithi 1 thrngprakasichkdhmaythung 10 chbb inrchsmykhxngphraxngkh idaek inprawtisastrbangaehlngbxkwamimakkwani aetethathihahlkthanid miephiyngethaniethann karsasna thrngphrakrunaoprdeklaihsrangwdtang echn wdphuthithswrry srangpi ph s 1876 srangpi ph s 1900 aelawdphraram srangpi ph s 1912 karsngkhramkbsuokhthy rchkalkhxngsmedcphraramathibdithi 1 phraecaxuthxng aehngkrungsrixyuthyannkhabekibwkbrchsmykhxng phramhathrrmrachathi 1 liith aehngkrungsuokhthy chwngnnepnchwngthisuokhthymixactanthankhwamaekhngaekrngkhxngxyuthyaid aemwaphramhathrrmrachaliith caesdcipprathbthisxngaekhw phisnuolk ephuxetriymrbsukxyuthyaaelwktam aetsudthayphramhathrrmrachaliithkidecrcapranipranxmyxmihkrungsrixyuthyaepnrachthanikhukbsuokhthy aelathngsxngnkhrnikepnimtritxknmacntlxdrchkalkhxngphraxngkh karkhakhay aelasmphnthimtrirahwangpraeths indanimtrikbtangpraethsinsmyemuxsrangkrungsrixyuthyann frngkbyipunyngimmimakhakhay aetkaripmakhakhaykbemuxngcin aekhk cam chwa mlayu tlxdcnxinediy epxresiy aela lngkannipthungknmananaelw sahrbkarkhakhaykbcinnn rachwngsxuthxngkhxngithy trngkbrachwngshmingkhxngcin phraecahngxu aehngrachwngshmingemuxthrabwakrungsrixyuthyatngepnxisrphaphkaetngih hluy cngcun epnrachthutekhamaecriyphrarachimtrithungkrungsrixyuthya phraxngkhcungaetngihrachthutxxkipemuxngcinphrxmkbrachthutcin ephuxecriysmphnthimtrikbcininkhrawnndwyphraoxrssmedcphraraemswr phramhakstriyphraxngkhthi 2 aehngkrungsrixyuthyaxangxingechingxrrthrachkiccanuebksa raynamaelphranamphuthithalbaelif thrngphrarachxuthisinphraecaaephndin inphrarachkuslbrrcbrxbethlingthwlyrachsmbti khrb 25 pi elm 10 txnthi 30 hna 319 22 tulakhm 112 Coedes George 1968 Walter F Vella b k The Indianized States of Southeast Asia trans Susan Brown Cowing University of Hawaii Press ISBN 978 0 8248 0368 1 karprbaekethiybskrach aela karxthibaykhwam phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith hna 21 namanukrmphramhakstriyithy hna 49 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 38 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 41 thwich citrsmburn b k 13 kumphaphnth 2554 phucdkarxxniln khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 minakhm 2556 xnackrxyuthya khux klumkhnklumihnepnphukxtngxnackr cakphnthipdxtkhxm Zhou Daguan Harris Peter Zhou Daguan 2007 A record of Cambodia the land and its people 1 publ ed Chiang Mai Silkworm Books ISBN 978 974 9511 24 4 Khin Sok 1988 Chroniques royales du Cambodge de 1417 a 1595 Collection de textes et documents sur l Indochine Paris Ecole francaise d Extreme Orient diff Adrien Maisonneuve ISBN 978 2 85539 537 1 phkdikha santi 2011 ekhmrrbithy mtichn p 272 Coedes George Coedes George 1996 The Indianized states of Southeast Asia Honolulu East West Center Pr ISBN 978 0 8248 0368 1 brrnanukrmcitr phumiskdi khxkhidihminprawtisastrithylumnaecaphraya dwngkml krungethph 2524 ISBN 9742103429 mulnithismedcphraethphrtnrachsuda namanukrmphramhakstriyithy krungethph mulnithismedcphraethphrtnrachsuda 2554 264 hna ISBN 978 616 7308 25 8 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun nnthburi sripyya 2553 800 hna ISBN 978 616 7146 08 9duephimrayphranamphramhakstriyithy smedcphraramathibdiwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb smedcphraramathibdithi 1 kxnhna smedcphraramathibdithi 1 thdip phraecakrungsrixyuthya rachwngsxuthxng ph s 1893 1912 smedcphraraemswr ph s 1912 1913