สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ หรือ สงครามคราวเสียสมเด็จพระสุริโยทัย เป็นสงครามครั้งแรกระหว่างราชวงศ์ตองอูแห่งพม่ากับอาณาจักรอยุธยา และเป็นสงครามพม่า–ไทยครั้งแรกซึ่งจะดำเนินมาจนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 สงครามนี้ขึ้นชื่อว่านำมาซึ่งการสงครามสมัยใหม่ตอนต้นในภูมิภาค และขึ้นชื่อในประวัติศาสตร์ไทยว่าสมเด็จพระสุริโยทัยสมเด็จพระราชินีสวรรคตในยุทธหัตถี
สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
เส้นทางการเดินทัพของพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
|
| ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ มหาอุปราชาบุเรงนอง พระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 1 แห่งแปร เจ้าลครอินทร์ เมงเยสีหตู ดีโยกู ซูวารึช | สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ สมเด็จพระสุริโยทัย † พระบรมดิลก † พระราเมศวร (เชลย) พระมหินทราธิราช สมเด็จพระมหาธรรมราชา (เชลย) | ||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||
กองทัพพม่า ทหารรับจ้างโปรตุเกส | กองทัพไทย ทหารรับจ้างโปรตุเกส | ||||||
กำลัง | |||||||
2090–2092 12,000 นาย
2091–2092
| 2090–2091 2091–2092 |
เหตุแห่งสงครามมีว่าพม่าพยายามขยายดินแดนไปทางทิศตะวันออกหลังมีความวุ่นวายทางการเมืองในอยุธยา ตลอดจนพยายามหยุดการรุกล้ำเข้าชายฝั่งตะนาวศรีตอนบนของอยุธยา พม่าว่าสงครามนี้เริ่มในเดือนมกราคม 2090 เมื่อกำลังของอยุธยาพิชิตเมืองชายแดนทวาย ในปีเดียวกันกองทัพพม่านำโดยแม่ทัพ ยึดฝั่งตะนาวศรีตอนบนลงไปถึงทวายคืนได้ ในปีถัดมาคือ ตุลาคม 2091 กองทัพพม่าสามกองโดยมีพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้และอุปราชบุเรงนองเป็นผู้นำบุกอยุธยาทางด่านเจดีย์สามองค์ กองทัพพม่าเจาะลึกถึงพระนครอยุธยาแต่ไม่อาจหักเอานครที่มีป้อมปราการหนาแน่นได้ หนึ่งเดือนหลังเริ่มล้อม การตีโต้ตอบของอยุธยาแก้การล้อมได้และขับกำลังฝ่ายบุกครอง แต่พม่าเจรจาการถอยทัพอย่างปลอดภัยโดยแลกกับการคืนองค์เจ้านายสำคัญสองพระองค์ คือ พระราเมศวร พระรัชทายาท และสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชแห่งพิษณุโลก ที่ถูกจับเป็นเชลย
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะครั้งนี้เป็นชัยชนะที่ไม่เด็ดขาด จึงได้นำไปสู่การบุกครองอีกครั้งในสงครามช้างเผือก รัชกาลพระเจ้าบุเรงนอง ใน พ.ศ. 2106 และสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง ใน พ.ศ. 2112 ตามลำดับ
เบื้องหลัง
ความรุ่งเรืองของราชวงศ์ตองอู
พม่าในคริสต์ศตวรรษที่ 15 แบ่งออกเป็นสี่ศูนย์อำนาจ ได้แก่ ราชอาณาจักรอังวะในพม่าตอนกลาง อาณาจักรหงสาวดี ณ ชายฝั่งทิศใต้ อาณาจักรมเยาะอู้ (อาระกัน) ทางทิศตะวันตก และรัฐฉานต่าง ๆ ทางทิศตะวันออกและทิศเหนือ เริ่มตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1480 (ประมาณ พ.ศ. 2023) อังวะเริ่มแตกสลายเป็นราชอาณาจักรที่เล็กลง เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 โมนยีน อดีตเมืองขึ้นของอังวะ และพันธมิตร สมาพันธ์รัฐฉานทางทิศเหนือและอาณาจักรปยี (แปร) ทางทิศใต้ ตีโฉบฉวยดินแดนของอดีตเจ้าบรรณาการอยู่เป็นนิจโดยบ่อยครั้งและรุนแรงยิ่งขึ้น
ระหว่างสมัยความวุ่นวายนี้ เมงจีโยซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ว่าราชการตองอู ภูมิภาคเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของราชอาณาจักรอังวะประกาศอิสรภาพใน พ.ศ. 2033 และหลบการสู้รบภายใน ปีต่อ ๆ มาเมื่ออังวะเสียแก่กำลังผสมของสมาพันธ์รัฐฉานและปยีใน พ.ศ. 2070 ประชาชนจำนวนมากหลบหนีไปตองอูซึ่งเป็นภูมิภาคเดียวในพม่าตอนบนที่ยังสงบอยู่
ใน พ.ศ. 2074 พระเจ้าเมงจีโยเสด็จสวรรคต พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้สืบราชสมบัติจากพระราชบิดาเป็นพระมหากษัตริย์ตองอู เสถียรภาพของตองอูยังดึงดูดกำลังคนจากภูมิภาคแวดล้อม โดยเฉพาะหลัง พ.ศ. 2076 เมื่อสมาพันธ์รัฐฉานโจมตีปยี (แปร) อดีตพันธมิตร บัดนี้ตองอูที่ขนาดยังเล็กเป็นราชอาณาจักรที่มีชาติพันธุ์พม่าเป็นผู้นำเพียงแห่งเดียว รายล้อมด้วยราชอาณาจักรที่ใหญ่กว่ามาก โชคดีแก่ตองอูที่สมาพันธ์รัฐฉานถูกรบกวนจากข้อพิพาทผู้นำภายใน และราชอาณาจักรหงสาวดี ซึ่งขณะนั้นเป็นราชอาณาจักรทรงพลังที่สุดในบรรดาราชอาณาจักรยุคหลังราชวงศ์พุกามมีผู้นำอ่อนแอ พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ตัดสินพระทัยไม่คอยที จนราชอาณาจักรใหญ่เป็นฝ่ายหันความสนใจมายังพระองค์
ใน พ.ศ. 2077 พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้และอุปราชาบุเรงนองซึ่งขณะนั้นมีอายุ 18 ปีทั้งคู่เปิดฉากการทัพแรกต่อราชอาณาจักรหงสาวดี การทัพนั้นเป็นชุดสงครามโดยกองทัพตองอูซึ่งจะดำเนินสืบเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แผ่นดินใหญ่ทางตะวันตกและกลางไปอีก 80 ปีข้างหน้า ใน พ.ศ. 2081–2082 ตองอูที่เพิ่งตั้งตนยึดกรุงพะโคเมืองหลวงของราชอาณาจักรหงสาวดีได้ และยังยึดเมืองมะตะบันและมะละแหม่งได้อีกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2084 จึงเป็นครั้งแรกที่พม่าและอยุธยามีพรมแดนติดต่อกันในชายฝั่งตะนาวศรีตอนบน
อีกหกปีถัดมา ตองอูง่วนสู้รบกับพันธมิตรของอาณาจักรหงสาวดี ได้แก่ ปยี (แปร) (พ.ศ. 2085) (พ.ศ. 2085–2087) และพันธมิตรของปยีคือ มรัคอู (อาระกัน) (พ.ศ. 2089–2090) ในปี พ.ศ. 2090 ก่อนสงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ ตองอูควบคุมภูมิภาคพม่าตอนล่างตั้งแต่พุกามทางทิศเหนือจดมะละแหม่งในทิศใต้
ความวุ่นวายในอยุธยา
สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์สุพรรณภูมิ ซึ่งชิงอำนาจมาจากราชวงศ์อู่ทองใน พ.ศ. 1952 พระองค์เสวยราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2076 หลังจากทรงแย่งชิงราชบัลลังก์จากพระรัษฎาธิราชพระชนมายุ 5 พรรษา ซึ่งทรงครองราชย์เพียง 4 เดือน ยุวกษัตริย์นั้นถูกสำเร็จโทษ พระราชบิดาของพระรัษฎาธิราช คือ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ทรงเป็นกึ่งพระเชษฐาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช สมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคตใน พ.ศ. 2089 หลังจากทรงครองราชย์มาเป็นระยะเวลา 13 ปี พระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมา คือ พระยอดฟ้า
เนื่องจากพระยอดฟ้าเสด็จขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระราชมารดา ท้าวศรีสุดาจันทร์ จึงทรงสำเร็จราชการแทน โดยพระองค์ทรงสืบเชื้อสายจากราชวงศ์อู่ทอง พระอุปราชและกึ่งพระเชษฐาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช พระเฑียรราชา ก็ทรงมีสิทธิ์ในอำนาจผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในราชสำนักกับท้าวศรีสุดาจันทร์จึงทรงออกผนวชเสีย มีผู้กล่าวว่าแม้ก่อนสมเด็จพระไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคต ท้าวศรีสุดาจันทร์ทรงผิดประเวณีกับขุนชินราช ผู้ซึ่งเป็นผู้รักษาหอพระข้างในหรือหอพระเทพบิดรในพระบรมมหาราชวังของกรุงศรีอยุธยา เฟอร์เนา เมนเดส ปินโต นักสำรวจชาวโปรตุเกสร่วมสมัย บันทึกข่าวลือซึ่งอ้างว่าท้าวศรีสุดาจันทร์ทรงลอบวางยาพิษพระสวามีของตนเพื่อยึดราชบัลลังก์ และอาจเป็นไปเพื่อฟื้นฟูราชวงศ์อู่ทองที่ล่มไปแล้วใหม่ หลักฐานซึ่งสนับสนุนการกล่าวอ้างนี้ คือ การที่พระนางทรงประหารชีวิตขุนนางที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก รวมทั้งพระยามหาเสนา และทรงแต่งตั้งคนที่พระนางโปรดแทน มีบันทึกเช่นกันว่า พระนางมีพระครรภ์แก่แล้วและอีกไม่ช้าจะประสูติพระธิดา เมื่อทรงเห็นว่าไม่อาจเก็บความลับนี้ได้แล้ว ใน พ.ศ. 2091 พระนางจึงรัฐประหาร ถอดพระโอรสของพระองค์ออกจากราชบัลลังก์และยกชู้รักของตนขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แทน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 1548 ทรงพระนามว่า สมเด็จพระวรวงศาธิราช มีการกล่าวว่าพระยอดฟ้าทรงถูกสำเร็จโทษหรือถูกพระราชมารดาวางยาพิษด้วย
รัชกาลขุนวรวงศาธิราชสั้นมาก ภายใน 42 วัน เจ้านายและขุนนางของรัฐจำนวนมากวางแผนถอดพระองค์ออกจากราชบัลลังก์ ผู้สมคบคิดนำโดยขุนพิเรนทรเทพ ผู้สืบเชื้อสายพระมหากษัตริย์สุโขทัยจากฝั่งพระบิดา และมีความสัมพันธ์กับสมเด็จพระไชยราชาธิราชทางพระมารดา แผนลอบปลงพระชนม์เป็นการล่อขุนวรวงศาธิราชจากพระราชวังไปยังป่าโดยกราบทูลว่าจะไปจับช้าง และเมื่อพระมหากษัตริย์ ท้าวศรีสุดาจันทร์และพระธิดาของทั้งสองเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือประทับ ขุนพิเรนทรเทพและผู้สมคบคิดก็ลอบปลงพระชนม์ทั้งสามเสีย พระเฑียรราชาได้ทรงรับเชิญให้สึกและสืบราชบัลลังก์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระราชกรณียกิจแรก ๆ ของพระองค์ คือ ทรงสถาปนาขุนพิเรนทรเทพเป็นพระมหากษัตริย์สุโขทัย (ขณะนั้นเป็นรัฐบรรณาการของอยุธยา) ให้ไปประทับอยู่ที่เมืองพิษณุโลก ไม่นานหลังจากนั้น ขุนพิเรนทรเทพทรงได้รับสมัญญานามสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และทรงได้รับพระราชทานพระวิสุทธิกษัตรีย์เป็นอัครมเหสี
ตะนาวศรี (พ.ศ. 2090–2091)
สงครามอุบัติใน พ.ศ. 2090เหตุแห่งสงครามระบุว่าเป็นความพยายามของราชวงศ์ตองอูแห่งพม่าเพื่อขยายอาณาเขตไปทางทิศตะวันออกหลังวิกฤตการณ์การเมืองในกรุงศรีอยุธยา ตลอดจนความพยายามหยุดการรุกล้ำของอยุธยาเข้าชายฝั่งตะนาวศรีตอนบน พงศาวดารพม่าระบุว่า ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2090 ทหารอยุธยา 6,000 นายยึดเมืองทวายในชายฝั่งตะนาวศรีตอนบนซึ่งพระองค์ถือเป็นพระราชอาณาเขตของพระองค์ เมื่อชายแดนในยุคก่อนสมัยใหม่มีการนิยามน้อยกว่าและมักทับซ้อนกัน "การยึดครอง" ดังกล่าวนี้จึงอาจเป็นความพยายามของอยุธยาที่จะเสริมกำลังเมืองชายแดนที่ตองอูอ้างสิทธิ์ พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงส่งทหารขนาดใหญ่พอสมควร 12,000 นาย (ทัพบก 8,000 ทัพเรือ 4,000) โดยมีเจ้าลครอิน อุปราชแห่งมะตะบัน เป็นผู้นำมาชิงทวายเมื่อประมาณเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน พ.ศ. 2090 การโจมตีร่วมทัพบก-ทัพเรือต่อทวายขับกองทัพอยุธยาซึ่งมีเจ้าเมืองกาญจนบุรีเป็นผู้นำไปตะนาวศรีตอนล่าง
การบุกครองอาณาจักรอยุธยา (พ.ศ. 2091–2092)
แผนการรบพม่า
พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ยังไม่สมพระทัย และทรงวางแผนการบุกครองอาณาจักรอยุธยา ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2091 พระองค์ทรงรวบรวมกองทัพอีก 12,000 นาย ซึ่งมีทหารรับจ้างโปรตุเกสรวมอยู่ด้วยประมาณ 400 นาย ซึ่งมีดิเอโก โซอาริส (Diogo Soares) เป็นผู้นำ ส่วนพงศาวดารอยุธยาระบุว่ากองทัพพม่ามีกำลังพลทหารราบ 300,000 นาย ม้า 3,000 ตัว และช้างศึก 700 เชือก กำลังบุกครองใช้อาวุธตามแบบในสมัยนั้น ได้แก่ ดาบ ธนูและหอก ส่วนทหารยอดฝีมือจะถือปืนคาบชุดหรือปืนคาบศิลา ชาวโปรตุเกสเป็นผู้นำอาวุธสมัยใหม่ตอนต้นเหล่านี้มายังราชอาณาจักรทั้งสองไม่กี่ทศวรรษก่อนหน้านี้
พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงบังคับบัญชากองทัพด้วยพระองค์เองและประชุมพลที่มะตะบัน (เมาะตะมะ) กำลังบุกครองมีการจัดระเบียบเป็นสามกองทัพหลัก ได้แก่ ทัพหน้ามีบุเรงนองเป็นผู้นำ ทัพหลวงมีพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เป็นผู้นำ และทัพหลังมีพระตะโดธรรมราชาและเมงจีสเวเป็นผู้นำ แต่ละกองมีกำลัง 4,000 นาย เส้นทางบุกครองคือผ่านด่านเจดีย์สามองค์ ไปกาญจนบุรี แล้วไปกรุงศรีอยุธยา
เริ่มบุกครอง
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2091 กองทัพพม่าสามกองออกจากมะตะบันเพื่อเริ่มการบุกครอง กองทัพเลาะแม่น้ำอัตทะรันมุ่งด่านเจดีย์สามองค์ เข้าสู่อาณาจักรอยุธยาตามแม่น้ำแควน้อยถึงเมืองไทรโยค แล้วยกตัดแผ่นดินมุ่งแม่น้ำแควใหญ่ จากที่นั่น กองทัพล่องเรือมุ่งเมืองกาญจนบุรี พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เสด็จพระราชดำเนินโดยมีข้าราชบริพารและช้างจำนวนมหาศาล ช้างเหล่านี้หลายเชือกบรรทุกปืนคาบศิลาและปืนใหญ่บรอนซ์ซึ่งเก็บรักษาใกล้องค์พระมหากษัตริย์ ช้างหลวงถูกขนแพข้ามแม่น้ำ ส่วนช้างศึกธรรมดาเดินทวนน้ำไปบริเวณจุดข้าม พระองค์ทรงมีบุเรงนอง มกุฎราชกุมาร และนันทบุเรง พระโอรสวัย 13 พรรษาของบุเรงนอง และขุนนางที่แต่งกายหรูหราหลายคนตามเสด็จ คนงานหลายร้อยคนเดินล่วงหน้าข้าราชบริพารของพระมหากษัตริย์ เพื่อตั้งค่ายไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีการลงสีและเลื่อนสำหรับพระมหากษัตริย์ทรงใช้ และมีการรื้อและตั้งค่ายที่ตำแหน่งใหม่ทุกวัน
การบุกครองทีแรกเผชิญการต้านทานเพียงเล็กน้อย เพราะกองทัพพม่าใหญ่เกินด่านยามเล็ก ๆ ตามพรมแดน เมื่อทรงทราบข่าวการบุกครองของพม่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงระดมพลราชอาณาจักรของพระองค์ แล้วประชุมทัพที่เมืองสุพรรณบุรีที่อยู่ทิศตะวันตกติดกับกรุงศรีอยุธยา เมื่อพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้และทัพของพระองค์มาถึงเมืองกาญจนบุรีที่มีกำแพงล้อม ก็พบว่าเมืองถูกทิ้งร้าง ประมาณหนึ่งเดือนหลังบุกครอง กลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2091 พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ก็เคลื่อนทัพต่อไปทางทิศตะวันออก ยึดบ้านทวน กะพังตรุและจรเข้สามพัน พม่ายังรุกต่อและยึดเมืองโบราณอู่ทอง ตลอดจนหมู่บ้านดอนระฆังและหนองสาหร่ายและประชิดสุพรรณบุรี เมื่อพม่าโจมตีเมือง ฝ่ายอยุธยาที่ป้องกันต้านทานไว้ไม่อยู่และถอยกลับกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงสั่งให้กองทัพยกไปตะวันออกเฉียงใต้ตามสองคลอง และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับพงแพง จากที่นั้นพระองค์ทรงตั้งค่ายเหนือพระนครกรุงศรีอยุธยาโดยตรงในทุ่งที่เรียก ทุ่งลุมพลี
ยุทธการที่กรุงศรีอยุธยา
ชานพระนคร
ฝ่ายอยุธยามีอุบายตั้งรับภายในกำแพงพระนคร โดยกวาดต้อนพลเมืองที่อยู่บริเวณนอกเมืองให้เข้ามาอยู่ในพระนครให้ได้มากที่สุด และจัดทหารขึ้นประจำป้อมรอบกำแพง ซึ่งบนกำแพงมีป้อม 16 ป้อม และยังส่งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ออกไปตั้งค่ายรอบเมืองอีก 4 ค่าย
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิตัดสินพระทัยยกทัพออกนอกพระนครเข้าประจัญกับพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้และเพื่อลองกำลังของพม่า คราวนี้ พระองค์ทรงพระคชาธารส่วนพระองค์ โดยมีพระอัครมเหสี สมเด็จพระสุริโยทัย พร้อมด้วยพระราชธิดาอ่อนพระองค์หนึ่ง พระบรมดิลก ตามเสด็จด้วย และทั้งสองทรงช้างศึกเชือกเล็กกว่า สตรีทั้งสองพระนางทรงเครื่องเป็นทหารอย่างชาย (หมวกเกราะและชุดเกราะ) โดยสมเด็จพระราชินีแต่งเครื่องแบบอุปราช นอกจากนี้ พระราเมศวร พระอุปราชและทายาทผู้มีสิทธิ์โดยตรง และพระมหินทร ราชโอรสอีกพระองค์ ก็ตามเสด็จด้วย
เกิดการยุทธ์ตามมาแต่สองบันทึกเล่าต่างกัน พงศาวดารพม่าว่า แม่ทัพพม่าจัดกองทัพซึ่งมีพระตะโดธรรมราชา อุปราชปยี (แปร) เป็นตัวล่อ และสองกองทัพคืบเข้าทางปีกเพื่อล้อมกองทัพอยุธยาที่ล้ำเกิน ซึ่งเป็นไปตามแผน ทหารทัพหน้าของอยุธยาไล่กองทัพของพระตะโดธรรมราชา ทำให้กองทัพของบุเรงนองที่คอยอยู่ทางปีกซ้ายล้อมทัพอยุธยาซึ่งต่อมาถูกกวาดสิ้น กองทัพของพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ที่อยู่ปีกขวาขับทัพอยุธยาที่เหลือกลับเข้าพระนคร
ทว่า ตามประเพณีไทย พระตะโดธรรมราชาและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิชนช้างกัน พระคชาธารของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสียทีหันหนีจากข้าศึก พระตะโดธรรมราชารีบไล่หลังมา สมเด็จพระสุริโยทัยเกรงว่าพระสวามีจะเสด็จสวรรคต จึงขับช้างเข้าขวางระหว่างพระเจ้าแผ่นดินและอุปราชแปร ทำให้ไม่สามารถไล่ต่อได้ จากนั้นอุปราชแปรหันมาต่อสู้กับสมเด็จพระสุริโยทัยในการสู้รบเดี่ยว อุปราชแปรใช้ของ้าวฟันพระนางตั้งแต่พระอังสา (ไหล่) ถึงพระหฤทัยสวรรคต ทั้งทำให้พระราชธิดาบาดเจ็บด้วย ทั้งมารดาและธิดาเสียชีวิตบนหลังคชาธารเชือกเดียวกัน เล่ากันว่า อุปราชแปรไม่ทรงทราบว่าพระองค์กำลังรบกับสตรีอยู่จนพระองค์ทรงฟัน เมื่อพระนางสิ้นใจล้มลงนั้นหมวกเกราะที่ทรงอยู่หลุดออกเผยให้เห็นผมยาว พระราเมศวรและพระมหินทร์ทรงขับช้างเข้าต่อสู้กับอุปราช ขับอุปราชและทัพที่เหลืออยู่ออกจากทุ่ง แล้วนำพระบรมศพสมเด็จพระราชชนนีและพระขนิษฐภคินีกลับเข้ากรุง ขณะเดียวกันสมเด็จพระมหาจักรพรรดิรวบรวมกองทัพแล้วจึงถอยกลับพระนครอย่างมีระเบียบเช่นกัน ทว่า พงศาวดารพม่ามิได้เอ่ยถึงการสู้รบใด ๆ ของอุปราชแปรเลย (ไม่ว่าบนหลังช้างหรืออย่างอื่น)
ไม่ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ทัพอยุธยาที่เหลือถอนกลับไป พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงเตรียมกองทัพสำหรับล้อมกรุงศรีอยุธยา ค่ายของพระองค์ตั้งอยู่ทางเหนือของพระนครที่บ้านกุ่มดอง และแม่ทัพของพระองค์ตั้งค่ายอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญโดยรอบกำแพงนคร โดยมหาอุปราชบุเรงนองตั้งค่ายที่พะเนียด พระเจ้าแปรตั้งค่ายที่บ้านใหม่มะขามหย่อง และพระยาพสิมตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งประเชด ทว่า พม่าไม่สามารถหักเอาพระนครได้โดยง่าย
การล้อม
กรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่บนเกาะซึ่งมีแม่น้ำสามสายล้อมรอบ ได้แก่ แม่น้ำลพบุรีทางเหนือ แม่น้ำเจ้าพระยาทางตะวันตกและใต้ และแม่น้ำป่าสักทางตะวันออก ถือว่าเป็นคูเมืองธรรมชาติที่มั่นคง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้นเป็นที่ราบลุ่มและเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างฤดูฝนหรือฤดูน้ำหลากเมื่อน้ำเชี่ยวกรากไหลปริมาณมากจากทิศเหนือตามแม่น้ำลพบุรี น้ำท่วมนี้จะเริ่มประมาณเดือนรกฎาคมและสิ้นสุดลงระหว่างเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ทำให้พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงมีเวลาห้าเดือนหักเอากรุงศรีอยุธยา หรือมิฉะนั้นพื้นที่ตั้งค่ายและเส้นทางส่งเสบียงจะถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่น้ำท่วมดังกล่าวจะทำให้กองทัพของพระองค์ติดกับ พื้นที่ลุ่มเป็นหนองน้ำโดยรอบกรุงศรีอยุธยามีการขุดคลองเป็นจำนวนมาก ทำให้เรือปืนที่ติดปืนใหญ่สามารถยิงขับไล่ความพยายามใด ๆ ที่จะโจมตีพระนคร นอกจากนี้ ฝ่ายพม่านำเพียงปืนใหญ่ขนาดเล็กติดมา ขณะที่กรุงศรีอยุธยามีปืนใหญ่ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนกำแพงนคร
พม่าล้อมนคร แต่ไม่สามารถข้ามแม่น้ำหรือเจาะกำแพงนครด้วยการยิงปืนใหญ่ ทำให้ต้องไปตั้งค่ายโดยรอบพระนครแทน ในขณะที่ทางน้ำซึ่งเชื่อมถึงกันจากเหนือถึงใต้ ทำให้การหากำลังบำรุงฝ่ายป้องกันในนครค่อนข้างง่าย ทหารรับจ้างชาวโปรตุเกส 50 นาย โดยมีเป็นนายกอง ป้องกันส่วนที่อ่อนแอที่สุดของกำแพงนครให้พระมหากษัตริย์อยุธยา เนื่องจากฝ่ายพม่าไม่สามารถหักนครได้ตามแบบธรรมดา พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้จึงทรงเสนอติดสินบนทหารรับจ้างเหล่านี้ แต่ทหารรับจ้างโปรตุเกสดูถูกและปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เมื่อแม่ทัพอยุธยาทราบข่าว ก็เปิดประตูนครท้าพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ให้นำเงินมา แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิไม่สามารถขับพม่าออกไปได้ จึงทรงส่งสารถึงพระมหาธรรมราชาที่พิษณุโลก มีพระบรมราชโองการให้ยกทัพลงใต้มาช่วย และหากเป็นไปได้ให้ประจัญบานข้าศึกในการรบด้วย พระมหาธรรมราชาระดมพลอย่างรวดเร็วและด้วยความช่วยเหลือของเจ้าเมืองสวรรคโลก กองทัพพิษณุโลกขนาดใหญ่เคลื่อนลงใต้เพื่อโจมตีกองทัพพม่าทางด้านหลัง พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงทราบข่าว และด้วยการกราบบังคมทูลแนะนำของบุเรงนอง พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงตัดสินพระทัยถอนทัพ ละทิ้งความตั้งใจที่จะหักเอากรุงศรีอยุธยา การตัดสินพระทัยของพระองค์ยังเกี่ยวเนื่องกับข่าวจากพม่าว่าพวกมอญซึ่งไม่เคยถูกราชวงศ์ตองอูปราบปรามทั้งหมด ก่อกบฏระหว่างที่พระมหากษัตริย์ไม่ประทับ ปัจจัยอื่นรวมไปถึงการขาดแคลนเสบียงและการเจ็บป่วยในกองทัพ ซึ่งมิได้เตรียมการรับการล้อมระยะยาว และภายในหนึ่งเดือนหลังจากการล้อมเริ่มต้นขึ้น (ราวเดือนเมษายน) พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ถอนทัพ
การถอยทัพ
ทัพพม่าเลือกถอยไปทางด่านแม่ละเมา (ปัจจุบันอยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก) ระหว่างการถอย ทัพพม่าพยายามปล้นเมืองกำแพงเพชรที่เก่าแก่และมั่งคั่ง แต่เมืองนั้นมีการป้องกันหนาแน่นเกินไป ด้วยการช่วยเหลือของทหารรับจ้างโปรตุเกส เจ้าเมืองก็ขับทัพพม่าด้วยกระสุนเพลิงที่บีบให้พม่าเลือกใช้ปืนใหญ่และป้องกันโดยใช้หนังสัตว์ชื้นคลุม
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงเห็นว่าการถอยทัพของพม่าเป็นโอกาสฉวยโอกาสในยามอ่อนแอ จึงรับสั่งให้พระราเมศวรและพระมหาธรรมราชาติดตามและก่อกวนข้าศึกออกจากแผ่นดินอยุธยา เป็นเวลาสามวัน ทัพอยุธยาขับไล่ผู้รุกราน และทำให้พม่าสูญเสียใหญ่หลวง เมื่อทัพพระราเมศวรและพระมหาธรรมราชาเข้ามาใกล้ พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงปักหลักใกล้กำแพงเพชร โดยแบ่งทัพออกถนนสองข้าง ฝ่ายอยุธยาที่กำลังระเริงตกหลุมพราง พม่าจับทั้งพระราเมศวรและพระมหาธรรมราชาเป็นเชลยศึกได้ทั้งสองพระองค์
การได้ตัวทั้งสองพระองค์เป็นการบีบบังคับให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิต้องเจรจากับพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ พระองค์ทรงมอบช้างศึกสองเชือก ได้แก่ ช้างพลายศรีมงคลและช้างพลายมงคลทวีปเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน จากนั้น กองทัพพม่าจึงได้ถอยทัพกลับโดยสันติ นอกเหนือจากนั้น พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ยังได้ปล่อยตัวเชลยศึกอีกจำนวนมากที่ได้ถูกจับตัวไว้ระหว่างการทัพ การทัพดังกล่าวเริ่มต้นและสิ้นสุดลงในเวลาห้าเดือน
การพักรบ
การจับองค์พระราเมศวรและพระมหาธรรมราชาบังคับให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจรจากับพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ ฝ่ายอยุธยาพลันส่งทูตที่นำของกำนัลเสนอการถอยทัพอย่างสันติแลกกับเจ้าสองพระองค์ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สมเด็จพระมหาจักรพรรดิถูกบังคับให้ทรงมอบพระคชาธารสองเชือกแก่พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ คือ พลายศรีมงคลและพลายมงคลทวีปซึ่งเป็นช้างชนะงา เมื่อมีการส่งมอบช้างแล้ว ทัพพม่าจึงถอยไปอย่างสงบ นอกเหนือจากเจ้าสองพระองค์แล้ว พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ยังทรงปล่อยเชลยอีกหลายคนที่ถูกจับระหว่างการทัพด้วย ตามบันทึกของพม่า พระมหากษัตริย์อยุธยายังทรงตกลงให้ของกำนัลเป็นช้าง 30 เชือก เงินจำนวนหนึ่งและอากรศุลกากรจำนวนหนึ่ง
หลังสนธิสัญญา พระมหากษัตริย์พม่าทรงพักแปดวัน แล้วเสด็จกลับพะโค พระองค์เสด็จถึงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2082
หลังสงคราม
ตามพงศาวดารพม่า พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เมื่อเสด็จกลับถึงพระนคร ก็เสวยแต่น้ำจัณฑ์และละทิ้งการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ทำให้พระมหาอุปราชาบุเรงนองจำเป็นต้องทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทน ใน พ.ศ. 2092 เมื่อบุเรงนองออกจากเมืองหลวงเพื่อปราบปรามกบฏมอญทางใต้ พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ทรงถูกลอบปลงพระชนม์และได้มีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ทำให้หัวเมืองต่าง ๆ แข็งข้อขึ้น ซึ่งทำให้บุเรงนองต้องใช้เวลากว่าห้าปีในการรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น จนเสร็จสิ้นเมื่ออังวะถูกยึดใน พ.ศ. 2097
สงครามนี้เป็นสงครามแรกระหว่างพม่ากับไทยซึ่งยืดเยื้อมาจนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่กรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกต่างด้าวโจมตี
ตามหลักฐานของไทย ฝ่ายอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสุริโยทัยที่สวนหลวง แล้วสร้างวัดอุทิศพระราชกุศลพระราชทาน คือ วัดสบสวรรค์ สถูปขนาดใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเก็บพระอัฐิของสมเด็จพระสุริโยทัย ถูกเรียกว่า เจดีย์พระศรีสุริโยทัย แต่ถึงแม้ว่าจะมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเฉลิมพระเกียรติพระองค์ขึ้นหลายแห่งในประเทศไทย แต่ตัวตนและความเสียสละของพระองค์ยังเป็นหัวข้อที่ยังเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ เนื่องจากความจริงที่ว่าพระนามของพระองค์มิได้ถูกกล่าวถึงหรือบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์พม่าเลย และข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตของพระองค์ถูกคัดมาจากบางตอนของจดหมายเหตุกรุงศรีอยุธยาและการบรรยายของนักสำรวจชาวโปรตุเกส โดมิงโก ซีซัส
ผลของสงครามทำให้มีการเสริมการป้องกันของอยุธยาให้เข้มแข็งขึ้น เช่น กำแพงและป้อมแข็งแกร่งขึ้น และปรับปรุงกิจการทหารและทำนุบำรุงสภาพบ้านเมืองให้แข็งแกร่ง โดยมีการก่อกำแพงอิฐรอบตัวพระนครกรุงศรีอยุธยาแทนเชิงเทินดินปักไม้แบบเดิม กำหนดหัวเมืองขึ้นใหม่ 3 หัวเมือง โดยยกบ้านตลาดขวัญเป็นเมืองนนทบุรี ยกบ้านท่าจีนเป็นเมืองสาครบุรี และรวมดินแดนบางส่วนของราชบุรีกับเมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองนครชัยศรี ทรงเตรียมเรือเพิ่ม และจัดการคล้องช้างป่าเพื่อใช้ในการสงครามเพิ่มเติม โดยในเวลา 3 ปี สามารถจับช้างเผือกได้ถึง 6 ช้าง ทำให้อยุธยามีช้างเผือกรวม 7 ช้าง รวมทั้งการทำบัญชีบันทึกทหารทั้งปวง และขนาดของกองทัพเรือยังได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ชัยชนะของอยุธยาครั้งนี้ทำให้พม่าได้ประสบการณ์สำคัญในการยุทธ์กับอยุธยาในอนาคต การบุกครองครั้งต่อไปเกิดในรัชกาลพระเจ้าบุเรงนอง ผู้คุ้นเคยกับการรบกับชาวอยุธยาและการเคลื่อนทัพผ่านภูมิประเทศของอาณาจักรอยุธยา ความไม่สงบภายในพม่าชะลอการบุกครองครั้งต่อไปออกไป 15 ปี จนสงครามช้างเผือก (พ.ศ. 2106–2107)
ในสื่อ
สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ชื่อว่า "สุริโยไท" ออกฉายในปี พ.ศ. 2544 กำกับโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เนื้อหาในภาพยนตร์กล่าวถึงตั้งแต่การสวรรคตของสมเด็จพระไชยราชาธิราช เหตุการณ์ซึ่งนำไปสู่สงครามและยุทธหัตถีซึ่งนำไปสู่การสวรรคตของสมเด็จพระสุริโยทัย ภาพยนตร์ใช้ต้นทุนสร้าง 350 ล้านบาท
เชิงอรรถ
- The figures here are reduced by an order of magnitude from those given in the Burmese chronicles per (Harvey 1925: 333–335).
- Per Burmese chronicles (Hmannan Vol. 2 2003: 238), reduced by an order of magnitude per (Harvey 1925: 333–335)
- Burmese chronicles (Hmannan Vol. 2 2003: 238) say Tabinshwehti learned of the Siamese occupation of Tavoy before he agreed to a truce with King of Mrauk-U on 31 January 1547 (9th waxing of Tabodwe 908 ME).
- The invasion likely began in late October/early November 1547 although Burmese chronicles (Hmannan Vol. 2 2003: 238–239) simply say the attack on Tavoy began in 909 ME (30 March 1547 to 28 March 1548). The attack probably did not take place in early 1547 since Tabinshwehti's troops evacuated southern Arakan only on 26 March 1547 (5th waxing of Late Tagu 908 ME). The troops would have arrived back only in mid-to-late April, leaving just about a month for a military campaign before the rainy season began in June. The invasion, like most wars by the Burmese kings, probably began toward the end of rainy season and after the end of Buddhist Lent, which ended on 13 October 1547 (New moon of Thadingyut 909 ME) that year.
- The chronicle (Hmannan Vol. 2 2003: 241) uses the term လပြည့်, [la̰bjḛ], which can be translated as either full moon or full month (completion of a month), to describe when he began the march to Ayutthaya. If it was full moon, the date of departure from Kanchanaburi would be 15 November 1548 (Full moon of Natdaw 910 ME). If it was full month, it would be 13 November 1548 (13th waxing of Natdaw 910 ME).
- The custom of the time was for two commanders/leaders of the same status to fight in single combat. It is unclear as to why the Siamese king would have accepted to face someone of lesser rank. If he did issue the challenge, he would have challenged his counterpart Tabinshwehti and accepted to face only Tabinshwehti.
- Burmese chronicles (Maha Yazawin Vol. 2 2006: 181–192) and (Hmannan Vol. 2 2003: 238–248) devote a detailed account of the invasion, down to the names of war elephants the high royalty rode on. Thado Dhamma Yaza rode the war elephant named Ye Htut Mingala (Hmannan Vol. 2 2033: 244). If he was victorious in combat against any enemy of significance, such a story with a favorable outcome would likely have been included in the chronicles.
อ้างอิง
- Hmannan Vol. 2 2003: 238
- Hmannan Vol. 2 2003: 240–241
- Hmannan Vol. 2 2003: 242–243
- Hmannan Vol. 2 2003: 240–244
- ดนัย ไชยโยธา. (2543). พัฒนาการของมนุษย์กับอารยธรรมในราชอาณาจักรไทย เล่ม ๑. โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์. หน้า 216.
- Harvey 1925: 100–109
- Fernquest 2005: 20–50
- Harvey 1925: 124–125
- Harvey 1925: 153–158
- Htin Aung 1967: 106–112
- Wood p. 100
- Wood p. 101
- Wood p. 108
- Wood p. 109
- Wood p. 110
- Wood p. 111
- Damrong Rajanubhab p. 14
- Damrong Rajanubhab p. 15
- Damrong Rajanubhab p. 13
- Wood p. 112
- Harvey 1925: 158
- Fernquest 2005: 286
- Hmannan Vol. 2 2003: 238–239
- Harvey 1925: 158–159
- Wood p. 113
- Quaritch Wales p.145
- Quaritch Wales 1952: 189
- Phayre 1967: 100
- Damrong Rajanubhab 2001: 16
- Damrong Rajanubhab 2001: 17
- Damrong Rajanubhab 2001: 18
- Hmannan Vol. 2 2003: 241–242
- Damrong Rajanubhab 2001: 19
- Damrong Rajanubhab p. 20
- Harvey p. 159
- Phayre p. 101
- Cocks p. 44
- Cocks p. 45
- Damrong Rajanubhab p. 21
- Harvey p. 160
- Harvey 1925: 160
- Htin Aung 1967: 113
- Sein Lwin Lay 2006: 232
- Harvey p. 162
- Harvey p. 164
- A Historical Divide 2010-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Subhatra Bhumiprabhas. Retrieved 2010-03-04
- Suriyothai: The Sun and The Moon.Retrieved 2010-03-04 2006-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ดนัย ไชยโยธา. (2543). พัฒนาการของมนุษย์กับอารยธรรมในราชอาณาจักรไทย เล่ม ๑. โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์. หน้า 216-217.
- ดนัย ไชยโยธา. (2543). พัฒนาการของมนุษย์กับอารยธรรมในราชอาณาจักรไทย เล่ม ๑. โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์. หน้า 217.
- Damrong Rajanubhab p. 22-24
- Wood p. 114
- Damrong Rajanubhab p. 22
บรรณานุกรม
- Cocks, S. W. (1919). A Short History of Burma (at www.archive.org) (Second ed.). London: Macmillan and Co.
- Damrong Rajanubhab, Prince Disuankumaan (2001) [1917]. Our Wars with the Burmese: Thai-Burmese Conflict 1539–1767. แปลโดย . Thailand: White Lotus Co. Ltd. ISBN .
- Fernquest, Jon (Autumn 2005). "Min-gyi-nyo, the Shan Invasions of Ava (1524–27), and the Beginnings of Expansionary Warfare in Toungoo Burma: 1486–1539". SOAS Bulletin of Burma Research. 3 (2). ISSN 1479-8484.
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
- Htin Aung, Maung (1967). A History of Burma. New York and London: Cambridge University Press.
- Jirattikorn, Amporn (August 2003). "Suriyothai: Hybridizing Thai National Identity Through Film". Inter-Asia Cultural Studies. 4 (2): 296–308. doi:10.1080/1464937032000113015. S2CID 145109859.
- (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- (1952). Ancient South-east Asian Warfare. London: Bernard Quaritch Ltd.
- (1832). (ภาษาพม่า). Vol. 1–3 (2003 ed.). Yangon: Ministry of Information, Myanmar.
- Sein Lwin Lay, Kahtika U (1968). Mintaya Shwe Hti and Bayinnaung: Ketumadi Taungoo Yazawin (ภาษาพม่า) (2006, 2nd printing ed.). Yangon: Yan Aung Sarpay.
- Wood, William A. R. (1924). History of Siam. Thailand: Chalermit Press. ISBN .
- หนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า โดย สำนักพิมพ์แสงดาว-สร้อยทอง (พ.ศ. 2544)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramphraecataebngchewti hrux sngkhramkhrawesiysmedcphrasurioythy epnsngkhramkhrngaerkrahwangrachwngstxngxuaehngphmakbxanackrxyuthya aelaepnsngkhramphma ithykhrngaerksungcadaeninmacnklangkhriststwrrsthi 19 sngkhramnikhunchuxwanamasungkarsngkhramsmyihmtxntninphumiphakh aelakhunchuxinprawtisastrithywasmedcphrasurioythysmedcphrarachiniswrrkhtinyuththhtthisngkhramphraecataebngchewtiesnthangkaredinthphkhxngphraecataebngchewtiwnthiph s 2090 2092sthanthiphakhtawnxxkaelaitkhxngphma phakhtawntkaelaphakhklangkhxngxanackrxyuthyaphlphmachna phramhackrphrrdiyxmekhaswamiphkdiphraecataebngchaewti ephuxaelkkbphrarachbutrekhyaelaphrarachbutrthithukcbtwkhusngkhramxanackrtxngxu kxngthphxngwa kxngthphaepr kxngthphmxy kxngthphhngsawdi thharrbcangoprtueksxanackrxyuthya kxngthphxyuthya kxngthphphisnuolk thharrbcangoprtueksphubngkhbbychaaelaphunaphraecataebngchewti mhaxuprachabuerngnxng phraecataodthrrmrachathi 1 aehngaepr ecalkhrxinthr emngeysihtu dioyku suwaruchsmedcphramhackrphrrdi smedcphrasurioythy phrabrmdilk phraraemswr echly phramhinthrathirach smedcphramhathrrmracha echly hnwythiekiywkhxngkxngthphphma thharrbcangoprtuekskxngthphithy thharrbcangoprtuekskalng2090 2092 12 000 nay thphbk thhar 8000 nay ma 200 tw chang 20 echuxk thpherux thhar 4000 nay eruxrb 30 la eruxihy 10 la 2091 2092 erim thhar 12 000 nay ma 1680 tw chang 48 echuxk yuththkarthixyuthya thhar 10 000 nay ma 200 tw chang 20 echuxk yuththkarthikaaephngephchr thhar 11 500 nay ma 500 tw chang 25 echuxk2090 2091 6000 nay 2091 2092 imthrab wikisxrs mingantnchbbekiywkb sngkhramkhrngthi 2 khrawsmedcphrasurioythykhadkhxchang piwxk ph s 2091 ehtuaehngsngkhrammiwaphmaphyayamkhyaydinaednipthangthistawnxxkhlngmikhwamwunwaythangkaremuxnginxyuthya tlxdcnphyayamhyudkarruklaekhachayfngtanawsritxnbnkhxngxyuthya phmawasngkhramnierimineduxnmkrakhm 2090 emuxkalngkhxngxyuthyaphichitemuxngchayaednthway inpiediywknkxngthphphmanaodyaemthph yudfngtanawsritxnbnlngipthungthwaykhunid inpithdmakhux tulakhm 2091 kxngthphphmasamkxngodymiphraecataebngchewtiaelaxuprachbuerngnxngepnphunabukxyuthyathangdanecdiysamxngkh kxngthphphmaecaalukthungphrankhrxyuthyaaetimxachkexankhrthimipxmprakarhnaaennid hnungeduxnhlngerimlxm kartiottxbkhxngxyuthyaaekkarlxmidaelakhbkalngfaybukkhrxng aetphmaecrcakarthxythphxyangplxdphyodyaelkkbkarkhunxngkhecanaysakhysxngphraxngkh khux phraraemswr phrarchthayath aelasmedcphramhathrrmrachathirachaehngphisnuolk thithukcbepnechly xyangirktam chychnakhrngniepnchychnathiimeddkhad cungidnaipsukarbukkhrxngxikkhrnginsngkhramchangephuxk rchkalphraecabuerngnxng in ph s 2106 aelasngkhramkhrawesiykrungsrixyuthyakhrngthihnung in ph s 2112 tamladbebuxnghlngkhwamrungeruxngkhxngrachwngstxngxu phmainkhriststwrrsthi 15 aebngxxkepnsisunyxanac idaek rachxanackrxngwainphmatxnklang xanackrhngsawdi n chayfngthisit xanackrmeyaaxu xarakn thangthistawntk aelarthchantang thangthistawnxxkaelathisehnux erimtngaetkhristthswrrs 1480 praman ph s 2023 xngwaerimaetkslayepnrachxanackrthielklng emuxtnkhriststwrrsthi 15 omnyin xditemuxngkhunkhxngxngwa aelaphnthmitr smaphnthrthchanthangthisehnuxaelaxanackrpyi aepr thangthisit tiochbchwydinaednkhxngxditecabrrnakarxyuepnnicodybxykhrngaelarunaerngyingkhun rahwangsmykhwamwunwayni emngcioysungkhnannepnphuwarachkartxngxu phumiphakhelk sungtngxyutawnxxkechiyngitkhxngrachxanackrxngwaprakasxisrphaphin ph s 2033 aelahlbkarsurbphayin pitx maemuxxngwaesiyaekkalngphsmkhxngsmaphnthrthchanaelapyiin ph s 2070 prachachncanwnmakhlbhniiptxngxusungepnphumiphakhediywinphmatxnbnthiyngsngbxyu in ph s 2074 phraecaemngcioyesdcswrrkht phraecataebngchewtisubrachsmbticakphrarachbidaepnphramhakstriytxngxu esthiyrphaphkhxngtxngxuyngdungdudkalngkhncakphumiphakhaewdlxm odyechphaahlng ph s 2076 emuxsmaphnthrthchanocmtipyi aepr xditphnthmitr bdnitxngxuthikhnadyngelkepnrachxanackrthimichatiphnthuphmaepnphunaephiyngaehngediyw raylxmdwyrachxanackrthiihykwamak ochkhdiaektxngxuthismaphnthrthchanthukrbkwncakkhxphiphathphunaphayin aelarachxanackrhngsawdi sungkhnannepnrachxanackrthrngphlngthisudinbrrdarachxanackryukhhlngrachwngsphukammiphunaxxnaex phraecataebngchewtitdsinphrathyimkhxythi cnrachxanackrihyepnfayhnkhwamsnicmayngphraxngkh in ph s 2077 phraecataebngchewtiaelaxuprachabuerngnxngsungkhnannmixayu 18 pithngkhuepidchakkarthphaerktxrachxanackrhngsawdi karthphnnepnchudsngkhramodykxngthphtxngxusungcadaeninsubenuxnginexechiytawnxxkechiyngitaephndinihythangtawntkaelaklangipxik 80 pikhanghna in ph s 2081 2082 txngxuthiephingtngtnyudkrungphaokhemuxnghlwngkhxngrachxanackrhngsawdiid aelayngyudemuxngmatabnaelamalaaehmngidxikineduxnphvsphakhm ph s 2084 cungepnkhrngaerkthiphmaaelaxyuthyamiphrmaedntidtxkninchayfngtanawsritxnbn xikhkpithdma txngxungwnsurbkbphnthmitrkhxngxanackrhngsawdi idaek pyi aepr ph s 2085 ph s 2085 2087 aelaphnthmitrkhxngpyikhux mrkhxu xarakn ph s 2089 2090 inpi ph s 2090 kxnsngkhramphraecataebngchewti txngxukhwbkhumphumiphakhphmatxnlangtngaetphukamthangthisehnuxcdmalaaehmnginthisit khwamwunwayinxyuthya sakprkhkphngkhxngphrarachwnginxuthyanprawtisastrphrankhrsrixyuthya miecdiyphraxuobsth wdphrasrisrrephchy xyudanhlng smedcphraichyrachathirachthrngepneluxdenuxechuxikhkhxngrachwngssuphrrnphumi sungchingxanacmacakrachwngsxuthxngin ph s 1952 phraxngkheswyrachsmbtiemux ph s 2076 hlngcakthrngaeyngchingrachbllngkcakphrarsdathirachphrachnmayu 5 phrrsa sungthrngkhrxngrachyephiyng 4 eduxn yuwkstriynnthuksaercoths phrarachbidakhxngphrarsdathirach khux smedcphrabrmrachathirachthi 4 thrngepnkungphraechsthakhxngsmedcphraichyrachathirach smedcphraichyrachathirachswrrkhtin ph s 2089 hlngcakthrngkhrxngrachymaepnrayaewla 13 pi phramhakstriyrchkaltxma khux phrayxdfa enuxngcakphrayxdfaesdckhunkhrxngrachytngaetthrngphraeyaw phrarachmarda thawsrisudacnthr cungthrngsaercrachkaraethn odyphraxngkhthrngsubechuxsaycakrachwngsxuthxng phraxuprachaelakungphraechsthakhxngsmedcphraichyrachathirach phraethiyrracha kthrngmisiththiinxanacphusaercrachkaraephndinechnkn ephuxhlikeliyngkhwamkhdaeynginrachsankkbthawsrisudacnthrcungthrngxxkphnwchesiy miphuklawwaaemkxnsmedcphraichyrachathirachesdcswrrkht thawsrisudacnthrthrngphidpraewnikbkhunchinrach phusungepnphurksahxphrakhanginhruxhxphraethphbidrinphrabrmmharachwngkhxngkrungsrixyuthya efxrena emneds pinot nksarwcchawoprtueksrwmsmy bnthukkhawluxsungxangwathawsrisudacnthrthrnglxbwangyaphisphraswamikhxngtnephuxyudrachbllngk aelaxacepnipephuxfunfurachwngsxuthxngthilmipaelwihm hlkthansungsnbsnunkarklawxangni khux karthiphranangthrngpraharchiwitkhunnangthimichuxesiyngcanwnmak rwmthngphrayamhaesna aelathrngaetngtngkhnthiphranangoprdaethn mibnthukechnknwa phranangmiphrakhrrphaekaelwaelaxikimchacaprasutiphrathida emuxthrngehnwaimxacekbkhwamlbniidaelw in ph s 2091 phranangcungrthprahar thxdphraoxrskhxngphraxngkhxxkcakrachbllngkaelaykchurkkhxngtnkhunepnphramhakstriyaethn emuxwnthi 11 phvscikayn ph s 1548 thrngphranamwa smedcphrawrwngsathirach mikarklawwaphrayxdfathrngthuksaercothshruxthukphrarachmardawangyaphisdwy rchkalkhunwrwngsathirachsnmak phayin 42 wn ecanayaelakhunnangkhxngrthcanwnmakwangaephnthxdphraxngkhxxkcakrachbllngk phusmkhbkhidnaodykhunphiernthrethph phusubechuxsayphramhakstriysuokhthycakfngphrabida aelamikhwamsmphnthkbsmedcphraichyrachathirachthangphramarda aephnlxbplngphrachnmepnkarlxkhunwrwngsathirachcakphrarachwngipyngpaodykrabthulwacaipcbchang aelaemuxphramhakstriy thawsrisudacnthraelaphrathidakhxngthngsxngesdcphrarachdaeninodyeruxprathb khunphiernthrethphaelaphusmkhbkhidklxbplngphrachnmthngsamesiy phraethiyrrachaidthrngrbechiyihsukaelasubrachbllngk thrngphranamwa smedcphramhackrphrrdi phrarachkrniykicaerk khxngphraxngkh khux thrngsthapnakhunphiernthrethphepnphramhakstriysuokhthy khnannepnrthbrrnakarkhxngxyuthya ihipprathbxyuthiemuxngphisnuolk imnanhlngcaknn khunphiernthrethphthrngidrbsmyyanamsmedcphramhathrrmrachathirach aelathrngidrbphrarachthanphrawisuththikstriyepnxkhrmehsitanawsri ph s 2090 2091 sngkhramxubtiin ph s 2090ehtuaehngsngkhramrabuwaepnkhwamphyayamkhxngrachwngstxngxuaehngphmaephuxkhyayxanaekhtipthangthistawnxxkhlngwikvtkarnkaremuxnginkrungsrixyuthya tlxdcnkhwamphyayamhyudkarruklakhxngxyuthyaekhachayfngtanawsritxnbn phngsawdarphmarabuwa ineduxnmkrakhm ph s 2090 thharxyuthya 6 000 nayyudemuxngthwayinchayfngtanawsritxnbnsungphraxngkhthuxepnphrarachxanaekhtkhxngphraxngkh emuxchayaedninyukhkxnsmyihmmikarniyamnxykwaaelamkthbsxnkn karyudkhrxng dngklawnicungxacepnkhwamphyayamkhxngxyuthyathicaesrimkalngemuxngchayaednthitxngxuxangsiththi phraecataebngchewtithrngsngthharkhnadihyphxsmkhwr 12 000 nay thphbk 8 000 thpherux 4 000 odymiecalkhrxin xuprachaehngmatabn epnphunamachingthwayemuxpramaneduxntulakhm phvscikayn ph s 2090 karocmtirwmthphbk thpheruxtxthwaykhbkxngthphxyuthyasungmiecaemuxngkaycnburiepnphunaiptanawsritxnlangkarbukkhrxngxanackrxyuthya ph s 2091 2092 aephnthiphakhklangaelaphakhtawntkkhxngpraethsithy aesdngemuxngthithukkxngthphphraecataebngchewtiyud phngemuxngkrungsrixyuthyaaelakhlxngthiaewdlxmxyuthangdankhwalangaephnkarrbphma phraecataebngchewtiyngimsmphrathy aelathrngwangaephnkarbukkhrxngxanackrxyuthya ineduxntulakhm ph s 2091 phraxngkhthrngrwbrwmkxngthphxik 12 000 nay sungmithharrbcangoprtueksrwmxyudwypraman 400 nay sungmidiexok osxaris Diogo Soares epnphuna swnphngsawdarxyuthyarabuwakxngthphphmamikalngphlthharrab 300 000 nay ma 3 000 tw aelachangsuk 700 echuxk kalngbukkhrxngichxawuthtamaebbinsmynn idaek dab thnuaelahxk swnthharyxdfimuxcathuxpunkhabchudhruxpunkhabsila chawoprtueksepnphunaxawuthsmyihmtxntnehlanimayngrachxanackrthngsxngimkithswrrskxnhnani phraecataebngchewtithrngbngkhbbychakxngthphdwyphraxngkhexngaelaprachumphlthimatabn emaatama kalngbukkhrxngmikarcdraebiybepnsamkxngthphhlk idaek thphhnamibuerngnxngepnphuna thphhlwngmiphraecataebngchewtiepnphuna aelathphhlngmiphrataodthrrmrachaaelaemngcisewepnphuna aetlakxngmikalng 4 000 nay esnthangbukkhrxngkhuxphandanecdiysamxngkh ipkaycnburi aelwipkrungsrixyuthya erimbukkhrxng wnthi 14 tulakhm ph s 2091 kxngthphphmasamkxngxxkcakmatabnephuxerimkarbukkhrxng kxngthphelaaaemnaxttharnmungdanecdiysamxngkh ekhasuxanackrxyuthyatamaemnaaekhwnxythungemuxngithroykh aelwyktdaephndinmungaemnaaekhwihy cakthinn kxngthphlxngeruxmungemuxngkaycnburi phraecataebngchewtiesdcphrarachdaeninodymikharachbripharaelachangcanwnmhasal changehlanihlayechuxkbrrthukpunkhabsilaaelapunihybrxnssungekbrksaiklxngkhphramhakstriy changhlwngthukkhnaephkhamaemna swnchangsukthrrmdaedinthwnnaipbriewncudkham phraxngkhthrngmibuerngnxng mkudrachkumar aelannthbuerng phraoxrswy 13 phrrsakhxngbuerngnxng aelakhunnangthiaetngkayhruhrahlaykhntamesdc khnnganhlayrxykhnedinlwnghnakharachbripharkhxngphramhakstriy ephuxtngkhayimthitkaetngxyangswyngam mikarlngsiaelaeluxnsahrbphramhakstriythrngich aelamikarruxaelatngkhaythitaaehnngihmthukwn karbukkhrxngthiaerkephchiykartanthanephiyngelknxy ephraakxngthphphmaihyekindanyamelk tamphrmaedn emuxthrngthrabkhawkarbukkhrxngkhxngphma smedcphramhackrphrrdithrngradmphlrachxanackrkhxngphraxngkh aelwprachumthphthiemuxngsuphrrnburithixyuthistawntktidkbkrungsrixyuthya emuxphraecataebngchewtiaelathphkhxngphraxngkhmathungemuxngkaycnburithimikaaephnglxm kphbwaemuxngthukthingrang pramanhnungeduxnhlngbukkhrxng klangeduxnphvscikayn ph s 2091 phraecataebngchewtikekhluxnthphtxipthangthistawnxxk yudbanthwn kaphngtruaelacrekhsamphn phmayngruktxaelayudemuxngobranxuthxng tlxdcnhmubandxnrakhngaelahnxngsahrayaelaprachidsuphrrnburi emuxphmaocmtiemuxng fayxyuthyathipxngkntanthaniwimxyuaelathxyklbkrungsrixyuthya phraecataebngchewtithrngsngihkxngthphykiptawnxxkechiyngittamsxngkhlxng aelakhamaemnaecaphrayaiklkbphngaephng cakthinnphraxngkhthrngtngkhayehnuxphrankhrkrungsrixyuthyaodytrnginthungthieriyk thunglumphli yuththkarthikrungsrixyuthya chanphrankhr phaphsmedcphrasurioythy klang bnhlngchangthrng khbchangekharahwangsmedcphramhackrphrrdi khwahlng phrakhchatharmichtr aelaphraecaaepr say epnkarelatampraephniithy citrkrrmodysmedcphraecabrmwngsethx ecafacitrecriy krmphrayanrisranuwdtiwngs fayxyuthyamixubaytngrbphayinkaaephngphrankhr odykwadtxnphlemuxngthixyubriewnnxkemuxngihekhamaxyuinphrankhrihidmakthisud aelacdthharkhunpracapxmrxbkaaephng sungbnkaaephngmipxm 16 pxm aelayngsngnaythharchnphuihyxxkiptngkhayrxbemuxngxik 4 khay smedcphramhackrphrrditdsinphrathyykthphxxknxkphrankhrekhapracykbphraecataebngchewtiaelaephuxlxngkalngkhxngphma khrawni phraxngkhthrngphrakhchatharswnphraxngkh odymiphraxkhrmehsi smedcphrasurioythy phrxmdwyphrarachthidaxxnphraxngkhhnung phrabrmdilk tamesdcdwy aelathngsxngthrngchangsukechuxkelkkwa strithngsxngphranangthrngekhruxngepnthharxyangchay hmwkekraaaelachudekraa odysmedcphrarachiniaetngekhruxngaebbxuprach nxkcakni phraraemswr phraxuprachaelathayathphumisiththiodytrng aelaphramhinthr rachoxrsxikphraxngkh ktamesdcdwy ekidkaryuththtammaaetsxngbnthukelatangkn phngsawdarphmawa aemthphphmacdkxngthphsungmiphrataodthrrmracha xuprachpyi aepr epntwlx aelasxngkxngthphkhubekhathangpikephuxlxmkxngthphxyuthyathilaekin sungepniptamaephn thharthphhnakhxngxyuthyailkxngthphkhxngphrataodthrrmracha thaihkxngthphkhxngbuerngnxngthikhxyxyuthangpiksaylxmthphxyuthyasungtxmathukkwadsin kxngthphkhxngphraecataebngchewtithixyupikkhwakhbthphxyuthyathiehluxklbekhaphrankhr thwa tampraephniithy phrataodthrrmrachaaelasmedcphramhackrphrrdichnchangkn phrakhchatharkhxngsmedcphramhackrphrrdiesiythihnhnicakkhasuk phrataodthrrmracharibilhlngma smedcphrasurioythyekrngwaphraswamicaesdcswrrkht cungkhbchangekhakhwangrahwangphraecaaephndinaelaxuprachaepr thaihimsamarthiltxid caknnxuprachaeprhnmatxsukbsmedcphrasurioythyinkarsurbediyw xuprachaeprichkhxngawfnphranangtngaetphraxngsa ihl thungphrahvthyswrrkht thngthaihphrarachthidabadecbdwy thngmardaaelathidaesiychiwitbnhlngkhchatharechuxkediywkn elaknwa xuprachaeprimthrngthrabwaphraxngkhkalngrbkbstrixyucnphraxngkhthrngfn emuxphranangsiniclmlngnnhmwkekraathithrngxyuhludxxkephyihehnphmyaw phraraemswraelaphramhinthrthrngkhbchangekhatxsukbxuprach khbxuprachaelathphthiehluxxyuxxkcakthung aelwnaphrabrmsphsmedcphrarachchnniaelaphrakhnisthphkhiniklbekhakrung khnaediywknsmedcphramhackrphrrdirwbrwmkxngthphaelwcungthxyklbphrankhrxyangmiraebiybechnkn thwa phngsawdarphmamiidexythungkarsurbid khxngxuprachaeprely imwabnhlngchanghruxxyangxun imwaehtukarnepnxyangir thphxyuthyathiehluxthxnklbip phraecataebngchewtithrngetriymkxngthphsahrblxmkrungsrixyuthya khaykhxngphraxngkhtngxyuthangehnuxkhxngphrankhrthibankumdxng aelaaemthphkhxngphraxngkhtngkhayxyutamcudyuththsastrsakhyodyrxbkaaephngnkhr odymhaxuprachbuerngnxngtngkhaythiphaeniyd phraecaaeprtngkhaythibanihmmakhamhyxng aelaphrayaphsimtngkhayxyuthithungpraechd thwa phmaimsamarthhkexaphrankhridodyngay karlxm krungsrixyuthyatngxyubnekaasungmiaemnasamsaylxmrxb idaek aemnalphburithangehnux aemnaecaphrayathangtawntkaelait aelaaemnapaskthangtawnxxk thuxwaepnkhuemuxngthrrmchatithimnkhng lumaemnaecaphrayannepnthirablumaelaepnphunthithinathwmthung odyechphaaxyangyingrahwangvdufnhruxvdunahlakemuxnaechiywkrakihlprimanmakcakthisehnuxtamaemnalphburi nathwmnicaerimpramaneduxnrkdakhmaelasinsudlngrahwangeduxntulakhmaelaphvscikayn thaihphraecataebngchewtithrngmiewlahaeduxnhkexakrungsrixyuthya hruxmichannphunthitngkhayaelaesnthangsngesbiyngcathuknathwm nxkcakni yngmikhwamepnipidthinathwmdngklawcathaihkxngthphkhxngphraxngkhtidkb phunthilumepnhnxngnaodyrxbkrungsrixyuthyamikarkhudkhlxngepncanwnmak thaiheruxpunthitidpunihysamarthyingkhbilkhwamphyayamid thicaocmtiphrankhr nxkcakni fayphmanaephiyngpunihykhnadelktidma khnathikrungsrixyuthyamipunihykhnadihythitidtngxyubnkaaephngnkhr phmalxmnkhr aetimsamarthkhamaemnahruxecaakaaephngnkhrdwykaryingpunihy thaihtxngiptngkhayodyrxbphrankhraethn inkhnathithangnasungechuxmthungkncakehnuxthungit thaihkarhakalngbarungfaypxngkninnkhrkhxnkhangngay thharrbcangchawoprtueks 50 nay odymiepnnaykxng pxngknswnthixxnaexthisudkhxngkaaephngnkhrihphramhakstriyxyuthya enuxngcakfayphmaimsamarthhknkhridtamaebbthrrmda phraecataebngchewticungthrngesnxtidsinbnthharrbcangehlani aetthharrbcangoprtueksduthukaelaptiesthkhxesnxdngklaw emuxaemthphxyuthyathrabkhaw kepidpratunkhrthaphraecataebngchewtiihnaenginma aetimidrbkartxbsnxng smedcphramhackrphrrdiimsamarthkhbphmaxxkipid cungthrngsngsarthungphramhathrrmrachathiphisnuolk miphrabrmrachoxngkarihykthphlngitmachwy aelahakepnipidihpracybankhasukinkarrbdwy phramhathrrmracharadmphlxyangrwderwaeladwykhwamchwyehluxkhxngecaemuxngswrrkholk kxngthphphisnuolkkhnadihyekhluxnlngitephuxocmtikxngthphphmathangdanhlng phraecataebngchewtithrngthrabkhaw aeladwykarkrabbngkhmthulaenanakhxngbuerngnxng phraecataebngchewtithrngtdsinphrathythxnthph lathingkhwamtngicthicahkexakrungsrixyuthya kartdsinphrathykhxngphraxngkhyngekiywenuxngkbkhawcakphmawaphwkmxysungimekhythukrachwngstxngxuprabpramthnghmd kxkbtrahwangthiphramhakstriyimprathb pccyxunrwmipthungkarkhadaekhlnesbiyngaelakarecbpwyinkxngthph sungmiidetriymkarrbkarlxmrayayaw aelaphayinhnungeduxnhlngcakkarlxmerimtnkhun raweduxnemsayn phraecataebngchewtithxnthph karthxythph phaphcakcnghwdtakmxngipynghubekhakhxngrthchan imiklcakdanaemlaema sungkxngthphphmaichepnesnthangthxythph thphphmaeluxkthxyipthangdanaemlaema pccubnxyuinxaephxaemsxd cnghwdtak rahwangkarthxy thphphmaphyayamplnemuxngkaaephngephchrthiekaaekaelamngkhng aetemuxngnnmikarpxngknhnaaennekinip dwykarchwyehluxkhxngthharrbcangoprtueks ecaemuxngkkhbthphphmadwykrasunephlingthibibihphmaeluxkichpunihyaelapxngknodyichhnngstwchunkhlum smedcphramhackrphrrdithrngehnwakarthxythphkhxngphmaepnoxkaschwyoxkasinyamxxnaex cungrbsngihphraraemswraelaphramhathrrmrachatidtamaelakxkwnkhasukxxkcakaephndinxyuthya epnewlasamwn thphxyuthyakhbilphurukran aelathaihphmasuyesiyihyhlwng emuxthphphraraemswraelaphramhathrrmrachaekhamaikl phraecataebngchewtithrngpkhlkiklkaaephngephchr odyaebngthphxxkthnnsxngkhang fayxyuthyathikalngraeringtkhlumphrang phmacbthngphraraemswraelaphramhathrrmrachaepnechlysukidthngsxngphraxngkh karidtwthngsxngphraxngkhepnkarbibbngkhbihsmedcphramhackrphrrditxngecrcakbphraecataebngchewti phraxngkhthrngmxbchangsuksxngechuxk idaek changphlaysrimngkhlaelachangphlaymngkhlthwipephuxepnkaraelkepliyn caknn kxngthphphmacungidthxythphklbodysnti nxkehnuxcaknn phraecataebngchewtiyngidplxytwechlysukxikcanwnmakthiidthukcbtwiwrahwangkarthph karthphdngklawerimtnaelasinsudlnginewlahaeduxnkarphkrbkarcbxngkhphraraemswraelaphramhathrrmrachabngkhbihsmedcphramhackrphrrdiecrcakbphraecataebngchewti fayxyuthyaphlnsngthutthinakhxngkanlesnxkarthxythphxyangsntiaelkkbecasxngphraxngkh ephuxepnkaraelkepliyn smedcphramhackrphrrdithukbngkhbihthrngmxbphrakhchatharsxngechuxkaekphraecataebngchewti khux phlaysrimngkhlaelaphlaymngkhlthwipsungepnchangchnanga emuxmikarsngmxbchangaelw thphphmacungthxyipxyangsngb nxkehnuxcakecasxngphraxngkhaelw phraecataebngchewtiyngthrngplxyechlyxikhlaykhnthithukcbrahwangkarthphdwy tambnthukkhxngphma phramhakstriyxyuthyayngthrngtklngihkhxngkanlepnchang 30 echuxk engincanwnhnungaelaxakrsulkakrcanwnhnung hlngsnthisyya phramhakstriyphmathrngphkaepdwn aelwesdcklbphaokh phraxngkhesdcthungemuxwnthi 1 minakhm ph s 2082hlngsngkhramphraecdiysrisurioythysungidrbkarburnakhunihm thiwdswnhlwngsbswrrkh cnghwdphrankhrsrixyuthya tamphngsawdarphma phraecataebngchewtiemuxesdcklbthungphrankhr keswyaetnacnthaelalathingkarptibtiphrarachkrniykic thaihphramhaxuprachabuerngnxngcaepntxngthahnathiphusaercrachkaraephndinaethn in ph s 2092 emuxbuerngnxngxxkcakemuxnghlwngephuxprabpramkbtmxythangit phraecataebngchewtithrngthuklxbplngphrachnmaelaidmikarphldepliynaephndin thaihhwemuxngtang aekhngkhxkhun sungthaihbuerngnxngtxngichewlakwahapiinkarrwbrwmaephndinihepnpukaephn cnesrcsinemuxxngwathukyudin ph s 2097 sngkhramniepnsngkhramaerkrahwangphmakbithysungyudeyuxmacnklangkhriststwrrsthi 19 nxkcakniyngepnkhrngaerkthikrungsrixyuthyathukkhasuktangdawocmti tamhlkthankhxngithy fayxyuthya smedcphramhackrphrrdiidphrarachthanephlingphrasphsmedcphrasurioythythiswnhlwng aelwsrangwdxuthisphrarachkuslphrarachthan khux wdsbswrrkh sthupkhnadihysungsrangkhunephuxekbphraxthikhxngsmedcphrasurioythy thukeriykwa ecdiyphrasrisurioythy aetthungaemwacamikarsrangxnusawriykhunechlimphraekiyrtiphraxngkhkhunhlayaehnginpraethsithy aettwtnaelakhwamesiyslakhxngphraxngkhyngepnhwkhxthiyngepnthiotethiyngknxyu enuxngcakkhwamcringthiwaphranamkhxngphraxngkhmiidthukklawthunghruxbnthukiwinprawtisastrphmaely aelakhxethccringthnghmdekiywkbchiwitkhxngphraxngkhthukkhdmacakbangtxnkhxngcdhmayehtukrungsrixyuthyaaelakarbrryaykhxngnksarwcchawoprtueks odmingok siss xnusrnsthansmedcphrasrisurioythy thrngchangxxkrbsngkhram phlkhxngsngkhramthaihmikaresrimkarpxngknkhxngxyuthyaihekhmaekhngkhun echn kaaephngaelapxmaekhngaekrngkhun aelaprbprungkickarthharaelathanubarungsphaphbanemuxngihaekhngaekrng odymikarkxkaaephngxithrxbtwphrankhrkrungsrixyuthyaaethnechingethindinpkimaebbedim kahndhwemuxngkhunihm 3 hwemuxng odyykbantladkhwyepnemuxngnnthburi ykbanthacinepnemuxngsakhrburi aelarwmdinaednbangswnkhxngrachburikbemuxngsuphrrnburiepnemuxngnkhrchysri thrngetriymeruxephim aelacdkarkhlxngchangpaephuxichinkarsngkhramephimetim odyinewla 3 pi samarthcbchangephuxkidthung 6 chang thaihxyuthyamichangephuxkrwm 7 chang rwmthngkarthabychibnthukthharthngpwng aelakhnadkhxngkxngthpheruxyngidephimmakkhundwy chychnakhxngxyuthyakhrngnithaihphmaidprasbkarnsakhyinkaryuththkbxyuthyainxnakht karbukkhrxngkhrngtxipekidinrchkalphraecabuerngnxng phukhunekhykbkarrbkbchawxyuthyaaelakarekhluxnthphphanphumipraethskhxngxanackrxyuthya khwamimsngbphayinphmachalxkarbukkhrxngkhrngtxipxxkip 15 pi cnsngkhramchangephuxk ph s 2106 2107 insuxsngkhramphraecataebngchewtiidthuknamasrangepnphaphyntrxingprawtisastrchuxwa surioyith xxkchayinpi ph s 2544 kakbodyhmxmecachatriechlim yukhl enuxhainphaphyntrklawthungtngaetkarswrrkhtkhxngsmedcphraichyrachathirach ehtukarnsungnaipsusngkhramaelayuththhtthisungnaipsukarswrrkhtkhxngsmedcphrasurioythy phaphyntrichtnthunsrang 350 lanbathechingxrrthThe figures here are reduced by an order of magnitude from those given in the Burmese chronicles per Harvey 1925 333 335 Per Burmese chronicles Hmannan Vol 2 2003 238 reduced by an order of magnitude per Harvey 1925 333 335 Burmese chronicles Hmannan Vol 2 2003 238 say Tabinshwehti learned of the Siamese occupation of Tavoy before he agreed to a truce with King of Mrauk U on 31 January 1547 9th waxing of Tabodwe 908 ME The invasion likely began in late October early November 1547 although Burmese chronicles Hmannan Vol 2 2003 238 239 simply say the attack on Tavoy began in 909 ME 30 March 1547 to 28 March 1548 The attack probably did not take place in early 1547 since Tabinshwehti s troops evacuated southern Arakan only on 26 March 1547 5th waxing of Late Tagu 908 ME The troops would have arrived back only in mid to late April leaving just about a month for a military campaign before the rainy season began in June The invasion like most wars by the Burmese kings probably began toward the end of rainy season and after the end of Buddhist Lent which ended on 13 October 1547 New moon of Thadingyut 909 ME that year The chronicle Hmannan Vol 2 2003 241 uses the term လပ ည la bjḛ which can be translated as either full moon or full month completion of a month to describe when he began the march to Ayutthaya If it was full moon the date of departure from Kanchanaburi would be 15 November 1548 Full moon of Natdaw 910 ME If it was full month it would be 13 November 1548 13th waxing of Natdaw 910 ME The custom of the time was for two commanders leaders of the same status to fight in single combat It is unclear as to why the Siamese king would have accepted to face someone of lesser rank If he did issue the challenge he would have challenged his counterpart Tabinshwehti and accepted to face only Tabinshwehti Burmese chronicles Maha Yazawin Vol 2 2006 181 192 and Hmannan Vol 2 2003 238 248 devote a detailed account of the invasion down to the names of war elephants the high royalty rode on Thado Dhamma Yaza rode the war elephant named Ye Htut Mingala Hmannan Vol 2 2033 244 If he was victorious in combat against any enemy of significance such a story with a favorable outcome would likely have been included in the chronicles xangxingHmannan Vol 2 2003 238 Hmannan Vol 2 2003 240 241 Hmannan Vol 2 2003 242 243 Hmannan Vol 2 2003 240 244 dny ichyoytha 2543 phthnakarkhxngmnusykbxarythrrminrachxanackrithy elm 1 ox exs phrinting ehas hna 216 Harvey 1925 100 109 Fernquest 2005 20 50 Harvey 1925 124 125 Harvey 1925 153 158 Htin Aung 1967 106 112 Wood p 100 Wood p 101 Wood p 108 Wood p 109 Wood p 110 Wood p 111 Damrong Rajanubhab p 14 Damrong Rajanubhab p 15 Damrong Rajanubhab p 13 Wood p 112 Harvey 1925 158 Fernquest 2005 286 Hmannan Vol 2 2003 238 239 Harvey 1925 158 159 Wood p 113 Quaritch Wales p 145 Quaritch Wales 1952 189 Phayre 1967 100 Damrong Rajanubhab 2001 16 Damrong Rajanubhab 2001 17 Damrong Rajanubhab 2001 18 Hmannan Vol 2 2003 241 242 Damrong Rajanubhab 2001 19 Damrong Rajanubhab p 20 Harvey p 159 Phayre p 101 Cocks p 44 Cocks p 45 Damrong Rajanubhab p 21 Harvey p 160 Harvey 1925 160 Htin Aung 1967 113 Sein Lwin Lay 2006 232 Harvey p 162 Harvey p 164 A Historical Divide 2010 06 12 thi ewyaebkaemchchin Subhatra Bhumiprabhas Retrieved 2010 03 04 Suriyothai The Sun and The Moon Retrieved 2010 03 04 2006 05 14 thi ewyaebkaemchchin dny ichyoytha 2543 phthnakarkhxngmnusykbxarythrrminrachxanackrithy elm 1 ox exs phrinting ehas hna 216 217 dny ichyoytha 2543 phthnakarkhxngmnusykbxarythrrminrachxanackrithy elm 1 ox exs phrinting ehas hna 217 Damrong Rajanubhab p 22 24 Wood p 114 Damrong Rajanubhab p 22brrnanukrmCocks S W 1919 A Short History of Burma at www archive org Second ed London Macmillan and Co Damrong Rajanubhab Prince Disuankumaan 2001 1917 Our Wars with the Burmese Thai Burmese Conflict 1539 1767 aeplody Thailand White Lotus Co Ltd ISBN 974 7534 58 4 Fernquest Jon Autumn 2005 Min gyi nyo the Shan Invasions of Ava 1524 27 and the Beginnings of Expansionary Warfare in Toungoo Burma 1486 1539 SOAS Bulletin of Burma Research 3 2 ISSN 1479 8484 Harvey G E 1925 History of Burma From the Earliest Times to 10 March 1824 London Frank Cass amp Co Ltd Htin Aung Maung 1967 A History of Burma New York and London Cambridge University Press Jirattikorn Amporn August 2003 Suriyothai Hybridizing Thai National Identity Through Film Inter Asia Cultural Studies 4 2 296 308 doi 10 1080 1464937032000113015 S2CID 145109859 1883 History of Burma 1967 ed London Susil Gupta 1952 Ancient South east Asian Warfare London Bernard Quaritch Ltd 1832 phasaphma Vol 1 3 2003 ed Yangon Ministry of Information Myanmar Sein Lwin Lay Kahtika U 1968 Mintaya Shwe Hti and Bayinnaung Ketumadi Taungoo Yazawin phasaphma 2006 2nd printing ed Yangon Yan Aung Sarpay Wood William A R 1924 History of Siam Thailand Chalermit Press ISBN 1 931541 10 8 hnngsuxkhaihkarchawkrungeka ody sankphimphaesngdaw srxythxng ph s 2544 ISBN 974 87895 7 8