บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
สงครามอ่าว (อังกฤษ: Gulf War) ชื่อรหัสทางทหารว่า ปฏิบัติการโล่ทะเลทราย (Operation Desert Shield, 2 สิงหาคม 2533 – 17 มกราคม 2534) เป็นปฏิบัติการนำสู่การสั่งสมกำลังและการป้องกันของซาอุดีอาระเบียและปฏิบัติการพายุทะเลทราย (Operation Desert Storm, 17 มกราคม 2534 – 28 กุมภาพันธ์ 2534) ในระยะสู้รบ เป็นสงครามในระหว่างกำลังผสมจาก 34 ชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาต่อประเทศอิรักหลังการบุกครองและผนวกคูเวตของอิรัก
สงครามอ่าว | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตามเข็มนาฬิกาจากบนสุด: เครื่องบินเอฟ-15E เอฟ-16 และเอฟ-15C ของกองทัพอากาศสหรัฐกำลังบินเหนือบ่อน้ำมันในคูเวตที่ไฟกำลังลุกท่วม; ทหารอังกฤษใน; ภาพกล้องจากล็อกฮีด เอซี-130; ; ยานวิศวกรรบ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
กำลังผสม: คูเวต การสนับสนุนที่มิใช่กำลังทหาร | อิรัก | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เศาะบาห์ที่ 4 แห่งคูเวต | | ||||||
กำลัง | |||||||
956,600 นาย เป็นทหารสหรัฐ 700,000 นาย | ทหารในแนวหน้า 650,000 นาย กำลังสำรอง 1,000,000 นาย | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
กำลังผสม: ทหารสหรัฐเสียชีวิตในหน้าที่ 148 นาย, เสียชีวิตที่มิได้เกิดจากศัตรู 145 นาย บาดเจ็บในหน้าที่ 467 นาย รวม: เสียชีวิต 292 นาย บาดเจ็บ 776 นาย การเสียยุทธภัณฑ์: รถถังถูกทำลาย: 4-20+ dozens damaged ปืนใหญ่ถูกทำลาย: 1 ยานต่อสู้ทหารราบถูกทำลาย: 9 เฮลิคอปเตอร์ถูกทำลาย: 17 อากาศยานถูกทำลาย: 44 คูเวต: เสียชีวิต 200 นาย | เสียชีวิต 20,000–35,000 นาย การเสียยุทณภัณฑ์: รถถังถูกทำลาย: 3,700–4,000 อากาศยานถูกทำลาย: 2,140 ยานต่อสู้รถถังถูกทำลาย: 1,856 เฮลิคอปเตอร์ถูกทำลาย: 7 อากาศยานถูกทำลาย: 240 เรือถูกจม: 19 เรือเสียหาย: 6 | ||||||
การเสียพลเรือนของคูเวต: พลเรือนเสียชีวิต 300 คน บาดเจ็บมากกว่านี้ |
สงครามนี้มีชื่ออื่น เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซีย, สงครามอ่าวครั้งที่หนึ่ง, สงครามคูเวต, สงครามอิรัก ซึ่งคำว่า "สงครามอิรัก" ต่อมาใช้เรียกการบุกครองอิรักเมื่อปี 2546 แทน การยึดครองคูเวตของกองทัพอิรักซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2533 นั้นถูกนานาชาติประณาม และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติพลันใช้วิธีการบังคับทางเศรษฐกิจต่ออิรัก ประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช วางกำลังสหรัฐเข้าสู่ซาอุดีอาระเบียและกระตุ้นให้ประเทศอื่นส่งกำลังของตนไปที่นั้นด้วย มีหลายชาติเข้าร่วมกำลังผสม ซึ่งเป็นพันธมิตรทางทหารที่ใหญ่ที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่สอง กำลังทหารของกำลังผสมส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ โดยมีซาอุดีอาระเบีย สหราชอาณาจักรและอียิปต์เป็นผู้มีส่วนร่วมรายใหญ่ตามลำดับ ซาอุดีอาระเบียสมทบเงิน 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากค่าสงคราม 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สงครามนี้มีการริเริ่มการถ่ายทอดข่าวสดจากแนวหน้าของการสู้รบ หลัก ๆ โดยเครือข่ายซีเอ็นเอ็นของสหรัฐ สงครามนี้ยังได้ชื่อเล่นว่า สงครามวิดีโอเกม หลังการถ่ายทอดภาพรายวันจากกล้องบนเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐระหว่างปฏิบัติการพายุทะเลทราย
ความขัดแย้งระยะแรกเพื่อขับกองทัพอิรักออกจากคูเวตเริ่มด้วยทางระดมทิ้งระเบิดทางอากาศและทางเรือเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2534 และดำเนินไปห้าสัปดาห์ ตามด้วยการโจมตีภาคพื้นดินเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สงครามสิ้นสุดด้วยชัยชนะอย่างขาดลอยของกำลังผสม ซึ่งขับกองทัพอิรักออกจากคูเวตและรุกเข้าดินแดนอิรัก กำลังผสมยุติการบุกและประกาศหยุดยิงหลังการทัพภาคพื้นเริ่ม 100 ชั่วโมง การสู้รบทางอากาศและทางบกจำกัดอยู่ในประเทศอิรัก คูเวตและบางพื้นที่ตรงพรมแดนซาอุดีอาระเบีย ประเทศอิรักปล่อยขีปนาวุธสกั๊ดต่อเป้าหมายทางทหารของกำลังผสมและต่ออิสราเอล
เบื้องหลัง
ตลอดช่วงเวลาของสงครามเย็น อิรักเป็นพันธมิตรสหภาพโซเวียตและมีประวัติความไม่ลงรอยกับสหรัฐอเมริกา สหรัฐกังวลถึงตำแหน่งของอิรักต่อการเมืองอิสราเอล-ชาวปาเลสไตน์และการที่อิรักไม่เห็นด้วยกับสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์
สหรัฐเองก็ไม่ชอบการที่อิรักเข้าสนับสนุนกลุ่มอาหรับและปาเลสไตน์ติดอาวุธอย่าง ซึ่งทำให้มีการรวมอิรักเข้าไปในรายชื่อข้ามชาติของสหรัฐในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2522 สหรัฐยังคงสถานะเป็นกลางอย่างเป็นทางการหลังจากการรุกรานของอิหร่านกลายมาเป็นสงครามอิรัก-อิหร่าน แม้ว่าจะแอบช่วยอิรักอย่างลับ ๆ อย่างไรก็ดีในเดือนมีนาคม 2525 อิหร่านเริ่มทำการโต้ตอบได้สำเร็จ และสหรัฐได้เพิ่มเพื่อป้องกันไม่ให้อิรักถูกบังคับให้พ่ายแพ้
ในความพยายามของสหรัฐที่จะเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตอิรักอย่างเต็มตัว ประเทศอิรักได้ถูกนำออกจากรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย นั่นก็เพราะว่าการพัฒนาในบันทึกการปกครอง แม้ว่าอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โนเอล คอช ได้กล่าวในเวลาต่อมาว่า "ไม่มีใครที่สงสัยในเรื่องที่อิรักยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย... เหตุผลจริง ๆ คือเพื่อช่วยให้พวกเขามีชัยเหนืออิหร่าน"
เมื่ออิหร่านประสบกับชัยชนะในสงครามและปฏิเสธการสงบศึกที่ได้รับการเสนอขึ้นในเดือนกรกฎาคม การขายอาวุธให้กับอิรักก็ทำลายสถิติเมื่อปี 2525 แต่อุปสรรคยังคงมีอยู่ระหว่างสหรัฐกับอิรัก กลุ่มอาบูไนดัลยังคงได้รับการสนับสนุนอยู่ในแบกแดด เมื่อประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน ได้ขับไล่พวกเขาไปยังซีเรียตามคำขอของสหรัฐในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2526 รัฐบาลเรแกนได้ส่ง โดนัลด์ รัมส์เฟลด์ เพื่อพบกับประธานาธิบดีฮุสเซนเป็นทูตพิเศษและเพื่อกระชับความสัมพันธ์
ความตึงเครียดกับคูเวต
เมื่ออิรักทำการหยุดยิงกับอิหร่านในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2531 อิรักก็ประสบกับการล้มละลายอย่างแท้จริง โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ซาอุดิอาระเบียและคูเวต อิรักกดดันทั้งสองชาติให้ยกหนี้ทั้งหมด แต่ทั้งสองประเทศตอบปฏิเสธ อิรักยังได้กล่าวหาคูเวตว่าได้ผลิตน้ำมันเกินโควตาของโอเปก ทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลง ซึ่งส่งผลให้อิรักประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจเพิ่มเข้าไปอีก
การที่ราคาของน้ำมันตกลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิรักอย่างใหญ่หลวง รัฐบาลอิรักได้บรรยายว่ามันเป็นสงครามทางเศรษฐกิจ ซึ่งอ้างว่าคูเวตเป็นต้นเหตุ โดยการเจาะท่อลอดข้ามพรมแดนเข้าไปในทุ่งน้ำมันรูมาเลียของอิรัก
ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศยังเกี่ยวข้องกับคำกล่าวอ้างของอิรักที่ระบุว่า คูเวตเป็นอาณาเขตของอิรัก หลังจากได้รับเอกรารชจากสหราชอาณาจักรใน พ.ศ. 2475 รัฐบาลอิรักได้ประกาศในัทันทีว่าคูเวตเป็นอาณาเขตโดยชอบธรรมของอิรัก เนื่องจากเคยอยู่ภายใต้การปกครองของอิรักเป็นเวลาหลายศตวรรษจนกระทั่งอังกฤษก่อตั้งคูเวตขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ดังนั้น จึงได้กล่าวว่า คูเวตเป็นผลผลิตจากลัทธิจักรวรรดินิยมของอังกฤษ อิรักอ้างว่าคูเวตเคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดบาสราของจักรวรรดิออตโตมัน ราชวงศ์ที่ปกครองคูเวต อัลซอบะห์ ได้ตัดสินใจลงนามในข้อตกลงเป็นรัฐในอารักขาเมื่อ พ.ศ. 2442 ซึ่งมอบหมายความรับผิดชอบกิจการระหว่างประเทศให้แก่อังกฤษ อังกฤษเขียนพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศ และพยายามจำกัดทางออกสู่ทะเลของอิรักอย่างระมัดระวัง เพื่อที่ว่ารัฐบาลอิรักในอนาคตจะไม่มีโอกาสคุกคามการครอบครองอ่าวเปอร์เซียของอังกฤษ อิรักปฏิเสธที่จะยอมรับพรมแดนที่ถูกเขียนขึ้น และไม่รับรองคูเวตจนกระทั่งปี พ.ศ. 2506
ในตอนต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2533 อิรักไม่พอใจกับพฤติกรรมของคูเวต อย่างเช่น ไม่เคารพโควตา และคุกคามที่จะใช้กำลังทหารอย่างเปิดเผย วันที่ 23 กรกฎาคม ซีไอเอรายงานว่าอิรักได้เคลื่อนกำลังพล 30,000 นาย ไปยังพรมแดนอิรัก-คูเวต และกองเรือสหรัฐในอ่าวเปอร์เซียได้รับการเตือนภัย วันที่ 25 กรกฎาคม ซัดดัม ฮุสเซน พบกับเอพริล กลาสพาย เอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด ตามการแปลเป็นภาษาอิรักของการประชุมครั้งนั้น กลาสพายพูดกับผู้แทนอิรักว่า
"เราไม่มีความคิดเห็นต่อความขัดแย้งอาหรับ-อาหรับ"
ตามบันทึกส่วนตัวของกลาสพาย เธอกล่าวในการประชุมถึงพรมแดนที่ชัดเจนระหว่างคูเวตและอิรัก
"[...] ว่าเธอได้เคยทำงานอยู่ในคูเวตเมื่อ 20 ปีก่อน ดังนั้น ในขณะนี้ เราจึงไม่เลือกฝ่ายต่อความสัมพันธ์ระหว่างอาหรับ"
เมื่อวันที่ 31 การเจรจาระหว่างอิรักและคูเวตในเจดดะห์ประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรง
การบุกครองคูเวต
ผลจากการประชุมที่เจดดห์ลงเอยด้วยการที่อิรักต้องการเงินจำนวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อชดเชยรายได้ที่ตนเสียไปจากทุ่งน้ำมันรูไมลา คูเวตเสนอกลับด้วยเงินจำนวน 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้อิรักสั่งทำการบุกในทันที ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2533 อิรักเปิดการรุกด้วยการทิ้งระเบิดใส่คูเวตซิตี เมืองหลวงของคูเวต
ในช่วงขณะการบุก เชื่อกันว่ามีทหาร 16,000 นาย โดยแบ่งออกเป็นกองกำลังยานเกราะ ทหารช่าง และกองทหารปืนใหญ่ กำลังของก่อนช่วงสงครามนั้นอยู่ที่ประมาณ 2,200 นาย โดยมีอากาศยาน 80 ลำและเฮลิคอปเตอร์อีก 40 ลำ แม้ว่าอิรักได้ทำการขู่เปิดสงครามก่อนหน้า แต่คูเวตกลับไม่ได้เตรียมกองกำลังของตนเอาไว้ กองทัพคูเวตยอมแพ้ในวันที่ 19 กรกฎาคม
เมื่อสิ้นสุดสงครามอิหร่านอิรักในปีพ.ศ. 2531 กองทัพบกอิรักกลายเป็นกองทัพอันดับสี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยประกอบด้วยทหาร 955,000 นายและกองกำลังกึ่งทหารอีก 650,000 นาย จากการคาดการณ์ขั้นต่ำของจอห์น ไชลด์สและอังเดร คอร์วิแซร์ กองทัพอิรักสามารถระดมรถถังได้ 4,500 คัน อากาศยานรบ 484 ลำ และเฮลิคอปเตอร์รบอีก 232 ลำ ไมเคิล ไนท์ส คาดการว่า ในกรณีอย่างมาก อิรักจะสามารถระดมพลได้ 1 ล้านนายและกองกำลังสำรองอีก 850,000 นาย พร้อมรถถัง 5,500 คัน ปืนใหญ่ 3,000 กระบอก อากาศยานรบและเฮลิคอปเตอร์ 700 ลำ เป็นทั้งหมด 53 กองพล กรมสงครามพิเศษ 20 กรม และกองกำลังติดอาวุธอีกจำนวนมากตามพื้นที่ และพวกเขาก็มีการป้องกันทางอากาศที่แน่นหนาอีกด้วย
หน่วยคอมมานโดของอิรักเป็นหัวหอกในการรบด้วยการแทรกซึมเข้าไปที่ชายแดนของคูเวตเพื่อเตรียมการรบให้พร้อมสำหรับหน่วยรบขนาดใหญ่ที่จะเปิดศึกตอนเที่ยงคืน อิรักแบ่งการรุกเป็นสองแนว โดยมีกองกำลังหลักโจมตีจากทางเหนือลงไปทางใต้ผ่านทางหลวงตรงไปยังคูเวต และอีกด้านเป็นการโจมตีสนับสนุนที่เข้าจากทางตะวันตกของคูเวตและหักออกไปทางตะวันออก เพื่อตัดเมืองหลวงออกจากทางใต้ที่เหลือของประเทศ ผู้บัญชาการกองพันยานเกราะ กรมยานเกราะที่ 35 ของคูเวตได้วางแนวรบเพื่อรับมือกองทัพอิรักและสามารถป้องกันเอาไว้ได้อย่างดุเดือดในการรบใกล้กับทางตะวันตกของคูเวตซิตี
อากาศยานของคูเวตเข้าสกัดข้าศึกแต่ถูกยึดหรือทำลายไปร้อยละ 20 การรบทางอากาศกับกองพลขนส่งทางเฮลิคอปเตอร์ของอิรักเกิดขึ้นเหนือคูเวตซิตี อิรักสูญเสียทหารชั้นดีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการปะทะประปรายระหว่างกองทัพอากาศคูเวตกับกองกำลังภาคพื้นของอิรักด้วย
กองกำลังหลักของอิรักฝ่าแนวเข้าไปยังคูเวตซิตีนำโดยคอมมานโดที่ส่งโดยเฮลิคอปเตอร์และเรือเพื่อเข้าโจมตีเมืองจากทางทะเล ใขณะที่กองพลอื่นเข้ายึดท่าอากาศยานและสนามบิน อิรักทำการโจมตีวังดัสมาน ที่พักของเจ้าชาย ซึ่งคุ้มกันโดยองครักษ์และรถถัง ในการรบ เจ้าชายองค์เล็กสุดถูกปลงพระชนม์โดยฝ่ายอิรัก
ฝ่ายต่อต้านส่วนใหญ่ถูกปราบปรามภายในสิบสองชั่วโมง ราชวงศ์หลบหนีออกนอกคูเวต ทำให้อิรักเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคูเวต หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดเป็นเวลาสองวัน กองกำลังส่วนใหญ่ของคูเวตถูกเอาชนะโดยหรือไม่ก็หนีไปยังซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายแห่งคูเวตและรัฐมนตรีสามารถหลบหนีและมุ่งหน้าลงใต้เพื่อขอลี้ภัยในซาอุดิอาระเบียได้ กองกำลังภาคพื้นของอิรักเข้าควบคุมคูเวตซิตี หลังจากนั้นมุ่งหน้าลงใต้เพื่อวางกำลังพลตลอดแนวชายแดนซาอุ หลังจากได้รับชัยชนะ ซัดดัมก็เริ่มตั้งการปกครองหุ่นเชิดโดยใช้ชื่อว่ารัฐบาลชั่วคราวแห่งเสรีคูเวต ก่อนที่จะแต่งตั้งให้ญาติของตน เป็นผู้ว่าราชการในวันที่ 8 สิงหาคม
ช่วงก่อนเริ่มสงคราม
วิธีการทางการทูต
ในชั่วโมงที่การรุกรานคูเวตเริ่มขึ้น คณะผู้แทนของคูเวตและสหรัฐได้เข้าร้องให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งได้อนุมัติ ซึ่งมองว่าการรุกรานเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและต้องการให้อิรักถอนทหารออก ในวันที่ 3 สิงหาคม สันนิบาตอาหรับได้ออกมติ ซึ่งสรุปได้ว่าต้องการหาทางออกของปัญหาโดยกลุ่มชาติในสันนิบาตอาหรับเท่านั้น และเตือนไม่ให้ชาติอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อิรักและลิเบียเป็นชาติอาหรับสองชาติที่ปฏิเสธมติที่ให้อิรักถอนทหารออกจากคูเวต องค์ปลดปล่อยปาเลสไตน์เห็นด้วยกับอิรัก รัฐอาหรับเยเมนและจอร์แดน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับตะวันตกที่มีชายแดนติดกับอิรักและพึ่งพาเศรษฐกิจของอิรัก – ไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงทางทหารจากชาติที่ไม่ใช่รัฐอาหรับ รัฐอาหรับซูดานเห็นด้วยกับซัดดัม
ในวันที่ 6 สิงหาคม ตาม ได้มีต่ออิรัก หลังจากนั้นได้มี ซึ่งสั่งการให้มีการปิดล้อมทางทะเลเพื่อทวีความรุนแรงของการคว่ำบาตร คณะมนตรีความมั่นคงกล่าวว่า "การใช้มาตรการดังกล่าวต่อสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเรื่องจำเป็น... เพื่อที่จะหยุดการเข้าออกของเรือสินค้า เพื่อตรวจสอบสินค้าและจุดหมายปลายทางบนเรือเหล่านั้นและเพื่อให้แน่ใจว่ามติที่ 661 ถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด”
ตั้งแต่แรกเริ่ม ทางการสหรัฐยืนยันว่าให้มีการถอนทหารอิรักทั้งหมดออกจากคูเวต โดยกล่าวว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับปัญหาอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง สหรัฐเกรงว่าหากมติเอกฉันท์ใด ๆ จากอิรักจะทำให้อิรักมีอิทธิพลในบริเวณดังกล่าวในอนาคต
ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ซัดดัมได้ประกาศให้มีการประนีประนอมผ่านทางวิทยุกรุงแบกแดดและหน่วยงานข่าวของอิรัก เขากล่าวว่า "ทุกการยึดครองที่เกิดขึ้น และทุกกรณีที่เห็นว่าเป็นการยึดครอง ในพื้นที่ดังกล่าว จะถูกยกเลิกพร้อม ๆ กัน" โดยเขากล่าวเป็นพิเศษว่าต้องการให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากปาเลสไตน์ ซีเรีย และเลบานอน รวมทั้งให้ซีเรียถอนกำลังออกจากเลบานอนด้วย และเสริมว่า "การถอนกำลังโดยอิรักและอิหร่านจัดการสถานการณ์วนคูเวต" เขาได้เรียกร้องให้หากองกำลังมาแทนกองทหารของสหรัฐในซาอุดิอาระเบียด้วยกองกำลังของชาติอาหรับ โดยจะต้องไม่เป็นกองกำลังจากอียิปต์ นอกจากนี้เขาขอให้ "หยุดการคว่ำบาตรทั้งหมด" และปฏิบัติต่ออิรักอย่างเป็นปกติ ตั้งแต่ที่วิกฤตการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐยืนกรานว่าการที่อิรักเข้ายึดคูเวตนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับปัญหาในปาเลสไตน์
ในวันที่ 23 สิงหาคม ซัดดัมปรากฏตัวทางโทรทัศน์พร้อมตัวประกันชาวตะวันตก ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะให้ออกจากประเทศ ในวิดีโอ เขาถามเด็กชายชาวอังกฤษ สจ๊วต ล็อกวูด ผ่านทางล่ามว่าเขาได้รับนมหรือไม่ และพูดต่อว่า "เราหวังว่าที่หนูมาในฐานะแขกจะไม่ต้องกินเวลานานนัก การที่หนูอยู่ที่นี่และที่อื่น ๆ เป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม"
อีกข้อเสนอหนึ่งจากอิรักเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2533 โดยส่งให้กับที่ปรึกษาความมั่งคงของชาติของสหรัฐ เบรนท์ สคอว์ครอฟท์ อิรักติดต่อกับทำเนียบขาวว่า "จะถอนทหารออกจากคูเวตและยอมให้ชาวต่างชาติออกนอกประเทศได้" โดยสหประชาชาติจะต้องยกเลิกการคว่ำบาตร โดยต้องยอมให้ "สามารถเข้าออกอ่าวเปอร์เซียผ่านเกาะบูบิยันและวาร์บาห์ของคูเวตได้โดยมีการรับรอง" และยอมให้อิรัก "ควบคุมทุ่งน้ำมันรูไมลาได้อย่างเต็มที่รวมทั้งบางส่วนในเขตของคูเวต" ข้อเสนอยังรวมทั้ง "ยอมให้มีการเจรจาการตกลงเรื่องน้ำมันกับสหรัฐ เพื่อความพอใจทั้งสองฝ่าย เพื่อ'พัฒนาแผนร่วมกัน'เพื่อบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินของอิรัก และ'ทำงานร่วมกันเพื่อคงไว้ซึ่งเสถียรภาพของอ่าวเปอร์เซีย'"
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2533 อิรักได้ยื่นข้อเสนอว่าจะถอนทหารออกจากคูเวตโดยจะไม่มีการโจมตีขณะทำการถอนทัพ และคำนึงถึงการห้ามใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงในพื้นที่ปาเลสไตน์ ทางทำเนียบขาวปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวยัสเซอร์ อาราฟัตจากให้คำบรรยายว่าทั้งเขาและซัดดัมไม่ยืนยันว่า ควรที่จะมีการแก้ไขปัญหาอิสราเอลและปาเลสไตน์ก่อนที่จะแก้ไขในคูเวต แม้ว่าเขารู้ว่าทั้งสองปัญหามีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด สหรัฐยืนหยัดว่าจะไม่มีการเจรจาใด ๆ จนกว่าอิรักจะถอนทหารออกจากคูเวตและพวกเขาจะไม่มีเอกฉันท์ใด ๆ ให้กับอิรัก เพื่อให้อิรักเห็นว่าพวกเขาไม่ได้อะไรจากปฏิบัติการทางทหารที่กระทำไป นอกจากนี้ เมื่อรัฐมนตรีของสหรัฐได้พบกับในกรุงเจนีวา ประเทศสวิซ ในนาทีสุดท้ายของการเจรจาเพื่อความสงบเมื่อต้นปีพ.ศ. 2534 มีรายงานว่าอซิซไม่มีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมและไม่เห็นความน่าสงสัยใด ๆ ในการกระทำของอิรัก
ในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 สภาความมั่นคงได้ลง ซึ่งให้เวลาอิรักถอนทหารออกจากคูเวตจนถึงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2534 และอนุญาตให้รัฐที่มีอำนาจ"ใช้ทุกวิธี"เพื่อขับไล่อิรักออกจากคูเวตเมื่อเกินเวลากำหนด
ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2534 ฝรั่งเศสได้ยื่นข้อเสนอให้สภาความมั่นคงเรียกร้องให้มี"การถอนทหารอย่างรวดเร็ว"จากคูเวตพร้อมกับส่งคำแถลงถึงอิรักว่าสมาชิกสภาความมั่นคงจะทำการ"เรี่ยไร"เพื่อยุติข้อพิพาทในพื้นที่ที่มีปัญหา "โดยเฉพาะปัญหาอิสราเอลกับรัฐอาหรับและปัญหาในปาเลสไตน์ ด้วยการจัดประชุมนานาชาติในเวลาที่เหมาะสม" เพื่อคงไว้ซึ่ง "เสถียรภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาในส่วนดังกล่าวของโลก" ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากเบลเยี่ยม (ขณะนั้นเป็นสมาชิกไม่ถาวรของสภา) เยอรมนี สเปน อิตาลี อัลจีเรีย โมรอกโก ตูนิเซีย และประเทศอื่นอีกมากมาย สหรัฐ สหราชอาณาจักร และสหภาพโซเวียตไม่เห็นด้วย ทูตสหรัฐในสหประชาชาติ โธมัส พิกเกอร์ริ่ง กล่าวว่าข้อเสนอของฝรั่งเศสนั้นไม่สามารถยอมรับได้ เพราะว่ามันไม่เป็นไปตามมติที่สภาได้ลงไว้ในตอนที่อิรักเข้ารุกรานคูเวต
วิธีการทางทหาร
ความกังวลหลักของประเทศตะวันตกคือการที่ซาอุดิอาระเบียตกอยู่ในภัยคุกคามจากอิรัก หลังจากที่คูเวตถูกยึด อิรักก็เข้าสู่ระยะใกล้พอที่จะเข้าโจมตีบ่อน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย หากว่าบ่อน้ำมันดังกล่าวถูกควบคุมพร้อมกับในคูเวตและของอิรัก ซัดดัมก็จะควบคุมแหล่งน้ำมันหลักของโลกเอาไว้ นอกจากนี้แล้วอิรักเองก็มีความแค้นส่วนตัวกับซาอุ ซาอุนั้นได้ให้เงินยืมแก่อิรักในสงครามอิรักอิหร่านเป็นจำนวน 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุที่ซาอุยอมช่วยอิรักในครั้งนั้นก็เพราะว่ากลัวอิทธิพลของนิกายชีอะฮ์ที่ลุกฮือจากการปฏิวัติในอิหร่าน หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ซัดดัมคิดว่าเขาไม่ต้องจ่ายหนี้ให้กับซาอุเพราะอิรักได้ช่วยตอบแทนด้วยการต่อสู้กับอิหร่านไปแล้ว
ไม่นานหลังจากที่ซัดดัมยึดคูเวตได้ เขาก็เริ่มทำการพูดโจมตีซาอุ โดยกล่าวว่า การที่สหรัฐสนับสนุนซาอุดิอาระเบียเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและไม่ควรค่าอย่างยิ่งที่สหรัฐจะเป็นคนปกป้องเมืองศักดิ์สิทธิ์อย่างเมกกะและอัลมะดีนะฮ์ เขาได้รวบรวมภาษาของกลุ่มอิสลามที่ได้ร่วมรบในอัฟกานิสถานเมื่อไม่นานพร้อมกับวาทศาสตร์แบบที่อิหร่านใช้โจมตีซาอุเป็นเวลานาน
ด้วยการใช้นโยบายตามหลักคาร์เตอร์และด้วยการเกรงว่ากองทัพบกอิรักจะเปิดการรุกเข้าซาอุดิอาระเบีย ประธานาธิบดีสหรัฐจอร์จ เอช. ดับบลิว. บุชจึงประกาศอย่างทันทีว่าจะทำการป้องกันซาอุจากการรุกรานของอิรักโดยใช้ชื่อว่า"ปฏิบัติการดีเซิร์ทชีลด์" ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2533 เมื่อทหารสหรัฐถูกส่งเข้าไปยังซาอุดิอาระเบียตามคำขอร้องจากกษัตริย์ฟาห์ดแห่งซาอุ การป้องกันทั้งหมดนี้ถูกยกเลิกอย่างรวดเร็วในวันที่ 8 สิงหาคม เมื่ออิรักประกาศว่าคูเวตจะเป็นจังหวัดที่ 19 ของอิรักและปกครองโดยผู้ว่ากึ่งทหาร อลี ฮัสซาน อัลมาจิด ญาติของซัดดัมเอง
กองทัพเรือสหรัฐได้ส่งกองเรือรบสองกลุ่มเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย โดยมีเรือบรรทุกอากาศยานและเป็นหลักและพร้อมรบในวันที่ 8 สิงหาคม นอกจากนี้ยังมีเรือประจัญบานและที่ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่อีกด้วย มีเอฟ-15 ทั้งหมด 48 ลำจากฝูงบินขับไล่ที่ 1 จากฐานทัพอากาศแลงลีย์ของสหรัฐ โดยมาลงจอดที่ซาอุดิอาระเบียและออกปฏิบัติหน้าที่บินลาดตระเวนบริเวณชายแดนซาอุ คูเวต อิรักในทันทีเพื่อเป็นการข่มขวัญทหารอิรักที่กำลังรุกคืบ นอกจากนี้ยังมีกองเสริมเป็นเอฟ-15เอ-ดี 36 ลำจากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 36 จากเยอรมนี กองบินดังกล่าวเข้าประจำการที่ฐานบินอัล คาร์จ ซึ่งห่างจากกรุงริยาดห์ประมาณ 1 ชั่วโมงจากทางตะวันออกเฉียงใต้ ในการรบฝูงบินที่ 36 สามารถยิงเครื่องบินของอิรักตกได้ 11 ลำ นอกจากนี้ยังมีหน่วยบินสองหน่วยจากกองกำลังป้องกันทางอากาศแห่งชาติเข้ามาประจำการที่ฐานบินอัล คาร์จ ฝูงบินขับไล่ที่ 169 ของสหรัฐจากเซาท์แคโรไลนาได้เข้าทำภารกิจทิ้งระเบิดร่วมกับเอฟ-16 จำนวน 24 ลำ โดยทำภารกิจทั้งหมด 2,000 เที่ยวและทิ้งระเบิดไป 4 ล้านปอนด์ เอฟ-16 อีก 24 ลำจากฝูงบินที่ 24 จากนิวยอร์กก็ร่วมทำภารกิจทิ้งระเบิดเช่นกัน นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการสั่งสมกองกำลังทหารจนในที่สุดมีทหารมากถึง 543,000 นาย เป็นสองเท่าของจำนวนทหารที่ใข้ในการรุกรานอิรัก พ.ศ. 2546 อุปกรณ์มากมายถูกส่งมาทางเครื่องบินหรือเรือ เป็นเหตุผลที่พวกเขาสามารถระดมพลได้รวดเร็วมาก
การก่อตั้งกองกำลังผสม
มติมากมายจากสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับถูกลงนามในช่วงที่อิรักรุกรานคูเวต มติหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ที่ออกมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ซึ่งให้เส้นตายในการถอนทัพแก่อิรักในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2534 และให้คำสั่งในการใช้ทุกวิธีเพื่อคงไว้ซึ่งมติที่ 660 และรูปแบบทางการทูตที่อนุญาตให้ใช้กำลังหากอิรักไม่สามารถถอนทหารในเวลาที่กำหนดได้
สหรัฐได้รวบรวมกองกำลังผสมของนานาชาติเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้านการรุกรานจากอิรัก โดยประกอบด้วยประเทศทั้งหมด 34 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บาห์เรน บังกลาเทศ เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก อียิปต์ ฝรั่งเศส กรีซ อิตาลี คูเวต โมรอกโก เนเธอแลนด์ นิวซีแลนด์ ไนเจอร์ นอร์เวย์ โอมาน ปากีสถาน โปรตุเกส กาตาร์ เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย เซเนกัล เซียราลีโอน สิงคโปร์ สเปน ซีเรีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นายพลจากกองทัพบกสหรัฐนอร์แมน ชวาซคอพฟ์ จูเนียร์ ได้รับหน้าที่ในการบัญชาการกองกำลังผสมในพื้นที่อ่าวเปอร์เซีย
แม้ว่าญี่ปุ่นและเยอรมนีจะไม่ได้ส่งทหารร่วมสงคราม แต่พวกเขาให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ กองกำลังผสมคิดเป็นทหารสหรัฐร้อยละ 73 จากทั้งหมด 956,600 นาย
กองกำลังผสมบางส่วนรู้สึกลังเลที่จะเข้าร่วมสงคราม บางชาติเห็นว่าสงครามดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของชาติอาหรับ หรือบางชาติก็ไม่ต้องการที่จะให้สหรัฐมีอิทธิพลในตะวันออกกลางมากขึ้น ในท้ายที่สุดหลายประเทศก็ยอมเข้าร่วมเพราะเห็นความเกรี้ยวกราดของอิรักที่มีต่อรัฐอาหรับอื่น ๆ โดยชาติเหล่านั้นเสนอที่จะให้การช่วยเหลือทางเศรษฐกิจหรือยกเลิกหนี้สิน
เหตุผลในการเข้าแทรกแซง
สหรัฐและสหประชาชาติให้เหตุผลมากมายในการเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ในคูเวตต่อสาธารณะ เหตุผลหลักก็คือการที่อิรักรุกรานอาณาเขตของคูเวตนั่นเอง นอกจากนี้สหรัฐยังเข้าสนับสนุนพันธมิตรอย่างซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญในตะวันออกกลางและเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายสำคัญ โดยมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความสำคัญด้านภูมิศาสตร์การเมือง ไม่นานหลังจากการรุกรานคูเวต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดิก เชนีย์ได้ไปเยือนซาอุดิอาระเบียตามคำร้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐโดยกษัตริย์ฟาห์ดแห่งซาอุ ในการแถลงการในการประชุมพิเศษของสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2533 ประธานาธิบดีสหรัฐจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุชได้รวบรวมเหตุผลพร้อมกับรายละเอียดว่า "ภายในสามวัน ทหารอิรัก 120,000 นายพร้อมรถถัง 850 คันได้ทะลักเข้าคูเวตและเคลื่อนพลไปทางใต้เพื่อคุกคามซาอุดิอาระเบีย นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าตัดสินใจที่จะลงมือเพื่อจัดการกับการรุกรานดังกล่าว"
ทางเพนตากอนได้กล่าวว่ารูปถ่ายทางดาวเทียมได้แสดงให้เห็นกองกำลังอิรักที่ระดมพลตลอดแนวชายแดน แต่ต่อมาพบว่าเป็นการเข้าใจผิด ผู้รายงานข่าวจากได้ภาพถ่ายสองภาพจากดาวเทียมพาณิชย์ของโซเวียตที่แสดงให้เห็นเพียงทะเลทรายที่ว่างเปล่า
เหตุผลอื่น ๆ ในการเข้าแทรกแซงคือการที่อิรักมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงการปกครองโดยซัดดัม นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันโดยทั่วว่าอิรักนั้นครอบครองอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมี ซึ่งซัดดัมเคยใช้จัดการกับทหารอิหร่านในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรักและใช้กับชาวเคิร์ดที่อาศัยอยู่ในอิรักอีกด้วย อิรักเองก็มีโครงการอาวุธนิวเคลียร์แต่ข้อมูลดังกล่าวส่วนหนึ่งจากปีพ.ศ. 2534 ถูกหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริงในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2544
แม้ว่าจะมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในคูเวตโดยกองทัพอิรัก แต่กรณีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในสหรัฐคือการแทรกแซงบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ว่าจ้างโดยรัฐบาลคูเวตเพื่อส่งอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสหรัฐในการใช้ทหารเข้าแทรกแซง ไม่นานหลังจากการรุกรานคูเวต องค์กรที่เรียกว่า"กลุ่มพลเมืองเพื่อปลดปล่อยคูเวต"ก็เกิดขึ้นในสหรัฐ องค์กรดังกล่าวได้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ชื่อฮิลล์แอนด์โนล์ตันเป็นจำนวนเงินประมาณ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีรัฐบาลแห่งคูเวตเป็นคนจ่าย
ในหมู่วิธีอื่น ๆ ที่ส่งอิทธิพลต่อความเห็นของสหรัฐ (เช่น การแจกจ่ายหนังสือที่ตีแผ่ความโหดร้ายของอิรักต่อทหารอเมริกัน เสื้อที่มีข้อความว่า'ปลดปล่อยคูเวต' รวมทั้งการกระจายเสียงในมหาวิทยาลัยและวิดีโอมากมายทางโทรทัศน์) บริษัทดังกล่าวได้จัดให้มีการปรากฏตัวต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรส ซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งระบุตนว่าเป็นพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลในคูเวต พร้อมอธิบายว่าเห็นทหารอิรักนำเด็กทารกออกจากเครื่องอบและทิ้งให้ทารกตายบนพื้น
เรื่องดังกล่าวส่งอิทธิพลต่อทั้งสาธารณะและสภาคองเกรสในเรื่องการทำสงครามกับอิรัก สมาชิกสภาหกคนเห็นว่าเรื่องเล่าดังกล่าวเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะให้ใช้กองทัพจัดการกับอิรักและมีวุฒิสมาชิกอีกเจ็ดคนที่นำเรื่องดังกล่าวสู่การถกเถียง วุฒิสภาสนับสนุนให้มีการลงมือทางทหารด้วยเสียงโหวต 52 ต่อ 47 เสียง อย่างไรก็ตามหนึ่งปีหลังจากสงครามเริ่มขึ้น การให้การดังกล่าวถูกเปิดเผยว่าเป็นเรื่องโกหก ผู้หญิงคนดังกล่าวที่เป็นคนให้การถูกพบในภายหลังว่าเป็นสมาชิกราชวงศ์ของคูเวต และเป็นลูกสาวของทูตคูเวตในสหรัฐ เธอไม่ได้อาศัยอยู่ในคูเวตตอนที่อิรักทำการบุกด้วยซ้ำ
รายละเอียดของการประชาสัมพันธ์โดยบริษัทฮิลล์แอนด์โนล์ตันถูกตีพิมพ์ในหนังสือ Second Front: Censorship and Propaganda in the Gulf War ที่เขียนโดยจอห์น อาร์. แมคอาเธอร์ และเป็นที่สนใจในหมู่ประชาชนเมื่อความคิดเห็นของแมคไนท์ถูกตีพิมพ์ใน"เดอะนิวยอร์กไทมส์" สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีการกระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบ หลังจากที่ไม่พบหลักฐานเรื่องที่ทหารอิรักปฏิบัติกับเด็กทารก องค์กรดังกล่าวก็ถอนตัวออกไป ประธานาธิบดีบุชได้ย้ำเรื่องข้อกล่าวหาดังกล่าวอีกครั้งทางโทรทัศน์
ในขณะเดียวกัน กองทัพบกอิรักได้ก่ออาชญากรรมหลายครั้งซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ในช่วงที่เข้ายึดครองคูเวต เช่น การประหารนักโทษสามพี่น้องโดยปราศจากการไต่สวน ศพของทั้งสามถูกสุมทิ้งไว้ให้เน่าอยู่กลางถนน ทหารอิรักยังได้เข้าปล้นสะดมบ้านของประชาชนอีกด้วย บ้านหลังหนึ่งถูกใช้เป็นที่ถ่ายของเสียอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาผู้อยู่อาศัยคนหนึ่งกล่าวว่า "เรื่องทั้งหมดเป็นการใช้ความรุนแรงแก้ไขความรุนแรง เป็นการใช้การทำลายเพื่อต่อกรกับอีกการทำลาย... คุณลองนึกถึงภาพวาดเหนือความจริงของซัลวาดอร์ ดาลีดูสิ"
สงครามช่วงต้น
การทัพทางอากาศ
สงครามอ่าวเริ่มขึ้นด้วยการทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างดุเดือดในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2534 เครื่องบินของกองกำลังผสมทำการบินกว่า 1 แสนครั้งพร้อมทิ้งระเบิดกว่า 88,500 ตัน และได้ทำลายสิ่งก่อสร้างทางทหารและพลเรือนไปเป็นจำนวนมาก การศึกทางอากาศบัญชาการโดยพลอากาศโทจากกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหน้าเป็นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในขณะที่นายพลชวาซคอพฟ์ยังอยู่ที่สหรัฐ
หนึ่งวันหลังจากเส้นตายตามมติที่ 678 กองกำลังผสมได้เปิดการศึกทางอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปฏิบัติการพายุทะเลทราย จุดประสงค์หลักของกองกำลังผสมคือการเข้าทำลายกองทัพอากาศและฐานต่อต้านอากาศยานของอิรัก การบินส่วนมากมีฐานจากซาอุดิอาระเบียและกองเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งหกลำของกองกำลังผสมที่จอดอยู่ในอ่าวเปอร์เซียและทะเลแดง
เป้าหมายต่อไปคือศูนย์อำนวยความสะดวกและศูนย์บัญชาการของอิรัก ซัดดัม ฮุสเซนได้ทำการจัดการกองทัพอิรักด้วยตัวเองทั้งหมดในสงครามอิหร่าน-อิรัก นักยุทธวิธีของกองกำลังผสมหวังที่จะให้การต่อต้านของอิรักพังทลายลงให้เร็วที่สุดเมื่อศูนย์บัญชาการและควบคุมถูกทำลาย
การศึกทางอากาศครั้งที่สามเป็นครั้งใหญ่ที่สุดโดยเล็งเป้าไปที่กองกำลังทหารที่อยู่ในอิรักและคูเวต เช่น ขีปนาวุธสกั๊ด ศูนย์วิจัยอาวุธ และกองกำลังทางทะเล กองกำลังทางอากาศ 1 ใน 3 ของกองกำลังผสมได้รับมอบหมายให้ทำลายขีปนาวุธสกั๊ด ซึ่งบางลูกติดตั้งบนรถบรรทุกซึ่งทำให้ตามหาได้ยาก หน่วยรบพิเศษของสหรัฐและสหราชอาณาจักรได้แทรกซึมเข้าไปทางตะวันตกของอิรักเพื่อค้นหาและทำลายขีปนาวุธดังกล่าว
การป้องกันทางอากาศของอิรักที่มีทั้ง อาวุธเคลื่อนที่ได้ พบว่าไร้ประสิทธิภาพต่อเครื่องบินของกองกำลังผสมอย่างมาก โดยกองกำลังผสมสูญเสียเครื่องบินไปเพียง 75 ลำจากการบินทั้งหมด 1 แสนครั้ง ในจำนวนนั้น 44 ลำถูกยิงตกโดยอิรัก 2 ลำชนกับพื้นดินขณะหลบการยิงจากทหารอิรักบนพื้น หนึ่งลำถูกยิงตกโดยเครื่องบินอิรัก
อิรักใช้ขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย
รัฐบาลของอิรักเตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับเสมอหากถูกรุกราน ก่อนที่สงครามเริ่มต้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิรักทาริก อซิซถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าวหลังจากการประชุมเพื่อสันติภาพกับสหรัฐที่เจนีวาล้มเหลวลง นักข่าวถามเขาว่า "ท่านรัฐมนตรีครับ ถ้าสงครามเริ่มขึ้น...อิรักจะตอบโต้หรือไม่" นายทาริกตอบว่า "ครับ แน่นอน"
ห้าชั่วโมงหลังจากการโจมตีครั้งแรก วิทยุของอิรักได้ประกาศว่า "ชัยชนะของเราอยู่แค่เอื้อมเมื่อเราเริ่มตอบโต้นี้" อิรักได้ยิงขีปนาวุธแปดลูกในวันต่อมา การใช้ขีปนาวุธเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดสงคราม มีการยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปทั้งหมด 88 ลูกในช่วงเจ็ดสัปดาห์ของสงคราม
อิรักหวังว่าจะกระตุ้นให้อิสราเอลเข้าร่วมสงครามด้วย รัฐบาลอิรักหวังว่าชาติอาหรับหลายชาติจะถอนตัวออกจากกองกำลังผสมหากอิสราเอลเข้าร่วมเพราะชาติอาหรับอาจลังเลใจที่จะอยู่ข้างเดียวกันกับอิสราเอล หลังจากการโจมตีครั้งแรก ได้ส่งเครื่องบินเข้าลาดตระเวนบริเวณน่านฟ้าทางเหนือของอิรัก อิสราเอลเตรียมกองทัพเพื่อตอบโต้ตามนโยบายของตนตลอด 40 ปีที่ใช้การตอบโต้มาโดยตลอด อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีบุชได้กดดันนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลให้อยู่เฉย ๆ เพราะกลัวว่าหากอิสราเอลโจมตีอิรัก ชาติอาหรับอื่น ๆ อาจถอนตัวออกจากกองกำลังผสมหรือเข้าร่วมกับอิรัก นอกจากนี้สหรัฐยังกลัวว่าหากอิสราเอลใช้น่านฟ้าของซีเรียหรือจอร์แดนในการโจมตีอิรัก ชาติเหล่านั้นก็จะเข้าร่วมกับอิรักหรือโจมตีอิสราเอล กองกำลังผสมให้สัญญาว่าจะใช้ขีปนาวุธป้องกันอิสราเอลจากขีปนาวุธสกั๊ด
ขีปนาวุธสกั๊ดที่ยิงใส่อิสราเอลนั้นพบว่าไร้ประสิทธิภาพ ด้วยการยิงที่พิสัยสูงสุดส่งผลให้ความแม่นยำและน้ำหนักระเบิดลดลง ห้องสมุดเสมือนชาวยิวได้รายงานว่ามีชาวอิสราเอล 74 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิรัก สองคนเสียชีวิตจากการถูกระเบิดและที่เหลือเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจและหัวใจวายเฉียบพลัน มีชาวอิสราเอลประมาณ 230 คนได้รับบาดเจ็บ ในเหตุการณ์หนึ่งได้เกิดการโจมตีเข้าที่ละแวกเทล อะวิฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสามรายและบาดเจ็บอีก 96 ราย ทรัพย์สินมหาศาลได้รับความเสียหาย กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวว่า "ความเสียหายทั่วไปแก่ทรัพย์สินได้แก่ บ้าน 1,302 หลัง อพาร์ทเมนท์ 6,142 แห่ง สิ่งก่อสร้างสาธารณะ 23 แห่ง ร้านค้า 200 ร้าน และรถ 50 คัน" เป็นที่กลัวกันว่าอิรักจะยิงขีปนาวุธที่มีส่วนประกอบของแก๊ซทำลายประสาทหรือซาริน ผลที่ตามมาคือรัฐบาลอิสราเอลได้แจกจ่ายหน้ากากกันแก๊ซให้กับประชาชนของตน เมื่อขีปนาวุธลูกแรกยิงเข้าใส่อิสราเอล มีผู้คนบางจำนวนที่ฉีดยาถอนพิษให้กับตัวเอง
เพื่อโต้ตอบการใช้ขีปนาวุธของอิรัก สหรัฐได้ส่งขีปนาวุธเพเทรียตจำนวนมากเข้าไปยังอิสราเอลโดยมีแท่นยิงจรวดสองแท่นเพื่อเอาไว้ปกป้องประชาชน กองทัพอากาศของกองกำลังผสมทำการฝึกล่าขีปนาวุธสกั๊ดอย่างจริงจังในทะเลทรายของอิรัก เพื่อหาตำแหน่งรถถังบรรทุกที่พรางตัวก่อนที่อิรักจะใช้มันยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลหรือซาอุดิอาระเบียได้ ทางภาคพื้นดินหน่วยรบพิเศษได้ทำการแทรกซึมเข้าไปยังอิรักเพื่อค้นหาและทำลายขีปนาวุธสกั๊ด เมื่อหน่วยรบพิเศษทำงานร่วมกับหน่วยลาดตระเวนทางอากาศทำให้การโจมตีมีความแม่นยำขึ้น ทางอิรักจึงเริ่มปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเช่นกัน
ใช้ขีปนาวุธเพเทรียตเพื่อตอบโต้ขีปนาวุธสกั๊ดเช่นกัน กระทรวงกลาโหมของเนเธอร์แลนด์กล่าวในเวลาต่อมาว่าการใช้เพเทรียตส่วนมากนั้นไร้ประสิทธิภาพ แต่ผลทางจิตวิทยานั้นกลับเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก แม้ว่าขขีปนาวุธเพเทรียตเองจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าที่ขีปนาวุธสกั๊ดทำเสียอีก มีการแนะนำว่าการที่อิสราเอลเสริมความแข็งแกร่งให้กับเมืองของตนนั้นมีบทบาทสำคัญที่ทำให้อิสราเอลสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากขีปนาวุธสกั๊ดได้ รวมทั้งเป็นเพราะว่าขีปนาวุธสกั๊ดจะทำการยิงแค่ในตอนกลางคืนเท่านั้น
ในขณะที่การโจมตีด้วยขีปนาวุธสกั๊ดดำเนินต่อไป อิสราเอลก็เริ่มหมดความอดทนและคิดจะดำเนินการรบฝ่ายเดียวกับอิรัก หลังจากการโจมตีที่รามัตกัน อิสราเอลได้เตือนว่าหากสหรัฐไม่สามารถหยุดยั้งขีปนาวุธได้อิสราเอลก็จะทำเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งหน่วยคอมมานโดของอิสราเอลได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์และเตรียมบินไปยังอิรัก แต่ว่าถูกยกเลิกหลังจากมีโทรศัพท์จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดิก เชนีย์ ซึ่งโทรมารายงานว่ากองกำลังผสมได้เพิ่มความพยายามที่จะทำลายขีปนาวุธสกั๊ดและย้ำว่าการแทรกแซงของอิสราเอลอาจทำให้กองกำลังของสหรัฐตกอยู่ในอันตราย
นอกจากเหนือจากการโจมตีอิสราเอลแล้ว อิรักยังได้ยิงขีปนาวุธสกั๊ด 47 ลูกเข้าใส่ซาอุดิอาระเบียและยิงใส่บาห์เรนและกาตาร์แห่งละลูก ขีปนาวุธเหล่านั้นเล็งเป้าไปที่ทหารและพลเมือง มีพลเมืองชาวซาอุหนึ่งคนเสียชีวิตและอีก 78 คนได้รับบาดเจ็บ ไม่มีผู้เสียชีวิตในบาห์เรนและกาตาร์ รัฐบาลของซาอุได้แจกจ่ายหน้ากากกันแก๊ซให้กับประชาชนและผู้อพยพเพื่อปกป้องการใช้อาวุธเคมีหรือขีวภาพของอิรัก รัฐบาลยังได้ประกาศเตือนภัยและปลอดภัยผ่านทางโทรทัศน์เพื่อเตือนประชาชนเสมอเมื่อเกิดการโจมตี
ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ขีปนาวุธสกั๊ดลูกหนึ่งตกใส่ค่ายกองทหารพลาธิการที่ 14 ของสหรัฐใน ประเทศซาอุดิอาระเบีย สังหารทหารไป 28 นายและบาดเจ็บอีกกว่า 100 นาย
ยุทธการคาฟจิ
ส่วนนี้ไม่มีจาก โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่ม เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
ในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2534 กองกำลังอิรักได้เข้าโจมตีและยึดครองเมืองที่แทบจะไร้การป้องกันของซาอุ ยุทธการคาฟจิสิ้นสุดลงในอีกสองวันต่อมาเมื่อกองกำลังอิรักถูกรุกตีโดยและที่สนับสนุนโดยกองกำลังจากกาตาร์ กองกำลังชาติพันธมิตรได้ให้และการระดมยิงด้วยปืนใหญ่
ทั้งสองฝ่ายล้วนสูญเสียเป็นจำนวนมาก แม้ว่าทางอิรักจะมีการสูญเสียมากกว่าเล็กน้อย มีทหารอเมริกัน 11 นายถูกสังหารในเหตุยิงกันเองสองครั้ง รวมกับทหารอากาศอีก 14 นายที่เสียชีวิตจากเครื่องเอซี-130 ที่ถูกยิงตกโดยอิรัก และมีทหารอีกสองนายถูกจับเป็บเชลย กองกำลังของซาอุและกาตาร์สูญเสียทหารรวมกัน 18 นาย ส่วนอิรักสูญเสียทหารไป 60-300 นายและถูกจับอีก 400 นาย
คาฟจิกกลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทันทีหลังจากที่อิรักบุกคูเวต อิรักลังเลที่จะส่งกองพลยานเกราะจำนวนมากเข้ายึดครองเมืองและการใช้เมืองเป็นฐานโจมตีฝั่งตะวันออกที่มีการป้องกันน้อยของซาอุดิอาระเบียในเวลาต่อมานั้น ถูกมองว่าเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์[] ไม่เพียงแค่อิรักอาจสามารถรักษาเสบียงน้ำมันส่วนใหญ่ของตะวันออกกลางไว้ได้ แต่ยังอาจสามารถจัดการกับทหารสหรัฐที่วางอยู่ตามแนวป้องกันที่เหนือกว่าได้ดีกว่านี้เสียด้วย
การทัพทางบก
กองกำลังผสมได้ยึดครองน่านฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าอิรัก กองกำลังของพวกเขาได้เปรียบอย่างมากเพราะได้รับการป้องกันจาก ซึ่งได้มาโดยกองทัพอากาศก่อนที่จะมีการรุกทางบก กองกำลังผสมยังมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีสองอย่างด้วยกัน คือ
- ของกองกำลังผสม เช่น เอ็ม1 เอบรามส์ของสหรัฐ ชาลเลนเจอร์ 1 ของอังกฤษ และเอบีของคูเวต มีความสามารถเหนือกว่า(ไทป์ 69) ของจีนและที-72 ของอิรักอย่างมาก รวมทั้งทหารยานเกราะของกองกำลังผสมเองก็ได้รับการฝึกฝนมาดีกว่า
- การใช้จีพีเอสทำให้กองกำลังผสมสามารถหาหนทางได้โดยไม่ต้องพึ่งถนนหรือสัญลักษณ์ใด ๆ เมื่อรวมกับการลาดตระเวนทางอากาศทำให้พวกเขาเลือกที่จะสู้ด้วยแทนที่จะใช้การรบแบบแตกหัก เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาอยู่ตรงไหนและศัตรูอยู่ตรงไหน พวกเขาจึงสามารถโจมตีเป้าหมายเฉพาะแทนที่จะเป็นการค้นหาศัตรูตามพื้นดิน
ปลดปล่อยคูเวต
สหรัฐได้วางแผนหลอกล่ออิรักด้วยการโจมตีทางอากาศและทางเรือในคืนก่อนการปลดปล่อยคูเวตเพื่อให้อิรักเชื่อว่ากองกำลังหลักจะเข้าโจมตีส่วนกลางของคูเวต
เป็นเวลาหลายเดือนที่ทหารของอเมริกาในซาอุดิอาระเบียต้องตกอยู่ภายใต้การยิงจากอิรักและขีปนาวุธสกั๊ด ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 กองนาวิกโยธินที่ 1 และ 2 พร้อมกับกองพันทหารยานเกราะเบาที่ 1 ได้เข้าไปยังตูเวตและมุ่งหน้าไปยังคูเวตซิตี พวกเขาปะทะกับแนวสนามเพลาะ ลวดหนาม และทุ่งกับระเบิด อย่างไรก็ตามอิรักมีการป้องกันที่เบาบางและถูกเอาชนะภายในไม่กี่ชั่วโมงแรก การรบระหว่างรถถังจำนวนมากเกิดขึ้นแต่นอกจากนั้นแล้วกองกำลังผสมก็พบเพียงการต่อต้านเพียงเล็กน้อยเพราะทหารอิรักส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมจำนน วิธีทั่วไปของทหารอิรักคือสู้ก่อนสักเล็กน้อยแล้วค่อยยอมแพ้ อย่างไรก็การป้องกันทางอากาศของอิรักได้ยิงอากาศยานของสหรัฐตกได้ถึง 9 ลำ ในขณะเดียวกันกองกำลังจากประเทศอาหรับก็รุกคืบเข้าไปในคูเวตจากทางตะวันออกและปะทะกับการต่อต้านเล็กน้อยพร้อมกับสูญเสียทหารไปไม่มากนัก
แม้ว่ากองกำลังผสมจะประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นที่กลัวกันว่าริพับลิกันการ์ดของอิรักจะสามารถหลบหนีเข้าไปยังอิรักก่อนที่จะถูกทำลายได้ จากนั้นจึงมีการตัดสินใจส่งกองกำลังยานเกราะของอังกฤษเข้าไปยังคูเวต 15 ชั่วโมงก่อนกำหนดการและให้กองกำลังของสหรัฐไล่ตามริพับลิกันการ์ด การรุกของกองกำลังเริ่มด้วยการระดมยิงด้วยปืนใหญ่และจรวดเพื่อเปิดทางให้กับทหาร 150,000 นายและรถถังอีก 1,500 คัน กองกำลังของอิรักในคูเวตตอบโต้ทหารสหรัฐตามคำสั่งโดยตรงของซัดดัม แม้ว่าการรบจะดุเดือดแต่กระนั้นทหารอเมริกันก็สามารถตอบโต้ทหารอิรักและรุกต่อไปยังคูเวตซิตี
กองกำลังของคูเวตได้รับมอบหมายให้ทำการปลดปล่อยเมือง ทหารอิรักทำการต่อต้านได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คูเวตเสียทหารไปหนึ่งนายและเครื่องบินอีกหนึ่งลำ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ซัดดัมได้สั่งให้กองทัพล่าถอยออกจากคูเวต ประธานาธิบดีบุชประกาศว่าคูเวตได้รับอิสรภาพแล้ว อย่างไรก็ดีทหารอิรักที่ท่าอากาศยานนานาชาติคูเวตดูเหมือนจะไม่ได้รับข้อความดังกล่าวและทำการต่อสู้อย่างดุเดือด นาวิกโยธินสหรัฐต้องต่อสู้เป็นชั่วโมงจึงจะสามารถยึดสนามบินไว้ได้ หลังจากผ่านไปสี่วันของการรบ กองกำลังของอิรักก็ถูกขับไล่ออกจากคูเวต พวกเขาวางเพลิงบ่อน้ำมันของคูเวตเกือบ 700 แห่งและวางทุ่นระเบิดไว้รอบ ๆ บ่อน้ำมันเพื่อให้การควบคุมเพลิงเป็นไปได้ยาก
เริ่มต้นบุกอิรัก
การทัพทางบกถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่าปฏิบัติการดีเซิร์ทเซเบอร์
หน่วยรบแรกที่ถูกส่งเข้าไปยังอิรักคือหน่วยลาดตระเวนสามหน่วยจากหน่วยเอสเอเอสของอังกฤษ โดยมีรหัสว่า บราโววันซีโร บราโวทูซีโร และบราโวทรีซีโร[] หน่วยลาดตระเวนหน่วยละแปดนายนี้ได้เข้าไปยังหลังแนวของอิรักเพื่อรวบรวมข้อมูลของขีปนาวุธสกั๊ด ซึ่งไม่สามารถตรวจพบด้วยเครื่องบินได้ เพราะพวกมันถูกซ่อนไว้ใต้สะพานและถูกอำพรางในตอนกลางวัน อีกเป้าหมายหนึ่งคือการทำลายสายสื่อสารไฟเบอร์ออพติกที่อยู่ในท่อและตัวส่งสัญญาณไปยังเครื่องยิงขีปนาวุธสกั๊ด ปฏิบัติการนี้มีเพื่อป้องกันไม่ให้อิสราเอลเข้าแทรกแซง แต่เนื่องจากไม่มีที่กำบังเพียงพอที่จะทำภารกิจทำให้บราโววันซีโรและบราโวทรีซีโรต้องยกเลิกภารกิจ ในขณะที่บราโวทูซีโรดำเนินภารกิจต่อจนกระทั่งพวกเขาถูกตรวจพบ มีเพียงสิบเอกเท่านั้นที่สามารถหลบหนีไปยังซีเรียได้
ทหารบางส่วนจากกองพลน้อยที่ 2 กรมทหารม้าที่ 5 จากกองพลทหารม้าที่ 1 ของสหรัฐเข้าทำการโจมตีโดยตรงใส่อิรักในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ตามมาด้วยการโจมตีอีกครั้งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่วันที่ 15-20 กุมภาพันธ์ได้เกิดขึ้นในอิรัก เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีครั้งแรกในสองครั้งโดยกองพันที่ 1 กรมทหารม้าที่ 5 จากกองพลทหารม้าที่ 1 การโจมตีครั้งนั้นเป็นการโจมตีหลอกล่อเพื่อให้ทหารอิรักคิดว่ากองกำลังผสมจะทำการรุกจากทางใต้ ทหารอิรักทำการป้องกันอย่างดุเดือดทำให้ทหารอเมริกันต้องล่าถอยตามแผนไปยังวาดิอัลบาติน ทหารสหรัฐสามนายถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บเก้านาย ยานพาหนะต่อสู้ทหารราบสูญเสียป้อมปืนไปหนึ่ง แต่สามารถจับเชลยได้ 40 นายและทำลายรถถัง 5 คันพร้อมกับลวงอิรักได้สำเร็จ การโจมตีครั้งนี้นำด้วยกองพลน้อยทางอากาศที่ 18 เพื่อกวาดพื้นที่หลังกองพลทหารม้าที่ 1 และโจมตีกองทหารอิรักทางทิศตะวันตก ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 อิรักเห็นด้วยกับข้อตกลงหยุดยิงที่โซเวียตเสนอ ข้อตกลงดังกล่าวเรียกร้องให้อิรักถอนทหารให้ไปอยู่ในตำแหน่งก่อนการรุกรานคูเวตภายใน 6 อาทิตย์และให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเฝ้าดูการหยุดยิงและล่าถอยของอิรัก
กองกำลังผสมปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวแต่ให้การว่าจะไม่ทำการโจมตีทหารอิรักที่ล่าถอย[]และให้เวลา 24 ชั่วโมงเพื่อเริ่มการล่าถอย ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์มีทหารอิรักถูกจับเป็นเชลย 500 นาย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์กองกำลังยานเกราะของอังกฤษและสหรัฐจำนวนมหาศาลข้ามชายแดนอิรักคูเวตและเข้าไปยังอิรักพร้อมจับเชลยได้นับร้อย อิรักทำการต่อต้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สหรัฐสูญเสียทหารไป 4 นาย
กองกำลังผสมตราทัพเข้าอิรัก
ไม่นานนักในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ก็เกิดการโจมตีทหารอิรักที่อยู่ทางตะวันตกของคูเวตโดยกองพลน้อยที่ 5 ของสหรัฐอย่างเต็มอัตราโดยมีกรมทหารม้ายานเกราะที่ 2 เป็นหัวหอก ในขณะเดียวกันกองพลน้อยทางอากาศที่ 18 ของสหรัฐก็เปิดการโจมตีจากทางซ้ายผ่านทะเลทรายทางใต้ของอิรักโดยมีหัวหอกเป็นกรมทหารม้ายานเกราะที่ 3 และกองพลทหารราบที่ 24 ของสหรัฐ ทางปีกซ้ายของการโจมตีได้รับการคุ้มครองโดยกองพลยานเกราะเบาที่ 6 ของฝรั่งเศส
กองกำลังฝรั่งเศสเข้าปะทะกับกองพลทหารราบที่ 45 ของอิรักอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเศสสูญเสียทหารไปเล็กน้อยและสามารถจับเชลยได้เป็นจำนวนมาก จากนั้นก็รักษาตำแหน่งเพื่อป้องกันการตอบโต้จากอิรัก ทางปีกขวาได้รับการคุ้มกันโดยกองพลยานเกราะที่ 1 ของอังกฤษ เมื่อกองกำลังพันธมิตรบุกทะลวงลึดเข้าไปในเขตของอิรักก็เลี้ยวไปทางตะวันออกเพื่อเริ่มการโจมตีโอบกองทหารริพับลิกันการ์ดก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีไป อิรักทำการต่อสู้อย่างดุเดือดในที่มั่น
การปะทะครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะทหารอิรักไม่ยอมแพ้หลังจากที่รถถังคันของฝ่ายตนถูกทำลาย ทหารอิรักสูญเสียเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยานพาหนะและรถถังจำนวนมากเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐสูญเสียน้อยมากโดยเสียยานเกราะไปเพียงหนึ่งคัน กองกำลังผสมรุกเข้าไปอีก 10 กิโลเมตรและบรรลุเป้าหมายภายในสามชั่วโมง พวกเขาจับเชลยได้ 500 นายและสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาลด้วยการเอาชนะกองพลทหารราบที่ 26 ของอิรัก มีทหารสหรัฐหนึ่งนายเสียชีวิตจากกับระเบิด อีกห้าคนเสียชีวิตเพราะยิงกันเอง และอีกสามสิบได้รับบาดเจ็บขณะปะทะ ขณะเดียวกันกองกำลังของอังกฤษก็เข้าโจมตีกองพลเมดินาและฐานส่งกำลังบำรุงของริพับลิกันการ์ด เกือบสองวันที่มีการรบกันดุเดือดที่สุด อังกฤษได้ทำลายรถถังไป 40 คันและสามารถจับตัวผู้บังคับบัญชากองพลได้หนึ่งนาย
ขณะเดียวกันกองกำลังของสหรัฐก็เข้าโจมตีหมู่บ้านอัลบูเซย์ยาห์และพบกับการต่อต้านที่รุนแรง สหรัฐไม่มีการสูญเสียแต่สามารถทำลายยุทโธปกณ์พร้อมกับจับเชลยได้เป็นจำนวนมาก
ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 กองกำลังอิรักได้ยิงขีปนาวุธสกั๊ดใส่ค่ายทหารของอเมริกาในเมืองดาห์รานในซาอุดิอาระเบีย สังหารทหารอเมริกาไป 28 นาย
การรุกคืบของกองกำลังผสมทำได้รวดเร็วกว่าที่นายพลของสหรัฐคาดการณ์เอาไว้ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ทหารอิรักก็เริ่มถอยทัพออกจากคูเวตหลังจากที่พวกเขาวางเพลิงทุ่งน้ำมัน (มีบ่อน้ำมัน 737 แห่งถูกเผา) ขบวนทหารอิรักที่ล่าถอยเคลื่อนขบวนไปตามทางหลวงอิรัก-คูเวต แม้ว่าพวกเขากำลังล่าถอยแต่ขบวนรถก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยกองทัพอากาศของกองกำลังผสมทำให้ถนนสายนั้นได้ชื่อว่า ทหารอิรักนับร้อยถูกสังหาร กองกำลังทั้งสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศสดำเนินการไล่ล่าทหารอิรักที่ล่าถอยต่อตั้งแต่ชายแดนจนไปถึงอิรัก จนในที่สุดก็ห่างจากกรุงแบกแดดเพียง 240 กิโลเมตรก่อนที่จะถอยกลับไปยังชายแดนอิรักที่ติดกับคูเวตและซาอุดิอาระเบีย
ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากผ่านการศึกทางบกได้ 100 ชั่วโมง ประธานาธิบดีบุชก็ประกาศหยุดยิงและประกาศว่าคูเวตเป็นอิสระแล้ว
การวิเคราะห์เชิงทหารหลังการรบ
ส่วนนี้ไม่มีจาก โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่ม เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
แม้ว่าสื่อตะวันตกในตอนนั้นได้รายงานว่ามีทหารอิรักประมาณ 545,000-600,000 นายในการรบ แต่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพของกองทัพอิรักนั้นกล่าวกันเกินจริง เพราะข้อมูลเหล่านั้นนับรวมกองกำลังชั่วคราวและกองกำลังสนับสนุนเข้าไปด้วย ทหารอิรักจำนวนมากเป็นคนหนุ่มและเป็นที่ฝึกมาน้อย
กองกำลังผสมมีทหาร 540,000 นายพร้อมกับอีก 1 แสนนายจากกองทัพตุรกีที่วางกำลังตามแนวชายแดนตุรกี-อิรัก สิ่งนี้ทำให้อิรักต้องกระจายทหารของตนไปตามแนวชายแดนทั้งหมด ดังนั้นกำลังรุกหลักโดยสหรัฐจึงสามารถบุกทะลวงได้โดยอาศัยความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและจำนวนที่มากกว่า
การที่อิรักได้รับการสนับสนุนเมื่อครั้งสงครามอิหร่าน-อิรักทำให้อิรักมีอาวุธมากมายจากชาติผู้ค้าอาวุธระดับโลก อิรักจึงไม่มีมาตรฐานในการคัดเลือกสรรพาวุธทำให้กองทัพอิรักมีกความหลากหลายเกินไปซึ่งรวมทั้งการได้รับการฝึกที่ไม่มีมาตรฐานและทหารที่ขาดแรงผลักดัน กองกำลังส่วนใหญ่ของอิรักเคยชินกับการใช้รถถังรุ่นเก่าอย่างไทป์ 59 และ(ไทป์ 69) ของจีนและ(ที-55) ของโซเวียตที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 2493 และ 2503 นอกจากนี้ยังมีรถถังคุณภาพต่ำอย่าง (เป็นรถถังที่ดัดแปลงมาจากที-72 ของโปแลนด์) รถถังเหล่านี้ไม่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น กล้องมองกลางคืนหรือเลเซอร์วัดระยะ ทำให้ประสิทธิภาพในการรบนั้นด้อยคุณภาพ
ทหารอิรักไม่สามารถหามาตรการตอบโต้กล้องจับความร้อนและของกองกำลังผสมได้ อุปกรณ์เหล่านี้เองที่ทำให้รถถังฝ่ายพันธมิตรมีความเหนือกว่าและสามารถทำลายรถถังของอิรักจากระยะที่ไกลกว่าถึงสามเท่า ทหารอิรักใช้กระสุนเจาะเหล็กกล้าเพื่อจัดการกับเกราะช็อบแฮมที่ก้าวหน้าของรถถังสหรัฐและอังกฤษ ผลคือกระสุนดังกล่าวไร้ประโยชน์ ทหารอิรักไม่สามารถอาศัยความได้เปรียบในด้วยสู้รบภายในคูเวตซิตี ซึ่งอาจสามารถสร้างความเสียหายแก่กองกำลังผสมได้มหาศาล การรบในเมืองนั้นจะลดระยะในการสู้รบและทำให้กองกำลังที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าเสียเปรียบได้
ทหารอิรักยังได้พยายามที่จะใช้รูปแบบการรบแบบโซเวียตอีกด้วย แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะผู้บังคับบัญชาของอิรักนั้นขาดทักษะ ประกอบกับการที่กองทัพอากาศของกองกำลังผสมได้เข้าทำลายศูนย์สื่อสารหลักและบังเกอร์ของอิรัก
กำลังของศัตรูถูกกำจัด
ในพื้นที่ยึดครองของกองกำลังผสมในอิรักได้เกิดการประชุมเพื่อสันติภาพขึ้นเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงโดยเป็นที่ยินยอมของทั้งสองฝ่าย ในการประชุมดังกล่าวอิรักได้รับอนุญาตให้ใช้เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธได้ในชายแดนชั่วคราวฝั่งตนเองเพื่อลำเลียงบุคคลของรัฐบาลเพราะส่วนภาคพลเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ไม่นานหลังจากนั้นเฮลิคอปเตอร์เหล่านั้นและกองทหารของอิรักก็ได้ปะทะกับ กลุ่มกบฏได้รับการปลุกใจจากการออกอากาศของรายการ"เดอะวอยซ์ออฟฟรีอิรัก"เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ซึ่งออกอากาศมาจากสถานีวิทยุที่ควบคุมโดยซีไอเอที่ตั้งอยู่นอกซาอุดิอาระเบีย ฝ่ายงานอาหรับจากวอยซ์ออฟอเมริกาได้สนับสนุนการจลาจลโดยกล่าวว่ากลุ่มกบฏมีขนาดใหญ่และไม่นานพวกเขาจะสามารถปลดแอกจากซัดดัมได้
ในทางเหนือของอิรัก ผู้นำกลุ่มชาวเคิร์ดได้รับฟังคำกล่าวของอเมริกาที่ว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุนการจลาจลด้วยใจจริงและเริ่มต่อสู้พร้อมกับหวังว่าจะเกิดการรัฐประหารขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อขาดการสนับสนุนโดยสหรัฐ นายพลของอิรักก็ยังคงภักดีต่อซัดดัมและเข้าบดขยี้การจลาจลของชาวเคิร์ดอย่างโหดเหี้ยม ชาวเคิร์ดนับล้านอพยพออกนอกประเทศไปยังตุรกีและอิหร่าน เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้เกิดในทางตอนเหนือและใต้ของอิรักในเวลาต่อมา ในคูเวตเจ้าชายได้กลับสู่บัลลังก์และเหล่าผู้สมรู่ร่วมคิดกับอิรักก็ถูกปราบปราม ท้ายที่สุดมีประชากร 4 แสนคนถูกขับไล่ออกจากประเทศรวมทั้งชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเพราะองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์สนับสนุนซัดดัม ยัสเซอร์ อาราฟัตไม่ออกมาขอโทษเรื่องที่เขาสนับสนุนอิรัก แต่หลังจากเสียชีวิต พรรคฟาตาห์ก็ออกมาแสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2547
ฝ่ายบริหารประเทศของบุชถูกวิจารณ์เช่นกัน เพราะพวกเขายอมให้ซัดดัมอยู่ในอำนาจต่อแทนที่จะเข้ายึดกรุงแบกแดดและโค่นล้มรัฐบาลอิรัก ในหนังสือที่เขียนโดยบุชและเบรนท์ สโคว์ครอฟท์ พวกเขาถกเถียงกันว่าหากเข้ายึดอิรักเหล่าพันธมิตรก็จะเกิดการแตกแยกและอาจทำให้เกิดการสูญเสียทางการเมืองและมนุษย์อย่างไม่จำเป็น
ในปีพ.ศ. 2535 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐดิก เชนีย์ได้แสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกัน
ผมคิดว่าหากเราเข้าไปในอิรักเราก็อาจมีกำลังทหารในกรุงแบกแดดถึงทุกวันนี้ เราอาจได้ควบคุมประเทศ เราอาจไม่สามารถพาทุกคนออกจากที่นั่นและกลับบ้านได้
สิ่งสุดท้ายที่ผมต้องคิดคำนึงคือการสูญเสีย ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถดำเนินการตามนั้นทั้งหมดโดยไม่สูญเสียทหารสหรัฐเพิ่ม ขณะที่ทุกคนประทับใจกับการที่เราสูญเสียทหารไปไม่มากนักในการรบ (ในปีพ.ศ. 2534) แต่สำหรับทหาร 146 นายที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่และสำหรับครอบครัวของพวกเขา มันเป็นสงครามราคาแพง
คำถามในใจผมคือ ซัดดัมมีค่ามากแค่ไหนที่เราจะยอมสูญเสียทหารอเมริกันเพิ่มอีก คำตอบก็คือ ไม่เลย ผมจึงคิดว่าเราควรทำสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งตอนที่เราตัดสินใจขับไล่เขาออกจากคูเวตและตอนที่ท่านประธานาธิบดีตัดสินใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายแล้วและเราจะไม่ยอมให้มีปัญหาใดจากการพยายามยึดครองอิรักมาหยุดพวกเรา
— ดิก เชนีย์
ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2534 ทหารสหรัฐจำนวน 540,000 นายเริ่มทำการถอนกำลังออกจากอ่าวเปอร์เซีย
การมีส่วนร่วมของกองกำลังผสม
สมาชิกในกองกำลังผสมประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บาเรนห์ บังกลาเทศ เบลเยียม แคนาดา เชกโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก อียิปต์ ฝรั่งเศส กรีซ ฮอนดูรัส ฮังการี อิตาลี คูเวต มาเลเซีย โมรอกโก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ไนเจอร์ นอร์เวย์ โอมาน ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ โปรตุเกส กาตาร์ โรมาเนีย ซาอุดิอาระเบีย เซเนกัล เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน ซีเรีย ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
เยอรมนีและญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือทางการเงินและบริจาคอุปกรณ์ทางทหาร แต่ไม่ได้ส่งกองกำลังใด ๆ เข้าร่วมรบ ต่อมาวิธีดังกล่าวถูกเรียกว่า การทูตแบบสมุดเช็ค
สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรเป็นชาติยุโรปที่ส่งกองทัพเข้าร่วมรบมากที่สุดในสงคราม ปฏิบัติการทั้งหลายในสงครามอ่าวถูกเรียกว่า กองพลจากกองทัพบกอังกฤษ (ส่วนใหญ่มาจากกองพลยานเกราะที่ 1) กองทัพอากาศ และกองทัพเรือเข้าร่วมในสงครามอ่าว กองทัพอากาศอังกฤษใช้ฐานบินในซาอุดิอาระเบีย มียานเกราะเกือบ 2,500 คันและทหาร 53,462 นายถูกส่งมาทางเรือ[]
เรือรบของราชนาวีอังกฤษประกอบด้วยและ นอกจากนี้ยังมีกองเรือสนับสนุนบางส่วนร่วมด้วย เรือบรรทุกอากาศยานขนาดเบาเข้าประจำตำแหน่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยเอสเอเอสก็เข้าร่วมเช่นกัน
ฝรั่งเศส
อีกชาติยุโรปที่ส่งทหารเข้าร่วมรบมากเป็นอันดับสองคือฝรั่งเศส โดยส่งทหารเข้าร่วมศึก 18,000 นาย ฝรั่งเศสทำหน้าที่รักษาปีกซ้ายของกองพลน้อยขนส่งทางอากาศที่ 18 ของสหรัฐ กองกำลังหลักของฝรั่งเศสมาจากกองพลยานเกราะขนาดเบาที่ 6 และทหารจากกองพลรบต่างแดนของฝรั่งเศส เริ่มแรกฝรั่งเศสปฏิบัติการแยกต่างหากจากกองกำลังอื่น แต่อาศัยการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทหารอเมริกันและซาอุ ในเดือนมกราคมกองพลดังกล่าวได้ทำงานภายใต้การควบคุมของกองพลน้อยขนส่งทางอากาศที่ 18 ฝรั่งเศสยังได้ส่งอากาศยานและเรือเข้ารบเช่นกัน ฝรั่งเศสเรียกปฏิบัติการทั้งหมดว่า
แคนาดา
แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการรุกรานของอิรักและเข้าร่วมกับกองกำลังผสมอย่างรวดเร็ว ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2533 นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กองกำลังของแคนาดาสร้างกองเรือเฉพาะกิจขึ้นมา เรือพิฆาตรและเข้าร่วมรบพร้อมกับการสนับสนุนจากเรือใน กลุ่มเรือเฉพาะกิจของแคนาดาได้นำการหนุนกำลังของกองกำลังผสมเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย เรือลำที่สี่คือเรือ ซึ่งเข้ามาหลังจากที่ทีการหยุดยิงและเป็นเรือพันธมิตรลำแรกที่เข้าเยี่ยมคูเวต
หลังจากที่มีการอนุญาตให้ใช้กำลังกับอิรัก กองกำลังของแคนาดาก็นำฝูงบินและพร้อมกับทหารอากาศเข้ารวมการรบ นอกจากนี้ยังมีศูนย์พยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้บาดเจ็บจากการรบภาคพื้นดินอีกด้วย เมื่อการศึกทางอากาศเริ่มต้นขึ้น ซีเอฟ-18 ก็เข้าร่วมกับกองกำลังผสมและได้รับหน้าที่ปกป้องและโจมตีเป้าหมายบนพื้นดิน นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามเกาหลีที่กองทัพแคนาดาได้มีบทบาททางทหารในเชิงรุก มีซีเอฟ-18 เพียงลำเดียวที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าได้เอาชนะเครื่องบินของศัตรูในการรบใน
ผู้บัญชาการของแคนาดาที่ทำหน้าที่ในตอนนั้นคือผู้การผู้การ
ออสเตรเลีย
ออสเตรเลียได้ส่งกองเรือเฉพาะกิจเข้าร่วมสงคราม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือนานาชาติในอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมานในปฏิบัติการดามาส์ค นอกจากนี้แล้วยังมีทีมแพทย์ที่ทำหน้าที่บนเรือพยาบาลของสหรัฐแและทีมกวาดทุ่นระเบิดใต้น้ำที่ได้ทำการกำจัดทุ่นระเบิดที่ท่าเรือของคูเวตหลังจากการรบสิ้นสุดลง
แม้ว่ากองกำลังของออสเตรเลียจะไม่ได้ทำการปะทะใด ๆ แต่พวกเขาก็มีบทบาทสำคัญในการคว่ำบาตรอิรัก เช่นเดียวกับการให้การสนับสนุนอื่น ๆ ในปฏิบัติการพายุทะเลทราย หลังจากสิ้นสุดสงครามออสเตรเลียได้ส่งหน่วยแพทย์ไปทำหน้าที่ในที่ทางตอนเหนือของอิรัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
อาร์เจนตินา
อาร์เจนตินาได้เข้าร่วมในปฏิบัติการบิชอปด้วยการส่งเรือพิฆาตรและเรือคอร์เวต ต่อมาทั้งสองลำถูกแทนที่ด้วยเรือคอร์เวตและเรือขนส่ง
กำลังพลสูญเสีย
พลเรือน
จากการโจมตีทางอากาศที่หนักหน่วงทั้งด้วยเครื่องบินรบและขีปนาวุธร่อนทำให้เกิดข้อโต้เถียงเรื่องจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในช่วงแรกของสงคราม ใน 24 ชั่วโมงแรกของสงคราม กองกำลังผสมได้ทำการบินกว่า 1 พันเที่ยวเพื่อโจมตีเป้าหมายในแบกแดด ตัวเมืองถูกระเบิดอย่างหนักเพราะว่าเป็นที่อยู่ของซัดดัมและศูนย์ควบคุมและบัญชาการของทหารอิรัก นี่เองเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของพลเรือน
ในเหตุการณ์หนึ่งเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัญได้เขาโจมตีบังเกอร์แห่งหนึ่งในอะมิริยาห์ ทำให้มีชาวอิรักเสียชีวิต 408 คน ภาพของสถานที่เกิดเหตุและศพถูกถ่ายทอดในเวลาต่อมาและข้อถกเถียงก็เพิ่มขึ้นจากเหตุทิ้งระเบิดบังเกอร์ บ้างก็บอกว่าชาวอิรักเหล่านั้นเป็นพลเรือน บ้างก็เห็นว่าบังเกอร์ดังกล่าวเป็นศูนย์ปฏิบัติการของอิรักและพลเรือนเหล่านั้นถูกนำไปใช้เป็น
การสืบสวนของเบธ ออสบอร์น ดาปองต์ประมาณได้ว่ามีพลเรือนโดนทิ้งระบิดไป 3,500 คนและอีก 1 แสนคนได้รับผลกระทบอื่น ๆ จากสงคราม
อิรัก
ไม่มีใครรู้ตัวเลขที่แน่ชัดของผู้เสียชีวิตฝ่ายอิรัก เชื่อกันว่าอิรักสูญเสียเป็นจำนวนมหาศาล กล่าวกันว่าอิรักเสียทหารไปประมาณ 2 หมื่นถึง 35,000 นาย รายงานจากกองทัพอากาศสหรัฐคาดว่ามีฝ่ายอิรักเสียชีวิต 10,000-12,000 คนจากการทัพทางอากาศ และอีก 1 หมื่นคนจากการทัพทางบก การประเมินนี้มีพื้นฐานมาจากรายงานของเชลยศึกชาวอิรัก
รัฐบาลอิรักอ้างว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 2,300 รายจากการทัพทางอากาศ[] จากการศึกษาโครงการการป้องกันทางเลือก มีพลเรือนอิรักเสียชีวิต 3,664 ราย ทหารอิรักเสียชีวิตประมาณ 20,000-26,000 นายและบาดเจ็บอีก 75,000 นาย
กองกำลังผสม
กระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่าสหรัฐสูญเสียทหารไป 148 นายจากการรบ [] พร้อมกับนักบินหนึ่งนายสูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่ (ร่างของเขาถูกพบและระบุตัวในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552) อีก 145 นายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สหราชอาณาจักรเสียทหารไป 49 นาย (9 นายจากการยิงกันเองโดยสหรัฐ) ฝรั่งเศสสูญเสีย 2 นาย และชาติอื่น ๆ 37 นาย (ซาอุ 18 นาย อียิปต์ 1 นาย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 6 นาย กาตาร์ 3 นาย) ไม่รวมคูเวต มีทหารคูเวตอย่างน้อย 605 นายที่หายสาบสูญหลังจากถูกจับเป็นเชลยถึง 10 ปี
การสูญเสียในครั้งเดียวที่เยอะที่สุดของกองกำลังผสมเกิดขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 เมื่ออิรักยิงใส่ค่ายทหารสหรัฐในดาห์รานประเทศซาอุดิอาระเบีย สังหารกองกำลังสำรองของสหรัฐไป 28 นาย โดยรวมแล้วทหารกองกำลังผสมถูกสังหารโดยฝ่ายอิรัก 190 นาย 113 นายเป็นชาวอเมริกันจากกองกำลังผสมทั้งหมด 358 นายที่เสียชีวิต ทหารอีก 44 นายถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บอีก 57 นายจากการยิงพวกเดียวกันเอง มีทหาร 145 นายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ[]
อุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2534 เมื่อเครื่องบินซี-130 ของกองทัพอากาศซาอุดิอาระเบียตกขณะบินลงที่สนามบินราส อัล มิชาบปประเทศซาอุดิอาระเบีย ทำให้ทหารเซเนกัล 92 นายเสียชีวิต
กองกำลังผสมมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บประมาณ 776 นาย เป็นทหารอเมริกัน 458 นาย
ทหารกองกำลังผสม 190 นายถูกสังหารโดยกองกำลังอิรัก ที่เหลืออีก 379 นายเสียชีวิตจากการยิงกันเอง อย่างไรก็ดีที่จำนวนดังกล่าวต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ มีทหารหญิงอเมริกัน 3 นายเสียชีวิต
การยิงกันเอง
ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตของกองกำลังผสมโดยกองกำลังอิรักมีจำนวนน้อยมาก แต่จำนวนที่เกิดจากการยิงกันเองกลับพุ่งขึ้นสูง จากจำนวนทหารสหรัฐ 148 นายที่เสียชีวิตในการรบ [] คิดเป็นทั้งหมด 35 นาย อีก 11 นายเสียชีวิตจากการจุดระเบิดของฝ่ายเดียวกันเอง ทหารอังกฤษ 9 นายถูกสังหารโดยฝ่ายเดียวกันเมื่อเครื่องบินเอ-10 ธันเดอร์โบลท์ 2 ลำหนึ่งของสหรัฐยิงเข้าใส่ยานพาหนะต่อสู้ทหารราบสองคันของอังกฤษ
ข้อโต้เถียง
กัลฟ์วอร์ซินโดรม
ทหารของกองกำลังผสมหลายนายที่กลับมาถูกรายงานว่าเจ็บป่วยหลังจากที่พวกเขาได้มีส่วนร่วมในสงครามอ่าว อาการดังกล่าวถูกเรียกว่ากัลฟท์วอร์ซินโดรม (Gulf War syndrome) มีการไตร่ตรองอย่างแพร่หลายและการไม่เห็นด้วยถึงสาเหตุของอาการป่วย บางปัจจัยถูกมองว่าเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย อย่าง อาวุธเคมี ที่ทหารต้องได้รับ และการติดเชื้อ ผู้พันไมเคิล ดอนเนลลี่ อดีตนายทหารกองทัพอากาศสหรัฐในสงครามอ่าว ได้ช่วยกระจายข่าวของการเจ็บป่วยและเรียกร้องสิทธิให้กับทหารผ่านศึกเหล่านี้
ผลกระทบจากกระสุนยูเรเนียม
(Depleted uranium) ถูกใช้ในสงครามอ่าวเป็นของรถถังและกระสุนปืนใหญ่ขนาด 20-30 ม.ม. การใช้กระสุนแบบนี้ในสงครามอ่าวครั้งแรกถูกกล่าวว่าเป็นผลทำให้สุขภาพของทหารผ่านศึกและพลเรือนได้รับผลกระทบ
ทางหลวงมรณะ
ในคืนระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 กองกำลังอิรักบางส่วนเริ่มล่าถอยออกจากคูเวตโดยใช้ทางหลวงหลักทางเหนือของอัล จาห์ราโดยมียานพาหนะประมาณ 1,400 คัน เครื่องบินลำหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนก็พบกับขบวนทหารอิรักเข้าและส่งข้อมูลไปยังศูนย์ปฏิบัติการทางอากาศในริยาดห์ประเทศซาอุดิอาระเบีย ต่อมาขบวนรถดังกล่าวพร้อมทหารที่กำลังล่าถอยก็ถูกโจมตี ผลที่ตามมาคือซากรถและถนนยาว 60 กิโลเมตรที่มีชื่อว่า ทางหลวงมรณะ
ชัค ฮอร์เนอร์ ผู้บัญชาการปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐและกองกำลังผสมได้เขียนบันทึกไว้ว่า
[เมื่อถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์] ทหารอิรักสูญเสียขวัญกำลังใจและเริ่มล่าถอยออกจากคูเวต แต่กองกำลังทางอากาศได้หยุดขบวนรถของกองทัพอิรักและพวกปล้นสะดมจากการหนีไปยังบาสรา พวกสื่อเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "ทางหลวงมรณะ" แน่นอนว่ามีพาหนะถูกทำลายเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีผู้เสียชีวิตมากนัก พวกเขารู้ว่าต้องกระจายตัวออกไปตามทะเลทรายตอนที่เครื่องบินของเราทำการโจมตี กระนั้นบางคนที่นั่งอยู่ที่บ้านเลือกที่จะเชื่อว่าเราได้กระทำการอันโหดร้ายต่อศัตรูของเราที่พ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว
[...]
ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เริ่มมีการหารือเรื่องการกำจัดภัยคุกคาม คูเวตเป็นอิสระแล้ว เราไม่สนใจที่จะเข้าควบคุมอิรัก คำถามคือว่า "เราจะหยุดการฆ่าล้างได้อย่างไร"
การโจมตีของรถบูลโดเซอร์
นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เน้นย้ำคำถามว่าทำไมอิรักจึงมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงนัก เหตุการณ์นี้เรียกว่า"การจู่โจมด้วยรถบูลโดเซอร์" ซึ่งมีกองทหารสองกองจากกองพลทหารราบที่ 1 ของสหรัฐได้พบกับสนามเพลาะขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนและเป็นส่วนหนึ่งของแนวป้องกันที่แน่นหนาที่เรียกกว่า"แนวซัดดัม ฮุสเซน" หลังจากการหารือพวกเขาก็ตัดสินใจใช้พลั่วกวาดทุ่นระเบิดที่ติดตั้งกับรถถังและเครื่องมือทหารช่างเข้าบดไถทหารอิรักที่กำลังป้องกันแนวทั้งเป็น หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงรายงานว่าผู้บัญชาการของสหรัฐคาดว่ามีทหารอิรักนับพันที่ยอมจำนนและรอดจากการถูกฝังทั้งเป็นซึ่งกินเวลานานสองวันตั้งแต่วันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 แพททริก เดย์ สโลยันจาก"นิวส์เดย์"รายงานว่า "ยานเกราะแบรดลีย์และยานลำเลียงหุ้มเกราะวัลแคนได้แล่นทับแนวสนามเพลาะพร้อมกับยิงเข้าใส่ทหารอิรัก ในขณะที่รถถังกลบฝังพวกเขาด้วยกองทราย 'ผมตามติดกองร้อยหน้าข้างหน้า' [ผู้พันแอนโธนี] มอรีโนกล่าว 'สิ่งที่เห็นคือสนามเพลาะที่ถูกฝังพร้อมกับคน' มีอาวุธและสิ่งของโผล่ขึ้นมาจากร่างเหล่านั้น...'" อย่างไรก็ตามหลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลอิรักได้อ้างว่าพวกเขาพบศพเพียง 44 ศพเท่านั้น ในหนังสือ"เดอะวอร์สอะเกนส์ทซัดดัม"ของจอห์น ซิมป์สันกล่าวหาทหารอเมริกันว่าพยายามปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาจากกรมทหารที่ 1 ออกมากล่าวว่า "ผมรู้ว่าการฝังกลบคนแบบนั้นเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ผมคิดว่ามันจะเลวร้ายกว่ามากถ้าหากเราส่งทหารของเราเข้าไปในสนามเพลาะนั่นแหละจัดการศัตรูด้วยมีดปลายปืน"
การขับไล่ปาเลสไตน์ออกจากคูเวต พ.ศ. 2534
นโยบายขับไล่ของคูเวตนั้นมีเหตุมาจากการที่ผู้นำองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ยัสเซอร์ อาราฟัตเข้าร่วมกับซัดดัมก่อนที่จะมีการรุกรานคูเวต ก่อนหน้าสงครามมีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 30% ของประชากรจำนวน 2 ล้านคนในคูเว การขับไล่เกิดขึ้นในสัปดาห์หนึ่งของเดือนมีนาคม พ.ศ. 2534 หลังจากที่คูเวตถูกปลดปล่อยแล้ว คูเวตได้ขับไล่ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 3 แสนคนออกจากอาณาเขต ในปีพ.ศ. 2554 ชาวปลาเลสไตน์หลายคนได้กลับมายังคูเวตและปัจจุบันมีชาวปาเลสไตน์ในคูเวตประมาณ 9 หมื่นคน
การทำลายสิ่งก่อสร้างของพลเรือนโดยกองกำลังผสม
ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2534 หนังสือพิมพ์ "เดอะวอชิงตันโพสท์" ตีพิมพ์รายงานข่าวของบาร์ท เกลล์แมนว่า "หลายเป้าหมายถูกเลือกเพียงเพื่อเป็นเป้าหมายรองเพื่อช่วยให้กองทัพอิรักพ่ายแพ้. . . . นักการทหารหวังว่าการทิ้งระเบิดจะช่วยเร่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและทางจิตวิทยาจากการคว่ำบาตรอิรัก. . . . พวกเขาจงใจทำลายความสามารถของอิรักในการช่วยเหลือตนเองในฐานะสังคมอุตสาหกรรม. . . ." ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 หนังสือพิมพ์ "ฟอเรนแอฟแฟร์" ได้ตีพิมพ์ความคิดเห็นของนักการทูตชาวฝรั่งเศสเออคิก โคเลอร์ว่า "คนอิรักที่ไม่เห็นด้วยกับการรุกราน ต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับความบ้าคลั่งของรัฐบาลของพวกเขา. . . . ชาวอิรักเข้าใจถึงการลงมือทางทหารตามกฎหมายเพื่อขับไล่ทหารอิรักออกจากคูเวต แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมกองกำลังพันธมิตรถึงใช้กำลังทางอากาศโจมตีสิ่งก่อสร้างและอุตสาหกรรมของอิรัก ซึ่งรวมทั้ง โรงจ่ายไฟฟ้า (ถูกทำลายไป 92%) โรงกลั่นน้ำมัน (ถูกทำลายไป 80%) ย่านปิโตรเคมี ศูนย์สื่อสารระยะไกล (รวมทั้งเครือข่ายโทรศัพท์ 135 เครือข่าย) สะพาน (มากกว่าร้อยแห่ง) ถนน ทางหลวง ทางรถไฟ รถไฟพร้อมขบวนที่เต็มไปด้วยสินค้า สถานีถ่ายทอดสิทยุและโทรทัศน์ โรงงานซีเมนต์ และโรงงานผลิตอะลูมิเนียม สิ่งทอ สายไฟฟ้า และยา" อย่างไรก็ตามต่อมาสหประชาชาติได้ทุ่มเงินนับพันล้านเพื่อซ่อมแซมโรงเรียน โรงพยาบาล และโรงกรองน้ำทั่วอิรัก
การล่วงละเมิดนักเชลยศึกจากกองกำลังผสม
ในช่วงสงคราม นักบินของกองกำลังผสมที่ถูกยิงตกถูกจับเป็นเชลยศึกผ่านทางโทรทัศน์ พวกเขามีร่องรอยถูกทำร้ายที่เห็นได้ชัดเจน ท่ามกลางการให้การหลายครั้งถึงการได้รับการปฏิบัติที่เลวร้าย นักบินเครื่องพานาเวีย ทอร์นาโดของกองทัพอากาศอังกฤษ จอห์น นิโคลและจอห์น ปีเตอร์สต่างยอมรับว่าพวกตนถูกทรมานขณะถูกจับกุม นิโคลและปีเตอร์สถูกบังคับให้กล่าวต่อต้านสงครามออกโทรทัศน์ สมาชิกหลายคนของหน่วยบราโวทูซีโรจากหน่วยเอสเอเอสของอังกฤษถูกจับขณะทำภารกิจเก็บข้อมูลขีปนาวุธสกั๊ด มีเพียงคริส ไรอันเท่านั้นที่สามารถหนีการจับกุมมาได้ สมาชิกที่เหลือของทีมถูกทรมานอย่างทารุณ แพทย์อากาศหญิงรอนดา คอร์นัมถูกกระทำชำเราโดยทหารอิรักนายหนึ่งที่จับกุมเธอ หลังจากที่เครื่องแบล็คฮอว์คของเธอถูกยิงตกขณะกำลังตามหานักบินเอฟ-16 ที่เครื่องตก
ปฏิบัติการเซาท์เธิร์นวอท์ช
ด้วยเหตุจากสงครามสหรัฐจึงคงทหารจำนวน 5 พันนายเอาไว้ในซาอุดิอาระเบียและเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นนายในช่วงสงครามอิรัก พ.ศ. 2546 ปฏิบัติการเซาท์เธิร์นวอท์ชทำให้มีการบังคับใช้เขตห้ามบินเหนือพื้นที่ทางใต้ของอิรักหลังจากปีพ.ศ. 2534 การส่งออกน้ำมันผ่านอ่าวเปอร์เซียได้รับการคุ้มกันจากกองเรือที่ห้าของสหรัฐที่มีฐานในบาห์เรน
ด้วยเหตุที่ซาอุดิอาระเบียเป็นที่ตั้งของเมกกะและเมดินา สถานที่ศักดิ์สิทธิที่สุดของชาวมุสลิม ชาวมุสลิมมากมายจึงไม่พอใจที่มีทหารเข้ามาประจำการถาวรในเมือง การมีอยู่ของทหารสหรัฐในซาอุหลังจากสิ้นสุดสงครามเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เป็นแรงจูงใจให้กับเหตุการณ์11 กันยายน การระเบิดหอโคบาร์ และการเลือกวันระเบิดสถานทูตสหรัฐ (7 สิงหาคม) ในปีพ.ศ. 2541 ซึ่งนับเป็นระยะเวลาแปดปีตั้งแต่ที่ทหารสหรัฐเข้าไปตั้งฐานในซาอุดิอาระเบียโอซามา บิน ลาเดนย้ำเสมอว่าศาสดามุฮัมมัดได้ห้ามมิให้มี"การปรากฏตัวของพวกนอกศาสนาในพื้นที่ของอาหรับ" ในปีพ.ศ. 2539 บิน ลาเดนได้ทำการฟัตวาโดยเรียกร้องให้ทหารของสหรัฐถอยกำลังออกจากซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมพ.ศ. 2542 บิน ลาเดนได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกว่าชาวอเมริกัน "อยู่ใกล้เมกกะมากเกินไป" และมองว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุโลกอาหรับ
การคว่ำบาตร
ในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2533 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติที่ 661 ออกมาหลังจากที่อิรักรุกรานคูเวต ซึ่งมติดังกล่าวทำให้เกิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิรัก ทำให้สินค้ามากมายรวมทั้งยา อาหาร และสิ่งของอื่น ๆ ที่จำเป็นขาดแคลนในอิรัก ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533-2546 ผลจากนโยบายของรัฐบาลอิรักและการคว่ำบาตรทำให้เกิด ส่งผลให้เกิดปัญหาความยากจนและอดอยากไปทั่วประเทศ
ในทศวรรษที่ 2533 สหประชาชาติตัดสินใจที่จะลดระดับการคว่ำบาตรลงเพราะมีชาวอิรักมากมายได้รับผลเสีย หลายการศึกษายังคงถกเถียงกันว่ามีผู้คนมากแค่ไหนที่เสียชีวิตในเขตใต้และกลางของอิรักในช่วงที่มีการคว่ำบาตร
น้ำมันที่รั่วไหล
ในวันที่ 23 มกราคม อิรักได้ทิ้งน้ำมันดิบจำนวน 400 ล้านแกลลอน (1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร) ลงในอ่าวเปอร์เซีย ส่งผลให้เกิดนอกชายฝั่งครั้งที่เลวร้ายที่สุด ณ เวลานั้น รายงานกันว่าการกระทำดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อทำให้นาวิกโยธินสหรัฐไม่สามารถยกพลขึ้นบกได้ (เรือ"มิสซูรี"และ"วิสคอนซิน"ได้ระดมยิงใส่เพราะคิดว่าอิรักอาจเตรียมทำการโจมตีสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกจากเกาะดังกล่าว) ประมาณ 30–40% ของน้ำมันที่รั่วไหลเกิดจากการเข้าโจมตีเป้าหมายตามชายฝั่งโดยกองกำลังพันธมิตร
การเผาน้ำมันในคูเวต
การเผาน้ำมันของคูเวตเกิดขึ้นจากฝีมือของทหารอิรักที่วางเพลิงบ่อน้ำมัน 700 แห่งตามนโยบายเผาทำลายในตอนที่พวกเขาล่าถอยจากคูเวตในปีพ.ศ. 2534 การวางเพลิงเริ่มขึ้นในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 และควบคุมเพลิงได้ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2534
สาเหตุที่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ก็เพราะว่าพื้นที่ดังกล่าวมีอันตรายเกินไปสำหรับนักดับเพลิง ทหารอิรักได้วางไว้ทั่วบริเวณบ่อน้ำมัน ทำให้ทหารต้องเข้าไปเก็บกู้ระเบิดก่อนที่จะส่งนักดับเพลิงเข้าไปดับไฟ ประมาณกันว่ามีน้ำมันถูกเผาไป 6 ล้านบาเรล (9.5 แสนลูกบาศก์เมตร) ในแต่ละวัน ในที่สุดทีมดับเพลิงเอกชนก็สามารถเข้าควบคุมเพลิงได้ โดยคูเวตเสียน้ำมันคิดเป็นเงินได้ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลุกไหม้กินเวลา 10 เดือนซึ่งก่อให้เกิดมลพิษไปทั่วประเทศ
ค่าใช้จ่าย
สภาคองเกรสได้คำนวณจำนวนเงินที่สหรัฐใช้จ่ายไปกับสงครามเป็นจำนวน 61,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศอื่น ๆ ใช้เงินไปประมาณ 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย คูเวต ซาอุดิอาระเบียและรัฐอาหรับอื่น ๆ ในอ่าวเปอร์เซียใช้เงินไป 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เยอรมนีและญี่ปุ่นใช้เงินไป 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (แต่ไม่ได้ส่งทหารเข้าร่วมเพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ) 25% ของจากช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบียเป็นการช่วยเหลือทางด้านการบริหารให้กับทหาร เช่น อาหารและการเดินทาง 74% ของจำนวนทหารทั้งหมดเป็นทหารสหรัฐ จึงทำให้เป็นชาติที่ใช้เงินมากที่สุดในสงคราม
ผลกระทบต่อชาติกำลังพัฒนา
นอกจากผลกระทบต่อชาติในอ่าวเปอร์เซียแล้ว ผลกระทบอื่น ๆ คือการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจหลักจากที่สงครามได้ส่งผลกระทบต่อหลายชาติ สถาบันการพัฒนาของต่างประเทศได้ทำการศึกษาขึ้นในปีพ.ศ. 2534 เพื่อเข้าถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศกำลังพัฒนาและการตอบสนองของนานาประเทศ รายงานสรุปนั้นออกมาในวันสุดท้ายของสงครามโดยพบความเป็นไปได้สองอย่าง คือ ชาติกำลังพัฒนาหลายชาติจะได้รับผลกระทบอย่างหนักและแม้ว่าจะมีวิธีรับมือต่อวิกฤตการณ์ดังกล่าว แต่การกระจายความช่วยเหลือก็ต้องทำอย่างละเอียดมาก
สถาบันการพัฒนาในต่างประเทศได้ให้ปัจจัยในด้านของค่าเสียหายโดยประกอบด้วย การนำเข้าน้ำมัน กระแสเงินส่ง ค่านิคมที่ดิน ค่าเสียหายจากการส่งออกและการท่องเที่ยว อียิปต์สูญเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและ 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เยเมนสูญเงิน 830 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในขณะที่จอร์แดนสูญเงิน 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 32% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
นานาประเทศจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการร่วมกันให้ความช่วยเหลือผ่านทางกลุ่มร่วมมือทางการเงินวิกฤตการณ์อ่าวเปอร์เซีย (The Gulf Crisis Financial Co-ordination Group) มีประเทศทั้งหมด 24 ประเทศเข้าร่วมกลุ่ม โดยส่วนมากมาจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา และประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และคูเวต สมาชิกของกลุ่มได้ตกลงที่จะกระจายเงินจำนวน 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่การช่วยเหลือด้านการพัฒนา
ธนาคารโลกรับมือกับปัญหาด้วยการเร่งร่ายจ่ายของโครงการที่ดำเนินอยู่และปรับเงินกู้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้นำมาตรการการปล่อยเงินกู้เข้ามาใช้สองมาตรการ ได้แก่ การช่วยเสริมการปรับโครงสร้าง (Enhanced Structural Adjustment Facility) และการช่วยเหลือเงินชดเชยและเงินฉุกเฉิน (Compensatory & Contingency Financing Facility) ประชาคมยุโรปช่วยเหลือด้วยการเสนอเงินจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เทคโนโลยี
เช่น ขีปนาวุธนำวิถีเอจีเอ็ม-130 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตีทุกครั้งสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตพลเรือนได้มากกว่าสงครามครั้งก่อน ๆ แม้ว่ามันจะถูกใช้น้อยครั้งกว่าระเบิดทั่วไปที่ไร้ความแม่นยำก็ตาม กองกำลังผสมสามารถระเบิดอาคารในย่านเมืองของแบกแดดได้ในขนาดที่ว่านักข่าวในโรงแรมสามารถเห็นขีปนาวุธกำลังบินเข้าหาเป้าหมาย
อาวุธนำวิถีด้วยความแม่นยำคิดเป็น 7.4% ของระเบิดทั้งหมดที่กองกำลังผสมใช้ ระเบิดแบบอื่น ๆ ได้แก่ ซึ่งจะระเบิดและกระจายระเบิดขนาดย่อมออกไปทั่วบริเวณ และระเบิดขนาด 15,000 ปอนด์ที่สามารถทำลายทุกสิ่งในรัศมีหลายร้อยหลา
ระบบจีพีเอสเองก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กองกำลังผสมสามารถหาทางข้ามทะเลทรายขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยการที่เครื่องรับสัญญาณมีจำนวนน้อย บางหน่วยจึงต้องใช้แบบที่เป็นเชิงพาณิชย์แทน และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจึงต้องปิดการตั้งค่าบางอย่างของระบบจีพีเอสในช่วงปฏิบัติการพายุทะเลทรายเพื่อให้ตัวรับสัญญาณแบบเชิงพาณิชย์สามารถให้ตำแหน่งที่แม่นยำเทียบเท่าแบบของทหาร
หรือเอแว๊กส์ (AWACS) และระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมมีบทบาทสำคัญมากในสงคราม ตัวอย่างเช่น เครื่องบินและของสหรัฐ เครื่องบินทั้งสองแบบถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการบัญชาการและควบคุม ระบบดังกล่าวทำให้การสื่อสารระหว่างทหารอากาศ ทหารบก และทหารเรือเป็นไปได้ง่าย นี่เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่กองกำลังผสมสามารถเอาชนะการรบทางอากาศได้
อิรักได้ใช้เครื่องทำสำเนาของอเมริกาในการสร้างแผนการรบของตนเอง แต่เครื่องทำสำเนาเหล่านั้นกลับมีตัวส่งสัญญาณที่ถูกซ่อนเอาไว้ทำให้ของสหรัฐสามารถจับตำแหน่งของฝ่ายอิรักและโจมตีเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ
ขีปนาวุธสกั๊ดและเพเทรียต
บทบาทของขีปนวุธสกั๊ดมีความโดดเด่นอย่างมากในสงคราม สกั๊ดเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่สหภาพโซเวียตพัฒนาขึ้นและถูกใช้โดยของกองทัพแดงที่ประจำการอยู่ในเยอรมนีตะวันออก มันมีหัวรบเป็นระเบิดนิวเคลียร์และหัวรบเคมีที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายส่วนควบคุมและบัญชาการของเยอรมนีตะวันตก นอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้เพื่อยิงเข้าใส่ทหารราบโดยตรงได้อีกด้วย
ขีปนาวุธสกั๊ดใช้ตัวนำวิถีแบบเฉื่อยซึ่งจะทำงานอยู่สักระยะพร้อมกับเครื่องยนต์ อิรักใช้สกั๊ดเพื่อโจมตีใส่อิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย ขีปนาวุธบางลูกสร้างความเสียหายมหาศาลในขณะที่บางลูกทำได้เพียงเล็กน้อย ความกลัวต่อสกั๊ดเพิ่มขึ้นเมื่อคาดกันว่าอิรักอาจใช้หัวรบที่เป็นอาวุธชีวภาพหรือเคมี แต่กระนั้นก็ไม่มีขีปนาวุธแบบดังกล่าวโจมตีใส่ที่ใด
ของสหรัฐถูกนำมาใช้ในสงครามเป็นครั้งแรก กองทัพสหรัฐอ้างว่ามันสามารถจัดการกับขีปนาวุธสกั๊ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การวิเคราะห์ภายหลังพบว่าขีปนาวุธเพเทรียตยิงถูกแค่ 9% เท่านั้น ในขณะที่ 45% เป็นการยิงใส่เศษซากของขีปนาวุธหรือยิงผิดเป้าหมาย กระทรวงกลาโหมของเนเธอร์แลนด์ที่ได้นำขีปนาวุธเพเทรียตไปใช้เพื่อปกป้องพลเรือนในอิสราเอลและตุรกี ได้อ้างในเวลาต่อมาว่าขีปนาวุธเพเทรียตทำได้ดีกว่านั้น นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ซอฟต์แวร์ของขีปนาวุธเกิดขัดข้องทำให้ไม่สามารถเข้าสกัดขีปนาวุธสกั๊ดได้และลงเอยด้วยการมีผู้เสียชีวิต ทั้งกองทัพสหรัฐและบริษัทผู้ผลิตขีปนาวุธยังคงย้ำว่าขีปนาวุธเพเทรียต"ทำหน้าที่ได้ราวกับปาฏิหารย์"ในสงครามอ่าว
หมายเหตุ
- The numbering of Persian Gulf conflicts depends on whether the (1980–1988) is referred to as the First (Persian) Gulf War (English language sources prior to the start of the Kuwait war in 1990 usually called it the Gulf War), which would make the 1990 war the Second (Persian) Gulf War. Different sources may call the conflicts by different names. The name 'Persian Gulf' is itself a subject of . The start date of the Kuwait War can also be seen as either August 1990 (when Iraq's Saddam Hussein invaded Kuwait) or as January 1991 (the start of Operation Desert Storm, when the US-led coalition forced Iraq out of Kuwait), so that the war is also often called the 1991 Gulf War, the 1990–1991 Gulf War, the 1990s Gulf War, etc ... This dating is also used to distinguish it from the other two 'Gulf Wars'.
อ้างอิง
- . Forsvaret.dk. 24 September 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-12. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- Gulf War, the Sandhurst-trained Prince Khaled bin Sultan al-Saud was co commander with General Norman Schwarzkopf www.casi.org.uk/discuss 2016-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- General Khaled was Co-Commander, with U.S. General Norman Schwarzkopf, of the allied coalition that liberated Kuwait www.thefreelibrary.com 2011-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Gulf War coalition forces (latest available) by country "www.nationmaster.com". จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 November 2013. สืบค้นเมื่อ 2007-09-13.
- Hersh, Seymour (2005). Chain of Command. Penguin Books. p. 181.
- International Law Norms, Actors, Process, 3rd Edition
- "Persian Gulf War". MSN Encarta. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-01. สืบค้นเมื่อ 2016-01-17.
- "1991 Gulf War Information". cryan.com.
- "Guerre du Golfe : le dernier combat de la division Tawakalna". checkpoint-online.ch.
- Cooper, Tom; Sadik, Ahmad (16 September 2003). "Iraqi Invasion of Kuwait; 1990". Air Combat Information Group. สืบค้นเมื่อ 17 April 2010.
- Kenneth Michael Pollack-- Arabs at War: Military Effectiveness, 1948-1991. 2002. Page 573.
- . osd.mil. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-05-06. สืบค้นเมื่อ 2016-01-17.
- . The Jewish Agency for Israel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2005. สืบค้นเมื่อ 22 June 2010.
- . Red Cross. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-07. สืบค้นเมื่อ 2016-01-17.
- . Project on Defense Alternatives. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-04. สืบค้นเมื่อ 9 May 2009.
- Fetter, Steve; Lewis, George N.; Gronlund, Lisbeth (28 January 1993). "Why were Casualties so low?" (PDF). Nature. London. 361 (6410): 293–296. doi:10.1038/361293a0. :1903/4282. S2CID 4343235.
- "Frontline Chronology" (PDF). Public Broadcasting Service. สืบค้นเมื่อ 20 March 2007.
- "Tenth anniversary of the Gulf War: A look back". CNN. 16 January 2001. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-22. สืบค้นเมื่อ 6 June 2007.
- Kenneth Estes. . Cfr.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-02. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- Operation Iraqi Freedom: Strategies, Approaches, Results, and Issues for Congress. (PDF) . Retrieved on 2014-05-24.
- Peters, John E; Deshong, Howard (1995). Out of Area or Out of Reach? European Military Support for Operations in Southwest Asia (PDF). . ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-25. สืบค้นเมื่อ 2016-01-17.
- "Livraria da Folha – Livro conta como Guerra do Golfo colocou a CNN no foco internacional – 08/09/2010". .folha.uol.com.br. สืบค้นเมื่อ 13 May 2011.
- A Guerra do Golfo, accessed on 29 March 2011
- A Guerra do Golfo, os Estados Unidos e as Relações Internacionais accessed on 29 March 2011.
- Guerra/Terrorismo – O maior bombardeio da história 2012-04-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, access on 27 November 2011.
- Douglas A. Borer (2003). . U.S. Army Professional Writing Collection. US Army. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2006. สืบค้นเมื่อ 12 October 2006.
- (1991). The Outlaw State: Saddam Hussein's Quest for Power and the Gulf Crisis. . p. 164. ISBN .
- Cleveland, William L. A History of the Modern Middle East. 2nd Ed pg. 464
- Duiker, William J; Spielvogel, Jackson J. World History: From 1500. 5th edition. Belmont, California, USA: Thomson Wadsworth, 2007. Pp. 839.
- Cleveland, William L. A History of the Modern Middle East. 2nd Ed pg. 463
- Academic forum for foreign affairs, Austria.
- "Saddam's message of friendship to president Bush (Wikileaks telegram 90BAGHDAD4237)". U.S. Department of State. 25 July 1990. สืบค้นเมื่อ 2 January 2011.
- Finlan (2003). p. 26.
- "Kuwait: Organization and Mission of the Forces". Library of Congress Country Studies. สืบค้นเมื่อ 14 April 2012.
- Finlan (2003). p. 25.
- Childs, John; Corvisier, André (1994). A Dictionary of Military History and the Art of War. . p. 403. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Knights, Michael (2005). Cradle of Conflict: Iraq and the Birth of Modern U.S. Military Power. . p. 20. ISBN .
- Dan Vaught. . Users.lighthouse.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-18. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- Finlan (2003). p. 29.
- . Palestinefacts.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-24. สืบค้นเมื่อ 13 May 2011.
- "Myths & Facts – The Gulf Wars". Jewishvirtuallibrary.org. สืบค้นเมื่อ 13 May 2011.
- Ziad Swaidan; Mihai Nica (June 2002). . Middle East Review of International Affairs. 6 (2). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-08-04.
- Deese, David A. . The History Professor. Concord Learning Systems. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-01-14.
- *Finlan (2003). p. 29. *. United Nations. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-10. สืบค้นเมื่อ 13 April 2012.
- Lori Fisler Damrosch, International Law, Cases and Materials, West Group, 2001
- (22 August 1990). "Confrontation in the Gulf: Behind Bush's Hard Line; Washington Considers a Clear Iraqi Defeat To Be Necessary to Bolster Its Arab Allies". The New York Times. New York. pp. A1. สืบค้นเมื่อ 16 September 2010.
- "Confrontation in the Gulf; Proposals by Iraqi President: Excerpts From His Address". The New York Times. New York. 13 August 1990. pp. A8. สืบค้นเมื่อ 17 October 2010.
- Waldman, Shmuel (2005). Beyond a Reasonable Doubt. Feldheim Publishers, p. 179.
- BBC News. "1990: Outrage at Iraqi TV hostage show". Retrieved 2 September 2007.
- Royce, Knut (29 August 1990). "MIDDLE EAST CRISIS Secret Offer Iraq Sent Pullout Deal to U.S". Washington Bureau. New York. สืบค้นเมื่อ 17 October 2010.
- Royce, Knut (3 January 1991). "Iraq Offers Deal to Quit Kuwait U.S. rejects it, but stays 'interested'". Washington Bureau. Long Island, N.Y. p. 5. สืบค้นเมื่อ 24 October 2010.
- Tyler, Patrick E. (3 January 1991). "CONFRONTATION IN THE GULF; Arafat Eases Stand on Kuwait-Palestine Link". The New York Times. New York. สืบค้นเมื่อ 17 October 2010.
- Friedman, Thomas L. (11 January 1991). "CONFRONTATION IN THE GULF; As U.S. Officials See It, Hands of Aziz Were Tied". The New York Times. pp. A10. สืบค้นเมื่อ 30 September 2010.
- See Paul Lewis, "Confrontation in the Gulf: The U.N.; France and 3 Arab States Issue an Appeal to Hussein," New York Times, 15 January 1991, p. A12
- Michael Kranish et al., "World waits on brink of war: Late effort at diplomacy in gulf fails," Boston Globe, 16 January 1991, p. 1
- Ellen Nimmons, A.P., "Last-ditch pitches for peace; But U.S. claims Iraqis hold key," Houston Chronicle, 15 January 1991, p. 1
- Jihad: The Trail of Political Islam.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 30 June 2010.
- "15 Years After Desert Storm, U.S. Commitment to Region Continues". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-08. สืบค้นเมื่อ 29 March 2007.
- . Council on Foreign Relations. 29 November 1990. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2009.
- . CNN In-Depth Specials. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-17. สืบค้นเมื่อ 5 April 2008.
- Lynch, Colum (1 November 2006). "Security Council Seat Tied to Aid". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- Bush, George H. W. (11 September 1990). . Miller Center of Public Affairs. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-16. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- . St. Petersburg Times. 6 January 1991. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-04. สืบค้นเมื่อ 13 January 2012.
- , Volume 59, page 33, Educational Foundation for Nuclear Science (Chicago, Ill.), Atomic Scientists of Chicago, Bulletin of the Atomic Scientists (Organization), 2003.
- "How PR Sold the War in the Persian Gulf | Center for Media and Democracy". Prwatch.org. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- Rowse, Ted (1992). "Kuwaitgate – killing of Kuwaiti babies by Iraqi soldiers exaggerated". Washington Monthly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-29. สืบค้นเมื่อ 2013-06-29.
- Makiya 1993, p 40.
- Makiya 1993, pp 31–33
- Makiya 1993, p 32.
- Edwin E. Moïse. "Limited War : The Stereotypes". Clemson University. สืบค้นเมื่อ 2 July 2010.
- Operation Desert Storm globalsecurity.com
- . CNN. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-12. สืบค้นเมื่อ 23 March 2008.
- Lee, Robin J. (2002). "Fixed-Wing Combat Aircraft Attrition in Desert Storm". สืบค้นเมื่อ 30 January 2012.
Sources: Gulf War Airpower Survey, Vol. 5; Norman Friedman, Desert Victory; World Air Power Journal. Additionally, Mark Bovankovich and LT Chuck Chase offered corrections and several intriguing details on these incidents. All errors, however, remain entirely mine.
- (1994). Crusade: The Untold Story of the Persian Gulf War. Houghton Mifflin Harcourt, p. 47.
- Lawrence Freedman and Efraim Karsh, The Gulf Conflict: Diplomacy and War in the New World Order, 1990–1991 (Princeton, 1993), 332.
- . C-SPAN. 9 January 1991. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 May 2011. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- Rostker, Bernard (2000). . Wisconsin Project on Nuclear Arms Control from 2000-2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-14. สืบค้นเมื่อ 21 May 2009.
- Lawrence Freedman and Efraim Karsh, The Gulf Conflict: Diplomacy and War in the New World Order, 1990–1991 (Princeton, 1993), 331–41.
- Thomas, Gordon, Gideon's Spies: The Secret History of the Mossad
- The Gulf War
- Atkinson, Rick; Balz, Dan (January 23, 1991). "Scud Hits Tel Aviv, Leaving 3 Dead, 96 Hurt". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ June 2, 2013.
- The Gulf War (1991)
- . . 1991. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-28. สืบค้นเมื่อ 11 January 2009.
- Sprey, Pierre M. "Evaluating Weapons: Sorting the Good from the Bad." CDI, February 2011.
- (ภาษาดัตช์). . 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-28. สืบค้นเมื่อ 11 January 2009.
- Cheney, Richard: In My Time: A Personal and Political Memoir
- . Iraqwatch.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-14. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- John Pike. "Operation Desert Sabre / Gulf War Ground Campaign". Globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- Andrew Leydon. "Carriers in the Persian Gulf War". Leyden.com. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- twentieth century battlefields, the gulf war
- . , Vintage (2007 reprint), at p. 646.
- "Abbas apology to Kuwait over Iraq". BBC News. 12 December 2004.
- ""Cheney changed his view on Iraq", by Charles Pope, Seattle Post-Intelligencer, 29 September 2004". 28 September 2004. สืบค้นเมื่อ 7 January 2005.
- Crocker III, H. W. (2006). Don't Tread on Me. New York: Crown Forum. p. 384. ISBN .
- Morin, Jean H.; Gimblett, Richard Howard (1997). Operation Friction, 1990–1991: The Canadian Forces in the Persian Gulf. Dundurn Press. p. 170. ISBN .
- Scott Peterson, "'Smarter' bombs still hit civilians, Christian Science Monitor, 22 October 2002.
- Robert Fisk, The Great War For Civilisation; The Conquest of the Middle East (Fourth Estate, 2005), p.853.
- "Toting the Casualties of War". Businessweek. 6 February 2003.
- Ford, Peter (9 April 2003). "Bid to stem civilian deaths tested". Christian Science Monitor.
- Keaney, Thomas; Eliot A. Cohen (1993). Gulf War Air Power Survey. United States Dept. of the Air Force. ISBN .
- . Comw.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-04. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- . CNN. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-07. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
- . Britains-smallwars.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-01. สืบค้นเมื่อ 13 May 2011.
- "Saudi Arabia – Persian Gulf War, 1991". Country-data.com. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- After the War; 92 Senegalese soldiers die in Saudi Air Crash. New York Times.
- "The Role of the United Arab Emirates in the Iran-Iraq War and the Persian Gulf War". Country-data.com. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- Miller, Judith. "Syria Plans to Double Gulf Force." The New York Times, 27 March 1991.
- "Soldier Reported Dead Shows Up at Parents' Doorstep". Associated Press. 22 March 1991.
- Schmitt, Eric (22 March 1991). "After the War". The New York Times.
- "Role of Kuwaiti Armed Forces in the Persian Gulf War". Country-data.com. 24 February 1991. สืบค้นเมื่อ 1 February 2011.
- Blanford, Nicholas (2001). "Kuwait hopes for answers on its Gulf War POWs". Christian Science Monitor.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 October 2009.
- Schröder H, Heimers A, Frentzel-Beyme R, Schott A, Hoffman W (2003). (PDF). Radiation Protection Dosimetry. 103: 211–219. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-09-24. สืบค้นเมื่อ 2009-09-10.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Hindin, R. et al. (2005) "Teratogenicity of depleted uranium aerosols: A review from an epidemiological perspective," Environmental Health, vol. 4, pp. 17.
- An Analysis of Uranium Dispersal and Health Effects Using a Gulf War Case Study 2012-02-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Albert C. Marshall, Sandia National Laboratories
- John Pike. "E-8 Joint-DEATH STAR [JSTARS]". Globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 18 March 2010.
- Clancy & Horner 1999, pp. 499–500.
- "Buried Alive: U.S. Tanks Used Plows To Kill Thousands In Gulf War Trenches" Newsday (New York), 12 September 1991, p. 1, Patrick Day Sloyan
- "frontline: the gulf war: appendix: Iraqi death toll". สืบค้นเมื่อ 4 December 2005.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid sngkhramxaw xngkvs Gulf War chuxrhsthangthharwa ptibtikarolthaelthray Operation Desert Shield 2 singhakhm 2533 17 mkrakhm 2534 epnptibtikarnasukarsngsmkalngaelakarpxngknkhxngsaxudixaraebiyaelaptibtikarphayuthaelthray Operation Desert Storm 17 mkrakhm 2534 28 kumphaphnth 2534 inrayasurb epnsngkhraminrahwangkalngphsmcak 34 chatinaodyshrthxemrikatxpraethsxirkhlngkarbukkhrxngaelaphnwkkhuewtkhxngxirksngkhramxawtamekhmnalikacakbnsud ekhruxngbinexf 15E exf 16 aelaexf 15C khxngkxngthphxakasshrthkalngbinehnuxbxnamninkhuewtthiifkalnglukthwm thharxngkvsin phaphklxngcaklxkhid exsi 130 yanwiswkrrbwnthi2 singhakhm 1990 ptibtikarolthaelthray ptibtikarphayuthaelthray 6 eduxn 3 spdah 5 wn sthanthixirk khuewt saxudixaraebiy xisraexlphlkalngphsmchnaxyangkhadlxy xirkthxnkalngcakkhuewt funfurabxbrachathipitykhxngkhuewt xirkxyuinsphaphthukbngkhb kalngphlsuyesiyxyanghnkaelakarthalayokhrngsrangphunthankhxngxirkaelakhuewt cdtngekhthambinxirkkhusngkhramkalngphsm khuewt shrth shrachxanackr saxudixaraebiy frngess xiyipt karsnbsnunthimiichkalngthhar sieriy omrxkok oxman katar shrthxahrbexmierts xinediy ithy aekhnada sepn xitali ednmark nxrewy ekahliehnux ebleyiym pakisthan xxsetreliy niwsiaelnd xarecntina bngklaeths inecxr opaelnd echoksolwaekiy kris ekahliit hngkari esenkl esiyrralioxn filippins swiedn turki singkhopr bahernxirkphubngkhbbychaaelaphunaesaabahthi 4 aehngkhuewt cxrc exch dbebilyu buch khxlin phxewll br husni mubarxk markaert aethtechxr cxhn emecxr frxngsw miaetrxngsddm husesnkalng956 600 nay epnthharshrth 700 000 naythharinaenwhna 650 000 nay kalngsarxng 1 000 000 naykhwamsuyesiykalngphsm thharshrthesiychiwitinhnathi 148 nay esiychiwitthimiidekidcakstru 145 nay badecbinhnathi 467 nay rwm esiychiwit 292 nay badecb 776 nay karesiyyuththphnth rththngthukthalay 4 20 dozens damaged punihythukthalay 1 yantxsuthharrabthukthalay 9 ehlikhxpetxrthukthalay 17 xakasyanthukthalay 44 khuewt esiychiwit 200 nayesiychiwit 20 000 35 000 nay badecb 75 000 nay hnithphhruxthukcbepnechly 300 000 nay karesiyyuthnphnth rththngthukthalay 3 700 4 000 xakasyanthukthalay 2 140 yantxsurththngthukthalay 1 856 ehlikhxpetxrthukthalay 7 xakasyanthukthalay 240 eruxthukcm 19 eruxesiyhay 6karesiyphleruxnkhxngkhuewt esiychiwitkwa 1 000 khn suyhay 600 khn karesiyphleruxnkhxngxirk esiychiwitpraman 3 664 khn karesiyphleruxnxun phleruxnesiychiwit 300 khn badecbmakkwani sngkhramnimichuxxun echn sngkhramxawepxresiy sngkhramxawkhrngthihnung sngkhramkhuewt sngkhramxirk sungkhawa sngkhramxirk txmaicheriykkarbukkhrxngxirkemuxpi 2546 aethn karyudkhrxngkhuewtkhxngkxngthphxirksungerimemuxwnthi 2 singhakhm 2533 nnthuknanachatipranam aelasmachikkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatiphlnichwithikarbngkhbthangesrsthkictxxirk prathanathibdi cxrc exch dbebilyu buch wangkalngshrthekhasusaxudixaraebiyaelakratunihpraethsxunsngkalngkhxngtnipthinndwy mihlaychatiekharwmkalngphsm sungepnphnthmitrthangthharthiihythisudnbaetsngkhramolkkhrngthisxng kalngthharkhxngkalngphsmswnihymacakshrth odymisaxudixaraebiy shrachxanackraelaxiyiptepnphumiswnrwmrayihytamladb saxudixaraebiysmthbengin 36 000 landxllarshrthcakkhasngkhram 60 000 landxllarshrth sngkhramnimikarrierimkarthaythxdkhawsdcakaenwhnakhxngkarsurb hlk odyekhruxkhaysiexnexnkhxngshrth sngkhramniyngidchuxelnwa sngkhramwidioxekm hlngkarthaythxdphaphraywncakklxngbnekhruxngbinthingraebidshrthrahwangptibtikarphayuthaelthray khwamkhdaeyngrayaaerkephuxkhbkxngthphxirkxxkcakkhuewterimdwythangradmthingraebidthangxakasaelathangeruxemuxwnthi 17 mkrakhm 2534 aeladaeniniphaspdah tamdwykarocmtiphakhphundinemuxwnthi 24 kumphaphnth sngkhramsinsuddwychychnaxyangkhadlxykhxngkalngphsm sungkhbkxngthphxirkxxkcakkhuewtaelarukekhadinaednxirk kalngphsmyutikarbukaelaprakashyudyinghlngkarthphphakhphunerim 100 chwomng karsurbthangxakasaelathangbkcakdxyuinpraethsxirk khuewtaelabangphunthitrngphrmaednsaxudixaraebiy praethsxirkplxykhipnawuthskdtxepahmaythangthharkhxngkalngphsmaelatxxisraexlebuxnghlngtlxdchwngewlakhxngsngkhrameyn xirkepnphnthmitrshphaphosewiytaelamiprawtikhwamimlngrxykbshrthxemrika shrthkngwlthungtaaehnngkhxngxirktxkaremuxngxisraexl chawpaelsitnaelakarthixirkimehndwykbsntiphaphrahwangxisraexlkbxiyipt shrthexngkimchxbkarthixirkekhasnbsnunklumxahrbaelapaelsitntidxawuthxyang sungthaihmikarrwmxirkekhaipinraychuxkhamchatikhxngshrthinwnthi 29 thnwakhm ph s 2522 shrthyngkhngsthanaepnklangxyangepnthangkarhlngcakkarrukrankhxngxihranklaymaepnsngkhramxirk xihran aemwacaaexbchwyxirkxyanglb xyangirkdiineduxnminakhm 2525 xihranerimthakarottxbidsaerc aelashrthidephimephuxpxngknimihxirkthukbngkhbihphayaeph inkhwamphyayamkhxngshrththicaepidkhwamsmphnththangkarthutxirkxyangetmtw praethsxirkidthuknaxxkcakraychuxpraethsthisnbsnunkarkxkarray nnkephraawakarphthnainbnthukkarpkkhrxng aemwaxditphuchwyrthmntrikrathrwngklaohmshrth onexl khxch idklawinewlatxmawa immiikhrthisngsyineruxngthixirkyngkhngmiswnekiywkhxngkbphukxkarray ehtuphlcring khuxephuxchwyihphwkekhamichyehnuxxihran emuxxihranprasbkbchychnainsngkhramaelaptiesthkarsngbsukthiidrbkaresnxkhunineduxnkrkdakhm karkhayxawuthihkbxirkkthalaysthitiemuxpi 2525 aetxupsrrkhyngkhngmixyurahwangshrthkbxirk klumxabuindlyngkhngidrbkarsnbsnunxyuinaebkaedd emuxprathanathibdixirk sddm husesn idkhbilphwkekhaipyngsieriytamkhakhxkhxngshrthineduxnphvsphakhm ph s 2526 rthbaleraeknidsng odnld rmsefld ephuxphbkbprathanathibdihusesnepnthutphiessaelaephuxkrachbkhwamsmphnth khwamtungekhriydkbkhuewt emuxxirkthakarhyudyingkbxihranineduxnsinghakhm ph s 2531 xirkkprasbkbkarlmlalayxyangaethcring odyswnihyepnhnisaxudixaraebiyaelakhuewt xirkkddnthngsxngchatiihykhnithnghmd aetthngsxngpraethstxbptiesth xirkyngidklawhakhuewtwaidphlitnamnekinokhwtakhxngoxepk thaihrakhanamndinglng sungsngphlihxirkprasbkbpyhadanesrsthkicephimekhaipxik karthirakhakhxngnamntklngsngphlkrathbtxesrsthkickhxngxirkxyangihyhlwng rthbalxirkidbrryaywamnepnsngkhramthangesrsthkic sungxangwakhuewtepntnehtu odykarecaathxlxdkhamphrmaednekhaipinthungnamnrumaeliykhxngxirk khwamkhdaeyngrahwangthngsxngpraethsyngekiywkhxngkbkhaklawxangkhxngxirkthirabuwa khuewtepnxanaekhtkhxngxirk hlngcakidrbexkrarchcakshrachxanackrin ph s 2475 rthbalxirkidprakasinthnthiwakhuewtepnxanaekhtodychxbthrrmkhxngxirk enuxngcakekhyxyuphayitkarpkkhrxngkhxngxirkepnewlahlaystwrrscnkrathngxngkvskxtngkhuewtkhunhlngsngkhramolkkhrngthihnung dngnn cungidklawwa khuewtepnphlphlitcaklththickrwrrdiniymkhxngxngkvs xirkxangwakhuewtekhyepnswnhnungkhxngcnghwdbasrakhxngckrwrrdixxtotmn rachwngsthipkkhrxngkhuewt xlsxbah idtdsiniclngnaminkhxtklngepnrthinxarkkhaemux ph s 2442 sungmxbhmaykhwamrbphidchxbkickarrahwangpraethsihaekxngkvs xngkvsekhiynphrmaednrahwangthngsxngpraeths aelaphyayamcakdthangxxksuthaelkhxngxirkxyangramdrawng ephuxthiwarthbalxirkinxnakhtcaimmioxkaskhukkhamkarkhrxbkhrxngxawepxresiykhxngxngkvs xirkptiesththicayxmrbphrmaednthithukekhiynkhun aelaimrbrxngkhuewtcnkrathngpi ph s 2506 intxntneduxnkrkdakhm ph s 2533 xirkimphxickbphvtikrrmkhxngkhuewt xyangechn imekharphokhwta aelakhukkhamthicaichkalngthharxyangepidephy wnthi 23 krkdakhm siixexraynganwaxirkidekhluxnkalngphl 30 000 nay ipyngphrmaednxirk khuewt aelakxngeruxshrthinxawepxresiyidrbkaretuxnphy wnthi 25 krkdakhm sddm husesn phbkbexphril klasphay exkxkhrrachthutxemrikninkrungaebkaedd tamkaraeplepnphasaxirkkhxngkarprachumkhrngnn klasphayphudkbphuaethnxirkwa eraimmikhwamkhidehntxkhwamkhdaeyngxahrb xahrb tambnthukswntwkhxngklasphay ethxklawinkarprachumthungphrmaednthichdecnrahwangkhuewtaelaxirk waethxidekhythanganxyuinkhuewtemux 20 pikxn dngnn inkhnani eracungimeluxkfaytxkhwamsmphnthrahwangxahrb emuxwnthi 31 karecrcarahwangxirkaelakhuewtinecddahprasbkhwamlmehlwxyangrunaerng karbukkhrxngkhuewt rththngpracyban khxngkxngthphkhuewtrththngpracthbanthi 72khxngkxngthphbkxirkekhruxngbinaemkhdxnenll dklas ex 4ekhyu skayhxwkhkhxngehlikhxpetxrkhnsngkhxng phlcakkarprachumthiecddhlngexydwykarthixirktxngkarengincanwn 1 hmunlandxllarshrthephuxchdechyrayidthitnesiyipcakthungnamnruimla khuewtesnxklbdwyengincanwn 9 phnlandxllarshrth sungthaihxirksngthakarbukinthnthi inwnthi 2 singhakhm ph s 2533 xirkepidkarrukdwykarthingraebidiskhuewtsiti emuxnghlwngkhxngkhuewt inchwngkhnakarbuk echuxknwamithhar 16 000 nay odyaebngxxkepnkxngkalngyanekraa thharchang aelakxngthharpunihy kalngkhxngkxnchwngsngkhramnnxyuthipraman 2 200 nay odymixakasyan 80 laaelaehlikhxpetxrxik 40 la aemwaxirkidthakarkhuepidsngkhramkxnhna aetkhuewtklbimidetriymkxngkalngkhxngtnexaiw kxngthphkhuewtyxmaephinwnthi 19 krkdakhm emuxsinsudsngkhramxihranxirkinpiph s 2531 kxngthphbkxirkklayepnkxngthphxndbsithiihythisudinolk odyprakxbdwythhar 955 000 nayaelakxngkalngkungthharxik 650 000 nay cakkarkhadkarnkhntakhxngcxhn ichldsaelaxngedr khxrwiaesr kxngthphxirksamarthradmrththngid 4 500 khn xakasyanrb 484 la aelaehlikhxpetxrrbxik 232 la imekhil inths khadkarwa inkrnixyangmak xirkcasamarthradmphlid 1 lannayaelakxngkalngsarxngxik 850 000 nay phrxmrththng 5 500 khn punihy 3 000 krabxk xakasyanrbaelaehlikhxpetxr 700 la epnthnghmd 53 kxngphl krmsngkhramphiess 20 krm aelakxngkalngtidxawuthxikcanwnmaktamphunthi aelaphwkekhakmikarpxngknthangxakasthiaennhnaxikdwy hnwykhxmmanodkhxngxirkepnhwhxkinkarrbdwykaraethrksumekhaipthichayaednkhxngkhuewtephuxetriymkarrbihphrxmsahrbhnwyrbkhnadihythicaepidsuktxnethiyngkhun xirkaebngkarrukepnsxngaenw odymikxngkalnghlkocmticakthangehnuxlngipthangitphanthanghlwngtrngipyngkhuewt aelaxikdanepnkarocmtisnbsnunthiekhacakthangtawntkkhxngkhuewtaelahkxxkipthangtawnxxk ephuxtdemuxnghlwngxxkcakthangitthiehluxkhxngpraeths phubychakarkxngphnyanekraa krmyanekraathi 35 khxngkhuewtidwangaenwrbephuxrbmuxkxngthphxirkaelasamarthpxngknexaiwidxyangdueduxdinkarrbiklkbthangtawntkkhxngkhuewtsiti xakasyankhxngkhuewtekhaskdkhasukaetthukyudhruxthalayiprxyla 20 karrbthangxakaskbkxngphlkhnsngthangehlikhxpetxrkhxngxirkekidkhunehnuxkhuewtsiti xirksuyesiythharchndiepncanwnmak nxkcakniyngmikarpathapraprayrahwangkxngthphxakaskhuewtkbkxngkalngphakhphunkhxngxirkdwy kxngkalnghlkkhxngxirkfaaenwekhaipyngkhuewtsitinaodykhxmmanodthisngodyehlikhxpetxraelaeruxephuxekhaocmtiemuxngcakthangthael ikhnathikxngphlxunekhayudthaxakasyanaelasnambin xirkthakarocmtiwngdsman thiphkkhxngecachay sungkhumknodyxngkhrksaelarththng inkarrb ecachayxngkhelksudthukplngphrachnmodyfayxirk faytxtanswnihythukprabpramphayinsibsxngchwomng rachwngshlbhnixxknxkkhuewt thaihxirkekhakhwbkhumphunthiswnihykhxngkhuewt hlngcakkartxsuxyangdueduxdepnewlasxngwn kxngkalngswnihykhxngkhuewtthukexachnaodyhruximkhniipyngsaxudixaraebiy ecachayaehngkhuewtaelarthmntrisamarthhlbhniaelamunghnalngitephuxkhxliphyinsaxudixaraebiyid kxngkalngphakhphunkhxngxirkekhakhwbkhumkhuewtsiti hlngcaknnmunghnalngitephuxwangkalngphltlxdaenwchayaednsaxu hlngcakidrbchychna sddmkerimtngkarpkkhrxnghunechidodyichchuxwarthbalchwkhrawaehngesrikhuewt kxnthicaaetngtngihyatikhxngtn epnphuwarachkarinwnthi 8 singhakhmchwngkxnerimsngkhramwithikarthangkarthut inchwomngthikarrukrankhuewterimkhun khnaphuaethnkhxngkhuewtaelashrthidekharxngihmikarprachumkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachati sungidxnumti sungmxngwakarrukranepnsingimthuktxngaelatxngkarihxirkthxnthharxxk inwnthi 3 singhakhm snnibatxahrbidxxkmti sungsrupidwatxngkarhathangxxkkhxngpyhaodyklumchatiinsnnibatxahrbethann aelaetuxnimihchatixunekhamaekiywkhxng xirkaelaliebiyepnchatixahrbsxngchatithiptiesthmtithiihxirkthxnthharxxkcakkhuewt xngkhpldplxypaelsitnehndwykbxirk rthxahrbeyemnaelacxraedn sungepnphnthmitrkbtawntkthimichayaedntidkbxirkaelaphungphaesrsthkickhxngxirk imehndwykbkaraethrkaesngthangthharcakchatithiimichrthxahrb rthxahrbsudanehndwykbsddm inwnthi 6 singhakhm tam idmitxxirk hlngcaknnidmi sungsngkarihmikarpidlxmthangthaelephuxthwikhwamrunaerngkhxngkarkhwabatr khnamntrikhwammnkhngklawwa karichmatrkardngklawtxsthanakarnthiekidkhunnnxacepneruxngcaepn ephuxthicahyudkarekhaxxkkhxngeruxsinkha ephuxtrwcsxbsinkhaaelacudhmayplaythangbneruxehlannaelaephuxihaenicwamtithi 661 thukbngkhbichxyangekhmngwd prathanathibdishrth cxrc dbebilyu buch ekhaeyiymthharxemrikninsaxudixaraebiyenuxnginwnkhxbkhunphraeca piph s 2533 tngaetaerkerim thangkarshrthyunynwaihmikarthxnthharxirkthnghmdxxkcakkhuewt odyklawwaimmikhwamekiywkhxngid kbpyhaxun intawnxxkklang shrthekrngwahakmtiexkchnthid cakxirkcathaihxirkmixiththiphlinbriewndngklawinxnakht inwnthi 12 singhakhm ph s 2533 sddmidprakasihmikarpranipranxmphanthangwithyukrungaebkaeddaelahnwyngankhawkhxngxirk ekhaklawwa thukkaryudkhrxngthiekidkhun aelathukkrnithiehnwaepnkaryudkhrxng inphunthidngklaw cathukykelikphrxm kn odyekhaklawepnphiesswatxngkarihxisraexlthxnkalngxxkcakpaelsitn sieriy aelaelbanxn rwmthngihsieriythxnkalngxxkcakelbanxndwy aelaesrimwa karthxnkalngodyxirkaelaxihrancdkarsthankarnwnkhuewt ekhaideriykrxngihhakxngkalngmaaethnkxngthharkhxngshrthinsaxudixaraebiydwykxngkalngkhxngchatixahrb odycatxngimepnkxngkalngcakxiyipt nxkcakniekhakhxih hyudkarkhwabatrthnghmd aelaptibtitxxirkxyangepnpkti tngaetthiwikvtkarndngklawerimkhun prathanathibdishrthyunkranwakarthixirkekhayudkhuewtnnimmiswnekiywkhxngid kbpyhainpaelsitn inwnthi 23 singhakhm sddmprakttwthangothrthsnphrxmtwpraknchawtawntk sungekhaptiesththicaihxxkcakpraeths inwidiox ekhathamedkchaychawxngkvs scwt lxkwud phanthanglamwaekhaidrbnmhruxim aelaphudtxwa erahwngwathihnumainthanaaekhkcaimtxngkinewlanannk karthihnuxyuthiniaelathixun epnephuxpxngknimihekidsngkhram xikkhxesnxhnungcakxirkekidkhunineduxnsinghakhm ph s 2533 odysngihkbthipruksakhwammngkhngkhxngchatikhxngshrth ebrnth skhxwkhrxfth xirktidtxkbthaeniybkhawwa cathxnthharxxkcakkhuewtaelayxmihchawtangchatixxknxkpraethsid odyshprachachaticatxngykelikkarkhwabatr odytxngyxmih samarthekhaxxkxawepxresiyphanekaabubiynaelawarbahkhxngkhuewtidodymikarrbrxng aelayxmihxirk khwbkhumthungnamnruimlaidxyangetmthirwmthngbangswninekhtkhxngkhuewt khxesnxyngrwmthng yxmihmikarecrcakartklngeruxngnamnkbshrth ephuxkhwamphxicthngsxngfay ephux phthnaaephnrwmkn ephuxbrrethapyhathangesrsthkicaelakarenginkhxngxirk aela thanganrwmknephuxkhngiwsungesthiyrphaphkhxngxawepxresiy ineduxnthnwakhm ph s 2533 xirkidyunkhxesnxwacathxnthharxxkcakkhuewtodycaimmikarocmtikhnathakarthxnthph aelakhanungthungkarhamichxawuthxanuphaphthalaylangsunginphunthipaelsitn thangthaeniybkhawptiesthkhxesnxdngklawysesxr xaraftcakihkhabrryaywathngekhaaelasddmimyunynwa khwrthicamikaraekikhpyhaxisraexlaelapaelsitnkxnthicaaekikhinkhuewt aemwaekharuwathngsxngpyhamikhwamekiywkhxngknxyangaennxn thaythisud shrthyunhydwacaimmikarecrcaid cnkwaxirkcathxnthharxxkcakkhuewtaelaphwkekhacaimmiexkchnthid ihkbxirk ephuxihxirkehnwaphwkekhaimidxaircakptibtikarthangthharthikrathaip nxkcakni emuxrthmntrikhxngshrthidphbkbinkrungecniwa praethsswis innathisudthaykhxngkarecrcaephuxkhwamsngbemuxtnpiph s 2534 miraynganwaxsisimmikhxesnxthiepnrupthrrmaelaimehnkhwamnasngsyid inkarkrathakhxngxirk inwnthi 29 phvscikayn ph s 2533 sphakhwammnkhngidlng sungihewlaxirkthxnthharxxkcakkhuewtcnthungwnthi 15 mkrakhm ph s 2534 aelaxnuyatihrththimixanac ichthukwithi ephuxkhbilxirkxxkcakkhuewtemuxekinewlakahnd inwnthi 14 mkrakhm ph s 2534 frngessidyunkhxesnxihsphakhwammnkhngeriykrxngihmi karthxnthharxyangrwderw cakkhuewtphrxmkbsngkhaaethlngthungxirkwasmachiksphakhwammnkhngcathakar eriyir ephuxyutikhxphiphathinphunthithimipyha odyechphaapyhaxisraexlkbrthxahrbaelapyhainpaelsitn dwykarcdprachumnanachatiinewlathiehmaasm ephuxkhngiwsung esthiyrphaph khwammnkhng aelakarphthnainswndngklawkhxngolk khxesnxdngklawidrbkarsnbsnuncakebleyiym khnannepnsmachikimthawrkhxngspha eyxrmni sepn xitali xlcieriy omrxkok tuniesiy aelapraethsxunxikmakmay shrth shrachxanackr aelashphaphosewiytimehndwy thutshrthinshprachachati othms phikekxrring klawwakhxesnxkhxngfrngessnnimsamarthyxmrbid ephraawamnimepniptammtithisphaidlngiwintxnthixirkekharukrankhuewt withikarthangthhar khwamkngwlhlkkhxngpraethstawntkkhuxkarthisaxudixaraebiytkxyuinphykhukkhamcakxirk hlngcakthikhuewtthukyud xirkkekhasurayaiklphxthicaekhaocmtibxnamnkhxngsaxudixaraebiy hakwabxnamndngklawthukkhwbkhumphrxmkbinkhuewtaelakhxngxirk sddmkcakhwbkhumaehlngnamnhlkkhxngolkexaiw nxkcakniaelwxirkexngkmikhwamaekhnswntwkbsaxu saxunnidihenginyumaekxirkinsngkhramxirkxihranepncanwn 26 000 landxllarshrth saehtuthisaxuyxmchwyxirkinkhrngnnkephraawaklwxiththiphlkhxngnikaychixahthilukhuxcakkarptiwtiinxihran hlngcaksngkhramsinsudlng sddmkhidwaekhaimtxngcayhniihkbsaxuephraaxirkidchwytxbaethndwykartxsukbxihranipaelw exf 15xithikalngcxdinchwngptibtikardiesirthchild imnanhlngcakthisddmyudkhuewtid ekhakerimthakarphudocmtisaxu odyklawwa karthishrthsnbsnunsaxudixaraebiyepneruxngimehmaasmaelaimkhwrkhaxyangyingthishrthcaepnkhnpkpxngemuxngskdisiththixyangemkkaaelaxlmadinah ekhaidrwbrwmphasakhxngklumxislamthiidrwmrbinxfkanisthanemuximnanphrxmkbwathsastraebbthixihranichocmtisaxuepnewlanan dwykarichnoybaytamhlkkharetxraeladwykarekrngwakxngthphbkxirkcaepidkarrukekhasaxudixaraebiy prathanathibdishrthcxrc exch dbbliw buchcungprakasxyangthnthiwacathakarpxngknsaxucakkarrukrankhxngxirkodyichchuxwa ptibtikardiesirthchild sungerimkhuninwnthi 7 singhakhm ph s 2533 emuxthharshrththuksngekhaipyngsaxudixaraebiytamkhakhxrxngcakkstriyfahdaehngsaxu karpxngknthnghmdnithukykelikxyangrwderwinwnthi 8 singhakhm emuxxirkprakaswakhuewtcaepncnghwdthi 19 khxngxirkaelapkkhrxngodyphuwakungthhar xli hssan xlmacid yatikhxngsddmexng kxngthpheruxshrthidsngkxngeruxrbsxngklumekhasuxawepxresiy odymieruxbrrthukxakasyanaelaepnhlkaelaphrxmrbinwnthi 8 singhakhm nxkcakniyngmieruxpracybanaelathithuksngekhaipinphunthixikdwy miexf 15 thnghmd 48 lacakfungbinkhbilthi 1 cakthanthphxakasaelngliykhxngshrth odymalngcxdthisaxudixaraebiyaelaxxkptibtihnathibinladtraewnbriewnchayaednsaxu khuewt xirkinthnthiephuxepnkarkhmkhwythharxirkthikalngrukkhub nxkcakniyngmikxngesrimepnexf 15ex di 36 lacakfungbinkhbilyuththwithithi 36 cakeyxrmni kxngbindngklawekhapracakarthithanbinxl kharc sunghangcakkrungriyadhpraman 1 chwomngcakthangtawnxxkechiyngit inkarrbfungbinthi 36 samarthyingekhruxngbinkhxngxirktkid 11 la nxkcakniyngmihnwybinsxnghnwycakkxngkalngpxngknthangxakasaehngchatiekhamapracakarthithanbinxl kharc fungbinkhbilthi 169 khxngshrthcakesathaekhorilnaidekhathapharkicthingraebidrwmkbexf 16 canwn 24 la odythapharkicthnghmd 2 000 ethiywaelathingraebidip 4 lanpxnd exf 16 xik 24 lacakfungbinthi 24 cakniwyxrkkrwmthapharkicthingraebidechnkn nnepncuderimtnkhxngkarsngsmkxngkalngthharcninthisudmithharmakthung 543 000 nay epnsxngethakhxngcanwnthharthiikhinkarrukranxirk ph s 2546 xupkrnmakmaythuksngmathangekhruxngbinhruxerux epnehtuphlthiphwkekhasamarthradmphlidrwderwmak karkxtngkxngkalngphsm mtimakmaycaksphakhwammnkhngaehngshprachachatiaelasnnibatxahrbthuklngnaminchwngthixirkrukrankhuewt mtihnungthisakhythisudkhux thixxkmainwnthi 29 phvscikayn ph s 2533 sungihesntayinkarthxnthphaekxirkinwnthi 15 mkrakhm ph s 2534 aelaihkhasnginkarichthukwithiephuxkhngiwsungmtithi 660 aelarupaebbthangkarthutthixnuyatihichkalnghakxirkimsamarththxnthharinewlathikahndid phlexknxraemn chwaskhxphf cueniyraelacxrc exch dbebilyu buch ekhaeyiymharshrthinsaxudixaraebiyenuxnginwnkhxbkhunphraecaemuxpiph s 2533 shrthidrwbrwmkxngkalngphsmkhxngnanachatiekhadwyknephuxtxtankarrukrancakxirk odyprakxbdwypraethsthnghmd 34 praeths idaek xarecntina xxsetreliy bahern bngklaeths ebleyiym aekhnada ednmark xiyipt frngess kris xitali khuewt omrxkok enethxaelnd niwsiaelnd inecxr nxrewy oxman pakisthan oprtueks katar ekahliit saxudixaraebiy esenkl esiyralioxn singkhopr sepn sieriy shrthxahrbexmierts shrachxanackr aelashrthxemrika nayphlcakkxngthphbkshrthnxraemn chwaskhxphf cueniyr idrbhnathiinkarbychakarkxngkalngphsminphunthixawepxresiy aemwayipunaelaeyxrmnicaimidsngthharrwmsngkhram aetphwkekhaihkarsnbsnunthangkarenginepncanwnthngsin 1 hmunlandxllarshrthaela 6 600 landxllarshrth tamladb kxngkalngphsmkhidepnthharshrthrxyla 73 cakthnghmd 956 600 nay kxngkalngphsmbangswnrusuklngelthicaekharwmsngkhram bangchatiehnwasngkhramdngklawepneruxngphayinkhxngchatixahrb hruxbangchatikimtxngkarthicaihshrthmixiththiphlintawnxxkklangmakkhun inthaythisudhlaypraethskyxmekharwmephraaehnkhwamekriywkradkhxngxirkthimitxrthxahrbxun odychatiehlannesnxthicaihkarchwyehluxthangesrsthkichruxykelikhnisin ehtuphlinkarekhaaethrkaesng dik echniyekhaphbecachaysultanthisaxudixaraebiyephuxhawithirbmuxkbkarrukrankhuewt shrthaelashprachachatiihehtuphlmakmayinkarekhaaethrkaesngehtukarninkhuewttxsatharna ehtuphlhlkkkhuxkarthixirkrukranxanaekhtkhxngkhuewtnnexng nxkcaknishrthyngekhasnbsnunphnthmitrxyangsaxudixaraebiy sungepnpraethsthimikhwamsakhyintawnxxkklangaelaepnphusngxxknamnraysakhy odymxngwaeruxngthiekidkhunepnkhwamsakhydanphumisastrkaremuxng imnanhlngcakkarrukrankhuewt rthmntriwakarkrathrwngklaohmdik echniyidipeyuxnsaxudixaraebiytamkharxngkhxkhwamchwyehluxcakshrthodykstriyfahdaehngsaxu inkaraethlngkarinkarprachumphiesskhxngsphakhxngekrsemuxwnthi 11 knyayn ph s 2533 prathanathibdishrthcxrc exch dbebilyu buchidrwbrwmehtuphlphrxmkbraylaexiydwa phayinsamwn thharxirk 120 000 nayphrxmrththng 850 khnidthalkekhakhuewtaelaekhluxnphlipthangitephuxkhukkhamsaxudixaraebiy nnepnehtuphlthikhaphecatdsinicthicalngmuxephuxcdkarkbkarrukrandngklaw thangephntakxnidklawwarupthaythangdawethiymidaesdngihehnkxngkalngxirkthiradmphltlxdaenwchayaedn aettxmaphbwaepnkarekhaicphid phurayngankhawcakidphaphthaysxngphaphcakdawethiymphanichykhxngosewiytthiaesdngihehnephiyngthaelthraythiwangepla nayphlkhxlin phxewll say nayphlnxraemn chwaskhxphf cueniyr aela khwa khnaekhafngrayngancakrthmntriwakarkrathrwngklaohmshrthdik echniyinkrnisngkhramxawpiph s 2534 ehtuphlxun inkarekhaaethrkaesngkhuxkarthixirkmikarlaemidsiththimnusychninchwngkarpkkhrxngodysddm nxkcakniyngepnthiruknodythwwaxirknnkhrxbkhrxngxawuthchiwphaphaelaxawuthekhmi sungsddmekhyichcdkarkbthharxihraninchwngsngkhramxihran xirkaelaichkbchawekhirdthixasyxyuinxirkxikdwy xirkexngkmiokhrngkarxawuthniwekhliyraetkhxmuldngklawswnhnungcakpiph s 2534 thukhnwysubrachkarlbkhxngshrthphisucnwaimepnkhwamcringinwnthi 26 phvsphakhm ph s 2544 aemwacamikarlaemidsiththimnusychninkhuewtodykxngthphxirk aetkrnithiepnthiruckmakthisudinshrthkhuxkaraethrkaesngbristhprachasmphnththiwacangodyrthbalkhuewtephuxsngxiththiphltxkhwamkhidehnkhxngshrthinkarichthharekhaaethrkaesng imnanhlngcakkarrukrankhuewt xngkhkrthieriykwa klumphlemuxngephuxpldplxykhuewt kekidkhuninshrth xngkhkrdngklawidwacangbristhprachasmphnthchuxhillaexndonltnepncanwnenginpraman 11 landxllarshrth sungmirthbalaehngkhuewtepnkhncay inhmuwithixun thisngxiththiphltxkhwamehnkhxngshrth echn karaeckcayhnngsuxthitiaephkhwamohdraykhxngxirktxthharxemrikn esuxthimikhxkhwamwa pldplxykhuewt rwmthngkarkracayesiynginmhawithyalyaelawidioxmakmaythangothrthsn bristhdngklawidcdihmikarprakttwtxhnasmachiksphakhxngekrs sungmiphuhyingkhnhnungrabutnwaepnphyabalthithanganinorngphyabalinkhuewt phrxmxthibaywaehnthharxirknaedktharkxxkcakekhruxngxbaelathingihtharktaybnphun eruxngdngklawsngxiththiphltxthngsatharnaaelasphakhxngekrsineruxngkarthasngkhramkbxirk smachiksphahkkhnehnwaeruxngeladngklawepnehtuphlephiyngphxthicaihichkxngthphcdkarkbxirkaelamiwuthismachikxikecdkhnthinaeruxngdngklawsukarthkethiyng wuthisphasnbsnunihmikarlngmuxthangthhardwyesiyngohwt 52 tx 47 esiyng xyangirktamhnungpihlngcaksngkhramerimkhun karihkardngklawthukepidephywaepneruxngokhk phuhyingkhndngklawthiepnkhnihkarthukphbinphayhlngwaepnsmachikrachwngskhxngkhuewt aelaepnluksawkhxngthutkhuewtinshrth ethximidxasyxyuinkhuewttxnthixirkthakarbukdwysa raylaexiydkhxngkarprachasmphnthodybristhhillaexndonltnthuktiphimphinhnngsux Second Front Censorship and Propaganda in the Gulf War thiekhiynodycxhn xar aemkhxaethxr aelaepnthisnicinhmuprachachnemuxkhwamkhidehnkhxngaemkhinththuktiphimphin edxaniwyxrkithms singthiekidkhunkhuxmikarkratunihekidkartrwcsxb hlngcakthiimphbhlkthaneruxngthithharxirkptibtikbedkthark xngkhkrdngklawkthxntwxxkip prathanathibdibuchidyaeruxngkhxklawhadngklawxikkhrngthangothrthsn inkhnaediywkn kxngthphbkxirkidkxxachyakrrmhlaykhrngsungthukbnthukexaiwinchwngthiekhayudkhrxngkhuewt echn karpraharnkothssamphinxngodyprascakkaritswn sphkhxngthngsamthuksumthingiwihenaxyuklangthnn thharxirkyngidekhaplnsadmbankhxngprachachnxikdwy banhlnghnungthukichepnthithaykhxngesiyxyubxykhrng txmaphuxyuxasykhnhnungklawwa eruxngthnghmdepnkarichkhwamrunaerngaekikhkhwamrunaerng epnkarichkarthalayephuxtxkrkbxikkarthalay khunlxngnukthungphaphwadehnuxkhwamcringkhxngslwadxr dalidusi sngkhramchwngtnkarthphthangxakas ekhruxngbinocmtiexf 117 inthhxwkhkhxngkxngthphxakasshrth epnsinghnungthimibthbathsakhyinptibtikarphayuthaelthray sngkhramxawerimkhundwykarthingraebidthangxakasxyangdueduxdinwnthi 17 mkrakhm ph s 2534 ekhruxngbinkhxngkxngkalngphsmthakarbinkwa 1 aesnkhrngphrxmthingraebidkwa 88 500 tn aelaidthalaysingkxsrangthangthharaelaphleruxnipepncanwnmak karsukthangxakasbychakarodyphlxakasothcakkxngthphxakasshrth sungkxnhnaniidthahnaepnepnphubychakarsungsudinkhnathinayphlchwaskhxphfyngxyuthishrth hnungwnhlngcakesntaytammtithi 678 kxngkalngphsmidepidkarsukthangxakaskhnadihy sungepnkarerimtnptibtikarphayuthaelthray cudprasngkhhlkkhxngkxngkalngphsmkhuxkarekhathalaykxngthphxakasaelathantxtanxakasyankhxngxirk karbinswnmakmithancaksaxudixaraebiyaelakxngeruxbrrthukekhruxngbinthnghklakhxngkxngkalngphsmthicxdxyuinxawepxresiyaelathaelaedng rththngthikhadwaxacepnthi 54exhruxithp 59 khxngxirkthithukthalaycakkarthingraebidkhxngkxngkalngphsminptibtikarphayuthaelthray epahmaytxipkhuxsunyxanwykhwamsadwkaelasunybychakarkhxngxirk sddm husesnidthakarcdkarkxngthphxirkdwytwexngthnghmdinsngkhramxihran xirk nkyuththwithikhxngkxngkalngphsmhwngthicaihkartxtankhxngxirkphngthlaylngiherwthisudemuxsunybychakaraelakhwbkhumthukthalay karsukthangxakaskhrngthisamepnkhrngihythisudodyelngepaipthikxngkalngthharthixyuinxirkaelakhuewt echn khipnawuthskd sunywicyxawuth aelakxngkalngthangthael kxngkalngthangxakas 1 in 3 khxngkxngkalngphsmidrbmxbhmayihthalaykhipnawuthskd sungbangluktidtngbnrthbrrthuksungthaihtamhaidyak hnwyrbphiesskhxngshrthaelashrachxanackridaethrksumekhaipthangtawntkkhxngxirkephuxkhnhaaelathalaykhipnawuthdngklaw karpxngknthangxakaskhxngxirkthimithng xawuthekhluxnthiid phbwairprasiththiphaphtxekhruxngbinkhxngkxngkalngphsmxyangmak odykxngkalngphsmsuyesiyekhruxngbinipephiyng 75 lacakkarbinthnghmd 1 aesnkhrng incanwnnn 44 lathukyingtkodyxirk 2 lachnkbphundinkhnahlbkaryingcakthharxirkbnphun hnunglathukyingtkodyekhruxngbinxirk xirkichkhipnawuthocmtixisraexlaelasaxudixaraebiy rthbalkhxngxirketriymphrxmthicaocmtiklbesmxhakthukrukran kxnthisngkhramerimtnrthmntriwakarkrathrwngkartangpraethskhxngxirktharik xsisthuksmphasnodynkkhawhlngcakkarprachumephuxsntiphaphkbshrththiecniwalmehlwlng nkkhawthamekhawa thanrthmntrikhrb thasngkhramerimkhun xirkcatxbothruxim naythariktxbwa khrb aennxn hachwomnghlngcakkarocmtikhrngaerk withyukhxngxirkidprakaswa chychnakhxngeraxyuaekhexuxmemuxeraerimtxbotni xirkidyingkhipnawuthaepdlukinwntxma karichkhipnawuthehlaniekidkhuntlxdsngkhram mikaryingkhipnawuthskdipthnghmd 88 lukinchwngecdspdahkhxngsngkhram xirkhwngwacakratunihxisraexlekharwmsngkhramdwy rthbalxirkhwngwachatixahrbhlaychaticathxntwxxkcakkxngkalngphsmhakxisraexlekharwmephraachatixahrbxaclngelicthicaxyukhangediywknkbxisraexl hlngcakkarocmtikhrngaerk idsngekhruxngbinekhaladtraewnbriewnnanfathangehnuxkhxngxirk xisraexletriymkxngthphephuxtxbottamnoybaykhxngtntlxd 40 pithiichkartxbotmaodytlxd xyangirkdiprathanathibdibuchidkddnnaykrthmntrikhxngxisraexlihxyuechy ephraaklwwahakxisraexlocmtixirk chatixahrbxun xacthxntwxxkcakkxngkalngphsmhruxekharwmkbxirk nxkcaknishrthyngklwwahakxisraexlichnanfakhxngsieriyhruxcxraedninkarocmtixirk chatiehlannkcaekharwmkbxirkhruxocmtixisraexl kxngkalngphsmihsyyawacaichkhipnawuthpxngknxisraexlcakkhipnawuthskd khwa chawxisraexlhlbhathikabngcakkarocmtiaela say sphaphthixyuxasyinramtkninxisraexlhlngthukocmti khipnawuthskdthiyingisxisraexlnnphbwairprasiththiphaph dwykaryingthiphisysungsudsngphlihkhwamaemnyaaelanahnkraebidldlng hxngsmudesmuxnchawyiwidraynganwamichawxisraexl 74 khnesiychiwitcakkarocmtikhxngxirk sxngkhnesiychiwitcakkarthukraebidaelathiehluxesiychiwitephraakhadxakashayicaelahwicwayechiybphln michawxisraexlpraman 230 khnidrbbadecb inehtukarnhnungidekidkarocmtiekhathilaaewkethl xawif sngphlihmiphuesiychiwitsamrayaelabadecbxik 96 ray thrphysinmhasalidrbkhwamesiyhay krathrwngkartangpraethskhxngxisraexlklawwa khwamesiyhaythwipaekthrphysinidaek ban 1 302 hlng xpharthemnth 6 142 aehng singkxsrangsatharna 23 aehng rankha 200 ran aelarth 50 khn epnthiklwknwaxirkcayingkhipnawuththimiswnprakxbkhxngaeksthalayprasathhruxsarin phlthitammakhuxrthbalxisraexlidaeckcayhnakakknaeksihkbprachachnkhxngtn emuxkhipnawuthlukaerkyingekhaisxisraexl miphukhnbangcanwnthichidyathxnphisihkbtwexng sphaphkhaythharshrththithukxirkocmti ephuxottxbkarichkhipnawuthkhxngxirk shrthidsngkhipnawuthephethriytcanwnmakekhaipyngxisraexlodymiaethnyingcrwdsxngaethnephuxexaiwpkpxngprachachn kxngthphxakaskhxngkxngkalngphsmthakarfuklakhipnawuthskdxyangcringcnginthaelthraykhxngxirk ephuxhataaehnngrththngbrrthukthiphrangtwkxnthixirkcaichmnyingkhipnawuthekhaisxisraexlhruxsaxudixaraebiyid thangphakhphundinhnwyrbphiessidthakaraethrksumekhaipyngxirkephuxkhnhaaelathalaykhipnawuthskd emuxhnwyrbphiessthanganrwmkbhnwyladtraewnthangxakasthaihkarocmtimikhwamaemnyakhun thangxirkcungerimprbepliynyuththwithiechnkn ichkhipnawuthephethriytephuxtxbotkhipnawuthskdechnkn krathrwngklaohmkhxngenethxraelndklawinewlatxmawakarichephethriytswnmaknnirprasiththiphaph aetphlthangcitwithyannklbepnthinaphxicxyangmak aemwakhkhipnawuthephethriytexngcasrangkhwamesiyhaytxchiwitaelathrphysinmakkwathikhipnawuthskdthaesiyxik mikaraenanawakarthixisraexlesrimkhwamaekhngaekrngihkbemuxngkhxngtnnnmibthbathsakhythithaihxisraexlsamarthldcanwnphuesiychiwitaelabadecbcakkhipnawuthskdid rwmthngepnephraawakhipnawuthskdcathakaryingaekhintxnklangkhunethann inkhnathikarocmtidwykhipnawuthskddaenintxip xisraexlkerimhmdkhwamxdthnaelakhidcadaeninkarrbfayediywkbxirk hlngcakkarocmtithiramtkn xisraexlidetuxnwahakshrthimsamarthhyudyngkhipnawuthidxisraexlkcathaexng emuxthungcudhnunghnwykhxmmanodkhxngxisraexlidkhunehlikhxpetxraelaetriymbinipyngxirk aetwathukykelikhlngcakmiothrsphthcakrthmntriwakarkrathrwngklaohmdik echniy sungothrmaraynganwakxngkalngphsmidephimkhwamphyayamthicathalaykhipnawuthskdaelayawakaraethrkaesngkhxngxisraexlxacthaihkxngkalngkhxngshrthtkxyuinxntray nxkcakehnuxcakkarocmtixisraexlaelw xirkyngidyingkhipnawuthskd 47 lukekhaissaxudixaraebiyaelayingisbahernaelakataraehnglaluk khipnawuthehlannelngepaipthithharaelaphlemuxng miphlemuxngchawsaxuhnungkhnesiychiwitaelaxik 78 khnidrbbadecb immiphuesiychiwitinbahernaelakatar rthbalkhxngsaxuidaeckcayhnakakknaeksihkbprachachnaelaphuxphyphephuxpkpxngkarichxawuthekhmihruxkhiwphaphkhxngxirk rthbalyngidprakasetuxnphyaelaplxdphyphanthangothrthsnephuxetuxnprachachnesmxemuxekidkarocmti inwnthi 25 kumphaphnth ph s 2534 khipnawuthskdlukhnungtkiskhaykxngthharphlathikarthi 14 khxngshrthin praethssaxudixaraebiy sngharthharip 28 nayaelabadecbxikkwa 100 nay yuththkarkhafci swnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxk ptibtikarthangthharinyuththkarkhafci inwnthi 29 mkrakhm ph s 2534 kxngkalngxirkidekhaocmtiaelayudkhrxngemuxngthiaethbcairkarpxngknkhxngsaxu yuththkarkhafcisinsudlnginxiksxngwntxmaemuxkxngkalngxirkthukruktiodyaelathisnbsnunodykxngkalngcakkatar kxngkalngchatiphnthmitridihaelakarradmyingdwypunihy thngsxngfaylwnsuyesiyepncanwnmak aemwathangxirkcamikarsuyesiymakkwaelknxy mithharxemrikn 11 naythuksngharinehtuyingknexngsxngkhrng rwmkbthharxakasxik 14 naythiesiychiwitcakekhruxngexsi 130 thithukyingtkodyxirk aelamithharxiksxngnaythukcbepbechly kxngkalngkhxngsaxuaelakatarsuyesiythharrwmkn 18 nay swnxirksuyesiythharip 60 300 nayaelathukcbxik 400 nay khafcikklayepnemuxngthimikhwamsakhythangyuththsastrthnthihlngcakthixirkbukkhuewt xirklngelthicasngkxngphlyanekraacanwnmakekhayudkhrxngemuxngaelakarichemuxngepnthanocmtifngtawnxxkthimikarpxngknnxykhxngsaxudixaraebiyinewlatxmann thukmxngwaepnkhwamphidphladthangyuththsastr txngkarxangxing imephiyngaekhxirkxacsamarthrksaesbiyngnamnswnihykhxngtawnxxkklangiwid aetyngxacsamarthcdkarkbthharshrththiwangxyutamaenwpxngknthiehnuxkwaiddikwaniesiydwykarthphthangbkkarekhluxnihwkhxngthharrabinwnthi 24 28 kumphaphnth ph s 2534 inptibtikarphayuthaelthray kxngkalngphsmidyudkhrxngnanfadwyethkhonolyithiehnuxkwaxirk kxngkalngkhxngphwkekhaidepriybxyangmakephraaidrbkarpxngkncak sungidmaodykxngthphxakaskxnthicamikarrukthangbk kxngkalngphsmyngmikhwamidepriybthangethkhonolyisxngxyangdwykn khux khxngkxngkalngphsm echn exm1 exbramskhxngshrth chalelnecxr 1 khxngxngkvs aelaexbikhxngkhuewt mikhwamsamarthehnuxkwaithp 69 khxngcinaelathi 72 khxngxirkxyangmak rwmthngthharyanekraakhxngkxngkalngphsmexngkidrbkarfukfnmadikwa karichciphiexsthaihkxngkalngphsmsamarthhahnthangidodyimtxngphungthnnhruxsylksnid emuxrwmkbkarladtraewnthangxakasthaihphwkekhaeluxkthicasudwyaethnthicaichkarrbaebbaetkhk ephraaphwkekharuwaphwkekhaxyutrngihnaelastruxyutrngihn phwkekhacungsamarthocmtiepahmayechphaaaethnthicaepnkarkhnhastrutamphundinpldplxykhuewt shrthidwangaephnhlxklxxirkdwykarocmtithangxakasaelathangeruxinkhunkxnkarpldplxykhuewtephuxihxirkechuxwakxngkalnghlkcaekhaocmtiswnklangkhxngkhuewt rththngcakkxngphlyanekraathi 3 khxngshrthithp 69 khxngxirkbnthnninkhuewtsitirththngsxngkhnkhxngxirkthithukthingiwiklkhuewtsitiinwnthi 29 kumphaphnth ph s 2534 epnewlahlayeduxnthithharkhxngxemrikainsaxudixaraebiytxngtkxyuphayitkaryingcakxirkaelakhipnawuthskd inwnthi 24 kumphaphnth ph s 2534 kxngnawikoythinthi 1 aela 2 phrxmkbkxngphnthharyanekraaebathi 1 idekhaipyngtuewtaelamunghnaipyngkhuewtsiti phwkekhapathakbaenwsnamephlaa lwdhnam aelathungkbraebid xyangirktamxirkmikarpxngknthiebabangaelathukexachnaphayinimkichwomngaerk karrbrahwangrththngcanwnmakekidkhunaetnxkcaknnaelwkxngkalngphsmkphbephiyngkartxtanephiyngelknxyephraathharxirkswnihyeluxkthicayxmcann withithwipkhxngthharxirkkhuxsukxnskelknxyaelwkhxyyxmaeph xyangirkkarpxngknthangxakaskhxngxirkidyingxakasyankhxngshrthtkidthung 9 la inkhnaediywknkxngkalngcakpraethsxahrbkrukkhubekhaipinkhuewtcakthangtawnxxkaelapathakbkartxtanelknxyphrxmkbsuyesiythharipimmaknk aemwakxngkalngphsmcaprasbkhwamsaerc aetkepnthiklwknwariphbliknkardkhxngxirkcasamarthhlbhniekhaipyngxirkkxnthicathukthalayid caknncungmikartdsinicsngkxngkalngyanekraakhxngxngkvsekhaipyngkhuewt 15 chwomngkxnkahndkaraelaihkxngkalngkhxngshrthiltamriphbliknkard karrukkhxngkxngkalngerimdwykarradmyingdwypunihyaelacrwdephuxepidthangihkbthhar 150 000 nayaelarththngxik 1 500 khn kxngkalngkhxngxirkinkhuewttxbotthharshrthtamkhasngodytrngkhxngsddm aemwakarrbcadueduxdaetkrannthharxemriknksamarthtxbotthharxirkaelaruktxipyngkhuewtsiti kxngkalngkhxngkhuewtidrbmxbhmayihthakarpldplxyemuxng thharxirkthakartxtanidephiyngelknxyethann khuewtesiythhariphnungnayaelaekhruxngbinxikhnungla inwnthi 27 kumphaphnth sddmidsngihkxngthphlathxyxxkcakkhuewt prathanathibdibuchprakaswakhuewtidrbxisrphaphaelw xyangirkdithharxirkthithaxakasyannanachatikhuewtduehmuxncaimidrbkhxkhwamdngklawaelathakartxsuxyangdueduxd nawikoythinshrthtxngtxsuepnchwomngcungcasamarthyudsnambiniwid hlngcakphanipsiwnkhxngkarrb kxngkalngkhxngxirkkthukkhbilxxkcakkhuewt phwkekhawangephlingbxnamnkhxngkhuewtekuxb 700 aehngaelawangthunraebidiwrxb bxnamnephuxihkarkhwbkhumephlingepnipidyak erimtnbukxirk thi 62 khxngxirkthithukthalayodykxngphlyanekraathi 3 khxngshrth karthphthangbkthukeriykxyangepnthangkarwaptibtikardiesirthesebxr hnwyrbaerkthithuksngekhaipyngxirkkhuxhnwyladtraewnsamhnwycakhnwyexsexexskhxngxngkvs odymirhswa braowwnsior braowthusior aelabraowthrisior txngkarxangxing hnwyladtraewnhnwylaaepdnayniidekhaipynghlngaenwkhxngxirkephuxrwbrwmkhxmulkhxngkhipnawuthskd sungimsamarthtrwcphbdwyekhruxngbinid ephraaphwkmnthuksxniwitsaphanaelathukxaphrangintxnklangwn xikepahmayhnungkhuxkarthalaysaysuxsarifebxrxxphtikthixyuinthxaelatwsngsyyanipyngekhruxngyingkhipnawuthskd ptibtikarnimiephuxpxngknimihxisraexlekhaaethrkaesng aetenuxngcakimmithikabngephiyngphxthicathapharkicthaihbraowwnsioraelabraowthrisiortxngykelikpharkic inkhnathibraowthusiordaeninpharkictxcnkrathngphwkekhathuktrwcphb miephiyngsibexkethannthisamarthhlbhniipyngsieriyid thharbangswncakkxngphlnxythi 2 krmthharmathi 5 cakkxngphlthharmathi 1 khxngshrthekhathakarocmtiodytrngisxirkinwnthi 15 kumphaphnth ph s 2534 tammadwykarocmtixikkhrnginwnthi 20 kumphaphnth tngaetwnthi 15 20 kumphaphnthidekidkhuninxirk ehtukarnniepnkarocmtikhrngaerkinsxngkhrngodykxngphnthi 1 krmthharmathi 5 cakkxngphlthharmathi 1 karocmtikhrngnnepnkarocmtihlxklxephuxihthharxirkkhidwakxngkalngphsmcathakarrukcakthangit thharxirkthakarpxngknxyangdueduxdthaihthharxemrikntxnglathxytamaephnipyngwadixlbatin thharshrthsamnaythuksngharaelaidrbbadecbekanay yanphahnatxsuthharrabsuyesiypxmpuniphnung aetsamarthcbechlyid 40 nayaelathalayrththng 5 khnphrxmkblwngxirkidsaerc karocmtikhrngninadwykxngphlnxythangxakasthi 18 ephuxkwadphunthihlngkxngphlthharmathi 1 aelaocmtikxngthharxirkthangthistawntk inwnthi 22 kumphaphnth ph s 2534 xirkehndwykbkhxtklnghyudyingthiosewiytesnx khxtklngdngklaweriykrxngihxirkthxnthharihipxyuintaaehnngkxnkarrukrankhuewtphayin 6 xathityaelaihkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatiefadukarhyudyingaelalathxykhxngxirk kxngkalngphsmptiesthkhxesnxdngklawaetihkarwacaimthakarocmtithharxirkthilathxy txngkarxangxing aelaihewla 24 chwomngephuxerimkarlathxy inwnthi 23 kumphaphnthmithharxirkthukcbepnechly 500 nay inwnthi 24 kumphaphnthkxngkalngyanekraakhxngxngkvsaelashrthcanwnmhasalkhamchayaednxirkkhuewtaelaekhaipyngxirkphrxmcbechlyidnbrxy xirkthakartxtanephiyngelknxyethann shrthsuyesiythharip 4 nay kxngkalngphsmtrathphekhaxirk yanphahnakhxngthharaelaphleruxnxirkthithukthalaybnphaphthaythangxakasaesdngihehnsakthi 72 aela phrxmrthbrrthukkhxngxirkbnthanghlwnghmayelkh 8 emuxeduxnminakhm ph s 2534karichnoybaythalayephuxtdkalngstrukhxngxirkthuknamaichkbbxnamninkhuewt imnannkinwnthi 24 kumphaphnthkekidkarocmtithharxirkthixyuthangtawntkkhxngkhuewtodykxngphlnxythi 5 khxngshrthxyangetmxtraodymikrmthharmayanekraathi 2 epnhwhxk inkhnaediywknkxngphlnxythangxakasthi 18 khxngshrthkepidkarocmticakthangsayphanthaelthraythangitkhxngxirkodymihwhxkepnkrmthharmayanekraathi 3 aelakxngphlthharrabthi 24 khxngshrth thangpiksaykhxngkarocmtiidrbkarkhumkhrxngodykxngphlyanekraaebathi 6 khxngfrngess kxngkalngfrngessekhapathakbkxngphlthharrabthi 45 khxngxirkxyangrwderw frngesssuyesiythharipelknxyaelasamarthcbechlyidepncanwnmak caknnkrksataaehnngephuxpxngknkartxbotcakxirk thangpikkhwaidrbkarkhumknodykxngphlyanekraathi 1 khxngxngkvs emuxkxngkalngphnthmitrbukthalwngludekhaipinekhtkhxngxirkkeliywipthangtawnxxkephuxerimkarocmtioxbkxngthharriphbliknkardkxnthiphwkekhacahlbhniip xirkthakartxsuxyangdueduxdinthimn karpathakhrngniimehmuxnkhrngkxn ephraathharxirkimyxmaephhlngcakthirththngkhnkhxngfaytnthukthalay thharxirksuyesiyepncanwnmak rwmthngyanphahnaaelarththngcanwnmakechnkn inkhnathishrthsuyesiynxymakodyesiyyanekraaipephiynghnungkhn kxngkalngphsmrukekhaipxik 10 kiolemtraelabrrluepahmayphayinsamchwomng phwkekhacbechlyid 500 nayaelasrangkhwamesiyhayepncanwnmhasaldwykarexachnakxngphlthharrabthi 26 khxngxirk mithharshrthhnungnayesiychiwitcakkbraebid xikhakhnesiychiwitephraayingknexng aelaxiksamsibidrbbadecbkhnapatha khnaediywknkxngkalngkhxngxngkvskekhaocmtikxngphlemdinaaelathansngkalngbarungkhxngriphbliknkard ekuxbsxngwnthimikarrbkndueduxdthisud xngkvsidthalayrththngip 40 khnaelasamarthcbtwphubngkhbbychakxngphlidhnungnay khnaediywknkxngkalngkhxngshrthkekhaocmtihmubanxlbuesyyahaelaphbkbkartxtanthirunaerng shrthimmikarsuyesiyaetsamarththalayyuthothpknphrxmkbcbechlyidepncanwnmak inwnthi 25 kumphaphnth ph s 2534 kxngkalngxirkidyingkhipnawuthskdiskhaythharkhxngxemrikainemuxngdahraninsaxudixaraebiy sngharthharxemrikaip 28 nay karrukkhubkhxngkxngkalngphsmthaidrwderwkwathinayphlkhxngshrthkhadkarnexaiw inwnthi 26 kumphaphnththharxirkkerimthxythphxxkcakkhuewthlngcakthiphwkekhawangephlingthungnamn mibxnamn 737 aehngthukepha khbwnthharxirkthilathxyekhluxnkhbwniptamthanghlwngxirk khuewt aemwaphwkekhakalnglathxyaetkhbwnrthkthukocmtixyangrunaerngodykxngthphxakaskhxngkxngkalngphsmthaihthnnsaynnidchuxwa thharxirknbrxythuksnghar kxngkalngthngshrth xngkvs aelafrngessdaeninkarillathharxirkthilathxytxtngaetchayaedncnipthungxirk cninthisudkhangcakkrungaebkaeddephiyng 240 kiolemtrkxnthicathxyklbipyngchayaednxirkthitidkbkhuewtaelasaxudixaraebiy inwnthi 28 kumphaphnth hlngcakphankarsukthangbkid 100 chwomng prathanathibdibuchkprakashyudyingaelaprakaswakhuewtepnxisraaelw karwiekhraahechingthharhlngkarrb swnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxk aemwasuxtawntkintxnnnidraynganwamithharxirkpraman 545 000 600 000 nayinkarrb aetpccubnphuechiywchayswnihyechuxwakhxmulechingprimanaelakhunphaphkhxngkxngthphxirknnklawknekincring ephraakhxmulehlannnbrwmkxngkalngchwkhrawaelakxngkalngsnbsnunekhaipdwy thharxirkcanwnmakepnkhnhnumaelaepnthifukmanxy kxngkalngphsmmithhar 540 000 nayphrxmkbxik 1 aesnnaycakkxngthphturkithiwangkalngtamaenwchayaednturki xirk singnithaihxirktxngkracaythharkhxngtniptamaenwchayaednthnghmd dngnnkalngrukhlkodyshrthcungsamarthbukthalwngidodyxasykhwamidepriybthangethkhonolyiaelacanwnthimakkwa karthixirkidrbkarsnbsnunemuxkhrngsngkhramxihran xirkthaihxirkmixawuthmakmaycakchatiphukhaxawuthradbolk xirkcungimmimatrthaninkarkhdeluxksrrphawuththaihkxngthphxirkmikkhwamhlakhlayekinipsungrwmthngkaridrbkarfukthiimmimatrthanaelathharthikhadaerngphlkdn kxngkalngswnihykhxngxirkekhychinkbkarichrththngrunekaxyangithp 59 aelaithp 69 khxngcinaelathi 55 khxngosewiytthimimatngaetthswrrsthi 2493 aela 2503 nxkcakniyngmirththngkhunphaphtaxyang epnrththngthiddaeplngmacakthi 72 khxngopaelnd rththngehlaniimmixupkrnthithnsmy echn klxngmxngklangkhunhruxelesxrwdraya thaihprasiththiphaphinkarrbnndxykhunphaph thharxirkimsamarthhamatrkartxbotklxngcbkhwamrxnaelakhxngkxngkalngphsmid xupkrnehlaniexngthithaihrththngfayphnthmitrmikhwamehnuxkwaaelasamarththalayrththngkhxngxirkcakrayathiiklkwathungsametha thharxirkichkrasunecaaehlkklaephuxcdkarkbekraachxbaehmthikawhnakhxngrththngshrthaelaxngkvs phlkhuxkrasundngklawirpraoychn thharxirkimsamarthxasykhwamidepriybindwysurbphayinkhuewtsiti sungxacsamarthsrangkhwamesiyhayaekkxngkalngphsmidmhasal karrbinemuxngnncaldrayainkarsurbaelathaihkxngkalngthimiethkhonolyikawhnaesiyepriybid thharxirkyngidphyayamthicaichrupaebbkarrbaebbosewiytxikdwy aetktxnglmehlwephraaphubngkhbbychakhxngxirknnkhadthksa prakxbkbkarthikxngthphxakaskhxngkxngkalngphsmidekhathalaysunysuxsarhlkaelabngekxrkhxngxirkkalngkhxngstruthukkacdklumphleruxnaelakxngkalngphsmkalngobkthngchatikhuewtaelasaxudixaraebiyephuxchlxngchychnainptibtikarphayuthaelthraythithaihkxngkalngxirklathxyxxkcakkhuewtehriyythharphansuksngkhramxawthimxbihkbthharshrth inphunthiyudkhrxngkhxngkxngkalngphsminxirkidekidkarprachumephuxsntiphaphkhunephuxthakhxtklnghyudyingodyepnthiyinyxmkhxngthngsxngfay inkarprachumdngklawxirkidrbxnuyatihichehlikhxpetxrtidxawuthidinchayaednchwkhrawfngtnexngephuxlaeliyngbukhkhlkhxngrthbalephraaswnphakhphleruxnidrbkhwamesiyhayepncanwnmak imnanhlngcaknnehlikhxpetxrehlannaelakxngthharkhxngxirkkidpathakb klumkbtidrbkarplukiccakkarxxkxakaskhxngraykar edxawxysxxffrixirk emuxwnthi 2 kumphaphnth ph s 2534 sungxxkxakasmacaksthaniwithyuthikhwbkhumodysiixexthitngxyunxksaxudixaraebiy faynganxahrbcakwxysxxfxemrikaidsnbsnunkarclaclodyklawwaklumkbtmikhnadihyaelaimnanphwkekhacasamarthpldaexkcaksddmid inthangehnuxkhxngxirk phunaklumchawekhirdidrbfngkhaklawkhxngxemrikathiwaphwkekhacaihkarsnbsnunkarclacldwyiccringaelaerimtxsuphrxmkbhwngwacaekidkarrthpraharkhun xyangirktamemuxkhadkarsnbsnunodyshrth nayphlkhxngxirkkyngkhngphkditxsddmaelaekhabdkhyikarclaclkhxngchawekhirdxyangohdehiym chawekhirdnblanxphyphxxknxkpraethsipyngturkiaelaxihran ehtukarnehlanisngphlihekidinthangtxnehnuxaelaitkhxngxirkinewlatxma inkhuewtecachayidklbsubllngkaelaehlaphusmrurwmkhidkbxirkkthukprabpram thaythisudmiprachakr 4 aesnkhnthukkhbilxxkcakpraethsrwmthngchawpaelsitncanwnmakephraaxngkhkrpldplxypaelsitnsnbsnunsddm ysesxr xaraftimxxkmakhxothseruxngthiekhasnbsnunxirk aethlngcakesiychiwit phrrkhfatahkxxkmaaesdngkhwamesiyicxyangepnthangkarinpiph s 2547 faybriharpraethskhxngbuchthukwicarnechnkn ephraaphwkekhayxmihsddmxyuinxanactxaethnthicaekhayudkrungaebkaeddaelaokhnlmrthbalxirk inhnngsuxthiekhiynodybuchaelaebrnth sokhwkhrxfth phwkekhathkethiyngknwahakekhayudxirkehlaphnthmitrkcaekidkaraetkaeykaelaxacthaihekidkarsuyesiythangkaremuxngaelamnusyxyangimcaepn inpiph s 2535 rthmntriwakarkrathrwngklaohmshrthdik echniyidaesdngkhwamkhidehnechnediywkn phmkhidwahakeraekhaipinxirkerakxacmikalngthharinkrungaebkaeddthungthukwnni eraxacidkhwbkhumpraeths eraxacimsamarthphathukkhnxxkcakthinnaelaklbbanid singsudthaythiphmtxngkhidkhanungkhuxkarsuyesiy phmimkhidwaeracasamarthdaeninkartamnnthnghmdodyimsuyesiythharshrthephim khnathithukkhnprathbickbkarthierasuyesiythharipimmaknkinkarrb inpiph s 2534 aetsahrbthhar 146 naythiesiychiwitkhnaptibtihnathiaelasahrbkhrxbkhrwkhxngphwkekha mnepnsngkhramrakhaaephng khathaminicphmkhux sddmmikhamakaekhihnthieracayxmsuyesiythharxemriknephimxik khatxbkkhux imely phmcungkhidwaerakhwrthasingthithuktxng thngtxnthieratdsinickhbilekhaxxkcakkhuewtaelatxnthithanprathanathibditdsinicwaeraidbrrluepahmayaelwaelaeracaimyxmihmipyhaidcakkarphyayamyudkhrxngxirkmahyudphwkera dik echniy inwnthi 10 minakhm ph s 2534 thharshrthcanwn 540 000 nayerimthakarthxnkalngxxkcakxawepxresiykarmiswnrwmkhxngkxngkalngphsmkxngkalngphsmcakxiyipt sieriy oxman aelakhuewtinptibtikarphayuthaelthray smachikinkxngkalngphsmprakxbdwy xarecntina xxsetreliy baernh bngklaeths ebleyiym aekhnada echkoksolwaekiy ednmark xiyipt frngess kris hxndurs hngkari xitali khuewt maelesiy omrxkok enethxraelnd niwsiaelnd inecxr nxrewy oxman pakisthan filippins opaelnd oprtueks katar ormaeniy saxudixaraebiy esenkl ekahliit sepn swiedn sieriy turki shrthxahrbexmierts shrachxanackr aelashrthxemrika eyxrmniaelayipunihkarchwyehluxthangkarenginaelabricakhxupkrnthangthhar aetimidsngkxngkalngid ekharwmrb txmawithidngklawthukeriykwa karthutaebbsmudechkh shrachxanackr rththngchalelnecxr 1 khxngkxngthphbkxngkvsinptibtikarphayuthaelthray shrachxanackrepnchatiyuorpthisngkxngthphekharwmrbmakthisudinsngkhram ptibtikarthnghlayinsngkhramxawthukeriykwa kxngphlcakkxngthphbkxngkvs swnihymacakkxngphlyanekraathi 1 kxngthphxakas aelakxngthpheruxekharwminsngkhramxaw kxngthphxakasxngkvsichthanbininsaxudixaraebiy miyanekraaekuxb 2 500 khnaelathhar 53 462 naythuksngmathangerux txngkarxangxing eruxrbkhxngrachnawixngkvsprakxbdwyaela nxkcakniyngmikxngeruxsnbsnunbangswnrwmdwy eruxbrrthukxakasyankhnadebaekhapracataaehnnginthaelemdietxrereniyn hnwyptibtikarphiesscakhnwyexsexexskekharwmechnkn frngess thharshrthaelafrngesskalngtrwcdusakrththngithp 69 khxngxirkthithukthalayodykxngphlyanekraakhnadebathi 6 khxngfrngessinptibtikarphayuthaelthray xikchatiyuorpthisngthharekharwmrbmakepnxndbsxngkhuxfrngess odysngthharekharwmsuk 18 000 nay frngessthahnathirksapiksaykhxngkxngphlnxykhnsngthangxakasthi 18 khxngshrth kxngkalnghlkkhxngfrngessmacakkxngphlyanekraakhnadebathi 6 aelathharcakkxngphlrbtangaednkhxngfrngess erimaerkfrngessptibtikaraeyktanghakcakkxngkalngxun aetxasykarrwmmuxxyangiklchidkbthharxemriknaelasaxu ineduxnmkrakhmkxngphldngklawidthanganphayitkarkhwbkhumkhxngkxngphlnxykhnsngthangxakasthi 18 frngessyngidsngxakasyanaelaeruxekharbechnkn frngesseriykptibtikarthnghmdwa aekhnada khxngaekhnadathimiswnrwminsngkhramxaw aekhnadaepnhnunginpraethsaerk thiimehndwykbkarrukrankhxngxirkaelaekharwmkbkxngkalngphsmxyangrwderw ineduxnsinghakhm ph s 2533 naykrthmntriidsngkarihkxngkalngkhxngaekhnadasrangkxngeruxechphaakickhunma eruxphikhatraelaekharwmrbphrxmkbkarsnbsnuncakeruxin klumeruxechphaakickhxngaekhnadaidnakarhnunkalngkhxngkxngkalngphsmekhasuxawepxresiy eruxlathisikhuxerux sungekhamahlngcakthithikarhyudyingaelaepneruxphnthmitrlaaerkthiekhaeyiymkhuewt hlngcakthimikarxnuyatihichkalngkbxirk kxngkalngkhxngaekhnadaknafungbinaelaphrxmkbthharxakasekharwmkarrb nxkcakniyngmisunyphyabalsnamephuxrxngrbphubadecbcakkarrbphakhphundinxikdwy emuxkarsukthangxakaserimtnkhun siexf 18 kekharwmkbkxngkalngphsmaelaidrbhnathipkpxngaelaocmtiepahmaybnphundin niepnkhrngaerktngaetsngkhramekahlithikxngthphaekhnadaidmibthbaththangthharinechingruk misiexf 18 ephiynglaediywthiidrbkaryunynxyangepnthangkarwaidexachnaekhruxngbinkhxngstruinkarrbin phubychakarkhxngaekhnadathithahnathiintxnnnkhuxphukarphukar xxsetreliy eruxinxawepxresiyemuxpiph s 2534 xxsetreliyidsngkxngeruxechphaakicekharwmsngkhram sungepnswnhnungkhxngkxngeruxnanachatiinxawepxresiyaelaxawoxmaninptibtikardamaskh nxkcakniaelwyngmithimaephthythithahnathibneruxphyabalkhxngshrthaeaelathimkwadthunraebiditnathiidthakarkacdthunraebidthithaeruxkhxngkhuewthlngcakkarrbsinsudlng aemwakxngkalngkhxngxxsetreliycaimidthakarpathaid aetphwkekhakmibthbathsakhyinkarkhwabatrxirk echnediywkbkarihkarsnbsnunxun inptibtikarphayuthaelthray hlngcaksinsudsngkhramxxsetreliyidsnghnwyaephthyipthahnathiinthithangtxnehnuxkhxngxirk sungepnswnhnungkhxng xarecntina xarecntinaidekharwminptibtikarbichxpdwykarsngeruxphikhatraelaeruxkhxrewt txmathngsxnglathukaethnthidwyeruxkhxrewtaelaeruxkhnsngkalngphlsuyesiyphleruxn cakkarocmtithangxakasthihnkhnwngthngdwyekhruxngbinrbaelakhipnawuthrxnthaihekidkhxotethiyngeruxngcanwnphleruxnthiesiychiwitinchwngaerkkhxngsngkhram in 24 chwomngaerkkhxngsngkhram kxngkalngphsmidthakarbinkwa 1 phnethiywephuxocmtiepahmayinaebkaedd twemuxngthukraebidxyanghnkephraawaepnthixyukhxngsddmaelasunykhwbkhumaelabychakarkhxngthharxirk niexngepnsaehtukhxngkaresiychiwitkhxngphleruxn inehtukarnhnungekhruxngbinthingraebidkhxngshryidekhaocmtibngekxraehnghnunginxamiriyah thaihmichawxirkesiychiwit 408 khn phaphkhxngsthanthiekidehtuaelasphthukthaythxdinewlatxmaaelakhxthkethiyngkephimkhuncakehtuthingraebidbngekxr bangkbxkwachawxirkehlannepnphleruxn bangkehnwabngekxrdngklawepnsunyptibtikarkhxngxirkaelaphleruxnehlannthuknaipichepn karsubswnkhxngebth xxsbxrn dapxngtpramanidwamiphleruxnodnthingrabidip 3 500 khnaelaxik 1 aesnkhnidrbphlkrathbxun caksngkhram xirk immiikhrrutwelkhthiaenchdkhxngphuesiychiwitfayxirk echuxknwaxirksuyesiyepncanwnmhasal klawknwaxirkesiythharippraman 2 hmunthung 35 000 nay rayngancakkxngthphxakasshrthkhadwamifayxirkesiychiwit 10 000 12 000 khncakkarthphthangxakas aelaxik 1 hmunkhncakkarthphthangbk karpraeminnimiphunthanmacakrayngankhxngechlysukchawxirk rthbalxirkxangwamiphleruxnesiychiwit 2 300 raycakkarthphthangxakas txngkarxangxing cakkarsuksaokhrngkarkarpxngknthangeluxk miphleruxnxirkesiychiwit 3 664 ray thharxirkesiychiwitpraman 20 000 26 000 nayaelabadecbxik 75 000 nay kxngkalngphsm thharthiesiychiwittamladbpraeths praeths canwnthngsin cakstru cakxubtiehtu yingknexng xangxing shrthxemrika 294 114 145 35 esenkl 92 92 shrachxanackr 47 38 9saxudixaraebiy 24 18 6 frngess 9 9 shrthxahrbexmierts 6 6 katar 3 3 sieriy 2 xiyipt 11 5 khuewt 1 1 krathrwngklaohmshrthraynganwashrthsuyesiythharip 148 naycakkarrb txngkarxangxing phrxmkbnkbinhnungnaysuyhaykhnaptibtihnathi rangkhxngekhathukphbaelarabutwineduxnsinghakhm ph s 2552 xik 145 nayesiychiwitcakxubtiehtu shrachxanackresiythharip 49 nay 9 naycakkaryingknexngodyshrth frngesssuyesiy 2 nay aelachatixun 37 nay saxu 18 nay xiyipt 1 nay shrthxahrbexmierts 6 nay katar 3 nay imrwmkhuewt mithharkhuewtxyangnxy 605 naythihaysabsuyhlngcakthukcbepnechlythung 10 pi karsuyesiyinkhrngediywthieyxathisudkhxngkxngkalngphsmekidkhuninwnthi 25 kumphaphnth ph s 2534 emuxxirkyingiskhaythharshrthindahranpraethssaxudixaraebiy sngharkxngkalngsarxngkhxngshrthip 28 nay odyrwmaelwthharkxngkalngphsmthuksngharodyfayxirk 190 nay 113 nayepnchawxemrikncakkxngkalngphsmthnghmd 358 naythiesiychiwit thharxik 44 naythuksngharaelaidrbbadecbxik 57 naycakkaryingphwkediywknexng mithhar 145 nayesiychiwitcakxubtiehtuthiimekiywkhxngkbkarrb txngkarxangxing xubtiehtukhrngrayaerngthisudekidkhuninwnthi 21 minakhm ph s 2534 emuxekhruxngbinsi 130 khxngkxngthphxakassaxudixaraebiytkkhnabinlngthisnambinras xl michabppraethssaxudixaraebiy thaihthharesenkl 92 nayesiychiwit kxngkalngphsmmithharthiidrbbadecbpraman 776 nay epnthharxemrikn 458 nay thharkxngkalngphsm 190 naythuksngharodykxngkalngxirk thiehluxxik 379 nayesiychiwitcakkaryingknexng xyangirkdithicanwndngklawtakwathikhadkarnkniw mithharhyingxemrikn 3 nayesiychiwit karyingknexng inkhnathicanwnphuesiychiwitkhxngkxngkalngphsmodykxngkalngxirkmicanwnnxymak aetcanwnthiekidcakkaryingknexngklbphungkhunsung cakcanwnthharshrth 148 naythiesiychiwitinkarrb txngkarxangxing khidepnthnghmd 35 nay xik 11 nayesiychiwitcakkarcudraebidkhxngfayediywknexng thharxngkvs 9 naythuksngharodyfayediywknemuxekhruxngbinex 10 thnedxroblth 2 lahnungkhxngshrthyingekhaisyanphahnatxsuthharrabsxngkhnkhxngxngkvskhxotethiyngklfwxrsinodrm thharkhxngkxngkalngphsmhlaynaythiklbmathukraynganwaecbpwyhlngcakthiphwkekhaidmiswnrwminsngkhramxaw xakardngklawthukeriykwaklfthwxrsinodrm Gulf War syndrome mikaritrtrxngxyangaephrhlayaelakarimehndwythungsaehtukhxngxakarpwy bangpccythukmxngwaepnsaehtukhxngkarecbpwy xyang xawuthekhmi thithhartxngidrb aelakartidechux phuphnimekhil dxnenlli xditnaythharkxngthphxakasshrthinsngkhramxaw idchwykracaykhawkhxngkarecbpwyaelaeriykrxngsiththiihkbthharphansukehlani phlkrathbcakkrasunyuereniym phunthithikhadwamikrasunyuereniymtkxyu Depleted uranium thukichinsngkhramxawepnkhxngrththngaelakrasunpunihykhnad 20 30 m m karichkrasunaebbniinsngkhramxawkhrngaerkthukklawwaepnphlthaihsukhphaphkhxngthharphansukaelaphleruxnidrbphlkrathb thanghlwngmrna inkhunrahwangwnthi 26 27 kumphaphnth ph s 2534 kxngkalngxirkbangswnerimlathxyxxkcakkhuewtodyichthanghlwnghlkthangehnuxkhxngxl cahraodymiyanphahnapraman 1 400 khn ekhruxngbinlahnungthikalngladtraewnkphbkbkhbwnthharxirkekhaaelasngkhxmulipyngsunyptibtikarthangxakasinriyadhpraethssaxudixaraebiy txmakhbwnrthdngklawphrxmthharthikalnglathxykthukocmti phlthitammakhuxsakrthaelathnnyaw 60 kiolemtrthimichuxwa thanghlwngmrna chkh hxrenxr phubychakarptibtikarthangxakaskhxngshrthaelakxngkalngphsmidekhiynbnthukiwwa emuxthungwnthi 26 kumphaphnth thharxirksuyesiykhwykalngicaelaerimlathxyxxkcakkhuewt aetkxngkalngthangxakasidhyudkhbwnrthkhxngkxngthphxirkaelaphwkplnsadmcakkarhniipyngbasra phwksuxeriykehtukarnniwa thanghlwngmrna aennxnwamiphahnathukthalayepncanwnmak aetimidmiphuesiychiwitmaknk phwkekharuwatxngkracaytwxxkiptamthaelthraytxnthiekhruxngbinkhxngerathakarocmti krannbangkhnthinngxyuthibaneluxkthicaechuxwaeraidkrathakarxnohdraytxstrukhxngerathiphayaepheriybrxyaelw inwnthi 27 kumphaphnth erimmikarharuxeruxngkarkacdphykhukkham khuewtepnxisraaelw eraimsnicthicaekhakhwbkhumxirk khathamkhuxwa eracahyudkarkhalangidxyangir karocmtikhxngrthbulodesxr nbepnxikehtukarnhnungthiennyakhathamwathaimxirkcungmicanwnphuesiychiwitsungnk ehtukarnnieriykwa karcuocmdwyrthbulodesxr sungmikxngthharsxngkxngcakkxngphlthharrabthi 1 khxngshrthidphbkbsnamephlaakhnadihythisbsxnaelaepnswnhnungkhxngaenwpxngknthiaennhnathieriykkwa aenwsddm husesn hlngcakkarharuxphwkekhaktdsinicichphlwkwadthunraebidthitidtngkbrththngaelaekhruxngmuxthharchangekhabdiththharxirkthikalngpxngknaenwthngepn hnngsuxphimphchbbhnunglngraynganwaphubychakarkhxngshrthkhadwamithharxirknbphnthiyxmcannaelarxdcakkarthukfngthngepnsungkinewlanansxngwntngaetwnthi 24 26 kumphaphnth ph s 2534 aephththrik edy solyncak niwsedy raynganwa yanekraaaebrdliyaelayanlaeliynghumekraawlaekhnidaelnthbaenwsnamephlaaphrxmkbyingekhaisthharxirk inkhnathirththngklbfngphwkekhadwykxngthray phmtamtidkxngrxyhnakhanghna phuphnaexnothni mxrionklaw singthiehnkhuxsnamephlaathithukfngphrxmkbkhn mixawuthaelasingkhxngophlkhunmacakrangehlann xyangirktamhlngsinsudsngkhramrthbalxirkidxangwaphwkekhaphbsphephiyng 44 sphethann inhnngsux edxawxrsxaeknsthsddm khxngcxhn simpsnklawhathharxemriknwaphyayampkpideruxngthiekidkhun hlngcakehtukarndngklaw phubngkhbbychacakkrmthharthi 1 xxkmaklawwa phmruwakarfngklbkhnaebbnnepneruxngelwray aetphmkhidwamncaelwraykwamakthahakerasngthharkhxngeraekhaipinsnamephlaannaehlacdkarstrudwymidplaypun karkhbilpaelsitnxxkcakkhuewt ph s 2534 noybaykhbilkhxngkhuewtnnmiehtumacakkarthiphunaxngkhkrpldplxypaelsitnysesxr xaraftekharwmkbsddmkxnthicamikarrukrankhuewt kxnhnasngkhrammichawpaelsitnpraman 30 khxngprachakrcanwn 2 lankhninkhuew karkhbilekidkhuninspdahhnungkhxngeduxnminakhm ph s 2534 hlngcakthikhuewtthukpldplxyaelw khuewtidkhbilchawpaelsitnpraman 3 aesnkhnxxkcakxanaekht inpiph s 2554 chawplaelsitnhlaykhnidklbmayngkhuewtaelapccubnmichawpaelsitninkhuewtpraman 9 hmunkhn karthalaysingkxsrangkhxngphleruxnodykxngkalngphsm inwnthi 23 mithunayn ph s 2534 hnngsuxphimph edxawxchingtnophsth tiphimphrayngankhawkhxngbarth ekllaemnwa hlayepahmaythukeluxkephiyngephuxepnepahmayrxngephuxchwyihkxngthphxirkphayaeph nkkarthharhwngwakarthingraebidcachwyerngphlkrathbthangesrsthkicaelathangcitwithyacakkarkhwabatrxirk phwkekhacngicthalaykhwamsamarthkhxngxirkinkarchwyehluxtnexnginthanasngkhmxutsahkrrm ineduxnmkrakhmaelakumphaphnth ph s 2538 hnngsuxphimph fxernaexfaefr idtiphimphkhwamkhidehnkhxngnkkarthutchawfrngessexxkhik okhelxrwa khnxirkthiimehndwykbkarrukran txngcaykhachdichihkbkhwambakhlngkhxngrthbalkhxngphwkekha chawxirkekhaicthungkarlngmuxthangthhartamkdhmayephuxkhbilthharxirkxxkcakkhuewt aetphwkekhaimekhaicwathaimkxngkalngphnthmitrthungichkalngthangxakasocmtisingkxsrangaelaxutsahkrrmkhxngxirk sungrwmthng orngcayiffa thukthalayip 92 orngklnnamn thukthalayip 80 yanpiotrekhmi sunysuxsarrayaikl rwmthngekhruxkhayothrsphth 135 ekhruxkhay saphan makkwarxyaehng thnn thanghlwng thangrthif rthifphrxmkhbwnthietmipdwysinkha sthanithaythxdsithyuaelaothrthsn orngngansiemnt aelaorngnganphlitxalumieniym singthx sayiffa aelaya xyangirktamtxmashprachachatiidthumenginnbphnlanephuxsxmaesmorngeriyn orngphyabal aelaorngkrxngnathwxirk karlwnglaemidnkechlysukcakkxngkalngphsm inchwngsngkhram nkbinkhxngkxngkalngphsmthithukyingtkthukcbepnechlysukphanthangothrthsn phwkekhamirxngrxythuktharaythiehnidchdecn thamklangkarihkarhlaykhrngthungkaridrbkarptibtithielwray nkbinekhruxngphanaewiy thxrnaodkhxngkxngthphxakasxngkvs cxhn niokhlaelacxhn pietxrstangyxmrbwaphwktnthukthrmankhnathukcbkum niokhlaelapietxrsthukbngkhbihklawtxtansngkhramxxkothrthsn smachikhlaykhnkhxnghnwybraowthusiorcakhnwyexsexexskhxngxngkvsthukcbkhnathapharkicekbkhxmulkhipnawuthskd miephiyngkhris irxnethannthisamarthhnikarcbkummaid smachikthiehluxkhxngthimthukthrmanxyangtharun aephthyxakashyingrxnda khxrnmthukkrathachaeraodythharxirknayhnungthicbkumethx hlngcakthiekhruxngaeblkhhxwkhkhxngethxthukyingtkkhnakalngtamhankbinexf 16 thiekhruxngtk ptibtikaresathethirnwxthch dwyehtucaksngkhramshrthcungkhngthharcanwn 5 phnnayexaiwinsaxudixaraebiyaelaephimkhunepn 1 hmunnayinchwngsngkhramxirk ph s 2546 ptibtikaresathethirnwxthchthaihmikarbngkhbichekhthambinehnuxphunthithangitkhxngxirkhlngcakpiph s 2534 karsngxxknamnphanxawepxresiyidrbkarkhumkncakkxngeruxthihakhxngshrththimithaninbahern dwyehtuthisaxudixaraebiyepnthitngkhxngemkkaaelaemdina sthanthiskdisiththithisudkhxngchawmuslim chawmuslimmakmaycungimphxicthimithharekhamapracakarthawrinemuxng karmixyukhxngthharshrthinsaxuhlngcaksinsudsngkhramepnhnunginsaehtuthiepnaerngcungicihkbehtukarn11 knyayn karraebidhxokhbar aelakareluxkwnraebidsthanthutshrth 7 singhakhm inpiph s 2541 sungnbepnrayaewlaaepdpitngaetthithharshrthekhaiptngthaninsaxudixaraebiyoxsama bin laednyaesmxwasasdamuhmmdidhammiihmi karprakttwkhxngphwknxksasnainphunthikhxngxahrb inpiph s 2539 bin laednidthakarftwaodyeriykrxngihthharkhxngshrththxykalngxxkcaksaxudixaraebiy ineduxnthnwakhmph s 2542 bin laednidihsmphasnwaekharusukwachawxemrikn xyuiklemkkamakekinip aelamxngwaepnkarkrathathiywyuolkxahrb karkhwabatr wikisxrs mingantnchbbekiywkb United Nations Security Council Resolution 661 inwnthi 6 singhakhm ph s 2533 khnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatiidmimtithi 661 xxkmahlngcakthixirkrukrankhuewt sungmtidngklawthaihekidkarkhwabatrthangesrsthkictxxirk thaihsinkhamakmayrwmthngya xahar aelasingkhxngxun thicaepnkhadaekhlninxirk tngaetpiph s 2533 2546 phlcaknoybaykhxngrthbalxirkaelakarkhwabatrthaihekid sngphlihekidpyhakhwamyakcnaelaxdxyakipthwpraeths inthswrrsthi 2533 shprachachatitdsinicthicaldradbkarkhwabatrlngephraamichawxirkmakmayidrbphlesiy hlaykarsuksayngkhngthkethiyngknwamiphukhnmakaekhihnthiesiychiwitinekhtitaelaklangkhxngxirkinchwngthimikarkhwabatr namnthirwihl inwnthi 23 mkrakhm xirkidthingnamndibcanwn 400 lanaekllxn 1 5 lanlukbaskemtr lnginxawepxresiy sngphlihekidnxkchayfngkhrngthielwraythisud n ewlann raynganknwakarkrathadngklawmicudprasngkhephuxthaihnawikoythinshrthimsamarthykphlkhunbkid erux missuri aela wiskhxnsin idradmyingisephraakhidwaxirkxacetriymthakarocmtisaethinnasaethinbkcakekaadngklaw praman 30 40 khxngnamnthirwihlekidcakkarekhaocmtiepahmaytamchayfngodykxngkalngphnthmitr karephanamninkhuewt karephanamnkhxngkhuewtekidkhuncakfimuxkhxngthharxirkthiwangephlingbxnamn 700 aehngtamnoybayephathalayintxnthiphwkekhalathxycakkhuewtinpiph s 2534 karwangephlingerimkhunineduxnmkrakhmaelakumphaphnth ph s 2534 aelakhwbkhumephlingidineduxnphvscikayn ph s 2534 saehtuthiimsamarthkhwbkhumephlingihmidkephraawaphunthidngklawmixntrayekinipsahrbnkdbephling thharxirkidwangiwthwbriewnbxnamn thaihthhartxngekhaipekbkuraebidkxnthicasngnkdbephlingekhaipdbif pramanknwaminamnthukephaip 6 lanbaerl 9 5 aesnlukbaskemtr inaetlawn inthisudthimdbephlingexkchnksamarthekhakhwbkhumephlingid odykhuewtesiynamnkhidepnenginid 15 000 landxllarshrth karlukihmkinewla 10 eduxnsungkxihekidmlphisipthwpraethskhaichcaysphakhxngekrsidkhanwncanwnenginthishrthichcayipkbsngkhramepncanwn 61 100 landxllarshrth praethsxun ichenginippraman 52 000 landxllarshrth ody khuewt saxudixaraebiyaelarthxahrbxun inxawepxresiyichenginip 36 000 landxllarshrth eyxrmniaelayipunichenginip 16 000 landxllarshrth aetimidsngthharekharwmephraakhdtxrththrrmnuy 25 khxngcakchwyehluxcaksaxudixaraebiyepnkarchwyehluxthangdankarbriharihkbthhar echn xaharaelakaredinthang 74 khxngcanwnthharthnghmdepnthharshrth cungthaihepnchatithiichenginmakthisudinsngkhram phlkrathbtxchatikalngphthna nxkcakphlkrathbtxchatiinxawepxresiyaelw phlkrathbxun khuxkarhyudchangkthangesrsthkichlkcakthisngkhramidsngphlkrathbtxhlaychati sthabnkarphthnakhxngtangpraethsidthakarsuksakhuninpiph s 2534 ephuxekhathungphlkrathbthiekidkhunkbpraethskalngphthnaaelakartxbsnxngkhxngnanapraeths rayngansrupnnxxkmainwnsudthaykhxngsngkhramodyphbkhwamepnipidsxngxyang khux chatikalngphthnahlaychaticaidrbphlkrathbxyanghnkaelaaemwacamiwithirbmuxtxwikvtkarndngklaw aetkarkracaykhwamchwyehluxktxngthaxyanglaexiydmak sthabnkarphthnaintangpraethsidihpccyindankhxngkhaesiyhayodyprakxbdwy karnaekhanamn kraaesenginsng khanikhmthidin khaesiyhaycakkarsngxxkaelakarthxngethiyw xiyiptsuyengin 1 hmunlandxllarshrthaela 3 khxngphlitphnthmwlrwminpraeths eyemnsuyengin 830 landxllarshrthaela 10 khxngphlitphnthmwlrwminpraeths inkhnathicxraednsuyengin 18 000 landxllarshrthaela 32 khxngphlitphnthmwlrwminpraeths nanapraethscdkarkbpyhathiekidkhundwykarrwmknihkhwamchwyehluxphanthangklumrwmmuxthangkarenginwikvtkarnxawepxresiy The Gulf Crisis Financial Co ordination Group mipraethsthnghmd 24 praethsekharwmklum odyswnmakmacakxngkhkarephuxkhwamrwmmuxthangesrsthkicaelakarphthna aelapraethsinxawepxresiy idaek saxudixaraebiy shrthxahrbexmierts katar aelakhuewt smachikkhxngklumidtklngthicakracayengincanwn 14 000 landxllarshrthekhasukarchwyehluxdankarphthna thnakharolkrbmuxkbpyhadwykarerngraycaykhxngokhrngkarthidaeninxyuaelaprbenginku kxngthunkarenginrahwangpraethsidnamatrkarkarplxyenginkuekhamaichsxngmatrkar idaek karchwyesrimkarprbokhrngsrang Enhanced Structural Adjustment Facility aelakarchwyehluxenginchdechyaelaenginchukechin Compensatory amp Contingency Financing Facility prachakhmyuorpchwyehluxdwykaresnxengincanwn 2 hmunlandxllarshrthethkhonolyieruxkalngying sngkhramxawnbepnsngkhramsudthaythimikaricheruxpracybanekharwmrb echn khipnawuthnawithiexciexm 130 khxngshrth sungepnpccysakhythithaihkarocmtithukkhrngsamarthldcanwnphuesiychiwitphleruxnidmakkwasngkhramkhrngkxn aemwamncathukichnxykhrngkwaraebidthwipthiirkhwamaemnyaktam kxngkalngphsmsamarthraebidxakharinyanemuxngkhxngaebkaeddidinkhnadthiwankkhawinorngaermsamarthehnkhipnawuthkalngbinekhahaepahmay xawuthnawithidwykhwamaemnyakhidepn 7 4 khxngraebidthnghmdthikxngkalngphsmich raebidaebbxun idaek sungcaraebidaelakracayraebidkhnadyxmxxkipthwbriewn aelaraebidkhnad 15 000 pxndthisamarththalaythuksinginrsmihlayrxyhla rabbciphiexsexngkmibthbathsakhythichwyihkxngkalngphsmsamarthhathangkhamthaelthraykhnadihyidxyangngayday aetdwykarthiekhruxngrbsyyanmicanwnnxy banghnwycungtxngichaebbthiepnechingphanichyaethn aelaephuxihidprasiththiphaphsungsudcungtxngpidkartngkhabangxyangkhxngrabbciphiexsinchwngptibtikarphayuthaelthrayephuxihtwrbsyyanaebbechingphanichysamarthihtaaehnngthiaemnyaethiybethaaebbkhxngthhar hruxexaewks AWACS aelarabbsuxsarphandawethiymmibthbathsakhymakinsngkhram twxyangechn ekhruxngbinaelakhxngshrth ekhruxngbinthngsxngaebbthuknamaichinptibtikarbychakaraelakhwbkhum rabbdngklawthaihkarsuxsarrahwangthharxakas thharbk aelathhareruxepnipidngay niepnhnunginhlaysaehtuthikxngkalngphsmsamarthexachnakarrbthangxakasid xirkidichekhruxngthasaenakhxngxemrikainkarsrangaephnkarrbkhxngtnexng aetekhruxngthasaenaehlannklbmitwsngsyyanthithuksxnexaiwthaihkhxngshrthsamarthcbtaaehnngkhxngfayxirkaelaocmtiepahmayehlannidxyangaemnya khipnawuthskdaelaephethriyt bthbathkhxngkhipnwuthskdmikhwamoddednxyangmakinsngkhram skdepnkhipnawuthyuththwithithishphaphosewiytphthnakhunaelathukichodykhxngkxngthphaedngthipracakarxyuineyxrmnitawnxxk mnmihwrbepnraebidniwekhliyraelahwrbekhmithithukxxkaebbmaephuxthalayswnkhwbkhumaelabychakarkhxngeyxrmnitawntk nxkcakniaelwyngsamarthichephuxyingekhaisthharrabodytrngidxikdwy khipnawuthskdichtwnawithiaebbechuxysungcathanganxyuskrayaphrxmkbekhruxngynt xirkichskdephuxocmtiisxisraexlaelasaxudixaraebiy khipnawuthbangluksrangkhwamesiyhaymhasalinkhnathibanglukthaidephiyngelknxy khwamklwtxskdephimkhunemuxkhadknwaxirkxacichhwrbthiepnxawuthchiwphaphhruxekhmi aetkrannkimmikhipnawuthaebbdngklawocmtiisthiid khxngshrththuknamaichinsngkhramepnkhrngaerk kxngthphshrthxangwamnsamarthcdkarkbkhipnawuthskdidxyangmiprasiththiphaph aetkarwiekhraahphayhlngphbwakhipnawuthephethriytyingthukaekh 9 ethann inkhnathi 45 epnkaryingisesssakkhxngkhipnawuthhruxyingphidepahmay krathrwngklaohmkhxngenethxraelndthiidnakhipnawuthephethriytipichephuxpkpxngphleruxninxisraexlaelaturki idxanginewlatxmawakhipnawuthephethriytthaiddikwann nxkcakniyngmiehtukarnkhrnghnungthisxftaewrkhxngkhipnawuthekidkhdkhxngthaihimsamarthekhaskdkhipnawuthskdidaelalngexydwykarmiphuesiychiwit thngkxngthphshrthaelabristhphuphlitkhipnawuthyngkhngyawakhipnawuthephethriyt thahnathiidrawkbpatihary insngkhramxawhmayehtuThe numbering of Persian Gulf conflicts depends on whether the 1980 1988 is referred to as the First Persian Gulf War English language sources prior to the start of the Kuwait war in 1990 usually called it the Gulf War which would make the 1990 war the Second Persian Gulf War Different sources may call the conflicts by different names The name Persian Gulf is itself a subject of The start date of the Kuwait War can also be seen as either August 1990 when Iraq s Saddam Hussein invaded Kuwait or as January 1991 the start of Operation Desert Storm when the US led coalition forced Iraq out of Kuwait so that the war is also often called the 1991 Gulf War the 1990 1991 Gulf War the 1990s Gulf War etc This dating is also used to distinguish it from the other two Gulf Wars xangxing Forsvaret dk 24 September 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 01 12 subkhnemux 1 February 2011 Gulf War the Sandhurst trained Prince Khaled bin Sultan al Saud was co commander with General Norman Schwarzkopf www casi org uk discuss 2016 03 03 thi ewyaebkaemchchin General Khaled was Co Commander with U S General Norman Schwarzkopf of the allied coalition that liberated Kuwait www thefreelibrary com 2011 04 30 thi ewyaebkaemchchin Gulf War coalition forces latest available by country www nationmaster com cakaehlngedimemux 5 November 2013 subkhnemux 2007 09 13 Hersh Seymour 2005 Chain of Command Penguin Books p 181 International Law Norms Actors Process 3rd Edition Persian Gulf War MSN Encarta khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 11 01 subkhnemux 2016 01 17 1991 Gulf War Information cryan com Guerre du Golfe le dernier combat de la division Tawakalna checkpoint online ch Cooper Tom Sadik Ahmad 16 September 2003 Iraqi Invasion of Kuwait 1990 Air Combat Information Group subkhnemux 17 April 2010 Kenneth Michael Pollack Arabs at War Military Effectiveness 1948 1991 2002 Page 573 osd mil khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 05 06 subkhnemux 2016 01 17 The Jewish Agency for Israel khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 January 2005 subkhnemux 22 June 2010 Red Cross khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 07 subkhnemux 2016 01 17 Project on Defense Alternatives khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 01 04 subkhnemux 9 May 2009 Fetter Steve Lewis George N Gronlund Lisbeth 28 January 1993 Why were Casualties so low PDF Nature London 361 6410 293 296 doi 10 1038 361293a0 1903 4282 S2CID 4343235 Frontline Chronology PDF Public Broadcasting Service subkhnemux 20 March 2007 Tenth anniversary of the Gulf War A look back CNN 16 January 2001 cakaehlngedimemux 2007 10 22 subkhnemux 6 June 2007 Kenneth Estes Cfr org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 01 02 subkhnemux 18 March 2010 Operation Iraqi Freedom Strategies Approaches Results and Issues for Congress PDF Retrieved on 2014 05 24 Peters John E Deshong Howard 1995 Out of Area or Out of Reach European Military Support for Operations in Southwest Asia PDF ISBN 0 8330 2329 2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 25 subkhnemux 2016 01 17 Livraria da Folha Livro conta como Guerra do Golfo colocou a CNN no foco internacional 08 09 2010 folha uol com br subkhnemux 13 May 2011 A Guerra do Golfo accessed on 29 March 2011 A Guerra do Golfo os Estados Unidos e as Relacoes Internacionais accessed on 29 March 2011 Guerra Terrorismo O maior bombardeio da historia 2012 04 26 thi ewyaebkaemchchin access on 27 November 2011 Douglas A Borer 2003 U S Army Professional Writing Collection US Army khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 October 2006 subkhnemux 12 October 2006 1991 The Outlaw State Saddam Hussein s Quest for Power and the Gulf Crisis p 164 ISBN 9780471542995 Cleveland William L A History of the Modern Middle East 2nd Ed pg 464 Duiker William J Spielvogel Jackson J World History From 1500 5th edition Belmont California USA Thomson Wadsworth 2007 Pp 839 Cleveland William L A History of the Modern Middle East 2nd Ed pg 463 Academic forum for foreign affairs Austria Saddam s message of friendship to president Bush Wikileaks telegram 90BAGHDAD4237 U S Department of State 25 July 1990 subkhnemux 2 January 2011 Finlan 2003 p 26 Kuwait Organization and Mission of the Forces Library of Congress Country Studies subkhnemux 14 April 2012 Finlan 2003 p 25 Childs John Corvisier Andre 1994 A Dictionary of Military History and the Art of War p 403 ISBN 9780631168485 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Knights Michael 2005 Cradle of Conflict Iraq and the Birth of Modern U S Military Power p 20 ISBN 9781591144441 Dan Vaught Users lighthouse net khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 08 18 subkhnemux 1 February 2011 Finlan 2003 p 29 Palestinefacts org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 24 subkhnemux 13 May 2011 Myths amp Facts The Gulf Wars Jewishvirtuallibrary org subkhnemux 13 May 2011 Ziad Swaidan Mihai Nica June 2002 Middle East Review of International Affairs 6 2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2002 08 04 Deese David A The History Professor Concord Learning Systems khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2005 01 14 Finlan 2003 p 29 United Nations khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 06 10 subkhnemux 13 April 2012 Lori Fisler Damrosch International Law Cases and Materials West Group 2001 22 August 1990 Confrontation in the Gulf Behind Bush s Hard Line Washington Considers a Clear Iraqi Defeat To Be Necessary to Bolster Its Arab Allies The New York Times New York pp A1 subkhnemux 16 September 2010 Confrontation in the Gulf Proposals by Iraqi President Excerpts From His Address The New York Times New York 13 August 1990 pp A8 subkhnemux 17 October 2010 Waldman Shmuel 2005 Beyond a Reasonable Doubt Feldheim Publishers p 179 ISBN 1 58330 806 7 BBC News 1990 Outrage at Iraqi TV hostage show Retrieved 2 September 2007 Royce Knut 29 August 1990 MIDDLE EAST CRISIS Secret Offer Iraq Sent Pullout Deal to U S Washington Bureau New York subkhnemux 17 October 2010 Royce Knut 3 January 1991 Iraq Offers Deal to Quit Kuwait U S rejects it but stays interested Washington Bureau Long Island N Y p 5 subkhnemux 24 October 2010 Tyler Patrick E 3 January 1991 CONFRONTATION IN THE GULF Arafat Eases Stand on Kuwait Palestine Link The New York Times New York subkhnemux 17 October 2010 Friedman Thomas L 11 January 1991 CONFRONTATION IN THE GULF As U S Officials See It Hands of Aziz Were Tied The New York Times pp A10 subkhnemux 30 September 2010 See Paul Lewis Confrontation in the Gulf The U N France and 3 Arab States Issue an Appeal to Hussein New York Times 15 January 1991 p A12 Michael Kranish et al World waits on brink of war Late effort at diplomacy in gulf fails Boston Globe 16 January 1991 p 1 Ellen Nimmons A P Last ditch pitches for peace But U S claims Iraqis hold key Houston Chronicle 15 January 1991 p 1 Jihad The Trail of Political Islam khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 29 subkhnemux 30 June 2010 15 Years After Desert Storm U S Commitment to Region Continues cakaehlngedimemux 2011 06 08 subkhnemux 29 March 2007 Council on Foreign Relations 29 November 1990 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 June 2009 CNN In Depth Specials 2001 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 03 17 subkhnemux 5 April 2008 Lynch Colum 1 November 2006 Security Council Seat Tied to Aid The Washington Post subkhnemux 18 March 2010 Bush George H W 11 September 1990 Miller Center of Public Affairs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 01 16 subkhnemux 1 February 2011 St Petersburg Times 6 January 1991 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 02 04 subkhnemux 13 January 2012 Volume 59 page 33 Educational Foundation for Nuclear Science Chicago Ill Atomic Scientists of Chicago Bulletin of the Atomic Scientists Organization 2003 How PR Sold the War in the Persian Gulf Center for Media and Democracy Prwatch org subkhnemux 1 February 2011 Rowse Ted 1992 Kuwaitgate killing of Kuwaiti babies by Iraqi soldiers exaggerated Washington Monthly ekbcakaehlngedimemux 2012 05 29 subkhnemux 2013 06 29 Makiya 1993 p 40 Makiya 1993 pp 31 33 Makiya 1993 p 32 Edwin E Moise Limited War The Stereotypes Clemson University subkhnemux 2 July 2010 Operation Desert Storm globalsecurity com CNN 2001 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 12 subkhnemux 23 March 2008 Lee Robin J 2002 Fixed Wing Combat Aircraft Attrition in Desert Storm subkhnemux 30 January 2012 Sources Gulf War Airpower Survey Vol 5 Norman Friedman Desert Victory World Air Power Journal Additionally Mark Bovankovich and LT Chuck Chase offered corrections and several intriguing details on these incidents All errors however remain entirely mine 1994 Crusade The Untold Story of the Persian Gulf War Houghton Mifflin Harcourt p 47 ISBN 0 395 71083 9 Lawrence Freedman and Efraim Karsh The Gulf Conflict Diplomacy and War in the New World Order 1990 1991 Princeton 1993 332 C SPAN 9 January 1991 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 1 May 2011 subkhnemux 18 March 2010 Rostker Bernard 2000 Wisconsin Project on Nuclear Arms Control from 2000 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 14 subkhnemux 21 May 2009 Lawrence Freedman and Efraim Karsh The Gulf Conflict Diplomacy and War in the New World Order 1990 1991 Princeton 1993 331 41 Thomas Gordon Gideon s Spies The Secret History of the Mossad The Gulf War Atkinson Rick Balz Dan January 23 1991 Scud Hits Tel Aviv Leaving 3 Dead 96 Hurt The Washington Post subkhnemux June 2 2013 The Gulf War 1991 1991 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 28 subkhnemux 11 January 2009 Sprey Pierre M Evaluating Weapons Sorting the Good from the Bad CDI February 2011 phasadtch 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 04 28 subkhnemux 11 January 2009 Cheney Richard In My Time A Personal and Political Memoir Iraqwatch org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 14 subkhnemux 18 March 2010 John Pike Operation Desert Sabre Gulf War Ground Campaign Globalsecurity org subkhnemux 18 March 2010 Andrew Leydon Carriers in the Persian Gulf War Leyden com subkhnemux 18 March 2010 twentieth century battlefields the gulf war Vintage 2007 reprint at p 646 Abbas apology to Kuwait over Iraq BBC News 12 December 2004 Cheney changed his view on Iraq by Charles Pope Seattle Post Intelligencer 29 September 2004 28 September 2004 subkhnemux 7 January 2005 Crocker III H W 2006 Don t Tread on Me New York Crown Forum p 384 ISBN 978 1 4000 5363 6 Morin Jean H Gimblett Richard Howard 1997 Operation Friction 1990 1991 The Canadian Forces in the Persian Gulf Dundurn Press p 170 ISBN 978 1 55002 257 5 Scott Peterson Smarter bombs still hit civilians Christian Science Monitor 22 October 2002 Robert Fisk The Great War For Civilisation The Conquest of the Middle East Fourth Estate 2005 p 853 Toting the Casualties of War Businessweek 6 February 2003 Ford Peter 9 April 2003 Bid to stem civilian deaths tested Christian Science Monitor Keaney Thomas Eliot A Cohen 1993 Gulf War Air Power Survey United States Dept of the Air Force ISBN 978 0 16 041950 8 Comw org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 01 04 subkhnemux 1 February 2011 CNN 2001 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2001 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 07 subkhnemux 2013 07 02 Britains smallwars com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 01 subkhnemux 13 May 2011 Saudi Arabia Persian Gulf War 1991 Country data com subkhnemux 1 February 2011 After the War 92 Senegalese soldiers die in Saudi Air Crash New York Times The Role of the United Arab Emirates in the Iran Iraq War and the Persian Gulf War Country data com subkhnemux 1 February 2011 Miller Judith Syria Plans to Double Gulf Force The New York Times 27 March 1991 Soldier Reported Dead Shows Up at Parents Doorstep Associated Press 22 March 1991 Schmitt Eric 22 March 1991 After the War The New York Times Role of Kuwaiti Armed Forces in the Persian Gulf War Country data com 24 February 1991 subkhnemux 1 February 2011 Blanford Nicholas 2001 Kuwait hopes for answers on its Gulf War POWs Christian Science Monitor khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 October 2009 Schroder H Heimers A Frentzel Beyme R Schott A Hoffman W 2003 PDF Radiation Protection Dosimetry 103 211 219 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 09 24 subkhnemux 2009 09 10 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Hindin R et al 2005 Teratogenicity of depleted uranium aerosols A review from an epidemiological perspective Environmental Health vol 4 pp 17 An Analysis of Uranium Dispersal and Health Effects Using a Gulf War Case Study 2012 02 04 thi ewyaebkaemchchin Albert C Marshall Sandia National Laboratories John Pike E 8 Joint DEATH STAR JSTARS Globalsecurity org subkhnemux 18 March 2010 Clancy amp Horner 1999 pp 499 500 Buried Alive U S Tanks Used Plows To Kill Thousands In Gulf War Trenches Newsday New York 12 September 1991 p 1 Patrick Day Sloyan frontline the gulf war appendix Iraqi death toll subkhnemux 4 December 2005