สงครามอิรัก–อิหร่าน (อังกฤษ: Iran–Iraq War; เปอร์เซีย: جنگ ایران و عراق; อาหรับ: الحرب الإيرانية العراقية) เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศอิหร่านและประเทศอิรัก ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 1980 ถึงสิงหาคม 1988 มีการประเมินว่าสงครามครั้งนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกันกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (30.6 ล้านล้านบาท)
สงครามอิรัก–อิหร่าน | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ | |||||||||
บนซ้ายไปล่างขวา:
| |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
|
สนับสนุนโดย:
| ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี :
| คนอื่น ๆ:
| ||||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||||
ดู | ดู | ||||||||
กำลัง | |||||||||
เริ่มต้น: เพิ่มเติม:
| เริ่มต้น: เพิ่มเติม:
| ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
ทหารเสียชีวิต: | ทหารเสียชีวิต: เพิ่มเติม:
| ||||||||
พลเมืองเสียชีวิต: มากกว่า 100,000 คน |
สงครามอิรัก–อิหร่านเริ่มขึ้นเมื่ออิรักทำการรุกรานอิหร่านในวันที่ 22 กันยายน 1980 อันเนื่องมาจากข้อพิพาททางชายแดนที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน หลังการปฏิวัติอิหร่านในปี 1979 รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี ได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของอิหร่านและประกาศตนเป็นผู้นำอิสลามนิกายชีอะห์ ทำให้มุสลิมชีอะฮ์อันเป็นคนส่วนมากในอิรักขึ้นมาก่อจลาจลต่อต้านการปกครองของรัฐบาลนิกายซุนนี ขณะเดียวกัน อิรักก็มีความพยายามจะขึ้นมามีอิทธิพลครอบงำภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียแทนที่อิหร่าน แม้ว่าอิรักจะใช้โอกาสที่อิหร่านกำลังวุ่นวายนี้เข้าโจมตีอิหร่านโดยไม่ประกาศก่อน แต่เข้ายึดครองยังได้ไม่มากก็ถูกโต้กลับอย่างรวดเร็ว อิหร่านสามารถชิงดินแดนที่สูญเสียไปทั้งหมดคืนมาได้ภายในเดือนมิถุนายน 1982 และตลอดหกปีจากนี้ อิหร่านก็กลายเป็นฝ่ายรุกไล่เข้าไปในดินแดนอิรัก
แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ร้องให้มีการหยุดยิงนับสิบ ๆ ครั้ง แต่การสู้รบก็ดำเนินไปจนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 1988 และสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 598 ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับคำขอหยุดยิง ซึ่งภายหลังข้อสรุปนี้ กองทัพอิหร่านต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการถอนกำลังออกจากดินแดนอิรักโดยยึดเอาหลักเขตแดนก่อนสงคราม เชลยสงครามคนสุดท้ายของสงครามนี้ถูกส่งตัวกลับประเทศตนในปี 2003
สงครามครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่าหนึ่งล้านคนแต่กลับไม่มีฝ่ายใดได้หรือสูญเสียดินแดนเลย สงครามครั้งนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในแง่ของกลยุทธ ทั้งการใช้แท่นปืนกล, การโจมตีแบบคลื่นมนุษย์, การใช้อาวุธเคมีจำนวนมากโดยกองทัพอิรัก ประเทศอิสลามจำนวนมากอยู่ฝ่ายเดียวกับชาติตะวันตกในสงครามครั้งนี้ นั่นคือการสนับสนุนอิรักโดยการให้เงินกู้, ยุทโธปกรณ์ และภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงที่อิรักโจมตีอิหร่าน ซึ่งในระหว่างสงคราม มีการวิจารณ์จากสื่อว่า "ประชาคมโลกต่างพากันเงียบกริบตอนอิรักใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงต่ออิหร่านและชาวเคิร์ด" และกว่าคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะประกาศให้อิรักเป็นผู้ก่อสงครามก็ล่วงเลยไปถึงวันที่ 11 ธันวาคม 1991 สิบสองปีให้หลังจากที่อิรักทำการรุกรานอิหร่าน และเป็นเวลาสิบหกเดือนหลังอิรักรุกรานคูเวต ซึ่งบานปลายเป็นสงครามอ่าว
เบื้องหลัง
ความขัดแย้งอิรัก-อิหร่าน
อิหร่านและอิรักมีความขัดแย้งกันจากปัญหาเชื้อชาติ ประชากรส่วนใหญ่ของอิรักมีเชื้อสายอาหรับใช้ภาษาอารบิก ในขณะที่ส่วนน้อยมีเชื้อสายเปอร์เซียใช้ภาษาเปอร์เซีย คนเชื้อสายเปอร์เซียในอิรักมีสถานะเป็นรองเชื้อสายอาหรับอยู่เสมอและมักถูกกดขี่โดยคนเชื้ออาหรับ ทำให้ชาวอิรักเชื้อสายเปอร์เซียเหล่านี้เกิดความคับแค้นใจต่อชาวอิรักเชื้อสายอาหรับ ปัญหาเช่นนี้เกิดในอิหร่านเช่นกัน ประชากรของอิหร่านมีเชื้อสายเปอร์เซียกับอาหรับอย่างละครึ่ง แต่ชนชั้นปกครองในอิหร่านเกือบทั้งหมดเป็นเชื้อสายเปอร์เซีย ฉะนั้นในอิหร่านเองก็มีความไม่พอใจของคนเชื้อสายอาหรับต่อคนเชื้อสายเปอร์เซีย
คนอิหร่านเชื้อสายอาหรับส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ทางตะวันตกของประเทศในจังหวัดฆูเซสถานติดกับพรมแดนอิรัก ซึ่งจังหวัดฆูเซสถานนี้เป็นแหล่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดของอิหร่าน ขณะเดียวกัน อิรักก็พยายามอ้างอยู่เสมอว่าจังหวัดดังกล่าวเป็นดินแดนของอิรัก ถึงกับตั้งชื่อให้ว่า จังหวัดอราเบแซน ทหารของสองประเทศมักมีการปะทะกันย่อม ๆ อยู่เสมอในจังหวัดนี้
นอกจากนี้ยังมีปัญหาชนกลุ่มน้อยที่เรียกว่า "ชาวเคิร์ด" เป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อสายอารยัน ไม่มีประเทศเป็นของตนเองแต่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของอิรัก, อิหร่าน, ตุรกี และสหภาพโซเวียต ชาวเคิร์ดได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐอิสระของตนเองขึ้นในอิหร่าน ชาวเคิร์ดได้ก่อจลาจลขึ้นในอิหร่านในปี 1930 และถูกรัฐบาลอิหร่านปราบปรามอย่างรุนแรง ชาวเคิร์ดจำนวนมากหลบหนีเข้าไปยังอิรัก การปราบปราบอย่างรุนแรงทำให้ชาวเคิร์ดหมดหวังที่จะตั้งรัฐอิสระของตนในอิหร่าน และตั้งเป้าหมายที่จะตั้งรัฐอิสระขึ้นในอิรักแทน จนกระทั่งในปี 1969 ชาวเคิร์ดในอิรักกลายเป็นปัญหามากขึ้นเมื่อพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่านได้ให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการเงิน, การทูต และด้านอื่น ๆ แก่ชาวเคิร์ดในอิรัก ต่อมาในปี 1974 รัฐบาลอิรักเข้าประนีประนอมกับรัฐบาลอิหร่านเนื่องจากเห็นว่าขณะนั้นอิหร่านเป็นชาติแข็งแกร่งและยังเป็นมิตรกับสหรัฐอเมริกา การเจรจาดังกล่าวกลายเป็น "สนธิสัญญาแอลเจียร์ ค.ศ. 1975" ที่ทางอิหร่านจะยุติให้การสนับสนุนแก่ชาวเคิร์ดแลกกับการที่อิรักเสียส่วนหนึ่งของปากแม่น้ำชัฏฏุลอะร็อบแก่อิหร่าน
จากสนธิสัญญาดังกล่าว จะเห็นได้ว่า อิหร่านไม่ได้มีส่วนแก้ปัญหาชาวเคิร์ดในอิรักเลย แต่อิรักกลับต้องเสียดินแดนส่วนหนึ่งแก่อิหร่าน อิรักมองว่าสนธิสัญญาดังกล่าวหาความเป็นธรรมไม่ได้
จุดยืนของสหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกาถือเป็นมิตรประเทศของประเทศอิหร่านก่อนการปฏิวัติ แม้กระทั่งหลังการปฏิวัติอิหร่านแล้ว รัฐบาลของประธานาธิบดีคาร์เตอร์ ก็ยังคงมองอิหร่านเป็นปราการเพื่อต่อต้านอิรักและสหภาพโซเวียต สหรัฐมีการเจรจาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับรัฐบาลเฉพาะกาลของอิหร่าน มีการอนุมัติความร่วมมือด้านข่าวกรองระหว่างสองประเทศในปี 1979 ทั้งสหรัฐและอิหร่าน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน ขาดสะบั้นลงเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ตัวประกันอิหร่าน และอิหร่านยังกล่าวหาสหรัฐว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารอิหร่านในปี 1953 สหรัฐได้ตัดทางการทูตเป็นการตอบโต้ ในขณะที่บรรดาผู้นำของอิหร่านรวมทั้งรูฮุลลอฮ์ โคมัยนีต่างเชื่อทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าสหรัฐให้ "ไฟเขียว" แก่ซัดดัม ฮุสเซน ในการบุกอิหร่าน และยังสงสัยว่าสหรัฐจะใช้อิรักเป็นหมากในการแก้แค้นเรื่องวิกฤตตัวประกัน ตามบันทึกของประธานาธิบดีคาร์เตอร์เองก็ได้ระบุในไดอารีของเขาว่า "พวกผู้ก่อการร้ายอิหร่านกำลังจะทำเรื่องบ้า ๆ อย่างฆ่าตัวประกันชาวอเมริกันถ้าพวกเขาถูกบุกโดยอิรัก ที่เขาบอกว่าเป็นหุ่นเชิดของอเมริกา"
ความพร้อมของอิรัก
อิรักได้วางแผนโจมตีอิหร่านโดยเชื่อมั่นอย่างมากว่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากรัฐบาลอิหร่านในขณะนั้นยังขาดเสถียรภาพและแตกออกเป็นสองขั้วระหว่างขั้วอเมริกันกับขั้วอังกฤษ อิรักมีศักยภาพในการจัดกองพลยานเกราะได้ 12 กองพล และตลอดช่วงทศวรรษที่ 1970 ซัดดัมได้เสริมสร้างแสนยานุภาพของอิรักด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ที่สุดจากสหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต
นอกจากนี้ แม่น้ำชัฏฏุลอะร็อบก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนกำลังพลของอิรัก เนื่องจากกองทัพอิรักมีสะพานสำเร็จรูปที่ประกอบได้อย่างรวดเร็ว อิรักยังคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องว่าแนวป้องกันของอิหร่านบริเวณแม่น้ำคาร์เคและแม่น้ำคารุนนั้นมีกำลังทหารไม่เพียงพอ ทำให้อิรักสามารถข้ามแม่น้ำได้โดยง่าย การข่าวกรองของอิรักยังยืนยันอีกว่า กำลังทหารอิหร่านในจังหวัดฆูเซสถานนั้นมียุทโธปกรณ์ที่ล้าหลังและประสิทธิภาพต่ำ และมีเพียงรถถังเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ใช้งานได้
สิ่งเดียวที่อิรักเป็นกังวลก็คือกำลังทางอากาศของอิหร่านซึ่งมีศักยภาพ นั่นเองจึงทำให้ผู้บัญชาการทหารของอิรัก ตัดสินใจที่จะทำการโจมตีแบบฉาบฉวยต่อฐานทัพและโครงสร้างพื้นฐานทางอากาศของอิหร่านก่อนเพื่อเป็นการเบิกทางให้กับการรุกรานทางบก
ความพร้อมของอิหร่าน
กองทัพอิหร่านในขณะนั้นกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอ นายทหารจำนวนมากถูกประหารโดยในช่วงการปฏิวัติอิหร่าน กองทัพขาดอาวุธยุทโธปกรณ์และอะไหล่ที่ผลิตโดยสหรัฐ-อังกฤษอย่างรุนแรง ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงกันยายน 1979 รัฐบาลอิหร่านประหารนายพลระดับสูงกว่า 85 ราย และบังคับนายพลคนอื่นๆที่เหนือรวมถึงเหล่าผู้บัญชาการกองพลน้อยให้เกษียณก่อนกำหนด
ก่อนเดือนกันยายน 1980 รัฐบาลอิหร่านปลดเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 12,000 นาย การปลดครั้งนี้ได้ลดศักยภาพความพร้อมรบของกองทัพอิหร่านลงอย่างรุนแรง กำลังทหารปกติของอิหร่าน (ซึ่งเคยได้รับการยอมรับว่ามีกองทัพบกที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดประเทศหนึ่งของโลกในปี 1978) อ่อนแอลงอย่างมาก อัตราการหนีทหารสูงลิบกว่า 60% นายทหารและนักบินทักษะสูงส่วนใหญ่ต่างลี้ภัย, ถูกจำคุก หรือถูกประหาร นับเป็นภาวะสมองไหลที่ส่งผลต่อศักยภาพกองทัพอิหร่านมาจนถึงปัจจุบัน
อิหร่านยังถูกขัดขวางไม่ให้เข้าถึงอาวุธหนักอย่างรถถังหรืออากาศยานได้ ซึ่งเป็นผลจากการแทรงแซงโดยสหรัฐและสหราชอาณาจักร เมื่ออิรักเริ่มทำการบุก มีการปล่อยตัวนักบินและนายทหารจำนวนมากออกจากคุก หรือเปลี่ยนโทษประหารเป็นส่งไปรบกับอิรักแทน นอกจากนี้ ยังได้มีการเลื่อนขั้นทหารรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นเป็นนายพล ทำให้กองทัพอิหร่านมีความเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาลมากขึ้นตั้งแต่สิ้นสุดสงครามจวบจนปัจจุบัน แม้จะถูกแทรกแซงจากมหาอำนาจภายนอก แต่อิหร่านก็ยังคงมีรถถังที่ใช้งานได้อย่างน้อยกว่า 1,000 คันรวมถึงอากาศยานอีกหลายร้อยเครื่อง ทำให้สามารถใช้ชิ้นส่วนของเครื่องที่มีอยู่เป็นอะไหล่ได้อยู่บ้าง
หมายเหตุ
- Pollack ระบุจำนวนรถถังที่ใช้งานได้เต็มที่ 1,000 คันในเดือนเมษายน ค.ศ. 1988 ส่วน Cordesman ให้จำนวนระบุจำนวนรถถังที่ใช้งานได้เต็มที่มากกว่า 1,500 คันในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1988 (1,298 คันถูกฝ่ายอิรักยึดในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1988, 200 คันอยู่ในฝ่ายอิหร่าน และไม่ทราบจำนวนรถถังที่ถูกทำลาย) โดยไม่ทราบจำนวนโรงงาน
- จำนวนประมาณการของชาวอิหร่านที่บาดเจ็บและเสียชีวิตในสงครามอิรักมีหลากหลาย
- จำนวนประมาณการของชาวอิรักที่บาดเจ็บและเสียชีวิตในสงครามอิรักมีหลากหลาย
- ไม่รวมพลเมืองชาวเคิร์ด 50,000–200,000 คนที่ถูกฆ่าในการสังหารหมู่อัลอันฟาล
- จาก:
- จาก:
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Dr. Nimrod Raphaeli (11 February 2009). . MEMRI. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2009.
- "Memoires of Afghan volunteers in Iran-Iraq war published (tehrantimes.com)". 7 October 2018.
- ""Mohsen, the Japanese" chronicles life of Afghan volunteer fighter in Iran-Iraq war (tehrantimes.com)". 16 December 2020.
- Williamson Murray, Kevin M. Woods (2014): The Iran–Iraq War. A Military and Strategic history. Cambridge University Press. ISBN p. 223
- Garver, John W. (2006). China and Iran: Ancient Partners in a Post-Imperial World. Seattle, WA: University of Washington Press. pp. 72, 80–81. ISBN .
- Treacherous alliance. Yale University Press. 2007. ISBN – โดยทาง Internet Archive.
- "Iraq Breaks Ties with Libya over Support for Iran". Los Angeles Times. 27 June 1985. จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2018. สืบค้นเมื่อ 8 November 2018.
- "The Iran-North Korea Connection". จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2019. สืบค้นเมื่อ 1 July 2019.
- Allam, Shah (October–December 2004). "Iran-Pakistan Relations: Political and Strategic Dimensions" (PDF). Strategic Analysis. The Institute for Defence Studies and Analyses. 28 (4): 526. doi:10.1080/09700160408450157. S2CID 154492122. สืบค้นเมื่อ 20 October 2013.
- Ansar, Arif (27 January 2013). "Preventing the next regional conflict". Pakistan Today. สืบค้นเมื่อ 20 October 2013.
- Shah, Mehtab Ali (1997). The Foreign Policy of Pakistan: Ethnic Impacts on Diplomacy, 1971–1994. London [u.a.]: Tauris. ISBN .
- Karsh, Efraim (1989). The Iran–Iraq War: Impact and Implications. ISBN .
- El-Azhary, M. S. (23 May 2012). The Iran–Iraq War (RLE Iran A). ISBN .
- Razoux, Pierre (2015). The Iran–Iraq War. ISBN .
- Iran and Syria 14 ตุลาคม 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Jubin Goodarzi
- Johnson, Rob (24 November 2010). The Iran–Iraq War. Palgrave Macmillan. ISBN – โดยทาง Google Books.[]
- Murray, Williamson; Woods, Kevin M. (2014). The Iran–Iraq War: A Military and Strategic History. Cambridge University Press. ISBN – โดยทาง Google Books.
- Middleton, Drew (4 October 1982). "Sudanese Brigades Could Provide Key Aid for Iraq; Military Analysis". The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2019. สืบค้นเมื่อ 8 December 2019.
- "Iraq-Iran war becoming Arab-Persian war? (The Christian Science Monitor)". The Christian Science Monitor. 5 February 1982. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2019. สืบค้นเมื่อ 8 December 2019.
- "Jordan's call for volunteers to fight Iran misfires (The Christian Science Monitor)". The Christian Science Monitor. 11 February 1982. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2019. สืบค้นเมื่อ 8 December 2019.
- Schenker, David Kenneth (2003). (PDF). / . ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 23 January 2017.
- "Jordanian Unit Going To Aid Iraq 6 Hussein Will Join Volunteer Force Fighting Iranians (The Washington Post)". The Washington Post. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2019. สืบค้นเมื่อ 8 December 2019.
- Dictionary of modern Arab history, Kegan Paul International 1998. ISBN p. 196.
- Berridge, W. J. "Civil Uprisings in Modern Sudan: The 'Khartoum Springs' of 1964 and 1985", p. 136. Bloomsbury Academic, 2015
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อbulloch89
- "china and the iran-iraq conflict" (PDF). CIA. 1986-09-19. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 January 2017. สืบค้นเมื่อ 2019-11-30.
- Gonzalez, Henry B. (21 September 1992), , Congressional Record: H8820, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-27, สืบค้นเมื่อ 2022-05-05
- Ibrahim, Youssef M. (21 September 1990), "Confrontation in the Gulf; French Reportedly Sent Iraq Chemical War Tools", The New York Times
- Metz, Helen Chapin, ed. (1988), "Arms from France" 14 ธันวาคม 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Iraq: a Country Study, Library of Congress[]
- "Chapter 7: Operation Staunch". . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2013. สืบค้นเมื่อ 17 September 2015 – โดยทาง Iran Brief. Syndicated by New York Times Syndication Sales, 1987, published in book form as "Öl ins Feuer Internationale Waffengeschäfte im Golfkrieg" Orell Füssli Verlag Zürich and Wiesbaden 1988 ISBN
- Anthony, John Duke; ; Crystal, Jill Ann. "Kuwait". Encyclopædia Britannica. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 October 2013. สืบค้นเมื่อ 7 November 2012.
- Vatanka, Alex (22 March 2012). . . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2014. สืบค้นเมื่อ 7 November 2012.
- Metz, Helen Chapin, ed. (1988), "The Soviet Union" 8 เมษายน 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Iraq: a Country Study,
- Metz, Helen Chapin, ed. (1988), "Arms from The Soviet Union" 4 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Iraq: a Country Study, Library of Congress
- Stothard, Michael (30 December 2011). "UK secretly supplied Saddam". Financial Times.
- "US and British Support for Hussein Regime". จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 June 2019. สืบค้นเมื่อ 16 May 2019.
- "U.S. Links to Saddam During Iran–Iraq War". NPR. 22 September 2005.
- Friedman, Alan. Spider's Web: The Secret History of How the White House Illegally Armed Iraq, Bantam Books, 1993.[]
- (1991). The Death Lobby: How the West Armed Iraq. New York: Houghton Mifflin Company. ISBN .
- "Statement by former NSC official Howard Teicher to the U.S. District Court, Southern District of Florida" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-24. สืบค้นเมื่อ 16 July 2017. Plain text version
- "Iraqi Scientist Reports on German, Other Help for Iraq Chemical Weapons Program". จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2019. สืบค้นเมื่อ 20 June 2015.
- . Environmental News and Information. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-07. สืบค้นเมื่อ 7 November 2012.
- Cordesman, Anthony H. (2006). Iraqi Security Forces: A Strategy for Success. . p. xviii. ISBN .
Hundreds of thousands of Arab Shi'ites were driven out of [Iraq], and many formed an armed opposition with Iranian support. While most of the remaining Arab Shi'ites remained loyal, their secular and religious leaders were kept under constant surveillance and sometimes imprisoned and killed.
- Mearsheimer, John J.; Walt, Stephen M. (12 November 2002). "Can Saddam Be Contained? History Says Yes". International Security. Belfer Center for Science and International Affairs.[]
- Pollack, p. 186.
- Farrokh, Kaveh, 305 (2011)
- Pollack, p. 187.
- Farrokh, Kaveh, 304 (2011)
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 October 2018. สืบค้นเมื่อ 9 December 2018.
{{}}
: CS1 maint: archived copy as title () - Pollack, p. 232.
- Cordesman, Anthony H. "The Lessons of Modern War: The Iran–Iraq War." Boulder, CO: Westview Press, 1990. Chapter 10: "In fact, Iraq had captured so much equipment that it was able to put on an incredible show on the outskirts of Baghdad. Rather than include all of Iraq's gains, it included the equipment that could either be used immediately or be easily reconditioned. Iraqi sources claimed that since March, Iraq had captured a total of 1,298 tanks, 155 armored infantry fighting vehicles, 512 heavy artillery weapons, 6,196 mortars, 5,550 recoilless rifles and light guns, 8,050 rocket propelled grenades, 60,694 rifles, 322 pistols, 6,156 telecommunications devices, 501 items of heavy engineering equipment, 454 trucks, 1,600 light vehicles and trailers, 16,863 items of chemical defense gear, and 16,863 caskets... After its recent defeats, Iran was virtually defenseless in the south. It was down to less than 200 tanks."
- Pollack, p. 3.
- (1991). The Longest War: The Iran–Iraq Military Conflict. New York: Routledge. p. 205. ISBN . OCLC 22347651.
- Rajaee, Farhang (1997). Iranian Perspectives on the Iran–Iraq War. Gainesville, FL: University Press of Florida. p. 2. ISBN . OCLC 492125659.
- Mikaberidze, Alexander (2011). Conflict and Conquest in the Islamic World: A Historical Encyclopedia. Santa Barbara, CA: ABC-CLIO. p. 418. ISBN . OCLC 775759780.
- Hammond Atlas of the 20th Century (1999), pp. 134–135.
- Dunnigan, A Quick and Dirty Guide to War (1991)
- Dictionary of Twentieth Century World History, by Jan Palmowski (Oxford, 1997)
- Clodfelter, Micheal, Warfare and Armed Conflict: A Statistical Reference to Casualty and Other Figures, 1618–1991
- Chirot, Daniel: Modern Tyrants : the power and prevalence of evil in our age (1994)
- "B&J": Jacob Bercovitch and Richard Jackson, International Conflict : A Chronological Encyclopedia of Conflicts and Their Management 1945–1995 (1997), p. 195.
- (2008). A History of Modern Iran. Cambridge; New York: . pp. 171–175, 212. ISBN . OCLC 171111098.
- Potter, Lawrence G.; Sick, Gary (2006). Iran, Iraq and the Legacies of War. Basingstoke: Palgrave Macmillan. p. 8. ISBN . OCLC 70230312.
- Zargar, Moosa; Araghizadeh, Hassan; Soroush, Mohammad Reza; Khaji, Ali (December 2012). "Iranian casualties during the eight years of Iraq-Iran conflict". Revista de Saúde Pública. São Paulo: Faculdade de Higiene e Saúde Pública da Universidade de São Paulo. 41 (6): 1065–1066. doi:10.1590/S0034-89102007000600025. ISSN 0034-8910. OCLC 4645489824. PMID 18066475.
- (1991). The Longest War: The Iran–Iraq Military Conflict. New York: Routledge. p. 251. ISBN . OCLC 22347651.
- Rumel, Rudolph. "Centi-Kilo Murdering States: Estimates, Sources, and Calculations". Power Kills. University of Hawai'i. จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2017. สืบค้นเมื่อ 26 March 2019.
- (2002). The Iran–Iraq War, 1980–1988. Oxford, England: Osprey Publishing. p. 89. ISBN . OCLC 48783766.
- Koch, Christian; Long, David E. (1997). Gulf Security in the Twenty-First Century. Abu Dhabi: Emirates Center for Strategic Studies and Research. p. 29. ISBN . OCLC 39035954.
- Black, Ian (23 September 2010). "Iran and Iraq remember war that cost more than a million lives". The Guardian. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 January 2017. สืบค้นเมื่อ 14 December 2016.
- Rumel, Rudolph. "Lesser Murdering States, Quasi-States, and Groups: Estimates, Sources, and Calculations". Power Kills. University of Hawai'i. จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 October 2012. สืบค้นเมื่อ 16 May 2012.
- Sinan, Omar (25 June 2007). "Iraq to hang 'Chemical Ali'". . Associated Press. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2015. สืบค้นเมื่อ 9 February 2013.
- Farrokh, Kaveh. Iran at War: 1500–1988. Oxford: Osprey Publishing. ISBN .
- Molavi, Afshin (2005). The Soul of Iran: A Nation's Journey to Freedom (Revised ed.). England: W. W. Norton & Company. p. 152. ISBN .
- Fathi, Nazila (14 March 2003). "Threats And Responses: Briefly Noted; Iran-Iraq Prisoner Deal". The New York Times.
- "IRAQ vii. IRAN–IRAQ WAR". Encyclopædia Iranica. 15 December 2006.
- Hiltermann, Joost (17 January 2003). "America Didn't Seem to Mind Poison Gas". Global Policy Forum.
- King, John (31 March 2003). "Arming Iraq and the Path to War". U.N. Observer & International Report.
- "Iran-Iraq War 1980–1988". History of Iran. Iran Chamber Society.
- Karsh, Efraim (25 April 2002). The Iran–Iraq War: 1980–1988. Osprey Publishing. pp. 1–8, 12–16, 19–82. ISBN .
- Farmanfarmaian, Roxane (14 February 2011). "What makes a revolution succeed?". Al Jazeera.
- "National Security". Pars Times.
- Pollack, Kenneth M. (2004). "Iraq". Arabs at War: Military Effectiveness, 1948–1991. Lincoln: University of Nebraska Press. ISBN .
ข้อมูล
- Brogan, Patric k (1989). World Conflicts: A Comprehensive Guide to World Strife Since 1945. London: Bloomsbury. ISBN .
- ; Morris, Harvey (1989). The Gulf War: Its Origins, History and Consequences (1st published ed.). London: Methuen. ISBN .
- Lewental, D. Gershon (November 2014). ""Saddam's Qadisiyyah": Religion and history in the service of state ideology in Baʿthi Iraq". . Taylor & Francis. 50 (6): 891–910. doi:10.1080/00263206.2013.870899. S2CID 143904965.
- (2011). Iran at War: 1500–1988. Oxford: Osprey Publishing. ISBN .
- (PDF). The Lessons of Modern War – Volume II: Iran–Iraq War. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-06-07. สืบค้นเมื่อ 2022-05-05.
- "Iran–Iraq War 1980–1988". History of Iran. Iran Chamber Society.
- (2002). The Iran–Iraq War: 1980–1988. . pp. 1–8, 12–16, 19–82. ISBN .
- (2004). "Iraq". Arabs at War: Military Effectiveness, 1948–1991. Lincoln: University of Nebraska Press. ISBN .
- (January 1942). . Foreign Affairs. . 20 (2): 367–372. doi:10.2307/20029156. JSTOR 20029156. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-06.
- Pelletiere, Stephan C. (1992). The Iran–Iraq War: Chaos in a Vacuum. Praeger Publishers. ISBN .
- "Chapter 7: Operation Staunch". . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2013. สืบค้นเมื่อ 17 September 2015 – โดยทาง Iran Brief. (syndicated by New York Times Syndication Sales, 1987, published in book form as "Öl ins Feuer Internationale Waffengeschäfte im Golfkrieg" Orell Füssli Verlag Zürich and Wiesbaden 1988 ISBN
- Leopold, Mark (2005). Inside West Nile. Violence, History & Representation on an African Frontier. Oxford: James Currey. ISBN .
อ่านเพิ่ม
- Cooper, Tom (July–August 2002). "'Floggers" in Action: Early MiG-23s in Operational Service". . No. 100. pp. 56–67. ISSN 0143-5450.
- Murray, Williamson; Woods, Kevin (2014). The Iran–Iraq War: A Military and Strategic History. New York, NY: Cambridge University Press. ISBN . OCLC 877852628.
- Razoux, Pierre; Elliott, Nicholas (2015). The Iran–Iraq War. Cambridge, MA: The Belknap Press of Harvard University Press. ISBN . OCLC 907204345.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramxirk xihran xngkvs Iran Iraq War epxresiy جنگ ایران و عراق xahrb الحرب الإيرانية العراقية epnkhwamkhdaeyngrahwangpraethsxihranaelapraethsxirk sungerimtngaeteduxnknyayn 1980 thungsinghakhm 1988 mikarpraeminwasngkhramkhrngnisrangkhwamesiyhaythangesrsthkicrwmknkwa 1 2 lanlandxllarshrth 30 6 lanlanbath sngkhramxirk xihranswnhnungkhxngbnsayiplangkhwa chawxihranthukpracakarepnkxnghna thharxihraninsnamephlaaswmhnakakephuxpxngkntnexngcak karxppangkhxngeruxrb sungthukocmtiodykhipnawuthxirkodykhwamekhaicphid kxngkalng thisnbsnunxirkthukkhainchwng echlysngkhramxirk thukichnganodykxngthphxihranwnthi22 knyayn kh s 1980 20 singhakhm kh s 1988 7 pi 10 eduxn 4 spdah 1 wn sthanthixihran xirk xawepxresiyphlexachnaknimid thngsxngfayxangchychna xirkimsamarthyudkhrxngdinaednkhxngxihran aelaimsamarthhnunkhbwnkaraebngaeykdinaednincnghwdkhuessthankhxngxihranidxiktxip xihranimsamarthokhnsddm husesn aelaimsamarththalayaesnyanuphaphthangthharkhxngxirkid hyudyingtamdinaedn epliynaeplngkhusngkhram xihran hisbullxh xasasmkhrchixah snbsnunody cin xisraexlliebiy ekahliehnux pakisthan sieriy sahrbkarchwyehluxrupaebbxuncaktangchati du xirk xasasmkhrchawxahrb snbsnunody cin eyxrmnitawnxxk xitali frngess khuewt saxudixaraebiy shphaphosewiyt shrachxanackr shrth eyxrmnitawntk yuokslaewiy sahrbkarchwyehluxrupaebbxuncaktangchati du phubngkhbbychaaelaphunaruhullxh okhmyni phunasungsudxihran aexoblaehaesn aebniaesdr prathanathibdixihran edimdarngtaaehnngcxmthph thukthxdthxnin kh s 1981 prathanathibdixihran thuklxbsngharin kh s 1981 aexli khxemenxi prathanathibdixihran prathanrthsphaaelasmachiksphapxngknaehngchatisungsud phayhlngtarngtaaehnngcxmphl naykrthmntrixihran thuklxbsngharin kh s 1981 naykrthmntrixihran phlctwa esnathikar esiychiwittxnekhruxngbintkin kh s 1981 phlctwa esnathikar phnexk esnathikar phlctwa esnathikar phubychakar IRGC hwhna hwhna hwhna rxngelkhathikarthwipaehngshphaphpituphumiekhxrdisthan muhmmd bakir xlhakim hwhnasphaxislamsungsudaehngxirk xbdulxasis xlhakim hwhna sddm husesn khnxun rxngprathansphakhnabychakarkhnaptiwti hwhnahnwykhawkrxngxirk elkhathikaraelarxngelkhathikarphrrkh phloth phlexk rthmntriwakarkarathrwngtangpraethsaelasmachiksphakhnabychakarkhnaptiwti rthmntriwakarkrathrwngklaohm phubychakarkxngkalngphithkssatharnrth lukchaykhxngsddm husesn lukchaykhxngsddm husesn phlexk prathan hnwythiekiywkhxngdudukalngerimtn thhar 110 000 150 000 nay ephimetim rththng 1 700 2 100 khn ichnganid 500 khn rthhumekraa 1 000 khn punihy 300 xn ekhruxngbinrb thingraebid 485 la ichnganidetmthi 205 la ehlikhxpetxr 750 la in kh s 1982 thhar 350 000 nay rththng 700 khn rthhumekraa 2 700 khn punihy 400 xn xakasyan 350 la ehlikhxpetxr 700 la in kh s 1988 thhar 600 000 nay rththngmakkwa 1 500 khn rthhumekraa 800 khn punihyhnk 600 xn ekhruxngbinrb thingraebid 60 80 la ehlikhxpetxr 70 90 laerimtn thhar 200 000 nay ephimetim rththng 2 800 khn APC 4 000 xn punihy 1 400 xn ekhruxngbinrb thingraebid 380 la ehlikhxpetxr 350 la in kh s 1982 thhar 175 000 nay rththng 1 200 khn rthhumekraa 2 300 khn punihy 400 xn xakasyan 450 la ehlikhxpetxr 180 la in kh s 1988 thhar 1 500 000 nay rththngpraman 5 000 khn APC 8 500 10 000 xn punihy 6 000 12 000 xn ekhruxngbinrb thingraebid 900 la ehlikhxpetxr 1 000 lakhwamsuyesiythharesiychiwit 200 000 600 000 nay ephimetim 123 220 160 000 KIA 60 711 MIA xihranxang thukkha 800 000 nay xirkxang 320 000 500 000 40 000 42 875 POW phlemuxngesiychiwit 11 000 16 000 khn esrsthkicesiyhay 627 phnlandxllarshrththharesiychiwit 105 000 500 000 nay ephimetim 400 000 70 000 POW esrsthkicesiyhay 561 phnlandxllarshrthphlemuxngesiychiwit makkwa 100 000 khnbthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha sngkhramxirk xihran 22 knyayn 1980 etharan sngkhramxirk xihranerimkhunemuxxirkthakarrukranxihraninwnthi 22 knyayn 1980 xnenuxngmacakkhxphiphaththangchayaednthidaeninmaxyangyawnan hlngkarptiwtixihraninpi 1979 ruhullxh okhmyni idkhunepnphunasungsudkhxngxihranaelaprakastnepnphunaxislamnikaychixah thaihmuslimchixahxnepnkhnswnmakinxirkkhunmakxclacltxtankarpkkhrxngkhxngrthbalnikaysunni khnaediywkn xirkkmikhwamphyayamcakhunmamixiththiphlkhrxbngaphumiphakhxawepxresiyaethnthixihran aemwaxirkcaichoxkasthixihrankalngwunwayniekhaocmtixihranodyimprakaskxn aetekhayudkhrxngyngidimmakkthukotklbxyangrwderw xihransamarthchingdinaednthisuyesiyipthnghmdkhunmaidphayineduxnmithunayn 1982 aelatlxdhkpicakni xihrankklayepnfayrukilekhaipindinaednxirk aemkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatiidrxngihmikarhyudyingnbsib khrng aetkarsurbkdaeninipcnthungwnthi 20 singhakhm 1988 aelasinsudlngxyangepnthangkartammtikhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatithi 598 thithngsxngfayyxmrbkhakhxhyudying sungphayhlngkhxsrupni kxngthphxihrantxngichewlahlayspdahinkarthxnkalngxxkcakdinaednxirkodyyudexahlkekhtaednkxnsngkhram echlysngkhramkhnsudthaykhxngsngkhramnithuksngtwklbpraethstninpi 2003 sngkhramkhrngnithaihmiphuesiychiwitrwmknkwahnunglankhnaetklbimmifayididhruxsuyesiydinaednely sngkhramkhrngnithuknaipepriybethiybkbsngkhramolkkhrngthihnunginaengkhxngklyuthth thngkarichaethnpunkl karocmtiaebbkhlunmnusy karichxawuthekhmicanwnmakodykxngthphxirk praethsxislamcanwnmakxyufayediywkbchatitawntkinsngkhramkhrngni nnkhuxkarsnbsnunxirkodykarihenginku yuthothpkrn aelaphaphthaydawethiyminchwngthixirkocmtixihran sunginrahwangsngkhram mikarwicarncaksuxwa prachakhmolktangphaknengiybkribtxnxirkichxawuthxanuphaphthalaylangsungtxxihranaelachawekhird aelakwakhnamntrikhwammnkhngyuexncaprakasihxirkepnphukxsngkhramklwngelyipthungwnthi 11 thnwakhm 1991 sibsxngpiihhlngcakthixirkthakarrukranxihran aelaepnewlasibhkeduxnhlngxirkrukrankhuewt sungbanplayepnsngkhramxawebuxnghlngkhwamkhdaeyngxirk xihran xihranaelaxirkmikhwamkhdaeyngkncakpyhaechuxchati prachakrswnihykhxngxirkmiechuxsayxahrbichphasaxarbik inkhnathiswnnxymiechuxsayepxresiyichphasaepxresiy khnechuxsayepxresiyinxirkmisthanaepnrxngechuxsayxahrbxyuesmxaelamkthukkdkhiodykhnechuxxahrb thaihchawxirkechuxsayepxresiyehlaniekidkhwamkhbaekhnictxchawxirkechuxsayxahrb pyhaechnniekidinxihranechnkn prachakrkhxngxihranmiechuxsayepxresiykbxahrbxyanglakhrung aetchnchnpkkhrxnginxihranekuxbthnghmdepnechuxsayepxresiy channinxihranexngkmikhwamimphxickhxngkhnechuxsayxahrbtxkhnechuxsayepxresiy khnxihranechuxsayxahrbswnihycaxasyxyuthangtawntkkhxngpraethsincnghwdkhuessthantidkbphrmaednxirk sungcnghwdkhuessthanniepnaehlngnamnthisakhythisudkhxngxihran khnaediywkn xirkkphyayamxangxyuesmxwacnghwddngklawepndinaednkhxngxirk thungkbtngchuxihwa cnghwdxraebaesn thharkhxngsxngpraethsmkmikarpathaknyxm xyuesmxincnghwdni nxkcakniyngmipyhachnklumnxythieriykwa chawekhird epnchnklumnxyechuxsayxaryn immipraethsepnkhxngtnexngaetxasyxyuinphunthikhxngxirk xihran turki aelashphaphosewiyt chawekhirdiddaeninkickrrmthangkaremuxngephuxnaipsukarcdtngrthxisrakhxngtnexngkhuninxihran chawekhirdidkxclaclkhuninxihraninpi 1930 aelathukrthbalxihranprabpramxyangrunaerng chawekhirdcanwnmakhlbhniekhaipyngxirk karprabprabxyangrunaerngthaihchawekhirdhmdhwngthicatngrthxisrakhxngtninxihran aelatngepahmaythicatngrthxisrakhuninxirkaethn cnkrathnginpi 1969 chawekhirdinxirkklayepnpyhamakkhunemuxphraecachahaehngxihranidihkhwamchwyehluxthngdankarengin karthut aeladanxun aekchawekhirdinxirk txmainpi 1974 rthbalxirkekhapranipranxmkbrthbalxihranenuxngcakehnwakhnannxihranepnchatiaekhngaekrngaelayngepnmitrkbshrthxemrika karecrcadngklawklayepn snthisyyaaexleciyr kh s 1975 thithangxihrancayutiihkarsnbsnunaekchawekhirdaelkkbkarthixirkesiyswnhnungkhxngpakaemnachttulxarxbaekxihran caksnthisyyadngklaw caehnidwa xihranimidmiswnaekpyhachawekhirdinxirkely aetxirkklbtxngesiydinaednswnhnungaekxihran xirkmxngwasnthisyyadngklawhakhwamepnthrrmimid cudyunkhxngshrthxemrika shrthxemrikathuxepnmitrpraethskhxngpraethsxihrankxnkarptiwti aemkrathnghlngkarptiwtixihranaelw rthbalkhxngprathanathibdikharetxr kyngkhngmxngxihranepnprakarephuxtxtanxirkaelashphaphosewiyt shrthmikarecrcaepnhunswnthangyuththsastrkbrthbalechphaakalkhxngxihran mikarxnumtikhwamrwmmuxdankhawkrxngrahwangsxngpraethsinpi 1979 thngshrthaelaxihran aetkhwamsmphnthrahwangshrth xihran khadsabnlngemuxekidwikvtkarntwpraknxihran aelaxihranyngklawhashrthwaxyuebuxnghlngkarrthpraharxihraninpi 1953 shrthidtdthangkarthutepnkartxbot inkhnathibrrdaphunakhxngxihranrwmthngruhullxh okhmynitangechuxthvsdismkhbkhidthiwashrthih ifekhiyw aeksddm husesn inkarbukxihran aelayngsngsywashrthcaichxirkepnhmakinkaraekaekhneruxngwikvttwprakn tambnthukkhxngprathanathibdikharetxrexngkidrabuinidxarikhxngekhawa phwkphukxkarrayxihrankalngcathaeruxngba xyangkhatwpraknchawxemriknthaphwkekhathukbukodyxirk thiekhabxkwaepnhunechidkhxngxemrika khwamphrxmkhxngxirkxirkidwangaephnocmtixihranodyechuxmnxyangmakwacaprasbkhwamsaerc enuxngcakrthbalxihraninkhnannyngkhadesthiyrphaphaelaaetkxxkepnsxngkhwrahwangkhwxemriknkbkhwxngkvs xirkmiskyphaphinkarcdkxngphlyanekraaid 12 kxngphl aelatlxdchwngthswrrsthi 1970 sddmidesrimsrangaesnyanuphaphkhxngxirkdwyxawuthyuthothpkrnsmyihmthisudcakshrthxemrika aela shphaphosewiyt nxkcakni aemnachttulxarxbkimthuxepnxupsrrkhtxkarekhluxnkalngphlkhxngxirk enuxngcakkxngthphxirkmisaphansaercrupthiprakxbidxyangrwderw xirkyngkhadkarnidxyangthuktxngwaaenwpxngknkhxngxihranbriewnaemnakharekhaelaaemnakharunnnmikalngthharimephiyngphx thaihxirksamarthkhamaemnaidodyngay karkhawkrxngkhxngxirkyngyunynxikwa kalngthharxihranincnghwdkhuessthannnmiyuthothpkrnthilahlngaelaprasiththiphaphta aelamiephiyngrththngephiynghyibmuxethannthiichnganid singediywthixirkepnkngwlkkhuxkalngthangxakaskhxngxihransungmiskyphaph nnexngcungthaihphubychakarthharkhxngxirk tdsinicthicathakarocmtiaebbchabchwytxthanthphaelaokhrngsrangphunthanthangxakaskhxngxihrankxnephuxepnkarebikthangihkbkarrukranthangbkkhwamphrxmkhxngxihrankxngthphxihraninkhnannkalngxyuinsphaphxxnaex naythharcanwnmakthukpraharodyinchwngkarptiwtixihran kxngthphkhadxawuthyuthothpkrnaelaxaihlthiphlitodyshrth xngkvsxyangrunaerng ineduxnkumphaphnththungknyayn 1979 rthbalxihranpraharnayphlradbsungkwa 85 ray aelabngkhbnayphlkhnxunthiehnuxrwmthungehlaphubychakarkxngphlnxyiheksiynkxnkahnd kxneduxnknyayn 1980 rthbalxihranpldecahnathithharkwa 12 000 nay karpldkhrngniidldskyphaphkhwamphrxmrbkhxngkxngthphxihranlngxyangrunaerng kalngthharpktikhxngxihran sungekhyidrbkaryxmrbwamikxngthphbkthithrngaesnyanuphaphthisudpraethshnungkhxngolkinpi 1978 xxnaexlngxyangmak xtrakarhnithharsunglibkwa 60 naythharaelankbinthksasungswnihytangliphy thukcakhuk hruxthukprahar nbepnphawasmxngihlthisngphltxskyphaphkxngthphxihranmacnthungpccubn xihranyngthukkhdkhwangimihekhathungxawuthhnkxyangrththnghruxxakasyanid sungepnphlcakkaraethrngaesngodyshrthaelashrachxanackr emuxxirkerimthakarbuk mikarplxytwnkbinaelanaythharcanwnmakxxkcakkhuk hruxepliynothspraharepnsngiprbkbxirkaethn nxkcakni yngidmikareluxnkhnthharrunihmcanwnmakkhunepnnayphl thaihkxngthphxihranmikhwamepnenuxediywkbrthbalmakkhuntngaetsinsudsngkhramcwbcnpccubn aemcathukaethrkaesngcakmhaxanacphaynxk aetxihrankyngkhngmirththngthiichnganidxyangnxykwa 1 000 khnrwmthungxakasyanxikhlayrxyekhruxng thaihsamarthichchinswnkhxngekhruxngthimixyuepnxaihlidxyubanghmayehtuPollack rabucanwnrththngthiichnganidetmthi 1 000 khnineduxnemsayn kh s 1988 swn Cordesman ihcanwnrabucanwnrththngthiichnganidetmthimakkwa 1 500 khnineduxnminakhm kh s 1988 1 298 khnthukfayxirkyudineduxnkrkdakhm kh s 1988 200 khnxyuinfayxihran aelaimthrabcanwnrththngthithukthalay odyimthrabcanwnorngngan canwnpramankarkhxngchawxihranthibadecbaelaesiychiwitinsngkhramxirkmihlakhlay canwnpramankarkhxngchawxirkthibadecbaelaesiychiwitinsngkhramxirkmihlakhlay imrwmphlemuxngchawekhird 50 000 200 000 khnthithukkhainkarsngharhmuxlxnfal cak xfkanisthan pakisthan cak xiyipt cxraedn omrxkok eyemnehnux sudan tuniesiyduephimwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhramxirk xihran sngkhramxawepxresiy sngkhramxirk karsnbsnunxirkkhxngosewiytinsngkhramxirk xihranxangxingDr Nimrod Raphaeli 11 February 2009 MEMRI khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 February 2009 Memoires of Afghan volunteers in Iran Iraq war published tehrantimes com 7 October 2018 Mohsen the Japanese chronicles life of Afghan volunteer fighter in Iran Iraq war tehrantimes com 16 December 2020 Williamson Murray Kevin M Woods 2014 The Iran Iraq War A Military and Strategic history Cambridge University Press ISBN 978 1 107 06229 0 p 223 Garver John W 2006 China and Iran Ancient Partners in a Post Imperial World Seattle WA University of Washington Press pp 72 80 81 ISBN 978 0295986319 Treacherous alliance Yale University Press 2007 ISBN 978 0300120578 odythang Internet Archive Iraq Breaks Ties with Libya over Support for Iran Los Angeles Times 27 June 1985 cakaehlngedimemux 24 November 2018 subkhnemux 8 November 2018 The Iran North Korea Connection cakaehlngedimemux 1 July 2019 subkhnemux 1 July 2019 Allam Shah October December 2004 Iran Pakistan Relations Political and Strategic Dimensions PDF Strategic Analysis The Institute for Defence Studies and Analyses 28 4 526 doi 10 1080 09700160408450157 S2CID 154492122 subkhnemux 20 October 2013 Ansar Arif 27 January 2013 Preventing the next regional conflict Pakistan Today subkhnemux 20 October 2013 Shah Mehtab Ali 1997 The Foreign Policy of Pakistan Ethnic Impacts on Diplomacy 1971 1994 London u a Tauris ISBN 1 86064 169 5 Karsh Efraim 1989 The Iran Iraq War Impact and Implications ISBN 978 1349200504 El Azhary M S 23 May 2012 The Iran Iraq War RLE Iran A ISBN 978 1136841750 Razoux Pierre 2015 The Iran Iraq War ISBN 978 0674088634 Iran and Syria 14 tulakhm 2015 thi ewyaebkaemchchin Jubin Goodarzi Johnson Rob 24 November 2010 The Iran Iraq War Palgrave Macmillan ISBN 978 1137267788 odythang Google Books lingkesiy Murray Williamson Woods Kevin M 2014 The Iran Iraq War A Military and Strategic History Cambridge University Press ISBN 978 1107062290 odythang Google Books Middleton Drew 4 October 1982 Sudanese Brigades Could Provide Key Aid for Iraq Military Analysis The New York Times cakaehlngedimemux 8 December 2019 subkhnemux 8 December 2019 Iraq Iran war becoming Arab Persian war The Christian Science Monitor The Christian Science Monitor 5 February 1982 cakaehlngedimemux 8 December 2019 subkhnemux 8 December 2019 Jordan s call for volunteers to fight Iran misfires The Christian Science Monitor The Christian Science Monitor 11 February 1982 cakaehlngedimemux 8 December 2019 subkhnemux 8 December 2019 Schenker David Kenneth 2003 PDF ISBN 0 7391 0649 X khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 23 January 2017 Jordanian Unit Going To Aid Iraq 6 Hussein Will Join Volunteer Force Fighting Iranians The Washington Post The Washington Post cakaehlngedimemux 8 December 2019 subkhnemux 8 December 2019 Dictionary of modern Arab history Kegan Paul International 1998 ISBN 978 0710305053 p 196 Berridge W J Civil Uprisings in Modern Sudan The Khartoum Springs of 1964 and 1985 p 136 Bloomsbury Academic 2015 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux bulloch89 china and the iran iraq conflict PDF CIA 1986 09 19 PDF cakaehlngedimemux 22 January 2017 subkhnemux 2019 11 30 Gonzalez Henry B 21 September 1992 Congressional Record H8820 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 02 27 subkhnemux 2022 05 05 Ibrahim Youssef M 21 September 1990 Confrontation in the Gulf French Reportedly Sent Iraq Chemical War Tools The New York Times Metz Helen Chapin ed 1988 Arms from France 14 thnwakhm 2010 thi ewyaebkaemchchin Iraq a Country Study Library of Congress txngkartrwcsxbkhwamthuktxng Chapter 7 Operation Staunch khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 March 2013 subkhnemux 17 September 2015 odythang Iran Brief Syndicated by New York Times Syndication Sales 1987 published in book form as Ol ins Feuer Internationale Waffengeschafte im Golfkrieg Orell Fussli Verlag Zurich and Wiesbaden 1988 ISBN 3 280 01840 4 Anthony John Duke Crystal Jill Ann Kuwait Encyclopaedia Britannica cakaehlngedimemux 12 October 2013 subkhnemux 7 November 2012 Vatanka Alex 22 March 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 29 November 2014 subkhnemux 7 November 2012 Metz Helen Chapin ed 1988 The Soviet Union 8 emsayn 2016 thi ewyaebkaemchchin Iraq a Country Study Metz Helen Chapin ed 1988 Arms from The Soviet Union 4 minakhm 2016 thi ewyaebkaemchchin Iraq a Country Study Library of Congress Stothard Michael 30 December 2011 UK secretly supplied Saddam Financial Times US and British Support for Hussein Regime cakaehlngedimemux 24 June 2019 subkhnemux 16 May 2019 U S Links to Saddam During Iran Iraq War NPR 22 September 2005 Friedman Alan Spider s Web The Secret History of How the White House Illegally Armed Iraq Bantam Books 1993 txngkarelkhhna 1991 The Death Lobby How the West Armed Iraq New York Houghton Mifflin Company ISBN 0 395 59305 0 Statement by former NSC official Howard Teicher to the U S District Court Southern District of Florida PDF ekb PDF cakaehlngedimemux 2012 04 24 subkhnemux 16 July 2017 Plain text version Iraqi Scientist Reports on German Other Help for Iraq Chemical Weapons Program cakaehlngedimemux 13 May 2019 subkhnemux 20 June 2015 Environmental News and Information khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 08 07 subkhnemux 7 November 2012 Cordesman Anthony H 2006 Iraqi Security Forces A Strategy for Success p xviii ISBN 978 0275989088 Hundreds of thousands of Arab Shi ites were driven out of Iraq and many formed an armed opposition with Iranian support While most of the remaining Arab Shi ites remained loyal their secular and religious leaders were kept under constant surveillance and sometimes imprisoned and killed Mearsheimer John J Walt Stephen M 12 November 2002 Can Saddam Be Contained History Says Yes International Security Belfer Center for Science and International Affairs lingkesiy Pollack p 186 Farrokh Kaveh 305 2011 Pollack p 187 Farrokh Kaveh 304 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 October 2018 subkhnemux 9 December 2018 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint archived copy as title lingk Pollack p 232 Cordesman Anthony H The Lessons of Modern War The Iran Iraq War Boulder CO Westview Press 1990 Chapter 10 In fact Iraq had captured so much equipment that it was able to put on an incredible show on the outskirts of Baghdad Rather than include all of Iraq s gains it included the equipment that could either be used immediately or be easily reconditioned Iraqi sources claimed that since March Iraq had captured a total of 1 298 tanks 155 armored infantry fighting vehicles 512 heavy artillery weapons 6 196 mortars 5 550 recoilless rifles and light guns 8 050 rocket propelled grenades 60 694 rifles 322 pistols 6 156 telecommunications devices 501 items of heavy engineering equipment 454 trucks 1 600 light vehicles and trailers 16 863 items of chemical defense gear and 16 863 caskets After its recent defeats Iran was virtually defenseless in the south It was down to less than 200 tanks Pollack p 3 1991 The Longest War The Iran Iraq Military Conflict New York Routledge p 205 ISBN 978 0 415 90406 3 OCLC 22347651 Rajaee Farhang 1997 Iranian Perspectives on the Iran Iraq War Gainesville FL University Press of Florida p 2 ISBN 978 0 8130 1476 0 OCLC 492125659 Mikaberidze Alexander 2011 Conflict and Conquest in the Islamic World A Historical Encyclopedia Santa Barbara CA ABC CLIO p 418 ISBN 978 1 59884 336 1 OCLC 775759780 Hammond Atlas of the 20th Century 1999 pp 134 135 Dunnigan A Quick and Dirty Guide to War 1991 Dictionary of Twentieth Century World History by Jan Palmowski Oxford 1997 Clodfelter Micheal Warfare and Armed Conflict A Statistical Reference to Casualty and Other Figures 1618 1991 Chirot Daniel Modern Tyrants the power and prevalence of evil in our age 1994 B amp J Jacob Bercovitch and Richard Jackson International Conflict A Chronological Encyclopedia of Conflicts and Their Management 1945 1995 1997 p 195 2008 A History of Modern Iran Cambridge New York pp 171 175 212 ISBN 978 0511984402 OCLC 171111098 Potter Lawrence G Sick Gary 2006 Iran Iraq and the Legacies of War Basingstoke Palgrave Macmillan p 8 ISBN 978 1 4039 7609 3 OCLC 70230312 Zargar Moosa Araghizadeh Hassan Soroush Mohammad Reza Khaji Ali December 2012 Iranian casualties during the eight years of Iraq Iran conflict Revista de Saude Publica Sao Paulo Faculdade de Higiene e Saude Publica da Universidade de Sao Paulo 41 6 1065 1066 doi 10 1590 S0034 89102007000600025 ISSN 0034 8910 OCLC 4645489824 PMID 18066475 1991 The Longest War The Iran Iraq Military Conflict New York Routledge p 251 ISBN 978 0 415 90406 3 OCLC 22347651 Rumel Rudolph Centi Kilo Murdering States Estimates Sources and Calculations Power Kills University of Hawai i cakaehlngedimemux 11 October 2017 subkhnemux 26 March 2019 2002 The Iran Iraq War 1980 1988 Oxford England Osprey Publishing p 89 ISBN 978 1 84176 371 2 OCLC 48783766 Koch Christian Long David E 1997 Gulf Security in the Twenty First Century Abu Dhabi Emirates Center for Strategic Studies and Research p 29 ISBN 978 1 86064 316 3 OCLC 39035954 Black Ian 23 September 2010 Iran and Iraq remember war that cost more than a million lives The Guardian cakaehlngedimemux 2 January 2017 subkhnemux 14 December 2016 Rumel Rudolph Lesser Murdering States Quasi States and Groups Estimates Sources and Calculations Power Kills University of Hawai i cakaehlngedimemux 4 October 2012 subkhnemux 16 May 2012 Sinan Omar 25 June 2007 Iraq to hang Chemical Ali Associated Press cakaehlngedimemux 17 October 2015 subkhnemux 9 February 2013 Farrokh Kaveh Iran at War 1500 1988 Oxford Osprey Publishing ISBN 9781780962214 Molavi Afshin 2005 The Soul of Iran A Nation s Journey to Freedom Revised ed England W W Norton amp Company p 152 ISBN 978 0 393 32597 3 Fathi Nazila 14 March 2003 Threats And Responses Briefly Noted Iran Iraq Prisoner Deal The New York Times IRAQ vii IRAN IRAQ WAR Encyclopaedia Iranica 15 December 2006 Hiltermann Joost 17 January 2003 America Didn t Seem to Mind Poison Gas Global Policy Forum King John 31 March 2003 Arming Iraq and the Path to War U N Observer amp International Report Iran Iraq War 1980 1988 History of Iran Iran Chamber Society Karsh Efraim 25 April 2002 The Iran Iraq War 1980 1988 Osprey Publishing pp 1 8 12 16 19 82 ISBN 978 1 84176 371 2 Farmanfarmaian Roxane 14 February 2011 What makes a revolution succeed Al Jazeera National Security Pars Times Pollack Kenneth M 2004 Iraq Arabs at War Military Effectiveness 1948 1991 Lincoln University of Nebraska Press ISBN 978 0 8032 8783 9 khxmul Brogan Patric k 1989 World Conflicts A Comprehensive Guide to World Strife Since 1945 London Bloomsbury ISBN 0 7475 0260 9 Morris Harvey 1989 The Gulf War Its Origins History and Consequences 1st published ed London Methuen ISBN 978 0 413 61370 7 Lewental D Gershon November 2014 Saddam s Qadisiyyah Religion and history in the service of state ideology in Baʿthi Iraq Taylor amp Francis 50 6 891 910 doi 10 1080 00263206 2013 870899 S2CID 143904965 2011 Iran at War 1500 1988 Oxford Osprey Publishing ISBN 978 1 78096 221 4 PDF The Lessons of Modern War Volume II Iran Iraq War khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 06 07 subkhnemux 2022 05 05 Iran Iraq War 1980 1988 History of Iran Iran Chamber Society 2002 The Iran Iraq War 1980 1988 pp 1 8 12 16 19 82 ISBN 978 1 84176 371 2 2004 Iraq Arabs at War Military Effectiveness 1948 1991 Lincoln University of Nebraska Press ISBN 978 0 8032 8783 9 January 1942 Foreign Affairs 20 2 367 372 doi 10 2307 20029156 JSTOR 20029156 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 06 06 Pelletiere Stephan C 1992 The Iran Iraq War Chaos in a Vacuum Praeger Publishers ISBN 978 0 275 93843 7 Chapter 7 Operation Staunch khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 March 2013 subkhnemux 17 September 2015 odythang Iran Brief syndicated by New York Times Syndication Sales 1987 published in book form as Ol ins Feuer Internationale Waffengeschafte im Golfkrieg Orell Fussli Verlag Zurich and Wiesbaden 1988 ISBN 3 280 01840 4 Leopold Mark 2005 Inside West Nile Violence History amp Representation on an African Frontier Oxford James Currey ISBN 978 0 85255 941 3 xanephim Cooper Tom July August 2002 Floggers in Action Early MiG 23s in Operational Service No 100 pp 56 67 ISSN 0143 5450 Murray Williamson Woods Kevin 2014 The Iran Iraq War A Military and Strategic History New York NY Cambridge University Press ISBN 978 1 107 06229 0 OCLC 877852628 Razoux Pierre Elliott Nicholas 2015 The Iran Iraq War Cambridge MA The Belknap Press of Harvard University Press ISBN 978 0 674 08863 4 OCLC 907204345 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk