บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
เครื่องบินทิ้งระเบิด คือ อากาศยานทางการทหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจการโจมตีเป้าหมายทางภาคพื้นดินและทางทะเล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้การปล่อยลูกระเบิดลงมาเพื่อทำลายเป้าหมาย ซึ่งระเบิดที่ถูกทิ้งลงมามีหลากหลายชนิด เช่น ระเบิดนาปาล์ม ระเบิดทำลายบังเกอร์ ระเบิดอัจฉริยะ ระเบิดนิวเคลียร์ เป็นต้น
การจำแนกเครื่องบินทิ้งระเบิด
ถูกออกแบบมาเพื่อทำภารกิจโจมตีระยะไกลด้วยการระดมทิ้งระเบิดใส่จุดยุทธศาสตร์ของเป้าหมาย อย่าง ฐานเสบียง สะพาน โรงงาน อู่ต่อเรือ และเมือง เพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายศัตรู ตัวอย่างสำหรับเครื่องบินประเภทนี้ได้แก่ ไฮง์เคิล เฮ 177 เอฟโร แลนด์แคสเตอร์ บี-17 ฟลายอิงฟอร์เทรส บี-29 ซูเปอร์ฟอร์เทรส บี-52 สตราโตฟอร์เทรส เจเนรัล ไดนามิกส์ เอฟ-111 ตูโปเลฟ ตู-16 ตูโปเลฟ ตู-160 ตูโปเลฟ ตู-95 พิอาจิโอ พี.108 และนากาจิมะ จี8เอ็น
เป็นเครื่องบินที่มีขนาดเล็กกว่าซึ่งทำหน้าที่ในระยะที่ใกล้ โดยทั่วไปแล้วจะทำงานร่วมกับทหารราบบนพื้นดิน บทบาทนี้มีเครื่องบินหลายแบบที่ถูกสร้างออกมา ในปัจจุบันเครื่องบินทางทหารลำใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์จะถูกจัดว่าเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี
เครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโดได้ถูกออกแบบมาเพื่อการปล่อยตอร์ปิโดจากเครื่องบินลงน้ำพุ่งโจมตีเรือรบ ตัวอย่างของเครื่องบินประเภทนี้ได้แก่ แฟร์รี่ย์ ซอร์ดฟิช นากาจิมะ บี5เอ็น นากาจิมะ บี6เอ็น ดักลาส ทีบีดี ดิวาสเตเตอร์ กรัมแมน ทีบีเอฟ อเวนเจอร์ และ
ภาคพื้นดินหรือ"เครื่องบินสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้"ถูกออกแบบมาเพื่อบินตระเวนอยู่เหนือสมรภูมิรบและเข้าโจมตีเป้าหมายทางยุทธวิธี อย่าง รถถัง เบี่ยงความสนใจของทหารราบ เป็นต้น ตัวอย่างของเครื่องบินประเภทนี้ได้แก่ ดักลาส เอ-1 สกายเรเดอร์ เอ-10 ธันเดอร์โบลท์ 2 และ
เครื่องบินดำดิ่งทิ้งระเบิดได้ถูกออกแบบมาเพื่อบินดำดิ่งทิ้งระเบิดใส่เป้าหมาย อย่าง เรือรบ ตัวอย่างของเครื่องบินประเภทนี้ได้แก่ ยุงเคิร์ส ยู 87 ไอจิ ดี3เอ โยโกซูกะ ดี4วาย ดักลาส เอสบีดี ดอนท์เลสส์ เคอร์ทิสส์ เอสบี2ซี เฮลไดเวอร์
(หรือเครื่องบินขับไล่ทางยุทธวิธี เครื่องบินจู่โจม และเครื่องบินโจมตี) เป็นเครื่องบินทางทหารที่มีหลากหลายบทบาทซึ่งสามารถทำการโจมตีได้ทั้งแบบอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้น เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดจำนวนมากถูกออกแบบมาให้เข้าต่อสู้ทางอากาศได้ในทันทีหลังจากที่โจมตีเป้าหมายบนพื้นดินแล้ว เครื่องบินต่อสู้หลายบทบาทในปัจจุบันถูกออกแบบให้ทำหน้าที่ได้อย่างหลากหลายมากขึ้นเนื่องจากงบประมาณที่จำกัดและพวกมันก็มักจะมีประโยชน์มาก ตัวอย่างเช่น เอฟ-4 แฟนทอม 2 เอฟ-15อี สไตรค์อีเกิล เอฟ-16 ไฟท์ติ้งฟอลคอน (เอฟ/เอ-18 ฮอร์เน็ท) ซุคฮอย ซู-34 มิราจ 2000 พานาเวีย ทอร์นาโด เฉิงตู เจ-10 และ
เครื่องบินทิ้งระเบิดหลากบทบาท ตัวอย่างของเครื่องบินประเภทนี้ได้แก่ ไอจิ บี7เอ
ประวัติ
เครื่องบินทิ้งระเบิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับเครื่องบินขับไล่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในตอนแรกนั้นมันถูกใช้เพื่อทิ้งระเบิด มันถูกใช้โดยอิตาลีเมื่อพวกเขาทำการรบที่ลิเบียในปีพ.ศ. 2454 เมื่อปีพ.ศ. 2455 นักบินของกองทัพอากาศบัลแกเรียชื่อคริสโต ทอปรัคชิฟได้แนะนำให้มีการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดในตำแหน่งของตุรกี ร้อยเอกเพโทรฟได้พัฒนาแนวคิดและได้สร้างต้นแบบออกมามากมายโดยใช้ระเบิดที่แตกต่างกันไปและเพิ่มความจุ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมพ.ศ. 2455 ผู้สังเกตการณ์ชื่อโพรแดน ทารัคชิฟได้ทิ้งระเบิดสองลูกใส่ทางรถไฟของตุรกีโดยใช้เครื่องอัลบาทรอส เอฟ.2 ที่บินโดยราดัล มิคอฟ
หลังจากการทดสอบหลายครั้งเพโทรฟก็ได้สร้างแบบสุดท้ายออกมา มันมีระบบอากาศพลศาสตร์ หางรูปทรง X และชนวนจุดระเบิด รุ่นดังกล่าวถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยกองทัพอากาศบัลแกเรียในช่วงการโอบล้อมเออริน แบบสำเนาถูกขายให้กับเยอรมนีและระเบิดก็ถูกผลิตออมาเป็นจำนวนมากในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ระเบิดนั้นมีน้ำหนัก 6 กิโลกรัม เมื่อมันกระทบเป้าหมายจะสร้างรัศมีกว้าง 4-5 เมตรและหลุมที่ลึกลงไปประมาณ 1 เมตร
เยอรมันใช้เรือเหาะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดเพราะพวกมันมีพิสัยและความจุที่มากพอจะไปถึงอังกฤษได้ ด้วยความก้าวหน้าในการออกแบบเครื่องบินและอุปกรณ์ พวกมันได้เข้าร่วมกับเครื่องบินปีกสองชั้นที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งสามารถทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะในตอนกลางคืน การทิ้งระเบิดส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลงานของเครื่องบินปีกสองชั้นเครื่องยนต์เดียวพร้อมลูกเรือหนึ่งหรือสองคน พวกเขาจะบินเพื่อทิ้งระเบิดในระยะสั้นเพื่อเข้าโจมตีแนวข้าศึกและส่วนที่ห่างจากตัวเมือง
เครื่องบินทิ้งระเบิดสี่เครื่องยนต์ลำแรกเป็นของรัสเซีย มันถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2457 และถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เมื่อสงครามโลกจบลงสหราชอาณาจักรได้รวบรวมเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนักพร้อมความมุ่งมั่นที่จะเข้าโจมตีอุตสาหกรรมของเยอรมนี แต่สงครามก็จบลงเสียก่อน
สงครามโลกครั้งที่สอง
ในอดีตเครื่องบินทิ้งระเบิดเป็นเครื่องบินที่ไม่เหมือนกับเครื่องบินแบบอื่นๆ และมักมันรูปร่างที่ใหญ่โตกว่าเครื่องบินอื่นๆ สิ่งนี้ก็เพราะมันต้องมีเครื่องยนต์จำนวนมากเพื่อบรรทุกระเบิด มันส่งผลให้เกิดเครื่องบินที่ใหญ่ขึ้นมาก เป็นเครื่องบินที่เหมาะกับบทบาท
ด้วยข้อจำกัดของกำลังเครื่องยนต์และความแม่นยำ เครื่องบินทิ้งระเบิดจึงถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง สิ่งนี้เริ่มขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งแบ่งออกเป็นดังนี้
- เครื่องบินดำดิ่งทิ้งระเบิด
- , และ
- เครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโด
- เครื่องบินโจมตีภาคพื้นดิน
เครื่องบินทิ้งระเบิดมีอาวุธสำหรับป้องกันตนเองจากเครื่องบินของข้าศึกเท่านั้น มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำการต่อสู้กับเครื่องบินลำอื่น เหตุผลหลักนั้นก็เพราะว่ามันเชื่องช้าและมีขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าบางแบบจะมีขนาดเล็กเพื่อใช้เป็นเครื่องบินขับไล่แบบพิเศษ เครื่องบินโจมตีมีขนาดเล็กกว่า เร็วกว่า และรวดเร็วกว่า แต่เมื่อติดอาวุธสำหรับโจมตีภาคพื้นดินมันก็ด้อยกว่าเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินโจมตีอาจขนอาวุธอากาศสู่อากาศ แต่โดยปกติจะเป็นอาวุธนำวิถีด้วยอินฟราเรดเพื่อป้องกันตัวเอง
- รูปแบบของไฮง์เคิล เฮ 111
- รูปแบบของ
- รูปแบบของมิตซูบิชิ คิ-21ของกองทัพอากาศจักรวรรดิญี่ปุ่น
- รูปแบบของนากาจิมะ คิ-49ของกองทัพอากาศจักรวรรดิญี่ปุ่น
- รูปแบบของของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น
- รูปแบบของมิตซูบิชิ จี4เอ็มของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น
- รูปแบบของโบอิง บี-17 ฟลายอิงฟอร์เทรส
- รูปแบบของ
- รูปแบบของ
- รูปแบบของ
- รูปแบบของ
- รูปแบบของ
- รูปแบบของเฟียต บีอาร์.20
สงครามเย็น
เมื่อเริ่มสงครามเย็นเครื่องบินทิ้งระเบิดนั้นมีหน้าที่เพียงแค่บรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ไปทิ้งใส่ศัตรและมีบทบาทในทฤษฏียับยั้ง (อังกฤษ: deterrence theory) ด้วยการปรากฏตัวของขีปนาวุธนำวิถี เครื่องบินทิ้งระเบิดได้เปลี่ยนไปเพื่อหลบหลีกการเข้าสกัดกั้น การบินด้วยความเร็วสูงและความสูงกลายมาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลบจากการตรวจจับและโจมตี บางแบบอย่างสามารถบินได้เร็วหรือสูงกว่าเครื่องบินขับไล่ในสมัยเดียวกัน ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบินที่บินสูง และเครื่องบินทิ้งระเบิดก็ต้องบินเร็วในระดับต่ำแทนเพื่ออยู่ใต้การป้องกันทางอากาศ เพราะว่าระเบิดเป็นแบบที่ไม่เหมือนเก่าพวกมันจึงไม่ต้องบินเหนือเป้าหมายเพื่อทิ้งระเบิด แต่จะทำการยิงและหันกลับเพื่อหนีแรงระเบิดแทน เครื่องบินที่ใช้จะทำจากเหล็กล้วนๆ หรือสีขาวเพื่อหลีลเลี่ยงผลกระทบ
การพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์เริ่มหยุดลงในช่วงท้ายของสงครามเย็นเพราะว่าราคาและขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งดีกว่า โครงการของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกยกเลิกเพราะเหตุผลดังกล่าวในต้นปีพ.ศ. 2503 และต่อมาก็มีบี-1 แลนเซอร์และเข้าประจำการไม่นานกลังจากปัญหาทางการเมืองและการพัฒนาที่ยืดเยื้อ ราคาที่สูงหมายถึงมีจำนวนน้อยที่ถูกสร้างออกมาและบี-52 ยังคงถูกใช้ต่อไปในศตวรรษที่ 21 เช่นเดียวในในทางโซเวียตใช้ในปีพ.ศ. 2513 แต่โครงการมัค 3 ของพวกเขาก็ล้มเหลว มัค 2 ทิวโปเลฟ ทู-160 ถูกสร้างออกมาในจำนวนที่น้อยมาก ทำให้ทิวโปเลฟ ทู-16 และทิวโปเลฟ ทู-95 รุ่นก่อนหน้ายังคงถูกสร้างต่อจนถึงศตวรรษที่ 21 ในขณะเดียวกันกองกำลังเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหราชอาณาจักรก็มาถึงจุดจบด้วยการถูกเลิกใช้ มีเพียงประเทศเดียวที่ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ในปัจจุบัน นั่นก็คือสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีเครื่องทู-16 จำนวนมาก
ยุคปัจจุบัน
ในกองทัพอากาศปัจจุบันความแตกต่างระหว่างเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด และเครื่องบินทิ้งระเบิดเริ่มไม่ชัดเจน เครื่องบินโจมตีมากมายดูเหมือนเครื่องบินขับไล่มักทำการทิ้งระเบิดด้วยความสามารถเพียงเล็กน้อยในการต่อสู้ทางอากาศ อันที่จริงแล้วคุณภาพการออกแบบที่สร้างประสิทธิภาพให้กับเครื่องบินนั้นสร้างความแตกต่างจากเครื่องบินครองความเป็นจ้าวอากาศ ในทางตรงกันข้ามเครื่องบินขับไล่จำนวนมากอย่างเอฟ-16 มักถูกใช้ขนระเบิดถึงแม้ว่าจะถูกออกแบบมาเพื่อทำการต่อสู้ทางอากาศก็ตาม อาจเป็นไปได้ที่ในปัจจุบันความแตกต่างที่มากที่สุดคือด้านพิสัย เครื่องบินทิ้งระเบิดมักมีระยะทำการไกลในขณะที่เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดและเครื่องบินโจมตีมีขอบเขตในการบินที่จำกัดในสมรภูมิ แต่ข้อแตกต่างนั้นก็ไม่แน่ชัดเพราะว่าเครื่องบินมากมายสามารถทำการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้เพื่อเพิ่มระยะในการทำการ
แผนของสหรัฐฯ และรัสเซียสำหรับกองกำลังเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ยังคงเป็นเพียงโครงการในแผ่นกระดาษ และการเมืองกับทุนก็ทำให้พวกมันดูเหมือนจะเกิดขึ้นในอนาคต ในสหรัฐฯ มีแผนในปัจจุบันที่จะให้กองเครื่องบินทิ้งระเบิดยังคงอยู่ในประจำการจนถึงปีพ.ศ. 2563 พร้อมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ในปีพ.ศ. 2561
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-04. สืบค้นเมื่อ 2007-11-25.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-15. สืบค้นเมื่อ 2007-11-25.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul ekhruxngbinthingraebid khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ekhruxngbinthingraebid khux xakasyanthangkarthharthithukxxkaebbmaephuxpharkickarocmtiepahmaythangphakhphundinaelathangthael sungodythwipaelwcaichkarplxylukraebidlngmaephuxthalayepahmay sungraebidthithukthinglngmamihlakhlaychnid echn raebidnapalm raebidthalaybngekxr raebidxcchriya raebidniwekhliyr epntnbi 2 spirith inethiywbinrahwangmhasmuthraepsifikkarcaaenkekhruxngbinthingraebidthukxxkaebbmaephuxthapharkicocmtirayaikldwykarradmthingraebidiscudyuththsastrkhxngepahmay xyang thanesbiyng saphan orngngan xutxerux aelaemuxng ephuxsrangkhwamesiyhayihkbfaystru twxyangsahrbekhruxngbinpraephthniidaek ihngekhil eh 177 exfor aelndaekhsetxr bi 17 flayxingfxrethrs bi 29 suepxrfxrethrs bi 52 straotfxrethrs ecenrl idnamiks exf 111 tuopelf tu 16 tuopelf tu 160 tuopelf tu 95 phixaciox phi 108 aelanakacima ci8exn ihngekhil eh 177 exfor aelndaekhsetxr bi 29 suepxrfxrethrs phixaciox phi 108 nakacima ci8exn epnekhruxngbinthimikhnadelkkwasungthahnathiinrayathiikl odythwipaelwcathanganrwmkbthharrabbnphundin bthbathnimiekhruxngbinhlayaebbthithuksrangxxkma inpccubnekhruxngbinthangthharlaid ktamthiimidthukxxkaebbmaephuxepnekhruxngbinthingraebidthangyuththsastrcathukcdwaepnekhruxngbinthingraebidthangyuththwithi ekhruxngbinthingraebidtxrpiodidthukxxkaebbmaephuxkarplxytxrpiodcakekhruxngbinlngnaphungocmtieruxrb twxyangkhxngekhruxngbinpraephthniidaek aefrriy sxrdfich nakacima bi5exn nakacima bi6exn dklas thibidi diwasetetxr krmaemn thibiexf xewnecxr aela aefrriy sxrdfich nakacima bi5exn dklas thibidi diwasetetxr phakhphundinhrux ekhruxngbinsnbsnunthangxakasrayaikl thukxxkaebbmaephuxbintraewnxyuehnuxsmrphumirbaelaekhaocmtiepahmaythangyuththwithi xyang rththng ebiyngkhwamsnickhxngthharrab epntn twxyangkhxngekhruxngbinpraephthniidaek dklas ex 1 skayeredxr ex 10 thnedxroblth 2 aela dklas ex 1 skayeredxr ekhruxngbindadingthingraebididthukxxkaebbmaephuxbindadingthingraebidisepahmay xyang eruxrb twxyangkhxngekhruxngbinpraephthniidaek yungekhirs yu 87 ixci di3ex oyoksuka di4way dklas exsbidi dxnthelss ekhxrthiss exsbi2si ehlidewxr yungekhirs yu 87 ixci di3ex dklas exsbidi dxnthelss hruxekhruxngbinkhbilthangyuththwithi ekhruxngbincuocm aelaekhruxngbinocmti epnekhruxngbinthangthharthimihlakhlaybthbathsungsamarththakarocmtiidthngaebbxakassuxakasaelaxakassuphun ekhruxngbinkhbilthingraebidcanwnmakthukxxkaebbmaihekhatxsuthangxakasidinthnthihlngcakthiocmtiepahmaybnphundinaelw ekhruxngbintxsuhlaybthbathinpccubnthukxxkaebbihthahnathiidxyanghlakhlaymakkhunenuxngcakngbpramanthicakdaelaphwkmnkmkcamipraoychnmak twxyangechn exf 4 aefnthxm 2 exf 15xi sitrkhxiekil exf 16 ifthtingfxlkhxn exf ex 18 hxrenth sukhhxy su 34 mirac 2000 phanaewiy thxrnaod echingtu ec 10 aela ekhruxngbinthingraebidhlakbthbath twxyangkhxngekhruxngbinpraephthniidaek ixci bi7ex ixci bi7exprawtiekhruxngbinthingraebidekidkhuninchwngewlaediywkbekhruxngbinkhbilinsngkhramolkkhrngthihnung intxnaerknnmnthukichephuxthingraebid mnthukichodyxitaliemuxphwkekhathakarrbthiliebiyinpiph s 2454 emuxpiph s 2455 nkbinkhxngkxngthphxakasblaekeriychuxkhrisot thxprkhchifidaenanaihmikarichekhruxngbinthingraebidintaaehnngkhxngturki rxyexkephothrfidphthnaaenwkhidaelaidsrangtnaebbxxkmamakmayodyichraebidthiaetktangknipaelaephimkhwamcu emuxwnthi 16 tulakhmph s 2455 phusngektkarnchuxophraedn tharkhchifidthingraebidsxnglukisthangrthifkhxngturkiodyichekhruxngxlbathrxs exf 2 thibinodyradl mikhxf hlngcakkarthdsxbhlaykhrngephothrfkidsrangaebbsudthayxxkma mnmirabbxakasphlsastr hangrupthrng X aelachnwncudraebid rundngklawthukichxyangkwangkhwangodykxngthphxakasblaekeriyinchwngkaroxblxmexxrin aebbsaenathukkhayihkbeyxrmniaelaraebidkthukphlitxxmaepncanwnmakinsngkhramolkkhrngthihnung raebidnnminahnk 6 kiolkrm emuxmnkrathbepahmaycasrangrsmikwang 4 5 emtraelahlumthiluklngippraman 1 emtr eyxrmnicheruxehaaepnekhruxngbinthingraebidephraaphwkmnmiphisyaelakhwamcuthimakphxcaipthungxngkvsid dwykhwamkawhnainkarxxkaebbekhruxngbinaelaxupkrn phwkmnidekharwmkbekhruxngbinpiksxngchnthimikhnadihykwa sungsamarththingraebidthangyuththsastridodyechphaaintxnklangkhun karthingraebidswnihyyngkhngepnphlngankhxngekhruxngbinpiksxngchnekhruxngyntediywphrxmlukeruxhnunghruxsxngkhn phwkekhacabinephuxthingraebidinrayasnephuxekhaocmtiaenwkhasukaelaswnthihangcaktwemuxng ekhruxngbinthingraebidsiekhruxngyntlaaerkepnkhxngrsesiy mnthuksrangkhuninpiph s 2457 aelathukichinsngkhramolkkhrngthihnung emuxsngkhramolkcblngshrachxanackridrwbrwmekhruxngbinthingraebidkhnadhnkphrxmkhwammungmnthicaekhaocmtixutsahkrrmkhxngeyxrmni aetsngkhramkcblngesiykxn sngkhramolkkhrngthisxng ekhruxngbinthingraebidbi 17 rahwangsngkhramolkkhrngthisxng inxditekhruxngbinthingraebidepnekhruxngbinthiimehmuxnkbekhruxngbinaebbxun aelamkmnruprangthiihyotkwaekhruxngbinxun singnikephraamntxngmiekhruxngyntcanwnmakephuxbrrthukraebid mnsngphlihekidekhruxngbinthiihykhunmak epnekhruxngbinthiehmaakbbthbath dwykhxcakdkhxngkalngekhruxngyntaelakhwamaemnya ekhruxngbinthingraebidcungthukxxkaebbmaephuxcudprasngkhidcudprasngkhhnung singnierimkhuninsngkhramolkkhrngthisxngsungaebngxxkepndngni ekhruxngbindadingthingraebid aela ekhruxngbinthingraebidtxrpiod ekhruxngbinocmtiphakhphundin ekhruxngbinthingraebidmixawuthsahrbpxngkntnexngcakekhruxngbinkhxngkhasukethann mnimidthukxxkaebbmaephuxthakartxsukbekhruxngbinlaxun ehtuphlhlknnkephraawamnechuxngchaaelamikhnadihy thungaemwabangaebbcamikhnadelkephuxichepnekhruxngbinkhbilaebbphiess ekhruxngbinocmtimikhnadelkkwa erwkwa aelarwderwkwa aetemuxtidxawuthsahrbocmtiphakhphundinmnkdxykwaekhruxngbinkhbil ekhruxngbinocmtixackhnxawuthxakassuxakas aetodypkticaepnxawuthnawithidwyxinfraerdephuxpxngkntwexng rupaebbkhxngihngekhil eh 111 rupaebbkhxng rupaebbkhxngmitsubichi khi 21khxngkxngthphxakasckrwrrdiyipun rupaebbkhxngnakacima khi 49khxngkxngthphxakasckrwrrdiyipun rupaebbkhxngkhxngkxngthpheruxckrwrrdiyipun rupaebbkhxngmitsubichi ci4exmkhxngkxngthpheruxckrwrrdiyipun rupaebbkhxngobxing bi 17 flayxingfxrethrs rupaebbkhxng rupaebbkhxng rupaebbkhxng rupaebbkhxng rupaebbkhxng rupaebbkhxngefiyt bixar 20sngkhrameyn bi 52 straotfxrethrs rahwangewiydnamehnux emuxerimsngkhrameynekhruxngbinthingraebidnnmihnathiephiyngaekhbrrthukraebidniwekhliyripthingisstraelamibthbathinthvstiybyng xngkvs deterrence theory dwykarprakttwkhxngkhipnawuthnawithi ekhruxngbinthingraebididepliynipephuxhlbhlikkarekhaskdkn karbindwykhwamerwsungaelakhwamsungklaymaepnsingsakhyephuxhlbcakkartrwccbaelaocmti bangaebbxyangsamarthbiniderwhruxsungkwaekhruxngbinkhbilinsmyediywkn khipnawuthphunsuxakasepnphykhukkhamtxekhruxngbinthibinsung aelaekhruxngbinthingraebidktxngbinerwinradbtaaethnephuxxyuitkarpxngknthangxakas ephraawaraebidepnaebbthiimehmuxnekaphwkmncungimtxngbinehnuxepahmayephuxthingraebid aetcathakaryingaelahnklbephuxhniaerngraebidaethn ekhruxngbinthiichcathacakehlklwn hruxsikhawephuxhlileliyngphlkrathb karphthnaekhruxngbinthingraebidthangyuththsastrerimhyudlnginchwngthaykhxngsngkhrameynephraawarakhaaelakhipnawuthkhamthwipsungdikwa okhrngkarkhxngkxngthphxakasshrth thukykelikephraaehtuphldngklawintnpiph s 2503 aelatxmakmibi 1 aelnesxraelaekhapracakarimnanklngcakpyhathangkaremuxngaelakarphthnathiyudeyux rakhathisunghmaythungmicanwnnxythithuksrangxxkmaaelabi 52 yngkhngthukichtxipinstwrrsthi 21 echnediywininthangosewiytichinpiph s 2513 aetokhrngkarmkh 3 khxngphwkekhaklmehlw mkh 2 thiwopelf thu 160 thuksrangxxkmaincanwnthinxymak thaihthiwopelf thu 16 aelathiwopelf thu 95 runkxnhnayngkhngthuksrangtxcnthungstwrrsthi 21 inkhnaediywknkxngkalngekhruxngbinthingraebidkhxngshrachxanackrkmathungcudcbdwykarthukelikich miephiyngpraethsediywthiichekhruxngbinthingraebidthangyuththsastrinpccubn nnkkhuxsatharnrthprachachncin sungmiekhruxngthu 16 canwnmak yukhpccubn bi 1 aelnesxr rahwangmhasmuthraepsifik inkxngthphxakaspccubnkhwamaetktangrahwangekhruxngbinthingraebid ekhruxngbinkhbilthingraebid aelaekhruxngbinthingraebiderimimchdecn ekhruxngbinocmtimakmayduehmuxnekhruxngbinkhbilmkthakarthingraebiddwykhwamsamarthephiyngelknxyinkartxsuthangxakas xnthicringaelwkhunphaphkarxxkaebbthisrangprasiththiphaphihkbekhruxngbinnnsrangkhwamaetktangcakekhruxngbinkhrxngkhwamepncawxakas inthangtrngknkhamekhruxngbinkhbilcanwnmakxyangexf 16 mkthukichkhnraebidthungaemwacathukxxkaebbmaephuxthakartxsuthangxakasktam xacepnipidthiinpccubnkhwamaetktangthimakthisudkhuxdanphisy ekhruxngbinthingraebidmkmirayathakariklinkhnathiekhruxngbinkhbilthingraebidaelaekhruxngbinocmtimikhxbekhtinkarbinthicakdinsmrphumi aetkhxaetktangnnkimaenchdephraawaekhruxngbinmakmaysamarththakaretimechuxephlingklangxakasidephuxephimrayainkarthakar aephnkhxngshrth aelarsesiysahrbkxngkalngekhruxngbinthingraebidthangyuththsastryngkhngepnephiyngokhrngkarinaephnkradas aelakaremuxngkbthunkthaihphwkmnduehmuxncaekidkhuninxnakht inshrth miaephninpccubnthicaihkxngekhruxngbinthingraebidyngkhngxyuinpracakarcnthungpiph s 2563 phrxmkbekhruxngbinthingraebidrunihmthicaekhamaaethnthiinpiph s 2561duephimekhruxngbinkhbilxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 04 subkhnemux 2007 11 25 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 09 15 subkhnemux 2007 11 25 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk