บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
จักรวรรดิญี่ปุ่น หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ มหาจักรวรรดิญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 大日本帝国; โรมาจิ: Dai Nippon Teikoku) เป็นจักรวรรดิที่อยู่ทางตะวันออกที่สุดและเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก ในคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 สถาปนาขึ้นภายหลังจากการปฏิรูปเมจิ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2411 และสิ้นสุดลงเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ภายหลังจักรวรรดิญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง
มหาจักรวรรดิญี่ปุ่น 大日本帝国 ไดนิปปง เทโกะกุ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1868–1947 | |||||||||||||||
คำขวัญ:
| |||||||||||||||
ดินแดนของญี่ปุ่นแผ่ไพศาลที่สุดในปี ค.ศ. 1942
| |||||||||||||||
สถานะ | จักรวรรดิ | ||||||||||||||
เมืองหลวง | เกียวโต (1868–1869) นครโตเกียว (1869–1943) โตเกียว (1943–1947) | ||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาญี่ปุ่น | ||||||||||||||
ศาสนา | โดยนิตินัย: ไม่มี โดยพฤตินัย: ศาสนาชินโต () | ||||||||||||||
การปกครอง |
| ||||||||||||||
จักรพรรดิ | |||||||||||||||
• พ.ศ. 2411-2455 | จักรพรรดิเมจิ | ||||||||||||||
• พ.ศ. 2455-2469 | จักรพรรดิไทโช | ||||||||||||||
• พ.ศ. 2469-2532 | จักรพรรดิโชวะ | ||||||||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||||||||
• พ.ศ. 2428-2431 | ฮิโระบุมิ อิโต (คนแรก) | ||||||||||||||
• พ.ศ. 2484-2488 | ฮิเดะกิ โทโจ (สงครามโลก) | ||||||||||||||
• พ.ศ. 2489–2490 | ชิเงรุ โยชิดะ (สุดท้าย) | ||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||
3 มกราคม ค.ศ. 1868 | |||||||||||||||
• | 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433 | ||||||||||||||
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 | |||||||||||||||
พ.ศ. 2484-2488 | |||||||||||||||
• | 3 พฤษภาคม 1947 | ||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||
พ.ศ. 2485 | 7,245,653 ตารางกิโลเมตร (2,797,562 ตารางไมล์) | ||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||
• พ.ศ. 2485 | 97770000 | ||||||||||||||
สกุลเงิน | เยน | ||||||||||||||
|
ในยุคนี้อุตสาหกรรมมากมายเกิดขึ้นในญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว รวมถึงแสนยานุภาพทางการทหาร ภายใต้หลักการ (ญี่ปุ่น: 富国強兵; โรมาจิ: ประเทศมั่งคั่ง การทหารเข้มแข็ง) ซึ่งนำไปสู่การเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลก ท้ายสุดคือการเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะในสงครามโลกครั้งที่สอง และสามารถพิชิตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ทั้งหมด นั่นเองทำให้ในปี พ.ศ. 2485 ถือเป็นจุดสูงสุดของจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่มีอาณาเขตไพศาลถึง 7,400,000 ตารางกิโลเมตร
ภายหลังความสำเร็จทางการทหารในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองและสงครามแปซิฟิก จักรวรรดิญี่ปุ่นเริ่มประสบกับความปราชัยในหลายๆสมรภูมิทางมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งการการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโระชิมะและนางาซะกิ นั่นเองทำให้จักรวรรดิญี่ปุ่น ยอมจำนนต่อฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 ในห้วงเวลาที่ฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกาเข้าควบคุมญี่ปุ่น มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนร่วม รัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิญี่ปุ่น
ศัพท์มูลวิทยา
แม้ว่าเรามักจะเรียกประเทศนี้ว่า จักรวรรดิญี่ปุ่น แต่เมื่อแปลความหมายตามตัวอักษรแล้ว จะแปลได้อย่างตรงตัวว่า "มหาจักรวรรดิญี่ปุ่น" (ไดนิปปง เทโกะกุ) โดยที่
- ได (大) "มหา"
- นิปปง (日本) "ญี่ปุ่น"
- เทโกะกุ (帝国) "จักรวรรดิ"
นอกจากนี้เรายังเรียกจักรวรรดิญี่ปุ่นนี้ว่า จักรวรรดิแห่งพระอาทิตย์ ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไปในตัวอักษรคันจิของคำว่า นิปปง จะพบว่า อักษร 日 นั้นหมายถึง "พระอาทิตย์" และอักษร 本 หมายถึง "ต้นกำเนิด" ดังนั้น ไดนิปปง เทโกะกุ จึงมีความหมายได้อีกอย่างว่า "มหาจักรวรรดิอันก่อกำเนิดจากพระอาทิตย์" บางครั้งสามารถเรียกว่า จักรวรรดิอาทิตย์อุทัย อีกด้วย
ประวัติ
เบื้องหลัง
บากูมัตสึ
หลังจากญี่ปุ่นได้สิ้นสุดยุคสงครามกลางเมืองในยุคเซ็งโงกุ โทกูงาวะ อิเอยาซุ ได้ขึ้นมามีอำนาจและตั้งรัฐบาลเอโดะที่ปกครองโดยระบอบโชกุน () มีอภิสิทธิ์ให้ตระกูลโทกูงาวะผลัดขึ้นเป็นโชกุนต่อเนื่องกันหลายชั่วอายุคน โดยที่จักรพรรดิญี่ปุ่นทรงไม่มีพระราชอำนาจทางการเมือง รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะได้ให้ประเทศญี่ปุ่นดำเนินนโยบายปิดประเทศหรือซาโกกุ, เป็นระยะเวลาเกือบ 200 หรือกว่าสองศตวรรษ ภายใต้ระบอบการปกครองของเหล่าโชกุน แห่งยุคเอะโดะ จนอำนาจรัฐบาลโชกุนมาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อญี่ปุ่นโดนเรือรบอเมริกานำโดยพลเรือแมทธิว ซี. เพร์รี ยกกองเรือมาปิดปากอ่าวบังคับให้ทำสนธิสัญญายอมเปิดประเทศ รัฐบาลโชกุนของญี่ปุ่นถูกบังคับให้เปิดประเทศเพื่อการค้าโดยการทำสนธิสัญญาคานางาวะ ในปี ค.ศ. 1854 ทำให้รัฐบาลโทกูงาวะเริ่มเสื่อมอำนาจลง ดังนั้นจึงเริ่มเรียกระยะเวลาในช่วงนี้ว่าบากูมัตสึ
ในปีต่อ ๆ มามีการค้าและการติดต่อกับต่างประเทศเพิ่มขึ้น ได้มีการทำสนธิสัญญาการค้าระหว่าง รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะและเหล่าประเทศตะวันตกจากยุโรป ส่วนใหญ่เนื่องจากเงื่อนไขที่น่าอับอายของสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มเกิดกระแสต่อต้านชาวต่างชาติและฟื้นฟูระบอบจักรพรรดิ รัฐบาลโชกุนที่เอะโดะในไม่ช้าก็เผชิญหน้ากับความเป็นปรปักษ์ภายในซึ่งปรากฏเป็นขบวนการความเคลื่อนไหวความเกลียดกลัวต่างชาติอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า ซนโนโจอิ (แปลว่า "ฟื้นฟูพระราชอำนาจจักรพรรดิ ขับไล่ชาวต่างชาติ (ตะวันตก)").
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1863 จักรพรรดิญี่ปุ่นทรงออก "" แม้ว่าโชกุนจะไม่มีความตั้งใจที่จะบังคับใช้ระเบียบ แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจในการโจมตีรัฐบาลโชกุนเองและชาวต่างชาติในญี่ปุ่น ในช่วงปี ค.ศ. 1862 นำไปสู่การฆาตกรรมของชาวอังกฤษ ชาร์ล เลนน็อกซ์ ริชาร์ดสัน โดยกลุ่มซามูไรจากแคว้นซัตสึมะ อังกฤษเรียกร้องค่าชดเชย แต่ถูกปฏิเสธ ในขณะที่พยายามที่จะจ่ายเงินที่แน่นอนกองทัพเรือถูกยิงจากชายฝั่งใกล้เมืองคาโงชิมะ อังกฤษจึงตอบโต้ด้วย ใช้เรือปืนใหญ่ทำการระดมยิงที่ท่าเรือคาโงชิมะ ในปี ค.ศ. 1863 รัฐบาลโทกูงาวะตกลงที่จะจ่ายค่าชดเชยสำหรับการเสียชีวิตของริชาร์ดสัน อย่างไรก็ตามชาวญี่ปุ่นยังเกิดกระแสต่อต้านชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ได้มีการยิงเรืของชาวต่างชาติที่ท่าเรือชิโมโนเซกิและการโจมตีต่อทรัพย์สินของชาวต่างชาติ กลุ่มประเทศตะวันตกจึงได้รวมเป็นพันธมิตรตอบโต้ญี่ปุ่นกลับนำไปสู่ โดยกองทัพพันธมิตรตะวันตกในปี ค.ศ. 1864.แคว้นโชชู ยังเริ่มทำการรัฐประหารที่ล้มเหลวที่เรียกว่า พันธมิตรซัตโช หรือ พันธมิตรแคว้นซัตสึมะ–แคว้นโชชู ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1866 เพื่อรวมความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ และถวายพระราชอำนาจคืนแก่องค์สมเด็จพระจักรพรรดิ ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1867 จักรพรรดิโคเมเสด็จสวรรคตและถูกแทนที่โดยพระโอรสของพระองค์ เจ้าชายมัตสึฮิโตะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิเมจิ
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 รัฐบาลโชกุนมิอาจทนต่อแรงกดดันของชาวญี่ปุ่นได้ โชกุนคนสุดท้าย โทกูงาวะ โยชิโนบุตัดสินยอมวางมือทางการเมืองโดยการประนีประนอม ลาออกจากตำแหน่งและถวายคืนอำนาจบางส่วนของเขาไปยังพระจักรพรรดิเมจิ อีกทั้งยังตกลงที่จะ "เป็นเครื่องมือสำหรับการดำเนินการ" ตามคำสั่งของจักรพรรดิ รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะจึงยอมผ่อนปรนอำนาจในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในขณะที่การลาออกของโชกุนโยชิโนบุได้สร้างโมฆะเล็กน้อยในระดับสูงสุดของรัฐบาลเครื่องมือของรัฐยังคงอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลโชกุนโดยเฉพาะตระกูลโทกูงาวะยังคงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบการเมืองและยังคงมีอำนาจบริหารมากมาย พันธมิตรซัตสึมะ-โชชูเห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในการประนีประนอมและเห็นว่าควรตัดอภิสิทธิ์เหล่าตระกูลโทกูงาวะให้หมดไป
ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1868 กองทัพพันธมิตรซัตสึมะ-โชชูได้บุกยึดพระราชวังหลวงเกียวโตในกรุงเกียวโต, และในวันถัดมาจักรพรรดิเมจิผู้ทรงพระเยาว์ในวัย 15 ชันษา พระองค์ได้ประกาศการฟื้นฟูพระราชอำนาจของพระองค์เองเพื่อให้ระบอบจักรพรรดิกลับมามีอำนาจเต็ม แม้ว่าสภาที่ปรึกษาของจักรพรรดิส่วนใหญ่มีความสุขกับการประกาศอย่างเป็นทางการของการปกครองโดยตรงโดยราชสำนักและมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับโชกุนโทกูงาวะ ไซโง ทากาโมริ ผู้เลื่อมใสในระบอบจักรพรรดิได้ขู่ว่าการชุมนุมในการยกเลิกตำแหน่ง โชกุน' และสั่งให้ริบที่ดินของโชกุนโยชิโนบุ
ในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1868 โชกุนโยชิโนบุประกาศว่า "เขาจะไม่ถูกผูกมัดโดยคำแถลงเกี่ยวกับการฟื้นฟูพระราชอำนาจและเรียกร้องต่อราชสำนักให้ยกเลิกการกระทำดังกล่าว" เมื่อวันที่ 24 มกราคม โชกุนโยชิโนบุได้รวบรวมผู้จงรักภักดีต่อระบอบโชกุนตัดสินใจเตรียมโจมตีกรุงเกียวโต เพื่อปราบปรามผู้คิดฟื้นฟูระบอบจักรพรรดิซึ่งครอบครองโดยกองกำลังพันธมิตรซัตสึมะและโชชู การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการกระตุ้นเตือนจากการเรียนรู้ของเขาเกี่ยวกับการลอบวางเพลิงการโจมตีในเอโดะ เริ่มต้นจากการเผาไหม้ของปราสาทเอโดะซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหลักของโชกุนโทกูงาวะ
สงครามโบชิน
(ญี่ปุ่น: สงครามโบชิน; โรมาจิ: 戊辰戦争; : โบชินเซ็นโซ) ได้เริ่มต่อสู้ระหว่างเดือนมกราคม ค.ศ. 1868 และพฤษภาคม ค.ศ. 1869 การเป็นพันธมิตรของซามูไรจากทางใต้และทางตะวันตกและตอนนี้ขุนนางของราชสำนักได้ประกันความร่วมมือของจักรพรรดิเมจิที่ยังทรงเยาว์วัยที่ทรงสั่งให้ยกเลิกและล้มล้างระบอบโชกุนโทกูงาวะที่ปกครองญี่ปุ่นมาเกือบ 200 ปี
โชกุนโทกูงาวะ โยชิโนบุได้เริ่มเปิดฉากการโจมตีทางทหารเพื่อยึดราชสำนักของสมเด็จพระจักรพรรดิที่กรุงเกียวโต อย่างไรก็ตามความได้เปรียบและกระแสความนิยมจากชาวญี่ปุ่นก็หันไปหากลุ่มจักรพรรดิที่มีขนาดเล็กกว่าแต่ค่อนข้างทันสมัย และเต็มไปด้วยกลุ่ม ไดเมียว ที่แปรพักตร์ไปเข้าข้างฝ่ายฟื้นฟูพระราชอำนาจจักรพรรดิ ในยุทธการโทบะ–ฟูชิมิเป็นชัยชนะที่เด็ดขาดของฝ่ายนิยมจักรพรรดิที่ประกอบไปด้วยกำลังผสมจากแคว้นโชชู แคว้นซัตสึมะและแคว้นโทซะ ที่เอาชนะกองทัพของผู้นิยมระบอบโชกุนโทกูงาวะลงได้ การต่อสู้แบบต่อเนื่องถูกต่อสู้ระหว่างฝ่ายจักรพรรดิและฝ่ายโชกุน; จนในที่สุดกองทัพฝ่ายโชกุนที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ยอมจำนนต่อกองกำลังของสมเด็จพระจักรพรรดิและหลังจากนั้นโชกุนโยชิโนะบุก็ขอยอมจำนนโดยการส่วนตัว เขาถูกปลดออกจากอำนาจทั้งหมดโดยสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและขณะเดียวกันชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ได้ให้การยอมรับการปกครองของจักรพรรดิเท่ากับการฟื้นฟูระบอบจักรพรรดิได้สมบูรณ์แล้ว
รัชกาลเมจิ (ค.ศ. 1868–1912)
การฟื้นฟูเมจิ (การฟื้นฟูพระราชอำนาจ)
หลังสิ้นสุดสงครามโบชิน กลุ่มพันธมิตรที่นิยมระบอบจักรพรรดิ แคว้นโชชูและแคว้นซัตสึมะผนึกกำลังกันล้มล้างระบอบโชกุนแห่งรัฐบาลเอโดะและระบบซามูไรลง เป็นการสิ้นสุดระบอบโชกุนในที่สุด ขณะเดียวกันได้มีการฟื้นฟูอำนาจของสถาบันกษัตริย์ (Taisei Hōkan) หรือการถวายพระราชอำนาจคืนแก่พระจักรพรรดิ จักรพรรดิเมจิได้ทรงย้ายเมืองหลวงจากเกียวโตไปยังเอโดะแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว
ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนในการครองราชย์ของจักรพรรดิเมจิแห่งญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1868 คำสาบานได้ระบุจุดมุ่งหมายหลักและแนวทางการปฏิบัติที่จะต้องปฏิบัติตามในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิเมจิซึ่งเป็นเวทีทางกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยแบบชาติตะวันตกของญี่ปุ่น
รัฐบาลใหม่ได้ยกเลิกระบอบศักดินาสวามิภักดิ์และมีการรวมศูนย์อำนาจไว้ในกรุงโตเกียว มีการสถาปนาสภานิติบัญญัติในสมเด็จพระจักรพรรดิขึ้นมาตามแบบอย่างของรัฐสภาอังกฤษ อันประกอบด้วยสภาขุนนาง (สภาสูง) และสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยได้ เนื่องจากอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองส่วนใหญ่อยู่ที่เหล่าขุนนางในสภาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะเก็นโรเป็นกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในระบบการเมือง
การพัฒนาชาติแบบตะวันตก
ญี่ปุ่นได้เริ่มส่งบุคคลากรไปเรียนรู้ศึกษาดูงานชาติตะวันตก โดยแต่งตั้งในปี ค.ศ. 1871 คณะทูตดังกล่าวมีหน้าที่ภารกิจเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเจรจาแก้ไขยกเลิก กับประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปที่ญี่ปุ่นเคยถูกบังคับให้ทำในช่วงรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะและเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจและสังคมตะวันตกเพื่อนำกลับมาพัฒนาประเทศญี่ปุ่น
นักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายคนภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องของการลอบสังหารจากศัตรูทางการเมืองของพวกเขา ได้มีอิทธิพลในการชนะการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นพัฒนาเดินตามแบบตะวันตก นักเขียนหนึ่งคนคือ ซึ่งมีผลงานรวมถึง "เงื่อนไขในตะวันตก" "" และ "โครงร่างของทฤษฎีอารยธรรม" ซึ่งมีรายละเอียดของสังคมตะวันตกและปรัชญาของเขาเอง ในช่วงเวลาการฟื้นฟูเมจิ อำนาจทางทหารและเศรษฐกิจได้รับการเน้นย้ำ ความแข็งแกร่งทางทหารกลายเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศและความมั่นคง จักรวรรดิญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ไม่ใช่ตะวันตกเพียงมหาอำนาจของโลกและเป็นกำลังสำคัญในเอเชียตะวันออกในเวลาประมาณ 25 ปีอันเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจ
ความเป็นตะวันตกแบบฉับพลันเมื่อมีการนำมาใช้จะเปลี่ยนไปเกือบทุกด้านของสังคมญี่ปุ่นตั้งแต่ การทหาร, อาวุธ, ศิลปะ, การศึกษา, มารยาท, แฟชั่น, สุขภาพ, ความยุติธรรม, การเมือง, ภาษา ฯลฯ รัฐบาลญี่ปุ่นส่งนักเรียนไปยังประเทศตะวันตกเพื่อสังเกตและเรียนรู้การปฏิบัติของพวกเขาและจ้าง" ในหลายสาขาเพื่อมาญี่ปุ่นเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ตัวอย่างเช่นระบบการพิจารณาคดีและรัฐธรรมนูญมีการจำลองในส่วนของปรัสเซียเป็นส่วนใหญ่
การปฏิรูปการเมือง
แนวคิดของรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษรนั้นเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างรุนแรงทั้งภายในและภายนอกรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาลเมจิ การร่างรัฐธรรมนูญสมัยเมจินั้นไม่ได้เป็นการเรียกร้องจากเบื้องต่ำหรือชนชั้นสามัญขึ้นมา แต่เป็นการเรียกร้องของหมู่ปัญญาชน ซึ่งจัดเป็นชนชั้นสูงในสังคมญี่ปุ่น ขณะเดียวกันเจตจำนงของการฟื้นฟูพระราชอำนาจสมัยเมจิตือ การสร้างอำนาจสมบูรณาญาสิทธิราชขององค์จักรพรรดิขึ้นมาปกครองประเทศ แนวความคิดของอำนาจอธิปไตยของปวงชนแบบระบอบตะวันตกจึงดูขัดกันกับอำนาจอธิปไตยขององค์จักรพรรดิแบบญี่ปุ่น
รัฐธรรมนูญได้ถูกยอมรับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความทันสมัยหลังจากยกเลิกตำแหน่งระบบโชกุนแล้ว:
พวกเรา,ผู้สืบทอดบัลลังก์ที่เจริญรุ่งเรืองจากบรรพชนรุ่นก่อนของเรา, ทำการอย่างนอบน้อมและสาบานกับผู้ก่อตั้งจักรวรรดิของบ้านเกิดของเราและแก่บรรพบุรุษของเราคนอื่น ๆ, ในการดำเนินนโยบายที่ยิ่งใหญ่นั้นครอบคลุมทั้งสวรรค์และโลก, เราจะยังคงรักษาและทะนุบำรุงรัฐบาลในรูปแบบโบราณ... ในการพิจารณาแนวโน้มความก้าวหน้าของการดำเนินการของมนุษย์และควบคู่ไปกับความก้าวหน้าของอารยธรรม, เราเห็นว่าสมควรเพื่อให้ความกระจ่างและชัดเจนต่อคำแนะนำที่ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิของบ้านเกิดของเราและผู้ก่อตั้งบรรพบุรุษคนอื่นของเรากำหนดไว้เพื่อสร้างกฎหมายพื้นฐาน...
จักรวรรดิแบบตะวันตกได้ถูกก่อตั้งขึ้น, ใช้ชื่อว่า จักรวรรดิญี่ปุ่น โดยนิตินัย, หลังการลงพระปรมาภิไธยบังคับใช้ รัฐธรรมนูญแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น รัฐธรรมนูญดำเนินโครงสร้างทางการเมืองของจักรวรรดิอย่างเป็นทางการและให้อำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบมากมายแก่องค์จักรพรรดิ
- มาตรา 4. ถือว่าจักรพรรดิทรงเป็นประมุขของประเทศ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจและที่เคารพสักการะ ทรงมีความศักดิ์สิทธิ์ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้
- มาตรา 6. จักรพรรดิทรงมีสิทธิ์ยับยั้งกฎหมายใดๆที่สภาล่างเสนอมาได้ ทรงสามารถแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและทรงยุบสภาเมื่อใดก็ได้ตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี
- มาตรา 11. จักรพรรดิทรงใช้อำนาจสูงสุดทั้งการปกครองและการทหารผ่านคณะรัฐมนตรี ทรงเป็นจอมทัพกองทัพบกและกองทัพเรือ
ในปี ค.ศ. 1890, สภาไดเอท ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อรัฐธรรมนูญเมจิ สภาประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนางญี่ปุ่น ทั้งสองสภาเปิดที่นั่งสำหรับชาวอาณานิคมเช่นเดียวกับชาวญี่ปุ่น สภาไดเอทของจักรพรรดิยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่ง ค.ศ. 1947
พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นตกลงใจและตัดสินใจที่จะสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่ตามแบบตะวันตก รัฐบาลเมจิได้มีนโยบายเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมทันที เพราะเห็นว่าประเทศตะวันตกนั้นร่ำรวยมั่งคั่งจนเป็นจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจอันเป็นเครื่องเกื้อกูลต่อการพัฒนาทางการทหาร ซึ่งญี่ปุ่นปรารถนาจะมีสถานะแบบเดียวกัน สิ่งนี้จะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นได้ผิดแผกแตกต่างจากเพื่อนบ้านชาวเอเชียอื่นๆที่ยังคงพัฒนาการเกษตรให้ทันสมัยก่อนที่จะก้าวไปสู่ขั้นของการอุตสาหกรรม และความแตกต่างนี่จึงเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงการที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาด้านเศรษฐกิจไปก่อนประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็วมาก
รัฐบาลญี่ปุ่นตระหนักเสมอว่าหากตนต้องการความเสมอภาคกับตะวันตก ก็จะได้มาด้วยความเข้มแข็งทางการทหารและมั่งคงทางเศรษฐกิจ มีวิทยาการทางเทคโนโลยีจากตะวันตก ซึ่งญี่ปุ่นจะต้องทำได้ด้วยตนเอง กลุ่มผู้นำรัฐบาลเมจิจึงสนับสนุนและช่วยเหลือทุกวิถีทางต่อการลงทุนของเอกชนทั้งทางอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมเบา การธนาคารและธุรกิจการค้าต่างๆ ในยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสากรรมนั้น ญี่ปุ่นเริ่มอุตสาหกรรมการต่อเรือเพื่อออกเดินเรือค้าขายแข่งขันกับต่างประเทศและเสริมกำลังกองทัพเรือควบคู้ไปด้วย บริเวณที่มีกองเรือคับคั่งอยู่ที่บริเวณ โยโกสุงะ มิโตะ ฮิเซนและซัทสึมะ ปรากฏว่าญี่ปุ่นสามารถต่อเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ชื่อ กันรินมารุ บรรทุกทหารและคณะทูตข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังสหรัฐอเมริกาได้ นอกจากนั้นก็มีโรงงานสรรพาวุธที่ผลิตปืน กระสุน และดินปืนได้เอง โดยไม่ยอมใช้ผู้ช่วยเหลือชาวต่างชาติเลย ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศ
ในด้านการพัฒนาทางคมนาคมนั้น ญี่ปุ่นสามารถทำได้สำเร็จในทศวรรษ 1870 มีการเปิดทำการเกี่ยวกับโทรเลขขึ้นปี ค.ศ 1869 ได้เป็นครั้งแรกโดยติดต่อกันระหว่างโตเกียวกับโยโกฮามะ เริ่มการไปรษณีย์ในปี ค.ศ. 1871 ก่อตั้งบริษัทเดินเรือทะเลและเปิดทางรถไฟสายแรกระหว่างโตเกียวและโยโกฮามะในปี ค.ศ. 1872 หลังจากนั้นก็ขยายกิจการคมนาคมติดต่อไปทั้งหมู่เกาะญี่ปุ่นในระยะเวลาอันสั้น ความก้าวหน้าทางการรถไฟนั้นมีมากจนกลายเป็นธุรกิจทั้งของรัฐและเอกชน สำหรับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรนั้น ญี่ปุ่นก็แข่งขันกับชาวต่างชาติจนต้องถอนตัวออกไปจากญี่ปุ่นในที่สุด สำหรับเส้นทางสายตะวันออกไกลการเดินเรือทะเลเป็นกิจกรรมที่เฟื่องฟูมากในทศวรรษ 1890 กล่าวกันว่าก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นสามารถมีระวางเรือหนัก 6,000,000 ตัน ซึ่งจัดอยู่ในอันดับสามของโลก
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังสามารถสร้าง "รถไฟฟ้า" ขึ้นแทนรถลาก รถม้าและเกวียนใช้เดินทางไปสะดวกรวดเร็วในประเทศในปี ค.ศ. 1896 และในปี ค.ศ. 1920 ก็มีการใช้รถยนต์กันทั่วไป ในปี ค.ศ. 1910 ก็มีเครื่องบินลำแรกของตนที่ผลิตเอง ได้มีบริษัทการบินขึ้นพัฒนาการคมนาคมทางอากาศในปี ค.ศ. 1928 สำหรับโทรศัพท์นั้นมีใช้ในปี ค.ศ. 1889 ซึ่งนับว่าต้นศตวรรษที่ 20 ญี่ปุ่นมีความเจริญก้าวหน้าทันสมัยในการคมนาคมทุกๆด้าน คือทั้งทางบก ทางเรือและอากาศ
ด้านอุตสาหกรรมเบาพวกเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อลดการเสียเปรียบดุลย์การค้ากับต่างประเทศ จึงมีการสนับสนุนการผลิตขึ้นใช้ในประเทศ ทั้งยังส่งออกแข่งขันกับต่างประเทศด้วย ที่สำคัญได้แก่การให้การสนับสนุนต่อนายทุนในธุรกิจสิ่งทอทั้งด้านวิชาการและการเงิน โดยให้ซื้อเครื่องจักรและโรงงานต่อจากรัฐบาลในลักษณะเงินผ่อนที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ทำให้ธุรกิจสิ่งทอเจริญก้าวหน้ารวดเร็วจนเป็นอุตสาหกรรมที่ล้ำหน้าที่สุด ทั้งการีวมกลุ่มกันของนายทุนธุรกิจสิ่งทอก็ยิ่งทำให้มีฐานะเศรษฐกิจที่มั่นคงและสามารถควบคุมความได้เปรียบในตลาดการค้าต่างประเทศได้ด้วย จนญี่ปุ่นเริ่มมีดุลย์การค้าได้เปรียบชาวต่างชาติในปี ค.ศ. 1880 เป็นต้นมาทำให้ญี่ปุ่นค่อยๆเข้าควบคุมตลาดในเอเชียมากสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม
รัฐบาลสามารถพัฒนาสังคมธุรกิจการค้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน ผู้นำรัฐบาลเองยังกล้าที่จะริเริ่มงานสำคัญในการลงทุนใหม่ๆ เพราะต่างก็มีความเป็นชาตินิยมและความทะเยอทะยานส่วนตัว พวกผพ่อค้าที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมัยโทกูงาวะได้เปลี่ยนท่าทีขยายการลงทุนในกิจการอื่นๆ ได้มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับกลุ่ม บริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีการรวมตัวเป็นกลุ่มทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่ม (เช่น: , มิตซูบิชิ, และ) พวกไซบัตสึล้วนเป็นพ่อค้าที่เป็นมหาเศรษฐีและเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจ บางตระกูลได้ติดต่อทำธุรกิจให้แก่ภาครัฐบาลทางด้านการธนาคาร รับซื้อและขายทางธุรกิจอุตสาหกรรมของรัฐบาล รวมถึงการจัดซื้อหรือผลิตอาวุธให้รัฐบาล บางกลุ่มยังได้รับการอนุเคราะห์ทางด้านสินเชื่อจากรัฐบาลโดยตรงอีกด้วย นอกจากนี้กลุ่มบริษัทไซบัตสึยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำสงครามขยายดินแดนล่าอาณานิคมเพื่อที่จะได้แหล่งระบายสินค้าและแหล่งวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
พัฒนาการด้านการทหาร
จากปี 1867 ญี่ปุ่นได้มีนโยบายให้กองทัพทหารต่างๆ ของญี่ปุ่นช่วยเหลือกองทัพญี่ปุ่นปฏิรูประบบให้ทันสมัย ภารกิจทางไปศึกษาดูงานด้านการทหารในต่างประเทศครั้งแรกในญี่ปุ่นจัดขึ้นที่ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1867
ในปี ค.ศ. 1871 นักการเมืองชื่อดังและโอกูโบะ โทชิมิจิ นำองค์กรของกองทัพแห่งชาติที่ประกอบไปด้วยซามูไรที่แข็งแกร่ง 10,000 คน เริ่มฝึกและเรียนรู้ระบบการทหารแบบตะวันตก โอกูโบะยังเป็นซามูไรแห่งแคว้นซัตสึมะและเขาเป็นหนึ่งใน และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหลักของญี่ปุ่นสมัยใหม่ ในปี ค.ศ. 1873, รัฐบาลของจักรวรรดิเสนอถึงการแต่งตั้งตำแหน่งราชการใหม่หรือ โดยมีเจ้าชายยามางาตะ อาริโตโมะทรงเป็นผู้บุกเบิกเพื่อจัดทัพกองทัพญี่ปุ่น ดังนั้นยามางาตะจึงโน้มน้าวรัฐบาลและตรากฎหมายการเกณฑ์ทหารในปี 1873 ซึ่งจัดตั้งกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นขึ้นใหม่ กฎหมายจัดตั้งการรับราชการทหารสำหรับผู้ชายทุกชนชั้นเป็นระยะเวลา 3 ปีและเพิ่มอีก 4 ปีในสถานะกำลังสำรอง ยามางาตะได้ปรับปรุงและสร้างแบบจำลองใหม่โดยยึดตามแบบจากกองทัพปรัสเซีย เจ้าชายยามางาตะยังทรงเป็นในกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นและทรงดำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถึงสองสมัย ทรงเป็นหนึ่งในสถาปนิกหลักของฐานทัพทหารและการเมืองของญี่ปุ่นยุคแรกและถือได้ว่าทรงเป็น "พระบิดาแห่งกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น" และ
ด้านกองทัพเรือ กองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1869 ในช่วงทศวรรษที่ 1870 และ 1880 กองทัพเรือญี่ปุ่นยังคงเป็นกองกำลังป้องกันชายฝั่งทะเลแม้ว่ารัฐบาลเมจิจะยังคงปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ในปี ค.ศ. 1870 ขณะที่ญี่ปุ่นยึดถือแบบอย่างกองทัพบกตามแบบกองทัพปรัสเซีย ส่วนกองทัพเรือญี่ปุ่นเลือกที่จะยึดแบบอย่างตามกองทัพเรืออังกฤษ ได้มีการออกพระราชกฤษฎีการะบุว่ากองทัพเรืออังกฤษควรเป็นแบบอย่างในการพัฒนาและภารกิจเรืออังกฤษครั้งที่สองไปญี่ปุ่น, ภารกิจดักลาส (1873-79) มีที่ปรึกษาจากอังกฤษคือ ช่วยวางรากฐานการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทหารเรือและการศึกษาแก่กองทัพเรือญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยมีโทโง เฮฮาจิโร ผู้ได้รับการศึกษาจากกองทัพเรือราชนาวีอังกฤษเป็นผู้บุกเบิกกิจการกองทัพเรือแห่งจักรวรรดิ ซึ่งโทโงถือเป็น "บิดาแห่งกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น" ในเวลาต่อมา
การล่าอาณานิคมและการแผ่ขยายอิทธิพลของญี่ปุ่น
เค้าโครงนโยบายล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น
งานของเราก็คือ การทำสงครามเพื่อความถูกต้องและจรรโลงสิ่งที่ดีเพื่อว่าจะได้ไม่มีใครเกิดเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในเมื่อญี่ปุ่นได้สามารถดำรงตำแหน่งฐานะที่สมควรแก่ความสามารถของตน ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายแห่งโลกเรานี้
สถาบันทหารของญี่ปุ่นในยุคเร่งสร้างชาติมีฐานอำนาจสูงมากในระบบการเมืองของประเทศ เป็นอิสระทั้งจากรัฐบาลและรัฐสภา แต่ขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดิ์เท่านั้น นับเป็นรูปแบบของพัฒนาการทหารของญี่ปุ่นสมัยเมจิ ญี่ปุ่นได้ถือว่าการกระทำของชาติตะวันตกเป็นบรรทัดฐานของการดำเนินการพัฒนาประเทศ การที่ประเทศตะวันตกถือนโยบายจักรวรรดินิยมโดยการล่าอาณานิคมเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นสากลจึงทำให้ญี่ปุ่นเชื่อในความชอบธรรมของตนที่จะดำเนินการขยายอำนาจพร้อมที่จะรุกรานประเทศอื่น
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง เป็นแผนการความประสงค์ครั้งแรกที่ญี่ปุ่นต้องการแผ่ขยายอำนาจออกไปนอกประเทศ โดยต้องการเข้าควบคุมและมีอิทธิพลเหนือเกาหลีของราชวงศ์โชซ็อน ความขัดแย้งเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1894 และ 1895 เกาหลีซึ่งได้เคยเป็นรัฐบรรณาการของจีน (ราชวงศ์ชิง)อย่างยาวนานทำให้จีนมีอิทธิพลอย่างมากต่อขุนนางราชสำนักที่เกาหลีฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีส่วนรายล้อมใกล้ชิดราชวงศ์ของโชซ็อน ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1876 หลังจากเกาหลีดำเนินการผิดประเทศโดดเดี่ยวก็ได้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยญี่ปุ่นได้ออก บังคับให้เกาหลีเปิดการค้าขายกับญี่ปุ่น การกระทำดังกล่าวขัดขวางอำนาจอื่นใดจากการครอบครองเกาหลีโดยตัดสินใจยุติอิทธิพลของจีนต่อของเกาหลีที่มียาวนานหลายศตวรรษ
ในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1894 เกาหลีขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์ชิงในการปราบปราม ราชสำนักชิงส่งทหาร 2,800 นายไปช่วยเกาหลีปราบกบฏ ญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ฝ่ายญี่ปุ่นจึงตอบโต้ด้วยการส่งกองทัพไปยังเกาหลีเพื่อคานอำนาจกับจีน ประกอบด้วยกองทัพเดินทาง 8,000 กลุ่ม (กลุ่มกองพลผสมโอชิมะ) ไปยังประเทศเกาหลี ทหาร 400 คนแรกมาถึงเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนระหว่างทางไปที่โซลและ 3,000 นายที่อินชอน ในวันที่ 12 มิถุนายน ราชสำนักชิงหันข้อเสนอแนะของญี่ปุ่นสำหรับญี่ปุ่นและจีนเพื่อร่วมมือในการปฏิรูปเกาหลี เมื่อเกาหลีเรียกร้องให้ญี่ปุ่นถอนทหารออกจากเกาหลี ญี่ปุ่นก็ปฏิเสธ ในต้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1894 กองทหารญี่ปุ่น 8,000 นายได้จับกุมพระเจ้าโกจงกษัตริย์ของเกาหลีเป็นองค์ประกันและครอบครองพระราชวังเคียงบก ในกรุงโซลและเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ญี่ปุ่นได้จัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดในกรุงโซลที่นิยมญี่ปุ่น รัฐบาลเกาหลีใหม่ที่นิยมญี่ปุ่นได้ให้สิทธิ์แก่ญี่ปุ่นในการขับไล่กองกำลังราชวงศ์ชิงในขณะที่ญี่ปุ่นส่งกองทหารเพิ่มเติมไปยังเกาหลี
ฝ่ายจีนราชวงศ์ชิงได้คัดค้านและประกาศสงคราม ความขัดแย้งนี้ทำให้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่งขึ้น กองกำลังภาคพื้นดินของญี่ปุ่นถูกส่งไปล้อมและทำลายกองกำลังจีนไปที่คาบสมุทรเหลียวตงและเกือบทำลายกองทัพเรือจีนในอย่างราบคาบ
จีนที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามถูกบังคับให้ทำสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของจักรวรรดิญี่ปุ่นได้มีการลงนามระหว่างผู้แทนจีนและญี่ปุ่นมีข้อตกลงว่าจีนจะต้องยอมยกดินแดนคาบสมุทรเหลียวตงและเกาะไต้หวันให้แก่ญี่ปุ่น หลังสนธิสัญญาดังกล่าวได้มีการลงนาม รัสเซีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศสร่วมตัวกันเป็นกดดันให้ญี่ปุ่นถอนทัพออกจากคาบสมุทรเหลียวตง หลังจากนั้นรัสเซียในไม่ช้าก็เข้ายึดคาบสมุทรเหลียวตงเสียเอง และสร้างฐานทัพเรือที่ป้อมปราการและนำกองเรือรัสเซียแปซิฟิกมาประจำการที่ท่าเรือดังกล่าว ส่วนเยอรมันก็ได้ยึดครองสร้างท่าเรือและฐานทัพเรือที่ป้อมปราการชิงเต่าและนำมาประจำที่ท่าเรือ
ทั้งหมดสร้างความไม่พอใจแก่ญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเนื่องจากชาติทั้งสามเข้ามาขวางมิให้ญี่ปุ่นเข้าไปมีอิทธิพลในจีนและครอบครองดินแดนของจีนแทนที่ตน จักรวรรดิญี่ปุ่นจึงเตรียมก่อสงครามคอยหาโอกาสเพื่อตอบโต้อีกครั้ง
สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
จักรวรรดิญี่ปุ่นต้องการเข้าไปมีอิทธิพลในเกาหลีอีกครั้งและยังขยายความทะเยอทะยานหมายครอบครองดินแดนแมนจูเรียของจีนด้วย ความขัดแย้งดังกล่าวนำไปสู่สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นซึ่งเป็นความขัดแย้งในเข้ามามีอิทธิพลควบคุมของเกาหลีและบางส่วนของแมนจูเรียระหว่างจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1904 ถึง ค.ศ. 1905 สงครามถูกทำสร้างประเด็นโดยการคัดค้านของญี่ปุ่นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัสเซียในดินแดนเกาหลีและแมนจูเรียของจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคาบสมุทรเหลียวตงที่ควบคุมโดยเมือง
ในขั้นต้นในสนธิสัญญาชิโมโนเซกิได้มีการระบุให้พอร์ตอาร์เธอร์ตกเป็นของญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งของสนธิสัญญานี้ถูกคัดค้านโดยมหาอำนาจตะวันตกซึ่งได่มีมติรวมกันให้ยกท่าเรือดังกล่าวแก่จักรวรรดิรัสเซียเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของรัสเซียในภูมิภาค ซึ่งผลประโยชน์เหล่านี้มีความขัดแย้งกับผลประโยชน์ของญี่ปุ่นอย่างมีนัยยะสำคัญ สงครามเริ่มต้นด้วยการที่ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเปิดฉากจู่โจมอย่างรวดเร็วต่อกองเรือรัสเซียตะวันออกที่ประจำอยู่ที่ท่าเรืออาร์เธอร์ซึ่งตามมาด้วยการปิดล้อมพอร์ตอาร์เธอร์ส่งผลให้กองทัพทหารเรือรัสเซียที่พยายามหลบหนีนั้นพ่ายแพ้อย่างย่อยยับโดยกองทัพเรือญี่ปุ่นภายใต้การนำของพลเรือเอกโทโง เฮฮาจิโรที่ หลังจากนั้นจักรวรรดิรัสเซียจึงตัดสินใจตอบโต้ญี่ปุ่นโดยส่งกองเรือบอลติกในยุโรปมาสกัดกั้นทัพเรือญี่ปุ่น แต่กองทัพเรือบอลติกของรัสเซียกลับถูกปฏิเสธไม่ให้ผ่านทางควบคุมคลองสุเอซของอังกฤษทำให้กองทัพเรือรัสเซียต้องเดินทางอ้อมทวีปและเมื่อกองทัพเรือมาถึงสมรภูมิทางทะเลในอีกหนึ่งปีต่อมาแต่ก็ถูกกองทัพเรือญี่ปุ่นดักทำลายในยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะอีกครั้ง ในขณะที่สงครามภาคพื้นดินไม่ได้ทำให้คุณภาพของรัสเซียแย่ลงแต่กองทัพญี่ปุ่นก็มีความก้าวร้าวมากกว่ารัสเซียและได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองจากการเจรจากับสหรัฐอเมริกาในสนธิสัญญาพอร์ตสมัทกับประธานาธิบดีอเมริกา ธีโอดอร์ รูสเวลต์
สงครามกับรัสเซียจบลงด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นมีอิทธิพลในการเมืองระดับโลกมากขึ้น อีกทั้งยังผลให้รัสเซียสูญเสียส่วนหนึ่งของเกาะซาฮาลิน เกาะทางใต้ของละติจูดที่ (ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นจังหวัดคาราฟูโตะของญี่ปุ่น) เช่นเดียวกับสิทธิ้หนือทรัพยากรแร่ธาตุมากมายในแมนจูเรีย นอกจากนี้ความพ่ายแพ้ของรัสเซียยังช่วยเปิดช่องทางให้ญี่ปุ่นมีโอกาสสามารถบังคับราชวงศ์โชซ็อนให้ทำสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น–เกาหลีในปี ค.ศ. 1910
การยึดครองเกาหลี
เมื่อญี่ปุ่นได้ชัยชนะในสงครามทั้งสองครั้งทำให้จีนและรัสเซียยอมรับอิทธิพลของญี่ปุ่นเหนือดินแดนเกาหลี เมื่อไม่มีชาติใดคัดค้านและช่วยเหลือเกาหลีได้ ญี่ปุ่นจึงเริ่มการลอบปลงพระชนม์พระมเหสีหรือจักรพรรดินีมย็องซ็อง (เมียงซอง) แห่งโชซ็อน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเศร้าสะเทือนใจและเคียดแค้นแก่ชาวเกาหลีเป็นอันมาก หลังจากนั้นญี่ปุ่นได้เริ่มผนวกเกาหลีเข้าเป็นดินแดนของตนตามสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น–เกาหลีเมื่อปี ค.ศ. 1910 ซึ่งสนธิสัญญานี้เป็นที่ยอมรับของญี่ปุ่นฝ่ายเดียว แต่ไม่เป็นที่ยอมรับทางฝ่ายเกาหลี เพราะถือว่าไม่มีการลงนามของ ดินแดนเกาหลีจึงครอบครองและถูกประกาศให้เป็นรัฐในอารักขาของญี่ปุ่น (มีสถานะเทียบเท่าอาณานิคม) นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ในระหว่างการปกครองของญี่ปุ่น มีการสร้างระบบคมนาคมแบบตะวันตก แต่ส่วนใหญ่เพื่อประโยชน์ทางการค้าของญี่ปุ่นมากกว่าประโยชน์ของชาวเกาหลี ญี่ปุ่นล้มล้างราชวงศ์โชซ็อน ทำลายพระราชวัง ปรับปรุงระบบภาษี ให้ส่งข้าวจากเกาหลีไปญี่ปุ่น ทำให้เกิดความอดอยากในเกาหลี มีการใช้แรงงานทาสในการสร้างถนนและทำเหมืองแร่
หลังการสวรรคตของพระเจ้าโกจงแห่งเกาหลี เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1918 ด้วยยาพิษ ทำให้เกิดการเรียกร้องเอกราชทั่วประเทศ เมื่อ 1 มีนาคม ค.ศ. 1918 ผลจากการลุกฮือขึ้นเรียกร้องเอกราชทำให้ชาวเกาหลีราว 7,000 คนถูกฆ่าโดยทหารและตำรวจญี่ปุ่น ชาวคริสต์เกาหลีจำนวนมากถูกฆ่าหรือเผาในโบสถ์ระหว่างการเรียกร้องเอกราชมีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของเกาหลีที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หลังจากการเคลื่อนไหว 1 มีนาคม เพื่อต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่น
การลุกฮือขึ้นต่อต้านญี่ปุ่นยังมีอยู่ต่อไป เช่น การลุกฮือของนักศึกษาทั่วประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1929 จนนำไปสู่การประกาศกฎอัยการศึกเมื่อ ค.ศ. 1931 ในปี ค.ศ. 1937 ญี่ปุ่นพยายามลบล้างความเป็นชาติของเกาหลี โดยการห้ามสอนประวัติศาสตร์และภาษาเกาหลีในโรงเรียน การแสดงออกทางวัฒนธรรมที่เป็นเกาหลีถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ชาวเกาหลีถูกบังคับให้มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น สิ่งของมีค่าถูกนำออกจากเกาหลีไปยังญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์ถูกห้ามตีพิมพ์ด้วยภาษาเกาหลี หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จำนวนมากถูกเผาทำลาย
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวเกาหลีถูกบังคับให้ร่วมมือกับญี่ปุ่น และมีชายชาวเกาหลีอีกจำนานมากที่ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมในกองทัพญี่ปุ่น ผู้หญิงจากจีนและเกาหลีราว 200,000 คน ถูกส่งตัวไปเป็นนางบำเรอของทหารญี่ปุ่น
ทำให้ชาวเกาหลีจำนวนมากอพยพออกจากเกาหลีไปสู่แมนจูเรียและรัสเซีย ชาวเกาหลีในแมนจูเรียจัดตั้งขบวนการกู้เอกราชชื่อ “ดุงนิปกุน” (Dungnipgun) ขบวนการนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ทำสงครามกองโจรกับกองทัพญี่ปุ่น กองทัพเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็น เมื่อราว พ.ศ. 2483 เคลื่อนไหวในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวเกาหลีกว่าหมื่นคนเข้าร่วมในกองทัพปลดปล่อยประชาชนและกองทัพปฏิวัติแห่งชาติ
รัชกาลไทโช (ค.ศ. 1912–1926)
เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยเข้าร่วมอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตรในปี ค.ศ. 1914 ในขณะที่มหาอำนาจยุโรปไม่สนใจเอเชียและกำลังติดพันกับสมรภูมิในยุโรป แต่ญี่ปุ่นกลับมองเห็นโอกาสดีจากสงครามในยุโรป ญี่ปุ่นถือโอกาสในการเบี่ยงเบนความสนใจของเยอรมนีกับสงครามยุโรปเพื่อขยายขอบเขตอิทธิพลของตนในจีนและเอเชียแปซิฟิกอย่างสะดวก
เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายสัมพันธมิตรได้เปรียบในสงคราม ญี่ปุ่นจึงประกาศสงครามกับจักรวรรดิเยอรมันเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1914 ญี่ปุ่นได้เป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิอังกฤษเข้าโจมตีเมืองชิงเต่าและอาณาบริเวณเยอรมันในเมืองจีน กองทัพผสมอังกฤษ-ญี่ปุ่นในไม่ช้าก็เข้าไปยึดป้อมปราการชิงเต่าซึ่งเป็นฐานบัญชาการ (ดินแดนเขตเช่าเยอรมันบริเวณมณฑลซานตง) อีกทั้งญี่ปุ่นยังบุกหมู่เกาะต่างๆของเยอรมันที่เป็นดินแดนอาณานิคมเยอรมันในเอเชียอื่นๆ ประกอบด้วย หมู่เกาะมาเรียนา, และหมู่เกาะมาร์แชลล์ในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
การบุกอย่างรวดเร็วในดินแดนเยอรมันบริเวณและ พิสูจน์ความสำเร็จของญี่ปุ่น กองทหารอาณานิคมของเยอรมันยอมจำนนต่อกองทัพญี่ปุ่นในวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1915 และญี่ปุ่นได้ครอบครองดินแดนชิงเต่ารวมถึงอาณานิคมในแปซิฟิกทั้งหมดจากเยอรมัน
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจท่ามกลางสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรป ด้วยพันธมิตรตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษมีส่วนร่วมอย่างมากในสงครามในยุโรป ญี่ปุ่นเข้าช่วยเหลือส่งสินค้าให้ฝ่ายสัมพันธมิตรในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้ผลผลิตและการส่งออกของญี่ปุ่นทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งยุติ ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศสัมพันธมิตรหลักที่ชนะสงครามได้เข้าร่วมถือสิทธิประโยชน์ในสนธิสัญญาแวร์ซาย นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังได้เป็นการยอมรับจากกบุ่มประเทศสัมพันธมิตรจัดให้เป็นชาติมหาอำนาจหนึ่งในห้าชาติหลังสงคราม ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจึงเป็นยุคทองอีกยุคหนึ่งของญี่ปุ่นโดยที่ญี่ปุ่นไม่ต้องทุนอย่างมากและกลับได้ผลประโยชน์กลับมาที่ค่อนข้างสูง
นโยบายต่างประเทศด้านการรุกรานของญี่ปุ่นช่วงนี้ได้แสดงให้ชาวโลกได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นหลังสงครามยุติเพียงไม่กี่ปี เมื่อญี่ปุ่นได้ถือโอกาสลอบเสนอต่อรัฐบาลจีนเป่ยหยางของยฺเหวียน ชื่อไข่ เพื่อให้ญี่ปุ่นได้มีสิทธิพิเศษทางเศรษฐกิจเพื่อขูดรีดเอาผลประโยชน์ในดินแดนจีน ทำให้เกิดกระแส เมื่อการเจรจาต่อรองกับรัฐบาลจีนเป็นอย่างเชื่องช้าและประนามและกดดันจากระดับนานาชาติทำให้ญี่ปุ่นยอมผ่อนปรนลดข้อเรียกร้องลง แต่ก็มีการลงนามสัญญาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1915 ส่วนได้รับการต่ออายุและขยายขอบเขตในสองเท่าในปี ค.ศ. 1905 และ ค.ศ. 1911 ก่อนที่จะสัญญาจะหมดอายุในปี ค.ศ. 1921 ได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1923
การแทรกแซงไซบีเรีย
หลังจากการล่มสลายของระบอบกษัตริย์ซาร์ในรัสเซียและระบอบการปกครองชั่วคราวในปี ค.ศ. 1917 พรรคบอลเชวิคได้ตั้งรัฐบาลใหม่ที่ได้ลงนามทำสัญญาสงบศึกแยกกับเยอรมนี หลังจากเหตุการณ์นี้ชาวรัสเซียได้สู้รบกันเองในสงครามกลางเมืองหลายฝ่าย
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1918 ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสันขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นจัดหาทหาร 7,000 นายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรระหว่างประเทศจำนวน 25,000 นายวางแผนที่จะสนับสนุน นายกรัฐมนตรีตกลงที่จะส่งทหาร 12,000 นาย แต่มีเงื่อนไขที่จะต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของญี่ปุ่นแทนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรระหว่างประเทศ ญี่ปุ่นมีแรงจูงใจซ่อนเร้นหลายอย่างสำหรับการส่งทหารเข้าร่วมดังกล่วซึ่งรวมถึงการเป็นศัตรูที่รุนแรงและความกลัวต่อลัทธิคอมมิวนิสต์ ความมุ่งมั่นที่จะชดใช้ความเสียหายในอดีตให้กับรัสเซีย และความปรารถนาที่จะสร้าง "ปัญหาทางเหนือ" ในการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่นไม่ว่าจะโดยการสร้างสถานะรัฐกันชนหรือผ่านการได้มาซึ่งดินแดนทันที
ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 1918 กองทัพญี่ปุ่นกว่า 70,000 นายภายใต้เสนาธิการยูอิ มิตซึเอะได้บุกเข้าครอบครองท่าเรือและเมืองใหญ่ๆ ทั้งหมดในจังหวัดทางทะเลของรัสเซียและตะวันออก ของไซบีเรีย
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1920 มีพลเรือนญี่ปุ่นประมาณ 450 คนและทหารญี่ปุ่น 350 นายพร้อมด้วยผู้สนับสนุนกองทัพสีขาวของรัสเซียถูกสังหารหมู่โดยกองกำลังพลที่เกี่ยวข้องกับ กองทัพแดงที่ สหรัฐและพันธมิตรจึงถอนตัวออกจากวลาดีวอสตอคหลังการจับกุมและการประหารชีวิตของผู้นำกองทัพขาวพลเรือเอกอะเลคซันดร์ คอลชัค โดยกองทัพแดง อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะคงกำลังทหารประจำการไว้อยู่ส่วนใหญ่เนื่องจากความหวาดกลัวการแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่นและอาณานิคมเกาหลีของญี่ปุ่นและแมนจูเรีย กองทัพญี่ปุ่นให้การสนับสนุนทางทหารแก่ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่นิยมญี่ปุ่นในเมืองวลาดิวอสต็อกให้ต่อต้านสาธารณรัฐตะวันออกไกลซึ่งได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลบอลเชวิคในกรุงมอสโก
การมีส่วนร่วมของญี่ปุ่นในการรบอย่างต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกาซึ่งสงสัยว่าญี่ปุ่นมีการออกแบบดินแดนในไซบีเรียและรัสเซียตะวันออกไกล ภายใต้แรงกดดันทางการทูตอย่างรุนแรงจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษและเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนทางเศรษฐกิจและส่งคนออกไปรบนอกประเทศของนายกรัฐมนตรี จึงตัดสินใจถอนกำลังทหารญี่ปุ่นออกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1922 มีผู้เสียชีวิต 5,000 รายจากการต่อสู้หรือเจ็บป่วย ด้วยค่าใช้จ่ายในเข้าร่วมรบกว่า 900 ล้านเยน
ประชาธิปไตยไทโช
ระบบการเมืองสองพรรคที่พัฒนาในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษนั้นมีมาช้านานหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เกิดชื่อเล่นสำหรับช่วงเวลานี้ว่า "ประชาธิปไตยไทโช" ประชาชนเริ่มไม่แยแสกับหนี้สินของประเทศที่เพิ่มขึ้นในขณะเดียวกันกฎหมายการเลือกตั้งฉบับใหม่ได้เกิดขึ้นสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและได้มีการเรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงสากลและการรื้อเครือข่ายพรรคการเมืองเก่า นักศึกษา,อาจารย์มหาวิทยาลัยและนักข่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ผู้นิยมอนาธิปไตย และความคิดอื่น ๆ ที่หลากหลาย ทำให้มีการประท้วงในที่สาธารณะเป็นจำนวนมากแต่เป็นระเบียบเพื่อสนับสนุนการลงคะแนนเสียงของผู้ชายทั่วๆ ไปในปี ค.ศ. 1919 และ ค.ศ. 1920
การเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นยังคงดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลทางด้านซ้าย จุดสิ้นสุดของการออกเสียงลงคะแนนชายแบบสากลในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1925 ร่างกฎหมายฉบับนี้ให้สิทธิชายทุกคนที่อายุเกิน 25 ปีมีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน หากพวกเขาอาศัยอยู่ในเขตเลือกตั้งอย่างน้อยหนึ่งปีและต้องไม่มีที่อยู่อาศัย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจึงเพิ่มขึ้นจาก 3.3 ล้านเป็น 12.5 ล้าน
ในสถานการณ์ทางการเมืองในสมัยนี้มีพรรคการเมืองใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งพรรคสังคมนิยมและพรรคคอมมิวนิสต์ ความกลัวต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวงกว้าง อำนาจฝ่ายซ้าย และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่เนื้อเรื่องของ ในปีค.ศ. 1925 ซึ่งห้ามไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง
รัชกาลโชวะ
การยึดครองแมนจูเรีย
จักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองแมนจูเรียเมื่อปี พ.ศ. 2474 แล้วสถาปนาประเทศใหม่ “แมนจูกัว” พร้อมกับให้จักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งแมนจูกัว แต่เป็นเพียงจักรพรรดิหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจในการปกครองตนเอง อำนาจการปกครองทั้งหมดล้วนอยู่กับญี่ปุ่น แม้พรรคก๊กมินตั๋งและนานาประเทศไม่ยอมรับรองแต่กลับมีการเจรจาสงบศึกในปีเดียวกัน
การรุกรานจีน
ภายหลังได้ยึดครองแมนจูเรียแล้ว กองทัพจักรววรรดิญี่ปุ่นเริ่มรุกรานจีนที่จังหวัด แต่ก็ถูกต่อต้านโดยกองทัพก๊กมินตั๋ง กองพลที่ 29 ของจีนยังคงใช้หอกดาบและอาวุธล้าสมัยอยู่จึงพ่ายแพ้ ทำให้ภาคตะวันตกของปักกิ่งตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของญี่ปุ่น จากนั้นญี่ปุ่นก็ค่อย ๆ บุกรุกและผนวกแผ่นดินจีนไปเรื่อย ๆ ถึงปี พ.ศ. 2480 ก็สามารถยึดครองแผ่นดินโดยรอบกรุงปักกิ่งไว้ได้เกือบหมดเหลือเฉพาะด้านใต้ ญี่ปุ่นได้ตั้งตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นปกครองเขตพื้นที่ที่ยึดได้อีกหลายแห่งรวมทั้งที่เมืองหนานจิง (นานกิง)
เมื่อเกิดการปะทะกับญี่ปุ่นที่สะพานมาร์โคโปโลเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1937) ชาวจีนจำนวนมากได้ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อต่อต้านญี่ปุ่น อย่างไรก็ดีจีนได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสันนิบาตแห่งชาติ แต่ผลที่ออกมาคือล้มเหลว รวมทั้งสนธิสัญญา 9 มหาอำนาจด้วย และเมื่อเกิดการปะทะกับญี่ปุ่นที่สะพานมาร์โคโปโลใกล้กรุงปักกิ่ง จึงเป็นข้ออ้างที่ทางการญี่ปุ่นส่งทหารญี่ปุ่นเข้ายึดเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของจีนรวมทั้งชายฝั่งทางเหนือจรดใต้
เหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล
ปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2480 ญี่ปุ่นส่งทหารจำนวนหลายร้อยนายมาตั้งหน่วยประจำที่สะพานมาร์โค โปโลและทำการฝึกอยู่ที่นั่น ในขณะเดียวกันก็มีกองกำลังทหารจีนก๊กมินตั๋งที่ประจำอยู่ที่เมืองวันปิงใกล้ ๆ กัน คอยเฝ้าระวังดูอยู่อย่างใกล้ชิด ในเช้าตรู่วันที่ 7 กรกฎาคม กองกำลังญี่ปุ่นได้โทรเลขไปถึงกองกำลังก๊กมินตั๋งว่ามีทหารของตนหายไปและเชื่อว่าไปซ่อนอยู่ในเมืองวันปิงจึงของเข้าไปค้นหา (ภายหลังได้พบตัวโดยไม่ได้รับอันตราย) มีข้อถกเถียงกันว่าเป็นเหตุบังอิญหรือเป็นการสร้างเรื่องของฝ่ายญี่ปุ่นเพื่อใช้อ้างเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นบุกเข้ายึดภาคกลางของประเทศจีน
ฝ่ายจีนปฏิเสธไม่ยอมให้กองกำลังญี่ปุ่นเข้าเมือง ในตอนเย็นวันนั้น ฝ่ายญี่ปุ่นจึงยื่นคำขาดให้ฝ่ายจีนยอมให้ฝ่ายตนบุกเข้าไปค้นคนในเมืองได้ภายใน 1 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ ครั้นเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ญี่ปุ่นเริ่มยิงปืนใหญ่และเคลื่อนกองกำลังข้ามสะพานมาโคโปโลตรงไปจะเข้าเมือง ฝ่ายก๊กมินตั๋งจึงส่งทหารจำนวน 1000 นาย เข้าป้องกันสะพานอย่างสุดความสามารถ แต่ญี่ปุ่นก็บุกข้ามไปได้ แต่หลังจากได้รับกำลังเสริมที่มีจำนวนมากกว่าฝ่ายญี่ปุ่น ฝ่ายจีนจึงสามารถยึดสะพานคืนได้สำเร็จในวันต่อมา ญี่ปุ่นด้วยจำนวนกองกำลังที่น้อยกว่าจึงขอเจรจา ทำให้เหตุการณ์ขั้นที่ 1 สงบลงได้ชั่วคราว แต่กองกำลังญี่ปุ่นยังคงตั้งประจำอยู่ที่เดิมไม่ยอมถอย
ฝ่ายก๊กมินตั๋งได้ประชุมกันและตกลงว่าจะยึดสะพานต่อไปและพยายามที่จะไม่เจรจากับญี่ปุ่น เพราะเชื่อถือไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี ฝ่ายจีนได้ส่งคนไปเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ฝ่ายญี่ปุ่นยอมเจรจาแต่จะถือว่าหากจีนเพิ่มกองกำลังก็จะถือว่าเป็นการยั่วยุ ซึ่งโดยแท้จริงขณะนั้นฝ่ายญี่ปุ่นกำลังซื้อเวลาด้วยการยอมเจรจาเพื่อรอการเคลื่อนย้ายกองกำลังจากส่วนอื่นมาสมทบ
การเจรจาครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นสัญญาว่าจะไม่รุกรานปักกิ่งและเทียนจิน แต่ฝ่ายจีนต้องทำการปราบปราบองค์กรต่อต้านญี่ปุ่นในเมืองทั้งสอง จะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่สะพานมาโคโปโล และจะต้องให้นายพลซังผู้บัญชาการกองพล 29 เท่านั้นเป็นผู้มาขอขมาต่อกองกำลังญี่ปุ่น เมื่อฝ่ายจีนไม่สามารถรับเงื่อนไขได้ทั้งหมด ฝ่ายญี่ปุ่นจึงบุกเข้ากรุงปักกิ่งโดยใช้กองกำลังเต็มอัตราที่มีอยู่ กองกำลังฝ่ายจีนกองพันที่ 37 และ132 พยายามฝ่าแนวญี่ปุ่นเข้านครปักกิ่งและถูกปิดกั้นอย่างหนักและก็สามารถฝ่าเข้าไปได้อย่างบอบช้ำ หลายวันต่อมาเมื่อถูกล้อมหนักมากขึ้น กองพล 29 จึงได้ตีฝ่าวงล้อมของข้าศึกออกไปจากกรุงปักกิ่งแต่ก็ถูกล้อมอีก กองทัพญี่ปุ่นสามารถเข้ากรุงปักกิ่งได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม โดยปราศจากการต่อต้านและตั้งนายพลซังเป็นนายกเทศมนตรี แต่เขาก็หนีออกจากเมืองไปอย่างลับ ๆ ในสัปดาห์ต่อมา
หลังจากกรุงปักกิ่งและเทียนจินถูกยึดครอง ที่ราบจีนตอนเหนือก็ตกเป็นเป้าการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นที่มีอาวุธทันสมัยต่อจนถูกยึดครองทั้งหมดในปลายปีนั้น กองทัพจีนก๊กมินตั๋งและกองทัพจีนคอมมิวนิสต์ก็ได้รบไปแต่ล่าถอยไปโดยตลอดจนกระทั่งได้รับชัยชนะต่อกองทัพญี่ปุ่นอย่างยากเย็นที่ เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2480
ญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ชนวนก่อเหตุ
สมรภูมิในจีน ซึ่งกองทัพบกญี่ปุ่นได้ดำเนินการมานานก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยได้ทำการยึดครองเมืองและบริเวณชายฝั่งของจีนเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการจัดตั้งประเทศแมนจูกัวซึ่งมีจักรพรรดิปูยีเป็นประมุข และได้ทำการยึดครองกรุงหนานจิง (นานกิง) ที่เป็นเมืองหลวงของจีน (ของรัฐบาลก๊กมินตั๋งในยุคนั้น) และได้ทำการสังหารหมู่ชาวจีนทีโด่งดังขึ้น ซึ่งรุนแรงมากจนกระทั่งทำให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ในเมืองนานกิงยังรับไม่ได้
ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับแนวร่วมต่อต้านญี่ปุ่นซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีเหมาเจ๋อตงเป็นผู้นำและพรรคก๊กมินตั๋น (ประชาธิปไตย) ที่มีเจียงไคเช็กเป็นผู้นำ หลังจากเกิดกรณีซีอันขึ้น ทั้งที่ 2 พรรคนี้เคยเป็นศัตรูกันมาก่อนโดยพรรคคอมมิวนิสต์ได้ทำการสู้รบและดำเนินการ "สงครามกองโจร" ที่กลายเป็นแบบอย่างของสงครามกองโจรยุคใหม่ขึ้นโดยมีฐานที่มั่นหลักอยู่ที่ ตามเขตตอนเหนือและแมนจูเรียส่วนพรรคก๊กมินตั๋นได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ฉ่งชิ่ง (จุงกิง) และได้รับการสนับสนุนจากสัมพันธมิตรที่อยู่ในอินเดีย แต่ว่ามีการถกเถียงกันระหว่างบทบาทของพรรคก๊กมินตั๋นและพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในเรื่องบทบาทความสำเร็จและความเอาการเอางานในการต่อต้านญี่ปุ่นของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ที่แน่ชัดคือ นายพลสติเวลล์ ผู้บัญชาการทหารของสหรัฐอเมริกาที่เข้าไปดูแลกองทัพของพรรคก๊กมินตั๋นรู้สึกโกรธมากที่ภายในพรรคก๊กมินตั๋นไม่มีประสิทธิภาพ และมุ่งการปราบคอมมิวนิสต์มากกว่าการรบกับญี่ปุ่น ในขณะที่เอดการ์ สโนว์ได้แสดงความชื่นชมบทบาทของเหมาเจ๋อตงอย่างมากในการต่อต้านญี่ปุ่น และทางกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ส่งคณะปฏิบัติการดิกซีเข้าไปร่วมทำงานกับเหมาเจ๋อตุง แต่นักหนังสือพิมพ์จากสหภาพโซเวียตที่ได้เข้าไปทำข่าวในห้วงเวลาเดียวกันกลับวิจารณ์ เหมาเจ๋อตงว่าไม่เคร่งครัดในลัทธิคอมมิวนิสต์และหย่อนยานในการสู้รบ ทำให้ไม่สามารถเอาชนะญี่ปุ่นได้
การรบชนะจีนซึ่งเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียนั้น ยิ่งทำให้ชาติญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นในการทหารของตนเอง ทำการรุกรานประเทศอื่น ๆอย่างไม่เกรงกลัว และยังประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาโดยการส่งเครื่องบินไประเบิดเรืออริโซน่าที่อ่าวเพิร์ล เป็นชนวนจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่สองในภูมิภาคเอเชีย
การโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์
การโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เป็นการโจมตีฉับพลันของจักรวรรดิญี่ปุ่นต่อฝ่ายกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยการโจมตีเกิดขึ้นที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ รัฐฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) ในการโจมตีนี้สร้างความเสียหายแก่ฝ่ายกองทัพอเมริกันมาก โดยเรือสงครามสูญเสีย 12 ลำ เครื่องบิน 188 ลำ ทหารอเมริกันเสียชีวิต 2,403 คน และประชาชน 68 คน
สงครามอินโดจีน
หากไม่นับรวมการเข้ายึดครองอินโดจีนของฝรั่งเศสที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะภายใต้รัฐบาลวีชีฝรั่งเศสแล้ว สมรภูมิด้านนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือหลักของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ และการบุกยึดประเทศต่าง ๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทยในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1941 ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นได้บุกไปถึงพม่า, นิวกินี และเกาะกวาดัลคะแนล ซึ่งปรากฏว่าหลังจาก การรบทางทะเลแถวหมู่เกาะโซโลมอนและทะเลปะการัง และการรบที่กวาดัลคะแนลแล้ว ปรากฏว่ากองทัพเรือญี่ปุ่นต้องสูญเสียอย่างหนัก ส่วนกองทัพบกก็ไม่สามารถหากำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้เพียงพอเพื่อปกป้องดินแดนที่ยึดได้ใหม่ ในที่สุดจึงถูกกองกำลังพันธมิตรที่มีสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียตีโต้กลับไปจนนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในที่สุด
อ้างอิง
- Hunter 1984, pp. 31–32.
- "Chronological table 5 1 December 1946 – 23 June 1947". . สืบค้นเมื่อ September 30, 2010.
- Shillony, Ben-Ami (2013). Ben-Ami Shillony - Collected Writings. Routledge. p. 83. ISBN .
- Hagiwara, p. 34.
- Jansen 2002, pp. 314–315.
- Hagiwara, p. 35.
- Satow, p. 282.
- Keene 2002, p. 116.
- Jansen 2002, pp. 310–311.
- Keene, pp. 120–121, and Satow, p. 283. Moreover, Satow (p. 285) speculates that Yoshinobu had agreed to an assembly of daimyōs in the hope that such a body would reinstate him.
- Satow, p. 286.
- During a recess, Saigō, who had his troops outside, "remarked that it would take only one short sword to settle the discussion" (Keene, p. 122). Original quotation (Japanese): "短刀一本あればかたづくことだ." in Hagiwara, p. 42. The word used for "dagger" was tantō.
- Keene 2002, p. 124.
- Jansen 2002, p. 312.
- Keene, p. 340, notes that one might "describe the Oath in Five Articles as a constitution for all ages".
- "1889 Japanese Constitution".
- 『維新元勲十傑論』、16頁
- Roger F. Hackett, Yamagata Aritomo in the Rise of Modern Japan 1838–1922 (1971).
- Norman, E. Herbert and Lawrence Timothy Woods. "The Restoration." Japan's emergence as a modern state: political and economic problems of the Meiji period. UBC Press. 2000. 65. Retrieved on August 6, 2009.
- Crofts and Buchaman, op. cit., p.250.
- Seth, Michael J (2010). A History of Korea: From Antiquity to the Present. Rowman & Littlefield Publishers. p. 225. ISBN .
- 宮田 節子 [Miyata, Setsuko]. "創氏改名" [Creating Surnames and Changing Given Names}, 明石書店 [Akashi-shoten], 1992, al.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-23. สืบค้นเมื่อ 2007-10-25.
- 山脇 啓造 Yamawaki, Keizo. 近代日本と外国人労働者―1890年代後半と1920年代前半における中国人・朝鮮人労働者問題 Modern Japan and Foreign Laborers: Chinese and Korean Laborers in the late 1890s and early 1920s, 明石書店 Akashi-shoten, 1994, et al.
- http://archives.cnn.com/2001/WORLD/asiapcf/east/03/29/japan.comfort.women/index.html 2006-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน] [1] [2] Comfort-Women.org 2009-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Question 1917年(大正6年)のロシア革命時に、シベリアに在留していたポーランド孤児を日本政府が救済したことについて調べています。". . สืบค้นเมื่อ October 3, 2010.
- . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2010. สืบค้นเมื่อ October 3, 2010.
- Hane, Mikiso, Modern Japan: A Historical Survey (Oxford: Westview Press, 1992) 234.
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnihruxswnnikhxngbthkhwamtxngkarprbrupaebb sungxachmaythung txngkarcdrupaebbkhxkhwam cdhna aebnghwkhx cdlingkphayin aela hruxkarcdraebiybxun khunsamarthchwyaekikhpyhaniidodykarkdthipum aekikh danbn caknnprbprunghruxcdrupaebbxun inbthkhwamihehmaasm ckrwrrdiyipun hruxchuxxyangepnthangkarkhux mhackrwrrdiyipun yipun 大日本帝国 ormaci Dai Nippon Teikoku epnckrwrrdithixyuthangtawnxxkthisudaelaepnhnunginmhaxanackhxngolk inkhriststwrrsthi 19 20 sthapnakhunphayhlngcakkarptirupemci emuxwnthi 3 mkrakhm ph s 2411 aelasinsudlngemux 3 phvsphakhm ph s 2490 phayhlngckrwrrdiyipunphayaephinsngkhramolkkhrngthisxngmhackrwrrdiyipun 大日本帝国 idnippng ethokakukh s 1868 1947thngchati traphrarachlyckrkhakhwy kh s 1868 1912 rchsmyemci 五箇条の御誓文 okkhaoc ona okesymng hrux styathisthan 5 khx kh s 1926 1947 rchsmyochwa 八紘一宇 olkthngibxyuphayithlngkhaediyw hrux danthng 8 thnghmdkhxngolk ephlngchati 1869 1945 khimingaoya khxphraxngkhcngkhrxngrachyyawnantlxdip source source track track track track track track track track track dinaednkhxngyipunaephiphsalthisudinpi kh s 1942 yipun xananikhm dinaednthithukrukran rthhunechid rthinxarkkhasthanackrwrrdiemuxnghlwngekiywot 1868 1869 nkhrotekiyw 1869 1943 otekiyw 1943 1947 phasathwipphasayipunsasnaodynitiny immi odyphvtiny sasnachinot karpkkhrxngidockngphayitsmburnayasiththirachy 1868 1885 rachathipityphayitrththrrmnuy 1885 1931 ephdckarthharphayitrachathipityphayitrththrrmnuy 1931 1940 rthphrrkhkaremuxngediyw ephdckarebdesrc khnaphuyudxanackarpkkhrxngphayitrachathipityphayitrththrrmnuy 1940 1945 rachathipityphayitrththrrmnuyphayitkarpkkhrxngkhxngfaysmphnthmitr 1945 1947 ckrphrrdi ph s 2411 2455ckrphrrdiemci ph s 2455 2469ckrphrrdiithoch ph s 2469 2532ckrphrrdiochwanaykrthmntri ph s 2428 2431hiorabumi xiot khnaerk ph s 2484 2488hiedaki othoc sngkhramolk ph s 2489 2490chiengru oychida sudthay prawtisastr karptirupemci3 mkrakhm kh s 1868 29 phvscikayn ph s 2433 sngkhramrsesiy yipunkumphaphnth ph s 2447 sngkhramaepsifikph s 2484 2488 3 phvsphakhm 1947phunthiph s 24857 245 653 tarangkiolemtr 2 797 562 tarangiml prachakr ph s 248597770000skulengineynkxnhna thdiprthbalochkunothkungawasatharnrthexosa karyudkhrxngyipunphmakhxngbrietn inyukhnixutsahkrrmmakmayekidkhuninyipunxyangrwderw rwmthungaesnyanuphaphthangkarthhar phayithlkkar yipun 富国強兵 ormaci praethsmngkhng karthharekhmaekhng sungnaipsukarepnmhaxanacihmkhxngolk thaysudkhuxkarekharwmkbfayxksainsngkhramolkkhrngthisxng aelasamarthphichitphumiphakhexechiyaepsifikidthnghmd nnexngthaihinpi ph s 2485 thuxepncudsungsudkhxngckrwrrdiyipun thimixanaekhtiphsalthung 7 400 000 tarangkiolemtr phayhlngkhwamsaercthangkarthharinsngkhramcin yipunkhrngthisxngaelasngkhramaepsifik ckrwrrdiyipunerimprasbkbkhwamprachyinhlaysmrphumithangmhasmuthraepsifik rwmthngkarkarthingraebidniwekhliyrthihiorachimaaelanangasaki nnexngthaihckrwrrdiyipun yxmcanntxfaysmphnthmitr emuxwnthi 2 knyayn ph s 2488 inhwngewlathifaysmphnthmitrnaodyshrthxemrikaekhakhwbkhumyipun mikarrangrththrrmnuyihmsungmishrthxemrikaepnswnrwm rththrrmnuyihmmiphlbngkhbichemuxwnthi 3 phvsphakhm ph s 2490 sungthuxepnkarsinsudkhxngckrwrrdiyipunsphthmulwithyaaemwaeramkcaeriykpraethsniwa ckrwrrdiyipun aetemuxaeplkhwamhmaytamtwxksraelw caaeplidxyangtrngtwwa mhackrwrrdiyipun idnippng ethokaku odythi id 大 mha nippng 日本 yipun ethokaku 帝国 ckrwrrdi nxkcaknierayngeriykckrwrrdiyipunniwa ckrwrrdiaehngphraxathity sungemuxecaaluklngipintwxksrkhncikhxngkhawa nippng caphbwa xksr 日 nnhmaythung phraxathity aelaxksr 本 hmaythung tnkaenid dngnn idnippng ethokaku cungmikhwamhmayidxikxyangwa mhackrwrrdixnkxkaenidcakphraxathity bangkhrngsamartheriykwa ckrwrrdixathityxuthy xikdwyprawtiebuxnghlng bakumtsu phuaethncakrthbalochkunothkungawainkarekhaecrcatidtxkbpraethstawntkkxngeruxkhxngphleruxaemththiw si ephrriaehngshrthxemrika thakarpidxawbngkhbihyipunepidpraeths hlngcakyipunidsinsudyukhsngkhramklangemuxnginyukhesngongku othkungawa xiexyasu idkhunmamixanacaelatngrthbalexodathipkkhrxngodyrabxbochkun mixphisiththiihtrakulothkungawaphldkhunepnochkuntxenuxngknhlaychwxayukhn odythickrphrrdiyipunthrngimmiphrarachxanacthangkaremuxng rthbalochkunothkungawaidihpraethsyipundaeninnoybaypidpraethshruxsaokku epnrayaewlaekuxb 200 hruxkwasxngstwrrs phayitrabxbkarpkkhrxngkhxngehlaochkun aehngyukhexaoda cnxanacrthbalochkunmathungcudsinsudemuxyipunodneruxrbxemrikanaodyphleruxaemththiw si ephrri ykkxngeruxmapidpakxawbngkhbihthasnthisyyayxmepidpraeths rthbalochkunkhxngyipunthukbngkhbihepidpraethsephuxkarkhaodykarthasnthisyyakhanangawa inpi kh s 1854 thaihrthbalothkungawaerimesuxmxanaclng dngnncungerimeriykrayaewlainchwngniwabakumtsu inpitx mamikarkhaaelakartidtxkbtangpraethsephimkhun idmikarthasnthisyyakarkharahwang rthbalochkunothkungawaaelaehlapraethstawntkcakyuorp swnihyenuxngcakenguxnikhthinaxbxaykhxngsnthisyyathiimepnthrrmehlani thaihchawyipunerimekidkraaestxtanchawtangchatiaelafunfurabxbckrphrrdi rthbalochkunthiexaodainimchakephchiyhnakbkhwamepnprpksphayinsungpraktepnkhbwnkarkhwamekhluxnihwkhwamekliydklwtangchatixyangrunaerng hruxthieriykwa snonocxi aeplwa funfuphrarachxanacckrphrrdi khbilchawtangchati tawntk ineduxnminakhm kh s 1863 ckrphrrdiyipunthrngxxk aemwaochkuncaimmikhwamtngicthicabngkhbichraebiyb aetkepnaerngbndalicinkarocmtirthbalochkunexngaelachawtangchatiinyipun inchwngpi kh s 1862 naipsukarkhatkrrmkhxngchawxngkvs charl elnnxks richardsn odyklumsamuircakaekhwnstsuma xngkvseriykrxngkhachdechy aetthukptiesth inkhnathiphyayamthicacayenginthiaennxnkxngthpheruxthukyingcakchayfngiklemuxngkhaongchima xngkvscungtxbotdwy icheruxpunihythakarradmyingthithaeruxkhaongchima inpi kh s 1863 rthbalothkungawatklngthicacaykhachdechysahrbkaresiychiwitkhxngrichardsn xyangirktamchawyipunyngekidkraaestxtanchawtangchatixyangtxenuxng idmikaryingerukhxngchawtangchatithithaeruxchiomoneskiaelakarocmtitxthrphysinkhxngchawtangchati klumpraethstawntkcungidrwmepnphnthmitrtxbotyipunklbnaipsu odykxngthphphnthmitrtawntkinpi kh s 1864 aekhwnochchu yngerimthakarrthpraharthilmehlwthieriykwa phnthmitrstoch hrux phnthmitraekhwnstsuma aekhwnochchu iderimkxtngkhuninpi kh s 1866 ephuxrwmkhwamphyayaminkarokhnlmrthbalochkunothkungawa aelathwayphrarachxanackhunaekxngkhsmedcphrackrphrrdi inchwngtnpi kh s 1867 ckrphrrdiokhemesdcswrrkhtaelathukaethnthiodyphraoxrskhxngphraxngkh ecachaymtsuhiotaesdckhunkhrxngrachyepnckrphrrdiemci inwnthi 9 phvscikayn kh s 1867 rthbalochkunmixacthntxaerngkddnkhxngchawyipunid ochkunkhnsudthay othkungawa oychionbutdsinyxmwangmuxthangkaremuxngodykarpranipranxm laxxkcaktaaehnngaelathwaykhunxanacbangswnkhxngekhaipyngphrackrphrrdiemci xikthngyngtklngthica epnekhruxngmuxsahrbkardaeninkar tamkhasngkhxngckrphrrdi rthbalochkunothkungawacungyxmphxnprnxanacinradbhnung xyangirktaminkhnathikarlaxxkkhxngochkunoychionbuidsrangomkhaelknxyinradbsungsudkhxngrthbalekhruxngmuxkhxngrthyngkhngxyu yingipkwannrthbalochkunodyechphaatrakulothkungawayngkhngepnkalngsakhyinkarphthnarabbkaremuxngaelayngkhngmixanacbriharmakmay phnthmitrstsuma ochchuehnwaepneruxngthiyxmrbimidinkarpranipranxmaelaehnwakhwrtdxphisiththiehlatrakulothkungawaihhmdip inwnthi 3 mkrakhm kh s 1868 kxngthphphnthmitrstsuma ochchuidbukyudphrarachwnghlwngekiywotinkrungekiywot aelainwnthdmackrphrrdiemciphuthrngphraeyawinwy 15 chnsa phraxngkhidprakaskarfunfuphrarachxanackhxngphraxngkhexngephuxihrabxbckrphrrdiklbmamixanacetm aemwasphathipruksakhxngckrphrrdiswnihymikhwamsukhkbkarprakasxyangepnthangkarkhxngkarpkkhrxngodytrngodyrachsankaelamiaenwonmthicasnbsnunkhwamrwmmuxxyangtxenuxngkbochkunothkungawa isong thakaomri phueluxmisinrabxbckrphrrdiidkhuwakarchumnuminkarykeliktaaehnng ochkun aelasngihribthidinkhxngochkunoychionbu inwnthi 17 mkrakhm kh s 1868 ochkunoychionbuprakaswa ekhacaimthukphukmdodykhaaethlngekiywkbkarfunfuphrarachxanacaelaeriykrxngtxrachsankihykelikkarkrathadngklaw emuxwnthi 24 mkrakhm ochkunoychionbuidrwbrwmphucngrkphkditxrabxbochkuntdsinicetriymocmtikrungekiywot ephuxprabpramphukhidfunfurabxbckrphrrdisungkhrxbkhrxngodykxngkalngphnthmitrstsumaaelaochchu kartdsinickhrngniidrbkarkratunetuxncakkareriynrukhxngekhaekiywkbkarlxbwangephlingkarocmtiinexoda erimtncakkarephaihmkhxngprasathexodasungepnthixyuxasyhlkkhxngochkunothkungawa sngkhramobchin karrbthangthaelthihaokdaetarahwangfayckphrrdikbfayochkunsamuirkhxngaekhwnstsuma fayniymckrphrrdiinrahwangsngkhramobchin yipun sngkhramobchin ormaci 戊辰戦争 thbsphth obchinesnos iderimtxsurahwangeduxnmkrakhm kh s 1868 aelaphvsphakhm kh s 1869 karepnphnthmitrkhxngsamuircakthangitaelathangtawntkaelatxnnikhunnangkhxngrachsankidpraknkhwamrwmmuxkhxngckrphrrdiemcithiyngthrngeyawwythithrngsngihykelikaelalmlangrabxbochkunothkungawathipkkhrxngyipunmaekuxb 200 pi ochkunothkungawa oychionbuiderimepidchakkarocmtithangthharephuxyudrachsankkhxngsmedcphrackrphrrdithikrungekiywot xyangirktamkhwamidepriybaelakraaeskhwamniymcakchawyipunkhniphaklumckrphrrdithimikhnadelkkwaaetkhxnkhangthnsmy aelaetmipdwyklum idemiyw thiaeprphktripekhakhangfayfunfuphrarachxanacckrphrrdi inyuththkarothba fuchimiepnchychnathieddkhadkhxngfayniymckrphrrdithiprakxbipdwykalngphsmcakaekhwnochchu aekhwnstsumaaelaaekhwnothsa thiexachnakxngthphkhxngphuniymrabxbochkunothkungawalngid kartxsuaebbtxenuxngthuktxsurahwangfayckrphrrdiaelafayochkun cninthisudkxngthphfayochkunthiynghlngehluxxyuidyxmcanntxkxngkalngkhxngsmedcphrackrphrrdiaelahlngcaknnochkunoychionabukkhxyxmcannodykarswntw ekhathukpldxxkcakxanacthnghmdodysmedcphrackrphrrdiemciaelakhnaediywknchawyipunswnihyidihkaryxmrbkarpkkhrxngkhxngckrphrrdiethakbkarfunfurabxbckrphrrdiidsmburnaelwrchkalemci kh s 1868 1912 karfunfuemci karfunfuphrarachxanac ckrphrrdiemci ckrphrrdiyipun rchkalthi 122 thrngchlxngphraxngkheyiyngxyangphramhakstriyyuorptawntk sathxnthungkarphthnapraethstamaebbtawntkinyukhsmyemcismachikthutthisakhyin miswnrwmsakhyinkarphthnapraethsyipun caksayipkhwa khioda thakaoychi yamakuchi masuka xiot hiorbumi oxkuoba othchimici hlngsinsudsngkhramobchin klumphnthmitrthiniymrabxbckrphrrdi aekhwnochchuaelaaekhwnstsumaphnukkalngknlmlangrabxbochkunaehngrthbalexodaaelarabbsamuirlng epnkarsinsudrabxbochkuninthisud khnaediywknidmikarfunfuxanackhxngsthabnkstriy Taisei Hōkan hruxkarthwayphrarachxanackhunaekphrackrphrrdi ckrphrrdiemciidthrngyayemuxnghlwngcakekiywotipyngexodaaelwepliynchuxepnotekiyw idrbkarepidephytxsatharnchninkarkhrxngrachykhxngckrphrrdiemciaehngyipunemuxwnthi 7 emsayn kh s 1868 khasabanidrabucudmunghmayhlkaelaaenwthangkarptibtithicatxngptibtitaminchwngrchsmykhxngckrphrrdiemcisungepnewthithangkdhmayephuxkarphthnapraethsihthnsmyaebbchatitawntkkhxngyipun rthbalihmidykelikrabxbskdinaswamiphkdiaelamikarrwmsunyxanaciwinkrungotekiyw mikarsthapnasphanitibyytiinsmedcphrackrphrrdikhunmatamaebbxyangkhxngrthsphaxngkvs xnprakxbdwysphakhunnang sphasung aelasphaphuaethnrasdr sphalang xyangirktam aemcamikareluxktng aetkimxaceriykidwaepnrabxbprachathipityid enuxngcakxanacaelaxiththiphlthangkaremuxngswnihyxyuthiehlakhunnanginsphasung odyechphaaxyangyingkhnaeknorepnklumbukhkhlthimixiththiphlthisudinrabbkaremuxng karphthnachatiaebbtawntk hnunginnkprachyaelankekhiynkhxngyipun phusnbsnunihyipunphthnachatiaebbyuorp yipuniderimsngbukhkhlakriperiynrusuksadunganchatitawntk odyaetngtnginpi kh s 1871 khnathutdngklawmihnathipharkicedinthangipthwolkephuxecrcaaekikhykelik kbpraethsshrthxemrikaaelapraethsinyuorpthiyipunekhythukbngkhbihthainchwngrthbalochkunothkungawaaelaephuxrwbrwmkhxmulekiywkbrabbesrsthkicaelasngkhmtawntkephuxnaklbmaphthnapraethsyipun nkekhiynthimichuxesiynghlaykhnphayitkarkhukkhamxyangtxenuxngkhxngkarlxbsngharcakstruthangkaremuxngkhxngphwkekha idmixiththiphlinkarchnakarsnbsnunihyipunphthnaedintamaebbtawntk nkekhiynhnungkhnkhux sungmiphlnganrwmthung enguxnikhintawntk aela okhrngrangkhxngthvsdixarythrrm sungmiraylaexiydkhxngsngkhmtawntkaelaprchyakhxngekhaexng inchwngewlakarfunfuemci xanacthangthharaelaesrsthkicidrbkarennya khwamaekhngaekrngthangthharklayepnekhruxngmuxinkarphthnapraethsaelakhwammnkhng ckrwrrdiyipunklayepnpraethsthiimichtawntkephiyngmhaxanackhxngolkaelaepnkalngsakhyinexechiytawnxxkinewlapraman 25 pixnepnphlmacakxutsahkrrmaelakarphthnaesrsthkic khwamepntawntkaebbchbphlnemuxmikarnamaichcaepliynipekuxbthukdankhxngsngkhmyipuntngaet karthhar xawuth silpa karsuksa maryath aefchn sukhphaph khwamyutithrrm karemuxng phasa l rthbalyipunsngnkeriynipyngpraethstawntkephuxsngektaelaeriynrukarptibtikhxngphwkekhaaelacang inhlaysakhaephuxmayipunephuxihkhwamruaekprachachn twxyangechnrabbkarphicarnakhdiaelarththrrmnuymikarcalxnginswnkhxngprsesiyepnswnihy karptirupkaremuxng ckrphrrdiemcithrngepidkarprachumsphaaebbtawntk aenwkhidkhxngrththrrmnuythiepnlaylksnxksrnnepnhwkhxthkethiyngknxyangrunaerngthngphayinaelaphaynxkrthbaltngaeterimtnrthbalemci karrangrththrrmnuysmyemcinnimidepnkareriykrxngcakebuxngtahruxchnchnsamykhunma aetepnkareriykrxngkhxnghmupyyachn sungcdepnchnchnsunginsngkhmyipun khnaediywknectcanngkhxngkarfunfuphrarachxanacsmyemcitux karsrangxanacsmburnayasiththirachkhxngxngkhckrphrrdikhunmapkkhrxngpraeths aenwkhwamkhidkhxngxanacxthipitykhxngpwngchnaebbrabxbtawntkcungdukhdknkbxanacxthipitykhxngxngkhckrphrrdiaebbyipun rththrrmnuyidthukyxmrbkhwamcaepninkarepliynaeplngaelakhwamthnsmyhlngcakykeliktaaehnngrabbochkunaelw phwkera phusubthxdbllngkthiecriyrungeruxngcakbrrphchnrunkxnkhxngera thakarxyangnxbnxmaelasabankbphukxtngckrwrrdikhxngbanekidkhxngeraaelaaekbrrphburuskhxngerakhnxun inkardaeninnoybaythiyingihynnkhrxbkhlumthngswrrkhaelaolk eracayngkhngrksaaelathanubarungrthbalinrupaebbobran inkarphicarnaaenwonmkhwamkawhnakhxngkardaeninkarkhxngmnusyaelakhwbkhuipkbkhwamkawhnakhxngxarythrrm eraehnwasmkhwrephuxihkhwamkracangaelachdecntxkhaaenanathiphukxtngckrwrrdikhxngbanekidkhxngeraaelaphukxtngbrrphburuskhnxunkhxngerakahndiwephuxsrangkdhmayphunthan ecachayyamangata xariotoma thrngdarngtaaehnngnaykrthmntriyipunsxngsmy phraxngkhepnhnunginphuxxkaebbphthnahlkkhxngthanthphthharaelakaremuxngkhxngyipunyukhaerk ckrwrrdiaebbtawntkidthukkxtngkhun ichchuxwa ckrwrrdiyipun odynitiny hlngkarlngphraprmaphiithybngkhbich rththrrmnuyaehngckrwrrdiyipun rththrrmnuydaeninokhrngsrangthangkaremuxngkhxngckrwrrdixyangepnthangkaraelaihxanacaelahnathikhwamrbphidchxbmakmayaekxngkhckrphrrdi matra 4 thuxwackrphrrdithrngepnpramukhkhxngpraeths thrngepnsunyrwmciticaelathiekharphskkara thrngmikhwamskdisiththiphuidcalaemidimidmatra 6 ckrphrrdithrngmisiththiybyngkdhmayidthisphalangesnxmaid thrngsamarthaetngtngkhnarthmntriaelathrngyubsphaemuxidkidtamkhaaenanakhxngkhnarthmntrimatra 11 ckrphrrdithrngichxanacsungsudthngkarpkkhrxngaelakarthharphankhnarthmntri thrngepncxmthphkxngthphbkaelakxngthpheruxnkkarthutinsmyemcikhxngyipun phumiswnrangrththrrmnuyaehngckrwrrdiyipun inpi kh s 1890 sphaidexth kxtngkhunephuxtxbsnxngtxrththrrmnuyemci sphaprakxbdwy sphaphuaethnrasdraelasphakhunnangyipun thngsxngsphaepidthinngsahrbchawxananikhmechnediywkbchawyipun sphaidexthkhxngckrphrrdiyngkhngdaenintxipcnkrathng kh s 1947 phthnakardanesrsthkic nithrrskarxutsahkrrmotekiyw pi kh s 1907sphaphemuxngyamangata pi kh s 1881 indankarphthnaesrsthkic yipuntklngicaelatdsinicthicasrangpraethsihyingihytamaebbtawntk rthbalemciidminoybayennkarphthnaxutsahkrrmthnthi ephraaehnwapraethstawntknnrarwymngkhngcnepnckrwrrdiniymthangesrsthkicxnepnekhruxngekuxkultxkarphthnathangkarthhar sungyipunprarthnacamisthanaaebbediywkn singnicaehnidwayipunidphidaephkaetktangcakephuxnbanchawexechiyxunthiyngkhngphthnakarekstrihthnsmykxnthicakawipsukhnkhxngkarxutsahkrrm aelakhwamaetktangnicungepnekhruxngchiihehnthungkarthiyipunepnpraethsthiphthnadanesrsthkicipkxnpraethsephuxnbanxyangrwderwmak rthbalyipuntrahnkesmxwahaktntxngkarkhwamesmxphakhkbtawntk kcaidmadwykhwamekhmaekhngthangkarthharaelamngkhngthangesrsthkic miwithyakarthangethkhonolyicaktawntk sungyipuncatxngthaiddwytnexng klumphunarthbalemcicungsnbsnunaelachwyehluxthukwithithangtxkarlngthunkhxngexkchnthngthangxutsahkrrmhnk xutsahkrrmeba karthnakharaelathurkickarkhatang inyuththsastrkarphthnaxutsakrrmnn yipunerimxutsahkrrmkartxeruxephuxxxkedineruxkhakhayaekhngkhnkbtangpraethsaelaesrimkalngkxngthpheruxkhwbkhuipdwy briewnthimikxngeruxkhbkhngxyuthibriewn oyoksunga miota hiesnaelasthsuma praktwayipunsamarthtxeruxedinsmuthrkhnadihychux knrinmaru brrthukthharaelakhnathutkhammhasmuthraepsifikipyngshrthxemrikaid nxkcaknnkmiorngngansrrphawuththiphlitpun krasun aeladinpunidexng odyimyxmichphuchwyehluxchawtangchatiely thngniephuxkhwammnkhngaelaplxdphykhxngpraeths indankarphthnathangkhmnakhmnn yipunsamarththaidsaercinthswrrs 1870 mikarepidthakarekiywkbothrelkhkhunpi kh s 1869 idepnkhrngaerkodytidtxknrahwangotekiywkboyokhama erimkariprsniyinpi kh s 1871 kxtngbristhedineruxthaelaelaepidthangrthifsayaerkrahwangotekiywaelaoyokhamainpi kh s 1872 hlngcaknnkkhyaykickarkhmnakhmtidtxipthnghmuekaayipuninrayaewlaxnsn khwamkawhnathangkarrthifnnmimakcnklayepnthurkicthngkhxngrthaelaexkchn sahrbkaredineruxkhammhasmuthrnn yipunkaekhngkhnkbchawtangchaticntxngthxntwxxkipcakyipuninthisud sahrbesnthangsaytawnxxkiklkaredineruxthaelepnkickrrmthiefuxngfumakinthswrrs 1890 klawknwakxnsngkhramolkkhrngthisxng yipunsamarthmirawangeruxhnk 6 000 000 tn sungcdxyuinxndbsamkhxngolk nxkcakniyipunyngsamarthsrang rthiffa khunaethnrthlak rthmaaelaekwiynichedinthangipsadwkrwderwinpraethsinpi kh s 1896 aelainpi kh s 1920 kmikarichrthyntknthwip inpi kh s 1910 kmiekhruxngbinlaaerkkhxngtnthiphlitexng idmibristhkarbinkhunphthnakarkhmnakhmthangxakasinpi kh s 1928 sahrbothrsphthnnmiichinpi kh s 1889 sungnbwatnstwrrsthi 20 yipunmikhwamecriykawhnathnsmyinkarkhmnakhmthukdan khuxthngthangbk thangeruxaelaxakas maruonxuci sanknganihykhxngbristhmitsubichi hnunginklumthunkhnadihykhxng kxnpi kh s 1923 danxutsahkrrmebaphwkekhruxngxupophkhbriophkh ephuxldkaresiyepriybdulykarkhakbtangpraeths cungmikarsnbsnunkarphlitkhunichinpraeths thngyngsngxxkaekhngkhnkbtangpraethsdwy thisakhyidaekkarihkarsnbsnuntxnaythuninthurkicsingthxthngdanwichakaraelakarengin odyihsuxekhruxngckraelaorngngantxcakrthbalinlksnaenginphxnthiimtxngesiydxkebiy thaihthurkicsingthxecriykawhnarwderwcnepnxutsahkrrmthilahnathisud thngkariwmklumknkhxngnaythunthurkicsingthxkyingthaihmithanaesrsthkicthimnkhngaelasamarthkhwbkhumkhwamidepriybintladkarkhatangpraethsiddwy cnyipunerimmidulykarkhaidepriybchawtangchatiinpi kh s 1880 epntnmathaihyipunkhxyekhakhwbkhumtladinexechiymaksahrbsinkhaxutsahkrrm rthbalsamarthphthnasngkhmthurkickarkhaidxyangrwderw thngthiepnkhxngrthbalaelaexkchn phunarthbalexngyngklathicarierimngansakhyinkarlngthunihm ephraatangkmikhwamepnchatiniymaelakhwamthaeyxthayanswntw phwkphphxkhathirarwycakkarkhakhaysmyothkungawaidepliynthathikhyaykarlngthuninkickarxun idmikarechuxmoyngxyangiklchidkbklum bristhnaythunyksihythimichuxesiyng mikarrwmtwepnklumthangthurkickhnadihythiruckkninchux klum echn mitsubichi aela phwkisbtsulwnepnphxkhathiepnmhaesrsthiaelaepnyksihyinwngkarthurkic bangtrakulidtidtxthathurkicihaekphakhrthbalthangdankarthnakhar rbsuxaelakhaythangthurkicxutsahkrrmkhxngrthbal rwmthungkarcdsuxhruxphlitxawuthihrthbal bangklumyngidrbkarxnuekhraahthangdansinechuxcakrthbalodytrngxikdwy nxkcakniklumbristhisbtsuyngepnphlngkhbekhluxnsakhyinkarsnbsnunihyipunthasngkhramkhyaydinaednlaxananikhmephuxthicaidaehlngrabaysinkhaaelaaehlngwtthudibephimkhun phthnakardankarthhar ekhruxngaebbthharsmyihmkhxngkxngthphbkckrwrrdiyipunkxngthpheruxckrwrrdiyipunaebbsmyihmtamaebbtawntk cakpi 1867 yipunidminoybayihkxngthphthhartang khxngyipunchwyehluxkxngthphyipunptiruprabbihthnsmy pharkicthangipsuksadungandankarthharintangpraethskhrngaerkinyipuncdkhunthifrngessinpi kh s 1867 inpi kh s 1871 nkkaremuxngchuxdngaelaoxkuoba othchimici naxngkhkrkhxngkxngthphaehngchatithiprakxbipdwysamuirthiaekhngaekrng 10 000 khn erimfukaelaeriynrurabbkarthharaebbtawntk oxkuobayngepnsamuiraehngaekhwnstsumaaelaekhaepnhnungin aelaepnhnunginphukxtnghlkkhxngyipunsmyihm inpi kh s 1873 rthbalkhxngckrwrrdiesnxthungkaraetngtngtaaehnngrachkarihmhrux odymiecachayyamangata xariotomathrngepnphubukebikephuxcdthphkxngthphyipun dngnnyamangatacungonmnawrthbalaelatrakdhmaykareknththharinpi 1873 sungcdtngkxngthphckrwrrdiyipunkhunihm kdhmaycdtngkarrbrachkarthharsahrbphuchaythukchnchnepnrayaewla 3 piaelaephimxik 4 piinsthanakalngsarxng yamangataidprbprungaelasrangaebbcalxngihmodyyudtamaebbcakkxngthphprsesiy ecachayyamangatayngthrngepninkxngthphbkckrwrrdiyipunaelathrngdataaehnngnaykrthmntriyipunthungsxngsmy thrngepnhnunginsthapnikhlkkhxngthanthphthharaelakaremuxngkhxngyipunyukhaerkaelathuxidwathrngepn phrabidaaehngkxngthphbkckrwrrdiyipun aela dankxngthpherux kxngthpheruxckrwrrdiyipunkxtngkhunxyangepnthangkarinpi kh s 1869 inchwngthswrrsthi 1870 aela 1880 kxngthpheruxyipunyngkhngepnkxngkalngpxngknchayfngthaelaemwarthbalemcicayngkhngprbprungihthnsmyxyuesmx inpi kh s 1870 khnathiyipunyudthuxaebbxyangkxngthphbktamaebbkxngthphprsesiy swnkxngthpheruxyipuneluxkthicayudaebbxyangtamkxngthpheruxxngkvs idmikarxxkphrarachkvsdikarabuwakxngthpheruxxngkvskhwrepnaebbxyanginkarphthnaaelapharkiceruxxngkvskhrngthisxngipyipun pharkicdklas 1873 79 mithipruksacakxngkvskhux chwywangrakthankarfukxbrmecahnathithhareruxaelakarsuksaaekkxngthpheruxyipunepnkhrngaerk odymiothong ehhacior phuidrbkarsuksacakkxngthpheruxrachnawixngkvsepnphubukebikkickarkxngthpheruxaehngckrwrrdi sungothongthuxepn bidaaehngkxngthpheruxckrwrrdiyipun inewlatxma karlaxananikhmaelakaraephkhyayxiththiphlkhxngyipun ekhaokhrngnoybaylaxananikhmkhxngyipun ngankhxngerakkhux karthasngkhramephuxkhwamthuktxngaelacrrolngsingthidiephuxwacaidimmiikhrekidesiyicxyangsudsung inemuxyipunidsamarthdarngtaaehnngthanathismkhwraekkhwamsamarthkhxngtn thamklangprachachatithnghlayaehngolkerani xiot hiorbumi ckrwrrdiyipun ekaayipun dinaednthiyipuntxngkarmaepnxananikhminchwngaerkprakxbipdwy ekahli rachwngsochsxn ekaaithwn khrungitkhxngekaasahalin sthabnthharkhxngyipuninyukherngsrangchatimithanxanacsungmakinrabbkaremuxngkhxngpraeths epnxisrathngcakrthbalaelarthspha aetkhuntrngtxxngkhckrphrrdiethann nbepnrupaebbkhxngphthnakarthharkhxngyipunsmyemci yipunidthuxwakarkrathakhxngchatitawntkepnbrrthdthankhxngkardaeninkarphthnapraeths karthipraethstawntkthuxnoybayckrwrrdiniymodykarlaxananikhmepnsingthithuktxngepnsaklcungthaihyipunechuxinkhwamchxbthrrmkhxngtnthicadaeninkarkhyayxanacphrxmthicarukranpraethsxun sngkhramcin yipunkhrngthihnung kxngthphbkckrwrrdiyipunkhbilkxngthphrachwngschingcakdinaednekahlikxngthphyipunekhayudpxmkhxngrachwngschingthiehliywtng sngkhramcin yipunkhrngthihnung epnaephnkarkhwamprasngkhkhrngaerkthiyipuntxngkaraephkhyayxanacxxkipnxkpraeths odytxngkarekhakhwbkhumaelamixiththiphlehnuxekahlikhxngrachwngsochsxn khwamkhdaeyngekidkhuninpi kh s 1894 aela 1895 ekahlisungidekhyepnrthbrrnakarkhxngcin rachwngsching xyangyawnanthaihcinmixiththiphlxyangmaktxkhunnangrachsankthiekahlifayxnurksniymthimiswnraylxmiklchidrachwngskhxngochsxn inwnthi 27 kumphaphnth pi kh s 1876 hlngcakekahlidaeninkarphidpraethsoddediywkidekidkarephchiyhnaknrahwangekahlikbyipunepnkhrngaerk odyyipunidxxk bngkhbihekahliepidkarkhakhaykbyipun karkrathadngklawkhdkhwangxanacxunidcakkarkhrxbkhrxngekahliodytdsinicyutixiththiphlkhxngcintxkhxngekahlithimiyawnanhlaystwrrs inwnthi 4 mithunayn kh s 1894 ekahlikhxkhwamchwyehluxcakrachwngschinginkarprabpram rachsankchingsngthhar 2 800 nayipchwyekahliprabkbt yipunehnwaepneruxngthiyxmrbimid fayyipuncungtxbotdwykarsngkxngthphipyngekahliephuxkhanxanackbcin prakxbdwykxngthphedinthang 8 000 klum klumkxngphlphsmoxchima ipyngpraethsekahli thhar 400 khnaerkmathungemuxwnthi 9 mithunaynrahwangthangipthioslaela 3 000 naythixinchxn inwnthi 12 mithunayn rachsankchinghnkhxesnxaenakhxngyipunsahrbyipunaelacinephuxrwmmuxinkarptirupekahli emuxekahlieriykrxngihyipunthxnthharxxkcakekahli yipunkptiesth intneduxnmithunayn kh s 1894 kxngthharyipun 8 000 nayidcbkumphraecaokcngkstriykhxngekahliepnxngkhpraknaelakhrxbkhrxngphrarachwngekhiyngbk inkrungoslaelaemuxwnthi 25 mithunayn yipunidcdtngrthbalhunechidinkrungoslthiniymyipun rthbalekahliihmthiniymyipunidihsiththiaekyipuninkarkhbilkxngkalngrachwngschinginkhnathiyipunsngkxngthharephimetimipyngekahli faycinrachwngschingidkhdkhanaelaprakassngkhram khwamkhdaeyngnithaihekidsngkhramcin yipunkhrngthihnungkhun kxngkalngphakhphundinkhxngyipunthuksngiplxmaelathalaykxngkalngcinipthikhabsmuthrehliywtngaelaekuxbthalaykxngthpheruxcininxyangrabkhab cinthiepnfayphayaephsngkhramthukbngkhbihthasnthisyyachiomoneski thuxepnchychnakhrngaerkkhxngckrwrrdiyipunidmikarlngnamrahwangphuaethncinaelayipunmikhxtklngwacincatxngyxmykdinaednkhabsmuthrehliywtngaelaekaaithwnihaekyipun hlngsnthisyyadngklawidmikarlngnam rsesiy eyxrmni frngessrwmtwknepnkddnihyipunthxnthphxxkcakkhabsmuthrehliywtng hlngcaknnrsesiyinimchakekhayudkhabsmuthrehliywtngesiyexng aelasrangthanthpheruxthipxmprakaraelanakxngeruxrsesiyaepsifikmapracakarthithaeruxdngklaw swneyxrmnkidyudkhrxngsrangthaeruxaelathanthpheruxthipxmprakarchingetaaelanamapracathithaerux thnghmdsrangkhwamimphxicaekyipunepnxyangmakenuxngcakchatithngsamekhamakhwangmiihyipunekhaipmixiththiphlincinaelakhrxbkhrxngdinaednkhxngcinaethnthitn ckrwrrdiyipuncungetriymkxsngkhramkhxyhaoxkasephuxtxbotxikkhrng sngkhramrsesiy yipun kxngphlirefilyipunocmtiyudthimnkhxngkxngthphckrwrrdirsesiy kh s 1904thharyipuninsngkhramrsesiy yipunhlngkarpidlxmphxrtxarethxrmxngcakdanbnkhxngokldhillhlngcakkaryxmcanninpi kh s 1905 etmipdwysakeruxrbrsesiythithukthalay ckrwrrdiyipuntxngkarekhaipmixiththiphlinekahlixikkhrngaelayngkhyaykhwamthaeyxthayanhmaykhrxbkhrxngdinaednaemncueriykhxngcindwy khwamkhdaeyngdngklawnaipsusngkhramrsesiy yipunsungepnkhwamkhdaeynginekhamamixiththiphlkhwbkhumkhxngekahliaelabangswnkhxngaemncueriyrahwangckrwrrdirsesiyaelackrwrrdiyipunthiekidkhunrahwang kh s 1904 thung kh s 1905 sngkhramthukthasrangpraednodykarkhdkhankhxngyipunekiywkbphlpraoychnkhxngrsesiyindinaednekahliaelaaemncueriykhxngcinodyechphaaxyangyingkhabsmuthrehliywtngthikhwbkhumodyemuxng inkhntninsnthisyyachiomoneskiidmikarrabuihphxrtxarethxrtkepnkhxngyipun swnhnungkhxngsnthisyyanithukkhdkhanodymhaxanactawntksungidmimtirwmknihykthaeruxdngklawaekckrwrrdirsesiyephuxsngesrimphlpraoychnkhxngrsesiyinphumiphakh sungphlpraoychnehlanimikhwamkhdaeyngkbphlpraoychnkhxngyipunxyangminyyasakhy sngkhramerimtndwykarthiyipunidtdsinicepidchakcuocmxyangrwderwtxkxngeruxrsesiytawnxxkthipracaxyuthithaeruxxarethxrsungtammadwykarpidlxmphxrtxarethxrsngphlihkxngthphthhareruxrsesiythiphyayamhlbhninnphayaephxyangyxyybodykxngthpheruxyipunphayitkarnakhxngphleruxexkothong ehhaciorthi hlngcaknnckrwrrdirsesiycungtdsinictxbotyipunodysngkxngeruxbxltikinyuorpmaskdknthpheruxyipun aetkxngthpheruxbxltikkhxngrsesiyklbthukptiesthimihphanthangkhwbkhumkhlxngsuexskhxngxngkvsthaihkxngthpheruxrsesiytxngedinthangxxmthwipaelaemuxkxngthpheruxmathungsmrphumithangthaelinxikhnungpitxmaaetkthukkxngthpheruxyipundkthalayinyuththnawithichxngaekhbsuchimaxikkhrng inkhnathisngkhramphakhphundinimidthaihkhunphaphkhxngrsesiyaeylngaetkxngthphyipunkmikhwamkawrawmakkwarsesiyaelaidrbphlpraoychnthangkaremuxngcakkarecrcakbshrthxemrikainsnthisyyaphxrtsmthkbprathanathibdixemrika thioxdxr rusewlt sngkhramkbrsesiycblngdwychychnathiyingihykhxngyipunthaihyipunmixiththiphlinkaremuxngradbolkmakkhun xikthngyngphlihrsesiysuyesiyswnhnungkhxngekaasahalin ekaathangitkhxnglaticudthi sungtxmaidklayepncnghwdkharafuotakhxngyipun echnediywkbsiththihnuxthrphyakraerthatumakmayinaemncueriy nxkcaknikhwamphayaephkhxngrsesiyyngchwyepidchxngthangihyipunmioxkassamarthbngkhbrachwngsochsxnihthasnthisyyaphnwkdinaednyipun ekahliinpi kh s 1910 karyudkhrxngekahli emuxyipunidchychnainsngkhramthngsxngkhrngthaihcinaelarsesiyyxmrbxiththiphlkhxngyipunehnuxdinaednekahli emuximmichatiidkhdkhanaelachwyehluxekahliid yipuncungerimkarlxbplngphrachnmphramehsihruxckrphrrdinimyxngsxng emiyngsxng aehngochsxn ehtukarndngklawsrangkhwamesrasaethuxnicaelaekhiydaekhnaekchawekahliepnxnmak hlngcaknnyipuniderimphnwkekahliekhaepndinaednkhxngtntamsnthisyyaphnwkdinaednyipun ekahliemuxpi kh s 1910 sungsnthisyyaniepnthiyxmrbkhxngyipunfayediyw aetimepnthiyxmrbthangfayekahli ephraathuxwaimmikarlngnamkhxng dinaednekahlicungkhrxbkhrxngaelathukprakasihepnrthinxarkkhakhxngyipun misthanaethiybethaxananikhm nbaetnnepntnma inrahwangkarpkkhrxngkhxngyipun mikarsrangrabbkhmnakhmaebbtawntk aetswnihyephuxpraoychnthangkarkhakhxngyipunmakkwapraoychnkhxngchawekahli yipunlmlangrachwngsochsxn thalayphrarachwng prbprungrabbphasi ihsngkhawcakekahliipyipun thaihekidkhwamxdxyakinekahli mikarichaerngnganthasinkarsrangthnnaelathaehmuxngaer hlngkarswrrkhtkhxngphraecaokcngaehngekahli emuxeduxnmkrakhm kh s 1918 dwyyaphis thaihekidkareriykrxngexkrachthwpraeths emux 1 minakhm kh s 1918 phlcakkarlukhuxkhuneriykrxngexkrachthaihchawekahliraw 7 000 khnthukkhaodythharaelatarwcyipun chawkhristekahlicanwnmakthukkhahruxephainobsthrahwangkareriykrxngexkrachmikarcdtngrthbalechphaakalkhxngekahlithiesiyngih praethscin hlngcakkarekhluxnihw 1 minakhm ephuxtxtankaryudkhrxngkhxngyipun karlukhuxkhuntxtanyipunyngmixyutxip echn karlukhuxkhxngnksuksathwpraethsemuxeduxnphvscikayn kh s 1929 cnnaipsukarprakaskdxykarsukemux kh s 1931 inpi kh s 1937 yipunphyayamlblangkhwamepnchatikhxngekahli odykarhamsxnprawtisastraelaphasaekahliinorngeriyn karaesdngxxkthangwthnthrrmthiepnekahlithuxepnsingphidkdhmay chawekahlithukbngkhbihmichuxepnphasayipun singkhxngmikhathuknaxxkcakekahliipyngyipun hnngsuxphimphthukhamtiphimphdwyphasaekahli hnngsuxekiywkbprawtisastrcanwnmakthukephathalay rahwangsngkhramolkkhrngthi 2 chawekahlithukbngkhbihrwmmuxkbyipun aelamichaychawekahlixikcananmakthithukeknthihekharwminkxngthphyipun phuhyingcakcinaelaekahliraw 200 000 khn thuksngtwipepnnangbaerxkhxngthharyipun thaihchawekahlicanwnmakxphyphxxkcakekahliipsuaemncueriyaelarsesiy chawekahliinaemncueriycdtngkhbwnkarkuexkrachchux dungnipkun Dungnipgun khbwnkarnimikhwamsmphnthiklchidkbcin thasngkhramkxngocrkbkxngthphyipun kxngthphehlaniidrwmtwknepn emuxraw ph s 2483 ekhluxnihwincinaelaexechiytawnxxkechiyngit chawekahlikwahmunkhnekharwminkxngthphpldplxyprachachnaelakxngthphptiwtiaehngchatirchkalithoch kh s 1912 1926 ekharwmsngkhramolkkhrngthihnung ckrphrrdiithoch ckrphrrdiyipun rchkalthi 123 ckrwrrdixananikhmyipunchwngsngkhramolkkhrngthihnung yipunekhasusngkhramolkkhrngthihnung odyekharwmxyufaysmphnthmitrinpi kh s 1914 inkhnathimhaxanacyuorpimsnicexechiyaelakalngtidphnkbsmrphumiinyuorp aetyipunklbmxngehnoxkasdicaksngkhraminyuorp yipunthuxoxkasinkarebiyngebnkhwamsnickhxngeyxrmnikbsngkhramyuorpephuxkhyaykhxbekhtxiththiphlkhxngtnincinaelaexechiyaepsifikxyangsadwk enuxngcakehnwafaysmphnthmitridepriybinsngkhram yipuncungprakassngkhramkbckrwrrdieyxrmnemuxwnthi 23 singhakhm kh s 1914 yipunidepnphnthmitrkbckrwrrdixngkvsekhaocmtiemuxngchingetaaelaxanabriewneyxrmninemuxngcin kxngthphphsmxngkvs yipuninimchakekhaipyudpxmprakarchingetasungepnthanbychakar dinaednekhtechaeyxrmnbriewnmnthlsantng xikthngyipunyngbukhmuekaatangkhxngeyxrmnthiepndinaednxananikhmeyxrmninexechiyxun prakxbdwy hmuekaamaeriyna aelahmuekaamaraechllinmhasmuthraepsifiksungepnswnhnungkhxng karbukxyangrwderwindinaedneyxrmnbriewnaela phisucnkhwamsaerckhxngyipun kxngthharxananikhmkhxngeyxrmnyxmcanntxkxngthphyipuninwnthi 7 phvscikayn kh s 1915 aelayipunidkhrxbkhrxngdinaednchingetarwmthungxananikhminaepsifikthnghmdcakeyxrmn kxngthphyipunyudsnamephlaacakeyxrmnin nxkcakniyipunynghaphlpraoychnthangesrsthkicthamklangsngkhramthiekidkhuninyuorp dwyphnthmitrtawntkodyechphaaxngkvsmiswnrwmxyangmakinsngkhraminyuorp yipunekhachwyehluxsngsinkhaihfaysmphnthmitrinthaelemdietxrereniyn thaihphlphlitaelakarsngxxkkhxngyipunthayansungkhunxyangtxenuxng hlngsngkhramolkkhrngthihnungyuti yipunepnhnunginpraethssmphnthmitrhlkthichnasngkhramidekharwmthuxsiththipraoychninsnthisyyaaewrsay nxkcakniyipunyngidepnkaryxmrbcakkbumpraethssmphnthmitrcdihepnchatimhaxanachnunginhachatihlngsngkhram yukhhlngsngkhramolkkhrngthihnungcungepnyukhthxngxikyukhhnungkhxngyipunodythiyipunimtxngthunxyangmakaelaklbidphlpraoychnklbmathikhxnkhangsung noybaytangpraethsdankarrukrankhxngyipunchwngniidaesdngihchawolkidehnxyangchdecnkhunhlngsngkhramyutiephiyngimkipi emuxyipunidthuxoxkaslxbesnxtxrthbalcinepyhyangkhxngy ehwiyn chuxikh ephuxihyipunidmisiththiphiessthangesrsthkicephuxkhudridexaphlpraoychnindinaedncin thaihekidkraaes emuxkarecrcatxrxngkbrthbalcinepnxyangechuxngchaaelapranamaelakddncakradbnanachatithaihyipunyxmphxnprnldkhxeriykrxnglng aetkmikarlngnamsyyaineduxnphvsphakhm kh s 1915 swnidrbkartxxayuaelakhyaykhxbekhtinsxngethainpi kh s 1905 aela kh s 1911 kxnthicasyyacahmdxayuinpi kh s 1921 idthukykelikxyangepnthangkarinpi kh s 1923 karaethrkaesngisbieriy hlngcakkarlmslaykhxngrabxbkstriysarinrsesiyaelarabxbkarpkkhrxngchwkhrawinpi kh s 1917 phrrkhbxlechwikhidtngrthbalihmthiidlngnamthasyyasngbsukaeykkbeyxrmni hlngcakehtukarnnichawrsesiyidsurbknexnginsngkhramklangemuxnghlayfay phaphokhsnachwnechuxkhxngyipuninchwngkaraethrkaesngsngkhramklangemuxngrsesiyodyfaysmphnthmitr pi kh s 1918 1920 kxngthphyipunykphlkhunbkthiwladiwxstxkh isbieriykxngphlyipunswnsnamhlngyudemuxnginisbieriy ineduxnkrkdakhm kh s 1918 prathanathibdiwudorw wilsnkhxihrthbalyipuncdhathhar 7 000 naysungepnswnhnungkhxngphnthmitrrahwangpraethscanwn 25 000 naywangaephnthicasnbsnun naykrthmntritklngthicasngthhar 12 000 nay aetmienguxnikhthicatxngxyuphayitkarbngkhbbychakhxngyipunaethnthicaepnswnhnungkhxngphnthmitrrahwangpraeths yipunmiaerngcungicsxnernhlayxyangsahrbkarsngthharekharwmdngklwsungrwmthungkarepnstruthirunaerngaelakhwamklwtxlththikhxmmiwnist khwammungmnthicachdichkhwamesiyhayinxditihkbrsesiy aelakhwamprarthnathicasrang pyhathangehnux inkarrksakhwamplxdphykhxngyipunimwacaodykarsrangsthanarthknchnhruxphankaridmasungdinaednthnthi ineduxnphvscikaynpi kh s 1918 kxngthphyipunkwa 70 000 nayphayitesnathikaryuxi mitsuexaidbukekhakhrxbkhrxngthaeruxaelaemuxngihy thnghmdincnghwdthangthaelkhxngrsesiyaelatawnxxk khxngisbieriy ineduxnmithunayn kh s 1920 miphleruxnyipunpraman 450 khnaelathharyipun 350 nayphrxmdwyphusnbsnunkxngthphsikhawkhxngrsesiythuksngharhmuodykxngkalngphlthiekiywkhxngkb kxngthphaedngthi shrthaelaphnthmitrcungthxntwxxkcakwladiwxstxkhhlngkarcbkumaelakarpraharchiwitkhxngphunakxngthphkhawphleruxexkxaelkhsndr khxlchkh odykxngthphaedng xyangirktamyipuntdsinicthicakhngkalngthharpracakariwxyuswnihyenuxngcakkhwamhwadklwkaraephrkracaykhxnglththikhxmmiwnistekhaiklpraethsyipunaelaxananikhmekahlikhxngyipunaelaaemncueriy kxngthphyipunihkarsnbsnunthangthharaek sungepnrthbalthiniymyipuninemuxngwladiwxstxkihtxtansatharnrthtawnxxkiklsungidrbkarhnunhlngcakrthbalbxlechwikhinkrungmxsok karmiswnrwmkhxngyipuninkarrbxyangtxenuxngekiywkhxngkbshrthxemrikasungsngsywayipunmikarxxkaebbdinaedninisbieriyaelarsesiytawnxxkikl phayitaerngkddnthangkarthutxyangrunaerngcakshrthxemrikaaelaxngkvsaelaephchiyhnakbkhwamkhdaeyngphayinpraethsthiephimkhunenuxngcaktnthunthangesrsthkicaelasngkhnxxkiprbnxkpraethskhxngnaykrthmntri cungtdsinicthxnkalngthharyipunxxkineduxntulakhm kh s 1922 miphuesiychiwit 5 000 raycakkartxsuhruxecbpwy dwykhaichcayinekharwmrbkwa 900 laneyn prachathipityithoch idrbkarykyxngwaepnphunaphrrkhkaremuxngyipunkhnaerkaelaepnkalngsakhysahrblththiesriniyminsmyemci rabbkaremuxngsxngphrrkhthiphthnainyipuntngaetchwngepliynstwrrsnnmimachananhlngsngkhramolkkhrngthi 1 thaihekidchuxelnsahrbchwngewlaniwa prachathipityithoch prachachnerimimaeyaeskbhnisinkhxngpraethsthiephimkhuninkhnaediywknkdhmaykareluxktngchbbihmidekidkhunsahrbphumisiththieluxktngaelaidmikareriykrxngihmikarlngkhaaennesiyngsaklaelakarruxekhruxkhayphrrkhkaremuxngeka nksuksa xacarymhawithyalyaelankkhawsungidrbkarsnbsnuncakshphaphaerngnganidrbaerngbndaliccakaenwkhidprachathipity sngkhmniym khxmmiwnist phuniymxnathipity aelakhwamkhidxun thihlakhlay thaihmikarprathwnginthisatharnaepncanwnmakaetepnraebiybephuxsnbsnunkarlngkhaaennesiyngkhxngphuchaythw ipinpi kh s 1919 aela kh s 1920 naykrthmntriyipunkhnthi 14 inrchsmyithoch kareluxktngepnnaykrthmntrikhxngyipunyngkhngdaeninkarptirupprachathipitythiidrbkarsnbsnuncakphumixiththiphlthangdansay cudsinsudkhxngkarxxkesiynglngkhaaennchayaebbsaklineduxnminakhm kh s 1925 rangkdhmaychbbniihsiththichaythukkhnthixayuekin 25 pimisiththiinkarxxkesiynglngkhaaenn hakphwkekhaxasyxyuinekhteluxktngxyangnxyhnungpiaelatxngimmithixyuxasy phumisiththieluxktngcungephimkhuncak 3 3 lanepn 12 5 lan insthankarnthangkaremuxnginsmynimiphrrkhkaremuxngihmephimcanwnkhuneruxy rwmthngphrrkhsngkhmniymaelaphrrkhkhxmmiwnist khwamklwtxphumisiththieluxktnginwngkwang xanacfaysay aelakarepliynaeplngthangsngkhmthiephimkhunnaipsuenuxeruxngkhxng inpikh s 1925 sunghamimihmikarepliynaeplngokhrngsrangthangkaremuxngrchkalochwakaryudkhrxngaemncueriy kxngthphckrwrrdiyipunekhluxnphlekhasuechinhyanginaemncukw ph s 2474 ckrwrrdiyipunekhayudkhrxngaemncueriyemuxpi ph s 2474 aelwsthapnapraethsihm aemncukw phrxmkbihckrphrrdipuyi ckrphrrdixngkhsudthayaehngrachwngschingkhunkhrxngrachyepnckrphrrdiaehngaemncukw aetepnephiyngckrphrrdihunechid immixanacinkarpkkhrxngtnexng xanackarpkkhrxngthnghmdlwnxyukbyipun aemphrrkhkkmintngaelananapraethsimyxmrbrxngaetklbmikarecrcasngbsukinpiediywkn karrukrancin phayhlngidyudkhrxngaemncueriyaelw kxngthphckrwwrrdiyipunerimrukrancinthicnghwd aetkthuktxtanodykxngthphkkmintng kxngphlthi 29 khxngcinyngkhngichhxkdabaelaxawuthlasmyxyucungphayaeph thaihphakhtawntkkhxngpkkingtkxyuphayitxiththiphlkhxngyipun caknnyipunkkhxy bukrukaelaphnwkaephndinciniperuxy thungpi ph s 2480 ksamarthyudkhrxngaephndinodyrxbkrungpkkingiwidekuxbhmdehluxechphaadanit yipunidtngtngrthbalhunkhunpkkhrxngekhtphunthithiyudidxikhlayaehngrwmthngthiemuxnghnancing nanking emuxekidkarpathakbyipunthisaphanmarokhopolemuxwnthi 7 krkdakhm ph s 2480 kh s 1937 chawcincanwnmakidrwmmuxkntxsuephuxtxtanyipun xyangirkdicinidrxngeriynkhxkhwamchwyehluxcaksnnibataehngchati aetphlthixxkmakhuxlmehlw rwmthngsnthisyya 9 mhaxanacdwy aelaemuxekidkarpathakbyipunthisaphanmarokhopoliklkrungpkking cungepnkhxxangthithangkaryipunsngthharyipunekhayudemuxngihytang khxngcinrwmthngchayfngthangehnuxcrdit ehtukarnsaphanmarokh opol playeduxnmithunayn ph s 2480 yipunsngthharcanwnhlayrxynaymatnghnwypracathisaphanmarokh opolaelathakarfukxyuthinn inkhnaediywknkmikxngkalngthharcinkkmintngthipracaxyuthiemuxngwnpingikl kn khxyefarawngduxyuxyangiklchid inechatruwnthi 7 krkdakhm kxngkalngyipunidothrelkhipthungkxngkalngkkmintngwamithharkhxngtnhayipaelaechuxwaipsxnxyuinemuxngwnpingcungkhxngekhaipkhnha phayhlngidphbtwodyimidrbxntray mikhxthkethiyngknwaepnehtubngxiyhruxepnkarsrangeruxngkhxngfayyipunephuxichxangephuxepncuderimtnbukekhayudphakhklangkhxngpraethscin faycinptiesthimyxmihkxngkalngyipunekhaemuxng intxneynwnnn fayyipuncungyunkhakhadihfaycinyxmihfaytnbukekhaipkhnkhninemuxngidphayin 1 chwomng michanncayingthlmdwypunihy khrnemuxthungewlaethiyngkhun yipunerimyingpunihyaelaekhluxnkxngkalngkhamsaphanmaokhopoltrngipcaekhaemuxng faykkmintngcungsngthharcanwn 1000 nay ekhapxngknsaphanxyangsudkhwamsamarth aetyipunkbukkhamipid aethlngcakidrbkalngesrimthimicanwnmakkwafayyipun faycincungsamarthyudsaphankhunidsaercinwntxma yipundwycanwnkxngkalngthinxykwacungkhxecrca thaihehtukarnkhnthi 1 sngblngidchwkhraw aetkxngkalngyipunyngkhngtngpracaxyuthiedimimyxmthxy faykkmintngidprachumknaelatklngwacayudsaphantxipaelaphyayamthicaimecrcakbyipun ephraaechuxthuximid aetxyangirkdi faycinidsngkhnipecrcaephuxyutikhwamkhdaeyngdwysntiwithi fayyipunyxmecrcaaetcathuxwahakcinephimkxngkalngkcathuxwaepnkarywyu sungodyaethcringkhnannfayyipunkalngsuxewladwykaryxmecrcaephuxrxkarekhluxnyaykxngkalngcakswnxunmasmthb karecrcakhrngni fayyipunsyyawacaimrukranpkkingaelaethiyncin aetfaycintxngthakarprabprabxngkhkrtxtanyipuninemuxngthngsxng catxngrbphidchxbtxehtukarnpathaknemuxwnthi 7 krkdakhm thisaphanmaokhopol aelacatxngihnayphlsngphubychakarkxngphl 29 ethannepnphumakhxkhmatxkxngkalngyipun emuxfaycinimsamarthrbenguxnikhidthnghmd fayyipuncungbukekhakrungpkkingodyichkxngkalngetmxtrathimixyu kxngkalngfaycinkxngphnthi 37 aela132 phyayamfaaenwyipunekhankhrpkkingaelathukpidknxyanghnkaelaksamarthfaekhaipidxyangbxbcha hlaywntxmaemuxthuklxmhnkmakkhun kxngphl 29 cungidtifawnglxmkhxngkhasukxxkipcakkrungpkkingaetkthuklxmxik kxngthphyipunsamarthekhakrungpkkingidemuxwnthi 18 singhakhm odyprascakkartxtanaelatngnayphlsngepnnaykethsmntri aetekhakhnixxkcakemuxngipxyanglb inspdahtxma hlngcakkrungpkkingaelaethiyncinthukyudkhrxng thirabcintxnehnuxktkepnepakarrukrankhxngkxngthphyipunthimixawuththnsmytxcnthukyudkhrxngthnghmdinplaypinn kxngthphcinkkmintngaelakxngthphcinkhxmmiwnistkidrbipaetlathxyipodytlxdcnkrathngidrbchychnatxkxngthphyipunxyangyakeynthi emuxwnthi 7 emsayn ph s 2480yipuninsmysngkhramolkkhrngthi 2aefrngkhlin di rusewlt prathanathibdiaehngshrthxemrika lngnaminkarprakassngkhramtxckrwrrdiyipunemux 8 thnwakhm ph s 2484 hlngekidkarocmtithixawephirlharebxr chnwnkxehtu smrphumiincin sungkxngthphbkyipuniddaeninkarmanankxnthicaekidsngkhramolkkhrngthi 2 xyangepnthangkar odyidthakaryudkhrxngemuxngaelabriewnchayfngkhxngcinepnswnihy rwmthungkarcdtngpraethsaemncukwsungmickrphrrdipuyiepnpramukh aelaidthakaryudkhrxngkrunghnancing nanking thiepnemuxnghlwngkhxngcin khxngrthbalkkmintnginyukhnn aelaidthakarsngharhmuchawcinthiodngdngkhun sungrunaerngmakcnkrathngthaihsmachikphrrkhkhxmmiwnistinemuxngnankingyngrbimid yipuntxngephchiykbaenwrwmtxtanyipunsungepnkarrwmmuxrahwangphrrkhkhxmmiwnistcinsungmiehmaecxtngepnphunaaelaphrrkhkkmintn prachathipity thimieciyngikhechkepnphuna hlngcakekidkrnisixnkhun thngthi 2 phrrkhniekhyepnstruknmakxnodyphrrkhkhxmmiwnistidthakarsurbaeladaeninkar sngkhramkxngocr thiklayepnaebbxyangkhxngsngkhramkxngocryukhihmkhunodymithanthimnhlkxyuthi tamekhttxnehnuxaelaaemncueriyswnphrrkhkkmintnidyayemuxnghlwngipxyuthichngching cungking aelaidrbkarsnbsnuncaksmphnthmitrthixyuinxinediy aetwamikarthkethiyngknrahwangbthbathkhxngphrrkhkkmintnaelaphrrkhkhxmmiwnistcin ineruxngbthbathkhwamsaercaelakhwamexakarexanganinkartxtanyipunkhxngxikfayhnung aetthiaenchdkhux nayphlstiewll phubychakarthharkhxngshrthxemrikathiekhaipduaelkxngthphkhxngphrrkhkkmintnrusukokrthmakthiphayinphrrkhkkmintnimmiprasiththiphaph aelamungkarprabkhxmmiwnistmakkwakarrbkbyipun inkhnathiexdkar sonwidaesdngkhwamchunchmbthbathkhxngehmaecxtngxyangmakinkartxtanyipun aelathangkxngthphshrthxemrikaidsngkhnaptibtikardiksiekhaiprwmthangankbehmaecxtung aetnkhnngsuxphimphcakshphaphosewiytthiidekhaipthakhawinhwngewlaediywknklbwicarn ehmaecxtngwaimekhrngkhrdinlththikhxmmiwnistaelahyxnyaninkarsurb thaihimsamarthexachnayipunid karrbchnacinsungepnpraethsthiidchuxwayingihythisudinexechiynn yingthaihchatiyipunmikhwamechuxmninkarthharkhxngtnexng thakarrukranpraethsxun xyangimekrngklw aelayngprakassngkhramkbshrthxemrikaodykarsngekhruxngbinipraebideruxxriosnathixawephirl epnchnwncudraebidsngkhramolkkhrngthisxnginphumiphakhexechiy karocmtixawephirlharebxr eruxrbsngkhramkhxngshrthxemrikathukthalayodykxngthphyipun karocmtixawephirlharebxr epnkarocmtichbphlnkhxngckrwrrdiyipuntxfaykxngthphshrthxemrika odykarocmtiekidkhunthixawephirlharebxr rthhaway inshrthxemrika wnxathitythi 7 thnwakhm ph s 2484 kh s 1941 inkarocmtinisrangkhwamesiyhayaekfaykxngthphxemriknmak odyeruxsngkhramsuyesiy 12 la ekhruxngbin 188 la thharxemriknesiychiwit 2 403 khn aelaprachachn 68 khn sngkhramxinodcin xananikhmaeladinaednthiyxmxyuitxanackhxngckrwrrdiyipunemuxpi 1942 ekhruxngbin 52c Zero thuksngcakekahlisuekaakhiwchu tnpiph s 2488 hakimnbrwmkarekhayudkhrxngxinodcinkhxngfrngessthithukbngkhbihekharwmkbfayxksaphayitrthbalwichifrngessaelw smrphumidanniiderimtnkhunemuxyipunocmtithanthpheruxhlkkhxngkxngthpheruxshrthxemrikathi aelakarbukyudpraethstang inexechiytawnxxkechiyngitrwmthungithyineduxnthnwakhm kh s 1941 sungkxngthphyipunidbukipthungphma niwkini aelaekaakwadlkhaaenl sungpraktwahlngcak karrbthangthaelaethwhmuekaaosolmxnaelathaelpakarng aelakarrbthikwadlkhaaenlaelw praktwakxngthpheruxyipuntxngsuyesiyxyanghnk swnkxngthphbkkimsamarthhakalngphlaelayuthothpkrnidephiyngphxephuxpkpxngdinaednthiyudidihm inthisudcungthukkxngkalngphnthmitrthimishrthxemrika shrachxanackr aelaxxsetreliytiotklbipcnnaipsukhwamphayaephinthisudxangxingHunter 1984 pp 31 32 sfn error no target CITEREFHunter1984 Chronological table 5 1 December 1946 23 June 1947 subkhnemux September 30 2010 Shillony Ben Ami 2013 Ben Ami Shillony Collected Writings Routledge p 83 ISBN 1134252307 Hagiwara p 34 Jansen 2002 pp 314 315 sfn error no target CITEREFJansen2002 Hagiwara p 35 Satow p 282 Keene 2002 p 116 sfn error no target CITEREFKeene2002 Jansen 2002 pp 310 311 sfn error no target CITEREFJansen2002 Keene pp 120 121 and Satow p 283 Moreover Satow p 285 speculates that Yoshinobu had agreed to an assembly of daimyōs in the hope that such a body would reinstate him Satow p 286 During a recess Saigō who had his troops outside remarked that it would take only one short sword to settle the discussion Keene p 122 Original quotation Japanese 短刀一本あればかたづくことだ in Hagiwara p 42 The word used for dagger was tantō Keene 2002 p 124 sfn error no target CITEREFKeene2002 Jansen 2002 p 312 sfn error no target CITEREFJansen2002 Keene p 340 notes that one might describe the Oath in Five Articles as a constitution for all ages 1889 Japanese Constitution 維新元勲十傑論 16頁 Roger F Hackett Yamagata Aritomo in the Rise of Modern Japan 1838 1922 1971 Norman E Herbert and Lawrence Timothy Woods The Restoration Japan s emergence as a modern state political and economic problems of the Meiji period UBC Press 2000 65 Retrieved on August 6 2009 Crofts and Buchaman op cit p 250 Seth Michael J 2010 A History of Korea From Antiquity to the Present Rowman amp Littlefield Publishers p 225 ISBN 978 0 7425 6716 0 宮田 節子 Miyata Setsuko 創氏改名 Creating Surnames and Changing Given Names 明石書店 Akashi shoten 1992 al ISBN 4 7503 0406 9 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 23 subkhnemux 2007 10 25 山脇 啓造 Yamawaki Keizo 近代日本と外国人労働者 1890年代後半と1920年代前半における中国人 朝鮮人労働者問題 Modern Japan and Foreign Laborers Chinese and Korean Laborers in the late 1890s and early 1920s 明石書店 Akashi shoten 1994 et al ISBN 4 7503 0568 5 http archives cnn com 2001 WORLD asiapcf east 03 29 japan comfort women index html 2006 09 22 thi ewyaebkaemchchin 1 2 Comfort Women org 2009 11 03 thi ewyaebkaemchchin Question 1917年 大正6年 のロシア革命時に シベリアに在留していたポーランド孤児を日本政府が救済したことについて調べています subkhnemux October 3 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux November 12 2010 subkhnemux October 3 2010 Hane Mikiso Modern Japan A Historical Survey Oxford Westview Press 1992 234 duephimkhamikaesa raychuxdinaednthickrwrrdiyipunyudkhrxng