ในชื่อบุคคลญี่ปุ่นนี้นามสกุลคือ โทกูงาวะ
โทกูงาวะ โยชิโนบุ 徳川慶喜 | |
---|---|
โทกูงาวะ โยชิโนบุ, ค.ศ. 1867 | |
โชกุนแห่งเอโดะ | |
ดำรงตำแหน่ง 29 ส.ค. 1866 – 19 พ.ย. 1867 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิโคเม จักรพรรดิเมจิ |
ก่อนหน้า | โทกูงาวะ อิเอโมจิ |
ถัดไป | สิ้นสุด |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 28 ตุลาคม ค.ศ. 1837 เอโดะ, ญี่ปุ่น |
เสียชีวิต | พฤศจิกายน 22, 1913 เขตบุงเกียว โตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น | (76 ปี)
โทกูงาวะ โยชิโนบุ | |||||
ชื่อภาษาญี่ปุ่น | |||||
---|---|---|---|---|---|
คันจิ | 徳川 慶喜 | ||||
ฮิรางานะ | とくがわ よしのぶ | ||||
|
โทกูงาวะ โยชิโนบุ (ญี่ปุ่น: 徳川 慶喜; とくがわ よしのぶ; โรมาจิ: Tokugawa Yoshinobu สามารถอ่านได้อีกอย่างว่า โทกูงาวะ เคกิ (Tokugawa Keiki), 28 ตุลาคม ค.ศ. 1837 - 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1913) เป็นโชกุนลำดับที่ 15 และโชกุนคนสุดท้ายของรัฐบาลเอโดะแห่งประเทศญี่ปุ่น
โยชิโนบุเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในรัฐบาลเอโดะมาหลายสมัย และได้เคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปรัฐบาลโชกุนซึ่งกำลังอยู่ในภาวะเสื่อมถอย แต่จบลงด้วยความล้มเหลวอย่างรุนแรงยิ่ง ภายหลังเมื่อสละตำแหน่งและถวายอำนาจของโชกุนคืนแก่จักรพรรดิเมจิแล้ว โยชิโนบุได้เกษียณตนเองและใช้ชีวิตโดยหลบเลี่ยงจากสายตาของสาธารณชนตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยวัย 76 ปี นับว่าเป็นโชกุนผู้มีอายุยืนที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ปฐมวัย
โทกูงาวะ โยชิโนบุ เกิดอยู่ที่นครเอโดะ (โตเกียว) โดยเป็นบุตรคนที่ 7 ของ ไดเมียวแห่ง ซึ่งแคว้นนี้นับเป็น 1 ใน 3 สายตระกูลสำคัญของตระกูลโทกูงาวะ () ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกให้ขึ้นสืบทอดตำแหน่งโชกุน
เมื่อแรกเกิดนั้น โยชิโนบุใช้ชื่อว่า "มะสึไดระ ชิจิโรมะ" และได้รับการอบรมเลี้ยงดูให้นิยมการทหารอย่างเข้มงวด เขาได้รับการสั่งสอนในวิชาอักษรศาสตร์และศิลปะการป้องกันตัว ตลอดจนถึงการศึกษาหลักวิชารัฐศาสตร์และการปกครองตามธรรมเนียมดั้งเดิม
ด้วยการส่งเสริมของผู้เป็นบิดา ชิจิโรมะจึงได้รับการยอมรับเป็นบุตรบุญธรรมของ อันเป็นตระกูลสำคัญหนึ่งตระกูลหนึ่งของตระกูลโทกูงาวะ เพื่อให้มีโอกาสที่จะได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่งโชกุนได้มากยิ่งขึ้น เขาได้อยู่ในตำแหน่งของผู้นำตระกูลในปีค.ศ. 1847 พร้อมทั้งได้รับยศและราชทินนามจากราชสำนัก และไดรับการเปลี่ยนชื่อเป็น "โยชิโนบุ" ต่อมาเมื่อโทกูงาวะ อิเอซาดะ โชกุนลำดับที่ 13 ได้เสียชีวิตลงในปีค.ศ. 1858 โยชิโนบุจึงได้ถูกเสนอชื่อในฐานะของผู้สืบทอดผู้มีศักยภาพในการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนของเขาถูกโน้มน้าวใจด้วยความสามารถและประสิทธิภาพในการจัดการเกี่ยวกับกิจการต่างๆ ภายในตระกูล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงการข้ามภายใต้การนำของ กลับเป็นฝ่ายชนะ โทกูงาวะ โยะชิโตะมิ ซึ่งเป็นผู้ถูกเสนอชื่อของฝ่ายดังกล่าวได้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งโชกุนคนที่ 14 ในชื่อ โทกูงาวะ อิเอโมจิ หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่กำลังเกิด โยชิโนบุพร้อมทั้งบรรดาผู้สนับสนุนก็ถูกลงโทษด้วยการกักตัวในบ้านพักประจำแคว้นที่นครเอโดะ ตัวโยชิโนบุเองก็ถูกถอดจากฐานะผู้นำของตระกูลฮิโตะสึบาชิด้วย
ยุคแห่งการสำเร็จราชการแทนโชกุนของไทโร เป็นที่จดจำจากการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดและการต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือด หลังการลอบสังหารอีที่ในปีค.ศ. 1860 โยชิโนบุก็ได้รับคืนฐานะผู้นำตระกูลฮิโตะสึบาชิอีกครั้ง และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ดูแลโชกุน (ญี่ปุ่น: 将軍後見職; โรมาจิ: shōgun atomi-shoku; : โชงุง อะโตะมิ-โชะคุ) ในปีค.ศ. 1862 และได้รับการแต่งตั้งภายในระยะเวลาอันสั้น ในช่วงเวลาเดียวกันนั้เอง พันธมิตรที่ใกล้ชิดโยชิโนบุ 2 คน คือ และมะสึไดระ คะตะโมะริ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งระดับสูงเช่นกัน โดยโยะชินะงะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการการเมือง (ญี่ปุ่น: 政治総裁職; โรมาจิ: seiji sōsai shoku; : เซญิ โซไซ โชะคุ) , ส่วนคะตะโมะริอยู่ในตำแหน่งผู้พิทักษ์พระนครเกียวโต (ญี่ปุ่น: 京都守護職; โรมาจิ: Kyoto Shugoshoku; : เกียวโตชุโงะโชะคุ) . ในเวลาต่อมาบุรุษทั้งสามนี้ ได้มีบทบาทอย่างยิ่งในการปราบปรามเหตุไม่สงบทางการเมืองในกรุงเกียวโต และรวบรวมพันธมิตรต่างๆ เพื่อต่อต้านกิจกรรมของฝ่ายกบฏจากแคว้นโจชู นอกจากนี้ทั้งสามยังเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มการเมืองแนวทาง "" (ประสานราชสำนักกับรัฐบาล) ซึ่งพยายามหาทางทำให้ราชสำนักกับรัฐบาลโชกุนปรองดองกันด้วยการแต่งงานทางการเมือง
ในปีค.ศ. 1864 โยชิโนบุในฐานะผู้บัญชาการกองทหารล้อมวัง ประสบความสำเร็จในการขับไล่กองกำลังของแคว้นโจชูซึ่งพยายามยึดครองของพระราชวังหลวงที่เกียวโต ปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลงได้ด้วยการใช้กำลังทหารจากพันธมิตรระหว่างกับแคว้นซัตสึมะ
ดำรงตำแหน่งโชกุน
หลังมรณกรรมของโชกุนโทกูงาวะ อิเอโมจิ อย่างกะทันหันในปีค.ศ. 1866 โยชิโนบุถูกเลือกให้ขึ้นสืบทอดตำแหน่งเป็นโชกุนลำดับที่ 15 เขาเป็นโชกุนตระกูลโทกูงาวะเพียงคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งอยู่นอกนครเอโดะ เพราะเขาจะไม่มีโอกาสได้เหยียบย่างสู่ปราสาทเอโดะเลยตลอดสมัยแห่งการเป็นโชกุน
ทันทีที่โยชิโนบุได้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ได้เริ่มขึ้น มีการปฏิรูปรัฐบาลโชกุนครั้งใหญ่เพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแกร่งให้กับรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับความช่วยเหลือจากจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ในการสร้างโรงหล่อปืนใหญ่ที่เมืองโยโกซูกะ ภายใต้การอำนวยการของ (Leonce Verny) และบรรดาผู้ติดตามจากคณะทูตทหารฝรั่งเศส เพื่อปรับปรุงกองทัพของรัฐบาลหรือรัฐบาลโชกุนให้มีความทันสมัย
กองทัพแห่งชาติทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ซึ่งรัฐบาลโชกุนได้ดำเนินการจัดตั้งมาก่อนอยู่แล้ว ก็ได้รับการเสริมกำลังโดยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส และการจัดซื้ออาวุธจากสหรัฐ นักสังเกตการณ์จำนวนมากมองว่ารัฐบาลเอโดะกำลังวางรากฐานไปสู่การปรับปรุงฐานกำลังและอำนาจ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะล้มเหลวลงในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี
สงครามโบะชิง
ด้วยความหวาดกลัวต่อการเสริมความมั่นคงของรัฐบาลโชกุนภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาด ซามูไรจากแคว้นซัตสึมะ แคว้นโจชู และแคว้นโทซะ ได้รวมกลุ่มเป็นพันธมิตรต่อต้านรัฐบาลใหม่ ภายใต้คำขวัญ "เทิดทูนจักรพรรดิ ขับคนป่าเถื่อน" ("ซนโนโจอิ") และผสมด้วยความกล้วว่าโชกุนผู้นี้จะเป็นเหมือนดั่ง "กำเนิดใหม่ของอิเอยาซุ" ซึ่งจะช่วงชิงอำนาจจากจักรพรรดิสืบต่อไป ทั้งหมดจึงร่วมกันปฏิบัติการเพื่อนำมาซึ่งจุดจบของระบอบโชกุน แม้ว่าเป้าหมายในบั้นปลายของแต่ละฝ่ายจะแตกต่างกันก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แคว้นโทซะซึ่งมีแนวคิดทางการเมืองสายกลางมากกว่าอีกสองแคว้น ได้เสนอการประนีประนอมโดยให้โชกุนโยชิโนบุยอมสละตำแหน่งของตนเสีย แต่ยังคงให้สิทธิเป็นประธานสภาปกครองประเทศชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นอันประกอบด้วยไดเมียวจากแคว้นต่างๆ ในที่สุดแล้ว ไดเมียวแห่งโทซะ พร้อมด้วย ผู้เป็นที่ปรึกษาคนสนิท ก็ได้เรียกร้องให้โยชิโนบุลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้แนวทางดังกล่าวมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
โยชิโนบุได้สละตำแหน่งในปลายปีค.ศ. 1867 ยังผลคือการถวายอำนาจการปกครองบ้านเมืองคืนแก่จักรพรรดิอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจึงมีการถอนกำลังรบของรัฐบาลโชกุนจากนครหลวงเกียวโตมาประจำอยู่ที่เมืองโอซะกะ อย่างไรก็ตาม แคว้นซัตสึมะและแคว้นโจชูถึงแม้จะสนับสนุนการจัดตั้งสภาไดเมียว แต่ก็คัดค้านในการให้โยชิโนบุขึ้นเป็นประธานสภาดังกล่าว ทั้งสองแคว้นได้รับราชโองการลับจากจักรพรรดิ ให้ใช้กำลังในการต่อต้านโยชิโนบุ (ซึ่งภายหลังได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นการปลอมเอกสาร) และเคลื่อนกำลังพลจำนวนมากของทั้งสองแคว้นเข้าสู่กรุงเกียวโต มีการเรียกประชุมโดยฝ่ายราชสำนักเกิดขึ้น เพื่อริบยศศักดิ์และที่ดินทั้งหมดของโยชิโนบุ ถึงแม้ว่าจะไม่มีปฏิกิริยาใดที่อาจตีความได้ว่าฝ่ายโยชิโนบุจะทำความผิดหรือก่อความรุนแรงก็ตาม สำหรับผู้ที่คัดค้านการประชุมดังกล่าวก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประชุมด้วย โยชิโนบุแสดงท่าทีคัดค้านและร่างหนังสือประท้วงเพื่อจะนำส่งไปยังราชสำนัก ด้วยการร้องขอของบริวารจากแคว้นไอสึ แคว้นคุนะวะ และแคว้นอื่นๆ รวมทั้งผู้ที่เห็นด้วยส่วนน้อยนิดจากซัตสึมะและโจชู โยชิโนบุได้เคลื่อนพลจำนวนมากไปกับตนเพื่อนำหนังสือดังกล่าวไปสู่ราชสำนัก
เมื่อกองทัพโทกูงาวะมาถึงนอกนครหลวงเกียวโต ขบวนทัพทั้งหมดถูกยับยั้งไม่ให้เข้ามาในเขตพระนครหลวงและถูกโจมตีโดยทัพของซัตสึมะและโจชู เปิดฉากการปะทะกันครั้งแรกของสงครามโบะชิงในยุทธการโทะบะ-ฟุชิมิ แม้กำลังของฝ่ายโทกูงาวะจะเหนือกว่า แต่โยชิโนบุได้ละทิ้งกองทัพของตนท่ามกลางการต่อสู้เมื่อตระหนักว่าฝ่ายซัตสึมะและโจชูต่อสู้ภายใต้ราชธวัชของพระจักรพรรดิ และหลบหนีไปยังนครเอโดะ เขาได้กักกันตนเองให้อยู่แต่ในที่พัก และนำส่งหนังสือยอมสวามิภักดิ์ถวายแก่พระจักรพรรดิ ข้อตกลงสันติภาพได้ถูกส่งมายังโยชิโนะบุผ่านทางทะยะสึ คะเมะโนะสุเกะ ประมุขผู้เยาว์แห่งสาขาหนึ่งของตระกูลโทกูงาวะ ผู้ซึ่งโยชิโนบุได้รับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและแต่งตั้งให้เป็นประมุขของตระกูลโทกูงาวะ ในวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1868 ปราสาทเอโดะได้ถูกส่งมอบแก่กองทัพในสมเด็จพระจักรพรรดิ และเมืองเอโดะทั้งเมืองได้ถูกเว้นจากการทำลายด้วยสงคราม
พร้อมกันกับคะเมะโนะสุเกะ (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โทกูงาวะ อิเอซาโตะ") โยชิโนบุได้ย้ายไปอยู่ที่ชิซูโอกะ ซึ่งเป็นถิ่นฐานที่โทกูงาวะ อิเอยาซุ ผู้สถาปนารัฐบาลเอโดะใช้ชีวิตหลังออกจากตำแหน่งโชกุนเมื่อหลายศตวรรษก่อน อิเอซาโตะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไดเมียวแห่งแคว้นชิซูโอกะ แต่ในอีกไม่กี่ปีต่อมาก็สูญเสียฐานะดังกล่าวไป เนื่องจากระบบแว่นแคว้นและระบบศักดินาแบบดั้งเดิมทั้งหมดถูกรัฐบาลเมจิยกเลิก
(ซามูไรผู้ขึ้นตรงต่อโชกุน) จำนวนมาก ได้ย้ายติดตามโยชิโนบุมาตั้งถิ่นฐานที่ชิซูโอกะด้วย แต่ด้วยจำนวนฮาตาโมโตะที่มีมาก ทำให้โยชิโนบุไม่สามารถหารายได้มาดูแลคนเหล่านี้ได้เพียงพอ ผลก็คือมีฮาตาโมโตะจำนวนมากที่เกลียดชังโยชิโนบุ บางส่วนส่วนถึงขนาดต้องการจะเอาชีวิตเขาด้วยก็มี โยชิโนบุระมัดระวังตัวเองในเรื่องนี้และหวาดกลัวต่อการลอบสังหาร จนต้องคอยสลับตารางเวลานอนของตนเอง เพื่อสร้างความสับสนแก่บรรดามือสังหารที่อาจเข้ามาฆ่าตนได้ทุกเมื่อ
ภายหลังโยชิโนบุและครอบครัวทั้งหมด ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เอโดะ (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นกรุงโตเกียว) ในปีค.ศ. 1897 ตราบจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
ปัจฉิมวัย
หลังการเกษียณตัวเองจากตำแหน่งทางการเมือง โยชิโนบุได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ โดยไม่เปิดเผยตัวแก่สาธารณะ และทุ่มเทกับการทำงานอดิเรกต่างๆ เช่น การวาดภาพสีน้ำมัน ยิงธนู ล่าสัตว์ ถ่ายรูป หรือขี่จักรยาน รูปถ่ายบางส่วนของเขาเพิ่งจะได้รับการตีพิมพ์เมื่อไม่กี่ปีมานี้จาก ผู้เป็นทายาทชั้นเหลนของโยชิโนบุ
ในปีค.ศ. 1902 จักรพรรดิเมจิได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้โยชิโนบุตั้งตระกูลของตนขึ้นใหม่ในฐานะตระกูลสาขาของตระกูลโทกูงาวะ โดยได้รับพระราชทานยศเจ้าขุนนางชั้นสูงสุดคือ ชั้นโคชะคุ (เทียบเท่ากับคำว่า Prince หรือเจ้าชายในภาษาอังกฤษ) เพื่อเป็นบำเหน็จแก่การรับใช้ชาติญี่ปุ่นด้วยความภักดีของโยชิโนบุ
โทกูงาวะ โยชิโนบุ ได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1913 เวลา 16:10 น. ในรัชสมัยของจักรพรรดิไทโช ร่างของเขาได้รับการฝังไว้ที่ กรุงโตเกียว
บุตรีคนที่ 9 ของโยชิโนบุ คือ "โทกูงาวะ สึเนโกะ" (ค.ศ. 1882 – 1939) ได้อภิเษกสมรสกับจอมพลเรือ เจ้าชายฮิโรยาซุ เจ้าฟูชิมิ (เป็นพระญาติชั้นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่สองของจักรพรรดิโชวะและจักรพรรดินีโคจุง และเป็นพระนัดดาของเจ้าชายโคโตฮิโตะ เจ้าคังอิน) เมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1896
เกียรติยศ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย (Order of the Rising Sun) ชั้นที่ 1 Grand Cordon, ค.ศ. 1908.
ศักราชในยุครัฐบาลของโยชิโนบุ
- ศักราชเคโอ รัชกาลจักรพรรดิโคเม (1865–1868)
- ศักราชเมจิ รัชกาลจักรพรรดิเมจิ (1868–1912)
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- Takano, Tokugawa Yoshinobu, p. 26. Sons of the lord of Mito did not bear the name Tokugawa unless they themselves became the next lord.
- Tokugawa, Tokugawa yonbyakunen no naishobanashi, pp. 138-140.
- Takano, p. 28.
- Takano, p. 38.
- Takano, p. 48.
- Borton, Japan's Modern Century, p. 40.
- Borton, pp. 39-40.
- Takano, pp. 12-13.
- Murray, Japan, p. 362; Kobiyama, Matsudaira Katamori no shōgai, p. 75; Bolitho, Collapse of the Tokugawa Bakufu, p. 9.
- Kobiyama, p. 75.
- Takano, pp. 132-133.
- Kobiyama, pp. 84-87; Totman, p. 45; Takano, p. 20.
- See Japan 1853-1864, Or, Genji Yume Monogatari, trans. by Ernest Mason Satow. (Tokyo: Naigai Shuppan Kyokai), for more.
- Borton, p. 63.
- Tokugawa, Tokugawa yonbyakunen no naishobanashi, vol. 2, p. 162.
- Sims, French Policy Towards the Bakufu and Meiji Japan, 1854-95, p. 236.
- Treat, Japan and the United States: 1853-1921, p. 89
- Beasley, The History of Modern Japan, p. 96.
- Takano, p. 256.
- Yamakawa, Aizu Boshin Senshi, pp. 7-9.
- Beasley, p. 97.
- Beasley, p. 97; Yamakawa, Aizu Boshin Senshi, p. 148-151.
- Totman, p. 416. For a copy of the original text of the message, see Yamakawa, pp. 89-90.
- Totman, p. 417.
- Sasaki, pp. 23-24; Bolitho, pp. 420-422.
- Kobiyama, p. 124.
- Griffis, The Mikado: Institution and Person, p. 141.
- Takano, p. 267.
- Tokyo, an administrative perspective. Tokyo Metropolitan Government. 1958. p. 21. สืบค้นเมื่อ 9 April 2011.
- Tokugawa Munefusa, Tokugawa yonbyakunen no naisho banashi, vol. 1, p. 131
- Tokugawa, pp. 131-133
- Tokugawa, p. 136-138.
- For an example of Yoshinobu's photography, see: Tokugawa Yoshitomo, Tokugawa Yoshinobu-ke e yōkoso, p. 73.
- Takano, p. 273.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-02. สืบค้นเมื่อ 2011-05-26.
อ้างอิง
- (1963). The modern history of Japan. (New York: Praeger).
- Borton, Hugh (1955). Japan's Modern Century. (New York: The Ronald Press Company).
- . (1915). The Mikado: Institution and Person. (Princeton: Princeton University Press).
- Kobiyama Rokurō (2003). Matsudaira Katamori no shōgai. (Tokyo: Shin Jinbutsu Ōraisha).
- Murray, David (1905). Japan. (New York: G.P. Putnam's Sons).
- Sasaki Suguru (1977). Boshin sensō. (Tokyo: Chūōkōron-shinsha).
- Sims, Richard L. (1998). French Policy Towards the Bakufu and Meiji Japan, 1854-95. (London: Routledge).
- Takano Kiyoshi 高野澄 (1997). Tokugawa Yoshinobu: kindai Nihon no enshutsusha 德川慶喜 : 近代日本の演出者. (Tokyo: Nihon Hōsō Shuppan Kyōkai 日本放送出版協会).
- Tokugawa Munefusa 徳川宗英 (2004). Tokugawa Yonhyaku-nen no naisho-banashi 徳川四百年の内緒話 Vol. 1. (Tokyo: Bungei-shunju).
- Tokugawa Munefusa 徳川宗英 (2004). Tokugawa Yonhyaku-nen no naisho-banashi 徳川四百年の内緒話 Vol. 2: Raibaru tekishō hen. (Tokyo: Bungei-shunju).
- 徳川慶朝 (2003). Tokugawa Yoshinobu-ke ni Yōkoso: Wagaya ni tsutawaru aisubeki "Saigo no Shogun" no Yokogao 徳川慶喜家にようこそ わが家に伝わる愛すべき「最後の将軍」の横顔. (Tokyo: Bungei-shunju).
- Totman, Conrad (1980). The Collapse of the Tokugawa Bakufu, 1862-1868. (Honolulu: University of Hawai'i Press)
- Treat, Payson J. (1921). Japan and the United States: 1853-1921. (New York: Houghton Mifflin Company).
- (1933). Aizu Boshin Senshi. (Tokyo: Tokyo Daigaku Shuppankai).
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
- Matsuura Rei 松浦玲 (1975). Tokugawa Yoshinobu: shōgun-ke no Meiji-ishin 德川慶喜 : 将軍家の明治維新. (Tokyo: Chūōkōronsha 中央公論社).
- , trans. (1905). Japan 1853-1864, Or, Genji Yume Monogatari. (Tokyo: Naigai Shuppan Kyokai).
- 渋沢栄一, ed. (1967–1968) Tokugawa Yoshinobu-kō den 德川慶喜公伝. (Tokyo: Heibonsha 平凡社).
นวนิยาย:
- Shiba, Ryōtarō (1998). The Last Shogun: The Life of Tokugawa Yoshinobu, trans. Juliet Winters Carpenter. (New York: Kodansha International).
ก่อนหน้า | โทกูงาวะ โยชิโนบุ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
โทกูงาวะ อิเอโมจิ | โชกุนแห่งเอโดะรัฐบาล (ค.ศ. 1866 – 1867) | ยกเลิกตำแหน่งโชกุน | ||
โทกูงาวะ โชมะรุ | ประมุขแห่งตระกูลโทกูงาวะ สายฮิโตะสึบาชิ (ค.ศ. 1847 – 1866) | โทกูงาวะ โมจิฮะรุ | ||
โทกูงาวะ อิเอโมจิ | ประมุขแห่งตระกูลโทกูงาวะ (ค.ศ. 1867 – 1868) | โทกูงาวะ อิเอซาโตะ | ||
ไม่มี (ตั้งสกุลใหม่) | ประมุขแห่งโทกูงาวะ โยชิโนบุ-เคะ (ค.ศ. 1867 – 1868) | โทกูงาวะ โยะชิฮิซะ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
inchuxbukhkhlyipunninamskulkhux othkungawa bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha othkungawa oychionbu 徳川慶喜othkungawa oychionbu kh s 1867ochkunaehngexodadarngtaaehnng 29 s kh 1866 19 ph y 1867kstriyckrphrrdiokhem ckrphrrdiemcikxnhnaothkungawa xiexomcithdipsinsudkhxmulswnbukhkhlekid28 tulakhm kh s 1837 1837 10 28 exoda yipunesiychiwitphvscikayn 22 1913 1913 11 22 76 pi ekhtbungekiyw otekiyw ckrwrrdiyipunothkungawa oychionbuchuxphasayipunkhnci徳川 慶喜hiranganaとくがわ よしのぶkarthxdesiyngormaciTokugawa Yoshinobu othkungawa oychionbu yipun 徳川 慶喜 とくがわ よしのぶ ormaci Tokugawa Yoshinobu samarthxanidxikxyangwa othkungawa ekhki Tokugawa Keiki 28 tulakhm kh s 1837 22 phvscikayn kh s 1913 epnochkunladbthi 15 aelaochkunkhnsudthaykhxngrthbalexodaaehngpraethsyipun oychionbuepnphumibthbathsakhyinrthbalexodamahlaysmy aelaidekhluxnihwephuxptiruprthbalochkunsungkalngxyuinphawaesuxmthxy aetcblngdwykhwamlmehlwxyangrunaerngying phayhlngemuxslataaehnngaelathwayxanackhxngochkunkhunaekckrphrrdiemciaelw oychionbuideksiyntnexngaelaichchiwitodyhlbeliyngcaksaytakhxngsatharnchntlxdchwngchiwitthiehluxxyu cnkrathngesiychiwitdwywy 76 pi nbwaepnochkunphumixayuyunthisudinprawtisastryipunpthmwyothkungawa oychionbu inwyedk khnannichchuxwa masuidra chiciorma othkungawa oychionbu ekidxyuthinkhrexoda otekiyw odyepnbutrkhnthi 7 khxng idemiywaehng sungaekhwnninbepn 1 in 3 saytrakulsakhykhxngtrakulothkungawa sungmisiththithicaidrbeluxkihkhunsubthxdtaaehnngochkun emuxaerkekidnn oychionbuichchuxwa masuidra chiciorma aelaidrbkarxbrmeliyngduihniymkarthharxyangekhmngwd ekhaidrbkarsngsxninwichaxksrsastraelasilpakarpxngkntw tlxdcnthungkarsuksahlkwicharthsastraelakarpkkhrxngtamthrrmeniymdngedim dwykarsngesrimkhxngphuepnbida chiciormacungidrbkaryxmrbepnbutrbuythrrmkhxng xnepntrakulsakhyhnungtrakulhnungkhxngtrakulothkungawa ephuxihmioxkasthicaidrbeluxkihsubthxdtaaehnngochkunidmakyingkhun ekhaidxyuintaaehnngkhxngphunatrakulinpikh s 1847 phrxmthngidrbysaelarachthinnamcakrachsank aelaidrbkarepliynchuxepn oychionbu txmaemuxothkungawa xiexsada ochkunladbthi 13 idesiychiwitlnginpikh s 1858 oychionbucungidthukesnxchuxinthanakhxngphusubthxdphumiskyphaphinkardarngtaaehnngdngklaw sungbrrdaphusnbsnunkhxngekhathukonmnawicdwykhwamsamarthaelaprasiththiphaphinkarcdkarekiywkbkickartang phayintrakul xyangirktam faytrngkarkhamphayitkarnakhxng klbepnfaychna othkungawa oyachiotami sungepnphuthukesnxchuxkhxngfaydngklawidthukeluxkihdarngtaaehnngochkunkhnthi 14 inchux othkungawa xiexomci hlngcaknnimnan khnathikalngekid oychionbuphrxmthngbrrdaphusnbsnunkthuklngothsdwykarkktwinbanphkpracaaekhwnthinkhrexoda twoychionbuexngkthukthxdcakthanaphunakhxngtrakulhiotasubachidwy yukhaehngkarsaercrachkaraethnochkunkhxngithor epnthicdcacakkarbriharnoybaythiphidphladaelakartxsuthangkaremuxngxyangdueduxd hlngkarlxbsngharxithiinpikh s 1860 oychionbukidrbkhunthanaphunatrakulhiotasubachixikkhrng aelaidrbkaresnxchuxihepnphuduaelochkun yipun 将軍後見職 ormaci shōgun atomi shoku thbsphth ochngung xaotami ochakhu inpikh s 1862 aelaidrbkaraetngtngphayinrayaewlaxnsn inchwngewlaediywknnexng phnthmitrthiiklchidoychionbu 2 khn khux aelamasuidra khataomari kidrbkaraetngtngihxyuintaaehnngradbsungechnkn odyoyachinangaidepnhwhnafaykickarkaremuxng yipun 政治総裁職 ormaci seiji sōsai shoku thbsphth esyi osis ochakhu swnkhataomarixyuintaaehnngphuphithksphrankhrekiywot yipun 京都守護職 ormaci Kyoto Shugoshoku thbsphth ekiywotchuongaochakhu inewlatxmaburusthngsamni idmibthbathxyangyinginkarprabpramehtuimsngbthangkaremuxnginkrungekiywot aelarwbrwmphnthmitrtang ephuxtxtankickrrmkhxngfaykbtcakaekhwnocchu nxkcaknithngsamyngepnbukhkhlsakhyinklumkaremuxngaenwthang prasanrachsankkbrthbal sungphyayamhathangthaihrachsankkbrthbalochkunprxngdxngkndwykaraetngnganthangkaremuxng inpikh s 1864 oychionbuinthanaphubychakarkxngthharlxmwng prasbkhwamsaercinkarkhbilkxngkalngkhxngaekhwnocchusungphyayamyudkhrxngkhxngphrarachwnghlwngthiekiywot ptibtikardngklawsaerclngiddwykarichkalngthharcakphnthmitrrahwangkbaekhwnstsumadarngtaaehnngochkunochkun othkungawa oychionbukhnathutthharfrngess sungothkungawa oychionbu idechiyihekhamachwyprbprungkxngthphrthbalochkunihepnkxngthphsmyihmin kh s 1867 hlngmrnkrrmkhxngochkunothkungawa xiexomci xyangkathnhninpikh s 1866 oychionbuthukeluxkihkhunsubthxdtaaehnngepnochkunladbthi 15 ekhaepnochkuntrakulothkungawaephiyngkhnediywthidarngtaaehnngxyunxknkhrexoda ephraaekhacaimmioxkasidehyiybyangsuprasathexodaelytlxdsmyaehngkarepnochkun thnthithioychionbuidkawkhundarngtaaehnng karepliynaeplngkhrngihykiderimkhun mikarptiruprthbalochkunkhrngihyephuxesrimkhwammnkhngaekhngaekrngihkbrthbal odyechphaaxyangyingkarrbkhwamchwyehluxcakckrwrrdifrngessthi 2 inkarsrangornghlxpunihythiemuxngoyoksuka phayitkarxanwykarkhxng Leonce Verny aelabrrdaphutidtamcakkhnathutthharfrngess ephuxprbprungkxngthphkhxngrthbalhruxrthbalochkunihmikhwamthnsmy kxngthphaehngchatithngkxngthphbkaelakxngthpherux sungrthbalochkuniddaeninkarcdtngmakxnxyuaelw kidrbkaresrimkalngodykhwamchwyehluxkhxngfrngess aelakarcdsuxxawuthcakshrth nksngektkarncanwnmakmxngwarthbalexodakalngwangrakthanipsukarprbprungthankalngaelaxanac xyangirktam kardaeninkardngklawcalmehlwlnginewlaephiyngimthunghnungpisngkhramobachingothkungawa oychionbu inekhruxngaebbnaythharfrngess kh s 1867 dwykhwamhwadklwtxkaresrimkhwammnkhngkhxngrthbalochkunphayitphunathiekhmaekhngaelaechliywchlad samuircakaekhwnstsuma aekhwnocchu aelaaekhwnothsa idrwmklumepnphnthmitrtxtanrthbalihm phayitkhakhwy ethidthunckrphrrdi khbkhnpaethuxn snonocxi aelaphsmdwykhwamklwwaochkunphunicaepnehmuxndng kaenidihmkhxngxiexyasu sungcachwngchingxanaccakckrphrrdisubtxip thnghmdcungrwmknptibtikarephuxnamasungcudcbkhxngrabxbochkun aemwaepahmayinbnplaykhxngaetlafaycaaetktangknktam odyechphaaxyangying aekhwnothsasungmiaenwkhidthangkaremuxngsayklangmakkwaxiksxngaekhwn idesnxkarpranipranxmodyihochkunoychionbuyxmslataaehnngkhxngtnesiy aetyngkhngihsiththiepnprathansphapkkhrxngpraethschudihmthicatngkhunxnprakxbdwyidemiywcakaekhwntang inthisudaelw idemiywaehngothsa phrxmdwy phuepnthipruksakhnsnith kideriykrxngihoychionbulaxxkcaktaaehnng ephuxihaenwthangdngklawmikhwamepnipidinthangptibti othkungawa oychionbu bychakarkarrbephuxpxngknprasathoxsakainchwngsngkhramobaching kh s 1868 phaphekhiynraw kh s 1870 emuxtrahnkwafaystruykthphmaphrxmdwyrachthwchkhxngckrphrrdi othkungawa oychionbu idtdsiniclathingprasathoxsakaaelahlbhniklbmayngnkhrexaod phaphekhiynraw kh s 1870 oychionbuidslataaehnnginplaypikh s 1867 yngphlkhuxkarthwayxanackarpkkhrxngbanemuxngkhunaekckrphrrdixyangepnthangkar hlngcaknncungmikarthxnkalngrbkhxngrthbalochkuncaknkhrhlwngekiywotmapracaxyuthiemuxngoxsaka xyangirktam aekhwnstsumaaelaaekhwnocchuthungaemcasnbsnunkarcdtngsphaidemiyw aetkkhdkhaninkarihoychionbukhunepnprathansphadngklaw thngsxngaekhwnidrbrachoxngkarlbcakckrphrrdi ihichkalnginkartxtanoychionbu sungphayhlngidmikarphisucnwaepnkarplxmexksar aelaekhluxnkalngphlcanwnmakkhxngthngsxngaekhwnekhasukrungekiywot mikareriykprachumodyfayrachsankekidkhun ephuxribysskdiaelathidinthnghmdkhxngoychionbu thungaemwacaimmiptikiriyaidthixactikhwamidwafayoychionbucathakhwamphidhruxkxkhwamrunaerngktam sahrbphuthikhdkhankarprachumdngklawkthukkidknimihekharwmprachumdwy oychionbuaesdngthathikhdkhanaelaranghnngsuxprathwngephuxcanasngipyngrachsank dwykarrxngkhxkhxngbriwarcakaekhwnixsu aekhwnkhunawa aelaaekhwnxun rwmthngphuthiehndwyswnnxynidcakstsumaaelaocchu oychionbuidekhluxnphlcanwnmakipkbtnephuxnahnngsuxdngklawipsurachsank emuxkxngthphothkungawamathungnxknkhrhlwngekiywot khbwnthphthnghmdthukybyngimihekhamainekhtphrankhrhlwngaelathukocmtiodythphkhxngstsumaaelaocchu epidchakkarpathaknkhrngaerkkhxngsngkhramobachinginyuththkarothaba fuchimi aemkalngkhxngfayothkungawacaehnuxkwa aetoychionbuidlathingkxngthphkhxngtnthamklangkartxsuemuxtrahnkwafaystsumaaelaocchutxsuphayitrachthwchkhxngphrackrphrrdi aelahlbhniipyngnkhrexoda ekhaidkkkntnexngihxyuaetinthiphk aelanasnghnngsuxyxmswamiphkdithwayaekphrackrphrrdi khxtklngsntiphaphidthuksngmayngoychionabuphanthangthayasu khaemaonasueka pramukhphueyawaehngsakhahnungkhxngtrakulothkungawa phusungoychionbuidrbeliyngepnbutrbuythrrmaelaaetngtngihepnpramukhkhxngtrakulothkungawa inwnthi 11 emsayn kh s 1868 prasathexodaidthuksngmxbaekkxngthphinsmedcphrackrphrrdi aelaemuxngexodathngemuxngidthukewncakkarthalaydwysngkhram phrxmknkbkhaemaonasueka phayhlngidepliynchuxepn othkungawa xiexsaota oychionbuidyayipxyuthichisuoxka sungepnthinthanthiothkungawa xiexyasu phusthapnarthbalexodaichchiwithlngxxkcaktaaehnngochkunemuxhlaystwrrskxn xiexsaotaidrbkaraetngtngihepnidemiywaehngaekhwnchisuoxka aetinxikimkipitxmaksuyesiythanadngklawip enuxngcakrabbaewnaekhwnaelarabbskdinaaebbdngedimthnghmdthukrthbalemciykelik samuirphukhuntrngtxochkun canwnmak idyaytidtamoychionbumatngthinthanthichisuoxkadwy aetdwycanwnhataomotathimimak thaihoychionbuimsamarthharayidmaduaelkhnehlaniidephiyngphx phlkkhuxmihataomotacanwnmakthiekliydchngoychionbu bangswnswnthungkhnadtxngkarcaexachiwitekhadwykmi oychionburamdrawngtwexngineruxngniaelahwadklwtxkarlxbsnghar cntxngkhxyslbtarangewlanxnkhxngtnexng ephuxsrangkhwamsbsnaekbrrdamuxsngharthixacekhamakhatnidthukemux phayhlngoychionbuaelakhrxbkhrwthnghmd idyayklbmaxyuthiexoda sungepliynchuxepnkrungotekiyw inpikh s 1897 trabcnthungwnsudthaykhxngchiwitpcchimwyothkungawa oychionbu inchwngpcchimwy hlngkareksiyntwexngcaktaaehnngthangkaremuxng oychionbuidichchiwitxyangsngb odyimepidephytwaeksatharna aelathumethkbkarthanganxdierktang echn karwadphaphsinamn yingthnu lastw thayrup hruxkhickryan rupthaybangswnkhxngekhaephingcaidrbkartiphimphemuximkipimanicak phuepnthayathchnehlnkhxngoychionbu inpikh s 1902 ckrphrrdiemciidphrarachthanphrabrmrachanuyatihoychionbutngtrakulkhxngtnkhunihminthanatrakulsakhakhxngtrakulothkungawa odyidrbphrarachthanysecakhunnangchnsungsudkhux chnokhchakhu ethiybethakbkhawa Prince hruxecachayinphasaxngkvs ephuxepnbaehncaekkarrbichchatiyipundwykhwamphkdikhxngoychionbu othkungawa oychionbu idthungaekxsykrrmemuxwnthi 24 phvscikayn kh s 1913 ewla 16 10 n inrchsmykhxngckrphrrdiithoch rangkhxngekhaidrbkarfngiwthi krungotekiyw butrikhnthi 9 khxngoychionbu khux othkungawa suenoka kh s 1882 1939 idxphiesksmrskbcxmphlerux ecachayhioryasu ecafuchimi epnphrayatichnlukphiluknxngchnthisxngkhxngckrphrrdiochwaaelackrphrrdiniokhcung aelaepnphranddakhxngecachayokhothiota ecakhngxin emuxwnthi 9 mkrakhm kh s 1896ekiyrtiysekhruxngrachxisriyaphrnxathityxuthy Order of the Rising Sun chnthi 1 Grand Cordon kh s 1908 skrachinyukhrthbalkhxngoychionbuskrachekhox rchkalckrphrrdiokhem 1865 1868 skrachemci rchkalckrphrrdiemci 1868 1912 duephimbakumtsu karptirupemciechingxrrthTakano Tokugawa Yoshinobu p 26 Sons of the lord of Mito did not bear the name Tokugawa unless they themselves became the next lord Tokugawa Tokugawa yonbyakunen no naishobanashi pp 138 140 Takano p 28 Takano p 38 Takano p 48 Borton Japan s Modern Century p 40 Borton pp 39 40 Takano pp 12 13 Murray Japan p 362 Kobiyama Matsudaira Katamori no shōgai p 75 Bolitho Collapse of the Tokugawa Bakufu p 9 Kobiyama p 75 Takano pp 132 133 Kobiyama pp 84 87 Totman p 45 Takano p 20 See Japan 1853 1864 Or Genji Yume Monogatari trans by Ernest Mason Satow Tokyo Naigai Shuppan Kyokai for more Borton p 63 Tokugawa Tokugawa yonbyakunen no naishobanashi vol 2 p 162 Sims French Policy Towards the Bakufu and Meiji Japan 1854 95 p 236 Treat Japan and the United States 1853 1921 p 89 Beasley The History of Modern Japan p 96 Takano p 256 Yamakawa Aizu Boshin Senshi pp 7 9 Beasley p 97 Beasley p 97 Yamakawa Aizu Boshin Senshi p 148 151 Totman p 416 For a copy of the original text of the message see Yamakawa pp 89 90 Totman p 417 Sasaki pp 23 24 Bolitho pp 420 422 Kobiyama p 124 Griffis The Mikado Institution and Person p 141 Takano p 267 Tokyo an administrative perspective Tokyo Metropolitan Government 1958 p 21 subkhnemux 9 April 2011 Tokugawa Munefusa Tokugawa yonbyakunen no naisho banashi vol 1 p 131 Tokugawa pp 131 133 Tokugawa p 136 138 For an example of Yoshinobu s photography see Tokugawa Yoshitomo Tokugawa Yoshinobu ke e yōkoso p 73 Takano p 273 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 12 02 subkhnemux 2011 05 26 xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb othkungawa oychionbu sthaniyxypraethsyipunsthaniyxyprawtisastr 1963 The modern history of Japan New York Praeger Borton Hugh 1955 Japan s Modern Century New York The Ronald Press Company 1915 The Mikado Institution and Person Princeton Princeton University Press Kobiyama Rokurō 2003 Matsudaira Katamori no shōgai Tokyo Shin Jinbutsu Ōraisha Murray David 1905 Japan New York G P Putnam s Sons Sasaki Suguru 1977 Boshin sensō Tokyo Chuōkōron shinsha Sims Richard L 1998 French Policy Towards the Bakufu and Meiji Japan 1854 95 London Routledge Takano Kiyoshi 高野澄 1997 Tokugawa Yoshinobu kindai Nihon no enshutsusha 德川慶喜 近代日本の演出者 Tokyo Nihon Hōsō Shuppan Kyōkai 日本放送出版協会 Tokugawa Munefusa 徳川宗英 2004 Tokugawa Yonhyaku nen no naisho banashi 徳川四百年の内緒話 Vol 1 Tokyo Bungei shunju Tokugawa Munefusa 徳川宗英 2004 Tokugawa Yonhyaku nen no naisho banashi 徳川四百年の内緒話 Vol 2 Raibaru tekishō hen Tokyo Bungei shunju 徳川慶朝 2003 Tokugawa Yoshinobu ke ni Yōkoso Wagaya ni tsutawaru aisubeki Saigo no Shogun no Yokogao 徳川慶喜家にようこそ わが家に伝わる愛すべき 最後の将軍 の横顔 Tokyo Bungei shunju ISBN 4 16 765680 9 Totman Conrad 1980 The Collapse of the Tokugawa Bakufu 1862 1868 Honolulu University of Hawai i Press Treat Payson J 1921 Japan and the United States 1853 1921 New York Houghton Mifflin Company 1933 Aizu Boshin Senshi Tokyo Tokyo Daigaku Shuppankai hnngsuxxanephimetim Matsuura Rei 松浦玲 1975 Tokugawa Yoshinobu shōgun ke no Meiji ishin 德川慶喜 将軍家の明治維新 Tokyo Chuōkōronsha 中央公論社 trans 1905 Japan 1853 1864 Or Genji Yume Monogatari Tokyo Naigai Shuppan Kyokai 渋沢栄一 ed 1967 1968 Tokugawa Yoshinobu kō den 德川慶喜公伝 Tokyo Heibonsha 平凡社 nwniyay Shiba Ryōtarō 1998 The Last Shogun The Life of Tokugawa Yoshinobu trans Juliet Winters Carpenter New York Kodansha International ISBN 1 56836 246 3kxnhna othkungawa oychionbu thdipothkungawa xiexomci ochkunaehngexodarthbal kh s 1866 1867 ykeliktaaehnngochkunothkungawa ochmaru pramukhaehngtrakulothkungawa sayhiotasubachi kh s 1847 1866 othkungawa omciharuothkungawa xiexomci pramukhaehngtrakulothkungawa kh s 1867 1868 othkungawa xiexsaotaimmi tngskulihm pramukhaehngothkungawa oychionbu ekha kh s 1867 1868 othkungawa oyachihisa