บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พลเอก ฮิเดกิ โทโจ (ญี่ปุ่น: 東條英機 หรือ 東条 英機) เป็นรัฐบุรุษและทหารบกในกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ผู้นำของ และเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่ 27 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองกำลังระอุมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1941 - 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 เขาได้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีจากการปฏิบัติหน้าที่ของเขาในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสงคราม ดังเช่นที่มีส่วนรับผิดชอบในการออกคำสั่งให้โจมตีที่เพิร์ลฮาร์เบอร์และการทำสงครามอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของสงครามระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา แม้ว่าการวางแผนได้เริ่มต้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1941 ก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่ง ภายหลังสงครามยุติลง, โทโจถูกจับกุม ตั้งข้อกล่าวหา และตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิตสำหรับข้อหาอาญากรรมสงครามโดยศาลทหารระหว่างประเทศสำหรับตะวันออกไกล และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1948
ฮิเดกิ โทโจ | |
---|---|
東條 英機 | |
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น | |
ดำรงตำแหน่ง 17 ตุลาคม ค.ศ. 1941 – 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิโชวะ |
ก่อนหน้า | ฟูมิมาโระ โคโนเอะ |
ถัดไป | คูนิอากิ โคอิโซะ |
รัฐมนตรีกระทรวงการสงคราม | |
ดำรงตำแหน่ง 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 – 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิโชวะ |
นายกรัฐมนตรี | ฟูมิมาโระ โคโนเอะ (1940–1941) ตัวเขาเอง (1941–1944) |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
เสนาธิการทหารบกจักรวรรดิญี่ปุ่น | |
ดำรงตำแหน่ง 21 กุมภาพันธ์ – 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 | |
นายกรัฐมนตรี | ตัวเอง |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 30 ธันวาคม ค.ศ. 1884 กรุงโตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น |
เสียชีวิต | ธันวาคม 23, 1948 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | (63 ปี)
สาเหตุการเสียชีวิต | ประหารชีวิตด้วยการเเขวนคอ |
ศาสนา | ชินโต |
พรรคการเมือง | (1940–1945) |
คู่สมรส | คาสึโกะ อิโต (สมรส 1909–1948) |
บุพการี |
|
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ญี่ปุ่น |
สังกัด | กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น |
ยศ | พลเอก |
บังคับบัญชา | กองทัพคันโต (1932–1934) |
สงคราม/การสู้รบ | |
ประวัติ
เกิดที่เมืองชานกรุงโตเกียวในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1884 เป็นบุตรคนที่สามของฮิเดโนริ โทโจ นายทหารในกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น มีตำแหน่งเป็นพลโท พี่ชายสองคนเสียชีวิตก่อนที่เขาจะเกิด ในขณะนั้นญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การปกครองในช่วงยุค (บากูฟุ) ซึ่งเป็นการปกครองโดยโชกุนแบบหนึ่ง สังคมญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นสี่วรรณะอย่างเหนียวแน่น พ่อค้า,ชาวนา,ช่างฝีมือและซามูไร หลังการฟื้นฟูเมจิ ระบบวรรณะนั้นถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 1871 แต่ความแตกต่างของวรรณะเดิมในหลาย ๆ ด้านยังคงมีอยู่หลังจากนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าพวกวรรณะซามูไรในอดีตยังคงเพลิดเพลินไปกับศักดิ์ศรีดั้งเดิมของตน ตระกูลโทโจมาจากวรรณะซามูไร แม้ว่าตระกูลโทโจนั้นค่อนข้างเป็นนักรบผู้ติดตามชั้นต่ำของ ไดเมียว (ขุนนาง) ที่พวกเขาได้รับใช้มาหลายชั่วอายุคน พ่อของโทโจเป็นซามูไรซึ่งต่อมาเปลี่ยนอาชีพเป็นนายทหารและแม่ของเขาเป็นลูกสาวของพระสงฆ์ในทำให้ครอบครัวของเขาน่านับถือมาก แต่มีฐานะยากจน
ฮิเดกิมีการศึกษาตามแบบฉบับของเยาวชนญี่ปุ่นในช่วงรัชสมัยจักรพรรดิเมจิหรือยุคเมจิ จุดประสงค์ของระบบการศึกษาของเมจิคือเพื่อปลูกฝังฝึกให้เด็กๆเข้าเป็นทหารเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่และข่าวสารโฆษณาชวนเชื่อถูกเจาะอย่างไม่ลดละไปสู่นักเรียนญี่ปุ่นว่าสงครามเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกว่าองค์พระจักรพรรดิเป็นเทพพระเจ้าที่มีชีวิตและยิ่งใหญ่ที่สุด เกียรติยศสำหรับคนญี่ปุ่นคือการตายเพื่อจักรพรรดิ ส่วนเด็กหญิงชาวญี่ปุ่นได้รับการสอนว่าเกียรติยศสูงสุดสำหรับผู้หญิงคือการมีลูกชายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะได้เป็นทหารและตายเพื่อจักรพรรดิในสงคราม ในฐานะที่เป็นเด็กผู้ชาย ฮิเดกิ โทโจเป็นที่รู้จักในเรื่องความดื้อรั้นไม่มีอารมณ์ขันเพราะเป็นเด็กที่มีความคิดดื้อดึงและมักจะหาเรื่องชวนต่อสู้หรือไม่ก็เข้าไปรังแกผู้อื่นอยู่เสมอ
ในปี ค.ศ. 1899 ฮิเดกิเข้าโรงเรียนนายร้อยทหารบกแห่งกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นและสำเร็จการศึกษาระดับที่ 17 จากโรงเรียนนายร้อยแห่งกองทัพกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1915 ในอันดับที่ 42 จากจำนวนนักเรียนนายร้อย 50 คน ได้รับแต่งตั้งยศร้อยตรี สังกัดทหารราบ
ต่อมาในปีเดียวกันเขาได้สำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดจาก Army War College จากนั้นในปี ค.ศ. 1919 เขาได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก บัญชาการกองร้อยทหารรักษาพระองค์ที่ 3 ต่อมาเขาได้ถูกส่งไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะทูตทหาร หลังจากกลับมาจากภารกิจ ในปี ค.ศ. 1920
เข้ารับราชการทหาร
ดำรงตำแหน่งพลตรี
ในปี ค.ศ. 1934 ฮิเดกิได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น พลตรี และทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกบุคคลภายในกระทรวงว่าการสงครามแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น โทโจได้เขียนบทความหนึ่งในหนังสือ ฮิโจจิ โคะคุมิน เซ็นชู (บทความในเวลาฉุกเฉินแห่งชาติ), หนังสือที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1934 โดยมีเนื้อหาเสนอและเรียกร้องให้กระทรวงทหารเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นให้กลายเป็นประเทศเผด็จการทหารและมีแนวความคิดลัทธิฟาสซิสต์แพร่ในหนังสือ นอกจากนี้โทโจยังได้มีแนวคิดที่ชื่นชมแสนยานุภาพของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่มีชัยชนะเหนือรัสเซียในสงครามปี 1904–05 หรือ สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นนับถือลัทธิบูชิโดซึ่งมอบเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าของญี่ปุ่นในขณะที่ญี่ปุ่นไม่กลัวความตายเหมือนชาวรัสเซียที่ขี้ขลาดและต้องการมีชีวิตอยู่ โทโจเห็นว่าญี่ปุ่นยังคงต้องทำสงครามอีกต่อไปที่ ซึ่งจะต้องระดมกำลังพลทั้งประเทศเพื่อทำสงคราม
โทโจได้กล่าวหาโจมตีเหล่าชาติตะวันตก ได้แก่ประเทศอังกฤษ, ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาที่เป็นคู่แข่งและแอบทำ "สงครามอุดมการณ์" กับญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1919 โทโจได้เขียนสนับสนุนจบการเขียนบทความของเขาโดยระบุว่าญี่ปุ่นจะต้องยืนสูง ด้วยวิธีการขยายอำนาจอิทธิพลของจักรวรรดิญี่ปุ่นไปทั่วโลก ความคิดของเขายังทะเยอทะยานไปถึงการที่จักรวรรดิญี่ปุ่นต้องส่งทหารเข้าไปขับไล่เหล่าประเทศอาณานิคมของยุโรปตะวันตกออกไปและปลดปล่อยประเทศอาณานิคมในเอเชียให้เป็นอิสระ โดยแทรกความเป็นจักรวรรดิอาณานิคมญี่ปุ่นในเอเชียเข้าแทนที่ชาติตะวันตก มีการริเริ่มความคิดการก่อตั้งวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพาโดยให้ชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำชาวเอเชียปกครองชาวเอเชียด้วยกัน
ทำการรบในจีน
โทโจได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 24 ของกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1934
เมื่อเกิดกรณีมุกเดนซึ่งทำให้จักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศจีนและเข้ารุกรานยึดดินแดนแมนจูเรียมาได้สำเร็จ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1935 โทโจเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยตำรวจลับ "เค็นเปไต" สังกัดกองทัพคันโตของญี่ปุ่นในแมนจูเรีย ในทางการเมืองเขาเป็นฟาสซิสต์ชาตินิยมและนิยมทหารจนได้รับฉายาว่า (ญี่ปุ่น: "ใบมีดโกน"; โรมาจิ: カミソリ; : คะมิโซะริ) สำหรับชื่อเสียงของเขาที่มีจิตใจที่ดุดันโหดร้ายและสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเฉียบคม โทโจยังสมาชิกของกลุ่ม (ที่มีแนวความคิดแบบควบคุม) ซึ่งเป็นฝ่ายในกองทัพบกที่มีแนวคิดขัดแย้งอย่างรุนแรงกับกลุ่ม ("วิถีจักรวรรดิ") ทั้งกลุ่ม โทะเซะฮะ และ โคะโดะฮะ ในกองทัพมีความเข้มแข็งทางทหารแบบฟาสซิสต์ซึ่งนิยมใช้นโยบายการขยายอำนาจในการทำสงครามรุกรานดินแดนและมีความเป็นเผด็จการภายใต้ระบอบจักรพรรดิญี่ปุ่น แต่ทั้งสองกลุ่มมีความต่างกันในแนวความคิดและวิธีการในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ โดยที่กลุ่มโคะโดะฮะต้องการทำรัฐประหารเพื่อที่จะบรรลุแผน; ซึ่งเน้นย้ำ "จิตวิญญาณ" ในฐานะที่เป็นหลักการที่ชนะสงคราม มีแนวความคิดสนับสนุนการเปลี่ยนระบบอย่างรุนแรงและยืนกรานให้ญี่ปุ่นรุกรานสหภาพโซเวียต
ขณะที่กลุ่มโทะเซะฮะยินดีที่จะใช้การลอบสังหารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและยังคงเต็มใจที่จะทำงานในระบบแบบเดิมเพื่อให้เกิดการปฏิรูปมากขึ้น; อีกทั้งยังต้องการสร้าง "ความมั่นคงของชาติ" เพื่อระดมพลทั้งชาติก่อนทำสงคราม แม้ว่ากลุ่มโทะเซะฮะจะไม่ปฏิเสธแนวความคิดแบบ "จิตวิญญาณ" ในฐานะที่เป็นปัจจัยที่ชนะสงครามก็เห็นว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ทางทหารเป็นปัจจัยที่ได้รับชัยชนะและมองว่าสหรัฐอเมริกาเป็นศัตรูในอนาคตเช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต
ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 1936 กลุ่มทหารโคะโดะฮะ โทโจและ ได้ให้การสนับสนุนการกระทำของ ทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการก่อกบฏของกลุ่มโคะโดะฮะที่เป็นคู่แข่งทางการเมือง เมื่อความไปถึงสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ พระองค์เองทรงพิโรธอย่างยิ่งในการที่กลุ่มกบฏโจมตีที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดพระองค์และหลังจากเกิดวิกฤติทางการเมืองสั้นๆ ทรงถ่วงเวลาให้ทหารที่เห็นอกเห็นใจพวกกบฏถูกบังคับให้ยอมจำนน โทโจในฐานะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วย เค็นเปไต เขาสั่งให้จับกุมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในกองทัพคันโตที่สงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการรัฐประหารในกรุงโตเกียว หลังจากนั้นกลุ่มโทะเซะฮะได้ทำการกวาดล้างผู้เห็นต่างทางการเมืองในกองทัพและผู้นำการก่อรัฐประหารถูกดำเนินคดีตัดสินประหารชีวิต หลังจากการกวาดล้างทางการเมืองกลุ่มโคะโดะได้ถูกยุบรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวในด้านการเมืองแบบชาตินิยมภายใต้การนำของกลุ่มทหารโทะเซะฮะ โดยมีโทโจเป็นผู้นำ
หลังจากการกวาดล้างกลุ่มโคะโดะฮะ โทโจได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองทัพคันโตในปี ค.ศ.1937 ขณะเดียวกันญี่ปุ่นได้ยกสถานะดินแดนยึดครองแมนจูเรียของตนเป็นประเทศอิสระชื่อว่า "ประเทศแมนจู" (แมนจูกัว) แต่ในความเป็นจริงเป็นอาณานิคมหุ่นเชิดของญี่ปุ่นในทุกด้านและหน้าที่ของกองทัพคันโตนั้นเป็นเรื่องทางการเมืองมากเท่ากับด้านการทหาร
การบริหารประเทศในภาวะสงคราม
ฮิเดกิ โทโจ เป็นนายทหารอาชีพที่มีเกียรติประวัติดีเด่น เป็นคนดีซื่อสัตย์และมีคุณสมบัติครบถ้วนของความเป็นสุภาพบุรุษตามมาตรฐาน ของซามูไร เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงทหารบกในรัฐบาลของเจ้าชายโคโนเอะ เมื่อที่ประชุมร่วมกับสมเด็จพระจักรพรรดิของรัฐบาลโน้มเอียงไปในทางการทำสงคราม เจ้าชายฟูมิมาโระ โคโนเอะได้กราบถวายบังคมลาออกจากนายกรัฐมนตรี และ โทโจ ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสืบต่อมา อันเป็นการเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการถล่ม พร้อม ๆ บุกเข้าสู่อินโดจีน สยาม มลายู ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ในเวลาต่อ ๆ มา ด้วยชัยชนะติดต่อกันมาระยะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มพ่ายแพ้และกลายเป็นฝ่ายรับหลังยุทธนาวีที่มิดเวย์ ในช่วงแรกๆจะมีขบวนการสันติภาพที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ข้าราชสำนัก และแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์บางองค์ ให้ปลดโทโจออกตามคำเรียกร้องของฝ่ายที่ต้องการจะหยุดยั้งสงครามไว้ แต่สมเด็จพระจักรพรรดิก็ไม่ทรงยอดปลดโทโจออกตามคำเรียกร้อง เพราะในระหว่างสงครามยังไงเสียญี่ปุ่นก็ต้องอาศัยโทโจดำเนินการรบ แต่เมื่อชัดเจนว่าญี่ปุ่นกำลังเพลี่ยงพล้ำในสงครามหลังจากยุทธการโอะกินะวะ อันเป็นผลจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโระชิมะและนะงะซะกิ และการประกาศสงครามต่อญี่ปุ่นของสหภาพโซเวียต เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศให้ญี่ปุ่นยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข โทโจ จึงลาออกและสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตทรงประกาศยุติสงครามด้วยการยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยหวังว่าทางสหรัฐอเมริกาจะใจกว้างกว่าสหภาพโซเวียต ช่วง 1 วันก่อนจักรพรรดิฮิโรฮิโตทรงประกาศยอมแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข มีความพยายามจากนายทหารฝ่ายขวาจัดบางกลุ่มพยายามก่อการรัฐประหาร เพื่อให้กองทัพสู้ตายและไม่ยอมแพ้แต่ศัตรู ทหารกบฏบางส่วนก็ฆ่าตัวตายหนีความผิดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากจักรพรรดิทรงประกาศยอมแพ้ในวันที่ 15 สิงหาคมแล้ว
ชีวิตส่วนตัว
ในปี ค.ศ. 1909 เขาได้สมรสกับคัตสุโกะ อิโตะ มีบุตร 3 คน และธิดา 4 คน
ในระหว่างบริหารประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลานานในช่วงสงคราม เขาเป็นตัวอย่างของนายทหารที่จงรักภักดีต่อสมเด็จพระจักรพรรดิอย่างยิ่งยวด มีหลักฐานหลายครั้งว่าเขาดำเนินนโยบายด้วยความเคารพในแนวทางที่สมเด็จพระจักรพรรดิมีพระประสงค์แม้จะมีเหตุผลด้านอื่นที่ดีกว่า หลังสงครามเขาถูกจับกุมตัวนำขึ้นพิจารณาคดีใน ในวันที่ถูกจับเขาพยายามยิงตัวตาย แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ คำให้การของเขาต่อศาลอาชญากรสงครามนั้นยืนยันความรับผิดชอบแต่ผู้เดียวในการ ก่อสงคราม รวมไปถึงคำให้การที่ชี้ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะมิได้ทรงเกี่ยวข้องกับการเริ่มสงคราม
วาระสุดท้าย
ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ฮิเดะกิ โทโจได้ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตในข้อหาอาชญากรรมสงคราม ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2491 โดยถูกประหารชีวิตด้วยการเเขวนคอที่เรือนจำซูกะโมะ ตามคำพิพากษาของศาลทหารระหว่างประเทศสำหรับตะวันออกไกล ซึ่ง เถ้ากระดูกของโทโจ อยู่ที่ศาลเจ้ายาซูกูนิ ภายหลังได้มีการสำรวจทรัพย์สินที่ทางสัมพันธมิตรอายัดไว้ และพบว่าไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากบ้านเก่า ๆ หนึ่งหลัง ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตัดสินใจส่งคืนให้กับภรรยาหม้ายของโทโจไป []
ยศทหาร
- มีนาคม 1905 : ร้อยตรี (陸軍少尉)
- ธันวาคม 1907 : ร้อยโท (陸軍中尉)
- ธันวาคม 1915 : ร้อยเอก (陸軍大尉)
- สิงหาคม 1920 : พันตรี (陸軍少佐)
- สิงหาคม 1924 : พันโท (陸軍中佐)
- สิงหาคม 1928 : พันเอก (陸軍大佐)
- มีนาคม 1933 : พลตรี (陸軍少将)
- ธันวาคม 1936 : พลโท (陸軍中将)
- ตุลาคม 1941 : พลเอก (陸軍大将)
อ้างอิง
- Yenne, p. 337.
- Moeller, James. "Hideki Tojo in WW2". Study.com.
- Gorman, p. 43.
- Browne, p. 19.
- Browne, pp. 14–15, 19–20.
- Browne, pp. 19–20.
- Browne, p. 20.
- Fredrikson, p. 507.
- Bix, p. 277.
- Bix, p. 278.
- Lamont-Brown, p. 65.
- Bix, p. 244.
- Takemae & Ricketts, p. 221.
- Browne, p. 59.
- Dear & Foot, p. 872.
- Browne, p. 60.
- Toland, ibid, p. 873
- จดหมายจากอิโวจิมา : เสียงกระซิบจากอีกด้านของเหตุการณ์
- "ฐานข้อมูลสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิเดกิ โทโจ".
- "ตัวอย่างของคนดีที่ทำให้ประเทศชาติพินาศย่อยยับ".
แหล่งข้อมูลอื่น
- ฮิเดกิ โทโจ 2009-02-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน อัตถชีวประวัติ
- ข้อความเกี่ยวกับฮิเดกิ โทโจ
- Asian Studies Document 2008-03-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- 東條英機、鈴木貫太郎他 (1941-1945)
- ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกสมัยใหม่ []
- จดหมายจากอิโวจิมา
- Tōjō, Hideki 1884-1948
- เมื่อโทโจถูกแขวนคอ : วิเทศกรณีย์, จัดพิมพ์ครั้งแรกโดย ศิลปาบรรณาคาร ในปี พ.ศ. 2508
- Source: (U.S.) Foreign Broadcast Monitoring Service, Federal Communications Commission.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul hiedki othoc khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phlexk hiedki othoc yipun 東條英機 hrux 東条 英機 epnrthburusaelathharbkinkxngthphckrwrrdiyipun phunakhxng aelaepnnaykrthmntriyipunkhnthi 27 inchwngsngkhramolkkhrngthisxngkalngraxumakkhun tngaetwnthi 17 tulakhm kh s 1941 22 krkdakhm kh s 1944 ekhaidepnthiruckepnxyangdicakkarptibtihnathikhxngekhainthanathiepnnaykrthmntriinchwngsngkhram dngechnthimiswnrbphidchxbinkarxxkkhasngihocmtithiephirlharebxraelakarthasngkhramxunxikmakmay sungepnkarerimtnkhxngsngkhramrahwangyipunaelashrthxemrika aemwakarwangaephniderimtnineduxnemsayn kh s 1941 kxnthiekhacaekharbtaaehnng phayhlngsngkhramyutilng othocthukcbkum tngkhxklawha aelatdsinlngothsdwykarpraharchiwitsahrbkhxhaxayakrrmsngkhramodysalthharrahwangpraethssahrbtawnxxkikl aelathukaekhwnkhx emuxwnthi 23 thnwakhm kh s 1948hiedki othoc東條 英機naykrthmntriyipundarngtaaehnng 17 tulakhm kh s 1941 22 krkdakhm kh s 1944kstriyckrphrrdiochwakxnhnafumimaora okhonexathdipkhunixaki okhxiosarthmntrikrathrwngkarsngkhramdarngtaaehnng 22 krkdakhm kh s 1940 22 krkdakhm kh s 1944kstriyckrphrrdiochwanaykrthmntrifumimaora okhonexa 1940 1941 twekhaexng 1941 1944 kxnhnathdipesnathikarthharbkckrwrrdiyipundarngtaaehnng 21 kumphaphnth 18 krkdakhm kh s 1944naykrthmntritwexngkxnhnathdipkhxmulswnbukhkhlekid30 thnwakhm kh s 1884 1884 12 30 krungotekiyw ckrwrrdiyipunesiychiwitthnwakhm 23 1948 1948 12 23 63 pi krungotekiyw praethsyipunsaehtukaresiychiwitpraharchiwitdwykareekhwnkhxsasnachinotphrrkhkaremuxng 1940 1945 khusmrskhasuoka xiot smrs 1909 1948 buphkarihiedonari othoc bida laymuxchuxysthiidrbkaraetngtngrbich yipunsngkd kxngthphbkckrwrrdiyipunysphlexkbngkhbbychakxngthphkhnot 1932 1934 sngkhram karsurbkarrukranaemncueriykhxngyipun sngkhramcin yipunkhrngthisxng sngkhramolkkhrngthisxng sngkhramaepsifikprawtiekidthiemuxngchankrungotekiywinwnthi 30 thnwakhm kh s 1884 epnbutrkhnthisamkhxnghiedonri othoc naythharinkxngthphckrwrrdiyipun mitaaehnngepnphloth phichaysxngkhnesiychiwitkxnthiekhacaekid inkhnannyipunxyuphayitkarpkkhrxnginchwngyukh bakufu sungepnkarpkkhrxngodyochkunaebbhnung sngkhmyipunaebngxxkepnsiwrrnaxyangehniywaenn phxkha chawna changfimuxaelasamuir hlngkarfunfuemci rabbwrrnannthukykelikinpi kh s 1871 aetkhwamaetktangkhxngwrrnaediminhlay danyngkhngmixyuhlngcaknnephuxihaenicwaphwkwrrnasamuirinxdityngkhngephlidephlinipkbskdisridngedimkhxngtn trakulothocmacakwrrnasamuir aemwatrakulothocnnkhxnkhangepnnkrbphutidtamchntakhxng idemiyw khunnang thiphwkekhaidrbichmahlaychwxayukhn phxkhxngothocepnsamuirsungtxmaepliynxachiphepnnaythharaelaaemkhxngekhaepnluksawkhxngphrasngkhinthaihkhrxbkhrwkhxngekhananbthuxmak aetmithanayakcn hiedkimikarsuksatamaebbchbbkhxngeyawchnyipuninchwngrchsmyckrphrrdiemcihruxyukhemci cudprasngkhkhxngrabbkarsuksakhxngemcikhuxephuxplukfngfukihedkekhaepnthharemuxetibotepnphuihyaelakhawsarokhsnachwnechuxthukecaaxyangimldlaipsunkeriynyipunwasngkhramepnsingthiswyngamthisudinolkwaxngkhphrackrphrrdiepnethphphraecathimichiwitaelayingihythisud ekiyrtiyssahrbkhnyipunkhuxkartayephuxckrphrrdi swnedkhyingchawyipunidrbkarsxnwaekiyrtiyssungsudsahrbphuhyingkhuxkarmilukchayihmakthisudethathicaepnipid ephuxthicaidepnthharaelatayephuxckrphrrdiinsngkhram inthanathiepnedkphuchay hiedki othocepnthiruckineruxngkhwamduxrnimmixarmnkhnephraaepnedkthimikhwamkhidduxdungaelamkcahaeruxngchwntxsuhruximkekhaiprngaekphuxunxyuesmx inpi kh s 1899 hiedkiekhaorngeriynnayrxythharbkaehngkxngthphckrwrrdiyipunaelasaerckarsuksaradbthi 17 cakorngeriynnayrxyaehngkxngthphkxngthphckrwrrdiyipun inpi kh s 1915 inxndbthi 42 cakcanwnnkeriynnayrxy 50 khn idrbaetngtngysrxytri sngkdthharrab txmainpiediywknekhaidsaerckarsuksakhnsungsudcak Army War College caknninpi kh s 1919 ekhaideluxnysepnrxyexk bychakarkxngrxythharrksaphraxngkhthi 3 txmaekhaidthuksngippraethsswitesxraelndinthanathutthhar hlngcakklbmacakpharkic inpi kh s 1920 ekharbrachkarthhar darngtaaehnngphltri inpi kh s 1934 hiedkiidrbkareluxntaaehnngepn phltri aelathahnathiepnhwhnaaephnkbukhkhlphayinkrathrwngwakarsngkhramaehngckrwrrdiyipun othocidekhiynbthkhwamhnunginhnngsux hiocci okhakhumin esnchu bthkhwaminewlachukechinaehngchati hnngsuxthitiphimphemuxeduxnminakhm kh s 1934 odymienuxhaesnxaelaeriykrxngihkrathrwngthharepliynaeplngyipunihklayepnpraethsephdckarthharaelamiaenwkhwamkhidlththifassistaephrinhnngsux nxkcakniothocyngidmiaenwkhidthichunchmaesnyanuphaphkhxngckrwrrdiyipunthimichychnaehnuxrsesiyinsngkhrampi 1904 05 hrux sngkhramrsesiy yipun enuxngcakyipunnbthuxlththibuchiodsungmxbekiyrtiysaelaskdisrithiehnuxkwakhxngyipuninkhnathiyipunimklwkhwamtayehmuxnchawrsesiythikhikhladaelatxngkarmichiwitxyu othocehnwayipunyngkhngtxngthasngkhramxiktxipthi sungcatxngradmkalngphlthngpraethsephuxthasngkhram othocidklawhaocmtiehlachatitawntk idaekpraethsxngkvs frngessaelashrthxemrikathiepnkhuaekhngaelaaexbtha sngkhramxudmkarn kbyipuntngaetpi kh s 1919 othocidekhiynsnbsnuncbkarekhiynbthkhwamkhxngekhaodyrabuwayipuncatxngyunsung dwywithikarkhyayxanacxiththiphlkhxngckrwrrdiyipunipthwolk khwamkhidkhxngekhayngthaeyxthayanipthungkarthickrwrrdiyipuntxngsngthharekhaipkhbilehlapraethsxananikhmkhxngyuorptawntkxxkipaelapldplxypraethsxananikhminexechiyihepnxisra odyaethrkkhwamepnckrwrrdixananikhmyipuninexechiyekhaaethnthichatitawntk mikarrierimkhwamkhidkarkxtngwngiphbulyrwmaehngmhaexechiyburphaodyihchawyipunsungepnphunachawexechiypkkhrxngchawexechiydwykn thakarrbincin othocidrbaetngtngihepnphubychakarkxngphlthharrabthi 24 khxngkxngthphbkckrwrrdiyipunineduxnsinghakhm kh s 1934 emuxekidkrnimukednsungthaihckrwrrdiyipunidekhaipaethrkaesngkickarphayinpraethscinaelaekharukranyuddinaednaemncueriymaidsaerc ineduxnknyayn kh s 1935 othocekharbtaaehnngphubychakarsungsudkhxnghnwytarwclb ekhnepit sngkdkxngthphkhnotkhxngyipuninaemncueriy inthangkaremuxngekhaepnfassistchatiniymaelaniymthharcnidrbchayawa yipun ibmidokn ormaci カミソリ thbsphth khamiosari sahrbchuxesiyngkhxngekhathimiciticthidudnohdrayaelasamarthtdsinicidxyangrwderwechiybkhm othocyngsmachikkhxngklum thimiaenwkhwamkhidaebbkhwbkhum sungepnfayinkxngthphbkthimiaenwkhidkhdaeyngxyangrunaerngkbklum withickrwrrdi thngklum othaesaha aela okhaodaha inkxngthphmikhwamekhmaekhngthangthharaebbfassistsungniymichnoybaykarkhyayxanacinkarthasngkhramrukrandinaednaelamikhwamepnephdckarphayitrabxbckrphrrdiyipun aetthngsxngklummikhwamtangkninaenwkhwamkhidaelawithikarinkarbrrluepahmayehlani odythiklumokhaodahatxngkartharthpraharephuxthicabrrluaephn sungennya citwiyyan inthanathiepnhlkkarthichnasngkhram miaenwkhwamkhidsnbsnunkarepliynrabbxyangrunaerngaelayunkranihyipunrukranshphaphosewiyt khnathiklumothaesahayindithicaichkarlxbsngharephuxihbrrluepahmayaelayngkhngetmicthicathanganinrabbaebbedimephuxihekidkarptirupmakkhun xikthngyngtxngkarsrang khwammnkhngkhxngchati ephuxradmphlthngchatikxnthasngkhram aemwaklumothaesahacaimptiesthaenwkhwamkhidaebb citwiyyan inthanathiepnpccythichnasngkhramkehnwakarsrangsrrkhsingihmthangthharepnpccythiidrbchychnaaelamxngwashrthxemrikaepnstruinxnakhtechnediywkbshphaphosewiyt inwnthi 26 kumphaphnthpi kh s 1936 klumthharokhaodaha othocaela idihkarsnbsnunkarkrathakhxng thngsxngimehndwykbkarkxkbtkhxngklumokhaodahathiepnkhuaekhngthangkaremuxng emuxkhwamipthungsmedcphrackrphrrdihiorahiota phraxngkhexngthrngphiorthxyangyinginkarthiklumkbtocmtithipruksathiiklchidphraxngkhaelahlngcakekidwikvtithangkaremuxngsn thrngthwngewlaihthharthiehnxkehnicphwkkbtthukbngkhbihyxmcann othocinthanathidarngtaaehnngphubychakarhnwy ekhnepit ekhasngihcbkumecahnathithnghmdinkxngthphkhnotthisngsywamiswnekiywkhxnghruxsnbsnunkarrthpraharinkrungotekiyw hlngcaknnklumothaesahaidthakarkwadlangphuehntangthangkaremuxnginkxngthphaelaphunakarkxrthpraharthukdaeninkhditdsinpraharchiwit hlngcakkarkwadlangthangkaremuxngklumokhaodaidthukyubrwmtwepnhnungediywindankaremuxngaebbchatiniymphayitkarnakhxngklumthharothaesaha odymiothocepnphuna hlngcakkarkwadlangklumokhaodaha othocidrbkaraetngtngepnphubychakarkxngthphkhnotinpi kh s 1937 khnaediywknyipunidyksthanadinaednyudkhrxngaemncueriykhxngtnepnpraethsxisrachuxwa praethsaemncu aemncukw aetinkhwamepncringepnxananikhmhunechidkhxngyipuninthukdanaelahnathikhxngkxngthphkhnotnnepneruxngthangkaremuxngmakethakbdankarthhar karbriharpraethsinphawasngkhram hiedki othockhnadarngtaaehnngnaykrthmntriaehngckrwrrdiyipun lngpknitysarchachin chuoh 2 thnwakhm kh s 1942 khrbrxbpiaerkkhxngsngkhrammhaexechiyburpha hiedki othoc epnnaythharxachiphthimiekiyrtiprawtidiedn epnkhndisuxstyaelamikhunsmbtikhrbthwnkhxngkhwamepnsuphaphburustammatrthan khxngsamuir ekhydarngtaaehnngrthmntrikrathrwngthharbkinrthbalkhxngecachayokhonexa emuxthiprachumrwmkbsmedcphrackrphrrdikhxngrthbalonmexiyngipinthangkarthasngkhram ecachayfumimaora okhonexaidkrabthwaybngkhmlaxxkcaknaykrthmntri aela othoc idrbaetngtngepnnaykrthmntriyipunsubtxma xnepnkarerimtnkhxngsngkhramolkkhrngthisxng dwykarthlm phrxm bukekhasuxinodcin syam mlayu filippins l inewlatx ma dwychychnatidtxknmarayahnung kxncaerimphayaephaelaklayepnfayrbhlngyuththnawithimidewy inchwngaerkcamikhbwnkarsntiphaphthikxtngkhunodyxditnaykrthmntri kharachsank aelaaemkrathngechuxphrawngsbangxngkh ihpldothocxxktamkhaeriykrxngkhxngfaythitxngkarcahyudyngsngkhramiw aetsmedcphrackrphrrdikimthrngyxdpldothocxxktamkhaeriykrxng ephraainrahwangsngkhramyngingesiyyipunktxngxasyothocdaeninkarrb aetemuxchdecnwayipunkalngephliyngphlainsngkhramhlngcakyuththkaroxakinawa xnepnphlcakkarthingraebidniwekhliyrthlmhiorachimaaelanangasaki aelakarprakassngkhramtxyipunkhxngshphaphosewiyt emuxshrthxemrikaprakasihyipunyxmaephodyimmienguxnikh othoc cunglaxxkaelasmedcphrackrphrrdihiorhiotthrngprakasyutisngkhramdwykaryxmaephtxfaysmphnthmitrxyangimmienguxnikh odyhwngwathangshrthxemrikacaickwangkwashphaphosewiyt chwng 1 wnkxnckrphrrdihiorhiotthrngprakasyxmaephsngkhramxyangimmienguxnikh mikhwamphyayamcaknaythharfaykhwacdbangklumphyayamkxkarrthprahar ephuxihkxngthphsutayaelaimyxmaephaetstru thharkbtbangswnkkhatwtayhnikhwamphidaetimprasbkhwamsaerc hlngcakckrphrrdithrngprakasyxmaephinwnthi 15 singhakhmaelw chiwitswntw inpi kh s 1909 ekhaidsmrskbkhtsuoka xiota mibutr 3 khn aelathida 4 khn inrahwangbriharpraethsyipunepnewlananinchwngsngkhram ekhaepntwxyangkhxngnaythharthicngrkphkditxsmedcphrackrphrrdixyangyingywd mihlkthanhlaykhrngwaekhadaeninnoybaydwykhwamekharphinaenwthangthismedcphrackrphrrdimiphraprasngkhaemcamiehtuphldanxunthidikwa hlngsngkhramekhathukcbkumtwnakhunphicarnakhdiin inwnthithukcbekhaphyayamyingtwtay aetimprasbphlsaerc khaihkarkhxngekhatxsalxachyakrsngkhramnnyunynkhwamrbphidchxbaetphuediywinkar kxsngkhram rwmipthungkhaihkarthichiwa smedcphrackrphrrdihiorahiotamiidthrngekiywkhxngkbkarerimsngkhram warasudthay hiedki othoc phyayamkrathaxtwinibatkrrm aetimsaerc phayhlngsngkhramsinsudlng hiedaki othocidthuktdsinlngothspraharchiwitinkhxhaxachyakrrmsngkhram inwnthi 23 thnwakhm ph s 2491 odythukpraharchiwitdwykareekhwnkhxthieruxncasukaoma tamkhaphiphaksakhxngsalthharrahwangpraethssahrbtawnxxkikl sung ethakradukkhxngothoc xyuthisalecayasukuni phayhlngidmikarsarwcthrphysinthithangsmphnthmitrxaydiw aelaphbwaimmithrphysmbtixairehluxxyuelynxkcakbaneka hnunghlng faysmphnthmitrcungtdsinicsngkhunihkbphrryahmaykhxngothocip txngkaraehlngxangxingdikwani ysthharminakhm 1905 rxytri 陸軍少尉 thnwakhm 1907 rxyoth 陸軍中尉 thnwakhm 1915 rxyexk 陸軍大尉 singhakhm 1920 phntri 陸軍少佐 singhakhm 1924 phnoth 陸軍中佐 singhakhm 1928 phnexk 陸軍大佐 minakhm 1933 phltri 陸軍少将 thnwakhm 1936 phloth 陸軍中将 tulakhm 1941 phlexk 陸軍大将 xangxingYenne p 337 sfn error no target CITEREFYenne Moeller James Hideki Tojo in WW2 Study com Gorman p 43 sfn error no target CITEREFGorman Browne p 19 sfn error no target CITEREFBrowne Browne pp 14 15 19 20 sfn error no target CITEREFBrowne Browne pp 19 20 sfn error no target CITEREFBrowne Browne p 20 sfn error no target CITEREFBrowne Fredrikson p 507 sfn error no target CITEREFFredrikson Bix p 277 sfn error no target CITEREFBix Bix p 278 sfn error no target CITEREFBix Lamont Brown p 65 sfn error no target CITEREFLamont Brown Bix p 244 sfn error no target CITEREFBix Takemae amp Ricketts p 221 sfn error no target CITEREFTakemae amp Ricketts Browne p 59 sfn error no target CITEREFBrowne Dear amp Foot p 872 sfn error no target CITEREFDear amp Foot Browne p 60 sfn error no target CITEREFBrowne Toland ibid p 873 cdhmaycakxiowcima esiyngkrasibcakxikdankhxngehtukarn thankhxmulsngkhramolkkhrngthisxng hiedki othoc twxyangkhxngkhndithithaihpraethschatiphinasyxyyb aehlngkhxmulxunhiedki othoc 2009 02 24 thi ewyaebkaemchchin xtthchiwprawti khxkhwamekiywkbhiedki othoc Asian Studies Document 2008 03 12 thi ewyaebkaemchchin 東條英機 鈴木貫太郎他 1941 1945 prawtisastrexechiytawnxxksmyihm lingkesiy cdhmaycakxiowcima Tōjō Hideki 1884 1948 emuxothocthukaekhwnkhx wiethskrniy cdphimphkhrngaerkody silpabrrnakhar inpi ph s 2508 Source U S Foreign Broadcast Monitoring Service Federal Communications Commission bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk