ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง (อังกฤษ: Allies; ฝรั่งเศส: Alliés; รัสเซีย: Союзники, Soyuzniki; จีน: 同盟國, Tóngméngguó) เป็นกลุ่มประเทศที่ต่อสู้กับฝ่ายอักษะช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ามาพัวพันในสงครามโลกครั้งที่สองเพราะประเทศเหล่านี้ถูกรุกรานก่อน ถูกคุกคามโดยตรงจากการรุกรานของฝ่ายอักษะหรือเพราะประเทศเหล่านี้กังวลว่าฝ่ายอักษะจะควบคุมโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง | |
---|---|
1939–1945 | |
พี่ใหญ่ทั้งสาม (The Big Three): ประเทศที่ถูกยึดครองและตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น: รัฐพันธมิตรอื่น ๆ: อดีตอักษะหรือชาติที่มีอริร่วม
| |
สถานะ | |
ยุคประวัติศาสตร์ | สงครามโลกครั้งที่สอง |
ก.พ. 1921 | |
ส.ค. 1939 | |
• | ก.ย. 1939 – มิ.ย. 1940 |
• | มิ.ย. 1941 |
• | ก.ค. 1941 |
ส.ค. 1941 | |
• | ม.ค. 1942 |
• | พ.ค. 1942 |
พ.ย–ธ.ค. 1943 | |
• | 1–15 ก.ค. 1944 |
4–11 ก.พ. 1945 | |
• | เม.ย.–มิ.ย. 1945 |
ก.ค.–ส.ค. 1945 |
| ||
ผู้นำหลักสุดท้ายของฝ่ายสัมพันธมิตร: เคลเมนต์ แอตต์ลี (สหราชอาณาจักร), แฮร์รี เอส. ทรูแมน (สหรัฐ), โจเซฟ สตาลิน (สหภาพโซเวียต), เจียง ไคเชก (จีน) และชาร์ล เดอ โกล (ฝรั่งเศส) |
แนวร่วมต่อสู้เยอรมนีช่วงสงครามเริ่มต้น (1 กันยายน ค.ศ. 1939) ประกอบด้วยฝรั่งเศส โปแลนด์ สหราชอาณาจักร ชาติเครือจักรภพอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหภาพแอฟริกาใต้ (กำลังสหภาพแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่สู้รบภายใต้การบัญชาของเครือจักรภพแม้จะเป็นชาติอธิปไตยนับแต่ ค.ศ. 1931) หลัง ค.ศ. 1941 ผู้นำสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพอังกฤษ, สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "สามผู้ยิ่งใหญ่" ถือความเป็นผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะนั้น จีนเองก็เป็นฝ่ายสัมพันธมิตรหลักเช่นกัน ฝ่ายสัมพันธมิตรอื่นมีเบลเยียม บราซิล เชโกสโลวาเกีย เอธิโอเปีย กรีซ อินเดีย เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์และยูโกสลาเวีย
ระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ. 1941 ประธานาธิบดีสหรัฐ แฟรงกลิน โรสเวลต์ เสนอชื่อ "สหประชาชาติ" สำหรับฝ่ายสัมพันธมิตร เขาเรียกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามและจีนว่า "หน้าที่พิทักษ์ของผู้ทรงพลัง" (trusteeship of the powerful) และภายหลังเรียกว่า "สี่ตำรวจ"วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1942 เป็นรากฐานของสหประชาชาติสมัยใหม่ ที่การประชุมพอตสดัม เมื่อเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ค.ศ. 1945 ผู้สืบทอดของโรสเวลต์ แฮร์รี เอส. ทรูแมน เสนอว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา "ควรร่างสนธิสัญญาสันติภาพและการตกลงเขตแดนของยุโรป" ซึ่งนำไปสู่สภารัฐมนตรีต่างประเทศ
การเข้าร่วมของประเทศสมาชิก
ตามช่วงเวลาการบุกครองโปแลนด์
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ การบุกครองโปแลนด์
- กันยายน 1939
- โปแลนด์: 1 กันยายน 1939
- ออสเตรเลีย: 3 กันยายน 1939
- ฝรั่งเศส: 3 กันยายน 1939 รวมไปถึง:
- นิวซีแลนด์: 3 กันยายน 1939
- จักรวรรดิอังกฤษ: 3 กันยายน 1939
- บริติชราช: 3 กันยายน 1939
- สหภาพแอฟริกาใต้: 6 กันยายน 1939
- แคนาดา: 10 กันยายน 1939
- เมษายน 1940
- เดนมาร์ก: 9 เมษายน 1940 (วางตัวเป็นกลางในสงครามโลกครั้งที่สองจนกระทั่ง 29 สิงหาคม 1943)
- นอร์เวย์: 9 เมษายน 1940 (แต่ยังไม่มีความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1941)
ระหว่างและหลังสงครามลวง
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ สงครามลวง
- เบลเยียม: 10 พฤษภาคม 1940, รวมไปถึง:
- ลักเซมเบิร์ก: 10 พฤษภาคม 1940
- เนเธอร์แลนด์: 10 พฤษภาคม 1940, รวมไปถึง:
- กรีซ: 28 ตุลาคม 1940
- ยูโกสลาเวีย : 6 เมษายน 1941
หลังจากการรุกรานสหภาพโซเวียต
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ ปฏิบัติการบาร์บารอสซา
- สหภาพโซเวียต: 22 มิถุนายน 1941
หลังจากการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
- ปานามา: 7 ธันวาคม 1941
- สหรัฐ: 8 ธันวาคม 1941
- คอสตาริกา: 8 ธันวาคม 1941
- สาธารณรัฐโดมินิกัน: 8 ธันวาคม 1941
- เอลซัลวาดอร์: 8 ธันวาคม 1941
- เฮติ: 8 ธันวาคม 1941
- ฮอนดูรัส: 8 ธันวาคม1941
- นิการากัว: 8 ธันวาคม1941
- สาธารณรัฐจีน : 9 ธันวาคม 1941 (ทำสงครามกับจักรวรรดิญี่ปุ่นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1937)
- คิวบา: 9 ธันวาคม 1941
- กัวเตมาลา: 9 ธันวาคม 1941
- : 16 ธันวาคม 1941
หลังจากประกาศก่อตั้งสหประชาชาติ
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่
- เม็กซิโก: 22 พฤษภาคม 1942
- บราซิล: 22 สิงหาคม 1942
- เอธิโอเปีย: 14 ธันวาคม 1942 (ก่อนหน้านั้นอยู่ภายใต้การยึดครองของ อิตาลี)
- โบลิเวีย: 7 เมษายน 1943
- โคลอมเบีย: 26 กรกฎาคม 1943
- อิหร่าน: 9 กันยายน 1943 (ถูกยึกครองโดยกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1941)
- ไลบีเรีย: 27 มกราคม 1944
- เปรู: 12 กุมภาพันธ์ 1944
หลังจากปฏิบัติการบากราติออนและวันดีเดย์
ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ ปฏิบัติการบากราติออน และ ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด
- เอกวาดอร์: 2 กุมภาพันธ์ 1945 (แต่ว่าเคยให้ความช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตรมาแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1943 ในการป้องกัน หมู่เกาะกาลาปาโกส)
- ปารากวัย: 7 กุมภาพันธ์ 1945
- อุรุกวัย: 15 กุมภาพันธ์ 1945
- เวเนซุเอลา: 15 กุมภาพันธ์ 1945
- ไทย: 20 กุมภาพันธ์ 1944
- ตุรกี: 23 กุมภาพันธ์ 1945
- อียิปต์: 27 กุมภาพันธ์ 1945
- เลบานอน: 27 กุมภาพันธ์ 1945
- ซีเรีย: 27 กุมภาพันธ์ 1945
- ซาอุดีอาระเบีย: 1 มีนาคม 1945
- อาร์เจนตินา: 27 มีนาคม 1945
- ชิลี: 11 เมษายน 1945
ประวัติ
ฝ่ายสัมพันธมิตรดั้งเดิม
ประเทศสัมพันธมิตรดั้งเดิม คือ กลุ่มประเทศที่ประกาศสงครามต่อนาซีเยอรมนี ในช่วงการบุกครองในปี 1939 อันประกอบด้วย
ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันจากเครือข่ายสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน และสนธิสัญญาในความร่วมมือพันธมิตรทางการทหารก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ส่วนความร่วมมือกันระหว่างสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสสามารถย้อนไปได้ถึง ความเข้าใจระหว่างอังกฤษ-ฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1904 และฝ่ายไตรภาคี ในปี ค.ศ. 1907 และดำเนินการร่วมกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ส่วนพันธมิตรทางการทหารฝรั่งเศส-โปแลนด์ได้รับการลงนาม ในปีค.ศ. 1921 ซึ่งได้รับการแก้ไขในปี ค.ศ. 1927 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1939 ส่วนพันธมิตรทางการทหารอังกฤษ-โปแลนด์ ได้รับการลงนามในวันที่ 25 สิงหาคม 1939 ซึ่งประกอบไปด้วยสัญญาในการให้ความร่วมมือทางการทหารร่วมกันระหว่างชาติในกรณีถูกรุกรานโดยนาซีเยอรมนี
ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก
ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1939 การบุกครองโปแลนด์ของเยอรมนีได้เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสประกาศสงครามต่อเยอรมนีในวันที่ 3 กันยายน ในวันเดียวกัน ประเทศเครือจักรภพประกาศสงครามเข้ากับสหราชอาณาจักรด้วยเช่นกัน ต่อมาประเทศบางส่วนในยุโรปตะวันตกได้เข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตรหลังจากถูกกองทัพเยอรมันเข้ามารุกราน ได้แก่ เดนมาร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และลักเซมเบิร์ก
ในวันที่ 17 กันยายน สหภาพโซเวียตบุกครองโปแลนด์ทางทิศตะวันออก ต่อมา ในวันที่ 30 กันยายน สหภาพโซเวียตโจมตีฟินแลนด์ ภายในปีต่อมา สหภาพโซเวียตได้ผนวกเอาดินแดนของรัฐบอลติก ซึ่งประกอบด้วยเอสโตเนีย ลัตเวียและลิทัวเนีย ต่อมาสนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างเยอรมนี-โซเวียตยุติลงภายหลังจากการรุกรานสหภาพโซเวียตของนาซีเยอรมนี ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1941 จึงได้เข้าร่วมฝ่ายกับสัมพันธมิตรและทำการต่อสู้ในแนวรบตะวันออก
ส่วนสหรัฐได้ตั้งอยู่ในสถานะความเป็นกลางไม่ยุ่งกับสงครามแต่คอยช่วยเหลือสนับสนุนสัมพันธมิตรและสหภาพโซเวียตด้วยการให้ทรัพยากรต่าง ๆ และอาวุธยุโธปกณ์ต่าง ๆ แต่หลังจากการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ของจักรวรรดิญี่ปุ่นทำให้อเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมสงคราม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ต่อมาปฏิญญาแห่งสหประชาชาติในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1942 ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกร่วมลงนามจำนวน 26 ประเทศ ถือได้ว่าเป็นประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรจำนวน 3 ประเทศ สหราชอาณาจักร สหรัฐและสหภาพโซเวียตถือได้ว่าเป็น ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม อย่างไม่เป็นทางการ
ประเทศสมาชิกหลัก
สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมสงครามเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรหลังจากที่เยอรมนีบุกโปแลนด์ในปี ค.ศ. 1939 ซึ่งสหราชอาณาจักรเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรเพียงไม่กี่ประเทศในยุโรปที่รอดพ้นจากการถูกเยอรมนียึดครองจนสิ้นสุดสงคราม
- British fighter aircraft (bottom) flying past a German Heinkel He 111 bomber aircraft (top) during the Battle of Britain (1940)
- British during the
- British aircraft carrier HMS Ark Royal under attack from Italian aircraft during the (Nov. 27, 1940)
- British soldiers of the in , Netherlands on 2 March 1945]]
สหรัฐ
สหรัฐได้วางตัวเป็นกลาง แต่ก็ส่งเสบียงให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร จนกระทั่งถูกญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่อ่าวเพิร์ล สหรัฐจึงเข้าร่วมสงครามเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรในปี ค.ศ. 1941 โดยทำสงครามต่อญี่ปุ่นและเยอรมนีจนสิ้นสุดสงคราม
- Yorktown is hit on the port side, amidships, by a Japanese Type 91 during the mid-afternoon attack by planes from the carrier Hiryu.
- American dive-bomber aircraft attacking the during the in June 1942
- American Marines during the in November 1942
- American bomber aircraft during the bombing of oil refineries in Ploiești, Romania on 1 August 1943 during
- American soldiers depart landing craft during the on 6 June 1944 known as , in the .
- M4 Sherman Medium tank
สหภาพโซเวียต
สหภาพโซเวียตได้ร่วมมือกับนาซีเยอรมันในเรื่องการบุกเข้ายึดประเทศโปแลนด์ในปี ค.ศ. 1939 โดยนาซีเยอรมันจะบุกจากทางตะวันตก ส่วนสหภาพโซเวียตบุกมาทางด้านตะวันออก ทำให้ประเทศโปแลนด์ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยนาซีเยอรมันครอบครองโปแลนด์ทางตะวันตก ส่วนสหภาพโซเวียตครอบครองโปแลนด์ทางตะวันออก ต่อมาทั้งสองประเทศได้ทำสนธิสัญญาโมโลตอฟ-ริบเบนทรอพคือ การไม่รุกรานกัน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1939 เพื่อหลังจากยึดโปแลนด์แล้ว นาซีเยอรมันก็จะทำสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรที่แนวรบตะวันตกได้เต็มที่โดยโซเวียตไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ทว่านาซีเยอรมันกลับฉีกสันธิสัญญาฉบับนี้ไป เมื่อส่งกองทัพบุกโจมตีสหภาพโซเวียตในปฏิบัติการบาร์บารอสซา โซเวียตจึงได้เปลี่ยนฝ่ายเป็นสัมพันธมิตร
- Soviet soldiers and tanks advance in skirmish near Bryansk in 1942.
- Soviet soldiers fighting in the ruins of (Stalingrad) during the Battle of Stalingrad
- Soviet ground attack aircraft attacking German ground forces during the (1943)
จีน
ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 รัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งนำโดยจอมทัพเจียง ไคเช็คซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียต และยังได้มีการช่วยเหลือการปรับปรุงภายในพรรคในเป็นไปตามแนวคิดลัทธิเลนิน อันประกอบด้วยการผสมกันอย่างลงตัวระหว่างพรรค รัฐและกองทัพ อย่างไรก็ตาม หลังจากการประกาศรวมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1928 เจียง ไคเช็คได้กวาดล้างเอานักการเมืองหัวเอียงซ้ายออกจากพรรคและต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขุนศึกในอดีตและฝ่ายอื่น ๆ ประเทศจีนในเวลานั้นมีความขัดแย้งกันและเปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นกลืนกินดินแดนทีละน้อยโดยไม่สูญเสียกำลังทหารมากนัก จากเหตุการณ์กรณีมุกเดนในปี ค.ศ. 1931 นำไปสู่การจัดตั้งแมนจูกัว แต่รัฐบาลจีนยังคงมุ่งความสนใจไปยังการกำจัดพรรคคอมมิวนิสต์และขุนศึกต่อไป โดยแบ่งกองทัพเพียงส่วนน้อยมาทำการรบเพื่อต้านทานกองทัพญี่ปุ่น
ในช่วงต้นของคริสต์ทศวรรษ 1930 เยอรมนีและจีนได้ให้ความร่วมมือระหว่างกันทางทหารและอุตสาหกรรม โดยนาซีเยอรมนีได้กลายมาเป็นคู่ค้าอาวุธและวิทยาการรายใหญ่ของจีน หลังจากเหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 จีนและญี่ปุ่นจึงเข้าสู่การทำสงครามเบ็ดเสร็จ ซึ่งดำเนินต่อไปจนกระทั่งยุติลงในปี ค.ศ. 1945 สหภาพโซเวียตต้องการให้จีนต่อสู้กับญี่ปุ่น จึงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่จีนจนถึงปี ค.ศ. 1941 หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาความเป็นกลางญี่ปุ่น เพื่อเตรียมตัวทำสงครามกับเยอรมนีในแนวรบด้านตะวันออก
ถึงแม้ว่าจีนจะเป็นประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรที่ทำการรบเป็นเวลายาวนานที่สุด แต่จีนได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเป็นทางการภายหลังการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ โดยจอมทัพเจียง ไคเช็คมีความเชื่อมั่นว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะสามารถชนะสงครามได้หลังจากการเข้าสู่สงครามของสหรัฐ
- Soldiers of the associated with Nationalist China, during the Second Sino-Japanese War
- Victorious Chinese Communist soldiers holding the during the
ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสมีส่วนร่วมกับการรบในแนวรบด้านตะวันตก นับตั้งแต่สงครามลวง และยุทธการฝรั่งเศส หลังจากความพ่ายแพ้ต่อกองทัพเยอรมัน ดินแดนฝรั่งเศสถูกแบ่งออกเป็น "ฝรั่งเศสเขตยึดครอง" และ "วิชีฝรั่งเศส" ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสลี้ภัยไปยังอังกฤษ และมีการก่อตั้งฝรั่งเศสเสรี ซึ่งมีส่วนร่วมในการปลดปล่อยฝรั่งเศสจนกระทั่งสงครามยุติ
- forces at the (1942)
- FAFL Free French GC II/5 "LaFayette" receiving ex-USAAF fighters at Casablanca, French Morocco
- rather than fall into the hands of the Axis after their invasion of Vichy France on 11 November 1942.
ประเทศสมาชิกรอง
โปแลนด์
สงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรปเริ่มต้นขึ้นเมื่อการบุกครองโปแลนด์ ในขณะนั้น กองทัพโปแลนด์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของบรรดาประเทศในทวีปยุโรป รองจากสหภาพโซเวียตและสหราชอาณาจักร โปแลนด์ไม่เคยยอมจำนนอย่างเป็นทางการต่อนาซีเยอรมนี และทำสงครามต่อภายใต้คณะรัฐบาลพลัดถิ่นโปแลนด์
กองทัพบ้านเกิดซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปนอกอาณาเขตของสหภาพโซเวียต และมีขบวนการเคลื่อนไหวใต้ดินอื่น ๆ ที่ได้ให้ข้อมูลข่าวกรองซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติการให้สำเร็จในสงครามระยะต่อมา และได้เปิดเผยการก่อาชญากรรมสงครามของนาซีเยอรมนีต่อฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก นอกจากนี้ กองกำลังโปแลนด์ยังได้มีส่วนช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตรในแนวรบด้านตะวันตก แนวรบทะเลทราย และแนวรบด้านตะวันออกอีกด้วย
- Pilots of the during the Battle of Britain
- Polish resistance fighters from the "Kiliński" Battalion during the (1944)
เบลเยียม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Members of the Belgian Resistance with a Canadian soldier in Bruges, September 1944 during the
เนเธอร์แลนด์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Dutch troops close the barrier of the Nijmegen Waal bridge during the Albania crisis.
ลักเซมเบิร์ก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Soldiers from Luxembourg training in Britain, 1943
นอร์เวย์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Norwegian soldiers on the , May 1940
เชโกสโลวาเกีย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กรีซ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Greek soldiers in March 1941 during the
ยูโกสลาเวีย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- The Partisans and the Chetniks carried captured Germans through Užice, autumn 1941.
- Partisan leader Marshal Josip Broz Tito with Winston Churchill in 1944
- Chetniks leader with the members of the US military mission, 1944
แคนาดา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Several soldiers from the at the , December 1943.
ออสเตรเลีย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Australian troops land in Alexandria after their evacuation from Greece
นิวซีแลนด์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Soldiers of the , , C Company marching in Baggush, Egypt, September 1941.
แอฟริกาใต้
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- South African infantry on parade prior to the Union of South Africa's entry into World War II
เม็กซิโก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Mexican air force Capt. Radames Gaxiola Andrade stands in front of his P-47D with his maintenance team after he returned from a combat mission
คิวบา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สาธารณรัฐโดมินิกัน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บราซิล
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- Brazilian soldiers of the greet civilians in the city of , Italy, September 1944.
กลุ่มออสโล
กลุ่มออสโลเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศที่เป็นกลางระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในภายหลังได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในฐานะรัฐบาลพลัดถิ่น อันประกอบด้วย นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์ก
ฟินแลนด์ถูกรุกรานโดยสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1939 ในภายหลังฟินแลนด์และเดนมาร์กได้เข้าร่วมกับสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลร่วมกับฝ่ายอักษะ ส่วนสวีเดนยังคงดำรงตนเป็นกลางตลอดช่วงเวลาของสงคราม หลังจากสนธิสัญญาสงบศึกในกรุงมอสโกเมื่อปี ค.ศ. 1944 ฟินแลนด์ได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรและหันมาต่อสู้กับเยอรมนีแทน และเกิดเป็น
ส่วนเดนมาร์กซึ่งถูกรุกรานโดยเยอรมนีเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1940 รัฐบาลเดนมาร์กไม่ได้ประกาศสงครามกับเยอรมนีและยอมจำนนในวันเดียวกัน เนื่องจากว่ารัฐบาลยังคงมีอำนาจในการจัดการกิจการภายในประเทศได้อยู่ เดนมาร์กไม่ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา ชาวเดนมาร์กรบโดยอยู่ทั้งฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ไอซ์แลนด์ หมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ซึ่งถือว่าเป็นอาณานิคมของเดนมาร์ก ถูกยึดครองโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ของสงคราม กองทัพอังกฤษรุกรานเกาะไอซ์แลนด์ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 และใช้อำนวยความสะดวกให้กับ ส่วนกองกำลังจากสหรัฐอเมริกาได้ยึดครองเกาะกรีนแลนด์เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1941 หลังจากนั้นก็ได้ยึดครองเกาะไอซ์แลนด์ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 แม้ว่าจะคงดำรงตนเป็นกลางในสงครามก็ตาม ต่อมาไอซ์แลนด์ประกาศตนเป็นเอกราชจากเดนมาร์กในปี ค.ศ. 1944 แต่ไม่ได้ประกาศสงครามกับประเทศฝ่ายอักษะใด ๆ
เครือจักรภพแห่งประชาชาติ
ประเทศเหล่านี้ถูกดึงเข้าสู่สงครามหลังจากการประกาศสงครามของสหราชอาณาจักร ซึ่งประเทศเหล่านี้ประกอบด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์และแอฟริกาใต้
สหภาพรวมอเมริกา
สมาชิกของสหภาพรวมอเมริกายังคงดำรงตนเป็นกลางในช่วงปี ค.ศ. 1939-1941 ได้สร้างสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่กรุงอาบานา ระหว่างวันที่ 21-30 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 โดยมีตัวแทนประเทศ 21 ประเทศร่วมลงนาม อันประกอบด้วย
องค์การคอมมิวนิสต์สากล
องค์การสหประชาชาติ
หลังจากได้มีการลงนามในปฏิญญาสหประชาชาติเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1942 โดยมีตัวแทนจาก 27 ประเทศร่วมลงนาม ประกอบด้วย
ส่วนประเทศที่ลงนามในภายหลังได้แก่
- เครือจักรภพฟิลิปปินส์ (ค.ศ. 1942)
- เอธิโอเปีย (ค.ศ. 1942)
- อิรัก (ค.ศ. 1943)
- อิหร่าน (ค.ศ. 1943)
- บราซิล (ค.ศ. 1943)
- โบลิเวีย (ค.ศ. 1943)
- ไลบีเรีย (ค.ศ. 1944)
- ฝรั่งเศส (ค.ศ. 1944)
- เปรู (ค.ศ. 1945)
- ชิลี (ค.ศ. 1945)
- ปารากวัย (ค.ศ. 1945)
- เวเนซุเอลา (ค.ศ. 1945)
- อุรุกวัย (ค.ศ. 1945)
- ตุรกี (ค.ศ. 1945)
- อียิปต์ (ค.ศ. 1945)
- ซาอุดีอาระเบีย (ค.ศ. 1945)
- เลบานอน (ค.ศ. 1945)
- ซีเรีย (ค.ศ. 1945)
การยอมแพ้ส่วนน้อย
ธง | ชื่อ | วันยอมแพ้ |
---|---|---|
โปแลนด์ | 10 ตุลาคม 1939 | |
เดนมาร์ก | 10 เมษายน 1940 | |
เนเธอร์แลนด์ | 15 พฤษภาคม 1940 | |
เบลเยียม | 28 พฤษภาคม 1940 | |
นอร์เวย์ | 10 มิถุนายน 1940 | |
ฝรั่งเศส | 22 มิถุนายน 1940 | |
อินโดจีนของฝรั่งเศส | 26 กันยายน 1940 | |
ยูโกสลาเวีย | 17 เมษายน 1941 | |
กรีซ | 1 มิถุนายน 1941 | |
ฮ่องกง | 25 ธันวาคม 1941 | |
บริติชมาลายา | 31 มกราคม 1942 | |
หมู่เกาะอินเดียตะวันออก ของเนเธอร์แลนด์ | 9 มีนาคม 1942 | |
8 พฤษภาคม 1942 | ||
พม่า | 20 พฤษภาคม 1942 |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . and World War II History. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-16. สืบค้นเมื่อ 17 September 2009.
- Davies 2006, pp 150–151.
- The Real History of World War II: A ... – Google Books. books.google.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2009-09-02.
- Kwan Yuk Pan (2005). "Polish veterans to take pride of place in victory parade". Financial Times, UK.
- A Decade of American Foreign Policy 1941–1949
- Doenecke, Justus D.; Stoler, Mark A. (2005). Debating Franklin D. Roosevelt's foreign policies, 1933–1945. Rowman & Littlefield. ISBN . สืบค้นเมื่อ 7 September 2009.
- Douglas Brinkley, FDR & the Making of the U.N.
- Churchill, Winston S. (1981) [1953]. The Second World War, Volume VI: Triumph and Tragedy. . p. 561.
- Dear and Foot, Oxford Companion to World War II pp 279-80
แหล่งข้อมูลอื่น
- พันธมิตรที่เปลี่ยนแปลงบนเวทีโลก
- การประชุมแอตแลนติก มติแห่งวันที่ 24 กันยายน 1941 2006-08-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
faysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng xngkvs Allies frngess Allies rsesiy Soyuzniki Soyuzniki cin 同盟國 Tongmengguo epnklumpraethsthitxsukbfayxksachwngsngkhramolkkhrngthisxng faysmphnthmitrekhamaphwphninsngkhramolkkhrngthisxngephraapraethsehlanithukrukrankxn thukkhukkhamodytrngcakkarrukrankhxngfayxksahruxephraapraethsehlanikngwlwafayxksacakhwbkhumolkxyangidxyanghnungfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng1939 1945 faysmphnthmitr aelaxananikhmkhxngtn phnthmitr thiekharwmhlngkarocmtiephirlharebxr fayxksa chatithimixrirwm aelaxananikhmkhxngtn aelaxananikhmkhxngtn phiihythngsam The Big Three shrachxanackr tngaetknyayn kh s 1939 shphaphosewiyt tngaetmithunayn kh s 1941 shrth tngaetthnwakhm kh s 1941 praethsthithukyudkhrxngaelatngrthbalphldthin opaelnd echoksolwaekiy frngessesri rthphnthmitrxun cin xinediy aekhnada xxsetreliy niwsiaelnd aexfrikait brasil mxngokeliy emksiok xditxksahruxchatithimixrirwm xitali tngaetknyayn kh s 1943 ormaeniy blaekeriy finaelnd sthanayukhprawtisastrsngkhramolkkhrngthisxng phnthmitrfrngess opaelndk ph 1921 phnthmitrxngkvs opaelnds kh 1939 k y 1939 mi y 1940 mi y 1941 k kh 1941 kdbtraextaelntiks kh 1941 m kh 1942 ph kh 1942 karprachumetharanph y th kh 1943 1 15 k kh 1944 karprachumylta4 11 k ph 1945 em y mi y 1945 karprachumphxthsdmk kh s kh 1945 samphuyingihy say ocesf stalin aehngosewiyt klang aefrngklin di orsewlt aehngshrth khwa winstn echxrchil aehngshrachxanackr inkarprachumetharan emux kh s 1943phunafaysmphnthmitrinsngkhramaepsifik say eciyng ikhechk aehngcin klang aefrngklin di orsewlt aehngshrth khwa winstn echxrchil aehngshrachxanackr inkarprachumikhor emux kh s 1943prathanathibdiaehngshrth aefrngklin di orsewlt naykrthmntriaehngshrachxanackr winstn echxrchil aelaphuekharwmkarprachuminkasablxngka kh s 1943phunahlksudthaykhxngfaysmphnthmitr ekhlemnt aexttli shrachxanackr aehrri exs thruaemn shrth ocesf stalin shphaphosewiyt eciyng ikhechk cin aelacharl edx okl frngess aenwrwmtxsueyxrmnichwngsngkhramerimtn 1 knyayn kh s 1939 prakxbdwyfrngess opaelnd shrachxanackr chatiekhruxckrphphxngkvs xxsetreliy niwsiaelnd aelashphaphaexfrikait kalngshphaphaexfrikaitswnihysurbphayitkarbychakhxngekhruxckrphphaemcaepnchatixthipitynbaet kh s 1931 hlng kh s 1941 phunashrachxanackraelaekhruxckrphphxngkvs shrthxemrikaaelashphaphosewiyt sungruckkninchux samphuyingihy thuxkhwamepnphunafaysmphnthmitr inkhnann cinexngkepnfaysmphnthmitrhlkechnkn faysmphnthmitrxunmiebleyiym brasil echoksolwaekiy exthioxepiy kris xinediy emksiok enethxraelnd nxrewyaelayuokslaewiy rahwangeduxnthnwakhm kh s 1941 prathanathibdishrth aefrngklin orsewlt esnxchux shprachachati sahrbfaysmphnthmitr ekhaeriykphuyingihythngsamaelacinwa hnathiphithkskhxngphuthrngphlng trusteeship of the powerful aelaphayhlngeriykwa sitarwc wnthi 1 mkrakhm kh s 1942 epnrakthankhxngshprachachatismyihm thikarprachumphxtsdm emuxeduxnkrkdakhm singhakhm kh s 1945 phusubthxdkhxngorsewlt aehrri exs thruaemn esnxwarthmntritangpraethskhxngcin frngess shphaphosewiyt shrachxanackraelashrthxemrika khwrrangsnthisyyasntiphaphaelakartklngekhtaednkhxngyuorp sungnaipsuspharthmntritangpraethskarekharwmkhxngpraethssmachik ekhruxckrphphxngkvsphrxmdwyphnthmitr cathalaylangthrrachnasi opsetxrkhxngxngkvsinpi 1941tamchwngewlakarbukkhrxngopaelnd dubthkhwamephimetimidthi karbukkhrxngopaelnd knyayn 1939opaelnd 1 knyayn 1939 xxsetreliy 3 knyayn 1939 frngess 3 knyayn 1939 rwmipthung aexlcieriykhxngfrngess dinaednophnthaelkhxngpraethsfrngess niwsiaelnd 3 knyayn 1939 ckrwrrdixngkvs 3 knyayn 1939 britichrach 3 knyayn 1939 shphaphaexfrikait 6 knyayn 1939 aekhnada 10 knyayn 1939emsayn 1940 ednmark 9 emsayn 1940 wangtwepnklanginsngkhramolkkhrngthisxngcnkrathng 29 singhakhm 1943 nxrewy 9 emsayn 1940 aetyngimmikhwamrwmmuxkbfaysmphnthmitrcnkrathngthungpi kh s 1941 rahwangaelahlngsngkhramlwng dubthkhwamephimetimidthi sngkhramlwng ebleyiym 10 phvsphakhm 1940 rwmipthung ebleciynkhxngok lkesmebirk 10 phvsphakhm 1940 enethxraelnd 10 phvsphakhm 1940 rwmipthung hmuekaaxinediytawnxxkkhxngdtch kris 28 tulakhm 1940 yuokslaewiy 6 emsayn 1941hlngcakkarrukranshphaphosewiyt dubthkhwamephimetimidthi ptibtikarbarbarxssa shphaphosewiyt 22 mithunayn 1941 yuekhrn 22 mithunayn 1941 eblarus 22 mithunayn 1941hlngcakkarocmtiephirlharebxr dubthkhwamephimetimidthi karocmtiephirlharebxr panama 7 thnwakhm 1941 shrth 8 thnwakhm 1941 9 thnwakhm 1941 khxstarika 8 thnwakhm 1941 satharnrthodminikn 8 thnwakhm 1941 exlslwadxr 8 thnwakhm 1941 ehti 8 thnwakhm 1941 hxndurs 8 thnwakhm1941 nikarakw 8 thnwakhm1941 satharnrthcin 9 thnwakhm 1941 thasngkhramkbckrwrrdiyipunmatngaet kh s 1937 khiwba 9 thnwakhm 1941 kwetmala 9 thnwakhm 1941 16 thnwakhm 1941hlngcakprakaskxtngshprachachati dubthkhwamephimetimidthi emksiok 22 phvsphakhm 1942 brasil 22 singhakhm 1942 exthioxepiy 14 thnwakhm 1942 kxnhnannxyuphayitkaryudkhrxngkhxng xitali obliewiy 7 emsayn 1943 okhlxmebiy 26 krkdakhm 1943 xihran 9 knyayn 1943 thukyukkhrxngodykxngkalngfaysmphnthmitrtngaetpi kh s 1941 ilbieriy 27 mkrakhm 1944 epru 12 kumphaphnth 1944hlngcakptibtikarbakratixxnaelawndiedy dubthkhwamephimetimidthi ptibtikarbakratixxn aela ptibtikaroxewxrlxrd exkwadxr 2 kumphaphnth 1945 aetwaekhyihkhwamchwyehluxfaysmphnthmitrmaaelwtngaetpi kh s 1943 inkarpxngkn hmuekaakalapaoks parakwy 7 kumphaphnth 1945 xurukwy 15 kumphaphnth 1945 ewensuexla 15 kumphaphnth 1945 ithy 20 kumphaphnth 1944 turki 23 kumphaphnth 1945 xiyipt 27 kumphaphnth 1945 elbanxn 27 kumphaphnth 1945 sieriy 27 kumphaphnth 1945 saxudixaraebiy 1 minakhm 1945 xarecntina 27 minakhm 1945 chili 11 emsayn 1945prawtifaysmphnthmitrdngedim praethssmphnthmitrdngedim khux klumpraethsthiprakassngkhramtxnasieyxrmni inchwngkarbukkhrxnginpi 1939 xnprakxbdwy satharnrthopaelndthi 2 shrachxanackraelaekhruxckrphph ckrwrrdixngkvs satharnrthfrngessthi 3 sungklumpraethsehlanimikhwamsmphnthkncakekhruxkhaysnthisyyapxngknrwmkn aelasnthisyyainkhwamrwmmuxphnthmitrthangkarthharkxnsngkhramolkkhrngthisxng swnkhwamrwmmuxknrahwangshrachxanackraelafrngesssamarthyxnipidthung khwamekhaicrahwangxngkvs frngess inpi kh s 1904 aelafayitrphakhi inpi kh s 1907 aeladaeninkarrwmkninchwngsngkhramolkkhrngthihnung swnphnthmitrthangkarthharfrngess opaelndidrbkarlngnam inpikh s 1921 sungidrbkaraekikhinpi kh s 1927 aelaxikkhrnginpi kh s 1939 swnphnthmitrthangkarthharxngkvs opaelnd idrbkarlngnaminwnthi 25 singhakhm 1939 sungprakxbipdwysyyainkarihkhwamrwmmuxthangkarthharrwmknrahwangchatiinkrnithukrukranodynasieyxrmni faysmphnthmitrtawntk inwnthi 1 knyayn kh s 1939 karbukkhrxngopaelndkhxngeyxrmniidepncuderimtnkhxngsngkhramolkkhrngthisxng shrachxanackraelafrngessprakassngkhramtxeyxrmniinwnthi 3 knyayn inwnediywkn praethsekhruxckrphphprakassngkhramekhakbshrachxanackrdwyechnkn txmapraethsbangswninyuorptawntkidekharwmfaysmphnthmitrhlngcakthukkxngthpheyxrmnekhamarukran idaek ednmark nxrewy enethxraelnd ebleyiym aelalkesmebirk inwnthi 17 knyayn shphaphosewiytbukkhrxngopaelndthangthistawnxxk txma inwnthi 30 knyayn shphaphosewiytocmtifinaelnd phayinpitxma shphaphosewiytidphnwkexadinaednkhxngrthbxltik sungprakxbdwyexsoteniy ltewiyaelalithweniy txmasnthisyyaimrukranknrahwangeyxrmni osewiytyutilngphayhlngcakkarrukranshphaphosewiytkhxngnasieyxrmni inwnthi 22 mithunayn kh s 1941 cungidekharwmfaykbsmphnthmitraelathakartxsuinaenwrbtawnxxk swnshrthidtngxyuinsthanakhwamepnklangimyungkbsngkhramaetkhxychwyehluxsnbsnunsmphnthmitraelashphaphosewiytdwykarihthrphyakrtang aelaxawuthyuothpkntang aethlngcakkarocmtiephirlharebxrkhxngckrwrrdiyipunthaihxemrikatdsinicekharwmsngkhram emuxwnthi 7 thnwakhm kh s 1941 txmaptiyyaaehngshprachachatiinwnthi 1 mkrakhm kh s 1942 sungprakxbdwypraethssmachikrwmlngnamcanwn 26 praeths thuxidwaepnpraethsfaysmphnthmitrxyangepnthangkar xyangirktam praethsfaysmphnthmitrcanwn 3 praeths shrachxanackr shrthaelashphaphosewiytthuxidwaepn phuyingihythngsam xyangimepnthangkarpraethssmachikhlkshrachxanackr shrachxanackridekharwmsngkhramepnfaysmphnthmitrhlngcakthieyxrmnibukopaelndinpi kh s 1939 sungshrachxanackrepnfaysmphnthmitrephiyngimkipraethsinyuorpthirxdphncakkarthukeyxrmniyudkhrxngcnsinsudsngkhram British fighter aircraft bottom flying past a German Heinkel He 111 bomber aircraft top during the Battle of Britain 1940 British during the British aircraft carrier HMS Ark Royal under attack from Italian aircraft during the Nov 27 1940 British soldiers of the in Netherlands on 2 March 1945 shrth shrthidwangtwepnklang aetksngesbiyngihkbfaysmphnthmitr cnkrathngthukyipunocmtithanthpheruxshrthxemrikathixawephirl shrthcungekharwmsngkhramepnfaysmphnthmitrinpi kh s 1941 odythasngkhramtxyipunaelaeyxrmnicnsinsudsngkhram Yorktown is hit on the port side amidships by a Japanese Type 91 during the mid afternoon attack by planes from the carrier Hiryu American dive bomber aircraft attacking the during the in June 1942 American Marines during the in November 1942 American bomber aircraft during the bombing of oil refineries in Ploiești Romania on 1 August 1943 during American soldiers depart landing craft during the on 6 June 1944 known as in the M4 Sherman Medium tankshphaphosewiyt shphaphosewiytidrwmmuxkbnasieyxrmnineruxngkarbukekhayudpraethsopaelndinpi kh s 1939 odynasieyxrmncabukcakthangtawntk swnshphaphosewiytbukmathangdantawnxxk thaihpraethsopaelndthukaebngxxkepnsxngswnodynasieyxrmnkhrxbkhrxngopaelndthangtawntk swnshphaphosewiytkhrxbkhrxngopaelndthangtawnxxk txmathngsxngpraethsidthasnthisyyaomoltxf ribebnthrxphkhux karimrukrankn emuxwnthi 24 singhakhm 1939 ephuxhlngcakyudopaelndaelw nasieyxrmnkcathasngkhramkbfaysmphnthmitrthiaenwrbtawntkidetmthiodyosewiytimyungekiywdwy aetthwanasieyxrmnklbchiksnthisyyachbbniip emuxsngkxngthphbukocmtishphaphosewiytinptibtikarbarbarxssa osewiytcungidepliynfayepnsmphnthmitr Soviet soldiers and tanks advance in skirmish near Bryansk in 1942 Soviet soldiers fighting in the ruins of Stalingrad during the Battle of Stalingrad Soviet ground attack aircraft attacking German ground forces during the 1943 cin inchwngkhristthswrrs 1920 rthbalphrrkhkkmintngnaodycxmthpheciyng ikhechkhsungidrbkarchwyehluxcakshphaphosewiyt aelayngidmikarchwyehluxkarprbprungphayinphrrkhinepniptamaenwkhidlththielnin xnprakxbdwykarphsmknxyanglngtwrahwangphrrkh rthaelakxngthph xyangirktam hlngcakkarprakasrwmchatiemuxpi kh s 1928 eciyng ikhechkhidkwadlangexankkaremuxnghwexiyngsayxxkcakphrrkhaelatxsukbphrrkhkhxmmiwnistcin khunsukinxditaelafayxun praethscininewlannmikhwamkhdaeyngknaelaepidoxkasihyipunklunkindinaednthilanxyodyimsuyesiykalngthharmaknk cakehtukarnkrnimukedninpi kh s 1931 naipsukarcdtngaemncukw aetrthbalcinyngkhngmungkhwamsnicipyngkarkacdphrrkhkhxmmiwnistaelakhunsuktxip odyaebngkxngthphephiyngswnnxymathakarrbephuxtanthankxngthphyipun inchwngtnkhxngkhristthswrrs 1930 eyxrmniaelacinidihkhwamrwmmuxrahwangknthangthharaelaxutsahkrrm odynasieyxrmniidklaymaepnkhukhaxawuthaelawithyakarrayihykhxngcin hlngcakehtukarnsaphanmarokh opol emuxwnthi 7 krkdakhm kh s 1937 cinaelayipuncungekhasukarthasngkhramebdesrc sungdaenintxipcnkrathngyutilnginpi kh s 1945 shphaphosewiyttxngkarihcintxsukbyipun cungihkhwamchwyehluxthangthharaekcincnthungpi kh s 1941 hlngcakkarlngnaminsnthisyyakhwamepnklangyipun ephuxetriymtwthasngkhramkbeyxrmniinaenwrbdantawnxxk thungaemwacincaepnpraethsfaysmphnthmitrthithakarrbepnewlayawnanthisud aetcinidekharwmkbfaysmphnthmitrxyangepnthangkarphayhlngkarocmtiephirlharebxr odycxmthpheciyng ikhechkhmikhwamechuxmnwafaysmphnthmitrcasamarthchnasngkhramidhlngcakkarekhasusngkhramkhxngshrth Soldiers of the associated with Nationalist China during the Second Sino Japanese War Victorious Chinese Communist soldiers holding the during thefrngess frngessmiswnrwmkbkarrbinaenwrbdantawntk nbtngaetsngkhramlwng aelayuththkarfrngess hlngcakkhwamphayaephtxkxngthpheyxrmn dinaednfrngessthukaebngxxkepn frngessekhtyudkhrxng aela wichifrngess khnathirthbalfrngessliphyipyngxngkvs aelamikarkxtngfrngessesri sungmiswnrwminkarpldplxyfrngesscnkrathngsngkhramyuti forces at the 1942 FAFL Free French GC II 5 LaFayette receiving ex USAAF fighters at Casablanca French Morocco rather than fall into the hands of the Axis after their invasion of Vichy France on 11 November 1942 praethssmachikrxngopaelnd sngkhramolkkhrngthisxnginthwipyuorperimtnkhunemuxkarbukkhrxngopaelnd inkhnann kxngthphopaelndmikhnadihyepnxndbthisamkhxngbrrdapraethsinthwipyuorp rxngcakshphaphosewiytaelashrachxanackr opaelndimekhyyxmcannxyangepnthangkartxnasieyxrmni aelathasngkhramtxphayitkhnarthbalphldthinopaelnd kxngthphbanekidsungepnkarekhluxnihwitdinthiihythisudinthwipyuorpnxkxanaekhtkhxngshphaphosewiyt aelamikhbwnkarekhluxnihwitdinxun thiidihkhxmulkhawkrxngsungepnpraoychntxkarptibtikarihsaercinsngkhramrayatxma aelaidepidephykarkxachyakrrmsngkhramkhxngnasieyxrmnitxfaysmphnthmitrtawntk nxkcakni kxngkalngopaelndyngidmiswnchwyehluxfaysmphnthmitrinaenwrbdantawntk aenwrbthaelthray aelaaenwrbdantawnxxkxikdwy Pilots of the during the Battle of Britain Polish resistance fighters from the Kilinski Battalion during the 1944 ebleyiym swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidMembers of the Belgian Resistance with a Canadian soldier in Bruges September 1944 during theenethxraelnd swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidDutch troops close the barrier of the Nijmegen Waal bridge during the Albania crisis lkesmebirk swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidSoldiers from Luxembourg training in Britain 1943nxrewy swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidNorwegian soldiers on the May 1940echoksolwaekiy swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkris swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidGreek soldiers in March 1941 during theyuokslaewiy swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidThe Partisans and the Chetniks carried captured Germans through Uzice autumn 1941 Partisan leader Marshal Josip Broz Tito with Winston Churchill in 1944 Chetniks leader with the members of the US military mission 1944aekhnada swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidSeveral soldiers from the at the December 1943 xxsetreliy swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidAustralian troops land in Alexandria after their evacuation from Greeceniwsiaelnd swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidSoldiers of the C Company marching in Baggush Egypt September 1941 aexfrikait swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidSouth African infantry on parade prior to the Union of South Africa s entry into World War IIemksiok swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidMexican air force Capt Radames Gaxiola Andrade stands in front of his P 47D with his maintenance team after he returned from a combat missionkhiwba swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidsatharnrthodminikn swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidbrasil swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidBrazilian soldiers of the greet civilians in the city of Italy September 1944 klumxxsolklumxxsolepnkarrwmtwknkhxngklumpraethsthiepnklangrahwangsngkhramolkkhrngthisxng sunginphayhlngidekharwmkbfaysmphnthmitrinthanarthbalphldthin xnprakxbdwy nxrewy enethxraelnd ebleyiymaelalkesmebirk finaelndthukrukranodyshphaphosewiytemuxwnthi 30 phvscikayn kh s 1939 inphayhlngfinaelndaelaednmarkidekharwmkbsnthisyyatxtanxngkhkarkhxmmiwnistsaklrwmkbfayxksa swnswiednyngkhngdarngtnepnklangtlxdchwngewlakhxngsngkhram hlngcaksnthisyyasngbsukinkrungmxsokemuxpi kh s 1944 finaelndidekharwmkbfaysmphnthmitraelahnmatxsukbeyxrmniaethn aelaekidepn swnednmarksungthukrukranodyeyxrmniemuxwnthi 9 emsayn kh s 1940 rthbalednmarkimidprakassngkhramkbeyxrmniaelayxmcanninwnediywkn enuxngcakwarthbalyngkhngmixanacinkarcdkarkickarphayinpraethsidxyu ednmarkimidmikarcdtngrthbalphldthinkhunma chawednmarkrbodyxyuthngfaysmphnthmitraelafayxksa ixsaelnd hmuekaaaeforaelakrinaelndsungthuxwaepnxananikhmkhxngednmark thukyudkhrxngodyfaysmphnthmitrtlxdchwngewlaswnihykhxngsngkhram kxngthphxngkvsrukranekaaixsaelndinwnthi 10 phvsphakhm kh s 1940 aelaichxanwykhwamsadwkihkb swnkxngkalngcakshrthxemrikaidyudkhrxngekaakrinaelndemuxwnthi 9 emsayn kh s 1941 hlngcaknnkidyudkhrxngekaaixsaelndinwnthi 7 krkdakhm kh s 1941 aemwacakhngdarngtnepnklanginsngkhramktam txmaixsaelndprakastnepnexkrachcakednmarkinpi kh s 1944 aetimidprakassngkhramkbpraethsfayxksaid ekhruxckrphphaehngprachachatipraethsehlanithukdungekhasusngkhramhlngcakkarprakassngkhramkhxngshrachxanackr sungpraethsehlaniprakxbdwy xxsetreliy aekhnada niwsiaelndaelaaexfrikaitshphaphrwmxemrikasmachikkhxngshphaphrwmxemrikayngkhngdarngtnepnklanginchwngpi kh s 1939 1941 idsrangsnthisyyapxngknrwmkninthiprachumrthmntriwakarkrathrwngkartangpraethsthikrungxabana rahwangwnthi 21 30 krkdakhm kh s 1940 odymitwaethnpraeths 21 praethsrwmlngnam xnprakxbdwy obliewiy brasil chili okhlmebiy khxstarika khiwba satharnrthodminikn exlslwadxr kwetmala ehti hxndurs emksiok nikarakw panama shrthxngkhkarkhxmmiwnistsaklxlebeniy maelesiy mxngokeliy shphaphsatharnrthsngkhmniymosewiyt satharnrthprachachntuwa ewiydnam ewiydminh yuokslaewiyxngkhkarshprachachatihlngcakidmikarlngnaminptiyyashprachachatiemuxwnthi 1 mkrakhm kh s 1942 odymitwaethncak 27 praethsrwmlngnam prakxbdwy opsetxrchwngsngkhramkhxngshprachachati sungidtiphimphkhuninpi kh s 1943xxsetreliy ebleyiym brasil satharnrthcin aekhnada okhlmebiy khxstarika khiwba echoksolwaekiy satharnrthodminikn exlslwadxr kris kwetmala ehti hxndurs xinediy lkesmebirk emksiok enethxraelnd niwsiaelnd nikarakw nxrewy panama epru filippins opaelnd aexfrikait shrachxanackr shphaphsatharnrthsngkhmniymosewiyt shrth yuokslaewiy swnpraethsthilngnaminphayhlngidaek ekhruxckrphphfilippins kh s 1942 exthioxepiy kh s 1942 xirk kh s 1943 xihran kh s 1943 brasil kh s 1943 obliewiy kh s 1943 ilbieriy kh s 1944 frngess kh s 1944 epru kh s 1945 chili kh s 1945 parakwy kh s 1945 ewensuexla kh s 1945 xurukwy kh s 1945 turki kh s 1945 xiyipt kh s 1945 saxudixaraebiy kh s 1945 elbanxn kh s 1945 sieriy kh s 1945 karyxmaephswnnxythng chux wnyxmaephopaelnd 000000001939 10 10 0000 10 tulakhm 1939ednmark 000000001940 04 10 0000 10 emsayn 1940enethxraelnd 000000001940 05 15 0000 15 phvsphakhm 1940ebleyiym 000000001940 05 28 0000 28 phvsphakhm 1940nxrewy 000000001940 06 10 0000 10 mithunayn 1940frngess 000000001940 06 22 0000 22 mithunayn 1940xinodcinkhxngfrngess 000000001940 09 26 0000 26 knyayn 1940yuokslaewiy 000000001941 04 17 0000 17 emsayn 1941kris 000000001941 06 01 0000 1 mithunayn 1941hxngkng 000000001941 12 25 0000 25 thnwakhm 1941britichmalaya 000000001942 01 31 0000 31 mkrakhm 1942hmuekaaxinediytawnxxk khxngenethxraelnd 000000001942 03 09 0000 9 minakhm 1942000000001942 05 08 0000 8 phvsphakhm 1942phma 000000001942 05 20 0000 20 phvsphakhm 1942duephimphunafaysmphnthmitrrahwangsngkhramolkkhrngthisxngxangxing and World War II History khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 10 16 subkhnemux 17 September 2009 Davies 2006 pp 150 151 The Real History of World War II A Google Books books google co uk subkhnemux 2009 09 02 Kwan Yuk Pan 2005 Polish veterans to take pride of place in victory parade Financial Times UK A Decade of American Foreign Policy 1941 1949 Doenecke Justus D Stoler Mark A 2005 Debating Franklin D Roosevelt s foreign policies 1933 1945 Rowman amp Littlefield ISBN 0 8476 9416 X subkhnemux 7 September 2009 Douglas Brinkley FDR amp the Making of the U N Churchill Winston S 1981 1953 The Second World War Volume VI Triumph and Tragedy p 561 Dear and Foot Oxford Companion to World War II pp 279 80aehlngkhxmulxunphnthmitrthiepliynaeplngbnewthiolk karprachumaextaelntik mtiaehngwnthi 24 knyayn 1941 2006 08 31 thi ewyaebkaemchchin bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk