ถนนสามเสน (อักษรโรมัน: Thanon Sam Sen) เป็นถนนสายสำคัญในพื้นที่เขตพระนครและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
แต่เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ทุ่งนาและลำคลองมีชื่อเรียกว่า "ทุ่งสามเสน" ติดริม มีปรากฏตั้งแต่อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวโปรตุเกสที่ได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดศึกสงคราม ชาวโปรตุเกสได้รับราชการสงครามมีความดีความชอบ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินให้เข้ามาอยู่อาศัยเมื่อราว พ.ศ. 2217 จึงได้มีการสร้างวัดคอนเซ็ปชัญ หรือวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ศาสนาสถานของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งในตอนแรกเป็นเพียงแค่โบสถ์ไม้ นับเป็นศาสนสถานของคาสนาคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และกลายเป็นชุมชนเรียกว่า "บ้านโปรตุเกส" หากแต่แถบทุ่งสามเสนนี้ ก็เป็นพื้นที่ ๆ มีผู้คนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว โดยปรากฏหลักฐาน คือ วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร (วัดสมอราย) ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่ก่อนอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา และวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร (วัดสมอแครง) รวมถึงวัดโบสถ์สามเสนที่สร้างในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ชาวเขมรที่เข้ารีตศาสนาคริสต์ที่หลบลี้ภัยสงครามมา เข้ามาอยู่อาศัยที่บ้านโปรตุเกสนี้ ทำให้หมู่บ้านโปรตุเกสเปลี่ยนชื่อเป็น "หมู่บ้านเขมร" โดยมีชาวเขมรผู้หนึ่งชื่อ นายแก้ว มีตำแหน่งเป็นจางวาง ทำหน้าที่เป็นนายหมู่บ้านด้วย ต่อมาสังฆราชปาเลกัว (ฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว) ได้เข้ามาเป็นอธิการวัดคอนเซ็ปชัญ ก็ได้สร้างความเจริญให้แก่วัดแห่งนี้ตราบจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ชาวญวนที่อพยพเข้ามาในกรุงรัตนโกสินทร์อันเนื่องจากมีการปราบปราบชาวญวนที่นับถือศาสนาคริสต์ เข้ามาอาศัยอยู่ยังบริเวณวัดส้มเกลี้ยง ซึ่งเป็นวัดร้าง เหนือหมู่บ้านเขมร เรียกกันว่า "หมู่บ้านญวน" และมีการสร้าง และกลายมาเป็นชุมชนชาวญวนมาจนถึงปัจจุบัน
โดยชื่อ "สามเสน" นั้น ยังไม่ทราบถึงความหมายและที่มาที่ไปแน่ชัด มีตำนานเล่าว่า หลวงพ่อโต พระพุทธรูปมาจากวัดบางพลีใหญ่ใน (ปัจจุบันตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ) ได้ลอยน้ำลงมาจากทางเหนือ มาปรากฏอยู่แถบนี้ ผู้คนได้มาช่วยกันฉุดลากขึ้นจากน้ำ แต่ก็ไม่ขึ้น เพราะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 3 คืบ จนมีคนผู้มาช่วยกันถึงสามแสนคนก็ยังไม่สำเร็จ แต่ผลุบจมหายไป เลยเรียกตำบลนั้นว่า "สามแสน" ต่อมาก็เพี้ยนเป็น "สามเสน" ซึ่งสามเสนก็ยังปรากฏอยู่ในนิราศพระบาทของสุนทรภู่ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2350 ด้วย
แต่จากหลักฐานแผนที่ในจดหมายเหตุหมอแกมป์เฟอร์ (เอ็งเงิลแบร์ท เค็มพ์เฟอร์) นายแพทย์ชาวเยอรมันที่ได้เดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2233 ได้ระบุตำแหน่งที่ชื่อว่า Ban Samsel ซึ่งชื่อดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับคำว่า "บ้านสามเสน" อีกทั้งตำแหน่ง Ban Samsel ก็ตั้งอยู่ระหว่างป้อมที่บางกอก (ฝั่งธนบุรี) กับตลาดแก้ว ตลาดขวัญ (จังหวัดนนทบุรี)
มีการสันนิษฐานไปต่าง ๆ นานา เช่น คำว่า "เสน" เป็นภาษาบาลีหมายถึง โคตรวงศ์, เหล่า แต่เดิมบริเวณพื้นที่แถบนี้น่าจะมีชาวอินเดียที่ชื่อว่า "สาม" อาศัยอยู่ หรืออธิบายว่า โบสถ์ทอมาสเดอะเซนต์ ที่เคยอยู่แถบนี้ ซึ่งสร้างขึ้นโดย นายทอมาส นับถือกันว่าเป็นนักบุญ หรือเซนต์ จึงมีคำว่า เซนต์ ต่อท้ายนาม แต่คนทั่วไปมักเรียกว่า "ทามเสน" ต่อมาจึงกลายเป็น "สามเสน" หรือมีนักภาษาศาสตร์เสนอไว้ว่า น่ามาจะจากภาษามลายูว่า "สุไหงซัมซัม" (Su–ngai Samsam) หมายถึง "คลองชาวมุสลิม" หรืออาจจะมาจากคำว่า "สุไหงซามซิง" (Su–ngai Samsing) หมายถึง "คลองคนดุร้าย" เป็นต้น
การก่อสร้างถนน
ถนนสามเสน เริ่มก่อสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หลังจากที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้สร้างพระราชวังดุสิตขึ้นในพื้นที่ตำบลสามเสน และทรงโปรดให้สร้างถนนหลายสายผ่านบริเวณดังกล่าว ถนนสามเสนมีลักษณะที่สำคัญคือเป็นถนนที่ตัดเลียบไปตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งพระนคร จุดเริ่มต้นของถนนสามเสนเริ่มต้นต่อจากถนนจักรพงษ์ที่ ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนพระสุเมรุ ในเขตพระนคร ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามคลองบางลำพูที่สะพานนรรัตน์สถาน ตัดกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ จากนั้นตัดกับถนนกรุงเกษมที่แยกเทเวศร์ แล้วข้ามคลองผดุงกรุงเกษมที่สะพานเทเวศร์นฤมิตร เข้าสู่พื้นที่เขตดุสิต ตัดกับถนนลูกหลวง ตัดกับถนนศรีอยุธยาที่ จากนั้นตัดกับถนนราชวิถีที่ ตัดกับที่ผ่านวังศุโขทัย ข้ามคลองสามเสนที่ เข้าสู่พื้นที่แขวงถนนนครไชยศรี ตัดกับถนนนครไชยศรีที่แยกศรีย่าน ตัดกับถนนอำนวยสงครามและถนนเขียวไข่กาที่แยกบางกระบือ และสิ้นสุดที่แยกเกียกกายตัดกับ รวมระยะทางประมาณ 4.6 กิโลเมตร โดยมีถนนที่ตรงต่อเนื่องขึ้นไปทางทิศเหนือคือถนนประชาราษฎร์ สาย 1
อนึ่ง ถนนสามเสนเป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองในแขวงต่าง ๆ ดังนี้
หมายเหตุ : ใช้ทิศเหนือเป็นทิศหลัก
- แบ่งแขวงชนะสงคราม (ซ้าย) และแขวงตลาดยอด (ขวา) ในเขตพระนคร ตั้งแต่แยกจักรพงษ์จนถึงสะพานนรรัตน์สถาน
- แบ่งแขวงวัดสามพระยา (ซ้าย) และแขวงบ้านพานถม (ขวา) ในเขตพระนคร ตั้งแต่สะพานนรรัตน์สถานจนถึงแยกบางขุนพรหม
- แบ่งแขวงวัดสามพระยา (ซ้าย) และแขวงบางขุนพรหม (ขวา) ในเขตพระนคร ตั้งแต่แยกบางขุนพรหมจนถึงสะพานเทเวศร์นฤมิตร
- แบ่งแขวงวชิรพยาบาล (ซ้าย) และแขวงดุสิต (ขวา) ในเขตดุสิต ตั้งแต่สะพานเทเวศร์นฤมิตรจนถึงสะพานโสภณ
สถานที่สำคัญ
สถานที่สำคัญที่บริเวณถนนสามเสนผ่าน มีดังนี้
- วัดสังเวชวิศยารามวรวิหาร
- สำนักงานเขตพระนคร
- วัดสามพระยา
- ธนาคารแห่งประเทศไทย
- วังเทวะเวสม์
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
- หอสมุดแห่งชาติ
- วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
- โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
- โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
- วังศุโขทัย
- กรมชลประทาน
- โรงเรียนราชินีบน
- บุญรอดบริวเวอรี
- สัปปายะสภาสถาน
- กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
รายชื่อทางแยก
จังหวัด | กม.ที่ | ชื่อจุดตัด | ซ้าย | ขวา | |
---|---|---|---|---|---|
ถนนสามเสน แยกเกียกกาย–บางลําพู | |||||
กรุงเทพมหานคร | แยกเกียกกาย | เชื่อมต่อจาก: ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ไปพิบูลสงคราม, สะพานพระราม 7 | |||
ถนนทหาร ไปประดิพัทธ์, พระราม 6 | ถนนทหาร ไป ท่าเรือเกียกกาย | ||||
แยกบางกระบือ | ถนนอํานวยสงคราม ไป พระราม 5 | ถนนเขียวไข่กา ไป ท่าเรือเขียวไข่กา | |||
แยกศรีย่าน | ถนนนครชัยศรี ไปพระราม 6 | ถนนนครไชยศรี ไป ท่าเรือพายัพ | |||
แยกวชิระ | ถนนสุโขทัย ไป สวรรคโลก | ถนนสุโขทัย จาก สะพานกรุงธน | |||
แยกซังฮี้ | ถนนราชวิถี ไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ | ถนนราชวิถี ไป สะพานกรุงธน | |||
แยกสี่เสาเทเวศร์ | ถนนศรีอยุธยา ไป ราชปรารภ | ถนนศรีอยุธยา ไป วัดเทวราชกุญชร | |||
ถนนพิษณุโลก ไป ยมราช | ไม่มี | ||||
ถนนลูกหลวง ไป สะพานมัฆวานรังสรรค์ | ไม่มี | ||||
สะพานเทเวศรนฤมิตร ข้ามคลองผดุงกรุงเกษม | |||||
แยกเทเวศร์ | ถนนกรุงเกษม ไป มัฆวานรังสรรค์,หลานหลวง | ถนนกรุงเกษม ไป ท่าเรือเทเวศร์ | |||
แยกบางขุนพรมหม | ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ไป แยกจ.ป.ร | ไม่มี | |||
สะพานนรรัตน์สถาน ข้ามคลองบางลำพู | |||||
แยกบางลําพู | ถนนพระสุเมรุ ไป สนามหลวง | ถนนพระสุเมรุ ไป ป้อมมหากาฬ | |||
− | ตรงไป: ถนนจักรพงษ์ ไป แยกผ่านพิภพลีลา | ||||
สะพาน กำลังก่อสร้างหรือโครงการในอนาคต |
อ้างอิง
- "สามเสน...ประวัติศาสตร์บรรพชนคนนานาชาติ ต้นกำเนิดการประปาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์". . 2012-05-04. สืบค้นเมื่อ 2018-02-17.
- บุนนาค, โรม (2017-07-26). . ผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-03-02. สืบค้นเมื่อ 2018-02-17.
- "สามเสนเรียกกันมาแต่สมัยอยุธยา". วารสารดำรงวิชาการ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2014-07-24. สืบค้นเมื่อ 2018-02-17.
แหล่งข้อมูลอื่น
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ ถนนสามเสน
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thnnsamesn xksrormn Thanon Sam Sen epnthnnsaysakhyinphunthiekhtphrankhraelaekhtdusit krungethphmhankhraephnthiekhtdusit thnnsamesnxyubriewnsaybn iklkbaemnaecaphrayathnnsamesn briewniklkbtladsriyanprawtiaetedimphunthibriewnniepnphunthithungnaaelalakhlxngmichuxeriykwa thungsamesn tidrim miprakttngaetxanackrkrungsrixyuthya rchsmysmedcphranaraynmharach odychawoprtueksthiidxphyphekhamaxasyxyuinkrungsrixyuthya emuxekidsuksngkhram chawoprtueksidrbrachkarsngkhrammikhwamdikhwamchxb smedcphranaraynmharachcungidoprdekla phrarachthanthidinihekhamaxyuxasyemuxraw ph s 2217 cungidmikarsrangwdkhxnespchy hruxwdaemphraptisnthinirml sasnasthankhxngsasnakhristnikayormnkhathxlik sungintxnaerkepnephiyngaekhobsthim nbepnsasnsthankhxngkhasnakhristthiekaaekthisudinkrungethphmhankhr aelaklayepnchumchneriykwa banoprtueks hakaetaethbthungsamesnni kepnphunthi miphukhnxasyxyukxnaelw odyprakthlkthan khux wdrachathiwasrachwrwihar wdsmxray sungsnnisthanwasrangmatngaetkxnxanackrkrungsrixyuthya aelawdethwrachkuychrwrwihar wdsmxaekhrng rwmthungwdobsthsamesnthisranginxanackrkrungsrixyuthya txmainrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 inchwngtnkrungrtnoksinthr idoprdekla ihchawekhmrthiekharitsasnakhristthihlbliphysngkhramma ekhamaxyuxasythibanoprtueksni thaihhmubanoprtueksepliynchuxepn hmubanekhmr odymichawekhmrphuhnungchux nayaekw mitaaehnngepncangwang thahnathiepnnayhmubandwy txmasngkhrachpaelkw chxng batist palkw idekhamaepnxthikarwdkhxnespchy kidsrangkhwamecriyihaekwdaehngnitrabcnthungpccubn txmainrchsmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw rchkalthi 3 idoprdekla ihchawywnthixphyphekhamainkrungrtnoksinthrxnenuxngcakmikarprabprabchawywnthinbthuxsasnakhrist ekhamaxasyxyuyngbriewnwdsmekliyng sungepnwdrang ehnuxhmubanekhmr eriykknwa hmubanywn aelamikarsrang aelaklaymaepnchumchnchawywnmacnthungpccubn odychux samesn nn yngimthrabthungkhwamhmayaelathimathiipaenchd mitananelawa hlwngphxot phraphuththrupmacakwdbangphliihyin pccubntngxyuinxaephxbangphli cnghwdsmuthrprakar idlxynalngmacakthangehnux mapraktxyuaethbni phukhnidmachwyknchudlakkhuncakna aetkimkhun ephraaepnphraphuththrupthxngsmvththi hnatkkwang 3 sxk 3 khub cnmikhnphumachwyknthungsamaesnkhnkyngimsaerc aetphlubcmhayip elyeriyktablnnwa samaesn txmakephiynepn samesn sungsamesnkyngpraktxyuinnirasphrabathkhxngsunthrphu emuxplaypi ph s 2350 dwy aetcakhlkthanaephnthiincdhmayehtuhmxaekmpefxr exngengilaebrth ekhmphefxr nayaephthychaweyxrmnthiidedinthangekhamayngkrungsrixyuthyatngaet ph s 2233 idrabutaaehnngthichuxwa Ban Samsel sungchuxdngklawmikhwamiklekhiyngkbkhawa bansamesn xikthngtaaehnng Ban Samsel ktngxyurahwangpxmthibangkxk fngthnburi kbtladaekw tladkhwy cnghwdnnthburi mikarsnnisthaniptang nana echn khawa esn epnphasabalihmaythung okhtrwngs ehla aetedimbriewnphunthiaethbninacamichawxinediythichuxwa sam xasyxyu hruxxthibaywa obsththxmasedxaesnt thiekhyxyuaethbni sungsrangkhunody naythxmas nbthuxknwaepnnkbuy hruxesnt cungmikhawa esnt txthaynam aetkhnthwipmkeriykwa thamesn txmacungklayepn samesn hruxminkphasasastresnxiwwa namacacakphasamlayuwa suihngsmsm Su ngai Samsam hmaythung khlxngchawmuslim hruxxaccamacakkhawa suihngsamsing Su ngai Samsing hmaythung khlxngkhnduray epntnkarkxsrangthnnthnnsamesn erimkxsranginsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 hlngcakthiphraxngkhthrngmiphrarachdariihsrangphrarachwngdusitkhuninphunthitablsamesn aelathrngoprdihsrangthnnhlaysayphanbriewndngklaw thnnsamesnmilksnathisakhykhuxepnthnnthitdeliybiptamaenwaemnaecaphrayainfngphrankhr cuderimtnkhxngthnnsamesnerimtntxcakthnnckrphngsthi sungepncudtdkbthnnphrasuemru inekhtphrankhr trngipthangthistawnxxkechiyngehnux khamkhlxngbanglaphuthisaphannrrtnsthan tdkbthnnwisuththikstriythi caknntdkbthnnkrungeksmthiaeykethewsr aelwkhamkhlxngphdungkrungeksmthisaphanethewsrnvmitr ekhasuphunthiekhtdusit tdkbthnnlukhlwng tdkbthnnsrixyuthyathi caknntdkbthnnrachwithithi tdkbthiphanwngsuokhthy khamkhlxngsamesnthi ekhasuphunthiaekhwngthnnnkhrichysri tdkbthnnnkhrichysrithiaeyksriyan tdkbthnnxanwysngkhramaelathnnekhiywikhkathiaeykbangkrabux aelasinsudthiaeykekiykkaytdkb rwmrayathangpraman 4 6 kiolemtr odymithnnthitrngtxenuxngkhunipthangthisehnuxkhuxthnnpracharasdr say 1 xnung thnnsamesnepnesnaebngekhtkarpkkhrxnginaekhwngtang dngni hmayehtu ichthisehnuxepnthishlk aebngaekhwngchnasngkhram say aelaaekhwngtladyxd khwa inekhtphrankhr tngaetaeykckrphngscnthungsaphannrrtnsthan aebngaekhwngwdsamphraya say aelaaekhwngbanphanthm khwa inekhtphrankhr tngaetsaphannrrtnsthancnthungaeykbangkhunphrhm aebngaekhwngwdsamphraya say aelaaekhwngbangkhunphrhm khwa inekhtphrankhr tngaetaeykbangkhunphrhmcnthungsaphanethewsrnvmitr aebngaekhwngwchirphyabal say aelaaekhwngdusit khwa inekhtdusit tngaetsaphanethewsrnvmitrcnthungsaphanosphnsthanthisakhysthanthisakhythibriewnthnnsamesnphan midngni wdsngewchwisyaramwrwihar sanknganekhtphrankhr wdsamphraya thnakharaehngpraethsithy wngethwaewsm mhawithyalyethkhonolyirachmngkhlphrankhr withyaekhtethewsr hxsmudaehngchati wdrachathiwasrachwrwihar mhawithyalyrachphtswnsunntha orngeriynesntkhaebriyl orngphyabalwchirphyabal wngsuokhthy krmchlprathan orngeriynrachinibn buyrxdbriwewxri sppayasphasthan kxngphnthharmathi 4 rksaphraxngkh kxngphlthi 1 rksaphraxngkhraychuxthangaeykraychuxthangaeykbn thnnsamesn thisthang aeykekiykkay banglaphu say thisehnux khwa thisit cnghwd km thi chuxcudtd say khwathnnsamesn aeykekiykkay banglaphukrungethphmhankhr aeykekiykkay echuxmtxcak thnnpracharasdrsay 1 ipphibulsngkhram saphanphraram 7thnnthhar ippradiphthth phraram 6 thnnthhar ip thaeruxekiykkayaeykbangkrabux thnnxanwysngkhram ip phraram 5 thnnekhiywikhka ip thaeruxekhiywikhkaaeyksriyan thnnnkhrchysri ipphraram 6 thnnnkhrichysri ip thaeruxphayphaeykwchira thnnsuokhthy ip swrrkholk thnnsuokhthy cak saphankrungthnaeyksnghi thnnrachwithi ip xnusawriychysmrphumi thnnrachwithi ip saphankrungthnaeyksiesaethewsr thnnsrixyuthya ip rachprarph thnnsrixyuthya ip wdethwrachkuychrthnnphisnuolk ip ymrach immithnnlukhlwng ip saphanmkhwanrngsrrkh immisaphanethewsrnvmitr khamkhlxngphdungkrungeksmaeykethewsr thnnkrungeksm ip mkhwanrngsrrkh hlanhlwng thnnkrungeksm ip thaeruxethewsraeykbangkhunphrmhm thnnwisuththikstriy ip aeykc p r immisaphannrrtnsthan khamkhlxngbanglaphuaeykbanglaphu thnnphrasuemru ip snamhlwng thnnphrasuemru ip pxmmhakal trngip thnnckrphngs ip aeykphanphiphphlila saphan kalngkxsranghruxokhrngkarinxnakhtxangxing samesn prawtisastrbrrphchnkhnnanachati tnkaenidkarprapaaehngkrungrtnoksinthr 2012 05 04 subkhnemux 2018 02 17 bunnakh orm 2017 07 26 phucdkarxxniln khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 03 02 subkhnemux 2018 02 17 samesneriykknmaaetsmyxyuthya warsardarngwichakar khnaobrankhdi mhawithyalysilpakr 2014 07 24 subkhnemux 2018 02 17 aehlngkhxmulxunaephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng thnnsamesn phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 13 47 00 N 100 30 44 E 13 783449 N 100 512118 E 13 783449 100 512118