บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
อาณาจักรรัตนโกสินทร์ เป็นราชอาณาจักรของไทย เริ่มตั้งแต่การย้ายเมืองหลวงจากฝั่งกรุงธนบุรี มายังกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325
อาณาจักรรัตนโกสินทร์ ราชอาณาจักรสยาม | |
---|---|
2325–2475 | |
เพลงชาติ: จอมราชจงเจริญ (พ.ศ. 2395–2414) บุหลันลอยเลื่อน (พ.ศ. 2414–2431) เพลงสรรเสริญพระบารมี (พ.ศ. 2431–2475) (โดยพฤตินัย) | |
แผนที่แสดงอาณาเขตของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2348 (รวมดินแดนของเจ้าประเทศราช) | |
แผนที่ทางรัฐศาสตร์ของราชอาณาจักรสยามก่อนสนธิสัญญาอังกฤษ–สยาม พ.ศ. 2452 | |
เมืองหลวง | กรุงรัตนโกสินทร์ |
ภาษาทั่วไป | ไทย |
ศาสนา | ศาสนาพุทธเถรวาท |
เดมะนิม | ชาวสยาม |
การปกครอง | ระบอบราชาธิปไตยแบบระบบเจ้าขุนมูลนาย (พ.ศ. 2325–2435) (110 ปี) ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (พ.ศ. 2435–2475) (40 ปี) ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (พ.ศ. 2475) (92 ปี) |
พระมหากษัตริย์ | |
• พ.ศ. 2325–2352 | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (พระองค์แรก) |
• พ.ศ. 2411–2453 | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
• พ.ศ. 2468–2477 | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระองค์สุดท้าย) |
สภานิติบัญญัติ | อภิรัฐมนตรีสภา (พ.ศ. 2468–2475) |
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคต้นสมัยใหม่, (ยุคสมัยใหม่) |
• สถาปนา | 6 เมษายน 2325 |
2328–2329, 2352–2355 | |
2369 | |
• กบฏลาว | 2369–2371 |
2384–2388 | |
18 เมษายน 2398 | |
2417–2418 | |
2436 | |
22 กรกฎาคม 2460 | |
24 มิถุนายน 2475 | |
ประชากร | |
• พ.ศ. 2343 | 4,000,000 |
• พ.ศ. 2472 | 11,506,207 |
สกุลเงิน | พดด้วง (จนถึง พ.ศ. 2447) บาทไทย (ตั้งแต่ พ.ศ. 2447) |
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ |
ครึ่งแรกของสมัยนี้เป็นการเพิ่มพูนอำนาจของอาณาจักร ถูกขัดจังหวะด้วยความขัดแย้งเป็นระยะกับพม่า เวียดนามและลาว ส่วนครึ่งหลังนั้นเป็นการเผชิญกับประเทศเจ้าอาณานิคม อังกฤษและฝรั่งเศส จนทำให้ไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคมของตะวันตก ผลกระทบจากภัยคุกคามนั้น นำให้อาณาจักรพัฒนาไปสู่รัฐชาติ สมัยใหม่ที่รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยมีพรมแดนที่กำหนดร่วมกับชาติตะวันตก สมัยนี้มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ด้วยการเพิ่มการค้ากับต่างประเทศ การเลิกทาส และการขยายการศึกษาแก่ชนชั้นกลางที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปฏิรูปทางการเมืองอย่างแท้จริงกระทั่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ถูกแทนที่ด้วยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ในการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475
ชื่อ "รัตนโกสินทร์" ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน แต่บทความนี้จะกล่าวถึงเหตุการณ์จนถึง พ.ศ. 2475 เท่านั้น
การก่อตั้ง
รัชกาลที่ 1 ทรงฟื้นฟูระบบสังคมและการเมืองของราชอาณาจักรอยุธยา ทรงออกกฎหมายตราสามดวงประมวลกฎหมายใหม่ทรงฟื้นฟูพิธีในราชสำนัก และทรงบัญญัติวินัยสงฆ์ การปกครองแบ่งเป็นหกกรม โดยในจำนวนนี้สี่กรมมีหน้าทีปกครองดินแดนโดยเฉพาะ กรมกลาโหมปกครองทางใต้ กรมมหาดไทยปกครองทางเหนือและตะวันออก กรมพระคลังปกครองดินแดนที่อยู่ทางใต้ของพระนคร และกรมเมืองปกครองพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร ส่วนอีกสองกรมนั้นคือ กรมนาและกรมวัง กองทัพอยู่ภายใต้การควบคุมของอุปราชซึ่งเป็นพระอนุชาในพระมหากษัตริย์ พม่าซึ่งเห็นความวุ่นวาย ประกอบกับการโค่นล้มสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้รุกรานสยามอีกใน พ.ศ. 2328 ฝ่ายสยามแบ่งกำลังออกเป็นทางตะวันตกได้บดขยี้ทัพพม่าใกล้จังหวัดกาญจนบุรี นี่เป็นการรุกรานสยามใหญ่ครั้งสุดท้ายของพม่า พ.ศ. 2345 พม่าถูกขับออกจากล้านนา พ.ศ. 2335 สยามยึดครองหลวงพระบาง และนำดินแดนลาวส่วนใหญ่มาอยู่ใต้การปกครองโดยอ้อมของสยาม กัมพูชาอยู่ภายใต้การปกครองของสยามอย่างเต็มที่ และกระทั่งสวรรคตใน พ.ศ. 2352 พระองค์ทรงสถาปนาความเป็นเจ้าของสยามเหนือดินแดนที่ใหญ่กว่าประเทศไทยปัจจุบันอยู่มาก
การรุกรานเวียดนาม
ใน พ.ศ. 2319 เมื่อกบฏเต็ยเซิน (Tây Sơn) ยึดซาดินห์ (Gia Dinh) ก็ได้ประหารพระราชวงศ์เหงียนและประชากรท้องถิ่นเป็นอันมาก เหงียน อั๊ญ (Nguyễn Ánh) พระราชวงศ์เหงียนพระองค์สุดท้ายที่ยังมีพระชนม์อยู่ ทรงหนีข้ามแม่น้ำมายังสยาม ขณะที่ลี้ภัยในสยาม เหงียน อั๋นห์ทรงปรารถนาจะยึดซาดินห์คืน และขับกบฏเต็ยเซินออกไป พระองค์ทรงโน้มน้าวพระทัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่วางพระองค์เป็นกลาง ให้การสนับสนุนด้านกำลังพลและกำลังรุกรานขนาดเล็กแก่พระองค์ใน พ.ศ. 2326
กลาง พ.ศ. 2327 เหงียน อั๊ญ พร้อมกับกองทัพสยาม 20,000-50,000 นาย และเรือ 300 ลำ เคลื่อนผ่านกัมพูชา ทางตะวันออกของโตนเลสาบ และแทรกซึมแคว้นอันนัมซึ่งเพิ่งถูกผนวกล่าสุด ทหาร 20,000 นายถึงเกียนเซียง (Kien Giang) และอีก 30,000 นายขึ้นบกที่ชัป หลาบ (Chap Lap) ขณะที่สยามรุกคืบสู่เกิ่นเทอ (Cần Thơ) ปีเดียวกัน สยามยึดแคว้นเดียดินห์ ซึ่งอดีตเป็นของกัมพูชา มีการอ้างว่า ทหารสยามกระทำทารุณต่อประชากรผู้ตั้งถิ่นฐานชาวเวียดนาม ทำให้ประชาชนท้องถิ่นหันไปสนับสนุนเตยเซิน
เหงวียนเหว (Nguyễn Huệ) แห่งราชวงศ์เตยเซิน ทรงคาดการณ์ล่วงหน้าถึงการเคลื่อนไหวของสยาม ทรงจัดวางทหารราบอย่างลับ ๆ ตามแม่น้ำเตียง (Tiền) ใกล้กับมายโตว (Mỹ Tho) ปัจจุบัน และเกาะกลางแม่น้ำบางเกาะ เผชิญกับกำลังอื่นฝั่งเหนือ พร้อมกำลังเสริมทางเรือทั้งสองฝั่งของที่ตั้งทหารราบ
เช้าวันที่ 19 มกราคม เหงวียนเหวทรงส่งกำลังทางเรือขนาดเล็กใต้ธงสงบศึก เพื่อลวงให้ฝ่ายสยามเข้าสู่กับดัก หลังได้รับชัยชนะหลายครั้ง ทัพบกและทัพเรือสยามจึงมั่นใจว่าจะต้องเป็นการยอมแพ้โดยบริสุทธิ์ ดังนั้น จึงเดินเข้าสู่การเจรจาโดยไม่รู้เลยว่าเป็นกับดัก กองทัพของเหงวียนเหวโผเข้าทำลายแนวของสยาม สังหารทูตไม่มีอาวุธและโจมตีต่อไปยังทหารที่ไม่ทันตั้งตัว ยุทธการจบลงโดยกองทัพสยามเกือบถูกทำลายสิ้น แหล่งข้อมูลเวียดนามบันทึกว่า เรือทั้งหมดของทัพเรือสยามถูกทำลาย และมีกองทหารดั้งเดิมเพียง 2,000-3,000 นายที่รอดชีวิตหลบหนีกลับข้ามแม่น้ำไปในสยามได้
สันติภาพ
รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ค่อนข้างไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ขณะนี้ราชวงศ์จักรีเข้าควบคุมทุกส่วนของรัฐบาลสยาม เพราะพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระราชโอรส-ธิดารวมทั้งสิ้น 42 พระองค์ พระมหาอุปราช พระอนุชา มีพระโอรส-ธิดารวม 43 พระองค์ และพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระราชโอรส-ธิดาทั้งสิ้น 100 พระองค์ จึงมีเจ้านายพอที่จะจัดเข้าสู่ระบบข้าราชการประจำ กองทัพ สมณเพศอาวุโสและรัฐบาลส่วนภูมิภาค มีการเผชิญหน้ากับเวียดนาม ซึ่งกลายมาเป็นมหาอำานจในภูมิภาค เหนือการควบคุมกัมพูชาใน พ.ศ. 2356 ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยการฟื้นฟู
อิทธิพลของตะวันตกเริ่มแผ่ขยายเข้ามาในภูมิภาค โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2328 อังกฤษยึดครองปีนัง และใน พ.ศ. 2362 เข้ามาตั้งสิงคโปร์ ไม่นาน อังกฤษก็ได้เข้ามาแทนที่ฮอลันดาและโปรตุเกสเป็นชาติตะวันตกที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองหลักในสยาม อังกฤษคัดค้านระบบเศรษฐกิจสยาม ซึ่งเจ้านายเป็นผู้ผูกขาดการค้า และธุรกิจถูกจัดเก็บภาษีตามอำเภอใจ ใน พ.ศ. 2364 ลอร์ดฮัสติงส์แห่งบริษัทอินเดียตะวันออก ซึ่งขณะนั้นเป็นข้าหลวงใหญ่แห่งอินเดีย ส่งตัวแทนของบริษัท จอห์น ครอว์เฟิร์ด เป็นคณะทูตเพื่อเรียกร้องให้สยามยกเลิกการจำกัดการค้าเสรี อันเป็นสัญญาณแรกของประเด็นซึ่งจะครอบงำการเมืองของสยามในคริสต์ศตวรรษที่ 19
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2367 กรมหมื่นเจษฏาบดินทร์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ เสวยราชสมบัติต่อเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชโอรสพระองค์เล็ก เจ้าฟ้ามงกุฎ ทรงได้รับการแนะนำให้ออกผนวช เพื่อจะได้ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
ใน พ.ศ. 2368 อังกฤษส่งคณะทูตเข้ามาในกรุงเทพมหานครอีกครั้ง นำโดย ผู้แทนทางการทูตของบริษัทอินเดียตะวันออก เฮนรี เบอร์นี ขณะนั้น อังกฤษได้ผนวกพม่าตอนใต้แล้ว และจึงเป็นเพื่อนบ้านของสยามทางตะวันตก และอังกฤษยังพยายามขยายการควบคุมเหนือมลายูด้วย พระมหากษัตริย์ไม่เต็มพระทัยยอมข้อเรียกร้องของอังกฤษ แต่ที่ปรึกษาของพระองค์กราบทูลเตือนว่า สยามจะเผชิญชะตาเดียวกับพม่าหากไม่บรรลุข้อตกลงกับอังกฤษ ฉะนั้น ใน พ.ศ. 2369 สยามจึงบรรลุสนธิสัญญาพาณิชย์ฉบับแรกกับชาติตะวันตก คือ สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ (หรือสนธิสัญญาเบอร์นี) ภายใต้เงื่อนไขแห่งสนธิสัญญา สยามตกลงจัดตั้งระบบการจัดเก็บภาษีเป็นแบบเดียวกัน ลดภาษีการค้าต่างชาติและลดการผูกขาดของหลวงบางประเภท ผลคือ การค้าของสยามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวต่างชาติจำนวนมากเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพมหานคร และอิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มแผ่ขยาย ราชอาณาจักรมั่งคั่งขึ้นและกองทัพติดอาวุธดีขึ้น
กบฏเจ้าอนุวงศ์ของลาวพ่ายแพ้ใน พ.ศ. 2370 ซึ่งหลังจากนั้นสยามได้ทำลายกรุงเวียงจันทน์ และดำเนินการถ่ายโอนประชากรแบบบังคับจากลาวมายังภาคอีสานปัจจุบันที่ครอบครองแน่นหนากว่า และแบ่งแยกเมืองลาวเป็นหน่วยเล็ก ๆ เพื่อป้องกันการก่อการกำเริบอีก ใน พ.ศ. 2385-2388 สยามทำสงครามกับเวียดนามเป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นผลให้สยามปกครองกัมพูชาได้รัดกุมขึ้น
จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1840 (พ.ศ. 2383) เป็นที่ประจักษ์ว่า เอกราชของสยามอยู่ในอันตรายจากประเทศเจ้าอาณานิคม ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนจากสงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่งระหว่างอังกฤษกับจีนใน พ.ศ. 2382-2385 ใน พ.ศ. 2393 อังกฤษและอเมริกาส่งคณะทูตมายังกรุงเทพมหานครเรียกร้องให้ยุติการจำกัดการค้าทั้งหมด จัดตั้งรัฐบาลแบบตะวันตกและสิทธิสภาพนอกอาณาเขตแก่พลเมืองของตน รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านี้
ในทางเศรษฐกิจ นับแต่ก่อตั้งราชอาณาจักรรัตนโกสินทร์ พ่อค้าจีนมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่ถูกขับไล่ออกไปโดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี นอกเหนือจากพ่อค้า ชาวจีนที่เป็นชาวนาก็เข้ามาแสวงโชคไม่หยุดหย่อนในราชอาณาจักร ผู้ปกครองสมัยนี้ต้อนรับชาวจีนเพราะเป็นแหล่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ่อค้าเชื้อสายจีนบางคนได้กลายมาเป็นข้าราชสำนึกถือตำแหน่งสำคัญ วัฒนธรรมจีน เช่น วรรณกรรม ได้รับการยอมรับและสนับสนุน ความสัมพันธ์ของสยามกับจักรวรรดิจีนนั้นเข้มแข็ง ซึ่งรับประกันโดยคณะทูตบรรณาการ ซึ่งดำเนินเรื่อยมาจนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ชาวจีนจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเกิดใหม่ของราชอาณาจักรรัตนโกสินทร์
การทำให้ทันสมัย
เจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน พ.ศ. 2394 ทรงถูกกำหนดให้ช่วยสยามให้รอดพ้นจากการครอบงำอาณานิคมโดยทรงบังคับให้คนในบังคับทันสมัย แม้พระองค์จะเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชในทางทฤษฎี แต่พระราชอำนาจของพระองค์มีจำกัด หลังจากออกผนวชนาน 27 ปี พระองค์จึงขาดฐานในหมู่เจ้านายที่ทรงอำนาจ และไม่อาจดำเนินระบบรัฐสมัยใหม่ตามพระประสงค์ได้ ความพยายามแรกของพระองค์ในการปฏิรูปเพื่อสถาปนาระบบการปกครองใหม่และยกสถานภาพของทาสสินไถ่และสตรีไม่สัมฤทธิ์ผล
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงต้อนรับการบุกรุกของตะวันตกในสยาม อันที่จริง พระองค์และข้าราชบริพารนิยมอังกฤษอย่างแข็งขัน ใน พ.ศ. 2398 มีคณะทูตอังกฤษ นำโดย เซอร์จอห์น เบาริง ผู้ว่าราชการฮ่องกง เดินทางเข้ามาในกรุงเทพมหานครเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทันที โดยได้รับการสนับสนุนจากการข่มขู่ใช้กำลัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมยอมรับข้อเรียกร้องทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ เรียกว่า สนธิสัญญาเบาว์ริง ซึ่งจำกัดอัตราภาษีขาเข้าที่ร้อยละ 3 กำจัดการผูกขาดการค้าของพระมหากษัตริย์ และให้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตแก่คนในบังคับอังกฤษ ไม่นาน ชาติตะวันตกอื่น ๆ ก็ได้เรียกร้องและได้สัมปทานที่คล้ายกัน
ไม่นาน พระองค์ก็ทรงตระหนักว่า ภัยคุกคามต่อสยามแท้จริงนั้นมาจากฝรั่งเศส มิใช่อังกฤษ อังกฤษสนใจในประโยชน์พาณิชย์ แต่ฝรั่งเศสสนใจสร้างจักรวรรดิอาณานิคม ฝรั่งเศสยึดครองไซ่ง่อนใน พ.ศ. 2402 และ พ.ศ. 2410 ได้สถาปนารัฐในอารักขาเหนือเวียดนามตอนใต้และกัมพูชาตะวันออก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงหวังว่าอังกฤษจะปกป้องสยามหากพระองค์พระราชทานสัมปทานเศรษฐกิจตามที่ต้องการ แต่เหตุการณ์ในรัชกาลต่อมาได้พิสูจน์แล้วว่า ความหวังของพระองค์เป็นเพียงภาพลวงตา แต่ก็เป็นจริงที่อังกฤษมองสยามเป็นรัฐกันชนที่มีประโยชน์ระหว่างพม่าและมลายูของอังกฤษกับอินโดจีนฝรั่งเศส
การปฏิรูป
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2411 และสืบราชบัลลังก์ต่อโดยเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ วัย 15 ชันษา เป็นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์สยามพระองค์แรกที่ทรงได้รับการศึกษาอย่างตะวันตกมาอย่างสมบูรณ์ ในตอนแรก รัชสมัยของพระองค์ถูกครอบงำโดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งมีแนวคิดอนุรักษนิยม แต่เมื่อพระองค์มีพระชนมายุครบ 20 พรรษา พระองค์ก็ทรงเข้าปกครองโดยตรง พระองค์ทรงตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และสภาที่ปรึกษาในพระองค์ ระบบศาลและสำนักงบประมาณอย่างเป็นทางการ พระองค์ทรงประกาศว่า ความเป็นทาสจะค่อย ๆ ถูกเลิกไปและจำกัดพันธะหนี้สินในช่วงแรก เจ้านายและผู้มีแนวคิดอนุรักษนิยมพระองค์อื่นสามารถขัดขวางวาระการปฏิรูปของพระมหากษัตริย์ได้ แต่เมื่อเจ้านายรุ่นเก่าถูกแทนที่ด้วยเจ้านายรุ่นใหม่และได้รับการศึกษาแบบตะวันตก การขัดขวางก็จางลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพันธมิตรอันทรงพลังในพระอนุชา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ (กระทรวงการคลังปัจจุบัน) พระองค์แรก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ทรงจัดระเบียบรัฐบาลภายในและการศึกษา และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เป็นราชเลขานุการฝ่ายต่างประเทศกว่า 38 ปี เมื่อ พ.ศ. 2430 กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการเสด็จเยือนยุโรปเพื่อทรงศึกษาระบบรัฐบาล ในการถวายความเห็น พระมหากษัตริย์ทรงจัดตั้งการปกครองแบบรัฐสภา สำนักงานตรวจสอบบัญชีและกระทรวงธรรมการ (ดูแลการศึกษา) สถานะกึ่งปกครองตนเองของเชียงใหม่สิ้นสุดลง และกองทัพถูกจัดระเบียบใหม่และทำให้ทันสมัย
พ.ศ. 2436 เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสในอินโดจีนใช้ข้อพิพาทพรมแดนเล็กน้อยเพื่อปลุกปั่นวิกฤตการณ์ เรือปืนฝรั่งเศสปรากฏขึ้นที่กรุงเทพมหานคร และเรียกร้องให้โอนดินแดนลาวที่อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขออังกฤษ แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษกราบทูลพระองค์ให้ระงับด้วยเงื่อนไขใดก็ตามที่พระองค์จะทรงได้รับ และพระองค์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมทำตาม ท่าทีเดียวของอังกฤษคือ ความตกลงกับฝรั่งเศสรับประกันบูรณภาพของสยามส่วนที่เหลือ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สยามยอมยกการอ้างสิทธิ์เหนือรัฐฉานทางตะวันออกเฉียงเหนือของพม่าแก่อังกฤษ
อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสยังคงกดดันสยาม และใน พ.ศ. 2449-2450 ก็ได้ก่อวิกฤตการณ์ขึ้นอีกหน หนนี้สยามจำต้องโอนดินแดนทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโขงตรงข้ามหลวงพระบางและรอบจำปาศักดิ์ทางตอนใต้ของลาว ตลอดจนกัมพูชาตะวันตก ให้อยู่ในการควบคุมของฝรั่งศส อังกฤษเข้าไกล่เกลี่ยเพื่อกันมิให้ฝรั่งเศสระรานสยามอีก แต่ใน พ.ศ. 2452 สยามจำต้องจ่ายราคาเป็นการยอมรับอธิปไตยของอังกฤษเหนือไทรบุรี กลันตัน ปะลิสและตรังกานูภายใต้สนธิสัญญาอังกฤษ–สยาม พ.ศ. 2452 "ดินแดนที่เสียไป" ทั้งหมดเหล่านี้อยู่ที่ขอบเขตอิทธิพลของสยามและไม่เคยกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของสยามอย่างรัดกุมอีกเลย แต่ถูกบังคับให้สละการอ้างสิทธิ์ทั้งหมดเหนือดินแดนเหล่านี้เป็นการทำให้พระมหากษัตริย์และประเทศอัปยศ และเป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงชื่อประเทศ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 วิกฤตการณ์เหล่านี้ถูกรัฐบาลที่เป็นชาตินิยมเพิ่มขึ้นใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งการถือสิทธิ์ของตนต่อตะวันตกและประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกัน การปฏิรูปดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชซึ่งอิงความสัมพันธ์ของอำนาจเป็นรัฐชาติรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางสมัยใหม่ ขบวนการดังกล่าวเพิ่มพูนขึ้นภายใต้รัชสมัยพระราชโอรสของพระองค์ ซึ่งล้วนแต่ได้รับการศึกษาในยุโรปทั้งสิ้น ทางรถไฟและสายโทรเลขเชื่อมจังหวัดที่แต่ก่อนเคยห่างไกลและกึ่งปกครองตนเอง สกุลเงินถูกผูกติดกับมาตรฐานทองคำและระบบการจัดเก็บภาษีสมัยใหม่แทนที่การรีดภาษีตามอำเภอใจและราชการแรงงานอย่างในอดีต ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ การขาดแคลนข้าราชการที่ผ่านการฝึกฝน และจำต้องจ้างชาวต่างชาติหลายคนกระทั่งสามารถสร้างโรงเรียนใหม่และมีการผลิตบัณฑิตออกมา จนถึง พ.ศ. 2453 หลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว อย่างน้อยสยามได้กลายมาเป็นประเทศกึ่งสมัยใหม่ และยังหนีการปกครองแบบอาณานิคมต่อไป
การกลายเป็นชาติสมัยใหม่
หนึ่งในการปฏิรูปของรัชกาลที่ 5 คือ การนำกฎหมายการสืบพระราชสันตติวงศ์แบบยุโรปมาใช้ ดังนั้น ใน พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชโอรส จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติต่อมา พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยทหารแซนเฮิสต์ และที่ออกซฟอร์ด ปัญหาหนึ่งของสยาม คือ ช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างพระราชวงศ์ที่มีแนวคิดแบบตะวันตกกับชนชั้นสูงและประชาชนที่เหลือของประเทศ ต้องใช้เวลาอีก 20 ปี การศึกษาแบบตะวันตกจึงขยายไปยังข้าราชการส่วนที่เหลือและกองทัพ อันเป็นแหล่งความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้
สมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการปฏิรูปทางการเมืองอยู่บ้าง แต่พระมหากษัตริย์ยังทรงเป็นสมบูรณาญาสิทธิราช ซึ่งทรงเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีและทรงแต่งตั้งพระประยูรญาติดำรงตำแหน่งในทุกหน่วยงานของรัฐ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีการศึกษาแบบตะวันตก ทรงทราบว่า ส่วนที่เหลือของชาติใหม่นี้ไม่อาจถูกตัดออกจากรัฐบาลได้ตลอดไป แต่พระองค์ไม่ศรัทธาในประชาธิปไตยแบบตะวันตก พระองค์ทรงปรับการสังเกตความสำเร็จของพระมหากษัตริย์อังกฤษในการปกครองอินเดีย โดยทรงปรากฏพระองค์แก่สาธารณะบ่อยครั้งขึ้นและทรงริเริ่มพระราชพิธีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี พระองค์ยังดำเนินแผนการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยต่อจากพระราชชนก มีการยกเลิกพหุสามีภริยา ริเริ่มการศึกษาขั้นประถมแบบบังคับ และใน พ.ศ. 2459 มีการก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอันเป็นจุดเริ่มต้นของอุดมศึกษา ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นแหล่งเพาะกลุ่มปัญญาชนใหม่ของสยาม
กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองหลวงของชาติมากขึ้นทุกที รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเริ่มโครงการพัฒนาทั่วประเทศหลายอย่าง แม้จะประสบปัญหาด้านการเงิน มีถนน สะพาน ทางรถไฟ โรงพยาบาลและโรงเรียนผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศด้วยงบประมาณแห่งชาติจากกรุงเทพมหานคร ตำแหน่งอุปราชที่เพิ่งตั้งใหม่ถูกแต่งตั้งไปประจำมณฑลเทศาภิบาล เป็นผู้แทนของพระมหากษัตริย์คอยกำกับเรื่องการปกครองในจังหวัดต่าง ๆ
พระองค์ยังได้ทรงจัดตั้งกองเสือป่า ซึ่งเป็นองค์การกำลังกึ่งทหารของสยามที่มีการผสมรวม "คุณลักษณะที่ดี" เข้าเพื่อส่งเสริมอุดมการณ์ของชาติ พระองค์ยังทรงจัดตั้งสาขาเยาวชนซึ่งดำรงมาถึงปัจจุบันเป็นคณะลูกเสือแห่งชาติ พระองค์ทรงใช้เวลามากในการพัฒนาขบวนการดังกล่าว ด้วยทรงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะสร้างพันธะระหว่างพระองค์กับพลเมืองที่จงรักภักดี เหล่าอาสาสมัครที่ตั้งใจสละชีพเพื่อชาติและพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังเป็นหนทางหนึ่งที่พระองค์จะเลือกและให้เกียรติแก่ผู้ที่พระองค์โปรด ขบวนการกึ่งทหารดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่หายไปเมื่อถึง พ.ศ. 2470 แต่มีการฟื้นฟูและวิวัฒนามาเป็นกองอาสารักษาดินแดน หรือเรียก ลูกเสือชาวบ้าน
รูปแบบรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแตกต่างจากรัฐบาลในพระราชชนก ช่วงต้นรัชกาลที่ 6 พระมหากษัตริย์ใช้คณะของพระราชชนกและกิจวัตรประจำวันของรัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ฉะนั้นกิจการประจำวันที่กำลังดำเนินอยู่ส่วนมากจึงอยู่ในมือของผู้มีประสบการณ์และความสามารถ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ได้ทำให้สยามก้าวหน้า เช่น การพัฒนาแผนแห่งชาติให้การศึกษาแก่ประชากรทั้งหมด การจัดตั้งคลินิกที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษฟรี และการขยายทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ตำแหน่งอาวุโสค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยพรรคพวกของพระมหากษัตริย์ เมื่อถึง พ.ศ. 2458 คณะรัฐมนตรีครึ่งหนึ่งเป็นหน้าใหม่ ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นการเข้ามาของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) แทนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย กรมพระยาดำรงราชานุภาพลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลอย่างเป็นทางการว่าสุขภาพไม่ดี แต่อันที่จริงเป็นเพราะการไม่ลงรอยกับพระมหากษัตริย์
ใน พ.ศ. 2460 สยามประกาศสงครามกับจักรวรรดิเยอรมันและออสเตรีย-ฮังการี โดยหลักเพื่อให้เป็นที่พอใจของอังกฤษและฝรั่งเศส การมีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในเชิงสัญลักษณ์ของสยามทำให้ได้ที่นั่งในการประชุมสันติภาพแวร์ซาย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ ทรงใช้โอกาสนี้อภิปรายเรื่องการยกเลิกสนธิสัญญาเก่าสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 และการฟื้นฟูอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของสยาม สหรัฐอเมริกาตกลงยกเลิกสนธิสัญญาเหล่านั้นใน พ.ศ. 2463 ขณะที่ฝรั่งเศสและอังกฤษชะลอออกไปกระทั่ง พ.ศ. 2468 ชัยชนะนี้ทำให้พระมหากษัตริย์ได้รับความนิยมบ้าง แต่ความนิยมในพระองค์ได้ลดลงไปจากความไม่พอใจในประเด็นอื่น เช่น ความฟุ่มเฟือย ซึ่งกลายมาเป็นที่สังเกตได้เมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรงหลังสงครามส่งผลกระทบต่อสยามใน พ.ศ. 2462
พระองค์ไม่มีทายาทที่เป็นโอรส ฉะนั้น เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันเมื่อ พ.ศ. 2468 ด้วยพระชนมายุเพียง 44 พรรษา สถาบันพระมหากษัตริย์ก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแอแล้ว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอนุชา เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อมา
วัฒนธรรม
ในสยามสมัยหลังกรุงเก่า การฟื้นฟูการปฏิบัติธรรมเป็นส่วนสำคัญของการสืบทอดพระพุทธศาสนามิให้เสื่อมสูญไปตามภาวะสงครามและสภาพบ้านเมืองที่มีปัญหาขื่อแปเป็นเวลานาน
จากนั้น การฟื้นฟูการปฏิบัติธรรมก็ยังคงได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติธรรมที่รุ่งเรืองและเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางในปัจจุบันจึงมิได้ดำเนินมาตามยถากรรม หากแต่ได้ผ่านการดูแลรักษาไว้แต่อดีต
สมัยกรุงธนบุรีเป็นสมัยที่การปฏิบัติธรรมได้รับการสืบทอดมิให้เสื่อมหายหรือขาดตอน
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น การปฏิบัติธรรมได้รับการส่งเสริมให้เติบโตควบคู่ไปกับการศึกษาของพระสงฆ์
ส่วนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนกลางและตอนปลาย การปฏิบัติธรรมได้รับการชำระให้มีแนวทางที่ถูกต้องและตรงสู่เป้าหมายที่แท้จริงของชาวพุทธ
ร้อยปีแห่งการชำระแนวทางการปฏิบัติธรรมนี้เป็นเหตุอันมีส่วนสร้างความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบัน
การสิ้นสุดรัชกาลของพระเจ้ากรุงธนบุรี สำนักกรรมฐานของสมเด็จพระวันรัต (ทองอยู่) ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง สายปฏิบัติที่มีประวัติพอติดตามได้นั้นได้มีการสานต่อที่วัดประดู่ในอยุธยาที่เคยร้างไปตั้งแต่ครั้งเสียกรุง
อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูการปฏิบัติธรรมตามแนวทางสมถวิปัสสนายังคงมีการสานต่ออย่างเข้มแข็ง
เมื่อมีการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการเชิญพระภิกษุอาวุโสจากกรุงเก่ามาเป็นหลักในงานวิปัสสนาธุระ เกิดสำนักกรรมฐานหลักขึ้นที่วัดพลับ (วัดราชสิทธาราม) และวัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) ทั้งสองวัดเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสีอันเป็นวัดนอกเมืองที่มุ่งไปทางการปฏิบัติธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ซึ่งครองวัดพลับและพระปัญญาพิศาลเถร (ศรี) ซึ่งครองวัดสมอรายต่างสืบสายปฏิบัติมาจากคณะวัดป่าแก้วและต่างเป็นพระอาจารย์สำคัญในพระบรมวงศานุวงศ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 ทรงเคยปฏิบัติธรรมในสำนักพระอาจารย์ทองอยู่ที่วัดระฆัง สมัยรัชกาลพระเจ้ากรุงธนบุรี และเมื่อสิ้นรัชกาลของพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ทรงปฏิบัติในสำนักพระปัญญาพิศาลเถร (ศรี) เมื่อครั้งที่พระองค์อุปสมบทในปี พ.ศ. 2331 ส่วนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และ 4 ก็ทรงปฏิบัติในสำนักของสมเด็จพระญาณสังวร (สุก)
ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น การปฏิบัติธรรมได้รับการส่งเสริมอย่างมากและถือเป็นส่วนสำคัญของการสืบสานพระศาสนา มีการแต่งตั้งอาจารย์บอกกรรมฐานของวัดจำนวนมาก กุลบุตรกุลธิดาก็มีการศึกษาในวัดเป็นปกติ การปฏิบัติธรรมจึงมีบทบาทมากในหมู่ฆราวาสอย่างกว้างขวาง มิใช่เฉพาะพระภิกษุและผู้อาวุโสชราเท่านั้น
การศึกษากรรมฐานและธุดงควัตรแบบอรัญวาสีเป็นกิจที่พระสงฆ์สนใจปฏิบัติเพิ่มเติมจากการศึกษาพระบาลี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงส่งเสริมวิปัสสนาธุระมาก วัดที่มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนาธุระมีหลายแห่ง เช่น วัดเงินบางพรหม (วัดรัชฎาธิษฐาน) วัดสมอแครง (วัดเทวราชกุญชร) วัดสระเกศ วัดอรุณ วัดอินทร์ และวัดสังเวชวิชยาราม ส่วนวัดทั่วไปก็มักส่งเสริมทั้งทางด้านปริยัติและวิปัสสนาควบคู่กัน
การสิ้นสุดสมบูรณาญาสิทธิราชย์
แตกต่างจากพระเชษฐา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอ่านเอกสารสำคัญของรัฐแทบทั้งหมดที่ผ่านมาทางพระองค์อย่างขันแข็ง ภายในครึ่งปี มีรัฐมนตรีที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้ง 12 คน เหลือเพียง 3 คน ที่เหลือถูกแทนที่ด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ในแง่หนึ่ง การแต่งตั้งนี้ทำให้ผู้ที่มีความสามารถและประสบการณ์กลับมาดำรงตำแหน่ง แต่อีกแง่หนึ่ง เป็นการส่งสัญญาณถึงการหวนคืนสู่คณาธิปไตยโดยราชวงศ์ ชัดเจนว่า พระองค์ทรงต้องการแสดงถึงข้อแตกต่างอย่างชัดเจนกับรัชกาลที่ 6 ที่ถูกทำให้เสียความน่าเชื่อถือ และตัวเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งสำคัญเหมือนจะถูกชี้นำโดยพระราชประสงค์ที่จะฟื้นฟูรัฐบาลแบบพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มรดกเริ่มต้นที่พระองค์ทรงได้รับจากพระเชษฐา คือ ปัญหาชนิดที่กลายมาเรื้อรังในรัชกาลที่ 6 ปัญหาเร่งด่วนที่สุด คือ เศรษฐกิจ การเงินของรัฐอยู่ในความยุ่งเหยิง งบประมาณติดลบอย่างหนัก และบัญชีของพระมหากษัตริย์เต็มไปด้วยหนี้สินและธุรกรรมที่น่าสงสัย และการที่ประเทศที่เหลือในโลกต่างประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็มิได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
พระราชกรณียกิจแรก ๆ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ ทรงตั้งอภิรัฐมนตรีสภา เป็นนวัตกรรมเชิงสถาบันมีเจตนาเพื่อฟื้นฟูความความเชื่อมั่นในพระมหากษัตริย์และรัฐบาล คณะองคมนตรีนี้ประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีประสบการณ์และทรงพระปรีชาสามารถ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยที่ดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานด้วย เจ้านายเหล่านี้ค่อย ๆ ถือสิทธิ์เพิ่มอำนาจโดยผูกขาดตำแหน่งรัฐมนตรีหลักทั้งหมด เจ้านายหลายพระองค์รู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของพวกตนที่ต้องแก้ไขข้อผิดพลาดในรัชกาลก่อน แต่โดยทั่วไปไม่เป็นที่ชื่นชอบนัก
ด้วยการช่วยเหลือของอภิรัฐมนตรีนี้ พระมหากษัตริย์ทรงฟื้นฟูเสถียรภาพเศรษฐกิจ แม้จะด้วยปริมาณการลดข้าราชการจำนวนมากและการตัดเงินเดือนข้าราชการที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างชัดเจน และเป็นหนึ่งในชนวนเหตุของการปฏิวัติ พ.ศ. 2475
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงหันความสนพระทัยไปยังปัญหาอนาคตการเมืองในสยาม พระองค์ทรงได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอย่างอังกฤษ มีพระราชประสงค์ให้สามัญชนมีสิทธิ์มีเสียงในการงานของประเทศโดยการตั้งรัฐสภา มีพระบรมราชโองการให้ร่างรัฐธรรมนูญ แต่พระราชประสงค์ของพระองค์ทรงถูกที่ปรึกษาปฏิเสธ เพราะรู้สึกว่าประชาชนยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตย
เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2475 พระองค์ทรงตกลงจะนำรัฐธรรมนูญมาใช้ ซึ่งพระองค์จะทรงแบ่งพระราชอำนาจกับนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับกลุ่มหัวรุนแรงในกองทัพ วันที่ 24 มิถุนายน ปีเดียวกัน ขณะที่พระมหากษัตริย์แปรพระราชฐาน ณ ชายทะเล กองทหารกรุงเทพมหานครก่อการกำเริบและยึดอำนาจ นำโดยผู้ก่อการ 49 คน และเป็นการสิ้นสุดประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช 150 กว่าปี.
ระบบไพร่
อาณาจักรรัตนโกสินทร์ยังคงใช้ระบบไพร่ตามอาณาจักรอยุธยาและอาณาจักรธนบุรี แต่พบว่าจำนวนประชากรในอาณาจักรเพิ่มมากขึ้น ระยะเวลาการเกณฑ์แรงงานไพร่จึงลดลงเหลือ 4 เดือนต่อปี และ 3 เดือนต่อปีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทั้งนี้ ทางการได้หันไปจ้างแรงงานกุลีจากจีนมาทำงานมากกว่าการใช้ไพร่เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีกว่า ระบบไพร่จึงมีความสำคัญน้อยลงจนกระทั่งถูกยกเลิกไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การเปลี่ยนแปลงทางดินแดนของสยามและไทย
เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางดินแดน
# | รัชสมัย | วันที่ | ดินแดน | ให้ | เนื้อที่ (ตร.กม.) |
---|---|---|---|---|---|
1 | รัชกาลที่ 4 | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2410 | แคว้นเขมร และเกาะอีก 6 เกาะ | กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส) | 124,000 |
2 | รัชกาลที่ 5 | 22 ธันวาคม พ.ศ. 2431 | สิบสองจุไทและหัวพันห้าทั้งหก | อินโดจีนของฝรั่งเศส | 87,000 |
3 | รัชกาลที่ 5 | 27 ตุลาคม พ.ศ. 2435 | ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน (5 เมืองเงี้ยว และ 13 เมืองกะเหรี่ยง) | บริติชราช | 30,000 |
วันที่ | ดินแดนพิพาท | เนื้อที่ | รัฐคู่พิพาท | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|
3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 | ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง และ ราชอาณาจักรลาว | 143,000 | อินโดจีนของฝรั่งเศส | สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 112 (Traité franco-siamois du 3 octobre 1893) | |
12 พฤษภาคม พ.ศ. 2446 | ดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง (จำปาศักดิ์ ไชยบุรี) | 25,500 | อินโดจีนของฝรั่งเศส | สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 122 | |
23 มีนาคม พ.ศ. 2450 | พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ | 51,000 | อินโดจีนของฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส) | หนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ลงวันที่ 23 มีนาคม รัตนโกสินทรศก 125 | |
10 มีนาคม พ.ศ. 2452 | ไทรบุรี ปะลิส กลันตัน ตรังกานู | 38,455 | สหภาพมาลายา (อังกฤษ) | สัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษ | |
9 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 | จำปาศักดิ์ ไชยบุรี พระตะบอง เสียมราฐ | 51,326 | อินโดจีนของฝรั่งเศส | อนุสัญญาสันติภาพระหว่างประเทศไทยกับฝรั่งเศส | |
30 กันยายน พ.ศ. 2484 | เกาะดอนต่างๆ ในแม่น้ำโขง 77 แห่ง | ? | อินโดจีนของฝรั่งเศส | แถลงการณ์ เรื่อง ได้คืนเกาะดอนต่าง ๆ ในลำแม่น้ำโขง ตามความตกลงกำหนดเส้นทางเขตต์แดนชั่วคราวระหว่างประเทศไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส | |
9 ธันวาคม พ.ศ. 2489 | จำปาศักดิ์ ไชยบุรี พระตะบอง เสียมราฐ และเกาะดอนต่างๆ ในแม่น้ำโขง 77 แห่ง | ? | อินโดจีนของฝรั่งเศส | ความตกลงระงับกรณีระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส (อนุสัญญาโตเกียว) |
แผนที่การเปลี่ยนแปลงทางดินแดน
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2343 (ในยุคของรัชกาลที่ 1)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2348 (ในยุคของรัชกาลที่ 1)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2367 (ในยุคของรัชกาลที่ 2)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2380 (ในยุคของรัชกาลที่ 3)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2393 (ในยุคของรัชกาลที่ 3)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2425 (ในยุคของรัชกาลที่ 5)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2436 (ในยุคของรัชกาลที่ 5)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2443 (ในยุคของรัชกาลที่ 5)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2449 (ในยุคของรัชกาลที่ 5)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2459 (ในยุคของรัชกาลที่ 6)
- การแบ่งเขตการปกครองของสยาม พ.ศ. 2475 (ในยุคของรัชกาลที่ 7)
- การแบ่งเขตการปกครองของไทย พ.ศ. 2488 (ในยุคของรัชกาลที่ 8)
- การแบ่งเขตการปกครองของไทย พ.ศ. 2493 (ในยุคของรัชกาลที่ 9)
- การแบ่งเขตการปกครองของประเทศไทย พ.ศ. 2516 (ในยุคของรัชกาลที่ 9)
- การแบ่งเขตการปกครองของประเทศไทย พ.ศ. 2566 (ในยุคของรัชกาลที่ 10)
พ.ศ. 2450
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 (พ.ศ. 2449 เดิม) รัฐบาลสยามและรัฐบาลฝรั่งเศสได้ร่วมกันลงนามในหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ลงวันที่ 23 มีนาคม รัตนโกสินทรศก 125 พร้อมด้วยสัญญาว่าด้วยปักปันเขตร์แดน ติดท้ายหนังสือสัญญาลงวันที่ 23 มีนาคม รัตนโกสินทรศก 125 ซึ่งลงนามโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการและนายวี คอลแลง (เดอ ปลังซี) โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญดังต่อไปนี้
- รัฐบาลสยามยอมยกดินแดนเมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ กับเมืองศรีโสภณ ให้แก่กรุงฝรั่งเศส (ข้อ 1)
- รัฐบาลฝรั่งเศสยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้าย และเมืองตราด กับทั้งเกาะทั้งหลายซึ่งอยู่ภายใต้แหลมลิงไปจนถึงเกาะกูดนั้นให้แก่กรุงสยาม (ข้อ 2)
พ.ศ. 2452
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2452 (พ.ศ. 2451 เดิม) รัฐบาลสยามและรัฐบาลอังกฤษได้ร่วมกันลงนามในสัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษ และสัญญาว่าด้วยเขตรแดน ติดท้ายหนังสือสัญญาลงวันที่ 10 มีนาคม รัตนโกสินทร์ศก 127 คฤสตศักราช 1909 ซึ่งลงนามโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการและนายราลฟ์ แปชยิด โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
- รัฐบาลสยามยอมโอนเมืองกลันตัน เมืองตรังกานู เมืองไทรบุรี เมืองปลิศ และเกาะที่ใกล้เคียงเมืองเหล่านั้นให้แก่รัฐบาลอังกฤษเพื่อยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขต(สนธิสัญญาเบาว์ริง)
เชิงอรรถ
- บทความนี้กล่าวถึงสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์เท่านั้น, ใช้ชื่อว่า "สยาม" ตั้งแต่ พ.ศ. 2398 (สนธิสัญญาเบาว์ริง)
ดูเพิ่ม
- กบฏเจ้าอนุวงศ์ (2369–71)
- อานัมสยามยุทธ (2374-88)
- กบฏหวันหมาดหลี (2381–82)
- สงครามปราบฮ่อ (2408–33)
อ้างอิง
- Lieberman, Victor (2003). Strange Parallels: Volume 1, Integration on the Mainland: Southeast Asia in Global Context, c.800–1830 (Studies in Comparative World History) (Kindle ed.). p. 295. ISBN . "Siam's population must have increased from c. 2,500,000 in 1600 to 4,000,000 in 1800."
- . web.nso.go.th. National Statistical Office. 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-24. สืบค้นเมื่อ 14 January 2022.
- Tucker, Spencer (1999). Vietnam. Lexington: . p. 15. ISBN .
- Tucker, Spencer (1999). Vietnam. Lexington: . p. 16. ISBN .
- โกวิท วงศ์สุรวัฒน์. การเมืองการปกครองไทย: หลายมิติ. หน้า 16.
- ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๒๔ หน้า ๓๔๔ วันที่ ๗ กรกฎาคม ๑๒๖
- ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กรกฎาคม ๑๒๘ เล่ม ๒๖ น่า ๗๐๑ สัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษ
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTreaty24841
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTreaty24842
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTreaty2489
- ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๒๔ หน้า ๓๖๘ วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๑๒๖
- ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กรกฎาคม ๑๒๘ เล่ม ๒๖ น่า ๗๐๕ สัญญาว่าด้วยเขตรแดน ติดท้ายหนังสือสัญญาลงวันที่ ๑๐ มีนาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๗ คฤสตศักราช ๑๙๐๙
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul xanackrrtnoksinthr smysmburnayasiththirachy khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir xanackrrtnoksinthr epnrachxanackrkhxngithy erimtngaetkaryayemuxnghlwngcakfngkrungthnburi mayngkrungethphmhankhr sungtngxyuthangtawnxxkkhxngaemnaecaphraya phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach pthmkstriyaehngrachwngsckri esdckhunkhrxngrachsmbti emuxwnthi 6 emsayn ph s 2325xanackrrtnoksinthrrachxanackrsyam2325 2475bn thngchati 2375 2460 lang thngchati 2460 2475 bn traaephndin 2416 2453 lang traaephndin 2454 2475 ephlngchati cxmrachcngecriy ph s 2395 2414 buhlnlxyeluxn ph s 2414 2431 ephlngsrresriyphrabarmi ph s 2431 2475 source source track track track track odyphvtiny aephnthiaesdngxanaekhtkhxngxanackrrtnoksinthr ph s 2348 rwmdinaednkhxngecapraethsrach aephnthithangrthsastrkhxngrachxanackrsyamkxnsnthisyyaxngkvs syam ph s 2452emuxnghlwngkrungrtnoksinthrphasathwipithysasnasasnaphuththethrwathedmanimchawsyamkarpkkhrxngrabxbrachathipityaebbrabbecakhunmulnay ph s 2325 2435 110 pi rabxbsmburnayasiththirachy ph s 2435 2475 40 pi rabxbrachathipityphayitrththrrmnuy ph s 2475 92 pi phramhakstriy ph s 2325 2352phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phraxngkhaerk ph s 2411 2453phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw ph s 2468 2477phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phraxngkhsudthay sphanitibyytixphirthmntrispha ph s 2468 2475 yukhprawtisastryukhtnsmyihm yukhsmyihm sthapna6 emsayn 2325 sngkhramphma syam2328 2329 2352 2355 snthisyyaebxrni2369 kbtlaw2369 2371 xanamsyamyuthth2384 2388 snthisyyaebawring18 emsayn 2398 wikvtkarnwnghna2417 2418 sngkhramfrngess syam2436 karprakassngkhramkbeyxrmnaelaxxsetriy hngkari22 krkdakhm 2460 karptiwtisyam24 mithunayn 2475prachakr ph s 23434 000 000 ph s 247211 506 207skulenginphddwng cnthung ph s 2447 bathithy tngaet ph s 2447 kxnhna thdipxanackrthnburinkhrechiyngihmnkhrlapangnkhrnannkhrlaphunnkhraephrxanackrnkhrsrithrrmrachxanackrlanchangewiyngcnthnxanackrlanchanghlwngphrabangxanackrlanchangcapaskdi praethsithyxinodcinfrngesspccubnepnswnhnungkhxng ithy law kmphucha maelesiy phma cin ewiydnam khrungaerkkhxngsmyniepnkarephimphunxanackhxngxanackr thukkhdcnghwadwykhwamkhdaeyngepnrayakbphma ewiydnamaelalaw swnkhrunghlngnnepnkarephchiykbpraethsecaxananikhm xngkvsaelafrngess cnthaihithyepnephiyngpraethsediywinexechiytawnxxkechiyngitthiimtkepnxananikhmkhxngtawntk phlkrathbcakphykhukkhamnn naihxanackrphthnaipsurthchati smyihmthirwmxanacekhasusunyklang odymiphrmaednthikahndrwmkbchatitawntk smynimiphthnakarthangesrsthkicaelasngkhmthisakhy dwykarephimkarkhakbtangpraeths karelikthas aelakarkhyaykarsuksaaekchnchnklangthiekidkhun xyangirktam immikarptirupthangkaremuxngxyangaethcringkrathngrabxbsmburnayasiththirachythukaethnthidwyrabxbrachathipityphayitrththrrmnuy inkarptiwtisyam ph s 2475 chux rtnoksinthr yngkhngichmacnthungpccubn aetbthkhwamnicaklawthungehtukarncnthung ph s 2475 ethannkarkxtngphaphkrungethphmhankhrodymiphuekhathxngepnchakhlng rchkalthi 1 thrngfunfurabbsngkhmaelakaremuxngkhxngrachxanackrxyuthya thrngxxkkdhmaytrasamdwngpramwlkdhmayihmthrngfunfuphithiinrachsank aelathrngbyytiwinysngkh karpkkhrxngaebngepnhkkrm odyincanwnnisikrmmihnathipkkhrxngdinaednodyechphaa krmklaohmpkkhrxngthangit krmmhadithypkkhrxngthangehnuxaelatawnxxk krmphrakhlngpkkhrxngdinaednthixyuthangitkhxngphrankhr aelakrmemuxngpkkhrxngphunthirxbkrungethphmhankhr swnxiksxngkrmnnkhux krmnaaelakrmwng kxngthphxyuphayitkarkhwbkhumkhxngxuprachsungepnphraxnuchainphramhakstriy phmasungehnkhwamwunway prakxbkbkarokhnlmsmedcphraecakrungthnburi idrukransyamxikin ph s 2328 faysyamaebngkalngxxkepnthangtawntkidbdkhyithphphmaiklcnghwdkaycnburi niepnkarrukransyamihykhrngsudthaykhxngphma ph s 2345 phmathukkhbxxkcaklanna ph s 2335 syamyudkhrxnghlwngphrabang aelanadinaednlawswnihymaxyuitkarpkkhrxngodyxxmkhxngsyam kmphuchaxyuphayitkarpkkhrxngkhxngsyamxyangetmthi aelakrathngswrrkhtin ph s 2352 phraxngkhthrngsthapnakhwamepnecakhxngsyamehnuxdinaednthiihykwapraethsithypccubnxyumak karrukranewiydnam in ph s 2319 emuxkbtetyesin Tay Sơn yudsadinh Gia Dinh kidpraharphrarachwngsehngiynaelaprachakrthxngthinepnxnmak ehngiyn xy Nguyễn Anh phrarachwngsehngiynphraxngkhsudthaythiyngmiphrachnmxyu thrnghnikhamaemnamayngsyam khnathiliphyinsyam ehngiyn xnhthrngprarthnacayudsadinhkhun aelakhbkbtetyesinxxkip phraxngkhthrngonmnawphrathykhxngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach thiwangphraxngkhepnklang ihkarsnbsnundankalngphlaelakalngrukrankhnadelkaekphraxngkhin ph s 2326 klang ph s 2327 ehngiyn xy phrxmkbkxngthphsyam 20 000 50 000 nay aelaerux 300 la ekhluxnphankmphucha thangtawnxxkkhxngotnelsab aelaaethrksumaekhwnxnnmsungephingthukphnwklasud thhar 20 000 naythungekiynesiyng Kien Giang aelaxik 30 000 naykhunbkthichp hlab Chap Lap khnathisyamrukkhubsuekinethx Cần Thơ piediywkn syamyudaekhwnediydinh sungxditepnkhxngkmphucha mikarxangwa thharsyamkrathatharuntxprachakrphutngthinthanchawewiydnam thaihprachachnthxngthinhnipsnbsnunetyesin ehngwiynehw Nguyễn Huệ aehngrachwngsetyesin thrngkhadkarnlwnghnathungkarekhluxnihwkhxngsyam thrngcdwangthharrabxyanglb tamaemnaetiyng Tiền iklkbmayotw Mỹ Tho pccubn aelaekaaklangaemnabangekaa ephchiykbkalngxunfngehnux phrxmkalngesrimthangeruxthngsxngfngkhxngthitngthharrab echawnthi 19 mkrakhm ehngwiynehwthrngsngkalngthangeruxkhnadelkitthngsngbsuk ephuxlwngihfaysyamekhasukbdk hlngidrbchychnahlaykhrng thphbkaelathpheruxsyamcungmnicwacatxngepnkaryxmaephodybrisuththi dngnn cungedinekhasukarecrcaodyimruelywaepnkbdk kxngthphkhxngehngwiynehwophekhathalayaenwkhxngsyam sngharthutimmixawuthaelaocmtitxipyngthharthiimthntngtw yuththkarcblngodykxngthphsyamekuxbthukthalaysin aehlngkhxmulewiydnambnthukwa eruxthnghmdkhxngthpheruxsyamthukthalay aelamikxngthhardngedimephiyng 2 000 3 000 naythirxdchiwithlbhniklbkhamaemnaipinsyamidsntiphaphrchkalphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly phrarachoxrsinphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach khxnkhangimmiehtukarnidekidkhun khnanirachwngsckriekhakhwbkhumthukswnkhxngrthbalsyam ephraaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachmiphrarachoxrs thidarwmthngsin 42 phraxngkh phramhaxuprach phraxnucha miphraoxrs thidarwm 43 phraxngkh aelaphrabathsmedcphraphuththelishlanphalymiphrarachoxrs thidathngsin 100 phraxngkh cungmiecanayphxthicacdekhasurabbkharachkarpraca kxngthph smnephsxawuosaelarthbalswnphumiphakh mikarephchiyhnakbewiydnam sungklaymaepnmhaxaancinphumiphakh ehnuxkarkhwbkhumkmphuchain ph s 2356 sungsinsudlngdwykarfunfu xiththiphlkhxngtawntkerimaephkhyayekhamainphumiphakh odyerimtngaet ph s 2328 xngkvsyudkhrxngpinng aelain ph s 2362 ekhamatngsingkhopr imnan xngkvskidekhamaaethnthihxlndaaelaoprtueksepnchatitawntkthimixiththiphlthangesrsthkicaelakaremuxnghlkinsyam xngkvskhdkhanrabbesrsthkicsyam sungecanayepnphuphukkhadkarkha aelathurkicthukcdekbphasitamxaephxic in ph s 2364 lxrdhstingsaehngbristhxinediytawnxxk sungkhnannepnkhahlwngihyaehngxinediy sngtwaethnkhxngbristh cxhn khrxwefird epnkhnathutephuxeriykrxngihsyamykelikkarcakdkarkhaesri xnepnsyyanaerkkhxngpraednsungcakhrxbngakaremuxngkhxngsyaminkhriststwrrsthi 19 phrabathsmedcphraphuththelishlanphalyesdcswrrkhtin ph s 2367 krmhmunecstabdinthr phrarachoxrsphraxngkhihy eswyrachsmbtitxepnphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw phrarachoxrsphraxngkhelk ecafamngkud thrngidrbkaraenanaihxxkphnwch ephuxcaidimekhamayungekiywkbkaremuxng in ph s 2368 xngkvssngkhnathutekhamainkrungethphmhankhrxikkhrng naody phuaethnthangkarthutkhxngbristhxinediytawnxxk ehnri ebxrni khnann xngkvsidphnwkphmatxnitaelw aelacungepnephuxnbankhxngsyamthangtawntk aelaxngkvsyngphyayamkhyaykarkhwbkhumehnuxmlayudwy phramhakstriyimetmphrathyyxmkhxeriykrxngkhxngxngkvs aetthipruksakhxngphraxngkhkrabthuletuxnwa syamcaephchiychataediywkbphmahakimbrrlukhxtklngkbxngkvs chann in ph s 2369 syamcungbrrlusnthisyyaphanichychbbaerkkbchatitawntk khux snthisyyaimtriaelaphanichy hruxsnthisyyaebxrni phayitenguxnikhaehngsnthisyya syamtklngcdtngrabbkarcdekbphasiepnaebbediywkn ldphasikarkhatangchatiaelaldkarphukkhadkhxnghlwngbangpraephth phlkhux karkhakhxngsyamephimkhunxyangrwderw chawtangchaticanwnmakekhamatngthinthaninkrungethphmhankhr aelaxiththiphlwthnthrrmtawntkerimaephkhyay rachxanackrmngkhngkhunaelakxngthphtidxawuthdikhun kbtecaxnuwngskhxnglawphayaephin ph s 2370 sunghlngcaknnsyamidthalaykrungewiyngcnthn aeladaeninkarthayoxnprachakraebbbngkhbcaklawmayngphakhxisanpccubnthikhrxbkhrxngaennhnakwa aelaaebngaeykemuxnglawepnhnwyelk ephuxpxngknkarkxkarkaeribxik in ph s 2385 2388 syamthasngkhramkbewiydnamepnphlsaerc sungepnphlihsyampkkhrxngkmphuchaidrdkumkhun cnthungkhristthswrrs 1840 ph s 2383 epnthiprackswa exkrachkhxngsyamxyuinxntraycakpraethsecaxananikhm sungaesdngihehnchdecncaksngkhramfinkhrngthihnungrahwangxngkvskbcinin ph s 2382 2385 in ph s 2393 xngkvsaelaxemrikasngkhnathutmayngkrungethphmhankhreriykrxngihyutikarcakdkarkhathnghmd cdtngrthbalaebbtawntkaelasiththisphaphnxkxanaekhtaekphlemuxngkhxngtn rthbalinphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwptiesthkhxeriykrxngehlani inthangesrsthkic nbaetkxtngrachxanackrrtnoksinthr phxkhacinmibthbathephimkhunxyangmak cakedimthithukkhbilxxkipodysmedcphraecakrungthnburi nxkehnuxcakphxkha chawcinthiepnchawnakekhamaaeswngochkhimhyudhyxninrachxanackr phupkkhrxngsmynitxnrbchawcinephraaepnaehlngkarfunfuesrsthkic phxkhaechuxsaycinbangkhnidklaymaepnkharachsanukthuxtaaehnngsakhy wthnthrrmcin echn wrrnkrrm idrbkaryxmrbaelasnbsnun khwamsmphnthkhxngsyamkbckrwrrdicinnnekhmaekhng sungrbpraknodykhnathutbrrnakar sungdaenineruxymacnthungrchkalphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw dngnn chawcincungmibthbathsakhyyinginkarekidihmkhxngrachxanackrrtnoksinthrkarthaihthnsmyecafamngkudesdckhunkhrxngrachyepnphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwin ph s 2394 thrngthukkahndihchwysyamihrxdphncakkarkhrxbngaxananikhmodythrngbngkhbihkhninbngkhbthnsmy aemphraxngkhcaepnsmburnayasiththirachinthangthvsdi aetphrarachxanackhxngphraxngkhmicakd hlngcakxxkphnwchnan 27 pi phraxngkhcungkhadthaninhmuecanaythithrngxanac aelaimxacdaeninrabbrthsmyihmtamphraprasngkhid khwamphyayamaerkkhxngphraxngkhinkarptirupephuxsthapnarabbkarpkkhrxngihmaelayksthanphaphkhxngthassinithaelastriimsmvththiphl phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngtxnrbkarbukrukkhxngtawntkinsyam xnthicring phraxngkhaelakharachbripharniymxngkvsxyangaekhngkhn in ph s 2398 mikhnathutxngkvs naody esxrcxhn ebaring phuwarachkarhxngkng edinthangekhamainkrungethphmhankhreriykrxngkarepliynaeplngthnthi odyidrbkarsnbsnuncakkarkhmkhuichkalng phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwphrxmyxmrbkhxeriykrxngthasnthisyyachbbihm eriykwa snthisyyaebawring sungcakdxtraphasikhaekhathirxyla 3 kacdkarphukkhadkarkhakhxngphramhakstriy aelaihsiththisphaphnxkxanaekhtaekkhninbngkhbxngkvs imnan chatitawntkxun kideriykrxngaelaidsmpthanthikhlaykn imnan phraxngkhkthrngtrahnkwa phykhukkhamtxsyamaethcringnnmacakfrngess miichxngkvs xngkvssnicinpraoychnphanichy aetfrngesssnicsrangckrwrrdixananikhm frngessyudkhrxngisngxnin ph s 2402 aela ph s 2410 idsthapnarthinxarkkhaehnuxewiydnamtxnitaelakmphuchatawnxxk phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrnghwngwaxngkvscapkpxngsyamhakphraxngkhphrarachthansmpthanesrsthkictamthitxngkar aetehtukarninrchkaltxmaidphisucnaelwwa khwamhwngkhxngphraxngkhepnephiyngphaphlwngta aetkepncringthixngkvsmxngsyamepnrthknchnthimipraoychnrahwangphmaaelamlayukhxngxngkvskbxinodcinfrngesskarptirupsyam ph s 2348 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwesdcswrrkhtin ph s 2411 aelasubrachbllngktxodyecafaculalngkrn wy 15 chnsa epnphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phraxngkhepnphramhakstriysyamphraxngkhaerkthithrngidrbkarsuksaxyangtawntkmaxyangsmburn intxnaerk rchsmykhxngphraxngkhthukkhrxbngaodysmedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs chwng bunnakh phusaercrachkaraethnphraxngkhsungmiaenwkhidxnurksniym aetemuxphraxngkhmiphrachnmayukhrb 20 phrrsa phraxngkhkthrngekhapkkhrxngodytrng phraxngkhthrngtngsphathipruksarachkaraephndin aelasphathipruksainphraxngkh rabbsalaelasankngbpramanxyangepnthangkar phraxngkhthrngprakaswa khwamepnthascakhxy thukelikipaelacakdphnthahnisininchwngaerk ecanayaelaphumiaenwkhidxnurksniymphraxngkhxunsamarthkhdkhwangwarakarptirupkhxngphramhakstriyid aetemuxecanayrunekathukaethnthidwyecanayrunihmaelaidrbkarsuksaaebbtawntk karkhdkhwangkcanglng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngsrangphnthmitrxnthrngphlnginphraxnucha smedcphraecabrmwngsethx ecafacaturntrsmi krmphrackrphrrdiphngs sungphraxngkhoprdekla ihdarngtaaehnngesnabdikrathrwngphrakhlngmhasmbti krathrwngkarkhlngpccubn phraxngkhaerk smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph phuthrngcdraebiybrthbalphayinaelakarsuksa aelasmedcphraecabrmwngsethx krmphrayaethwawngsworpkar epnrachelkhanukarfaytangpraethskwa 38 pi emux ph s 2430 krmphrayaethwawngsworpkaresdceyuxnyuorpephuxthrngsuksarabbrthbal inkarthwaykhwamehn phramhakstriythrngcdtngkarpkkhrxngaebbrthspha sankngantrwcsxbbychiaelakrathrwngthrrmkar duaelkarsuksa sthanakungpkkhrxngtnexngkhxngechiyngihmsinsudlng aelakxngthphthukcdraebiybihmaelathaihthnsmy karslakarxangsiththiehnuxdinaednkhxngsyaminrchkalthi 5 ph s 2436 ecahnathifrngessinxinodcinichkhxphiphathphrmaednelknxyephuxplukpnwikvtkarn eruxpunfrngesspraktkhunthikrungethphmhankhr aelaeriykrxngihoxndinaednlawthixyufngtawnxxkkhxngaemnaokhng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngkhxxngkvs aetnaykrthmntrixngkvskrabthulphraxngkhihrangbdwyenguxnikhidktamthiphraxngkhcathrngidrb aelaphraxngkhimmithangeluxkxunnxkcaktxngyxmthatam thathiediywkhxngxngkvskhux khwamtklngkbfrngessrbpraknburnphaphkhxngsyamswnthiehlux ephuxepnkaraelkepliyn syamyxmykkarxangsiththiehnuxrthchanthangtawnxxkechiyngehnuxkhxngphmaaekxngkvs xyangirkdi frngessyngkhngkddnsyam aelain ph s 2449 2450 kidkxwikvtkarnkhunxikhn hnnisyamcatxngoxndinaednthangfngtawntkkhxngaemnaokhngtrngkhamhlwngphrabangaelarxbcapaskdithangtxnitkhxnglaw tlxdcnkmphuchatawntk ihxyuinkarkhwbkhumkhxngfrngss xngkvsekhaiklekliyephuxknmiihfrngessraransyamxik aetin ph s 2452 syamcatxngcayrakhaepnkaryxmrbxthipitykhxngxngkvsehnuxithrburi klntn palisaelatrngkanuphayitsnthisyyaxngkvs syam ph s 2452 dinaednthiesiyip thnghmdehlanixyuthikhxbekhtxiththiphlkhxngsyamaelaimekhyklbmaxyuphayitkarkhwbkhumkhxngsyamxyangrdkumxikely aetthukbngkhbihslakarxangsiththithnghmdehnuxdinaednehlaniepnkarthaihphramhakstriyaelapraethsxpys aelaepnrakthankhxngkarepliynaeplngchuxpraeths tnkhriststwrrsthi 20 wikvtkarnehlanithukrthbalthiepnchatiniymephimkhunichepnsylksnaehngkarthuxsiththikhxngtntxtawntkaelapraethsephuxnban khnaediywkn karptirupdaeninipxyangrwderw odyepliynaeplngcakrabxbsmburnayasiththirachsungxingkhwamsmphnthkhxngxanacepnrthchatirwmxanacekhasusunyklangsmyihm khbwnkardngklawephimphunkhunphayitrchsmyphrarachoxrskhxngphraxngkh sunglwnaetidrbkarsuksainyuorpthngsin thangrthifaelasayothrelkhechuxmcnghwdthiaetkxnekhyhangiklaelakungpkkhrxngtnexng skulenginthukphuktidkbmatrthanthxngkhaaelarabbkarcdekbphasismyihmaethnthikarridphasitamxaephxicaelarachkaraerngnganxyanginxdit pyhaihythisudkhux karkhadaekhlnkharachkarthiphankarfukfn aelacatxngcangchawtangchatihlaykhnkrathngsamarthsrangorngeriynihmaelamikarphlitbnthitxxkma cnthung ph s 2453 hlngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcswrrkhtaelw xyangnxysyamidklaymaepnpraethskungsmyihm aelaynghnikarpkkhrxngaebbxananikhmtxip karklayepnchatismyihm hnunginkarptirupkhxngrchkalthi 5 khux karnakdhmaykarsubphrarachsnttiwngsaebbyuorpmaich dngnn in ph s 2453 phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phrarachoxrs cungesdckhunkhrxngrachsmbtitxma phraxngkhthrngekharbkarsuksathiwithyalythharaesnehist aelathixxksfxrd pyhahnungkhxngsyam khux chxngwangthikwangkhunrahwangphrarachwngsthimiaenwkhidaebbtawntkkbchnchnsungaelaprachachnthiehluxkhxngpraeths txngichewlaxik 20 pi karsuksaaebbtawntkcungkhyayipyngkharachkarswnthiehluxaelakxngthph xnepnaehlngkhwamkhdaeyngthixacekidkhunid smyrchkalthi 5 idmikarptirupthangkaremuxngxyubang aetphramhakstriyyngthrngepnsmburnayasiththirach sungthrngepnhwhnakhnarthmntriaelathrngaetngtngphraprayuryatidarngtaaehnnginthukhnwyngankhxngrth phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw sungthrngmikarsuksaaebbtawntk thrngthrabwa swnthiehluxkhxngchatiihmniimxacthuktdxxkcakrthbalidtlxdip aetphraxngkhimsrththainprachathipityaebbtawntk phraxngkhthrngprbkarsngektkhwamsaerckhxngphramhakstriyxngkvsinkarpkkhrxngxinediy odythrngpraktphraxngkhaeksatharnabxykhrngkhunaelathrngrierimphrarachphithiephimkhun xyangirkdi phraxngkhyngdaeninaephnkarptiruppraethsihthnsmytxcakphrarachchnk mikarykelikphhusamiphriya rierimkarsuksakhnprathmaebbbngkhb aelain ph s 2459 mikarkxtngculalngkrnmhawithyalyxnepncuderimtnkhxngxudmsuksa sungtxmacaklayepnaehlngephaaklumpyyachnihmkhxngsyam krungethphmhankhrklayepnemuxnghlwngkhxngchatimakkhunthukthi rthbalinphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwerimokhrngkarphthnathwpraethshlayxyang aemcaprasbpyhadankarengin mithnn saphan thangrthif orngphyabalaelaorngeriynphudkhunepndxkehdthwpraethsdwyngbpramanaehngchaticakkrungethphmhankhr taaehnngxuprachthiephingtngihmthukaetngtngippracamnthlethsaphibal epnphuaethnkhxngphramhakstriykhxykakberuxngkarpkkhrxngincnghwdtang phraxngkhyngidthrngcdtngkxngesuxpa sungepnxngkhkarkalngkungthharkhxngsyamthimikarphsmrwm khunlksnathidi ekhaephuxsngesrimxudmkarnkhxngchati phraxngkhyngthrngcdtngsakhaeyawchnsungdarngmathungpccubnepnkhnalukesuxaehngchati phraxngkhthrngichewlamakinkarphthnakhbwnkardngklaw dwythrngehnwaepnoxkasthicasrangphntharahwangphraxngkhkbphlemuxngthicngrkphkdi ehlaxasasmkhrthitngicslachiphephuxchatiaelaphramhakstriy nxkcakniyngepnhnthanghnungthiphraxngkhcaeluxkaelaihekiyrtiaekphuthiphraxngkhoprd khbwnkarkungthhardngklawniswnihyhayipemuxthung ph s 2470 aetmikarfunfuaelawiwthnamaepnkxngxasarksadinaedn hruxeriyk lukesuxchawban rupaebbrthbalinphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwaetktangcakrthbalinphrarachchnk chwngtnrchkalthi 6 phramhakstriyichkhnakhxngphrarachchnkaelakicwtrpracawnkhxngrthbalyngimmikarepliynaeplngkathnhn channkickarpracawnthikalngdaeninxyuswnmakcungxyuinmuxkhxngphumiprasbkarnaelakhwamsamarth sungbukhkhlehlaniidthaihsyamkawhna echn karphthnaaephnaehngchatiihkarsuksaaekprachakrthnghmd karcdtngkhlinikthimikarchidwkhsinpxngknorkhfidasfri aelakarkhyaythangrthifxyangtxenuxng xyangirkdi taaehnngxawuoskhxy thukaethnthidwyphrrkhphwkkhxngphramhakstriy emuxthung ph s 2458 khnarthmntrikhrunghnungepnhnaihm thioddednehncaepnkarekhamakhxngecaphrayaymrach pn sukhum aethnsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaphintaaehnngesnabdikrathrwngmhadithy krmphrayadarngrachanuphaphlaxxkcaktaaehnngdwyehtuphlxyangepnthangkarwasukhphaphimdi aetxnthicringepnephraakarimlngrxykbphramhakstriy kalngrbnxkpraethskhxngsyamrahwangsngkhramolkkhrngthihnunginkrungparis ph s 2462 in ph s 2460 syamprakassngkhramkbckrwrrdieyxrmnaelaxxsetriy hngkari odyhlkephuxihepnthiphxickhxngxngkvsaelafrngess karmiswnrwminsngkhramolkkhrngthihnunginechingsylksnkhxngsyamthaihidthinnginkarprachumsntiphaphaewrsay aelasmedcphraecabrmwngsethx krmphrayaethwawngsworpkar esnabdikrathrwngkartangpraeths thrngichoxkasnixphiprayeruxngkarykeliksnthisyyaekasmykhriststwrrsthi 19 aelakarfunfuxthipityxyangsmburnkhxngsyam shrthxemrikatklngykeliksnthisyyaehlannin ph s 2463 khnathifrngessaelaxngkvschalxxxkipkrathng ph s 2468 chychnanithaihphramhakstriyidrbkhwamniymbang aetkhwamniyminphraxngkhidldlngipcakkhwamimphxicinpraednxun echn khwamfumefuxy sungklaymaepnthisngektidemuxphawaesrsthkictktaxyangrunaernghlngsngkhramsngphlkrathbtxsyamin ph s 2462 phraxngkhimmithayaththiepnoxrs chann emuxphraxngkhesdcswrrkhtxyangkathnhnemux ph s 2468 dwyphrachnmayuephiyng 44 phrrsa sthabnphramhakstriykxyuinsphaphthixxnaexaelw phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phraxnucha esdckhunkhrxngrachysubtxmawthnthrrminsyamsmyhlngkrungeka karfunfukarptibtithrrmepnswnsakhykhxngkarsubthxdphraphuththsasnamiihesuxmsuyiptamphawasngkhramaelasphaphbanemuxngthimipyhakhuxaepepnewlanan caknn karfunfukarptibtithrrmkyngkhngidrbkarsngesrimxyangtxenuxng karptibtithrrmthirungeruxngaelaepnthirbruxyangkwangkhwanginpccubncungmiiddaeninmatamythakrrm hakaetidphankarduaelrksaiwaetxdit smykrungthnburiepnsmythikarptibtithrrmidrbkarsubthxdmiihesuxmhayhruxkhadtxn insmykrungrtnoksinthrtxntn karptibtithrrmidrbkarsngesrimihetibotkhwbkhuipkbkarsuksakhxngphrasngkh swninsmykrungrtnoksinthrtxnklangaelatxnplay karptibtithrrmidrbkarcharaihmiaenwthangthithuktxngaelatrngsuepahmaythiaethcringkhxngchawphuthth rxypiaehngkarcharaaenwthangkarptibtithrrmniepnehtuxnmiswnsrangkhwamrungeruxngkhxngphraphuththsasnainyukhpccubn karsinsudrchkalkhxngphraecakrungthnburi sankkrrmthankhxngsmedcphrawnrt thxngxyu idrbphlkrathbcakkarepliynaeplng sayptibtithimiprawtiphxtidtamidnnidmikarsantxthiwdpraduinxyuthyathiekhyrangiptngaetkhrngesiykrung xyangirktam karfunfukarptibtithrrmtamaenwthangsmthwipssnayngkhngmikarsantxxyangekhmaekhng emuxmikarsthapnakrungrtnoksinthr idmikarechiyphraphiksuxawuoscakkrungekamaepnhlkinnganwipssnathura ekidsankkrrmthanhlkkhunthiwdphlb wdrachsiththaram aelawdsmxray wdrachathiwas thngsxngwdepnwdfayxrywasixnepnwdnxkemuxngthimungipthangkarptibtithrrm smedcphrayansngwr suk sungkhrxngwdphlbaelaphrapyyaphisalethr sri sungkhrxngwdsmxraytangsubsayptibtimacakkhnawdpaaekwaelatangepnphraxacarysakhyinphrabrmwngsanuwngs phrabathsmedcphraecaxyuhw rchkalthi 2 thrngekhyptibtithrrminsankphraxacarythxngxyuthiwdrakhng smyrchkalphraecakrungthnburi aelaemuxsinrchkalkhxngphraecakrungthnburikthrngptibtiinsankphrapyyaphisalethr sri emuxkhrngthiphraxngkhxupsmbthinpi ph s 2331 swnphrabathsmedcphraecaxyuhw rchkalthi 3 aela 4 kthrngptibtiinsankkhxngsmedcphrayansngwr suk inyukhrtnoksinthrtxntn karptibtithrrmidrbkarsngesrimxyangmakaelathuxepnswnsakhykhxngkarsubsanphrasasna mikaraetngtngxacarybxkkrrmthankhxngwdcanwnmak kulbutrkulthidakmikarsuksainwdepnpkti karptibtithrrmcungmibthbathmakinhmukhrawasxyangkwangkhwang miichechphaaphraphiksuaelaphuxawuoschraethann karsuksakrrmthanaelathudngkhwtraebbxrywasiepnkicthiphrasngkhsnicptibtiephimetimcakkarsuksaphrabali phrabathsmedcphraphuththelishlanphalythrngsngesrimwipssnathuramak wdthimichuxesiyngdanwipssnathuramihlayaehng echn wdenginbangphrhm wdrchdathisthan wdsmxaekhrng wdethwrachkuychr wdsraeks wdxrun wdxinthr aelawdsngewchwichyaram swnwdthwipkmksngesrimthngthangdanpriytiaelawipssnakhwbkhuknkarsinsudsmburnayasiththirachyaetktangcakphraechstha phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwthrngxanexksarsakhykhxngrthaethbthnghmdthiphanmathangphraxngkhxyangkhnaekhng phayinkhrungpi mirthmntrithiphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw thrngaetngtng 12 khn ehluxephiyng 3 khn thiehluxthukaethnthidwyphrabrmwngsanuwngs inaenghnung karaetngtngnithaihphuthimikhwamsamarthaelaprasbkarnklbmadarngtaaehnng aetxikaenghnung epnkarsngsyyanthungkarhwnkhunsukhnathipityodyrachwngs chdecnwa phraxngkhthrngtxngkaraesdngthungkhxaetktangxyangchdecnkbrchkalthi 6 thithukthaihesiykhwamnaechuxthux aelatweluxkphumadarngtaaehnngsakhyehmuxncathukchinaodyphrarachprasngkhthicafunfurthbalaebbphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw mrdkerimtnthiphraxngkhthrngidrbcakphraechstha khux pyhachnidthiklaymaeruxrnginrchkalthi 6 pyhaerngdwnthisud khux esrsthkic karenginkhxngrthxyuinkhwamyungehying ngbpramantidlbxyanghnk aelabychikhxngphramhakstriyetmipdwyhnisinaelathurkrrmthinasngsy aelakarthipraethsthiehluxinolktangprasbphawaesrsthkictktakhrngihyhlngsngkhramolkkhrngthihnung kmiidchwyihsthankarndikhun phrarachkrniykicaerk khxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw khux thrngtngxphirthmntrispha epnnwtkrrmechingsthabnmiectnaephuxfunfukhwamkhwamechuxmninphramhakstriyaelarthbal khnaxngkhmntriniprakxbdwyphrabrmwngsanuwngsthimiprasbkarnaelathrngphraprichasamarth rwmthngkrmphrayadarngrachanuphaph esnabdikrathrwngmhadithythidarngtaaehnngmaxyangyawnandwy ecanayehlanikhxy thuxsiththiephimxanacodyphukkhadtaaehnngrthmntrihlkthnghmd ecanayhlayphraxngkhrusukwa epnhnathikhxngphwktnthitxngaekikhkhxphidphladinrchkalkxn aetodythwipimepnthichunchxbnk dwykarchwyehluxkhxngxphirthmntrini phramhakstriythrngfunfuesthiyrphaphesrsthkic aemcadwyprimankarldkharachkarcanwnmakaelakartdengineduxnkharachkarthiyngehluxxyu sungthaihekidkhwamimepnthiniymxyangmakinhmuecahnathikhxngrthxyangchdecn aelaepnhnunginchnwnehtukhxngkarptiwti ph s 2475 caknn phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwthrnghnkhwamsnphrathyipyngpyhaxnakhtkaremuxnginsyam phraxngkhthrngidrbaerngbndaliccaktwxyangxngkvs miphrarachprasngkhihsamychnmisiththimiesiynginkarngankhxngpraethsodykartngrthspha miphrabrmrachoxngkarihrangrththrrmnuy aetphrarachprasngkhkhxngphraxngkhthrngthukthipruksaptiesth ephraarusukwaprachachnyngimphrxmsahrbprachathipity emuxeduxnemsayn ph s 2475 phraxngkhthrngtklngcanarththrrmnuymaich sungphraxngkhcathrngaebngphrarachxanackbnaykrthmntri aetyngimephiyngphxsahrbklumhwrunaernginkxngthph wnthi 24 mithunayn piediywkn khnathiphramhakstriyaeprphrarachthan n chaythael kxngthharkrungethphmhankhrkxkarkaeribaelayudxanac naodyphukxkar 49 khn aelaepnkarsinsudprawtisastrrtnoksinthrinrabxbsmburnayasiththirach 150 kwapi rabbiphrxanackrrtnoksinthryngkhngichrabbiphrtamxanackrxyuthyaaelaxanackrthnburi aetphbwacanwnprachakrinxanackrephimmakkhun rayaewlakareknthaerngnganiphrcungldlngehlux 4 eduxntxpi aela 3 eduxntxpiinrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly thngni thangkaridhnipcangaerngngankulicakcinmathanganmakkwakarichiphrenuxngcakmiprasiththiphaphdikwa rabbiphrcungmikhwamsakhynxylngcnkrathngthukykelikipinrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwkarepliynaeplngthangdinaednkhxngsyamaelaithyehtukarnkarepliynaeplngthangdinaedn rchsmy wnthi dinaedn ih enuxthi tr km 1 rchkalthi 4 15 krkdakhm ph s 2410 aekhwnekhmr aelaekaaxik 6 ekaa kmphuchainxarkkhakhxngfrngess frngess 124 0002 rchkalthi 5 22 thnwakhm ph s 2431 sibsxngcuithaelahwphnhathnghk xinodcinkhxngfrngess 87 0003 rchkalthi 5 27 tulakhm ph s 2435 dinaednfngsayaemnasalawin 5 emuxngengiyw aela 13 emuxngkaehriyng britichrach 30 000wnthi dinaednphiphath enuxthi rthkhuphiphath hmayehtu3 tulakhm ph s 2436 dinaednfngsayaemnaokhng aela rachxanackrlaw 143 000 xinodcinkhxngfrngess snthisyyasyam frngess r s 112 Traite franco siamois du 3 octobre 1893 12 phvsphakhm ph s 2446 dinaednfngkhwaaemnaokhng capaskdi ichyburi 25 500 xinodcinkhxngfrngess snthisyyasyam frngess r s 12223 minakhm ph s 2450 phratabxng esiymrath sriosphn 51 000 xinodcinkhxngfrngess frngess hnngsuxsyyarahwangkrungsyamkbkrungfrngess lngwnthi 23 minakhm rtnoksinthrsk 12510 minakhm ph s 2452 ithrburi palis klntn trngkanu 38 455 shphaphmalaya xngkvs syyainrahwangkrungsyamkbkrungxngkvs9 phvsphakhm ph s 2484 capaskdi ichyburi phratabxng esiymrath 51 326 xinodcinkhxngfrngess xnusyyasntiphaphrahwangpraethsithykbfrngess30 knyayn ph s 2484 ekaadxntang inaemnaokhng 77 aehng xinodcinkhxngfrngess aethlngkarn eruxng idkhunekaadxntang inlaaemnaokhng tamkhwamtklngkahndesnthangekhttaednchwkhrawrahwangpraethsithykbxinodcinfrngess9 thnwakhm ph s 2489 capaskdi ichyburi phratabxng esiymrath aelaekaadxntang inaemnaokhng 77 aehng xinodcinkhxngfrngess khwamtklngrangbkrnirahwangpraethsithyaelapraethsfrngess xnusyyaotekiyw aephnthikarepliynaeplngthangdinaedn karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2343 inyukhkhxngrchkalthi 1 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2348 inyukhkhxngrchkalthi 1 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2367 inyukhkhxngrchkalthi 2 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2380 inyukhkhxngrchkalthi 3 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2393 inyukhkhxngrchkalthi 3 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2425 inyukhkhxngrchkalthi 5 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2436 inyukhkhxngrchkalthi 5 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2443 inyukhkhxngrchkalthi 5 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2449 inyukhkhxngrchkalthi 5 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2459 inyukhkhxngrchkalthi 6 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngsyam ph s 2475 inyukhkhxngrchkalthi 7 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngithy ph s 2488 inyukhkhxngrchkalthi 8 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngithy ph s 2493 inyukhkhxngrchkalthi 9 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithy ph s 2516 inyukhkhxngrchkalthi 9 karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithy ph s 2566 inyukhkhxngrchkalthi 10 ph s 2450 emuxwnthi 23 minakhm ph s 2450 ph s 2449 edim rthbalsyamaelarthbalfrngessidrwmknlngnaminhnngsuxsyyarahwangkrungsyamkbkrungfrngess lngwnthi 23 minakhm rtnoksinthrsk 125 phrxmdwysyyawadwypkpnekhtraedn tidthayhnngsuxsyyalngwnthi 23 minakhm rtnoksinthrsk 125 sunglngnamodysmedcphraecabrmwngsethx krmphrayaethwawngsworpkaraelanaywi khxlaelng edx plngsi odymienuxhasarasakhydngtxipni rthbalsyamyxmykdinaednemuxngphratabxng emuxngesiymrath kbemuxngsriosphn ihaekkrungfrngess khx 1 rthbalfrngessyxmykdinaednemuxngdansay aelaemuxngtrad kbthngekaathnghlaysungxyuphayitaehlmlingipcnthungekaakudnnihaekkrungsyam khx 2 ph s 2452 emuxwnthi 10 minakhm ph s 2452 ph s 2451 edim rthbalsyamaelarthbalxngkvsidrwmknlngnaminsyyainrahwangkrungsyamkbkrungxngkvs aelasyyawadwyekhtraedn tidthayhnngsuxsyyalngwnthi 10 minakhm rtnoksinthrsk 127 khvstskrach 1909 sunglngnamodysmedcphraecabrmwngsethx krmphrayaethwawngsworpkaraelanayralf aepchyid odymienuxhasaradngtxipni rthbalsyamyxmoxnemuxngklntn emuxngtrngkanu emuxngithrburi emuxngplis aelaekaathiiklekhiyngemuxngehlannihaekrthbalxngkvsephuxykeliksiththisphaphnxkxanaekht snthisyyaebawring echingxrrthbthkhwamniklawthungsmysmburnayasiththirachyethann ichchuxwa syam tngaet ph s 2398 snthisyyaebawring duephimkbtecaxnuwngs 2369 71 xanmsyamyuthth 2374 88 kbthwnhmadhli 2381 82 sngkhramprabhx 2408 33 xangxingLieberman Victor 2003 Strange Parallels Volume 1 Integration on the Mainland Southeast Asia in Global Context c 800 1830 Studies in Comparative World History Kindle ed p 295 ISBN 978 0521800860 Siam s population must have increased from c 2 500 000 in 1600 to 4 000 000 in 1800 web nso go th National Statistical Office 2004 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 03 24 subkhnemux 14 January 2022 Tucker Spencer 1999 Vietnam Lexington p 15 ISBN 0 8131 0966 3 Tucker Spencer 1999 Vietnam Lexington p 16 ISBN 0 8131 0966 3 okwith wngssurwthn karemuxngkarpkkhrxngithy hlaymiti hna 16 rachkiccanuebksa elm 24 hna 344 wnthi 7 krkdakhm 126 rachkiccanuebksa 18 krkdakhm 128 elm 26 na 701 syyainrahwangkrungsyamkbkrungxngkvs xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Treaty24841 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Treaty24842 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Treaty2489 rachkiccanuebksa elm 24 hna 368 wnthi 10 krkdakhm 126 rachkiccanuebksa 18 krkdakhm 128 elm 26 na 705 syyawadwyekhtraedn tidthayhnngsuxsyyalngwnthi 10 minakhm rtnoksinthrsk 127 khvstskrach 1909aehlngkhxmulxunwikisxrs mingantnchbbekiywkb pramwlnganprawtisastrkrungrtnoksinthr