บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ อาจมีข้อเสนอแนะ |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
สงครามปราบฮ่อ เป็นการต่อสู้กับกลุ่มผู้ลี้ภัยกึ่งทหารชาวจีนที่บุกรุกพื้นที่ตังเกี๋ยและสยามระหว่างปี 2408–2433
สงครามปราบฮ่อ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
กองทัพสยามขณะปราบฮ่อ พ.ศ. 2418 | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
| |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
| พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | ||||||
กำลัง | |||||||
ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด | 20,000 |
สาเหตุของการปราบฮ่อ
พ.ศ. 2394 ฮ่อ หรือกองกำลังชาวจีน ที่ต่อต้านราชวงศ์แมนจู ได้ก่อการกบฏโดยเรียกกลุ่มตัวเองว่า กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว เพื่อปลดปล่อยตนเองออกจากการปกครองของราชวงศ์แมนจูที่เป็นใหญ่ยึดครองประเทศจีนอยู่ในขณะนั้น จนเกิดการรบพุ่งกันเป็นการใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2405 พวกไท้ผิงพ่ายแพ้ต้องหลบหนีไปซุ่มซ่อนตัวตามป่าเขาในมณฑลต่าง ๆ ของจีน ทั้งในมณฑลยูนนาน ฝูเจี้ยน กวางไส กวางตุ้ง เสฉวน และส่วนหนึ่งหลบหนีมายังตังเกี๋ย ทางตังเกี๋ยจึงดำเนินการปราบปรามทำให้พวกฮ่อต้องหนีมาอยู่ที่เมือง
พ.ศ. 2408 ในสมัยรัชกาลที่ 4 ขณะนั้นพวกฮ่อภายใต้การนำของ "ปวงนันชี" ซึ่งใช้ธงสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ได้ซ่องสุมกำลังที่ทุ่งไหหิน และได้ประพฤติตนเป็นโจรเที่ยวปล้นบ้านเมืองในดินแดนสิบสองจุไทและเมืองพวน ซึ่งขณะนั้นถือเป็นอาณาเขตของฝ่ายไทย
การปราบปราม
ครั้งแรก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในสมัยรัชกาลที่ 5 พวกฮ่อภายใต้การนำของ "" ซ่องสุมกำลังที่หลวงพระบาง ทุ่งไหหินอยู่ใน แขวงเชียงขวาง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลาว เป็นกลุ่มโจรปล้นบ้านเมืองในดินแดนสิบสองจุไทและเมืองพวน ซึ่งขณะนั้นถือเป็นอาณาเขตของฝ่ายไทย
ครั้งที่ 2
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในปี พ.ศ. 2417 กองกำลังฮ่อได้เตรียมกำลังออกเป็น 2 ทัพ ทัพที่ 1 จะเดินทัพลงมาที่เมืองเวียงจันทน์แล้วจะเข้าตีเมือง(ชื่อเดิมของหนองคาย) ส่วนทัพที่ 2 จะเดินทัพไปทางหัวเมืองพันห้าทั้งหก จะเข้าตีเมืองหลวงพระบาง พ.ศ. 2418 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบข่าวศึกฮ่อ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ จัดส่งกองทัพจากกรุงเทพฯ ไปปราบฮ่อที่ได้ยกกำลังล่วงล้ำเข้ามาจนถึงเมืองเวียงจันทน์
ครั้งที่ 3
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในปี พ.ศ. 2426 ได้พบบันทึก การสร้างพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 ครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ. 2426 เรียกกริ่งปราบฮ่อ ร.5 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ ในครั้งนี้ช่างสิบหมู่และโหรหลวงเป็นผู้ออกแบบ ลักษณะอักษร "ปราบฮ่อ" อยู่บนฐานชั้น 2 ติดกับพระโสณี (ตะโพก) ด้านหลัง "ร5" ตัว "ร" หล่อติดระหว่างกลางฐาน 1 และ 2 ด้านซ้ายของกรีบบัวหลัง เลข "5" หล่อติดแนวเดียวกันทางด้านขวาของกรีบบัวหลัง จำนวนการสร้างไม่ได้กล่าวไว้
ในปี 2426 กองกำลังทหารของไทยได้รับมอบพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 พ.ศ. 2426 เพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากโรคภัยและกำจัดปัดเป่าอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆให้กับกองทหารไทยที่ไปทำศึกสงครามปราบฮ่อ พ.ศ. 2426
พวกฮ่อยกมารุกรานเมืองหลวงพระบางอีก โปรดให้ คุมกำลังไปช่วยก่อน แล้วให้พระยาราชวรานุกูล (เอก บุญยรัตนพันธุ์) เป็นแม่ทัพยกตามไป ฮ่อได้ข่าวก็ถอยหนีไปปักหลักสู้ที่ค่ายทุ่งเชียงคำ ซึ่งมีแนวกอไผ่แน่นหนาเป็นป้อมปราการ ฝ่ายไทยตามไปถึง ก็ยิงปืนใหญ่เข้าใส่ แต่กระสุนติดกอไผ่ ทำอะไรพวกฮ่อไม่ได้ พระ ยาราชวรานุกูล ขัดใจยกกำลังบุกเข้าไปถูกฮ่อยิงด้วยปืนใหญ่เข้าที่ขาบาดเจ็บสาหัส รุกคืบหน้าไม่ได้ ก็ได้แต่ล้อมค่ายเอาไว้สองเดือน ฮ่อเริ่มอดอาหารบาดเจ็บล้มตาย แต่ยังไม่ยอมแพ้ การปราบปรามฮ่อของไทยดำเนินการอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2428 จึงได้ถอนกำลังจาก กลับมายังเมืองหนองคาย เนื่องจากขาดเสบียงอาหาร และแม่ทัพคือถูกฮ่อยิงบาดเจ็บ
ครั้งที่ 4
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในปี พ.ศ. 2428 ร.5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารที่ได้รับการฝึกหัดตามแบบยุโรปขึ้นไปปราบฮ่อ โดยจัดเป็นสองกองทัพคือกองทัพฝ่ายใต้และกองทัพฝ่ายเหนือ
กองทัพฝ่ายใต้มีนายพันเอก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมเป็นแม่ทัพยกไปปราบฮ่อในแคว้นเมืองพวน และได้ตั้งกองบัญชาการกองทัพอยู่ที่เมืองหนองคาย แล้วให้พระอมรวิไสยสรเดช (โต บุนนาค) ยกทัพหน้าไปตีค่ายฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ พวกฮ่อได้หนีไปในเขตญวน กองทัพไทยจึงรื้อค่ายฮ่อที่ทุ่งเชียงคำเสีย
กองทัพฝ่ายเหนือมีนายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) เป็นแม่ทัพยกไปปราบฮ่อในแคว้นหัวพันห้าทั้งหก ยกกำลังออกจากกรุงเทพฯ พร้อมอาวุธแบบใหม่นอกจากช้าง ม้า โค ลาต่างและฬ่อ ก็ยังมีลูกแตกหรือลูกระเบิดและปืนกลที่สะดวกแก่การขนย้ายมากกว่าปืนใหญ่ โดยไปชุมนุมทัพที่เมืองพิชัยแล้วเดินทัพต่อไปยังเมืองน่าน แล้วยกกำลังไปถึงเมืองหลวงพระบาง จากนั้นได้เคลื่อนกำลังเข้าสู่แคว้นหัวพันห้าทั้งหก เมื่อปราบฮ่อในแคว้นนี้ได้แล้วจึงได้ยกกำลังไปปราบฮ่อในแคว้นสิบสองจุไท
พ.ศ. 2429 สามารถปราบฮ่อได้ราบคาบแล้วจึงยกกำลังกลับถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2430
ผลของการปราบฮ่อ
เมื่อปีพุทธศักราช 2420 พระปทุมเทวาภิบาล (เคน) เป็นเจ้าเมืองหนองคาย ได้เกิดศึกฮ่อขึ้นโดยพวกฮ่อได้ยกกองทัพเข้าตีเมือง เวียงจันทน์ในประเทศลาว แล้วตั้งกองบัญชาการอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ และตระเตรียมเสบียงอาหารไว้เพื่อโจมตี เมืองรายทางต่างๆ เรื่อยมาจนถึงเมืองหนองคาย ซึ่งขณะนั้นพระปทุมเทวาภิบาล (เคน) เจ้าเมืองหนองคายไม่อยู่ ได้มอบให้ท้าวจันทร์ศรีสุราชรักษาเมืองแทน พอได้รับข่าวศึก ก็มิได้มีการตระเตรียมกองทัพไว้สู้ศึก ทำให้ราษฎรพากันอพยพครอบครัวหนีออกจากเมือง ทำให้พวกฮ่อยกกองทัพเข้าเมืองหนองคายส่วนท้าวจันทน์ศรีสุราชได้พาครอบครัวหนีไปอยู่บ้านสามพร้าว จังหวัดอุดรธานี และพระยา พิไสยสรเดช (หนู) เจ้าเมืองโพนพิสัยพร้อมด้วยกรมการเมืองก็พาราษฎรหนีออกจากเมืองไปเช่นเดียวกัน
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ทรงทราบข่าวศึกฮ่อยกกองทัพเข้ามาตีเมืองหนองคาย จึงมีพระบรมราชโองการ ให้พระยามหาอำมาตย์ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปปราบฮ่อที่เมืองอุบลราชธานีอยู่แล้ว ยกกองทัพเข้าเมืองหนองคายและสั่งให้จับ ท้าวจันทน์ศรีสุราช กับพระยาพิไสยสรเดชประหารชีวิตเสียทั้งคู่ จากนั้นพระยามหาอำมาตย์ จึงได้เกณฑ์กำลังจากเมือง นครพนม มุกดาหาร เขมราช นครราชสีมา และร้อยเอ็ดมาสมทบกันที่เมืองหนองคาย แล้วยกกองทัพออกไปตีพวกฮ่อจนถึงเมืองเวียงจันทน์ พวกฮ่อพ่ายแพ้ พากันหนีเข้าป่าไปเมื่อบ้านเมืองสงบแล้ว พระยามหาอำมาตย์จึงได้กวาดต้อนผู้คนจากเมืองเวียงจันทน์มาเป็นเชลยลงมาไว้ที่เมืองหนองคาย แล้วจึงยกกองทัพกลับกรุงเทพ ฯ
ในปีพุทธศักราช 2427 พวกฮ่อรวบรวมกำลังกันได้ก็ยกกองทัพเข้าโจมตีเมืองต่างๆ อีกทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนอยู่เนืองๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้มหาดไทยเมืองนครราชสีมายกกองทัพไปปราบพวกฮ่อ จนแตกหนีไปตั้งมั่นอยู่ที่เมืองขวาง และทุ่งเชียงคำ
ในปีพุทธศักราช 2428 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชนุกูล และพระยา ศรีสุริยราชวรานุวัตร ยกกองทัพขึ้นไปปราบพวกฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ เมื่อวันพุธ ขึ้น 14 ค่ำเดือน 4 เวลาประมาณ 2 โมงเช้า การรบถึงขั้น ตะลุมบอลพวกฮ่อสู้ไม่ได้จึงถอยหนีไป พระยาราชนุกูลถูกลูกปืนของข้าศึกแข้งแตกเดินไม่ได้ ในเวลา 4 โมงเย็น พวกฮ่อรวบรวมกำลังกัน ยกกองทัพมาตีเพื่อยึดค่ายคืนอีกแต่ไม่สำเร็จ กองทัพไทยยกเข้าไปล้อมพวกฮ่อไว้นาน 7 วัน พวกฮ่อจึงขอเจรจาสงบศึกโดยขอให้ไทย ยกกองทัพกลับ แล้วจะมอบสิ่งของในค่ายฮ่อให้ครึ่งหนึ่ง แต่กองทัพไทยไม่ยอมเพราะไม่ไว้ใจพวกฮ่อ
เพื่อให้การปราบพวกฮ่อเป็นไปอย่างรวดเร็วเด็ดขาด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ "กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม" คุมกองทัพ ขึ้นไปสมทบ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมจึงดำรัสให้พระอมรวิไสยสรเดช (โต บุญนาค) ม.ร.ว.วรุณ พระยาสุริยเดช พระราชวรรินทร์ และพระเจริญราชอาณาเขตยกกองทัพไปสมทบ กองทัพไทยได้เอาปืนใหญ่ยิงเข้าไปในค่ายของพวกฮ่อจนฮ่อแตกหนีไป กองทัพจึงได้ยก กองทัพกลับเมืองหนองคาย เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ สงบเรียบร้อยแล้ว กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมจึงโปรด ให้สร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อขึ้นที่ เมืองหนองคาย เพื่อบรรจุอัฐิทหารจากกรม กองต่างๆ ที่เสียชีพเพื่อชาติในครั้งนั้น ดังนี้
- ทั้ง 4 ด้านได้จารึกอักษรไว้ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอักฤษ ภาษาจีนและภาษาลาว มีข้อความว่า
ปางนี้จักแสดง พจน์พร้อมผู้ภักดี ในอนุสาวรีย์ ไว้เป็นที่ระลึกตาม ผู้กอปรด้วยภักดี ดังอาภรณ์ประดับงาม ชีพมลายขจรนาม ปรากฏเกียรตินิรันดร สูญสุริย์จันทร จึงจะสูญซึ่งความดี วายชีพทำการกิจ โดยความสวามี ภักดีต่อชุลี ละอองบาททบมาลย์ ปวงปราชญ์คงจักซ้อง ศรับแล้วสาธุการ นับว่าเป็นทัยสูญ ขมีขลาดขยาดขย่อน องอาจต่อราชกิจ มิได้คิดแต่ความมรณ์ คณะเทพไตรสร จักชูช่วยอำนวยผล นำขันธ์เสวยสุข นฤทุกข์บ่ได้ยล สุขขกิจจงจักดล ประโลกยับแปรปรวน สุดท้ายมีคำจารึกไว้ว่า "อนุสาวรีย์นี้ได้เปิดแต่ศักราช 1247 ควบ 1248 พุทธศักราชล่วงแล้ว"
บำเหน็จในการสงคราม
อนุสรณ์
อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เป็นอนุสรณ์สถานที่กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ได้โปรดให้จัดสร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของเหล่าทหารจากกรมกองต่างๆ ที่เสียสละชีวิต เพื่อป้องกันประเทศชาติในการปราบพวกฮ่อครั้งนั้น ประกอบด้วย กรมทหารอาสาวิเศษ กรมแปดเหล่า กรมฝรั่งแม่นปืน กรมทหารมาลา กรมสัสดี กรมเรือต้น กรมทหารมหาดเล็กและกรมการหัวเมือง โดยตั้งอยู่ที่ด้านข้างทางทิศตะวันตก ของสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย ในปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 จังหวัดหนองคายได้รับงบประมาณทำการบูรณปฏิสังขรณ์อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ โดยได้ย้ายมาก่อสร้างองค์ใหม่ ขึ้นที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย(หลังเก่า)มีลักษณะเป็นศิลปะประยุกต์ แบบทรงสี่เหลี่ยม ก่ออิฐถือปูน มีฐานเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม กว้าง 4เมตร สูง10.10 เมตร ยอดทรงกรวยเหลี่ยมปลายแหลม และได้คัดลอกข้อความจากอนุสาวรีย์องค์เดิมมาไว้ทั้ง 4 ด้าน โดยในวันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี จังหวัดหนองคาย จะประกอบพิธีบวงสรวง ขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวจังหวัดหนองคาย และเป็นการระลึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของบรรพบุรุษ ที่ต่อสู้ปกป้องแผ่นดินให้พ้นจากการรุกรานของพวกฮ่อ
การดัดแปลงในสื่อ
- ในปี พ.ศ. 2500 บริษัทได้นำเอาเหตุการณ์ปราบฮ่อในปี พ.ศ. 2428 มาสร้างเป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาตร์ขนาดฟิลม์ 35 ม.ม. มีชื่อเรื่องว่า "ปักธงไชย" โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ ทรงประพันธ์เรื่องและบทภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา เนื้อหากล่าวถึงทหารกองหนึ่งในสงครามครั้งนั้นที่ต้องนำเสบียงจากกองบัญชาการเมืองซ่อนไปส่งให้ค่ายทหารซึ่งกำลังขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก โดยกระทำการอย่างเป็นความลับที่สุด
อ้างอิง
- สงครามปราบฮ่อ สมัย ร.5 มรว. แสงโสม เกษมศรี ประวัติศาสตร์ไทย ปี 2503
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานบำเหน็จความชอบ 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน,หน้า 263, เล่ม 4, 30 พฤศจิกายน 2430
- อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ. . สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-13. สืบค้นเมื่อ 2010-12-21.
- ปักธงไชย (1958) - เว็บไซต์สยามโซน
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngekhiynihmthnghmdephuxihepniptammatrthankhunphaphkhxngwikiphiediy hruxkalngdaeninkarxyu khunchwyeraid hnaxphiprayxacmikhxesnxaenabthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul sngkhramprabhx khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir sngkhramprabhx epnkartxsukbklumphuliphykungthharchawcinthibukrukphunthitngekiyaelasyamrahwangpi 2408 2433sngkhramprabhxkxngthphsyamkhnaprabhx ph s 2418wnthiph s 2408 2433sthanthilawtxnehnux phakhtawntkkhxngewiydnam phakhehnuxkhxngithyphlsyamidrbchychna kxngkalnghxaetkphaykhusngkhramkbtithphingethiynkwsyam lanchanghlwngphrabangphubngkhbbychaaelaphunahng siwech wiynphrabathsmedcphraprminthrmhaculalngkrn phraculcxmeklaecaxyuhw ecaphrayasurskdimntri phraecamhinthrethphniphathrkalngimthrabcanwnthiaenchd20 000saehtukhxngkarprabhxph s 2394 hx hruxkxngkalngchawcin thitxtanrachwngsaemncu idkxkarkbtodyeriykklumtwexngwa kbtithphingethiynkw ephuxpldplxytnexngxxkcakkarpkkhrxngkhxngrachwngsaemncuthiepnihyyudkhrxngpraethscinxyuinkhnann cnekidkarrbphungknepnkarihy emuxpi ph s 2405 phwkithphingphayaephtxnghlbhniipsumsxntwtampaekhainmnthltang khxngcin thnginmnthlyunnan fueciyn kwangis kwangtung eschwn aelaswnhnunghlbhnimayngtngekiy thangtngekiycungdaeninkarprabpramthaihphwkhxtxnghnimaxyuthiemuxng ph s 2408 insmyrchkalthi 4 khnannphwkhxphayitkarnakhxng pwngnnchi sungichthngsiehluxngepnsylksn idsxngsumkalngthithungihhin aelaidpraphvtitnepnocrethiywplnbanemuxngindinaednsibsxngcuithaelaemuxngphwn sungkhnannthuxepnxanaekhtkhxngfayithykarprabpramkhrngaerk swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid insmyrchkalthi 5 phwkhxphayitkarnakhxng sxngsumkalngthihlwngphrabang thungihhinxyuin aekhwngechiyngkhwang thangthistawnxxkechiyngehnuxkhxnglaw epnklumocrplnbanemuxngindinaednsibsxngcuithaelaemuxngphwn sungkhnannthuxepnxanaekhtkhxngfayithy khrngthi 2 swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid inpi ph s 2417 kxngkalnghxidetriymkalngxxkepn 2 thph thphthi 1 caedinthphlngmathiemuxngewiyngcnthnaelwcaekhatiemuxng chuxedimkhxnghnxngkhay swnthphthi 2 caedinthphipthanghwemuxngphnhathnghk caekhatiemuxnghlwngphrabang ph s 2418 emuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngthrabkhawsukhx cungoprdekla ih cdsngkxngthphcakkrungethph ipprabhxthiidykkalnglwnglaekhamacnthungemuxngewiyngcnthn khrngthi 3 swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid inpi ph s 2426 idphbbnthuk karsrangphrakringpwers run 1 khrngthi 5 inpi ph s 2426 eriykkringprabhx r 5 smedcphramhasmneca krmphrayapwerswriyalngkrn imidepnphuxxkaebb inkhrngnichangsibhmuaelaohrhlwngepnphuxxkaebb lksnaxksr prabhx xyubnthanchn 2 tidkbphraosni taophk danhlng r5 tw r hlxtidrahwangklangthan 1 aela 2 dansaykhxngkribbwhlng elkh 5 hlxtidaenwediywknthangdankhwakhxngkribbwhlng canwnkarsrangimidklawiw inpi 2426 kxngkalngthharkhxngithyidrbmxbphrakringpwers run 1 ph s 2426 ephuxkhwamswsdi michyprascakorkhphyaelakacdpdepaxpmngkhl xntray phyphibtitangihkbkxngthharithythiipthasuksngkhramprabhx ph s 2426 phwkhxykmarukranemuxnghlwngphrabangxik oprdih khumkalngipchwykxn aelwihphrayarachwranukul exk buyyrtnphnthu epnaemthphyktamip hxidkhawkthxyhniippkhlksuthikhaythungechiyngkha sungmiaenwkxiphaennhnaepnpxmprakar fayithytamipthung kyingpunihyekhais aetkrasuntidkxiph thaxairphwkhximid phra yarachwranukul khdicykkalngbukekhaipthukhxyingdwypunihyekhathikhabadecbsahs rukkhubhnaimid kidaetlxmkhayexaiwsxngeduxn hxerimxdxaharbadecblmtay aetyngimyxmaeph karprabpramhxkhxngithydaeninkarxyucnthungpi ph s 2428 cungidthxnkalngcak klbmayngemuxnghnxngkhay enuxngcakkhadesbiyngxahar aelaaemthphkhuxthukhxyingbadecb khrngthi 4 swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidthngcuthathuchthipity sungichepnthngpracakxngthharsyaminkarprabhxkhrngthi 4cxmphl ecaphrayasurskdimntri ecim aesng chuot emuxkhrngepnnayphnexk ecahmuniwywrnath aemthphprabhxfayithyin ph s 2428 2430 nngthangsay thayrupkhukbecarachwngs khasuk aehnghlwngphrabangthikxngbychakaremuxngsxn inpi ph s 2428 r 5 cungoprdekla ihkrmthharthiidrbkarfukhdtamaebbyuorpkhunipprabhx odycdepnsxngkxngthphkhuxkxngthphfayitaelakxngthphfayehnux kxngthphfayitminayphnexk phraecanxngyaethx krmhmunprackssilpakhmepnaemthphykipprabhxinaekhwnemuxngphwn aelaidtngkxngbychakarkxngthphxyuthiemuxnghnxngkhay aelwihphraxmrwiisysredch ot bunnakh ykthphhnaiptikhayhxthithungechiyngkha phwkhxidhniipinekhtywn kxngthphithycungruxkhayhxthithungechiyngkhaesiy kxngthphfayehnuxminayphnexk ecahmuniwywrnath ecim aesng chuot epnaemthphykipprabhxinaekhwnhwphnhathnghk ykkalngxxkcakkrungethph phrxmxawuthaebbihmnxkcakchang ma okh latangaelalx kyngmilukaetkhruxlukraebidaelapunklthisadwkaekkarkhnyaymakkwapunihy odyipchumnumthphthiemuxngphichyaelwedinthphtxipyngemuxngnan aelwykkalngipthungemuxnghlwngphrabang caknnidekhluxnkalngekhasuaekhwnhwphnhathnghk emuxprabhxinaekhwnniidaelwcungidykkalngipprabhxinaekhwnsibsxngcuith ph s 2429 samarthprabhxidrabkhabaelwcungykkalngklbthungkrungethph emuxwnthi 7 mithunayn ph s 2430phlkhxngkarprabhxemuxpiphuththskrach 2420 phrapthumethwaphibal ekhn epnecaemuxnghnxngkhay idekidsukhxkhunodyphwkhxidykkxngthphekhatiemuxng ewiyngcnthninpraethslaw aelwtngkxngbychakarxyuthiemuxngewiyngcnthn aelatraetriymesbiyngxahariwephuxocmti emuxngraythangtang eruxymacnthungemuxnghnxngkhay sungkhnannphrapthumethwaphibal ekhn ecaemuxnghnxngkhayimxyu idmxbihthawcnthrsrisurachrksaemuxngaethn phxidrbkhawsuk kmiidmikartraetriymkxngthphiwsusuk thaihrasdrphaknxphyphkhrxbkhrwhnixxkcakemuxng thaihphwkhxykkxngthphekhaemuxnghnxngkhayswnthawcnthnsrisurachidphakhrxbkhrwhniipxyubansamphraw cnghwdxudrthani aelaphraya phiisysredch hnu ecaemuxngophnphisyphrxmdwykrmkaremuxngkpharasdrhnixxkcakemuxngipechnediywkn emuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyu thrngthrabkhawsukhxykkxngthphekhamatiemuxnghnxngkhay cungmiphrabrmrachoxngkar ihphrayamhaxamatysungidrbmxbhmayihipprabhxthiemuxngxublrachthanixyuaelw ykkxngthphekhaemuxnghnxngkhayaelasngihcb thawcnthnsrisurach kbphrayaphiisysredchpraharchiwitesiythngkhu caknnphrayamhaxamaty cungideknthkalngcakemuxng nkhrphnm mukdahar ekhmrach nkhrrachsima aelarxyexdmasmthbknthiemuxnghnxngkhay aelwykkxngthphxxkiptiphwkhxcnthungemuxngewiyngcnthn phwkhxphayaeph phaknhniekhapaipemuxbanemuxngsngbaelw phrayamhaxamatycungidkwadtxnphukhncakemuxngewiyngcnthnmaepnechlylngmaiwthiemuxnghnxngkhay aelwcungykkxngthphklbkrungethph xnusawriyprabhx hnasalaklangcnghwdhnxngkhayhlngedim inpiphuththskrach 2427 phwkhxrwbrwmkalngknidkykkxngthphekhaocmtiemuxngtang xikthaihrasdridrbkhwameduxdrxnxyuenuxng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrabrmrachoxngkarihmhadithyemuxngnkhrrachsimaykkxngthphipprabphwkhx cnaetkhniiptngmnxyuthiemuxngkhwang aelathungechiyngkha inpiphuththskrach 2428 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrabrmrachoxngkaroprdekla ihphrayarachnukul aelaphraya srisuriyrachwranuwtr ykkxngthphkhunipprabphwkhxthithungechiyngkha emuxwnphuth khun 14 khaeduxn 4 ewlapraman 2 omngecha karrbthungkhn talumbxlphwkhxsuimidcungthxyhniip phrayarachnukulthuklukpunkhxngkhasukaekhngaetkedinimid inewla 4 omngeyn phwkhxrwbrwmkalngkn ykkxngthphmatiephuxyudkhaykhunxikaetimsaerc kxngthphithyykekhaiplxmphwkhxiwnan 7 wn phwkhxcungkhxecrcasngbsukodykhxihithy ykkxngthphklb aelwcamxbsingkhxnginkhayhxihkhrunghnung aetkxngthphithyimyxmephraaimiwicphwkhx ephuxihkarprabphwkhxepnipxyangrwderweddkhad cungthrngphrakrunaoprdeklaih krmhlwngprackssilpakhm khumkxngthph khunipsmthb krmhlwngprackssilpakhmcungdarsihphraxmrwiisysredch ot buynakh m r w wrun phrayasuriyedch phrarachwrrinthr aelaphraecriyrachxanaekhtykkxngthphipsmthb kxngthphithyidexapunihyyingekhaipinkhaykhxngphwkhxcnhxaetkhniip kxngthphcungidyk kxngthphklbemuxnghnxngkhay emuxehtukarntang sngberiybrxyaelw krmhlwngprackssilpakhmcungoprd ihsrangxnusawriyprabhxkhunthi emuxnghnxngkhay ephuxbrrcuxthithharcakkrm kxngtang thiesiychiphephuxchatiinkhrngnn dngni thng 4 danidcarukxksriw 4 phasa idaek phasaithy phasaxkvs phasacinaelaphasalaw mikhxkhwamwa pangnickaesdng phcnphrxmphuphkdi inxnusawriy iwepnthiraluktam phukxprdwyphkdi dngxaphrnpradbngam chiphmlaykhcrnam praktekiyrtinirndr suysuriycnthr cungcasuysungkhwamdi waychiphthakarkic odykhwamswami phkditxchuli laxxngbaththbmaly pwngprachykhngcksxng srbaelwsathukar nbwaepnthysuy khmikhladkhyadkhyxn xngxactxrachkic miidkhidaetkhwammrn khnaethphitrsr ckchuchwyxanwyphl nakhntheswysukh nvthukkhbidyl sukhkhkiccngckdl praolkybaeprprwn sudthaymikhacarukiwwa xnusawriyniidepidaetskrach 1247 khwb 1248 phuththskrachlwngaelw baehncinkarsngkhramxnusrnxnusawriyprabhx epnxnusrnsthanthikrmhlwngprackssilpakhm idoprdihcdsrangkhunephuxbrrcuxthikhxngehlathharcakkrmkxngtang thiesiyslachiwit ephuxpxngknpraethschatiinkarprabphwkhxkhrngnn prakxbdwy krmthharxasawiess krmaepdehla krmfrngaemnpun krmthharmala krmssdi krmeruxtn krmthharmhadelkaelakrmkarhwemuxng odytngxyuthidankhangthangthistawntk khxngsthanitarwcphuthremuxnghnxngkhay inpccubn txmainpi ph s 2492 cnghwdhnxngkhayidrbngbpramanthakarburnptisngkhrnxnusawriyprabhx odyidyaymakxsrangxngkhihm khunthibriewndanhnasalaklangcnghwdhnxngkhay hlngeka milksnaepnsilpaprayukt aebbthrngsiehliym kxxiththuxpun mithanepnrupthrngsiehliym kwang 4emtr sung10 10 emtr yxdthrngkrwyehliymplayaehlm aelaidkhdlxkkhxkhwamcakxnusawriyxngkhedimmaiwthng 4 dan odyinwnthi 5 minakhm khxngthukpi cnghwdhnxngkhay caprakxbphithibwngsrwng khunephuxkhwamepnsirimngkhlaekchawcnghwdhnxngkhay aelaepnkarralukthungwirkrrmxnhayklakhxngbrrphburus thitxsupkpxngaephndinihphncakkarrukrankhxngphwkhxkarddaeplnginsuxchakitetilkhxngphaphyntreruxng pkthngichy ph s 2500inpi ph s 2500 bristhidnaexaehtukarnprabhxinpi ph s 2428 masrangepnphaphyntrxingprawtisatrkhnadfilm 35 m m michuxeruxngwa pkthngichy odyphraecawrwngsethx phraxngkhecaxnusrmngkhlkar thrngpraphntheruxngaelabthphaphyntr kakbkaraesdngody hmxmxubl yukhl n xyuthya enuxhaklawthungthharkxnghnunginsngkhramkhrngnnthitxngnaesbiyngcakkxngbychakaremuxngsxnipsngihkhaythharsungkalngkhadaekhlnesbiyngxyanghnk odykrathakarxyangepnkhwamlbthisudxangxingsngkhramprabhx smy r 5 mrw aesngosm eksmsri prawtisastrithy pi 2503 rachkiccanuebksa phrarachthanbaehnckhwamchxb 2011 11 07 thi ewyaebkaemchchin hna 263 elm 4 30 phvscikayn 2430 xnusawriyprabhx sthanthisakhythangprawtisastrxnusawriyprabhx khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 04 13 subkhnemux 2010 12 21 pkthngichy 1958 ewbistsyamosnaehlngkhxmulxunwikisxrsmiexksartnchbbineruxngni hx