ร้อยโท สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ หรือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร (27 มิถุนายน พ.ศ. 2421 – 4 มกราคม พ.ศ. 2437 นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2438) เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) เป็นพระโสทรเชษฐาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และเป็นสมเด็จพระปิตุลาธิบดีในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้พระองค์นับเป็นพระปิตุลาธิราช ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องจากพระองค์นับเป็นพระราชธิดาองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เนื่องจากนับทรงเป็นพระอนุชาธิราชต่างมารดาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของประเทศไทย แต่หลังจากดำรงตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมารได้เพียง 8 ปี ก็เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมายุ 16 พรรษา
สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ | |
---|---|
สยามมกุฎราชกุมาร | |
สยามมกุฎราชกุมาร | |
ดำรงพระยศ | 14 มกราคม พ.ศ. 2430 - 4 มกราคม พ.ศ. 2438 (7 ปี 355 วัน) |
รัชสมัย | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง (กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ในฐานะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล) |
ถัดไป | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร |
พระราชสมภพ | 27 มิถุนายน พ.ศ. 2421 พระบรมมหาราชวัง อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
สวรรคต | 4 มกราคม พ.ศ. 2438 (16 ปี) พระบรมมหาราชวัง อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระราชบิดา | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระราชมารดา | สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า |
ลายพระอภิไธย |
พระราชประวัติ
พระราชสมภพ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระราชสมภพแต่สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีขาล สัมฤทธิศก จ.ศ. 1240 ตรงกับวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2421
เดิมทีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบอกพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ว่า "มหาอุณหิศ" แต่ด้วยทรงเห็นว่าเมื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วอาจจะอ่านได้ว่า 'อุณหิศ' หรือ 'อันหิศ' ก็ได้ จึงมีพระราชหัตถ์ถึงพระยาอัษฎางค์เปลี่ยนพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่เสียใหม่ว่า "มหาวชิรุณหิศ" ซึ่งแปลว่า มงกุฎเพชรใหญ่
พระองค์มีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมพระมารดา ได้แก่ สมเด็จเจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์, สมเด็จเจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา, สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์, สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร, สมเด็จเจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ (ต่อมาคือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก)
สยามมกุฎราชกุมาร
ภายหลังการเสด็จทิวงคตของกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เมื่อ พ.ศ. 2428 ก็ไม่มีการสถาปนาผู้ใดขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลอีก โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่เหมาะสมกับกาลสมัยและอาจทำให้ชาวต่างประเทศเข้าใจสับสน และมีพระราชดำริว่า พระราชอิสริยยศ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช" ซึ่งเรียกว่า "สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า" ที่ได้ตั้งขึ้นไว้ตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เป็นตำแหน่งที่สอดคล้องตามแบบอย่างการสืบสันตติวงศ์ของพระมหากษัตริย์ในนานาอารยประเทศที่มีราชประเพณีแต่งตั้งพระราชโอรสพระองค์ใหญ่เป็นมกุฎราชกุมารดำรงตำแหน่งรัชทายาท
ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระราชพิธีมหาพิไชยมงคลลงสรงสนานเฉลิมพระปรมาภิไธยสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2429 (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2430) มีพระนามตามจารึกสุพรรณบัฏว่า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ อดิศวรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร บรมมกุฎนเรนทรสูริย์ขัตติยสันตติวงษ อุกฤษฐพงษวโรภโตสุชาต ธัญญลักษณวิลาศวิบุลยสวัสดิ์ ศิริวัฒนวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร
นับเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมารเป็นตำแหน่งรัชทายาทแทนตำแหน่งพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในการนี้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรได้ส่งโทรเลขมาอำนวยพรสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารด้วย
โสกันต์และผนวช
เมื่อพระองค์มีพระชันษาครบ 13 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีโสกันต์อย่างใหญ่ โดยโปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมเป็นอธิบดีดำเนินการสร้างเขาไกรลาศบริเวณสนามหญ้าหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชพิธีโสกันต์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 มกราคม พ.ศ. 2433 จากนั้นได้ทรงผนวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2434 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ผนวชแล้วประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร จนถึงวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2434 จึงลาผนวช
สวรรคต
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ประชวรด้วยพระโรคไข้รากสาดน้อย เสด็จสวรรคตเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย ฉศก จ.ศ. 1256 ตรงกับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2437 (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2438) ขณะมีพระชนมายุ 16 พรรษา 191 วัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เชิญพระบรมศพลงสู่พระบรมโกศ ประดิษฐานพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และให้ราชการไว้ทุกข์ 1 เดือน
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2444 อัญเชิญพระบุพโพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นพระราชยานกง ตั้งกระบวนแห่ไปยังวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ประดิษฐานถ้ำพระบุพโพบนแว่นฟ้าในศาลาที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าขาวสดับปกรณ์ 40 พับ พระสงฆ์มีพระพิมลธรรม (ฑิต อุทโย) เป็นประธานสดับปกรณ์ แล้วอัญเชิญพระบุพโพไปยังพระเมรุข้างศาลา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จไปจุดเพลิงพระราชทาน แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ถวายพระเพลิงพระบุพโพตามลำดับ
วันที่ 22 มกราคม อัญเชิญพระบรมศพโดยพระมหาพิชัยราชรถไปยังพระเมรุมณฑป วัดบวรสถานสุทธาวาส ถึงวันที่ 24 มกราคม บ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงเสด็จฯ มาทอดผ้าสดับปกรณ์และพระราชทานเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
ชีวิตส่วนพระองค์
เมื่อพระองค์ทรงเจริญพระชนมายุเข้าสู่วัยหนุ่ม มีพระโฉมงดงามเป็นสง่า และทรงด้วยพระสติปัญญารอบรู้ ประกอบกับการอบรมสั่งสอนจากพระราชบิดาอย่างใกล้ชิด กระนั้นก็ทรงเป็นราชโอรสที่ซุกซนโลดโผน ห้าวหาญ และแข็งกล้าอย่างเด็กผู้ชาย ขณะที่สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ต่อมาคือ มกุฏราชกุมารองค์ต่อมา) พระอนุชาต่างพระมารดา กลับมีอุปนิสัยสุภาพอ่อนโยน โปรดการนั่งพับเพียบเรียบร้อยเฉย ๆ ทั้งสองพระองค์จึงถูกชาววังเปรียบเทียบว่าทรงแตกต่างดั่ง "พระอาทิตย์" กับ "พระจันทร์"
เมื่อครั้งนั้นพระองค์มีพระหฤทัยผูกพันกับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี พระภคินีต่างพระมารดาที่มีพระชันษาแก่กว่าพระองค์เพียง 10 เดือน เหตุที่มีพระทัยสนิทเสน่หา สืบเนื่องมาจากความใกล้ชิดเมื่อครั้งทรงรับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระราชชนกด้วยกัน เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชกิจอันเป็นความลับของประเทศ ทรงมิไว้วางพระทัยผู้ใดให้ทำหน้าที่ใกล้ชิดเกี่ยวกับการนี้ โปรดเกล้าฯให้แต่เจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์เข้าเฝ้าใกล้ชิดตลอดเวลา
ด้วยความผูกพันดังกล่าว สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ ทรงแสดงความในพระทัยออกมาเป็นสักวาที่ทรงนิพนธ์ในโอกาสอย่างใดอย่างหนึ่งโดยมีพระราชชนกประทับอยู่ด้วย ซึ่งเจ้านายและชาววังแอบจำต่อกันมา ความว่า
ได้ยลพักตร์ลักขณาสุดาพี่ | จะหาไหนไม่มีเสมอสอง |
เสงี่ยมงามทรามสงวนนวลละออง | ไฉนน้องไร้คู่อยู่เอกา |
ถ้าอยู่ได้ก็จะอยู่เป็นคู่ชื่น | สำราญรื่นร่วมจิตขนิษฐา |
จะบนบวงสรวงเทพเทวา | ขอให้สมปรารถนาครานี้เอย |
แต่หลังจากเหตุการณ์ ร.ศ. 112 พระองค์ก็มีเรื่องให้พระราชบิดากังวลพระราชหฤทัย เป็นเหตุให้พระบรมชนกนาถทรงมีลายพระราชหัตถเลขาสาปแช่งผู่ใหญ่ที่ทำให้พระราชโอรสผู้นี้ หลงทาง แสดงให้เห็นถึงว่าพระราชชนกทรงรักและห่วงใยพระองค์ ซึ่งจะต้องเป็นเสาหลักในการปกครองประเทศต่อไป เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสมเด็จพระบรมฯ ไปเที่ยวงานภูเขาทองซึ่งเป็นงานใหญ่ และได้เสด็จออกมาประทับ ณ วังสราญรมย์ และพบปะกับหม่อมผู้หนึ่งที่บ้านของพระยานรรัตนราชมานิต ด้วยความที่ทรงเป็นห่วงพระโอรสที่มีพระชนมายุยังน้อย ทั้งทรงเกรงว่าจะดำเนินไปในทางที่ไม่ควร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้กำชับและสาปแช่งพระยาเทเวศรฯ (ซึ่งเป็นพระอภิบาลในมกุฎราชกุมาร) เนื่องด้วยทรงรังเกียจหม่อมผู้นั้นที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงพบปะด้วย ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาได้กล่าวถึงหม่อมผู้นี้ว่าไว้ว่า "...ประพฤติตนลามกต่าง ๆ ย่อมมาปรากฏแก่หูเราหลายสิบครั้ง" ทั้งยังทรงแช่งพระยานรรัตนราชมานิตที่ทำให้สมเด็จพระบรมฯ เจอกับหม่อมผู้นั้นที่บ้านของตน ซึ่งการสาปแช่งในครั้งนี้ว่าไม่ได้เป็นการสาปส่งหรือใช้ภาษาหยาบคายแต่ประการใด แต่เป็นการทั้งขอสาปส่งและสรรเสริญในท่าทีเดียวกัน หากผู้ถูก"พูดถึง" เหล่านั้นนำทุกเรื่องที่จะเกิดขึ้นมาอธิบายให้พระองค์ทราบ และทรงอธิบายไว้ในจดหมายต่าง ๆ ที่ส่งไปถึงคนเหล่านั้นด้วยว่า ที่ทำไปก็มิอยากให้ปิดบังการต่าง ๆ แก่พระองค์ ซึ่งจะเป็นผลพวงดีต่อพระราชโอรสของพระองค์ในบั้นปลายนั้นเอง และท้ายที่สุดสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้ทรงรับปฏิญาณตามคำสั่งของพระราชบิดา เรื่องพระราชวิตกครั้งนี้จึงจบสิ้นลง
อนึ่งจุลลดา ภักดีภูมินทร์ ได้อ้างว่า ต้นฉบับเลอะเลือนทำให้ไม่ทราบชื่อหม่อมผู้นั้น แต่ทราบเพียงว่าเป็นหม่อมห้ามของเจ้านายพระองค์หนึ่ง
ความสนพระทัย
พระองค์สนพระทัยการจดไดอารี ซึ่งไดอารีเล่มดังกล่าวพระองค์ได้รับพระราชทานมาจากพระราชบิดาในวันคล้ายวันประสูติเมื่อพระชนมายุครบ 5 ชันษาบริบูรณ์ และทรงเริ่มบันทึกทันทีที่ได้รับพระราชทาน โปรดฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสมรรัตนศิริเชฐ หรือที่ทรงเรียกว่าป้าโสม เป็นผู้จดบันทึกตามคำบอกเล่าของพระองค์ ต่อมาเมื่อมีพระชนมายุ 9-10 พรรษา จึงทรงเริ่มบันทึกด้วยพระองค์เอง นอกจากการจดบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ประจำวันแล้ว พระองค์ยังทรงแต่งโคลงไว้หลายบท อาทิ โคลงว่าด้วยรักซึ่งพระองค์ทรงแต่งขึ้นเพื่อถวายพระบรมชนกนาถสำหรับลงหนังสือวชิรญาณ ความว่า
รักใครจะรักแม้น | ชนกนารถ |
รักบอยากจะคลาด | สักน้อย |
รักใดจะมิอาจ | เทียมเท่า ท่านนา |
รักยิ่งมิอาจคล้อย | นิราศแคล้วสักวันฯ |
นอกจากนี้พระองค์ทรงบันทึกถึงเรื่องการแต่งนิทานเป็นภาษาอังกฤษเพื่อไปลงหนังสือ Little Folks ของประเทศสิงคโปร์และทรงได้รับรางวัลด้วย ในช่วงท้าย ๆ ของบันทึก เมื่อมีพระชันษาได้ 13-14 ปี ทรงบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทรงศึกษาจากครูฝรั่ง และทรงเรียกพระบรมชนกนาถในไดอารีว่า Papa แต่หลังจากวันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2436 ทรงบันทึกหลังจากนี้อีกสามวัน แต่เป็นข้อความสั้น ๆ หลังจากนั้นก็มิได้บันทึกอะไรต่ออีก จนอีกสิบเดือนต่อมาก็เสด็จสวรรคต
สมุดจดบันทึกรายวันเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ในชื่อ "จดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ" โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานเป็นที่ระลึกในงานพระบรมศพสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
พระราชกรณียกิจ
หลังจากที่ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เสด็จออกรับแขกเมืองและรับฎีกาของราษฎรแทนพระองค์ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จเป็นผู้แทนพระองค์ในงานต่าง ๆ อยู่เสมอ
ในส่วนของราชการทหารนั้น พระองค์ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการทั่วไปในกรมทหาร แต่เนื่องจากยังทรงพระเยาว์จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้มีตำแหน่งผู้ว่าการแทนผู้บังคับบัญชาการทั่วไปในกรมทหารจนกว่าพระองค์จะว่าการได้ด้วยพระองค์เอง เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรทหารโดยให้ดำรงพระยศที่นายร้อยโท
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
พระอิสริยยศ
- 27 มิถุนายน พ.ศ. 2421 – 13 มกราคม พ.ศ. 2429 : สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
- 14 มกราคม พ.ศ. 2429 – 4 มกราคม พ.ศ. 2438 : สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
- 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 : สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
- 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 : สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2425 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2429 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2429 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2436 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) (คณาธิบดี)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- ฝรั่งเศส :
- พ.ศ. 2435 - เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ชั้นที่ 1
- เดนมาร์ก :
- พ.ศ. 2434 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอโบร ชั้นที่ 1
- รัสเซีย :
- พ.ศ. 2435 -
- เยอรมนี :
- พ.ศ. 2434 - ชั้นที่ 1
- อิตาลี :
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ - ชั้นที่ 1
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร | |
---|---|
รับใช้ | กองทัพบกสยาม |
ประจำการ | พ.ศ. 2430–2437 |
ชั้นยศ | นายร้อยโท |
หน่วย | กรมทหารมหาดเล็ก |
พระยศทางทหาร
- 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2430 : ผู้บังคับบัญชาการทั่วไปในกรมทหาร
- 8 ธันวาคม พ.ศ. 2436 : นายร้อยโท ประจำกองทหารราบมหาดเล็ก
พระราชานุสรณ์
- วังวินด์เซอร์ เป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสร้างขึ้นเพื่อพระราชทานเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
- วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการบูรณะวัดมหาธาตุ พร้อมกับพระราชทานเพิ่มสร้อยนามวัดว่า "ยุวราชรังสฤษฎิ์" เพื่อเป็นบุญนิธิแก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
- มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ตึกถาวรวัตถุ) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่กุฏิสงฆ์วัดมหาธาตุด้านทิศตะวันออก สถาปนาเป็นตึกถาวรวัตถุแทนอาคารประกอบพระเมรุ เพื่อเป็นที่เชิญพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มาประดิษฐานบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณาทาน เมื่อการบำเพ็ญกุศลเสร็จแล้ว จะได้ทรงพระราชทานอุทิศถวายตึกถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัย และพระราชทานเปลี่ยนนามมหาธาตุวิทยาลัยใหม่ว่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นที่เฉลิมพระเกียรติยศ แต่การสร้างตึกถาวรวัตถุไม่แล้วเสร็จจนสิ้นรัชกาล
- พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา โปรดให้สร้างเพื่ออุทิศถวายเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปีพุทธศักราช๒๔๔๕พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ใช้เป็นที่ประทับทรงศีลในวันอุโบสถ
- ตึกวชิรุณหิศ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- อาคารวชิรุณหิศ หรือ อาคาร 10 โรงเรียนหอวัง และพระรูปครึ่งพระองค์ ประดิษฐาน ณ ชั้น 2 ของอาคาร
- อาคารมหาวชิรุณหิศ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พงศาวลี
อ้างอิง
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธย สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าราชกุมารพระองค์ใหญ่ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ 2012-06-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓, ตอน ๔๔, วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๙, หน้า ๓๖๘
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธย สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าราชกุมารพระองค์ใหญ่ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ 2012-06-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓, ตอน ๔๔, วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๙, หน้า ๓๖๘
- จดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ, บันทึก ณ วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2429
- ราชกิจจานุเบกษา, การทรงผนวช สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมารเป็นสามเณร, เล่ม ๘, หน้า ๒๒๓
- ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวสมเด็จพระบรมโอรสาธิราฃลาพระผนวช, เล่ม ๘, หน้า ๓๘๓
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมโองการ ประกาศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสวรรคต, เล่ม ๑๑, ตอน ๔๑, ๖ มกราคม ร.ศ. ๑๑๓, หน้า ๓๒๘
- ราชกิจจานุเบกษา, การสรงน้ำพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช และเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท, เล่ม ๑๑, ตอน ๔๒, ๑๓ มกราคม ร.ศ. ๑๑๓, หน้า ๓๓๔-๓๓๕
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเพลิงพระบุพโพ, เล่ม ๑๗, ตอน ๔๓, ๒๐ มกราคม ร.ศ. ๑๑๙, หน้า ๖๑๕-๖๑๗
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 140-141
- ชานันท์ ยอดหงษ์. "นายใน" สมัยรัชกาลที่ ๖. กรุงเทพฯ:มติชน. 2556, หน้า 246
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. "'พระอาทิตย์' กับ 'พระจันทร์' ของชาววัง". ใน วชิราวุธานุสรณ์สาร 14:4. 11 พฤศจิกายน 2537, หน้า 64-68
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 141
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 141-142
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 142
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 143
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 144
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 147
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 146
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 148
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 132
- จดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ, บันทึก ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2431
- จดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ, บันทึก ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2433
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ : โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 159
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์. เลาะวัง. กรุงเทพฯ:โชคชัยเทเวศร์, 2535. หน้า 160
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2012-10-20.
- "ประกาศจัดการทหาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งตำแหน่ง ผู้บัญชาการทั่วไป (คอมมานเดออินชิฟ) โดยให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช รับตำแหน่ง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. สืบค้นเมื่อ 03 พฤศจิกายน 2555.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "พระราชทานสัญญาบัตรทหาร" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. สืบค้นเมื่อ 03 พฤศจิกายน 2555.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธย สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าราชกุมารพระองค์ใหญ่ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ, เล่ม ๓, ตอน ๔๔, วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๙, หน้า ๓๖๘
- สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-23. สืบค้นเมื่อ 2020-01-25.
- "ข่าวราชการ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 3 (ตอน 35): หน้า 289. 28 พฤศจิกายน 2429. สืบค้นเมื่อ 31 กรกฎาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ตั้งตำแหน่งคณาธิบดีแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 10 (ตอน 17): 402. 10 ธันวาคม ร.ศ. 112.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 9, ตอน 14, 3 กรกฎาคม ร.ศ. 111, หน้า 86
- ราชกิจจานุเบกษา, ผู้แทนกงสุลเยเนอราลเดนมากเฝ้าทูลละอองธุลพระบาทถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม 8, ตอน 52, 27 มีนาคม ร.ศ. 110, หน้า 470
- ราชกิจจานุเบกษา, เสด็จออกแขกเมือง 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 9, ตอน 44, 29 มกราคม ร.ศ. 111, หน้า 388
- ราชกิจจานุเบกษา, เสด็จออกแขกเมืองที่เกาะสีชัง, เล่ม 8, ตอน 14, 5 กรกฎาคม ร.ศ. 110, หน้า 117
ก่อนหน้า | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) | สยามมกุฎราชกุมาร (พ.ศ. 2429 - 2437) | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rxyoth smedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis hrux smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar 27 mithunayn ph s 2421 4 mkrakhm ph s 2437 nbaebbpccubntrngkb ph s 2438 epnphrarachoxrsphraxngkhihyinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachsmphphaetsmedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyyikaeca smedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi epnphraosthrechsthainsmedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnk aelaepnsmedcphrapitulathibdiinphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthr aelaphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr nxkcakniphraxngkhnbepnphrapitulathirach khxngsmedcphraecaphkhiniethx ecafaephchrrtnrachsuda siriosphaphnnwdi enuxngcakphraxngkhnbepnphrarachthidaxngkhediywinphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw kbphranangecasuwthna phrawrrachethwi enuxngcaknbthrngepnphraxnuchathirachtangmardainsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar phraxngkhidrbkarsthapnakhunepnsyammkudrachkumarphraxngkhaerkkhxngpraethsithy aethlngcakdarngtaaehnngsyammkudrachkumaridephiyng 8 pi kesdcswrrkht khnamiphrachnmayu 16 phrrsasmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhissyammkudrachkumarsyammkudrachkumardarngphrays14 mkrakhm ph s 2430 4 mkrakhm ph s 2438 7 pi 355 wn rchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwkxnhnasthapnataaehnng krmphrarachwngbwrwichychay inthanakrmphrarachwngbwrsthanmngkhl thdipsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirawuth syammkudrachkumarphrarachsmphph27 mithunayn ph s 2421 phrabrmmharachwng xaephxphrankhr cnghwdphrankhr praethssyamswrrkht4 mkrakhm ph s 2438 16 pi phrabrmmharachwng xaephxphrankhr cnghwdphrankhr praethssyamrachwngsckriphrarachbidaphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwphrarachmardasmedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyyikaecalayphraxphiithyphrarachprawtiphrarachsmphph smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar epnphrarachoxrsphraxngkhihyinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thiphrarachsmphphaetsmedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi emuxwnphvhsbdi aerm 12 kha eduxn 7 pikhal smvththisk c s 1240 trngkbwnthi 27 mithunayn ph s 2421 edimthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngbxkphranamsmedcphraecalukyaethxphraxngkhihywa mhaxunhis aetdwythrngehnwaemuxekhiynepnphasaxngkvsaelwxaccaxanidwa xunhis hrux xnhis kid cungmiphrarachhtththungphrayaxsdangkhepliynphranamsmedcphraecalukyaethxphraxngkhihyesiyihmwa mhawchirunhis sungaeplwa mngkudephchrihy phraxngkhmiphraxnuchaaelaphrakhnistharwmphramarda idaek smedcecafaxisriyalngkrn smedcecafawicitrcirprapha smedcecafa krmkhunsrithrrmrachtharngvththi smedcecafa krmhlwngephchrburirachsirinthr smedcecafasiraphrnosphn aelasmedcecafa krmhlwngsngkhlankhrinthr txmakhux smedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnk syammkudrachkumar phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aelasmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar inphrarachphithiosknt thayodyhlwngxkhninvmitr citr citrakhni phayhlngkaresdcthiwngkhtkhxngkrmphrarachwngbwrwiichychay emux ph s 2428 kimmikarsthapnaphuidkhunepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlxik odyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrarachdariwa taaehnngkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlimehmaasmkbkalsmyaelaxacthaihchawtangpraethsekhaicsbsn aelamiphrarachdariwa phrarachxisriyys smedcphrabrmoxrsathirach sungeriykwa smedchnxphraphuththeca thiidtngkhuniwtngaetkhrngsmedcphraramathibdithi 1 epntaaehnngthisxdkhlxngtamaebbxyangkarsubsnttiwngskhxngphramhakstriyinnanaxarypraethsthimirachpraephniaetngtngphrarachoxrsphraxngkhihyepnmkudrachkumardarngtaaehnngrchthayath dwyehtuni phraxngkhcungthrngphrakrunaoprdekla ihtngphrarachphithimhaphiichymngkhllngsrngsnanechlimphraprmaphiithysthapnasmedcphraecalukyaethx ecafamhawchirunhis khunepn smedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar emuxwnthi 14 mkrakhm ph s 2429 nbaebbpccubntrngkb ph s 2430 miphranamtamcaruksuphrrnbtwa smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis xdiswrmhaculalngkrn bdinthrethphywrangkur brmmkudnernthrsuriykhttiysnttiwngs xukvsthphngsworphotsuchat thyylksnwilaswibulyswsdi siriwthnwisuththi syammkudrachkumar nbepnkhrngaerkinsmykrungrtnoksinthrthimitaaehnngsyammkudrachkumarepntaaehnngrchthayathaethntaaehnngphramhaxuprach krmphrarachwngbwrsthanmngkhl hruxwnghna sungepntaaehnngthimimatngaetsmykrungsrixyuthya inkarnismedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackridsngothrelkhmaxanwyphrsmedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumardwy oskntaelaphnwch emuxphraxngkhmiphrachnsakhrb 13 phrrsa phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihcdkarphrarachphithioskntxyangihy odyoprdihphraecanxngyaethx krmhmunprackssilpakhmepnxthibdidaeninkarsrangekhaikrlasbriewnsnamhyahnaphrathinngckrimhaprasath phrarachphithioskntcdkhunrahwangwnthi 18 25 mkrakhm ph s 2433 caknnidthrngphnwchepnsamenr emuxwnthi 10 knyayn ph s 2434 phraecabrmwngsethx krmphrapwerswriyalngkrn epnphraxupchchay phnwchaelwprathb n wdbwrniewsrachwrwihar cnthungwnthi 22 mkrakhm ph s 2434 cunglaphnwch swrrkht smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis prachwrdwyphraorkhikhraksadnxy esdcswrrkhtemuxwnsukr khun 9 kha eduxnyi pimaemiy chsk c s 1256 trngkbwnthi 4 mkrakhm ph s 2437 nbaebbpccubntrngkb ph s 2438 khnamiphrachnmayu 16 phrrsa 191 wn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwoprdihechiyphrabrmsphlngsuphrabrmoks pradisthanphrabrmsph n phrathinngdusitmhaprasath aelaihrachkariwthukkh 1 eduxn wnthi 10 mkrakhm ph s 2444 xyechiyphrabuphophcakphrathinngdusitmhaprasath khunphrarachyankng tngkrabwnaehipyngwdmhathatuyuwrachrngsvsdirachwrmhawihar pradisthanthaphrabuphophbnaewnfainsalathiprathb phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngthxdphakhawsdbpkrn 40 phb phrasngkhmiphraphimlthrrm thit xuthoy epnprathansdbpkrn aelwxyechiyphrabuphophipyngphraemrukhangsala phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcipcudephlingphrarachthan aelwphrabrmwngsanuwngsthwayphraephlingphrabuphophtamladb wnthi 22 mkrakhm xyechiyphrabrmsphodyphramhaphichyrachrthipyngphraemrumnthp wdbwrsthansuththawas thungwnthi 24 mkrakhm bay 3 omngess phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcungesdc mathxdphasdbpkrnaelaphrarachthanephlingphrabrmsphsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumarchiwitswnphraxngkhsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar emuxphraxngkhthrngecriyphrachnmayuekhasuwyhnum miphraochmngdngamepnsnga aelathrngdwyphrastipyyarxbru prakxbkbkarxbrmsngsxncakphrarachbidaxyangiklchid krannkthrngepnrachoxrsthisuksnoldophn hawhay aelaaekhngklaxyangedkphuchay khnathismedcecafamhawchirawuth txmakhux mkutrachkumarxngkhtxma phraxnuchatangphramarda klbmixupnisysuphaphxxnoyn oprdkarnngphbephiyberiybrxyechy thngsxngphraxngkhcungthukchawwngepriybethiybwathrngaetktangdng phraxathity kb phracnthr emuxkhrngnnphraxngkhmiphrahvthyphukphnkbsmedcphraecalukethx ecafasuththathiphyrtn sukhumkhttiyklyawdi phraphkhinitangphramardathimiphrachnsaaekkwaphraxngkhephiyng 10 eduxn ehtuthimiphrathysnithesnha subenuxngmacakkhwamiklchidemuxkhrngthrngrbichebuxngphrayukhlbathphrarachchnkdwykn emuxekidwikvtkarn r s 112 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrarachkicxnepnkhwamlbkhxngpraeths thrngmiiwwangphrathyphuidihthahnathiiklchidekiywkbkarni oprdeklaihaetecafathngsxngphraxngkhekhaefaiklchidtlxdewla dwykhwamphukphndngklaw smedcphrabrmoxrsthirach thrngaesdngkhwaminphrathyxxkmaepnskwathithrngniphnthinoxkasxyangidxyanghnungodymiphrarachchnkprathbxyudwy sungecanayaelachawwngaexbcatxknma khwamwa phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwaelasmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumarsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar smedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnk aelasmedcphrapiymawdi sriphchrinthrmata idylphktrlkkhnasudaphi cahaihnimmiesmxsxngesngiymngamthramsngwnnwllaxxng ichnnxngirkhuxyuexkathaxyuidkcaxyuepnkhuchun sarayrunrwmcitkhnisthacabnbwngsrwngethphethwa khxihsmprarthnakhraniexy aethlngcakehtukarn r s 112 phraxngkhkmieruxngihphrarachbidakngwlphrarachhvthy epnehtuihphrabrmchnknaththrngmilayphrarachhtthelkhasapaechngphuihythithaihphrarachoxrsphuni hlngthang aesdngihehnthungwaphrarachchnkthrngrkaelahwngiyphraxngkh sungcatxngepnesahlkinkarpkkhrxngpraethstxip eruxngrawekidkhunemuxsmedcphrabrm ipethiywnganphuekhathxngsungepnnganihy aelaidesdcxxkmaprathb n wngsrayrmy aelaphbpakbhmxmphuhnungthibankhxngphrayanrrtnrachmanit dwykhwamthithrngepnhwngphraoxrsthimiphrachnmayuyngnxy thngthrngekrngwacadaeninipinthangthiimkhwr phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcungidkachbaelasapaechngphrayaethewsr sungepnphraxphibalinmkudrachkumar enuxngdwythrngrngekiychmxmphunnthismedcphrabrmoxrsathirach thrngphbpadwy dngpraktinphrarachhtthelkhaidklawthunghmxmphuniwaiwwa praphvtitnlamktang yxmmapraktaekhuerahlaysibkhrng thngyngthrngaechngphrayanrrtnrachmanitthithaihsmedcphrabrm ecxkbhmxmphunnthibankhxngtn sungkarsapaechnginkhrngniwaimidepnkarsapsnghruxichphasahyabkhayaetprakarid aetepnkarthngkhxsapsngaelasrresriyinthathiediywkn hakphuthuk phudthung ehlannnathukeruxngthicaekidkhunmaxthibayihphraxngkhthrab aelathrngxthibayiwincdhmaytang thisngipthungkhnehlanndwywa thithaipkmixyakihpidbngkartang aekphraxngkh sungcaepnphlphwngditxphrarachoxrskhxngphraxngkhinbnplaynnexng aelathaythisudsmedcphrabrmoxrsathirach idthrngrbptiyantamkhasngkhxngphrarachbida eruxngphrarachwitkkhrngnicungcbsinlng xnungcullda phkdiphuminthr idxangwa tnchbbelxaeluxnthaihimthrabchuxhmxmphunn aetthrabephiyngwaepnhmxmhamkhxngecanayphraxngkhhnungkhwamsnphrathyphraxngkhsnphrathykarcdidxari sungidxarielmdngklawphraxngkhidrbphrarachthanmacakphrarachbidainwnkhlaywnprasutiemuxphrachnmayukhrb 5 chnsabriburn aelathrngerimbnthukthnthithiidrbphrarachthan oprd ihphraecabrmwngsethx krmhlwngsmrrtnsiriechth hruxthithrngeriykwapaosm epnphucdbnthuktamkhabxkelakhxngphraxngkh txmaemuxmiphrachnmayu 9 10 phrrsa cungthrngerimbnthukdwyphraxngkhexng nxkcakkarcdbnthukehtukarntang pracawnaelw phraxngkhyngthrngaetngokhlngiwhlaybth xathi okhlngwadwyrksungphraxngkhthrngaetngkhunephuxthwayphrabrmchnknathsahrblnghnngsuxwchiryan khwamwa rkikhrcarkaemn chnknarthrkbxyakcakhlad sknxyrkidcamixac ethiymetha thannarkyingmixackhlxy nirasaekhlwskwn nxkcakniphraxngkhthrngbnthukthungeruxngkaraetngnithanepnphasaxngkvsephuxiplnghnngsux Little Folks khxngpraethssingkhopraelathrngidrbrangwldwy inchwngthay khxngbnthuk emuxmiphrachnsaid 13 14 pi thrngbnthukepnphasaxngkvs sungthrngsuksacakkhrufrng aelathrngeriykphrabrmchnknathinidxariwa Papa aethlngcakwnphuththi 21 minakhm ph s 2436 thrngbnthukhlngcaknixiksamwn aetepnkhxkhwamsn hlngcaknnkmiidbnthukxairtxxik cnxiksibeduxntxmakesdcswrrkht smudcdbnthukraywnelmniidrbkartiphimphinchux cdhmayehturaywnkhxngsmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis odyphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrthrngphrakrunaoprdekla ihphimphphrarachthanepnthiralukinnganphrabrmsphsmedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyyikaecaphrarachkrniykicphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwaelasmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumarkhnaesdcxxkrbckrphrrdiniokhlsthi 2 thipraphassyam emuxpi ph s 2434 hlngcakthithrngidrbkarsthapnaepnsmedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumaraelw phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihphraxngkhesdcxxkrbaekhkemuxngaelarbdikakhxngrasdraethnphraxngkh rwmthngthrngphrakrunaoprdekla ihesdcepnphuaethnphraxngkhinngantang xyuesmx inswnkhxngrachkarthharnn phraxngkhidrbkaroprdekla ihdarngtaaehnngphubngkhbbychakarthwipinkrmthhar aetenuxngcakyngthrngphraeyawcungidoprdekla ihmitaaehnngphuwakaraethnphubngkhbbychakarthwipinkrmthharcnkwaphraxngkhcawakariddwyphraxngkhexng emuxphraxngkhmiphrachnmayuid 16 phrrsa phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla phrarachthansyyabtrthharodyihdarngphraysthinayrxyothphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng smedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumarthngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhkarthulitfalaxxngphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakha ephkhaphraxisriyys 27 mithunayn ph s 2421 13 mkrakhm ph s 2429 smedcphraecalukyaethx ecafamhawchirunhis 14 mkrakhm ph s 2429 4 mkrakhm ph s 2438 smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar 23 tulakhm ph s 2453 smedcphrabrmechsthathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar 10 krkdakhm ph s 2478 smedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhisekhruxngrachxisriyaphrn ph s 2425 ekhruxngkhttiyrachxisriyaphrnxnmiekiyrtikhunrungeruxngyingmhackribrmrachwngs m c k fayhna ph s 2429 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn n r fayhna ph s 2429 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayhna ph s 2436 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 1 prathmaphrnchangephuxk p ch khnathibdi ph s imprakt ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 1 prathmaphrnmngkudithy p m ekhruxngrachxisriyaphrntangpraeths frngess ph s 2435 ekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxr chnthi 1 ednmark ph s 2434 ekhruxngrachxisriyaphrnaednenxobr chnthi 1 rsesiy ph s 2435 eyxrmni ph s 2434 chnthi 1 xitali ph s imprakt chnthi 1smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumarrbichkxngthphbksyampracakarph s 2430 2437chnysnayrxyothhnwykrmthharmhadelkphraysthangthhar 22 phvsphakhm ph s 2430 phubngkhbbychakarthwipinkrmthhar 8 thnwakhm ph s 2436 nayrxyoth pracakxngthharrabmhadelkphrarachanusrnwngwindesxr epnwngthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwsrangkhunephuxphrarachthanepnsthanthiprathbkhxngsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar wdmhathatuyuwrachrngsvsdirachwrmhawihar phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwaelasmedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi thrngphrakrunaoprdekla phrarachthanphrarachthrphyswnphraxngkhkhxngsmedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar inkarburnawdmhathatu phrxmkbphrarachthanephimsrxynamwdwa yuwrachrngsvsdi ephuxepnbuynithiaeksmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar mhaculalngkrnrachwithyaly tukthawrwtthu phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihichphunthikutisngkhwdmhathatudanthistawnxxk sthapnaepntukthawrwtthuaethnxakharprakxbphraemru ephuxepnthiechiyphrabrmsphsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar mapradisthanbaephyphrarachkuslthksinathan emuxkarbaephykuslesrcaelw caidthrngphrarachthanxuthisthwaytukthawrwtthuniepnsngkhikesnasnsahrbmhathatuwithyaly aelaphrarachthanepliynnammhathatuwithyalyihmwamhaculalngkrnrachwithyaly epnthiechlimphraekiyrtiys aetkarsrangtukthawrwtthuimaelwesrccnsinrchkal phrathinngthrngthrrm wdebycmbphitrdusitwnaramsmedcphranangecaswangwthna oprdihsrangephuxxuthisthwayecafamhawchirunhis syammkudrachkumar emuxpiphuththskrach2445phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngmiphrarachprasngkhichepnthiprathbthrngsilinwnxuobsth tukwchirunhis orngphyabalculalngkrn xakharwchirunhis hrux xakhar 10 orngeriynhxwng aelaphrarupkhrungphraxngkh pradisthan n chn 2 khxngxakhar xakharmhawchirunhis khnawithyasastr culalngkrnmhawithyalyphngsawliphngsawlikhxngsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar 16 24 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 8 12 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 17 25 smedcphraxmrinthrabrmrachini 4 6 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 18 26 engin aestn 9 13 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 19 27 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 2 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw 20 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw 10 smedcphrabrmrachmatamhykaethx krmhmunmatyaphithks 21 ecacxmmardathrphy inrchkalthi 3 5 smedcphraethphsirinthrabrmrachini 22 busy 11 hmxmnxy siriwngs n xyuthya 23 aecm 1 smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar 24 16 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 12 8 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 25 17 smedcphraxmrinthrabrmrachini 6 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 26 18 engin aestn 13 9 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 27 19 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 3 smedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyyikaeca 14 hlwngxasasaaedng aetng 7 smedcphrapiymawdi sriphchrinthrmata 15 thawsucrittharng nakh xangxingrachkiccanuebksa prakasechlimphraprmaphiithy sthapnasmedcphraecalukethx ecafarachkumarphraxngkhihy epn smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis 2012 06 09 thi ewyaebkaemchchin elm 3 txn 44 wnthi 1 minakhm ph s 2429 hna 368 rachkiccanuebksa prakasechlimphraprmaphiithy sthapnasmedcphraecalukethx ecafarachkumarphraxngkhihy epn smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis 2012 06 09 thi ewyaebkaemchchin elm 3 txn 44 wnthi 1 minakhm ph s 2429 hna 368 cdhmayehturaywnkhxngsmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis bnthuk n wnthi 15 mkrakhm ph s 2429 rachkiccanuebksa karthrngphnwch smedcphrabrmoxrsathirach syammkutrachkumarepnsamenr elm 8 hna 223 rachkiccanuebksa khawsmedcphrabrmoxrsathirakhlaphraphnwch elm 8 hna 383 rachkiccanuebksa phrabrmoxngkar prakas smedcphrabrmoxrsathirachswrrkht elm 11 txn 41 6 mkrakhm r s 113 hna 328 rachkiccanuebksa karsrngnaphrabrmsphsmedcphrabrmoxrsathirach aelaechiyippradisthaniw n phrathinngdusitmhaprasath elm 11 txn 42 13 mkrakhm r s 113 hna 334 335 rachkiccanuebksa phrarachthanephlingphrabuphoph elm 17 txn 43 20 mkrakhm r s 119 hna 615 617 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 140 141 channth yxdhngs nayin smyrchkalthi 6 krungethph mtichn 2556 hna 246 cullda phkdiphuminthr phraxathity kb phracnthr khxngchawwng in wchirawuthanusrnsar 14 4 11 phvscikayn 2537 hna 64 68 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 141 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 141 142 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 142 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 143 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 144 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 147 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 146 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 148 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 132 cdhmayehturaywnkhxngsmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis bnthuk n wnthi 25 tulakhm ph s 2431 cdhmayehturaywnkhxngsmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis bnthuk n wnthi 20 mkrakhm ph s 2433 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 159 cullda phkdiphuminthr elaawng krungethph ochkhchyethewsr 2535 hna 160 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 29 subkhnemux 2012 10 20 prakascdkarthhar thrngphrakrunaoprdekla ihtngtaaehnng phubychakarthwip khxmmanedxxinchif odyihsmedcphrabrmoxrsathirach rbtaaehnng PDF rachkiccanuebksa subkhnemux 03 phvscikayn 2555 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachthansyyabtrthhar PDF rachkiccanuebksa subkhnemux 03 phvscikayn 2555 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help rachkiccanuebksa prakasechlimphraprmaphiithy sthapnasmedcphraecalukethx ecafarachkumarphraxngkhihy epn smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis elm 3 txn 44 wnthi 1 minakhm ph s 2429 hna 368 smedcphrabrmechsthathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 01 23 subkhnemux 2020 01 25 khawrachkar PDF rachkiccanuebksa elm 3 txn 35 hna 289 28 phvscikayn 2429 subkhnemux 31 krkdakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help tngtaaehnngkhnathibdiaehngekhruxngrachxisriyaphrn PDF rachkiccanuebksa elm 10 txn 17 402 10 thnwakhm r s 112 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin date help rachkiccanuebksa phrarachthanphrabrmrachanuyatekhruxngrachxisriyaphrntangpraeths elm 9 txn 14 3 krkdakhm r s 111 hna 86 rachkiccanuebksa phuaethnkngsuleyenxralednmakefathullaxxngthulphrabaththwayekhruxngrachxisriyaphrn elm 8 txn 52 27 minakhm r s 110 hna 470 rachkiccanuebksa esdcxxkaekhkemuxng 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin elm 9 txn 44 29 mkrakhm r s 111 hna 388 rachkiccanuebksa esdcxxkaekhkemuxngthiekaasichng elm 8 txn 14 5 krkdakhm r s 110 hna 117 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar wikisxrs mingantnchbbekiywkb khaprakasechlimphraprmaphiithy smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar kxnhna smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar thdipkrmphrarachwngbwrwiichychay krmphrarachwngbwrsthanmngkhl syammkudrachkumar ph s 2429 2437 smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirawuth syammkudrachkumar