สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี (9 มีนาคม พ.ศ. 2281 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2369) พระนามเดิม นาค เป็นอรรคชายาเดิมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นสมเด็จพระพันปีหลวงในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชปัยยิกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี | |
---|---|
สมเด็จพระพันปีหลวง | |
ดำรงพระยศ | 3 กันยายน พ.ศ. 2353 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 |
ก่อนหน้า | กรมพระเทพามาตย์ (นกเอี้ยง) |
ถัดไป | กรมพระศรีสุลาลัย |
พระราชสมภพ | 9 มีนาคม พ.ศ. 2281 บ้านอัมพวา เมืองสมุทรสงคราม อาณาจักรอยุธยา |
สวรรคต | 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 (88 พรรษา) พระราชวังหลวง กรุงเทพพระมหานคร อาณาจักรรัตนโกสินทร์ |
ถวายพระเพลิง | 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2371 พระเมรุมาศ ทุ่งพระเมรุ |
บรรจุพระบรมอัฐิ | หอพระธาตุมณเฑียร |
คู่อภิเษก | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
พระราชบุตร | |
ราชสกุล | ณ บางช้าง (โดยพระราชสมภพ) |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระราชบิดา | ทอง ณ บางช้าง |
พระราชมารดา | สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี |
ศาสนา | เถรวาท |
พระราชประวัติ
ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี มีพระนามเดิมว่า นาค เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ แรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง นพศก จ.ศ. 1099 ตรงกับวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2281 ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งอาณาจักรอยุธยา เป็นพระธิดาของพระชนกทอง ณ บางช้าง และสมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี (พระนามเดิม สั้น หรือมาก) เป็นคหบดีเชื้อสายมอญทั้งสองเป็นญาติใกล้ชิดกัน
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี มีพระภราดาพระภคินีร่วมพระชนกพระชนนีทั้งสิ้น 10 คน โดยทุกคนล้วนได้รับพระราชทานยศเป็น "เจ้าคุณ" ได้แก่
- เจ้าคุณหญิงแวน (บางแห่งว่าแว่น)
- เจ้าคุณหญิงทองอยู่ (เรียกกันว่าเจ้าคุณผู้ใหญ่) สมรสกับขุนทอง ราชินิกุลบางช้าง มีบุตร 2 คน คือ
- เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (สังข์)
- เจ้าจอมหงส์ ในรัชกาลที่ 1
- เจ้าคุณชายชูโต เป็นต้นราชินิกุลชูโต สมรสกับคุณทองดี มีบุตร 1 คน คือ
- คุณหญิงม่วง สมรสกับพระยาสมบัติบาล (เสือ) มีบุตร 6 คน คือ
- ท่านผู้หญิงน้อย สมรสกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค)
- คุณหญิงเพ็ง ชูโต
- เจ้าพระยาพลเทพ (เอี่ยม ชูโต)
- คุณหญิงหว้า ชูโต
- เจ้าพระยาสุรเสนา (สวัสดิ์ ชูโต)
- พระยาสมบัติยาธิบาล (นาค ชูโต)
- คุณหญิงม่วง สมรสกับพระยาสมบัติบาล (เสือ) มีบุตร 6 คน คือ
- สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี อภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
- เจ้าคุณชายแตง
- เจ้าคุณหญิงชีโพ มีบุตรคนเดียว คือ
- หงส์ (ถูกชาวพม่าจับไปเป็นเชลย)
- เจ้าคุณชายพู
- เจ้าคุณหญิงเสม
- เจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล (เรียกกันว่าเจ้าคุณโต) สมรสกับเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) เป็นต้นราชินิกุลบุนนาค
- เจ้าคุณหญิงแก้ว สมรสกับพระยาสมุทรสงคราม (ศร) เป็นต้นลราชินิกุล ณ บางช้าง
ร่วมพระชนกต่างพระชนนี คือ เจ้าจอมมารดามา สมรสกับสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
พระราชนิพนธ์ "" ระบุว่า คุณนาคมีสิริโฉมงดงามเป็นที่ร่ำลือ เมื่อข้าหลวงสอดแนมของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์กราบบังคมทูลทรงทราบ จึงรับสั่งให้กรมมหาดไทยออกท้องตราสู่ขอมาเป็นนางใน แต่พระชนกพระชนนีและพระประยูรญาติไม่สมัครใจ จึงขอให้สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกซึ่งขณะนั้นดูแลการออกท้องตราในกรมมหาดไทยช่วยป้องกันแก้ไข สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกจึงขอให้ข้าหลวงช่วยกราบบังคมทูลว่าตนได้สู่ขอนาคให้บุตรชายที่สี่ซึ่งเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ได้นัดหมายวันวิวาห์แล้ว เมื่อทรงทราบก็พระราชทานพระอนุญาต หลวงยกกระบัตรจึงได้คุณนาคมาเป็นภริยาในครั้งนั้น
หลังเสียกรุงศรีอยุธยาและในสมัยกรุงธนบุรี
เมื่อพ.ศ. 2310 พม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก หลวงยกกระบัตรจึงตัดสินใจอพยพครอบครัวเข้าไปอยู่ในป่าลึก ในระหว่างนี้แก้ว (ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์) พี่สาวของหลวงยกกระบัตรได้ให้กำเนิดธิดานามว่าบุญรอด (ต่อมาคือสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี) ครั้นพระยาวชิรปราการ (ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) ได้รวบรวมกำลังขับไล่พม่าออกไปหมดแล้ว ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ หลวงยกกระบัตรจึงได้อพยพครอบครัวกลับภูมิลำเนาเดิม ในช่วงนี้เองนาคได้ให้กำเนิดบุตรคนที่สี่ชื่อฉิม (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) หลังจากนั้นหลวงยกกระบัตรกลับเข้ารับราชการอยู่กับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์ต่อมาจนเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกในเวลาต่อมา
ในสมัยกรุงธนบุรี เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้รับสตรีชาวเวียงจันทน์ชื่อแว่น (ต่อมาคือเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1) มาเป็นอนุภรรยา ท่านผู้หญิงไม่พอใจอย่างยิ่ง จึงใช้ดุ้นแสมตีศีรษะนางแว่น เจ้าพระยาทราบก็โกรธมาก ทั้งสองจึงได้แยกกันอยู่นับแต่นั้น
ในรัชกาลที่ 1
เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกและสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น ท่านผู้หญิงนาคก็ไม่เคยเข้ามาอาศัยอยู่ในพระบรมมหาราชวังเลย แต่อาศัยอยู่ที่พระราชวังเดิมกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระราชโอรส และจะมาเยี่ยมพระราชธิดาในพระบรมมหาราชวังแต่เพียงครั้งคราวเท่านั้น ซึ่งจะออกจากวังก่อนประตูปิดทุกครั้งไป ทั้งนี้เธอไม่ยอมใช้ราชาศัพท์กับสามีหรือพระราชโอรสกับพระราชธิดาแต่อย่างใด แต่เรียกสามีว่าเจ้าคุณ เรียกพระราชโอรสว่า พ่อ และเรียกพระราชธิดาว่า แม่ โดยเธอยินดีที่จะใช้ภาษาสามัญ ส่วนพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็มิได้สถาปนาท่านผู้หญิงนาคขึ้นเป็นเจ้าแต่อย่างใด ดังใน "ธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระบุว่า
...ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ เป็นท่านผู้หญิงเดิม มีพระราชโอรส พระราชธิดาเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมใหญ่ ถึง ๔ พระองค์ ก็ไม่เห็นท่านยกย่องตั้งแต่งอย่างไร แต่คนทั้งปวงเข้าใจว่า ท่านเป็นพระมารดาของเจ้าฟ้า ก็นับถือว่าเป็นพระมเหสี...
สมเด็จพระพันปีหลวงในรัชกาลที่ 2
ถึงปีมะเมีย วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2353 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นสมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์ เทียบกับกรมพระเทพามาตย์ตามโบราณราชประเพณีเก่าตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
ในช่วงปลายรัชกาลที่ 2 พระองค์ได้ทรงย้ายจากพระนิวาสสถานเดิมริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เข้ามาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง
สวรรคต
สมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์ เสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดี แรม 5 ค่ำ เดือน 6 อัฐศก จ.ศ. 1188 ตรงกับวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชนัดดา สิริพระชนมายุ 89 พรรษา พระบรมศพประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ และโปรดให้สร้างพระเมรุมาศขนาดใหญ่ขึ้น ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2371 จึงถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง แล้วนำพระบรมอัฐิไปประดิษฐาน ณ หอพระธาตุมณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระนามาภิไธยว่ากรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระนามาภิไธยใหม่เป็น สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
พระราชกรณียกิจ
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีทรงสร้างวัดอัมพวันเจติยาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ขึ้นในบริเวณนิวาสสถานเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศถวายแด่พระชนนี (สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี) ไว้ที่องค์พระปรางค์ด้วย
พระราชบุตร
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีทรงอภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังเป็นหลวงยกบัตรเมืองราชบุรี ประมาณ พ.ศ. 2301 - พ.ศ. 2304 มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งสิ้น 9 พระองค์ ได้แก่
ลำดับ | พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | พระชันษา | พระโอรส-ธิดา |
---|---|---|---|---|---|
1. | เจ้าฟ้าหญิง (ไม่ปรากฏพระนาม) | ไม่มีข้อมูล | สิ้นพระชนม์แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา | - | |
2. | เจ้าฟ้าชาย (ไม่ปรากฏพระนาม) | ไม่มีข้อมูล | สิ้นพระชนม์แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา | - | |
3. | เจ้าฟ้าหญิงฉิมใหญ่ (พระสนมในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) | ไม่มีข้อมูล | 29 กันยายน พ.ศ. 2322 | ไม่มีข้อมูล | หม่อมเหม็น (พระนามเดิม สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต) |
4. | เจ้าฟ้าชายฉิม (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 | 57 พรรษา | 73 พระองค์ (พระราชสันตติวงศ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) |
5. | เจ้าฟ้าหญิงแจ่ม (กรมหลวงศรีสุนทรเทพ) | พ.ศ. 2313 | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2351 | 38 พรรษา | - |
6. | เจ้าฟ้าหญิง (ไม่ปรากฏพระนาม) | ไม่มีข้อมูล | สิ้นพระชนม์แต่ครั้งกรุงธนบุรี | - | |
7. | เจ้าฟ้าชายจุ้ย (สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์) | 29 มีนาคม พ.ศ. 2315 | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2360 | 45 พรรษา | 40 พระองค์ ((ราชสกุลวงศ์ในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์)) |
8. | เจ้าฟ้าหญิง (ไม่ปรากฏพระนาม) | ไม่มีข้อมูล | สิ้นพระชนม์แต่ครั้งกรุงธนบุรี | - | |
9. | เจ้าฟ้าหญิงประไพวดี (กรมหลวงเทพยวดี) | 14 มกราคม พ.ศ. 2320 | 23 สิงหาคม พ.ศ. 2366 | 46 พรรษา | - |
พระอิสริยยศ
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
- นาค (9 มีนาคม พ.ศ. 2280 - 3 กันยายน พ.ศ. 2353)
- กรมพระอมรินทรามาตย์ (3 กันยายน พ.ศ. 2353 - รัชกาลที่ 4)
หลังสวรรคต
- กรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ (รัชกาลที่ 4 - รัชกาลที่ 5)
- สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี (รัชกาลที่ 6 - ปัจจุบัน)
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
มีนักแสดงผู้รับบท สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ได้แก่
- สาวิกา ไชยเดช จากละครเรื่อง ศรีอโยธยา 2 (2562)
พงศาวลี
พงศาวลีของสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ปฐมวงศ์, หน้า 8
- โครงกระดูกในตู้
- ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์ และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544. 490 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์ (หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ มหาวรรณ). เวียงวัง เล่ม ๑. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์เพื่อนดี บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551. 300 หน้า. หน้า หน้าที่ 60. ISBN
- ปฐมวงศ์, หน้า 7-8
- ลูกแก้วเมียขวัญ, หน้า 138
- ลูกแก้วเมียขวัญ, หน้า 138-139
- ธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒:๑๙-เรื่องสถาปนากรมสมเด็จพระพันปีหลวง
- ราชสกุลวงศ์, หน้า 209
- พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๓ : ๒๐. สมเด็จพระอมรินทรามาตย์สวรรคต
- พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๓ :๔๑. งานพระบรมศพสมเด็จพระอมรินทรามาตย์
- ราชสกุลวงศ์, หน้า 11 (เชิงอรรถ)
- ราชสกุลวงศ์, หน้า 9-11
- ลำดับราชินิกูลบางช้าง. พระนคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวพร. 2501.
- พงษาวดารราชินิกูลบางช้าง (PDF). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย สพานยศเส. 2457.
- บรรณานุกรม
- คึกฤทธิ์ ปราโมช, ม.ร.ว.. โครงกระดูกในตู้. กรุงเทพฯ : สยามรัฐ, พิมพ์ครั้งที่ 8 พ.ศ. 2547. 109 หน้า. ISBN
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์ (หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ มหาวรรณ). เวียงวัง เล่ม ๑. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์เพื่อนดี บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551. 300 หน้า. หน้า หน้าที่ 256. ISBN
- พระบาทสมเด้จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปฐมวงศ์. [ม.ป.ท.] : โรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทย, 2470. 57 หน้า.
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 68. ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- ตำนานการสร้างวัดอัมพวันเจติยาราม 2008-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก เครือข่ายกาญจนาภิเษก
ก่อนหน้า | สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
กรมพระเทพามาตย์ (นกเอี้ยง) (กรุงธนบุรี) | สมเด็จพระพันปีหลวง (3 กันยายน พ.ศ. 2353 - 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367) | สมเด็จพระศรีสุลาลัย | ||
พระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี | กุลเชษฐ์ในราชวงศ์จักรี (3 กันยายน พ.ศ. 2353 – 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2369) | พระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphraxmrinthrabrmrachini 9 minakhm ph s 2281 25 phvsphakhm ph s 2369 phranamedim nakh epnxrrkhchayaediminphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach aelaepnsmedcphraphnpihlwnginphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly epnsmedcphraxyyikaecainphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw aelaphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw epnphrarachpyyikainphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwsmedcphraxmrinthrabrmrachinismedcphraphnpihlwngdarngphrays3 knyayn ph s 2353 25 phvsphakhm ph s 2369kxnhnakrmphraethphamaty nkexiyng thdipkrmphrasrisulalyphrarachsmphph9 minakhm ph s 2281 banxmphwa emuxngsmuthrsngkhram xanackrxyuthyaswrrkht25 phvsphakhm ph s 2369 88 phrrsa phrarachwnghlwng krungethphphramhankhr xanackrrtnoksinthrthwayphraephling2 phvsphakhm ph s 2371 phraemrumas thungphraemrubrrcuphrabrmxthihxphrathatumnethiyrkhuxphieskphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachphrarachbutrsmedcphraecabrmwngsethx ecafachimihyphrabathsmedcphraphuththelishlanphalysmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmhlwngsrisunthrethphsmedcphrabwrrachecamhaesnanurkssmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmhlwngethphywdirachskuln bangchang odyphrarachsmphph rachwngsckriphrarachbidathxng n bangchangphrarachmardasmedcphrarupsiriosphakhymhanakhnarisasnaethrwathphrarachprawtikxnesiykrungsrixyuthya smedcphraxmrinthrabrmrachini miphranamedimwa nakh esdcphrarachsmphphemuxwnxathity aerm 5 kha eduxn 4 pimaesng nphsk c s 1099 trngkbwnthi 9 minakhm ph s 2281 inrchsmykhxngsmedcphraecaxyuhwbrmoksaehngxanackrxyuthya epnphrathidakhxngphrachnkthxng n bangchang aelasmedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari phranamedim sn hruxmak epnkhhbdiechuxsaymxythngsxngepnyatiiklchidkn smedcphraxmrinthrabrmrachini miphraphradaphraphkhinirwmphrachnkphrachnnithngsin 10 khn odythukkhnlwnidrbphrarachthanysepn ecakhun idaek ecakhunhyingaewn bangaehngwaaewn ecakhunhyingthxngxyu eriykknwaecakhunphuihy smrskbkhunthxng rachinikulbangchang mibutr 2 khn khux ecaphrayaxrrkhmhaesna sngkh ecacxmhngs inrchkalthi 1 ecakhunchaychuot epntnrachinikulchuot smrskbkhunthxngdi mibutr 1 khn khux khunhyingmwng smrskbphrayasmbtibal esux mibutr 6 khn khux thanphuhyingnxy smrskbsmedcecaphrayabrmmhaphiichyyati tht bunnakh khunhyingephng chuot ecaphrayaphlethph exiym chuot khunhyinghwa chuot ecaphrayasuresna swsdi chuot phrayasmbtiyathibal nakh chuot smedcphraxmrinthrabrmrachini xphiesksmrskbphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 ecakhunchayaetng ecakhunhyingchioph mibutrkhnediyw khux hngs thukchawphmacbipepnechly ecakhunchayphu ecakhunhyingesm ecakhunphrarachphnthunwl eriykknwaecakhunot smrskbecaphrayaxrrkhmhaesna bunnakh epntnrachinikulbunnakh ecakhunhyingaekw smrskbphrayasmuthrsngkhram sr epntnlrachinikul n bangchang rwmphrachnktangphrachnni khux ecacxmmardama smrskbsmedcphrapthmbrmmhachnk phrarachniphnth rabuwa khunnakhmisiriochmngdngamepnthiralux emuxkhahlwngsxdaenmkhxngsmedcphrathinngsuriyasnxmrinthrkrabbngkhmthulthrngthrab cungrbsngihkrmmhadithyxxkthxngtrasukhxmaepnnangin aetphrachnkphrachnniaelaphraprayuryatiimsmkhric cungkhxihsmedcphrapthmbrmmhachnksungkhnannduaelkarxxkthxngtrainkrmmhadithychwypxngknaekikh smedcphrapthmbrmmhachnkcungkhxihkhahlwngchwykrabbngkhmthulwatnidsukhxnakhihbutrchaythisisungepnhlwngykkrabtremuxngrachburi idndhmaywnwiwahaelw emuxthrngthrabkphrarachthanphraxnuyat hlwngykkrabtrcungidkhunnakhmaepnphriyainkhrngnn hlngesiykrungsrixyuthyaaelainsmykrungthnburi smedcphrabrmrachiniaehng rachwngsckrismedcphraxmrinthrabrmrachinismedcphrasrisurieynthrabrmrachinismedcphraethphsirinthrabrmrachinismedcphrasriphchrinthrabrmrachininathsmedcphranangecaxinthrskdiscismedcphranangecaraiphphrrnismedcphranangecasirikitismedcphranangecasuthidadkhk emuxph s 2310 phmatikrungsrixyuthyaaetk hlwngykkrabtrcungtdsinicxphyphkhrxbkhrwekhaipxyuinpaluk inrahwangniaekw txmakhuxsmedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks phisawkhxnghlwngykkrabtridihkaenidthidanamwabuyrxd txmakhuxsmedcphrasrisurieynthrabrmrachini khrnphrayawchirprakar txmakhuxsmedcphraecakrungthnburi idrwbrwmkalngkhbilphmaxxkiphmdaelw idprabdaphieskepnphramhakstriy hlwngykkrabtrcungidxphyphkhrxbkhrwklbphumilaenaedim inchwngniexngnakhidihkaenidbutrkhnthisichuxchim txmakhuxphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly hlngcaknnhlwngykkrabtrklbekharbrachkarxyukbsmedcphraecakrungthnburi idrbphrarachthaneluxnbrrdaskditxmacnepnecaphrayamhakstriysukinewlatxma insmykrungthnburi ecaphrayamhakstriysukidrbstrichawewiyngcnthnchuxaewn txmakhuxecacxmaewn inrchkalthi 1 maepnxnuphrrya thanphuhyingimphxicxyangying cungichdunaesmtisirsanangaewn ecaphrayathrabkokrthmak thngsxngcungidaeykknxyunbaetnn inrchkalthi 1 emuxsmedcecaphrayamhakstriysukidprabdaphieskaelasthapnakrungrtnoksinthrkhun thanphuhyingnakhkimekhyekhamaxasyxyuinphrabrmmharachwngely aetxasyxyuthiphrarachwngedimkbsmedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthr phrarachoxrs aelacamaeyiymphrarachthidainphrabrmmharachwngaetephiyngkhrngkhrawethann sungcaxxkcakwngkxnpratupidthukkhrngip thngniethximyxmichrachasphthkbsamihruxphrarachoxrskbphrarachthidaaetxyangid aeteriyksamiwaecakhun eriykphrarachoxrswa phx aelaeriykphrarachthidawa aem odyethxyindithicaichphasasamy swnphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachkmiidsthapnathanphuhyingnakhkhunepnecaaetxyangid dngin thrrmeniymrachtrakulinkrungsyam phrarachniphnthinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rabuwa inaephndinphrabathsmedcphraphuthth yxdfaculaolk smedcphraxmrinthramaty epnthanphuhyingedim miphrarachoxrs phrarachthidaepnecafatangkrmihy thung 4 phraxngkh kimehnthanykyxngtngaetngxyangir aetkhnthngpwngekhaicwa thanepnphramardakhxngecafa knbthuxwaepnphramehsi smedcphraphnpihlwnginrchkalthi 2 thungpimaemiy wncnthrthi 1 tulakhm ph s 2353 phrabathsmedcphraphuththelishlanphalythrngsthapnaphraekiyrtiyssmedcphrabrmrachchnniphnpihlwngepnsmedckrmphraxmrinthramaty ethiybkbkrmphraethphamatytamobranrachpraephniekatngaetkhrngkrungsrixyuthya inchwngplayrchkalthi 2 phraxngkhidthrngyaycakphraniwassthanedimrimaemnaecaphrayafngthnburi ekhamaxyuinphrabrmmharachwng swrrkht smedckrmphraxmrinthramaty esdcswrrkhtemuxwnphvhsbdi aerm 5 kha eduxn 6 xthsk c s 1188 trngkbwnthi 25 phvsphakhm ph s 2369 inaephndinphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw phrarachndda siriphrachnmayu 89 phrrsa phrabrmsphpradisthan n phrathinngdusitmhaprasath phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwphrarachthanphraoksthxngihythrngphrabrmsph aelaoprdihsrangphraemrumaskhnadihykhun thungwnthi 2 phvsphakhm ph s 2371 cungthwayphraephlingphrabrmsph n phraemrumas thxngsnamhlwng aelwnaphrabrmxthiippradisthan n hxphrathatumnethiyr inphrabrmmharachwng txmaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngechlimphranamaphiithywakrmsmedcphraxmrinthramaty aelaphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthrngechlimphranamaphiithyihmepn smedcphraxmrinthrabrmrachiniphrarachkrniykicphraprangkhkhxngwdxmphwnectiyaram niwassthanedimkhxngphraxngkh smedcphraxmrinthrabrmrachinithrngsrangwdxmphwnectiyaram cnghwdsmuthrsngkhram khuninbriewnniwassthanedimkhxngphraxngkhephuxxuthisthwayaedphrachnni smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari iwthixngkhphraprangkhdwyphrarachbutrsmedcphraxmrinthrabrmrachinithrngxphiesksmrskbphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach emuxkhrngyngepnhlwngykbtremuxngrachburi praman ph s 2301 ph s 2304 miphrarachoxrsaelaphrarachthidarwmthngsin 9 phraxngkh idaek ladb phranam prasuti sinphrachnm phrachnsa phraoxrs thida1 ecafahying impraktphranam immikhxmul sinphrachnmaetkhrngkrungsrixyuthya 2 ecafachay impraktphranam immikhxmul sinphrachnmaetkhrngkrungsrixyuthya 3 ecafahyingchimihy phrasnminsmedcphraecakrungthnburi immikhxmul 29 knyayn ph s 2322 immikhxmul hmxmehmn phranamedim smedc ecafakrmkhunkstranuchit 4 ecafachaychim phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 24 kumphaphnth ph s 2311 21 krkdakhm ph s 2367 57 phrrsa 73 phraxngkh phrarachsnttiwngsinphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 5 ecafahyingaecm krmhlwngsrisunthrethph ph s 2313 7 singhakhm ph s 2351 38 phrrsa 6 ecafahying impraktphranam immikhxmul sinphrachnmaetkhrngkrungthnburi 7 ecafachaycuy smedcphrabwrrachecamhaesnanurks 29 minakhm ph s 2315 16 krkdakhm ph s 2360 45 phrrsa 40 phraxngkh rachskulwngsinsmedcphrabwrrachecamhaesnanurks 8 ecafahying impraktphranam immikhxmul sinphrachnmaetkhrngkrungthnburi 9 ecafahyingpraiphwdi krmhlwngethphywdi 14 mkrakhm ph s 2320 23 singhakhm ph s 2366 46 phrrsa phraxisriyysthrrmeniymphrayskhxng smedcphraxmrinthrabrmrachinikarthulitfalaxxngphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakha ephkhanakh 9 minakhm ph s 2280 3 knyayn ph s 2353 krmphraxmrinthramaty 3 knyayn ph s 2353 rchkalthi 4 hlngswrrkht krmsmedcphraxmrinthramaty rchkalthi 4 rchkalthi 5 smedcphraxmrinthrabrmrachini rchkalthi 6 pccubn inwthnthrrmsmyniymminkaesdngphurbbth smedcphraxmrinthrabrmrachini idaek sawika ichyedch caklakhreruxng srixoythya 2 2562 phngsawliphngsawlikhxngsmedcphraxmrinthrabrmrachini 4 phr 64 2 thxng 10 pakhawphlay 63 5 chi 63 10 1 smedcphraxmrinthrabrmrachini 3 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 14 aesn 63 7 thi 63 100 xangxingechingxrrthpthmwngs hna 8 okhrngkradukintu tharngskdi xayuwthna rachskulckriwngs aelarachskulsmedcphraecataksinmharach krungethph sankphimphbrrnkic phimphkhrngthi 3 ph s 2544 490 hna hna hnathi ISBN 974 222 648 2 cullda phkdiphuminthr hmxmhlwngsrifa ldawly mhawrrn ewiyngwng elm 1 krungethph sankphimphephuxndi bristh xksrosphn cakd phimphkhrngthi 2 minakhm 2551 300 hna hna hnathi 60 ISBN 978 974 253 061 7 pthmwngs hna 7 8 lukaekwemiykhwy hna 138 lukaekwemiykhwy hna 138 139 thrrmeniymrachtrakulinkrungsyam phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 19 eruxngsthapnakrmsmedcphraphnpihlwng rachskulwngs hna 209 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 3 20 smedcphraxmrinthramatyswrrkht phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 3 41 nganphrabrmsphsmedcphraxmrinthramaty rachskulwngs hna 11 echingxrrth rachskulwngs hna 9 11 ladbrachinikulbangchang phrankhr hanghunswncakd siwphr 2501 phngsawdarrachinikulbangchang PDF krungethph orngphimphithy sphanyses 2457 brrnanukrmkhukvththi praomch m r w okhrngkradukintu krungethph syamrth phimphkhrngthi 8 ph s 2547 109 hna ISBN 974 690 131 1 cullda phkdiphuminthr hmxmhlwngsrifa ldawly mhawrrn ewiyngwng elm 1 krungethph sankphimphephuxndi bristh xksrosphn cakd phimphkhrngthi 2 minakhm 2551 300 hna hna hnathi 256 ISBN 978 974 253 061 7 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw pthmwngs m p th orngphimphhnngsuxphimphithy 2470 57 hna sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr rachskulwngs krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 296 hna hna 68 ISBN 978 974 417 594 6aehlngkhxmulxuntanankarsrangwdxmphwnectiyaram 2008 10 04 thi ewyaebkaemchchin cak ekhruxkhaykaycnaphieskkxnhna smedcphraxmrinthrabrmrachini thdipkrmphraethphamaty nkexiyng krungthnburi smedcphraphnpihlwng 3 knyayn ph s 2353 21 krkdakhm ph s 2367 smedcphrasrisulalyphraecaipyikaethx krmhlwngnrinthrethwi kulechsthinrachwngsckri 3 knyayn ph s 2353 25 phvsphakhm ph s 2369 phraecaipyikaethx krmhlwngnrinthrethwi