บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
กระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำที่เป็นราชประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ โดยมีหลักฐานชัดเจนตั้งแต่สมัยอยุธยา และในสมัยรัตนโกสินทร์ จะเคลื่อนขบวนตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก เรือในกระบวนมีการสลักโขนเรือเป็นรูปสัตว์ในเทพนิยาย มีการจัดกระบวนหลายแบบ ที่รู้จักกันดีก็คือ "กระบวนพยุหยาตราเพชรพวง" ดังปรากฏใน ลิลิตพรรณนากระบวนเรือ ประพันธ์โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เมื่อ พ.ศ. 2330 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยยึดถือตามแบบแผนเดิมสมัยอยุธยา
ประเภทของการเห่เรือ สามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ การเห่เรือหลวง (การเห่เรือในงานพระราชพิธี) และการเห่เรือเล่น (การเห่เรือเล่นของชาวบ้านในงานต่าง ๆ) ในปัจจุบันการเห่เรือยังคงอยู่เฉพาะ การเห่เรือหลวง ที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
ประวัติ
สมัยเริ่มแรกของกระบวนเรือ
การเสด็จทางน้ำที่เรียกว่า กระบวนพยุหยาตราชลมารค นั้นมีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ปรากฏไว้ว่า พระร่วงเจ้า (พระมหาธรรมราชาที่ 1) ทรงใช้เรือออกลอยกระทง หรือ ณ กลางสระน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามคืนเพ็ญเดือนสิบสอง (วันลอยกระทง)
ในยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนเรศวรเมื่อคราวเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ เสด็จพระราชดำเนินจากกรุงศรีอยุธยาโดยชลมารค พอได้เวลาฤกษ์ พระโหราราชครูอธิบดีศรีทิชาจารย์ ก็ลั่นกลองฆ้องชัยให้พายเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ อันเป็นเรือทรงพระพุทธปฏิมากรทองนพคุณ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวายพระนามสมญา “พระพิชัย” นำกระบวนออกไปก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล
ครั้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งตัวเกาะกรุงนั้นเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำลำคลองชีวิตผูกพันกับสายน้ำ จึงปรากฏการสร้างเรือรบมากมายในกรุงศรีอยุธยา ยามบ้านเมืองสุขสงบชาวกรุงศรีอยุธยาก็หันมาเล่นเพลงเรือ แข่งเรือเป็นเรื่องเอิกเกริก โดยเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม เมื่อจะเสด็จฯแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่าง ๆ หรือเสด็จฯ ไปทอดผ้ากฐินยังวัดวาอาราม ก็มักจะใช้เรือรบโบราณเหล่านั้นจัดเป็นกระบวนเรือยิ่งใหญ่ ดังนั้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีกระบวนเรือเพชรพวง ซึ่งเป็นเรือริ้วกระบวนที่ใหญ่มาก จัดออกเป็น 4 สาย แล้วเรือพระที่นั่งตรงกลางอีก 1 สาย ใช้เรือทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 100 ลำ
ระหว่างการเคลื่อนกระบวนก็มีการเห่เรือพร้อมเครื่องประโคม จนเกิดวรรณกรรมร้อยกรองที่ไพเราะยิ่ง คือ กาพย์เห่เรือ ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งบรรยายถึงความงดงามและลักษณะของเรือในกระบวนครั้งนั้น บทเห่เรือนี้ยังเป็นแม่แบบของกาพย์เห่เรือที่ใช้กันในปัจจุบัน
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ด้วยเหตุที่สมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้น บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ มากมาย ทั้งทรงสร้างเมืองลพบุรีขึ้น จึงมีการเสด็จฯ โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค และในบางโอกาสก็โปรดเกล้าฯ ให้จัดกระบวนเรือหลวงออกรับคณะราชทูตและแห่พระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งประเทศฝรั่งเศส จากกรุงศรีอยุธยา มายังเมืองลพบุรี
ในช่วงปี พ.ศ. 2199-2231 ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่าง ๆ มีการจัดกระบวนพยุหยาตราฯที่เรียกว่า “ขบวนเพชรพวง” เป็นริ้วกระบวนยิ่งใหญ่ 4 สาย พร้อมริ้วเรือพระที่นั่ง ตรงกลางอีก 1 สาย มีเรือทั้งสิ้นไม่ตำกว่า 100 ลำ ซึ่งนับเป็นกระบวนพยุหยาตราฯ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และนับเป็นต้นแบบสำคัญของกระบวนพยุหยาตราฯ ในสมัยต่อ ๆ มา
การจัดการกระบวนพยุหยาตรลมารคในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่กล่าวมานี้ จัดได้ว่าเป็นริ้วกระบวนใหญ่แสดงความมั่งคั่งของราชสำนักไทยในครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับริ้วกระบวนเรือในสมัยต่อมา จะพบว่าค่อย ๆ ตัดทอนลงไปเรื่อย ๆ เพราะเรือชำรุดไปตามกาลเวลาบ้าง ไม่มีผู้รู้จักทำขึ้นใหม่ให้ถูกต้องตามแผนโบราณบ้างจึงเหลืออยู่เท่าที่พอจะรักษาไว้ได้เท่านั้น จนกระทั่งถึงคราวเสียกรุงศรีอยุธยา
บันทึกของนิโคลาส แชแวร์
ตามบันทึกของ นิโคลาส แชแวร์ ราชทูตฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามาในสมัยนั้น ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์แห่งราชอาณาจักรสยาม ถึงกระบวนเรือไว้ว่า
"ไม่สามารถเทียบความงามกับขบวนเรืออื่นใดได้ เป็นขบวนเรือที่มโหฬาร มีเรือกว่า 200 ลำ โดยมีเรือพระที่นั่งพายเป็นคู่ ๆ ไปข้างหน้า เรือพระที่นั่งนั้น ใช้ฝีพายของพวกแขนแดงที่ได้รับการฝึกพายมาจนชำนาญ ทุกคนสวมหมวก เสื้อ ปลอกเข่า ปลอกแขน มีทองคำประกอบ เวลาพายพร้อมกับเป็นจังหวะจะโคน พายนั้นก็เป็นทอง เสียงพายกระทบเป็นเสียงประสานไปกับทำนองเพลงยอพระเกียรติของพระเจ้าแผ่นดิน"
บันทึกของกวีย์ ตาชาร์ด
ในปี พ.ศ. 2228 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงส่งลาลูแบร์เป็นราชทูตเข้ามายังประเทศไทย พร้อมกับคณะบาทหลวงเยซูอิดซึ่งมีบาทหลวงผู้หนึ่งคือ กวีย์ ตาชาร์ด เป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ไว้ในหนังสือเรื่อง จดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยาม ในตอนหนึ่งได้เล่าถึงขบวนเรือที่ใช้ออกรับเครื่องราชบรรณาการว่า
"มีเรือบังลังก์ขนาดใหญ่ 4 ลำมา แต่ละลำมีฝีพายถึง 80 คน ซึ่งเราไม่เคยเห็นเช่นนั้นมาก่อน 2 ลำแรกนั้นหัวเรือทำเป็นรูปเหมือนม้าปิดทองทั้งลำ เมื่อเห็นมันมาแต่ไกลในลำน้ำนั้นดูคล้ายกับมันมีชีวิตชีวา มีเจ้าหน้าที่กองทหารรักษาพระองค์ 2 นายมาในเรือทั้ง 2 ลำ เพื่อรับเครื่องราชบรรณาการของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ครั้นบรรทุกเสร็จแล้วก็ถอยออก ไปลอยลำอยู่กลางแม่น้ำอย่างสงบเงียบ และตลอดเวลาที่ลอยลำอยู่นี้ ไม่มีสุ้มเสียงใดเลยบนฝั่ง และไม่มีเรือลำได้เลยแล่นขึ้นล่องในแม่น้ำ เป็นการแสดงความเคารพต่อเรือบัลลังก์หลวง และเครื่องราชบรรณาการที่บรรทุกอยู่นั้น"
บาทหลวง ตาชาร์ด ยังเขียนถึงขบวนเรือที่แห่พระราชสาสน์ และเครื่องราชบรรณาการที่เดินทางออกจากกรุงศรีอยุธยา ไปยังเมืองลพบุรีไว้อีกว่า
"ขบวนอันยึดยาวของเรือบังลังก์หลวง ซึ่งเคลื่อนที่ไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อยนี้มีจำนวนถึง 150 ลำผนวกกับเรือลำอื่น ๆ เข้าอีกก็แน่นแม่น้ำ แลไปได้สุดสายตา อันเป็นทัศนียภาพที่งดงามยิ่งนัก เสียงเห่แสดงความยินดีตามธรรมเนียมนิยมของชาวสยาม อันคล้ายจะรุกไล่เข้าประกับข้าศึกนั้น ก้องไปทั้งฟากแม่น้ำ ซึ่งมีประชาชาพลเมืองมาคอยชมขบวนเรือยาตราอันมโหฬารนี้อยู่"
บันทึกของเดอ ลา ลูแบร์
ปี พ.ศ. 2230 ลา ลูแบร์ ราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เขียนบันทึกเรือยาวพระที่นั่งต้นของพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาไว้ว่า:-
« Mais, parce qu’en ce païs-là on va plus par eau que par terre, le Roy de Siam a de fort beaux Balons. J’ay déjà dit que le corps d’un Balon n’eſt que d’un ſeul arbre long quelquefois de 16. à 20. toiles. Deux hommes affis les jambes croiſées côte à côte l’un de l’autre fur une planche miſe en travers, ſuffiſent pour en occuper toute la larguer. L'un pagaye à droite, & l'autre à gauche. Pagayer c’est ramer avec la pagaye, & la pagaye eſt une rame courte, qu’on tient à deux mains, par le milieu, & par le bout. Il ſemble qu’on n’en faffe que balayer l’eau quoy qu’avec force. Elle n’eſt point attachée au bord du balon, & celuy, qui la manie, regarde où il va ; au lieu que celuy qui ramel a le dos tourné à la route. Il y a quelquefois dans un feul balon juſqu’à cent ou fix vingt pagayeurs rangez ainſi deux à deux les jambes croiſees ſur des planchettes: mais les moindres Officiers ont des baIons beaucoup plus courts, ou peu de pagayes, comme 16. ou 20. ſuffiſent. Les pagayeurs, afin de plonger la pagaye de concert, chantent, ou font des cris meſurez; & ils plongent la pagaye en cadence avec un mouvement de bras & d'épaules qui eſt vigoureux , mais facile & de bonne grace. »
(คำแปล): เพราะที่เมืองนี้ ประชาชนไปมาโดยทางน้ำมากกว่าทางบก พระมหากษัตริย์สยามจึงมีเรือยาวพระที่นั่งต้นอย่างงามสง่าไว้มากลำ ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่าตัวเรือยาวนั้นทำด้วยไม้ซุงต้นเดียว บางลำยาวแต่ ๑๖ ถึง ๒๐ วา (32-40 เมตร) คนสองคนนั่งขัดสมาธิ์เคียงขนานหน้ากัน ผันหน้าตามยาวเรือบนไม้กระทงที่ทอดตรึงขวางลำไว้ พอเต็มเนื้อที่เรือด้านกว้างพอดี พาย ๆ หนึ่ง พายทางขวา พายอีกพายหนึ่งพายทางซ้าย ฝีพายก็พายด้วยพาย พายนั้นก็คือแจวสั้น ๆ นั่นเองถือ ๒ มือ มือหนึ่งกลางด้ามพาย อีกมือหนึ่งปลายด้ามพายดูอาการเหมือนฝีพายจะพายได้แต่ชั่วกวาดน้ำไปเต็มแรงเท่สนั้น และพายนั้นก็ไม่ได้ผูกหรือติดกับกราบเรือเหมือนแจวกรรเชียง และคนที่พายก็หันหน้าไปทางหัวเรือแล้วก็พายลงหันหลังมาทางท้าย ในเรือลำหนึ่งบางทีก็มีพลพายตั้งร้อยคน หรือถึง ๒๐๐ คน ที่เรียงแถมละคู่ ๆ ตามกราบยาวตลอดเรือนั่งขัดสมาธิบนแผ่นกระดานกระทงเรือ แต่ขุนนางผู้น้อยลงมาก็มีเรือยาวสั้นลงมา ฝีพายก็น้อยลงเพียง ๑๖ หรือ ๒๐ คนก็พอ ฝีพายพายเรือพร้อม ๆ กัน ร้องเพลงหรือขานยาวอย่างไรอย่างหนึ่ง เป็นเสียงเหะหะอึกทึกและพายจ้วงแขนได้จังหวะกันน่าดูเหน็ดเหนื่อยออกเรี่ยวแรงเข้มแข็งมาก แต่ก็พายได้ง่าย ๆ และสง่างามมาก.
— ซีมง เดอ ลา ลูแบร์, (พระนิพนธ์แปลโดยกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์), DU ROYAUME DE SIAM: Envoyé extraordinaire du ROY auprès du Roy de Siam en 1687 & 1688.
สมัยกรุงธนบุรี
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสร้างเรือขึ้นใหม่ทั้งชุด แต่ส่วนใหญ่เป็นเรือที่ใช้ในการรบทั้งสิ้น เพราะในสมัยนั้นมีแต่การศึกสงคราม โดยมีการแห่เรือสำคัญ คือ ในการพระราชพิธีสมโภชรับพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรเมื่อ พ.ศ. 2324 ซึ่งอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์และมาแห่พักไว้ที่กรุงเก่าคือพระนครศรีอยุธยา มีข้อความในหมายรับสั่งพรรณนากระบวนเรือที่แห่มาจากต้นทางว่ารวมเรือแห่ทั้งปวง 115 ลำ และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปสมทบที่พระตำหนักบางธรณีกรุงเก่า ความว่ามีเรือแห่มารวมกันเป็นจำนวน 246 ลำ
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ครั้นมาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ได้ทรงสร้างเรือขึ้นมาใหม่อีก 67 ลำ ซึ่งมีทั้งเรือพระที่นั่ง เรือกระบวนปิดทอง เรือพิฆาต และเรือแซง ซึ่งเป็นเรือที่สำคัญ ๆ เป็นที่รู้จักมาจนเท่าทุกวันนี้ ในรัชกาลต่อ ๆ มาก็ยังมีการสร้างเรือเพิ่มขึ้นมาอีก
- รัชกาลที่ 2 จำนวน 2 ลำ
- รัชกาลที่ 3 จำนวน 24 ลำ
- รัชกาลที่ 4 จำนวน 7 ลำ
- รัชกาลที่ 5 จำนวน 1 ลำ
- รัชกาลที่ 6 จำนวน 2 ลำ
จากนั้นก็มิได้มีการสร้างเรืออีกจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงได้มีการสร้างเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก โดยเรือที่สำคัญ ๆ และตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 4 และมาสร้างขึ้นแทนลำเดิมอีกในรัชกาลที่ 6, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 และเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 6
ในรัชกาลที่ 7
สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคทั้งสิ้น 2 ครั้ง ดังนี้
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2469 เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2469
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี เมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2475
ในช่วงสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา อู่เรือพระที่นั่งที่ปากคลองบางกอกน้อยถูกลูกระเบิดถล่มจนเรือเสียหายไปหลายลำ จากนั้นจึงมีการซ่อมแซมเรือและโอนเรือพระราชพิธี 36 ลำ ให้กรมศิลปากรดูแลเก็บรักษาไว้ที่อู่เรือพระราชพิธีปากคลองบางกอกน้อย และส่วนที่เหลืออีกราว 32 ลำ เป็นพวกเรือตำรวจ เรือดั้ง เรือแซง ซึ่งกองทัพเรือเก็บรักษาไว้
ในรัชกาลที่ 9
สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคทั้งสิ้น 17 ครั้ง ดังนี้
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) ในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ เมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2500
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2505
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2507
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2508
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2510
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินไปบวงสรวงสมเด็จพระบูรพามหากษัตริย์เจ้า ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อ 5 เมษายน พ.ศ. 2525
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (น้อย) แห่พระพุทธสิหิงค์ เมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2525
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจำกรุงเทพมหานคร เมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2525
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2530
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
- ขบวนเรือพระราชพิธี ในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค 2003 เมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2546 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จโดยกระบวนเรือ)
- ขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2549 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จโดยกระบวนเรือ)
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 (เลื่อนการจัดกระบวนจากเดิมในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เนื่องจากกระแสน้ำที่เพิ่มระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาและไหลแรง)
สำหรับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่มีในปัจจุบันนั้น ส่วนมากจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ส่วนการจัดขบวนเรือพระราชพิธี ๒ ครั้ง ได้แก่ การจัดขบวนเรือพระราชพิธี เนื่องในการประชุมเอเปก ๒๐๐๓ และ และเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และ ผู้แทนพระประมุขต่างประเทศ ร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี (๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙) โดยการจัดขบวนเรือพระราชพิธี ๒ ครั้งนี้
เป็นเพียงการสาธิตแห่ขบวนเรือซื่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จในขบวนด้วย
ในรัชกาลปัจจุบัน
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค 1 ครั้ง ดังนี้
- กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) จาก พระราชวังดุสิต ไปยังท่าราชวรดิฐ พระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (เลื่อนการจัดกระบวนจากเดิมในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เนื่องจากกระแสน้ำที่เพิ่มระดับในแม่น้ำเจ้าพระยา)
เส้นทางเดินเรือ
จุดเริ่มต้นของกระบวนเรือนั้นคือบริเวณ โดยจะมีการจอดเรือตั้งแต่หน้าสะพานกรุงธน ไปถึงหลังสะพานพระราม 8 เรือจะเริ่มออกจากสะพานพระราม 8 ผ่านป้อมพระสุเมรุ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช กรมอู่ทหารเรือ ราชนาวิกสภา พระบรมมหาราชวัง หอประชุมกองทัพเรือ วัดอรุณราชวราราม และไปจอดเรือที่หน้าวัดกัลยาณมิตร
เรือพระราชพิธี
เรือพระที่นั่ง
ดูเพิ่มอ้างอิง
หนังสือและบทความ
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ กระบวนพยุหยาตราชลมารค วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: เมืองไทยในอดีต/การแห่พระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตรา
|
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul krabwnphyuhyatrachlmarkh khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir krabwnphyuhyatrachlmarkh hrux krabwnphyuhyatrathangchlmarkh epnkrabwnesdcphrarachdaeninthangnathiepnrachpraephniithythimimaaetobran odymihlkthanchdecntngaetsmyxyuthya aelainsmyrtnoksinthr caekhluxnkhbwntamaenwaemnaecaphrayaepnhlk eruxinkrabwnmikarslkokhneruxepnrupstwinethphniyay mikarcdkrabwnhlayaebb thiruckkndikkhux krabwnphyuhyatraephchrphwng dngpraktin lilitphrrnnakrabwnerux praphnthodyecaphrayaphrakhlng hn emux ph s 2330 inrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach odyyudthuxtamaebbaephnedimsmyxyuthyaphaphkrabwnerux inchwngphithisxmkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhenuxnginphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2562 praephthkhxngkareherux samarthcaaenkxxkepn 2 praephthkhux kareheruxhlwng kareheruxinnganphrarachphithi aelakareheruxeln kareheruxelnkhxngchawbaninngantang inpccubnkareheruxyngkhngxyuechphaa kareheruxhlwng thiichinkrabwnphyuhyatrachlmarkhprawtismyerimaerkkhxngkrabwnerux krabwnphyuhyatrachlmarkh inkaraehphrakthininxdit hnawdxrunrachwraramrachwrmhawihar karesdcthangnathieriykwa krabwnphyuhyatrachlmarkh nnmihlkthanmatngaetsmykrungsuokhthy praktiwwa phrarwngeca phramhathrrmrachathi 1 thrngicheruxxxklxykrathng hrux n klangsrana phrxmthngephaethiynelnifinyamkhunephyeduxnsibsxng wnlxykrathng inyukhkrungsrixyuthyaepnrachthani tamphngsawdaridbnthukiwwa smedcphranerswremuxkhrawesdciptiemuxngemaatama esdcphrarachdaenincakkrungsrixyuthyaodychlmarkh phxidewlavks phraohrarachkhruxthibdisrithichacary klnklxngkhxngchyihphayeruxphrathinngsrisuphrrnhngs xnepneruxthrngphraphuththptimakrthxngnphkhun brrcuphrabrmsaririkthatuthwayphranamsmya phraphichy nakrabwnxxkipkxnephuxkhwamepnsirimngkhl khrninsmykrungsrixyuthyaepnrachthani sungtwekaakrungnnepnekaathilxmrxbipdwyaemnalakhlxngchiwitphukphnkbsayna cungpraktkarsrangeruxrbmakmayinkrungsrixyuthya yambanemuxngsukhsngbchawkrungsrixyuthyakhnmaelnephlngerux aekhngeruxepneruxngexikekrik odyechphaaphraecaaephndinkrungsyam emuxcaesdcaeprphrarachthanipynghwemuxngtang hruxesdc ipthxdphakthinyngwdwaxaram kmkcaicheruxrbobranehlanncdepnkrabwneruxyingihy dngnninsmysmedcphranaraynmharachmikrabwneruxephchrphwng sungepneruxriwkrabwnthiihymak cdxxkepn 4 say aelweruxphrathinngtrngklangxik 1 say icheruxthngsinimnxykwa 100 la rahwangkarekhluxnkrabwnkmikareheruxphrxmekhruxngpraokhm cnekidwrrnkrrmrxykrxngthiipheraaying khux kaphyeherux khxngecafathrrmthiebsr hruxecafakung insmysmedcphraecaxyuhwbrmoks txnplaysmykrungsrixyuthya sungbrryaythungkhwamngdngamaelalksnakhxngeruxinkrabwnkhrngnn btheheruxniyngepnaemaebbkhxngkaphyeheruxthiichkninpccubn smysmedcphranaraynmharach dwyehtuthismykhxngsmedcphranaraynmharachnn banemuxngecriyrungeruxng mikarecriysmphnthimtrikbpraethstang makmay thngthrngsrangemuxnglphburikhun cungmikaresdc odykrabwnphyuhyatrachlmarkh aelainbangoxkaskoprdekla ihcdkrabwneruxhlwngxxkrbkhnarachthutaelaaehphrarachsasnkhxngphraecahluysthi 14 aehngpraethsfrngess cakkrungsrixyuthya mayngemuxnglphburi inchwngpi ph s 2199 2231 prakthlkthanwaemuxphraxngkhesdcaeprphrarachthanipynghwemuxngtang mikarcdkrabwnphyuhyatrathieriykwa khbwnephchrphwng epnriwkrabwnyingihy 4 say phrxmriweruxphrathinng trngklangxik 1 say mieruxthngsinimtakwa 100 la sungnbepnkrabwnphyuhyatra thiyingihythisudinprawtisastraelanbepntnaebbsakhykhxngkrabwnphyuhyatra insmytx ma karcdkarkrabwnphyuhyatrlmarkhinsmysmedcphranaraynmharachthiklawmani cdidwaepnriwkrabwnihyaesdngkhwammngkhngkhxngrachsankithyinkhrngnnidepnxyangdi sungemuxepriybethiybkbriwkrabwneruxinsmytxma caphbwakhxy tdthxnlngiperuxy ephraaeruxcharudiptamkalewlabang immiphuruckthakhunihmihthuktxngtamaephnobranbangcungehluxxyuethathiphxcarksaiwidethann cnkrathngthungkhrawesiykrungsrixyuthya bnthukkhxngniokhlas aechaewr tambnthukkhxng niokhlas aechaewr rachthutfrngesssungedinthangekhamainsmynn idbnthukiwinhnngsux prawtisastraehngrachxanackrsyam thungkrabwneruxiwwa imsamarthethiybkhwamngamkbkhbwneruxxunidid epnkhbwneruxthimohlar mieruxkwa 200 la odymieruxphrathinngphayepnkhu ipkhanghna eruxphrathinngnn ichfiphaykhxngphwkaekhnaedngthiidrbkarfukphaymacnchanay thukkhnswmhmwk esux plxkekha plxkaekhn mithxngkhaprakxb ewlaphayphrxmkbepncnghwacaokhn phaynnkepnthxng esiyngphaykrathbepnesiyngprasanipkbthanxngephlngyxphraekiyrtikhxngphraecaaephndin bnthukkhxngkwiy tachard thsniyphaphkrungsrixyuthya VEUE DE SIAM aelariwkrabwnphyhyatrachlmarkh ody xxngri xabrahm chaetxaerng Henri Abraham Chatelain nkekhiynaephnthichawhxlnda tiphimphthikrungxmsetxrdm praethsenethxraelnd emux kh s 1719 rchkalsmedcphrathinngthaysra cakcdhmayehtutachard kh s 1686 inpi ph s 2228 phraecahluysthi 14 thrngsnglaluaebrepnrachthutekhamayngpraethsithy phrxmkbkhnabathhlwngeysuxidsungmibathhlwngphuhnungkhux kwiy tachard epnphubnthukehtukarniwinhnngsuxeruxng cdhmayehtukaredinthangsupraethssyam intxnhnungidelathungkhbwneruxthiichxxkrbekhruxngrachbrrnakarwa mieruxbnglngkkhnadihy 4 lama aetlalamifiphaythung 80 khn sungeraimekhyehnechnnnmakxn 2 laaerknnhweruxthaepnrupehmuxnmapidthxngthngla emuxehnmnmaaetiklinlananndukhlaykbmnmichiwitchiwa miecahnathikxngthharrksaphraxngkh 2 naymaineruxthng 2 la ephuxrbekhruxngrachbrrnakarkhxngsmedcphraecakrungfrngess khrnbrrthukesrcaelwkthxyxxk iplxylaxyuklangaemnaxyangsngbengiyb aelatlxdewlathilxylaxyuni immisumesiyngidelybnfng aelaimmieruxlaidelyaelnkhunlxnginaemna epnkaraesdngkhwamekharphtxeruxbllngkhlwng aelaekhruxngrachbrrnakarthibrrthukxyunn bathhlwng tachard yngekhiynthungkhbwneruxthiaehphrarachsasn aelaekhruxngrachbrrnakarthiedinthangxxkcakkrungsrixyuthya ipyngemuxnglphburiiwxikwa khbwnxnyudyawkhxngeruxbnglngkhlwng sungekhluxnthiipxyangmiraebiyberiybrxynimicanwnthung 150 laphnwkkberuxlaxun ekhaxikkaennaemna aelipidsudsayta xnepnthsniyphaphthingdngamyingnk esiyngehaesdngkhwamyinditamthrrmeniymniymkhxngchawsyam xnkhlaycarukilekhaprakbkhasuknn kxngipthngfakaemna sungmiprachachaphlemuxngmakhxychmkhbwneruxyatraxnmohlarnixyu bnthukkhxngedx la luaebr pi ph s 2230 la luaebr rachthutkhxngphraecahluysthi 14 ekhiynbnthukeruxyawphrathinngtnkhxngphraecakrungsrixyuthyaiwwa Balon du Corps du Roy de Siam ou eſtoit la lattre du Roy krabwneruxyawphrathinngtnkhxngphramhakstriykrungsrixyuthya ph s 2230 ody la luaebr rachthutkhxngphraecahluysthi 14 aehngkrungfrngess Mais parce qu en ce pais la on va plus par eau que par terre le Roy de Siam a de fort beaux Balons J ay deja dit que le corps d un Balon n eſt que d un ſeul arbre long quelquefois de 16 a 20 toiles Deux hommes affis les jambes croiſees cote a cote l un de l autre fur une planche miſe en travers ſuffiſent pour en occuper toute la larguer L un pagaye a droite amp l autre a gauche Pagayer c est ramer avec la pagaye amp la pagaye eſt une rame courte qu on tient a deux mains par le milieu amp par le bout Il ſemble qu on n en faffe que balayer l eau quoy qu avec force Elle n eſt point attachee au bord du balon amp celuy qui la manie regarde ou il va au lieu que celuy qui ramel a le dos tourne a la route Il y a quelquefois dans un feul balon juſqu a cent ou fix vingt pagayeurs rangez ainſi deux a deux les jambes croiſees ſur des planchettes mais les moindres Officiers ont des baIons beaucoup plus courts ou peu de pagayes comme 16 ou 20 ſuffiſent Les pagayeurs afin de plonger la pagaye de concert chantent ou font des cris meſurez amp ils plongent la pagaye en cadence avec un mouvement de bras amp d epaules qui eſt vigoureux mais facile amp de bonne grace khaaepl ephraathiemuxngni prachachnipmaodythangnamakkwathangbk phramhakstriysyamcungmieruxyawphrathinngtnxyangngamsngaiwmakla khaphecaidklawaelwwatweruxyawnnthadwyimsungtnediyw banglayawaet 16 thung 20 wa 32 40 emtr khnsxngkhnnngkhdsmathiekhiyngkhnanhnakn phnhnatamyaweruxbnimkrathngthithxdtrungkhwanglaiw phxetmenuxthieruxdankwangphxdi phay hnung phaythangkhwa phayxikphayhnungphaythangsay fiphaykphaydwyphay phaynnkkhuxaecwsn nnexngthux 2 mux muxhnungklangdamphay xikmuxhnungplaydamphayduxakarehmuxnfiphaycaphayidaetchwkwadnaipetmaerngethsnn aelaphaynnkimidphukhruxtidkbkraberuxehmuxnaecwkrrechiyng aelakhnthiphaykhnhnaipthanghweruxaelwkphaylnghnhlngmathangthay ineruxlahnungbangthikmiphlphaytngrxykhn hruxthung 200 khn thieriyngaethmlakhu tamkrabyawtlxderuxnngkhdsmathibnaephnkradankrathngerux aetkhunnangphunxylngmakmieruxyawsnlngma fiphayknxylngephiyng 16 hrux 20 khnkphx fiphayphayeruxphrxm kn rxngephlnghruxkhanyawxyangirxyanghnung epnesiyngehahaxukthukaelaphaycwngaekhnidcnghwaknnaduehndehnuxyxxkeriywaerngekhmaekhngmak aetkphayidngay aelasngangammak simng edx la luaebr phraniphnthaeplodykrmphranrathippraphnthphngs DU ROYAUME DE SIAM Envoye extraordinaire du ROY aupres du Roy de Siam en 1687 amp 1688 smykrungthnburi insmysmedcphraecataksinmharach thrngsrangeruxkhunihmthngchud aetswnihyepneruxthiichinkarrbthngsin ephraainsmynnmiaetkarsuksngkhram odymikaraeheruxsakhy khux inkarphrarachphithismophchrbphraphuththmhamnirtnptimakremux ph s 2324 sungxyechiymacakewiyngcnthnaelamaaehphkiwthikrungekakhuxphrankhrsrixyuthya mikhxkhwaminhmayrbsngphrrnnakrabwneruxthiaehmacaktnthangwarwmeruxaehthngpwng 115 la aelasmedcphraecakrungthnburiesdcphrarachdaeninkhunipsmthbthiphratahnkbangthrnikrungeka khwamwamieruxaehmarwmknepncanwn 246 la smykrungrtnoksinthr khrnmathungsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phraxngkhidthrngsrangeruxkhunmaihmxik 67 la sungmithngeruxphrathinng eruxkrabwnpidthxng eruxphikhat aelaeruxaesng sungepneruxthisakhy epnthiruckmacnethathukwnni inrchkaltx makyngmikarsrangeruxephimkhunmaxik rchkalthi 2 canwn 2 la rchkalthi 3 canwn 24 la rchkalthi 4 canwn 7 la rchkalthi 5 canwn 1 la rchkalthi 6 canwn 2 la caknnkmiidmikarsrangeruxxikcnthungrchsmyphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr cungidmikarsrangeruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9 enuxnginoxkasphrarachphithikaycnaphiesk odyeruxthisakhy aelatkthxdmacnthungpccubn idaek eruxphrathinngxnntnakhrach srangkhunkhrngaerkinrchkalthi 4 aelamasrangkhunaethnlaedimxikinrchkalthi 6 eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh srangkhuninrchkalthi 5 aelaeruxphrathinngsuphrrnhngs srangkhuninrchkalthi 6 inrchkalthi 7 sahrbinrchsmykhxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw idmikarcdkrabwnphyuhyatrachlmarkhthngsin 2 khrng dngni krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy inkarphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2469 emux 3 minakhm ph s 2469 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy inphrarachphithismophchkrungrtnoksinthr 150 pi emux 6 emsayn ph s 2475 inchwngsmysngkhrammhaexechiyburpha xueruxphrathinngthipakkhlxngbangkxknxythuklukraebidthlmcneruxesiyhayiphlayla caknncungmikarsxmaesmeruxaelaoxneruxphrarachphithi 36 la ihkrmsilpakrduaelekbrksaiwthixueruxphrarachphithipakkhlxngbangkxknxy aelaswnthiehluxxikraw 32 la epnphwkeruxtarwc eruxdng eruxaesng sungkxngthpheruxekbrksaiw inrchkalthi 9 phaphkhbwneruxphrarachphithi innganprachumexepkh 2003 sahrbinrchsmykhxngphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr idmikarcdkrabwnphyuhyatrachlmarkhthngsin 17 khrng dngni krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy innganchlxng 25 phuththstwrrs emux 14 phvsphakhm ph s 2500 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 15 phvscikayn ph s 2502 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 2 phvscikayn ph s 2504 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 22 tulakhm ph s 2505 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 30 tulakhm ph s 2507 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 19 tulakhm ph s 2508 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 27 tulakhm ph s 2510 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninipbwngsrwngsmedcphraburphamhakstriyeca inphrarachphithismophchkrungrtnoksinthr 200 pi emux 5 emsayn ph s 2525 krabwnphyuhyatrachlmarkh nxy aehphraphuththsihingkh emux 12 emsayn ph s 2525 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karphrarachthanphraphuththnwrachbphitr pracakrungethphmhankhr emux 20 tulakhm ph s 2525 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 16 tulakhm ph s 2530 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 7 phvscikayn ph s 2539 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 4 phvscikayn ph s 2542 khbwneruxphrarachphithi inkarprachumklumkhwamrwmmuxthangesrsthkicinphumiphakhexechiyaepsifik hruxexepkh 2003 emux 20 tulakhm ph s 2546 phrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcodykrabwnerux khbwneruxphrarachphithi inphrarachphithichlxngsirirachsmbtikhrb 60 pi emux 12 mithunayn ph s 2549 phrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcodykrabwnerux krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 5 phvscikayn ph s 2550 krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy karesdcphrarachdaeninthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emux 9 phvscikayn ph s 2555 eluxnkarcdkrabwncakediminwnthi 22 tulakhm ph s 2554 enuxngcakkraaesnathiephimradbinaemnaecaphrayaaelaihlaerng sahrbkrabwnphyuhyatrathangchlmarkhthimiinpccubnnn swnmakcaepnkaresdcphrarachdaeninipthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar aekhwngwdxrun ekhtbangkxkihy krungethphmhankhr swnkarcdkhbwneruxphrarachphithi 2 khrng idaek karcdkhbwneruxphrarachphithi enuxnginkarprachumexepk 2003 aela aelaenuxnginoxkasthismedcphrarachathibdi smedcphrarachini aela phuaethnphrapramukhtangpraeths rwmnganchlxngsirirachsmbtikhrb 60 pi 12 mithunayn ph s 2549 odykarcdkhbwneruxphrarachphithi 2 khrngni epnephiyngkarsathitaehkhbwneruxsungphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcinkhbwndwy inrchkalpccubn inrchsmykhxngphrabathsmedcphraecaxyuhw rchkalpccubn mikarcdkrabwnphyuhyatrachlmarkh 1 khrng dngni krabwnphyuhyatrachlmarkh ihy cak phrarachwngdusit ipyngtharachwrdith phrabrmmharachwng inkarphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2562 emux 12 thnwakhm ph s 2562 eluxnkarcdkrabwncakediminwnthi 24 tulakhm ph s 2562 enuxngcakkraaesnathiephimradbinaemnaecaphraya esnthangedineruxcuderimtnkhxngkrabwneruxnnkhuxbriewn odycamikarcxderuxtngaethnasaphankrungthn ipthunghlngsaphanphraram 8 eruxcaerimxxkcaksaphanphraram 8 phanpxmphrasuemru saphansmedcphrapinekla orngphyabalsirirach krmxuthharerux rachnawikspha phrabrmmharachwng hxprachumkxngthpherux wdxrunrachwraram aelaipcxderuxthihnawdklyanmitreruxphrarachphithiphaphaesdngaephnphngkrabwnphyuhyatrachlmarkh eruxphrathinng eruxphrathinngxnntnakhrach eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh eruxphrathinngsuphrrnhngs eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9 eruxdng epneruximthasinamn immilwdlayxyangid aetpccubnhweruxpidthxng mi 22 la michuxeriyktamladbtngaet eruxdng 1 thung eruxdng 22 eruxthxngkhwanfa aela eruxthxngbabin eruxthngsxnglaniepneruxdngthanamn yxddngpidthxngaekaslklwdlay epneruxkhuhnasudthinakrabwneruxphyuhyatrachlmarkhthnghmd eruxesuxthyanchl aela epneruxsxnglathiddaeplngmacakeruxrb eriykeruxlksnaniwa eruxphikhat eruxaetlalawadlngsirupesuxiwthihweruxsungmichxngthimipunihyyunxxkma eruxexkichyehinhaw aela eruxexkichyhlawthxng hweruxepnrupdngechidsungngxnkhunip lngrkpidthxngekhiynlayrdnarupehra xan eh ra sungepnstwintanan lksnakhlaymkraetmihwepnnakh eruxrupstw eruxphalirngthwip eruxsukhriphkhrxngemuxng eruxxsurwayuphks eruxxsurpksi eruxkrabiprabemuxngmar eruxkrabirayrxnraphn eruxkhruthetrcitrckreruxphrathinng eruxphrathinngsuphrrnhngs eruxphrathinngxnntnakhrach eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9khwamyaw 46 15 emtr 44 85 emtr 45 67 emtr 44 30 emtrkhwamkwang 3 17 emtr 2 58 emtr 2 91 emtr 3 20 emtrkhwamluk 94 esntiemtr 87 esntiemtr 91 esntiemtr 100 1 esntiemtrkinnaluk 41 esntiemtr 31 esntiemtr 1 46 emtr 0 4 emtrrawangkhbna 15 tn 10 tn 15 tn 20 tnfiphay 50 fiphay 2 naythayerux 1 phnkngankhanyaw 2 ecaphnknganhnabllngkkyya 2 ecaphnknganbllngkkyya 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngsung 54 fiphay 2 naythayerux 1 phueh 1 phnkngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngrachxisriyys chtr 61 fiphay 2 naythayerux 1 phnngngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 2 ecaphnkngan hnabllngkkyya 1 nay hlngbllngkkyya 1 nay 7 phuechiyekhruxngsung 50 fiphay 2 naythayerux 1 phnkngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngsungduephim krabwnphyuhyatrasthlmarkhxangxing thang inthiniepnkhaburphbth aeplwa ody hrux dwy dngnnthangsthlmarkh cungmikhwamhmaywa dwywithithangbk cakkrabwnphyuhyatrarachbnthitysthan La Loubere Simon de 1691 Des Voitures amp de l Equipage en general des Siamois DU ROYAUME DE SIAM Envoye extraordinaire du ROY aupres du Roy de Siam en 1687 amp 1688 TOME PREMIER Paris Chez Abraham Wolfgang pres de la Bourſe pp 123 124 nrathippraphnthphngs phraecabrmwngsethx krmphra 2505 cdhmayehtulaluaebr elm 1 phraniphnthphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha hna 173 174 w wrrnphngs krabwnphyuhyatrathangchlmarkh inrchsmykrungthnburi banemuxng hnngsuxaelabthkhwam santi phkdikha 2562 tulakhm khruth nakh aelahngs sylksnethphecasasnaphrahmnhinduinokhneruxphrarachphithi silpwthnthrrm 40 12 78 112 Phillips Matthew 2017 Ancient Past Modern Ceremony Thailand s Royal Barge Procession in Historical Context In How the Past was Used Historical Cultures c 750 2000 edited by Peter Lambert and Bjorn Weiler pp 201 30 Oxford Oxford University Press aehlngkhxmulxun wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb krabwnphyuhyatrachlmarkh wikisxrs mingantnchbbekiywkb emuxngithyinxdit karaehphrakthinodykrabwnphyuhyatra krabwnphyuhyatrachlmarkhchlxngsirirachsmbti 60 pi 2006 05 05 thi ewyaebkaemchchin aephnphngkhxngeruxinkrabwnaetlaerux