ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ในวิชาคณิตศาสตร์ อนุพันธ์ (อังกฤษ: derivatives) ของ เป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงของค่าของฟังก์ชันเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของอาร์กิวเมนต์ (ค่าที่ป้อนเข้าหรือตัวแปรต้น) อนุพันธ์เป็นเครื่องมือพื้นฐานของแคลคูลัส ตัวอย่างเช่น อนุพันธ์ของตำแหน่งของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เมื่อเทียบกับเวลา คือ ความเร็วของวัตถุนั้น ซึ่งเป็นการวัดว่าตำแหน่งของวัตถุมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไป
อนุพันธ์ของฟังก์ชันตัวแปรเดียวที่ตัวแปรต้นใด ๆ คือความชันของ (tangent) ที่สัมผัสกับกราฟของฟังก์ชันที่จุดนั้น เส้นสัมผัสคือของฟังก์ชันที่ใกล้เคียงที่สุด (best linear approximation) กับค่าตัวแปรต้นนั้น ด้วยเหตุนี้ อนุพันธ์มักอธิบายได้ว่าเป็น "อัตราการเปลี่ยนแปลงขณะใดขณะหนึ่ง" ซึ่งก็คืออัตราส่วนของการเปลี่ยนแปลงขณะใดขณะหนึ่งของตัวแปรตามต่อตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระ
กระบวนการหาอนุพันธ์เรียกว่า การหาอนุพันธ์ (differentiation หรือ การดิฟเฟอเรนชิเอต) ส่วนกระบวนการที่กลับกันเรียกว่า การหาปฏิยานุพันธ์ (antidifferentiation) ทฤษฎีบทมูลฐานของแคลคูลัสกล่าวว่าการหาปฏิยานุพันธ์เหมือนกันกับการหาปริพันธ์ (integration หรือ การอินทิเกรต) การหาอนุพันธ์และการหาปริพันธ์เป็นตัวดำเนินการพื้นฐานในแคลคูลัสตัวแปรเดียว
อนุพันธ์ของฟังก์ชันเป็นมโนทัศน์ (concept) หนึ่งในสองมโนทัศน์หลักของแคลคูลัส (อีกมโนทัศน์หนึ่งคือปฏิยานุพันธ์ ซึ่งคือของอนุพันธ์)
นิยาม
โดยใช้ลิมิต
ให้ เป็นที่ ที่จุด ในโดเมนของฟังก์ชัน ถ้าช่วงเปิดที่เป็นสับเซตที่มี เป็นสมาชิก และลิมิต
หาค่าได้ หมายความว่า ทุกจำนวนจริงบวก จะมีจำนวนจริงบวก ที่ทำให้ ทุก และ แล้ว หาค่าได้ และ
เมื่อเส้นตั้งแสดงถึงค่าสัมบูรณ์ นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของนิยาม (ε, δ) ของลิมิต
ถ้าฟังก์ชัน หาอนุพันธ์ได้ที่ นั่นคือถ้าลิมิต หาค่าได้ แล้วลิมิตนี้เรียกว่าอนุพันธ์ของ ที่ การเขียนอนุพันธ์เขียนได้หลายแบบ อนุพันธ์ของ ที่ สามารถเขียนเป็น อ่านว่า เอฟไพรม์เอ หรือเขียนเป็น อ่านว่า ดีเอฟบายดีเอ็กซ์ที่เอ ดู § สัญกรณ์ ข้างล่าง
ตัวอย่าง ให้ เป็นฟังก์ชันกำลังสอง แล้วผลหารในนิยามของอนุพันธ์คือ
การหารในขั้นตอนสุดท้ายถูกต้องก็ต่อเมื่อ ยิ่ง h เข้าใกล็ มากเท่าไร ค่าก็จะเข้าใกล้ มากเท่านั้น ลิมิตหาค่าได้ และสำหรับทุก ลิมิตจะมีค่าเป็น ดังนั้นอนุพันธ์ของฟังก์ชันกำลังสองคือ
โดยใช้กณิกนันต์
อีกวิธีคิดหนึ่งของอนุพันธ์ คือเป็นอัตราส่วนของการเปลี่ยนแปลงกณิกนันต์ของฟังก์ชัน ต่อการเปลี่ยนแปลงกณิกนันต์ของฟังก์ชัน การทำให้แนวคิดนี้รัดกุม จะต้องมีระบบกฎเกณฑ์ในการจัดการกับกณิกนันต์สามารถจัดการกับปริมาณอนันต์และกณิกนันต์ได้ ไฮเพอร์เรียลเป็นของจำนวนจริงที่มีจำนวนที่มากกว่าทุกสิ่งในรูป สำหรับทุกพจน์จำกัด จำนวนดังกล่าวเป็นอนันต์ และส่วนกลับของมันเป็นกณิกนันต์ การประยุกต์ใช้ของจำนวนไฮเพอร์เรียลในรากฐานแคลคูลัสเรียกว่า เป็นการเปิดช่องให้นิยามแนวคิดพื้นฐานของแคลคูลัส เช่นอนุพันธ์ และปริพันธ์ ในรูปของกณิกนันต์ ให้ความหมายที่รัดกุมกับ ในสัญกรณ์ของไลบ์นิซ ดังนั้นอนุพันธ์ของ จะกลายเป็น
สำหรับทุกกณิกนันต์ เมื่อ หมายถึง ซึ่งปัดทุกไฮเพอร์เรียลจำกัดเป็นจำนวนจริงที่ใกล์ที่สุด เอาฟังก์ชันกำลังสอง เป็นตัวอย่างอีกครั้ง
การหาอนุพันธ์และอนุพันธ์
การหาอนุพันธ์ เป็นการคำนวณเพื่อที่จะได้มาซึ่งอนุพันธ์ อนุพันธ์ของฟังก์ชัน y = f(x) ของตัวแปร x คืออัตราที่ค่า y ของฟังก์ชันเปลี่ยนแปลงไปต่อการเปลี่ยนแปลงของตัวแปร x เรียกว่า อนุพันธ์ของ f เทียบกับ x ถ้า x และ y เป็นจำนวนจริง และถ้ากราฟของฟังก์ชัน f ลงจุดเทียบกับ x อนุพันธ์ก็คือความชันของเส้นกราฟในแต่ละจุด
กรณีที่ง่ายที่สุด นอกเหนือจากกรณีของฟังก์ชันคงตัว คือเมื่อ y เป็นฟังก์ชันเชิงเส้นของ x ซึ่งหมายถึงกราฟของ y จะเป็นเส้นตรง ในกรณีนี้ y = f(x) = m x + b สำหรับจำนวนจริง m และ b และความชัน m ซึ่งกำหนดโดยการเปลี่ยนแปลงของ y หารด้วยการเปลี่ยนแปลงของ x ดังสมการ
เมื่อสัญลักษณ์ Δ (เดลตา) แทนคำว่า "การเปลี่ยนแปลง" สูตรนี้เป็นจริง เพราะว่า
เพราะฉะนั้น จะได้
ทำให้ได้
ซึ่ง m เป็นค่าที่ถูกต้องของความชันของเส้นกราฟ ถ้าฟังก์ชัน f ไม่เป็นฟังก์ชันเชิงเส้น (กล่าวคือ กราฟของมันไม่เป็นเส้นตรง) แล้วการเปลี่ยนแปลงของ y หารด้วยการเปลี่ยนแปลงของ x จะมีค่าแตกต่างกันออกไป การหาอนุพันธ์จึงเป็นวิธีการที่จะหาค่าที่ถูกต้องของอัตราการเปลี่ยนแปลงที่ค่าตัวแปรต้น x ใด ๆ
แนวคิดนี้ ซึ่งแสดงดังรูปที่ 1 ถึงรูปที่ 3 คือการคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงจากค่าลิมิตของอัตราส่วนของผลต่าง Δy / Δx เมื่อ Δx เข้าใกล้ค่าที่น้อยมาก
สัญกรณ์
มีสัญกรณ์สำหรับอนุพันธ์สองแบบที่ใช้กันโดยทั่วไป แบบหนึ่งมาจากไลบ์นิซ และอีกแบบหนึ่งมาจากลากรางจ์ อนุพันธ์อีกแบบหนึ่งซึ่งคิดขึ้นโดยนิวตันมีใช้บ้างในสาขาฟิสิกส์
ใน การเปลี่ยนแปลงที่น้อยมากของ x แสดงได้เป็น dx และอนุพันธ์ของ y เทียบกับ x เขียนได้ดังนี้
แสดงถึงอัตราส่วนของปริมาณที่น้อยมากสองปริมาณ (ข้างบนอ่านว่า "อนุพันธ์ของ y เทียบกับ x" หรือ "d y บาย d x" รูปแบบ "d y d x" นี้ใช้กันในการสนทนาอย่างบ่อยครั้ง แต่มันอาจทำให้สับสนได้)
ส่วน อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f(x) เทียบกับ x แสดงได้เป็น f'(x) (อ่านว่า "f ไพรม์ของ of x") หรือ fx'(x) (อ่านว่า "f ไพรม์ x ของ x")
และในสัญกรณ์ของนิวตัน อนุพันธ์ของฟังก์ชันเขียนแทนด้วยจุดบนตัวแปรตาม นั่นคือ ถ้า y เป็นฟังก์ชันของ t แล้วอนุพันธ์ของ y เทียบกับ t จะเขียนแทนด้วย ในขณะที่อนุพันธ์อันดับที่สูงขึ้นจะเพิ่มจำนวนจุด เช่น สัญกรณ์นี้นิยมใช้สำหรับตัวแปรตามที่ขึ้นกับเวลา
อัตราส่วนเชิงผลต่างของนิวตัน
อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f ที่ x ในเชิงเรขาคณิต คือ ความชันของเส้นสัมผัสของกราฟ f ที่ x เราไม่สามารถหาความชันของจากฟังก์ชันที่กำหนดให้โดยตรงได้ เพราะว่าเรารู้เพียงจุดบนเส้นสัมผัส ซึ่งก็คือ (x, f (x)) เท่านั้น ในทางอื่น เราจะประมาณความชันของเส้นสัมผัสด้วย (secant line) หลาย ๆ เส้น ที่มีจุดตัดทั้ง 2 จุดอยู่ห่างกันเป็นระยะทางสั้น ๆ เมื่อหาของความชันของเส้นตัดที่จุดตัดอยู่ใกล้กันมาก ๆ เราจะได้ความชันของเส้นสัมผัส ดังนั้น อาจนิยามอนุพันธ์ว่าคือ ลิมิตของความชันของเส้นตัดที่เข้าใกล้เส้นสัมผัส
เพื่อหาความชันของเส้นตัดที่จุดตัดอยู่ใกล้กันมาก ๆ ให้ h เป็นจำนวนที่มีค่าน้อย ๆ h จะแทนการเปลี่ยนแปลงน้อย ๆ ใน x ซึ่งจะเป็นจำนวนบวกหรือลบก็ได้ ดังนั้น ความชันของเส้นที่ลากผ่านจุด (x,f (x) ) และ (x+h,f (x+h) ) คือ
ซึ่งนิพจน์นี้ก็คือ ของนิวตัน (Newton's difference quotient) อนุพันธ์ของ f ที่ x คือ ลิมิตของค่าของผลหารเชิงผลต่าง ของเส้นตัดที่เข้าใกล้กันมาก ๆ จนเป็นเส้นสัมผัส:
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ตัวอย่าง
ฟังก์ชันกำลังสอง f(x) = x2 หาอนุพันธ์ได้ที่ x = 3 และอนุพันธ์ของมันที่ตำแหน่งนั้นเท่ากับ 6 ผลลัพธ์นี้มาจากการคำนวณลิมิตของอัตราส่วนของผลต่างของ f(3) เมื่อ h เข้าใกล้ศูนย์:
นิพจน์สุดท้ายแสดงให้เห็นว่าอัตราส่วนของผลต่างเท่ากับ 6 + h เมื่อ h ≠ 0 และไม่นิยามเมื่อ h = 0 เนื่องจากนิยามของอัตราส่วนของผลต่าง อย่างไรก็ตาม นิยามของลิมิตกล่าวว่าอัตราส่วนของผลต่างไม่จำเป็นต้องนิยามเมื่อ h = 0 ลิมิตก็คือผลลัพธ์จากการให้ h เข้าสู่ศูนย์ ซึ่งหมายถึงแนวโน้มของค่า 6 + h เมื่อ h มีค่าน้อยลงมาก ๆ
ดังนั้น ความชันของกราฟของฟังก์ชันกำลังสองที่จุด (3, 9) คือ 6 และอนุพันธ์ของมันที่ x = 3 คือ f′(3) = 6
ต่อไปนี้เป็นการคำนวณในทำนองเดียวกันในกรณีทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอนุพันธ์ของฟังก์ชันกำลังสองที่ x = a คือ f′(a) = 2a:
ความต่อเนื่องและการหาอนุพันธ์ได้
ถ้า f เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ ณ a ได้ f จะต้องต่อเนื่องที่ a เสมอ ถ้า f ไม่ต่อเนื่องที่ a จะหาอนุพันธ์ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เลือกจุด a และให้ f เป็นฟังก์ชันขั้นบันไดที่มีค่า 1 สำหรับ x ทั้งหมดที่น้อยกว่า a และมีค่า 10 สำหรับ x ทั้งหมดที่มากกว่าหรือเท่ากับ a แล้ว f ไม่สามารถมีอนุพันธ์ได้ที่ a โดยหาก h เป็นค่าลบ a + h จะอยู่ที่ส่วนล่างของขั้นบันได ดังนั้นเส้นตัดจาก a ถึง a + h นั้นสูงชันมากและเมื่อ h มีแนวโน้มเป็นศูนย์ความชันจะไม่มีที่สิ้นสุด หาก h เป็นค่าบวก a + h จะอยู่บนส่วนสูงของขั้นบันได ดังนั้นเส้นตัดจาก a ถึง a + h มีความชันเป็นศูนย์ ดังนั้นเส้นตัดจึงไม่ได้เข้าใกล้ความชันเดียว และลิมิตของอัตราส่วนของผลต่างจึงไม่สามารถหาได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าฟังก์ชันจะต่อเนื่อง ณ จุดหนึ่ง ก็ยังอาจไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ ตัวอย่างเช่นฟังก์ชันค่าสัมบูรณ์ f(x) = |x| ต่อเนื่องที่ x = 0 แต่ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ หาก h เป็นค่าบวกความชันของเส้นตัดจาก 0 ถึง h จะเท่ากับ 1 ในขณะที่ถ้า h เป็นลบความชันของเส้นตัดจาก 0 ถึง h จะเป็น -1 จุดที่หาอนุพันธ์ไม่ได้นี้สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นมุมในกราฟที่ x = 0 แต่แม้ฟังก์ชันที่กราฟไม่หักมุมก็ยังอาจจะไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ ณ จุดที่ความชันเป็นแนวตั้ง: ตัวอย่างเช่นฟังก์ชันที่กำหนดโดย f(x) = x1/3 ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ที่ x = 0
สรุปว่า ฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์นั้นต่อเนื่อง แต่มีฟังก์ชันต่อเนื่องที่ไม่มีอนุพันธ์
ฟังก์ชันส่วนใหญ่ที่พบในทางปฏิบัติมีอนุพันธ์ทุกจุดหรือเกือบทุกจุด เพราะเหตุนี้ ในช่วงแรกของประวัติศาสตร์ของแคลคูลัส นักคณิตศาสตร์หลายคนสันนิษฐานว่าฟังก์ชันต่อเนื่องมีอนุพันธ์ที่จุดส่วนใหญ่ ซึ่งภายใต้เงื่อนไขที่ไม่รุนแรงมาก เช่นถ้าฟังก์ชันเป็นฟังก์ชันโมโนโทนหรือฟังก์ชันลิปชิตส์ สิ่งนี้จะเป็นจริง อย่างไรก็ตามในปี 1872 ไวเออร์ชตราส พบตัวอย่างแรกของฟังก์ชันที่ต่อเนื่องได้ทุกที่ แต่ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ที่ไหน ตัวอย่างนี้เรียกว่า ในปี 1931 สเตฟาน บานาค พิสูจน์ว่าเซตของฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์ในบางจุดเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของฟังก์ชันต่อเนื่องทั้งหมด หมายความว่าการสุ่มฟังก์ชันต่อเนื่องใด ๆ แทบไม่มีโอกาสเลยที่จะหาอนุพันธ์ได้แม้จุดเดียว
อนุพันธ์ในฐานะฟังก์ชัน
ถ้าฟังก์ชัน f สามารถหาค่าอนุพันธ์ได้ในทุกจุดในโดเมนของมัน เราสามารถนิยามฟังก์ชันที่พาค่า x ทุกค่าในโดเมนนั้นไปหาค่าของอนุพันธ์ของ f ที่ x ได้ ฟังก์ชันนี้เขียนแทนด้วย f' และเรียกว่า ฟังก์ชันอนุพันธ์ ของ f
ในกรณีที่ f ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ครบทุกจุดในโดเมน ฟังก์ชันที่มีค่าเท่ากับอนุพันธ์นี้สำหรับจุดที่หาได้ และไม่นิยามสำหรับจุดอื่น ๆ ก็สามารถเรียกว่าอนุพันธ์ของ f ได้เช่นกัน ซึ่งอนุพันธ์นี้ยังคงเป็นฟีงก์ชัน แต่มีโดเมนเล็กกว่า f
จากมุมมองนี้ เราสามารถมองการหาอนุพันธ์เป็นฟังก์ชันของฟังก์ชัน นั่นคือ อนุพันธ์เป็นตัวดำเนินการที่มีโดเมนเป็นเซตของฟังก์ชันทุกฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ทุกจุดบนโดเมนของตัวมันเอง และมีเป็นเซตของฟังก์ชัน หากเราแทนตัวดำเนินการนี้ด้วย D แล้วจะได้ D(f) = f' เนื่องจาก D(f) เป็นฟังก์ชัน สามารถหาค่าที่จด a ใด ๆ ได้ว่า D(f)(a) = f'(a)
อนุพันธ์อันดับสูง
หาก f เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ โดย f' เป็นอนุพันธ์ของ f แล้วอนุพันธ์ของ f' อีกทีหนึ่ง (ถ้าอนุพันธ์นี้หาได้) เขียนแทนด้วย f'' และเรียกว่า อนุพันธ์อันดับสอง ของ f ในทำนองเดียวกัน อนุพันธ์ของ f'' (ถ้าหาได้) เขียนแทนด้วย f''' และเรียกว่า อนุพันธ์อันดับสาม ของ f เมื่อทำเช่นนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้นิยามของ อนุพันธ์อันดับที่ n ว่าเป็นอนุพันธ์ของอนุพันธ์อันดับที่ n - 1 อนุพันธ์อันดับตั้งแต่สองขึ้นไปนี้โดยรวมเรียกว่า อนุพันธ์อันดับสูง (อังกฤษ: higher-order derivatives)
อนุพันธ์อันดับสูงมีนัยสำคัญในวิชาฟิสิกส์ กล่าวคือ ถ้า x(t) แสดงตำแหน่งของวัตถุที่เวลา t แล้วอนุพันธ์อันดับหนึ่งของ x แสดงความเร็วของวัตถุ และอันดับสองแสดงความเร่ง
ฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์ไม่จำเป็นต้องมีอนุพันธ์อันดับสูงกว่านั้น เช่น หาก
แล้วจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า f หาอนุพันธ์ได้เท่ากับ
เท่ากับสองเท่าของฟังก์ชันค่าสัมบูรณ์ ซึ่งไม่มีอนุพันธ์ที่ x = 0 ดังนั้น f ไม่มีอนุพันธ์อันดับสองที่ค่า x นี้
ในทำนองเดียวกัน ฟังก์ชันสามารถมีอนุพันธ์ขึ้นไปถึงอันดับที่ k แต่ไม่มีอนุพันธ์อันดับที่ k + 1 ซึ่งเรียกว่าฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ k ครั้ง และถ้าอนุพันธ์อันดับที่ k นี้ต่อเนื่องด้วย จะเรียกฟังก์ชันนั้นว่าอยู่ในคลาส Ck ฟังก์์ชันที่หาอนุพันธ์ได้เรื่อย ๆ โดยไม่จำกัดครั้งเรียกว่า ฟังก์ชันปรับเรียบ (อังกฤษ: smooth function)
ฟังก์ชันพหุนามทุกฟังก์ชันสามารถหาอนุพันธ์ได้ไม่จำกัดครั้ง โดยถ้าพหุนามดีกรี n ถูกหาอนุพันธ์ n ครั้งจะได้ฟังก์ชันค่าคงที่เสมอ และอนุพันธ์อันดับถัดจากนั้นก็จะเป็นศูนย์ทุกอันดับ ดังนั้นฟังก์ชันพหุนามทุกฟังก์ชันเป็นฟังก์ชันปรับเรียบ
จุดเปลี่ยนเว้า
จุดที่อนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชันเปลี่ยนเครื่องหมาย (จากจำนวนจริงลบเป็นจำนวนจริงบวก หรือในทางกลับกัน) เรียกว่า จุดเปลี่ยนเว้า ที่จุดเปลี่ยนเว้า อนุพันธ์อันดับสองอาจเป็นศูนย์ ดังในกรณีที่จุดเปลี่ยนเว้าที่ x = 0 ของฟังก์ชัน y = x3 หรืออนุพันธ์อันดับสองอาจหาค่าไม่ได้ ดังในกรณีที่จุดเปลี่ยนเว้าที่ x = 0 ของฟังก์ชัน y = x1/3 ฟังก์ชันจะเปลี่ยนจากไปเป็นหรือในทางกลับกันที่จุดเปลี่ยนเว้า
รายละเอียดสัญกรณ์
สัญกรณ์ของไลบ์นิซ
สัญลักษณ์ dx, dy และ dx/dy เสนอโดยกอทท์ฟรีด วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ ใน ค.ศ. 1675 สัญลักษณ์นี้ใช้กันอย่างทั่วไปเมื่อสมการ y = f(x) ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่าง อนุพันธ์อันดับหนึ่งเขียนได้ดังนี้
อนุพันธ์อันดับสูงจะแสดงโดยใช้สัญลักษณ์
สำหรับอนุพันธ์อันดับที่ n ของ y = f(x) (เทียบกับ x) ข้างบนเป็นสัญลักษณ์ย่อของการใช้ตัวดำเนินการอนุพันธ์หลายตัว ยกตัวอย่างเช่น
ในสัญกรณ์ของไลบ์นิซ เราสามารถเขียนอนุพันธ์ของ y ที่จุด x = a ในรูปที่แตกต่างกันสองแบบ:
สัญกรณ์ของไลบ์นิซช่วยให้สามารถระบุตัวแปรในการหาอนุพันธ์ได้ (ในตัวส่วน) โดยเฉพาะในเรื่อง และยังทำให้ง่ายต่อการจำกฎลูกโซ่อีกด้วย:
สัญกรณ์ของลากรางจ์
ในบางครั้งเราเรียกว่า สัญกรณ์ไพรม์ หนึ่งในสัญกรณ์ยุคใหม่ที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการหาอนุพันธ์ ซึ่งมาจากโฌแซ็ฟ-หลุยส์ ลากร็องฌ์ โดยใช้ กล่าวคือ อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f(x) เขียนได้ในรูป f′(x) หรือ f′ ในทำนองเดียวกันอนุพันธ์อันดับสองและสามก็เขียนได้ในรูปดังนี้
- และ
เพื่อที่จะเขียนอนุพันธ์อันดับที่สูงกว่านี้ ผู้เขียนบางคนก็จะใช้เลขโรมันเป็นตัวยก หรือบางคนอาจใช้จำนวนนับในวงเล็บ:
- หรือ
สัญกรณ์ด้านหลัง ถ้าอยู่ในรูปทั่วไปก็คือ f (n) สำหรับอนุพันธ์อันดับ n ของ f สัญกรณ์นี้มีประโยชน์มากที่สุดเมื่อเราต้องการจะกล่าวถึงอนุพันธ์ในอยู่ในรูปฟังก์ชันของมันเอง ดังเช่นในกรณีนี้ สัญกรณ์ไลบ์นิซอาจกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
สัญกรณ์ของนิวตัน
สัญกรณ์ของนิวตันสำหรับการหาอนุพันธ์ เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าสัญกรณ์จุด โดยการเขียนไว้เหนือชื่อฟังก์ชันเพื่อแทนจำนวนครั้งของอนุพันธ์ ถ้า y = f(t) แล้ว
- และ
หมายถึง อนุพันธ์อันดับหนึ่งและสองของ y เทียบกับ t ตามลำดับ สัญกรณ์นี้นำไปใช้อย่างเฉพาะทางอย่างเช่น อนุพันธ์เทียบกับเวลา หรือเทียบกับความยาวส่วนโค้ง ซึ่งใช้กันทั่วไปในฟิสิกส์ สมการเชิงอนุพันธ์ และ โดยสัญกรณ์นี้ไม่สามารถที่จะเขียนได้เมื่ออนุพันธ์มีอันดับที่สูงขึ้น ในทางปฏฺบัติ จะใช้เพียงอนุพันธ์ไม่กี่อันดับที่จำเป็นเท่านั้น
สัญกรณ์ของออยเลอร์
สัญกรณ์ของออยเลอร์จะใช้ D ซึ่งจะใช้กับฟังก์ชัน f เพื่อที่จะได้อนุพันธ์อันดับหนึ่ง Df ส่วนอนุพันธ์อันดับสองเขียนได้ในรูป D2f และอนุพันธ์อันดับ n เขียนได้ในรูป Dnf
ถ้า y = f(x) เป็นตัวแปรตาม แล้ว x จะเป็นตัวห้อยอยู่ใต้ D เพื่อบ่งบอกว่ากำลังเทียบกับตัวแปรต้น x ดังข้างล่าง
- หรือ ,
แต่ตัวห้อย x มักจะถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจเพื่อความรวดเร็ว เมื่อมีตัวแปรต้นนี้อยู่ตัวเดียว
สัญกรณ์ของออยเลอร์มีประโยชน์ในการแก้
กฎการคำนวณ
กฎสำหรับฟังก์ชันพื้นฐาน
เมื่อ r เป็นจำนวนจริงใด ๆ แล้ว
เมื่อไรก็ตามที่ฟังก์ชันนี้สามารถหาค่าได้ ตัวอย่างเช่น ถ้า แล้ว
และฟังก์ชันอนุพันธ์สามารถหาค่าได้เฉพาะสำหรับค่า x ที่เป็นบวก ไม่ใช่ x = 0 เมื่อ r = 0 กฎนี้จะให้ค่า f′(x) เป็นศูนย์สำหรับ x ≠ 0 ซึ่งกรณีนี้ก็คือกฎค่าคงที่
- กฎค่าคงที่: ถ้า f(x) คือค่าคงที่ แล้ว
- ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม:
จากกฎผลคูณและกฎผลหารทำให้ได้
กฎสำหรับฟังก์ชันหลายฟังก์ชันรวมกัน
ในหลายกรณี การใช้วิธีอัตราส่วนเชิงผลต่างของนิวตันแบบตรง ๆ จะทำให้การคำนวณลิมิตยุ่งยากได้ ซึ่งหลีกเลี่ยงโดยการใช้กฎการหาอนุพันธ์เหล่านี้
- :
- สำหรับฟังก์ชันทั้งหมด f และ g และจำนวนจริงทั้งหมด และ
- สำหรับฟังก์ชันทั้งหมด f และ g ในกรณีพิเศษ กฎนี้รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อไรก็ตามที่ เป็นค่าคงที่ เพราะว่า จากกฎค่าคงที่
- สำหรับฟังก์ชันทั้งหมด f และ g ของตัวแปรต้นทั้งหมดโดยที่ g ≠ 0.
- กฎลูกโซ่: ถ้า แล้ว
ตัวอย่างการคำนวณ
อนุพันธ์ของ
คือ
ในพจน์ที่สองของ f คำนวณโดยใช้กฎลูกโซ่ และพจน์ที่สามใช้กฎผลคูณ นอกจากนี้ยังใช้กฎการหาอนุพันธ์สำหรับฟังก์ชันพื้นฐาน ได้แก่ x2, x4, sin(x), ln(x) และ exp(x) = ex รวมถึงค่าคงที่ 7 ในพจน์สุดท้าย
ทั่วไป
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- Differential calculus, as discussed in this article, is a very well established mathematical discipline for which there are many sources. See Apostol 1967, Apostol 1969, and Spivak 1994.
- In the formulation of calculus in terms of limits, the du symbol has been assigned various meanings by various authors. Some authors do not assign a meaning to du by itself, but only as part of the symbol du/dx. Others define dx as an independent variable, and define du by du = dx·f′(x). In du is defined as an infinitesimal. It is also interpreted as the of a function u. See for further information.
อ้างอิง
- Gonick 2012, p. 83.
- Gonick 2012, p. 88; Strang et al. 2023, p. 234.
- Gonick 2012, pp. 77–80.
- Thompson 1998, pp. 84–85.
- Keisler 2012, pp. 902–904.
- Banach, S. (1931), "Uber die Baire'sche Kategorie gewisser Funktionenmengen", Studia. Math. (3): 174–179.. Cited by Hewitt, E; Stromberg, K (1963), Real and abstract analysis, Springer-Verlag, Theorem 17.8
- Apostol 1967, §4.18
- Manuscript of November 11, 1675 (Cajori vol. 2, page 204)
- "The Notation of Differentiation". MIT. 1998. สืบค้นเมื่อ 24 October 2012.
- Evans, Lawrence (1999). Partial Differential Equations. American Mathematical Society. p. 63. ISBN .
- Kreyszig, Erwin (1991). Differential Geometry. New York: Dover. p. 1. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Hazewinkel, Michiel, บ.ก. (2001), "Derivative", , , ISBN
- : "Newton, Leibniz, and Usain Bolt"
- เอริก ดับเบิลยู. ไวส์สไตน์, "Derivative" จากแมทเวิลด์.
- Online Derivative Calculator from .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud inwichakhnitsastr xnuphnth xngkvs derivatives khxng epnkarwdkarepliynaeplngkhxngkhakhxngfngkchnethiybkbkarepliynaeplngkhxngxarkiwemnt khathipxnekhahruxtwaeprtn xnuphnthepnekhruxngmuxphunthankhxngaekhlkhuls twxyangechn xnuphnthkhxngtaaehnngkhxngwtthuthikalngekhluxnthiemuxethiybkbewla khux khwamerwkhxngwtthunn sungepnkarwdwataaehnngkhxngwtthumikarepliynaeplngxyangrwderwephiyngidemuxewlaphanipkrafkhxngfngkchnaesdngdwyesnsida aelaaesdngdwyesnsiaedng khwamchnkhxngesnsmphsmikhaethakbxnuphnthkhxngfngkchnthicudsiaedng xnuphnthkhxngfngkchntwaeprediywthitwaeprtnid khuxkhwamchnkhxng tangent thismphskbkrafkhxngfngkchnthicudnn esnsmphskhuxkhxngfngkchnthiiklekhiyngthisud best linear approximation kbkhatwaeprtnnn dwyehtuni xnuphnthmkxthibayidwaepn xtrakarepliynaeplngkhnaidkhnahnung sungkkhuxxtraswnkhxngkarepliynaeplngkhnaidkhnahnungkhxngtwaeprtamtxtwaeprtnhruxtwaeprxisra krabwnkarhaxnuphntheriykwa karhaxnuphnth differentiation hrux kardifefxernchiext swnkrabwnkarthiklbkneriykwa karhaptiyanuphnth antidifferentiation thvsdibthmulthankhxngaekhlkhulsklawwakarhaptiyanuphnthehmuxnknkbkarhapriphnth integration hrux karxinthiekrt karhaxnuphnthaelakarhapriphnthepntwdaeninkarphunthaninaekhlkhulstwaeprediyw xnuphnthkhxngfngkchnepnmonthsn concept hnunginsxngmonthsnhlkkhxngaekhlkhuls xikmonthsnhnungkhuxptiyanuphnth sungkhuxkhxngxnuphnth niyamodyichlimit ih f x displaystyle f x epnthi thicud a displaystyle a inodemnkhxngfngkchn thachwngepidthiepnsbestthimi a displaystyle a epnsmachik aelalimit L limh 0f a h f a h displaystyle L lim h to 0 frac f a h f a h hakhaid hmaykhwamwa thukcanwncringbwk e displaystyle varepsilon camicanwncringbwk d displaystyle delta thithaih thuk h displaystyle h h lt d displaystyle h lt delta aela h 0 displaystyle h neq 0 aelw f a h displaystyle f a h hakhaid aela L f a h f a h lt e displaystyle left L frac f a h f a h right lt varepsilon emuxesntngaesdngthungkhasmburn niepnhnungintwxyangkhxngniyam e d khxnglimit thafngkchn f displaystyle f haxnuphnthidthi a displaystyle a nnkhuxthalimit L displaystyle L hakhaid aelwlimitnieriykwaxnuphnthkhxng f displaystyle f thi a displaystyle a karekhiynxnuphnthekhiynidhlayaebb xnuphnthkhxng f displaystyle f thi a displaystyle a samarthekhiynepn f a displaystyle f a xanwa exfiphrmex hruxekhiynepn dfdx a textstyle frac df dx a xanwa diexfbaydiexksthiex du sykrn khanglang twxyang ih f displaystyle f epnfngkchnkalngsxng f x x2 displaystyle f x x 2 aelwphlharinniyamkhxngxnuphnthkhux f a h f a h a h 2 a2h a2 2ah h2 a2h 2a h displaystyle frac f a h f a h frac a h 2 a 2 h frac a 2 2ah h 2 a 2 h 2a h karharinkhntxnsudthaythuktxngktxemux h 0 displaystyle h neq 0 ying h ekhaikl 0 displaystyle 0 makethair khakcaekhaikl 2a displaystyle 2a makethann limithakhaid aelasahrbthuk a displaystyle a limitcamikhaepn 2a displaystyle 2a dngnnxnuphnthkhxngfngkchnkalngsxngkhux f x 2x textstyle f x 2x odyichkniknnt xikwithikhidhnungkhxngxnuphnth dfdx a textstyle frac df dx a khuxepnxtraswnkhxngkarepliynaeplngkniknntkhxngfngkchn f displaystyle f txkarepliynaeplngkniknntkhxngfngkchn x displaystyle x karthaihaenwkhidnirdkum catxngmirabbkdeknthinkarcdkarkbkniknntsamarthcdkarkbprimanxnntaelakniknntid ihephxreriylepnkhxngcanwncringthimicanwnthimakkwathuksinginrup 1 1 1 displaystyle 1 1 cdots 1 sahrbthukphcncakd canwndngklawepnxnnt aelaswnklbkhxngmnepnkniknnt karprayuktichkhxngcanwnihephxreriylinrakthanaekhlkhulseriykwa epnkarepidchxngihniyamaenwkhidphunthankhxngaekhlkhuls echnxnuphnth aelapriphnth inrupkhxngkniknnt ihkhwamhmaythirdkumkb d displaystyle d insykrnkhxngilbnis dngnnxnuphnthkhxng f x displaystyle f x caklayepn f x st f x dx f x dx displaystyle f x operatorname st left frac f x dx f x dx right sahrbthukkniknnt dx displaystyle dx emux st displaystyle operatorname st hmaythung sungpdthukihephxreriylcakdepncanwncringthiiklthisud exafngkchnkalngsxng f x x2 displaystyle f x x 2 epntwxyangxikkhrng f x st x2 2x dx dx 2 x2dx st 2x dx dx 2dx st 2x dxdx dx 2dx st 2x dx 2x displaystyle begin aligned f x amp operatorname st left frac x 2 2x cdot dx dx 2 x 2 dx right amp operatorname st left frac 2x cdot dx dx 2 dx right amp operatorname st left frac 2x cdot dx dx frac dx 2 dx right amp operatorname st left 2x dx right amp 2x end aligned karhaxnuphnthaelaxnuphnthkarhaxnuphnth epnkarkhanwnephuxthicaidmasungxnuphnth xnuphnthkhxngfngkchn y f x khxngtwaepr x khuxxtrathikha y khxngfngkchnepliynaeplngiptxkarepliynaeplngkhxngtwaepr x eriykwa xnuphnthkhxng f ethiybkb x tha x aela y epncanwncring aelathakrafkhxngfngkchn f lngcudethiybkb x xnuphnthkkhuxkhwamchnkhxngesnkrafinaetlacud khwamchnkhxngfngkchnechingesn m DyDx displaystyle m frac Delta y Delta x krnithingaythisud nxkehnuxcakkrnikhxngfngkchnkhngtw khuxemux y epnfngkchnechingesnkhxng x sunghmaythungkrafkhxng y caepnesntrng inkrnini y f x m x b sahrbcanwncring m aela b aelakhwamchn m sungkahndodykarepliynaeplngkhxng y hardwykarepliynaeplngkhxng x dngsmkar m DyDx displaystyle m frac Delta y Delta x emuxsylksn D edlta aethnkhawa karepliynaeplng sutrniepncring ephraawa y Dy f x Dx m x Dx b mx mDx b y mDx displaystyle y Delta y f left x Delta x right m left x Delta x right b mx m Delta x b y m Delta x ephraachann caid y Dy y mDx displaystyle y Delta y y m Delta x thaihid Dy mDx displaystyle Delta y m Delta x sung m epnkhathithuktxngkhxngkhwamchnkhxngesnkraf thafngkchn f imepnfngkchnechingesn klawkhux krafkhxngmnimepnesntrng aelwkarepliynaeplngkhxng y hardwykarepliynaeplngkhxng x camikhaaetktangknxxkip karhaxnuphnthcungepnwithikarthicahakhathithuktxngkhxngxtrakarepliynaeplngthikhatwaeprtn x id xtrakarepliynaeplngthihacakkhalimitrupthi 1 thi x f x rupthi 2 khxngswnokhng y f x kahndodycud x f x aela x h f x h rupthi 3 esnsmphskhuxlimitkhxngesntdrupthi 4 phaphekhluxnihw esnsmphs xnuphnth thihacaklimitkhxngesntd aenwkhidni sungaesdngdngrupthi 1 thungrupthi 3 khuxkarkhanwnxtrakarepliynaeplngcakkhalimitkhxngxtraswnkhxngphltang Dy Dx emux Dx ekhaiklkhathinxymak sykrn misykrnsahrbxnuphnthsxngaebbthiichknodythwip aebbhnungmacakilbnis aelaxikaebbhnungmacaklakrangc xnuphnthxikaebbhnungsungkhidkhunodyniwtnmiichbanginsakhafisiks in karepliynaeplngthinxymakkhxng x aesdngidepn dx aelaxnuphnthkhxng y ethiybkb x ekhiyniddngni dydx displaystyle frac dy dx aesdngthungxtraswnkhxngprimanthinxymaksxngpriman khangbnxanwa xnuphnthkhxng y ethiybkb x hrux d y bay d x rupaebb d y d x niichkninkarsnthnaxyangbxykhrng aetmnxacthaihsbsnid swn xnuphnthkhxngfngkchn f x ethiybkb x aesdngidepn f x xanwa f iphrmkhxng of x hrux fx x xanwa f iphrm x khxng x aelainsykrnkhxngniwtn xnuphnthkhxngfngkchnekhiynaethndwycudbntwaeprtam nnkhux tha y epnfngkchnkhxng t aelwxnuphnthkhxng y ethiybkb t caekhiynaethndwy y displaystyle dot y inkhnathixnuphnthxndbthisungkhuncaephimcanwncud echn y y displaystyle ddot y overset y sykrnniniymichsahrbtwaeprtamthikhunkbewla xtraswnechingphltangkhxngniwtn esntdekhaiklesnsmphsemux Dx 0 displaystyle Delta x to 0 xnuphnthkhxngfngkchn f thi x inechingerkhakhnit khux khwamchnkhxngesnsmphskhxngkraf f thi x eraimsamarthhakhwamchnkhxngcakfngkchnthikahndihodytrngid ephraawaeraruephiyngcudbnesnsmphs sungkkhux x f x ethann inthangxun eracapramankhwamchnkhxngesnsmphsdwy secant line hlay esn thimicudtdthng 2 cudxyuhangknepnrayathangsn emuxhakhxngkhwamchnkhxngesntdthicudtdxyuiklknmak eracaidkhwamchnkhxngesnsmphs dngnn xacniyamxnuphnthwakhux limitkhxngkhwamchnkhxngesntdthiekhaiklesnsmphs ephuxhakhwamchnkhxngesntdthicudtdxyuiklknmak ih h epncanwnthimikhanxy h caaethnkarepliynaeplngnxy in x sungcaepncanwnbwkhruxlbkid dngnn khwamchnkhxngesnthilakphancud x f x aela x h f x h khux f x h f x h displaystyle f x h f x over h sungniphcnnikkhux khxngniwtn Newton s difference quotient xnuphnthkhxng f thi x khux limitkhxngkhakhxngphlharechingphltang khxngesntdthiekhaiklknmak cnepnesnsmphs f x limh 0f x h f x h displaystyle f x lim h to 0 f x h f x over h swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidtwxyang fngkchnkalngsxng fngkchnkalngsxng f x x2 haxnuphnthidthi x 3 aelaxnuphnthkhxngmnthitaaehnngnnethakb 6 phllphthnimacakkarkhanwnlimitkhxngxtraswnkhxngphltangkhxng f 3 emux h ekhaiklsuny f 3 limh 0f 3 h f 3 h limh 0 3 h 2 32h limh 09 6h h2 9h limh 06h h2h limh 0 6 h displaystyle begin aligned f 3 amp lim h to 0 frac f 3 h f 3 h lim h to 0 frac 3 h 2 3 2 h 10pt amp lim h to 0 frac 9 6h h 2 9 h lim h to 0 frac 6h h 2 h lim h to 0 6 h end aligned niphcnsudthayaesdngihehnwaxtraswnkhxngphltangethakb 6 h emux h 0 aelaimniyamemux h 0 enuxngcakniyamkhxngxtraswnkhxngphltang xyangirktam niyamkhxnglimitklawwaxtraswnkhxngphltangimcaepntxngniyamemux h 0 limitkkhuxphllphthcakkarih h ekhasusuny sunghmaythungaenwonmkhxngkha 6 h emux h mikhanxylngmak limh 0 6 h 6 0 6 displaystyle lim h to 0 6 h 6 0 6 dngnn khwamchnkhxngkrafkhxngfngkchnkalngsxngthicud 3 9 khux 6 aelaxnuphnthkhxngmnthi x 3 khux f 3 6 txipniepnkarkhanwninthanxngediywkninkrnithwip sungaesdngihehnwaxnuphnthkhxngfngkchnkalngsxngthi x a khux f a 2a f a limh 0f a h f a h limh 0 a h 2 a2h limh 0a2 2ah h2 a2h limh 02ah h2h limh 0 2a h 2a displaystyle begin aligned f a amp lim h to 0 frac f a h f a h lim h to 0 frac a h 2 a 2 h 0 3em amp lim h to 0 frac a 2 2ah h 2 a 2 h lim h to 0 frac 2ah h 2 h 0 3em amp lim h to 0 2a h 2a end aligned khwamtxenuxngaelakarhaxnuphnthid tha f epnfngkchnthihaxnuphnth n a id f catxngtxenuxngthi a esmx tha f imtxenuxngthi a cahaxnuphnthimid twxyangechn eluxkcud a aelaih f epnfngkchnkhnbnidthimikha 1 sahrb x thnghmdthinxykwa a aelamikha 10 sahrb x thnghmdthimakkwahruxethakb a aelw f imsamarthmixnuphnthidthi a odyhak h epnkhalb a h caxyuthiswnlangkhxngkhnbnid dngnnesntdcak a thung a h nnsungchnmakaelaemux h miaenwonmepnsunykhwamchncaimmithisinsud hak h epnkhabwk a h caxyubnswnsungkhxngkhnbnid dngnnesntdcak a thung a h mikhwamchnepnsuny dngnnesntdcungimidekhaiklkhwamchnediyw aelalimitkhxngxtraswnkhxngphltangcungimsamarthhaid xyangirktam thungaemwafngkchncatxenuxng n cudhnung kyngxacimsamarthhaxnuphnthid twxyangechnfngkchnkhasmburn f x x txenuxngthi x 0 aetimsamarthhaxnuphnthid hak h epnkhabwkkhwamchnkhxngesntdcak 0 thung h caethakb 1 inkhnathitha h epnlbkhwamchnkhxngesntdcak 0 thung h caepn 1 cudthihaxnuphnthimidnisamarthehnidchdecnwaepnmuminkrafthi x 0 aetaemfngkchnthikrafimhkmumkyngxaccaimsamarthhaxnuphnthid n cudthikhwamchnepnaenwtng twxyangechnfngkchnthikahndody f x x1 3 imsamarthhaxnuphnthidthi x 0 srupwa fngkchnthimixnuphnthnntxenuxng aetmifngkchntxenuxngthiimmixnuphnth fngkchnswnihythiphbinthangptibtimixnuphnththukcudhruxekuxbthukcud ephraaehtuni inchwngaerkkhxngprawtisastrkhxngaekhlkhuls nkkhnitsastrhlaykhnsnnisthanwafngkchntxenuxngmixnuphnththicudswnihy sungphayitenguxnikhthiimrunaerngmak echnthafngkchnepnfngkchnomonothnhruxfngkchnlipchits singnicaepncring xyangirktaminpi 1872 iwexxrchtras phbtwxyangaerkkhxngfngkchnthitxenuxngidthukthi aetimsamarthhaxnuphnthidthiihn twxyangnieriykwa inpi 1931 setfan banakh phisucnwaestkhxngfngkchnthimixnuphnthinbangcudepnephiyngswnelk khxngfngkchntxenuxngthnghmd hmaykhwamwakarsumfngkchntxenuxngid aethbimmioxkaselythicahaxnuphnthidaemcudediywxnuphnthinthanafngkchnthafngkchn f samarthhakhaxnuphnthidinthukcudinodemnkhxngmn erasamarthniyamfngkchnthiphakha x thukkhainodemnnniphakhakhxngxnuphnthkhxng f thi x id fngkchnniekhiynaethndwy f aelaeriykwa fngkchnxnuphnth khxng f inkrnithi f imsamarthhaxnuphnthidkhrbthukcudinodemn fngkchnthimikhaethakbxnuphnthnisahrbcudthihaid aelaimniyamsahrbcudxun ksamartheriykwaxnuphnthkhxng f idechnkn sungxnuphnthniyngkhngepnfingkchn aetmiodemnelkkwa f cakmummxngni erasamarthmxngkarhaxnuphnthepnfngkchnkhxngfngkchn nnkhux xnuphnthepntwdaeninkarthimiodemnepnestkhxngfngkchnthukfngkchnthihaxnuphnthidthukcudbnodemnkhxngtwmnexng aelamiepnestkhxngfngkchn hakeraaethntwdaeninkarnidwy D aelwcaid D f f enuxngcak D f epnfngkchn samarthhakhathicd a id idwa D f a f a aesdngkhwamchninaetlacudkhxngfngkchn f x 1 xsin x2 displaystyle scriptstyle f x 1 x sin x 2 sungcasngektehnidwaesnthiaesdngkhwamchnthicudidcasmphs tangent kbkrafkhxngfngkchnthicudnn khwamchninthinikkhuxxnuphnthkhxngfngkchnnnexng hmayehtu siekhiyw khux khwamchnepnbwk siaedng khux khwamchnepnlb sida khux khwamchnepnsunyxnuphnthxndbsunghak f epnfngkchnthihaxnuphnthid ody f epnxnuphnthkhxng f aelwxnuphnthkhxng f xikthihnung thaxnuphnthnihaid ekhiynaethndwy f aelaeriykwa xnuphnthxndbsxng khxng f inthanxngediywkn xnuphnthkhxng f thahaid ekhiynaethndwy f aelaeriykwa xnuphnthxndbsam khxng f emuxthaechnnisaiperuxy erakcaidniyamkhxng xnuphnthxndbthi n waepnxnuphnthkhxngxnuphnthxndbthi n 1 xnuphnthxndbtngaetsxngkhunipniodyrwmeriykwa xnuphnthxndbsung xngkvs higher order derivatives xnuphnthxndbsungminysakhyinwichafisiks klawkhux tha x t aesdngtaaehnngkhxngwtthuthiewla t aelwxnuphnthxndbhnungkhxng x aesdngkhwamerwkhxngwtthu aelaxndbsxngaesdngkhwamerng fngkchnthimixnuphnthimcaepntxngmixnuphnthxndbsungkwann echn hak f x x2 x 0 x2 x 0 displaystyle f x begin cases x 2 amp x geq 0 x 2 amp x leq 0 end cases aelwcasamarthphisucnidwa f haxnuphnthidethakb f x 2x x 0 2x x 0 displaystyle f x begin cases 2x amp x geq 0 2x amp x leq 0 end cases ethakbsxngethakhxngfngkchnkhasmburn sungimmixnuphnththi x 0 dngnn f immixnuphnthxndbsxngthikha x ni inthanxngediywkn fngkchnsamarthmixnuphnthkhunipthungxndbthi k aetimmixnuphnthxndbthi k 1 sungeriykwafngkchnthihaxnuphnthid k khrng aelathaxnuphnthxndbthi k nitxenuxngdwy caeriykfngkchnnnwaxyuinkhlas Ck fngkchnthihaxnuphnthideruxy odyimcakdkhrngeriykwa fngkchnprberiyb xngkvs smooth function fngkchnphhunamthukfngkchnsamarthhaxnuphnthidimcakdkhrng odythaphhunamdikri n thukhaxnuphnth n khrngcaidfngkchnkhakhngthiesmx aelaxnuphnthxndbthdcaknnkcaepnsunythukxndb dngnnfngkchnphhunamthukfngkchnepnfngkchnprberiyb cudepliynewa cudthixnuphnthxndbsxngkhxngfngkchnepliynekhruxnghmay cakcanwncringlbepncanwncringbwk hruxinthangklbkn eriykwa cudepliynewa thicudepliynewa xnuphnthxndbsxngxacepnsuny dnginkrnithicudepliynewathi x 0 khxngfngkchn y x3 hruxxnuphnthxndbsxngxachakhaimid dnginkrnithicudepliynewathi x 0 khxngfngkchn y x1 3 fngkchncaepliyncakipepnhruxinthangklbknthicudepliynewaraylaexiydsykrnsykrnkhxngilbnis sylksn dx dy aela dx dy esnxodykxththfrid wilehlm ilbnis in kh s 1675 sylksnniichknxyangthwipemuxsmkar y f x sungaesdngthungkhwamsmphnthechingfngkchnrahwang xnuphnthxndbhnungekhiyniddngni dydx dfdx x orddxf x displaystyle frac dy dx quad frac df dx x mathrm or frac d dx f x xnuphnthxndbsungcaaesdngodyichsylksn dnydxn dnfdxn x ordndxnf x displaystyle frac d n y dx n quad frac d n f dx n x mathrm or frac d n dx n f x sahrbxnuphnthxndbthi n khxng y f x ethiybkb x khangbnepnsylksnyxkhxngkarichtwdaeninkarxnuphnthhlaytw yktwxyangechn d2ydx2 ddx dydx displaystyle frac d 2 y dx 2 frac d dx left frac dy dx right insykrnkhxngilbnis erasamarthekhiynxnuphnthkhxng y thicud x a inrupthiaetktangknsxngaebb dydx x a dydx a displaystyle left frac dy dx right x a frac dy dx a sykrnkhxngilbnischwyihsamarthrabutwaeprinkarhaxnuphnthid intwswn odyechphaaineruxng aelayngthaihngaytxkarcakdlukosxikdwy dydx dydu dudx displaystyle frac dy dx frac dy du cdot frac du dx sykrnkhxnglakrangc inbangkhrngeraeriykwa sykrniphrm hnunginsykrnyukhihmthiichknmakthisudsahrbkarhaxnuphnth sungmacakochaesf hluys lakrxngch odyich klawkhux xnuphnthkhxngfngkchn f x ekhiynidinrup f x hrux f inthanxngediywknxnuphnthxndbsxngaelasamkekhiynidinrupdngni f f displaystyle f f aela f f displaystyle f f ephuxthicaekhiynxnuphnthxndbthisungkwani phuekhiynbangkhnkcaichelkhormnepntwyk hruxbangkhnxacichcanwnnbinwngelb fiv displaystyle f mathrm iv hrux f 4 displaystyle f 4 sykrndanhlng thaxyuinrupthwipkkhux f n sahrbxnuphnthxndb n khxng f sykrnnimipraoychnmakthisudemuxeratxngkarcaklawthungxnuphnthinxyuinrupfngkchnkhxngmnexng dngechninkrnini sykrnilbnisxacklayepneruxngyungyak sykrnkhxngniwtn sykrnkhxngniwtnsahrbkarhaxnuphnth eriykidxikxyanghnungwasykrncud odykarekhiyniwehnuxchuxfngkchnephuxaethncanwnkhrngkhxngxnuphnth tha y f t aelw y displaystyle dot y aela y displaystyle ddot y hmaythung xnuphnthxndbhnungaelasxngkhxng y ethiybkb t tamladb sykrnninaipichxyangechphaathangxyangechn xnuphnthethiybkbewla hruxethiybkbkhwamyawswnokhng sungichknthwipinfisiks smkarechingxnuphnth aela odysykrnniimsamarththicaekhiynidemuxxnuphnthmixndbthisungkhun inthangpt bti caichephiyngxnuphnthimkixndbthicaepnethann sykrnkhxngxxyelxr sykrnkhxngxxyelxrcaich D sungcaichkbfngkchn f ephuxthicaidxnuphnthxndbhnung Df swnxnuphnthxndbsxngekhiynidinrup D2f aelaxnuphnthxndb n ekhiynidinrup Dnf tha y f x epntwaeprtam aelw x caepntwhxyxyuit D ephuxbngbxkwakalngethiybkbtwaeprtn x dngkhanglang Dxy displaystyle D x y hrux Dxf x displaystyle D x f x aettwhxy x mkcathuklaiwinthanthiekhaicephuxkhwamrwderw emuxmitwaeprtnnixyutwediyw sykrnkhxngxxyelxrmipraoychninkaraekkdkarkhanwnkdsahrbfngkchnphunthan karhaxnuphnthkhxngelkhykkalng thaf x xr displaystyle f x x r emux r epncanwncringid aelw f x rxr 1 displaystyle f x rx r 1 emuxirktamthifngkchnnisamarthhakhaid twxyangechn tha f x x1 4 displaystyle f x x 1 4 aelw f x 1 4 x 3 4 displaystyle f x 1 4 x 3 4 aelafngkchnxnuphnthsamarthhakhaidechphaasahrbkha x thiepnbwk imich x 0 emux r 0 kdnicaihkha f x epnsunysahrb x 0 sungkrninikkhuxkdkhakhngthi kdkhakhngthi tha f x khuxkhakhngthi aelwf 0 displaystyle f 0 fngkchnexksophennechiylaelalxkarithum ddxex ex displaystyle frac d dx e x e x ddxax axln a displaystyle frac d dx a x a x ln a ddxln x 1x x gt 0 displaystyle frac d dx ln x frac 1 x qquad x gt 0 ddxloga x 1xln a displaystyle frac d dx log a x frac 1 x ln a fngkchntrioknmiti ddxsin x cos x displaystyle frac d dx sin x cos x ddxcos x sin x displaystyle frac d dx cos x sin x ddxtan x sec2 x 1cos2 x 1 tan2 x displaystyle frac d dx tan x sec 2 x frac 1 cos 2 x 1 tan 2 x cakkdphlkhunaelakdphlharthaihid ddxcsc x csc xcot x displaystyle frac d dx csc x csc x cot x ddxsec x sec xtan x displaystyle frac d dx sec x sec x tan x ddxcot x csc2 x displaystyle frac d dx cot x csc 2 x fngkchntrioknmitiphkphn ddxarcsin x 11 x2 1 lt x lt 1 displaystyle frac d dx arcsin x frac 1 sqrt 1 x 2 1 lt x lt 1 ddxarccos x 11 x2 1 lt x lt 1 displaystyle frac d dx arccos x frac 1 sqrt 1 x 2 1 lt x lt 1 ddxarctan x 11 x2 displaystyle frac d dx arctan x frac 1 1 x 2 kdsahrbfngkchnhlayfngkchnrwmkn inhlaykrni karichwithixtraswnechingphltangkhxngniwtnaebbtrng cathaihkarkhanwnlimityungyakid sunghlikeliyngodykarichkdkarhaxnuphnthehlani af bg af bg displaystyle alpha f beta g alpha f beta g sahrbfngkchnthnghmd f aela g aelacanwncringthnghmd a displaystyle alpha aela b displaystyle beta kdphlkhun fg f g fg displaystyle fg f g fg sahrbfngkchnthnghmd f aela g inkrniphiess kdnirwmthungkhxethccringthiwa af af displaystyle alpha f alpha f emuxirktamthi a displaystyle alpha epnkhakhngthi ephraawa a f 0 f 0 displaystyle alpha f 0 cdot f 0 cakkdkhakhngthikdphlhar fg f g fg g2 displaystyle left frac f g right frac f g fg g 2 sahrbfngkchnthnghmd f aela g khxngtwaeprtnthnghmdodythi g 0 kdlukos tha f x h g x displaystyle f x h g x aelwf x h g x g x displaystyle f x h g x cdot g x twxyangkarkhanwn xnuphnthkhxng f x x4 sin x2 ln x ex 7 displaystyle f x x 4 sin x 2 ln x e x 7 khux f x 4x 4 1 d x2 dxcos x2 d ln x dxex ln x d ex dx 0 4x3 2xcos x2 1xex ln x ex displaystyle begin aligned f x amp 4x 4 1 frac d left x 2 right dx cos x 2 frac d left ln x right dx e x ln x frac d left e x right dx 0 amp 4x 3 2x cos x 2 frac 1 x e x ln x e x end aligned inphcnthisxngkhxng f khanwnodyichkdlukos aelaphcnthisamichkdphlkhun nxkcakniyngichkdkarhaxnuphnthsahrbfngkchnphunthan idaek x2 x4 sin x ln x aela exp x ex rwmthungkhakhngthi 7 inphcnsudthaythwipswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidduephimsthaniyxykhnitsastrkniknnt khnitwiekhraah ptiyanuphnth priphnth twphkphnkarkhunhmayehtuDifferential calculus as discussed in this article is a very well established mathematical discipline for which there are many sources See Apostol 1967 Apostol 1969 and Spivak 1994 In the formulation of calculus in terms of limits the du symbol has been assigned various meanings by various authors Some authors do not assign a meaning to du by itself but only as part of the symbol du dx Others define dx as an independent variable and define du by du dx f x In du is defined as an infinitesimal It is also interpreted as the of a function u See for further information xangxingGonick 2012 p 83 sfn error no target CITEREFGonick2012 Gonick 2012 p 88 Strang et al 2023 p 234 Gonick 2012 pp 77 80 sfn error no target CITEREFGonick2012 Thompson 1998 pp 84 85 sfn error no target CITEREFThompson1998 Keisler 2012 pp 902 904 sfn error no target CITEREFKeisler2012 Banach S 1931 Uber die Baire sche Kategorie gewisser Funktionenmengen Studia Math 3 174 179 Cited by Hewitt E Stromberg K 1963 Real and abstract analysis Springer Verlag Theorem 17 8 Apostol 1967 4 18harvnb error no target CITEREFApostol1967 Manuscript of November 11 1675 Cajori vol 2 page 204 The Notation of Differentiation MIT 1998 subkhnemux 24 October 2012 Evans Lawrence 1999 Partial Differential Equations American Mathematical Society p 63 ISBN 0 8218 0772 2 Kreyszig Erwin 1991 Differential Geometry New York Dover p 1 ISBN 0 486 66721 9 aehlngkhxmulxunHazewinkel Michiel b k 2001 Derivative ISBN 978 1 55608 010 4 Newton Leibniz and Usain Bolt exrik dbebilyu iwssitn Derivative cakaemthewild Online Derivative Calculator from bthkhwamkhnitsastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk