การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ (อังกฤษ: royal intermarriage) คือการแต่งงานระหว่างสมาชิกของราชวงศ์ผู้ปกครองสองราชวงศ์ ซึ่งในอดีตถือเป็นยุทโธบายทางการทูตที่ใช้กันโดยทั่วไปเพื่อ ในบางครั้งการเสกสมรสนี้เกิดขึ้นด้วยการบังคับใช้กระบวนการทางกฎหมายต่อบุคคลผู้สืบเชื้อสายราชวงศ์ และในหลาย ๆ ครั้งเกี่ยวข้องกับนโยบายทางการเมืองและ/หรือขนบธรรมเนียมของระบอบราชาธิปไตยเสียเป็นส่วนใหญ่
ในทวีปยุโรป การเสกสมรสในลักษณะนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่สมัยกลางจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในขณะที่หลักฐานของการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ในส่วนอื่น ๆ ของโลก สามารถสืบค้นย้อนไปได้ไกลที่สุดถึงยุคสัมฤทธิ์ ซึ่งบ่อยครั้งที่พระมหากษัตริย์ในอดีตมักจะพยายามแผ่ขยายราชวงศ์ของพระองค์ออกไปทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นสายสัมพันธ์ทางเครือญาติซึ่งเกิดจากการเสกสมรสนี้ จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยทั้งกระตุ้นและยับยั้งความขัดแย้งและการรุกรานระหว่างรัฐ ทั้งยังช่วยริเริ่ม ส่งเสริม และรับประกันสันติภาพระหว่างรัฐได้อีกด้วย นอกจากนี้สายสัมพันธ์ทางเครือญาติจากการเสกสมรสยังสามารถรักษามิตรไมตรีของสองราชวงศ์ ที่ต่างพยายามหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากการรุกรานและความขัดแย้งอันมีชนวนเหตุมาจากการยุยงของราชวงศ์ที่สาม พร้อมเสริมสร้างโอกาสที่จะผนวกรวมดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนจากการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมายเหนือราชบัลลังก์ หรือแม้กระทั่งการอ้างสิทธิ์เหนือส่วนหนึ่งของรัฐ เช่น อาณานิคม ผ่านการรับช่วงสืบทอดอำนาจการปกครองในกรณีที่รัฐนั้นเกิดปัญหาไร้รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์องค์ก่อนหน้าไม่มีรัชทายาทเพศชายไว้สืบทอดราชสมบัติโดยปราศจากข้อกังขาได้
ในบางส่วนของทวีปยุโรป ราชวงศ์ต่าง ๆ ยังคงนิยมเสกสมรสระหว่างกันเป็นปกติ (สมาชิกราชวงศ์เสกสมรสกับตระกูลขุนนางต่าง ๆ ภายในรัฐ) ไปจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 16 และนับแต่นั้นเป็นต้นมา จึงเริ่มหันมานิยมการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ของรัฐอธิปไตยต่าง ๆ มากขึ้น แต่ในส่วนอื่น ๆ ของโลก การเสกสมรสเช่นนี้กลับได้รับความนิยมน้อยกว่ามากและเริ่มลดจำนวนลงตามกาลเวลาที่ผ่านไป หรือแปรเปลี่ยนไปตามขนบธรรมเนียมและนโยบายการต่างประเทศในขณะนั้น
การเสกสมรสในฐานะนโยบายการต่างประเทศ
ในอุดมคติของวัฒนธรรมตะวันตกร่วมสมัย การเสกสมรสคือสายสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างคู่รักสองคน ในขณะที่ครอบครัวซึ่งสายเลือดและการสืบสกุลคือจุดศูนย์กลางของอำนาจและมรดกตกทอด (เช่น พระราชวงศ์ของกษัตริย์) มักมองการแต่งงานในรูปแบบที่ต่างออกไป บ่อยครั้งที่มักจะมีภาระความรับผิดชอบทางการเมืองหรือที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรักใคร่ให้ต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นว่าที่คู่ครองในอนาคตจึงต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในรายละเอียดเกี่ยวกับฐานะความมั่งคั่งและอำนาจบารมี เป็นผลให้การเสกสมรสด้วยเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือการทูต คือรูปแบบที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในชนชั้นผู้ปกครองของยุโรปมานานนับศตวรรษ
ทวีปยุโรป
สมัยกลางและสมัยใหม่ช่วงต้น
การเลือกคู่อภิเษกสมรสอย่างถี่ถ้วนมีความสำคัญต่อการดำรงสถานะราชวงศ์ เช่น ในดินแดนบางแห่ง หากเจ้าชายหรือพระราชาเสกสมรสกับสามัญชนผู้ไม่มีเชื้อสายราชวงศ์ และแม้ว่าบุตรธิดาคนแรกอันประสูติแด่เจ้าชายหรือพระราชาจะเป็นรับรู้กันโดยทั่วไปแล้วก็ตาม บุตรธิดาคนดังกล่าวอาจไม่มีสิทธิ์อ้างตนเป็นเชื้อขัตติยราชสกุลตามพระบิดาได้เลย
ตามประเพณีแล้ว การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์มีปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบสำคัญหลายประการ เช่น ความกว้างใหญ่ของอาณาเขตพื้นที่ที่ราชวงศ์นั้นปกครองหรือควบคุมอยู่ หรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องอีกประการหนึ่งก็คือเสถียรภาพในการปกครองดินแดนของตน เนื่องจากราชวงศ์ต่าง ๆ มักมีท่าทีบ่ายเบี่ยงหากอีกราชวงศ์ที่จะร่วมเสกสมรสด้วยนั้นเผชิญกับความไม่แน่นอนในการปกครอง พันธมิตรทางการเมืองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะการเสกสมรสเช่นนี้คือตัวแปรสำคัญที่จะช่วยผูกมัดเอาสองราชวงศ์และประเทศเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในยามสงบและยามศึกสงคราม อีกทั้งยังเป็นตัวแปรที่ช่วยตัดสินความเป็นไปทางการเมืองครั้งสำคัญ ๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ยังหมายถึงโอกาสที่ดินแดนจะตกไปอยู่การครอบครองของราชวงศ์อื่นอีกด้วย เช่นในกรณีที่รัชทายาทลำดับแรกสุดผู้ประสูติแด่พระราชบิดา-มารดาซึ่งฝ่ายหนึ่งสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ต่างชาติ เช่นในกรณีของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ที่แผ่ขยายอิทธิพลของตนผ่านการเสกสมรสกับราชวงศ์ต่าง ๆ และอภิสิทธิ์ทางการเมืองเหนือดินแดนที่ต่อมารวมกันเป็นสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ราชวงศ์นี้ยังมุ่งเน้นนโยบายการเสกสมรสกับราชวงศ์ในและชวาเบีย ซึ่งนโยบายการรวมดินแดนผ่านการเสกสมรสเช่นนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนก่อให้เกิดคำขวัญในภาษาละตินว่า Bella gerant alii, tu, felix Austria, nube! ("ปล่อยให้ผู้อื่นทำศึกสงครามไป ส่วนเธอ, ออสเตรียผู้แสนสุข, จงเสกสมรส!")
แต่ในบางกรณี พระมหากษัตริย์บางพระองค์ก็จะทรงทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ เช่นในกรณีของเจ้าหญิงมาเรีย เทเรส พระราชธิดาในพระเจ้าเฟลีเปที่ 4 แห่งสเปน เมื่อเสกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ทรงถูกบังคับให้สละราชสิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์สเปน และในบางกรณีเมื่อพระมหากษัตริย์หรือรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงยอมเสกสมรสแลกกับข้อตกลงพิเศษ (บางครั้งมาในรูปแบบสนธิสัญญา) จะมีการเจรจาตกลงในประเด็นการสืบราชสมบัติไว้ล่วงหน้า เช่น ข้อตกลงในการเสกสมรสระหว่างพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน และพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ ที่กำหนดไว้ว่ามรดกจากฝั่งพระมารดา เช่น เบอร์กันดีและกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ จะถูกมอบให้แก่พระราชโอรส-ธิดาของทั้งสองพระองค์ในอนาคต แต่มรดกในฝั่งของพระบิดา อันประกอบไปด้วยสเปน, เนเปิลส์, ซิซิลี และมิลาน จะตกทอดไปยังดอน การ์โลส พระราชโอรสองค์แรกในพระเจ้าเฟลีเปกับพระนางมารีอา มานูเอลาแห่งโปรตุเกส ซึ่งหากดอน การ์โลส สิ้นพระชนม์โดยปราศจากรัชทายาทแล้ว มรดกฝั่งพระบิดาจึงจะตกทอดไปยังพระราชโอรส-ธิดา อันประสูติจากการเสกสมรสครั้งที่สองกับพระนางแมรี ในทางกลับกัน การเสกสมรสระหว่างพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ กับพระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 แห่งฝรั่งเศส (พระราชโอรสและรัชทายาทของพระเจ้าอองรีที่ 2) ในปี พ.ศ. 2101 อันเป็นผลมาจาก กำหนดว่าหากพระราชินีนาถแมรีสวรรคตโดยปราศจากรัชทายาท จะส่งผลให้ราชบัลลังก์สกอตแลนด์ถูกรวมเข้ากับราชบัลลังก์ฝรั่งเศส
ศาสนามีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับวงการเมืองของยุโรป เช่น บทบาทสำคัญในระหว่างการเจรจาเพื่อจัดการเสกสมรสขึ้น การเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฝรั่งเศส มาร์เกอริตแห่งวาลัว กับพระเจ้าอองรีที่ 3 แห่งนาวาร์ (ผู้นำฝ่ายอูเกอโนต์ในฝรั่งเศส) ณ กรุงปารีส พ.ศ. 2105 ปรากฏชัดแจ้งว่าคือความพยายามในการ กระชับมิตร ระหว่างฝ่ายคาทอลิกและฝ่ายโปรเตสแตนท์ในฝรั่งเศส แต่ผลแท้จริงกลับเป็นเพียงกลอุบายลวงดังปรากฏเป็นเหตุการสังหารหมู่วันเซนต์บาโทโลมิว และภายหลัง คู่เสกสมรสระหว่างพระมหากษัตริย์อังกฤษกับเจ้าหญิงในรีตโรมันคาทอลิกมักไม่เป็นที่นิยม โดยเฉพาะในกรณีที่พระราชินีไม่ทรงยินยอมที่จะเปลี่ยนไปเข้ารีตโปรเตสแตนท์หลังการเสกสมรส หรืออย่างน้อยที่สุดทรงแอบประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของตนแบบลับ ๆ ซึ่งต่อมามีการผ่านพระราชบัญญัติว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ในปี พ.ศ. 2243 ที่จำกัดสิทธิ์รัชทายาทผู้เสกสมรสกับชาวคาทอลิกไม่ให้สืบราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษ ส่วนราชวงส์ผู้ปกครองอื่น ๆ อาทิเช่น ราชวงศ์โรมานอฟ และราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ที่ยินยอมให้มีการเสกสมรสก็ต่อเมื่อคู่เสกสมรสอยู่ในรีตเดียวกันอยู่แล้วหรือเต็มใจที่จะเปลี่ยนรีตของตน เช่น ในปี พ.ศ. 2469 เมื่อเจ้าหญิงอัสตริดแห่งสวีเดนเสกสมรสกับพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งเบลเยียม ที่ทรงตกลงว่าพระราชโอรส-ธิดาจะทรงได้รับการเลี้ยงดูแบบคาทอลิก แต่ไม่ได้กำหนดให้เจ้าหญิงอัสตริดต้องทรงสละรีตลูเทอแรนของพระองค์ แม้กระนั้นก็ยังทรงเปลี่ยนรีตในปี พ.ศ. 2473 นอกจากนี้คู่เสกสมรสบางคู่ถูกล้มเลิกเนื่องจากไม่สามารถประณีประนอมทางศาสนาได้ เช่น แผนการอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าวลาดิสเลาสที่ 4 วาซาแห่งโปแลนด์ (โรมันคาทอลิก) กับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งพาลาทิเนต (ลูเทอแรน) ที่ไม่เป็นที่นิยมชมชอบเนื่องจากขุนนางส่วนมากของโปแลนด์เข้ารีตคาทอลิก ดังนั้นแผนดังกล่าวจึงถูกตีตกไปอย่างเงียบ ๆ
ในบางครั้ง การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ผู้ปกครองกับบริวารใต้อาณัติก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไป เช่น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขีกับอิดิธแห่งเวสเซ็กซ์ และพระเจ้าวลาดิสเลาสที่ 2 ยากีลโลแห่งโปแลนด์กับเอลิซาเบธ กรานอฟสกา ที่รู้จักกันโดยทั่วไปในยุโรปสมัยกลาง อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ราชวงศ์ต่าง ๆ เริ่มหันเข้าสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเพื่อรักษาอำนาจบารมีและความจงรักภักดีในหมู่สมาชิกคู่แข่งของระบอบศักดินา สายสัมพันธ์ทางเครือญาติกับตระกูลขุนนางท้องถิ่นจึงค่อย ๆ หายไปในท้ายที่สุด เนื่องจากราชวงศ์ต่าง ๆ หันไปเสกสมรสกับราชวงศ์ต่างชาติมากขึ้น การเสกสมรสกับบริวารใต้ปกครองเช่นนี้ฉุดดึงเอาพระมหากษัตริย์ลงมาอยู่ระดับเดียวกับประชาชนในปกครองของพระองค์เอง และมักจะก่อให้เกิดความมักใหญ่ใฝ่สูงของครองครัวสามัญชนคู่เสกสมรส ทั้งยังก่อให้เกิดเรื่องราวความอิจฉาริษยาและการดูหมิ่นเหยียดหยามในหมู่ขุนนางศักดินา ส่วนความคิดที่ว่าพระมหากษัตริย์ควรเสกสมรสกับราชวงศ์หรือพระมหากษัตริย์ต่างชาติเพื่อหลีกเลี่ยงและยุติภัยสงครามนั้น แต่เดิมแนวคิดนี้มีจุดกำเนิดมาจากลัทธิปฏิบัตินิยม ซึ่งในช่วงที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กำลังรุ่งเรือง แนวคิดนี้มีส่วนช่วยให้เกิดแนวความคิดที่ว่าการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ผู้ปกครองกับสามัญชนใต้ปกครองของตนคือข้อเสียเปรียบทั้งทางด้านสังคมและการเมือง ซ้ำยังเป็นการละเลยโอกาสที่จะเสกสมรสกับราชวงศ์ต่างชาติให้หลุดลอยไปโดยไร้ประโยชน์
โรมันโบราณ
แม้จักรพรรดิโรมันมักจะเสกสมรสกับสตรีชาวโรมันด้วยกัน แต่กระนั้นราชวงศ์ผู้ปกครองรัฐบริวารที่อยู่ใต้อาณัติของโรมในแถบตะวันออกใกล้และแอฟริกาเหนือก็มักจะจัดการเสกสรมรสระหว่างราชวงศ์ขึ้นเพื่อสั่งสมฐานอำนาจของตน การเสกสมรสเหล่านี้มักจะต้องได้รับความเห็นชอบหรือในบางโอกาสจัดขึ้นตามพระราชโองการจากองค์จักรพรรดิ ฝ่ายโรมเห็นว่าการเสกสมรสเช่นนี้เท่ากับเป็นการเพิ่มพูนเสถียรภาพแก่บรรดารัฐบริวาร และช่วยป้องกันสงครามยิบย่อยที่จะเกิดขึ้นภายในท้องถิ่น อันจะส่งผลกระทบต่อสันติภาพโรมัน เจ้าหญิงกลาฟีราแห่งแคปพาโดเชีย (Glaphyra of Cappadocia) ได้ชื่อว่าทรงตระเตรียมการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ถึงสามครั้งให้แก่ พระเจ้าจูบาที่ 2 แห่งนูมิเดีย, พระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งยูเดีย และ เฮโรด อาร์เชเลาสแห่งซามาเรีย
ตัวอย่างของการเสกสมรสเช่นในนี้ในสมัยโรมันได้แก่
- พระเจ้าโพเลมอนที่ 2 แห่งโพนตัส กับ เบเรนิซแห่งยูเดีย (ธิดาของเฮโรด อะกริปพาที่ 1)
- พระเจ้าอะริสโตบูลัสที่ 4 แห่งยูเดีย กับ เบเรนิซแห่งยูเดีย (ธิดาของซาโลเม)
- พระเจ้าอะริสโตบูลัส ไมเนอร์แห่งยูเดีย กับ ไอโอทาพาแห่งเอมีซา
จักรวรรดิไบแซนไทน์
แม้ว่าจักรพรรดิบางองค์อย่าง และจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 จะเสกสมรสกับมเหสีผู้มีพื้นเพต่ำต่อย แต่การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติในจักรวรรดิไบแซนไทน์ ภายหลัง พ.ศ. 1747 ราชวงศ์ผู้ปกครองอย่างราชวงศ์ลาสคาริสและราชวงศ์พาลาโอโลกอสเห็นว่าเป็นการรอบคอบแล้วที่จะเสกสมรสกับราชวงศ์ต่างชาติ ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการเสกสมรสระหว่างจักรพรรดิจอห์นที่ 3 ดูคาส วาตัทซีส กับพระนางคอนสแตนซ์ พระธิดาในจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ต่อมาจักรพรรดิมิคาเอลที่ 8 พาลาโอโลกอส ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับชาวมองโกลในปี พ.ศ. 1806 และจัดการเสกสมรสระหว่างพระธิดาของพระองค์กับข่านของมองโกลเพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีดังกล่าว ประกอบด้วย เจ้าหญิงยูฟรอไซน์ พาลาโอโลกีนากับนอไก ข่านแห่งโกลเดนฮอร์ด และเจ้าหญิงมารีอา พาลาโอโลกีนากับอะบาคา ข่านแห่งจักรวรรดิข่านอิล ในช่วงท้ายคริสต์ศตวรรษดังกล่าว จักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 พาลาโอโลกอส ก็ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับกาวานแห่งจักรวรดิข่านอิล รวมถึงตอคตาและอุซเบก ข่านแห่งโกลเดนฮอร์ด นำมาซึ่งการเสกสมรสระหว่างพระธิดาของพระองค์กับบรรดาข่านเหล่านั้น
ผู้ปกครองแห่งได้ชื่อว่ามักจะจัดการเสกสมรสระหว่างพระธิดาของตนกับรัฐข้างเคียงในฐานะการเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูต เจ้าหญิงธีโอโดรา มากาเล คอมเนเน พระธิดาในจักรพรรดิจอห์นที่ 4 เสกสมรสกับอุซซุน ข่าน เจ้าแห่งอัค โคยุนลู เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างกัน ซึ่งแม้ว่าพระนางธีโอโดรา ผู้เป็นชาวคริสต์เคร่งศาสนาและจำต้องมาพำนักอยู่ในรัฐอิสลาม จะสามารถแผ่ขยายอิทธิพลของตนเหนือราชกิจของพระสวามีทั้งในและนอกประเทศได้สำเร็จ แต่สัมพันธไมตรีดังกล่าวจะไม่อาาจยับยั้งการล่มสลายของจักรวรรดิเทรบิซอนด์ได้ในท้ายที่สุดก็ตาม
และแม้ว่าการเสกสมรสเช่นนี้จะเป็นการเสริมสร้างสถานะของจักรวรรดิตามปกติ แต่ก็ปรากฏการเสกสมรสข้ามราชวงศ์ที่เป็นการบั่นทอนเสถียรภาพพระราชอำนาจขององค์จักรพรรดิเป็นบางกรณี เช่น เมื่อจักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 พาลาโอโลกอส เสกสมรสกับพระเมหสีองค์ที่ 2 พระนางไอรีนแห่งมอนต์เฟอร์แรต เนื่องจากในปี พ.ศ. 1827 พระนางสร้างความแตกแยกในจักรวรรดิจากพระประสงค์ที่จะให้พระโอรสของตนสืบทอดราชสมบัติร่วมกับเจ้าชายมิคาเอล พระโอรสอันประสูติแด่การเสกสมรสครั้งแรก พระนางยังทรงขู่ด้วยว่าจะเสด็จออกจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลอันเป็นเมืองหลวง ไปตั้งราชสำนักของตน ณ เมืองรองของจักรวรรดิอย่างเทสซาโลนีกา
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ในสมัยปัจจุบัน การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ลดจำนวนลงจากสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะในบรรดาราชวงศ์ของยุโรป เนื่องจากสมาชิกราชวงศ์ในยุโรปหันมาเสกสมรสกับสมาชิกตระกูลขุนนางท้องถิ่นมากขึ้น เช่นในกรณีของพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร, เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์, พระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม และเจ้าชายฮันส์-อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ หรือเสกสมรสกับสมาชิกตระกูลขุนนางที่ถูกล้มเลิก เช่น พระราชาธิบดีฟีลิปแห่งเบลเยียม, พระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ หรือแม้กระทั่งกับสามัญชนธรรมดา เช่น พระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน, พระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์, แกรนด์ดยุกอ็องรีแห่งลักเซมเบิร์ก, พระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 แห่งสเปน, พระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์, เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโก
ในยุโรป มีเพียงพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน, พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายอาโลอิส เจ้าชายรัชทายาทแห่งลิกเตนสไตน์ เท่านั้นที่เสกสมรสกับสมาชิกราชวงศ์ต่างชาติ
จึงกล่าวได้ว่าการเสกสมรสต่างราชวงศ์ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
การเสกสมรสระหว่างสองราชวงศ์ปกครอง
การเสกสมรสกับราชวงศ์ปกครอง
- เจ้าหญิงการอลีนแห่งโมนาโก และ เจ้าชายแอนสท์ ออกุสแห่งฮาโนเวอร์ (พ.ศ. 2542)
- เจ้าหญิงดอญามารีอาแห่งบูร์บง และ อาร์ชดยุกซีเมอ็องแห่งออสเตรีย (พ.ศ. 2539)
- เจ้าชายอาโลอิส เจ้าชายรัชทายาทแห่งลิกเตนสไตน์ และ ดัชเชสโซฟีในบาวาเรีย (พ.ศ. 2536)
- เจ้าหญิงอัสตริดแห่งเบลเยียม และ อาร์ชดยุกลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสเต (พ.ศ. 2527)
- เจ้าหญิงมารี-อัสตริดแห่งลักเซมเบิร์ก และ อาร์ชดยุกคาร์ลคริสตีอันแห่งออสเตรีย (พ.ศ. 2525)
- เจ้าหญิงบาร์บาราแห่งลิกเตนสไตน์ และ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งยูโกสลาเวีย (พ.ศ. 2516)
- เจ้าหญิงเบเนดิกเทอแห่งเดนมาร์ก และ เจ้าชายริชาร์ด เจ้าชายที่ 6 แห่งไซน์-วิตเกนสไตน์-เบอร์เลบูร์ก (พ.ศ. 2511)
- เจ้าหญิงไอรีนแห่งเนเธอร์แลนด์ และ การ์โลส อูโก ดยุกแห่งปาร์มา (พ.ศ. 2507)
- เจ้าหญิงบิร์กิตตาแห่งสวีเดน และ เจ้าชายโยฮันน์ จอร์จแห่งโฮเฮนโซลเลิร์น (พ.ศ. 2504)
- เจ้าหญิงอลิกซ์แห่งลักเซมเบิร์ก และ อ็องตวน เจ้าชายที่ 13 แห่งลีเญอ (พ.ศ. 2493)
กรณีตัวอย่างในปัจจุบัน
- เจ้าชายคะนุด เจ้าชายรัชทายาทแห่งเดนมาร์ก และ เจ้าหญิงคาโรไลน์-มาทิลด์แห่งเดนมาร์ก (พ.ศ. 2476)
และเนื่องจากการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์นี้ ทำให้พระประมุขยุโรปในปัจจุบัน 10 พระองค์มีบรรพบุรุษพระองค์เดียวกันคือโยฮัน วิลเลม ฟรีโซ เจ้าชายแห่งออร์เรนจ์
พระนาม | ประเทศ | ชั้นพระญาติ | บรรพบุรุษร่วมพระองค์ล่าสุด | วันสวรรคตของบรรพบุรุษ | ลำดับรุ่นทายาทนับจาก โยฮัน วิลเลม ฟรีโซ |
---|---|---|---|---|---|
พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 | สหราชอาณาจักร | - | - | - | รุ่นที่ 9 |
พระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 | นอร์เวย์ | ชั้นที่ 2 | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 | รุ่นที่ 10 |
พระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 | เดนมาร์ก | ชั้นที่ 3 | พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | 29 มกราคม พ.ศ. 2449 | รุ่นที่ 10 |
พระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ | สวีเดน | ชั้นที่ 3 | พระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร | 22 มกราคม พ.ศ. 2444 | รุ่นที่ 10 |
พระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 | สเปน | ชั้นที่ 3 | พระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร | 22 มกราคม พ.ศ. 2444 | รุ่นที่ 11 |
พระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 | เบลเยียม | ชั้นที่ 3 | พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | 29 มกราคม พ.ศ. 2449 | รุ่นที่ 10 |
แกรนด์ดยุกอ็องรี | ลักเซมเบิร์ก | ชั้นที่ 3 | พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | 29 มกราคม พ.ศ. 2449 | รุ่นที่ 10 |
พระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ | เนเธอร์แลนด์ | ชั้นที่ 5 | ดยุกฟรีดริชที่ 2 ออยเกินแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2340 | รุ่นที่ 10 |
เจ้าชายฮันส์-อาดัมที่ 2 | ลิกเตนสไตน์ | ชั้นที่ 7 | โยฮัน วิลเลม ฟรีโซ เจ้าชายแห่งออร์เรนจ์ | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2254 | รุ่นที่ 10 |
เจ้าชายอาลแบร์ที่ 2 | โมนาโก | ชั้นที่ 7 | โยฮัน วิลเลม ฟรีโซ เจ้าชายแห่งออร์เรนจ์ | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2254 | รุ่นที่ 11 |
ทวีปเอเชีย
ไทย
ในประวัติศาสตร์ ปรากฏการเสกสมรสในหมู่พระญาติของราชวงศ์จักรีหลายครั้ง แต่น้อยครั้งที่จะปรากฏการเสกสมรสระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่กับเชื้อพระวงศ์ต่างชาติ เนื่องจากกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 หมวดที่ 11 ต้องห้ามมิให้เจ้านายเชื้อพระวงศ์ที่มีพระชายาเป็นชาวต่างประเทศได้สืบราชสันตติวงศ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระญาติชั้นที่หนึ่ง (ตามแบบตะวันตก) กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทั้งสองพระองค์ต่างก็เป็นพระราชนัดดา (ในกรณีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) และพระปนัดดา (ในกรณีของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ) ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยกันทั้งสองพระองค์ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชายาหลายพระองค์ ในจำนวนนั้นมีศักดิ์เป็นพระขนิษฐาของพระองค์เอง เช่น สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา และสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ซึ่งล้วนแล้วแต่มีพระบิดาร่วมกันคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จีน
แบบแผนการเสกสมรสในประวัติศาสตร์จีนเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละยุคสมัยของแต่ละราชวงศ์ ในช่วงราชวงศ์ถัง (พ.ศ. 1161 - 1147) พระจักรพรรดิทรงมักจะมอบพระธิดาให้ไปเสกสมรสกับผู้ปกครองอาณาจักรข่านอุยกูร์ เพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีพิเศษทางการค้าและการทหาร หลังจากที่อาณาจักรข่านสนับสนุนจีนในการปราบปรามกบฏอันลู่เชียน ปรากฏเจ้าหญิงราชวงศ์ถังอย่างน้อย 3 พระองค์ที่ได้เสกสมรสกับพระเจ้าข่านในช่วง พ.ศ. 1301 ถึง พ.ศ. 1364 ก่อนที่สัมพันธไมตรีนี้จะถูกระงับลงชั่วคราวในปี พ.ศ. 1331 ซึ่งเชื่อกันว่ามีสาเหตุมากจากเสถียรภาพภายในจักรวรรดิจีนที่มั่นคงมาก จนส่งผลให้อาณาจักรข่านถูกลดบทบาทลง อย่างไรก็ตาม ด้วยภัยคุกคามจากทิเบตทางทิศตะวันตก จักรวรรดิจีนจึงต้องรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับข่านอุยกูร์ขึ้นมาอีกครั้ง และจัดการเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงไท้เห๋อกับข่านบิลเกอ
ส่วนพระจักรพรรดิของราชวงศ์ถัดมาอย่างราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503 - 1822) มีแนวโน้มที่จะเสกสมรสกับสตรีจีนมากกว่าสตรีต่างชาติ แม้ว่าในช่วงราชวงศ์ถังพระจักรพรรดินิยมเสกสมรสกับสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลขุนนาง แต่ในราชวงศ์ซ่งกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับยศฐาบรรดาศักดิ์ของสตรีที่จะมาเป็นพระมเหสีมากเท่าใดนัก ประมาณกันว่ามีพระมเหสีราชวงศ์ซ่งจำนวนหนึ่งในสี่เท่านั้นที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์ ส่วนจำนวนที่เหลือล้วนแล้วแต่มีพื้นเพต่ำต่อยมาก่อน ตัวอย่างเช่น จักรพรรดินีหลิว พระอัครมเหสีในจักรพรรดิซ่งเจินจง ที่เคยเป็นนักแสดงตามท้องถนนมาก่อน หรือพระมเหสีเหมียวในจักรพรรดิซ่งเหรินจง ผู้เป็นธิดาของพระนม (แม่นม) ของพระจักรพรรดิเอง
ในช่วงราชวงศ์ชิง (พ.ศ. 2187 - 2455) พระจักรพรรดิทรงเลือกพระมเหสีจากหนึ่งในตระกูลของแปดกองธงเป็นหลัก (ระบบซึ่งแบ่งแยกตระกูลชาวแมนจูพื้นเมืองออกเป็นกลุ่มกอง) เพื่อดำรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในเชื้อสายชาวแมนจูของราชวงศ์ ซึ่งหลังจากที่จักรพรรดิคังซี (พ.ศ. 2205 - 2265) เสด็จสวรรคต จักรพรรดิและเจ้าชายในรุ่นต่อมาก็ทรงถูกห้ามไม่ให้เสกสมรสกับสตรีที่ไม่ใช่ชาวแมนจู แต่ไม่ได้จำกัดการเสกสมรสของเจ้าหญิงตามกฏนี้แต่ประการใด แม้กระนั้นก็ตาม เจ้าหญิงหลายพระองค์ก็ทรงถูกจัดการเสกสมรสกับเจ้าชายมองโกลอยู่เสมอ ๆ ตามแบบขนบราชวงศ์ก่อนหน้า เพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีทางการเมืองและการทหาร โดยเฉพาะในช่วงต้นของราชวงศ์ที่ปรากฏการเสกสมรสกับเจ้าชายมองโกลของพระธิดาในจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาชื่อจำนวน 9 พระองค์ และพระธิดาในจักรพรรดิฉงเต๋อจำนวน 12 พระองค์
ญี่ปุ่นและเกาหลี
ในสมัยอาณาจักรชิลลา มีขนบธรรมเนียมที่จำกัดการสืบราชสมบัติไว้สำหรับเชื้อพระวงศ์ในชั้น ซองกอล (กระดูกศักดิ์สิทธิ์) โดยเฉพาะ ดังนั้นเชื้อพระวงศ์ที่มีบรรดาศักดิ์ในชั้นนี้จึงต้องรักษาไว้ซึ่งบรรดาศักดิ์ของตนด้วยการเสกสมรสกับเชื้อพระวงศ์หรือสมาชิกขุนนางในชั้นเดียวกัน เช่นเดียวกับวิถีปฏิบัติในทวีปยุโรปที่เชื้อพระวงศ์มักจะเสกสมรสกับเชื้อพระวงศ์ด้วยกันเองเพื่อคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในสายพระโลหิต
ส่วนในญี่ปุ่น การเสกสมรสในหมู่เชื้อพระวงศ์ด้วยกันเองและกับเชื้อพระวงศ์ต่างชาติจากจักรวรรดิเกาหลีถือเป็นเรื่องปกติและไม่ได้สร้างความด่างพร้อยต่อสายพระโลหิตอันบริสุทธิ์แต่อย่างใด ตามพงศาวดาร ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยพระราชโองการของพระจักรพรรดิจนสำเร็จครบถ้วนในปี พ.ศ. 1340 กล่าวว่าจักรพรรดิคัมมุที่ทรงปกครองตั้งแต่ พ.ศ. 1324 ถึง พ.ศ. 1349 มีพระราชมารดาเป็นพระสนมชาวเกาหลีนามว่า พระนางนิอิงะซะแห่งทะกะโนะ ผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้ามูรยองแห่งแพ็กเจ หนึ่งในสามราชอาณาจักรเกาหลี
ในยุคสมัยใหม่ ในปี พ.ศ. 2463 มกุฎราชกุมารอีอึนแห่งเกาหลี เสกสมรสกับเจ้าหญิงมะซะโกะแห่งนะชิโมะโตะ และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2474 เจ้าชายอีกอน พระราชนัดดาในจักรพรรดิโกจง เสกสมรสกับมะซึดะอิระ โยะซิโกะ พระญาติของเจ้าหญิงมะซะโกะ ซึ่งทางการญี่ปุ่นมองว่าการเสกสมรสระหว่างเชื้อพระวงศ์ญี่ปุ่น-เกาหลีเช่นนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพในการปกครองอาณานิคมเกาหลีของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นการรวมสายพระโลหิตของราชวงศ์ญี่ปุ่นเข้ากับราชวงศ์อีของเกาหลีอีกด้วย
ทวีปแอฟริกา
การเสกสมรสในหมู่เชื้อพระวงศ์เดียวกันก็ถือเป็นเรื่องปกติในแอฟริกากลางเช่นเดียวกัน การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์สวาซิแลนด์ ราชวงศ์ชาวซูลู และราชวงศ์ชาวเทมบู ในแอฟริกาใต้ก็สามารถพบเห็นได้เป็นการทั่วไป เช่น ในปี พ.ศ. 2520 เซนานี แมนเดลา เชื้อพระวงศ์เทมบูและลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ เนลสัน แมนเดลา แต่งงานกับเจ้าชายทัมบูมูซี ดลามีนี พระอนุชาในพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์
กรณีตัวอย่างในประวัติศาสตร์การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ในแอฟริกา เช่น
- มันต์ฟอมบี ดลามีนี พระขนิษฐาในพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ และพระราชาธิบดีกูดวิลล์ ซเวเลตินีแห่งซูลู (พ.ศ. 2520)
- จักรพรรดิอูมาร์ ตอลล์แห่งตูคูเลอร์ และพระธิดาในสุลต่านมูฮัมเม็ด เบลโลแห่งโซโคโท
โลกมุสลิม
อัล-อันดาลัส
ในช่วงตั้งแต่การพิชิตอิสปาเนียของอุมัยยัด (Umayyad conquest of Hispania) จนถึงช่วงเรกองกิสตา การเสกสมรสระหว่างเชื้อพระวงศ์สเปนและรัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยัดถือเป็นเรื่องปกติ การเสกสมรสครั้งแรก ๆ เช่นระหว่างอับด์ อัล-อะซิส อิบน์ มูซา และเอกิโลนา ในช่วงเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 8 ที่หวังจะช่วยให้การยึดครองคาบสมุทรไอบีเรียของฝ่ายมุสลิมมีความชอบธรรม ส่วนการเสกสมรสในครั้งถัด ๆ มา มีจุดประสงค์ก็เพื่อตกลงในสนธิสัญญาการค้าระหว่างพระมหากษัตริย์ในศาสนาคริสต์และเคาะลีฟะฮ์มุสลิม เช่น การเสกสมรสระหว่างพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 แห่งลีออนและคาสตีล กับเซอีดาแห่งเซวิลล์ โดยเชื่อกันว่าเชื้อพระวงศ์ยุโรปส่วนมากมีบรรพบุรุษที่สามารถสืบค้นย้อนไปถึงครอบครัวของศาสดามูฮัมหมัด แต่ข้อสันนิษฐานนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงอยู่ในปัจจุบัน
จักรวรรดิออตโตมัน
ในจักรวรรดิออตโตมัน สุลต่านและเจ้าชายหลายพระองค์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 นิยมเสกสมรสดับสมาชิกราชวงศ์ปกครองของรัฐข้างเคียงโดยไม่สนใจในข้อจำกัดด้านศาสนา สุลต่านออตโตมันเสกสมรสกับทั้งชาวคริสต์และมุสลิมด้วยจุดประสงค์ทางการเมืองล้วน ๆ เนื่องจากออตโตมันรายล้อมไปด้วยรัฐข้างเคียงที่อาจเป็นศัตรูได้ในอนาคต เช่น ชาวคริสต์อย่างจักรวรรดิไบแซนไทน์หรือเซอร์เบีย หรือมุสลิมด้วยกันเองอย่างราชรัฐเบย์ลิกในอานาโตเลีย (Anatolian beyliks) ต่าง ๆ อาทิเช่น ดูลกาดิช, จาร์เมียนิดส์, ซารุคานิดส์ และคารามานิดส์ ดังนั้นการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์จึงเป็นหนทางในสร้างสัมพันธไมตรีกับรัฐเหล่านี้ แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2047 การเสกสมรสกับราชวงศ์ต่างชาติดูเหมือนจะหยุดชะงักลง โดยปรากฏการเสกสมรสเช่นนี้ครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 1978 ระหว่างสุลต่านมูรัดที่ 2 กับมารา บรานโควิช พระราชธิดาในพระเจ้าดูราด บรานโควิชแห่งเซอร์เบีย ซึ่ง ณ เวลานี้ จักรวรรดิออตโตมันได้สั่งสมฐานอำนาจมากพอที่จะผนวกรวมหรือปราบปรามบรรดารัฐคู่แข่งในอดีตได้สำเร็จ การเสกสมรสกับราชวงศ์ต่างชาติในฐานะเครื่องมือด้านนโยบายการต่างประเทศจึงหมดความสำคัญลง
เนื่องจากหลักศาสนาอิสลาม kafa'a ไม่สนับสนุนการแต่งงานกับบุคคลจากต่างศาสนาหรือจากต่างฐานันดร ดังนั้นผู้ปกครองของชาติมุสลิมในบริเวณใกล้เคียงจึงไม่ยอมมอบธิดาของตนให้เสกสมรสกับเจ้าชายออตโตมันไปจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 15 หลังจากที่จักรวรรดิออตโตมันสั่งสมอำนาจจนทวีความสำคัญขึ้นมา และด้วยหลักศาสนานี้เองที่ทำให้เจ้าชายออตโตมันสามารถเสกสมรสกับสตรีชาวคริสต์ได้อย่างอิสระ ในขณะที่เจ้าหญิงมุสลิมกลับถูกกีดกันไม่ให้เสกสมรสกับเจ้าชายชาวคริสต์
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ในยุคสมัยใหม่ ปรากฏการเสกสมรสระหว่างสมาชิกราชวงศ์ของ เช่น จอร์แดน โมรอคโค ซาอุดิอาระเบีย และรัฐสมาชิกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังตัวอย่างได้แก่
- พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวีแห่งจักรวรรดิอิหร่าน และ เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ (พ.ศ. 2482 - 2491)
- เชคมุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูมแห่งดูไบ และ เจ้าหญิงฮายะ บินท์ อัล ฮุสเซนแห่งจอร์แดน (พ.ศ. 2547)
- เจ้าชายมูฮัมหมัด อาลี เจ้าชายแห่งซาอิด พระราชโอรสในพระเจ้าฟูอัดที่ 2 แห่งอียิปต์ และ เจ้าหญิงโนอัล ซาฮีร์ ชาห์ พระราชปนัดดาใน (พ.ศ. 2556)
- สุลต่านอิบราฮิม อิสมาอิลแห่งยะโฮร์ และ รายาซาริธ โซเฟียแห่งเปรัก (พ.ศ. 2525)
- เจ้าหญิงเดอร์รู เชห์วาร์ พระราชธิดาในสุลต่านอับดุล เมจิดที่ 2 และ อะซัม จาห์ โอรสในอะซาฟ จาห์ที่ 7 แห่งไฮเดอราบาด (พ.ศ. 2474)
การเสกสมรสต่างฐานันดร
ในช่วงเวลาหนึ่ง หลายราชวงศ์ถือปฏิบัติตามขนบการเสกสมรสต่างราชวงศ์อย่างเคร่งครัด เช่น ราชวงศ์เบอร์นาดอตต์ ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ราชวงศ์ซิซิลี ราชวงศ์บูร์บงในสเปน และราชวงศ์โรมานอฟ ถึงกับตรากฎประจำราชวงศ์ขึ้นเพื่อใช้เป็นระเบียบในการเสกสมรสกับต่างราชวงศ์ และให้ความสำคัญอย่างมากว่าเชื้อพระวงศ์จะต้องเสกสมรสกับบุคคลจากฐานันดรเดียวกัน (เช่น เชื้อพระวงศ์ต่างชาติ) ดังนั้นจึงมีการกีดกันแม้กระทั่งขุนนางคนโตที่สุดจากตระกูลศักดินาออกไป
โดยทั่วไปแล้วการแต่งงานต่างฐานันดรคือการที่บุรุษจากตระกูลสูงแต่งงานกับสตรีจากฐานันดรที่ต่ำกว่า (เช่น ธิดาจากตระกูลขุนนางระดับล่างหรือตระกูลสามัญชน) และตามปกติแล้ว บุตรที่เกิดจากการแต่งงานไม่สามารถอ้างสิทธิ์ในการสืบราชสกุล บรรดาศักดิ์ ฐานันดร หรือมรดกที่ยกให้ แต่บุตรเหล่านี้ถือว่าเป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเด็นอื่น ๆ และถูกใช้ห้ามปรามไม่ให้มีการ
กรณีตัวอย่างของการเสกสมรสต่างฐานันดร เช่น
- เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งเฮสส์และโดยไรน์ และ เคาน์เตสยูเลีย โฮเคอ (พ.ศ. 2394)
- ดยุกอเล็กซานเดอร์แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค และ เคาน์เตสโกลดีน เรดี ฟอน คิส-เรด (พ.ศ. 2378)
- แกรนด์ดยุกคอนสแตนติน ปาฟโลวิชแห่งรัสเซีย และ เคาน์เตสโยฮันนา กรุดนา-กรุดชินสกา (พ.ศ. 2339)
- อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย และ เคาน์เตสโซฟี โชเต็ค ฟอน คอทโควา อุน โวงิน (พ.ศ. 2443)
การเสกสมรสในสายโลหิตเดียวกัน
เมื่อกาลเวลาผ่านไป จำนวนยีนทั้งหมดในแหล่งหรือ ยีนพูล (Gene pool) ภายในราชวงศ์ปกครองมีจำนวนลดลง จากการเสกสมรสภายในเครือญาติเนื่องจากจำนวนคู่สมรสที่เหมาะสมมีจำนวนจำกัด (ก่อนที่สายสัมพันธ์ของราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรปจะข้องเกี่ยวเป็นเครือญาติกันทั้งหมด) ส่งผลให้เชื้อพระวงศ์หลายพระองค์สืบราชสันตติวงศ์มาจากบรรพบุรุษพระองค์เดียวกันผ่านสายราชวงศ์ต่าง ๆ เช่น เชื้อพระวงศ์ยุโรปหลายพระองค์ที่สืบราชสันตติวงศ์จากพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร หรือ พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก รวมถึงราชวงศ์ฮับส์บูร์กที่ได้ชื่อว่านิยมการเสกสมรสในสายโลหิตเดียวกัน จนนำไปตั้งเป็นชื่อของความผิดปกติที่พบได้บ่อยภายในเครือญาติอย่าง (Prognathism) ว่า ริมฝีปากฮับส์บูร์ก (Habsburg lip) แม้จะไม่มีหลักฐานทางพันธุกรรมมายืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าวก็ตาม ราชวงศ์วงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ราชวงศ์บูร์บง และราชวงศ์วิตเตลส์บาค ก็มักจะจัดการเสกสมรสในหมู่พระญาติชั้นที่หนึ่งบ่อยครัง หรือในหมู่พระญาติชั้นรองระหว่างพระปิตุลา (ลุง) กับพระภาคิไนย (หลานอา) เป็นครั้งคราว
ตัวอย่างการเสกสมรสที่ผิดประเพณีและผลกระทบที่ตามมา เช่น
- ผู้ปกครองทุกพระองค์ในราชวงศ์ทอเลมีตั้งแต่พระเจ้าทอเลมีที่ 2 เป็นต้นมา เสกสมรสกับพระเชษฐา พระอนุชา พระเชษฐภคินี หรือพระขนิษฐาของพระองค์เองทั้งสิ้น เพื่อรักษา "ความบริสุทธิ์" ของสายพระโลหิต และเพื่อดำรงไว้ซึ่งสายการสืบราชสันตติวงศ์ในหมู่พระญาติ กรณีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือกรณีของคลีโอพัตราที่ 7 (หรือ คลีโอพัตราที่ 6) ที่เสกสมรสกับพระเจ้าทอเลมีที่ 13 ธีออส ฟิโลปาตอร์ พระอนุชาของพระองค์ และทรงปกครองอียิปต์โบราณร่วมกันหลังการสวรรคตของพระราชบิดา
- ฌ็องที่ 5 แห่งอาร์มาญัก ที่ทรงคบชู้กับพระขนิษฐาของตน ซึ่งนับว่าเป็นกรณีที่พบเห็นได้ยาก แต่หลังจากนั้นกลับทอดทิ้งบุตรของตนไปและเสกสมรสใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงว่าการสมรสกับพระขนิษฐาของตนเกิดขึ้นด้วยเหตุผลการเสกสมรสต่างราชวงศ์ หากแต่ด้วยเหตุผลส่วนพระองค์
- หนึ่งในตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดของลักษณะทางพันธุกรรมอันเกิดจากการเสกสมรสในหมู่ราชวงศ์เดียวกันคือ ภาวะคางยื่นของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก หรือ ฮับสบูร์กาอุนทาลิพเพอ (Habsburger Unter Lippe; ริมฝีปากฮับส์บูร์ก หรือขากรรไกรฮับส์บูร์ก) ซึ่งปรากฏในหมู่พระญาติและเชื้อพระวงศ์ฮับส์บูร์กหลายพระองค์ตลอดช่วงหกศตวรรษ
หมายเหตุ
- ราชวงศ์ผู้ปกครอง (อังกฤษ: Reigning houses, Ruling houses) คือราชวงศ์ที่ดำรงสถานะเป็นพระประมุขแห่งรัฐอธิปไตยหนึ่งแห่งขึ้นไป
- พระเจ้าจอร์จที่ 1 เสวยราชย์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งบริเตนใหญ่ด้วยราชสันตติวงศ์ของพระราชมารดา โซเฟียแห่งฮาโนเวอร์ ซึ่งสืบราชสันตติวงศ์มาจากพระเจ้าเจมส์ที่ 6 และที่ 1
- ราชบัลลังก์แห่งอารากอนและคาสตีลถูกรวมเข้าด้วยกันภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก เมื่อจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นเสวยราชบัลลังก์ของทั้งสองอาณาจักรด้วยราชสันตติวงศ์ของพระราชบิดา-มารดา พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล (กษัตริย์แห่งคาสตีล) และโจแอนนาแห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งคาสตีล (กษัตริย์แห่งอารากอน)
- ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีการเสกสมรสระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ กับเจ้าหญิงคาทอลิก เฮนเรียตตา มาเรียแห่งฝรั่งเศส เมื่อพระนางเฮนเรียตตาทรงประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบคาทอลิดอย่างเปิดเผยและยืนกรานที่จะคงผู้ติดตามชาวคาทอลิกของพระองค์ไว้ ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงขันติธรรมทางศาสนาในสังคมอังกฤษ ทำให้พระนางเป็นพระราชินีที่สาธารณชนไม่นิยมชมชอบ
- เชื้อพระวงศ์รัสเซียมักเสกสมรสกับเจ้าหญิงต่างชาติก็ต่อเมื่อทรงเปลี่ยนมาเข้ารีตออร์โธดอกซ์รัสเซียเท่านั้น เช่น เจ้าหญิงอลิกซ์แห่งเฮสส์ พระมเหสีในซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ทรงเปลี่ยนจากลูเทอแรน
- ว่ากันว่าพระมเหสีจักรพรรดิจัสตินที่ 1 นามว่าพระนางยูเฟเมีย เคยเป็นทั้งทาสและอนารยชนมาก่อน ส่วนพระเมสีของจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 2 พระนางธีโอโดรา เคยเป็นนักแสดง บ้างก็อ้างว่าเป็นโสเภณีอีกด้วย
- โดนัลด์ แมคกิลลิฟเรย์ นิคอล กล่าวไว้ในหนังสือ The Last Centuries of Byzantium 1261–1453 ว่า "บรรดาพระธิดาของจักรพรรดิอะเล็กซิออสที่ 2 แห่งเทรบิซอนด์ เสกสมรสกับเอมีร์แห่งซีโนปและเอร์ซินจาน ส่วนบรรดาพระนัดดาของพระองค์ก็เสกสมรสเอมีร์แห่งชาลิเบีย ในขณะที่บรรดาพระปนัดดาของพะรองค์ (พระธิดาในจักรพรรดิอะเล็กซิออสที่ 3 ผู้สวรรคตในปี พ.ศ. 1933) ก็ถวายตัวรับใช้จักวรรดิเช่นเดียวกัน"
- ทั้งพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน ต่างก็เสกสมรสกับสมาชิกราชวงศ์กรีก ได้แก่ เจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก และเจ้าหญิงโซเฟียแห่งกรีซและเดนมาร์ก ตามลำดับ ในปี พ.ศ. 2536 เจ้าชายอาโลอิส รัชทายาทแห่งลิกเตนสไตน์ เสกสมรสกับดัชเชสโซฟีในบาวาเรีย สมาชิกราชวงศ์วิตเตลส์บาค ซึ่งทั้งราชวงศ์กรีก (ราชวงศ์กลึคสบวร์ก) และราชวงศ์วิตเตลส์บาคต่างก็ไม่ได้ปกครองรัฐอธิปไตยเช่นในอดีต
- เจ้าชายคะนุด เจ้าชายรัชทายาทแห่งเดนมาร์ก เสกสมรสกับเจ้าหญิงคาโรไลน์-มาทิลด์แห่งเดนมาร์กในปี พ.ศ. 2476 ซึ่งทั้งสองพระองค์ต่างก็เป็นพระญาติชั้นที่หนึ่งของกันและกัน ทั้งยังเป็นสมาชิกราชวงศ์กลึคสบวร์กและพระนัดดาของสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 8 แห่งเดนมาร์กร่วมกัน
- คาโรลีน เฟลอห์-ลอบบาน อธิบายในบทความ Islamic Law and Society in the Sudan ว่า "เป็นการดีกว่าที่สตรีชาวมุสลิมจะเปลี่ยนศาสนาไปเป็นอิสลามก่อนการสมรสกับชายชาวมุสลิม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ถึงกับว่าจำเป็นต้องทำทุกครั้งเสมอไป ในขณะที่ชายที่ไม่ใช่มุสลิมกลับจำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนาก่อนการสมรสกับสตรีชาวมุสลิมทุกครั้ง"
- เชื้อพระวงศ์วิตเตลส์บาคหลายพระองค์ประสบกับภาวะวิกลจริต ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเสกสมรสในเครือญาติบ่อยครั้ง สมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์ประสบกับทั้งภาวะผิดปกติทั้งทางร่างกายและทางจิตใจเช่นเดียวกับโรคลมชัก
อ้างอิง
- Cohen, p.165
- Thomson, pp.79–80
- Bucholz, p.228
- Fleming
- Beeche (2009), p.1
- 'Charles V', Encyclopædia Britannica
- Heimann, pp.38–45
- Christakes, p.437
- Maland, p.227
- Verzijl, p.301
- anselme, p.145
- Griffey, p.3
- BAILII, 'Act of Settlement 1700'
- Mandelstam Balzer, p.56
- Rushton, p.12
- Curtis, p.271
- Beéche, p.257
- Czaplinski, pp.205-208
- Durant, pp.552–553, 564–566, 569, 571, 573, 576
- Prazmowska, p.56
- Beeche (2010), p.24
- Greenfeld, p.110
- Warwick, p.36
- Salisbury, p.137
- Roller, p.251
- Schürer, Millar & Fergus. p.474
- Morgan Gilman, p.1
- William, p.301
- Garland, p.14
- Frassetto, p.332
- Ostrogorsky, p.441
- Nicol, p.304
- Jackson, p.203
- Nicol, p.403
- Bryer, p.146
- Beeche (2009), p.13
- deBadts de Cugnac, pp.680–681
- 'Queen Anna Maria', The Greek Monarchy
- 'End of a Royal romance? Spain's King and Queen to shun Golden Wedding celebration sparking rumours the pair are 'estranged, The Daily Mail
- 'Life Goes to a Twice Royal Wedding: Luxembourg Prince Marries a Princess', Life
- deBadts de Cugnac, pp.514–515, 532
- deBadts de Cugnac, pp.534, 873
- deBadts de Cugnac, p.354
- deBadts de Cugnac, pp.509, 529
- deBadts de Cugnac, p.620
- deBadts de Cugnac, p.333
- deBadts de Cugnac, p.710
- deBadts de Cugnac, p.290
- deBadts de Cugnac, p.845
- deBadts de Cugnac, p.870”
- 'Andrea Casiraghi, second in line to Monaco's throne, weds Colombian heiress', The Telegraph
- Verlag, p.105
- 'Princess Astrid', The Belgian Monarchy
- deBadts de Cugnac, pp.195, 680–681
- deBadts de Cugnac, pp.641, 876
- deBadts de Cugnac, p.335
- deBadts de Cugnac, pp.590–591, 730
- deBadts de Cugnac, p.849
- deBadts de Cugnac, p.678
- Thomas, p.91
- "Roglo Genealogical database".
- Dobbs
- Liu & Perry
- Thailand Country Study
- Stengs, p.275
- Veit, p.57
- Zhao, p.34
- Walthall, p.138
- Walthall, p.149
- Kim, p.56
- Kowner, p.478
- Dobbs, David
- 'Wedding Brings Xhosa, Zulu Tribes Together', LA Times
- Keller
- 'Nelson Mandela: A Unique World Leader Dies At 95', Nigerian Echo
- Kobo, p.46
- Schaus, p.593
- Albany & Salhab, pp.70–71
- Peirce, pp.30–31
- Fluehr-Lobban
- Magill, p.2566
- 'Biographies: HRH Princess Haya',Office of HRH Princess Haya Bint Al Hussein
- 'Prince Muhammed Ali of Egypt and Princess Noal Zaher of Afghanistan Prepare for their Royal Wedding', Hello!
- 'Tribute to mothers’ caring nature', The Star
- Sarma, 'Bella Vista'
- deBadts de Cugnac, p.833, 173–175, 368, 545, 780–782
- Beeche (2010), p.vi-x
- Diesbach, pp.25–26
- Diesbach, p.35
- Thornton, p.162
- Vork, p.13
- Wortman, p.123
- Cecil, p.14
- Beeche (2009), p.7
- Owens, p.41
- Ruiz, p.47
- Bevan
- Guyenne, p.45
- 'Topics in the History of Genetics and Molecular Biology: The Habsburg Lip', Michigan State University
บรรณานุกรม
- Albany, HRH Prince Michael of; Salhab, Walid Amine (2006). The Knights Templar of the Middle East (1st ed.). MA, USA: Weister Books. ISBN .
- Alexander, Harriet (31 August 2013). "Andrea Casiraghi, second in line to Monaco's throne, weds Colombian heiress". The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
- (1967). Histoire de la Maison Royale de France (ภาษาฝรั่งเศส). Vol. I. Paris: Editions du Palais-Royal. p. 145.
- deBadts de Cugnac, Chantal; Coutant de Saisseval, Guy (2002). Le Petit Gotha [The Little Gotha] (ภาษาฝรั่งเศส). Paris, France: Nouvelle Imprimerie Laballery. ISBN .
- "Act of Settlement 1700". . n.d. สืบค้นเมื่อ 20 October 2011.
- Ball, Warwick (2000). Rome in the East: The Transformation of an Empire. New York, USA: Routledge. ISBN .
- Beeche, Arturo (2009). The Gotha: Still a Continental Royal Family, Vol. 1. Richmond, US: Kensington House Books. ISBN .
- Beeche, Arturo (2013). The Coburgs of Europe. Richmond, US: Eurohistory. ISBN .
- Beeche, Arturo (2010). The Grand Dukes. Berkeley, CA, US. ISBN .
- Bevan, E.R. "House of Ptolomey, The". uchicago.edu.
- . Office of HRH Princess Haya Bint Al Hussein. n.d. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-04. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
- Bryer, Anthony (1975). "Greeks and Türkmens: The Pontic Exception". Dumbarton Oak Papers. 29: 113–148. doi:10.2307/1291371. JSTOR 1291371.
- Bucholz, Robert; Key, Newton (2009). Early Modern England 1485–1714: A Narrative History. Oxford. ISBN .
- Cecil, Lamar (1996). Wilhelm II: Emperor and exile, 1900–1941. North Carolina, US: The University of North Carolina Press. ISBN .
- de Ferdinandy, Michael (n.d.). "Charles V". Encyclopaedia Britannica. สืบค้นเมื่อ 30 May 2014.
- Christakes, George (2010). Integrative Problem-Solving in a Time of Decadence. . p. 437. ISBN . สืบค้นเมื่อ 27 June 2014.
- Cohen, Raymond; Vestbrook, Raymond (2000). Amarna Diplomacy: The Beginnings of International Relations. Baltimore. ISBN .
- Curtis, Benjamin (2013). The Habsburgs: The History of a Dynasty. London, UK: Bloomsbury Publishing Inc. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Czaplinski, Władysław (1976). Władysław IV i jego czasy [Władysław IV and His Times] (ภาษาโปแลนด์). Warsaw, Poland: Wiedza Poweszechna.
- Diesbach, Ghislain (1967). Secrets of the Gotha: Private Lives of Royal Families of Europe. London, UK: Chapman & Hall. ISBN .
- Dobbs, David (2011). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 24 June 2014.
- Durant, Will (1950). The Story of Civilzation: The Age of Faith. Vol. IV. New York, USA: Simone and Schuster. ISBN .
- "End of a Royal romance? Spain's King and Queen to shun Golden Wedding celebration sparking rumours the pair are 'estranged'". The Daily Mail. 10 May 2012. สืบค้นเมื่อ 5 June 2014.
- Fleming, Patricia H. (1973). "The Politics of Marriage Among Non-Catholic European Royalty". . 14 (3): 231. doi:10.1086/201323.
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Fluehr-Lobban, Carolyn (1987). "Islamic Law and Society in the Sudan". 26 (3 ed.). Islamabad, Pakistan: Islamic Research Institute, International Islamic University. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help)) - Frassetto, Michael (2003). Encyclopedia of Barbarian Europe: Society in Transformation. California, US: ABC-CLIO Ltd. ISBN .
- Garland, Lynda (2002). Byzantine Empresses: Women and Power in Byzantium AD 527–1204. Oxford, UK: Routledge. ISBN .
- Guyenne, Valois (2001). Incest and the Medieval Imagination. Oxford: Oxford University Press. ISBN .
- Greenfeld, Liah (1993). Nationalism: Five Roads to Modernity. USA: Harvard University Press. ISBN .
- Griffey, Erin (2008). Henrietta Maria: piety, politics and patronage. Aldershot, UK: Ashgate Publishing. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Haag, Michael (2003). The Rough Guide History of Egypty. London, UK: Rough Guides Ltd. ISBN . สืบค้นเมื่อ 27 June 2014.
- Heimann, Heinz-Dieter (2010). Die Habsburger: Dynastie und Kaiserreiche [The Habsburgs: dynasty and empire] (ภาษาเยอรมัน). ISBN .
- Jackson, Peter. The Mongols and the West, 1221-1410. Harlow, UK: Pearson Longman. ISBN .
- Keller, Bill (1990). "Zulu King Breaks Ties To Buthelezi". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 28 April 2008.
- Kelly, Edmond (1991). Revolutionary Ethiopia: From Empire to People's Republic. Bloomington, US: Indiana University Press. ISBN .
- Kim, Jinwung (2012). A History of Korea: From "Land of the Morning Calm" to States in Conflict. University of Indiana Press. ISBN .
- Kobo, Ousman (2012). Unveiling Modernity in Twentieth-Century West African Islamic Reforms. Leiden, Netherlands: Kononklijke Brill. ISBN .
- (2012). Race and Racism in Modern East Asia: Western and Eastern Constructions. Leiden: Brill. ISBN .
- Liu, Caitlin; Perry, Tony (2004). "Thais Saddened by the Death of Young Prince". LA Times. สืบค้นเมื่อ 29 April 2014.
- "Life Goes to a Twice Royal Wedding: Luxembourg Prince Marries a Princess". . 1953.
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help));|url=
ไม่มีหรือว่างเปล่า ((help)) - Macurdy, Grace H.; Forrer, Leonard (1993). Two Studies on Women in Antiquity. Illinois, US: Ares Publishers. ISBN .
- Magill, Frank (2014). The 20th Century: Dictionary of World Biography. Vol. 8. London, UK: Routledge. ISBN .
- Maland, David (1991). Europe in the Seventeenth Century (Second ed.). London, UK: Macmillan. ISBN .
- Mandelstam Balzer, Marjorie (2010). Religion and Politics in Russia. New York, US: M.E. Sharpe, Inc. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Morgan Gilman, Florence (2003). Herodias: At Home in that Fox's Den. US: Liturgical Press. ISBN .
- Nicol, Donald MacGillivray (2004). The Last Centuries of Byzantium 1261–1453. Cambridge, UK: Cambridge University Press. ISBN .
- Opeyemi, Oladunjo (6 December 2013). . Nigerian Echo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-08. สืบค้นเมื่อ 2 July 2014.
- Ostrogorsky, George (1969). History of the Byzantine State. New Brunswick, Canada: Rutgers University Press. ISBN .
- Owens, Karen (2013). Franz Joseph and Elisabeth: The Last Great Monarchs of Austria-Hungary. North Carolina, US: McFarland & Co Inc. ISBN .
- Peirce, Leslie P. (1994). The Imperial Harem: Women and Sovereignty in the Ottoman Empire. Oxford, UK: Oxford University Press. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Prazmowska, Anita (2011) [2004]. A History of Poland (2 ed.). New York, US: Palgrave Macmillan. ISBN .
- "Prince Muhammed Ali of Egypt and Princess Noal Zaher of Afghanistan Prepare for their Royal Wedding". Hello!. 2013. สืบค้นเมื่อ 26 November 2013.
- "Princess Astrid". The Belgian Monarchy. n.d. สืบค้นเมื่อ 4 July 2014.
- Qingzhi Zhao, George (2008). Marriage as Political Strategy and Cultural Expression: Mongolian Royal Marriages from World Empire to Yuan Dynasty. New York. ISBN .
- Roller, Duane (1998). The Building Program of Herod the Great. California, US: University of California Press.
- Ruiz, Enrique (2009). Discriminate Or Diversify. Positivepsyche.Biz crop. ISBN .
- Rushton, Alan R. (2008). Royal Maladies: Inherited Diseases in the Ruling Houses of Europe. BC, Canada: Trafford Publishing. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Salisbury, Joyce E. (2001). Encyclopedia of Women in the Ancient World. California, US: ABC-CLIO Inc. ISBN .
- Sarma, Rani (2008). "Bella Vista". The Deodis of Hyderabad a Lost Heritage. New Delhi, Inda: Rupa Co. ISBN .
- Schaus, Margaret (2006). Women and Gender in Medieval Europe: An Encyclopedia. New York, US: Routledge. ISBN .
- Schürer, Emil; Millar, Fergus; Vermes, Geza (2014) [1973]. The History of the Jewish People in the Ages of Jesus Christ. Vol. 1. IL, US: Bloomsbury Publishing Plc.
- Smith, William (1860). Dictionary of Greek and Roman Biography and Mythology. Vol. 1. US: Harvard University. ISBN .
- Stengs, Irene (2009). Worshipping the Great Moderniser: King Chulalongkporn, Patron Saint of the Thai Middle Class. Washington, US: University of Washington Press. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Thailand Country Study Guide (4th ed.). Washington DC, US: International Business Publications USA. 2007. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Thornton, Michael (1986). Royal Feud: The Dark Side of the Love Story of the Century. New York, US: Random House Publishing. ISBN .
- Thomas, Alastair H. (2010). The A to Z of Denmark. Washington DC, US: Scarecrow Press. ISBN .
- Thomson, David (1961). Europe Since Napoleon. New York: Knopf. ISBN .
- "Topics in the History of Genetics and Molecular Biology: The Habsburg Lip". Michigan State University. 2000. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
- . . 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-08. สืบค้นเมื่อ 25 June 2014.
- . The Greek Monarchy. n.d. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 5 June 2014.
- Veit, Veronika (2007). The Role of Women in the Altaic World. Germany: Harrassowitz. ISBN .
- Verlag, Starke (1997). Genealogisches Handbuch des Adels, Fürstliche Häuser XV [Genealogical Handbook of the nobility, Princely houses XV] (ภาษาเยอรมัน). ISBN .
- Verzijl, J. H. W. International Law in Historical Perspective. Nova et Vetera Iuris Gentium. Vol. III.
- Vork, Justin (2012). Imperial Requiem: Four Royal Women and the Fall of the Age of Empires. Bloomington, US: iUniverse.com. ISBN .
- Walthall, Anne (2008). Servants of the Dynasty: Palace Women in World History. London. ISBN .
- "Wedding Brings Xhosa, Zulu Tribes Together". Los Angeles Times. California. 2002. สืบค้นเมื่อ 7 April 2013.
- Wortman, Richard (2013). Scenarios of Power: Myth and Ceremony in Russian Monarchy from Peter the Great to the Abdication of Nicholas II. New Jersey, US: Princeton University Press. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karesksmrsrahwangrachwngs xngkvs royal intermarriage khuxkaraetngnganrahwangsmachikkhxngrachwngsphupkkhrxngsxngrachwngs sunginxditthuxepnyuthothbaythangkarthutthiichknodythwipephux inbangkhrngkaresksmrsniekidkhundwykarbngkhbichkrabwnkarthangkdhmaytxbukhkhlphusubechuxsayrachwngs aelainhlay khrngekiywkhxngkbnoybaythangkaremuxngaela hruxkhnbthrrmeniymkhxngrabxbrachathipityesiyepnswnihyphraecaefliepthi 2 aehngsepn aelaphramehsi phrarachininathaemrithi 1 aehngxngkvs cakrachwngshbsburk sungthngsxngphraxngkhtangkepnphrayati lukphiluknxng khxngknaelaknphrarachphithirachaphiesksmrsrahwangsarniokhlsthi 2 aehngrsesiy kbecahyingxliksaehngehss sungepnphrayatichnthisxngaelamiphrapyyika yathwd yaythwd rwmknkhux ecahyingwilehlminaehngbaedin inthwipyuorp karesksmrsinlksnaniepnthiaephrhlayxyangmak odyechphaainchwngtngaetsmyklangcnkrathngsngkhramolkkhrngthihnung inkhnathihlkthankhxngkaresksmrsrahwangrachwngsinswnxun khxngolk samarthsubkhnyxnipidiklthisudthungyukhsmvththi sungbxykhrngthiphramhakstriyinxditmkcaphyayamaephkhyayrachwngskhxngphraxngkhxxkipthnginaelanxkpraeths dngnnsaysmphnththangekhruxyatisungekidcakkaresksmrsni cungepnpccythichwythngkratunaelaybyngkhwamkhdaeyngaelakarrukranrahwangrth thngyngchwyrierim sngesrim aelarbpraknsntiphaphrahwangrthidxikdwy nxkcaknisaysmphnththangekhruxyaticakkaresksmrsyngsamarthrksamitrimtrikhxngsxngrachwngs thitangphyayamhlikeliyngphykhukkhamcakkarrukranaelakhwamkhdaeyngxnmichnwnehtumacakkaryuyngkhxngrachwngsthisam phrxmesrimsrangoxkasthicaphnwkrwmdinaednekhaepnswnhnungkhxngtncakkarxangsiththithangkdhmayehnuxrachbllngk hruxaemkrathngkarxangsiththiehnuxswnhnungkhxngrth echn xananikhm phankarrbchwngsubthxdxanackarpkkhrxnginkrnithirthnnekidpyhairrchthayathsubthxdrachbllngk hruxinkrnithiphramhakstriyxngkhkxnhnaimmirchthayathephschayiwsubthxdrachsmbtiodyprascakkhxkngkhaid inbangswnkhxngthwipyuorp rachwngstang yngkhngniymesksmrsrahwangknepnpkti smachikrachwngsesksmrskbtrakulkhunnangtang phayinrth ipcnkrathngkhriststwrrsthi 16 aelanbaetnnepntnma cungerimhnmaniymkaresksmrsrahwangrachwngskhxngrthxthipitytang makkhun aetinswnxun khxngolk karesksmrsechnniklbidrbkhwamniymnxykwamakaelaerimldcanwnlngtamkalewlathiphanip hruxaeprepliyniptamkhnbthrrmeniymaelanoybaykartangpraethsinkhnannkaresksmrsinthananoybaykartangpraethsphraecahluysthi 14 aehngfrngess aela phraecaefliepthi 4 aehngsepn thrngphbpakn n ekaaefiysnth ephuxlngphranamaphiithyin sungswnhnungkhxngkhxtklnginsnthisyyakahndihmikarxphiesksmrsknrahwangphraecahluysaelaecahyingmaeriy ethers phrarachthidakhxngphraecaefliepthi 4 inxudmkhtikhxngwthnthrrmtawntkrwmsmy karesksmrskhuxsaysmphnthxnepnexklksnrahwangkhurksxngkhn inkhnathikhrxbkhrwsungsayeluxdaelakarsubskulkhuxcudsunyklangkhxngxanacaelamrdktkthxd echn phrarachwngskhxngkstriy mkmxngkaraetngnganinrupaebbthitangxxkip bxykhrngthimkcamipharakhwamrbphidchxbthangkaremuxnghruxthiimidekiywkhxngkbkhwamrkikhrihtxngptibtitam dngnnwathikhukhrxnginxnakhtcungtxngidrbkarphicarnaxyangthithwninraylaexiydekiywkbthanakhwammngkhngaelaxanacbarmi epnphlihkaresksmrsdwyehtuphlthangkaremuxng esrsthkic hruxkarthut khuxrupaebbthiphbehnidodythwipinchnchnphupkkhrxngkhxngyuorpmanannbstwrrs thwipyuorp smyklangaelasmyihmchwngtn kareluxkkhuxphiesksmrsxyangthithwnmikhwamsakhytxkardarngsthanarachwngs echn indinaednbangaehng hakecachayhruxphrarachaesksmrskbsamychnphuimmiechuxsayrachwngs aelaaemwabutrthidakhnaerkxnprasutiaedecachayhruxphrarachacaepnrbruknodythwipaelwktam butrthidakhndngklawxacimmisiththixangtnepnechuxkhttiyrachskultamphrabidaidely tampraephniaelw karesksmrsrahwangrachwngsmipccythiepnxngkhprakxbsakhyhlayprakar echn khwamkwangihykhxngxanaekhtphunthithirachwngsnnpkkhrxnghruxkhwbkhumxyu hruxpccythiekiywkhxngxikprakarhnungkkhuxesthiyrphaphinkarpkkhrxngdinaednkhxngtn enuxngcakrachwngstang mkmithathibayebiynghakxikrachwngsthicarwmesksmrsdwynnephchiykbkhwamimaennxninkarpkkhrxng phnthmitrthangkaremuxngkepnxikhnungpccythisakhy ephraakaresksmrsechnnikhuxtwaeprsakhythicachwyphukmdexasxngrachwngsaelapraethsekhaiwdwykn thnginyamsngbaelayamsuksngkhram xikthngyngepntwaeprthichwytdsinkhwamepnipthangkaremuxngkhrngsakhy idxikdwy nxkcaknikaresksmrsrahwangrachwngsynghmaythungoxkasthidinaedncatkipxyukarkhrxbkhrxngkhxngrachwngsxunxikdwy echninkrnithirchthayathladbaerksudphuprasutiaedphrarachbida mardasungfayhnungsubechuxsaymacakrachwngstangchati echninkrnikhxngrachwngshbsburk thiaephkhyayxiththiphlkhxngtnphankaresksmrskbrachwngstang aelaxphisiththithangkaremuxngehnuxdinaednthitxmarwmknepnswitesxraelndinpccubn aelainchwngkhriststwrrsthi 13 rachwngsniyngmungennnoybaykaresksmrskbrachwngsinaelachwaebiy sungnoybaykarrwmdinaednphankaresksmrsechnniprasbkhwamsaercxyangmak cnkxihekidkhakhwyinphasalatinwa Bella gerant alii tu felix Austria nube plxyihphuxunthasuksngkhramip swnethx xxsetriyphuaesnsukh cngesksmrs phrabrmsathislksninwyeyawkhxngphrarachininathaemrithi 1 aehngskxtaelnd aelaphraecafrxngswthi 2 aehngfrngess phrarachswami wadkhunimnanhlngcakphrarachphithibrmrachaphieskkhxngphraecafrxngswthi 2 aetinbangkrni phramhakstriybangphraxngkhkcathrngthathukwithithangephuxpxngknimihekidkaresksmrsrahwangrachwngs echninkrnikhxngecahyingmaeriy ethers phrarachthidainphraecaefliepthi 4 aehngsepn emuxesksmrskbphraecahluysthi 14 aehngfrngess thrngthukbngkhbihslarachsiththiinkarsubrachbllngksepn aelainbangkrniemuxphramhakstriyhruxrchthayathphumisiththiodytrngyxmesksmrsaelkkbkhxtklngphiess bangkhrngmainrupaebbsnthisyya camikarecrcatklnginpraednkarsubrachsmbtiiwlwnghna echn khxtklnginkaresksmrsrahwangphraecaefliepthi 2 aehngsepn aelaphrarachininathaemrithi 1 aehngxngkvs thikahndiwwamrdkcakfngphramarda echn ebxrkndiaelaklumpraethsaephndinta cathukmxbihaekphrarachoxrs thidakhxngthngsxngphraxngkhinxnakht aetmrdkinfngkhxngphrabida xnprakxbipdwysepn enepils sisili aelamilan catkthxdipyngdxn karols phrarachoxrsxngkhaerkinphraecaefliepkbphranangmarixa manuexlaaehngoprtueks sunghakdxn karols sinphrachnmodyprascakrchthayathaelw mrdkfngphrabidacungcatkthxdipyngphrarachoxrs thida xnprasuticakkaresksmrskhrngthisxngkbphranangaemri inthangklbkn karesksmrsrahwangphrarachininathaemrithi 1 aehngskxtaelnd kbphraecafrxngswthi 2 aehngfrngess phrarachoxrsaelarchthayathkhxngphraecaxxngrithi 2 inpi ph s 2101 xnepnphlmacak kahndwahakphrarachininathaemriswrrkhtodyprascakrchthayath casngphlihrachbllngkskxtaelndthukrwmekhakbrachbllngkfrngess sasnamisaysmphnthxnaenbaennkbwngkaremuxngkhxngyuorp echn bthbathsakhyinrahwangkarecrcaephuxcdkaresksmrskhun karesksmrsrahwangecahyingfrngess marekxritaehngwalw kbphraecaxxngrithi 3 aehngnawar phunafayxuekxontinfrngess n krungparis ph s 2105 praktchdaecngwakhuxkhwamphyayaminkar krachbmitr rahwangfaykhathxlikaelafayopretsaetnthinfrngess aetphlaethcringklbepnephiyngklxubaylwngdngpraktepnehtukarsngharhmuwnesntbaotholmiw aelaphayhlng khuesksmrsrahwangphramhakstriyxngkvskbecahyinginritormnkhathxlikmkimepnthiniym odyechphaainkrnithiphrarachiniimthrngyinyxmthicaepliynipekharitopretsaetnthhlngkaresksmrs hruxxyangnxythisudthrngaexbprakxbphithikrrmthangsasnakhxngtnaebblb sungtxmamikarphanphrarachbyytiwadwykarsubrachsnttiwngsinpi ph s 2243 thicakdsiththirchthayathphuesksmrskbchawkhathxlikimihsubrachsmbtiepnphramhakstriyxngkvs swnrachwngsphupkkhrxngxun xathiechn rachwngsormanxf aelarachwngshbsburk thiyinyxmihmikaresksmrsktxemuxkhuesksmrsxyuinritediywknxyuaelwhruxetmicthicaepliynritkhxngtn echn inpi ph s 2469 emuxecahyingxstridaehngswiednesksmrskbphraecaeloxopldthi 3 aehngebleyiym thithrngtklngwaphrarachoxrs thidacathrngidrbkareliyngduaebbkhathxlik aetimidkahndihecahyingxstridtxngthrngslaritluethxaernkhxngphraxngkh aemkrannkyngthrngepliynritinpi ph s 2473 nxkcaknikhuesksmrsbangkhuthuklmelikenuxngcakimsamarthpranipranxmthangsasnaid echn aephnkarxphiesksmrsrahwangphraecawladiselasthi 4 wasaaehngopaelnd ormnkhathxlik kbecahyingexlisaebthaehngphalathient luethxaern thiimepnthiniymchmchxbenuxngcakkhunnangswnmakkhxngopaelndekharitkhathxlik dngnnaephndngklawcungthuktitkipxyangengiyb inbangkhrng karesksmrsrahwangrachwngsphupkkhrxngkbbriwaritxantiksamarthphbehnidthwip echn phraecaexdewirdthrrmskkhikbxidithaehngewsesks aelaphraecawladiselasthi 2 yakilolaehngopaelndkbexlisaebth kranxfska thiruckknodythwipinyuorpsmyklang xyangirktam inkhnathirachwngstang erimhnekhasurabxbsmburnayasiththirachephuxrksaxanacbarmiaelakhwamcngrkphkdiinhmusmachikkhuaekhngkhxngrabxbskdina saysmphnththangekhruxyatikbtrakulkhunnangthxngthincungkhxy hayipinthaythisud enuxngcakrachwngstang hnipesksmrskbrachwngstangchatimakkhun karesksmrskbbriwaritpkkhrxngechnnichuddungexaphramhakstriylngmaxyuradbediywkbprachachninpkkhrxngkhxngphraxngkhexng aelamkcakxihekidkhwammkihyifsungkhxngkhrxngkhrwsamychnkhuesksmrs thngyngkxihekideruxngrawkhwamxiccharisyaaelakarduhminehyiydhyaminhmukhunnangskdina swnkhwamkhidthiwaphramhakstriykhwresksmrskbrachwngshruxphramhakstriytangchatiephuxhlikeliyngaelayutiphysngkhramnn aetedimaenwkhidnimicudkaenidmacaklththiptibtiniym sunginchwngthirabxbsmburnayasiththirachykalngrungeruxng aenwkhidnimiswnchwyihekidaenwkhwamkhidthiwakaresksmrsrahwangrachwngsphupkkhrxngkbsamychnitpkkhrxngkhxngtnkhuxkhxesiyepriybthngthangdansngkhmaelakaremuxng sayngepnkarlaelyoxkasthicaesksmrskbrachwngstangchatiihhludlxyipodyirpraoychn ormnobran aemckrphrrdiormnmkcaesksmrskbstrichawormndwykn aetkrannrachwngsphupkkhrxngrthbriwarthixyuitxantikhxngorminaethbtawnxxkiklaelaaexfrikaehnuxkmkcacdkaresksrmrsrahwangrachwngskhunephuxsngsmthanxanackhxngtn karesksmrsehlanimkcatxngidrbkhwamehnchxbhruxinbangoxkascdkhuntamphrarachoxngkarcakxngkhckrphrrdi fayormehnwakaresksmrsechnniethakbepnkarephimphunesthiyrphaphaekbrrdarthbriwar aelachwypxngknsngkhramyibyxythicaekidkhunphayinthxngthin xncasngphlkrathbtxsntiphaphormn ecahyingklafiraaehngaekhpphaodechiy Glaphyra of Cappadocia idchuxwathrngtraetriymkaresksmrsrahwangrachwngsthungsamkhrngihaek phraecacubathi 2 aehngnumiediy phraecaxelksanedxraehngyuediy aela ehord xarechelasaehngsamaeriy twxyangkhxngkaresksmrsechninniinsmyormnidaek phraecaophelmxnthi 2 aehngophnts kb ebernisaehngyuediy thidakhxngehord xakripphathi 1 phraecaxarisotbulsthi 4 aehngyuediy kb ebernisaehngyuediy thidakhxngsaolem phraecaxarisotbuls imenxraehngyuediy kb ixoxthaphaaehngexmisackrwrrdiibaesnithn inchwngekhasukhriststwrrsthi 14 phumiphakhxanaoteliyaelabriewnodyrxbetmipdwyrthxthipitykhnadelk thaihkaresksmrsrahwangrachwngskhuxekhruxngmuxsakhyinkarrksaiwsungsmphnthimtrirahwangrth aemwackrphrrdibangxngkhxyang aelackrphrrdicstieniynthi 1 caesksmrskbmehsiphumiphunephtatxy aetkaresksmrsrahwangrachwngskthuxwaepneruxngpktiinckrwrrdiibaesnithn phayhlng ph s 1747 rachwngsphupkkhrxngxyangrachwngslaskharisaelarachwngsphalaoxolkxsehnwaepnkarrxbkhxbaelwthicaesksmrskbrachwngstangchati twxyanghnungthiehnidchdkhuxkaresksmrsrahwangckrphrrdicxhnthi 3 dukhas watthsis kbphranangkhxnsaetns phrathidainckrphrrdifridrichthi 2 aehngormnxnskdisiththi ephuxesrimsrangkhwamepnphnthmitrrahwangknihaennaefnyingkhun txmackrphrrdimikhaexlthi 8 phalaoxolkxs thrngecriysmphnthimtrikbchawmxngoklinpi ph s 1806 aelacdkaresksmrsrahwangphrathidakhxngphraxngkhkbkhankhxngmxngoklephuxesrimsrangsmphnthimtridngklaw prakxbdwy ecahyingyufrxisn phalaoxolkinakbnxik khanaehngoklednhxrd aelaecahyingmarixa phalaoxolkinakbxabakha khanaehngckrwrrdikhanxil inchwngthaykhriststwrrsdngklaw ckrphrrdixnodrnikhxsthi 2 phalaoxolkxs kthrngecriysmphnthimtrikbkawanaehngckrwrdikhanxil rwmthungtxkhtaaelaxusebk khanaehngoklednhxrd namasungkaresksmrsrahwangphrathidakhxngphraxngkhkbbrrdakhanehlann phupkkhrxngaehngidchuxwamkcacdkaresksmrsrahwangphrathidakhxngtnkbrthkhangekhiynginthanakarecriysmphnthimtrithangkarthut ecahyingthioxodra makael khxmenen phrathidainckrphrrdicxhnthi 4 esksmrskbxussun khan ecaaehngxkh okhyunlu ephuxecriysmphnthimtrirahwangkn sungaemwaphranangthioxodra phuepnchawkhristekhrngsasnaaelacatxngmaphankxyuinrthxislam casamarthaephkhyayxiththiphlkhxngtnehnuxrachkickhxngphraswamithnginaelanxkpraethsidsaerc aetsmphnthimtridngklawcaimxaacybyngkarlmslaykhxngckrwrrdiethrbisxndidinthaythisudktam aelaaemwakaresksmrsechnnicaepnkaresrimsrangsthanakhxngckrwrrditampkti aetkpraktkaresksmrskhamrachwngsthiepnkarbnthxnesthiyrphaphphrarachxanackhxngxngkhckrphrrdiepnbangkrni echn emuxckrphrrdixnodrnikhxsthi 2 phalaoxolkxs esksmrskbphraemhsixngkhthi 2 phranangixrinaehngmxntefxraert enuxngcakinpi ph s 1827 phranangsrangkhwamaetkaeykinckrwrrdicakphraprasngkhthicaihphraoxrskhxngtnsubthxdrachsmbtirwmkbecachaymikhaexl phraoxrsxnprasutiaedkaresksmrskhrngaerk phranangyngthrngkhudwywacaesdcxxkcakkrungkhxnsaetntionepilxnepnemuxnghlwng iptngrachsankkhxngtn n emuxngrxngkhxngckrwrrdixyangethssaolnika hlngsngkhramolkkhrngthihnung insmypccubn karesksmrsrahwangrachwngsldcanwnlngcaksmykxnmak odyechphaainbrrdarachwngskhxngyuorp enuxngcaksmachikrachwngsinyuorphnmaesksmrskbsmachiktrakulkhunnangthxngthinmakkhun echninkrnikhxngphraecacxrcthi 6 aehngshrachxanackr ecachaychals ecachayaehngewls phrarachathibdixlaebrthi 2 aehngebleyiym aelaecachayhns xadmthi 2 aehngliketnsitn hruxesksmrskbsmachiktrakulkhunnangthithuklmelik echn phrarachathibdifilipaehngebleyiym phrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark aelaphrarachininathebiythriksaehngenethxraelnd hruxaemkrathngkbsamychnthrrmda echn phrarachathibdikharlthi 16 kustafaehngswiedn phrarachathibdiharldthi 5 aehngnxrewy aekrnddyukxxngriaehnglkesmebirk phrarachathibdiefliepthi 6 aehngsepn phrarachathibdiwilelm xelksanedxraehngenethxraelnd ecachaywileliym dyukaehngekhmbridc aelaecachayxlaebrthi 2 aehngomnaok inyuorp miephiyngphrarachathibdikhwn karolsthi 1 aehngsepn phrarachininathexlisaebththi 2 aehngshrachxanackr aelaecachayxaolxis ecachayrchthayathaehngliketnsitn ethannthiesksmrskbsmachikrachwngstangchati cungklawidwakaresksmrstangrachwngsyngkhngekidkhunxyuinpccubn dngtwxyangtxipni karesksmrsrahwangsxngrachwngspkkhrxng ph s 2525rachwngsnsesa iwlburkecachayniokhlsaehngliketnsitn aela ecahyingmarkarithaaehnglkesmebirk esksmrs wnthi 20 minakhm n mhawiharnxthr damaehnglkesmebirk krunglkesmebirk praethslkesmebirk ph s 2507phrarachathibdikhxnsaetntinthi 2 aehngkris aela ecahyingxnenx mariaehngednmark esksmrs wnthi 18 knyayn n mhawiharemuxngaehngexethns krungexethns praethskris ph s 2505rachwngsburbngphrarachathibdikhwn karolsthi 1 aehngsepn aela ecahyingosefiyaehngkrisaelaednmark esksmrs wnthi 14 phvsphakhm n mhawiharnkbuyidoxinss krungexethns praethskris ph s 2496rachwngsnsesa iwlburk rachwngsskhesin okhburkaelaokthaaekrnddyukchxngaehnglkesmebirk aela ecahyingochesfin charlxtaehngebleyiym esksmrs wnthi 9 emsayn n mhawiharnxthr damaehnglkesmebirk krunglkesmebirk praethslkesmebirk ph s 2490rachwngswindesxrphrarachininathexlisaebththi 2 aehngshrachxanackr aela ecachayfilippxsaehngkrisaelaednmark esksmrs wnthi 20 phvscikayn n ewstminsetxraexbbiy krunglxndxn shrachxanackr ph s 2487phraecapietxrthi 2 aehngyuokslaewiy aela ecahyingxelksandraaehngkrisaelaednmark esksmrs wnthi 20 minakhm n krunglxndxn shrachxanackr ph s 2478rachwngsebxrnadxttphraecaefredxrikthi 9 aehngednmark aela ecahyingxingkridaehngswiedn esksmrs wnthi 24 kumphaphnth n mhawiharihy krungstxkohlm praethsswiedn ph s 2477rachwngswindesxrecachaycxrc dyukaehngekhnt aela ecahyingmarinaaehngkrisaelaednmark esksmrs wnthi 29 phvscikayn n ewstminsetxraexbbiy krunglxndxn shrachxanackr ph s 2473rachwngssawxy rachwngsskhesin okhburkaelaokthaphraecaxumaebrotthi 2 aehngxitali aela ecahyingmari ocesaehngebleyiym esksmrs wnthi 8 mkrakhm n krungorm praethsxitali ph s 2473rachwngsskhesin okhburk okthaaelaokhhari rachwngssawxyphraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriy aela ecahyingocwnnaaehngxitali esksmrs wnthi 25 tulakhm n emuxngxssisi praethsxitali ph s 2472rachwngsebxrnadxttphrarachathibdioxlafthi 5 aehngnxrewy aela ecahyingmarthaaehngswiedn esksmrs wnthi 21 minakhm n krungxxsol praethsnxrewy ph s 2469rachwngsskhesin okhburkaelaoktha rachwngsebxrnadxttphraecaeloxopldthi 3 aehngebleyiym aela ecahyingxstridaehngswiedn esksmrs wnthi 4 phvscikayn n krungstxkohlm praethsswiedn phithithangrth aelawnthi 10 phvscikayn n mhawiharnkbuyimekhilaelakudula krungbrsesls praethsebleyiym phithithangsasna ph s 2466rachwngsebxrnadxttphraecakustafthi 6 xdxlfaehngswiedn aela eldihluys emataebtaetn esksmrs wnthi 3 phvscikayn n phrarachwngesntecms krunglxndxn shrachxanackr ph s 2465rachwngsohehnsxlelirn sikmaringenginphraecaxelksanedxrthi 1 aehngyuokslaewiy aela ecahyingmaeriyaehngormaeniy esksmrs wnthi 8 mithunayn n krungeblekrd praethsyuokslaewiy karesksmrskbrachwngspkkhrxng ecahyingkarxlinaehngomnaok aela ecachayaexnsth xxkusaehnghaonewxr ph s 2542 ecahyingdxyamarixaaehngburbng aela xarchdyuksiemxxngaehngxxsetriy ph s 2539 ecachayxaolxis ecachayrchthayathaehngliketnsitn aela dchechsosfiinbawaeriy ph s 2536 ecahyingxstridaehngebleyiym aela xarchdyuklxernsaehngxxsetriy exset ph s 2527 ecahyingmari xstridaehnglkesmebirk aela xarchdyukkharlkhristixnaehngxxsetriy ph s 2525 ecahyingbarbaraaehngliketnsitn aela ecachayxelksanedxraehngyuokslaewiy ph s 2516 ecahyingebendikethxaehngednmark aela ecachayrichard ecachaythi 6 aehngisn witeknsitn ebxrelburk ph s 2511 ecahyingixrinaehngenethxraelnd aela karols xuok dyukaehngparma ph s 2507 ecahyingbirkittaaehngswiedn aela ecachayoyhnn cxrcaehngohehnoslelirn ph s 2504 ecahyingxliksaehnglkesmebirk aela xxngtwn ecachaythi 13 aehnglieyx ph s 2493 krnitwxyanginpccubn ecachaykhanud ecachayrchthayathaehngednmark aela ecahyingkhaoriln mathildaehngednmark ph s 2476 aelaenuxngcakkaresksmrsrahwangrachwngsni thaihphrapramukhyuorpinpccubn 10 phraxngkhmibrrphburusphraxngkhediywknkhuxoyhn wilelm frios ecachayaehngxxrernc saysmphnththangekhruxyatithiiklchidthisudrahwangphrarachininathexlisaebththi 2 aelaphramhakstriyinthwipyuorpphraxngkhxun phranam praeths chnphrayati brrphburusrwmphraxngkhlasud wnswrrkhtkhxngbrrphburus ladbrunthayathnbcak oyhn wilelm friosphrarachininathexlisaebththi 2 shrachxanackr runthi 9phrarachathibdiharldthi 5 nxrewy chnthi 2 phraecaexdewirdthi 7 aehngshrachxanackr 6 phvsphakhm ph s 2453 runthi 10phrarachininathmarekrethxthi 2 ednmark chnthi 3 phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark 29 mkrakhm ph s 2449 runthi 10phrarachathibdikharlthi 16 kustaf swiedn chnthi 3 phrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr 22 mkrakhm ph s 2444 runthi 10phrarachathibdiefliepthi 6 sepn chnthi 3 phrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr 22 mkrakhm ph s 2444 runthi 11phrarachathibdixlaebrthi 2 ebleyiym chnthi 3 phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark 29 mkrakhm ph s 2449 runthi 10aekrnddyukxxngri lkesmebirk chnthi 3 phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark 29 mkrakhm ph s 2449 runthi 10phrarachathibdiwilelm xelksanedxr enethxraelnd chnthi 5 dyukfridrichthi 2 xxyekinaehngewuxrthethimaebrkh 25 thnwakhm ph s 2340 runthi 10ecachayhns xadmthi 2 liketnsitn chnthi 7 oyhn wilelm frios ecachayaehngxxrernc 14 krkdakhm ph s 2254 runthi 10ecachayxalaebrthi 2 omnaok chnthi 7 oyhn wilelm frios ecachayaehngxxrernc 14 krkdakhm ph s 2254 runthi 11thwipexechiy ithy inprawtisastr praktkaresksmrsinhmuphrayatikhxngrachwngsckrihlaykhrng aetnxykhrngthicapraktkaresksmrsrahwangphrarachwngsithykbchawtangchati hruxaemaetkbechuxphrawngstangchati enuxngcakkdmnethiyrbalwadwykarsubrachsnttiwngs phraphuththskrach 2467 hmwdthi 11 txnghammiihecanayechuxphrawngsthimiphrachayaepnchawtangpraethsidsubrachsnttiwngs phrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch thrngepnphrayatichnthihnung tamaebbtawntk kbsmedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath sungthngsxngphraxngkhtangkepnphrarachndda inkrnikhxngphrabathsmedcphraecaxyuhw aelaphrapndda inkrnikhxngsmedcphrabrmrachininath inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwdwyknthngsxngphraxngkh enuxngcakphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngmiphrachayahlayphraxngkh incanwnnnmiskdiepnphrakhnisthakhxngphraxngkhexng echn smedcphranangecaswangwthna aelasmedcphranangecasunnthakumarirtn phrabrmrachethwi sunglwnaelwaetmiphrabidarwmknkhux phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw cin aebbaephnkaresksmrsinprawtisastrcinepliynaeplngiptamaetlayukhsmykhxngaetlarachwngs inchwngrachwngsthng ph s 1161 1147 phrackrphrrdithrngmkcamxbphrathidaihipesksmrskbphupkkhrxngxanackrkhanxuykur ephuxesrimsrangsmphnthimtriphiessthangkarkhaaelakarthhar hlngcakthixanackrkhansnbsnuncininkarprabpramkbtxnluechiyn praktecahyingrachwngsthngxyangnxy 3 phraxngkhthiidesksmrskbphraecakhaninchwng ph s 1301 thung ph s 1364 kxnthismphnthimtrinicathukrangblngchwkhrawinpi ph s 1331 sungechuxknwamisaehtumakcakesthiyrphaphphayinckrwrrdicinthimnkhngmak cnsngphlihxanackrkhanthukldbthbathlng xyangirktam dwyphykhukkhamcakthiebtthangthistawntk ckrwrrdicincungtxngruxfunkhwamsmphnthkbkhanxuykurkhunmaxikkhrng aelacdkaresksmrsrahwangecahyingithehxkbkhanbilekx swnphrackrphrrdikhxngrachwngsthdmaxyangrachwngssng ph s 1503 1822 miaenwonmthicaesksmrskbstricinmakkwastritangchati aemwainchwngrachwngsthngphrackrphrrdiniymesksmrskbstrisungskdicaktrakulkhunnang aetinrachwngssngklbimidihkhwamsakhykbysthabrrdaskdikhxngstrithicamaepnphramehsimakethaidnk pramanknwamiphramehsirachwngssngcanwnhnunginsiethannthimacaktrakulsungskdi swncanwnthiehluxlwnaelwaetmiphunephtatxymakxn twxyangechn ckrphrrdinihliw phraxkhrmehsiinckrphrrdisngecincng thiekhyepnnkaesdngtamthxngthnnmakxn hruxphramehsiehmiywinckrphrrdisngehrincng phuepnthidakhxngphranm aemnm khxngphrackrphrrdiexng inchwngrachwngsching ph s 2187 2455 phrackrphrrdithrngeluxkphramehsicakhnungintrakulkhxngaepdkxngthngepnhlk rabbsungaebngaeyktrakulchawaemncuphunemuxngxxkepnklumkxng ephuxdarngiwsungkhwambrisuththiinechuxsaychawaemncukhxngrachwngs sunghlngcakthickrphrrdikhngsi ph s 2205 2265 esdcswrrkht ckrphrrdiaelaecachayinruntxmakthrngthukhamimihesksmrskbstrithiimichchawaemncu aetimidcakdkaresksmrskhxngecahyingtamktniaetprakarid aemkrannktam ecahyinghlayphraxngkhkthrngthukcdkaresksmrskbecachaymxngoklxyuesmx tamaebbkhnbrachwngskxnhna ephuxesrimsrangsmphnthimtrithangkaremuxngaelakarthhar odyechphaainchwngtnkhxngrachwngsthipraktkaresksmrskbecachaymxngoklkhxngphrathidainckrphrrdihnuexxrhachuxcanwn 9 phraxngkh aelaphrathidainckrphrrdichngetxcanwn 12 phraxngkh yipunaelaekahli phrachayalksnkaresksmrsrahwangmkudrachkumarxixunaehngekahli aelaecahyingmasaokaaehngnachiomaotacakyipun insmyxanackrchilla mikhnbthrrmeniymthicakdkarsubrachsmbtiiwsahrbechuxphrawngsinchn sxngkxl kradukskdisiththi odyechphaa dngnnechuxphrawngsthimibrrdaskdiinchnnicungtxngrksaiwsungbrrdaskdikhxngtndwykaresksmrskbechuxphrawngshruxsmachikkhunnanginchnediywkn echnediywkbwithiptibtiinthwipyuorpthiechuxphrawngsmkcaesksmrskbechuxphrawngsdwyknexngephuxkhngiwsungkhwambrisuththiinsayphraolhit swninyipun karesksmrsinhmuechuxphrawngsdwyknexngaelakbechuxphrawngstangchaticakckrwrrdiekahlithuxepneruxngpktiaelaimidsrangkhwamdangphrxytxsayphraolhitxnbrisuththiaetxyangid tamphngsawdar sungthukekhiynkhunodyphrarachoxngkarkhxngphrackrphrrdicnsaerckhrbthwninpi ph s 1340 klawwackrphrrdikhmmuthithrngpkkhrxngtngaet ph s 1324 thung ph s 1349 miphrarachmardaepnphrasnmchawekahlinamwa phranangnixingasaaehngthakaona phusubechuxsaymacakphraecamuryxngaehngaephkec hnunginsamrachxanackrekahli inyukhsmyihm inpi ph s 2463 mkudrachkumarxixunaehngekahli esksmrskbecahyingmasaokaaehngnachiomaota aelaineduxnphvsphakhm ph s 2474 ecachayxikxn phrarachnddainckrphrrdiokcng esksmrskbmasudaxira oyasioka phrayatikhxngecahyingmasaoka sungthangkaryipunmxngwakaresksmrsrahwangechuxphrawngsyipun ekahliechnnicachwysrangesthiyrphaphinkarpkkhrxngxananikhmekahlikhxngyipun thngyngepnkarrwmsayphraolhitkhxngrachwngsyipunekhakbrachwngsxikhxngekahlixikdwy thwipaexfrika karesksmrsinhmuechuxphrawngsediywknkthuxepneruxngpktiinaexfrikaklangechnediywkn karesksmrsrahwangrachwngsswasiaelnd rachwngschawsulu aelarachwngschawethmbu inaexfrikaitksamarthphbehnidepnkarthwip echn inpi ph s 2520 esnani aemnedla echuxphrawngsethmbuaelaluksawkhxngxditprathanathibdiaexfrikait enlsn aemnedla aetngngankbecachaythmbumusi dlamini phraxnuchainphrarachathibdixumswatithi 3 aehngswasiaelnd krnitwxyanginprawtisastrkaresksmrsrahwangrachwngsinaexfrika echn mntfxmbi dlamini phrakhnisthainphrarachathibdixumswatithi 3 aehngswasiaelnd aelaphrarachathibdikudwill seweltiniaehngsulu ph s 2520 ckrphrrdixumar txllaehngtukhuelxr aelaphrathidainsultanmuhmemd eblolaehngosokhotholkmuslim xl xndals inchwngtngaetkarphichitxispaeniykhxngxumyyd Umayyad conquest of Hispania cnthungchwngerkxngkista karesksmrsrahwangechuxphrawngssepnaelarthekhaalifahxumyydthuxepneruxngpkti karesksmrskhrngaerk echnrahwangxbd xl xasis xibn musa aelaexkiolna inchwngekhasukhriststwrrsthi 8 thihwngcachwyihkaryudkhrxngkhabsmuthrixbieriykhxngfaymuslimmikhwamchxbthrrm swnkaresksmrsinkhrngthd ma micudprasngkhkephuxtklnginsnthisyyakarkharahwangphramhakstriyinsasnakhristaelaekhaalifahmuslim echn karesksmrsrahwangphraecaxlfxnosthi 6 aehnglixxnaelakhastil kbesxidaaehngeswill odyechuxknwaechuxphrawngsyuorpswnmakmibrrphburusthisamarthsubkhnyxnipthungkhrxbkhrwkhxngsasdamuhmhmd aetkhxsnnisthanniyngkhngepnthithkethiyngxyuinpccubn ckrwrrdixxtotmn inckrwrrdixxtotmn sultanaelaecachayhlayphraxngkhinchwngkhriststwrrsthi 14 aela 15 niymesksmrsdbsmachikrachwngspkkhrxngkhxngrthkhangekhiyngodyimsnicinkhxcakddansasna sultanxxtotmnesksmrskbthngchawkhristaelamuslimdwycudprasngkhthangkaremuxnglwn enuxngcakxxtotmnraylxmipdwyrthkhangekhiyngthixacepnstruidinxnakht echn chawkhristxyangckrwrrdiibaesnithnhruxesxrebiy hruxmuslimdwyknexngxyangrachrthebylikinxanaoteliy Anatolian beyliks tang xathiechn dulkadich caremiynids sarukhanids aelakharamanids dngnnkaresksmrsrahwangrachwngscungepnhnthanginsrangsmphnthimtrikbrthehlani aettxmainpi ph s 2047 karesksmrskbrachwngstangchatiduehmuxncahyudchangklng odypraktkaresksmrsechnnikhrngsudthayinpi ph s 1978 rahwangsultanmurdthi 2 kbmara branokhwich phrarachthidainphraecadurad branokhwichaehngesxrebiy sung n ewlani ckrwrrdixxtotmnidsngsmthanxanacmakphxthicaphnwkrwmhruxprabprambrrdarthkhuaekhnginxditidsaerc karesksmrskbrachwngstangchatiinthanaekhruxngmuxdannoybaykartangpraethscunghmdkhwamsakhylng enuxngcakhlksasnaxislam kafa a imsnbsnunkaraetngngankbbukhkhlcaktangsasnahruxcaktangthanndr dngnnphupkkhrxngkhxngchatimusliminbriewniklekhiyngcungimyxmmxbthidakhxngtnihesksmrskbecachayxxtotmnipcnkrathngkhriststwrrsthi 15 hlngcakthickrwrrdixxtotmnsngsmxanaccnthwikhwamsakhykhunma aeladwyhlksasnaniexngthithaihecachayxxtotmnsamarthesksmrskbstrichawkhristidxyangxisra inkhnathiecahyingmuslimklbthukkidknimihesksmrskbecachaychawkhrist hlngsngkhramolkkhrngthihnung inyukhsmyihm praktkaresksmrsrahwangsmachikrachwngskhxng echn cxraedn omrxkhokh saxudixaraebiy aelarthsmachikinshrthxahrbexmierts dngtwxyangidaek phraecachah omhmhmd ersa pahlawiaehngckrwrrdixihran aela ecahyingefasiyahaehngxiyipt ph s 2482 2491 echkhmuhmmd bin rxchid xlmktumaehngduib aela ecahyinghaya binth xl husesnaehngcxraedn ph s 2547 ecachaymuhmhmd xali ecachayaehngsaxid phrarachoxrsinphraecafuxdthi 2 aehngxiyipt aela ecahyingonxl sahir chah phrarachpnddain ph s 2556 sultanxibrahim xismaxilaehngyaohr aela rayasarith osefiyaehngeprk ph s 2525 ecahyingedxrru echhwar phrarachthidainsultanxbdul emcidthi 2 aela xasm cah oxrsinxasaf cahthi 7 aehngihedxrabad ph s 2474 karesksmrstangthanndrxarchdyukfrns aefrdinndaehngxxsetriy aelaphrachayatangthanndr ekhanetsosfi ochetkh inchwngewlahnung hlayrachwngsthuxptibtitamkhnbkaresksmrstangrachwngsxyangekhrngkhrd echn rachwngsebxrnadxtt rachwngshbsburk rachwngssisili rachwngsburbnginsepn aelarachwngsormanxf thungkbtrakdpracarachwngskhunephuxichepnraebiybinkaresksmrskbtangrachwngs aelaihkhwamsakhyxyangmakwaechuxphrawngscatxngesksmrskbbukhkhlcakthanndrediywkn echn echuxphrawngstangchati dngnncungmikarkidknaemkrathngkhunnangkhnotthisudcaktrakulskdinaxxkip odythwipaelwkaraetngngantangthanndrkhuxkarthiburuscaktrakulsungaetngngankbstricakthanndrthitakwa echn thidacaktrakulkhunnangradblanghruxtrakulsamychn aelatampktiaelw butrthiekidcakkaraetngnganimsamarthxangsiththiinkarsubrachskul brrdaskdi thanndr hruxmrdkthiykih aetbutrehlanithuxwaepnbutrthithuktxngtamkdhmayinpraednxun aelathukichhampramimihmikar krnitwxyangkhxngkaresksmrstangthanndr echn ecachayxelksanedxraehngehssaelaodyirn aela ekhanetsyueliy ohekhx ph s 2394 dyukxelksanedxraehngewuxrthethimaebrkh aela ekhanetsokldin erdi fxn khis erd ph s 2378 aekrnddyukkhxnsaetntin pafolwichaehngrsesiy aela ekhanetsoyhnna krudna krudchinska ph s 2339 xarchdyukfrns aefrdinndaehngxxsetriy aela ekhanetsosfi ochetkh fxn khxthokhwa xun owngin ph s 2443 karesksmrsinsayolhitediywknphrarachmardainphraecakarolsthi 2 aehngsepn phranangmaeriynaaehngxxsetriy epnphraphakhiiny hlanxa inphraecaefliepthi 4 phrarachswamikhxngphraxngkhexng emuxkalewlaphanip canwnyinthnghmdinaehlnghrux yinphul Gene pool phayinrachwngspkkhrxngmicanwnldlng cakkaresksmrsphayinekhruxyatienuxngcakcanwnkhusmrsthiehmaasmmicanwncakd kxnthisaysmphnthkhxngrachwngstang inyuorpcakhxngekiywepnekhruxyatiknthnghmd sngphlihechuxphrawngshlayphraxngkhsubrachsnttiwngsmacakbrrphburusphraxngkhediywknphansayrachwngstang echn echuxphrawngsyuorphlayphraxngkhthisubrachsnttiwngscakphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr hrux phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark rwmthungrachwngshbsburkthiidchuxwaniymkaresksmrsinsayolhitediywkn cnnaiptngepnchuxkhxngkhwamphidpktithiphbidbxyphayinekhruxyatixyang Prognathism wa rimfipakhbsburk Habsburg lip aemcaimmihlkthanthangphnthukrrmmayunynkhxsnnisthandngklawktam rachwngswngthimikhwamsmphnthiklchidknxyangrachwngshbsburk rachwngsburbng aelarachwngswitetlsbakh kmkcacdkaresksmrsinhmuphrayatichnthihnungbxykhrng hruxinhmuphrayatichnrxngrahwangphrapitula lung kbphraphakhiiny hlanxa epnkhrngkhraw twxyangkaresksmrsthiphidpraephniaelaphlkrathbthitamma echn phupkkhrxngthukphraxngkhinrachwngsthxelmitngaetphraecathxelmithi 2 epntnma esksmrskbphraechstha phraxnucha phraechsthphkhini hruxphrakhnisthakhxngphraxngkhexngthngsin ephuxrksa khwambrisuththi khxngsayphraolhit aelaephuxdarngiwsungsaykarsubrachsnttiwngsinhmuphrayati krnithiepnthiruckmakthisudkhuxkrnikhxngkhlioxphtrathi 7 hrux khlioxphtrathi 6 thiesksmrskbphraecathxelmithi 13 thixxs fiolpatxr phraxnuchakhxngphraxngkh aelathrngpkkhrxngxiyiptobranrwmknhlngkarswrrkhtkhxngphrarachbida chxngthi 5 aehngxarmayk thithrngkhbchukbphrakhnisthakhxngtn sungnbwaepnkrnithiphbehnidyak aethlngcaknnklbthxdthingbutrkhxngtnipaelaesksmrsihmxikkhrng thngniimmihlkthanidthiaesdngwakarsmrskbphrakhnisthakhxngtnekidkhundwyehtuphlkaresksmrstangrachwngs hakaetdwyehtuphlswnphraxngkh hnungintwxyangthiodngdngthisudkhxnglksnathangphnthukrrmxnekidcakkaresksmrsinhmurachwngsediywknkhux phawakhangyunkhxngrachwngshbsburk hrux hbsburkaxunthaliphephx Habsburger Unter Lippe rimfipakhbsburk hruxkhakrrikrhbsburk sungpraktinhmuphrayatiaelaechuxphrawngshbsburkhlayphraxngkhtlxdchwnghkstwrrshmayehturachwngsphupkkhrxng xngkvs Reigning houses Ruling houses khuxrachwngsthidarngsthanaepnphrapramukhaehngrthxthipityhnungaehngkhunip phraecacxrcthi 1 eswyrachykhunepnphramhakstriyaehngbrietnihydwyrachsnttiwngskhxngphrarachmarda osefiyaehnghaonewxr sungsubrachsnttiwngsmacakphraecaecmsthi 6 aelathi 1 rachbllngkaehngxarakxnaelakhastilthukrwmekhadwyknphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngshbsburk emuxckrphrrdikharlthi 5 aehngormnxnskdisiththi khuneswyrachbllngkkhxngthngsxngxanackrdwyrachsnttiwngskhxngphrarachbida marda phraecaefliepthi 1 aehngkhastil kstriyaehngkhastil aelaocaexnnaaehngxarakxn smedcphrarachiniaehngkhastil kstriyaehngxarakxn twxyangthichdecnkhuxkrnikaresksmrsrahwangphraecacharlsthi 1 aehngxngkvs kbecahyingkhathxlik ehneriytta maeriyaehngfrngess emuxphranangehneriyttathrngprakxbphithikrrmthangsasnaaebbkhathxlidxyangepidephyaelayunkranthicakhngphutidtamchawkhathxlikkhxngphraxngkhiw sunginkhnannepnchwngkhntithrrmthangsasnainsngkhmxngkvs thaihphranangepnphrarachinithisatharnchnimniymchmchxb echuxphrawngsrsesiymkesksmrskbecahyingtangchatiktxemuxthrngepliynmaekharitxxrothdxksrsesiyethann echn ecahyingxliksaehngehss phramehsiinsarniokhlsthi 2 thithrngepliyncakluethxaern waknwaphramehsickrphrrdicstinthi 1 namwaphranangyuefemiy ekhyepnthngthasaelaxnarychnmakxn swnphraemsikhxngckrphrrdicstieniynthi 2 phranangthioxodra ekhyepnnkaesdng bangkxangwaepnosephnixikdwy odnld aemkhkillifery nikhxl klawiwinhnngsux The Last Centuries of Byzantium 1261 1453 wa brrdaphrathidakhxngckrphrrdixaelksixxsthi 2 aehngethrbisxnd esksmrskbexmiraehngsionpaelaexrsincan swnbrrdaphranddakhxngphraxngkhkesksmrsexmiraehngchaliebiy inkhnathibrrdaphrapnddakhxngpharxngkh phrathidainckrphrrdixaelksixxsthi 3 phuswrrkhtinpi ph s 1933 kthwaytwrbichckwrrdiechnediywkn thngphrarachininathexlisaebththi 2 aehngshrachxanackr aelaphrarachathibdikhwn karolsthi 1 aehngsepn tangkesksmrskbsmachikrachwngskrik idaek ecachayfilipaehngkrisaelaednmark aelaecahyingosefiyaehngkrisaelaednmark tamladb inpi ph s 2536 ecachayxaolxis rchthayathaehngliketnsitn esksmrskbdchechsosfiinbawaeriy smachikrachwngswitetlsbakh sungthngrachwngskrik rachwngsklukhsbwrk aelarachwngswitetlsbakhtangkimidpkkhrxngrthxthipityechninxdit ecachaykhanud ecachayrchthayathaehngednmark esksmrskbecahyingkhaoriln mathildaehngednmarkinpi ph s 2476 sungthngsxngphraxngkhtangkepnphrayatichnthihnungkhxngknaelakn thngyngepnsmachikrachwngsklukhsbwrkaelaphranddakhxngsmedcphraecaefredxrikthi 8 aehngednmarkrwmkn khaorlin eflxh lxbban xthibayinbthkhwam Islamic Law and Society in the Sudan wa epnkardikwathistrichawmuslimcaepliynsasnaipepnxislamkxnkarsmrskbchaychawmuslim aetthungkrannkimthungkbwacaepntxngthathukkhrngesmxip inkhnathichaythiimichmuslimklbcaepntxngepliynsasnakxnkarsmrskbstrichawmuslimthukkhrng echuxphrawngswitetlsbakhhlayphraxngkhprasbkbphawawiklcrit swnhnungmisaehtumacakkaresksmrsinekhruxyatibxykhrng smachikrachwngshlayphraxngkhprasbkbthngphawaphidpktithngthangrangkayaelathangciticechnediywkborkhlmchkxangxingCohen p 165 Thomson pp 79 80 Bucholz p 228 Fleming Beeche 2009 p 1 Charles V Encyclopaedia Britannica Heimann pp 38 45 Christakes p 437 Maland p 227 Verzijl p 301 anselme p 145 Griffey p 3 BAILII Act of Settlement 1700 Mandelstam Balzer p 56 Rushton p 12 Curtis p 271 Beeche p 257 Czaplinski pp 205 208 Durant pp 552 553 564 566 569 571 573 576 Prazmowska p 56 Beeche 2010 p 24 Greenfeld p 110 Warwick p 36 Salisbury p 137 Roller p 251 Schurer Millar amp Fergus p 474 Morgan Gilman p 1 William p 301 Garland p 14 Frassetto p 332 Ostrogorsky p 441 Nicol p 304 Jackson p 203 Nicol p 403 Bryer p 146 Beeche 2009 p 13 deBadts de Cugnac pp 680 681 Queen Anna Maria The Greek Monarchy End of a Royal romance Spain s King and Queen to shun Golden Wedding celebration sparking rumours the pair are estranged The Daily Mail Life Goes to a Twice Royal Wedding Luxembourg Prince Marries a Princess Life deBadts de Cugnac pp 514 515 532 deBadts de Cugnac pp 534 873 deBadts de Cugnac p 354 deBadts de Cugnac pp 509 529 deBadts de Cugnac p 620 deBadts de Cugnac p 333 deBadts de Cugnac p 710 deBadts de Cugnac p 290 deBadts de Cugnac p 845 deBadts de Cugnac p 870 Andrea Casiraghi second in line to Monaco s throne weds Colombian heiress The Telegraph Verlag p 105 Princess Astrid The Belgian Monarchy deBadts de Cugnac pp 195 680 681 deBadts de Cugnac pp 641 876 deBadts de Cugnac p 335 deBadts de Cugnac pp 590 591 730 deBadts de Cugnac p 849 deBadts de Cugnac p 678 Thomas p 91 Roglo Genealogical database Dobbs Liu amp Perry Thailand Country Study Stengs p 275 Veit p 57 Zhao p 34 Walthall p 138 Walthall p 149 Kim p 56 Kowner p 478 Dobbs David Wedding Brings Xhosa Zulu Tribes Together LA Times Keller Nelson Mandela A Unique World Leader Dies At 95 Nigerian Echo Kobo p 46 Schaus p 593 Albany amp Salhab pp 70 71 Peirce pp 30 31 Fluehr Lobban Magill p 2566 Biographies HRH Princess Haya Office of HRH Princess Haya Bint Al Hussein Prince Muhammed Ali of Egypt and Princess Noal Zaher of Afghanistan Prepare for their Royal Wedding Hello Tribute to mothers caring nature The Star Sarma Bella Vista deBadts de Cugnac p 833 173 175 368 545 780 782 Beeche 2010 p vi x Diesbach pp 25 26 Diesbach p 35 Thornton p 162 Vork p 13 Wortman p 123 Cecil p 14 Beeche 2009 p 7 Owens p 41 Ruiz p 47 Bevan Guyenne p 45 Topics in the History of Genetics and Molecular Biology The Habsburg Lip Michigan State UniversitybrrnanukrmAlbany HRH Prince Michael of Salhab Walid Amine 2006 The Knights Templar of the Middle East 1st ed MA USA Weister Books ISBN 9781578633463 Alexander Harriet 31 August 2013 Andrea Casiraghi second in line to Monaco s throne weds Colombian heiress The Telegraph subkhnemux 4 June 2014 1967 Histoire de la Maison Royale de France phasafrngess Vol I Paris Editions du Palais Royal p 145 deBadts de Cugnac Chantal Coutant de Saisseval Guy 2002 Le Petit Gotha The Little Gotha phasafrngess Paris France Nouvelle Imprimerie Laballery ISBN 2950797431 Act of Settlement 1700 n d subkhnemux 20 October 2011 Ball Warwick 2000 Rome in the East The Transformation of an Empire New York USA Routledge ISBN 9780415243575 Beeche Arturo 2009 The Gotha Still a Continental Royal Family Vol 1 Richmond US Kensington House Books ISBN 9780977196173 Beeche Arturo 2013 The Coburgs of Europe Richmond US Eurohistory ISBN 9780985460334 Beeche Arturo 2010 The Grand Dukes Berkeley CA US ISBN 9780977196180 Bevan E R House of Ptolomey The uchicago edu Office of HRH Princess Haya Bint Al Hussein n d khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 10 04 subkhnemux 4 June 2014 Bryer Anthony 1975 Greeks and Turkmens The Pontic Exception Dumbarton Oak Papers 29 113 148 doi 10 2307 1291371 JSTOR 1291371 Bucholz Robert Key Newton 2009 Early Modern England 1485 1714 A Narrative History Oxford ISBN 9781405162753 Cecil Lamar 1996 Wilhelm II Emperor and exile 1900 1941 North Carolina US The University of North Carolina Press ISBN 9780807822838 de Ferdinandy Michael n d Charles V Encyclopaedia Britannica subkhnemux 30 May 2014 Christakes George 2010 Integrative Problem Solving in a Time of Decadence p 437 ISBN 9789048198894 subkhnemux 27 June 2014 Cohen Raymond Vestbrook Raymond 2000 Amarna Diplomacy The Beginnings of International Relations Baltimore ISBN 9780801861994 Curtis Benjamin 2013 The Habsburgs The History of a Dynasty London UK Bloomsbury Publishing Inc ISBN 9781441150028 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Czaplinski Wladyslaw 1976 Wladyslaw IV i jego czasy Wladyslaw IV and His Times phasaopaelnd Warsaw Poland Wiedza Poweszechna Diesbach Ghislain 1967 Secrets of the Gotha Private Lives of Royal Families of Europe London UK Chapman amp Hall ISBN 9783928741200 Dobbs David 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 08 23 subkhnemux 24 June 2014 Durant Will 1950 The Story of Civilzation The Age of Faith Vol IV New York USA Simone and Schuster ISBN 9781451647617 End of a Royal romance Spain s King and Queen to shun Golden Wedding celebration sparking rumours the pair are estranged The Daily Mail 10 May 2012 subkhnemux 5 June 2014 Fleming Patricia H 1973 The Politics of Marriage Among Non Catholic European Royalty 14 3 231 doi 10 1086 201323 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a access date txngkar url help Fluehr Lobban Carolyn 1987 Islamic Law and Society in the Sudan 26 3 ed Islamabad Pakistan Islamic Research Institute International Islamic University subkhnemux 6 June 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Frassetto Michael 2003 Encyclopedia of Barbarian Europe Society in Transformation California US ABC CLIO Ltd ISBN 9781576072639 Garland Lynda 2002 Byzantine Empresses Women and Power in Byzantium AD 527 1204 Oxford UK Routledge ISBN 9781134756391 Guyenne Valois 2001 Incest and the Medieval Imagination Oxford Oxford University Press ISBN 9780861932269 Greenfeld Liah 1993 Nationalism Five Roads to Modernity USA Harvard University Press ISBN 9780674603196 Griffey Erin 2008 Henrietta Maria piety politics and patronage Aldershot UK Ashgate Publishing ISBN 9780754664208 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Haag Michael 2003 The Rough Guide History of Egypty London UK Rough Guides Ltd ISBN 9781858289403 subkhnemux 27 June 2014 Heimann Heinz Dieter 2010 Die Habsburger Dynastie und Kaiserreiche The Habsburgs dynasty and empire phasaeyxrmn ISBN 9783406447549 Jackson Peter The Mongols and the West 1221 1410 Harlow UK Pearson Longman ISBN 0582368960 Keller Bill 1990 Zulu King Breaks Ties To Buthelezi The New York Times subkhnemux 28 April 2008 Kelly Edmond 1991 Revolutionary Ethiopia From Empire to People s Republic Bloomington US Indiana University Press ISBN 9780253206466 Kim Jinwung 2012 A History of Korea From Land of the Morning Calm to States in Conflict University of Indiana Press ISBN 9780253000248 Kobo Ousman 2012 Unveiling Modernity in Twentieth Century West African Islamic Reforms Leiden Netherlands Kononklijke Brill ISBN 9789004233133 2012 Race and Racism in Modern East Asia Western and Eastern Constructions Leiden Brill ISBN 9789004237292 Liu Caitlin Perry Tony 2004 Thais Saddened by the Death of Young Prince LA Times subkhnemux 29 April 2014 Life Goes to a Twice Royal Wedding Luxembourg Prince Marries a Princess 1953 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a access date txngkar url help url immihruxwangepla help Macurdy Grace H Forrer Leonard 1993 Two Studies on Women in Antiquity Illinois US Ares Publishers ISBN 9780890055434 Magill Frank 2014 The 20th Century Dictionary of World Biography Vol 8 London UK Routledge ISBN 9781317740605 Maland David 1991 Europe in the Seventeenth Century Second ed London UK Macmillan ISBN 0333335740 Mandelstam Balzer Marjorie 2010 Religion and Politics in Russia New York US M E Sharpe Inc ISBN 9780765624147 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Morgan Gilman Florence 2003 Herodias At Home in that Fox s Den US Liturgical Press ISBN 9780814651087 Nicol Donald MacGillivray 2004 The Last Centuries of Byzantium 1261 1453 Cambridge UK Cambridge University Press ISBN 9780521439916 Opeyemi Oladunjo 6 December 2013 Nigerian Echo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 08 subkhnemux 2 July 2014 Ostrogorsky George 1969 History of the Byzantine State New Brunswick Canada Rutgers University Press ISBN 9780521439916 Owens Karen 2013 Franz Joseph and Elisabeth The Last Great Monarchs of Austria Hungary North Carolina US McFarland amp Co Inc ISBN 9780786476749 Peirce Leslie P 1994 The Imperial Harem Women and Sovereignty in the Ottoman Empire Oxford UK Oxford University Press ISBN 9780195086775 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Prazmowska Anita 2011 2004 A History of Poland 2 ed New York US Palgrave Macmillan ISBN 9780230252356 Prince Muhammed Ali of Egypt and Princess Noal Zaher of Afghanistan Prepare for their Royal Wedding Hello 2013 subkhnemux 26 November 2013 Princess Astrid The Belgian Monarchy n d subkhnemux 4 July 2014 Qingzhi Zhao George 2008 Marriage as Political Strategy and Cultural Expression Mongolian Royal Marriages from World Empire to Yuan Dynasty New York ISBN 9781433102752 Roller Duane 1998 The Building Program of Herod the Great California US University of California Press Ruiz Enrique 2009 Discriminate Or Diversify Positivepsyche Biz crop ISBN 9780578017341 Rushton Alan R 2008 Royal Maladies Inherited Diseases in the Ruling Houses of Europe BC Canada Trafford Publishing ISBN 9781425168100 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Salisbury Joyce E 2001 Encyclopedia of Women in the Ancient World California US ABC CLIO Inc ISBN 9781576070925 Sarma Rani 2008 Bella Vista The Deodis of Hyderabad a Lost Heritage New Delhi Inda Rupa Co ISBN 9788129127839 Schaus Margaret 2006 Women and Gender in Medieval Europe An Encyclopedia New York US Routledge ISBN 9781135459604 Schurer Emil Millar Fergus Vermes Geza 2014 1973 The History of the Jewish People in the Ages of Jesus Christ Vol 1 IL US Bloomsbury Publishing Plc Smith William 1860 Dictionary of Greek and Roman Biography and Mythology Vol 1 US Harvard University ISBN 9781845110024 Stengs Irene 2009 Worshipping the Great Moderniser King Chulalongkporn Patron Saint of the Thai Middle Class Washington US University of Washington Press ISBN 9780295989174 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Thailand Country Study Guide 4th ed Washington DC US International Business Publications USA 2007 ISBN 9781433049194 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Thornton Michael 1986 Royal Feud The Dark Side of the Love Story of the Century New York US Random House Publishing ISBN 9780345336828 Thomas Alastair H 2010 The A to Z of Denmark Washington DC US Scarecrow Press ISBN 9781461671848 Thomson David 1961 Europe Since Napoleon New York Knopf ISBN 9780140135619 Topics in the History of Genetics and Molecular Biology The Habsburg Lip Michigan State University 2000 subkhnemux 4 June 2014 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 06 08 subkhnemux 25 June 2014 The Greek Monarchy n d khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 24 subkhnemux 5 June 2014 Veit Veronika 2007 The Role of Women in the Altaic World Germany Harrassowitz ISBN 9783447055376 Verlag Starke 1997 Genealogisches Handbuch des Adels Furstliche Hauser XV Genealogical Handbook of the nobility Princely houses XV phasaeyxrmn ISBN 9783798008342 Verzijl J H W International Law in Historical Perspective Nova et Vetera Iuris Gentium Vol III Vork Justin 2012 Imperial Requiem Four Royal Women and the Fall of the Age of Empires Bloomington US iUniverse com ISBN 9781475917499 Walthall Anne 2008 Servants of the Dynasty Palace Women in World History London ISBN 9780520254442 Wedding Brings Xhosa Zulu Tribes Together Los Angeles Times California 2002 subkhnemux 7 April 2013 Wortman Richard 2013 Scenarios of Power Myth and Ceremony in Russian Monarchy from Peter the Great to the Abdication of Nicholas II New Jersey US Princeton University Press ISBN 9781400849697