ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ (อังกฤษ: Kingdom of Great Britain) เป็นรัฐในยุโรปตะวันตก ดำรงอยู่ในช่วงค.ศ. 1707 จนถึง ค.ศ. 1801 เกิดจากการรวมกันของราชอาณาจักรอังกฤษและราชอาณาจักรสกอตแลนด์ ภายใต้พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1707 (พ.ศ. 2250) ก่อนหน้านี้ราชอาณาจักรทั้งสองได้มีพระประมุขพระองค์เดียวกัน ตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ขึ้นครองราชย์เป็นประมุขของอังกฤษใน ค.ศ. 1603
บริเตนใหญ่ Great Britain | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1707–1801 | |||||||||||
ตราแผ่นดิน | |||||||||||
ดินแดนของราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และรัฐร่วมประมุข | |||||||||||
สถานะ | ราชอาณาจักร | ||||||||||
เมืองหลวง | ลอนดอน | ||||||||||
ภาษาทั่วไป | อังกฤษ เวลส์ (เวลส์) (บางส่วนของสกอตแลนด์) | ||||||||||
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ | ||||||||||
พระมหากษัตริย์ | |||||||||||
• 1707–1714 | สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์ | ||||||||||
• 1714–1727 | สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 1 | ||||||||||
• 1727–1760 | สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 | ||||||||||
• 1760–1801 | สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 | ||||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||||
• 1721–1742 | รอเบิร์ต วอลโพล | ||||||||||
• 1783–1801 | วิลเลียม พิตต์ ผู้เยาว์ | ||||||||||
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภาแห่งบริเตนใหญ่ | ||||||||||
• สภาสูง | สภาขุนนาง | ||||||||||
• สภาล่าง | สภาสามัญชน | ||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||
• พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1701 | 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1707 | ||||||||||
• พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800 | 31 ธันวาคม 1801 | ||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||
1801 | 230,977 ตารางกิโลเมตร (89,181 ตารางไมล์) | ||||||||||
ประชากร | |||||||||||
• 1801 | 10942646 | ||||||||||
สกุลเงิน | ปอนด์สเตอร์ลิง | ||||||||||
|
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เข้าแทนที่ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ในปีค.ศ. 1801 หลังจากราชอาณาจักรไอร์แลนด์เข้าร่วมในพระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800
ก่อตั้งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่
จากพระราชบัญญัติการสืบสันตติวงศ์ ค.ศ. 1701 (Act of Settlement) ว่าหากราชวงศ์สจวตที่เป็นโปรเตสแตนต์สิ้นไป ให้บัลลังก์ตกเป็นขององค์หญิงโซฟี พระชายาในเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกฮันโนเฟอร์ (Sophie, Electress of Hannover) ทำให้รัฐสภาสกอตแลนด์ ที่ต้องการจะรักษาราชวงศ์สจ๊วตไว้ จึงออกพระราชบัญญัติรักษาความปลอดภัย (Act of Security) ว่าถ้าราชวงศ์สจ๊วตในอังกฤษหมดไปจะตั้งสมาชิกพระราชวงศ์สจ๊วตพระองค์อื่นมาครองสกอตแลนด์ ทำให้สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งอังกฤษทรงเกรงว่าสกอตแลนด์จะแยกตัวและไปเข้าพวกกับฝรั่งเศส ทำให้พระนางออกพระราชบัญญัติต่างด้าว (Aliens Act) ในค.ศ. 1705 ว่าชาวสกอตในอังกฤษจะเป็นคนต่างด้าว เว้นแต่สกอตแลนด์จะเลิกพระราชบัญญัติรักษาความปลอดภัย หรือรวมเข้ากับอังกฤษ สกอตแลนด์เลือกอย่างหลัง
ในค.ศ. 1707 พระราชบัญญัติสหภาพผนวกอาณาจักรอังกฤษและอาณาจักรสกอตแลนด์ไว้ด้วยกัน เป็น ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ (Kingdom of Great Britain) ยุบรัฐสภาของทั้งสองอาณาจักร ตั้งรัฐสภาแห่งบริเตนใหญ่
ในค.ศ. 1708 พระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์คือ เจ้าชายจอร์จแห่งเดนมาร์ก (Prince George of Denmark) สิ้นพระชนม์ พระนางแอนน์ทรงเสียพระทัยมาก ทรงไม่ยอมแม้แต่จะแต่งตั้งผู้บัญชาการทัพเรือ (Lord High Admiral) คนอื่นขึ้นมาแทน โดยพระนางทรงทำหน้าที่แทนพระสวามีที่สิ้นพระชนม์ จนพรรควิก (Whigs) บังคับให้พระนางแต่งตั้งผู้บัญชาการใหม่ในที่สุด สงครามสืบราชสมบัติสเปนที่พวกวิกสนับสนุนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้พ่ายแพ้การเลือกตั้งในค.ศ. 1710 พรรคโทรี (Tory) ขึ้นมาแทน และเจรจาสันติภาพในสนธิสัญญาอูเทรชท์ (Treaty of Utrecht) ในค.ศ. 1713 ยอมรับพระเจ้าฟิลิปที่ 5 แห่งสเปนเป็นกษัตริย์สเปน
ในค.ศ. 1714 สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์สวรรคต พระโอรสขององค์หญิงโซฟี คือจอร์จ ผู้คัดเลือกแห่งแฮนโนเวอร์จากเยอรมนี มาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งบริเตนใหญ่ เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮาโนเวอร์
ในค.ศ. 1715 พรรควิกชนะการเลือกตั้ง ออกพระราชบัญญัติเจ็ดปี (Septennial Act) ให้รัฐสภามีอายุอย่างน้อยเจ็ดปี เป็นรากฐานให้พวกวิกมีอำนาจไปอีก 50 ปี แต่องค์ชายเจมส์ เอ็ดวาร์ด สจ๊วต (James Edward Stuart) หรือ The Old Pretender พระโอรสของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 เป็นเชื้อพระวงศ์สจ๊วตที่นับถือคาทอลิกที่ถูกยึดบัลลังก์ไปในเหตุการณ์การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ มาทวงบัลลังก์เรียกว่า (Jacobite) พวกโทรีแอบไปเข้าพวกจาโคไบต์ พระเจ้าจอร์จทรงมีความขัดแย้งกับพระโอรส คือ จอร์จ ออกุสตุส เจ้าชายแห่งเวลส์ (George Augustus, Prince of Wales) ในค.ศ. 1717 พระเจ้าจอร์จทรงนำอังกฤษเข้า (War of the Quadraple Alliance) เพื่อทำสงครามกับสเปน สเปนจึงสนับสนุนกบฏจาโคไบต์ แต่ไม่สำเร็จ
ในค.ศ. 1719 บริษัทเซาธ์ซีเสนอรัฐสภาว่าจะแบกรับภาระการใช้หนี้พันธบัตรจากรัฐบาล โดยขอความปลอดภัยของหุ้นเป็นการแลกเปลี่ยน บริษัทเซาธ์ซีเสนอให้เจ้าของพันธบัตรต่างๆ เปลี่ยนพันธบัตรเป็นหุ้น ทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รัฐสภาต้องออกพระราชบัญญัติห้ามการแลกเปลี่ยน ผลคือการซื้อขายพันธบัตรกลายเป็นตลาดใต้ดิน เมื่อหาซื้อกันได้ง่ายๆ ราคาจึงตกวูบ บรรดาขุนนางก็ขาดทุนกันมหาศาล เรียกว่า เหตุการณ์ฟองสบู่แตกเซาธ์ซี
เจ้าชายแห่งเวลส์ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 2 เช่นเดียวกับพระบิดา พระเจ้าจอร์จที่ 2 ทรงมีความขัดแย้งกับพระโอรสคือเฟรเดอริค เจ้าชายแห่งเวลส์ (Frederick, Prince of Wales) ในรัชสมัยของพระองค์ เซอร์รอเบิร์ต วอลโพล (Sir Robert Walpole) มีอำนาจมากจนได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนแรก พระเจ้าจอร์จทรงนำอังกฤษเข้า (War of Jenkin's Ear) กับสเปน และสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย เมื่อพระเจ้าฟรีดรีชมหาราชแห่งปรัสเซีย (เป็นพระนัดดาของพระเจ้าจอร์จ) ต้องการจะแย่งบัลลังก์ออสเตรีย พระเจ้าจอร์จก็ทรงนำทัพไปปกป้องแคว้นแฮนโนเวอร์
แต่ฝรั่งเศสก็ปลุกปั่นกบฏจาโคไบต์ในสกอตแลนด์ในค.ศ. 1745 นำโดยเจ้าชายชาลส์ เอ็ดเวิร์ด สจ๊วต (Charles Edward Stuart) หรือบอนนี่ ปริ้นซ์ ชาร์ลี (Bonnie Prince Charlie) หรือ The Young Pretender เป็นพระโอรสของ The Old Pretender นำทัพสกอตบุกอังกฤษ พระเจ้าจอร์จทรงส่งพระโอรสคือ เจ้าชายวิลเลียม ออกุสตุส ดยุกแห่งคัมเบอร์แลนด์ ไปปราบเจ้าชายชาลส์ในยุทธการที่คัลโลเดน (Culloden) เป็นสงครามครั้งสุดท้ายบนหมู่เกาะบริเทน ตลอดไป ในค.ศ. 1757 พันเอกรอเบิร์ต ไคลฟ์ มีชัยในยุทธการที่ปลาศีและได้แคว้นมาครอบครอง เป็นจุดเริ่มต้นของการยึดครองอนุทวีปอินเดียของบริเตน
ในค.ศ. 1754 การแข่งขันในการแผ่ขยายอาณานิคมในอเมริกาทำให้บริเตนทำสงครามกับฝรั่งเศสในอเมริกา แต่ฝรั่งเศสได้ชาวอินเดียนพื้นเมืองมาเป็นพวก เรียกว่าสงครามฝรั่งเศสและอินเดียน (French and Indian War) และในค.ศ. 1756 การแผ่ขยายอำนาจของพระเจ้าเฟรเดอริคแห่งปรัสเซียทำให้ชาติต่างๆที่เคยเป็นศัตรูกันรวมตัวกันทำสงครามกับปรัสเซีย แต่สงครามอาจทำให้แคว้นฮาโนเวอร์ตกอยู่ในอันตราย ฝรั่งเศสอาจยึด บริเตนจึงเข้าพวกปรัสเซีย เพื่อทำสงครามเจ็ดปี (Seven Years' War) บริเตนจึงต้องทำสงครามสองที่ ทั้งในยุโรปและอเมริกา
บริเตนทำสงครามกับฝรั่งเศสตามอาณานิคมต่างๆทั่วโลก ขุนพลวอล์ฟ (Wolfe) ชนะทัพฝรั่งเศสในการรบที่ที่ราบอับราฮัม (Plains of Abraham) ฝรั่งเศสยึดเกาะมินอร์กา แต่บริเตนยึดเซเนกัล ในค.ศ. 1758 วอล์ฟนำบริเตนยึดเมือง เมืองหลวงของอาณานิคมฝรั่งเศสได้ ในค.ศ. 1763 สนธิสัญญาปารีส ยกแคนาดาของฝรั่งเศสทั้งหมดให้บริเตน และได้ฟลอริดาจากสเปน ทำให้อาณานิคมของบริเตนในอเมริกาแผ่ขยายมหาศาล จอร์จ เกรนวิลล์ (George Grenville) หัวหน้าพวกวิกเป็นนายกรัฐมนตรี ออกพระราชบัญญัติอ้างเขตดินแดน (Royal Proclaimation) ในอาณานิคมเพื่อกำหนดเขตแดนระหว่างอาณานิคมกับที่ดินของชาวพื้นเมือง เพื่อหยุดสงครามกับชาวพื้นเมือง
ในค.ศ. 1765 เกรนวิลล์ออกพระราชบัญญัติแสตมป์ (Stamp Act) เพื่อให้ติดแสตมป์อากรในเอกสารราชการทุกอย่างของบริเตนในอาณานิคม ทำให้ชาวอาณานิคมไม่พอใจอย่างมาก พระเจ้าจอร์จจึงทรงปลดเกรนวิลล์และทรงตั้ง (William Pitt the Elder) ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งเป็นเอิร์ลแห่งเชตแฮม (Earl of Chetham) ถอนพระราชบัญญัติแสตมป์ ทำให้ชาวอเมริกาสร้างอนุสาวรีย์ให้ทั้งพระเจ้าจอร์จและเชตแฮม
เอิร์ลแห่งเชตแฮมล้มป่วย ทำให้พวกโทรีขึ้นมามีอำนาจนำโดยลอร์ดนอร์ธ (Lord North) ลอร์ดนอร์ธยกเลิกภาษีทุกประการเพื่อเอาใจชาวอเมริกา แต่ยกเว้นภาษีชา เพื่อรักษาพระเดชานุภาพในการเก็บภาษี ในค.ศ. 1773 เกิดเหตุการณ์ (Boston Tea Party) โยนชาทิ้งทะเล ทำให้ลอร์ดนอร์ธออกพระราชบัญญัติลงทัณฑ์ (Punitive Act) ปิดท่าเรือบอสตันและยกเลิกเสรีภาพของอาณานิคมอ่าวแมซซาชูเซตต์ (Massachusette Bay) ชาวอเมริกาก็ยิ่งลุกฮืออีก เกิดเป็นการปฏิวัติอเมริกา (American Revolution) สงครามจึงเริ่มในค.ศ. 1775 ในค.ศ. 1776 ปีต่อมาอาณานิคมจึงประกาศเอกราชเป็นสหรัฐอเมริกา (United States of America) บริเตนพ่ายแพ้ทัพอาณานิคมที่ซาราโทกา (Saratoga) ในค.ศ. 1778 ฝรั่งเศสเห็นโอกาสจึงเข้าฝ่ายอาณานิคม ในค.ศ. 1781 บริเตนเข้ายึดเมืองยอร์คทาวน์ (Yorktown) ไม่สำเร็จ พระเจ้าจอร์จจึงทรงยอมรับความพ่ายแพ้ สนธิสัญญาปารีสในค.ศ. 1783 ทำให้อังกฤษสูญเสียอาณานิคมสิบสามรัฐในอเมริกา กลายเป็นสหรัฐอเมริกา และยกฟลอริดาให้สเปน เหลือแต่แคนาดาที่ยังเป็นของบริเตน
สงครามเสียอเมริกาทำให้ลอร์ดนอร์ธเสียอำนาจ จึงคบคิดกับฟอกซ์ (Charles James Fox) เพื่อรักษาอำนาจ พระเจ้าจอร์จทรงไม่พอพระทัยจึงอาศัยอำนาจจากสภาขุนขางทำลายอำนาจของนอร์ธ ตั้งวิลเลียม พิตต์ ผู้เยาว์ (William Pitt the Younger) เป็นนายกฯแทน
พระเจ้าจอร์จทรงเริ่มมีพระอาการทางพระสติในค.ศ. 1765 แม้จะทรงพยายามจะรักษาพระองค์ แต่พระอาการก็ทรุดหนักในค.ศ. 1788 ในค.ศ. 1789 พระโอรส เจ้าชายแห่งเวลส์ จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทน
ก่อตั้งสหราชอาณาจักร
ในค.ศ. 1789 เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้าง และกำลังแผ่ขยายอำนาจ บริเตนเข้าสงครามกับฝรั่งเศสในสัมพันธมิตรครั้งที่ 1 (First Coalition) กับชาติอื่นๆในยุโรป ในค.ศ. 1793 แต่พ่ายแพ้ในค.ศ. 1798 การขยายอำนาจของนโปเลียนทำให้ชาติต่างๆเข้าร่วมสัมพันธมิตรครั้งที่ 2 (Second Coalition) อีกครั้งแต่สัมพันธมิตรก็พ่ายแพ้ในค.ศ. 1800 เหลือเพียงบริเตนที่ยังคงทำสงครามกับฝรั่งเศส
สงครามที่วุ่นวายทำให้ไอร์แลนด์ฉวยโอกาสก่อกบฏ วิลเลียม พิตต์จึงออกพระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800 ผนวกไอร์แลนด์เข้ากับบริเตน เป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ (United Kingdom of Great Britain and Ireland)
ติดตามประวัติศาสตร์ต่อใน สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rachxanackrbrietnihy xngkvs Kingdom of Great Britain epnrthinyuorptawntk darngxyuinchwngkh s 1707 cnthung kh s 1801 ekidcakkarrwmknkhxngrachxanackrxngkvsaelarachxanackrskxtaelnd phayitphrarachbyytishphaph kh s 1707 ph s 2250 kxnhnanirachxanackrthngsxngidmiphrapramukhphraxngkhediywkn tngaetsmedcphraecaecmsthi 6 aehngskxtaelndkhunkhrxngrachyepnpramukhkhxngxngkvsin kh s 1603brietnihy Great Britainkh s 1707 1801thngchati traaephndinkhakhwy frngess Dieu et mon droit phraecaaelasiththiaehngkha ephlngchati kxdesfedxakhing khwindinaednkhxngrachxanackrbrietnihyaelarthrwmpramukhsthanarachxanackremuxnghlwnglxndxnphasathwipxngkvs ewls ewls bangswnkhxngskxtaelnd karpkkhrxngrthediyw rabbrthspha rachathipityphayitrththrrmnuyphramhakstriy 1707 1714smedcphrarachininathaexnn 1714 1727smedcphraecacxrcthi 1 1727 1760smedcphraecacxrcthi 2 1760 1801smedcphraecacxrcthi 3naykrthmntri 1721 1742rxebirt wxlophl 1783 1801wileliym phitt phueyawsphanitibyytirthsphaaehngbrietnihy sphasungsphakhunnang sphalangsphasamychnprawtisastr phrarachbyytishphaph kh s 17011 phvsphakhm kh s 1707 phrarachbyytishphaph kh s 180031 thnwakhm 1801phunthi1801230 977 tarangkiolemtr 89 181 tarangiml prachakr 180110942646skulenginpxndsetxrlingkxnhna thdiprachxanackrxngkvsrachxanackrskxtaelnd shrachxanackrbrietnihyaelaixraelnd shrachxanackrbrietnihyaelaixraelndekhaaethnthirachxanackrbrietnihyinpikh s 1801 hlngcakrachxanackrixraelndekharwminphrarachbyytishphaph kh s 1800kxtngrachxanackrbrietnihycakphrarachbyytikarsubsnttiwngs kh s 1701 Act of Settlement wahakrachwngsscwtthiepnopretsaetntsinip ihbllngktkepnkhxngxngkhhyingosfi phrachayainecankhrrthphukhdeluxkhnonefxr Sophie Electress of Hannover thaihrthsphaskxtaelnd thitxngkarcarksarachwngsscwtiw cungxxkphrarachbyytirksakhwamplxdphy Act of Security watharachwngsscwtinxngkvshmdipcatngsmachikphrarachwngsscwtphraxngkhxunmakhrxngskxtaelnd thaihsmedcphrarachininathaexnnaehngxngkvsthrngekrngwaskxtaelndcaaeyktwaelaipekhaphwkkbfrngess thaihphranangxxkphrarachbyytitangdaw Aliens Act inkh s 1705 wachawskxtinxngkvscaepnkhntangdaw ewnaetskxtaelndcaelikphrarachbyytirksakhwamplxdphy hruxrwmekhakbxngkvs skxtaelndeluxkxyanghlng inkh s 1707 phrarachbyytishphaphphnwkxanackrxngkvsaelaxanackrskxtaelndiwdwykn epn rachxanackrbrietnihy Kingdom of Great Britain yubrthsphakhxngthngsxngxanackr tngrthsphaaehngbrietnihy inkh s 1708 phrarachswamikhxngsmedcphrarachininathaexnnkhux ecachaycxrcaehngednmark Prince George of Denmark sinphrachnm phranangaexnnthrngesiyphrathymak thrngimyxmaemaetcaaetngtngphubychakarthpherux Lord High Admiral khnxunkhunmaaethn odyphranangthrngthahnathiaethnphraswamithisinphrachnm cnphrrkhwik Whigs bngkhbihphranangaetngtngphubychakarihminthisud sngkhramsubrachsmbtisepnthiphwkwiksnbsnunnnimprasbkhwamsaerc thaihphayaephkareluxktnginkh s 1710 phrrkhothri Tory khunmaaethn aelaecrcasntiphaphinsnthisyyaxuethrchth Treaty of Utrecht inkh s 1713 yxmrbphraecafilipthi 5 aehngsepnepnkstriysepn inkh s 1714 smedcphrarachininathaexnnswrrkht phraoxrskhxngxngkhhyingosfi khuxcxrc phukhdeluxkaehngaehnonewxrcakeyxrmni makhunkhrxngrachyepnphraecacxrcthi 1 aehngbrietnihy epnpthmkstriyrachwngshaonewxrphraecacxrcthi 1 kh s 1714 thung kh s 1727 inkh s 1715 phrrkhwikchnakareluxktng xxkphrarachbyytiecdpi Septennial Act ihrthsphamixayuxyangnxyecdpi epnrakthanihphwkwikmixanacipxik 50 pi aetxngkhchayecms exdward scwt James Edward Stuart hrux The Old Pretender phraoxrskhxngphraecaecmsthi 2 epnechuxphrawngsscwtthinbthuxkhathxlikthithukyudbllngkipinehtukarnkarptiwtixnrungorcn mathwngbllngkeriykwa Jacobite phwkothriaexbipekhaphwkcaokhibt phraecacxrcthrngmikhwamkhdaeyngkbphraoxrs khux cxrc xxkustus ecachayaehngewls George Augustus Prince of Wales inkh s 1717 phraecacxrcthrngnaxngkvsekha War of the Quadraple Alliance ephuxthasngkhramkbsepn sepncungsnbsnunkbtcaokhibt aetimsaerc inkh s 1719 bristhesathsiesnxrthsphawacaaebkrbpharakarichhniphnthbtrcakrthbal odykhxkhwamplxdphykhxnghunepnkaraelkepliyn bristhesathsiesnxihecakhxngphnthbtrtang epliynphnthbtrepnhun thaihrakhaphnthbtrsungkhunxyangrwderw thaihrthsphatxngxxkphrarachbyytihamkaraelkepliyn phlkhuxkarsuxkhayphnthbtrklayepntladitdin emuxhasuxknidngay rakhacungtkwub brrdakhunnangkkhadthunknmhasal eriykwa ehtukarnfxngsbuaetkesathsiphraecacxrcthi 2 kh s 1727 thung kh s 1760 ecachayaehngewlskhunkhrxngrachyepnphraecacxrcthi 2 echnediywkbphrabida phraecacxrcthi 2 thrngmikhwamkhdaeyngkbphraoxrskhuxefredxrikh ecachayaehngewls Frederick Prince of Wales inrchsmykhxngphraxngkh esxrrxebirt wxlophl Sir Robert Walpole mixanacmakcnidchuxwaepnnaykrthmntrixngkvskhnaerk phraecacxrcthrngnaxngkvsekha War of Jenkin s Ear kbsepn aelasngkhramsubrachbllngkxxsetriy emuxphraecafridrichmharachaehngprsesiy epnphranddakhxngphraecacxrc txngkarcaaeyngbllngkxxsetriy phraecacxrckthrngnathphippkpxngaekhwnaehnonewxr aetfrngesskplukpnkbtcaokhibtinskxtaelndinkh s 1745 naodyecachaychals exdewird scwt Charles Edward Stuart hruxbxnni prins charli Bonnie Prince Charlie hrux The Young Pretender epnphraoxrskhxng The Old Pretender nathphskxtbukxngkvs phraecacxrcthrngsngphraoxrskhux ecachaywileliym xxkustus dyukaehngkhmebxraelnd ipprabecachaychalsinyuththkarthikhloledn Culloden epnsngkhramkhrngsudthaybnhmuekaabriethn tlxdip inkh s 1757 phnexkrxebirt ikhlf michyinyuththkarthiplasiaelaidaekhwnmakhrxbkhrxng epncuderimtnkhxngkaryudkhrxngxnuthwipxinediykhxngbrietn inkh s 1754 karaekhngkhninkaraephkhyayxananikhminxemrikathaihbrietnthasngkhramkbfrngessinxemrika aetfrngessidchawxinediynphunemuxngmaepnphwk eriykwasngkhramfrngessaelaxinediyn French and Indian War aelainkh s 1756 karaephkhyayxanackhxngphraecaefredxrikhaehngprsesiythaihchatitangthiekhyepnstruknrwmtwknthasngkhramkbprsesiy aetsngkhramxacthaihaekhwnhaonewxrtkxyuinxntray frngessxacyud brietncungekhaphwkprsesiy ephuxthasngkhramecdpi Seven Years War brietncungtxngthasngkhramsxngthi thnginyuorpaelaxemrikaphraecacxrcthi 3 kh s 1760 thung kh s 1801 playstwrrsthi 18 epysmyaehngkarptiwtixutsahkrrminbrietn brietnthasngkhramkbfrngesstamxananikhmtangthwolk khunphlwxlf Wolfe chnathphfrngessinkarrbthithirabxbrahm Plains of Abraham frngessyudekaaminxrka aetbrietnyudesenkl inkh s 1758 wxlfnabrietnyudemuxng emuxnghlwngkhxngxananikhmfrngessid inkh s 1763 snthisyyaparis ykaekhnadakhxngfrngessthnghmdihbrietn aelaidflxridacaksepn thaihxananikhmkhxngbrietninxemrikaaephkhyaymhasal cxrc ekrnwill George Grenville hwhnaphwkwikepnnaykrthmntri xxkphrarachbyytixangekhtdinaedn Royal Proclaimation inxananikhmephuxkahndekhtaednrahwangxananikhmkbthidinkhxngchawphunemuxng ephuxhyudsngkhramkbchawphunemuxng inkh s 1765 ekrnwillxxkphrarachbyytiaestmp Stamp Act ephuxihtidaestmpxakrinexksarrachkarthukxyangkhxngbrietninxananikhm thaihchawxananikhmimphxicxyangmak phraecacxrccungthrngpldekrnwillaelathrngtng William Pitt the Elder khunmaepnnaykrthmntri aetngtngepnexirlaehngechtaehm Earl of Chetham thxnphrarachbyytiaestmp thaihchawxemrikasrangxnusawriyihthngphraecacxrcaelaechtaehm exirlaehngechtaehmlmpwy thaihphwkothrikhunmamixanacnaodylxrdnxrth Lord North lxrdnxrthykelikphasithukprakarephuxexaicchawxemrika aetykewnphasicha ephuxrksaphraedchanuphaphinkarekbphasi inkh s 1773 ekidehtukarn Boston Tea Party oynchathingthael thaihlxrdnxrthxxkphrarachbyytilngthnth Punitive Act pidthaeruxbxstnaelaykelikesriphaphkhxngxananikhmxawaemssachuestt Massachusette Bay chawxemrikakyinglukhuxxik ekidepnkarptiwtixemrika American Revolution sngkhramcungeriminkh s 1775 inkh s 1776 pitxmaxananikhmcungprakasexkrachepnshrthxemrika United States of America brietnphayaephthphxananikhmthisaraothka Saratoga inkh s 1778 frngessehnoxkascungekhafayxananikhm inkh s 1781 brietnekhayudemuxngyxrkhthawn Yorktown imsaerc phraecacxrccungthrngyxmrbkhwamphayaeph snthisyyaparisinkh s 1783 thaihxngkvssuyesiyxananikhmsibsamrthinxemrika klayepnshrthxemrika aelaykflxridaihsepn ehluxaetaekhnadathiyngepnkhxngbrietn sngkhramesiyxemrikathaihlxrdnxrthesiyxanac cungkhbkhidkbfxks Charles James Fox ephuxrksaxanac phraecacxrcthrngimphxphrathycungxasyxanaccaksphakhunkhangthalayxanackhxngnxrth tngwileliym phitt phueyaw William Pitt the Younger epnnaykaethn phraecacxrcthrngerimmiphraxakarthangphrastiinkh s 1765 aemcathrngphyayamcarksaphraxngkh aetphraxakarkthrudhnkinkh s 1788 inkh s 1789 phraoxrs ecachayaehngewls cungepnphusaercrachkaraethn kxtngshrachxanackr inkh s 1789 ekidkarptiwtifrngess rabxbkstriythuklmlang aelakalngaephkhyayxanac brietnekhasngkhramkbfrngessinsmphnthmitrkhrngthi 1 First Coalition kbchatixuninyuorp inkh s 1793 aetphayaephinkh s 1798 karkhyayxanackhxngnopeliynthaihchatitangekharwmsmphnthmitrkhrngthi 2 Second Coalition xikkhrngaetsmphnthmitrkphayaephinkh s 1800 ehluxephiyngbrietnthiyngkhngthasngkhramkbfrngess sngkhramthiwunwaythaihixraelndchwyoxkaskxkbt wileliym phittcungxxkphrarachbyytishphaph kh s 1800 phnwkixraelndekhakbbrietn epnshrachxanackrbrietnihyaelaixraelnd United Kingdom of Great Britain and Ireland tidtamprawtisastrtxin shrachxanackrbrietnihyaelaixraelndduephimshrachxanackr