ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ราชอาณาจักรอารากอน (สเปน: Reino de Aragón; อารากอน: Reino d'Aragón; กาตาลา: Regne d'Aragó; ละติน: Regnum Aragonum) เป็นราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปนระหว่างปี ค.ศ. 1035 ถึงปี ค.ศ. 1707 โดยมีพระเจ้ารามิโรที่ 1 แห่งอารากอนแห่งเป็นกษัตริย์องค์แรก อาณาจักรอารากอนเป็นอาณาจักรแบบราชาธิปไตย อาณาบริเวณเป็นบริเวณเดียวกับแคว้นอารากอนในประเทศสเปนปัจจุบัน ราชอาณาจักรอารากอนเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ “ราชบัลลังก์อารากอน” (Crown of Aragon) ซึ่งรวมทั้งราชอาณาจักรบาเลนเซียและราชรัฐกาตาลุญญา ซึ่งมีประมุขร่วมกัน
ราชอาณาจักรอารากอน Reino d'Aragón (อารากอน) Reino de Aragón (สเปน) Regne d'Aragó (กาตาลา) Regnum Aragonum (ละติน) | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1035–1707 | |||||||
ตราแผ่นดิน | |||||||
ราชอาณาจักรอารากอนเมื่อปี ค.ศ. 1400 | |||||||
สถานะ | ราชอาณาจักร | ||||||
เมืองหลวง | ซาราโกซา | ||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาอารากอน ภาษากาตาลา และภาษากัสติยา | ||||||
ศาสนา | คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก | ||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||
กษัตริย์ | |||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||
• แคว้นอารากอนก่อตั้งเป็นราชอาณาจักรอิสระ | ค.ศ. 1035 | ||||||
• อารากอนและกัสติยารวมเป็นประเทศสเปน | 1707 | ||||||
|
ราชอาณาจักรเดิมเป็นแคว้นฟิวดัลของชาวแฟรงก์รอบเมืองซึ่งรวมตัวกับราชอาณาจักรปัมโปลนาที่ต่อมาเป็นราชอาณาจักรนาวาร์ในปี ค.ศ. 925 แคว้นอารากอนแยกตัวจากราชอาณาจักรนาวาร์ในปี ค.ศ. 1035 และเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาณาจักรเต็มตัวโดยพระเจ้ารามิโรที่ 1 อาณาจักรอารากอนขยายตัวไปทางใต้ทาง ในปี ค.ศ. 1096 และต่อมาซาราโกซา ในปี ค.ศ. 1118 จนกระทั่งปี ค.ศ. 1285 พรมแดนทางใต้ที่สุดของอารากอนเป็นดินแดนจากมัวร์
อาณาจักรอารากอนรวมกับราชบัลลังก์อารากอนหลังจากการเสกสมรสระหว่างสองราชวงศ์ในปี ค.ศ. 1150 ระหว่าง เคานต์แห่งบาร์เซโลนา และเปโตรนีลาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอารากอน พระโอรสของทั้งสองพระองค์ได้รับดินแดนของทั้งสองอาณาจักร นอกจากนั้นพระเจ้าแผ่นดินแห่งอารากอนยังได้รับตำแหน่งเพิ่มเป็นเคานต์แห่งบาร์เซโลนา ปกครองดินแดนเดิมและราชรัฐกาตาลุญญา และต่อมาหมู่เกาะแบลีแอริก ราชอาณาจักรบาเลนเซีย ราชอาณาจักรซิซิลี ราชอาณาจักรเนเปิลส์ และราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย
พระเจ้าแผ่นดินแห่งอารากอนเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์แรกที่ทรงปกครองบริเวณอารากอนโดยตรงและทรงดำรงตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินแห่งบาเลนเซีย พระเจ้าแผ่นดินแห่งมาจอร์กา (ชั่วระยะหนึ่ง) เคานต์แห่งบาร์เซโลนา ลอร์ดแห่งมงเปอลีเย และดุ๊กแห่งเอเธนส์ (ชั่วระยะหนึ่ง) แต่ละตำแหน่งที่ได้มาหรือเสียไปก็เป็นการเพื่มหรือลดดินแดนภายใต้การปกครองในคริสต์ศตวรรษที่ 14 อำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งอารากอนก็จำกัดลงเพียงบริเวณอารากอนเองตามข้อตกลง “” (Union of Aragon)
ราชบัลลังก์อารากอนถูกยุบเลิกโดยปริยายหลังจากการรวมกับราชบัลลังก์กัสติยา แต่หลังจากการรวมตัวอารากอนก็ยังรักษาอำนาจบางอย่างอยู่บ้างจนกระทั่งมาสิ้นสุดลงทั้งหมดตามพระราชกฤษฎีกานูเอบาปลันตา (Nueva Planta decrees) ที่ออกในปี ค.ศ. 1707
ประวัติศาสตร์
การถือกำเนิด
อารากอนเดิมทีเป็นเคานตีตามระบอบศักกดินาของราชวงศ์การอแล็งเฌียงซึ่งตั้งอยู่แถวเมือง ต่อมาในครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 9 ได้กลายเป็นรัฐบริวารของราชอาณาจักรปัมโปลนา (ต่อมาคือราชอาณาจักรนาวาร์) ตระกูลของเคานต์แห่งอารากอนสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 922 เมื่อไร้ซึ่งทายาทเพศชาย
หลังการสิ้นพระชนม์ของในปี ค.ศ. 1035 ราชอาณาจักรนาวาร์ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ (1) ปัมโปลนาและดินแดนที่อยู่ห่างไกลออกไปตามแนวชายฝั่งและพื้นที่ทางตะวันตกของแคว้นบาสก์ (2) กัสติยา และ (3) , และอารากอน กอนโซลา พระโอรสของพระเจ้าซันโช ได้สืบทอดต่อโซบราเบและริบาร์โกร์ซา ขณะที่รามิโร บุตรชายนอกสมรสได้บริหารปกครองอารากอนภายใต้การปกครองของกอนซาโลอีกทีหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานกอนซาโลถูกสังหาร ดินแดนทั้งหมดที่เป็นของพระองค์จึงตกเป็นของรามิโร พระอนุชานอกสมรสที่กลายเป็นกษัตริย์แห่งอารากอนในทางพฤตินัยคนแรก แม้พระองค์จะไม่เคยได้ครองตำแหน่งนี้ อารากอนถูกจำกัดพื้นที่ด้วยเทือกเขาพีรินีและมีพรมแดนติดกับราชอาณาจักรนาวาร์ที่ทรงอำนาจที่สุดและไตฟาซาราโกซาที่มีความสำคัญ แต่จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและความต้องการดินแดนมาเป็นที่อยู่อาศัยผลักดันให้ต้องขยายอาณาเขต แม้ว่าในช่วงแรกจะมีการทหารที่อ่อนแอ
หลังปราบพระเชษฐา ได้ รามิโรสร้างเอกราชให้อารากอนได้สำเร็จ พระโอรสของพระองค์ ที่ได้สืบทอดต่อราชอาณาจักรนาวาร์ด้วยเป็นคนแรกที่เรียกตนเองว่า "กษัตริย์ของชาวอารากอนและชาวปัมโปลนา"
การขยายอาณาเขต
จุดมุ่งหมายของพระเจ้ารามิโรที่ 1 ในการพิชิตพื้นที่ราบกลับคืนมาได้รับการสานต่อจากผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์ทันที
ถูกพระอนุชาของตนเองสังหารในปี ค.ศ. 1076 ชาวนาวาร์ไม่ต้องการได้คนที่ฆ่าพี่น้องมาบริหารปกครองจึงเลือกพระเจ้าซันโช รามิเรซแห่งอารากอนเป็นกษัตริย์ อันเป็นการรวมราชบัลลังก์ปัมโปลนาเข้ากับอารากอน ราชอาณาจักรนาวาร์ถูกแบ่งให้ราชอาณาจักรเลออน-กัสติยา และราชอาณาจักรอาณาจักรอารากอนซึ่งได้รับอาณาเขตสำคัญ หนึ่งในนั้นคือเมืองหลวงของนาวาร์ และขยายขนาดใหญ่ขึ้นสามเท่า แม้จะต้องแลกกับการยอมรับการครองอำนาจเหนือกว่าในทางทฤษฎีของเลออน-กัสติยา เพื่อฉลองการขยายอาณาเขต พระเจ้าซันโชได้ก่อตั้งเมืองฆากาขึ้น ขณะควบคุมพื้นที่สูงที่มีพรมแดนติดกันแม่น้ำเอโบรทางตอนเหนือ พระองค์ได้ทำการรุกรานหลายครั้ง โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ไตฟาซาราโกซา และได้พยายามขยายอาณาเขตไปทางพื้นที่ราบ โดยมีเป้าหมายหลักคือพื้นที่ราบที่อยู่ติดกับหุบเขาอารากอน, โซบราเบ และริบาโกร์ซา เพื่อชดเชยการขาดแคลนกำลังพลที่จำเป็นต้องใช้ในการขยายอาณาเขต พระองค์ได้พยายามนำเอากำลังพลมาจากทางใต้ของฝรั่งเศส การขยายดินแดนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการพิชิตจุดยุทธศาสตร์อย่างในปี ค.ศ. 1083 และในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ในปี ค.ศ. 1089 การปิดล้อมมอนซอนของอารากอนถูกขัดขวางโดยชุมชนทีตั้งอยู่ระหว่างแยย์ดากับ ในปี ค.ศ. 1091 อารากอนได้สร้างปราสาทเอลกัสเตยาร์ขึ้นมาบนพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซาราโกซากับ พระเจ้าซันโชทำการปิดล้อมเมืองอูเอสกาซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่มีขนาดใหญ่กว่าฆากาและปัมโปลนา แต่ทรงสิ้นพระชนม์เสียก่อน ผู้ที่ขึ้นสืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ทันทีคือ พระโอรส ที่กลับมาปิดล้อมเมืองต่อทันที
พระเจ้าเปโดรที่ 1 แห่งอารากอนพิชิตอูเอสกาได้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1096 หลังปราบพระเจ้าอัลมุสตาอินที่ 2 แห่งไตฟาซาราโกซาได้ในสมรภูมิอัลกอรัซซึ่งต่อสู้กันเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนของปีเดียวกันนั้น ในปี ค.ศ. 1101 ทรงยึดและ และยึดตามารีเตเดลีเตราได้ในปี ค.ศ. 1104
ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 ผู้ประจันบาญ การยึดซาราโกซาได้ในปี ค.ศ. 1118 นำไปสู่การล่มสลายของราชอาณาจักรมัวร์ทั้งหมด พระเจ้าอัลฟอนโซประสบความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานกับพระราชินีอูร์รากาแห่งเลออน ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน ตามพระประสงค์ของพระองค์ ทรงยกราชอาณาจักรของตนให้กับกลุ่มทหารสามกลุ่ม แต่ไม่มีใครคิดจะทำตามพระประสงค์นั้น ขุนนางอารากอนได้รวมตัวกันที่ฆากาและยอมรับรามิโร พระอนุชาของพระองค์เป็นกษัตริย์ ฝั่งนาวาร์ได้เลือกเป็นกษัตริย์ และแยกตัวออกมาเป็นราชอาณาจักรนาวาร์ ในตอนนั้นรามิโรดำรงตำแหน่งเป็นบิชอปแห่งโรดา-บาร์บัสโตร แต่ต้องมาครองบัลลังก์
ราชบัลลังก์อารากอน
ในปี ค.ศ. 1137 พระเจ้ารามิโรที่ 2 ผู้เป็นพระได้ตกลงหมั้นหมายเปโตรนิยาแห่งอารากอน พระธิดาเพียงคนเดียวของพระองค์ กับราโมน บารังเกที่ 4 แห่งบาร์เซโลนา พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 แห่งอารากอน พระโอรสของทั้งคู่เป็นกษัตริย์คนแรกที่สืบทอดตำแหน่งเป็นทั้งกษัตริย์แห่งอารากอนและเคานต์แห่งบาร์เซโลนา และปกครองอาณาเขตที่ไม่ได้มีเพียงแคว้นอารากอนในปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงกาตาลุญญา และมาจอร์กา, บาเลนเซีย, ซิซิลี, เนเปิลส์ และซาร์ดิเนียในเวลาต่อมา กษัตริย์แห่งอารากอนเป็นกษัตริย์โดยตรงของแคว้นอารากอน และยังครองตำแหน่งเป็นเคานต์แห่งโพรว็องส์, เคานต์แห่งบาร์เซโลนา, ลอร์ดแห่งมงเปอลีเย และดยุคแห่งเอเธนส์และเนโอปาเตรีย ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเมื่อทรงสูญเสียและพิชิตดินแดนได้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระราชอำนาจถูกจำกัดโดยสหภาพอารากอน
การรวมกันของราชบัลก์อารากอนและราชบัลลังก์กัสติยา และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ราชบัลลังก์อารากอนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการปกครองระบอบกษัตริย์ของสเปนหลังการรวมราชวงศ์กับกัสติยา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในทางพฤตินัยของราชอาณาจักรทั้งสองภายใต้พระมหากษัตริย์ส่วนกลาง ในปี ค.ศ. 1412 หลังการหมดสิ้นทายาทในปี ค.ศ. 1410 ของราชบาร์เซโลนาซึ่งปกครองราชบัลลังก์มาจนถึงช่วงเวลาดังกล่าว ผู้สรรหาของอารากอนได้เลือกเจ้าชายกัสติยา เป็นผู้ครองบัลลังก์อารากอนที่ว่างอยู่ ท่ามกลางการต่อต้านอย่างรุนแรงจากชาวกาตาลัน หนึ่งในผู้สืบทอดตำแหน่งของพระเจ้าเฟร์นันโด จัดการกับการต่อต้านของชาวกาตาลันด้วยการจับเฟร์นันโด ทายาทแห่งกาตาลุญญา แต่งงานกับอีซาเบล รัชทายาทของ ในปี ค.ศ. 1479 เมื่อพระเจ้าฆวนที่ 2 สิ้นพระชนม์ ราชบัลลังก์อารากอนและราชบัลลังก์กัสตียาถูกรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นหัวใจหลักของประเทศสเปนในปัจจุบัน ทว่าต่อมาดินแดนของอารากอนตกเป็นของสภาและหน่วยงานอิสระด้านการบริหารปกครอง จนกระทั่งพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งสเปนประกาศใช้พระราชกฤษฎีกานูเอบาปลันตาในช่วงปี ค.ศ. 1707 ถึง ค.ศ. 1715 หลังเกิดสงครามการสืบราชบัลลังก์สเปนซึ่งสุดท้ายก็ได้ข้อยุติ พระราชกฤษฎีกายุติราชอาณาจักรอารากอน, ราชอาณาจักรบาเลนเซีย, ราชอาณาจักรมาจอร์กา และราชรัฐกาตาลุญญา และรวมดินแดนดังกล่าวเข้ากับกัสติยาเพื่อสร้างราชอาณาจักรสเปนขึ้นมาอย่างเป็นทางการ พระราชกฤษฎีกานูเอบาปลันตาฉบับใหม่ในปี ค.ศ. 1711 คืนสิทธิบางส่วนให้อารากอน เช่น สิทธิพลเมืองของชาวอารากอน แต่ยังคงการยุติอิสรภาพทางการเมืองของราชอาณาจักรไว้
ราชอาณาจักรอารากอนเดิมเหลือรอดอยู่ในฐานะหน่วยปกครองย่อยจนถึงปี ค.ศ. 1833 เมื่อดินแดนถูกแบ่งออกเป็นสามจังหวัด หลังการเสียชีวิตของฟรานซิสโก ฟรังโกในปี ค.ศ. 1982 อารากอนกลายเป็นหนึ่งในแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปน
การสืบราชบัลลังก์
ราชวงศ์ฆิเมเนซ
ราชอาณาจักรอารากอนเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1035 ที่สถาปนาตนเป็นราชอาณาจักรอิสระ โดยมีปฐมกษัตริย์คือพระเจ้ารามิโรที่ 1 แห่งอารากอน พระโอรสนอกสมรสของ
พระมเหสีคนแรกของพระเจ้ารามิโรคือ พระราชินีแห่งอารากอนคนแรก ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันห้าคน เอร์เมซินดาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1049 กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับหญิงชื่อ ซึ่งอาจเป็นบุตรสาวของดยุคแห่งอากีแตน แต่ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน พระเจ้ารามิโรสิ้นพระชนม์ที่สมรภูมิเกราส์ในปี ค.ศ. 1063 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ ผู้เป็นพระโอรสคนโต พระเจ้าซันโชอภิเษกสมรสกับในปี ค.ศ. 1062 ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคนก่อนจะหย่าขาดจากกันในปี ค.ศ. 1070 ปีต่อมากษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับ ทั้งคู๋มีพระโอรสธิดาด้วยกันสามคน พระเจ้าซันโชสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1094 ที่สมรภูมิอูเอสกา ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือผู้เป็นพระโอรสคนโต ในปี ค.ศ. 1086 พระองค์อภิเษกสมรสกับ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคนซึ่งต่างก็สิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดา แอนเญ็สสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1097 พระเจ้าเปโดรอภิเษกสมรสใหม่กับหญิงชื่อ แต่ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน พระเจ้าเปโดรสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1104 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 ผู้เป็นพระอนุชาต่างมารดา
พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในสนามรบและอภิเษกสมรสกับพระราชินีอูร์รากาแห่งเลออนและกัสติยาในปี ค.ศ. 1109 แต่การแต่งงานถูกประกาศให้เป็นโมฆะในปี ค.ศ. 1112 เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1134 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อคือพระเจ้ารามิโรที่ 2 พระอนุชาคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้ารามิโรได้สาบานตนเข้าสู่อาราม แต่พระองค์ระงับคำสาบานชั่วคราวเพื่อมาแต่งงานกับและเป็นบิดาของรัชทายาท พระองค์จึงเป็นที่รู้จักในชื่อผู้เป็นพระ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันเพียงคนเดียวคือเปโตรนียาที่เสด็จพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1136 ทรงจัดแจงให้พระธิดาแต่งงานกับราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งบาร์เซโลนาซึ่งแก่กว่าเปโตรนียา 23 ปี และสละราชบัลลังก์ให้พระธิดา เปโตรนียากลายเป็นพระราชินีผู้ปกครองคนแรกของอารากอนตอนอายุเพียง 1 พรรษา การแต่งงานได้รับการอนุมัติเมื่อพระราชินีเปโตรนียาพระชนมายุ 14 พรรษาและถูกทำให้สมบูรณ์ในปีต่อมา การแต่งงานให้กำเนิดพระโอรสธิดาห้าคน พระราชินีเปโตรนียาเป็นม่ายในปี ค.ศ. 1162 และพระองค์สละราชบัลลังก์ให้พระโอรสวัย 7 พรรษาในสองปีต่อมา พระโอรสของพระองค์กลายเป็นพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 และเป็นกษัตริย์แห่งอารากอนคนแรกที่มาจากราชวงศ์บาร์เซโลนา
ราชวงศ์บาร์เซโลนา
พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 อภิเษกสมรสกับในปี ค.ศ. 1174 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันแปดคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตรอดถึงวัยผู้ใหญ่ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1196 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ ผู้เป็นพระโอรสคนโต พระองค์เป็นกษัตริย์อารากอนคนแรกที่ได้รับการสวมมงกุฎจากสมเด็จพระสันตะปาปา ในปี ค.ศ. 1204 พระองค์กลายเป็นสามีคนที่สามของ ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคนก่อนที่พระองค์จะทอดทิ้งมารี เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1213 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ พระโอรสที่ต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อผู้พิชิตจากการขยายราชอาณาจักรออกไปอย่างมากมายในรัชสมัยของพระองค์
พระเจ้าไฆเมอภิเษกสมรสกับ ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคนก่อนที่การแต่งงานจะถูกประกาศให้เป็นโมฆะ พระโอรสของทั้งคู่ต่อมาแต่งงานกับกงสต็องซ์แห่งเบียร์งแต่สิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดาโดยไร้ซึ่งทายาท ในปี ค.ศ. 1235 กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสิบคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตรอดจนถึงวัยผู้ใหญ่ หลังวิโอลันต์สิ้นพระชนม์ (ไม่ทราบวัน) กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับอนุภรรยาของพระองค์ พระองค์ทิ้งเตเรซาเมื่อเตเรซาเริ่มเป็นโรคเรื้อน พระเจ้าไฆเมสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1276 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือพระเจ้าเปโดรที่ 3 พระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่คนโต พระองค์ได้แต่งงานกับ ทายาทแห่งซิซิลี ในปี ค.ศ. 1262 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันหกคน เมื่อทรงสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1285 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ ผู้เป็นพระโอรสคนโต พระโอรสคนที่สองของพระองค์กลายเป็นกษัตริย์แห่งซิซิลี
พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 3 ถูกจับหมั้นหมายกับเอเลนอร์แห่งอังกฤษ แต่พระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1291 ก่อนการแต่งงานจะเกิดขึ้น พระอนุชาของพระองค์กลายเป็นกษัตริย์ทั้งในอารากอนและซิซิลี พระองค์ยอมยกซิซิลีให้พระอนุชาในปี ค.ศ. 1295 พระองค์ยังเป็นกษัตริย์แห่งซาร์ดิเนียและคอร์ซิกาหลังอ้างสิทธิ์ในอาณาเขตในปี ค.ศ. 1297
พระเจ้าไฆเมที่ 2 อภิเษกสมรสสี่ครั้งแต่การแต่งงานครั้งแรกกับถูกประกาศให้เป็นโมฆะ พระมเหสีคนที่สอง คือพระราชินีแห่งซาร์ดิเนียคนแรก ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันเจ็ดคน พระองค์อาจสิ้นพระชนม์จากความยากลำบากในการคลอดบุตรคนที่สิบเอ็ด พระเจ้าไฆเมอภิเษกสมรสใหม่ในปี ค.ศ. 1314 กับ ทายาทแห่งไซปรัส มารีสิ้นพระชนม์ในอีกห้าปีต่อมาโดยไม่มีพระโอรสธิดา กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่ในปี ค.ศ. 1322 กับ แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกันเช่นกัน เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1317 ผู้สืบทอดต่ออาณาเขตทั้งหมดของพระองค์คือ ผู้เป็นพระโอรส
พระเจ้าอัลฟอนโซได้แต่งงานกับในปี ค.ศ. 1314 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันเจ็ดคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตรอดจนถึงวัยผู้ใหญ่ เทเรซาเสียชีวิตในการคลอดบุตรก่อนอัลฟอนโซจะสืบทอดต่อตำแหน่งกษัตริย์เพียงไม่กี่วัน ในปี ค.ศ. 1329 พระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคน พระเจ้าอัลฟอนโซสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 36 พรรษา และผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ พระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่คนโต
ในปี ค.ศ. 1338 พระเจ้าเปโดรอภิเษกสมรสกับ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคน มารีสิ้นพระชนม์ในการคลอดบุตรและพระเจ้าเปโดรอภิเษกสมรสใหม่ในปี ค.ศ. 1347 กับ แต่เลโอนอร์สิ้นพระชนม์ในอีกหนึ่งปีต่อมาด้วยโรคระบาด ในปี ค.ศ. 1349 พระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับและมีพระโอรสธิดาด้วยกันสามคน เมื่อเอเลนอร์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1375 พระองค์อภิเษกสมรสใหม่ครั้งที่สี่กับในปี ค.ศ. 1377 ทั้งคู่มีพระธิดาที่มีชีวิตรอดหนึ่งคน เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1387 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ พระโอรสจากการแต่งงานครั้งที่สอง
พระเจ้าฆวนได้แต่งงานกับเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1373 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันห้าคน แต่มีเพียงพระธิดาคนเดียวที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ มาร์ธสิ้นพระชนม์ในการคลอดบุตรในปี ค.ศ. 1378 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1380 กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันหกคน แต่มีเพียงพระธิดาคนเดียวที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ เมื่อพระเจ้าฆวนสิ้นพระชนม์โดยไร้ซึ่งพระโอรส บัลลังก์ก็ตกเป็นของ ผู้เป็นพระอนุชา พระธิดาทั้งสองของพระองค์พยายามอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งคู่
พระเจ้ามาร์ติงได้แต่งงานกับเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1373 ทั้งคู่มีพระโอรสที่รอดชีวิตหนึ่งคน ในปี ค.ศ. 1409 พระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับ แต่ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน พระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียวของพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1409 เมื่อพระเจ้ามาร์ติงสิ้นพระชนม์ การปกครองของราชวงศ์บาร์เซโลนาก็สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1412 พระภาติไนยของพระองค์ได้รับเลือกเป็นกษัตริย์
ราชวงศ์ตรัสตามารา
พระเจ้าเฟร์นันโดได้แต่งงานกับในปี ค.ศ. 1393 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันเจ็ดคน พระเจ้าเฟร์นันโดครองราชย์ได้เพียงสี่ปี เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1416 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ ผู้เป็นพระโอรส
พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 ได้แต่งงานกับในปี ค.ศ. 1415 แต่ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน พระองค์มีบุตรนอกสมรสสามคนกับภรรยาลับ ในปี ค.ศ. 1421 ผู้ไร้ซึ่งทายาทรับพระองค์เป็นพระโอรสบุญธรรมและประกาศชื่อพระองค์เป็นทายาทในราชอาณาจักรเนเปิลส์ พระองค์ยังได้ประกาศชื่อทายาทอีกคน แต่สุดท้ายพระเจ้าอัลฟอนโซก็ได้สืบทอดต่อเป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์ในปี ค.ศ. 1442 พระองค์หาทางจนสมเด็จพระสันตะปาปายินยอมให้พระองค์ยกราชอาณาจักรเนเปิลส์ให้บุตรชายนอกสมรสที่ต่อมาคือ อาณาจักรอื่นๆ รวมถึงอารากอนตกเป็นของพระโอรสคนเล็ก ในปี ค.ศ. 1458
พระเจ้าฆวนได้แต่งงานกับอนาคตเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1419 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสาม บล็องช์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1441 ส่วนพระเจ้าฆวนอภิเษกสมรสใหม่กับในปี ค.ศ. 1458 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคน พระองค์เก็บอำนาจควบคุมราชอาณาจักรนาวาร์ไว้ในมือตลอดพระชนม์ชีพ สร้างความปั่นป่วนให้กับ พระโอรสคนโตและทายาทของพระราชินีบล็องช์ สุดท้ายเมื่อชาร์ลส์สิ้นพระชนม์ นาวาร์ก็ตกเป็นของพระธิดาคนโตของทั้งคู่ ตามด้วยพระธิดาคนเล็ก ผู้สืบทอดต่ออาณาเขตที่เป็นของพระเจ้าฆวนคือพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 พระโอรสคนโตจากการแต่งงานครั้งที่สอง
พระเจ้าเฟร์นันโดได้แต่งงานกับอนาคตพระราชินีอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคนที่สิ้นพระชนม์ในช่วงวัยรุ่นกับพระธิดาสี่คน หลังการสิ้นพระชนม์ของพระโอรส ไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระเจ้าเฟร์นันโด เนื่องจากการสืบทอดตำแหน่งของผู้หญิงไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าในกัสติยา พระธิดาคนโตของทั้งคู่สิ้นพระชนม์ในการคลอดบุตรชายที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง แต่บุตรชายคนดังกล่าวก็ตายตั้งแต่อายุยังน้อย ฆัวนา พระธิดาคนที่สองของทั้งคู่แต่งงานกับอาร์ชดยุคฟิลิปแห่งออสเตรียและมีบุตรด้วยกันหกคน พระองค์สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระมารดาเมื่อพระราชินีอิซาเบลสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1504 พระเจ้าเฟร์นันโดตัดสินใจแยกราชอาณาจักรทั้งสองออกจากกันและอภิเษกสมรสใหม่กับ ด้วยความหวังว่าจะมีพระโอรส ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคนแต่สิ้นพระชนม์ไม่นานหลังคลอด เมื่อพระเจ้าเฟร์นันโดสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1516 ฟิลิปที่เสียชีวิตไปนานแล้วได้ประกาศชื่อฆัวนาเป็นผู้สืบทอดโดยมีคาร์ล พระโอรสเป็นผู้ปกครองร่วม ต่อมาฆัวนาถูกจองจำเนื่องจากสันนิษฐานว่าเสียสติ
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
คาร์ลไม่เพียงสืบทอดอาณาเขตของพระมารดาแต่ยังสืบทอดอาณาเขตของพระบิดาด้วย พระองค์ยังได้รับเลือกเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1519 อารากอนกับกัสติยาที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวต่อมาจะเป็นที่รู้จักในชื่อประเทศสเปน แต่อารากอนก็ได้อำนาจในรัฐสภาและองค์กรบริหารปกครองกลับคืนมาอีกครั้ง พระองค์อภิเษกสมรสกับในปี ค.ศ. 1526 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาที่มีชีวิตรอดสามคน อิซาเบลสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1539 หลังให้กำเนิดพระโอรสที่สิ้นพระชนม์ในครรภ์ จักรพรรดิไม่ได้อภิเษกสมรสใหม่ ทรงสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1556 ซึ่งผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือพระเจ้าเฟลิเปที่ 2 ผู้เป็นพระโอรส
พระเจ้าเฟลิเปอภิเษกสมรสสี่ครั้ง ครั้งแรกทรงแต่งงานกับซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่ง ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งคน มาเรีย มานูเอลาสิ้นพระชนม์หลังคลอดบุตรไม่นาน ในปี ค.ศ. 1554 พระองค์อภิเษกกับพระราชินีแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งที่อยู่ห่างกันหนึ่งขั้น แต่พระราชินีแมรีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1558 โดยไร้ซึ่งพระโอรสธิดา ในปี ค.ศ. 1559 พระองค์อภิเษกสมรสกับอลิซาเบธแห่งวาลัวส์ ทั้งคู่มีพระธิดาที่รอดชีวิตสองคน อลิซาเบธแท้งบุตรในปี ค.ศ. 1568 และสิ้นพระชนม์หลังจากนั้นไม่นาน ในปี ค.ศ. 1570 พระองค์อภิเษกสมรสกับอันนาแห่งออสเตรียซึ่งเป็นพระธิดาของพระขนิษฐา ทั้งคู่มีพระโอรสที่มีชีวิตรอดหนึ่งคน เมื่อพระเจ้าเฟลิเปสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1598 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือพระเจ้าเฟลิเปที่ 3 ผู้เป็นพระโอรส
พระเจ้าเฟลิเปอภิเษกสมรสกับมาร์กาเร็ตแห่งออสเตรียซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งที่อยู่ห่างกันหนึ่งขั้นในปี ค.ศ. 1499 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันแปดคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ มาร์กาเร็ตสิ้นพระชนม์ไม่นานหลังการคลอดพระโอรสธิดาคนที่แปด ซึ่งเป็นพระโอรสที่สิ้นพระชนม์ก่อนวันครบรอบวันเกิดปีแรก เมื่อพระเจ้าเฟลิเปสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1621 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือพระเจ้าเฟลิเปที่ 4 ผู้เป็นพระโอรสคนโต
พระเจ้าเฟลิเปอภิเษกสมรสกับอลิซาเบธแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1615 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันแปดคน ซึ่งมีหกคนที่สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก พระโอรสคนเดียวของทั้งคู่สิ้นพระชนม์ตอนพระชนมายุ 16 พรรษา อลิซาเบธสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1644 ส่วนพระเจ้าเฟลิเปอภิเษกสมรสใหม่กับมาเรีย อันนาแห่งออสเตรียซึ่งเป็นพระธิดาของพระขนิษฐา ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาห้าคน ซึ่งมีเพียงสองคนที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1665 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือพระเจ้าการ์โลสที่ 2 ผู้เป็นพระโอรส
พระเจ้าการ์โลสมีความบกพร่องทางจิตและทางร่างกายด้วยมีการแต่งงานในสายเลือดเดียวกันหลายครั้ง แม้จะอภิเษกสมรสสองครั้ง กับมารี หลุยส์ เดออร์ลีย็องส์กับมาเรีย อันนาแห่งนอยบวร์ก แต่พระองค์ไม่มีพระโอรสธิดา นำไปสู่วิกฤตการสืบทอดบัลลังก์ ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 ซึ่งเป็นพระนัดดาคนเล็กของมาริอา เตเรซาแห่งสเปน พระโอรสธิดาคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของพระเจ้าเฟลิเปที่ 4 กับอลิซาเบธแห่งฝรั่งเศส
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยสถาน, สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 669
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p. 105
- CAI Tourism of Aragon. Retrieved 2010-03-05
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p. 106
- Antonio Ubieto, Creación y desarrollo de la Corona de Aragón, Anubar, Zaragoza, 1987, pp. 58–59.
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p. 107
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p. 107, 109.
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p.112.
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p.112-113.
- Reilly, Bernard F. (1992). The contest of Christian and Muslim Spain: 1031-1157 (in English) . Blackwell, p.115.
- I. Ruiz Rodríguez, Apuntes de historia del derecho y de las instituciones españolas, Dykinson, Madrid, 2005, p. 179. (In Spanish)
- Albareda Salvadó, Joaquim (2010). La Guerra de Sucesión de España (1700-1714). Barcelona: Crítica. pp. 228–229. ISBN 978-84-9892-060-4.
- Lost Kingdoms: Kingdom of Aragon: History of Royal Women
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud rachxanackrxarakxn sepn Reino de Aragon xarakxn Reino d Aragon katala Regne d Arago latin Regnum Aragonum epnrachxanackrthitngxyuinbriewntawnxxkechiyngehnuxkhxngpraethssepnrahwangpi kh s 1035 thungpi kh s 1707 odymiphraecaramiorthi 1 aehngxarakxnaehngepnkstriyxngkhaerk xanackrxarakxnepnxanackraebbrachathipity xanabriewnepnbriewnediywkbaekhwnxarakxninpraethssepnpccubn rachxanackrxarakxnedimepnswnhnungkhxng rachbllngkxarakxn Crown of Aragon sungrwmthngrachxanackrbaelnesiyaelarachrthkataluyya sungmipramukhrwmknrachxanackrxarakxn Reino d Aragon xarakxn Reino de Aragon sepn Regne d Arago katala Regnum Aragonum latin kh s 1035 1707traaephndinrachxanackrxarakxnemuxpi kh s 1400sthanarachxanackremuxnghlwngsaraoksaphasathwipphasaxarakxn phasakatala aelaphasakstiyasasnakhristnikayormnkhathxlikkarpkkhrxngrachathipitykstriy prawtisastr aekhwnxarakxnkxtngepnrachxanackrxisrakh s 1035 xarakxnaelakstiyarwmepnpraethssepn1707kxnhnarachxanackrnawarxarakxnkxrets rthspha rachxanackredimepnaekhwnfiwdlkhxngchawaefrngkrxbemuxngsungrwmtwkbrachxanackrpmoplnathitxmaepnrachxanackrnawarinpi kh s 925 aekhwnxarakxnaeyktwcakrachxanackrnawarinpi kh s 1035 aelaeluxnthanakhunepnxanackretmtwodyphraecaramiorthi 1 xanackrxarakxnkhyaytwipthangitthang inpi kh s 1096 aelatxmasaraoksa inpi kh s 1118 cnkrathngpi kh s 1285 phrmaednthangitthisudkhxngxarakxnepndinaedncakmwr xanackrxarakxnrwmkbrachbllngkxarakxnhlngcakkaresksmrsrahwangsxngrachwngsinpi kh s 1150 rahwang ekhantaehngbaresolna aelaepotrnilaaehngxarakxn phrarachiniaehngxarakxn phraoxrskhxngthngsxngphraxngkhidrbdinaednkhxngthngsxngxanackr nxkcaknnphraecaaephndinaehngxarakxnyngidrbtaaehnngephimepnekhantaehngbaresolna pkkhrxngdinaednedimaelarachrthkataluyya aelatxmahmuekaaaebliaexrik rachxanackrbaelnesiy rachxanackrsisili rachxanackrenepils aelarachxanackrsardieniy phraecaaephndinaehngxarakxnepnphraecaaephndinxngkhaerkthithrngpkkhrxngbriewnxarakxnodytrngaelathrngdarngtaaehnngphraecaaephndinaehngbaelnesiy phraecaaephndinaehngmacxrka chwrayahnung ekhantaehngbaresolna lxrdaehngmngepxliey aeladukaehngexethns chwrayahnung aetlataaehnngthiidmahruxesiyipkepnkarephumhruxlddinaednphayitkarpkkhrxnginkhriststwrrsthi 14 xanackhxngphramhakstriyaehngxarakxnkcakdlngephiyngbriewnxarakxnexngtamkhxtklng Union of Aragon rachbllngkxarakxnthukyubelikodypriyayhlngcakkarrwmkbrachbllngkkstiya aethlngcakkarrwmtwxarakxnkyngrksaxanacbangxyangxyubangcnkrathngmasinsudlngthnghmdtamphrarachkvsdikanuexbaplnta Nueva Planta decrees thixxkinpi kh s 1707prawtisastrkarthuxkaenid xarakxnedimthiepnekhantitamrabxbskkdinakhxngrachwngskarxaelngechiyngsungtngxyuaethwemuxng txmainkhrungaerkkhxngkhriststwrrsthi 9 idklayepnrthbriwarkhxngrachxanackrpmoplna txmakhuxrachxanackrnawar trakulkhxngekhantaehngxarakxnsinsudlnginpi kh s 922 emuxirsungthayathephschay hlngkarsinphrachnmkhxnginpi kh s 1035 rachxanackrnawarthukaebngxxkepnsamswn khux 1 pmoplnaaeladinaednthixyuhangiklxxkiptamaenwchayfngaelaphunthithangtawntkkhxngaekhwnbask 2 kstiya aela 3 aelaxarakxn kxnosla phraoxrskhxngphraecasnoch idsubthxdtxosbraebaelaribarokrsa khnathiramior butrchaynxksmrsidbriharpkkhrxngxarakxnphayitkarpkkhrxngkhxngkxnsaolxikthihnung aethlngcaknnimnankxnsaolthuksnghar dinaednthnghmdthiepnkhxngphraxngkhcungtkepnkhxngramior phraxnuchanxksmrsthiklayepnkstriyaehngxarakxninthangphvtinykhnaerk aemphraxngkhcaimekhyidkhrxngtaaehnngni xarakxnthukcakdphunthidwyethuxkekhaphiriniaelamiphrmaedntidkbrachxanackrnawarthithrngxanacthisudaelaitfasaraoksathimikhwamsakhy aetcanwnprachakrthiephimkhunaelakhwamtxngkardinaednmaepnthixyuxasyphlkdnihtxngkhyayxanaekht aemwainchwngaerkcamikarthharthixxnaex hlngprabphraechstha id ramiorsrangexkrachihxarakxnidsaerc phraoxrskhxngphraxngkh thiidsubthxdtxrachxanackrnawardwyepnkhnaerkthieriyktnexngwa kstriykhxngchawxarakxnaelachawpmoplna karkhyayxanaekht cudmunghmaykhxngphraecaramiorthi 1 inkarphichitphunthirabklbkhunmaidrbkarsantxcakphusubthxdtaaehnngkhxngphraxngkhthnthi thukphraxnuchakhxngtnexngsngharinpi kh s 1076 chawnawarimtxngkaridkhnthikhaphinxngmabriharpkkhrxngcungeluxkphraecasnoch ramiersaehngxarakxnepnkstriy xnepnkarrwmrachbllngkpmoplnaekhakbxarakxn rachxanackrnawarthukaebngihrachxanackrelxxn kstiya aelarachxanackrxanackrxarakxnsungidrbxanaekhtsakhy hnunginnnkhuxemuxnghlwngkhxngnawar aelakhyaykhnadihykhunsametha aemcatxngaelkkbkaryxmrbkarkhrxngxanacehnuxkwainthangthvsdikhxngelxxn kstiya ephuxchlxngkarkhyayxanaekht phraecasnochidkxtngemuxngkhakakhun khnakhwbkhumphunthisungthimiphrmaedntidknaemnaexobrthangtxnehnux phraxngkhidthakarrukranhlaykhrng odymiepahmayhlkxyuthiitfasaraoksa aelaidphyayamkhyayxanaekhtipthangphunthirab odymiepahmayhlkkhuxphunthirabthixyutidkbhubekhaxarakxn osbraeb aelaribaokrsa ephuxchdechykarkhadaekhlnkalngphlthicaepntxngichinkarkhyayxanaekht phraxngkhidphyayamnaexakalngphlmacakthangitkhxngfrngess karkhyaydinaednprasbkhwamsaerc odyechphaakarphichitcudyuththsastrxyanginpi kh s 1083 aelainchwngewlaileliykn inpi kh s 1089 karpidlxmmxnsxnkhxngxarakxnthukkhdkhwangodychumchnthitngxyurahwangaeyydakb inpi kh s 1091 xarakxnidsrangprasathexlksetyarkhunmabnphunthisungtngxyurahwangsaraoksakb phraecasnochthakarpidlxmemuxngxuexskasungepnemuxngsakhythimikhnadihykwakhakaaelapmoplna aetthrngsinphrachnmesiykxn phuthikhunsubthxdtaaehnngtxcakphraxngkhthnthikhux phraoxrs thiklbmapidlxmemuxngtxthnthi phraecaepodrthi 1 aehngxarakxnphichitxuexskaidemuxwnthi 27 phvscikayn kh s 1096 hlngprabphraecaxlmustaxinthi 2 aehngitfasaraoksaidinsmrphumixlkxrssungtxsuknemuxwnthi 18 phvscikaynkhxngpiediywknnn inpi kh s 1101 thrngyudaela aelayudtamarietedlietraidinpi kh s 1104 inchwngrchsmykhxngphraecaxlfxnosthi 1 phupracnbay karyudsaraoksaidinpi kh s 1118 naipsukarlmslaykhxngrachxanackrmwrthnghmd phraecaxlfxnosprasbkhwamlmehlwinchiwitaetngngankbphrarachinixurrakaaehngelxxn thngkhuimmiphraoxrsthidadwykn tamphraprasngkhkhxngphraxngkh thrngykrachxanackrkhxngtnihkbklumthharsamklum aetimmiikhrkhidcathatamphraprasngkhnn khunnangxarakxnidrwmtwknthikhakaaelayxmrbramior phraxnuchakhxngphraxngkhepnkstriy fngnawarideluxkepnkstriy aelaaeyktwxxkmaepnrachxanackrnawar intxnnnramiordarngtaaehnngepnbichxpaehngorda barbsotr aettxngmakhrxngbllngk rachbllngkxarakxn taaehnngthitngkhxngxarakxninrachbllngkxarakxn inpi kh s 1137 phraecaramiorthi 2 phuepnphraidtklnghmnhmayepotrniyaaehngxarakxn phrathidaephiyngkhnediywkhxngphraxngkh kbraomn barngekthi 4 aehngbaresolna phraecaxlfxnosthi 2 aehngxarakxn phraoxrskhxngthngkhuepnkstriykhnaerkthisubthxdtaaehnngepnthngkstriyaehngxarakxnaelaekhantaehngbaresolna aelapkkhrxngxanaekhtthiimidmiephiyngaekhwnxarakxninpccubn aetyngrwmthungkataluyya aelamacxrka baelnesiy sisili enepils aelasardieniyinewlatxma kstriyaehngxarakxnepnkstriyodytrngkhxngaekhwnxarakxn aelayngkhrxngtaaehnngepnekhantaehngophrwxngs ekhantaehngbaresolna lxrdaehngmngepxliey aeladyukhaehngexethnsaelaenoxpaetriy sungtaaehnngehlanicaepliynipemuxthrngsuyesiyaelaphichitdinaednid inkhriststwrrsthi 14 phrarachxanacthukcakdodyshphaphxarakxn karrwmknkhxngrachblkxarakxnaelarachbllngkkstiya aelasingthiekidkhunhlngcaknn rachbllngkxarakxnklayepnswnhnungkhxngkarpkkhrxngrabxbkstriykhxngsepnhlngkarrwmrachwngskbkstiya sungthukmxngwaepnkarrwmepnhnungediywkninthangphvtinykhxngrachxanackrthngsxngphayitphramhakstriyswnklang inpi kh s 1412 hlngkarhmdsinthayathinpi kh s 1410 khxngrachbaresolnasungpkkhrxngrachbllngkmacnthungchwngewladngklaw phusrrhakhxngxarakxnideluxkecachaykstiya epnphukhrxngbllngkxarakxnthiwangxyu thamklangkartxtanxyangrunaerngcakchawkataln hnunginphusubthxdtaaehnngkhxngphraecaefrnnod cdkarkbkartxtankhxngchawkatalndwykarcbefrnnod thayathaehngkataluyya aetngngankbxisaebl rchthayathkhxng inpi kh s 1479 emuxphraecakhwnthi 2 sinphrachnm rachbllngkxarakxnaelarachbllngkkstiyathukrwmekhadwyknaelaklayepnhwichlkkhxngpraethssepninpccubn thwatxmadinaednkhxngxarakxntkepnkhxngsphaaelahnwynganxisradankarbriharpkkhrxng cnkrathngphraecaefliepthi 5 aehngsepnprakasichphrarachkvsdikanuexbaplntainchwngpi kh s 1707 thung kh s 1715 hlngekidsngkhramkarsubrachbllngksepnsungsudthaykidkhxyuti phrarachkvsdikayutirachxanackrxarakxn rachxanackrbaelnesiy rachxanackrmacxrka aelarachrthkataluyya aelarwmdinaedndngklawekhakbkstiyaephuxsrangrachxanackrsepnkhunmaxyangepnthangkar phrarachkvsdikanuexbaplntachbbihminpi kh s 1711 khunsiththibangswnihxarakxn echn siththiphlemuxngkhxngchawxarakxn aetyngkhngkaryutixisrphaphthangkaremuxngkhxngrachxanackriw rachxanackrxarakxnedimehluxrxdxyuinthanahnwypkkhrxngyxycnthungpi kh s 1833 emuxdinaednthukaebngxxkepnsamcnghwd hlngkaresiychiwitkhxngfransisok frngokinpi kh s 1982 xarakxnklayepnhnunginaekhwnpkkhrxngtnexngkhxngpraethssepnkarsubrachbllngkrachwngskhiemens rachxanackrxarakxnerimtnkhuninpi kh s 1035 thisthapnatnepnrachxanackrxisra odymipthmkstriykhuxphraecaramiorthi 1 aehngxarakxn phraoxrsnxksmrskhxng phraecaramiorthi 1 aehngxarakxnin phngsawliekhantaehngbaresolna inkhriststwrrsthi 15 phramehsikhnaerkkhxngphraecaramiorkhux phrarachiniaehngxarakxnkhnaerk thngkhumiphraoxrsthidadwyknhakhn exremsindasinphrachnminpi kh s 1049 kstriyxphiesksmrsihmkbhyingchux sungxacepnbutrsawkhxngdyukhaehngxakiaetn aetthngkhuimmiphraoxrsthidadwykn phraecaramiorsinphrachnmthismrphumiekrasinpi kh s 1063 phusubthxdtxtaaehnngkhux phuepnphraoxrskhnot phraecasnochxphiesksmrskbinpi kh s 1062 thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhnkxncahyakhadcakkninpi kh s 1070 pitxmakstriyxphiesksmrsihmkb thngkhumiphraoxrsthidadwyknsamkhn phraecasnochsinphrachnminpi kh s 1094 thismrphumixuexska phusubthxdtxtaaehnngkhuxphuepnphraoxrskhnot inpi kh s 1086 phraxngkhxphiesksmrskb thngkhumiphraoxrsthidadwyknsxngkhnsungtangksinphrachnmkxnphrabida aexneyssinphrachnminpi kh s 1097 phraecaepodrxphiesksmrsihmkbhyingchux aetthngkhuimmiphraoxrsthidadwykn phraecaepodrsinphrachnminpi kh s 1104 phusubthxdtaaehnngtxcakphraxngkhkhuxphraecaxlfxnosthi 1 phuepnphraxnuchatangmarda phraecaxlfxnosthi 1 srangchuxesiyngihkbtnexnginsnamrbaelaxphiesksmrskbphrarachinixurrakaaehngelxxnaelakstiyainpi kh s 1109 aetkaraetngnganthukprakasihepnomkhainpi kh s 1112 emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1134 phusubthxdtaaehnngtxkhuxphraecaramiorthi 2 phraxnuchakhnsudthaythiyngmichiwitxyu phraecaramioridsabantnekhasuxaram aetphraxngkhrangbkhasabanchwkhrawephuxmaaetngngankbaelaepnbidakhxngrchthayath phraxngkhcungepnthiruckinchuxphuepnphra thngkhumiphraoxrsthidadwyknephiyngkhnediywkhuxepotrniyathiesdcphrarachsmphphinpi kh s 1136 thrngcdaecngihphrathidaaetngngankbraomn barngekthi 4 ekhantaehngbaresolnasungaekkwaepotrniya 23 pi aelaslarachbllngkihphrathida epotrniyaklayepnphrarachiniphupkkhrxngkhnaerkkhxngxarakxntxnxayuephiyng 1 phrrsa karaetngnganidrbkarxnumtiemuxphrarachiniepotrniyaphrachnmayu 14 phrrsaaelathukthaihsmburninpitxma karaetngnganihkaenidphraoxrsthidahakhn phrarachiniepotrniyaepnmayinpi kh s 1162 aelaphraxngkhslarachbllngkihphraoxrswy 7 phrrsainsxngpitxma phraoxrskhxngphraxngkhklayepnphraecaxlfxnosthi 2 aelaepnkstriyaehngxarakxnkhnaerkthimacakrachwngsbaresolna rachwngsbaresolna phraecaxlfxnosthi 2 aehngxngkvskbphramehsi sncha raylxmdwydwystriinrachsank cak liebxr efwdxrum mayyxr phraecaxlfxnosthi 2 xphiesksmrskbinpi kh s 1174 thngkhumiphraoxrsthidadwyknaepdkhn aetimichthukkhnthimichiwitrxdthungwyphuihy emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1196 phusubthxdtxtaaehnngkhux phuepnphraoxrskhnot phraxngkhepnkstriyxarakxnkhnaerkthiidrbkarswmmngkudcaksmedcphrasntapapa inpi kh s 1204 phraxngkhklayepnsamikhnthisamkhxng thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhnkxnthiphraxngkhcathxdthingmari emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1213 phusubthxdtxtaaehnngkhux phraoxrsthitxmaepnthiruckinchuxphuphichitcakkarkhyayrachxanackrxxkipxyangmakmayinrchsmykhxngphraxngkh phraecaikhemxphiesksmrskb thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhnkxnthikaraetngngancathukprakasihepnomkha phraoxrskhxngthngkhutxmaaetngngankbkngstxngsaehngebiyrngaetsinphrachnmkxnphrabidaodyirsungthayath inpi kh s 1235 kstriyxphiesksmrsihmkb thngkhumiphraoxrsthidadwyknsibkhn aetimichthukkhnthimichiwitrxdcnthungwyphuihy hlngwioxlntsinphrachnm imthrabwn kstriyxphiesksmrsihmkbxnuphrryakhxngphraxngkh phraxngkhthingetersaemuxetersaerimepnorkheruxn phraecaikhemsinphrachnminpi kh s 1276 phusubthxdtxtaaehnngkhuxphraecaepodrthi 3 phraoxrsthiyngmichiwitxyukhnot phraxngkhidaetngngankb thayathaehngsisili inpi kh s 1262 thngkhumiphraoxrsthidadwyknhkkhn emuxthrngsinphrachnminpi kh s 1285 phusubthxdtxtaaehnngkhux phuepnphraoxrskhnot phraoxrskhnthisxngkhxngphraxngkhklayepnkstriyaehngsisili phraecaxlfxnosthi 3 thukcbhmnhmaykbexelnxraehngxngkvs aetphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1291 kxnkaraetngngancaekidkhun phraxnuchakhxngphraxngkhklayepnkstriythnginxarakxnaelasisili phraxngkhyxmyksisiliihphraxnuchainpi kh s 1295 phraxngkhyngepnkstriyaehngsardieniyaelakhxrsikahlngxangsiththiinxanaekhtinpi kh s 1297 phraecaikhemthi 2 xphiesksmrssikhrngaetkaraetngngankhrngaerkkbthukprakasihepnomkha phramehsikhnthisxng khuxphrarachiniaehngsardieniykhnaerk thngkhumiphraoxrsthidadwyknecdkhn phraxngkhxacsinphrachnmcakkhwamyaklabakinkarkhlxdbutrkhnthisibexd phraecaikhemxphiesksmrsihminpi kh s 1314 kb thayathaehngisprs marisinphrachnminxikhapitxmaodyimmiphraoxrsthida kstriyxphiesksmrsihminpi kh s 1322 kb aetthngkhukimmiphraoxrsthidadwyknechnkn emuxkstriysinphrachnminpi kh s 1317 phusubthxdtxxanaekhtthnghmdkhxngphraxngkhkhux phuepnphraoxrs phraecaxlfxnosidaetngngankbinpi kh s 1314 thngkhumibutrdwyknecdkhn aetimichthukkhnthimichiwitrxdcnthungwyphuihy ethersaesiychiwitinkarkhlxdbutrkxnxlfxnoscasubthxdtxtaaehnngkstriyephiyngimkiwn inpi kh s 1329 phraxngkhxphiesksmrsihmkb thngkhumiphraoxrsthidadwyknsxngkhn phraecaxlfxnossinphrachnmdwyphrachnmayu 36 phrrsa aelaphusubthxdtxtaaehnngkhux phraoxrsthiyngmichiwitxyukhnot inpi kh s 1338 phraecaepodrxphiesksmrskb thngkhumiphraoxrsthidadwyknsxngkhn marisinphrachnminkarkhlxdbutraelaphraecaepodrxphiesksmrsihminpi kh s 1347 kb aeteloxnxrsinphrachnminxikhnungpitxmadwyorkhrabad inpi kh s 1349 phraxngkhxphiesksmrsihmkbaelamiphraoxrsthidadwyknsamkhn emuxexelnxrsinphrachnminpi kh s 1375 phraxngkhxphiesksmrsihmkhrngthisikbinpi kh s 1377 thngkhumiphrathidathimichiwitrxdhnungkhn emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1387 phusubthxdtxtaaehnngkhux phraoxrscakkaraetngngankhrngthisxng phraecakhwnidaetngngankbemuxwnthi 24 mithunayn kh s 1373 thngkhumiphraoxrsthidadwyknhakhn aetmiephiyngphrathidakhnediywthimichiwitxyucnthungwyphuihy marthsinphrachnminkarkhlxdbutrinpi kh s 1378 wnthi 2 kumphaphnth kh s 1380 kstriyxphiesksmrsihmkb thngkhumiphraoxrsthidadwyknhkkhn aetmiephiyngphrathidakhnediywthimichiwitxyucnthungwyphuihy emuxphraecakhwnsinphrachnmodyirsungphraoxrs bllngkktkepnkhxng phuepnphraxnucha phrathidathngsxngkhxngphraxngkhphyayamxangsiththiinbllngkaetimprasbkhwamsaercthngkhu phraecamartingidaetngngankbemuxwnthi 13 mithunayn kh s 1373 thngkhumiphraoxrsthirxdchiwithnungkhn inpi kh s 1409 phraxngkhxphiesksmrsihmkb aetthngkhuimmiphraoxrsthidadwykn phraoxrsthiyngmichiwitxyuephiyngkhnediywkhxngphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1409 emuxphraecamartingsinphrachnm karpkkhrxngkhxngrachwngsbaresolnaksinsudlng inpi kh s 1412 phraphatiinykhxngphraxngkhidrbeluxkepnkstriy rachwngstrstamara phraecaefrnnodidaetngngankbinpi kh s 1393 thngkhumiphraoxrsthidadwyknecdkhn phraecaefrnnodkhrxngrachyidephiyngsipi emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1416 phusubthxdtxtaaehnngkhux phuepnphraoxrs phraecaxlfxnosthi 5 idaetngngankbinpi kh s 1415 aetthngkhuimmiphraoxrsthidadwykn phraxngkhmibutrnxksmrssamkhnkbphrryalb inpi kh s 1421 phuirsungthayathrbphraxngkhepnphraoxrsbuythrrmaelaprakaschuxphraxngkhepnthayathinrachxanackrenepils phraxngkhyngidprakaschuxthayathxikkhn aetsudthayphraecaxlfxnoskidsubthxdtxepnkstriyaehngenepilsinpi kh s 1442 phraxngkhhathangcnsmedcphrasntapapayinyxmihphraxngkhykrachxanackrenepilsihbutrchaynxksmrsthitxmakhux xanackrxun rwmthungxarakxntkepnkhxngphraoxrskhnelk inpi kh s 1458 phraecakhwnidaetngngankbxnakhtemuxwnthi 6 phvscikayn kh s 1419 thngkhumiphraoxrsthidadwyknsam blxngchsinphrachnminpi kh s 1441 swnphraecakhwnxphiesksmrsihmkbinpi kh s 1458 thngkhumiphraoxrsthidadwyknsxngkhn phraxngkhekbxanackhwbkhumrachxanackrnawariwinmuxtlxdphrachnmchiph srangkhwampnpwnihkb phraoxrskhnotaelathayathkhxngphrarachiniblxngch sudthayemuxcharlssinphrachnm nawarktkepnkhxngphrathidakhnotkhxngthngkhu tamdwyphrathidakhnelk phusubthxdtxxanaekhtthiepnkhxngphraecakhwnkhuxphraecaefrnnodthi 2 phraoxrskhnotcakkaraetngngankhrngthisxng phaphwadphithixphiesksmrskhxngphraecaefrnnodthi 2 aehngxarakxnkbphrarachinixisaeblaehngkstiya phraecaefrnnodidaetngngankbxnakhtphrarachinixisaeblthi 1 aehngkstiya thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhnthisinphrachnminchwngwyrunkbphrathidasikhn hlngkarsinphrachnmkhxngphraoxrs immikhwamchdecnwaikhrcaepnphusubthxdtaaehnngtxcakphraecaefrnnod enuxngcakkarsubthxdtaaehnngkhxngphuhyingimkhxyidrbkaryxmrbethainkstiya phrathidakhnotkhxngthngkhusinphrachnminkarkhlxdbutrchaythimikhwamepnipidthicaepnphusubthxdtaaehnng aetbutrchaykhndngklawktaytngaetxayuyngnxy khwna phrathidakhnthisxngkhxngthngkhuaetngngankbxarchdyukhfilipaehngxxsetriyaelamibutrdwyknhkkhn phraxngkhsubthxdtaaehnngtxcakphramardaemuxphrarachinixisaeblsinphrachnminpi kh s 1504 phraecaefrnnodtdsinicaeykrachxanackrthngsxngxxkcakknaelaxphiesksmrsihmkb dwykhwamhwngwacamiphraoxrs thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhnaetsinphrachnmimnanhlngkhlxd emuxphraecaefrnnodsinphrachnminpi kh s 1516 filipthiesiychiwitipnanaelwidprakaschuxkhwnaepnphusubthxdodymikharl phraoxrsepnphupkkhrxngrwm txmakhwnathukcxngcaenuxngcaksnnisthanwaesiysti rachwngshaphsbwrkh kharlimephiyngsubthxdxanaekhtkhxngphramardaaetyngsubthxdxanaekhtkhxngphrabidadwy phraxngkhyngidrbeluxkepnckrphrrdiormnxnskdisiththiinpi kh s 1519 xarakxnkbkstiyathirwmknepnhnungediywtxmacaepnthiruckinchuxpraethssepn aetxarakxnkidxanacinrthsphaaelaxngkhkrbriharpkkhrxngklbkhunmaxikkhrng phraxngkhxphiesksmrskbinpi kh s 1526 thngkhumiphraoxrsthidathimichiwitrxdsamkhn xisaeblsinphrachnminpi kh s 1539 hlngihkaenidphraoxrsthisinphrachnminkhrrph ckrphrrdiimidxphiesksmrsihm thrngslarachsmbtiinpi kh s 1556 sungphusubthxdtxtaaehnngkhuxphraecaefliepthi 2 phuepnphraoxrs phraecaefliepxphiesksmrssikhrng khrngaerkthrngaetngngankbsungepnlukphiluknxngladbthihnung thngkhumiphraoxrsdwyknhnungkhn maeriy manuexlasinphrachnmhlngkhlxdbutrimnan inpi kh s 1554 phraxngkhxphieskkbphrarachiniaemrithi 1 aehngxngkvssungepnlukphiluknxngladbthihnungthixyuhangknhnungkhn aetphrarachiniaemrisinphrachnminpi kh s 1558 odyirsungphraoxrsthida inpi kh s 1559 phraxngkhxphiesksmrskbxlisaebthaehngwalws thngkhumiphrathidathirxdchiwitsxngkhn xlisaebthaethngbutrinpi kh s 1568 aelasinphrachnmhlngcaknnimnan inpi kh s 1570 phraxngkhxphiesksmrskbxnnaaehngxxsetriysungepnphrathidakhxngphrakhnistha thngkhumiphraoxrsthimichiwitrxdhnungkhn emuxphraecaefliepsinphrachnminpi kh s 1598 phusubthxdtaaehnngtxcakphraxngkhkhuxphraecaefliepthi 3 phuepnphraoxrs phraecaefliepxphiesksmrskbmarkaertaehngxxsetriysungepnlukphiluknxngladbthihnungthixyuhangknhnungkhninpi kh s 1499 thngkhumiphraoxrsthidadwyknaepdkhn aetimichthukkhnthimichiwitxyucnthungwyphuihy markaertsinphrachnmimnanhlngkarkhlxdphraoxrsthidakhnthiaepd sungepnphraoxrsthisinphrachnmkxnwnkhrbrxbwnekidpiaerk emuxphraecaefliepsinphrachnminpi kh s 1621 phusubthxdtxtaaehnngkhuxphraecaefliepthi 4 phuepnphraoxrskhnot phraecaefliepxphiesksmrskbxlisaebthaehngfrngessinpi kh s 1615 thngkhumiphraoxrsthidadwyknaepdkhn sungmihkkhnthisinphrachnminwyedk phraoxrskhnediywkhxngthngkhusinphrachnmtxnphrachnmayu 16 phrrsa xlisaebthsinphrachnminpi kh s 1644 swnphraecaefliepxphiesksmrsihmkbmaeriy xnnaaehngxxsetriysungepnphrathidakhxngphrakhnistha thngkhumiphraoxrsthidahakhn sungmiephiyngsxngkhnthimichiwitxyucnthungwyphuihy emuxphraxngkhsinphrachnminpi kh s 1665 phusubthxdtxtaaehnngkhuxphraecakarolsthi 2 phuepnphraoxrs phraecakarolsmikhwambkphrxngthangcitaelathangrangkaydwymikaraetngnganinsayeluxdediywknhlaykhrng aemcaxphiesksmrssxngkhrng kbmari hluys edxxrliyxngskbmaeriy xnnaaehngnxybwrk aetphraxngkhimmiphraoxrsthida naipsuwikvtkarsubthxdbllngk phusubthxdtaaehnngtxcakphraxngkhkhuxphraecaefliepthi 5 sungepnphranddakhnelkkhxngmarixa etersaaehngsepn phraoxrsthidakhnediywthiyngmichiwitxyukhxngphraecaefliepthi 4 kbxlisaebthaehngfrngessxangxingrachbnthitysthan saranukrmpraethsinthwipyuorp chbbrachbnthitysthan rachbnthitysthan 2550 hna 669 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 105 CAI Tourism of Aragon Retrieved 2010 03 05 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 106 Antonio Ubieto Creacion y desarrollo de la Corona de Aragon Anubar Zaragoza 1987 pp 58 59 ISBN 84 7013 227 X Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 107 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 107 109 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 112 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 112 113 Reilly Bernard F 1992 The contest of Christian and Muslim Spain 1031 1157 in English Blackwell p 115 I Ruiz Rodriguez Apuntes de historia del derecho y de las instituciones espanolas Dykinson Madrid 2005 p 179 In Spanish Albareda Salvado Joaquim 2010 La Guerra de Sucesion de Espana 1700 1714 Barcelona Critica pp 228 229 ISBN 978 84 9892 060 4 Lost Kingdoms Kingdom of Aragon History of Royal Womenduephimaekhwnxarakxn