ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมด ให้แจ้งลบแทน |
สัญลักษณ์ภาพ
หัวข้อ | |
---|---|
ดาราศาสตร์ และ ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ | |
ธรณีวิทยา และ วิทยาดาวเคราะห์ | |
ฟิสิกส์อนุภาค | |
คณิตศาสตร์ | |
เทคโนโลยี และ วัฒนธรรม |
อนาคตของโลก ระบบสุริยะ และเอกภพ
ปีจากปัจจุบัน | เหตุการณ์ | |
---|---|---|
36,000 | ดาวแคระแดงขนาดเล็ก ผ่านภายใน 3.024 ปีแสงจากโลก เป็นดาวที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด | |
44,000 | อัลฟาคนครึ่งม้า มาเป็นระบบดาวคู่ที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดซึ่งมากกว่า Ross 248 ที่ถอยห่างออกไป | |
50,000 | (1) จุดสิ้นสุดของ (interglacial period) สืบเนื่องจากการศึกษาโดย Berger และ Loutre ส่งผลให้โลกกลับสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งตามวัฎจักร โดยไม่นำผลกระทบจากปรากฏการณ์โลกร้อนจากฝีมือมนุษย์มาคำนวณร่วมด้วย (2) น้ำตกไนแองการา พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะกัดเซาะผาจนน้ำตกถอยร่นไปถึง 32 กิโลเมตร และสูญเข้าไปในทะเลสาบอีรี | |
50,000 | ความยาวของวันที่ใช้ในการจับเวลาทางดาราศาสตร์เพิ่มเป็น 86,401 วินาที (ตามระบบเอสไอ) จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ใน 1 วันมี 86,400 วินาที สาเหตุเกิดจากแรงไทดัลของดวงจันทร์หน่วงการหมุนรอบตัวเองของโลก ทำให้โลกต้องใช้เวลาหมุนรอบตัวเองครบรอบเพิ่มขึ้น และภายใต้ระบบเวลาที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เราจะต้องเพิ่ม 1 วินาทีในทุกวัน | |
100,000 | เนื่องจากดาวฤกษ์แต่ละดวงมีการเคลื่อนที่เฉพาะตัวไปในดาราจักร ทำให้ในอีกแสนปีข้างหน้ากลุ่มดาวต่าง ๆ จะเริ่มมีตำแหน่งดาวฤกษ์เปลี่ยนแปลงและผิดเพี้ยนไป จนไม่สามารถยึดถือระบบกลุ่มดาวแบบเดิมได้ | |
100,000 | ดาวฤกษ์ยักษ์ยิ่งยวด วีวาย สุนัขใหญ่ (VY Canis Majoris) มีโอกาสที่จะระเบิดเป็นไฮเปอร์โนวา | |
100,000 | โลกมีโอกาสที่จะเจอกับการปะทุครั้งใหญ่ของมหาภูเขาไฟ (supervolcano) ซึ่งอาจมีแม็กมาปะทุออกมาถึง 400 ลูกบาศก์กิโลเมตร | |
250,000 | (Lōʻihi Seamount) ซึ่งเป็นภูเขาไฟอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม (Hawaiian–Emperor seamount chain) จะโผล่พ้นน้ำและกลายเป็นเกาะภูเขาไฟแห่งใหม่ | |
500,000 | โลกมีโอกาสที่จะถูกอุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 1 กิโลเมตรพุ่งเข้าชนโดยไม่สามารถป้องกันหรือเบี่ยงเบนแนวโคจรได้ | |
1 ล้าน | โลกมีโอกาสที่จะประสบกับการปะทุของมหาภูเขาไฟ ที่สามารถพ่นลาวาออกมาได้ถึง 3,200 ลูกบาศก์กิโลเมตร ใกล้เคียงกับการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟโตบาบนเกาะสุมาตรา | |
1 ล้าน | เวลาที่เป็นไปได้อย่างช้าที่สุดที่ดาวยักษ์แดง บีเทลจุส จะระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา ซึ่งคาดว่าจะสามารถมองเห็นได้บนพื้นโลกแม้ในเวลากลางวัน | |
1.4 ล้าน | ดาวฤกษ์ (Gliese 710) จะโคจรเข้าใกล้ระบบสุริยะมากที่สุดที่ 1.1 ปีแสง ก่อนจะโคจรห่างออกไป โดยในขณะนั้นดาวฤกษ์กลีเซอ 710 จะส่งแรงโน้มถ่วงรบกวนวัตถุในเมฆออร์ต ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัตถุน้ำแข็งห้อมล้อมระบบสุริยะไว้ ทำให้ระบบสุริยะชั้นในมีความเสี่ยงต่อการชนของเทหวัตถุต่าง ๆ เพิ่มขึ้น | |
10 ล้าน | (East African Rift) ขยายกว้างขึ้นและถูกน้ำจากทะเลแดงเข้าท่วม เป็นต้นกำเนิดมหาสมุทรใหม่ที่จะแยกทวีปแอฟริกาออกจากกัน | |
50 ล้าน | เวลาที่ช้าที่สุดที่ดวงจันทร์โฟบอสจะถูกความหน่วงจากแรงไทดัลดึงเข้าหาดาวอังคาร และในที่สุดก็จะเข้าชนดาวอังคาร | |
50 ล้าน | (1) ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียจะจมตัวและมุดตัวลงร่องลึกก้นสมุทรอะลูเชียน (Aleutian Trench) จากการเคลื่อนไปทางทิศเหนือตามรอยเลื่อนแซนแอนเดรอัส (2) ทวีปแอฟริกาจะเลื่อนไปทางเหนือและชนกับยูเรเชีย ซึ่งจะปิดกั้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเกิดเทือกเขาคล้ายเทือกเขาหิมาลัยขึ้นแทน | |
100 ล้าน | โลกมีโอกาสที่จะถูกอุกกาบาตขนาดใกล้เคียงกับที่เคยชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนชน ซึ่งในครั้งนั้นทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต | |
230 ล้าน | หลังจากนี้เป็นต้นไป จะไม่สามารถทำนายวงโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ได้อีกตามเวลาเลียปูนอฟ (Lyapunow time) | |
240 ล้าน | หากนับเวลาจากปัจจุบันไปอีก 240 ล้านปี ระบบสุริยะจะโคจรรอบดาราจักรทางช้างเผือกและกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมในปัจจุบันครบหนึ่งรอบ เรียกว่าหนึ่ง | |
250 ล้าน | ทวีปต่าง ๆ บนโลกมีโอกาสที่จะรวมตัวกันเป็นมหาทวีป (supercontinent) ซึ่งเป็นไปได้สามรูปแบบคือ (Amasia) (Novopangaea) และ (Pangaea Ultima) | |
500–600 ล้าน | ระยะเวลาโดยประมาณที่จะเกิดแสงวาบรังสีแกมมา หรือซูเปอร์โนวาพลังงานยิ่งยวด ในระยะห่างภายใน 6,500 ปีแสงจากโลก ซึ่งใกล้พอที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชั้นโอโซนของโลก และก่อให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้ หากสมมุติฐานที่ว่าการระเบิดดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในอดีตและทำให้เกิด นั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การระเบิดดังกล่าวจะต้องส่งพลังงานมีทิศทางมายังโลกโดยตรงเท่านั้นถึงจะเกิดผลกระทบต่อโลกได้ | |
600 ล้าน | (Tidal acceleration) จะผลักดวงจันทร์ให้ห่างออกจากโลกไปไกลจนไม่สามารถเกิดสุริยุปราคาแบบเต็มดวงได้อีกต่อไป | |
600 ล้าน | ความสว่างของดวงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นจะไปทำลาย ความสว่างที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มการสึกกร่อนของผิวหิน ซึ่งหินนี้กักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ที่พื้นในรูปคาร์บอเนต เมื่อน้ำระเหยไปจากผิวโลกที่เป็นหินแข็งจะทำให้เกิดทวีปเลื่อนอย่างช้าๆและในที่สุดก็หยุดลง เมื่อไม่มีภูเขาไฟช่วยนำคาร์บอนกลับสู่บรรยากาศ ระดับคาร์บอนไดออกไซด์จะตกลง ในเวลานี้มันจะตกลงจนการสังเคราะห์ด้วยแสงของ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ พืชที่ใช้การสังเคราะห์แสงแบบ C3 (99% ของสปีชีส์ทั้งหมดในปัจจุบัน) จะตาย | |
800 ล้าน | ระดับคาร์บอนไดออกไซด์จะลดต่ำจนปฏิกิริยาการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ (C4 carbon fixation) ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป ออกซิเจนอิสระและโอโซนจะหายไปจากบรรยากาศ สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์จะสูญพันธุ์ | |
1,000 ล้าน | ความสว่างของดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกมีค่าประมาณ 320 K (47 °C). ชั้นบรรยากาศจะกลายเป็น "ภาวะเรือนกระจกชื้น", เนื่องจากการระเหยของมหาสมุทร น้ำบางส่วนยังคงเป็นของเหลวในบริเวณขั้วโลก และยังสามารถเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตพื้นฐาน. | |
1,300 ล้าน | สิ่งมีชีวิตจำพวกยูแคริโอตทั้งหมดจะสูญพันธุ์เนื่องจากการขาดแคลนคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนสิ่งมีชีวิตจำพวกโปรคาริโอตจะยังคงมีชีวิตรอด | |
1,500–1,600 ล้าน | ดวงอาทิตย์สว่างมากขึ้นทำให้เขตที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เลื่อนออกจากโลกไป ในขณะเดียวกันทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มอุณหภูมิของพื้นผิวดาวอังคารจนใกล้เคียงกับโลกในยุคน้ำแข็ง | |
2,300 ล้าน | แก่นโลกชั้นนอกจะเย็นตัวลง หากแก่นโลกชั้นในค่อย ๆ ขยายตัวในอัตราปัจจุบันที่ 1 มิลลิเมตรต่อปี และเมื่อแกนชั้นนอกที่เป็นของเหลวเย็นตัวลงกลายเป็นของแข็ง จะทำให้สนามแม่เหล็กของโลกหยุดทำงานและหายไป | |
2,800 ล้าน | อุณหภูมิพื้นผิวของโลกเพิ่มสูงขึ้นจนอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 420 เคลวิน (147°C) แม้กระทั่งบริเวณขั้วโลก ทำให้สิ่งมีชีวิตในขณะนั้น (ซึ่งมีชีวิตรอดเหลือเพียงกลุ่มสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวในสภาพแวดล้อมที่โดดเดี่ยวและกระจัดกระจาย เช่น ตามทะเลสาบบนที่สูง หรือในถ้ำใต้ดิน) สูญพันธุ์โดยสิ้นเชิง | |
3,000 ล้าน | ตำแหน่งมัธยฐานที่ซึ่งทำให้ระยะห่างดวงจันทร์กับโลกมากขึ้นจะไปลดความเอียงของแกนโลก ในขณะนี้ จะเกิดความวุ่นวายและรุนแรงมากขึ้น | |
3,300 ล้าน | มีโอกาส 1 เปอร์เซ็นต์ที่วงโคจรของดาวพุธจะถูกขยายออกจนกระทั่งชนกับดาวศุกร์ ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนในระบบสุริยะชั้นใน และเพิ่มความเสี่ยงที่โลกจะถูกชนโดยวัตถุระดับดาวเคราะห์ | |
3,500-4,500 ล้าน | พื้นผิวของโลกจะคล้ายดาวศุกร์ในปัจจุบัน | |
3,600 ล้าน | ดวงจันทร์ของดาวเนปจูน ไทรทันจะเคลื่อนเข้าหาดาวเนปจูนจนเลยขีดจำกัดของRoche (Roche Limit) จนทำให้เกิดวงแหวนของดาวเนปจูนที่คล้ายกับดาวเสาร์ | |
4,000 ล้าน | ตำแหน่งมัธยฐานที่ดาราจักรแอนดรอเมดาจะชนกับดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งหลังจากนั้นจะดาราจักรจะรวมกันและมีชื่อว่าดาราจักร"(Milkomeda)". | |
5,000 ล้าน | ดวงอาทิตย์ใช้ไฮโดรเจนหมดทำให้ดวงอาทิตย์ออกจากแถบลำดับหลัก และเริ่มเข้าสู่ช่วงของ ดาวยักษ์แดง. | |
7,500 ล้าน | โลกและดาวอังคารเกิดไทดัลล็อก(Tidal locking) กับดวงอาทิตย์ที่ขยายตัว | |
7,900 ล้าน | อาจจะเพิ่มขึ้นถึง 256 เท่าของดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน หรืออาจจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 358,400,000 กิโลเมตร ซึ่งส่งผลให้ดาวพุธ, ดาวศุกร์และอาจจะรวมถึงโลกถูกทำลาย ในเวลานี้ ดาวบริวารของดาวเสาร์ ไททัน สามารถมีอุณหภูมิสูงพอที่จะให้กำเนิดชีวิตได้ | |
8,000 ล้าน | ในเวลานี้ ดวงอาทิตย์เป็น ดาวแคระขาวที่ประกอบด้วยคาร์บอน และ ออกซิเจน ด้วยมวล 54.05 เปอร์เซนต์ของมวลดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน | |
22,000 ล้าน | จุดจบของจักรวาลในรูปแบบของการฉีกขาดครั้งใหญ่ (Big Rip) รูปแบบของพลังงานมืดเป็นแบบ . การสังเกตที่ถูกเร่งความเร็วโดย บอกว่าสิ่งนี้จะไม่เกิด | |
50,000 ล้าน | สมมติว่าถ้าเรารอดจากการขยายตัวของดวงอาทิตย์ ในเวลานี้โลกและดวงจันทร์จะไทดัลล็อก(tidelocked) ซึ่งไม่ว่าจะอยู่บนดาวดวงไหนก็จะเห็นอีกดวงแค่ด้านเดียว หลังจากนั้น ปฏิกิริยาไทดัล(tidal action) ของดวงอาทิตย์จะดึงโมเมนตัมเชิงมุมออกจากระบบ ทำให้วงโคจรของดวงจันทร์เสื่อมลงและโลกจะหมุนเร็วขึ้น | |
100,000 ล้าน | ทำให้ดาราจักรทั้งหมดเคลื่อนออกไปไกลจากกลุ่มท้องถิ่นของทางช้างเผือกจนเลยออกไปจากแนว และถูกลบเลือนไปจากเอกภพที่สังเกตได้ | |
150,000 ล้าน | รังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลจะเย็นลงจากอุณหภูมิประมาณ 2.7 K ถึง 0.3 K ทำให้ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน | |
450,000 ล้าน | ตำแหน่งมัธยฐานของ ประมาณ 47 ดาราจักร ของกลุ่มท้องถิ่นจะรวมกันเป็นดาราจักรขนาดใหญ่แห่งเดียว | |
800,000 ล้าน | เวลาที่คาดการณ์ไว้ที่การปล่อยแสงจากดาราจักร Milkomeda จะลดลง ในขณะที่ดาวแคระแดงข้ามพ้นระยะ"ดาวแคระน้ำเงิน"ซึ่งสว่างที่สุด | |
1012 (1 ล้านล้าน) | เวลาที่น้อยที่สุดที่ประมาณการไว้ เมื่อการกำเนิดดาวฤกษ์ไม่มีอีกต่อไปในกาแล็กซี ในขณะที่กาแล็กซี่ใช้กลุ่มแก๊สที่จำเป็นต่อการสร้างดาวฤกษ์ใหม่ไปจนหมด การขยายตัวของเอกภพที่คาดว่าเป็นความหนาแน่นของพลังงานมืดที่คงตัว จะทำให้ความยาวคลื่นของรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลเพิ่ม 1029 เท่า เกินสเกล cosmic light horizon และจะตรวจจับมันซึ่งเป็นหลักฐานของบิกแบงไม่ได้อีก อย่างไรก็ตามสามารถวัดการขยายตัวของเอกภพได้จากการศึกษาดาวที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง | |
3×1013 (30 ล้านล้าน) | เวลาที่ประมาณการไว้ที่ดาวฤกษ์จะผ่านเข้ามาใกล้ดาวฤกษ์อื่นในละแวกเพื่อนบ้าน เมื่อดาวฤกษ์สองดวงผ่านใกล้กัน วงโคจรดาวเคราะห์ของพวกมันจะถูกทำลายและจะหลุดออกจากระบบ โดยเฉลี่ย ยิ่งวงโคจรดาวเคราะห์ใกล้ดาวฤกษ์เท่าไร มันยิ่งใช้เวลานานที่จะหลุด เพราะวงโคจรของมันแน่นเป็นผลจากแรงโน้มถ่วง | |
1014 (100 ล้านล้าน) | เวลาที่มากที่สุดที่ประมาณการไว้ เมื่อการกำเนิดดาวฤกษ์ไม่มีอีกต่อไปในกาแล็กซี จุดนี้เป็นจุดเปลี่ยนจาก ยุคแห่งดวงดาว(Stelliferous Era) ไปยัง ยุคเสื่อม(Degenerate Era) ซึ่งเป็นยุคที่ไม่มีไฮโดรเจนอิสระสำหรับสร้างดาวฤกษ์ดวงใหม่อีกแล้ว ดาวฤกษ์ที่เหลือค่อยๆใช้เชื้อเพลิงหมดและตายลง | |
1.1–1.2×1014 (110–120 ล้านล้าน) | เวลาที่ดาวฤกษ์ทุกดวงในเอกภพใช้เชื้อเพลิงจนหมด (ดาวที่อายุยืนที่สุด ดาวแคระแดงมวลน้อยมีช่วงชีวิตประมาณ 10–20 ล้านล้านปี หลังจากจุดนี้ วัตถุที่มีมวลที่ยังเหลืออยู่คือเศษดาว ได้แก่ ดาวแคระขาว ดาวนิวตรอน และหลุมดำ ดาวแคระน้ำตาลยังคงอยู่เช่นกัน การชนกันระหว่างดาวแคระน้ำตาลจะสร้างดาวแคระแดงใหม่ โดยเฉลี่ยมีดาวฤกษ์ประมาณ 100 ดวง ที่ยังส่องแสงในที่ที่เคยเป็นทางช้างเผือก การชนกันของเศษดาวมีโอกาสทำให้เกิดซูเปอร์โนวา | |
1015 (1 พันล้านล้าน) | เวลาโดยประมาณที่ดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะเราและระบบดาวฤกษ์อื่นจะหลุดออกนอกวงโคจร ในเวลานี้, ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแคระดำและมีอุณหภูมิเหนือศูนย์องศาสัมบูรณ์อยู่แค่ 5 องศาเซลเซียสเท่านั้น. | |
1019–1020 (10–100 ล้านล้านล้าน) | เวลาโดยประมาณที่ 90%–99% ของดาวแคระน้ำตาลและเศษดาว (รวมทั้งดวงอาทิตย์) จะหลุดออกนอกกาแล็กซี เมื่อวัตถุสองชิ้นเข้าไกลกันมากพอ พวกมันจะแลกเปลี่ยนพลังงานของวงโคจรกับวัตถุมวลน้อยกว่าเพื่อที่จะได้รับพลังงาน ด้วยวิธีนี้ซ้ำๆ วัตถุมวลน้อยจะได้พลังงานเพียงพอที่จะหลุดออกจากกาแล็กซี่ กระบวนการนี้ทำให้ดาวแคระน้ำตาลและเศษดาวส่วนใหญ่หลุดออกจากทางช้างเผือก | |
1020 (100 ล้านล้านล้าน) | เวลาโดยประมาณที่โลกจะชนกับดวงอาทิตย์ที่เป็นดาวแคระดำเพราะการเสื่อมของวงโคจรผ่านทางการปลดปล่อยรังสีความโน้มถ่วง ถ้าโลกไม่หลุดจากวงโคจรก่อนเมื่อดาวฤกษ์เคลื่อนใกล้กันหรือดูดกลืนโดยดวงอาทิตย์ระยะดาวยักษ์แดง | |
1030 | เวลาโดยประมาณที่ดาวที่ยังไม่หลุดจากกาแล็กซี่ (1% – 10%) จะตกลงไปในหลุมดำมวลยวดยิ่งใจกลางกาแล็กซี ณ จุดนี้ ดาวฤกษ์ในระบบดาวคู่จะพุ่งเข้าหากัน ดาวเคราะห์จะพุ่งเข้าหาดาวฤกษ์ของมัน ผ่านทางการปลดปล่อยรังสีความโน้มถ่วง (gravitational radiation) มีเพียงวัตถุที่อยู่โดดเดี่ยวได้แก่ เศษดาว ดาวแคระน้ำตาล ดาวเคราะห์ที่หลุดจากวงโคจร และ หลุมดำ ที่ยังคงอยู่ในเอกภพ | |
2×1036 | เวลาโดยประมาณของนิวคลีออนทั้งหมดในเอกภพที่สังเกตได้จะสลายตัว เมื่อเป็นค่าที่น้อยที่สุดที่เป็นไปได้ ก็คือ 8.2×1033 ปี | |
3×1043 | เวลาโดยประมาณของนิวคลีออนทั้งหมดในเอกภพที่สังเกตได้จะสลายตัว เมื่อเป็นค่าที่มากที่สุดที่เป็นไปได้ ก็คือ 1041 ปี เนื่องจากว่าบิกแบงทำให้เกิดการขยายตัว และกระบวนการเดียวกันนี้ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้แบริออนมีมากกว่าแอนติแบริออนในจักรวาลระยะแรก จะทำให้โปรตอนสลายตัว ในช่วงเวลานี้, ถ้าโปรตอนสลายตัว ยุคหลุมดำ(Black Hole Era) ซึ่งหลุมดำเป็นวัตถุชนิดเดียวที่เหลืออยู่ในเอกภพ ได้เริ่มขึ้น | |
1065 | สมมติว่าโปรตอนไม่สลายตัว นี่เป็นเวลาประมาณการสำหรับวัตถุที่แข็งจะจัดเรียงอะตอมและโมเลกุลใหม่ผ่าน (quantum tunneling) สสารทุกอย่างจะกลายเป็นของเหลว | |
5.8×1068 | เวลาที่ประมาณการไว้ที่หลุมดำมวล 3 เท่าของดวงอาทิตย์จะสลายตัวเป็นอนุภาคเล็กกว่าอะตอมโดย (Hawking process) | |
1.342×1099 | เวลาที่ประมาณการไว้ที่ หลุมดำใจกลางของ ,ซึ่งเป็นวัตถุที่มีมวลมากที่สุดที่รู้จักในปี 2015 มีมวล 40 พันล้านเท่าของดวงอาทิตย์ เหือดหายไปโดยปล่อยรังสีฮอว์คิง (Hawking radiation) โดยโมเมนตัมเชิงมุมเป็นศูนย์(ไม่ใช่หลุมดำที่หมุน) อย่างไรก็ตาม หลุมดำกำลังขยาย เวลาที่ใช้อาจจะนานกว่านี้ | |
1.7×10106 | เวลาที่ประมาณการไว้เมื่อหลุมดำมวลยวดยิ่งที่มีมวล 20 ล้านล้านเท่าของดวงอาทิตย์ สลายตัวไปโดย (Hawking process) นี่เป็นจุดจบของยุคหลุมดำ(Black Hole Era) หลังจากนี้ถ้าโปรตอนสลายตัว จักรวาลจะเข้าสู่ยุคมืด(Dark Era) ซึ่งเป็นยุคที่วัตถุทางกายภาพทุกอย่างจะสลายตัวไปเป็นอนุภาคที่เล็กกว่าอะตอม ค่อยๆเข้าสู่(final energy state)ในระยะฮีทเดธ(Heat Death)ของจักรวาล | |
10200 | เวลาที่มากที่สุดที่ประมาณการไว้ เมื่อนิวคลีออนในเอกภพที่สังเกตเห็นได้ สลายตัวไป ถ้ามันไม่ผ่านกระบวนการด้านบน มันจะผ่านกระบวนการอื่นๆในฟิสิกส์อนุภาคสมัยใหม่ เช่น higher-order processes, , และอื่นๆ ในช่วงเวลา1046 - 10200 ปี | |
101500 | สมมติว่าโปรตอนไม่สลายตัว นี่เป็นเวลาที่ประมาณการไว้เมื่อสสารแบริออนทั้งหมดรวมกันเป็น เหล็ก-56 หรือสลายจากธาตุมวลมากกว่านี้เป็น เหล็ก-56. | |
เวลาที่น้อยที่สุดที่ประมาณการไว้เมื่อวัตถุทุกอย่างที่เกินมวลของพลังค์ (Planck mass) สลายผ่าน (quantum tunneling) เป็นหลุมดำ (ถ้าไม่มีการสลายตัวของโปรตอน หรือ ) ในเวลาที่ยาวนานนี้เอง เหล็กที่เสถียรอย่างมากจะถูกทำลายด้วยอุโมงค์ควอนตัม ดาวเหล็กดวงแรกที่มวลเพียงพอจะสลายผ่านอุโมงค์เป็นดาวนิวตรอน ต่อมาดาวนิวตรอนและดาวเหล็กอื่นๆจะสลายผ่านอุโมงค์เป็นหลุมดำ การสลายของหลุมดำในเวลาต่อมาไปสู่อนุภาคเล็กกว่าอะตอม(กระบวนการใช้เวลาประมาณ 10100 ปี) จะเกิดขึ้นในสเกลเวลานี้ด้วย | ||
เวลาที่ประมาณการไว้ที่ ปรากฏในสูญญากาศผ่านทางการลดลงของเอนโทรปี | ||
เวลาที่ช้าที่สุดที่ประมาณการไว้ที่ทุกสสารกลายเป็นดาวนิวตรอนหรือหลุมดำ (ถ้าไม่มีการสลายตัวของโปรตอน หรือ ) และต่อมาจะสลายเป็นอนุภาคเล็กกว่าอะตอมในสเกลเวลานี้ด้วย | ||
เวลาที่ช้าที่สุดที่จักรวาลจะถึง(final energy state) หรือแม้แต่การเกิด . | ||
เวลาที่ประมาณการไว้ เมื่อแบบสุ่ม (random quantum fluctuation) และ (quantum tunneling) จะสร้างบิกแบงใหม่ เพราะจำนวนวิธีที่ทุกอนุภาคที่เล็กกว่าอะตอมในเอกภพที่สังเกตเห็นได้จะรวมตัว คือ คือ วิธี จำนวนนี้เมื่อคูณด้วย จึงเกิดการerror นอกจากนี้นี่เป็นเวลาที่ (quantum fluctuation) และ (quantum tunneling) จะสร้างจักรวาลใหม่คล้ายกับของเรา สมมติว่าทุกจักรวาลประกอบไปด้วยอนุภาคเล็กกว่าอะตอมอย่างน้อยจำนวนเท่านี้ และปฏิบัติตามกฎของฟิสิกส์ที่อยู่ในขอบเขตที่ถูกทำนายโดยทฤษฎีสตริง อย่างง่าย ภายในเวลานี้ วัฏจักรชีวิตทั้งหมดของจักรวาลจากบิกแบง (Big Bang) ถึง (final energy state) ถึงการเกิดใหม่ จะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นจำนวนครั้งเท่ากับจำนวนวิธีที่เป็นไปได้ของการรวมอนุภาคเล็กกว่าอะตอมในจักรวาลที่สังเกตเห็นได้ |
การสำรวจอวกาศและยานอวกาศ
ปีจากปัจจุบัน | เหตุการณ์ | |
---|---|---|
10,000 | ไพโอเนียร์ 10 จะโคจรผ่าน ที่ระยะ 3.8 ปีแสง . | |
25,000 | Arecibo message ซึ่งเป็นข้อมูลวิทยุที่ถูกส่งเมื่อ 16 พฤศจิกายน 1974 จะถึงระยะเป้าหมายคือกระจุกดาวทรงกลม Messier 13 นี่เป็นเพียง (interstellar radio message) ที่ถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลของกาแล็กซี่ ตำแหน่งของกระจุกดาวจะเปลี่ยนไป 24 ปีแสง ในกาแล็กซี่ ระหว่างที่ข้อความถูกส่งไป แต่ว่ากระจุกดาวมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 168 ปีแสง ข้อความจึงยังคงถึงเป้าหมาย การตอบกลับจะใช้เวลาอย่างน้อยอีก 25,000 ปี | |
32,000 | ไพโอเนียร์ 10 เคลื่อนที่ผ่าน ที่ระยะ 3 ปีแสง. | |
40,000 | วอยเอเจอร์ 1 เคลื่อนที่ผ่าน ที่ระยะ 1.6 ปีแสง, เป็นดาวในกลุ่มดาว Camelopardalis. | |
50,000 | ยานแคปซูลอวกาศ ได้เดินทางออกไปแล้วกลับมาสู่โลก | |
296,000 | วอยเอจเจอร์ 2 เคลื่อนที่ผ่าน ซิริอุส ที่ระยะ 4.3 ปีแสง, เป็นดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้าเวลากลางคืน. | |
2 ล้าน | ไพโอเนียร์ 10 เคลื่อนที่ผ่าน ดาวสว่าง อัลดิบาแรน. | |
4 ล้าน | ไพโอเนียร์ 11 เคลื่อนที่ผ่านดาวในกลุ่มดาว . | |
8 ล้าน | วงโคจรดาวเทียมจะถดถอยลง และจะกลับเข้ามาในบรรยากาศโลก จะนำข้อความไปให้มนุษย์ในอนาคต และนำแผนที่ของทวีปตามที่พวกมันคาดหวังว่าจะปรากฏ |
เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์
ปีจากปัจจุบัน | วันที่ | เหตุการณ์ | |
---|---|---|---|
10663 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของ สุริยุปราคาเต็มดวงและ | ||
11268 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของ สุริยุปราคาเต็มดวงและ | ||
11575 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของ และการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวพุธ | ||
13425 ปี | การเกิดขึ้นที่ใกล้จะพร้อมกันของการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวพุธและดาวศุกร์ | ||
13727 ปี | ของโลกในปีนี้จะทำให้ ดาวเวกา เป็นดาวเหนือ | ||
13,000 ปี | ในจุดนี้ ความเอียงของแกนโลกจะสลับกัน โดยที่ฤดูร้อน และ ฤดูหนาวจะอยู่ในด้านตรงข้ามกับวงโคจรของโลก | ||
15232 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของ สุริยุปราคาเต็มดวงและการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวศุกร์ | ||
15790 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของ สุริยุปราคาวงแหวนและการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวพุธ | ||
14,000-17,000 ปี | ของโลกในปีนี้จะทำให้ เป็น แต่มันจะอยู่ภายใน 10° ของขั้วโลกใต้. | ||
27,000 ปี | ความเยื้องศูนย์กลาง ของวงโคจรโลกจะเปลี่ยนไปถึงจุดต่ำสุดคือ 0.00236 (ปัจจุบัน 0.01671) | ||
38172 ปี | ดาวยูเรนัสผ่านหน้าดวงอาทิตย์โดยสังเกตเห็นได้จากดาวเนปจูน เป็นการบังดวงอาทิตย์ที่หายากที่สุด | ||
69163 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวพุธและดาวศุกร์ | ||
224508 ปี | ดาวศุกร์และดาวพุธจะโคจรผ่านดวงอาทิตย์ตามลำดับ | ||
571741 ปี | การเกิดขึ้นพร้อมกันของการโคจรผ่านดวงอาทิตย์ของดาวศุกร์และโลกซึ่งสามารถมองเห็น |
การทำนายปฏิทิน
ปีจากปัจจุบัน | วันที่ | เหตุการณ์ | |
---|---|---|---|
10,000 ปี | ปฏิทินเกรกอเรียนจะคลาดเคลื่อนกับตำแหน่งของฤดูกาลไป 10 วัน | ||
20,874 | จันทรคติของปฏิทินอิสลาม และ สุริยคติของปฏิทินเกรกอเรียน จะมีเลขปีเดียวกัน หลังจากนี้ปฏิทินอิสลามจะเร็วกว่าปฏิทินเกรกอเรียน | ||
48,901 | ในปีนี้ ปฏิทินจูเลียน (365.25 วัน) และ ปฏิทินเกรกอเรียน (365.2425 วัน) จะเป็นวันเดียวกัน โดยห่างกัน 1 ปี |
แผนภาพเส้นเวลา
สำหรับแผนภาพเส้นเวลาสเกลลอการิทึมของเหตุการณ์เหล่านี้ ดูที่:
- แผนภาพเส้นเวลาของจักรวาล (ถึง 8 พันล้านปีนับจากปัจจุบัน)
- แผนภาพเส้นเวลาของยุคแห่งดวงดาว (Stelliferous Era) (ถึง 1020 ปีนับจากปัจจุบัน)
- แผนภาพเส้นเวลาจากบิกแบงถึงฮีทเดธ (ถึง 101000 ปีนับจากปัจจุบัน)
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- This represents the time by which the event will most probably have happened. It may occur randomly at any time from the present.
- Units are
- There is a roughly 1 in 100,000 chance that the Earth might be ejected into interstellar space by a stellar encounter before this point, and a 1 in 3 million chance that it will then be captured by another star. Were this to happen, life, assuming it survived the interstellar journey, could potentially continue for far longer.
- Based upon the weighted least-squares best fit on p. 16 of Kalirai et al. with the initial mass equal to a solar mass.
- Around 264 half-lives. Tyson et al. employ the computation with a different value for half-life.
- is 1 followed by 1026 (100 septillion) zeroes.
- Although listed in years for convenience, the numbers beyond this point are so vast that their digits would remain unchanged regardless of which conventional units they were listed in, be they nanoseconds or .
- Data for 0 to +10 Myr every 1000 years since J2000 from Astronomical solutions for Earth paleoclimates by Laskar, et al.
- Calculated using Aldo Vitagliano's Solex software. 2011-09-30.
- Manually calculated from the fact that the calendars were 10 days apart in 1582 and grew further apart by 3 days every 400 years.
รายการอ้างอิง
- Matthews, R. A. J. (Spring 1994). "The Close Approach of Stars in the Solar Neighborhood". . 35 (1): 1. Bibcode:1994QJRAS..35....1M.
- Berger, A, and Loutre, MF (2002). "Climate: an exceptionally long interglacial ahead?". Science. 297 (5585): 1287–8. doi:10.1126/science.1076120. PMID 12193773.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "Niagara Falls Geology Facts & Figures". . สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- Finkleman, David; Allen, Steve; Seago, John; Seaman, Rob; Seidelmann, P. Kenneth (June 2011). "The Future of Time: UTC and the Leap Second". ArXiv eprint. 1106: 3141. :1106.3141. Bibcode:2011arXiv1106.3141F.
- Tapping, Ken (2005). "The Unfixed Stars". . สืบค้นเมื่อ 29 December 2010.
- Monnier, J. D.; Tuthill, P.; Lopez, GB; และคณะ (1999). "The Last Gasps of VY Canis Majoris: Aperture Synthesis and Adaptive Optics Imagery". The Astrophysical Journal. 512 (1): 351. :astro-ph/9810024. Bibcode:1999ApJ...512..351M. doi:10.1086/306761.
- "Super-eruptions: Global effects and future threats". The Geological Society. สืบค้นเมื่อ 25 May 2012.
- "Frequently Asked Questions". Hawai'i Volcanoes National Park. 2011. สืบค้นเมื่อ 22 October 2011.
- (March 2002). "Existential Risks: Analyzing Human Extinction Scenarios and Related Hazards". Journal of Evolution and Technology. 9 (1). สืบค้นเมื่อ 10 September 2012.
- "Sharpest Views of Betelgeuse Reveal How Supergiant Stars Lose Mass". Press Releases. European Southern Observatory. 29 July 2009. สืบค้นเมื่อ 6 September 2010.
- Sessions, Larry (29 July 2009). "Betelgeuse will explode someday". EarthSky Communications, Inc. สืบค้นเมื่อ 16 November 2010.
- Bobylev, Vadim V. (March 2010). "Searching for Stars Closely Encountering with the Solar System". Astronomy Letters. 36 (3): 220–226. :1003.2160. Bibcode:2010AstL...36..220B. doi:10.1134/S1063773710030060.
- Haddok, Eitan (29 September 2008). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-24. สืบค้นเมื่อ 27 December 2010.
- Sharma, B. K. (2008). "Theoretical formulation of the Phobos, moon of Mars, rate of altitudinal loss". Eprint arXiv:0805.1454. สืบค้นเมื่อ 10 September 2012.
- Garrison, Tom (2009). Essentials of Oceanography (5 ed.). Brooks/Cole. p. 62.
- . NASA. 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-21. สืบค้นเมื่อ 29 December 2010.
- Nelson, Stephen A. "Meteorites, Impacts, and Mass Extinction". . สืบค้นเมื่อ 13 January 2011.
- Hayes, Wayne B. (2007). "Is the Outer Solar System Chaotic?". Nature Physics. 3 (10): 689–691. :astro-ph/0702179. Bibcode:2007NatPh...3..689H. doi:10.1038/nphys728.
- Leong, Stacy (2002). "Period of the Sun's Orbit Around the Galaxy (Cosmic Year)". The Physics Factbook. สืบค้นเมื่อ 2 April 2007.
- Scotese, Christopher R. "Pangea Ultima will form 250 million years in the Future". Paleomap Project. สืบค้นเมื่อ 13 March 2006.
- Williams, Caroline; Nield, Ted (20 October 2007). . New Scientist. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2008. สืบค้นเมื่อ 2 January 2014.
- Minard, Anne (2009). "Gamma-Ray Burst Caused Mass Extinction?". National Geographic News. สืบค้นเมื่อ 2012-08-27.
- "Questions Frequently Asked by the Public About Eclipses". NASA. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2010. สืบค้นเมื่อ 7 March 2010.
- O'Malley-James, Jack T.; Greaves, Jane S.; Raven; John A.; Cockell; Charles S. (2012). "Swansong Biospheres: Refuges for life and novel microbial biospheres on terrestrial planets near the end of their habitable lifetimes" (PDF). arxiv.org. สืบค้นเมื่อ 2012-11-01.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help))CS1 maint: multiple names: authors list () - Heath, Martin J.; Doyle, Laurance R. (2009). "Circumstellar Habitable Zones to Ecodynamic Domains: A Preliminary Review and Suggested Future Directions". :0912.2482.
- Franck, S.; Bounama, C.; Von Bloh, W. (November 2005). "Causes and timing of future biosphere extinction" (PDF). Biogeosciences Discussions. 2 (6): 1665–1679. Bibcode:2005BGD.....2.1665F. doi:10.5194/bgd-2-1665-2005. สืบค้นเมื่อ 19 October 2011.
- Schröder, K.-P.; Connon Smith, Robert (1 May 2008). "Distant future of the Sun and Earth revisited". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 386 (1): 155–163. :0801.4031. Bibcode:2008MNRAS.386..155S. doi:10.1111/j.1365-2966.2008.13022.x.
- Brownlee, Donald E. (2010). "Planetary habitability on astronomical time scales". ใน Schrijver, Carolus J.; Siscoe, George L. (บ.ก.). Heliophysics: Evolving Solar Activity and the Climates of Space and Earth. Cambridge University Press. ISBN .
- Li King-Fai; Pahlevan, Kaveh; Kirschvink, Joseph L.; Yung, Luk L. (2009). "Atmospheric pressure as a natural climate regulator for a terrestrial planet with a biosphere". Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America. 106 (24). Bibcode:2009PNAS..106.9576L. doi:10.1073/pnas.0809436106. PMC 2701016. PMID 19487662.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Kargel, Jeffrey Stuart (2004). Mars: A Warmer, Wetter Planet. Springer. p. 509. ISBN . สืบค้นเมื่อ 29 October 2007.
- Waszek, Lauren; Irving, Jessica; Deuss, Arwen (20 February 2011). "Reconciling the Hemispherical Structure of Earth's Inner Core With its Super-Rotation". Nature Geoscience. 4 (4): 264–267. Bibcode:2011NatGe...4..264W. doi:10.1038/ngeo1083.
- McDonough, W. F. (2004). "Compositional Model for the Earth's Core". Treatise on Geochemistry. 2: 547–568. Bibcode:2003TrGeo...2..547M. doi:10.1016/B0-08-043751-6/02015-6. ISBN .
- Luhmann, J. G.; Johnson, R. E.; Zhang, M. H. G. (1992). "Evolutionary impact of sputtering of the Martian atmosphere by O+ pickup ions". . 19 (21): 2151–2154. Bibcode:1992GeoRL..19.2151L. doi:10.1029/92GL02485.
- Adams, Fred C. (2008). "Long-term astrophysicial processes". ใน Bostrom, Nick; Cirkovic, Milan M. (บ.ก.). Global Catastrophic Risks. Oxford University Press. pp. 33–47.
- Neron de Surgey, O.; Laskar, J. (1996). "On the Long Term Evolution of the Spin of the Earth". Astronomie et Systemes Dynamiques, Bureau des Longitudes. 318: 975. Bibcode:1997A&A...318..975N.
- "Study: Earth May Collide With Another Planet". . 11 June 2009. สืบค้นเมื่อ 8 September 2011.
- Hecht, Jeff (2 April 1994). "Science: Fiery Future for Planet Earth". New Scientist (subscription required). No. 1919. p. 14. สืบค้นเมื่อ 29 October 2007.
- Chyba, C. F.; Jankowski, D. G.; Nicholson, P. D. (1989). "Tidal Evolution in the Neptune-Triton System". Astronomy & Astrophysics. 219: 23. Bibcode:1989A&A...219L..23C.
- Cox, J. T.; Loeb, Abraham (2007). "The Collision Between The Milky Way And Andromeda". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 386 (1): 461. :0705.1170. Bibcode:2008MNRAS.tmp..333C. doi:10.1111/j.1365-2966.2008.13048.x.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Schroder, K. P.; Connon Smith, Robert (2008). "Distant Future of the Sun and Earth Revisited". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 386 (1): 155–163. :0801.4031. Bibcode:2008MNRAS.386..155S. doi:10.1111/j.1365-2966.2008.13022.x.
- Rybicki, K. R.; Denis, C. (2001). "On the Final Destiny of the Earth and the Solar System". Icarus. 151 (1): 130–137. Bibcode:2001Icar..151..130R. doi:10.1006/icar.2001.6591.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Lorenz, Ralph D.; Lunine, Jonathan I.; McKay, Christopher P. (1997). (PDF). Geophysical Research Letters. 24 (22): 2905–8. Bibcode:1997GeoRL..24.2905L. doi:10.1029/97GL52843. PMID 11542268. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-24. สืบค้นเมื่อ 21 March 2008.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Balick, Bruce. . University of Washington. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-19. สืบค้นเมื่อ 23 June 2006.
- Kalirai, Jasonjot S.; และคณะ (March 2008). "The Initial-Final Mass Relation: Direct Constraints at the Low-Mass End". The Astrophysical Journal. 676 (1): 594–609. :0706.3894. Bibcode:2008ApJ...676..594K. doi:10.1086/527028.
- "Universe May End in a Big Rip". . 1 May 2003. สืบค้นเมื่อ 22 July 2011.
- Vikhlinin, A.; Kravtsov, A.V.; Burenin, R.A.; และคณะ (2009). "Chandra Cluster Cosmology Project III: Cosmological Parameter Constraints". The Astrophysical Journal. . 692 (2): 1060. :0812.2720. Bibcode:2009ApJ...692.1060V. doi:10.1088/0004-637X/692/2/1060.
- (1993). From the Big Bang to Planet X. Camden East, Ontario: . pp. 79–81. ISBN .
- Canup, Robin M.; Righter, Kevin (2000). Origin of the Earth and Moon. The University of Arizona space science series. Vol. 30. University of Arizona Press. p. 177. ISBN .
- Loeb, Abraham (2011). "Cosmology with Hypervelocity Stars". Journal of Cosmology and Astroparticle Physics. Harvard University. 2011 (4): 023. :1102.0007. Bibcode:2011JCAP...04..023L. doi:10.1088/1475-7516/2011/04/023. S2CID 118750775.
- Chown, Marcus (1996). Afterglow of Creation. University Science Books. p. 210.
- "The Local Group of Galaxies". University of Arizona. Students for the Exploration and Development of Space. สืบค้นเมื่อ 2 October 2009.
- Adams, Fred C.; Laughlin, Gregory (April 1997). "A dying universe: the long-term fate and evolution of astrophysical objects". Reviews of Modern Physics. 69 (2): 337–372. :astro-ph/9701131. Bibcode:1997RvMP...69..337A. doi:10.1103/RevModPhys.69.337.
- Adams, F. C.; Graves, G. J. M.; Laughlin, G. (December 2004). García-Segura, G.; Tenorio-Tagle, G.; Franco, J.; Yorke, H. W. (บ.ก.). "Gravitational Collapse: From Massive Stars to Planets. / First Astrophysics meeting of the Observatorio Astronomico Nacional. / A meeting to celebrate Peter Bodenheimer for his outstanding contributions to Astrophysics". Revista Mexicana de Astronomía y Astrofísica (Serie de Conferencias). 22: 46–49. Bibcode:2004RMxAC..22...46A. See Fig. 3.
- Tayler, Roger John (1993). Galaxies, Structure and Evolution (2 ed.). Cambridge University Press. p. 92. ISBN .
- Adams, Fred; Laughlin, Greg (1999). The Five Ages of the Universe. New York: The Free Press. ISBN .
- ; (19 May 1988). The Anthropic Cosmological Principle. foreword by . Oxford: Oxford University Press. ISBN . LC 87-28148. สืบค้นเมื่อ 31 December 2009.
- Adams, Fred; Laughlin, Greg (1999). The Five Ages of the Universe. New York: The Free Press. pp. 85–87. ISBN .
- Dyson, Freeman J. (1979). "Time Without End: Physics and Biology in an Open Universe". Reviews of Modern Physics (subscription required). 51 (3): 447. Bibcode:1979RvMP...51..447D. doi:10.1103/RevModPhys.51.447. สืบค้นเมื่อ 5 July 2008.
- Nishino H, และคณะ () (2009). "Search for Proton Decay via
p+
→
e+
π0
and
p+
→
μ+
π0
in a Large Water Cherenkov Detector". . 102 (14): 141801. :0903.0676. Bibcode:2009PhRvL.102n1801N. doi:10.1103/PhysRevLett.102.141801. PMID 19392425. S2CID 32385768. - Tyson, Neil de Grasse; Tsun-Chu Liu, Charles; Irion, Robert (2000). One Universe: At Home in the Cosmos. Joseph Henry Press. ISBN .
- Page, Don N. (1976). "Particle Emission Rates From a Black Hole: Massless Particles From an Uncharged, Nonrotating Hole". Physical Review D. 13 (2): 198–206. Bibcode:1976PhRvD..13..198P. doi:10.1103/PhysRevD.13.198. See in particular equation (27).
- Linde, Andrei. (2007). "Sinks in the Landscape, Boltzmann Brains and the Cosmological Constant Problem". Journal of Cosmology and Astroparticle Physics (subscription required). 2007 (1): 022. :hep-th/0611043. Bibcode:2007JCAP...01..022L. doi:10.1088/1475-7516/2007/01/022. สืบค้นเมื่อ 26 June 2009.
- Carroll, Sean M.; Chen, Jennifer (27 Oct 2004). "Spontaneous Inflation and the Origin of the Arrow of Time". :hep-th/0410270.
- Tegmark, M (May 2003). "Parallel universes. Not just a staple of science fiction, other universes are a direct implication of cosmological observations". Sci Am. 288 (5): 40–51. :astro-ph/0302131. Bibcode:2003SciAm.288e..40T. doi:10.1038/scientificamerican0503-40. PMID 12701329.
- Max Tegmark (2003). "Parallel Universes". In "Science and Ultimate Reality: from Quantum to Cosmos", honoring John Wheeler's 90th birthday. J. D. Barrow, P.C.W. Davies, & C.L. Harper eds. Cambridge University Press. 288: 40–51. :astro-ph/0302131. Bibcode:2003SciAm.288e..40T. doi:10.1038/scientificamerican0503-40. PMID 12701329.
- , "The statistics of string / M theory vacua", JHEP 0305, 46 (2003). arXiv:hep-th/0303194; S. Ashok and M. Douglas, "Counting flux vacua", JHEP 0401, 060 (2004).
- . Time Magazine. 20 June 1983. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-17. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- "Cornell News: "It's the 25th Anniversary of Earth's First (and only) Attempt to Phone E.T."". Cornell University. 12 November 1999. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-02. สืบค้นเมื่อ 29 March 2008.
- Dave Deamer. . Science 2.0. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 2014-11-14.
- "Pioneer 10: The First 7 Billion Miles". NASA. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- "Voyager: The Interstellar Mission". NASA. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- "KEO FAQ". keo.org. สืบค้นเมื่อ 14 October 2011.
- . NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-15. สืบค้นเมื่อ 5 September 2011.
- . NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-21. สืบค้นเมื่อ 21 July 2012.
- Meeus, J. and Vitagliano, A. (2004). (PDF). Journal of the British Astronomical Association. 114 (3). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-06-15. สืบค้นเมื่อ 7 September 2011.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "Why is Polaris the North Star?". NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-15. สืบค้นเมื่อ 10 April 2011.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - Plait, Phil (2002). Bad Astronomy: Misconceptions and Misuses Revealed, from Astrology to the Moon Landing "Hoax". John Wiley and Sons. pp. 55–56.
- Kieron Taylor (March 1, 1994). . Sheffield Astronomical Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-23. สืบค้นเมื่อ 2013-08-06.
- Laskar, J.; และคณะ (1993). "Orbital, Precessional, and Insolation Quantities for the Earth From −20 Myr to +10 Myr". Astronomy and Astrophysics. 270: 522–533. Bibcode:1993A&A...270..522L.
- Laskar; และคณะ. "Astronomical Solutions for Earth Paleoclimates". Institut de mecanique celeste et de calcul des ephemerides. สืบค้นเมื่อ 20 July 2012.
- Aldo Vitagliano (2011). "The Solex page". Università degli Studi di Napoli Federico II. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-29. สืบค้นเมื่อ 20 July 2012.
- Borkowski, K.M. (1991). "The Tropical Calendar and Solar Year". J. Royal Astronomical Soc. of Canada. 85 (3): 121–130. Bibcode:1991JRASC..85..121B.
- Strous, Louis (2010). "Astronomy Answers: Modern Calendars". . สืบค้นเมื่อ 14 September 2011.
- . US Naval Observatory. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-06. สืบค้นเมื่อ 20 July 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Numberphile explains Pointcare recurrence 2013-11-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudhnanimienuxhaepnphasatangpraeths khunsamarthchwyphthnahnaniiddwykaraepl ykewnhakenuxhaekuxbthnghmdimichphasaithy ihaecnglbaethnsylksnphaphhwkhxdarasastr aela fisiksdarasastrthrniwithya aela withyadawekhraahfisiksxnuphakhkhnitsastrethkhonolyi aela wthnthrrmxnakhtkhxngolk rabbsuriya aelaexkphphpicakpccubn ehtukarn36 000 dawaekhraaedngkhnadelk phanphayin 3 024 piaesngcakolk epndawthiekhluxnekhamaikldwngxathitythisud44 000 xlfakhnkhrungma maepnrabbdawkhuthiikldwngxathitythisudsungmakkwa Ross 248 thithxyhangxxkip50 000 1 cudsinsudkhxng interglacial period subenuxngcakkarsuksaody Berger aela Loutre sngphliholkklbsuyukhnaaekhngxikkhrngtamwdckr odyimnaphlkrathbcakpraktkarnolkrxncakfimuxmnusymakhanwnrwmdwy 2 natkinaexngkara phrmaednrahwangshrthxemrikaaelaaekhnada cakdesaaphacnnatkthxyrnipthung 32 kiolemtr aelasuyekhaipinthaelsabxiri50 000 khwamyawkhxngwnthiichinkarcbewlathangdarasastrephimepn 86 401 winathi tamrabbexsix cakpccubnthikahndiwin 1 wnmi 86 400 winathi saehtuekidcakaerngithdlkhxngdwngcnthrhnwngkarhmunrxbtwexngkhxngolk thaiholktxngichewlahmunrxbtwexngkhrbrxbephimkhun aelaphayitrabbewlathiichknxyuinpccubn eracatxngephim 1 winathiinthukwn100 000 enuxngcakdawvksaetladwngmikarekhluxnthiechphaatwipindarackr thaihinxikaesnpikhanghnaklumdawtang caerimmitaaehnngdawvksepliynaeplngaelaphidephiynip cnimsamarthyudthuxrabbklumdawaebbedimid100 000 dawvksyksyingywd wiway sunkhihy VY Canis Majoris mioxkasthicaraebidepnihepxronwa100 000 olkmioxkasthicaecxkbkarpathukhrngihykhxngmhaphuekhaif supervolcano sungxacmiaemkmapathuxxkmathung 400 lukbaskkiolemtr250 000 Lōʻihi Seamount sungepnphuekhaifxayunxythisudinklum Hawaiian Emperor seamount chain caophlphnnaaelaklayepnekaaphuekhaifaehngihm500 000 olkmioxkasthicathukxukkabatkhnadesnphansunyklangraw 1 kiolemtrphungekhachnodyimsamarthpxngknhruxebiyngebnaenwokhcrid1 lan olkmioxkasthicaprasbkbkarpathukhxngmhaphuekhaif thisamarthphnlawaxxkmaidthung 3 200 lukbaskkiolemtr iklekhiyngkbkarpathukhrngihykhxngphuekhaifotbabnekaasumatra1 lan ewlathiepnipidxyangchathisudthidawyksaedng biethlcus caraebidepnsuepxronwa sungkhadwacasamarthmxngehnidbnphunolkaeminewlaklangwn1 4 lan dawvks Gliese 710 caokhcrekhaiklrabbsuriyamakthisudthi 1 1 piaesng kxncaokhcrhangxxkip odyinkhnanndawvkskliesx 710 casngaerngonmthwngrbkwnwtthuinemkhxxrt sungepnaehlngrwmwtthunaaekhnghxmlxmrabbsuriyaiw thaihrabbsuriyachninmikhwamesiyngtxkarchnkhxngethhwtthutang ephimkhun10 lan East African Rift khyaykwangkhunaelathuknacakthaelaedngekhathwm epntnkaenidmhasmuthrihmthicaaeykthwipaexfrikaxxkcakkn50 lan ewlathichathisudthidwngcnthrofbxscathukkhwamhnwngcakaerngithdldungekhahadawxngkhar aelainthisudkcaekhachndawxngkhar50 lan 1 chayfngaekhlifxreniycacmtwaelamudtwlngrxnglukknsmuthrxaluechiyn Aleutian Trench cakkarekhluxnipthangthisehnuxtamrxyeluxnaesnaexnedrxs 2 thwipaexfrikacaeluxnipthangehnuxaelachnkbyuerechiy sungcapidknthaelemdietxrereniynaelaekidethuxkekhakhlayethuxkekhahimalykhunaethn100 lan olkmioxkasthicathukxukkabatkhnadiklekhiyngkbthiekhychnolkemux 65 lanpikxnchn sunginkhrngnnthaihekidkarsuyphnthukhrngihykhxngsingmichiwit230 lan hlngcakniepntnip caimsamarththanaywngokhcrkhxngdawekhraahtang idxiktamewlaeliypunxf Lyapunow time 240 lan haknbewlacakpccubnipxik 240 lanpi rabbsuriyacaokhcrrxbdarackrthangchangephuxkaelaklbmaxyutaaehnngediminpccubnkhrbhnungrxb eriykwahnung250 lan thwiptang bnolkmioxkasthicarwmtwknepnmhathwip supercontinent sungepnipidsamrupaebbkhux Amasia Novopangaea aela Pangaea Ultima 500 600 lan rayaewlaodypramanthicaekidaesngwabrngsiaekmma hruxsuepxronwaphlngnganyingywd inrayahangphayin 6 500 piaesngcakolk sungiklphxthicasngphlkrathbodytrngtxchnoxosnkhxngolk aelakxihekidkarsuyphnthukhrngihyid haksmmutithanthiwakarraebiddngklawekhyekidkhuninxditaelathaihekid nnthuktxng xyangirktam karraebiddngklawcatxngsngphlngnganmithisthangmayngolkodytrngethannthungcaekidphlkrathbtxolkid600 lan Tidal acceleration caphlkdwngcnthrihhangxxkcakolkipiklcnimsamarthekidsuriyuprakhaaebbetmdwngidxiktxip600 lan khwamswangkhxngdwngxathitythiephimkhuncaipthalay khwamswangthiephimkhuncaipephimkarsukkrxnkhxngphiwhin sunghinnikkekbkharbxnidxxkisdiwthiphuninrupkharbxent emuxnaraehyipcakphiwolkthiepnhinaekhngcathaihekidthwipeluxnxyangchaaelainthisudkhyudlng emuximmiphuekhaifchwynakharbxnklbsubrryakas radbkharbxnidxxkisdcatklng inewlanimncatklngcnkarsngekhraahdwyaesngkhxng imsamarthekidkhunid phuchthiichkarsngekhraahaesngaebb C3 99 khxngspichisthnghmdinpccubn catay800 lan radbkharbxnidxxkisdcaldtacnptikiriyakartrungkharbxnidxxkisd C4 carbon fixation inkrabwnkarsngekhraahdwyaesng imsamarththanganidxiktxip xxksiecnxisraaelaoxosncahayipcakbrryakas singmichiwithlayesllcasuyphnthu1 000 lan khwamswangkhxngdwngxathityephimkhunxik 10 epxresnt thaihxunhphumibnphunphiwolkmikhapraman 320 K 47 C chnbrryakascaklayepn phawaeruxnkrackchun enuxngcakkarraehykhxngmhasmuthr nabangswnyngkhngepnkhxngehlwinbriewnkhwolk aelayngsamarthepnthixyukhxngsingmichiwitphunthan 1 300 lan singmichiwitcaphwkyuaekhrioxtthnghmdcasuyphnthuenuxngcakkarkhadaekhlnkharbxnidxxkisd swnsingmichiwitcaphwkoprkharioxtcayngkhngmichiwitrxd1 500 1 600 lan dwngxathityswangmakkhunthaihekhtthisingmichiwitxasyxyuideluxnxxkcakolkip inkhnaediywknthaihkharbxnidxxkisdinchnbrryakaskhxngdawxngkharsungkhun sungephimxunhphumikhxngphunphiwdawxngkharcniklekhiyngkbolkinyukhnaaekhng2 300 lan aeknolkchnnxkcaeyntwlng hakaeknolkchninkhxy khyaytwinxtrapccubnthi 1 milliemtrtxpi aelaemuxaeknchnnxkthiepnkhxngehlweyntwlngklayepnkhxngaekhng cathaihsnamaemehlkkhxngolkhyudthanganaelahayip2 800 lan xunhphumiphunphiwkhxngolkephimsungkhuncnxyuthiechliypraman 420 ekhlwin 147 C aemkrathngbriewnkhwolk thaihsingmichiwitinkhnann sungmichiwitrxdehluxephiyngklumsingmichiwitesllediywinsphaphaewdlxmthioddediywaelakracdkracay echn tamthaelsabbnthisung hruxinthaitdin suyphnthuodysineching3 000 lan taaehnngmthythanthisungthaihrayahangdwngcnthrkbolkmakkhuncaipldkhwamexiyngkhxngaeknolk inkhnani caekidkhwamwunwayaelarunaerngmakkhun3 300 lan mioxkas 1 epxresntthiwngokhcrkhxngdawphuthcathukkhyayxxkcnkrathngchnkbdawsukr sngphlihekidkhwampnpwninrabbsuriyachnin aelaephimkhwamesiyngthiolkcathukchnodywtthuradbdawekhraah3 500 4 500 lan phunphiwkhxngolkcakhlaydawsukrinpccubn3 600 lan dwngcnthrkhxngdawenpcun ithrthncaekhluxnekhahadawenpcuncnelykhidcakdkhxngRoche Roche Limit cnthaihekidwngaehwnkhxngdawenpcunthikhlaykbdawesar4 000 lan taaehnngmthythanthidarackraexndrxemdacachnkbdarackrthangchangephuxk sunghlngcaknncadarackrcarwmknaelamichuxwadarackr Milkomeda 5 000 lan dwngxathityichihodrecnhmdthaihdwngxathityxxkcakaethbladbhlk aelaerimekhasuchwngkhxng dawyksaedng 7 500 lan olkaeladawxngkharekidithdllxk Tidal locking kbdwngxathitythikhyaytw7 900 lan xaccaephimkhunthung 256 ethakhxngdwngxathityinpccubn hruxxaccamiesnphansunyklangpraman 358 400 000 kiolemtr sungsngphlihdawphuth dawsukraelaxaccarwmthungolkthukthalay inewlani dawbriwarkhxngdawesar iththn samarthmixunhphumisungphxthicaihkaenidchiwitid8 000 lan inewlani dwngxathityepn dawaekhrakhawthiprakxbdwykharbxn aela xxksiecn dwymwl 54 05 epxresntkhxngmwldwngxathityinpccubn22 000 lan cudcbkhxngckrwalinrupaebbkhxngkarchikkhadkhrngihy Big Rip rupaebbkhxngphlngnganmudepnaebb karsngektthithukerngkhwamerwody bxkwasingnicaimekid50 000 lan smmtiwathaerarxdcakkarkhyaytwkhxngdwngxathity inewlaniolkaeladwngcnthrcaithdllxk tidelocked sungimwacaxyubndawdwngihnkcaehnxikdwngaekhdanediyw hlngcaknn ptikiriyaithdl tidal action khxngdwngxathitycadungomemntmechingmumxxkcakrabb thaihwngokhcrkhxngdwngcnthresuxmlngaelaolkcahmunerwkhun100 000 lan thaihdarackrthnghmdekhluxnxxkipiklcakklumthxngthinkhxngthangchangephuxkcnelyxxkipcakaenw aelathuklbeluxnipcakexkphphthisngektid150 000 lan rngsiimokhrewfphunhlngkhxngckrwalcaeynlngcakxunhphumipraman 2 7 K thung 0 3 K thaihimsamarthtrwccbiddwyethkhonolyipccubn450 000 lan taaehnngmthythankhxng praman 47 darackr khxngklumthxngthincarwmknepndarackrkhnadihyaehngediyw800 000 lan ewlathikhadkarniwthikarplxyaesngcakdarackr Milkomeda caldlng inkhnathidawaekhraaedngkhamphnraya dawaekhranaengin sungswangthisud1012 1 lanlan ewlathinxythisudthipramankariw emuxkarkaeniddawvksimmixiktxipinkaaelksi inkhnathikaaelksiichklumaeksthicaepntxkarsrangdawvksihmipcnhmd karkhyaytwkhxngexkphphthikhadwaepnkhwamhnaaennkhxngphlngnganmudthikhngtw cathaihkhwamyawkhlunkhxngrngsiimokhrewfphunhlngkhxngckrwalephim 1029 etha ekinsekl cosmic light horizon aelacatrwccbmnsungepnhlkthankhxngbikaebngimidxik xyangirktamsamarthwdkarkhyaytwkhxngexkphphidcakkarsuksadawthiekhluxnthidwykhwamerwsung3 1013 30 lanlan ewlathipramankariwthidawvkscaphanekhamaikldawvksxuninlaaewkephuxnban emuxdawvkssxngdwngphaniklkn wngokhcrdawekhraahkhxngphwkmncathukthalayaelacahludxxkcakrabb odyechliy yingwngokhcrdawekhraahikldawvksethair mnyingichewlananthicahlud ephraawngokhcrkhxngmnaennepnphlcakaerngonmthwng1014 100 lanlan ewlathimakthisudthipramankariw emuxkarkaeniddawvksimmixiktxipinkaaelksi cudniepncudepliyncak yukhaehngdwngdaw Stelliferous Era ipyng yukhesuxm Degenerate Era sungepnyukhthiimmiihodrecnxisrasahrbsrangdawvksdwngihmxikaelw dawvksthiehluxkhxyichechuxephlinghmdaelataylng1 1 1 2 1014 110 120 lanlan ewlathidawvksthukdwnginexkphphichechuxephlingcnhmd dawthixayuyunthisud dawaekhraaedngmwlnxymichwngchiwitpraman 10 20 lanlanpi hlngcakcudni wtthuthimimwlthiyngehluxxyukhuxessdaw idaek dawaekhrakhaw dawniwtrxn aelahlumda dawaekhranatalyngkhngxyuechnkn karchnknrahwangdawaekhranatalcasrangdawaekhraaedngihm odyechliymidawvkspraman 100 dwng thiyngsxngaesnginthithiekhyepnthangchangephuxk karchnknkhxngessdawmioxkasthaihekidsuepxronwa1015 1 phnlanlan ewlaodypramanthidawekhraahthukdwnginrabbsuriyaeraaelarabbdawvksxuncahludxxknxkwngokhcr inewlani dwngxathityklayepndawaekhradaaelamixunhphumiehnuxsunyxngsasmburnxyuaekh 5 xngsaeslesiysethann 1019 1020 10 100 lanlanlan ewlaodypramanthi 90 99 khxngdawaekhranatalaelaessdaw rwmthngdwngxathity cahludxxknxkkaaelksi emuxwtthusxngchinekhaiklknmakphx phwkmncaaelkepliynphlngngankhxngwngokhcrkbwtthumwlnxykwaephuxthicaidrbphlngngan dwywithinisa wtthumwlnxycaidphlngnganephiyngphxthicahludxxkcakkaaelksi krabwnkarnithaihdawaekhranatalaelaessdawswnihyhludxxkcakthangchangephuxk1020 100 lanlanlan ewlaodypramanthiolkcachnkbdwngxathitythiepndawaekhradaephraakaresuxmkhxngwngokhcrphanthangkarpldplxyrngsikhwamonmthwng thaolkimhludcakwngokhcrkxnemuxdawvksekhluxniklknhruxdudklunodydwngxathityrayadawyksaedng1030 ewlaodypramanthidawthiyngimhludcakkaaelksi 1 10 catklngipinhlumdamwlywdyingicklangkaaelksi n cudni dawvksinrabbdawkhucaphungekhahakn dawekhraahcaphungekhahadawvkskhxngmn phanthangkarpldplxyrngsikhwamonmthwng gravitational radiation miephiyngwtthuthixyuoddediywidaek essdaw dawaekhranatal dawekhraahthihludcakwngokhcr aela hlumda thiyngkhngxyuinexkphph2 1036 ewlaodypramankhxngniwkhlixxnthnghmdinexkphphthisngektidcaslaytw emuxepnkhathinxythisudthiepnipid kkhux 8 2 1033 pi3 1043 ewlaodypramankhxngniwkhlixxnthnghmdinexkphphthisngektidcaslaytw emuxepnkhathimakthisudthiepnipid kkhux 1041 pi enuxngcakwabikaebngthaihekidkarkhyaytw aelakrabwnkarediywknnisungepnkrabwnkarthithaihaebrixxnmimakkwaaexntiaebrixxninckrwalrayaaerk cathaihoprtxnslaytw inchwngewlani thaoprtxnslaytw yukhhlumda Black Hole Era sunghlumdaepnwtthuchnidediywthiehluxxyuinexkphph iderimkhun1065 smmtiwaoprtxnimslaytw niepnewlapramankarsahrbwtthuthiaekhngcacderiyngxatxmaelaomelkulihmphan quantum tunneling ssarthukxyangcaklayepnkhxngehlw5 8 1068 ewlathipramankariwthihlumdamwl 3 ethakhxngdwngxathitycaslaytwepnxnuphakhelkkwaxatxmody Hawking process 1 342 1099 ewlathipramankariwthi hlumdaicklangkhxng sungepnwtthuthimimwlmakthisudthiruckinpi 2015 mimwl 40 phnlanethakhxngdwngxathity ehuxdhayipodyplxyrngsihxwkhing Hawking radiation odyomemntmechingmumepnsuny imichhlumdathihmun xyangirktam hlumdakalngkhyay ewlathiichxaccanankwani1 7 10106 ewlathipramankariwemuxhlumdamwlywdyingthimimwl 20 lanlanethakhxngdwngxathity slaytwipody Hawking process niepncudcbkhxngyukhhlumda Black Hole Era hlngcaknithaoprtxnslaytw ckrwalcaekhasuyukhmud Dark Era sungepnyukhthiwtthuthangkayphaphthukxyangcaslaytwipepnxnuphakhthielkkwaxatxm khxyekhasu final energy state inrayahithedth Heat Death khxngckrwal10200 ewlathimakthisudthipramankariw emuxniwkhlixxninexkphphthisngektehnid slaytwip thamnimphankrabwnkardanbn mncaphankrabwnkarxuninfisiksxnuphakhsmyihm echn higher order processes aelaxun inchwngewla1046 10200 pi101500 smmtiwaoprtxnimslaytw niepnewlathipramankariwemuxssaraebrixxnthnghmdrwmknepn ehlk 56 hruxslaycakthatumwlmakkwaniepn ehlk 56 101026 displaystyle 10 10 26 ewlathinxythisudthipramankariwemuxwtthuthukxyangthiekinmwlkhxngphlngkh Planck mass slayphan quantum tunneling epnhlumda thaimmikarslaytwkhxngoprtxn hrux inewlathiyawnanniexng ehlkthiesthiyrxyangmakcathukthalaydwyxuomngkhkhwxntm dawehlkdwngaerkthimwlephiyngphxcaslayphanxuomngkhepndawniwtrxn txmadawniwtrxnaeladawehlkxuncaslayphanxuomngkhepnhlumda karslaykhxnghlumdainewlatxmaipsuxnuphakhelkkwaxatxm krabwnkarichewlapraman 10100 pi caekidkhuninseklewlanidwy101050 displaystyle 10 10 50 ewlathipramankariwthi praktinsuyyakasphanthangkarldlngkhxngexnothrpi101076 displaystyle 10 10 76 ewlathichathisudthipramankariwthithukssarklayepndawniwtrxnhruxhlumda thaimmikarslaytwkhxngoprtxn hrux aelatxmacaslayepnxnuphakhelkkwaxatxminseklewlanidwy1010120 displaystyle 10 10 120 ewlathichathisudthickrwalcathung final energy state hruxaemaetkarekid 10101056 displaystyle 10 10 10 56 ewlathipramankariw emuxaebbsum random quantum fluctuation aela quantum tunneling casrangbikaebngihm ephraacanwnwithithithukxnuphakhthielkkwaxatxminexkphphthisngektehnidcarwmtw khux khux 1010115 displaystyle 10 10 115 withi canwnniemuxkhundwy 10101056 displaystyle 10 10 10 56 cungekidkarerror nxkcakniniepnewlathi quantum fluctuation aela quantum tunneling casrangckrwalihmkhlaykbkhxngera smmtiwathukckrwalprakxbipdwyxnuphakhelkkwaxatxmxyangnxycanwnethani aelaptibtitamkdkhxngfisiksthixyuinkhxbekhtthithukthanayodythvsdistring xyangngay phayinewlani wtckrchiwitthnghmdkhxngckrwalcakbikaebng Big Bang thung final energy state thungkarekidihm caekidsaaelwsaxikepncanwnkhrngethakbcanwnwithithiepnipidkhxngkarrwmxnuphakhelkkwaxatxminckrwalthisngektehnidkarsarwcxwkasaelayanxwkaspicakpccubn ehtukarn10 000 iphoxeniyr 10 caokhcrphan thiraya 3 8 piaesng 25 000 Arecibo message sungepnkhxmulwithyuthithuksngemux 16 phvscikayn 1974 cathungrayaepahmaykhuxkracukdawthrngklm Messier 13 niepnephiyng interstellar radio message thithuksngipyngphunthithihangiklkhxngkaaelksi taaehnngkhxngkracukdawcaepliynip 24 piaesng inkaaelksi rahwangthikhxkhwamthuksngip aetwakracukdawmiesnphansunyklang 168 piaesng khxkhwamcungyngkhngthungepahmay kartxbklbcaichewlaxyangnxyxik 25 000 pi32 000 iphoxeniyr 10 ekhluxnthiphan thiraya 3 piaesng 40 000 wxyexecxr 1 ekhluxnthiphan thiraya 1 6 piaesng epndawinklumdaw Camelopardalis 50 000 yanaekhpsulxwkas idedinthangxxkipaelwklbmasuolk296 000 wxyexcecxr 2 ekhluxnthiphan sirixus thiraya 4 3 piaesng epndawthiswangthisudinthxngfaewlaklangkhun 2 lan iphoxeniyr 10 ekhluxnthiphan dawswang xldibaaern 4 lan iphoxeniyr 11 ekhluxnthiphandawinklumdaw 8 lan wngokhcrdawethiymcathdthxylng aelacaklbekhamainbrryakasolk canakhxkhwamipihmnusyinxnakht aelanaaephnthikhxngthwiptamthiphwkmnkhadhwngwacapraktehtukarnthangdarasastrpicakpccubn wnthi ehtukarn10663 pi karekidkhunphrxmknkhxng suriyuprakhaetmdwngaela11268 pi karekidkhunphrxmknkhxng suriyuprakhaetmdwngaela11575 pi karekidkhunphrxmknkhxng aelakarokhcrphandwngxathitykhxngdawphuth13425 pi karekidkhunthiiklcaphrxmknkhxngkarokhcrphandwngxathitykhxngdawphuthaeladawsukr13727 pi khxngolkinpinicathaih dawewka epndawehnux13 000 pi incudni khwamexiyngkhxngaeknolkcaslbkn odythivdurxn aela vduhnawcaxyuindantrngkhamkbwngokhcrkhxngolk15232 pi karekidkhunphrxmknkhxng suriyuprakhaetmdwngaelakarokhcrphandwngxathitykhxngdawsukr15790 pi karekidkhunphrxmknkhxng suriyuprakhawngaehwnaelakarokhcrphandwngxathitykhxngdawphuth14 000 17 000 pi khxngolkinpinicathaih epn aetmncaxyuphayin 10 khxngkhwolkit 27 000 pi khwameyuxngsunyklang khxngwngokhcrolkcaepliynipthungcudtasudkhux 0 00236 pccubn 0 01671 38172 pi dawyuernsphanhnadwngxathityodysngektehnidcakdawenpcun epnkarbngdwngxathitythihayakthisud69163 pi karekidkhunphrxmknkhxngkarokhcrphandwngxathitykhxngdawphuthaeladawsukr224508 pi dawsukraeladawphuthcaokhcrphandwngxathitytamladb571741 pi karekidkhunphrxmknkhxngkarokhcrphandwngxathitykhxngdawsukraelaolksungsamarthmxngehnkarthanayptithinpicakpccubn wnthi ehtukarn10 000 pi ptithinekrkxeriyncakhladekhluxnkbtaaehnngkhxngvdukalip 10 wn20 874 cnthrkhtikhxngptithinxislam aela suriykhtikhxngptithinekrkxeriyn camielkhpiediywkn hlngcakniptithinxislamcaerwkwaptithinekrkxeriyn48 901 inpini ptithincueliyn 365 25 wn aela ptithinekrkxeriyn 365 2425 wn caepnwnediywkn odyhangkn 1 piaephnphaphesnewlasahrbaephnphaphesnewlasekllxkarithumkhxngehtukarnehlani duthi aephnphaphesnewlakhxngckrwal thung 8 phnlanpinbcakpccubn aephnphaphesnewlakhxngyukhaehngdwngdaw Stelliferous Era thung 1020 pinbcakpccubn aephnphaphesnewlacakbikaebngthunghithedth thung 101000 pinbcakpccubn duephimesnewlakhxngprawtisastrthrrmchati esnewlakhxngbikaebng esnewlakhxngxnakhtiklhmayehtuThis represents the time by which the event will most probably have happened It may occur randomly at any time from the present Units are There is a roughly 1 in 100 000 chance that the Earth might be ejected into interstellar space by a stellar encounter before this point and a 1 in 3 million chance that it will then be captured by another star Were this to happen life assuming it survived the interstellar journey could potentially continue for far longer Based upon the weighted least squares best fit on p 16 of Kalirai et al with the initial mass equal to a solar mass Around 264 half lives Tyson et al employ the computation with a different value for half life 101026 displaystyle 10 10 26 is 1 followed by 1026 100 septillion zeroes Although listed in years for convenience the numbers beyond this point are so vast that their digits would remain unchanged regardless of which conventional units they were listed in be they nanoseconds or Data for 0 to 10 Myr every 1000 years since J2000 from Astronomical solutions for Earth paleoclimates by Laskar et al Calculated using Aldo Vitagliano s Solex software 2011 09 30 Manually calculated from the fact that the calendars were 10 days apart in 1582 and grew further apart by 3 days every 400 years raykarxangxingMatthews R A J Spring 1994 The Close Approach of Stars in the Solar Neighborhood 35 1 1 Bibcode 1994QJRAS 35 1M Berger A and Loutre MF 2002 Climate an exceptionally long interglacial ahead Science 297 5585 1287 8 doi 10 1126 science 1076120 PMID 12193773 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Niagara Falls Geology Facts amp Figures subkhnemux 29 April 2011 Finkleman David Allen Steve Seago John Seaman Rob Seidelmann P Kenneth June 2011 The Future of Time UTC and the Leap Second ArXiv eprint 1106 3141 1106 3141 Bibcode 2011arXiv1106 3141F Tapping Ken 2005 The Unfixed Stars subkhnemux 29 December 2010 Monnier J D Tuthill P Lopez GB aelakhna 1999 The Last Gasps of VY Canis Majoris Aperture Synthesis and Adaptive Optics Imagery The Astrophysical Journal 512 1 351 astro ph 9810024 Bibcode 1999ApJ 512 351M doi 10 1086 306761 Super eruptions Global effects and future threats The Geological Society subkhnemux 25 May 2012 Frequently Asked Questions Hawai i Volcanoes National Park 2011 subkhnemux 22 October 2011 March 2002 Existential Risks Analyzing Human Extinction Scenarios and Related Hazards Journal of Evolution and Technology 9 1 subkhnemux 10 September 2012 Sharpest Views of Betelgeuse Reveal How Supergiant Stars Lose Mass Press Releases European Southern Observatory 29 July 2009 subkhnemux 6 September 2010 Sessions Larry 29 July 2009 Betelgeuse will explode someday EarthSky Communications Inc subkhnemux 16 November 2010 Bobylev Vadim V March 2010 Searching for Stars Closely Encountering with the Solar System Astronomy Letters 36 3 220 226 1003 2160 Bibcode 2010AstL 36 220B doi 10 1134 S1063773710030060 Haddok Eitan 29 September 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 24 subkhnemux 27 December 2010 Sharma B K 2008 Theoretical formulation of the Phobos moon of Mars rate of altitudinal loss Eprint arXiv 0805 1454 subkhnemux 10 September 2012 Garrison Tom 2009 Essentials of Oceanography 5 ed Brooks Cole p 62 NASA 2000 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 08 21 subkhnemux 29 December 2010 Nelson Stephen A Meteorites Impacts and Mass Extinction subkhnemux 13 January 2011 Hayes Wayne B 2007 Is the Outer Solar System Chaotic Nature Physics 3 10 689 691 astro ph 0702179 Bibcode 2007NatPh 3 689H doi 10 1038 nphys728 Leong Stacy 2002 Period of the Sun s Orbit Around the Galaxy Cosmic Year The Physics Factbook subkhnemux 2 April 2007 Scotese Christopher R Pangea Ultima will form 250 million years in the Future Paleomap Project subkhnemux 13 March 2006 Williams Caroline Nield Ted 20 October 2007 New Scientist khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 April 2008 subkhnemux 2 January 2014 Minard Anne 2009 Gamma Ray Burst Caused Mass Extinction National Geographic News subkhnemux 2012 08 27 Questions Frequently Asked by the Public About Eclipses NASA cakaehlngedimemux 12 March 2010 subkhnemux 7 March 2010 O Malley James Jack T Greaves Jane S Raven John A Cockell Charles S 2012 Swansong Biospheres Refuges for life and novel microbial biospheres on terrestrial planets near the end of their habitable lifetimes PDF arxiv org subkhnemux 2012 11 01 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help CS1 maint multiple names authors list lingk Heath Martin J Doyle Laurance R 2009 Circumstellar Habitable Zones to Ecodynamic Domains A Preliminary Review and Suggested Future Directions 0912 2482 Franck S Bounama C Von Bloh W November 2005 Causes and timing of future biosphere extinction PDF Biogeosciences Discussions 2 6 1665 1679 Bibcode 2005BGD 2 1665F doi 10 5194 bgd 2 1665 2005 subkhnemux 19 October 2011 Schroder K P Connon Smith Robert 1 May 2008 Distant future of the Sun and Earth revisited Monthly Notices of the Royal Astronomical Society 386 1 155 163 0801 4031 Bibcode 2008MNRAS 386 155S doi 10 1111 j 1365 2966 2008 13022 x Brownlee Donald E 2010 Planetary habitability on astronomical time scales in Schrijver Carolus J Siscoe George L b k Heliophysics Evolving Solar Activity and the Climates of Space and Earth Cambridge University Press ISBN 978 0 521 11294 9 Li King Fai Pahlevan Kaveh Kirschvink Joseph L Yung Luk L 2009 Atmospheric pressure as a natural climate regulator for a terrestrial planet with a biosphere Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America 106 24 Bibcode 2009PNAS 106 9576L doi 10 1073 pnas 0809436106 PMC 2701016 PMID 19487662 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Kargel Jeffrey Stuart 2004 Mars A Warmer Wetter Planet Springer p 509 ISBN 978 1 85233 568 7 subkhnemux 29 October 2007 Waszek Lauren Irving Jessica Deuss Arwen 20 February 2011 Reconciling the Hemispherical Structure of Earth s Inner Core With its Super Rotation Nature Geoscience 4 4 264 267 Bibcode 2011NatGe 4 264W doi 10 1038 ngeo1083 McDonough W F 2004 Compositional Model for the Earth s Core Treatise on Geochemistry 2 547 568 Bibcode 2003TrGeo 2 547M doi 10 1016 B0 08 043751 6 02015 6 ISBN 978 0 08 043751 4 Luhmann J G Johnson R E Zhang M H G 1992 Evolutionary impact of sputtering of the Martian atmosphere by O pickup ions 19 21 2151 2154 Bibcode 1992GeoRL 19 2151L doi 10 1029 92GL02485 Adams Fred C 2008 Long term astrophysicial processes in Bostrom Nick Cirkovic Milan M b k Global Catastrophic Risks Oxford University Press pp 33 47 Neron de Surgey O Laskar J 1996 On the Long Term Evolution of the Spin of the Earth Astronomie et Systemes Dynamiques Bureau des Longitudes 318 975 Bibcode 1997A amp A 318 975N Study Earth May Collide With Another Planet 11 June 2009 subkhnemux 8 September 2011 Hecht Jeff 2 April 1994 Science Fiery Future for Planet Earth New Scientist subscription required No 1919 p 14 subkhnemux 29 October 2007 Chyba C F Jankowski D G Nicholson P D 1989 Tidal Evolution in the Neptune Triton System Astronomy amp Astrophysics 219 23 Bibcode 1989A amp A 219L 23C Cox J T Loeb Abraham 2007 The Collision Between The Milky Way And Andromeda Monthly Notices of the Royal Astronomical Society 386 1 461 0705 1170 Bibcode 2008MNRAS tmp 333C doi 10 1111 j 1365 2966 2008 13048 x a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Schroder K P Connon Smith Robert 2008 Distant Future of the Sun and Earth Revisited Monthly Notices of the Royal Astronomical Society 386 1 155 163 0801 4031 Bibcode 2008MNRAS 386 155S doi 10 1111 j 1365 2966 2008 13022 x Rybicki K R Denis C 2001 On the Final Destiny of the Earth and the Solar System Icarus 151 1 130 137 Bibcode 2001Icar 151 130R doi 10 1006 icar 2001 6591 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Lorenz Ralph D Lunine Jonathan I McKay Christopher P 1997 PDF Geophysical Research Letters 24 22 2905 8 Bibcode 1997GeoRL 24 2905L doi 10 1029 97GL52843 PMID 11542268 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 24 subkhnemux 21 March 2008 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Balick Bruce University of Washington khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 19 subkhnemux 23 June 2006 Kalirai Jasonjot S aelakhna March 2008 The Initial Final Mass Relation Direct Constraints at the Low Mass End The Astrophysical Journal 676 1 594 609 0706 3894 Bibcode 2008ApJ 676 594K doi 10 1086 527028 Universe May End in a Big Rip 1 May 2003 subkhnemux 22 July 2011 Vikhlinin A Kravtsov A V Burenin R A aelakhna 2009 Chandra Cluster Cosmology Project III Cosmological Parameter Constraints The Astrophysical Journal 692 2 1060 0812 2720 Bibcode 2009ApJ 692 1060V doi 10 1088 0004 637X 692 2 1060 1993 From the Big Bang to Planet X Camden East Ontario pp 79 81 ISBN 978 0 921820 71 0 Canup Robin M Righter Kevin 2000 Origin of the Earth and Moon The University of Arizona space science series Vol 30 University of Arizona Press p 177 ISBN 978 0 8165 2073 2 Loeb Abraham 2011 Cosmology with Hypervelocity Stars Journal of Cosmology and Astroparticle Physics Harvard University 2011 4 023 1102 0007 Bibcode 2011JCAP 04 023L doi 10 1088 1475 7516 2011 04 023 S2CID 118750775 Chown Marcus 1996 Afterglow of Creation University Science Books p 210 The Local Group of Galaxies University of Arizona Students for the Exploration and Development of Space subkhnemux 2 October 2009 Adams Fred C Laughlin Gregory April 1997 A dying universe the long term fate and evolution of astrophysical objects Reviews of Modern Physics 69 2 337 372 astro ph 9701131 Bibcode 1997RvMP 69 337A doi 10 1103 RevModPhys 69 337 Adams F C Graves G J M Laughlin G December 2004 Garcia Segura G Tenorio Tagle G Franco J Yorke H W b k Gravitational Collapse From Massive Stars to Planets First Astrophysics meeting of the Observatorio Astronomico Nacional A meeting to celebrate Peter Bodenheimer for his outstanding contributions to Astrophysics Revista Mexicana de Astronomia y Astrofisica Serie de Conferencias 22 46 49 Bibcode 2004RMxAC 22 46A See Fig 3 Tayler Roger John 1993 Galaxies Structure and Evolution 2 ed Cambridge University Press p 92 ISBN 978 0 521 36710 3 Adams Fred Laughlin Greg 1999 The Five Ages of the Universe New York The Free Press ISBN 978 0 684 85422 9 19 May 1988 The Anthropic Cosmological Principle foreword by Oxford Oxford University Press ISBN 978 0 19 282147 8 LC 87 28148 subkhnemux 31 December 2009 Adams Fred Laughlin Greg 1999 The Five Ages of the Universe New York The Free Press pp 85 87 ISBN 978 0 684 85422 9 Dyson Freeman J 1979 Time Without End Physics and Biology in an Open Universe Reviews of Modern Physics subscription required 51 3 447 Bibcode 1979RvMP 51 447D doi 10 1103 RevModPhys 51 447 subkhnemux 5 July 2008 Nishino H aelakhna 2009 Search for Proton Decay via p e p0 and p m p0 in a Large Water Cherenkov Detector 102 14 141801 0903 0676 Bibcode 2009PhRvL 102n1801N doi 10 1103 PhysRevLett 102 141801 PMID 19392425 S2CID 32385768 Tyson Neil de Grasse Tsun Chu Liu Charles Irion Robert 2000 One Universe At Home in the Cosmos Joseph Henry Press ISBN 978 0 309 06488 0 Page Don N 1976 Particle Emission Rates From a Black Hole Massless Particles From an Uncharged Nonrotating Hole Physical Review D 13 2 198 206 Bibcode 1976PhRvD 13 198P doi 10 1103 PhysRevD 13 198 See in particular equation 27 Linde Andrei 2007 Sinks in the Landscape Boltzmann Brains and the Cosmological Constant Problem Journal of Cosmology and Astroparticle Physics subscription required 2007 1 022 hep th 0611043 Bibcode 2007JCAP 01 022L doi 10 1088 1475 7516 2007 01 022 subkhnemux 26 June 2009 Carroll Sean M Chen Jennifer 27 Oct 2004 Spontaneous Inflation and the Origin of the Arrow of Time hep th 0410270 Tegmark M May 2003 Parallel universes Not just a staple of science fiction other universes are a direct implication of cosmological observations Sci Am 288 5 40 51 astro ph 0302131 Bibcode 2003SciAm 288e 40T doi 10 1038 scientificamerican0503 40 PMID 12701329 Max Tegmark 2003 Parallel Universes In Science and Ultimate Reality from Quantum to Cosmos honoring John Wheeler s 90th birthday J D Barrow P C W Davies amp C L Harper eds Cambridge University Press 288 40 51 astro ph 0302131 Bibcode 2003SciAm 288e 40T doi 10 1038 scientificamerican0503 40 PMID 12701329 The statistics of string M theory vacua JHEP 0305 46 2003 arXiv hep th 0303194 S Ashok and M Douglas Counting flux vacua JHEP 0401 060 2004 Time Magazine 20 June 1983 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 10 17 subkhnemux 5 September 2011 Cornell News It s the 25th Anniversary of Earth s First and only Attempt to Phone E T Cornell University 12 November 1999 cakaehlngedimemux 2008 08 02 subkhnemux 29 March 2008 Dave Deamer Science 2 0 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 24 subkhnemux 2014 11 14 Pioneer 10 The First 7 Billion Miles NASA subkhnemux 5 September 2011 Voyager The Interstellar Mission NASA subkhnemux 5 September 2011 KEO FAQ keo org subkhnemux 14 October 2011 NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 15 subkhnemux 5 September 2011 NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 21 subkhnemux 21 July 2012 Meeus J and Vitagliano A 2004 PDF Journal of the British Astronomical Association 114 3 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2006 06 15 subkhnemux 7 September 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Why is Polaris the North Star NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 07 15 subkhnemux 10 April 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Plait Phil 2002 Bad Astronomy Misconceptions and Misuses Revealed from Astrology to the Moon Landing Hoax John Wiley and Sons pp 55 56 Kieron Taylor March 1 1994 Sheffield Astronomical Society khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 07 23 subkhnemux 2013 08 06 Laskar J aelakhna 1993 Orbital Precessional and Insolation Quantities for the Earth From 20 Myr to 10 Myr Astronomy and Astrophysics 270 522 533 Bibcode 1993A amp A 270 522L Laskar aelakhna Astronomical Solutions for Earth Paleoclimates Institut de mecanique celeste et de calcul des ephemerides subkhnemux 20 July 2012 Aldo Vitagliano 2011 The Solex page Universita degli Studi di Napoli Federico II khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 04 29 subkhnemux 20 July 2012 Borkowski K M 1991 The Tropical Calendar and Solar Year J Royal Astronomical Soc of Canada 85 3 121 130 Bibcode 1991JRASC 85 121B Strous Louis 2010 Astronomy Answers Modern Calendars subkhnemux 14 September 2011 US Naval Observatory khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 06 subkhnemux 20 July 2012 aehlngkhxmulxunNumberphile explains Pointcare recurrence 2013 11 27 thi ewyaebkaemchchin