วงแหวนของดาวเนปจูน (อังกฤษ: Rings of Neptune) มีลักษณะมีความสว่างไม่มากนัก เพราะประกอบด้วยอนุภาคที่เป็นผงฝุ่นขนาด 1 ไมโครเมตร จนถึงขนาดประมาณ 10 เมตร เช่นเดียวกับวงแหวนของดาวพฤหัสบดีและดาวยูเรนัส ซึ่งนักดาราศาสตร์สำรวจพบระบบวงแหวนของดาวเนปจูนเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 60 และในปี ค.ศ. 1989 ยานวอยเอเจอร์ 2 ได้บินผ่านเข้าไปใกล้ดาวเนปจูนและบันทึกภาพส่งกลับมายังโลก ทำให้นักดาราศาสตร์พบว่าดาวเนปจูนมีวงแหวนล้อมรอบด้วยกันถึง 5 วง
วงแหวนของดาวเนปจูน ได้แก่ วงแหวนแอดัมส์, วงแหวนอราโก, วงแหวนแลสเซลล์, วงแหวนเลอ แวรีเย และวงแหวนกัลเลอ นอกจากนั้นยังมีวงแหวนที่จางมาก ๆ และยังไม่มีชื่ออีก 1 วง ที่อยู่ในวงโคจรเดียวกันกับดวงจันทร์ และยังมีอีก 3 ดวง คือ เนแอด, และ ที่มีวงโคจรอยู่ภายในระบบเช่นเดียวกัน
ประวัติการค้นพบ
วงแหวนของดาวเนปจูนไม่สามารถมองเห็นได้ผ่านทางกล้องโทรทรรศน์ขนานเล็ก โดยการค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1980 นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตการ์ณดาวเนปจูนกล้องโทรทรรศน์ขยายใหญ่ ซึ่งเห็นวงแหวนบางส่วน และดาวเนปจูน "กะพริบตา" เพียงเล็กน้อย จนถึงในปี ค.ศ. 1989 ยานวอยเอเจอร์ 2 ได้บินผ่านเข้าไปใกล้ดาวเนปจูนและบันทึกภาพส่งกลับมายังโลก ปรากฏว่าวงแหวนของดาวเนปจูนประกอบด้วย วัตถุเล็ก ๆ สีมืดคล้ำ กระจายเป็นวงรอบดาวเนปจูน วงแหวนบางส่วนเล็กและบาง จนไม่สามารถสังเกตเห็นจากโลก สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นฝุ่น ที่เกิดจากเศษดาวเคราะห์พุ่งชนดาวบริวาร ของดาวเนปจูนจนฟุ้งกระจาย และถูกดาวเนปจูนดึงดูดไว้ กลายเป็นส่วนประกอบในวงแหวน ในภายหลัง
นักดาราศาสตร์พบว่าดาวเนปจูนมีวงแหวนล้อมรอบด้วยกันถึง 5 วง วงแหวนชั้นนอกสุดของดาวเนปจูนมีชื่อว่า วงแหวนแอดัมส์ ส่วนชั้นที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในอีก 4 วง ได้แก่ วงแหวนอราโก, วงแหวนแลสเซลล์, วงแหวนเลอ แวรีเย และวงแหวนกัลเลอ นอกจากนั้นยังมีวงแหวนที่จางมาก ๆ และยังไม่มีชื่ออีก 1 วง
ขนาดวงแหวน
วงแหวนของดาวเนปจูนประกอบด้วยอนุภาคที่เป็นผงฝุ่นขนาด 1 ไมโครเมตร จนถึงขนาดประมาณ 10 เมตร โดยวงแหวนแต่วงมีขนาด ดังนี้
ชื่อวงแหวน | รัศมี (กม.) | ความกว้าง (กม.) | ความลึก (กม.) | ความห่างจากใจกลางของดาวเนปจูน (กม.) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
กัลเลอ | 40,900 - 42,900 | 2,000 | 0.15 | 42,000 | - |
เลอ แวรีเย | 53,200 ± 20 | 113 | 0.7 ± 0.2 | 53,000 | - |
แลสเซลล์ | 53,200 - 57,200 | 4,000 | 0.4 | ? | - |
อราโก | 57,200 | <100 | ? | 57,000 | - |
แอดัมส์ | 62,932 | 15 - 50 | 0.4 | 61,000 | - |
ข้อมูลจำเพาะ
วงแหวนกัลเลอ
วงแหวนกัลเลอ (อังกฤษ: Galle) เป็นวงแหวนชั้นในสุดของดาวเนปจูน โดยชื่อ "Galle" มาจาก โยฮันน์ กอทท์ฟรีด กัลเลอ เพื่อเป็นการให้เกียรติ วงแหวนกัลเลอมีรัศมี 40,900 - 42,900 กม. ความกว้าง 2,000 กม. และมีปริมาณเศษฝุ่น 40 - 70%
วงแหวนเลอ แวรีเย
วงแหวนเลอ แวรีเย (อังกฤษ: Le Verrier) เป็นวงแหวนชั้นที่สองของดาวเนปจูน ลักษณะเป็นวงแหวนที่แคบ มีรัศมี 53,200 กม. ความกว้าง 113 กม. และมีปริมาณเศษฝุ่น 40 - 70%
วงแหวนแลสเซลล์
วงแหวนแลสเซลล์ (อังกฤษ: Lassell) เป็นวงแหวนชั้นที่สามของดาวเนปจูน มีรัศมี 53,200 - 57,200 กม. ความกว้าง 4,000 กม. และมีปริมาณเศษฝุ่น 20 - 40%
วงแหวนอราโก
วงแหวนอราโก (อังกฤษ: Arago) เป็นวงแหวนชั้นที่สี่ของดาวเนปจูน มีรัศมี 57,200 กม. และมีความกว้างมากกว่า 100 กม.
วงแหวนแอดัมส์
วงแหวนแอดัมส์ (อังกฤษ: Adams) เป็นวงแหวนชั้นนอกสุดของดาวเนปจูนที่ถูกค้นพบโดย ยานวอยเอเจอร์ 2 ในปี ค.ศ. 1989 โดยซึ่งได้ส่งภาพวงแหวนนี้ตรงส่วนอาร์ค มีลักษณะบิดโค้ง และประกอบด้วยอาร์ค 5 อาร์ค ชื่อ ลิเบอร์ตี้, อีควอลิตี้ 1, อีควอลิตี้ 2, เคอริจ และฟราเทอนีตี้ วงแหวนแอดัมส์มีรัศมี 62,932 กม. ความกว้าง 15 - 50 มีปริมาณเศษฝุ่น 20 - 40% และมีปริมาณเศษฝุ่นในอาร์ค 40 - 70% โดยชื่อ "Adams" มาจาก จอห์น คูช แอดัมส์ เพื่อเป็นการให้เกียรติ
อาร์ค
ชื่ออาร์ค | รัศมี (กม.) | ความกว้าง (กม.) | ความลึก (กม.) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
ลิเบอร์ตี้ | 62,933 | 15 | 1.25–2.15 | - |
อีควอลิตี้ 1 | 62,933 | 15 | 1.25–2.15 | - |
อีควอลิตี้ 2 | 62,933 | 15 | 1.25–2.15 | - |
เคอริจ | 62,933 | 15 | 1.25–2.15 | - |
ฟราเทอนีตี้ | 62,933 | 15 | 1.25–2.15 | - |
การจางหายไปของอาร์ค
ในปี ค.ศ. 1989 ยานวอยเอเจอร์ 2ได้ส่งภาพอาร์คของวงแหวน สามารถมองเห็นอย่างชัดเจน แต่ในปี ค.ศ. 2002 และ ค.ศ. 2003 Imke de Pater จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และเพื่อนร่วมงานอีก 10 คน เดินทางมาที่รัฐฮาวาย และใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องไปที่วงแหวนแอดัมส์พร้อมกับวิเคราะห์ ปรากฏว่าอาร์คของวงแหวนแอดัมส์กลับได้จางหายไป โดยพวกเขาได้เรียกอาร์คของวงแหวนแอดัมส์นั้นว่า ลิเบอร์ตี้
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-17. สืบค้นเมื่อ 2012-05-27.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-01. สืบค้นเมื่อ 2012-05-27.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-18. สืบค้นเมื่อ 2012-05-27.
- เอกภพ, นานมี บุ๊คส์, 2004. ISBN 9749656466, 9789749656464
- NASA, วงแหวนดาวของเนปจูน
- วงแหวนของดาวเนปจูน, ดาวเนปจูน (Neptune), เรื่องที่ ๘ ระบบสุริยะ, สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่มที่ 31[]
- doi:10.1126/science.246.4936.1422
This citation will be automatically completed in the next few minutes. You can jump the queue or expand by hand - . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-22. สืบค้นเมื่อ 2012-11-03.
- Horn, Linda J. (1990). "Observations of Neptunian rings by Voyager photopolarimeter experiment". Geophysics Research Letters. 17 (10): 1745–1748. Bibcode:1990GeoRL..17.1745H. doi:10.1029/GL017i010p01745.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-09. สืบค้นเมื่อ 2012-11-03.
- Neptunian Rings Fact Sheet, NASA
- Neptune's rings are fading away, SPACE & SCIENCE NEWS: March 2005, Daviddarling. 23 มีนาคม 2005[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wngaehwnkhxngdawenpcun xngkvs Rings of Neptune milksnamikhwamswangimmaknk ephraaprakxbdwyxnuphakhthiepnphngfunkhnad 1 imokhremtr cnthungkhnadpraman 10 emtr echnediywkbwngaehwnkhxngdawphvhsbdiaeladawyuerns sungnkdarasastrsarwcphbrabbwngaehwnkhxngdawenpcunepnkhrngaerkinchwngthswrrsthi 60 aelainpi kh s 1989 yanwxyexecxr 2 idbinphanekhaipikldawenpcunaelabnthukphaphsngklbmayngolk thaihnkdarasastrphbwadawenpcunmiwngaehwnlxmrxbdwyknthung 5 wngwngaehwnaetlawngaehwnkhxngdawenpcun wngaehwnkhxngdawenpcun idaek wngaehwnaexdms wngaehwnxraok wngaehwnaelsesll wngaehwnelx aewriey aelawngaehwnklelx nxkcaknnyngmiwngaehwnthicangmak aelayngimmichuxxik 1 wng thixyuinwngokhcrediywknkbdwngcnthr aelayngmixik 3 dwng khux enaexd aela thimiwngokhcrxyuphayinrabbechnediywknprawtikarkhnphbphaphwngaehwnkhxngdawenpcunthibnthukody sungmxngehnwngaehwn 2 wnghlkidxyangchdecn NASA wngaehwnkhxngdawenpcunimsamarthmxngehnidphanthangklxngothrthrrsnkhnanelk odykarkhnphbkhrngaerkinpi kh s 1980 nkwithyasastridsngektkarndawenpcunklxngothrthrrsnkhyayihy sungehnwngaehwnbangswn aeladawenpcun kaphribta ephiyngelknxy cnthunginpi kh s 1989 yanwxyexecxr 2 idbinphanekhaipikldawenpcunaelabnthukphaphsngklbmayngolk praktwawngaehwnkhxngdawenpcunprakxbdwy wtthuelk simudkhla kracayepnwngrxbdawenpcun wngaehwnbangswnelkaelabang cnimsamarthsngektehncakolk snnisthanwa nacaepnfun thiekidcakessdawekhraahphungchndawbriwar khxngdawenpcuncnfungkracay aelathukdawenpcundungdudiw klayepnswnprakxbinwngaehwn inphayhlng nkdarasastrphbwadawenpcunmiwngaehwnlxmrxbdwyknthung 5 wng wngaehwnchnnxksudkhxngdawenpcunmichuxwa wngaehwnaexdms swnchnthixyuthdekhaipdaninxik 4 wng idaek wngaehwnxraok wngaehwnaelsesll wngaehwnelx aewriey aelawngaehwnklelx nxkcaknnyngmiwngaehwnthicangmak aelayngimmichuxxik 1 wngkhnadwngaehwnwngaehwnkhxngdawenpcunprakxbdwyxnuphakhthiepnphngfunkhnad 1 imokhremtr cnthungkhnadpraman 10 emtr odywngaehwnaetwngmikhnad dngni chuxwngaehwn rsmi km khwamkwang km khwamluk km khwamhangcakicklangkhxngdawenpcun km hmayehtuklelx 40 900 42 900 2 000 0 15 42 000 elx aewriey 53 200 20 113 0 7 0 2 53 000 aelsesll 53 200 57 200 4 000 0 4 xraok 57 200 lt 100 57 000 aexdms 62 932 15 50 0 4 61 000 khxmulcaephaawngaehwnklelx wngaehwnklelx xngkvs Galle epnwngaehwnchninsudkhxngdawenpcun odychux Galle macak oyhnn kxththfrid klelx ephuxepnkarihekiyrti wngaehwnklelxmirsmi 40 900 42 900 km khwamkwang 2 000 km aelamiprimanessfun 40 70 wngaehwnelx aewriey wngaehwnelx aewriey xngkvs Le Verrier epnwngaehwnchnthisxngkhxngdawenpcun lksnaepnwngaehwnthiaekhb mirsmi 53 200 km khwamkwang 113 km aelamiprimanessfun 40 70 wngaehwnaelsesll wngaehwnaelsesll xngkvs Lassell epnwngaehwnchnthisamkhxngdawenpcun mirsmi 53 200 57 200 km khwamkwang 4 000 km aelamiprimanessfun 20 40 wngaehwnxraok wngaehwnxraok xngkvs Arago epnwngaehwnchnthisikhxngdawenpcun mirsmi 57 200 km aelamikhwamkwangmakkwa 100 km wngaehwnaexdms swnxarkhkhxngwngaehwnaexdms wngaehwnaexdms xngkvs Adams epnwngaehwnchnnxksudkhxngdawenpcunthithukkhnphbody yanwxyexecxr 2 inpi kh s 1989 odysungidsngphaphwngaehwnnitrngswnxarkh milksnabidokhng aelaprakxbdwyxarkh 5 xarkh chux liebxrti xikhwxliti 1 xikhwxliti 2 ekhxric aelafraethxniti wngaehwnaexdmsmirsmi 62 932 km khwamkwang 15 50 miprimanessfun 20 40 aelamiprimanessfuninxarkh 40 70 odychux Adams macak cxhn khuch aexdms ephuxepnkarihekiyrti xarkh chuxxarkh rsmi km khwamkwang km khwamluk km hmayehtuliebxrti 62 933 15 1 25 2 15 xikhwxliti 1 62 933 15 1 25 2 15 xikhwxliti 2 62 933 15 1 25 2 15 ekhxric 62 933 15 1 25 2 15 fraethxniti 62 933 15 1 25 2 15 karcanghayipkhxngxarkh inpi kh s 1989 yanwxyexecxr 2idsngphaphxarkhkhxngwngaehwn samarthmxngehnxyangchdecn aetinpi kh s 2002 aela kh s 2003 Imke de Pater cakmhawithyalyaekhlifxreniy ebirkliy aelaephuxnrwmnganxik 10 khn edinthangmathirthhaway aelaichklxngothrthrrsnsxngipthiwngaehwnaexdmsphrxmkbwiekhraah praktwaxarkhkhxngwngaehwnaexdmsklbidcanghayip odyphwkekhaideriykxarkhkhxngwngaehwnaexdmsnnwa liebxrtixangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wngaehwnkhxngdawenpcun khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 11 17 subkhnemux 2012 05 27 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 01 subkhnemux 2012 05 27 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 09 18 subkhnemux 2012 05 27 exkphph nanmi bukhs 2004 ISBN 9749656466 9789749656464 NASA wngaehwndawkhxngenpcun wngaehwnkhxngdawenpcun dawenpcun Neptune eruxngthi 8 rabbsuriya saranukrmithysahrbeyawchnodyphrarachprasngkhinphrabathsmedcphraecaxyuhw elmthi 31 lingkesiy doi 10 1126 science 246 4936 1422 This citation will be automatically completed in the next few minutes You can jump the queue or expand by hand khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 01 22 subkhnemux 2012 11 03 Horn Linda J 1990 Observations of Neptunian rings by Voyager photopolarimeter experiment Geophysics Research Letters 17 10 1745 1748 Bibcode 1990GeoRL 17 1745H doi 10 1029 GL017i010p01745 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 01 09 subkhnemux 2012 11 03 Neptunian Rings Fact Sheet NASA Neptune s rings are fading away SPACE amp SCIENCE NEWS March 2005 Daviddarling 23 minakhm 2005 lingkesiy