ราชอาณาจักรตองงา Puleʻanga Fakatuʻi ʻo Tonga (ตองงา) | |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | นูกูอาโลฟา 21°08′S 175°12′W / 21.133°S 175.200°W |
ภาษาราชการ |
|
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2018) |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2011) |
|
เดมะนิม | ชาวตองงา |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
สมเด็จพระราชาธิบดีตูโปอูที่ 6 แห่งตองงา | |
สภานิติบัญญัติ | สภานิติบัญญัติ |
เป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร | |
• ประกาศอิสรภาพ | 4 มิถุนายน ค.ศ. 1970 |
พื้นที่ | |
• รวม | 748 ตารางกิโลเมตร (289 ตารางไมล์) (อันดับที่ 175) |
4.0 | |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2016 | 100,651 (อันดับที่ 199) |
139 ต่อตารางกิโลเมตร (360.0 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 76a) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 655 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
• ต่อหัว | 6,496 ดอลลาร์สหรัฐ |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 493 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
• ต่อหัว | 4,888 ดอลลาร์สหรัฐ |
จีนี (ค.ศ. 2015) | 37.6 ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) | 0.745 สูง · อันดับที่ 91 |
สกุลเงิน | ปาอางา (TOP) |
เขตเวลา | UTC |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | ไม่ใช้ |
ขับรถด้าน | ซ้าย |
รหัสโทรศัพท์ | |
โดเมนบนสุด | .to |
|
ประเทศตองงา (อังกฤษและตองงา: Tonga) มีชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรตองงา (อังกฤษ: Kingdom of Tonga; ตองงา: Puleʻanga Fakatuʻi ʻo Tonga ปูเลอางา ฟากาตูอีโอโตงา) เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคพอลินีเชีย ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างประเทศนิวซีแลนด์กับรัฐฮาวายของสหรัฐ โดยทะเลอาณาเขตทางตะวันตกติดกับประเทศฟีจี ส่วนทางตะวันออกติดกับหมู่เกาะคุก นีวเว และอเมริกันซามัว ในขณะที่ทางทิศเหนือติดกับหมู่เกาะวาลิสและฟูตูนา ประเทศซามัว และอเมริกันซามัว ชื่อประเทศในภาษาตองงาแปลว่าทิศใต้ นอกจากนี้ประเทศนี้ได้รับฉายาว่า หมู่เกาะมิตรภาพ จากกัปตันเจมส์ คุก
ประเทศตองงาเป็นประเทศขนาดเล็กมีเนื้อที่เพียง 747 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอันดับที่ 189 ของโลก หมู่เกาะตองงาประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 169 เกาะ โดยมีเพียง 36 เกาะเท่านั้นที่มีผู้อยู่อาศัย เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะโตงาตาปู ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์กลางการปกครองคือนูกูอาโลฟา เกาะส่วนใหญ่ของตองงาเป็นเกาะที่เกิดจากการทับถมของปะการัง ประชากรของตองงามีทั้งสิ้น 103,036 คน นับเป็นอันดับที่ 193 ของโลก
สันนิษฐานว่ามนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยในตองงาครั้งแรกเมื่อ 826 ± 8 ปีก่อนคริสตกาล ตองงาเริ่มก่อตั้งอาณาจักรเป็นของตนเองใน ค.ศ. 950 ชื่อว่าจักรวรรดิตูอีโตงา ซึ่งปกครองโดยราชวงศ์ตูอีโตงา ตูอิฮาอะตากาลาอัว และตูอิกาโนกูโปลู ต่อมาได้เกิดสงครามกลางเมือง ในท้ายที่สุดตูอิกาโนกูโปลูเตาฟาอาเฮาได้รับชัยชนะจึงรวบรวมดินแดนทั้งหมดก่อตั้ง อาณาจักรพอลินีเชีย ตองงาเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถปกป้องตนเองจากการตกเป็นดินแดนอาณานิคมของชาติตะวันตก ใน ค.ศ. 2010 ประเทศตองงาจัดการเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
ชื่อประเทศ
ภาษาหลายภาษาของกลุ่มพอลินีเชียและภาษาตองงาได้ให้ความหมายคำว่า โตงา (ตองงา: Tonga) ไว้ว่า "ใต้" ซึ่งสัมพันธ์กับตำแหน่งที่ตั้งของประเทศตองงาที่เป็นหมู่เกาะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของภูมิภาคพอลินีเชียตอนกลาง ในภาษาตองงาชื่อประเทศถอดเสียงเป็นสัทอักษรได้ว่า ˈtoŋa ส่วนในภาษาอังกฤษจะออกเสียงชื่อประเทศนี้ว่า /ˈtɒŋə/ หรือ /ˈtɒŋɡə/ นอกจากนี้ชื่อประเทศตองงายังมีความหมายคล้ายคลึงกับคำว่า โกนา (ฮาวาย: Kona) ในภาษาฮาวายอีกด้วย
นอกจากนี้ในอดีตประเทศตองงาเป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกในชื่อ หมู่เกาะมิตรภาพ เนื่องจากกัปตันเจมส์ คุกได้รับการต้อนรับอย่างดีเมื่อมาเยือนครั้งแรกใน ค.ศ. 1773 และมีโอกาศได้เข้าร่วมเทศกาล อีนาซี ซึ่งเป็นเทศกาลถวาย ผลไม้แรก แด่ตูอีโตงา ทว่าในความเป็นจริงเหล่าชนชั้นนำต่างต้องการสังหารกัปตันเจมส์ คุกระหว่างงานเทศกาล แต่ไม่สามารถตกลงร่วมกันเกี่ยวกับแผนการได้: 64–5
ประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมแลพีตา
ชาวแลพีตา กลุ่มคนที่พูดภาษาในตระกูลภาษาออสโตรนีเชียนเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่อาศัยในตองงา มีความเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของประเทศปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอนในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่ชาวแลพีตาเข้ามาอาศัยในหมู่เกาะตองงาเป็นครั้งแรกยังเป็นข้อถกเถียงในปัจจุบัน โดยในระยะแรกนั้นมีการสันนิษฐานว่ากลุ่มคนที่เชื่อว่าเข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนประเทศตองงาปัจจุบันเดินทางถึงหมู่เกาะตองงาในช่วงเวลาประมาณ 1,500 - 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ในระยะเวลาต่อมา ได้มีการนำเครื่องมือในสมัยนั้นผ่านการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี ซึ่งช่วยกำหนดได้ว่าชาวแลพีตาเดินทางเข้ามาอยู่ในตองงาในปี 826 ± 8 ก่อนคริสตกาล เมื่อชาวแลพีตาเดินทางมาถึงหมู่เกาะตองงาแล้ว ได้ลงหลักปักฐานในนูกูเลกา บนเกาะโตงาตาปูเป็นที่แรก และได้ลงหลักปักฐานในฮาอะไปเป็นที่ต่อมา ชาวแลพีตาใช้ชีวิตโดยพึ่งพาทะเลเป็นส่วนใหญ่ อาหารของชาวแลพีตาจึงเน้นอาหารทะเลเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง เต่า ปลาไหล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์อีกด้วย หลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีในช่วงเวลานี้คือเครื่องปั้นดินเผาแลพีตา ซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่ทำมาจากเปลือกหอยและหิน โดยพบมากในบริเวณเขตการปกครองฮาอะไปในปัจจุบัน
จักรวรรดิตูอีโตงา
ประมาณ ค.ศ. 950 อะโฮเออิตูได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นตูอีโตงาแห่งจักรวรรดิตูอีโตงาพระองค์แรก จักรวรรดิตูอีโตงาเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในรัชสมัยพระเจ้าโมโม พระเจ้าตูอิตาตูอิ และ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ได้ขยายอาณาเขตของจักรวรรดิจนมีอาณาเขตครอบคลุมบางส่วนของฟีจี ซามัว โทเคอเลา นีวเว และหมู่เกาะคุก บรรดาดินแดนในการปกครองเหล่านี้จะส่งบรรณาการที่เรียกว่า อีนาซี ซึ่งต้องส่งมาถวายตูอีโตงาที่เมืองมูอาอันเป็นนครหลวงของจักรวรรดิทุกปีในฤดูเก็บเกี่ยว อำนาจของจักรวรรดิตูอีโตงาเริ่มตกต่ำลงหลังจากเกิดเหตุลอบปลงพระชนม์ตูอีโตงาหลายพระองค์ ส่งผลให้ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตูอีโตงาพระองค์ที่ 24 ตั้งพระอนุชาของพระองค์คือขึ้นเป็นตูอิฮาอะตากาลาอัวพระองค์แรก เพื่อช่วยเหลือตูอีโตงาในการปกครองจักรวรรดิ และอีก 2 ศตวรรษต่อมาได้มีการตั้งราชวงศ์ตูอิกาโนกูโปลูขึ้นเพื่อช่วยเหลืออีก 2 ราชวงศ์ในการปกครองจักรวรรดิ ซึ่งต่อมาตูอิกาโนกูโปลูสามารถก้าวขึ้นมาเป็นราชวงศ์ที่มีอิทธิพลแทนที่ตูอิฮาอะตากาลาอัวได้
ในยุคจักรวรรดิตูอีโตงานี้ มีนักสำรวจชาวยุโรปเดินทางเข้ามาหลายกลุ่ม โดยนักสำรวจที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกนั้นเป็นนักสำรวจชาวดัตช์ชื่อว่า และ ซึ่งเดินทางมาถึงจักรวรรดิตูอีโตงาใน ค.ศ. 1616 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จักรวรรดิเกิดสงครามกลางเมือง โดยเข้ามาสำรวจในบริเวณเกาะนีอูอาโตปูตาปู ใน ค.ศ. 1643 อาเบิล ตัสมัน ได้เดินทางเข้ามาในตองงาในบริเวณเกาะโตงาตาปูและฮาอะไป แต่การเดินทางเข้ามาทั้ง 2 ครั้งของชาวยุโรปนี้ ยังไม่มีการติดต่อกับชาวพื้นเมืองอย่างเป็นทางการมากเท่าใดนัก การติดต่อกับชาวพื้นเมืองอย่างเป็นทางการของชาวยุโรปและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในจักรวรรดิคือการเดินทางเข้ามาสำรวจของกัปตันเจมส์ คุก ใน ค.ศ. 1773 1774 และ 1777 ซึ่งเจมส์ คุกได้ตั้งชื่อหมู่เกาะนี้ว่า "หมู่เกาะมิตรภาพ" (Friendly Islands) โดยชื่อนี้มาจากความประทับใจของเจมส์ คุก ต่อลักษณะนิสัยของชาวพื้นเมือง หลังจากนั้นอเลสซานโดร มาลาสปินาเข้ามาสำรวจตองงาใน ค.ศ. 1793
ค.ศ. 1797 ตูอิกาโนกูโปลูพระองค์ที่ 13 สวรรคต พระโอรสองค์โตคือได้ขึ้นครองราชย์แทน จากบันทึกของมิชชันนารีพบว่าพระเจ้าตูกูอาโฮทรงดำรงพระองค์อย่างทรราชย์ มักลงโทษประชาชนของพระองค์อย่างรุนแรง: 122–3 นำไปสู่การลอบปลงพระชนม์พระเจ้าตูกูอาโฮในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1799 โดยกลุ่มขุนนางผู้ปกครองท้องถิ่นที่มาเข้าร่วมงานฝังพระบรมศพ ตูอิฮาอะตากาลาอัวพระองค์ที่ 18: 124 การกระทำครั้งนี้นำไปสู่สงครามกลางเมืองในเวลาต่อมา พระญาติสายรองอย่างได้สืบพระอิสริยยศตูอิกาโนกูโปลูต่อ แต่ไม่นานก็ถูกลอบปลงพระชนม์: 127 เจ้าชายตูโปอูมาโลฮีเสด็จกลับโตงาตาปูจากการเข้าร่วมการสงครามในฟีจี ทราบข่าวว่าตูอิกาโนกูโปลูสวรรคตจึงสถาปนาพระองค์เองขึ้นเป็นตูอิกาโนกูโปลู ย้ายศูนย์กลางอำนาจจากฮีฮีโฟมาอยู่ที่นูกูอาโลฟา พร้อมทั้งสร้างป้อมปราการขึ้น: 127 อย่างไรก็ตามป้อมปราการแห่งนี้ถูกทำลายลงโดยปืนใหญ่ เมื่อ ผู้ปกครองวาวาอูและฮาอะไปเข้าล้อมป้อมปราการและใช้การระดมยิงด้วยปืนใหญ่ ท้ายที่สุดสามารถยึดครองป้อมนูกูอาโลฟาได้สำเร็จ พระเจ้าตูโปอูมาโลฮีเสด็จลี้ภัยไปยังฮาอะไป: 93–6
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ผู้นำพื้นที่ต่าง ๆ ในจักรวรรดิตูอีโตงามีความขัดแย้งกัน พร้อม ๆ ไปกับความเสื่อมถอยของอำนาจการปกครองจากส่วนกลาง: 2 ทว่าหลายพื้นที่มีมิชชันนารีเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ให้แก่ชาวพื้นเมือง คณะแรกที่เข้ามานั้นคือสมาคมมิชชันนารีลอนดอน โดยใน ค.ศ. 1826 สมาคมมิชชันนารีลอนดอนได้ส่งมิชชันนารีจากตาฮีตีเดินทางไปยังฟีจี และมีจุดแวะพักระหว่างทางที่นูกูอาโลฟา เมื่อคณะเดินทางมาถึงนูกูอาโลฟา พระเจ้าอาเลอาโมตูอาได้กักตัวมิชชันนารีชาวตาฮีติ 2 คนไว้กับพระองค์ เพื่อให้ทั้งสองคนสอนศาสนาให้แก่พระองค์ นำไปสู่การสร้างโบสถ์และโรงเรียนสอนศาสนา: 129 แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อย่างไรก็ตามมิชชันนารีคณะเวสเลยันที่เข้ามาใน ค.ศ. 1822 ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเผยแพร่ศาสนา พระเจ้าอาเลอาโมตูอาในฐานะผู้ที่สนับสนุนการเผยแพร่ศาสนาตัดสินพระทัยเปลี่ยนศาสนาในวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1830: 130 การเข้ามาของมิชชันนารีสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ปกครองท้องถิ่นในตองงาเป็นอย่างมาก เนื่องจากมองว่าการเป็นมิตรกับคนผิวขาว เป็นภัยต่อความมั่นคงในอำนาจของตน: 287–8 ความขัดแย้งที่เดิมเคยเกิดขึ้น พัฒนาเป็นความขัดแย้งทางศาสนา นำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนคริสต์ศาสนากับกลุ่มความเชื่อดั้งเดิม จนกระทั่งเตาฟาอาเฮา กษัตริย์แห่งฮาอะไปและวาวาอู ผู้นำฝ่ายสนับสนุนคริสต์ศาสนาซึ่งเป็นพระภาติยะของพระเจ้าอาเลอาโมตูอา ได้รับชัยชนะและรวมหมู่เกาะตองงาเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จใน ค.ศ. 1852
หลังการรวมชาติตองงา
หลังจากที่พระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 ได้รับชัยชนะจากสงครามกลางเมืองตองงาแล้ว พระองค์ได้ตั้งเมืองปาไงในฮาอะไป ซึ่งเป็นเขตอำนาจเดิมของพระองค์เป็นเมืองหลวงใน ค.ศ. 1845 หลังจากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ลีฟูกา ในท้ายที่สุดได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองนูกูอาโลฟาซึ่งเป็นเมืองหลวงปัจจุบันใน ค.ศ. 1851 ในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายวาวาอู ใน ค.ศ. 1839 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและลดบทบาทเจ้านายในท้องถิ่นต่าง ๆ โดยประมวลกฎหมายฉบับนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญของรัฐธรรมนูญตองงาที่ประกาศใช้ใน ค.ศ. 1875 การประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกก็เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ โดยเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1862 นอกจากนี้มีการประกาศความสัมพันธ์กับสหราชอาณาจักร เยอรมนีและสหรัฐ ประเทศเหล่านี้ต่างรับรองความเป็นเอกราชของตองงา การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 นั้นเหล่ามิชชันนารีล้วนมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองการปกครองและในรัชสมัยนี้ศาสนาคริสต์ก็แผ่ได้มากขึ้นจากการอุปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์
ในรัชกาลของพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 2 ได้ขึ้นครองราชบัลลังก์สิบต่อจากพระปัยกา พระองค์ต้องประสบปัญหาทั้งในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจ: 669–71 ความขัดแย้งในการเลือกพระมเหสี รวมถึงความพยายามขยายอิทธิพลของเยอรมนีจากปัญหาหนี้สินของรัฐบาล: 161 นำไปสู่การตัดสินพระทัยลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพกับสหราชอาณาจักร เป็นรัฐอารักขา ในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1900 ขณะที่ยังสามารถบริหารกิจการภายในเองได้: 670 โดยสหราชอาณาจักรจะควบคุมทางด้านการต่างประเทศ และสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเท่านั้น อย่างไรก็ตามพบว่ารัฐบาลอังกฤษพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของตองงาอยู่เสมอ และใช้วิธีการข่มขู่ให้พระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 2 ปฏิรูปการปกครอง: 161 ในช่วงปลายรัชกาล แม้พระองค์จะไม่เต็มใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 มากนัก แต่ด้วยสถานะความเป็นรัฐในอารักขา ทำให้พระองค์ต้องเข้าร่วมสงครามอย่างไม่เป็นทางการ มีทหารชาวตองงาบางส่วนเข้าร่วมรบในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังจากนิวซีแลนด์
ช่วงต้นรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถซาโลเต ตูโปอูที่ 3 ประเทศตองงาประสบปัญหาของการระบาดทั่วไข้หวัดใหญ่สเปน ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชากรร้อยละ 8 ของประเทศ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์อนุญาตให้กองกำลังสหรัฐตั้งฐานทัพและสนามบินในประเทศ ส่งผลให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองสูงสุดในประเทศ ตองงาเริ่มได้อำนาจการปกครองส่วนใหญ่คืนใน ค.ศ. 1958 และได้เอกราชโดยสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1970
การเรียกร้องประชาธิปไตย
หลังจากตองงาพ้นจากการอารักขาของสหราชอาณาจักรแล้ว ตองงาได้ปกครองตนเองโดยสมบูรณ์ภายใต้การนำของสมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูโปอูที่ 4 ใน ค.ศ. 1992 มีการก่อตั้งกลุ่มนิยมประชาธิปไตยขึ้นในตองงา โดยกลุ่มนิยมประชาธิปไตยได้พยายามเรียกร้องให้มีตัวแทนของประชาชนในรัฐสภามากขึ้น ซึ่งมีเพียง 9 คนเท่านั้น ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมักมาจากขุนนางและชนชั้นสูงที่มีความสนิทสนมกับราชวงศ์ ความไม่พอใจในการปกครองมีมากขึ้นจากการที่รัฐบาลเชื้อพระวงศ์และขุนนางดำเนินการผิดพลาดหลายประการ ทั้งการลงทุนที่ผิดพลาดจนสูญเสียงบประมาณ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การพิจารณาให้ตองงาเป็นสถานที่กำจัดกากนิวเคลียร์ การขายหนังสือเดินทางตองงาแก่ชาวต่างประเทศ การอนุญาตขึ้นทะเบียนเรือต่างประเทศ การถือสัญญาเช่าเครื่องบินโบอิง 757 ระยะยาวโดยไม่ได้ใช้งาน ซึ่งนำไปสู่การล้มละลายของสายการบิน รวมไปถึงการเพิ่มพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์และการจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน
จากความไม่พอใจในการบริหารงานของรัฐบาลจึงเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วกรุงนูกูอาโลฟาใน ค.ศ. 2005 เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตย การประท้วงในครั้งนี้นำไปสู่การลาออกของเจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตานายกรัฐมนตรี และ ดร. เฟเลติ เซเวเล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน ซึ่งถือได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีพลเรือนคนแรกของตองงา อย่างไรก็ตามการสิ้นพระชนม์ของ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการปฏิรูปการปกครองจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้กระบวนการปฏิรูปล่าช้ายิ่งขึ้น ความล่าช้าในการปฏิรูปการปกครองก่อให้เกิดการจลาจลทั่วกรุงนูกูอาโลฟาใน ค.ศ. 2006 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและเศรษฐกิจ ใน ค.ศ. 2008 สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูโปอูที่ 5 ทรงสละพระราชอำนาจของพระองค์ส่วนใหญ่และเริ่มการปฏิรูปการปกครอง โดย ค.ศ. 2010 เป็นปีแรกที่มีการเลือกตั้งทั่วไปที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
การเมืองการปกครอง
ตองงามีรูปแบบรัฐเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยใช้ระบอบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน มีรัฐสภา พระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ มีพระราชอำนาจทางพิธีการ ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา และมีพระราชอำนาจอื่นตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล
รัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญตองงาฉบับแรกใช้บังคับในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1875 รัฐธรรมนูญตองงาประกอบไปด้วยเนื้อหา 3 ส่วน คือ สิทธิขั้นพื้นฐาน รูปแบบของรัฐบาล และที่ดิน มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุดเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2010 สาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมในครั้งนี้ คือ ยกเลิกสมาชิกรัฐสภาที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ผู้แทนราษฎรเป็นสมาชิกส่วนใหญ่ของรัฐสภา การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของตองงาสามารถทำได้โดยการผ่านการพิจารณาของรัฐสภา 3 วาระ หลังจากนั้นถวายให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธย การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน การสืบราชบัลลังก์ และที่ดินมรดกของชนชั้นขุนนาง
สถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์มีสถานะเป็นประมุขแห่งรัฐ และฮาอูโอเอ โฟนูอา (ประมุขสูงสุดของหัวหน้าชนเผ่าพื้นเมืองของตองงา) พระมหากษัตริย์ตองงาสืบราชสมบัติผ่านทางสายพระโลหิต พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชาธิบดีอะโฮเออิตู อูนูอากีโอโตงา ตูกูอาโฮ ตูโปอูที่ 6 ส่วนมกุฎราชกุมารพระองค์ปัจจุบันคือ เจ้าชายซีอาโอซี มานูมาตาโอโง อาลาอีวาฮามามาโอ อาโฮเออีตู กอนสตันติน ตูกูอาโฮ พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่สำคัญซึ่งพระองค์ใช้ได้เองนั้นได้แก่ การดำรงสถานะเป็นจอมทัพของประเทศ การเรียกประชุมรัฐสภา การยุบสภาผู้แทนราษฎร การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (จากการเลือกของรัฐสภา) การแต่งตั้งประธานรัฐสภา (ตามคำแนะนำของรัฐสภา) การแต่งตั้งผู้ว่าการเขตการปกครองฮาอะไปและวาวาอู (ตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี) รวมถึงการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ
ฝ่ายนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติตองงา (ตองงา: Fale Alea) เป็นสภาเดี่ยว ประกอบด้วยสมาชิก 26 คน มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 17 คน และมาจากขุนนางเลือกกันเองอีก 9 คน หน้าที่ของสภานิติบัญญัติตองงาหรือฟาเลอาเลอาคือการตรากฎหมาย ร่างกฎหมายจะพิจารณากันทั้งสิ้น 3 วาระ หากผ่านการลงคะแนนทั้งสามวาระ จึงจะนำถวายพระมหากษัตริย์เพื่อลงพระปรมาภิไธย เมื่อผ่านทุกกระบวนการแล้วจึงประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่กำหนดมูลค่าการเก็บภาษีของประชาชน กำหนดงบประมาณ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และถอดถอนคณะองคมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าการเขตการปกครอง (ฮาอะไปและวาวาอู) และผู้พิพากษา
สมาชิกสภานิติบัญญัติมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี การเลือกตั้งในตองงาจะแบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 17 เขตเลือกตั้งสำหรับตัวแทนของประชาชน และอีก 5 เขตเลือกตั้งสำหรับขุนนาง ในแต่ละเขตการปกครองมีเขตการเลือกตั้งดังนี้
- โตงาตาปู เขตการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร 10 เขต เขตละ 1 คน สำหรับผู้แทนขุนนางมี 1 เขต เขตละ 3 คน
- เออัว เขตการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร 1 เขต เขตละ 1 คน สำหรับผู้แทนขุนนางมี 1 เขต เขตละ 1 คน
- ฮาอะไป เขตการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร 2 เขต เขตละ 1 คน สำหรับผู้แทนขุนนางมี 1 เขต เขตละ 2 คน
- วาวาอู เขตการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร 3 เขต เขตละ 1 คน สำหรับผู้แทนขุนนางมี 1 เขต เขตละ 2 คน
- นีอูอาส เขตการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร 1 เขต เขตละ 1 คน สำหรับผู้แทนขุนนางมี 1 เขต เขตละ 1 คน
ฝ่ายบริหาร
อำนาจของฝ่ายบริหารในตองงาอยู่ที่นายกรัฐมนตรี พระมหากษัตริย์เป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามคำแนะนำของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถวายคำแนะนำแด่พระมหากษัตริย์ในการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ๆ คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากสมาชิกในรัฐสภาและสมาชิกนอกรัฐสภาได้ไม่เกิน 4 คน ปัจจุบันประเทศตองงามีกระทรวง 15 กระทรวง นายกรัฐมนตรีตองงามีหน้าที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอแนะการแต่งตั้งผู้ว่าการเขตต่อพระมหากษัตริย์ และบริหารราชการแผ่นดิน
ฝ่ายตุลาการ
ฝ่ายตุลาการในประเทศตองงาเป็นอิสระจากอำนาจอื่น ศาลในตองงามี 4 ประเภท คือ ศาลอุทธรณ์ (Court of Appeal) ศาลสูงสุด (Supreme Court) ศาลที่ดิน (Land Court) และศาลแขวง (Magistrates' Court) พระมหากษัตริย๋แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์และศาลสูงสุดตามคำแนะนำของ นอกจากนี้ ศาลสูงสุดมีอำนาจไต่สวนคดีที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรีหรือข้าราชการ รวมถึงวินิจฉัยว่ากฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย
พรรคการเมือง
พรรคการเมืองในประเทศตองงาพรรคแรกก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1994 กลุ่มนิยมประชาธิปไตยคือพรรคประชาชน (People's Party) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น (Human Rights and Democracy Movement - HRDM) พรรคการเมืองเข้าร่วมเลือกตั้งในตองงาเป็นครั้งแรกใน ใน ค.ศ. 2005 สมาชิกพรรคบางส่วนของพรรค HRDM ได้ร่วมกันก่อตั้ง หลังจาก ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา มีการก่อตั้งพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นอีก 3 พรรค คือ (Paati Langafonua Tu'uloa) ที่ก่อตั้งใน ค.ศ. 2007 (Tongan Democratic Labor Party) ซึ่งกลุ่มข้าราชการก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 2010 และ (Democratic Party of the Friendly Islands) ซึ่งก่อตั้งใน ค.ศ. 2010 ปัจจุบันตองงามีพรรคการเมืองรวมทั้งสิ้น 5 พรรค
จาก พรรคการเมืองทุกพรรคได้ที่นั่งในรัฐสภารวมกัน 14 ที่นั่ง จากทั้งหมด 17 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นผู้สมัครอิสระ
การแบ่งเขตการปกครอง
ประเทศตองงาแบ่งเขตการปกครองระดับบนสุดออกเป็น 5 เขตการปกครอง โดยแต่ละเขตการปกครองมีเมืองหลักดังต่อไปนี้
- โตงาตาปู เมืองหลักคือ นูกูอาโลฟา
- ฮาอะไป เมืองหลัก คือ ปาไง
- วาวาอู เมืองหลัก คือ เนอิอาฟู
- นีอูอาส เมืองหลัก คือ ฮีฮีโฟ
- เออัว เมืองหลัก คือ
แต่ละเขตการปกครองมีการแบ่งเขตย่อยลงไปเป็นเขตและหมู่บ้าน โดยใน ค.ศ. 2013 ประเทศตองงามีเขตการปกครองระดับเขต 23 แห่ง และมีหมู่บ้าน 167 แห่ง ในระดับเขตการปกครองนั้นมีเพียง 2 เขตการปกครองเท่านั้นที่มีผู้ว่าการเขตการปกครองคือฮาอะไปและวาวาอู ส่วนในระดับย่อยลงไปนั้นจะมีเจ้าพนักงานประจำเขต (district Officer) ดูแลการปกครอง การบริหารจัดการในระดับเขตและทำรายงานการปกครองต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ว่าการเขตการปกครอง (ในกรณีของฮาอะไปและวาวาอู) ส่วนในระดับหมู่บ้านจะมีเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้าน (town Officer) เป็นผู้ดูแลหลัก เจ้าพนักงานประจำเขตและเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้านมาจากการเลือกตั้งโดยมีวาระคราวละ 3 ปี
โตงาตาปู | วาวาอู | ฮาอะไป | เออัว | นีอูอาส |
---|---|---|---|---|
1. โกโลโฟโออู | 20. | 22. นีอูอาโตปูตาปู |
อาชญากรรม
ประเทศตองงามีรายงานการเกิดอาชญากรรมส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเป็นหลัก โดยพบว่าใน ค.ศ. 2007 เกิดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน 1,400 ครั้งจากอาชญากรรมที่มีการรายงานทั้งหมด 2,316 ครั้ง ประเทศตองงายังคงโทษประหารชีวิตไว้อยู่ แต่องค์การนิรโทษกรรมสากลจัดให้ตองงาเป็นประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ การประหารชีวิตครั้งล่าสุดเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1982
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ประเทศตองงาเน้นสร้างสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศ โดยให้ความร่วมมือในภารกิจระหว่างประเทศต่าง ๆ กับหลาย ๆ ประเทศ เช่น การส่งกองกำลังเข้าร่วมรบในอัฟกานิสถาน เป็นต้น สำหรับนโยบายการต่างประเทศในปัจจุบันของตองงาคือนโยบายมองตะวันออก (Look East Policy) (ถึงแม้ว่าทวีปเอเชียจะตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศตองงาก็ตาม) ซึ่งเป็นนโยบายที่เน้นความร่วมมือทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจกับทวีปเอเชีย ประเทศตองงายึดถือนโยบายจีนเดียว โดยตัดความสัมพันธ์ทางการทูตระดับเอกอัครราชทูตกับสาธารณรัฐจีนใน ค.ศ. 1998 สำหรับประเทศอื่น ๆ นั้นตองงามีความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ส่วนสหราชอาณาจักรซึ่งประเทศตองงามีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเหมือนในอดีต เห็นได้จากกรณีการปิดสำนักงานข้าหลวงใหญ่ในกรุงนูกูอาโลฟาเมื่อ ค.ศ. 2006
ประเทศตองงามีความขัดแย้งระหว่างประเทศครั้งสำคัญเมื่อครั้งที่ตองงาประกาศยึดครองแนวปะการังมิเนอร์วา (สาธารณรัฐมิเนอร์วา) โดยฟีจีไม่ยอมรับการประกาศยึดครองในครั้งนี้ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ประเทศยังคงเจรจาในเรื่องเกี่ยวกับแนวปะการังแห่งนี้อยู่
กองทัพ
(อังกฤษ: Tonga Defense Services) เป็นกองทัพของประเทศตองงา ปัจจุบันมี 2 เหล่าทัพหลักคือกองทัพบกและกองทัพเรือ สำหรับกองกำลังทางอากาศนั้นสังกัดกองทัพเรือ หน้าที่หลักของกองกำลังป้องกันตองงาคือปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศ การช่วยเหลือหน่วยงานพลเรือนในกิจการต่าง ๆ และการสนองพระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์เป็นครั้งคราว ประเทศตองงาไม่มีการเกณฑ์ทหาร ผู้ที่ประสงค์เข้ารับราชการทหารในตองงาต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยได้รับคำยินยอมของผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม ในสภาวะสงคราม พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจเรียกระดมพล ส่วนความร่วมมือทางการทหาร ตองงามีข้อตกลงความร่วมมือกับสหรัฐ ประเทศจีน สหราชอาณาจักร อินเดีย และนิวซีแลนด์ โดยเป็นความร่วมมือด้านการฝึกกำลังพลและโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพเป็นหลัก
สำหรับปฏิบัติการทางทหารของประเทศตองงาเกิดขึ้นครั้งแรกในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพนิวซีแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการก่อตั้งกองกำลังป้องกันตองงาขึ้น จนกระทั่งสงครามยุติจึงประกาศยกเลิกหน่วยงานนี้ อย่างไรก็ตามกองกำลังป้องกันตองงาได้เริ่มดำเนินการอีกครั้งใน ค.ศ. 1946 นับแต่นั้น กองกำลังป้องกันตองงามีโอกาสทำหน้าที่รักษาสันติภาพในหลายดินแดน ที่สำคัญคือการรักษาสันติภาพใน ประเทศปาปัวนิวกินี การรักษาสันติภาพในหมู่เกาะโซโลมอน การเข้าร่วมกองกำลังผสมนานาชาติเพื่อรักษาสันติภาพในอิรัก รวมไปถึงการร่วมรบในอัฟกานิสถาน ซึ่งตองงาส่งกองกำลังครึ่งหนึ่งของทั้งกองทัพเข้าร่วมรบในครั้งนี้
ภูมิศาสตร์
ประเทศตองงาตั้งอยู่ในภูมิภาคพอลินีเชีย เหนือเส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์นเล็กน้อย เมืองหลวงของประเทศคือนูกูอาโลฟา ห่างจากออกแลนด์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 1,770 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงซูวา เมืองหลวงของฟีจี ประมาณ 690 กิโลเมตร ตองงามีพื้นที่ 747 ตารางกิโลเมตร โดยที่ 30 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นน้ำ ประเทศตองงาประกอบด้วยเกาะ 169 เกาะ แต่มี 36 เกาะเท่านั้นที่มีประชากรอยู่อาศัย ตองงาประกอบด้วย 3 กลุ่มเกาะหลัก คือ โตงาตาปูซึ่งประชากรเกินครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ วาวาอูซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือ และฮาอะไปซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ภูมิอากาศของประเทศมีลักษณะแบบเขตร้อน ดินของตองงามีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก จุดสูงสุดของประเทศมีความสูง 1,033 เมตรตั้งอยู่บน
ภูมิประเทศและธรณีสัณฐาน
หมู่เกาะตองงาเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกและอยู่ใกล้แผ่นเปลือกโลกออสเตรเลีย ทางตะวันตกของหมู่เกาะมีร่องลึกตองงา หมู่เกาะตองงามีทั้งเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟและเกาะที่เกิดจากปะการัง หมู่เกาะตองงากำเนิดขึ้นเมื่อใดนั้นไม่สามารถกำหนดเวลาได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าหมู่เกาะตองงาถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 5 ล้านปีก่อนในสมัยไพลโอซีน ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่าเกาะแรกของหมู่เกาะตองงาอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยไมโอซีนแล้ว
เกาะที่สำคัญของตองงาหลายเกาะเกิดจากภูเขาไฟ เช่น , ฮาอะไป, เกา, โอโงนีอูอา เป็นต้น เกาะภูเขาไฟเหล่านี้เกิดจากแนวภูเขาไฟที่วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะอาตา แนวภูเขาไฟดังกล่าวมีส่วนสำคัญทำให้ตองงามีเกาะใหม่เพิ่มขึ้นมา ทว่าเกาะที่เกิดขึ้นมานั้นมักจะจมลงทะเลในปีถัดไป ปัจจุบันมีเกาะเกิดจากแนวภูเขาไฟแห่งนี้เพียงเกาะเดียวที่ยังคงอยู่
เกาะในเขตการปกครองวาวาอูจะพบว่ายังพบภูเขาไฟที่มีพลังอยู่ ส่วนพื้นดินเกิดจากหินปูน รอบ ๆ เกาะนั้นมักมีปะการังล้อมรอบ ส่วนในเขตการปกครองฮาอะไปพบว่ายังมีภูเขาไฟที่มีพลังอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะเกาและโตฟูอา ในขณะที่สภาพดินของเกาะคล้ายกับที่วาวาอูคือเป็นดินที่เกิดจากหินปูน ส่วนในเขตการปกครองโตงาตาปูและเออัวนั้นเป็นเกาะที่กำเนิดจากปะการัง ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบที่มีความสูงไม่เกิน 30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีเถ้าจากภูเขาไฟปกคลุมบริเวณเกาะ ทำให้ดินในบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการระเบิดของภูเขาไฟในบริเวณหมู่เกาะนี้หลายครั้ง ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดของตองงามีความสูง 515 เมตร มีความกว้าง 5 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเกาะโตฟูอา ซึ่งเกิดการระเบิดของภูเขาไฟแห่งนี้ครั้งล่าสุดใน ค.ศ. 2013 ส่วนภูเขาไฟที่สูงที่สุดของประเทศนี้ตั้งอยู่บนเกาะเกา มีความสูง 1,030 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
ภูมิอากาศ
ประเทศตองงาเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศตองงามี 2 ฤดูกาลคือฤดูฝนและฤดูแล้ง ฤดูฝนในประเทศตองงายังเป็นฤดูของพายุหมุนด้วย ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี ส่วนฤดูแล้งอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคมเป็นเดือนที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุด ซึ่งอาจมีปริมาณน้ำฝนต่อเดือนสูงได้ถึง 250 มิลลิเมตร
อุณหภูมิเฉลี่ยในประเทศตองงาจะอยู่ระหว่าง 23-26 องศาเซลเซียสตามแต่ละท้องถิ่น ในฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูที่อากาศร้อนมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25-26 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฤดูแล้งซึ่งอากาศเย็นมีอุณหภูมิระหว่าง 21-24 องศาเซลเซียส จากสถิติที่มีการบันทึกพบว่าบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดในประวัติศาสตร์ตองงาอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะวาวาอูในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1979 โดยมีอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำสุดในประวัติศาสตร์ตองงาอยู่ที่ โดยมีอุณหภูมิ 8.7 องศาเซลเซียส ซึ่งวัดในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1994
ข้อมูลภูมิอากาศของนูกูอาโลฟา | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 32 (90) | 32 (90) | 31 (88) | 30 (86) | 30 (86) | 28 (82) | 28 (82) | 28 (82) | 28 (82) | 29 (84) | 30 (86) | 31 (88) | 32 (90) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 28 (82) | 29 (84) | 28 (82) | 27 (81) | 26 (79) | 25 (77) | 25 (77) | 24 (75) | 25 (77) | 25 (77) | 27 (81) | 27 (81) | 26 (79) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 25 (77) | 25 (77) | 25 (77) | 24 (75) | 23 (73) | 21 (70) | 21 (70) | 21 (70) | 21 (70) | 22 (72) | 23 (73) | 23 (73) | 23 (73) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 22 (72) | 22 (72) | 22 (72) | 21 (70) | 20 (68) | 18 (64) | 17 (63) | 18 (64) | 17 (63) | 19 (66) | 20 (68) | 20 (68) | 20 (68) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 16 (61) | 17 (63) | 15 (59) | 15 (59) | 13 (55) | 11 (52) | 10 (50) | 11 (52) | 11 (52) | 12 (54) | 13 (55) | 16 (61) | 10 (50) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 130 (5.12) | 190 (7.48) | 210 (8.27) | 120 (4.72) | 130 (5.12) | 100 (3.94) | 100 (3.94) | 130 (5.12) | 110 (4.33) | 90 (3.54) | 100 (3.94) | 120 (4.72) | 1,530 (60.24) |
ความชื้นร้อยละ | 77 | 78 | 79 | 76 | 78 | 77 | 75 | 75 | 74 | 74 | 73 | 75 | 75.9 |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย | 11 | 13 | 14 | 12 | 12 | 10 | 10 | 12 | 10 | 10 | 10 | 10 | 134 |
แหล่งที่มา: Weatherbase |
ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินในหมู่เกาะของประเทศตองงามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ยกเว้นบริเวณที่มีภูเขาไฟเกิดใหม่ ดินส่วนใหญ่ในตองงาเกิดจากการทับถมของเถ้าภูเขาไฟและบนหินปูนซึ่งเกิดจากปะการัง ดินในตองงาเป็นดินที่มีคุณสมบัติที่ดี เนื่องจากเป็นดินที่การระบายน้ำดีและมีความสามารถในการเก็บกักน้ำปานกลาง
ดินในเกาะโตงาตาปูเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก เหมาะแก่การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ในขณะที่บริเวณชายฝั่งดินส่วนใหญ่เป็นดินเค็ม เพราะอยู่ติดทะเล ขณะที่ดินของเกาะเออัวมีความอุดมสมบูรณ์ ยกเว้นทางตอนใต้ของเกาะที่เป็นหินปะการัง ส่วนในฮาอะไป เกาะส่วนใหญ่เกิดจากการทับถมของปะการัง โดยในฮาอะไปกำลังเผชิญปัญหาการพังทลายของหน้าดิน ซึ่งทำให้ดินในฮาอะไปลดความอุดมสมบูรณ์
ทรัพยากรน้ำ
หมู่เกาะตองงามีทรัพยากรน้ำจืดที่ค่อนข้างจำกัด ชาวตองงานิยมเก็บน้ำจืดไว้ในถังคอนกรีตซึ่งมาจากการเก็บกักน้ำฝนและสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน แหล่งน้ำหรือทะเลสาบสำคัญมักตั้งอยู่ในเกาะภูเขาไฟ โดยแหล่งน้ำที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ของประเทศตั้งอยู่ในเกาะวาวาอู นีอูอาโฟโออู และนีอูอาโตปูตาปู
พืชและสัตว์
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตองงาปกคลุมไปด้วยป่าฝนเขตร้อน อย่างไรก็ตามจากการสนับสนุนเกษตรกรรมตามเกาะต่าง ๆ ทำให้พื้นที่ป่าลดลงไปมาก หญ้าและพืชขนาดเล็กหลายชนิดเข้าปกคลุมพื้นที่ป่าเดิม ขณะที่พื้นที่ชายฝั่งและบริเวณปากปล่องภูเขาไฟมักพบไม้ล้มลุกเป็นหลัก ประเทศตองงาเป็นประเทศแรกในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ที่มีการประกาศพื้นที่เป็นเขตสงวนของชาติ ปัจจุบันในหมู่เกาะตองงามีการประกาศพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติแล้ว 2 แห่ง (ในเขตการปกครองเออัวและวาวาอู เขตละ 1 แห่ง) และประกาศให้เป็นเขตสงวน 6 แห่ง
สำหรับพืชที่ค้นพบในประเทศตองงานั้น พบว่ามี 770 สปีชีส์ ซึ่งรวมไปถึงเฟิร์นที่มี 70 สปีชีส์ (3 สปีชีส์เป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น) พืชเมล็ดเปลือย 3 ชนิด ( เป็นพืชเมล็ดเปลือยที่พบเฉพาะถิ่น) และมีพืชดอก 698 สปีชีส์ ซึ่งมี 9 สปีชีส์ที่เป็นไม้ดอกท้องถิ่น เกาะต่าง ๆ ของประเทศตองงาต่างมีสปีชีส์ของพืชที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน เช่น เกาะโตงาตาปูมีพืช 340 สปีชีส์ ในขณะที่วาวาอูมีพืช 7 สปีชีส์
แม้จะพบพืชหลากหลายสปีชีส์ในหมู่เกาะของประเทศตองงา แต่สัตว์ที่อาศัยอยู่กลับไม่มีความหลากหลายมากนัก พบว่ามีสัตว์เลื้อยคลาน 12 สปีชีส์โดยหนึ่งในนั้นเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ค้างคาว 2 สปีชีส์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวที่เป็นสัตว์ท้องถิ่น ในบริเวณชายฝั่งทะเลพบสิ่งมีชีวิตประเภทเต่า มอลลัสกาและปลาหลากหลายชนิด นอกจากนี้ในบริเวณหมู่เกาะตองงายังพบนกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมี 75 สปีชีส์ โดยมีนก 2 สปีชีส์เป็นนกท้องถิ่นคือ ซึ่งอาศัยอยู่ในวาวาอูและ Megapodius pritchardii ซึ่งอาศัยอยู่ในนีอูอาโฟโออู การเข้ามาอยู่อาศัยของมนุษย์ในดินแดนตองงาส่งผลให้นก 23 สปีชีส์สูญพันธุ์ไปจากตองงา
เศรษฐกิจ
ประเทศตองงามีเศรษฐกิจขนาดเล็ก อันเนื่องมาจากทรัพยากรมีจำกัดและอยู่ห่างไกลจากแหล่งตลาดโลก ซึ่งเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจเดียวกับที่กลุ่มประเทศในทวีปโอเชียเนียประสบอยู่ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตองงาขึ้นอยู่กับปัจจัยทางธรรมชาติเป็นสำคัญ เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ของประเทศที่ส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและการประมง การที่ประเทศตองงาอยู่ห่างไกลจากตลาดโลกไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยที่ทำให้ค่าขนส่งสินค้าแพงเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศตองงาขาดปัจจัยการผลิตอีกด้วยสำนักข่าวกรองกลาง รายงานว่า ใน ค.ศ. 2013 ตองงามีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 1
เกษตรกรรม
ภาคเกษตรกรรมเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญมากของตองงา อย่างไรก็ตามในปัจจุบันส่วนแบ่งรายได้ของผลิตภัณฑ์ภาคการเกษตรในลดลง โดยระหว่าง ค.ศ. 1994 - 1995 ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติร้อยละ 34 ขณะที่ช่วง ค.ศ. 2005 - 2006 ส่วนแบ่งดังกล่าวลดเหลือร้อยละ 25 เท่านั้น สาเหตุหลักเกิดจากการที่รัฐสนับสนุนภาคบริการ จนกลายเป็นภาคที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลมองว่าจะช่วยสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่ดีให้แก่ประเทศและสามารถยืนหยัดอยู่ในกระแสโลกาภิวัตน์ได้
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญของตองงาคือมะพร้าว ซึ่งรวมไปถึงต้นกล้ามะพร้าว นอกจากนี้ยังส่งออกกล้วย วานิลลา ฟักทอง โกโก้ กาแฟ ขิง พืชหัวชนิดต่าง ๆ และพริกไทย
ประมง
ประเทศตองงามีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 700,000 ตารางกิโลเมตร โดยรัฐบาลตองงาอนุญาตให้กองเรือต่างชาติที่ใบอนุญาตจับปลาได้รับการอนุมัติแล้วเข้ามาทำประมงในเขตดังกล่าวได้ ซึ่งการทำประมงในเขตดังกล่าว กองเรือส่วนใหญ่นิยมจับปลาทูน่าซึ่งมีปริมาณค่อนข้างมากในบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและอิทธิพลของเอลนิโญและลานีญาส่งผลให้ปริมาณการจับปลาลดลงจากในอดีต
ปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 เริ่มมีการจับล็อบสเตอร์เพื่อการค้ามากขึ้น โดยนิยมจับบริเวณทางตอนเหนือของฮาอะไปและทางใต้ของแนวปะการังมิเนอร์วา ซึ่งสามารถจับได้ถึง 36 ตันต่อปี อย่างไรก็ตามปริมาณของลอบสเตอร์ที่จับได้ในปัจจุบันลดลงเหลือ 12 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังพบการจับหอยสองฝาเพื่อใช้บริโภคตามครัวเรือน รวมไปถึงขายเป็นของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวด้วย ปัจจุบันรัฐบาลตองงาส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงหอยนางรมเพื่อนำไข่มุกมาสร้างรายได้แก่ตน การริเริ่มเลี้ยงหอยนางรมในตองงาเกิดขึ้นในวาวาอู โดยพันธุ์ที่เลี้ยงในระยะแรกเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970
การท่องเที่ยว
ในช่วงหลังยุคอาณานิคมช่วงแรก ธุรกิจการท่องเที่ยวในตองงาซบเซาและไม่มีการพัฒนามากนัก อย่างไรก็ตามใน ค.ศ. 1966 รัฐบาลตองงาตัดสินใจสร้างโรงแรมแห่งแรกในประเทศคือโรงแรมอินเตอร์แนชนัลเดตไลน์ขึ้น การสร้างโรงแรมอินเตอร์แนชนัลเดตไลน์ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยว ปัจจุบันการท่องเที่ยวถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจตองงาและเป็นภาคสำคัญที่ทำให้เงินตราต่างประเทศไหลเข้าประเทศ ใน ค.ศ. 2011 มีนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศตองงา 94,960 คน เพิ่มขึ้นจาก 66,639 คน ใน ค.ศ. 2004 นักท่องเที่ยวกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดมาจากประเทศนิวซีแลนด์และประเทศออสเตรเลีย จุดประสงค์หลักของการเดินทางเข้าประเทศตองงาคือการพักผ่อนในวันหยุดและการเยี่ยมญาติเป็นหลัก กิจกรรมการท่องเที่ยวในตองงามีอยู่หลายกิจกรรม ยกตัวอย่างเช่น การพายเรือคายัก การดำน้ำ การชมวาฬใต้ทะเล การตกปลา การดูนก การเลือกซื้องานหัตถกรรมพื้นเมือง เป็นต้น
การส่งออกและการนำเข้า
ประเทศตองงาส่งออกสินค้าไปยังประเทศเกาหลีใต้ สหรัฐ และนิวซีแลนด์เป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้คิดเป็นร้อยละ 18.5, 17 และ 15.6 ตามลำดับ ประเทศอื่น เช่น ฟีจี (ร้อยละ 10.2) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 9.5) ซามัว (ร้อยละ 8.6) อเมริกันซามัว (ร้อยละ 5.4) และออสเตรเลีย (ร้อยละ 5.1) สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ตองงาส่งออกนอกประเทศคือ สควอช ปลาทะเล วานิลลา และ
สำหรับการนำเข้าสินค้า ประเทศตองงานำเข้าสินค้าเกินครึ่งหนึ่งจากประเทศฟีจีและประเทศนิวซีแลนด์ โดยคิดเป็นร้อยละ 35.7 และ 24.4 ตามลำดับ นอกจากนี้ตองงายังนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ (ร้อยละ 10.5) และประเทศจีน (ร้อยละ 10.2) ส่วนที่เหลือเป็นการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น ๆ สินค้าที่ตองงานำเข้ามาในประเทศคือ อาหาร เครื่องจักร เชื้อเพลิง และเคมีภัณฑ์
โครงสร้างพื้นฐาน
สำมะโนตองงาใน ค.ศ. 2011 ได้รายงานสภาพโครงสร้างพื้นฐานของตองงาในหลาย ๆ ด้าน โดยจากผลสำรวจพบว่ามีเพียง 567 ครัวเรือนจาก 18,033 ครัวเรือนทั่วประเทศที่เข้าถึงน้ำประปา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครัวเรือนบนเกาะโตงาตาปู ในส่วนของการเข้าถึงไฟฟ้านั้นพบว่าครัวเรือนร้อยละ 88.51 มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กระแสไฟฟ้าที่จ่ายมาตามเสาไฟฟ้า นอกจากนี้การใช้น้ำมันและพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานที่นิยมใช้กัน โครงสร้างพื้นฐานที่ดีของประเทศส่วนใหญ่พัฒนาอยู่แต่บนเกาะโตงาตาปู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองนูกูอาโลฟา อันถือได้ว่าเป็นเขตเมืองแท้จริงเพียงแห่งเดียวของประเทศ
การคมนาคม
ถนนส่วนมากในประเทศตองงาสร้างโดยใช้เงินบริจาคจากรัฐบาลต่างประเทศ ประเทศตองงามีความยาวถนนรวมกัน 680 กิโลเมตร โดย 496 กิโลเมตรยังไม่ได้ลาดยาง เนื่องจากตองงาเป็นประเทศเกาะขนาดเล็กและการจัดการที่ดินยังไม่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัญหาในการพัฒนาระบบถนน ประชาชนนิยมใช้การขนส่งทางเรือในการเดินทางระหว่างเกาะ โดยท่าเรือที่สำคัญของประเทศอยู่ที่นูกูอาโลฟา ปาไง และเนอิอาฟู
ประเทศตองงามีท่าอากาศยาน 6 แห่ง โดยมีเพียง 1 แห่งเท่านั้นที่มีพื้นลาดยาง (ท่าอากาศยานนานาชาติฟูอาอะโมตู) สายการบินแห่งชาติของตองงาคือ โดยก่อตั้งใน ค.ศ. 1985 ซึ่งต่อมาประสบภาวะล้มละลายและเลิกกิจการใน ค.ศ. 2004 จากการบริหารกิจการที่ล้มเหลวของรัฐบาลในขณะนั้น หลังจากนั้นได้มีการจัดตั้ง ขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางภายในประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้เพิกถอนใบอนุญาตสายการบินนี้หลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้สำนักงานแห่งหนึ่งของสายการบิน สายการบินของต่างประเทศ ได้แก่ แอร์นิวซีแลนด์ เวอร์จินออสเตรเลีย และฟีจีแอร์เวย์ เป็นผู้ดำเนินการการเดินทางระหว่างประเทศในตองงา ส่วนสายการบินเรียลตองงาดำเนินการการเดินทางในประเทศ
การสื่อสาร
ในประเทศตองงามีสื่อพิมพ์เผยแพร่รายสัปดาห์อยู่ 2 ฉบับ คือ นิตยสารมาตางีโตงาซึ่งเป็นของเอกชนและหนังสือพิมพ์ "Tonga Chronicle" ซึ่งเป็นของรัฐบาล โดยตีพิมพ์ในวันศุกร์ของทุกสัปดาห์เป็นภาษาตองงาและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์เอกชน "the Times of Tonga" ซึ่งตีพิมพ์ในเมืองออกแลนด์ นิวซีแลนด์ โดยรายงานข่าวจากหมู่เกาะตองงา 2 อาทิตย์ต่อครั้ง ประเทศตองงามีสถานีวิทยุ 4 สถานี ดังนี้ "Kool 90FM" (รัฐบาลเป็นเจ้าของ), "Tonga Radio "Magic" 89.1 FM", "Nuku'alofa Radio" และ "93FM" ซึ่งทั้งสามสถานีหลังเป็นของเอกชน สถานีโทรทัศน์มีผู้ดำเนินการ 2 รายคือรัฐบาลและดิจิทีวีซึ่งเป็นเอกชน
ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเกาะนั้นปรากฏการใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต โดยพบว่ามีโทรศัพท์พื้นฐานใช้งาน 30,000 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 56,000 เครื่อง ขณะที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 8,400 คน
การศึกษา
ระบบการศึกษาแบบสมัยใหม่ในตองงาเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1826 โดยคณะมิชชันนารีเวสเลยัน หลังจากนั้นไม่นานมิชชันนารีกลุ่มอื่น ๆ ทั้งโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ได้เข้ามาจัดการศึกษา จึงอาจกล่าวได้ว่ารากฐานทางการศึกษาของประเทศตองงามาจากกลุ่มมิชชันนารีเหล่านี้ ซึ่งมีการสอดแทรกหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ในการจัดการเรียนการสอนอีกด้วยการศึกษาภาคบังคับของประเทศตองงากำหนดให้ประชาชนจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นประถมศึกษา ซึ่งข้อกำหนดนี้บังคับใช้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1876 การจัดการศึกษาในประเทศตองงาอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะมิชชันนารีกลุ่มต่าง ๆ จนกระทั่ง ค.ศ. 1882 เมื่อรัฐบาลเข้าบริหารระบบการจัดการศึกษาเอง อย่างไรก็ตามคณะมิชชันนารีกลุ่มต่าง ๆ ได้รับอนุญาตให้เปิดโรงเรียนอีกครั้งใน ค.ศ. 1906 ประเทศตองงาถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีระบบการจัดการศึกษาดีเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศโอเชียเนียด้วยกัน เนื่องจากประชาชนชาวตองงาส่วนมากรู้หนังสือ โดยรายงานสำมะโนตองงา ค.ศ. 2011 พบว่าประชาชนชาวตองงารู้หนังสือถึงร้อยละ 98.2 นอกจากนี้ร้อยละ 86 ของประชากรสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาตองงา
ประเทศตองงาจัดการศึกษาภาคบังคับให้แก่เด็กอายุตั้งแต่ 6 ถึง 14 ปี แบบให้เปล่า ซึ่งต่างจากหลายประเทศในเขตโอเชียเนีย ระบบการศึกษาตองงาแบ่งระดับชั้นออกเป็นประถมศึกษา 6 ชั้น มัธยมศึกษา 7 ชั้น และระดับอุดมศึกษา โดยในระดับอุดมศึกษาจะมีทุนให้นักศึกษาชาวตองงาเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ซึ่งมีโครงการให้ความช่วยเหลือตองงาในด้านการศึกษา
สาธารณสุข
การสาธารณสุขของประเทศตองงาอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในโอเชียเนียด้วยกัน อย่างไรก็ตามประชาชนในตองงายังนิยมการรักษาพยาบาลแบบดั้งเดิมอยู่ ประชาชนจะเข้ารับการรักษาตามแผนปัจจุบันก็เมื่อเห็นว่าเป็นวิธีที่เป็นประโยชน์กับการรักษาพยาบาลของตน ประชาชนชาวตองงาได้รับสวัสดิการจากรัฐในการรักษาพยาบาลแบบให้เปล่า แต่ต้องชำระค่ายาด้วยตนเอง การสาธารณสุขภาคเอกชนนั้นยังอยู่ในวงแคบและเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ผู้ดำเนินกิจการส่วนใหญ่เป็นแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนปัจจุบันที่ดำเนินกิจการหลังเสร็จสิ้นการทำงาน นอกจากนี้ในประเทศตองงายังมีระบบการประกันสุขภาพ แต่ระบบการประกันสุขภาพนี้ครอบคลุมเฉพาะข้าราชการ
รัฐบาลตองงาแบ่งเกาะต่าง ๆ ของประเทศออกเป็น 4 ส่วนในการบริหารงานด้านสาธารณสุข ตองงามีโรงพยาบาล 4 แห่ง โดยโรงพยาบาลไวโอลาในกรุงนูกูอาโลฟา เมืองหลวงของประเทศ เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ (199 เตียง) โดยเป็นโรงพยาบาลที่รองรับการรักษาพยาบาลขั้นสูง อย่างไรก็ตามการรักษาพยาบาลที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีระดับสูงมากนิยมส่งไปรักษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์โดย Medical Transfer Board เป็นผู้อนุมัติ สำหรับโรงพยาบาลอีก 3 แห่งตั้งอยู่ที่เออัว ฮาอะไปและวาวาอู ส่วนในนีอูอาสไม่มีโรงพยาบาล แต่มีศูนย์การแพทย์ของรัฐบาลรองรับการรักษาพยาบาลในบริเวณนี้ ใน ค.ศ. 2010 ประเทศตองงามีแพทย์ 58 คน พยาบาล 379 คนและทันตแพทย์ 10 คน
ประชากร
จากสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2016 ตองงามีประชากร 100,651 คน และมีความหนาแน่นของประชากรประมาณ 155 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตการปกครองโตงาตาปู ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 74 ของประชากรทั้งประเทศ ในจำนวนนี้ส่วนมากอาศัยอยู่ในกรุงนูกูอาโลฟา อันเป็นเขตเมืองเพียงแห่งเดียวของประเทศ ขณะที่เขตการปกครองวาวาอู ฮาอะไป เออัวและนีอูอาสมีประชากรอยู่อาศัยร้อยละ 14, 6, 5 และ 1 ตามลำดับ นับตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ประชากรตองงามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทว่าจากการสำมะโนในครั้งนี้กลับพบว่าประชากรโดยรวมทั้งประเทศลดลงร้อยละ 0.51
โครงสร้างประชากรของตองงาระหว่างเพศชายและเพศหญิงไม่แตกต่างกันมาก โดยพบว่ามีประชากรชาย 99.7 คนต่อประชากรหญิง 100 คน แต่หากพิจารณาตามเขตการปกครองอย่างฮาอะไป เออัวและนีอูอาส อัตราส่วนของประชากรชายจะสูงกว่าประชากรหญิงมาก แต่อัตราส่วนของประชากรชายในพื้นที่เหล่านั้นมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้องการแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกาะโตงาตาปูและในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและสหรัฐ หากพิจารณาจากเชื้อชาติของประชากร พบว่าประชากรตองงาในประเทศส่วนมากเป็นชาวตองงา มีจำนวน 97,662 คน (ร้อยละ 97) ส่วนร้อยละ 3 ที่เหลือเป็นประชากรกลุ่มอื่น โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดได้แก่ ลูกครึ่งตองงา ชาวจีน ชาวยุโรปและชาวฟีจี เป็นต้น ประชากรที่มีเชื้อสายอื่นส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเกาะโตงาตาปู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงนูกูอาโลฟา ส่วนนีอูอาสและเออัวมีประชากรเชื้อสายอื่นน้อยมาก ซึ่งทั้งสองพื้นที่มีประชากรเชื้อสายอื่นรวมกันเพียง 48 คน เท่านั้น ด้วยประชากรเกือบทั้งประเทศเป็นชาวตองงาหรือมีเชื้อสายตองงา ดังนั้นจึงใช้ภาษาตองงาเป็นภาษาหลักประจำชาติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับอย่างมาก ประชากรของตองงาทางตอนเหนือจะพูดภาษาตองงาต่างสำเนียงกับประชากรทางตอนใต้ นอกจากนี้ประชากรตองงาส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ดี ทั้งนี้เนื่องจากระบบการศึกษาและสื่อสารมวลชนที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย โดยเอกสารราชการส่วนใหญ่ตีพิมพ์เป็นภาษาตองงาและภาษาอังกฤษ
เมื่อพิจารณาการนับถือศาสนาของประชากรตองงาพบว่าส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ร้อยละ 64.1 ในจำนวนนี้ส่วนมากนับถือฟรีเวสเลยันเชิร์ชคิดเป็นร้อยละ 35.05 ขณะที่มีการนับถือนิกายมอร์มอนรองลงมา คิดเป็นร้อยละ 18.6 ขณะที่นิกายโรมันคาทอลิก มีผู้นับถือร้อยละ 14.2 ที่เหลือนับถือศาสนาอื่น ๆ โดยกลุ่มใหญ่สุดเป็นผู้นับถือศาสนาบาไฮ นอกจากนี้จำนวนประชากรที่ไม่นับถือศาสนาใดยังมีจำนวนน้อย แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ประชากรตองงามีอายุคาดหมายเฉลี่ยประมาณ 76.40 ปี นับเป็นประเทศที่มีประชากรอายุยืนยาวในระดับปานกลาง คิดเป็นอันดับที่ 87 ของโลก มีอัตราการเกิดที่ 22.20 คนต่อประชากรหนึ่งพันคน มีอัตราการตาย 4.90 คนต่อประชากรหนึ่งพันคน ประชากรตองงาเผชิญกับปัญหาโรคอ้วน โดยพบว่ากว่าร้อยละ 90 ของประชากรมีน้ำหนักเกินกว่าค่ามาตรฐานตามการคำนวณดัชนีมวลกาย และมีประชากรร้อยละ 60 ของประเทศเป็นโรคอ้วน เมื่อพิจารณาเฉพาะประชากรผู้หญิง พบว่าประชากรหญิงชาวตองงาช่วงอายุระหว่าง 15-85 ปีเป็นโรคอ้วนถึงร้อยละ 70 ประเทศตองงาและประเทศนาอูรูเป็นประเทศที่มีประชากรน้ำหนักเกินและโรคอ้วนมากที่สุดในโลก
วัฒนธรรม
สังคมตองงามีการแบ่งชนชั้นตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามการแบ่งชนชั้นในสังคมตองงาเริ่มลดลงหลังมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปัจจุบัน ในสังคมตองงาแบ่งผู้คนออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงซึ่งเป็นชนชั้นนำของสังคม กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มของนักบวชและชนชั้นนำอื่น ๆ ส่วนกลุ่มที่สามเป็นกลุ่มสามัญชน สถานภาพของบุคลในตองงาตามโครงสร้างทางสังคมและครอบครัวนั้นขึ้นอยู่กับสถานะและอำนาจของบุคคลนั้น เพศและอายุมีส่วนในการจัดโครงสร้างชนชั้นด้วย โดยทั่วไปเพศหญิงมีสถานภาพสูงกว่าผู้ชาย อย่างไรก็ตาม ชายเป็นเจ้าของที่ดินและสามารถส่งต่อบรรดาศักดิ์ของตนแก่บุตรหลานที่เป็นชายได้
ดนตรี
ข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีและเครื่องดนตรีพื้นเมืองของตองงาช่วงก่อนมีการติดต่อกับชาวตะวันตกนั้นมีอยู่น้อยมาก อย่างไรก็ตามกัปตันเจมส์ คุก และวิลเลียม มาริเนอร์ ได้บันทึกเกี่ยวกับดนตรีและเพลงของตองงาไว้ เครื่องดนตรีตองงาส่วนใหญ่เป็นประเภทเครื่องกระทบ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องกระทบที่สำคัญของตองงา เช่น กลองนาฟาซึ่งทำจากไม้ ตาฟูอาซึ่งทำจากไม้ไผ่และอูเตเตซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพิณ เป็นต้น นอกจากกลุ่มนี้แล้ว เครื่องดนตรีพื้นเมืองของตองงายังมีทั้งกลุ่มเครื่องสายและกลุ่มเครื่องลม อย่างไรก็ตาม เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องหนังนั้นเพิ่งเข้ามาแพร่หลายในตองงาเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยนำเข้าจากซามัว พร้อมกับการเต้นมาอูลูอูลู ปัจจุบันดนตรีและบทเพลงของตองงาได้รับอิทธิพลจากดนตรีของยุโรปและแคริบเบียน โดยนำดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากภูมิภาคอื่นเหล่านี้มาใช้ร่วมกับดนตรีพื้นเมืองและบทเพลงพื้นเมือง
การเต้นรำ
การเต้นรำของตองงาได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน การเต้นรำที่ขึ้นชื่อที่สุดของตองงาในปัจจุบันคือการเต้น ซึ่งเป็นการเต้นรำที่ใช้ผู้ชายแสดงเท่านั้น โดยใช้เครื่องดนตรีประกอบการแสดง 3 ชิ้น คือ กลอง อูเตเตและ Ratchet โดยมีผู้ชายและผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าผู้เต้นเป็นผู้ร้องสนับสนุน ในอดีตการเต้นเมเอตูอูปากีจะเต้นในโอกาสการเฉลิมฉลองระดับชาติเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการจัดแสดงเมเอตูอูปากีตามหมู่บ้านต่าง ๆ บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเต้นรำอีกแบบหนึ่งซึ่งเรียกว่า ที่ใช้นักแสดงทั้งชายและหญิง การแสดงประเภทนี้เป็นการแสดงที่ใช้มือประกอบการแสดงบ่อยมาก เครื่องดนตรีที่นิยมใช้ประกอบการแสดงคือเครื่องดนตรีตะวันตกผสมผสานกับเครื่องดนตรีพื้นเมือง โดยเครื่องดนตรีตะวันตกที่นำมาใช้คือกีตาร์ ในขณะที่ตาฟูอาเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองที่ใช้ประกอบการแสดง
การเต้นรำอีกประเภทหนึ่งของตองงาที่มีชื่อเสียงมากและได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ใน ค.ศ. 2013 คือ โดยการเต้นรำประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นนาฏศิลป์ประจำชาติของประเทศตองงา การเต้นรำลากาลากาเป็นการเต้นรำที่ใช้ทั้งการเต้น การพูด การใช้เสียงและเครื่องดนตรี การเต้นลากาลากาจะใช้ผู้แสดงประมาณ 100 คน ผสมผสานกันทั้งชายและหญิง ชายจะแสดงท่าทางที่มีพลัง ขณะที่หญิงจะแสดงท่าทางที่สวยงาม
อาหารและเครื่องดื่ม
ชาวตองงาสมัยก่อนนิยมรับประทานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเป็นอาหารหลัก อันได้แก่ มันเทศ กล้วย มะพร้าว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์จากทะเลก็สำคัญเนื่องจากสามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น ชาวตองงาสมัยโบราณนิยมบริโภคปลาและสัตว์จำพวกหอย โดยที่ปลาต้องผ่านกรรมวิธีการอบความร้อนก่อน ขณะที่สัตว์จำพวกหอยชาวตองงาสมัยโบราณนิยมบริโภคแบบดิบ นิยมบริโภคน้ำกะทิเป็นเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังพบหลักฐานการเลี้ยงสุกรในครัวเรือนชาวตองงาสมัยโบราณอีกด้วย
หลังชาวยุโรปเข้ามา ชาวยุโรปได้นำพืชต่างถิ่นเข้ามาในตองงาส่งผลให้อาหารและเครื่องดื่มของตองงาในยุคหลังได้รับอิทธิพลมาจากพืชเหล่านั้น โดยพืชที่ชาวยุโรปนำเข้ามาในตองงาคือ หัวหอม กะหล่ำปลี แคร์รอต มะเขือเทศ ส้ม มะนาว รวมไปถึงแตงโม แตงโมกลายเป็นหนึ่งในพืชที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศตองงา เนื่องจากแตงโมเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องดื่มของตองงาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งคือ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีแตงโมและมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ บางครั้งมีการนำมะม่วงหรือสับปะรดเป็นวัตถุดิบด้วย ชาวตองงานอกจากจะนำพืชที่ชาวยุโรปนำเข้ามาทำเป็นเครื่องดื่มแล้ว ยังนำพืชนั้นมาปรุงเป็นอาหารพื้นเมืองด้วย ยกตัวอย่างเช่น ลูปูลู ซึ่งนำมะเขือเทศและหัวหอมมาปรุงพืชพื้นเมืองตองงาและเนื้อจนได้เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในตองงาอย่างหนึ่ง
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ประเทศตองงายังมีเครื่องดื่มยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คาวา โดยคาวานั้นทำมาจากต้นคาวา นิยมใช้ในพิธีการรวมทั้งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ชาวตองงานิยมนำคาวามาใช้รักษาโรคและบรรเทาอาการหลากหลาย ซึ่งคาวามีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดข้อ วัณโรค หนองในและอาการไข้
กีฬา
กีฬาประจำชาติและได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศตองงา คือ รักบี้ ประเทศตองงาเข้าร่วมการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกตั้งแต่ ค.ศ. 1987 ซึ่งเป็นการจัดชิงแชมป์โลกครั้งแรก การแข่งขันที่ตองงาประสบความสำเร็จมากที่สุดคือการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกใน ค.ศ. 2007 และ ค.ศ. 2011 ซึ่งสามารถจบในอันดับที่ดีพอที่จะเข้าแข่งขันในครั้งต่อไปโดยอัตโนมัติ
ด้านกีฬาฟุตบอล ประเทศตองงาเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศและสมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนียตั้งแต่ ค.ศ. 1994ฟุตบอลทีมชาติตองงาเข้าแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกในเซาธ์แปซิฟิกเกมส์ โดยการแข่งขั้นในครั้งแรกนั้นพบกับฟุตบอลทีมชาติตาฮีตี ซึ่งฟุตบอลทีมชาติตองงาแพ้ 8–0 ผลการแข่งขันที่แย่ที่สุดของฟุตบอลทีมชาติตองงาคือการแพ้ต่อฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย 22–0 ใน ค.ศ. 2001 ส่วนผลการแข่งขันที่ดีที่สุดของฟุตบอลทีมชาติตองงาคือการชนะ 7 –0 ใน ค.ศ. 2003
คณะกรรมการโอลิมปิกของประเทศตองงานั้นก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1963 และได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากลใน ค.ศ. 1984 ประเทศตองงาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งแรกใน ค.ศ. 1984 ประเทศตองงาเคยได้รับ 1 เหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกใน ค.ศ. 1996 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐ โดยในครั้งนั้น นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น ได้เหรียญเงิน ส่วนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวนั้น ตองงาจะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2014 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย เป็นครั้งแรก
วันหยุดราชการ
ประเทศตองงาประกาศให้มีวันหยุดราชการ 10 วัน โดยมีวันหยุดราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศ 6 วันและมีวันหยุดราชการที่เป็นสากลอีก 4 วัน เช่น วันอีสเตอร์และวันคริสต์มาส
วันที่ | ชื่อ | ชื่อวันในภาษาอังกฤษ |
---|---|---|
1 มกราคม | วันขึ้นปีใหม่ | New Year’s Day |
- | วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรตองงา | Birthday of the reigning Sovereign of Tonga |
- | วันเฉลิมพระชนมพรรษามกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรตองงา | Birthday of the Heir to the Crown of Tonga |
- | วันศุกร์ประเสริฐ | Good Friday |
- | วันจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ | Easter Monday |
4 มิถุนายน | วันเอกราช | Emancipation Day |
- | วันเฉลิมฉลองการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรตองงา | the Anniversary of the Coronation Day of the reigning Sovereign of Tonga |
4 ตุลาคม | วันรัฐธรรมนูญ | Constitution Day |
4 ธันวาคม | วันเฉลิมฉลองการครองราชย์ของพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 | The Anniversary of the Coronation of H.M. King George Tupou I |
25 ธันวาคม | วันคริสต์มาส | Christmas Day and the day immediately succeeding Christmas Day |
อ้างอิง
- "The World Factbook: Tonga: Geography". สืบค้นเมื่อ 16 November 2018.
- "Mormons surpass Catholics in Tonga". Matangi Tonga. 2 October 2014. สืบค้นเมื่อ 26 June 2021.
- Census Report 2011 Vol.1 rev., Tonga Department of Statistics, 11/07/2013, page 39
- (PDF). Nukuʻalofa: Statistics Department Tonga. January 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 February 2018.
- "Report for Selected Countries and Subjects". www.imf.org. สืบค้นเมื่อ 8 April 2020.
- "Gini Index coefficient". CIA World Factbook. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
- "Human Development Report 2021/2022" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. 8 September 2022. สืบค้นเมื่อ 8 September 2022.
- สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. ชื่อบ้านนามเมือง. [โปรแกรมประยุกต์]. 2559. สืบค้น 30 มีนาคม 2560.
- . Tongasat. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- Demographic Yearbook—Table 3: Population by sex, rate of population increase, surface area and density (pdf), United Nations Statistics Division, 2007, สืบค้นเมื่อ 29 January 2014
- . CIA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-25. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- . princeton. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-11. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- "Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 2:ANALYTICAL REPORT" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ July 6, 2020.
- . CIA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-27. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- "Uranium dating shows Polynesians came to Tonga in 826 BC". Carina Boom. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- "Tonga profile". BBC News Asia. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- "Strong showing for Tonga democrats in election". BBC News Asia-Pacific. สืบค้นเมื่อ 29 January 2014.
- Bill Goodwin. "Frommer's South Pacific". สืบค้นเมื่อ 30 January 2014.
- Churchward, C.M. (1985) Tongan grammar, Oxford University Press,
- "HAWAIIAN ASTRONOMICAL CONCEPTS" (PDF). MAUD W. MAKEMSON. สืบค้นเมื่อ 30 January 2014.
- Mariner, William (1818). An Account of the Natives of the Tonga Islands.
- Patrick Vinton Kirch, The Lapita Peoples: Ancestors of the Oceanic World
- Burley, Dickinson, Barton, & Shutler Jr., Lapita on the Periphery: New data on old problems in the Kingdom of Tonga
- (PDF). go4biodiv.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-04-23. สืบค้นเมื่อ 30 January 2014.
- "Lapita Pottery Archaeological Sites (A National Serial Site for consideration as the Kingdom of Tonga's contribution to a transnational serial site listing)". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 30 January 2014.
- . Palace Office2013, Tonga. 30 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2014-01-30.
- St. Cartmail, Keith (1997). The art of Tonga. Honolulu, Hawai'i: University of Hawai'i Press. p. 39. .
- Thomson, Basil (January 1901). "Note Upon the Natives of Savage Island, or Niue". The Journal of the Anthropological Institute of Great Britain and Ireland. Royal Anthropological Institute of Great Britain and Ireland. 31: 137.
- . Palace Office2013, Tonga. 30 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2014-01-30.
- . Palace Office2013, Tonga. 30 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2014-01-30.
- Charles F. Urbanowicz, Motives and Methods: Missionaries in Tonga In the Early 19th Century 2014-12-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- James B. Minahan, Ethnic Groups of South Asia and the Pacific: An Encyclopedia (Santa Barbara, Calif. : ABC-CLIO)
- . CIA World Factbook - The best country factbook available online. 30 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-28. สืบค้นเมื่อ 2014-01-30.
- Van der Grijp, Paul (2014). Manifestations of Mana: Political Power and Divine Inspiration in Polynesia. LIT Verlag Münster. ISBN .
- Spurway, John (2015). "Ma`afu`otu`itonga." In Ma`afu, Prince of Tonga, Chief of Fiji: The Life and times of Fiji’s First Tui Lau. ANU Press.
- Niumeitolu, Heneli T. (2007). "The State and the Church, the state of the Church of Tonga" (PDF).
- Findlay, G.G.; Holdsworth, W.W (1921). The history of the Wesleyan Missionary Society. Vol. III.
- "Tonga". britannica. 3 February 2014.
- "The Tupou Dynasty". royalark. 3 February 2014.
- Sione Latukefu, Church and State in Tonga: The Influence of The Wesleyan Methodist Missionaries in Political Development of Tonga, 1826 - 1875 (Canberra: ANU press, 1967)
- VAN DER GRIJP, PAUL (1993). "THE MAKING OF A MODERN CHIEFDOM STATE: THE CASE OF TONGA". Bijdragen Tot De Taal-, Land- En Volkenkunde. 149 (4): 661–672.
- Ratuva, Steven (2019). Contested Terrain: Reconceptualising Security in the Pacific. Australia: ANU Press. ISBN .
- Martin Daly, Tonga: A New Bibliography (Honolulu : University of Hawaiʻi Press, 2009)
- "THE TONGA MA'A TONGA KAUTAHA: A WATERSHED IN BRITISH-TONGAN RELATIONS". Penny Lavaka. 3 February 2014.
- Amanda L. SullivanLee. (PDF). UNIVERSITY OF HAWAI‘I AT MĀNOA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
- Kohn, George C. (2008). Encyclopedia of plague and pestilence: from ancient times to the present. Infobase Publishing. p. 363. ISBN .
- "Tonga profile". BBC Asia-Pacific. 3 February 2014.
- "Kingdom of Tonga". nationsonline. 3 February 2014.
- "Tonga's Pro-Democracy Movement". JSTOR. 3 February 2014.
- . michaelfield.org (December 1997).
- "Tonga : In Depth : History". Frommers.com. สืบค้นเมื่อ 27 June 2010.
- "The ships that died of shame". smh.com.au. 14 January 2003. สืบค้นเมื่อ 27 June 2010.
- iSite Interactive Limited. . Islands Business. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-12. สืบค้นเมื่อ 27 June 2010.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "No resolution in sight in Tonga". tvnz. August 30, 2005. สืบค้นเมื่อ 3 February 2014.
- "Tonga's Prince Tu'ipelehake killed in car accident". Radio New Zealand International. สืบค้นเมื่อ 3 February 2014.
- . Matangi Tonga Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-04. สืบค้นเมื่อ 3 February 2014.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "TONGA" (PDF). state.gov. 4 February 2014.
- "Constitution of Tonga". Commonwealth Governance. 4 February 2014.
- "Act of Constitution of Tonga". wipo. 4 February 2014.
- (PDF). legislation. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-02-04.
- (PDF). crownlaw. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-08-30. สืบค้นเมื่อ 2014-02-04.
- "Tonga Parliament enacts political reforms". Radio New Zealand International. 4 February 2014.
- . Ministry of Information and Communications. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-11. สืบค้นเมื่อ 2014-02-04.
- Purna Sen, Universal Periodic Review: Lessons, Hopes and Expectations (London : Commonwealth Secretariat, 2011)
- . The World Factbook. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-11. สืบค้นเมื่อ 2014-01-31.
- "TONGA Parliamentary Chamber: Fale Alea". IPU. 4 February 2014.
- "Vaea and Tu'ilakepa to enter House in Nobles seats". Matangi Tonga Online. 4 February 2014.
- . The Commonwealth. 6 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-27. สืบค้นเมื่อ 2014-02-06.
- (PDF). /crownlaw. 6 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-08-30. สืบค้นเมื่อ 2014-02-06.
- . CIA. 6 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-28. สืบค้นเมื่อ 2014-02-06.
- (PDF). Ministry of Information and Communications. 6 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-08-30. สืบค้นเมื่อ 2014-02-06.
- . Ministry of Information and Communications. 17 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-22. สืบค้นเมื่อ 2014-02-17.
- . Commonwealth. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-23. สืบค้นเมื่อ 2014-01-31.
- . Pacific Islands Report. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-02-04.
- "Press Release: Sustainable Nation-Building Party". tongareview. 4 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-26. สืบค้นเมื่อ 2022-05-05.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Tonga PSA forms party ahead of November election". Radio New Zealand International. 4 February 2014.
- "Another new political party emerges in Tonga as country prepares for 2010 elections". Radio New Zealand International. 4 February 2014.
- "TONGA". citypopulation. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
- (PDF). Commonwealth Local Government Forum. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-04-21. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
- (PDF). legislation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-02-08. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
- "Crime Prevention". Tonga Department of Statistics. 8 February 2014.
- "DEATH PENALTY: COUNTRIES ABOLITIONIST IN PRACTICE". Amnesty International. 8 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-02-08.
- "RAF trains Tongan troops for Afghanistan". Ministry of Defence, UK. สืบค้นเมื่อ 19 February 2014.
- "PERMANENT MISSION OF THE KINGDOM OF TONGA MISSION TO THE UNITED NATIONS" (PDF). United Nations. 21 March 2014.
- "China seeks to strengthen ties with Tonga". Islands Business International. 21 March 2014.
- . Department of Foreign Affairs and Trade, Australia Government. 21 March 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-07. สืบค้นเมื่อ 2014-03-21.
- . Ministry of Foreign Affairs and Trade, New Zealand. 21 March 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-30. สืบค้นเมื่อ 2014-03-21.
- . Pacific Tourism Guide. 21 March 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-19. สืบค้นเมื่อ 2014-03-21.
- "Fiji, Tonga war over Minerva Reef". Fairfax New Zealand Limited. 21 March 2014.
- "Fiji and Tonga govts continue talks on reef dispute". Radio New Zealand International. 21 March 2014.
- (PDF). legislation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-02-08. สืบค้นเมื่อ 19 February 2014.
- . princeton. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-31. สืบค้นเมื่อ 19 February 2014.
- "Tala Mai Tafa - Guardians of Al Faw Palace: The Mighty Royal Tongan Marines". samoanews. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 19 February 2014.
- "Tonga - Location, size, and extent". Encyclopedia of the Nations. สืบค้นเมื่อ 7 February 2014.
- "Tonga". Encyclopedia of the Nations. สืบค้นเมื่อ 7 February 2014.
- "TONGA". FAO. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-11. สืบค้นเมื่อ 7 February 2014.
- Edward R. Lovell and Asipeli Palaki. (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- Fonte:David W. Steadman. Extinction & Biogeography of Tropical Pacific Birds. - University of Chicago, 2006. - С. 21. - 594 с. -
- David Stanley, Tonga - Samoa Handbook (Emeryville, CA: Moon Publication, 1999), 216.
- "Tofua". NATIONAL MUSEUM OF NATURAL HISTORY. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- . NATIONAL MUSEUM OF NATURAL HISTORY. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-25. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Chapter 14 Tonga" (PDF). Climate Change in the Pacific: Scientific Assessment and New Research Volume 2: Country Reports. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- "The Kingdom of Tonga's Initial National Communication" (PDF). The Kingdom of Tonga’s Initial National Communication. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- "CLIMATE SUMMARY OF TONGA" (PDF). Tonga Meteorological Service. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- "Weatherbase: Historical Weather for Nukuʻalofa, Tonga". weatherbase.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2011. สืบค้นเมื่อ 22 March 2011.
- (PDF). SPREP. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-30. สืบค้นเมื่อ 8 February 2014.
- "Country Pasture/Forage Resource Profiles TONGA". fao. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-11. สืบค้นเมื่อ 14 February 2014.
- "Tonga - Topography". Encyclopedia of the Nations. สืบค้นเมื่อ 8 February 2014.
- "KINGDOM OF TONGA" (PDF). ramsar. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-11. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- "Tonga - Parks & Marine Reserves". jasons. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- Arthur L. Review of the protected areas system in Oceania. Gland Switzerland: IUCN, 1986. — С. 148. — 312 с. —
- "Avibase - Bird Checklists of the World Tonga". Avibase. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- "Kingdom of Tonga and Niue, north of New Zealand". World Wildlife Fund. สืบค้นเมื่อ 13 February 2014.
- (PDF). sprep. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 6 March 2014.
- "ราชอาณาจักรตองงา (Kingdom of Tonga)" (PDF). กระทรวงการต่างประเทศ. สืบค้นเมื่อ 6 March 2014.[]
- "Fisheries Resources Profiles Kingdom of Tonga" (PDF). PACIFIC ISLANDS FORUM FISHERIES AGENCY. สืบค้นเมื่อ 22 February 2014.
- "PEARL OYSTER" (PDF). Pearl Oyster Information Bulletin. สืบค้นเมื่อ 22 February 2014.
- "TOURISM DEVELOPMENT IN THE KINGDOM OF TONGA" (PDF). School of Travel Industry Management, University of Hawaii at Manoa. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- "International Arrivals, Departures and Migration Bulletin 2011". Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- "International arrivals by Air and Yacht by country of Citizenship 2005-2011". Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- "Visitors Arrivals by Reason for Visit, 2005 - 2011". Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- "Things to do". Tonga Visitors Bureau. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- "Census Report 2011 Vol.1 rev". Tonga Department of Statistics. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- . happytellus. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-07. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- . Royal Tongan Airlines. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-04-15. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Liquidator for Royal Tongan invites creditors to claim". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- . Peau Vava'u Ltd. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - . Tonga Airports Limited. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-29. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- . Tonga Airports Limited. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- "Tonga Profile". BBC. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- "Tonga". pressreference. สืบค้นเมื่อ 20 February 2014.
- "Tonga". Educational Encyclopedia. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- "Tonga - Education". Encyclopedia of Nation. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- "PART I DESCRIPTIVE SECTION". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- (PDF). unicef. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-16. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- "Western Pacific Country Health Information Profiles: 2011 Revision" (PDF). World Health Organization. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- "MIGRATION, REMITTANCE AND DEVELOPMENT TONGA" (PDF). FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION OF THE UNITED NATIONS. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- "Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 1:BASIC TABLES AND ADMINISTRATIVE REPORT" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ July 6, 2020.
- "A language of Tonga". ethnologue. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- "About Tonga". thekingdomoftonga. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- . The World Factbook. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-26. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- "COUNTRY COMPARISON :: BIRTH RATE". The World Factbook. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-10. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- . The World Factbook. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-28. สืบค้นเมื่อ 2 February 2014.
- Sands, Neil (10 April 2011) "Pacific island nations battle obesity epidemic" 2013-12-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Agence France-Presse.
- Mark Henderson (February 18, 2008) Welcome to the town that will make you lose weight 2015-04-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. transitionpenwith. www.transitionpenwith.org.uk
- รายงานสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2021
- Helen Morton, Helen Morton Lee Becoming Tongan: an ethnography of childhood. - University of Hawaii, 1996. - C. 23. - 343 c. -
- "Culture of Tonga". everyculture. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- "Tonga Islander's Choral Music: Historical Perspectives". James Noxon. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- . hmcs.scu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- Fortune Brij V. Lal Kate. The Pacific Islands: an encyclopedia. - University Press of Hawaii, 2000. - C. 506. - 664 c.
- Elizabeth May, Mantle Hood. Songs from many cultures: an introduction. - University of California Press, 1983. - C. 141. - 434 c. -
- Mervyn McLean. Weavers of Song: Polynesian Music and Dance. - Auckland University Press, 1999. - C. 135. - 556 c. -
- "Lakalaka, dances and sung speeches of Tonga". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- Helen Morton, Helen Morton Lee Becoming Tongan: an ethnography of childhood. - University of Hawaii, 1996. - C. 23. - 343 c. - ISBN
- "Culture of Tonga". Advameg, Inc. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- "'Otai (Tongan Watermelon Drink)". Tara's Multicultural Table. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- "Lu Pulu". food.com. สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ และคณะ. ทรัพยากรพืชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16: พืชให้สารกระตุ้น. พิมพ์ครั้งที่ 2. กทม. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย. 2544. หน้า 140 – 142
- "Tonga Sport". virtualoceania. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "IRB Rugby World Cup 1987". ESPN. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga on FIFA.com". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-11. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga national football team 'A' international record: 1980". 11v11. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga national football team 'A' international record: 2001". 11v11. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga national football team 'A' international record: 2004". 11v11. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga". Olympic. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tonga at the Olympics". BBC. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "Tongan rugby player earns Winter Olympics spot". Fairfax NZ News. สืบค้นเมื่อ 21 March 2014.
- "PUBLIC HOLIDAYS ACT" (PDF). legislation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-11. สืบค้นเมื่อ 18 February 2014.
อ่านเพิ่ม
ชาติพันธุ์วรรณนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์
- On the Edge of the Global: Modern Anxieties in a Pacific Island Nation (2011) by Niko Besnier. Stanford, CA: Stanford University Press, ISBN
- Islanders of the South: Production, Kinship and Ideology in the Polynesian Kingdom of Tonga (1993) by Paul van der Grijp. Leiden: KITLV Press. ISBN
- Identity and Development: Tongan Culture, Agriculture, and the Perenniality of the Gift (2004) by Paul van der Grijp. Leiden: KITLV Press. ISBN
- Manifestations of Mana: Political Power and Divine Inspiration in Polynesia (2014) by Paul van der Grijp. Vienna and Berlin: LIT Verlag. ISBN
- Becoming Tongan: An Ethnography of Childhood by Helen Morton
- Queen Salote of Tonga: The Story of an Era, 1900–65 by
- Tradition Versus Democracy in the South Pacific: Fiji, Tonga and Western Samoa by Stephanie Lawson
- Voyages: From Tongan Villages to American Suburbs Cathy A. Small
- Friendly Islands: A History of Tonga (1977). Noel Rutherford. Melbourne: Oxford University Press. ISBN
- Tonga and the Tongans: Heritage and Identity (2007) Elizabeth Wood-Ellem. Alphington, Vic.: Tonga Research Association, ISBN
- Early Tonga: As the Explorers Saw it 1616–1810. (1987). Edwin N Ferdon. Tucson: University of Arizona Press; ISBN
- The Art of Tonga (Ko e ngaahi'aati'o Tonga) by Keith St Cartmail. (1997) Honolulu : University of Hawai`i Press. ISBN
- The Tonga Book by Paul. W. Dale
- Tonga by James Siers
สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม
- Birds of Fiji, Tonga and Samoa by
- A Guide to the Birds of Fiji and Western Polynesia: Including American Samoa, Niue, Samoa, Tokelau, Tonga, Tuvalu and Wallis and Futuna by Dick Watling
- Guide to the Birds of the Kingdom of Tonga by Dick Watling
หนังสือท่องเที่ยว
- Lonely Planet Guide: Samoan Islands and Tonga by Susannah Farfor and Paul Smitz
- Moon Travel Guide: Samoa-Tonga by David Stanley
บรรณานุกรม
- Martin Daly (2009). Tonga: A New Bibliography. University of Hawaii Press. ISBN .
บันเทิงคดี
- Brian K. Crawford (2009). Toki: A Historical Novel. Brian K. Crawford. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Tonga. The World Factbook. Central Intelligence Agency.
- from UCB Libraries GovPubs
- ประเทศตองงา ที่เว็บไซต์ Curlie
- Wikimedia Atlas of Tonga
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
20 S 175 W 20 S 175 W 20 175 rachxanackrtxngnga Puleʻanga Fakatuʻi ʻo Tonga txngnga thngchati traaephndinkhakhwy Ko e ʻOtua mo Tonga ko hoku tofiʻa phraecaaelatxngngakhuxmrdkkhxngkhapheca ephlngchati Ko e fasi ʻo e tuʻi ʻo e ʻOtu Tonga ephlngkhxngkstriyaehnghmuekaatxngnga source source emuxnghlwng aelaemuxngihysudnukuxaolfa 21 08 S 175 12 W 21 133 S 175 200 W 21 133 175 200phasarachkarxngkvstxngngaklumchatiphnthu kh s 2018 97 0 7 2 3 xun sasna kh s 2011 98 khrist 54 18 15 11 nikayxun 1 immisasna1 edmanimchawtxngngakarpkkhrxngrthediyw rabbrthspha rachathipityphayitrththrrmnuy phramhakstriysmedcphrarachathibdituopxuthi 6 aehngtxngnga naykrthmntri prathansphasphanitibyytisphanitibyytiepnexkrachcakshrachxanackr prakasxisrphaph4 mithunayn kh s 1970phunthi rwm748 tarangkiolemtr 289 tarangiml xndbthi 175 aehlngna 4 0prachakr samaonprachakr kh s 2016100 651 xndbthi 199 khwamhnaaenn139 txtarangkiolemtr 360 0 txtarangiml xndbthi 76a cidiphi xanacsux kh s 2019 praman rwm655 landxllarshrth txhw6 496 dxllarshrthcidiphi rakhatlad kh s 2019 praman rwm493 landxllarshrth txhw4 888 dxllarshrthcini kh s 2015 37 6 panklangexchdiix kh s 2021 0 745 sung xndbthi 91skulenginpaxanga TOP ekhtewlaUTC 13 vdurxn ewlaxxmaesng imichkhbrthdansayrhsothrsphth 676odemnbnsud toxingcakcanwnin kh s 2005 praethstxngnga xngkvsaelatxngnga Tonga michuxthangkarkhux rachxanackrtxngnga xngkvs Kingdom of Tonga txngnga Puleʻanga Fakatuʻi ʻo Tonga puelxanga fakatuxioxotnga epnpraethshmuekaainphumiphakhphxliniechiy tngxyuinmhasmuthraepsifik rahwangpraethsniwsiaelndkbrthhawaykhxngshrth odythaelxanaekhtthangtawntktidkbpraethsfici swnthangtawnxxktidkbhmuekaakhuk niwew aelaxemriknsamw inkhnathithangthisehnuxtidkbhmuekaawalisaelafutuna praethssamw aelaxemriknsamw chuxpraethsinphasatxngngaaeplwathisit nxkcaknipraethsniidrbchayawa hmuekaamitrphaph cakkptnecms khuk praethstxngngaepnpraethskhnadelkmienuxthiephiyng 747 tarangkiolemtr nbepnxndbthi 189 khxngolk hmuekaatxngngaprakxbipdwyekaanxyihypraman 169 ekaa odymiephiyng 36 ekaaethannthimiphuxyuxasy ekaathiihythisudkhuxekaaotngatapu sungepnthitngsunyklangkarpkkhrxngkhuxnukuxaolfa ekaaswnihykhxngtxngngaepnekaathiekidcakkarthbthmkhxngpakarng prachakrkhxngtxngngamithngsin 103 036 khn nbepnxndbthi 193 khxngolk snnisthanwamnusyekhamaxyuxasyintxngngakhrngaerkemux 826 8 pikxnkhristkal txngngaerimkxtngxanackrepnkhxngtnexngin kh s 950 chuxwackrwrrdituxiotnga sungpkkhrxngodyrachwngstuxiotnga tuxihaxatakalaxw aelatuxikaonkuoplu txmaidekidsngkhramklangemuxng inthaythisudtuxikaonkuopluetafaxaehaidrbchychnacungrwbrwmdinaednthnghmdkxtng xanackrphxliniechiy txngngaepnephiyngimkipraethsinolkthisamarthpkpxngtnexngcakkartkepndinaednxananikhmkhxngchatitawntk in kh s 2010 praethstxngngacdkareluxktngthwip kareluxktngkhrngniepnkhrngaerkthismachikrthsphaswnihymacakkareluxktngodyprachachnchuxpraethsphasahlayphasakhxngklumphxliniechiyaelaphasatxngngaidihkhwamhmaykhawa otnga txngnga Tonga iwwa it sungsmphnthkbtaaehnngthitngkhxngpraethstxngngathiepnhmuekaatngxyuthangtxnitsudkhxngphumiphakhphxliniechiytxnklang inphasatxngngachuxpraethsthxdesiyngepnsthxksridwa ˈtoŋa swninphasaxngkvscaxxkesiyngchuxpraethsniwa ˈ t ɒ ŋ e hrux ˈ t ɒ ŋ ɡ e nxkcaknichuxpraethstxngngayngmikhwamhmaykhlaykhlungkbkhawa okna haway Kona inphasahawayxikdwy nxkcakniinxditpraethstxngngaepnthiruckinolktawntkinchux hmuekaamitrphaph enuxngcakkptnecms khukidrbkartxnrbxyangdiemuxmaeyuxnkhrngaerkin kh s 1773 aelamioxkasidekharwmethskal xinasi sungepnethskalthway phlimaerk aedtuxiotnga thwainkhwamepncringehlachnchnnatangtxngkarsngharkptnecms khukrahwangnganethskal aetimsamarthtklngrwmknekiywkbaephnkarid 64 5 prawtisastrwthnthrrmaelphita ekhruxngpndinephaaelphita chawaelphita klumkhnthiphudphasaintrakulphasaxxsotrniechiynepnklumaerkthiekhamaxyuxasyintxngnga mikhwamekiywenuxngkbklumkhnthixasyxyuthangtawnxxkkhxngpraethspapwniwkiniaelahmuekaaosolmxninpccubn chwngewlathichawaelphitaekhamaxasyinhmuekaatxngngaepnkhrngaerkyngepnkhxthkethiynginpccubn odyinrayaaerknnmikarsnnisthanwaklumkhnthiechuxwaekhamaxyuxasyindinaednpraethstxngngapccubnedinthangthunghmuekaatxngngainchwngewlapraman 1 500 1 000 pikxnkhristkal inrayaewlatxma idmikarnaekhruxngmuxinsmynnphankarhaxayucakkharbxnkmmntrngsi sungchwykahndidwachawaelphitaedinthangekhamaxyuintxngngainpi 826 8 kxnkhristkal emuxchawaelphitaedinthangmathunghmuekaatxngngaaelw idlnghlkpkthaninnukuelka bnekaaotngatapuepnthiaerk aelaidlnghlkpkthaninhaxaipepnthitxma chawaelphitaichchiwitodyphungphathaelepnswnihy xaharkhxngchawaelphitacungennxaharthaelepnhlk yktwxyangechn plankaekw plankkhunthxng eta plaihl epntn nxkcakniyngmikarthaekstrkrrmaelaeliyngstwxikdwy hlkthanthisakhythangobrankhdiinchwngewlanikhuxekhruxngpndinephaaelphita sungepnekhruxngpndinephathithamacakepluxkhxyaelahin odyphbmakinbriewnekhtkarpkkhrxnghaxaipinpccubn ckrwrrdituxiotnga xanaekhtckrwrrdituxiotnga praman kh s 950 xaohexxituidsthapnaphraxngkhkhunepntuxiotngaaehngckrwrrdituxiotngaphraxngkhaerk ckrwrrdituxiotngaecriyrungeruxngthungkhidsudinkhriststwrrsthi 12 inrchsmyphraecaomom phraecatuxitatuxi aela sungphramhakstriythng 3 phraxngkhidkhyayxanaekhtkhxngckrwrrdicnmixanaekhtkhrxbkhlumbangswnkhxngfici samw othekhxela niwew aelahmuekaakhuk brrdadinaedninkarpkkhrxngehlanicasngbrrnakarthieriykwa xinasi sungtxngsngmathwaytuxiotngathiemuxngmuxaxnepnnkhrhlwngkhxngckrwrrdithukpiinvduekbekiyw xanackhxngckrwrrdituxiotngaerimtktalnghlngcakekidehtulxbplngphrachnmtuxiotngahlayphraxngkh sngphlihinkhriststwrrsthi 15 tuxiotngaphraxngkhthi 24 tngphraxnuchakhxngphraxngkhkhuxkhunepntuxihaxatakalaxwphraxngkhaerk ephuxchwyehluxtuxiotngainkarpkkhrxngckrwrrdi aelaxik 2 stwrrstxmaidmikartngrachwngstuxikaonkuoplukhunephuxchwyehluxxik 2 rachwngsinkarpkkhrxngckrwrrdi sungtxmatuxikaonkuoplusamarthkawkhunmaepnrachwngsthimixiththiphlaethnthituxihaxatakalaxwid bnsay chawtxngngainchwngkarmaeyuxnkhxngtsmn bnkhwa eruxaekhnuphunemuxng langsay karetnratxnrbkhukthihaxaip langkhwa susanchnchnnabnekaaotngatapu inyukhckrwrrdituxiotngani minksarwcchawyuorpedinthangekhamahlayklum odynksarwcthiedinthangekhamaepnklumaerknnepnnksarwcchawdtchchuxwa aela sungedinthangmathungckrwrrdituxiotngain kh s 1616 sungepnchwngewlathickrwrrdiekidsngkhramklangemuxng odyekhamasarwcinbriewnekaanixuxaotputapu in kh s 1643 xaebil tsmn idedinthangekhamaintxngngainbriewnekaaotngatapuaelahaxaip aetkaredinthangekhamathng 2 khrngkhxngchawyuorpni yngimmikartidtxkbchawphunemuxngxyangepnthangkarmakethaidnk kartidtxkbchawphunemuxngxyangepnthangkarkhxngchawyuorpaelakxihekidkarepliynaeplngkhrngsakhyinckrwrrdikhuxkaredinthangekhamasarwckhxngkptnecms khuk in kh s 1773 1774 aela 1777 sungecms khukidtngchuxhmuekaaniwa hmuekaamitrphaph Friendly Islands odychuxnimacakkhwamprathbickhxngecms khuk txlksnanisykhxngchawphunemuxng hlngcaknnxelssanodr malaspinaekhamasarwctxngngain kh s 1793 kh s 1797 tuxikaonkuopluphraxngkhthi 13 swrrkht phraoxrsxngkhotkhuxidkhunkhrxngrachyaethn cakbnthukkhxngmichchnnariphbwaphraecatukuxaohthrngdarngphraxngkhxyangthrrachy mklngothsprachachnkhxngphraxngkhxyangrunaerng 122 3 naipsukarlxbplngphrachnmphraecatukuxaohinwnthi 21 emsayn kh s 1799 odyklumkhunnangphupkkhrxngthxngthinthimaekharwmnganfngphrabrmsph tuxihaxatakalaxwphraxngkhthi 18 124 karkrathakhrngninaipsusngkhramklangemuxnginewlatxma phrayatisayrxngxyangidsubphraxisriyystuxikaonkuoplutx aetimnankthuklxbplngphrachnm 127 ecachaytuopxumaolhiesdcklbotngatapucakkarekharwmkarsngkhraminfici thrabkhawwatuxikaonkuopluswrrkhtcungsthapnaphraxngkhexngkhunepntuxikaonkuoplu yaysunyklangxanaccakhihiofmaxyuthinukuxaolfa phrxmthngsrangpxmprakarkhun 127 xyangirktampxmprakaraehngnithukthalaylngodypunihy emux phupkkhrxngwawaxuaelahaxaipekhalxmpxmprakaraelaichkarradmyingdwypunihy thaythisudsamarthyudkhrxngpxmnukuxaolfaidsaerc phraecatuopxumaolhiesdcliphyipynghaxaip 93 6 inchwngtnkhriststwrrsthi 19 phunaphunthitang inckrwrrdituxiotngamikhwamkhdaeyngkn phrxm ipkbkhwamesuxmthxykhxngxanackarpkkhrxngcakswnklang 2 thwahlayphunthimimichchnnariekhamaephyaephsasnakhristihaekchawphunemuxng khnaaerkthiekhamannkhuxsmakhmmichchnnarilxndxn odyin kh s 1826 smakhmmichchnnarilxndxnidsngmichchnnaricaktahitiedinthangipyngfici aelamicudaewaphkrahwangthangthinukuxaolfa emuxkhnaedinthangmathungnukuxaolfa phraecaxaelxaomtuxaidkktwmichchnnarichawtahiti 2 khniwkbphraxngkh ephuxihthngsxngkhnsxnsasnaihaekphraxngkh naipsukarsrangobsthaelaorngeriynsxnsasna 129 aetimprasbkhwamsaercmaknk xyangirktammichchnnarikhnaewselynthiekhamain kh s 1822 prasbkhwamsaercxyangmakinkarephyaephrsasna phraecaxaelxaomtuxainthanaphuthisnbsnunkarephyaephrsasnatdsinphrathyepliynsasnainwnthi 10 mkrakhm kh s 1830 130 karekhamakhxngmichchnnarisrangkhwamimphxicihkbphupkkhrxngthxngthinintxngngaepnxyangmak enuxngcakmxngwakarepnmitrkbkhnphiwkhaw epnphytxkhwammnkhnginxanackhxngtn 287 8 khwamkhdaeyngthiedimekhyekidkhun phthnaepnkhwamkhdaeyngthangsasna naipsukarekidsngkhramklangemuxngrahwangklumphusnbsnunkhristsasnakbklumkhwamechuxdngedim cnkrathngetafaxaeha kstriyaehnghaxaipaelawawaxu phunafaysnbsnunkhristsasnasungepnphraphatiyakhxngphraecaxaelxaomtuxa idrbchychnaaelarwmhmuekaatxngngaepnhnungediywidsaercin kh s 1852 hlngkarrwmchatitxngnga say chawyuorpinkarepidprachumrthspha kh s 1900 khwa khbwnphaehrdechlimchlxngkaryxmcannkhxngxitaliinsngkhramolkkhrngthi 2 hlngcakthiphraecacxrc tuopxuthi 1 idrbchychnacaksngkhramklangemuxngtxngngaaelw phraxngkhidtngemuxngpainginhaxaip sungepnekhtxanacedimkhxngphraxngkhepnemuxnghlwngin kh s 1845 hlngcaknnidyayemuxnghlwngipxyuthilifuka inthaythisudidyayemuxnghlwngmaxyuthiemuxngnukuxaolfasungepnemuxnghlwngpccubnin kh s 1851 inrchsmykhxngphraecacxrc tuopxuthi 1 mikarprakasichpramwlkdhmaywawaxu in kh s 1839 sungekiywkhxngkbsiththimnusychnkhnphunthanaelaldbthbathecanayinthxngthintang odypramwlkdhmaychbbniepnphunthanthisakhykhxngrththrrmnuytxngngathiprakasichin kh s 1875 karprachumrthsphaepnkhrngaerkkekidkhuninrchsmykhxngphraxngkh odyekidkhunin kh s 1862 nxkcaknimikarprakaskhwamsmphnthkbshrachxanackr eyxrmniaelashrth praethsehlanitangrbrxngkhwamepnexkrachkhxngtxngnga karepliynaeplnghlayxyangthiekidkhuninrchsmykhxngphraecacxrc tuopxuthi 1 nnehlamichchnnarilwnmiswnsakhyinkarepliynaeplngthangdankaremuxngkarpkkhrxngaelainrchsmynisasnakhristkaephidmakkhuncakkarxupthmphkhxngphramhakstriy inrchkalkhxngphraecacxrc tuopxuthi 2 idkhunkhrxngrachbllngksibtxcakphrapyka phraxngkhtxngprasbpyhathnginechingkaremuxngaelaesrsthkic 669 71 khwamkhdaeynginkareluxkphramehsi rwmthungkhwamphyayamkhyayxiththiphlkhxngeyxrmnicakpyhahnisinkhxngrthbal 161 naipsukartdsinphrathylngnaminsnthisyyamitrphaphkbshrachxanackr epnrthxarkkha inwnthi 18 phvsphakhm kh s 1900 khnathiyngsamarthbriharkickarphayinexngid 670 odyshrachxanackrcakhwbkhumthangdankartangpraeths aelasiththisphaphnxkxanaekhtethann xyangirktamphbwarthbalxngkvsphyayamthicaaethrkaesngkickarphayinkhxngtxngngaxyuesmx aelaichwithikarkhmkhuihphraecacxrc tuopxuthi 2 ptirupkarpkkhrxng 161 inchwngplayrchkal aemphraxngkhcaimetmicekharwmsngkhramolkkhrngthi 1 maknk aetdwysthanakhwamepnrthinxarkkha thaihphraxngkhtxngekharwmsngkhramxyangimepnthangkar mithharchawtxngngabangswnekharwmrbinthanaswnhnungkhxngkxngkalngcakniwsiaelnd chwngtnrchsmykhxngsmedcphrarachininathsaolet tuopxuthi 3 praethstxngngaprasbpyhakhxngkarrabadthwikhhwdihysepn sungkxihekidkarsuyesiychiwitkhxngprachakrrxyla 8 khxngpraeths inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 phraxngkhxnuyatihkxngkalngshrthtngthanthphaelasnambininpraeths sngphlihinchwngsngkhramolkkhrngthi 2 shrthepnphumixanacthangkaremuxngsungsudinpraeths txngngaerimidxanackarpkkhrxngswnihykhunin kh s 1958 aelaidexkrachodysmburnin kh s 1970 kareriykrxngprachathipity karclaclinkrungnukuxaolfa kh s 2006 hlngcaktxngngaphncakkarxarkkhakhxngshrachxanackraelw txngngaidpkkhrxngtnexngodysmburnphayitkarnakhxngsmedcphrarachathibdietafaxaeha tuopxuthi 4 in kh s 1992 mikarkxtngklumniymprachathipitykhunintxngnga odyklumniymprachathipityidphyayameriykrxngihmitwaethnkhxngprachachninrthsphamakkhun sungmiephiyng 9 khnethann swntaaehnngnaykrthmntrimkmacakkhunnangaelachnchnsungthimikhwamsnithsnmkbrachwngs khwamimphxicinkarpkkhrxngmimakkhuncakkarthirthbalechuxphrawngsaelakhunnangdaeninkarphidphladhlayprakar thngkarlngthunthiphidphladcnsuyesiyngbpraman 26 landxllarshrth karphicarnaihtxngngaepnsthanthikacdkakniwekhliyr karkhayhnngsuxedinthangtxngngaaekchawtangpraeths karxnuyatkhunthaebiyneruxtangpraeths karthuxsyyaechaekhruxngbinobxing 757 rayayawodyimidichngan sungnaipsukarlmlalaykhxngsaykarbin rwmipthungkarephimphrarachxanackhxngphramhakstriyaelakarcakdesriphaphkhxngsuxmwlchn cakkhwamimphxicinkarbriharngankhxngrthbalcungekidkarprathwngeriykrxngprachathipitythwkrungnukuxaolfain kh s 2005 ephuxeriykrxngkarptirupkarpkkhrxngihepnrabxbprachathipity karprathwnginkhrngninaipsukarlaxxkkhxngecachayxulukalala lawaka xatanaykrthmntri aela dr efelti esewel khunmadarngtaaehnngnaykrthmntriaethn sungthuxidwaepnnaykrthmntriphleruxnkhnaerkkhxngtxngnga xyangirktamkarsinphrachnmkhxng phuthimibthbathsakhyinkardaeninkarptirupkarpkkhrxngcakxubtiehtuthangrthyntthaihkrabwnkarptiruplachayingkhun khwamlachainkarptirupkarpkkhrxngkxihekidkarclaclthwkrungnukuxaolfain kh s 2006 sungkxihekidkhwamsuyesiychiwitaelaesrsthkic in kh s 2008 smedcphrarachathibdicxrc tuopxuthi 5 thrngslaphrarachxanackhxngphraxngkhswnihyaelaerimkarptirupkarpkkhrxng ody kh s 2010 epnpiaerkthimikareluxktngthwipthismachikrthsphaswnihymacakkareluxktngodyprachachnkaremuxngkarpkkhrxngtxngngamirupaebbrthepnrachathipityphayitrththrrmnuy odyichrabxbprachathipityaebbmiphuaethn mirthspha phramhakstriyepnpramukhaehngrth miphrarachxanacthangphithikar thrngaetngtngnaykrthmntrithiidrbkarsnbsnuncakesiyngswnihyinrthspha aelamiphrarachxanacxuntamrththrrmnuy naykrthmntriepnhwhnarthbal rththrrmnuy phrarachwngtxngnga thiprathbkhxngphramhakstriy rththrrmnuytxngngachbbaerkichbngkhbinwnthi 4 phvscikayn kh s 1875 rththrrmnuytxngngaprakxbipdwyenuxha 3 swn khux siththikhnphunthan rupaebbkhxngrthbal aelathidin mikaraekikhrththrrmnuyhlaykhrng karaekikhephimetimkhrnglasudekidkhunin kh s 2010 sarasakhykhxngkaraekikhephimetiminkhrngni khux ykeliksmachikrthsphathiphramhakstriythrngaetngtng aelaihphuaethnrasdrepnsmachikswnihykhxngrthspha karaekikhephimetimrththrrmnuykhxngtxngngasamarththaidodykarphankarphicarnakhxngrthspha 3 wara hlngcaknnthwayihphramhakstriylngphraprmaphiithy karaekikhephimetimrththrrmnuytxngimsngphlkrathbtxsiththiesriphaphkhxngprachachn karsubrachbllngk aelathidinmrdkkhxngchnchnkhunnang sthabnphramhakstriy phramhakstriymisthanaepnpramukhaehngrth aelahaxuoxex ofnuxa pramukhsungsudkhxnghwhnachnephaphunemuxngkhxngtxngnga phramhakstriytxngngasubrachsmbtiphanthangsayphraolhit phramhakstriyphraxngkhpccubnkhuxsmedcphrarachathibdixaohexxitu xunuxakioxotnga tukuxaoh tuopxuthi 6 swnmkudrachkumarphraxngkhpccubnkhux ecachaysixaoxsi manumataoxong xalaxiwahamamaox xaohexxitu kxnstntin tukuxaoh phrarachxanackhxngphramhakstriythisakhysungphraxngkhichidexngnnidaek kardarngsthanaepncxmthphkhxngpraeths kareriykprachumrthspha karyubsphaphuaethnrasdr karaetngtngnaykrthmntri cakkareluxkkhxngrthspha karaetngtngprathanrthspha tamkhaaenanakhxngrthspha karaetngtngphuwakarekhtkarpkkhrxnghaxaipaelawawaxu tamkhaaenanakhxngnaykrthmntri rwmthungkarecriysmphnthimtrikbtangpraeths faynitibyyti sphanitibyytitxngnga txngnga Fale Alea epnsphaediyw prakxbdwysmachik 26 khn macakkareluxktngkhxngprachachn 17 khn aelamacakkhunnangeluxkknexngxik 9 khn hnathikhxngsphanitibyytitxngngahruxfaelxaelxakhuxkartrakdhmay rangkdhmaycaphicarnaknthngsin 3 wara hakphankarlngkhaaennthngsamwara cungcanathwayphramhakstriyephuxlngphraprmaphiithy emuxphanthukkrabwnkaraelwcungprakasichepnkdhmayid nxkcakni yngmihnathikahndmulkhakarekbphasikhxngprachachn kahndngbpraman aekikhephimetimrththrrmnuy aelathxdthxnkhnaxngkhmntri rthmntri phuwakarekhtkarpkkhrxng haxaipaelawawaxu aelaphuphiphaksa smachiksphanitibyytimiwarakardarngtaaehnng 4 pi kareluxktngintxngngacaaebngekhtkareluxktngxxkepn 17 ekhteluxktngsahrbtwaethnkhxngprachachn aelaxik 5 ekhteluxktngsahrbkhunnang inaetlaekhtkarpkkhrxngmiekhtkareluxktngdngni otngatapu ekhtkareluxktngphuaethnrasdr 10 ekht ekhtla 1 khn sahrbphuaethnkhunnangmi 1 ekht ekhtla 3 khn exxw ekhtkareluxktngphuaethnrasdr 1 ekht ekhtla 1 khn sahrbphuaethnkhunnangmi 1 ekht ekhtla 1 khn haxaip ekhtkareluxktngphuaethnrasdr 2 ekht ekhtla 1 khn sahrbphuaethnkhunnangmi 1 ekht ekhtla 2 khn wawaxu ekhtkareluxktngphuaethnrasdr 3 ekht ekhtla 1 khn sahrbphuaethnkhunnangmi 1 ekht ekhtla 2 khn nixuxas ekhtkareluxktngphuaethnrasdr 1 ekht ekhtla 1 khn sahrbphuaethnkhunnangmi 1 ekht ekhtla 1 khnfaybrihar thithakarnaykrthmntri xanackhxngfaybriharintxngngaxyuthinaykrthmntri phramhakstriyepnphuaetngtngnaykrthmntritamkhaaenanakhxngrthspha naykrthmntrimiwaradarngtaaehnng 4 pi naykrthmntriepnphuthwaykhaaenanaaedphramhakstriyinkaraetngtngrthmntriwakarkrathrwngtang khnarthmntriaetngtngcaksmachikinrthsphaaelasmachiknxkrthsphaidimekin 4 khn pccubnpraethstxngngamikrathrwng 15 krathrwng naykrthmntritxngngamihnathiepnhwhnarthbal prathansphaphuaethnrasdr esnxaenakaraetngtngphuwakarekhttxphramhakstriy aelabriharrachkaraephndin faytulakar faytulakarinpraethstxngngaepnxisracakxanacxun salintxngngami 4 praephth khux salxuththrn Court of Appeal salsungsud Supreme Court salthidin Land Court aelasalaekhwng Magistrates Court phramhakstriyaetngtngphuphiphaksasalxuththrnaelasalsungsudtamkhaaenanakhxng nxkcakni salsungsudmixanacitswnkhdithiekiywkhxngkbkhnarthmntrihruxkharachkar rwmthungwinicchywakdhmaykhdtxrththrrmnuyhruximdwy phrrkhkaremuxng phrrkhkaremuxnginpraethstxngngaphrrkhaerkkxtngkhunin kh s 1994 klumniymprachathipitykhuxphrrkhprachachn People s Party sungtxmaepliynchuxepn Human Rights and Democracy Movement HRDM phrrkhkaremuxngekharwmeluxktngintxngngaepnkhrngaerkin in kh s 2005 smachikphrrkhbangswnkhxngphrrkh HRDM idrwmknkxtng hlngcak kh s 2005 epntnma mikarkxtngphrrkhkaremuxngephimkhunxik 3 phrrkh khux Paati Langafonua Tu uloa thikxtngin kh s 2007 Tongan Democratic Labor Party sungklumkharachkarkxtngkhunin kh s 2010 aela Democratic Party of the Friendly Islands sungkxtngin kh s 2010 pccubntxngngamiphrrkhkaremuxngrwmthngsin 5 phrrkh karaebngekhtkarpkkhrxngkhxngtxngnga cak phrrkhkaremuxngthukphrrkhidthinnginrthspharwmkn 14 thinng cakthnghmd 17 thinng thiehluxepnphusmkhrxisra karaebngekhtkarpkkhrxng praethstxngngaaebngekhtkarpkkhrxngradbbnsudxxkepn 5 ekhtkarpkkhrxng odyaetlaekhtkarpkkhrxngmiemuxnghlkdngtxipni otngatapu emuxnghlkkhux nukuxaolfa haxaip emuxnghlk khux paing wawaxu emuxnghlk khux enxixafu nixuxas emuxnghlk khux hihiof exxw emuxnghlk khux aetlaekhtkarpkkhrxngmikaraebngekhtyxylngipepnekhtaelahmuban odyin kh s 2013 praethstxngngamiekhtkarpkkhrxngradbekht 23 aehng aelamihmuban 167 aehng inradbekhtkarpkkhrxngnnmiephiyng 2 ekhtkarpkkhrxngethannthimiphuwakarekhtkarpkkhrxngkhuxhaxaipaelawawaxu swninradbyxylngipnncamiecaphnknganpracaekht district Officer duaelkarpkkhrxng karbriharcdkarinradbekhtaelatharayngankarpkkhrxngtxrthmntriwakarkrathrwngmhadithyhruxphuwakarekhtkarpkkhrxng inkrnikhxnghaxaipaelawawaxu swninradbhmubancamiecaphnknganpracahmuban town Officer epnphuduaelhlk ecaphnknganpracaekhtaelaecaphnknganpracahmubanmacakkareluxktngodymiwarakhrawla 3 pi otngatapu wawaxu haxaip exxw nixuxas1 okolofoxxu 2 okolomtuxa 3 4 tatakaomotnga 5 lapaha 6 7 okoliw 8 enxixafu 9 paingomtu 10 11 12 hihiof 13 14 paing 15 ofxa 16 lulunga 17 18 haxaon 19 20 21 22 nixuxaotputapu 23 nixuxaofoxxuxachyakrrm praethstxngngamirayngankarekidxachyakrrmswnihyekiywkhxngkbthrphysinepnhlk odyphbwain kh s 2007 ekidxachyakrrmthiekiywkhxngkbthrphysin 1 400 khrngcakxachyakrrmthimikarraynganthnghmd 2 316 khrng praethstxngngayngkhngothspraharchiwitiwxyu aetxngkhkarnirothskrrmsaklcdihtxngngaepnpraethsthiykelikothspraharchiwitinthangptibti karpraharchiwitkhrnglasudekidkhunin kh s 1982khwamsmphnthrahwangpraethspraethstxngngaennsrangsmphnthxndikbthukpraeths odyihkhwamrwmmuxinpharkicrahwangpraethstang kbhlay praeths echn karsngkxngkalngekharwmrbinxfkanisthan epntn sahrbnoybaykartangpraethsinpccubnkhxngtxngngakhuxnoybaymxngtawnxxk Look East Policy thungaemwathwipexechiycatngxyuthangtawntkkhxngpraethstxngngaktam sungepnnoybaythiennkhwamrwmmuxthangdankaremuxngaelaesrsthkickbthwipexechiy praethstxngngayudthuxnoybaycinediyw odytdkhwamsmphnththangkarthutradbexkxkhrrachthutkbsatharnrthcinin kh s 1998 sahrbpraethsxun nntxngngamikhwamsmphnthxndikbshrth xxsetreliy aelaniwsiaelnd swnshrachxanackrsungpraethstxngngamikhwamsmphnthknmaxyangyawnannnimidmikhwamsmphnththiiklchidehmuxninxdit ehnidcakkrnikarpidsankngankhahlwngihyinkrungnukuxaolfaemux kh s 2006 praethstxngngamikhwamkhdaeyngrahwangpraethskhrngsakhyemuxkhrngthitxngngaprakasyudkhrxngaenwpakarngmienxrwa satharnrthmienxrwa odyficiimyxmrbkarprakasyudkhrxnginkhrngni kxihekidkhwamsmphnthxntungekhriydrahwang 2 praeths xyangirktamthng 2 praethsyngkhngecrcaineruxngekiywkbaenwpakarngaehngnixyukxngthphkxngkalngtxngngarahwangfuksxmkarrbinxfkanisthan xngkvs Tonga Defense Services epnkxngthphkhxngpraethstxngnga pccubnmi 2 ehlathphhlkkhuxkxngthphbkaelakxngthpherux sahrbkxngkalngthangxakasnnsngkdkxngthpherux hnathihlkkhxngkxngkalngpxngkntxngngakhuxpkpxngxanacxthipitykhxngpraeths karchwyehluxhnwynganphleruxninkickartang aelakarsnxngphrabrmrachoxngkarkhxngphramhakstriyepnkhrngkhraw praethstxngngaimmikareknththhar phuthiprasngkhekharbrachkarthharintxngngatxngmixayutngaet 16 pikhunip odyidrbkhayinyxmkhxngphupkkhrxng xyangirktam insphawasngkhram phramhakstriymiphrarachxanaceriykradmphl swnkhwamrwmmuxthangkarthhar txngngamikhxtklngkhwamrwmmuxkbshrth praethscin shrachxanackr xinediy aelaniwsiaelnd odyepnkhwamrwmmuxdankarfukkalngphlaelaokhrngsrangphunthankhxngkxngthphepnhlk sahrbptibtikarthangthharkhxngpraethstxngngaekidkhunkhrngaerkinsngkhramolkkhrngthi 1 odyepnswnhnungkhxngkxngthphniwsiaelnd inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 mikarkxtngkxngkalngpxngkntxngngakhun cnkrathngsngkhramyuticungprakasykelikhnwynganni xyangirktamkxngkalngpxngkntxngngaiderimdaeninkarxikkhrngin kh s 1946 nbaetnn kxngkalngpxngkntxngngamioxkasthahnathirksasntiphaphinhlaydinaedn thisakhykhuxkarrksasntiphaphin praethspapwniwkini karrksasntiphaphinhmuekaaosolmxn karekharwmkxngkalngphsmnanachatiephuxrksasntiphaphinxirk rwmipthungkarrwmrbinxfkanisthan sungtxngngasngkxngkalngkhrunghnungkhxngthngkxngthphekharwmrbinkhrngniphumisastr bnsay ekaathiekidcakkarpathukhxngphuekhaifitsmuthr bnkhwa chayfngkhxngtxngnga langsay ekaawawaxu langkhwa saphankhamlakuninwawaxu praethstxngngatngxyuinphumiphakhphxliniechiy ehnuxesnthrxpikxxfaekhprikhxrnelknxy emuxnghlwngkhxngpraethskhuxnukuxaolfa hangcakxxkaelnd emuxngthiihythisudkhxngpraethsniwsiaelnd ipthangtawnxxkechiyngehnuxpraman 1 770 kiolemtr aelaxyuhangcakkrungsuwa emuxnghlwngkhxngfici praman 690 kiolemtr txngngamiphunthi 747 tarangkiolemtr odythi 30 tarangkiolemtrepnphunna praethstxngngaprakxbdwyekaa 169 ekaa aetmi 36 ekaaethannthimiprachakrxyuxasy txngngaprakxbdwy 3 klumekaahlk khux otngatapusungprachakrekinkhrunghnungkhxngpraethsxasyxyu wawaxusungtngxyuthangtxnehnux aelahaxaipsungtngxyuthangtxnklangkhxngpraeths phumixakaskhxngpraethsmilksnaaebbekhtrxn dinkhxngtxngngamikhwamxudmsmburnehmaaaekkarephaapluk cudsungsudkhxngpraethsmikhwamsung 1 033 emtrtngxyubn phumipraethsaelathrnisnthan hmuekaatxngngaepnhmuekaathitngxyuinaephnepluxkolkaepsifikaelaxyuiklaephnepluxkolkxxsetreliy thangtawntkkhxnghmuekaamirxngluktxngnga hmuekaatxngngamithngekaathiekidcakphuekhaifaelaekaathiekidcakpakarng hmuekaatxngngakaenidkhunemuxidnnimsamarthkahndewlaidchdecn xyangirktammikarkhadkarnwahmuekaatxngngathuxkaenidkhunemux 5 lanpikxninsmyiphloxsin phuechiywchaybangkhnkhadwaekaaaerkkhxnghmuekaatxngngaxacekidkhuntngaetplaysmyimoxsinaelw ekaathisakhykhxngtxngngahlayekaaekidcakphuekhaif echn haxaip eka oxongnixuxa epntn ekaaphuekhaifehlaniekidcakaenwphuekhaifthiwangtwinaenwtawnxxkechiyngit tawntkechiyngehnuxkhxngekaaxata aenwphuekhaifdngklawmiswnsakhythaihtxngngamiekaaihmephimkhunma thwaekaathiekidkhunmannmkcacmlngthaelinpithdip pccubnmiekaaekidcakaenwphuekhaifaehngniephiyngekaaediywthiyngkhngxyu ekaainekhtkarpkkhrxngwawaxucaphbwayngphbphuekhaifthimiphlngxyu swnphundinekidcakhinpun rxb ekaannmkmipakarnglxmrxb swninekhtkarpkkhrxnghaxaipphbwayngmiphuekhaifthimiphlngxyuepncanwnmak odyechphaaxyangyingbnekaaekaaelaotfuxa inkhnathisphaphdinkhxngekaakhlaykbthiwawaxukhuxepndinthiekidcakhinpun swninekhtkarpkkhrxngotngatapuaelaexxwnnepnekaathikaenidcakpakarng lksnaphumipraethsepnthirabthimikhwamsungimekin 30 emtrcakradbnathaelpanklang aelamiethacakphuekhaifpkkhlumbriewnekaa thaihdininbriewnnimikhwamxudmsmburn inchwng 100 pithiphanma phbwamikarraebidkhxngphuekhaifinbriewnhmuekaanihlaykhrng phuekhaifthiihythisudkhxngtxngngamikhwamsung 515 emtr mikhwamkwang 5 kiolemtr tngxyubnekaaotfuxa sungekidkarraebidkhxngphuekhaifaehngnikhrnglasudin kh s 2013 swnphuekhaifthisungthisudkhxngpraethsnitngxyubnekaaeka mikhwamsung 1 030 emtrehnuxradbnathaelpanklang phumixakas praethstxngngaepnpraethsthitngxyuinekhtrxn odyidrbxiththiphlcaklmkhainexechiytawnxxkechiyngit praethstxngngami 2 vdukalkhuxvdufnaelavduaelng vdufninpraethstxngngayngepnvdukhxngphayuhmundwy sungxyuinchwngeduxnphvscikaynthungemsaynkhxngthukpi swnvduaelngxyuinchwngeduxnphvsphakhmthungtulakhmkhxngthukpi eduxnmkrakhm kumphaphnth aelaminakhmepneduxnthimiprimannafnmakthisud sungxacmiprimannafntxeduxnsungidthung 250 milliemtr xunhphumiechliyinpraethstxngngacaxyurahwang 23 26 xngsaeslesiystamaetlathxngthin invdufnsungepnvduthixakasrxnmixunhphumixyurahwang 25 26 xngsaeslesiys inkhnathivduaelngsungxakaseynmixunhphumirahwang 21 24 xngsaeslesiys caksthitithimikarbnthukphbwabriewnthimixunhphumisungsudinprawtisastrtxngngaxyuthibriewnhmuekaawawaxuinwnthi 11 kumphaphnth kh s 1979 odymixunhphumi 35 xngsaeslesiys khnathibriewnthimixunhphumitasudinprawtisastrtxngngaxyuthi odymixunhphumi 8 7 xngsaeslesiys sungwdinwnthi 8 knyayn kh s 1994 khxmulphumixakaskhxngnukuxaolfaeduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudthiekhybnthuk C F 32 90 32 90 31 88 30 86 30 86 28 82 28 82 28 82 28 82 29 84 30 86 31 88 32 90 xunhphumisungsudechliy C F 28 82 29 84 28 82 27 81 26 79 25 77 25 77 24 75 25 77 25 77 27 81 27 81 26 79 xunhphumiechliyaetlawn C F 25 77 25 77 25 77 24 75 23 73 21 70 21 70 21 70 21 70 22 72 23 73 23 73 23 73 xunhphumitasudechliy C F 22 72 22 72 22 72 21 70 20 68 18 64 17 63 18 64 17 63 19 66 20 68 20 68 20 68 xunhphumitasudthiekhybnthuk C F 16 61 17 63 15 59 15 59 13 55 11 52 10 50 11 52 11 52 12 54 13 55 16 61 10 50 primanfn mm niw 130 5 12 190 7 48 210 8 27 120 4 72 130 5 12 100 3 94 100 3 94 130 5 12 110 4 33 90 3 54 100 3 94 120 4 72 1 530 60 24 khwamchunrxyla 77 78 79 76 78 77 75 75 74 74 73 75 75 9wnthimifntkodyechliy 11 13 14 12 12 10 10 12 10 10 10 10 134aehlngthima Weatherbasethrphyakrdin pafnekhtrxninekaaexxw thrphyakrdininhmuekaakhxngpraethstxngngamikhwamxudmsmburnsungmak ykewnbriewnthimiphuekhaifekidihm dinswnihyintxngngaekidcakkarthbthmkhxngethaphuekhaifaelabnhinpunsungekidcakpakarng dinintxngngaepndinthimikhunsmbtithidi enuxngcakepndinthikarrabaynadiaelamikhwamsamarthinkarekbkknapanklang dininekaaotngatapuepndinthimikhwamxudmsmburnsungmak ehmaaaekkarplukphuchaelaeliyngstw inkhnathibriewnchayfngdinswnihyepndinekhm ephraaxyutidthael khnathidinkhxngekaaexxwmikhwamxudmsmburn ykewnthangtxnitkhxngekaathiepnhinpakarng swninhaxaip ekaaswnihyekidcakkarthbthmkhxngpakarng odyinhaxaipkalngephchiypyhakarphngthlaykhxnghnadin sungthaihdininhaxaipldkhwamxudmsmburn thrphyakrna hmuekaatxngngamithrphyakrnacudthikhxnkhangcakd chawtxngnganiymekbnacudiwinthngkhxnkritsungmacakkarekbkknafnaelasubnabadalkhunmaichinchiwitpracawn aehlngnahruxthaelsabsakhymktngxyuinekaaphuekhaif odyaehlngnathisakhyaelamikhnadihykhxngpraethstngxyuinekaawawaxu nixuxaofoxxu aelanixuxaotputapu phuchaelastw phunthiswnihykhxngpraethstxngngapkkhlumipdwypafnekhtrxn xyangirktamcakkarsnbsnunekstrkrrmtamekaatang thaihphunthipaldlngipmak hyaaelaphuchkhnadelkhlaychnidekhapkkhlumphunthipaedim khnathiphunthichayfngaelabriewnpakplxngphuekhaifmkphbimlmlukepnhlk praethstxngngaepnpraethsaerkinphumiphakhaepsifikitthimikarprakasphunthiepnekhtsngwnkhxngchati pccubninhmuekaatxngngamikarprakasphunthiihepnxuthyanaehngchatiaelw 2 aehng inekhtkarpkkhrxngexxwaelawawaxu ekhtla 1 aehng aelaprakasihepnekhtsngwn 6 aehng sahrbphuchthikhnphbinpraethstxngngann phbwami 770 spichis sungrwmipthungefirnthimi 70 spichis 3 spichisepnsingmichiwitechphaathin phuchemldepluxy 3 chnid epnphuchemldepluxythiphbechphaathin aelamiphuchdxk 698 spichis sungmi 9 spichisthiepnimdxkthxngthin ekaatang khxngpraethstxngngatangmispichiskhxngphuchthimikhwamhlakhlayaetktangkn echn ekaaotngatapumiphuch 340 spichis inkhnathiwawaxumiphuch 7 spichis aemcaphbphuchhlakhlayspichisinhmuekaakhxngpraethstxngnga aetstwthixasyxyuklbimmikhwamhlakhlaymaknk phbwamistweluxykhlan 12 spichisodyhnunginnnepnstwechphaathin khangkhaw 2 spichissungepnstweliynglukdwynmephiyngchnidediywthiepnstwthxngthin inbriewnchayfngthaelphbsingmichiwitpraephtheta mxllskaaelaplahlakhlaychnid nxkcakniinbriewnhmuekaatxngngayngphbnkepncanwnmak sungmi 75 spichis odymink 2 spichisepnnkthxngthinkhux sungxasyxyuinwawaxuaela Megapodius pritchardii sungxasyxyuinnixuxaofoxxu karekhamaxyuxasykhxngmnusyindinaedntxngngasngphlihnk 23 spichissuyphnthuipcaktxngngaesrsthkicthnbtrskulenginpaxanga praethstxngngamiesrsthkickhnadelk xnenuxngmacakthrphyakrmicakdaelaxyuhangiklcakaehlngtladolk sungepnpyhathangesrsthkicediywkbthiklumpraethsinthwipoxechiyeniyprasbxyu khwammnkhngthangesrsthkickhxngtxngngakhunxyukbpccythangthrrmchatiepnsakhy enuxngcakphlphlitswnihykhxngpraethsthisngxxkepnphlitphnththangkarekstraelakarpramng karthipraethstxngngaxyuhangiklcaktladolkimidepnephiyngpccythithaihkhakhnsngsinkhaaephngethann aetyngepnpccythithaihpraethstxngngakhadpccykarphlitxikdwysankkhawkrxngklang raynganwa in kh s 2013 txngngamixtrakarecriyetibotthangesrsthkicrxyla 1 ekstrkrrm bnsay ekstrkrchawtxngnga bnkhwa thaeruxemuxngenxixafu lang karchmwalthiexxw phakhekstrkrrmepnphakhesrsthkicthisakhymakkhxngtxngnga xyangirktaminpccubnswnaebngrayidkhxngphlitphnthphakhkarekstrinldlng odyrahwang kh s 1994 1995 phlitphnththangkarekstrmiswnaebnginphlitphnthmwlrwmprachachatirxyla 34 khnathichwng kh s 2005 2006 swnaebngdngklawldehluxrxyla 25 ethann saehtuhlkekidcakkarthirthsnbsnunphakhbrikar cnklayepnphakhthimikhwamsakhytxesrsthkicthxngthin sungrthbalmxngwacachwysrangrakthanthangesrsthkicthidiihaekpraethsaelasamarthyunhydxyuinkraaesolkaphiwtnid phlitphnththangkarekstrthisakhykhxngtxngngakhuxmaphraw sungrwmipthungtnklamaphraw nxkcakniyngsngxxkklwy wanilla fkthxng okok kaaef khing phuchhwchnidtang aelaphrikithy pramng praethstxngngamiekhtesrsthkiccaephaa 700 000 tarangkiolemtr odyrthbaltxngngaxnuyatihkxngeruxtangchatithiibxnuyatcbplaidrbkarxnumtiaelwekhamathapramnginekhtdngklawid sungkarthapramnginekhtdngklaw kxngeruxswnihyniymcbplathunasungmiprimankhxnkhangmakinbriewnni xyangirktamdwykarepliynaeplngthangphumixakasaelaxiththiphlkhxngexlnioyaelalaniyasngphlihprimankarcbplaldlngcakinxdit playkhristthswrrs 1960 erimmikarcblxbsetxrephuxkarkhamakkhun odyniymcbbriewnthangtxnehnuxkhxnghaxaipaelathangitkhxngaenwpakarngmienxrwa sungsamarthcbidthung 36 tntxpi xyangirktamprimankhxnglxbsetxrthicbidinpccubnldlngehlux 12 tntxpi nxkcakniyngphbkarcbhxysxngfaephuxichbriophkhtamkhrweruxn rwmipthungkhayepnkhxngthiralukaeknkthxngethiywdwy pccubnrthbaltxngngasngesrimihprachachneliynghxynangrmephuxnaikhmukmasrangrayidaektn karrierimeliynghxynangrmintxngngaekidkhuninwawaxu odyphnthuthieliynginrayaaerkepnphnthuthinaekhamacakyipuninchwngkhristthswrrs 1970 karthxngethiyw inchwnghlngyukhxananikhmchwngaerk thurkickarthxngethiywintxngngasbesaaelaimmikarphthnamaknk xyangirktamin kh s 1966 rthbaltxngngatdsinicsrangorngaermaehngaerkinpraethskhuxorngaermxinetxraenchnledtilnkhun karsrangorngaermxinetxraenchnledtilninkhrngnithuxidwaepnkawsakhyinkarphthnakarthxngethiyw pccubnkarthxngethiywthuxidwamibthbathsakhytxesrsthkictxngngaaelaepnphakhsakhythithaihengintratangpraethsihlekhapraeths in kh s 2011 minkedinthangaelankthxngethiywedinthangekhapraethstxngnga 94 960 khn ephimkhuncak 66 639 khn in kh s 2004 nkthxngethiywkwakhrunghnungkhxngcanwnnkthxngethiywthnghmdmacakpraethsniwsiaelndaelapraethsxxsetreliy cudprasngkhhlkkhxngkaredinthangekhapraethstxngngakhuxkarphkphxninwnhyudaelakareyiymyatiepnhlk kickrrmkarthxngethiywintxngngamixyuhlaykickrrm yktwxyangechn karphayeruxkhayk kardana karchmwalitthael kartkpla kardunk kareluxksuxnganhtthkrrmphunemuxng epntn karsngxxkaelakarnaekha praethstxngngasngxxksinkhaipyngpraethsekahliit shrth aelaniwsiaelndepnhlk odyphlitphnththisngxxkipyngpraethsehlanikhidepnrxyla 18 5 17 aela 15 6 tamladb praethsxun echn fici rxyla 10 2 yipun rxyla 9 5 samw rxyla 8 6 xemriknsamw rxyla 5 4 aelaxxsetreliy rxyla 5 1 sahrbphlitphnththitxngngasngxxknxkpraethskhux skhwxch plathael wanilla aela sahrbkarnaekhasinkha praethstxngnganaekhasinkhaekinkhrunghnungcakpraethsficiaelapraethsniwsiaelnd odykhidepnrxyla 35 7 aela 24 4 tamladb nxkcaknitxngngayngnaekhasinkhacakshrth rxyla 10 5 aelapraethscin rxyla 10 2 swnthiehluxepnkarnaekhasinkhacakpraethsxun sinkhathitxngnganaekhamainpraethskhux xahar ekhruxngckr echuxephling aelaekhmiphnthokhrngsrangphunthansamaontxngngain kh s 2011 idrayngansphaphokhrngsrangphunthankhxngtxngngainhlay dan odycakphlsarwcphbwamiephiyng 567 khrweruxncak 18 033 khrweruxnthwpraethsthiekhathungnaprapa sungswnihyepnkhrweruxnbnekaaotngatapu inswnkhxngkarekhathungiffannphbwakhrweruxnrxyla 88 51 miiffaich sungswnihyichkraaesiffathicaymatamesaiffa nxkcaknikarichnamnaelaphlngnganaesngxathityinkarphlitkraaesiffakepnxikhnungaehlngphlngnganthiniymichkn okhrngsrangphunthanthidikhxngpraethsswnihyphthnaxyuaetbnekaaotngatapu odyechphaaxyangyinginekhtemuxngnukuxaolfa xnthuxidwaepnekhtemuxngaethcringephiyngaehngediywkhxngpraeths karkhmnakhm thaxakasyannanachatifuxaxaomtu thnnswnmakinpraethstxngngasrangodyichenginbricakhcakrthbaltangpraeths praethstxngngamikhwamyawthnnrwmkn 680 kiolemtr ody 496 kiolemtryngimidladyang enuxngcaktxngngaepnpraethsekaakhnadelkaelakarcdkarthidinyngimmiprasiththiphaph cungepnpyhainkarphthnarabbthnn prachachnniymichkarkhnsngthangeruxinkaredinthangrahwangekaa odythaeruxthisakhykhxngpraethsxyuthinukuxaolfa paing aelaenxixafu praethstxngngamithaxakasyan 6 aehng odymiephiyng 1 aehngethannthimiphunladyang thaxakasyannanachatifuxaxaomtu saykarbinaehngchatikhxngtxngngakhux odykxtngin kh s 1985 sungtxmaprasbphawalmlalayaelaelikkickarin kh s 2004 cakkarbriharkickarthilmehlwkhxngrthbalinkhnann hlngcaknnidmikarcdtng khunephuxrxngrbkaredinthangphayinpraeths xyangirktamrthbalidephikthxnibxnuyatsaykarbinnihlngcakehtukarnephlingihmsanknganaehnghnungkhxngsaykarbin saykarbinkhxngtangpraeths idaek aexrniwsiaelnd ewxrcinxxsetreliy aelaficiaexrewy epnphudaeninkarkaredinthangrahwangpraethsintxngnga swnsaykarbineriyltxngngadaeninkarkaredinthanginpraeths karsuxsar Tongan Broadcasting Commission inpraethstxngngamisuxphimphephyaephrrayspdahxyu 2 chbb khux nitysarmatangiotngasungepnkhxngexkchnaelahnngsuxphimph Tonga Chronicle sungepnkhxngrthbal odytiphimphinwnsukrkhxngthukspdahepnphasatxngngaaelaphasaxngkvs nxkcakniyngmihnngsuxphimphexkchn the Times of Tonga sungtiphimphinemuxngxxkaelnd niwsiaelnd odyrayngankhawcakhmuekaatxngnga 2 xathitytxkhrng praethstxngngamisthaniwithyu 4 sthani dngni Kool 90FM rthbalepnecakhxng Tonga Radio Magic 89 1 FM Nuku alofa Radio aela 93FM sungthngsamsthanihlngepnkhxngexkchn sthaniothrthsnmiphudaeninkar 2 raykhuxrthbalaeladicithiwisungepnexkchn inkartidtxsuxsarrahwangekaannpraktkarichothrsphthaelaxinethxrent odyphbwamiothrsphthphunthanichngan 30 000 ekhruxng othrsphthmuxthux 56 000 ekhruxng khnathimiphuichxinethxrent 8 400 khn nkeriynchawtxngngakarsuksa rabbkarsuksaaebbsmyihmintxngngaerimkhunin kh s 1826 odykhnamichchnnariewselyn hlngcaknnimnanmichchnnariklumxun thngormnkhathxlikaelaopretsaetntidekhamacdkarsuksa cungxacklawidwarakthanthangkarsuksakhxngpraethstxngngamacakklummichchnnariehlani sungmikarsxdaethrkhlkkhasxnkhxngsasnakhristinkarcdkareriynkarsxnxikdwykarsuksaphakhbngkhbkhxngpraethstxngngakahndihprachachncbkarsuksaimtakwachnprathmsuksa sungkhxkahndnibngkhbichmatngaet kh s 1876 karcdkarsuksainpraethstxngngaxyuphayitkarkhwbkhumkhxngkhnamichchnnariklumtang cnkrathng kh s 1882 emuxrthbalekhabriharrabbkarcdkarsuksaexng xyangirktamkhnamichchnnariklumtang idrbxnuyatihepidorngeriynxikkhrngin kh s 1906 praethstxngngathuxidwaepnpraethsthimirabbkarcdkarsuksadiemuxethiybkbklumpraethsoxechiyeniydwykn enuxngcakprachachnchawtxngngaswnmakruhnngsux odyrayngansamaontxngnga kh s 2011 phbwaprachachnchawtxngngaruhnngsuxthungrxyla 98 2 nxkcaknirxyla 86 khxngprachakrsamarthsuxsaridthngphasaxngkvsaelaphasatxngnga praethstxngngacdkarsuksaphakhbngkhbihaekedkxayutngaet 6 thung 14 pi aebbihepla sungtangcakhlaypraethsinekhtoxechiyeniy rabbkarsuksatxngngaaebngradbchnxxkepnprathmsuksa 6 chn mthymsuksa 7 chn aelaradbxudmsuksa odyinradbxudmsuksacamithunihnksuksachawtxngngaeriyntxtangpraeths odyechphaaxyangying xxsetreliy niwsiaelnd aelayipun sungmiokhrngkarihkhwamchwyehluxtxngngaindankarsuksa satharnsukh karsatharnsukhkhxngpraethstxngngaxyuinradbthidiemuxepriybethiybkbklumpraethsinoxechiyeniydwykn xyangirktamprachachnintxngngayngniymkarrksaphyabalaebbdngedimxyu prachachncaekharbkarrksatamaephnpccubnkemuxehnwaepnwithithiepnpraoychnkbkarrksaphyabalkhxngtn prachachnchawtxngngaidrbswsdikarcakrthinkarrksaphyabalaebbihepla aettxngcharakhayadwytnexng karsatharnsukhphakhexkchnnnyngxyuinwngaekhbaelaepnthurkickhnadelk phudaeninkickarswnihyepnaephthyaephnobranaelaaephthyaephnpccubnthidaeninkickarhlngesrcsinkarthangan nxkcakniinpraethstxngngayngmirabbkarpraknsukhphaph aetrabbkarpraknsukhphaphnikhrxbkhlumechphaakharachkar rthbaltxngngaaebngekaatang khxngpraethsxxkepn 4 swninkarbriharngandansatharnsukh txngngamiorngphyabal 4 aehng odyorngphyabaliwoxlainkrungnukuxaolfa emuxnghlwngkhxngpraeths epnorngphyabalkhnadihythisudkhxngpraeths 199 etiyng odyepnorngphyabalthirxngrbkarrksaphyabalkhnsung xyangirktamkarrksaphyabalthitxngphungphaethkhonolyiradbsungmakniymsngiprksatxinpraethsniwsiaelndody Medical Transfer Board epnphuxnumti sahrborngphyabalxik 3 aehngtngxyuthiexxw haxaipaelawawaxu swninnixuxasimmiorngphyabal aetmisunykaraephthykhxngrthbalrxngrbkarrksaphyabalinbriewnni in kh s 2010 praethstxngngamiaephthy 58 khn phyabal 379 khnaelathntaephthy 10 khnprachakr say xasnwiharormnkhathxlik khwa hyingchawtxngnga caksamaonprachakraelaekhha kh s 2016 txngngamiprachakr 100 651 khn aelamikhwamhnaaennkhxngprachakrpraman 155 khntxtarangkiolemtr prachakrswnihyxasyxyuinekhtkarpkkhrxngotngatapu sungkhidepnrxyla 74 khxngprachakrthngpraeths incanwnniswnmakxasyxyuinkrungnukuxaolfa xnepnekhtemuxngephiyngaehngediywkhxngpraeths khnathiekhtkarpkkhrxngwawaxu haxaip exxwaelanixuxasmiprachakrxyuxasyrxyla 14 6 5 aela 1 tamladb nbtngaettnkhriststwrrsthi 20 prachakrtxngngamiaenwonmephimkhunxyangtxenuxng thwacakkarsamaoninkhrngniklbphbwaprachakrodyrwmthngpraethsldlngrxyla 0 51 okhrngsrangprachakrkhxngtxngngarahwangephschayaelaephshyingimaetktangknmak odyphbwamiprachakrchay 99 7 khntxprachakrhying 100 khn aethakphicarnatamekhtkarpkkhrxngxyanghaxaip exxwaelanixuxas xtraswnkhxngprachakrchaycasungkwaprachakrhyingmak aetxtraswnkhxngprachakrchayinphunthiehlannmiaenwonmldlng enuxngcaktxngkaraeswnghaoxkasthangesrsthkicthiekaaotngatapuaelaintangpraeths odyechphaaxyangyinginniwsiaelnd xxsetreliyaelashrth hakphicarnacakechuxchatikhxngprachakr phbwaprachakrtxngngainpraethsswnmakepnchawtxngnga micanwn 97 662 khn rxyla 97 swnrxyla 3 thiehluxepnprachakrklumxun odyklumihythisudidaek lukkhrungtxngnga chawcin chawyuorpaelachawfici epntn prachakrthimiechuxsayxunswnihyxasyxyubnekaaotngatapu odyechphaaxyangyinginphunthikrungnukuxaolfa swnnixuxasaelaexxwmiprachakrechuxsayxunnxymak sungthngsxngphunthimiprachakrechuxsayxunrwmknephiyng 48 khn ethann dwyprachakrekuxbthngpraethsepnchawtxngngahruxmiechuxsaytxngnga dngnncungichphasatxngngaepnphasahlkpracachati sungmikhwamkhlaykhlungkbxyangmak prachakrkhxngtxngngathangtxnehnuxcaphudphasatxngngatangsaeniyngkbprachakrthangtxnit nxkcakniprachakrtxngngaswnihysamarthichphasaxngkvsinkarsuxsariddi thngnienuxngcakrabbkarsuksaaelasuxsarmwlchnthiichphasaxngkvsxyangaephrhlay odyexksarrachkarswnihytiphimphepnphasatxngngaaelaphasaxngkvs emuxphicarnakarnbthuxsasnakhxngprachakrtxngngaphbwaswnihynbthuxsasnakhristnikayopretsaetnt rxyla 64 1 incanwnniswnmaknbthuxfriewselynechirchkhidepnrxyla 35 05 khnathimikarnbthuxnikaymxrmxnrxnglngma khidepnrxyla 18 6 khnathinikayormnkhathxlik miphunbthuxrxyla 14 2 thiehluxnbthuxsasnaxun odyklumihysudepnphunbthuxsasnabaih nxkcaknicanwnprachakrthiimnbthuxsasnaidyngmicanwnnxy aetmiaenwonmephimkhuneruxy prachakrtxngngamixayukhadhmayechliypraman 76 40 pi nbepnpraethsthimiprachakrxayuyunyawinradbpanklang khidepnxndbthi 87 khxngolk mixtrakarekidthi 22 20 khntxprachakrhnungphnkhn mixtrakartay 4 90 khntxprachakrhnungphnkhn prachakrtxngngaephchiykbpyhaorkhxwn odyphbwakwarxyla 90 khxngprachakrminahnkekinkwakhamatrthantamkarkhanwndchnimwlkay aelamiprachakrrxyla 60 khxngpraethsepnorkhxwn emuxphicarnaechphaaprachakrphuhying phbwaprachakrhyingchawtxngngachwngxayurahwang 15 85 piepnorkhxwnthungrxyla 70 praethstxngngaaelapraethsnaxuruepnpraethsthimiprachakrnahnkekinaelaorkhxwnmakthisudinolkwthnthrrm bnsay karetnraoxtuhaka bnkhwa klxnglali lang karetnralakalaka sngkhmtxngngamikaraebngchnchntngaetobrancnthungpccubn xyangirktamkaraebngchnchninsngkhmtxngngaerimldlnghlngmikarepliynaeplngkarpkkhrxnginpccubn insngkhmtxngngaaebngphukhnxxkepnsamklum klumaerkepnklumechuxphrawngsaelachnchnsungsungepnchnchnnakhxngsngkhm klumthisxngepnklumkhxngnkbwchaelachnchnnaxun swnklumthisamepnklumsamychn sthanphaphkhxngbukhlintxngngatamokhrngsrangthangsngkhmaelakhrxbkhrwnnkhunxyukbsthanaaelaxanackhxngbukhkhlnn ephsaelaxayumiswninkarcdokhrngsrangchnchndwy odythwipephshyingmisthanphaphsungkwaphuchay xyangirktam chayepnecakhxngthidinaelasamarthsngtxbrrdaskdikhxngtnaekbutrhlanthiepnchayid dntri khxmulekiywkbdntriaelaekhruxngdntriphunemuxngkhxngtxngngachwngkxnmikartidtxkbchawtawntknnmixyunxymak xyangirktamkptnecms khuk aelawileliym marienxr idbnthukekiywkbdntriaelaephlngkhxngtxngngaiw ekhruxngdntritxngngaswnihyepnpraephthekhruxngkrathb ekhruxngdntriinklumekhruxngkrathbthisakhykhxngtxngnga echn klxngnafasungthacakim tafuxasungthacakimiphaelaxuetetsungmilksnakhlaykbphin epntn nxkcakklumniaelw ekhruxngdntriphunemuxngkhxngtxngngayngmithngklumekhruxngsayaelaklumekhruxnglm xyangirktam ekhruxngdntriinklumekhruxnghnngnnephingekhamaaephrhlayintxngngaemuxkhriststwrrsthi 19 odynaekhacaksamw phrxmkbkaretnmaxuluxulu pccubndntriaelabthephlngkhxngtxngngaidrbxiththiphlcakdntrikhxngyuorpaelaaekhribebiyn odynadntrithiidrbxiththiphlcakphumiphakhxunehlanimaichrwmkbdntriphunemuxngaelabthephlngphunemuxng karetnra karetnrakhxngtxngngaidrbkarxnurksaelasubthxdmacnthungpccubn karetnrathikhunchuxthisudkhxngtxngngainpccubnkhuxkaretn sungepnkaretnrathiichphuchayaesdngethann odyichekhruxngdntriprakxbkaraesdng 3 chin khux klxng xuetetaela Ratchet odymiphuchayaelaphuhyingthinngxyudanhnaphuetnepnphurxngsnbsnun inxditkaretnemextuxupakicaetninoxkaskarechlimchlxngradbchatiethann aetinpccubnmikarcdaesdngemextuxupakitamhmubantang bxykhrng nxkcakniyngmikaretnraxikaebbhnungsungeriykwa thiichnkaesdngthngchayaelahying karaesdngpraephthniepnkaraesdngthiichmuxprakxbkaraesdngbxymak ekhruxngdntrithiniymichprakxbkaraesdngkhuxekhruxngdntritawntkphsmphsankbekhruxngdntriphunemuxng odyekhruxngdntritawntkthinamaichkhuxkitar inkhnathitafuxaepnekhruxngdntriphunemuxngthiichprakxbkaraesdng karetnraxikpraephthhnungkhxngtxngngathimichuxesiyngmakaelaidrbkarykyxngcakyuensokihepnmrdkthangwthnthrrmthicbtxngimidin kh s 2013 khux odykaretnrapraephthnithuxidwaepnnatsilppracachatikhxngpraethstxngnga karetnralakalakaepnkaretnrathiichthngkaretn karphud karichesiyngaelaekhruxngdntri karetnlakalakacaichphuaesdngpraman 100 khn phsmphsanknthngchayaelahying chaycaaesdngthathangthimiphlng khnathihyingcaaesdngthathangthiswyngam xaharaelaekhruxngdum oxit chawtxngngasmykxnniymrbprathanphlitphnththangkarekstrepnxaharhlk xnidaek mneths klwy maphraw aelaphlitphnththangkarekstrxun phlitphnthcakthaelksakhyenuxngcaksamarthhaidngayinthxngthin chawtxngngasmyobranniymbriophkhplaaelastwcaphwkhxy odythiplatxngphankrrmwithikarxbkhwamrxnkxn khnathistwcaphwkhxychawtxngngasmyobranniymbriophkhaebbdib niymbriophkhnakathiepnekhruxngdum nxkcakniyngphbhlkthankareliyngsukrinkhrweruxnchawtxngngasmyobranxikdwy hlngchawyuorpekhama chawyuorpidnaphuchtangthinekhamaintxngngasngphlihxaharaelaekhruxngdumkhxngtxngngainyukhhlngidrbxiththiphlmacakphuchehlann odyphuchthichawyuorpnaekhamaintxngngakhux hwhxm kahlapli aekhrrxt maekhuxeths sm manaw rwmipthungaetngom aetngomklayepnhnunginphuchthiidrbkhwamniymmakthisudinpraethstxngnga enuxngcakaetngomepnwtthudibsakhyinkarthaekhruxngdumkhxngtxngngathiidrbkhwamniymmakthisudxyanghnungkhux sungepnekhruxngdumthimiaetngomaelamaphrawepnswnprakxb bangkhrngmikarnamamwnghruxsbpardepnwtthudibdwy chawtxngnganxkcakcanaphuchthichawyuorpnaekhamathaepnekhruxngdumaelw yngnaphuchnnmaprungepnxaharphunemuxngdwy yktwxyangechn lupulu sungnamaekhuxethsaelahwhxmmaprungphuchphunemuxngtxngngaaelaenuxcnidepnxaharthiidrbkhwamniymintxngngaxyanghnung nxkcakthiklawmakhangtnaelw praethstxngngayngmiekhruxngdumyxdniymxikchnidhnungthieriykwa khawa odykhawannthamacaktnkhawa niymichinphithikarrwmthngphithikrrmskdisiththitang nxkcaknichawtxngnganiymnakhawamaichrksaorkhaelabrrethaxakarhlakhlay sungkhawamisrrphkhuninkarrksaxakarpwdkhx wnorkh hnxnginaelaxakarikh kila rkbithimchatitxngnga kilapracachatiaelaidrbkhwamniymmakthisudinpraethstxngnga khux rkbi praethstxngngaekharwmkaraekhngkhnrkbichingaechmpolktngaet kh s 1987 sungepnkarcdchingaechmpolkkhrngaerk karaekhngkhnthitxngngaprasbkhwamsaercmakthisudkhuxkaraekhngkhnrkbichingaechmpolkin kh s 2007 aela kh s 2011 sungsamarthcbinxndbthidiphxthicaekhaaekhngkhninkhrngtxipodyxtonmti dankilafutbxl praethstxngngaepnsmachikkhxngshphnthfutbxlrahwangpraethsaelasmaphnthfutbxloxechiyeniytngaet kh s 1994futbxlthimchatitxngngaekhaaekhngkhnradbnanachatikhrngaerkinesathaepsifikekms odykaraekhngkhninkhrngaerknnphbkbfutbxlthimchatitahiti sungfutbxlthimchatitxngngaaeph 8 0 phlkaraekhngkhnthiaeythisudkhxngfutbxlthimchatitxngngakhuxkaraephtxfutbxlthimchatixxsetreliy 22 0 in kh s 2001 swnphlkaraekhngkhnthidithisudkhxngfutbxlthimchatitxngngakhuxkarchna 7 0 in kh s 2003 khnakrrmkaroxlimpikkhxngpraethstxngngannkxtngkhunin kh s 1963 aelaidrbkaryxmrbcakkhnakrrmkaroxlimpiksaklin kh s 1984 praethstxngngaekharwmkaraekhngkhnoxlimpikvdurxnkhrngaerkin kh s 1984 praethstxngngaekhyidrb 1 ehriyyrangwlcakkaraekhngkhnoxlimpikin kh s 1996 thilxsaexneclis shrth odyinkhrngnn nkkilamwysaklsmkhreln idehriyyengin swnkaraekhngkhnoxlimpikvduhnawnn txngngacaekharwmkaraekhngkhnoxlimpikvduhnaw 2014 thiemuxngoschi praethsrsesiy epnkhrngaerk wnhyudrachkar praethstxngngaprakasihmiwnhyudrachkar 10 wn odymiwnhyudrachkarthimikhwamekiywkhxngkbpraeths 6 wnaelamiwnhyudrachkarthiepnsaklxik 4 wn echn wnxisetxraelawnkhristmas wnthi chux chuxwninphasaxngkvs1 mkrakhm wnkhunpiihm New Year s Day wnechlimphrachnmphrrsaphramhakstriyaehngrachxanackrtxngnga Birthday of the reigning Sovereign of Tonga wnechlimphrachnmphrrsamkudrachkumaraehngrachxanackrtxngnga Birthday of the Heir to the Crown of Tonga wnsukrpraesrith Good Friday wncnthrskdisiththi Easter Monday4 mithunayn wnexkrach Emancipation Day wnechlimchlxngkarkhrxngrachykhxngphramhakstriyaehngrachxanackrtxngnga the Anniversary of the Coronation Day of the reigning Sovereign of Tonga4 tulakhm wnrththrrmnuy Constitution Day4 thnwakhm wnechlimchlxngkarkhrxngrachykhxngphraecacxrc tuopxuthi 1 The Anniversary of the Coronation of H M King George Tupou I25 thnwakhm wnkhristmas Christmas Day and the day immediately succeeding Christmas Dayxangxing The World Factbook Tonga Geography subkhnemux 16 November 2018 Mormons surpass Catholics in Tonga Matangi Tonga 2 October 2014 subkhnemux 26 June 2021 Census Report 2011 Vol 1 rev Tonga Department of Statistics 11 07 2013 page 39 PDF Nukuʻalofa Statistics Department Tonga January 2017 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 27 February 2018 Report for Selected Countries and Subjects www imf org subkhnemux 8 April 2020 Gini Index coefficient CIA World Factbook subkhnemux 16 July 2021 Human Development Report 2021 2022 PDF phasaxngkvs United Nations Development Programme 8 September 2022 subkhnemux 8 September 2022 sanknganrachbnthityspha chuxbannamemuxng opraekrmprayukt 2559 subkhn 30 minakhm 2560 Tongasat khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 04 subkhnemux 29 January 2014 Demographic Yearbook Table 3 Population by sex rate of population increase surface area and density pdf United Nations Statistics Division 2007 subkhnemux 29 January 2014 CIA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 01 25 subkhnemux 29 January 2014 princeton khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 01 11 subkhnemux 29 January 2014 Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 2 ANALYTICAL REPORT PDF Tonga Statistics Department subkhnemux July 6 2020 CIA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 09 27 subkhnemux 29 January 2014 Uranium dating shows Polynesians came to Tonga in 826 BC Carina Boom subkhnemux 29 January 2014 Tonga profile BBC News Asia subkhnemux 29 January 2014 Strong showing for Tonga democrats in election BBC News Asia Pacific subkhnemux 29 January 2014 Bill Goodwin Frommer s South Pacific subkhnemux 30 January 2014 Churchward C M 1985 Tongan grammar Oxford University Press ISBN 0 908717 05 9 HAWAIIAN ASTRONOMICAL CONCEPTS PDF MAUD W MAKEMSON subkhnemux 30 January 2014 Mariner William 1818 An Account of the Natives of the Tonga Islands Patrick Vinton Kirch The Lapita Peoples Ancestors of the Oceanic World Burley Dickinson Barton amp Shutler Jr Lapita on the Periphery New data on old problems in the Kingdom of Tonga PDF go4biodiv org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2015 04 23 subkhnemux 30 January 2014 Lapita Pottery Archaeological Sites A National Serial Site for consideration as the Kingdom of Tonga s contribution to a transnational serial site listing UNESCO subkhnemux 30 January 2014 Palace Office2013 Tonga 30 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 05 13 subkhnemux 2014 01 30 St Cartmail Keith 1997 The art of Tonga Honolulu Hawai i University of Hawai i Press p 39 ISBN 0 8248 1972 1 Thomson Basil January 1901 Note Upon the Natives of Savage Island or Niue The Journal of the Anthropological Institute of Great Britain and Ireland Royal Anthropological Institute of Great Britain and Ireland 31 137 Palace Office2013 Tonga 30 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 05 13 subkhnemux 2014 01 30 Palace Office2013 Tonga 30 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 05 13 subkhnemux 2014 01 30 Charles F Urbanowicz Motives and Methods Missionaries in Tonga In the Early 19th Century 2014 12 18 thi ewyaebkaemchchin James B Minahan Ethnic Groups of South Asia and the Pacific An Encyclopedia Santa Barbara Calif ABC CLIO CIA World Factbook The best country factbook available online 30 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 04 28 subkhnemux 2014 01 30 Van der Grijp Paul 2014 Manifestations of Mana Political Power and Divine Inspiration in Polynesia LIT Verlag Munster ISBN 9783643904966 Spurway John 2015 Ma afu otu itonga In Ma afu Prince of Tonga Chief of Fiji The Life and times of Fiji s First Tui Lau ANU Press Niumeitolu Heneli T 2007 The State and the Church the state of the Church of Tonga PDF Findlay G G Holdsworth W W 1921 The history of the Wesleyan Missionary Society Vol III Tonga britannica 3 February 2014 The Tupou Dynasty royalark 3 February 2014 Sione Latukefu Church and State in Tonga The Influence of The Wesleyan Methodist Missionaries in Political Development of Tonga 1826 1875 Canberra ANU press 1967 VAN DER GRIJP PAUL 1993 THE MAKING OF A MODERN CHIEFDOM STATE THE CASE OF TONGA Bijdragen Tot De Taal Land En Volkenkunde 149 4 661 672 Ratuva Steven 2019 Contested Terrain Reconceptualising Security in the Pacific Australia ANU Press ISBN 9781760463199 Martin Daly Tonga A New Bibliography Honolulu University of Hawaiʻi Press 2009 THE TONGA MA A TONGA KAUTAHA A WATERSHED IN BRITISH TONGAN RELATIONS Penny Lavaka 3 February 2014 Amanda L SullivanLee PDF UNIVERSITY OF HAWAI I AT MANOA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 05 12 subkhnemux 15 August 2020 Kohn George C 2008 Encyclopedia of plague and pestilence from ancient times to the present Infobase Publishing p 363 ISBN 978 0 8160 6935 4 Tonga profile BBC Asia Pacific 3 February 2014 Kingdom of Tonga nationsonline 3 February 2014 Tonga s Pro Democracy Movement JSTOR 3 February 2014 michaelfield org December 1997 Tonga In Depth History Frommers com subkhnemux 27 June 2010 The ships that died of shame smh com au 14 January 2003 subkhnemux 27 June 2010 iSite Interactive Limited Islands Business khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 12 subkhnemux 27 June 2010 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk No resolution in sight in Tonga tvnz August 30 2005 subkhnemux 3 February 2014 Tonga s Prince Tu ipelehake killed in car accident Radio New Zealand International subkhnemux 3 February 2014 Matangi Tonga Online khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 02 04 subkhnemux 3 February 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk TONGA PDF state gov 4 February 2014 Constitution of Tonga Commonwealth Governance 4 February 2014 Act of Constitution of Tonga wipo 4 February 2014 PDF legislation 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 01 19 subkhnemux 2014 02 04 PDF crownlaw 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 08 30 subkhnemux 2014 02 04 Tonga Parliament enacts political reforms Radio New Zealand International 4 February 2014 Ministry of Information and Communications 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 01 11 subkhnemux 2014 02 04 Purna Sen Universal Periodic Review Lessons Hopes and Expectations London Commonwealth Secretariat 2011 The World Factbook 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 05 11 subkhnemux 2014 01 31 TONGA Parliamentary Chamber Fale Alea IPU 4 February 2014 Vaea and Tu ilakepa to enter House in Nobles seats Matangi Tonga Online 4 February 2014 The Commonwealth 6 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 27 subkhnemux 2014 02 06 PDF crownlaw 6 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 08 30 subkhnemux 2014 02 06 CIA 6 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 03 28 subkhnemux 2014 02 06 PDF Ministry of Information and Communications 6 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 08 30 subkhnemux 2014 02 06 Ministry of Information and Communications 17 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 04 22 subkhnemux 2014 02 17 Commonwealth 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 02 23 subkhnemux 2014 01 31 Pacific Islands Report 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 05 16 subkhnemux 2014 02 04 Press Release Sustainable Nation Building Party tongareview 4 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 26 subkhnemux 2022 05 05 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Tonga PSA forms party ahead of November election Radio New Zealand International 4 February 2014 Another new political party emerges in Tonga as country prepares for 2010 elections Radio New Zealand International 4 February 2014 TONGA citypopulation subkhnemux 1 February 2014 PDF Commonwealth Local Government Forum khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2015 04 21 subkhnemux 1 February 2014 PDF legislation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 02 08 subkhnemux 1 February 2014 Crime Prevention Tonga Department of Statistics 8 February 2014 DEATH PENALTY COUNTRIES ABOLITIONIST IN PRACTICE Amnesty International 8 February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 07 23 subkhnemux 2014 02 08 RAF trains Tongan troops for Afghanistan Ministry of Defence UK subkhnemux 19 February 2014 PERMANENT MISSION OF THE KINGDOM OF TONGA MISSION TO THE UNITED NATIONS PDF United Nations 21 March 2014 China seeks to strengthen ties with Tonga Islands Business International 21 March 2014 Department of Foreign Affairs and Trade Australia Government 21 March 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 10 07 subkhnemux 2014 03 21 Ministry of Foreign Affairs and Trade New Zealand 21 March 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 03 30 subkhnemux 2014 03 21 Pacific Tourism Guide 21 March 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 04 19 subkhnemux 2014 03 21 Fiji Tonga war over Minerva Reef Fairfax New Zealand Limited 21 March 2014 Fiji and Tonga govts continue talks on reef dispute Radio New Zealand International 21 March 2014 PDF legislation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 02 08 subkhnemux 19 February 2014 princeton khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 01 31 subkhnemux 19 February 2014 Tala Mai Tafa Guardians of Al Faw Palace The Mighty Royal Tongan Marines samoanews khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 03 26 subkhnemux 19 February 2014 Tonga Location size and extent Encyclopedia of the Nations subkhnemux 7 February 2014 Tonga Encyclopedia of the Nations subkhnemux 7 February 2014 TONGA FAO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 11 subkhnemux 7 February 2014 Edward R Lovell and Asipeli Palaki PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 26 subkhnemux 21 March 2014 Fonte David W Steadman Extinction amp Biogeography of Tropical Pacific Birds University of Chicago 2006 S 21 594 s ISBN 0 226 77142 3 David Stanley Tonga Samoa Handbook Emeryville CA Moon Publication 1999 216 Tofua NATIONAL MUSEUM OF NATURAL HISTORY subkhnemux 21 March 2014 NATIONAL MUSEUM OF NATURAL HISTORY khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 25 subkhnemux 21 March 2014 Chapter 14 Tonga PDF Climate Change in the Pacific Scientific Assessment and New Research Volume 2 Country Reports subkhnemux 13 February 2014 The Kingdom of Tonga s Initial National Communication PDF The Kingdom of Tonga s Initial National Communication subkhnemux 13 February 2014 CLIMATE SUMMARY OF TONGA PDF Tonga Meteorological Service subkhnemux 13 February 2014 Weatherbase Historical Weather for Nukuʻalofa Tonga weatherbase com cakaehlngedimemux 17 September 2011 subkhnemux 22 March 2011 PDF SPREP khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 01 30 subkhnemux 8 February 2014 Country Pasture Forage Resource Profiles TONGA fao khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 11 subkhnemux 14 February 2014 Tonga Topography Encyclopedia of the Nations subkhnemux 8 February 2014 KINGDOM OF TONGA PDF ramsar khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 08 11 subkhnemux 13 February 2014 Tonga Parks amp Marine Reserves jasons subkhnemux 13 February 2014 Arthur L Review of the protected areas system in Oceania Gland Switzerland IUCN 1986 S 148 312 s ISBN 2 88032 509 9 Avibase Bird Checklists of the World Tonga Avibase subkhnemux 13 February 2014 Kingdom of Tonga and Niue north of New Zealand World Wildlife Fund subkhnemux 13 February 2014 PDF sprep khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 26 subkhnemux 6 March 2014 rachxanackrtxngnga Kingdom of Tonga PDF krathrwngkartangpraeths subkhnemux 6 March 2014 lingkesiy Fisheries Resources Profiles Kingdom of Tonga PDF PACIFIC ISLANDS FORUM FISHERIES AGENCY subkhnemux 22 February 2014 PEARL OYSTER PDF Pearl Oyster Information Bulletin subkhnemux 22 February 2014 TOURISM DEVELOPMENT IN THE KINGDOM OF TONGA PDF School of Travel Industry Management University of Hawaii at Manoa subkhnemux 7 March 2014 International Arrivals Departures and Migration Bulletin 2011 Statistics Department subkhnemux 7 March 2014 International arrivals by Air and Yacht by country of Citizenship 2005 2011 Statistics Department subkhnemux 7 March 2014 Visitors Arrivals by Reason for Visit 2005 2011 Statistics Department subkhnemux 7 March 2014 Things to do Tonga Visitors Bureau subkhnemux 7 March 2014 Census Report 2011 Vol 1 rev Tonga Department of Statistics subkhnemux 2 February 2014 happytellus khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 02 07 subkhnemux 20 February 2014 Royal Tongan Airlines khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2004 04 15 subkhnemux 20 February 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Liquidator for Royal Tongan invites creditors to claim Radio New Zealand subkhnemux 20 February 2014 Peau Vava u Ltd khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 27 subkhnemux 20 February 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Tonga Airports Limited khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 06 29 subkhnemux 20 February 2014 Tonga Airports Limited khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 02 22 subkhnemux 20 February 2014 Tonga Profile BBC subkhnemux 20 February 2014 Tonga pressreference subkhnemux 20 February 2014 Tonga Educational Encyclopedia subkhnemux 14 March 2014 Tonga Education Encyclopedia of Nation subkhnemux 14 March 2014 PART I DESCRIPTIVE SECTION UNESCO subkhnemux 14 March 2014 PDF unicef khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 16 subkhnemux 14 March 2014 Western Pacific Country Health Information Profiles 2011 Revision PDF World Health Organization subkhnemux 14 March 2014 MIGRATION REMITTANCE AND DEVELOPMENT TONGA PDF FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION OF THE UNITED NATIONS subkhnemux 2 February 2014 Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 1 BASIC TABLES AND ADMINISTRATIVE REPORT PDF Tonga Statistics Department subkhnemux July 6 2020 A language of Tonga ethnologue subkhnemux 2 February 2014 About Tonga thekingdomoftonga subkhnemux 2 February 2014 The World Factbook khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 12 26 subkhnemux 2 February 2014 COUNTRY COMPARISON BIRTH RATE The World Factbook khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 03 10 subkhnemux 2 February 2014 The World Factbook khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 02 28 subkhnemux 2 February 2014 Sands Neil 10 April 2011 Pacific island nations battle obesity epidemic 2013 12 18 thi ewyaebkaemchchin Agence France Presse Mark Henderson February 18 2008 Welcome to the town that will make you lose weight 2015 04 23 thi ewyaebkaemchchin transitionpenwith www transitionpenwith org uk rayngansamaonprachakraelaekhha kh s 2021 Helen Morton Helen Morton Lee Becoming Tongan an ethnography of childhood University of Hawaii 1996 C 23 343 c ISBN 0 8248 1795 8 Culture of Tonga everyculture subkhnemux 8 March 2014 Tonga Islander s Choral Music Historical Perspectives James Noxon subkhnemux 8 March 2014 hmcs scu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 04 subkhnemux 8 March 2014 Fortune Brij V Lal Kate The Pacific Islands an encyclopedia University Press of Hawaii 2000 C 506 664 c ISBN 0 8248 2265 X Elizabeth May Mantle Hood Songs from many cultures an introduction University of California Press 1983 C 141 434 c ISBN 0 520 04778 8 Mervyn McLean Weavers of Song Polynesian Music and Dance Auckland University Press 1999 C 135 556 c ISBN 1 86940 212 X Lakalaka dances and sung speeches of Tonga UNESCO subkhnemux 8 March 2014 Helen Morton Helen Morton Lee Becoming Tongan an ethnography of childhood University of Hawaii 1996 C 23 343 c ISBN 0 8248 1795 8 Culture of Tonga Advameg Inc subkhnemux 8 March 2014 Otai Tongan Watermelon Drink Tara s Multicultural Table subkhnemux 8 March 2014 Lu Pulu food com subkhnemux 8 March 2014 phirskdi wrsunthorsth aelakhna thrphyakrphuchinexechiytawnxxkechiyngit 16 phuchihsarkratun phimphkhrngthi 2 kthm sthabnwicywithyasastraelaethkhonolyiaehngpraethsithy 2544 hna 140 142 Tonga Sport virtualoceania subkhnemux 21 March 2014 IRB Rugby World Cup 1987 ESPN subkhnemux 21 March 2014 Tonga on FIFA com FIFA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 11 subkhnemux 21 March 2014 Tonga national football team A international record 1980 11v11 subkhnemux 21 March 2014 Tonga national football team A international record 2001 11v11 subkhnemux 21 March 2014 Tonga national football team A international record 2004 11v11 subkhnemux 21 March 2014 Tonga Olympic subkhnemux 21 March 2014 Tonga at the Olympics BBC subkhnemux 21 March 2014 Tongan rugby player earns Winter Olympics spot Fairfax NZ News subkhnemux 21 March 2014 PUBLIC HOLIDAYS ACT PDF legislation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 08 11 subkhnemux 18 February 2014 xanephimchatiphnthuwrrnna wthnthrrm aelaprawtisastr On the Edge of the Global Modern Anxieties in a Pacific Island Nation 2011 by Niko Besnier Stanford CA Stanford University Press ISBN 978 0 8047 7406 2 Islanders of the South Production Kinship and Ideology in the Polynesian Kingdom of Tonga 1993 by Paul van der Grijp Leiden KITLV Press ISBN 90 6718 058 0 Identity and Development Tongan Culture Agriculture and the Perenniality of the Gift 2004 by Paul van der Grijp Leiden KITLV Press ISBN 90 6718 215 X Manifestations of Mana Political Power and Divine Inspiration in Polynesia 2014 by Paul van der Grijp Vienna and Berlin LIT Verlag ISBN 978 3 643 90496 6 Becoming Tongan An Ethnography of Childhood by Helen Morton Queen Salote of Tonga The Story of an Era 1900 65 by Tradition Versus Democracy in the South Pacific Fiji Tonga and Western Samoa by Stephanie Lawson Voyages From Tongan Villages to American Suburbs Cathy A Small Friendly Islands A History of Tonga 1977 Noel Rutherford Melbourne Oxford University Press ISBN 0 19 550519 0 Tonga and the Tongans Heritage and Identity 2007 Elizabeth Wood Ellem Alphington Vic Tonga Research Association ISBN 978 0 646 47466 3 Early Tonga As the Explorers Saw it 1616 1810 1987 Edwin N Ferdon Tucson University of Arizona Press ISBN 0 8165 1026 1 The Art of Tonga Ko e ngaahi aati o Tonga by Keith St Cartmail 1997 Honolulu University of Hawai i Press ISBN 0 8248 1972 1 The Tonga Book by Paul W Dale Tonga by James Siersstwpaaelasingaewdlxm Birds of Fiji Tonga and Samoa by A Guide to the Birds of Fiji and Western Polynesia Including American Samoa Niue Samoa Tokelau Tonga Tuvalu and Wallis and Futuna by Dick Watling Guide to the Birds of the Kingdom of Tonga by Dick Watlinghnngsuxthxngethiyw Lonely Planet Guide Samoan Islands and Tonga by Susannah Farfor and Paul Smitz Moon Travel Guide Samoa Tonga by David Stanleybrrnanukrm Martin Daly 2009 Tonga A New Bibliography University of Hawaii Press ISBN 978 0 8248 3196 7 bnethingkhdi Brian K Crawford 2009 Toki A Historical Novel Brian K Crawford ISBN 978 0 557 03434 5 aehlngkhxmulxunpraethstxngnga thiokhrngkarphinxngkhxngwikiphiediy hakhwamhmaycakwikiphcnanukrmphaphaelasuxcakkhxmmxnsenuxhakhawcakwikikhawkhakhmcakwikikhakhmkhxmultnchbbcakwikisxrshnngsuxcakwikitarakhxmulkaredinthangcakwikithxngethiyw Tonga The World Factbook Central Intelligence Agency from UCB Libraries GovPubs praethstxngnga thiewbist Curlie Wikimedia Atlas of Tonga