นูกูอาโลฟา (ตองงา: Nukuʻalofa) เป็นเมืองหลวง เมืองที่ใหญ่ที่สุดและศูนย์กลางด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมของตองงา กรุงนูกูอาโลฟาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะโตงาตาปู มีทิศเหนือติดต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศใต้ติดต่อกับลากูนฟางาอูตา ทิศตะวันตกติดต่อกับพื้นที่นอกกรุงของเขตโกโลโมตูอา และทิศตะวันออกติดต่อกับพื้นที่นอกกรุงของเขตโกโลโฟโออู มีจำนวนประชากรเท่ากับ 23,221 คน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ และหากนับรวมพื้นที่ Greater Nukuʻalofa จะมีจำนวนประชากรเท่ากับ 35,184 คน ด้วยจำนวนและความหนาแน่นของประชากรที่สูง กรุงนูกูอาโลฟาจึงมีสถานะเป็นเมืองโตเดี่ยว และเป็นเขตเมืองเพียงแห่งเดียวของประเทศ
นูกูอาโลฟา | |
---|---|
Nukuʻalofa | |
[[File:||130px]] [[File:||130px]] ภาพจากซ้ายไปขวาและบนลงล่าง: สำนักนายกรัฐมนตรี, โบสถ์ซาอีโอเน, โบสถ์ตองงานูกูอาโลฟา, อาคารเตาโอเมเปเอา, พระราชวัง, ต้นจามจุรีกลางกรุง, อาคารกระทรวงการคลัง | |
นูกูอาโลฟา (สีแดง) บนเกาะโตงาตาปู | |
นูกูอาโลฟา | |
พิกัด: 21°8′9″S 175°12′32″W / 21.13583°S 175.20889°W | |
ประเทศ | ตองงา |
เขตปกครอง | โตงาตาปู |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 11.41 ตร.กม. (4.41 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 4 เมตร (13 ฟุต) |
ความสูงจุดสูงสุด | 6 เมตร (20 ฟุต) |
ความสูงจุดต่ำสุด | 0 เมตร (0 ฟุต) |
ประชากร (2016) | |
• ทั้งหมด | 23,221 คน |
• ความหนาแน่น | 2,035 คน/ตร.กม. (5,270 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | (–) |
รหัสพื้นที่ | 676 |
ภูมิอากาศ | Af |
ในอดีตพื้นที่นูกูอาโลฟาส่วนใหญ่อยู่ใต้ทะเล มีสภาพเป็นเกาะ ไม่ได้เชื่อมต่อกับเกาะโตงาตาปูในปัจจุบัน มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ตั้งแต่ก่อน 800 ปีก่อนคริสตกาล นับตั้งแต่การสถาปนาจักรวรรดิตูอีโตงาเป็นต้นมา นูกูอาโลฟาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิแห่งนี้ จนกระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีชาวยุโรปหลายกลุ่มได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนนูกูอาโลฟา นูกูอาโลฟาเริ่มมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ตองงาในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อกลายเป็นศูนย์กลางอำนาจของตูอิกาโนกูโปลู: 127 พร้อมกับการเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในประเทศ: 130 และต่อมากลายเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองจนถึงปัจจุบันหลังจากที่พระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 สถาปนาราชอาณาจักรตองงาขึ้น การสถาปนากรุงนูกูอาโลฟาเป็นเมืองหลวงนำไปสู่การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและการก่อสร้างที่ทำการของหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตทั้งหมดที่มีภารกิจในประเทศตองงา ช่วงระหว่าง ค.ศ. 2005–6 มีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในกรุงนูกูอาโลฟา แม้จะประสบความสำเร็จ แต่สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจเป็นอย่างมาก
การเป็นศูนย์กลางของประเทศ ส่งผลให้การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในนูกูอาโลฟาดีกว่าพื้นที่อื่น มีระบบถนนที่เชื่อมโยงสู่พื้นที่อื่นบนเกาะโตงาตาปู มีท่าเรือน้ำลึกมาตรฐาน รวมไปถึงตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศ นอกจากนี้โรงพยาบาลที่มีความพร้อมสูงสุดและสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่งล้วนตั้งอยู่ในเมืองนี้ทั้งสิ้น กรุงนูกูอาโลฟามีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นเป็นลำดับ นำไปสู่การอพยพของประชากรจากพื้นที่ส่วนอื่นเข้ามาอยู่ในนูกูอาโลฟามากขึ้น อันนำไปสู่ปัญหาการรองรับการขยายตัวของประชากร เนื่องจากพื้นที่ของเมืองมีจำกัดและขาดการวางแผน การพัฒนาพื้นที่เมืองและการมีจำนวนประชากรเป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่เมืองเป็นศูนย์กลางการจัดเฉลิมฉลองงานเทศกาลที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางด้านกิจการสื่อ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับทวีป รวมไปถึงการเป็นพื้นที่ที่มีการนำวัฒนธรรมจากภายนอกเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมตองงาอย่างชัดเจน
ศัพทมูลวิทยา
เมื่อศึกษาตามหลักศัพทมูลวิทยาพบว่านูกูอาโลฟา มีที่มาจากคำในภาษาตองงา 2 คำ คือคำว่า Nuku หมายถึง ที่พัก และคำว่า Alofa หมายถึง ความรัก ดังนั้นนูกูอาโลฟา จึงมีความหมายว่าที่พักแห่งความรัก นูกูอาโลฟาปรากฏชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในหนังสือของมิชชันนารีชาวอังกฤษที่ชื่อจอร์จ แวสัน ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1810 บอกเล่าถึงประสบการณ์ของเขาในการเดือนทางเยือนตองงาใน ค.ศ. 1797 โดยเขาสะกดชื่อเมืองแห่งนี้ว่า Noogollefa: 68 นอกจากนี้ยังพบการเขียนชื่อนูกูอาโลฟาของชาวตะวันตกที่เข้ามาเยี่ยมเยียนอีกหลายรูปแบบ ได้แก่ Nioocalofa: 93 Nukualofa: 33–4 และ Noukou-Alofa: 184 สาเหตุที่การสะกดชื่อต่างจากปัจจุบัน เนื่องจากการพัฒนาตัวอักษรละตินเพื่อเขียนภาษาตองงาได้เริ่มจริงจังในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1820–30: 102
ประวัติศาสตร์
ก่อนการเข้ามาของชาติตะวันตก
ในช่วงนอร์ธกริปเปียนสมัยไมโอซีน พื้นที่ส่วนมากของนูกูอาโลฟาตั้งอยู่ใต้ทะเล และเป็นส่วนหนึ่งของลากูนฟางาอูตา มีเพียงสันทราย ดอนทรายใต้น้ำและเกาะขนาดเล็กเท่านั้นที่โผล่พ้นผืนน้ำ: 687–8 ชาวแลพีตา กลุ่มคนที่พูดภาษาในตระกูลภาษาออสโตรนีเชียนเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่อาศัยในเกาะโตงาตาปูในช่วง 826 ± 8 ปีก่อนคริสตกาล ระยะแรกได้ตั้งถิ่นฐานในนูกูเลกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของนูกูอาโลฟา และต่อมาได้ขยายชุมชนของตนสู่เกาะที่เป็นพื้นที่ของนูกูอาโลฟาในปัจจุบันด้วย
ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์หรือมานุษยวิทยาที่ชัดเจนมากนักเกี่ยวกับพื้นที่นูกูอาโลฟาก่อนการติดต่อกับชาติตะวันตก มีข้อมูลรายละเอียดทราบเพียงว่านับตั้งแต่พระเจ้าอะโฮเออิตูได้สถาปนาจักรวรรดิตูอีโตงาขึ้นใน ค.ศ. 950 พื้นที่นูกูอาโลฟาและเกาะโตงาตาปูก็เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิแห่งนี้ ทว่าไม่มีบทบาทหรือความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานี้มากนัก สันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณนี้น่าจะอยู่ภายใต้การปกครองของชนชั้นขุนนางผู้ใดผู้หนึ่ง: 246–7
การติดต่อกับชาติตะวันตก
ในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1777 กัปตันเจมส์ คุกซึ่งเป็นชาวอังกฤษได้ทอดสมอเรือในบริเวณอ่าวนูกูอาโลฟา และได้ร่างแผนที่ของอ่าวและเกาะโดยรอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งกรุงในปัจจุบันด้วย: 277–81 ต่อมาใน ค.ศ. 1797 จอร์จ แวสัน มิชชันนารีชาวอังกฤษจากสมาคมมิชชันนารีลอนดอนเข้ามาเยี่ยมชมตองงา พร้อมทั้งระบุชื่อนูกูอาโลฟาในหนังสือของเขาที่ตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1810 นับเป็นครั้งแรกที่ชื่อนูกูอาโลฟาปรากฏขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร: 68
หลัง ค.ศ. 1797 การเมืองภายในจักรวรรดิมีความวุ่นวาย นำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมืองในเวลาต่อมา: 122–7 พระเจ้าตูโปอูมาโลฮี ตูอิกาโนกูโปลูพระองค์ต่อมาได้ตัดสินพระทัยย้ายศูนย์กลางอำนาจจากฮีฮีโฟมาอยู่ที่นูกูอาโลฟา พร้อมทั้งสร้างป้อมปราการขึ้น ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดบนเกาะโตงาตาปู: 127 อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองวาวาอูและฮาอะไปใช้ปืนใหญ่ทำลายป้อมปราการ และยึดได้ในท้ายที่สุด: 93–6 เมื่อยึดป้อมปราการได้สำเร็จ เขาสั่งให้มีการซ่อมแซมป้อมปราการ เพื่อรอการโจมตีกลับ ทว่าไม่มีการโจมตีใดเกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจออกจากเกาะโตงาตาปู โดยแต่งตั้งตาไกแห่งเปอาเป็นผู้ดูแลนูกูอาโลฟาแทนเขา แต่ตาไกทรยศเขา และทำลายป้อมปราการนูกูอาโลฟาลงอีกครั้ง: 128
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 พื้นที่นูกูอาโลฟากลายเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่คริสต์ศาสนา เมื่อ ตูอิกาโนกูโปลูพระองค์ที่ 18 มีส่วนสำคัญในการสนับสนุน ใน ค.ศ. 1826 สมาคมมิชชันนารีลอนดอนได้ส่งมิชชันนารีจากตาฮีตีเดินทางไปยังฟีจี และมีจุดแวะพักระหว่างทางที่นูกูอาโลฟา เมื่อคณะเดินทางมาถึงนูกูอาโลฟา พระองค์ได้กักตัวมิชชันนารีชาวตาฮีติ 2 คนไว้ เพื่อให้ทั้งสองคนสอนศาสนาให้แก่พระองค์ นำไปสู่การก่อสร้างโบสถ์และโรงเรียนสอนศาสนาที่นูกูอาโลฟาในเวลาต่อมา: 129 คริสต์ศาสนาในนูกูอาโลฟาเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เมื่อมิชชันนารีเมธอดิสต์เข้ามารวมกลุ่มกับมิชชันนารีชาวตาฮีติที่เผยแพร่ศาสนาอยู่ก่อนหน้านั้น: 130 ความขัดแย้งที่มีมาก่อนหน้านั้น พัฒนาเป็นความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนคริสต์ศาสนากับกลุ่มความเชื่อดั้งเดิม โดยพระเจ้าอาเลอาโมตูอาผู้ปกครองนูกูอาโลฟาอยู่ฝ่ายสนับสนุนคริสต์ศาสนา: 322–8 อย่างไรก็ตามการดำเนินนโยบายอย่างสันติของพระองค์ทำให้ไม่มีการสงครามสำคัญเกิดขึ้นในพื้นที่นูกูอาโลฟา: 371–2
ราชอาณาจักรตองงา
หลังจากที่พระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 สถาปนาราชอาณาจักรตองงาขึ้น พระองค์เลือกเมืองปาไงและลีฟูกาในฮาอะไปเป็นเมืองหลวงแห่งแรก ๆ ของราชอาณาจักร ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่นูกูอาโลฟาใน ค.ศ. 1851 และมีสถานะเมืองหลวงอย่างเป็นทางการตามความในรัฐธรรมนูญตองงา ค.ศ. 1875 พร้อมทั้งกำหนดให้การประชุมรัฐสภาในยามสงบต้องเกิดขึ้นในนูกูอาโลฟาเท่านั้น
เพื่อยืนยันสถานะเมืองหลวงของอาณาจักรและดำเนินการปกครองรวมศูนย์อย่างมีประสิทธิภาพ: 239 จึงมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่อแสดงถึงความเป็นศูนย์กลางทางการเมืองการปกครองของประเทศ มีการก่อสร้างพระราชวังไม้ โดยนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากนิวซีแลนด์เมื่อ ค.ศ. 1864 เพื่อเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์ ที่ประชุมคณะรัฐบาล ที่ประชุมองคมนตรีและที่ออกมหาสมาคม นอกจากนี้มีการก่อสร้างอาคารรัฐสภาและเปิดทำการใน ค.ศ. 1875 เมื่อพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 1 สวรรคตใน ค.ศ. 1893 รัฐบาลตองงาตัดสินใจเลือกจตุรัสแดง (มาลาเอกูลา) ซึ่งเคยใช้เป็นลานว่างสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในอดีต ตั้งอยู่ใจกลางกรุงนูกูอาโลฟาเป็นที่ฝังพระบรมศพ การเลือกสถานที่ฝังพระบรมศพในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีตที่พระบรมศพของกษัตริย์สูงสุดของตองงาจะฝังที่ลางีในเมืองมูอา
ใน ค.ศ. 1900 รัชกาลของพระเจ้าจอร์จ ตูโปอูที่ 2 ตองงากลายเป็นรัฐในอารักขาของสหราชอาณาจักร: 670 สหราชอาณาจักรได้จัดตั้งสถานกงสุลขึ้นในนูกูอาโลฟา และแทรกแซงการปกครองของตองงา ก่อให้เกิดการปฏิรูปและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในนูกูอาโลฟา มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็นหลายอย่างภายในเมือง เช่น โรงพยาบาล หอคอยถังเก็บน้ำ เป็นต้น: 161–2 นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงทหารที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งตองงาเข้าร่วมอย่างไม่เป็นทางการไว้ในกรุงนูกูอาโลฟา ซึ่งแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1923
กรุงนูกูอาโลฟาประสบปัญหาของการระบาดทั่วไข้หวัดใหญ่สเปนหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรือเอสเอส ทาลูนที่เข้ามาทอดสมอบริเวณท่าเรือนูกูอาโลฟาในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 เรือลำนี้มีต้นทางจากนครออกแลนด์ นิวซีแลนด์ ที่ในขณะนั้นประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส เชื้อไวรัสที่มากับเรือได้แพร่กระจายทั่วกรุงนูกูอาโลฟา ส่งผลให้มีคนเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ภายในเมืองเงียบเชียบ มีเพียงเสียงของเกวียนที่บรรทุกศพไปฝังเท่านั้น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สมเด็จพระราชินีนาถซาโลเต ตูโปอูที่ 3 อนุญาตให้กองกำลังสหรัฐตั้งฐานทัพในกรุงนูกูอาโลฟาเพื่อใช้สำหรับทำสงครามในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมทั้งดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานห่างไปทางใต้ของเมืองหลวงเพื่อใช้เป็นที่ขึ้นลงของเครื่องบินบนเกาะโตงาตาปู
นับตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 บทบาทของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยมีมากขึ้น มีการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วนูกูอาโลฟาใน ค.ศ. 2005 เมื่อการเรียกร้องไม่เป็นผลนำไปสู่การเกิดการจลาจลทั่วนูกูอาโลฟาใน ค.ศ. 2006 การจลาจลครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และสร้างความเสียหายให้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจของเมืองถึงร้อยละ 80 รัฐบาลตองงาต้องกู้เงินจากรัฐบาลจีนกว่า 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซ่อมแซมย่านศูนย์กลางธุรกิจของเมืองที่ถูกทำลายในเหตุการณ์นี้ การดำเนินการซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหายดำเนินการแล้วเสร็จใน ค.ศ. 2012
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
นูกูอาโลฟาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะโตงาตาปู ซึ่งเป็นเกาะปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน: 100 มีขนาดพื้นที่เท่ากับ 11.41 ตารางกิโลเมตร และหากนับรวมพื้นที่ปริมณฑลด้วยจะครอบคลุมพื้นที่ 34.82 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงซูวาเมืองหลวงของฟีจีเป็นระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากนครออกแลนด์ของนิวซีแลนด์ประมาณ 2,000 กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่ของนูกูอาโลฟาเป็นที่ราบ มีระดับความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4 เมตร ซึ่งต่ำกว่าพื้นที่อื่นบนเกาะ: 127–8 นอกจากนี้ทรัพยากรดินโดยรวมมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินในบริเวณใกล้ชายฝั่งตอนเหนือของเมือง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเถ้าถ่านภูเขาไฟจากเกาะข้างเคียง: 5–10
นูกูอาโลฟาได้รับผลกระทบจากสึนามิที่มีเหตุจากการปะทุของภูเขาไฟฮูงาโตงาและคลื่นสึนามิใน พ.ศ. 2565 ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าจะใช้เวลานับปีในการฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
ภูมิอากาศ
ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน นูกูอาโลฟามีลักษณะภูมิอากาศแบบป่าดิบชื้น โดยได้รับอิทธิพลจากลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ ฤดูกาลในนูกูอาโลฟาเหมือนกับฤดูกาลโดยทั่วไปของประเทศตองงา ซึ่งมี 2 ฤดู คือ ฤดูฝนและฤดูแล้ง ฤดูฝนจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน–เมษายน โดยช่วงเดือนมกราคม–มีนาคม จะเป็นช่วงที่ฝนตกมากที่สุด ในขณะที่ฤดูแล้งจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคม–ตุลาคม ด้วยนูกูอาโลฟาไม่มีเดือนใดที่มีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่า 60 มิลลิเมตร (2.4 นิ้ว) จึงกล่าวได้ว่าไม่มีฤดูแล้งที่แท้จริง อย่างไรก็ตามในระยะหลังปริมาณน้ำฝนเริ่มลดน้อยลงเล็กน้อยและมีความผันผวนของปริมาณน้ำฝน อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนและปรากฏการณ์เอลนีโญ สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยของนูกูอาโลฟาอยู่ที่ประมาณ 24 องศาเซลเซียส (75 องศาฟาเรนไฮต์) โดยเดือนมกราคม–มีนาคม เป็นช่วงที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุด ในขณะที่เดือนมิถุนายน–สิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำที่สุด จากการเก็บข้อมูลสภาพภูมิอากาศของนูกูอาโลฟาในอดีต พบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 0.4–0.6 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา
ข้อมูลภูมิอากาศของนูกูอาโลฟา | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 32 (90) | 32 (90) | 31 (88) | 30 (86) | 30 (86) | 28 (82) | 28 (82) | 28 (82) | 28 (82) | 29 (84) | 30 (86) | 31 (88) | 32 (90) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 29.4 (84.9) | 29.9 (85.8) | 29.6 (85.3) | 28.5 (83.3) | 26.8 (80.2) | 25.8 (78.4) | 24.9 (76.8) | 24.8 (76.6) | 25.3 (77.5) | 26.4 (79.5) | 27.6 (81.7) | 28.7 (83.7) | 27.3 (81.1) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 26.4 (79.5) | 26.8 (80.2) | 26.6 (79.9) | 25.3 (77.5) | 23.6 (74.5) | 22.7 (72.9) | 21.5 (70.7) | 21.5 (70.7) | 22.0 (71.6) | 23.1 (73.6) | 24.4 (75.9) | 25.6 (78.1) | 24.1 (75.4) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 23.4 (74.1) | 23.7 (74.7) | 23.6 (74.5) | 22.1 (71.8) | 20.3 (68.5) | 19.5 (67.1) | 18.1 (64.6) | 18.2 (64.8) | 18.6 (65.5) | 19.7 (67.5) | 21.1 (70) | 22.5 (72.5) | 20.9 (69.6) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 16 (61) | 17 (63) | 15 (59) | 15 (59) | 13 (55) | 11 (52) | 10 (50) | 11 (52) | 11 (52) | 12 (54) | 13 (55) | 16 (61) | 10 (50) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 174 (6.85) | 210 (8.27) | 206 (8.11) | 165 (6.5) | 111 (4.37) | 95 (3.74) | 95 (3.74) | 117 (4.61) | 122 (4.8) | 128 (5.04) | 123 (4.84) | 175 (6.89) | 1,721 (67.76) |
ความชื้นร้อยละ | 77 | 78 | 79 | 76 | 78 | 77 | 75 | 75 | 74 | 74 | 73 | 75 | 76 |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย | 17 | 19 | 19 | 17 | 15 | 14 | 15 | 13 | 13 | 11 | 12 | 15 | 180 |
แหล่งที่มา: Weatherbase |
การปกครอง
นูกูอาโลฟาเกิดจากการรวมกันของหมู่บ้านชุมชนเมือง 3 แห่งทางตอนเหนือของเกาะโตงาตาปูได้แก่ หมู่บ้านโกโลโฟโออู หมู่บ้านมาอูฟางา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตโกโลโฟโออู และหมู่บ้านโกโลโมตูอา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตโกโลโมตูอา ในบางครั้งเรียกรวมพื้นที่ของเขตโกโลโฟโออูและเขตโกโลโมตูอารวมกันว่า Greater Nuku'alofa: 25 ดังนั้นอำนาจการดูแลพื้นที่ของนูกูอาโลฟาจึงอยู่ในขอบเขตของเจ้าพนักงานประจำเขต (district officer) และเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้าน (town officer) ของเขตและหมู่บ้านที่กล่าวมาข้างต้น โดยตำแหน่งเหล่านี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งกี่วาระก็ได้ อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสามารถพิจารณาปลดเจ้าพนักงานประจำเขตและเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้านได้ หากประพฤติตนมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้าน (town officer) มีขอบเขตหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานประจำเขตในการสำรวจสภาวะสุขาภิบาล การจัดเก็บภาษีที่ดินและการเกษตรและรายงานการตายอย่างฉับพลันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ประกาศการประชุมโฟโน รวมทั้งรักษาความเป็นระเบียบของการประชุมดังกล่าว
ส่วนเจ้าพนักงานประจำเขต (district officer) มีหน้าที่ในการสำรวจและรับรายงานตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานประจำหมู่บ้านทางด้านสาธารณสุข ที่ดินและการเกษตร นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการตรวจสอบการกักกันพืช การตรวจสอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และหน้าที่อื่นตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบโดยตรง ด้วยอำนาจจำกัดของเจ้าพนักงานทั้งสองตำแหน่ง: 21 การบริหารจัดการส่วนใหญ่ในการดูแลนูกูอาโลฟาจึงอยู่ภายใต้การจัดการของรัฐบาลตองงาเป็นหลัก: 126
นูกูอาโลฟาในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ จึงเป็นศูนย์กลางทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศ โดยมีทั้งหน่วยงานด้านนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ รวมไปถึงพระราชวังตองงา ที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์: 95 นอกจากนี้นูกูอาโลฟายังเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศออสเตรเลียประเทศนิวซีแลนด์ประเทศจีนประเทศญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร
เศรษฐกิจ
นูกูอาโลฟาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ หน่วยงานทางด้านการเงินที่สำคัญของประเทศอย่างธนาคารกลางตองงามีสำนักงานใหญ่อยู่ภายในเมือง ปัจจุบันรายได้หลักของกรุงนูกูอาโลฟามาจากภาคการบริการ ซึ่งรวมถึงการพาณิชย์ การท่องเที่ยว การบริการสาธารณะและการเงิน รองลงมาเป็นภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมตามลำดับ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่เป็นวิชาชีพ รองลงมาเป็นผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการค้าและการบริการ และงานหัตถกรรมตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบประชากรส่วนน้อยที่ประกอบอาชีพเพื่อการประทังชีวิต (subsistence workers) อีกด้วย จากสถิติสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2016 นูกูอาโลฟามีประชากรเพศชายเข้าสู่ระบบแรงงานร้อยละ 67.1 มากกว่าเพศหญิงที่เข้าสู่ระบบแรงงานเพียงร้อยละ 54.4 เท่านั้น ขณะที่อัตราการว่างงานของประชากรในเมืองเท่ากับร้อยละ 1.4
จากรายงานสรุปความยากจนในตองงาเมื่อ ค.ศ. 2011 พบว่าค่าครองชีพภายในเมืองสูงที่สุดในประเทศ โดยมีจุดแบ่งเส้นความยากจนความต้องการพื้นฐานอยู่ที่ 61.15 ปาอางาต่อคนต่อสัปดาห์ (ประมาณ 843 บาท) เมื่อพิจารณาจากระดับราคาสินค้าและบริการตั้งแต่ ค.ศ. 2001–9 พบว่าระดับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเส้นความยากจนด้านอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.4 ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 115.8 อันส่งผลให้เส้นความยากจนโดยรวมขยับสูงขึ้นถึงร้อยละ 99.3 การปรับตัวที่สูงขึ้นนี้มีสาเหตุจากระดับราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายด้านการคมนาคมและค่าใช้จ่ายการใช้โทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ประชากรร้อยละ 21.4 ของเมืองดำรงชีวิตอยู่ใต้เส้นความยากจน ซึ่งสูงกว่า ค.ศ. 2001 ที่มีเพียงร้อยละ 18 เท่านั้น และนับได้ว่ากรุงนูกูอาโลฟาเป็นชุมชนที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในประเทศ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์จีนีเท่ากับ 0.39 อย่างไรก็ตามค่าระดับความเหลื่อมล้ำยังถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
เกษตรกรรมและหัตถกรรม
กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของนูกูอาโลฟาเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม มีการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจเนื้อมะพร้าวแห้งใน ค.ศ. 1942 เพื่อส่งเสริมการส่งออกเนื้อมะพร้าวแห้ง ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรกรรมที่สำคัญของเมือง กิจการรัฐวิสาหกิจมีความก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ จนสามารถนำทุนจัดซื้อเรือสำหรับทำการขนส่ง และสร้างโรงงานแห่งใหม่ห่างจากกรุงนูกูอาโลฟา 3.2 กิโลเมตรได้: 406 นอกจากนี้ยังมีรัฐวิสาหกิจในลักษณะเดียวกันเพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรอื่น เช่น สควอช วานิลลา กล้วย เป็นต้น: 406 อย่างไรก็ตามภาคเกษตรกรรมในนูกูอาโลฟากำลังประสบปัญหาความอุดมสมบูรณ์ของดินและความจำกัดของพื้นที่เพาะปลูก: 231–2
สินค้าหัตถกรรมก็เป็นสินค้าส่งออกสำคัญชนิดหนึ่ง มีการก่อสร้างศูนย์หัตถกรรมและแกลอรีลางาโฟนูอาใน ค.ศ. 1953 เพื่อใช้จำหน่ายงานหัตถกรรมพื้นเมือง รวมไปถึงเสื้อผ้า กระเป๋าและงานศิลปะต่าง ๆ ในบางครั้งอาจมีการจัดเทศกาลจำหน่ายงานหัตถกรรมในพื้นที่เมืองอีกด้วย
สำหรับการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรและหัตถกรรมที่บริโภคในประเทศจะจัดจำหน่ายที่ตลาดตาลามาฮู ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่จำหน่ายมีจำนวนคิดเป็นร้อยละ 55.7 ของผลผลิตที่มีขายในประเทศ นอกจากนี้ตลาดแห่งนี้ยังสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดของการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรในประเทศได้ถึงร้อยละ 21 อีกด้วย
ประมง
กรุงนูกูอาโลฟาเป็นศูนย์กลางของการประมงในประเทศ มีประชากรทำอาชีพประมงคิดเป็นร้อยละ 0.9 ในชายฝั่งทางตอนเหนือ กองเรือประมงในเมืองจะจับสัตว์น้ำในน่านน้ำใกล้เคียง เช่น ปลาทูน่าและปลากะพง เป็นต้น ในขณะที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของกรุงนูกูอาโลฟาที่ติดกับลากูน พบการทำประมงเพื่อการยังชีพ อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นและการจับสัตว์น้ำด้วยวิธีการที่ทำลายระบบนิเวศ นำไปสู่การสูญเสียปะการังและสปีชีส์ของสัตว์น้ำ: 226 สำหรับผลผลิตที่ได้จากการประมง บางส่วนจะส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ซามัว อเมริกันซามัวและฟีจี
อุตสาหกรรม
ด้วยการขาดการวางแผนที่ดีของรัฐบาล ส่งผลให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภายในเมืองมีค่อนข้างจำกัด: 225 นิคมอุตสาหกรรมในกรุงนูกูอาโลฟาทั้งหมดตั้งอยู่ในหมู่บ้านมาอูฟางา ซึ่งรัฐบาลจัดตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1980 มีพื้นที่เท่ากับ 20 เอเคอร์ (ประมาณ 0.081 ตารางกิโลเมตร) โดยแบ่งพื้นที่นิคมออกเป็น 42 ส่วน รัฐบาลได้อนุญาตให้ภาคอุตสาหกรรมเช่าระยะยาวพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ อุตสาหกรรมในนิคมส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมเบา เช่น โรงงานผลิตกระดาษชำระ โรงงานผลิตของเล่น โรงงานประกอบตู้เย็น เป็นต้น: 160 ใน ค.ศ. 2011 รัฐบาลตัดสินใจแปรรูปศูนย์อุตสาหกรรมขนาดเล็กจากกิจการของรัฐเป็นกิจการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการยิ่งขึ้น ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมที่มาอูฟางาเป็นหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งในประเทศ อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เนอิอาฟูในเขตการปกครองวาวาอู
การท่องเที่ยว
โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวของนูกูอาโลฟาจัดได้ว่าดีกว่าพื้นที่อื่นในประเทศ เนื่องจากมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม สิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักเป็นจำนวนมาก: 109 รวมไปถึงมีบริการขนส่งมวลชนและรถจักรยานให้เช่าเพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในเมือง: 98 แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งแสดงถึงประวัติความเป็นมาของประเทศที่มีชื่อเสียง เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติตองงา ศูนย์หัตถกรรมลางาโฟนูอา สุสานหลวงของราชวงศ์ปัจจุบันและพระราชวัง เป็นต้น: 102–7 นอกจากนี้ยังมีการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและศาสนาอีกด้วย: 101–2 ในส่วนของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินั้น ด้วยกรุงนูกูอาโลฟามีพื้นที่ทางตอนเหนือติดทะเล จึงเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและกิจกรรมทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ: 107 ย่านกลางคืนของเมืองมีขนาดเล็ก เพราะตองงาเป็นประเทศอนุรักษ์นิยมทางศาสนา ทว่ามีความคึกคักมากที่สุดในประเทศ ย่านกลางคืนเหล่านี้จะตั้งอยู่บนถนนวูนาทางตอนเหนือของเมือง
ประชากร
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
1931 | 4,005 | — |
1956 | 9,202 | +129.8% |
1966 | 15,545 | +68.9% |
1976 | 18,312 | +17.8% |
1986 | 21,383 | +16.8% |
1996 | 22,400 | +4.8% |
2006 | 23,658 | +5.6% |
2011 | 24,229 | +2.4% |
2016 | 23,221 | −4.2% |
รายงานจำนวนประชากรของนูกูอาโลฟา: 33 |
หมู่บ้าน | ประชากร ค.ศ. 2016 |
---|---|
โกโลโฟโออู | |
โกโลโมตูอา | |
มาอูฟางา | |
รวม |
จากการทำสำมะโนประชากรและเคหะใน ค.ศ. 2016 พบว่าประชากรที่อาศัยอยู่ในูกูอาโลฟามีทั้งสิ้น 23,221 คน คิดเป็นร้อยละ 23.20 ของประชากรทั้งประเทศ และมีความหนาแน่นของประชากรเท่ากับ 2035 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร หากนับรวมประชากรในเขตปริมณฑลของนูกูอะโลฟาด้วย จะมีประชากรรวมกันเท่ากับ 35,184 คน ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 ประชากรที่อาศัยอยู่ในนูกูอาโลฟามีเพียงร้อยละ 10 ของประชากรของทั้งประเทศเท่านั้น ทว่านับตั้งแต่ ค.ศ. 1931 เป็นต้นมา ประชากรในนูกูอาโลฟาเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด: 33 เนื่องจากประชากรในชนบทต้องการแสวงหาโอกาสทางการศึกษาและการประกอบอาชีพ ประกอบกับพื้นที่ชนบทมีข้อจำกัดทางด้านการขยายที่ดินทำการเกษตร อย่างไรก็ตามใน ค.ศ. 2016 อัตราการเติบโตของประชากรในนูกูอาโลฟากลับลดลง ซึ่งลักษณะเช่นนี้พบได้ทั่วไปเกือบทุกชุมชนในประเทศตองงา แม้จะเป็นเช่นนั้น มีการคาดหมายว่าประชากรของนูกูอาโลฟาอาจเพิ่มสูงได้ถึง 45,000 คน ใน ค.ศ. 2030 ประชากรที่อาศัยอยู่ในนูกูอาโลฟาจัดว่าเป็นประชากรเพียงกลุ่มเดียวในประเทศที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง โดยเกณฑ์การจัดเขตเมืองของประเทศตองงากำหนดให้เขตเมืองคือหมู่บ้านที่มีประชากรเกิน 5,000 คน ซึ่งพบได้เฉพาะในนูกูอาโลฟาเท่านั้น
โครงสร้างประชากรของนูกูอาโลฟามีประชากรเชื้อชาติตองงาและลูกครึ่งตองงาเป็นประชากรกลุ่มหลักจำนวน 22,117 คน (ร้อยละ 95.25) รองลงมาคือชาวจีน 369 คน (ร้อยละ 1.59) ส่วนที่เหลือเป็นชาวยุโรป ชาวฟีจี ชาวเอเชียและกลุ่มประชากรที่มาจากหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ประชากรส่วนมากสามารถใช้ภาษาตองงาและภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ แต่ประชากรโดยรวมเริ่มมีค่านิยมให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาตองงามากขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากหลักสูตรของโรงเรียนมัธยมในนูกูอาโลฟา และกิจการด้านสื่อของประเทศ
การนับถือศาสนาของประชากรในนูกูอาโลฟาคล้ายคลึงกับการนับถือศาสนาของประชากรตองงาทั่วไป โดยประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนมาก แบ่งเป็นจำนวน 8,491 คน (ร้อยละ 36.67) โรมันคาทอลิกจำนวน 4,374 คน (ร้อยละ 18.83) จำนวน 2,754 คน (ร้อยละ 11.86) ส่วนที่เหลือนั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายอื่น ๆ เช่น แองกลิคัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามพบประชากรที่นับถือศาสนาอื่นอีกด้วย โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดคือกลุ่มผู้นับถือศาสนาบาไฮจำนวน 167 คน (ร้อยละ 0.72) และศาสนาพุทธจำนวน 21 คน (ร้อยละ 0.09)
วัฒนธรรม
สถาปัตยกรรม
ในอดีตชาวนูกูอาโลฟาและชาวตองงาโดยทั่วไปจะสร้างที่พักอาศัยในลักษณะของฟาเล มีการแบ่งพื้นที่สำหรับการซักล้าง การทำอาหารและพื้นที่เลี้ยงหมู: 698–9 ด้วยการเจริญเติบโตของนูกูอาโลฟาและการติดต่อกับชาติตะวันตก ความนิยมการสร้างบ้านด้วยสถาปัตยกรรมแบบฟาเลได้เปลี่ยนไปเป็นแบบสมัยนิยมมากขึ้น เช่น พระราชวังตองงาที่สร้างขึ้นในลักษณะของอาคารสองชั้นในรูปแบบวิกตอเรีย เป็นต้น อย่างไรก็ตามงานสถาปัตยกรรมแบบฟาเลยังคงอยู่ในรูปแบบของศาสนสถานของคริสต์ศาสนาและอาคารสำคัญหลายแห่งในนูกูอาโลฟา โดยนำวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่เข้ามาใช้ เช่น พิพิธภัณฑ์ตองงา อาคารรัฐสภาหลังเก่า และศูนย์วัฒนธรรม เป็นต้น
อาหาร
วัฒนธรรมอาหารในนูกูอาโลฟาโดยรวมไม่แตกต่างจากพื้นที่อื่นของประเทศตองงามากนัก มีอาหารสำคัญ เช่น และ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมืองแห่งนี้ได้รับวัฒนธรรมอาหารต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารจีนและอาหารตะวันตก ภายในเมืองมีการจัดจำหน่ายอาหารข้างทาง และมีแหล่งวัตถุดิบประกอบอาหารที่สำคัญอยู่ที่ตลาดตาลามาฮู
เทศกาล
ภายในเมืองมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลประจำปีเหมือนกับส่วนอื่นในประเทศ ทว่างานเทศกาลที่ถือได้ว่ามีการจัดอย่างยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของนูกูอาโลฟาคือเทศกาลเฮอิลาลา ซึ่งจัดเฉลิมฉลองขึ้นเป็นระยะเวลา 2–3 สัปดาห์ ระหว่างเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม เทศกาลนี้เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1980 เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูโปอูที่ 4 ในช่วงเทศกาล ชาวตองงาจะรวมตัวกันเพื่อร่วมชมขบวนพาเหรด บางส่วนเข้าร่วมการประกวดในกิจกรรมดนตรี กลุ่มเพื่อนและครอบครัวจะใช้โอกาสนี้ในการสนทนาพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน สำหรับกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการประกวดนางงาม Miss Heilala ซึ่งมีสาวงามจากตองงาและต่างประเทศเข้าร่วมการประกวด นอกจากเทศกาลที่จัดเป็นประจำทุกปีแล้ว ในบางครั้งอาจมีการจัดงานเฉลิมฉลองพิเศษภายในเมืองด้วย ซึ่งรัฐบาลมักประกาศให้วันเฉลิมฉลองดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการแบบกรณีพิเศษ เห็นได้จากการจัดงานเฉลิมฉลองให้กับทีมรักบี้ลีกตองงาที่สามารถทำการแข่งขันชนะทีมสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียได้เป็นครั้งแรก
สื่อ
ประชาชนสามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้มากที่สุดในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 43.88 นอกจากนี้ประชาชนในเมืองยังนิยมใช้งานโทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้บริการสื่อสังคมอีกด้วย ในส่วนของการเข้าถึงสื่ออื่น ๆ นั้น พบว่ามีครัวเรือนร้อยละ 83.61 มีโทรทัศน์ในครอบครองและครัวเรือนร้อยละ 36.26 มีวิทยุในครอบครอง
นูกูอาโลฟาเป็นศูนย์กลางของกิจการด้านสื่อของประเทศ โดยเป็นศูนย์กลางการแพร่สัญญาณของสื่อโทรทัศน์ วิทยุและหนังสือพิมพ์ของรัฐและเอกชน เป็นกิจการการแพร่สัญญาณแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้ ได้ดำเนินการแพร่สัญญาณโทรทัศน์จำนวน 2 ช่อง ได้แก่ ครอบคลุมพื้นที่ของเกาะโตงาตาปูและเออัวและ ที่มีการนำรายการโทรทัศน์ของประเทศจีนเข้าสู่ผังรายการด้วย นอกจากสถานีโทรทัศน์ของภาครัฐแล้ว ประชาชนสามารถเลือกรับชมโทรทัศน์ในระบบเคเบิลทีวี ซึ่งมีดิจิเซล ตองงาเป็นผู้ให้บริการหลักได้ การจัดรายการของสถานีโทรทัศน์เหล่านี้จะมีทั้งรายการที่ใช้ภาษาตองงาและรายการที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ในส่วนของกิจการด้านวิทยุ คณะกรรมาธิการแพร่สัญญาณแห่งตองงามีส่วนสำคัญในการแพร่สัญญาณวิทยุเช่นกัน ผ่านการแพร่สัญญาณ 3 คลื่นความถี่ ได้แก่ (1017AM) กูล 90FM และ 103FM นอกจากนี้เอกชนและฝ่ายศาสนาก็มีบทบาทในการแพร่สัญญาณวิทยุด้วย โดยมีสถานีวิทยุตั้งอยู่ภายในเมือง เช่น เลติโอฟากากาลีซีเตียเน (93FM) และเรดิโอนูกูอาโลฟา เป็นต้น
สำหรับกิจการด้านสื่อหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่มักมีเอกชนเป็นเจ้าของและมักลงเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เช่น เป็นต้น นอกจากกิจการสื่อหนังสือพิมพ์ของเอกชนแล้ว ในอดีตรัฐบาลเคยดำเนินกิจการหนังสือพิมพ์เป็นของตนเองในชื่อหนังสือพิมพ์ตองงาโครนิเคิลระหว่าง ค.ศ. 1960–2006 ก่อนจะแปรรูปจากกิจการของรัฐมาเป็นของเอกชนในท้ายที่สุด
กีฬา
เป็นสนามกีฬาหลักของนูกูอาโลฟาและประเทศ ใช้จัดการแข่งขันกีฬาหลายชนิดทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รักบี้ ฟุตบอลและกรีฑา กีฬาที่ได้รับความนิยมจากชาวเมืองมากที่สุดคือรักบี้ ซึ่งมักมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในทุกระดับการแข่งขัน
นูกูอาโลฟาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาหลายรายการ โดยใช้สนามกีฬาเตอูฟาอีวาเป็นสนามกีฬาหลัก การแข่งขันระดับประเทศที่จัดในนูกูอาโลฟาเป็นประจำทุกปีคือการแข่งขันกีฬาระหว่างวิทยาลัย ซึ่งจัดขึ้นในเดือนเมษายน ในส่วนของการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาตินั้น นูกูอาโลฟาเคยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาหลายรายการ เช่น และ เป็นต้น
โครงสร้างพื้นฐาน
สาธารณูปโภค
ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากกว่าพื้นที่อื่น ส่งผลให้ประชากรจากพื้นที่ภายนอกอพยพเข้ามาในนูกูอาโลฟา แรงกดดันจากการเพิ่มจำนวนประชากรทำให้รัฐบาลตองงามีความจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ประปา สุขาภิบาล ไฟฟ้า ที่อยู่อาศัยและการศึกษา เป็นต้น เพื่อรองรับให้เพียงพอต่อความต้องการ จากสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2016 รายงานการเข้าถึงไฟฟ้าของครัวเรือน พบว่ากว่าร้อยละ 98.31 เข้าถึงระบบไฟฟ้า มีเพียงส่วนน้อยที่เข้าถึงพลังงานไฟฟ้าจากต้นกำเนิดรูปแบบอื่น การผลิตไฟฟ้าภายในเมืองอยู่ในความรับผิดชอบของตองงาพาวเวอร์ลีมีเต็ด ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ ปัจจุบันมีการปรับปรุงเครือข่ายสายส่งกระแสไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง และปรับปรุงความมั่นคงแข็งแรงของระบบสายส่งเหล่านั้นให้รองรับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับการเข้าถึงประปาในเมืองพบว่าครัวเรือนร้อยละ 92.32 สามารถเข้าถึงบริการประปาได้ อย่างไรก็ตามพบว่าครัวเรือนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งนิยมใช้น้ำที่มาจากน้ำฝนมากกว่า เนื่องจากพื้นที่โดยรวมค่อนข้างต่ำ การวางท่อประปาใกล้ทะเลจึงมักพบปัญหาน้ำทะเลรุกล้ำเข้ามา ส่งผลให้คุณภาพไม่เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ครัวเรือนที่เข้าถึงท่อประปาจะใช้น้ำจากประปาเพื่อการประกอบอาหารหรืออุปโภคเท่านั้น เนื่องจากบางส่วนพบการปนเปื้อนของน้ำเสีย: 126 ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่จึงนิยมใช้น้ำจากถังซีเมนต์ที่เก็บกักเอง แหล่งน้ำของชุมชนและน้ำขวดสำหรับการบริโภค
สาธารณสุข
ชาวนูกูอาโลฟาสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดในประเทศได้ โรงพยาบาลวีโอลาเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ (199 เตียง) ตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้และเป็นโรงพยาบาลที่รองรับการรักษาพยาบาลขั้นสูง อย่างไรก็ตามการรักษาพยาบาลที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีระดับสูงมากนิยมส่งไปรักษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์โดย Medical Transfer Board เป็นผู้อนุมัติ นอกจากนี้ยังพบว่าประชนบางส่วนนิยมรับบริการทางการแพทย์จากแพทย์แผนโบราณด้วย แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยก็ตาม
การศึกษา
ระบบการศึกษาในนูกูอาโลฟาเป็นไปตามที่รัฐบาลตองงากำหนด ภายในนูกูอาโลฟามีสถานศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา โดยสถานศึกษาเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การจัดการของรัฐบาล โบสถ์และเอกชน: 186 นักเรียนส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาในสถานศึกษาระดับประถมศึกษาของรัฐที่กระจายอยู่ทั่วเมือง: 186–7 ในขณะที่ระดับมัธยมศึกษาพบการเข้าศึกษาต่อทั้งในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน โดยสถานศึกษาของรัฐที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่มีนักเรียนมัธยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ส่วนระดับอุดมศึกษานั้น ประชากรในนูกูอาโลฟามีวุฒิการศึกษาและอัตราการเข้าศึกษาต่อในระดับสูงสูงที่สุดในประเทศ โดยมีประชากรนูกูอาโลฟาร้อยละ 17 สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา มากกว่าประชากรกลุ่มอื่นในประเทศที่มีเพียงร้อยละ 9 เท่านั้น ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในระดับดังกล่าวดำเนินการในสถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชน เช่น สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
การคมนาคม
ทางบก
นูกูอาโลฟามีเส้นทางถนนซึ่งเชื่อมกับพื้นที่อื่นบนเกาะโตงาตาปู โดยเชื่อมต่อกับ ซึ่งเป็นชุมชนด้านตะวันตกสุดของเกาะเป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร และเชื่อมต่อกับ ซึ่งเป็นชุมชนด้านตะวันออกสุดของเกาะเป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร นอกจากนี้รัฐบาลตองงาได้พิจารณาสร้างสะพานข้ามลากูนฟางาอูตาเพื่อเชื่อมระหว่างนูกูอาโลฟาและพื้นที่ด้านใต้ของเกาะโตงาตาปู เพื่อลดระยะทางและเวลาการเดินทางระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติฟูอาอะโมตูและเมืองหลวง ปัจจุบันนูกูอาโลฟาประสบปัญหากับการจราจรติดขัด สภาพถนนโดยรวมอยู่ในระดับพอใช้ มีบางจุดเป็นหลุมเป็นบ่อและแคบ การก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนนในนูกูอาโลฟาอยู่ภายใต้การดูแลของกรมโยธาธิการ ซึ่งมักประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณในการดำเนินงาน ในอดีตเคยมีเส้นทางรถไฟจากลากูนผ่านนูกูอาโลฟามุ่งสู่ท่าเรือ แต่ไม่มีให้เห็นในปัจจุบันแล้ว โดยไม่มีทั้งข้อมูลการก่อสร้างและสาเหตุการยกเลิกเส้นทาง เหลือไว้เพียงแค่ชื่อถนนรถไฟภายในเมืองเท่านั้น
สำหรับการขนส่งสาธารณะในนูกูอาโลฟานั้น มีสถานีรถโดยสารอยู่ 2 สถานี คือ สถานีบนถนนวูนาฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานการท่องเที่ยว ซึ่งมีเส้นทางอยู่ในบริเวณรอบ ๆ เมือง และสถานีที่อยู่ตรงข้ามกับที่ทำการของกระทรวงศึกษาธิการ มีเส้นทางไปส่วนตะวันออกและตะวันตกของเกาะ อย่างไรก็ตามรถโดยสารมีกำหนดการเดินทางที่ไม่แน่นอน โดยมักมีกำหนดเวลาให้บริการระหว่าง 08.00 น. – 17.00 น. นอกจากนี้ยังมีการให้บริการแท็กซี่ในเมืองด้วย ทั้งนี้บริการขนส่งสาธารณะจะหยุดให้บริการในวันอาทิตย์
ทางน้ำ
ท่าเรือนูกูอาโลฟาเป็นท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของประเทศ ในอดีตเคยใช้ท่าเรือวูนาเป็นท่าเรือนานาชาติ แต่ถูกแผ่นดินไหวทำลายใน ค.ศ. 1977 และได้ซ่อมแซมกลับมาใช้ใหม่ได้ใน ค.ศ. 2012 ปัจจุบันใช้เป็นท่าเรือสำหรับเรือสำราญและจุดพักเรือของกองทัพเรือต่างประเทศ สำหรับท่าเรือนูกูอาโลฟาเป็นทั้งท่าเรือรับส่งสินค้านานาชาติ และเป็นท่าเรือศูนย์กลางการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างนูกูอาโลฟาและส่วนอื่น ๆ ของประเทศ โดยสามารถใช้ท่าเรือแห่งนี้เดินทางไปเขตการปกครองอื่น ๆ มีเรือเดินทางไปเออัววันละ 2 รอบ ฮาอะไปและวาวาอูสัปดาห์ละ 2 รอบ รวมถึงมีเรือที่ให้บริการโดยผู้ประกอบการท้องถิ่นเดินทางไปเกาะขนาดเล็กอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบ เช่น ปาไงโมตู เป็นต้น
ทางอากาศ
ท่าอากาศยานนานาชาติฟูอาอะโมตู (IATA: TBU, ICAO: NFTF) ตั้งอยู่ห่างจากนูกูอาโลฟาไปทางใต้ประมาณ 21 กิโลเมตร (13 ไมล์) เป็นท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการสูงที่สุดในประเทศตองงา ผู้ที่เดินทางมาประเทศตองงาสามารถเปลี่ยนเครื่องบินได้ที่ท่าอากาศยานแห่งนี้เพื่อเดินทางไปส่วนอื่นของประเทศ ปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติแห่งนี้มีเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกรวม 62 เที่ยวบิน เชื่อมต่อ 5 เมืองใน 8 ประเทศ มีใช้เป็นฐานการบิน และมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงนูกูอาโลฟากับเกาะรอบนอก เช่น ฮาอะไป นีอูอาโตปูตาปู เออัว เป็นต้น อย่างไรก็ตามท่าอากาศยานนานาชาติแห่งนี้ยังไม่มีการเชื่อมโยงกับการขนส่งมวลชนสาธารณะ ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากนูกูอาโลฟาต้องใช้รถส่วนตัวหรือแท็กซี่หรือบริการรับส่งท่าอากาศยานของโรงแรมเพื่อเดินทางมาเท่านั้น
เมื่องพี่น้อง
นูกูอาโลฟามีเมืองพี่น้อง ดังนี้
เชิงอรรถ
หมายเหตุ
- หากนับตามการแบ่งเขตการปกครองของตองงา พื้นที่กรุงนูกูอาโลฟาเป็นส่วนหนึ่งของเขตโกโลโมตูอาและโกโลโฟโออู
- ในภาษาตองงาสามารถถอดชื่อเมืองหลวงแห่งนี้เป็นสัทอักษรได้ว่า /nuku.ˈəloʊfə/
- มีข้อสันนิษฐานว่าเจมส์ คุกน่าจะเป็นบุคคลแรกที่ร่างแผนที่บริเวณกรุงนูกูอาโลฟาและพื้นที่ใกล้เคียง
- ปัจจุบันอาคารรัฐสภาแห่งนี้ได้พังลงเมื่อ ค.ศ. 2018 จากพายุไซโคลนกิตา
- โฟโนเป็นการประชุมของชุมชนเพื่อหารือประเด็นสำคัญ
- สถาปัตยกรรมแบบฟาเลเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม มุงหลังคาด้วยใบมะพร้าวหรือกกหรือไม้
อ้างอิง
- "Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 1:BASIC TABLES AND ADMINISTRATIVE REPORT" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 2:ANALYTICAL REPORT" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "TWENTY-SECOND SOUTH PACIFIC CONFERENCE" (PDF). SOUTH PACIFIC COMMISSION. สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2020.[]
- Dickinson, William; Burley, David (1999). "Holocene Paleoshoreline Record in Tonga: Geomorphic Features and Archaeological Implications". Journal of Coastal Research. 15 (3): 682–700.
- . Carina Boom. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 ธันวาคม 2013. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2020.
- "History". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2020.
- Van der Grijp, Paul (2014). Manifestations of Mana: Political Power and Divine Inspiration in Polynesia. LIT Verlag Münster. ISBN .
- Niumeitolu, Heneli T. (2007). "The State and the Church, the state of the Church of Tonga" (PDF).
- "The Tupou Dynasty". royalark. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2020.
- "Tonga: Migration and the Homeland". Migration Policy Institute. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- . CIA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 พฤษภาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2020.
- LEXICO. "Nuku'alofa:Definition of Nuku'alofa by Oxford Dictionary". สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2020.[]
- Vason, George (1810). An authentic of narrative of four years residence at one of the Friendly Islands. J. Staford.
- Mariner, William (1818). An Account of the Natives of the Tonga Islands.
- Rowe, Stringer G (1885). A Pioneer, A Memoir of The Rev. John Thomas.
- Monfat, A (1893). Les Tonga; ou, Archipel des Amis et le R. P. Joseph Chevron de la Société de Marie.
- Latukefu, Sione (1969). "The case of the Wesleyan Mission in Tonga". Journal de la Société des Océanistes. 25: 95–112.
- Chino, K. (2002). "Lapita Pottery – Ties in the South Pacific". Wave of Pacifika. Tokyo: Sasakawa Pacific Island Nations Fund (SPINF). 8.
- "The first Tongans". Matangi Tonga. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2020.
- . Palace Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 พฤษภาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2020.
- Urbanowicz, Charles (1977). "MOTIVES AND METHODS: MISSIONARIES IN TONGA IN THE EARLY 19TH CENTURY". The Journal of the Polynesian Society. 86 (2): 245–263.
- Cook, James (1783). A voyage to the Pacific Ocean.
- Farmer, Sarah Stock (1885). Tonga and the Friendly Islands: With A Sketch of the Mission History.
- "Haʿapai Group". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2020.
- . WIPO Lex. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 สิงหาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2020.
- Quanchi, Max (2005). Historical Dictionary of the Discovery and Exploration of the Pacific Islands. Scarecrow Press. ISBN .
- . Swan Railley Architects. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 มกราคม 2021. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2020.
- "History". Parliament of Tonga. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2020.
- "Tonga parliament building flattened by Cyclone Gita". BBC. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2020.
- . Palace Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "The Ancient Capitals of the Kingdom of Tonga". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- VAN DER GRIJP, PAUL (1993). "THE MAKING OF A MODERN CHIEFDOM STATE: THE CASE OF TONGA". Bijdragen Tot De Taal-, Land- En Volkenkunde. 149 (4): 661–672.
- RATUVA, STEVEN (2019). Contested Terrain: Reconceptualising Security in the Pacific. Australia: ANU Press. ISBN .
- "Soldiers from Tonga in the Great War". TONGA IN WORLD WAR 1. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- Amanda L. SullivanLee. (PDF). UNIVERSITY OF HAWAI‘I AT MĀNOA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 12 พฤษภาคม 2021. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- Kohn, George C. (2008). Encyclopedia of plague and pestilence: from ancient times to the present. Infobase Publishing. p. 363. ISBN .
- "Three months of horror: a century since the Spanish flu ravaged Tonga". Matangi Tonga. 23 สิงหาคม 2020.
- "Tonga profile". BBC Asia-Pacific. 9 สิงหาคม 2020.
- "No resolution in sight in Tonga". tvnz. 30 สิงหาคม 2005. สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2014.
- . Matangi Tonga Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2007. สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2014.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Six found dead after Tonga riots". BBC. 17 พฤศจิกายน 2006. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2020.
- "MACROECONOMIC PERFORMANCE" (PDF). Asian Development Bank. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- "Tonga to start repaying loan for Nuku'alofa reconstruction". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2014.
- "Nukuʿalofa". ENCYCLOPÆDIA BRITANNICA. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- Lal, Brij V. (2000). The Pacific Islands: An Encyclopedia. University of Hawaii press. ISBN .
- "Elevation of Nuku`alofa,Tonga Elevation Map, Topo, Contour". FloodMap.net. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- Mimura, Nobuo; Pelesikoti, Netatua (1997). "VULNERABILITY OF TONGA TO FUTURE SEA-LEVEL RISE". Journal of Coastal Research: 117–32.
- Gibbs, H.S. (1976). Soils of Tongatapu, Tonga. N.Z. soil survey report. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- . CNA (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2022.
- "Massive Tonga Volcanic Eruption Caused "Significant Damage"" (ภาษาอังกฤษ). . สืบค้นเมื่อ 16 มกราคม 2022.
- "Tongans told to stay indoors to avoid inhaling volcanic ash that may devastate their environment for years, say scientists". Abc.net.au. 18 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2022.
- "The Kingdom of Tonga's Initial National Communication" (PDF). The Kingdom of Tonga’s Initial National Communication. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Nuku'alofa Climate Info". Weatherbase. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- United Nations. Department for Economic and Social Information and Policy Analysis. Statistics Division, United Nations Centre for Human Settlements (1995). Compendium of Human Settlements Statistics 1995. United Nations. ISBN .
{{}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - "THE LOCAL GOVERNMENT SYSTEM IN TONGA" (PDF). Commonwealth Local Government Forum. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "District and Town Officers Act" (PDF). Tongan Legislation. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- Sansom, Graham (2013). Principles for Local Government Legislation: Lessons from the Commonwealth Pacific. Commonwealth Secretariat. ISBN .
- Asian Development Bank (2012). The State of Pacific Towns and Cities: Urbanization in ADB's Pacific Developing Member Countries. Asian Development Bank. ISBN .
- Dorall, Cheryl (2004). Commonwealth Ministers Reference Book 2003. Commonwealth Secretariat. ISBN .
- "Australian High Commission: Kingdom of Tonga". Australian High Commission. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- "New Zealand High Commission, Nuku'alofa, Tonga". New Zealand High Commission. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- "Embassy of the People's Republic of China". Embassy of the People's Republic of China. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- "Embassy of Japan in the Kingdom of Tonga". Embassy of Japan in the Kingdom of Tonga. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- "Resident High Commissioner to Tonga announced as British embassy reopens". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- "TONGA STRATEGIC DEVELOPMENT FRAMEWORK" (PDF). MINISTRY OF FINANCE AND NATIONAL PLANNING. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2012. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2012.
- "POST DISASTER RAPID ASSESSMENT" (PDF). Government of Tonga. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- "AN ANALYSIS OF THE INCREASING HARDSHIP AND POVERTY IN THE KINGDOM (BASED ON THE 2009 HOUSEHOLD INCOME & EXPENDITURE SURVEY DATA)" (PDF). MINISTRY OF FINANCE AND NATIONAL PLANNING. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- Tupouniua, M. U. (1960). "A Note on Economic Development in Tonga". The Journal of the Polynesian Society. 69 (4): 405–408.
- Kerry, James (1993). "Cutting the Ground from under Them? Commercialization, Cultivation, and Conservation in Tonga" (PDF). The Contemporary Pacific. 5 (2): 215–242.
- "Langafonua Gallery and Handicrafts Centre". AFAR. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "Holiday market sells handicrafts for Christmas". Matangi Tonga. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "TONGA DOMESTIC MARKET STUDY USING THE DOMESTIC MARKET SURVEY REPORT TO INVESTIGATE SELECTED POLICY ISSUES" (PDF). FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "Nuku'alofa's Talamahu Market reopens for handicraft sellers". Matangi Tonga. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "Fishery and Aquaculture Country Profiles: The Kingdom of Tonga". FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2020.
- . Ministry of Information and Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 ธันวาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- Skully, Michael T (1987). Financial Institutions and Markets in the South Pacific: A Study of New Caledonia, Solomon Islands, Tonga, Vanuatu and Western Samoa.
- Asleson, Kate (2011). Tonga. Other Places Publishing. ISBN .
- "The Ultimate Guide to the Nightlife in Tonga". Tonga Pocket Guide. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- "The Ultimate Guide to the Nightlife on Tongatapu". Tonga Pocket Guide. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- Connell, John (1995). Pacific 2010: Urbanisation in Polynesia. National Centre for Development Studies, Research School of Pacific and Asian Studies, Australian National University. ISBN .
- "Population and Housing Census 2011" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Population and Housing Census 2006" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Population and Housing Census 1996" (PDF). Tonga Statistics Department. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Nuku'alofa Urban Development Sector Project" (PDF). Asian Development Bank. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "Making a Case for Tongan as an Endangered Language" (PDF). Yuko Otsuka. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2020.
- Grant, Elizabeth (2018). The Handbook of Contemporary Indigenous Architecture. Springer. ISBN .
- Bill McKay. "A guide to the architecture of the Pacific: Kingdom of Tonga". สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- Charmaine 'Ilaiu. "Building Tonga's Western fale". สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- Bill McKay. "A field guide to the architecture of the South Pacific". สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- Paula Folau Nonu. "RECONNECTING WITH THE PAST:TRADITIONAL TONGAN ARCHITECTURE AS AN EDUCATIONAL DEVICE FOR THE TONGAN PEOPLE". สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- "The Guide to Nuku'alofa on a Budget". สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2020.
- "Top Cheap Eats in Nuku'alofa". สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2020.
- "BEST ISLAND EATING IN TONGATAPU". สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2020.
- "Events, Conferences, Public Holidays & Festivals in Tonga". Tonga Pocket Guide. สืบค้นเมื่อ 8 กรกฎาคม 2020.
- "Tonga postpones Heilala 2020 because of Covid-19 threat". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- . Pacific Tourism Organization. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- "Tongan Heilala Festival and Birthday Celebrations". Ashley Cultra. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- . Kingdom Travel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 เมษายน 2021. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- "Tonga declares public holiday to celebrate rugby league win". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- "Tonga Broadcasting Commission". Asia–Pacific Broadcasting Union. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- "New channel launched in Tonga". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- "Tonga profile - Media". BBC. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- "DIGICEL BRINGS NEW CABLE TV TO TONGA". Pacific Islands Report. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2020.[]
- . Matangi Tonga. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2006. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Radio Broadcasting in Tonga". RadioStationWorld. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- "TONGA CHRISTIAN RADIO". TONGA CHRISTIAN RADIO. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- . VAVA'U POLITICS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2020. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2020.
- "Attention NRL: A glorious future awaits in the Pacific". ROAR. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2020.
- "Sport: Tonga's Teufaiva Stadium set to re-open". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2020.
- "Sport: 'Ikale Tahi hold on for famous win at Teufaiva". Radio New Zealand. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2020.
- "'Ikale Tahi beat Western Force 19-15". Matangi Tonga. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2020.
- "2019 Inter-College Sports Competition wraps up". Matangi Tonga. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2020.
- (PDF). Olympic Review. International Olympic Committee. 1989. p. 112. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF 0.2 MB)เมื่อ 27 พฤษภาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2015.
- "OCEANIA CHAMPIONSHIPS". Athletics Weekly. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2020.
- "OCEANIA JUNIOR CHAMPIONSHIPS". Athletics Weekly. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2020.
- "TONGA" (PDF). Sprep. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- . TONGA POWER LIMITED. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กันยายน 2020. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- . TONGA POWER LIMITED. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 สิงหาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- "Tonga Water Supply System Description Nuku'alofa/ Lomaiviti" (PDF). Water Safety Plan Programme:Kingdom Of Tonga. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- "The Kingdom of Tonga Health System Review" (PDF). WHO. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2020.
- MOET. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2020.
- MOET (2013). REPORT OF THE MINISTRY OF EDUCATION AND TRAINING 2013. Government of Tonga.
- "Tonga High School celebrates 72nd anniversary". matangitonga. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2020.
- . MOET. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2020.
- "ʻATENISI INSTITUTE". ʻATENISI INSTITUTE. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2020.
- "Trades training for 543 students in Tonga". Manukau Institute of Technology. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2020.
- . Tongan Institute of Higher Education. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Tonga look at possible bridge out of Nuku'alofa". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Traffic jams increasing with growing demand for vehicles in 2018". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Driving in Tonga". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Logistics Capacity Assessment" (PDF). สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Railways in Tonga". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Bus". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Taxi". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 19 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Tongatapu Fuaʻamotu International Airport TBU". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
- "Whitby's Twin Towns". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2020.
บรรณานุกรม
- Asian Development Bank (2012). The State of Pacific Towns and Cities: Urbanization in ADB's Pacific Developing Member Countries. Asian Development Bank. ISBN .
- Connell, John (1995). Pacific 2010: Urbanisation in Polynesia. National Centre for Development Studies, Research School of Pacific and Asian Studies, Australian National University. ISBN .
- Cook, James (1783). A voyage to the Pacific Ocean.
- D'Arcy, Paul (2008). Peoples of the Pacific: The History of Oceania to 1870. Routledge. ISBN .
- Dorall, Cheryl (2004). Commonwealth Ministers Reference Book 2003. Commonwealth Secretariat. ISBN .
- Findlay, G.G.; Holdsworth, W.W (1921). The history of the Wesleyan Missionary Society. Vol. III.
- Gibbs, H.S. (1976). Soils of Tongatapu, Tonga. N.Z. soil survey report. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2020.
- Grant, Elizabeth (2018). The Handbook of Contemporary Indigenous Architecture. Springer. ISBN .
- Lal, Brij V. (2000). The Pacific Islands: An Encyclopedia. University of Hawaii press. ISBN .
- Mariner, William (1818). An Account of the Natives of the Tonga Islands.
- MOET (2013). REPORT OF THE MINISTRY OF EDUCATION AND TRAINING 2013. Government of Tonga.
- Niumeitolu, Heneli T. (2007). "The State and the Church, the state of the Church of Tonga" (PDF).
- Sansom, Graham (2013). Principles for Local Government Legislation: Lessons from the Commonwealth Pacific. Commonwealth Secretariat. ISBN .
- Tzan, Douglas D. (2019). William Taylor and the Mapping of the Methodist Missionary Tradition. Lexington Books. ISBN .
- United Nations. Department for Economic and Social Information and Policy Analysis. Statistics Division, United Nations Centre for Human Settlements (1995). Compendium of Human Settlements Statistics 1995. United Nations. ISBN .
{{}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - Van der Grijp, Paul (2014). Manifestations of Mana: Political Power and Divine Inspiration in Polynesia. LIT Verlag Münster. ISBN .
- Vason, George (1810). An authentic of narrative of four years residence at one of the Friendly Islands. J. Staford. สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2020.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nukuxaolfa txngnga Nukuʻalofa epnemuxnghlwng emuxngthiihythisudaelasunyklangdankaremuxngkarpkkhrxng esrsthkic wthnthrrmkhxngtxngnga krungnukuxaolfatngxyuthangtxnehnuxkhxngekaaotngatapu mithisehnuxtidtxkbmhasmuthraepsifik thisittidtxkblakunfangaxuta thistawntktidtxkbphunthinxkkrungkhxngekhtokolomtuxa aelathistawnxxktidtxkbphunthinxkkrungkhxngekhtokolofoxxu micanwnprachakrethakb 23 221 khn hruxekuxb 1 in 4 khxngprachakrthngpraeths aelahaknbrwmphunthi Greater Nukuʻalofa camicanwnprachakrethakb 35 184 khn dwycanwnaelakhwamhnaaennkhxngprachakrthisung krungnukuxaolfacungmisthanaepnemuxngotediyw aelaepnekhtemuxngephiyngaehngediywkhxngpraethsnukuxaolfaNukuʻalofa File 130px File 130px phaphcaksayipkhwaaelabnlnglang sanknaykrthmntri obsthsaxioxen obsthtxngnganukuxaolfa xakharetaoxemepexa phrarachwng tncamcuriklangkrung xakharkrathrwngkarkhlngnukuxaolfa siaedng bnekaaotngatapunukuxaolfaphikd 21 8 9 S 175 12 32 W 21 13583 S 175 20889 W 21 13583 175 20889praeths txngngaekhtpkkhrxngotngatapuphunthi thnghmd11 41 tr km 4 41 tr iml khwamsung4 emtr 13 fut khwamsungcudsungsud6 emtr 20 fut khwamsungcudtasud0 emtr 0 fut prachakr 2016 thnghmd23 221 khn khwamhnaaenn2 035 khn tr km 5 270 khn tr iml ekhtewlaUTC 13 rhsphunthi676phumixakasAf inxditphunthinukuxaolfaswnihyxyuitthael misphaphepnekaa imidechuxmtxkbekaaotngatapuinpccubn mihlkthankartngthinthaninphunthitngaetkxn 800 pikxnkhristkal nbtngaetkarsthapnackrwrrdituxiotngaepntnma nukuxaolfaepnswnhnungkhxngckrwrrdiaehngni cnkrathnginkhriststwrrsthi 18 michawyuorphlayklumidmioxkasmaeyiymeyiynnukuxaolfa nukuxaolfaerimmikhwamsakhykbprawtisastrtxngngainsmykhriststwrrsthi 19 emuxklayepnsunyklangxanackhxngtuxikaonkuoplu 127 phrxmkbkarepnsunyklanginkarephyaephrsasnakhristinpraeths 130 aelatxmaklayepnsunyklangkaremuxngkarpkkhrxngcnthungpccubnhlngcakthiphraecacxrc tuopxuthi 1 sthapnarachxanackrtxngngakhun karsthapnakrungnukuxaolfaepnemuxnghlwngnaipsukarphthnarabbsatharnupophkhaelakarkxsrangthithakarkhxnghnwynganphakhrththisakhy rwmipthungepnthitngkhxngsthanexkxkhrrachthutthnghmdthimipharkicinpraethstxngnga chwngrahwang kh s 2005 6 mikarchumnumeriykrxngprachathipityinkrungnukuxaolfa aemcaprasbkhwamsaerc aetsrangkhwamesiyhayihkbphunthisunyklangthurkicepnxyangmak karepnsunyklangkhxngpraeths sngphlihkarphthnarabbsatharnupophkhphayinnukuxaolfadikwaphunthixun mirabbthnnthiechuxmoyngsuphunthixunbnekaaotngatapu mithaeruxnalukmatrthan rwmipthungtngxyuimiklcakthaxakasyannanachatihlkkhxngpraeths nxkcakniorngphyabalthimikhwamphrxmsungsudaelasthabnkarsuksathimichuxesiynghlayaehnglwntngxyuinemuxngnithngsin krungnukuxaolfamikarecriyetibotthangesrsthkickhunepnladb naipsukarxphyphkhxngprachakrcakphunthiswnxunekhamaxyuinnukuxaolfamakkhun xnnaipsupyhakarrxngrbkarkhyaytwkhxngprachakr enuxngcakphunthikhxngemuxngmicakdaelakhadkarwangaephn karphthnaphunthiemuxngaelakarmicanwnprachakrepncanwnmak thaihphunthiemuxngepnsunyklangkarcdechlimchlxngnganethskalthisakhy epnsunyklangdankickarsux idrbeluxkihepnecaphaphkaraekhngkhnkilaradbthwip rwmipthungkarepnphunthithimikarnawthnthrrmcakphaynxkekhamaphsmphsankbwthnthrrmtxngngaxyangchdecnsphthmulwithyaemuxsuksatamhlksphthmulwithyaphbwanukuxaolfa mithimacakkhainphasatxngnga 2 kha khuxkhawa Nuku hmaythung thiphk aelakhawa Alofa hmaythung khwamrk dngnnnukuxaolfa cungmikhwamhmaywathiphkaehngkhwamrk nukuxaolfapraktchuxepnlaylksnxksrkhrngaerkinhnngsuxkhxngmichchnnarichawxngkvsthichuxcxrc aewsn sungtiphimphemux kh s 1810 bxkelathungprasbkarnkhxngekhainkareduxnthangeyuxntxngngain kh s 1797 odyekhasakdchuxemuxngaehngniwa Noogollefa 68 nxkcakniyngphbkarekhiynchuxnukuxaolfakhxngchawtawntkthiekhamaeyiymeyiynxikhlayrupaebb idaek Nioocalofa 93 Nukualofa 33 4 aela Noukou Alofa 184 saehtuthikarsakdchuxtangcakpccubn enuxngcakkarphthnatwxksrlatinephuxekhiynphasatxngngaiderimcringcnginchwngkhristthswrrs 1820 30 102 prawtisastrkxnkarekhamakhxngchatitawntk aephnthichbbaerkkhxngxawotngatabu rangodykptnecms khukin kh s 1777 sungaesdngthungxawnukuxaolfaaelacudthieruxkhxngekhathxdsmxiklkbekaapaingomtu mikarrabuchuxekaakhnadelkthixyuiklekhiyng echn ekaaxatata ekaapaingomtu epntn inchwngnxrthkripepiynsmyimoxsin phunthiswnmakkhxngnukuxaolfatngxyuitthael aelaepnswnhnungkhxnglakunfangaxuta miephiyngsnthray dxnthrayitnaaelaekaakhnadelkethannthiophlphnphunna 687 8 chawaelphita klumkhnthiphudphasaintrakulphasaxxsotrniechiynepnklumaerkthiekhamaxyuxasyinekaaotngatapuinchwng 826 8 pikxnkhristkal rayaaerkidtngthinthaninnukuelka sungtngxyuthangtawnxxkkhxngnukuxaolfa aelatxmaidkhyaychumchnkhxngtnsuekaathiepnphunthikhxngnukuxaolfainpccubndwy immihlkthanthangprawtisastrhruxmanusywithyathichdecnmaknkekiywkbphunthinukuxaolfakxnkartidtxkbchatitawntk mikhxmulraylaexiydthrabephiyngwanbtngaetphraecaxaohexxituidsthapnackrwrrdituxiotngakhunin kh s 950 phunthinukuxaolfaaelaekaaotngatapukepnswnhnungkhxngckrwrrdiaehngni thwaimmibthbathhruxkhwamsakhythangprawtisastrinchwngewlanimaknk snnisthanwaphunthibriewnninacaxyuphayitkarpkkhrxngkhxngchnchnkhunnangphuidphuhnung 246 7 kartidtxkbchatitawntk inwnthi 10 mithunayn kh s 1777 kptnecms khuksungepnchawxngkvsidthxdsmxeruxinbriewnxawnukuxaolfa aelaidrangaephnthikhxngxawaelaekaaodyrxb sungepnphunthithitngkrunginpccubndwy 277 81 txmain kh s 1797 cxrc aewsn michchnnarichawxngkvscaksmakhmmichchnnarilxndxnekhamaeyiymchmtxngnga phrxmthngrabuchuxnukuxaolfainhnngsuxkhxngekhathitiphimphin kh s 1810 nbepnkhrngaerkthichuxnukuxaolfapraktkhunepnlaylksnxksr 68 hlng kh s 1797 karemuxngphayinckrwrrdimikhwamwunway naipsukarekidsngkhramklangemuxnginewlatxma 122 7 phraecatuopxumaolhi tuxikaonkuopluphraxngkhtxmaidtdsinphrathyyaysunyklangxanaccakhihiofmaxyuthinukuxaolfa phrxmthngsrangpxmprakarkhun sungmikhnadihysudbnekaaotngatapu 127 xyangirktam phupkkhrxngwawaxuaelahaxaipichpunihythalaypxmprakar aelayudidinthaythisud 93 6 emuxyudpxmprakaridsaerc ekhasngihmikarsxmaesmpxmprakar ephuxrxkarocmtiklb thwaimmikarocmtiidekidkhun ekhacungtdsinicxxkcakekaaotngatapu odyaetngtngtaikaehngepxaepnphuduaelnukuxaolfaaethnekha aettaikthrysekha aelathalaypxmprakarnukuxaolfalngxikkhrng 128 inchwngtnkhriststwrrsthi 19 phunthinukuxaolfaklayepnsunyklangkarephyaephrkhristsasna emux tuxikaonkuopluphraxngkhthi 18 miswnsakhyinkarsnbsnun in kh s 1826 smakhmmichchnnarilxndxnidsngmichchnnaricaktahitiedinthangipyngfici aelamicudaewaphkrahwangthangthinukuxaolfa emuxkhnaedinthangmathungnukuxaolfa phraxngkhidkktwmichchnnarichawtahiti 2 khniw ephuxihthngsxngkhnsxnsasnaihaekphraxngkh naipsukarkxsrangobsthaelaorngeriynsxnsasnathinukuxaolfainewlatxma 129 khristsasnainnukuxaolfaecriyrungeruxngmakkhun emuxmichchnnariemthxdistekhamarwmklumkbmichchnnarichawtahitithiephyaephrsasnaxyukxnhnann 130 khwamkhdaeyngthimimakxnhnann phthnaepnkhwamkhdaeyngthangsasnarahwangklumphusnbsnunkhristsasnakbklumkhwamechuxdngedim odyphraecaxaelxaomtuxaphupkkhrxngnukuxaolfaxyufaysnbsnunkhristsasna 322 8 xyangirktamkardaeninnoybayxyangsntikhxngphraxngkhthaihimmikarsngkhramsakhyekidkhuninphunthinukuxaolfa 371 2 rachxanackrtxngnga say nukuxaolfain kh s 1887 khwa phraecacxrc tuopxuthi 2 esdcepidkarprachumrthspha kh s 1900 hlngcakthiphraecacxrc tuopxuthi 1 sthapnarachxanackrtxngngakhun phraxngkheluxkemuxngpaingaelalifukainhaxaipepnemuxnghlwngaehngaerk khxngrachxanackr kxnthicayayemuxnghlwngmaxyuthinukuxaolfain kh s 1851 aelamisthanaemuxnghlwngxyangepnthangkartamkhwaminrththrrmnuytxngnga kh s 1875 phrxmthngkahndihkarprachumrthsphainyamsngbtxngekidkhuninnukuxaolfaethann ephuxyunynsthanaemuxnghlwngkhxngxanackraeladaeninkarpkkhrxngrwmsunyxyangmiprasiththiphaph 239 cungmikarkxsrangsingpluksrangephuxaesdngthungkhwamepnsunyklangthangkaremuxngkarpkkhrxngkhxngpraeths mikarkxsrangphrarachwngim odynaekhawsdukxsrangcakniwsiaelndemux kh s 1864 ephuxepnthiprathbxyangepnthangkarkhxngphramhakstriy thiprachumkhnarthbal thiprachumxngkhmntriaelathixxkmhasmakhm nxkcaknimikarkxsrangxakharrthsphaaelaepidthakarin kh s 1875 emuxphraecacxrc tuopxuthi 1 swrrkhtin kh s 1893 rthbaltxngngatdsiniceluxkctursaedng malaexkula sungekhyichepnlanwangsahrbcdkickrrmtang inxdit tngxyuicklangkrungnukuxaolfaepnthifngphrabrmsph kareluxksthanthifngphrabrmsphinkhrngniaetktangcakinxditthiphrabrmsphkhxngkstriysungsudkhxngtxngngacafngthilangiinemuxngmuxa in kh s 1900 rchkalkhxngphraecacxrc tuopxuthi 2 txngngaklayepnrthinxarkkhakhxngshrachxanackr 670 shrachxanackridcdtngsthankngsulkhuninnukuxaolfa aelaaethrkaesngkarpkkhrxngkhxngtxngnga kxihekidkarptirupaelaphthnarabbsatharnupophkhinnukuxaolfa mikarkxsrangsingpluksrangthicaepnhlayxyangphayinemuxng echn orngphyabal hxkhxythngekbna epntn 161 2 nxkcakniyngmikarkxsrangxnusrnsthanephuxralukthungthharthiekharwmsngkhramolkkhrngthi 1 sungtxngngaekharwmxyangimepnthangkariwinkrungnukuxaolfa sungaelwesrcin kh s 1923 karchkchingthrphyinehtuclaclnukuxaolfa kh s 2006 krungnukuxaolfaprasbpyhakhxngkarrabadthwikhhwdihysepnhlngcakcbsngkhramolkkhrngthi 1 sungmisaehtumacakeruxexsexs thalunthiekhamathxdsmxbriewnthaeruxnukuxaolfainwnthi 12 phvscikayn kh s 1918 eruxlanimitnthangcaknkhrxxkaelnd niwsiaelnd thiinkhnannprasbpyhakaraephrrabadkhxngiwrs echuxiwrsthimakberuxidaephrkracaythwkrungnukuxaolfa sngphlihmikhnecbpwyaelalmtayepncanwnmak inkhnathiphayinemuxngengiybechiyb miephiyngesiyngkhxngekwiynthibrrthuksphipfngethann inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 smedcphrarachininathsaolet tuopxuthi 3 xnuyatihkxngkalngshrthtngthanthphinkrungnukuxaolfaephuxichsahrbthasngkhraminekhtmhasmuthraepsifik phrxmthngdaeninkarkxsrangthaxakasyanhangipthangitkhxngemuxnghlwngephuxichepnthikhunlngkhxngekhruxngbinbnekaaotngatapu nbtngaetplaykhriststwrrsthi 20 thungtnkhriststwrrsthi 21 bthbathkhxngkhbwnkareriykrxngprachathipitymimakkhun mikarprathwngeriykrxngprachathipitythwnukuxaolfain kh s 2005 emuxkareriykrxngimepnphlnaipsukarekidkarclaclthwnukuxaolfain kh s 2006 karclaclkhrngnimiphuesiychiwit 6 khn aelasrangkhwamesiyhayihkbyansunyklangthurkickhxngemuxngthungrxyla 80 rthbaltxngngatxngkuengincakrthbalcinkwa 109 landxllarshrth ephuxsxmaesmyansunyklangthurkickhxngemuxngthithukthalayinehtukarnni kardaeninkarsxmaesmphunthithiesiyhaydaeninkaraelwesrcin kh s 2012phumisastrphumipraeths phaphthaydawethiymnukuxaolfa nukuxaolfatngxyuthangtxnehnuxkhxngekaaotngatapu sungepnekaapakarngthimikhnadihythisudin 100 mikhnadphunthiethakb 11 41 tarangkiolemtr aelahaknbrwmphunthiprimnthldwycakhrxbkhlumphunthi 34 82 tarangkiolemtr odyxyuhangipthangtawnxxkechiyngitkhxngkrungsuwaemuxnghlwngkhxngficiepnrayathangpraman 750 kiolemtraelaxyuhangcaknkhrxxkaelndkhxngniwsiaelndpraman 2 000 kiolemtr lksnaphunthikhxngnukuxaolfaepnthirab miradbkhwamsungechliycakradbnathaelpraman 4 emtr sungtakwaphunthixunbnekaa 127 8 nxkcaknithrphyakrdinodyrwmmikhwamxudmsmburn odyechphaaxyangyingdininbriewniklchayfngtxnehnuxkhxngemuxng enuxngcakidrbxiththiphlcakethathanphuekhaifcakekaakhangekhiyng 5 10 nukuxaolfaidrbphlkrathbcaksunamithimiehtucakkarpathukhxngphuekhaifhungaotngaaelakhlunsunamiin ph s 2565 sungsrangkhwamesiyhayepnxyangmak odykhadwacaichewlanbpiinkarfunfucakkhwamesiyhaythiekidkhun phumixakas tamkaraebngekhtphumixakasaebbekhiphephin nukuxaolfamilksnaphumixakasaebbpadibchun odyidrbxiththiphlcaklmkhatawnxxkechiyngit vdukalinnukuxaolfaehmuxnkbvdukalodythwipkhxngpraethstxngnga sungmi 2 vdu khux vdufnaelavduaelng vdufncaekidkhunrahwangeduxnphvscikayn emsayn odychwngeduxnmkrakhm minakhm caepnchwngthifntkmakthisud inkhnathivduaelngcaekidkhunrahwangeduxnphvsphakhm tulakhm dwynukuxaolfaimmieduxnidthimiprimannafntakwa 60 milliemtr 2 4 niw cungklawidwaimmivduaelngthiaethcring xyangirktaminrayahlngprimannafnerimldnxylngelknxyaelamikhwamphnphwnkhxngprimannafn xnenuxngmacakphawaolkrxnaelapraktkarnexlnioy sahrbxunhphumiechliykhxngnukuxaolfaxyuthipraman 24 xngsaeslesiys 75 xngsafaerniht odyeduxnmkrakhm minakhm epnchwngthimixunhphumiechliysungthisud inkhnathieduxnmithunayn singhakhm mixunhphumiechliytathisud cakkarekbkhxmulsphaphphumixakaskhxngnukuxaolfainxdit phbwaxunhphumiechliyephimkhunpraman 0 4 0 6 xngsaeslesiys nbtngaetchwngkhristthswrrs 1970 epntnma khxmulphumixakaskhxngnukuxaolfaeduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudthiekhybnthuk C F 32 90 32 90 31 88 30 86 30 86 28 82 28 82 28 82 28 82 29 84 30 86 31 88 32 90 xunhphumisungsudechliy C F 29 4 84 9 29 9 85 8 29 6 85 3 28 5 83 3 26 8 80 2 25 8 78 4 24 9 76 8 24 8 76 6 25 3 77 5 26 4 79 5 27 6 81 7 28 7 83 7 27 3 81 1 xunhphumiechliyaetlawn C F 26 4 79 5 26 8 80 2 26 6 79 9 25 3 77 5 23 6 74 5 22 7 72 9 21 5 70 7 21 5 70 7 22 0 71 6 23 1 73 6 24 4 75 9 25 6 78 1 24 1 75 4 xunhphumitasudechliy C F 23 4 74 1 23 7 74 7 23 6 74 5 22 1 71 8 20 3 68 5 19 5 67 1 18 1 64 6 18 2 64 8 18 6 65 5 19 7 67 5 21 1 70 22 5 72 5 20 9 69 6 xunhphumitasudthiekhybnthuk C F 16 61 17 63 15 59 15 59 13 55 11 52 10 50 11 52 11 52 12 54 13 55 16 61 10 50 primanfn mm niw 174 6 85 210 8 27 206 8 11 165 6 5 111 4 37 95 3 74 95 3 74 117 4 61 122 4 8 128 5 04 123 4 84 175 6 89 1 721 67 76 khwamchunrxyla 77 78 79 76 78 77 75 75 74 74 73 75 76wnthimifntkodyechliy 17 19 19 17 15 14 15 13 13 11 12 15 180aehlngthima Weatherbasekarpkkhrxngsankngankhahlwngihyshrachxanackr nukuxaolfaekidcakkarrwmknkhxnghmubanchumchnemuxng 3 aehngthangtxnehnuxkhxngekaaotngatapuidaek hmubanokolofoxxu hmubanmaxufanga sungepnswnhnungkhxngekhtokolofoxxu aelahmubanokolomtuxa sungepnswnhnungkhxngekhtokolomtuxa inbangkhrngeriykrwmphunthikhxngekhtokolofoxxuaelaekhtokolomtuxarwmknwa Greater Nuku alofa 25 dngnnxanackarduaelphunthikhxngnukuxaolfacungxyuinkhxbekhtkhxngecaphnknganpracaekht district officer aelaecaphnknganpracahmuban town officer khxngekhtaelahmubanthiklawmakhangtn odytaaehnngehlanimacakkareluxktngkhxngprachachn miwarakardarngtaaehnngkhrawla 3 pi aelasamarthdarngtaaehnngkiwarakid xyangirktamrthmntriwakarkrathrwngmhadithysamarthphicarnapldecaphnknganpracaekhtaelaecaphnknganpracahmubanid hakpraphvtitnmichxbhruxlaewnkarptibtihnathi sahrbecaphnknganpracahmuban town officer mikhxbekhthnathichwyehluxecaphnknganpracaekhtinkarsarwcsphawasukhaphibal karcdekbphasithidinaelakarekstraelarayngankartayxyangchbphlnthiekidkhuninphunthithitnrbphidchxb nxkcakniyngmihnathiprakaskarprachumofon rwmthngrksakhwamepnraebiybkhxngkarprachumdngklaw swnecaphnknganpracaekht district officer mihnathiinkarsarwcaelarbrayngantamhnathikhxngecaphnknganpracahmubanthangdansatharnsukh thidinaelakarekstr nxkcakniyngmihnathiinkartrwcsxbkarkkknphuch kartrwcsxbibxnuyatprakxbthurkic aelahnathixuntamthirthmntriwakrathrwngmhadithyhruxrthmntriwakarkrathrwngtarwchruxkhnarthmntrimxbhmay phrxmthngraynganphlkardaeninnganihkbrthmntriwakarkrathrwngmhadithythrabodytrng dwyxanaccakdkhxngecaphnknganthngsxngtaaehnng 21 karbriharcdkarswnihyinkarduaelnukuxaolfacungxyuphayitkarcdkarkhxngrthbaltxngngaepnhlk 126 nukuxaolfainthanathiepnemuxnghlwngkhxngpraeths cungepnsunyklangthangdankaremuxngkarpkkhrxngkhxngpraeths odymithnghnwyngandannitibyyti briharaelatulakar rwmipthungphrarachwngtxngnga thiprathbxyangepnthangkarkhxngphramhakstriy 95 nxkcakninukuxaolfayngepnthitngkhxngsthanexkxkhrrachthut 5 praeths idaek praethsxxsetreliypraethsniwsiaelndpraethscinpraethsyipun aelashrachxanackresrsthkicnukuxaolfaepnsunyklangthangesrsthkickhxngpraeths hnwynganthangdankarenginthisakhykhxngpraethsxyangthnakharklangtxngngamisanknganihyxyuphayinemuxng pccubnrayidhlkkhxngkrungnukuxaolfamacakphakhkarbrikar sungrwmthungkarphanichy karthxngethiyw karbrikarsatharnaaelakarengin rxnglngmaepnphakhxutsahkrrmaelaphakhekstrkrrmtamladb prachakrswnihyprakxbxachiphthiepnwichachiph rxnglngmaepnphuthithanganekiywkbkarkhaaelakarbrikar aelanganhtthkrrmtamladb nxkcakniyngphbprachakrswnnxythiprakxbxachiphephuxkarprathngchiwit subsistence workers xikdwy caksthitisamaonprachakraelaekhha kh s 2016 nukuxaolfamiprachakrephschayekhasurabbaerngnganrxyla 67 1 makkwaephshyingthiekhasurabbaerngnganephiyngrxyla 54 4 ethann khnathixtrakarwangngankhxngprachakrinemuxngethakbrxyla 1 4 cakrayngansrupkhwamyakcnintxngngaemux kh s 2011 phbwakhakhrxngchiphphayinemuxngsungthisudinpraeths odymicudaebngesnkhwamyakcnkhwamtxngkarphunthanxyuthi 61 15 paxangatxkhntxspdah praman 843 bath emuxphicarnacakradbrakhasinkhaaelabrikartngaet kh s 2001 9 phbwaradbrakhasinkhaaelabrikarephimkhunxyangrwderw odyesnkhwamyakcndanxaharephimkhunrxyla 78 4 khnathikhaichcaythiimichxaharephimkhunthungrxyla 115 8 xnsngphlihesnkhwamyakcnodyrwmkhybsungkhunthungrxyla 99 3 karprbtwthisungkhunnimisaehtucakradbrakhasinkhathiimichxaharephimsungkhun odyechphaaxyangyingkhaichcaydankarkhmnakhmaelakhaichcaykarichothrsphthmuxthux nxkcakniprachakrrxyla 21 4 khxngemuxngdarngchiwitxyuitesnkhwamyakcn sungsungkwa kh s 2001 thimiephiyngrxyla 18 ethann aelanbidwakrungnukuxaolfaepnchumchnthimikhwamehluxmlathangesrsthkicsungthisudinpraeths odymikhasmprasiththiciniethakb 0 39 xyangirktamkharadbkhwamehluxmlayngthuxidwaxyuineknthpkti ekstrkrrmaelahtthkrrm say thangekhatladtalamahu khwa aephngkhaysinkhakarekstrphayintladtalamahu kickrrmthangesrsthkicswnihykhxngnukuxaolfaekiywkhxngkbphakhekstrkrrm mikarcdtngrthwisahkicenuxmaphrawaehngin kh s 1942 ephuxsngesrimkarsngxxkenuxmaphrawaehng sungepnphlphlitthangkarekstrkrrmthisakhykhxngemuxng kickarrthwisahkicmikhwamkawhnakhunepnladb cnsamarthnathuncdsuxeruxsahrbthakarkhnsng aelasrangorngnganaehngihmhangcakkrungnukuxaolfa 3 2 kiolemtrid 406 nxkcakniyngmirthwisahkicinlksnaediywknephuxsngesrimkarsngxxkphlitphnthkarekstrxun echn skhwxch wanilla klwy epntn 406 xyangirktamphakhekstrkrrminnukuxaolfakalngprasbpyhakhwamxudmsmburnkhxngdinaelakhwamcakdkhxngphunthiephaapluk 231 2 sinkhahtthkrrmkepnsinkhasngxxksakhychnidhnung mikarkxsrangsunyhtthkrrmaelaaeklxrilangaofnuxain kh s 1953 ephuxichcahnaynganhtthkrrmphunemuxng rwmipthungesuxpha kraepaaelangansilpatang inbangkhrngxacmikarcdethskalcahnaynganhtthkrrminphunthiemuxngxikdwy sahrbkarsuxkhaysinkhathangkarekstraelahtthkrrmthibriophkhinpraethscacdcahnaythitladtalamahu sungphlphlitthangkarekstrthicahnaymicanwnkhidepnrxyla 55 7 khxngphlphlitthimikhayinpraeths nxkcaknitladaehngniyngsamarthkhrxngswnaebngthangkartladkhxngkarcahnayphlphlitthangkarekstrinpraethsidthungrxyla 21 xikdwy pramng bn chayfngtxnehnuxkhxngkrung lang susanhlwngrachwngstuopxu krungnukuxaolfaepnsunyklangkhxngkarpramnginpraeths miprachakrthaxachiphpramngkhidepnrxyla 0 9 inchayfngthangtxnehnux kxngeruxpramnginemuxngcacbstwnainnannaiklekhiyng echn plathunaaelaplakaphng epntn inkhnathichayfngthangtxnitkhxngkrungnukuxaolfathitidkblakun phbkarthapramngephuxkaryngchiph xyangirktamdwycanwnprachakrthiephimmakkhunaelakarcbstwnadwywithikarthithalayrabbniews naipsukarsuyesiypakarngaelaspichiskhxngstwna 226 sahrbphlphlitthiidcakkarpramng bangswncasngxxkipyngtangpraeths echn samw xemriknsamwaelafici xutsahkrrm dwykarkhadkarwangaephnthidikhxngrthbal sngphlihphunthinikhmxutsahkrrmphayinemuxngmikhxnkhangcakd 225 nikhmxutsahkrrminkrungnukuxaolfathnghmdtngxyuinhmubanmaxufanga sungrthbalcdtngkhunin kh s 1980 miphunthiethakb 20 exekhxr praman 0 081 tarangkiolemtr odyaebngphunthinikhmxxkepn 42 swn rthbalidxnuyatihphakhxutsahkrrmecharayayawphunthinikhmxutsahkrrmaehngni xutsahkrrminnikhmswnmakepnxutsahkrrmeba echn orngnganphlitkradaschara orngnganphlitkhxngeln orngnganprakxbtueyn epntn 160 in kh s 2011 rthbaltdsinicaeprrupsunyxutsahkrrmkhnadelkcakkickarkhxngrthepnkickarrthwisahkic ephuxihmikhwamkhlxngtwinkarbriharcdkaryingkhun pccubnnikhmxutsahkrrmthimaxufangaepnhnunginnikhmxutsahkrrm 2 aehnginpraeths xikaehnghnungxyuthienxixafuinekhtkarpkkhrxngwawaxu karthxngethiyw okhrngsrangphunthandankarthxngethiywkhxngnukuxaolfacdidwadikwaphunthixuninpraeths enuxngcakmiranxahar ranekhruxngdum singxanwykhwamsadwkaelathiphkepncanwnmak 109 rwmipthungmibrikarkhnsngmwlchnaelarthckryanihechaephuxedinthangipyngaehlngthxngethiywtang phayinemuxng 98 aehlngthxngethiywthangwthnthrrm sungaesdngthungprawtikhwamepnmakhxngpraethsthimichuxesiyng echn phiphithphnthaehngchatitxngnga sunyhtthkrrmlangaofnuxa susanhlwngkhxngrachwngspccubnaelaphrarachwng epntn 102 7 nxkcakniyngmikarcdkarthxngethiywechingwthnthrrmthiekiywkhxngkbkilaaelasasnaxikdwy 101 2 inswnkhxngkarthxngethiywechingthrrmchatinn dwykrungnukuxaolfamiphunthithangtxnehnuxtidthael cungepnaehlngdanadupakarngaelakickrrmthangthaelthisakhyaehnghnungkhxngpraeths 107 yanklangkhunkhxngemuxngmikhnadelk ephraatxngngaepnpraethsxnurksniymthangsasna thwamikhwamkhukkhkmakthisudinpraeths yanklangkhunehlanicatngxyubnthnnwunathangtxnehnuxkhxngemuxngprachakrcanwnprachakrnukuxaolfapiprachakr 19314 005 19569 202 129 8 196615 545 68 9 197618 312 17 8 198621 383 16 8 199622 400 4 8 200623 658 5 6 201124 229 2 4 201623 221 4 2 rayngancanwnprachakrkhxngnukuxaolfa 33 hmuban prachakr kh s 2016okolofoxxu 8 265okolomtuxa 7 595maxufanga 7 361rwm 23 221 cakkarthasamaonprachakraelaekhhain kh s 2016 phbwaprachakrthixasyxyuinukuxaolfamithngsin 23 221 khn khidepnrxyla 23 20 khxngprachakrthngpraeths aelamikhwamhnaaennkhxngprachakrethakb 2035 khntx 1 tarangkiolemtr haknbrwmprachakrinekhtprimnthlkhxngnukuxaolfadwy camiprachakrrwmknethakb 35 184 khn chwngkhristthswrrs 1930 prachakrthixasyxyuinnukuxaolfamiephiyngrxyla 10 khxngprachakrkhxngthngpraethsethann thwanbtngaet kh s 1931 epntnma prachakrinnukuxaolfaephimkhuninxtrathisung aelamiaenwonmephimkhunmaodytlxd 33 enuxngcakprachakrinchnbthtxngkaraeswnghaoxkasthangkarsuksaaelakarprakxbxachiph prakxbkbphunthichnbthmikhxcakdthangdankarkhyaythidinthakarekstr xyangirktamin kh s 2016 xtrakaretibotkhxngprachakrinnukuxaolfaklbldlng sunglksnaechnniphbidthwipekuxbthukchumchninpraethstxngnga aemcaepnechnnn mikarkhadhmaywaprachakrkhxngnukuxaolfaxacephimsungidthung 45 000 khn in kh s 2030 prachakrthixasyxyuinnukuxaolfacdwaepnprachakrephiyngklumediywinpraethsthixasyxyuinekhtemuxng odyeknthkarcdekhtemuxngkhxngpraethstxngngakahndihekhtemuxngkhuxhmubanthimiprachakrekin 5 000 khn sungphbidechphaainnukuxaolfaethann okhrngsrangprachakrkhxngnukuxaolfamiprachakrechuxchatitxngngaaelalukkhrungtxngngaepnprachakrklumhlkcanwn 22 117 khn rxyla 95 25 rxnglngmakhuxchawcin 369 khn rxyla 1 59 swnthiehluxepnchawyuorp chawfici chawexechiyaelaklumprachakrthimacakhmuekaainmhasmuthraepsifik prachakrswnmaksamarthichphasatxngngaaelaphasaxngkvsinkarsuxsarid aetprachakrodyrwmerimmikhaniymihkhwamsakhykbphasaxngkvsmakkwaphasatxngngamakkhun ehnidchdecncakhlksutrkhxngorngeriynmthyminnukuxaolfa aelakickardansuxkhxngpraeths karnbthuxsasnakhxngprachakrinnukuxaolfakhlaykhlungkbkarnbthuxsasnakhxngprachakrtxngngathwip odyprachakrswnihynbthuxsasnakhristepnswnmak aebngepncanwn 8 491 khn rxyla 36 67 ormnkhathxlikcanwn 4 374 khn rxyla 18 83 canwn 2 754 khn rxyla 11 86 swnthiehluxnnnbthuxsasnakhristnikayxun echn aexngklikhn epntn xyangirktamphbprachakrthinbthuxsasnaxunxikdwy odyklumihythisudkhuxklumphunbthuxsasnabaihcanwn 167 khn rxyla 0 72 aelasasnaphuththcanwn 21 khn rxyla 0 09 wthnthrrmsthaptykrrm inxditchawnukuxaolfaaelachawtxngngaodythwipcasrangthiphkxasyinlksnakhxngfael mikaraebngphunthisahrbkarsklang karthaxaharaelaphunthieliynghmu 698 9 dwykarecriyetibotkhxngnukuxaolfaaelakartidtxkbchatitawntk khwamniymkarsrangbandwysthaptykrrmaebbfaelidepliynipepnaebbsmyniymmakkhun echn phrarachwngtxngngathisrangkhuninlksnakhxngxakharsxngchninrupaebbwiktxeriy epntn xyangirktamngansthaptykrrmaebbfaelyngkhngxyuinrupaebbkhxngsasnsthankhxngkhristsasnaaelaxakharsakhyhlayaehnginnukuxaolfa odynawithikarkxsrangsmyihmekhamaich echn phiphithphnthtxngnga xakharrthsphahlngeka aelasunywthnthrrm epntn xahar oxtaxika wthnthrrmxaharinnukuxaolfaodyrwmimaetktangcakphunthixunkhxngpraethstxngngamaknk mixaharsakhy echn aela epntn xyangirktamemuxngaehngniidrbwthnthrrmxahartangpraethsdwy odyechphaaxyangying xaharcinaelaxahartawntk phayinemuxngmikarcdcahnayxaharkhangthang aelamiaehlngwtthudibprakxbxaharthisakhyxyuthitladtalamahu ethskal phayinemuxngmikarcdkickrrmaelaethskalpracapiehmuxnkbswnxuninpraeths thwanganethskalthithuxidwamikarcdxyangyingihyaelaepnthiruckodythwipkhxngnukuxaolfakhuxethskalehxilala sungcdechlimchlxngkhunepnrayaewla 2 3 spdah rahwangeduxnmithunayn krkdakhm ethskalnierimcdkhunkhrngaerkemux kh s 1980 ephuxechlimchlxngwnkhlaywnphrabrmrachsmphphkhxngsmedcphrarachathibdietafaxaeha tuopxuthi 4 inchwngethskal chawtxngngacarwmtwknephuxrwmchmkhbwnphaehrd bangswnekharwmkarprakwdinkickrrmdntri klumephuxnaelakhrxbkhrwcaichoxkasniinkarsnthnaphudkhuyaelarbprathanxaharrwmkn sahrbkickrrmthiidrbkhwamniymmakthisudkhuxkarprakwdnangngam Miss Heilala sungmisawngamcaktxngngaaelatangpraethsekharwmkarprakwd nxkcakethskalthicdepnpracathukpiaelw inbangkhrngxacmikarcdnganechlimchlxngphiessphayinemuxngdwy sungrthbalmkprakasihwnechlimchlxngdngklawepnwnhyudrachkaraebbkrniphiess ehnidcakkarcdnganechlimchlxngihkbthimrkbiliktxngngathisamarththakaraekhngkhnchnathimshrachxanackraelaxxsetreliyidepnkhrngaerk sux sankngankhnakrrmathikaraephrsyyantxngnga prachachnsamarthekhathungsyyanxinethxrentidmakthisudinpraeths khidepnrxyla 43 88 nxkcakniprachachninemuxngyngniymichnganothrsphthmuxthuxinkarekhathungxinethxrentsahrbichbrikarsuxsngkhmxikdwy inswnkhxngkarekhathungsuxxun nn phbwamikhrweruxnrxyla 83 61 miothrthsninkhrxbkhrxngaelakhrweruxnrxyla 36 26 miwithyuinkhrxbkhrxng nukuxaolfaepnsunyklangkhxngkickardansuxkhxngpraeths odyepnsunyklangkaraephrsyyankhxngsuxothrthsn withyuaelahnngsuxphimphkhxngrthaelaexkchn epnkickarkaraephrsyyanaehngaerkaelaihythisudinpraeths misanknganihytngxyuinemuxngaehngni iddaeninkaraephrsyyanothrthsncanwn 2 chxng idaek khrxbkhlumphunthikhxngekaaotngatapuaelaexxwaela thimikarnaraykarothrthsnkhxngpraethscinekhasuphngraykardwy nxkcaksthaniothrthsnkhxngphakhrthaelw prachachnsamartheluxkrbchmothrthsninrabbekhebilthiwi sungmidiciesl txngngaepnphuihbrikarhlkid karcdraykarkhxngsthaniothrthsnehlanicamithngraykarthiichphasatxngngaaelaraykarthiichphasaxngkvs inswnkhxngkickardanwithyu khnakrrmathikaraephrsyyanaehngtxngngamiswnsakhyinkaraephrsyyanwithyuechnkn phankaraephrsyyan 3 khlunkhwamthi idaek 1017AM kul 90FM aela 103FM nxkcakniexkchnaelafaysasnakmibthbathinkaraephrsyyanwithyudwy odymisthaniwithyutngxyuphayinemuxng echn eltioxfakakalisietiyen 93FM aelaerdioxnukuxaolfa epntn sahrbkickardansuxhnngsuxphimph swnihymkmiexkchnepnecakhxngaelamklngenuxhathiwiphakswicarnkarthangankhxngrthbal echn epntn nxkcakkickarsuxhnngsuxphimphkhxngexkchnaelw inxditrthbalekhydaeninkickarhnngsuxphimphepnkhxngtnexnginchuxhnngsuxphimphtxngngaokhrniekhilrahwang kh s 1960 2006 kxncaaeprrupcakkickarkhxngrthmaepnkhxngexkchninthaythisud kila epnsnamkilahlkkhxngnukuxaolfaaelapraeths ichcdkaraekhngkhnkilahlaychnidthnginradbchatiaelaradbnanachati odyechphaaxyangying rkbi futbxlaelakritha kilathiidrbkhwamniymcakchawemuxngmakthisudkhuxrkbi sungmkmiphuekhachmepncanwnmakinthukradbkaraekhngkhn nukuxaolfaidrbeluxkepnecaphaphmhkrrmkilahlayraykar odyichsnamkilaetxufaxiwaepnsnamkilahlk karaekhngkhnradbpraethsthicdinnukuxaolfaepnpracathukpikhuxkaraekhngkhnkilarahwangwithyaly sungcdkhunineduxnemsayn inswnkhxngkaraekhngkhnkilaradbnanachatinn nukuxaolfaekhyidrbeluxkihepnecaphaphcdkaraekhngkhnmhkrrmkilahlayraykar echn aela epntnokhrngsrangphunthansatharnupophkh khwamecriyetibotthangesrsthkicthimakkwaphunthixun sngphlihprachakrcakphunthiphaynxkxphyphekhamainnukuxaolfa aerngkddncakkarephimcanwnprachakrthaihrthbaltxngngamikhwamcaepntxngphthnaokhrngsrangphunthan echn prapa sukhaphibal iffa thixyuxasyaelakarsuksa epntn ephuxrxngrbihephiyngphxtxkhwamtxngkar caksamaonprachakraelaekhha kh s 2016 rayngankarekhathungiffakhxngkhrweruxn phbwakwarxyla 98 31 ekhathungrabbiffa miephiyngswnnxythiekhathungphlngnganiffacaktnkaenidrupaebbxun karphlitiffaphayinemuxngxyuinkhwamrbphidchxbkhxngtxngngaphawewxrlimietd sungepnkickarkhxngrth pccubnmikarprbprungekhruxkhaysaysngkraaesiffaihkhrxbkhlumthwthngemuxng aelaprbprungkhwammnkhngaekhngaerngkhxngrabbsaysngehlannihrxngrbphythrrmchatithixacekidkhuninxnakht sahrbkarekhathungprapainemuxngphbwakhrweruxnrxyla 92 32 samarthekhathungbrikarprapaid xyangirktamphbwakhrweruxnthixyuiklchayfngniymichnathimacaknafnmakkwa enuxngcakphunthiodyrwmkhxnkhangta karwangthxprapaiklthaelcungmkphbpyhanathaelruklaekhama sngphlihkhunphaphimepnthinaphxic nxkcaknikhrweruxnthiekhathungthxprapacaichnacakprapaephuxkarprakxbxaharhruxxupophkhethann enuxngcakbangswnphbkarpnepuxnkhxngnaesiy 126 dngnnprachachnswnihycungniymichnacakthngsiemntthiekbkkexng aehlngnakhxngchumchnaelanakhwdsahrbkarbriophkh satharnsukh thharshrtheyiymchmorngphyabalwioxla chawnukuxaolfasamarthekhathungrabbsatharnsukhthidithisudinpraethsid orngphyabalwioxlaepnorngphyabalkhnadihythisudkhxngpraeths 199 etiyng tngxyuinemuxngaehngniaelaepnorngphyabalthirxngrbkarrksaphyabalkhnsung xyangirktamkarrksaphyabalthitxngphungphaethkhonolyiradbsungmakniymsngiprksatxinpraethsniwsiaelndody Medical Transfer Board epnphuxnumti nxkcakniyngphbwaprachnbangswnniymrbbrikarthangkaraephthycakaephthyaephnobrandwy aemcaepncanwnthinxyktam karsuksa rabbkarsuksainnukuxaolfaepniptamthirthbaltxngngakahnd phayinnukuxaolfamisthansuksathngradbprathmsuksa mthymsuksaaelaxudmsuksa odysthansuksaehlanicaxyuphayitkarcdkarkhxngrthbal obsthaelaexkchn 186 nkeriynswnihycaekhasuksainsthansuksaradbprathmsuksakhxngrththikracayxyuthwemuxng 186 7 inkhnathiradbmthymsuksaphbkarekhasuksatxthnginsthansuksakhxngrthaelaexkchn odysthansuksakhxngrththimichuxesiyngmakthisudkhux sungcdidwaepnhnunginorngeriynthiminkeriynmthymmakthisudaehnghnunginpraeths swnradbxudmsuksann prachakrinnukuxaolfamiwuthikarsuksaaelaxtrakarekhasuksatxinradbsungsungthisudinpraeths odymiprachakrnukuxaolfarxyla 17 saerckarsuksainradbxudmsuksa makkwaprachakrklumxuninpraethsthimiephiyngrxyla 9 ethann sungkarcdkareriynkarsxninradbdngklawdaeninkarinsthabnkarsuksakhxngrthaelaexkchn echn sthabnxudmsuksaaelasthabnwithyasastraelaethkhonolyi epntnkarkhmnakhmthangbk bnsay sthaninamnaepsifikinkrung bnkhwa thnneliybchayhadtxnehnuxkhxngkrung langsay thangekhathaeruxwuna langkhwa thaxakasyannanachatifuxaxaomtu nukuxaolfamiesnthangthnnsungechuxmkbphunthixunbnekaaotngatapu odyechuxmtxkb sungepnchumchndantawntksudkhxngekaaepnrayathang 20 kiolemtr aelaechuxmtxkb sungepnchumchndantawnxxksudkhxngekaaepnrayathang 30 kiolemtr nxkcaknirthbaltxngngaidphicarnasrangsaphankhamlakunfangaxutaephuxechuxmrahwangnukuxaolfaaelaphunthidanitkhxngekaaotngatapu ephuxldrayathangaelaewlakaredinthangrahwangthaxakasyannanachatifuxaxaomtuaelaemuxnghlwng pccubnnukuxaolfaprasbpyhakbkarcracrtidkhd sphaphthnnodyrwmxyuinradbphxich mibangcudepnhlumepnbxaelaaekhb karkxsrangaelasxmbarungthnninnukuxaolfaxyuphayitkarduaelkhxngkrmoythathikar sungmkprasbpyhakhadaekhlnngbpramaninkardaeninngan inxditekhymiesnthangrthifcaklakunphannukuxaolfamungsuthaerux aetimmiihehninpccubnaelw odyimmithngkhxmulkarkxsrangaelasaehtukarykelikesnthang ehluxiwephiyngaekhchuxthnnrthifphayinemuxngethann sahrbkarkhnsngsatharnainnukuxaolfann misthanirthodysarxyu 2 sthani khux sthanibnthnnwunafngtrngkhamkbsankngankarthxngethiyw sungmiesnthangxyuinbriewnrxb emuxng aelasthanithixyutrngkhamkbthithakarkhxngkrathrwngsuksathikar miesnthangipswntawnxxkaelatawntkkhxngekaa xyangirktamrthodysarmikahndkaredinthangthiimaennxn odymkmikahndewlaihbrikarrahwang 08 00 n 17 00 n nxkcakniyngmikarihbrikaraethksiinemuxngdwy thngnibrikarkhnsngsatharnacahyudihbrikarinwnxathity thangna thaeruxnukuxaolfaepnthaeruxnalukephiyngaehngediywkhxngpraeths inxditekhyichthaeruxwunaepnthaeruxnanachati aetthukaephndinihwthalayin kh s 1977 aelaidsxmaesmklbmaichihmidin kh s 2012 pccubnichepnthaeruxsahrberuxsarayaelacudphkeruxkhxngkxngthpheruxtangpraeths sahrbthaeruxnukuxaolfaepnthngthaeruxrbsngsinkhananachati aelaepnthaeruxsunyklangkarechuxmtxkaredinthangrahwangnukuxaolfaaelaswnxun khxngpraeths odysamarthichthaeruxaehngniedinthangipekhtkarpkkhrxngxun mieruxedinthangipexxwwnla 2 rxb haxaipaelawawaxuspdahla 2 rxb rwmthungmieruxthiihbrikarodyphuprakxbkarthxngthinedinthangipekaakhnadelkxun thixyuodyrxb echn paingomtu epntn thangxakas thaxakasyannanachatifuxaxaomtu IATA TBU ICAO NFTF tngxyuhangcaknukuxaolfaipthangitpraman 21 kiolemtr 13 iml epnthaxakasyanthimikhwamhnaaennkhxngphuichbrikarsungthisudinpraethstxngnga phuthiedinthangmapraethstxngngasamarthepliynekhruxngbinidthithaxakasyanaehngniephuxedinthangipswnxunkhxngpraeths pccubnthaxakasyannanachatiaehngnimiethiywbinthngkhaekhaaelakhaxxkrwm 62 ethiywbin echuxmtx 5 emuxngin 8 praeths miichepnthankarbin aelamibthbathsakhyinkarechuxmoyngnukuxaolfakbekaarxbnxk echn haxaip nixuxaotputapu exxw epntn xyangirktamthaxakasyannanachatiaehngniyngimmikarechuxmoyngkbkarkhnsngmwlchnsatharna phuodysarthiedinthangmacaknukuxaolfatxngichrthswntwhruxaethksihruxbrikarrbsngthaxakasyankhxngorngaermephuxedinthangmaethannemuxngphinxngnukuxaolfamiemuxngphinxng dngni shrachxanackrechingxrrthhmayehtu haknbtamkaraebngekhtkarpkkhrxngkhxngtxngnga phunthikrungnukuxaolfaepnswnhnungkhxngekhtokolomtuxaaelaokolofoxxu inphasatxngngasamarththxdchuxemuxnghlwngaehngniepnsthxksridwa nuku ˈeloʊfe mikhxsnnisthanwaecms khuknacaepnbukhkhlaerkthirangaephnthibriewnkrungnukuxaolfaaelaphunthiiklekhiyng pccubnxakharrthsphaaehngniidphnglngemux kh s 2018 cakphayuisokhlnkita ofonepnkarprachumkhxngchumchnephuxharuxpraednsakhy sthaptykrrmaebbfaelepnxakharthrngsiehliym munghlngkhadwyibmaphrawhruxkkhruxim xangxing Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 1 BASIC TABLES AND ADMINISTRATIVE REPORT PDF Tonga Statistics Department subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Tonga 2016 Census of Population and Housing Volume 2 ANALYTICAL REPORT PDF Tonga Statistics Department subkhnemux 6 krkdakhm 2020 TWENTY SECOND SOUTH PACIFIC CONFERENCE PDF SOUTH PACIFIC COMMISSION subkhnemux 5 krkdakhm 2020 lingkesiy Dickinson William Burley David 1999 Holocene Paleoshoreline Record in Tonga Geomorphic Features and Archaeological Implications Journal of Coastal Research 15 3 682 700 Carina Boom khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 thnwakhm 2013 subkhnemux 8 singhakhm 2020 History Encyclopaedia Britannica subkhnemux 9 singhakhm 2020 Van der Grijp Paul 2014 Manifestations of Mana Political Power and Divine Inspiration in Polynesia LIT Verlag Munster ISBN 9783643904966 Niumeitolu Heneli T 2007 The State and the Church the state of the Church of Tonga PDF The Tupou Dynasty royalark subkhnemux 9 singhakhm 2020 Tonga Migration and the Homeland Migration Policy Institute subkhnemux 7 krkdakhm 2020 CIA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 phvsphakhm 2019 subkhnemux 5 krkdakhm 2020 LEXICO Nuku alofa Definition of Nuku alofa by Oxford Dictionary subkhnemux 5 krkdakhm 2020 lingkesiy Vason George 1810 An authentic of narrative of four years residence at one of the Friendly Islands J Staford Mariner William 1818 An Account of the Natives of the Tonga Islands Rowe Stringer G 1885 A Pioneer A Memoir of The Rev John Thomas Monfat A 1893 Les Tonga ou Archipel des Amis et le R P Joseph Chevron de la Societe de Marie Latukefu Sione 1969 The case of the Wesleyan Mission in Tonga Journal de la Societe des Oceanistes 25 95 112 Chino K 2002 Lapita Pottery Ties in the South Pacific Wave of Pacifika Tokyo Sasakawa Pacific Island Nations Fund SPINF 8 The first Tongans Matangi Tonga subkhnemux 8 singhakhm 2020 Palace Office khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 phvsphakhm 2014 subkhnemux 8 singhakhm 2020 Urbanowicz Charles 1977 MOTIVES AND METHODS MISSIONARIES IN TONGA IN THE EARLY 19TH CENTURY The Journal of the Polynesian Society 86 2 245 263 Cook James 1783 A voyage to the Pacific Ocean Farmer Sarah Stock 1885 Tonga and the Friendly Islands With A Sketch of the Mission History Haʿapai Group Encyclopaedia Britannica subkhnemux 9 singhakhm 2020 WIPO Lex khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 31 singhakhm 2019 subkhnemux 9 singhakhm 2020 Quanchi Max 2005 Historical Dictionary of the Discovery and Exploration of the Pacific Islands Scarecrow Press ISBN 9780810865280 Swan Railley Architects khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 22 mkrakhm 2021 subkhnemux 14 singhakhm 2020 History Parliament of Tonga subkhnemux 14 singhakhm 2020 Tonga parliament building flattened by Cyclone Gita BBC subkhnemux 14 singhakhm 2020 Palace Office khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 23 phvsphakhm 2012 subkhnemux 15 singhakhm 2020 The Ancient Capitals of the Kingdom of Tonga UNESCO subkhnemux 15 singhakhm 2020 VAN DER GRIJP PAUL 1993 THE MAKING OF A MODERN CHIEFDOM STATE THE CASE OF TONGA Bijdragen Tot De Taal Land En Volkenkunde 149 4 661 672 RATUVA STEVEN 2019 Contested Terrain Reconceptualising Security in the Pacific Australia ANU Press ISBN 9781760463199 Soldiers from Tonga in the Great War TONGA IN WORLD WAR 1 subkhnemux 15 singhakhm 2020 Amanda L SullivanLee PDF UNIVERSITY OF HAWAI I AT MANOA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 12 phvsphakhm 2021 subkhnemux 15 singhakhm 2020 Kohn George C 2008 Encyclopedia of plague and pestilence from ancient times to the present Infobase Publishing p 363 ISBN 978 0 8160 6935 4 Three months of horror a century since the Spanish flu ravaged Tonga Matangi Tonga 23 singhakhm 2020 Tonga profile BBC Asia Pacific 9 singhakhm 2020 No resolution in sight in Tonga tvnz 30 singhakhm 2005 subkhnemux 3 kumphaphnth 2014 Matangi Tonga Online khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 kumphaphnth 2007 subkhnemux 3 kumphaphnth 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Six found dead after Tonga riots BBC 17 phvscikayn 2006 subkhnemux 23 singhakhm 2020 MACROECONOMIC PERFORMANCE PDF Asian Development Bank subkhnemux 12 singhakhm 2020 Tonga to start repaying loan for Nuku alofa reconstruction Radio New Zealand subkhnemux 3 kumphaphnth 2014 Nukuʿalofa ENCYCLOPAEDIA BRITANNICA subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Lal Brij V 2000 The Pacific Islands An Encyclopedia University of Hawaii press ISBN 082482265X Elevation of Nuku alofa Tonga Elevation Map Topo Contour FloodMap net subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Mimura Nobuo Pelesikoti Netatua 1997 VULNERABILITY OF TONGA TO FUTURE SEA LEVEL RISE Journal of Coastal Research 117 32 Gibbs H S 1976 Soils of Tongatapu Tonga N Z soil survey report subkhnemux 6 krkdakhm 2020 CNA phasaxngkvs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 mkrakhm 2022 subkhnemux 15 mkrakhm 2022 Massive Tonga Volcanic Eruption Caused Significant Damage phasaxngkvs subkhnemux 16 mkrakhm 2022 Tongans told to stay indoors to avoid inhaling volcanic ash that may devastate their environment for years say scientists Abc net au 18 mkrakhm 2022 subkhnemux 25 mkrakhm 2022 The Kingdom of Tonga s Initial National Communication PDF The Kingdom of Tonga s Initial National Communication subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Nuku alofa Climate Info Weatherbase subkhnemux 6 krkdakhm 2020 United Nations Department for Economic and Social Information and Policy Analysis Statistics Division United Nations Centre for Human Settlements 1995 Compendium of Human Settlements Statistics 1995 United Nations ISBN 9211613787 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a last michuxeriykthwip help THE LOCAL GOVERNMENT SYSTEM IN TONGA PDF Commonwealth Local Government Forum subkhnemux 6 krkdakhm 2020 District and Town Officers Act PDF Tongan Legislation subkhnemux 15 singhakhm 2020 Sansom Graham 2013 Principles for Local Government Legislation Lessons from the Commonwealth Pacific Commonwealth Secretariat ISBN 9781849290890 Asian Development Bank 2012 The State of Pacific Towns and Cities Urbanization in ADB s Pacific Developing Member Countries Asian Development Bank ISBN 9789290928706 Dorall Cheryl 2004 Commonwealth Ministers Reference Book 2003 Commonwealth Secretariat ISBN 0850927935 Australian High Commission Kingdom of Tonga Australian High Commission subkhnemux 7 krkdakhm 2020 New Zealand High Commission Nuku alofa Tonga New Zealand High Commission subkhnemux 7 krkdakhm 2020 Embassy of the People s Republic of China Embassy of the People s Republic of China subkhnemux 7 krkdakhm 2020 Embassy of Japan in the Kingdom of Tonga Embassy of Japan in the Kingdom of Tonga subkhnemux 7 krkdakhm 2020 Resident High Commissioner to Tonga announced as British embassy reopens Radio New Zealand subkhnemux 7 krkdakhm 2020 TONGA STRATEGIC DEVELOPMENT FRAMEWORK PDF MINISTRY OF FINANCE AND NATIONAL PLANNING subkhnemux 12 singhakhm 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 1 phvscikayn 2012 subkhnemux 3 knyayn 2012 POST DISASTER RAPID ASSESSMENT PDF Government of Tonga subkhnemux 12 singhakhm 2020 AN ANALYSIS OF THE INCREASING HARDSHIP AND POVERTY IN THE KINGDOM BASED ON THE 2009 HOUSEHOLD INCOME amp EXPENDITURE SURVEY DATA PDF MINISTRY OF FINANCE AND NATIONAL PLANNING subkhnemux 12 singhakhm 2020 Tupouniua M U 1960 A Note on Economic Development in Tonga The Journal of the Polynesian Society 69 4 405 408 Kerry James 1993 Cutting the Ground from under Them Commercialization Cultivation and Conservation in Tonga PDF The Contemporary Pacific 5 2 215 242 Langafonua Gallery and Handicrafts Centre AFAR subkhnemux 15 singhakhm 2020 Holiday market sells handicrafts for Christmas Matangi Tonga subkhnemux 15 singhakhm 2020 TONGA DOMESTIC MARKET STUDY USING THE DOMESTIC MARKET SURVEY REPORT TO INVESTIGATE SELECTED POLICY ISSUES PDF FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION subkhnemux 15 singhakhm 2020 Nuku alofa s Talamahu Market reopens for handicraft sellers Matangi Tonga subkhnemux 15 singhakhm 2020 Fishery and Aquaculture Country Profiles The Kingdom of Tonga FOOD AND AGRICULTURE ORGANIZATION subkhnemux 23 singhakhm 2020 Ministry of Information and Communications khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 25 thnwakhm 2019 subkhnemux 15 singhakhm 2020 Skully Michael T 1987 Financial Institutions and Markets in the South Pacific A Study of New Caledonia Solomon Islands Tonga Vanuatu and Western Samoa Asleson Kate 2011 Tonga Other Places Publishing ISBN 9780982261941 The Ultimate Guide to the Nightlife in Tonga Tonga Pocket Guide subkhnemux 12 singhakhm 2020 The Ultimate Guide to the Nightlife on Tongatapu Tonga Pocket Guide subkhnemux 12 singhakhm 2020 Connell John 1995 Pacific 2010 Urbanisation in Polynesia National Centre for Development Studies Research School of Pacific and Asian Studies Australian National University ISBN 9780731519545 Population and Housing Census 2011 PDF Tonga Statistics Department subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Population and Housing Census 2006 PDF Tonga Statistics Department subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Population and Housing Census 1996 PDF Tonga Statistics Department subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Nuku alofa Urban Development Sector Project PDF Asian Development Bank subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Making a Case for Tongan as an Endangered Language PDF Yuko Otsuka subkhnemux 7 krkdakhm 2020 Grant Elizabeth 2018 The Handbook of Contemporary Indigenous Architecture Springer ISBN 9811069042 Bill McKay A guide to the architecture of the Pacific Kingdom of Tonga subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Charmaine Ilaiu Building Tonga s Western fale subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Bill McKay A field guide to the architecture of the South Pacific subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Paula Folau Nonu RECONNECTING WITH THE PAST TRADITIONAL TONGAN ARCHITECTURE AS AN EDUCATIONAL DEVICE FOR THE TONGAN PEOPLE subkhnemux 11 krkdakhm 2020 The Guide to Nuku alofa on a Budget subkhnemux 25 krkdakhm 2020 Top Cheap Eats in Nuku alofa subkhnemux 25 krkdakhm 2020 BEST ISLAND EATING IN TONGATAPU subkhnemux 15 singhakhm 2020 Events Conferences Public Holidays amp Festivals in Tonga Tonga Pocket Guide subkhnemux 8 krkdakhm 2020 Tonga postpones Heilala 2020 because of Covid 19 threat Radio New Zealand subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Pacific Tourism Organization khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 krkdakhm 2020 subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Tongan Heilala Festival and Birthday Celebrations Ashley Cultra subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Kingdom Travel khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 emsayn 2021 subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Tonga declares public holiday to celebrate rugby league win Radio New Zealand subkhnemux 11 krkdakhm 2020 Tonga Broadcasting Commission Asia Pacific Broadcasting Union subkhnemux 1 singhakhm 2020 New channel launched in Tonga Radio New Zealand subkhnemux 1 singhakhm 2020 Tonga profile Media BBC subkhnemux 1 singhakhm 2020 DIGICEL BRINGS NEW CABLE TV TO TONGA Pacific Islands Report subkhnemux 21 singhakhm 2020 lingkesiy Matangi Tonga khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 16 kumphaphnth 2006 subkhnemux 1 singhakhm 2020 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Radio Broadcasting in Tonga RadioStationWorld subkhnemux 1 singhakhm 2020 TONGA CHRISTIAN RADIO TONGA CHRISTIAN RADIO subkhnemux 1 singhakhm 2020 VAVA U POLITICS khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 5 mithunayn 2020 subkhnemux 1 singhakhm 2020 Attention NRL A glorious future awaits in the Pacific ROAR subkhnemux 12 krkdakhm 2020 Sport Tonga s Teufaiva Stadium set to re open Radio New Zealand subkhnemux 12 krkdakhm 2020 Sport Ikale Tahi hold on for famous win at Teufaiva Radio New Zealand subkhnemux 24 singhakhm 2020 Ikale Tahi beat Western Force 19 15 Matangi Tonga subkhnemux 24 singhakhm 2020 2019 Inter College Sports Competition wraps up Matangi Tonga subkhnemux 12 krkdakhm 2020 PDF Olympic Review International Olympic Committee 1989 p 112 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF 0 2 MB emux 27 phvsphakhm 2015 subkhnemux 27 phvsphakhm 2015 OCEANIA CHAMPIONSHIPS Athletics Weekly subkhnemux 12 krkdakhm 2020 OCEANIA JUNIOR CHAMPIONSHIPS Athletics Weekly subkhnemux 12 krkdakhm 2020 TONGA PDF Sprep subkhnemux 12 singhakhm 2020 TONGA POWER LIMITED khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 knyayn 2020 subkhnemux 12 singhakhm 2020 TONGA POWER LIMITED khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 singhakhm 2020 subkhnemux 12 singhakhm 2020 Tonga Water Supply System Description Nuku alofa Lomaiviti PDF Water Safety Plan Programme Kingdom Of Tonga subkhnemux 6 krkdakhm 2020 The Kingdom of Tonga Health System Review PDF WHO subkhnemux 12 singhakhm 2020 MOET khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 krkdakhm 2020 subkhnemux 26 krkdakhm 2020 MOET 2013 REPORT OF THE MINISTRY OF EDUCATION AND TRAINING 2013 Government of Tonga Tonga High School celebrates 72nd anniversary matangitonga subkhnemux 27 krkdakhm 2020 MOET khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 27 krkdakhm 2020 subkhnemux 27 krkdakhm 2020 ʻATENISI INSTITUTE ʻATENISI INSTITUTE subkhnemux 27 krkdakhm 2020 Trades training for 543 students in Tonga Manukau Institute of Technology subkhnemux 21 singhakhm 2020 Tongan Institute of Higher Education khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 krkdakhm 2020 subkhnemux 27 krkdakhm 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 krkdakhm 2020 subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Tonga look at possible bridge out of Nuku alofa subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Traffic jams increasing with growing demand for vehicles in 2018 subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Driving in Tonga subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Logistics Capacity Assessment PDF subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Railways in Tonga subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Bus subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Taxi subkhnemux 19 krkdakhm 2020 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 19 krkdakhm 2020 subkhnemux 19 krkdakhm 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 krkdakhm 2020 subkhnemux 19 krkdakhm 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 knyayn 2021 subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Tongatapu Fuaʻamotu International Airport TBU subkhnemux 19 krkdakhm 2020 Whitby s Twin Towns subkhnemux 19 krkdakhm 2020 brrnanukrmAsian Development Bank 2012 The State of Pacific Towns and Cities Urbanization in ADB s Pacific Developing Member Countries Asian Development Bank ISBN 9789290928706 Connell John 1995 Pacific 2010 Urbanisation in Polynesia National Centre for Development Studies Research School of Pacific and Asian Studies Australian National University ISBN 9780731519545 Cook James 1783 A voyage to the Pacific Ocean D Arcy Paul 2008 Peoples of the Pacific The History of Oceania to 1870 Routledge ISBN 0754662217 Dorall Cheryl 2004 Commonwealth Ministers Reference Book 2003 Commonwealth Secretariat ISBN 0850927935 Findlay G G Holdsworth W W 1921 The history of the Wesleyan Missionary Society Vol III Gibbs H S 1976 Soils of Tongatapu Tonga N Z soil survey report subkhnemux 6 krkdakhm 2020 Grant Elizabeth 2018 The Handbook of Contemporary Indigenous Architecture Springer ISBN 9811069042 Lal Brij V 2000 The Pacific Islands An Encyclopedia University of Hawaii press ISBN 082482265X Mariner William 1818 An Account of the Natives of the Tonga Islands MOET 2013 REPORT OF THE MINISTRY OF EDUCATION AND TRAINING 2013 Government of Tonga Niumeitolu Heneli T 2007 The State and the Church the state of the Church of Tonga PDF Sansom Graham 2013 Principles for Local Government Legislation Lessons from the Commonwealth Pacific Commonwealth Secretariat ISBN 9781849290890 Tzan Douglas D 2019 William Taylor and the Mapping of the Methodist Missionary Tradition Lexington Books ISBN 1498559085 United Nations Department for Economic and Social Information and Policy Analysis Statistics Division United Nations Centre for Human Settlements 1995 Compendium of Human Settlements Statistics 1995 United Nations ISBN 9211613787 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a last michuxeriykthwip help Van der Grijp Paul 2014 Manifestations of Mana Political Power and Divine Inspiration in Polynesia LIT Verlag Munster ISBN 9783643904966 Vason George 1810 An authentic of narrative of four years residence at one of the Friendly Islands J Staford subkhnemux 5 krkdakhm 2020