- สำหรับ ราชวงศ์ดูที่ ตูอิโตงา
จักรวรรดิตูอิโตงา เป็นจักรวรรดิหนึ่งที่มีอำนาจยิ่งใหญ่มากในเขตโอเชียเนีย โดยจักรวรรดินี้ก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 950 โดยพระเจ้าอะโฮเออิตู แต่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 - 15 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของจักรพรรดิโมโมและจักรพรรดิตูอิตาตูอิ ซึ่งสามารถขบายอำนาจได้ตั้งแต่ นีอูเอ ถึง จักรวรรดินี้เคยขยายอาณาเขตได้ไกลที่สุดถึงของไมโครนีเซีย มีเมืองหลวงสำคัญของจักรวรรดิที่มูอา ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะโตงาตาปู โดยมีพระมหากษัตริย์ปกครองมาจาก 3 ราชวงศ์ และตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา จักรวรรดิตูอิโตงามีราชวงศ์ปกครองจักรวรรดิพร้อมกันถึง 3 ราชวงศ์ในเวลาเดียวกัน ในปัจจุบันนักวิจัยได้พยายามค้นคว้าถึงบทบาทของจักรวรรดิในการค้าทางทะเล รวมไปถึงอิทธิพลของจักรวรรดิในบริเวณต่างๆ แต่ยังคงขาดหลักฐานเชิงประจักษ์
จักรวรรดิตูอิโตงา Tu'i Tonga | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 950–ค.ศ. 1826 | |||||||||
อาณาเขตทางทะเลของจักรวรรดิตูอิโตงาเมื่อรุ่งเรืองที่สุด | |||||||||
สถานะ | จักรวรรดิ,อาณาจักร | ||||||||
เมืองหลวง | มูอา | ||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||
พระมหากษัตริย์ | |||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||
• การสถาปนาจักรวรรดิ | ค.ศ. 950 | ||||||||
• ขยายอำนาจจนถึงขีดสุด | ศตวรรษที่ 12 | ||||||||
• เริ่มต้นยุคเสื่อมของจักรวรรดิ | ค.ศ. 1250 | ||||||||
• ก่อตั้งราชวงศ์ตูอิฮาอะตากาลาอัว | ค.ศ. 1470 | ||||||||
• ก่อตั้งราชวงศ์ตูอิกาโนกูโปลู | ค.ศ. 1600 | ||||||||
• การเข้ามาสำรวจของแอเบล แทสมัน | ค.ศ. 1643 | ||||||||
• การเข้ามาสำรวจของเจมส์ คุก | ค.ศ. 1777 | ||||||||
• พ่ายแพ้ในการรบต่อพระเจ้าจอร์จ ตูปูที่ 1 | ค.ศ. 1826 | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ตองงา วอลิสและฟูตูนา โตเกเลา นาอูรู ฟีจี เฟรนช์พอลินีเชีย หมู่เกาะโซโลมอน คิริบาส นีวเว หมู่เกาะคุก ซามัว |
เริ่มต้นจักรวรรดิ
ประมาณ ค.ศ. 950 ตูอิโตงาอะโฮเออิตูเริ่มขยายอำนาจการปกครองนอกเขตตองงา โดยจากตำนานของตองงาและซามัวที่เล่าสืบต่อกันมากล่าวว่าตูอิโตงาพระองค์แรกนั้นเป็นพระราชโอรสของซึ่งเป็นเทพเจ้าดั้งเดิมของชาวตองงา (รวมไปถึงชาวโพลินิเซียนอีกด้วย) เนื่องจากหมู่เกาะมานูอาในประเทศซามัวปัจจุบันเป็นที่สถิตของเทพเจ้าอันได้แก่ตากาโลอา เออิตูมาตูปูอา, โตงา ฟูซิโฟนูอาและตาวาตาวาอิมานูกา รวมไปถึงเป็นบ้านเกิดของบรรพบรุษ ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พระองค์แรกๆของตองงากำหนดให้หมู่เกาะแห่งนี้เป็นหมู่เกาะศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งกาลเวลาล่วงเลยมาถึงตูอิโตงาพระองค์ที่ 10 คือพระเจ้าโมโม พระองค์และผู้สืบต่อราชบัลลังก์ของพระองค์ พระเจ้าตูอิตาตูอิ ได้ขยายจักรวรรดิโดยมีอาณาเขตตั้งแต่ทางด้านทิศตะวันตก จนถึงนีอูเอทางด้านทิศตะวันออก อาณาเขตของจักรวรรดิยังครอบคลุมถึง , โตเกเลา, ตูวาลู, , นาอูรู, บางส่วนของฟิจิ, หมู่เกาะมาร์เคซัส, บางส่วนของหมู่เกาะโซโลมอน, คิริบาส, หมู่เกาะคุก, และบางส่วนของซามัว เพื่อให้การปกครองดินแดนส่วนใหญ่เป็นไปด้วยดี จึงย้ายเมืองหลวงไปอยู่บริเวณลากูนที่ลาปาฮา, โตงาตาปู ด้วยอิทธิพลที่กว้างขวางของตูอิโตงาทำให้จักรวรรดิมีชื่อเสียงครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟิก และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและแนวความคิดอย่างกว้างขวาง
การขยายอำนาจ
ภายใต้การนำของตูอิโตงาพระองค์ที่ 10 พระเจ้าโมโม และพระราชโอรสคือพระเจ้าตูอิตาตูอิ (ตูอิโตงาพระองค์ที่ 11) อาณาเขตของจักรวรรดิขยายอำนาจได้กว้างไกลที่สุด บรรณาการของจักรวรรดิจะถูกส่งมาจากหัวหน้าชนเผ่าหรือผู้นำในเขตอำนาจ โดยที่ส่งมานั้นเรียนว่า "อินาซี" และจะถูกส่งมาเป็นประจำทุกปี ณ เมืองมูอา ในฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการนำของขวัญมาถวายต่อเทพเจ้า ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นตูอิโตงา โดยในปี ค.ศ. 1777 กัปตันเจมส์ คุกได้บันทึกเกี่ยวกับพิธีอินาซีไว้ว่า ประเพณีนี้เป็นประเพณีที่มีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากเข้ามาในประเทศตองงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนผิวดำซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นชาวแอฟริกันจากฟิจิ,หมู่เกาะโซโลมอน และ วานูอาตู สำหรับเสื่อที่ดีของซามัว (เช่น โตกา) กลายมาเป็นสิ่งสำคัญในพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระราชวงศ์ตองงาฝ่ายบุรุษและพระราชวงศ์ซามัวฝ่ายสตรี ยกตัวอย่างเช่น โตฮูอิอา ซึ่งเป็นพระราชมารดาของตูอิกาโนกูโปลู ซึ่งมาจากซาฟาตา ซามัว เสื่อเหล่านี้รวมไปถึงมาเนอาฟาอิงาและตาซิอาเออาเฟกลายมาเป็นเพชรยอดมงกุฎของราชวงศ์ตูปูในปัจจุบัน (ซึ่งได้รับมาทางสายแม่จากซามัว)
การที่จักรวรรดิประสบความสำเร็จในการขยายดินแดนนั้นเกิดขึ้นจากความเข้มแข็งของกองทัพเรือ โดยเรือที่ใช้โโดยทั่วไปเป็นเรือที่มีขนาดยาว มีใบเรือเป็นรูปสามเหลี่ยม ของตองงาที่มีนาดใหญ่ที่สุดสามารถจุคนได้มากถึง 100 คน โดยเรือแคนูที่สำคัญได้แก่ตองงาฟูเอซีอา, อากิเฮอูโฮ, โลมิเปเอา และตากาอิโปมานา โดยมีการกล่าวว่าตากาอิโปมาเป็นเรือของซามัวตามบันทึกใน Queen Salote and the Palace Records ซึ่งกล่าวไว้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือที่นำโตฮู อิอา ลิมาโปจากซามัวเข้าพิธีอภิเษกสามรสกับตูอิฮาอะตากาลาอัว ด้วยการมีกองทัพเรือขนาดใหญ่นี้ทำให้กองทัพเรือตองงาช่วยให้ตองงามีความร่ำรวยจากการค้าและบรรณาการที่ได้รับ
จักรวรรดิตูอิโตงาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16
แม้ในยุคการขยายอำนาจจักรวรรดิโดยเฉพาะในรัชสมัยของพระเจ้าโมโมและพระเจ้าตูอิตาตูอิ จักรวรรดิตูอิโตงามีความเจริญรุ่งเรืองสูงมาก อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1535 ชาวต่างชาติ 2 คนลอบปลงพระชนม์ขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในลากูนของเมืองมูอา พระมหากษัตริย์องค์ต่อมาคือได้พยายามไล่ล่าสังหารชาวต่างชาติ 2 คนที่ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าตากาลาอัว จนสามารถตามไปสังหารได้สำเร็จในเส้นทางไป เนื่องจากเกิดเหตุการลอบปลงพระชนม์ตูอิโตงาลายครั้ง ส่งผลให้ได้สถาปนาราชวงศ์ใหม่คือตูอิฮาอะตากาลาอัวเพื่อเป็นเกียรติแด่พระราชบิดาของพระองค์ และพระองค์ได้สถาปนาพระอนุชาของพระองค์คือขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็นตูอิฮาอะตากาลาอัวพระองค์แรก พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ใหม่นี้มีพระราชอำนาจในการบริหารกิจการประจำวันของจักรวรรดิ ในขณะที่ตูอิโตงาเปลี่ยนสถานะใหม่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาติ อย่างไรก็ตามตูอิโตงายังคงมีพระราชอำนาจในการสั่งลงโทษประหารชีวิตหรือไว้ชีวิตบุคคลใดก็ได้ จักรวรรดิตูอิโตงาในช่วงเวลานี้มีอิทธิพลของซามัวปรากฏอยู่ จากการที่ตูอิโตงามีเชื้อสายซามัว ซึ่งเกิดจากการอภิเษกสมรสกับผู้หญิงชาวซามัว รวมถึงยังเลือกที่จะอาศัยอยู่ในซามัวอีกด้วย พระราชมารดาของเป็นชาวซามัวจาก ในขณะที่และเป็นลูกครึ่งซามัว-ตองงา พระมหากษัตริย์ที่สืบทอดตำแหน่งตูอิโตงาจากพระองค์อย่าง และมีเชื้อสายซามัวมากยิ่งขึ้น โดยมีเชื้อสายของชาวซามัวมากกว่าชาวตองงา
ในปี ค.ศ. 1610 ตูอิฮาอะตากาลาอัวพระองค์ที่ 6 ได้สถาปนาตำแหน่งใหม่คือตูอิกาโนกูโปลูสำหรับพระราชโอรสลูกครึ่งซามัวของพระองค์คือ โดยแบ่งอำนาจการปกครองบริเวณต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปตูออิกาโนกูโปลูกลับมีอำนาจเหนือดินแดนตองงามากยิ่งขึ้น เมื่อราชวงศ์ตูอิกาโนกูโปลูมีอำนาจมากได้นำนโยบายการปกครอง ตำแหน่งและสถาบันแบบซามัวเข้ามาในจักรวรรดิตูอิโตงา และกลายมาเป็นรูปแบบการปกครองซึ่งสืบต่อมาจนถึงสมัยราชอาณาจักรตองงา ทุกสิ่งทุกอย่างได้ดำเนินมาเช่นนี้เรื่อยๆ ในปี ค.ศ. 1616 นักสำรวจชาวดัตช์ และสังเกตเห็นเรือแคนูของชาวตองงานอกชายฝั่งเกาะนีอูอาโตปูตาปู และนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง แอเบล แทสมันก็ได้เข้ามาสำรวจในระยะเวลาต่อมา ซึ่งการเข้ามาสำรวจของนักชาวยุโรปในระยะนี้ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆของจักรวรรดิมากนัก อย่างไรก็ตามการสำรวจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อจักรวรรดิตูอิโตงาโดยตรงคือการเข้ามาสำรวจของเจมส์ คุก ในปี ค.ศ. 1773 ค.ศ. 1774 และ ค.ศ. 1777 ก่อให้เกิดการเข้ามาในจักรวรรดิของมิชชันนารีลอนดอนในปี ค.ศ. 1797 ซึ่งเข้ามาเผยแพ่ศาสนาคริสต์ให้แก่ชาวพื้นเมือง
การล่มสลายของจักรวรรดิ
เนื่องจากเกิดความขัดแย้งจากการปกครองและการละเลยธรรมเนียมการสืบราชสมบัติของพระเจ้าตูกูอาโฮ ส่งผลให้หลายๆฝ่ายในจักรวรรดิไม่พอใจ ก่อให้เกิดการลอบสังหาร ตูอิกาโนดูโปลูพระองค์ที่ 14 ส่งผลให้เกิดความไม่สงบทั่วดินแดนทั้งจักรวรรดิตามมาจนลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง โดยการสงครามในครั้งนี้เป็นศึกระหว่างมูอา (ตูอิโตงา) วาวาอูและฮาอะไป (อูลูกาลาลา) กับ นูกูอาโลฟา (ตูอิกาโนกูโปลู) ฮิหิโฟ (ฮาอะงาตา,ฮาอะฮาเวอา) โดยจักรวรรดิตูอิโตงาได้ล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1826 ซึ่งพ่ายแพ้ต่อตูอิกาโนกูโปลู ตูอิฮาอะไป ตูอิวาวาอูเตาฟาอาเฮาที่ ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิตูอิโตงา แต่เตาฟาอาเฮายังคงตำแหน่งตูอิโตงาไว้อยู่ จนกระทั่งพระเจ้าเลาฟิลิตองงาสวรรคตในปี ค.ศ. 1865 อย่างไรก็ตามสงครามกลางเมืองยังคงดำรงอยู่ต่อไปจนกระทังพระเจ้าจอร์จ ตูปูที่ 1 สามารถรวมอาณาจักรกลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1845
การปกครอง 3 ราชวงศ์
การเสื่อมถอยของตูอิโตงาเริ่มต้นขึ้นจากภาวะสงครามและแรงกดดันภายใน ในประมาณคริตศตวรรษที่ 13 หรือ 14 ซามัวได้รับชัยชนะเหนือตูอิโตงาภายใต้การนำของตระกูลมาลีเอตัว ด้วยเหตุนี้จึงมีการตั้งฟาเลฟาขึ้นเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการเมืองแก่จักรวรรดิ ข้าราชการฟาเลฟาประสบความสำเร็จในการรักษาอำนาจเหนือเกาะต่างๆของจักรวรรดิ แต่ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง อันนำไปสู่การลอบสังหารผู้ปกครองอยู่หลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่นกรณีการลอบสังหารพระเจ้าตากาลาอัว เป็นต้น ส่งผลให้ต้องก่อตั้งราชวงศ์ตูอิฮาอะตากาลาอัวในเวลาต่อมา ซึ่งราชวงศ์ตูอิฮาอะตากาลาอัวได้ก่อตั้งราชวงศ์ตูอิกาโนกูโปลูขึ้นมาเพื่อช่วยในการบริหารราชการแผ่นดิน
ในช่วงที่ราชวงศ์ตูอิโตงาและตูอิกาโนกูโปลูมีอำนาจในจักรวรรดินั้น ได้แบ่งเขตที่อยู่ร่วมกันเป็น 2 เขตโดนใช้ถนนเลียบชายฝั่งเก่าที่ชื่อว่าฮาลา โฟนูอา โมอา (ถนนดินแห้ง) โดยผู้ปกครองที่มาจากตูอิโตงาถูกเรียกว่าเกา ฮาลา อูตา (inland road people) ในขณะที่ผู้ที่มาจากตูอิกาโนกูโปลูจะถูกเรียกว่าเกา ฮาลา ลาโล (low road people) ในขณะตูอิฮาอะตากาลาอัวระยะแรกจะอยู่กับฝ่ายตูอิกาโนกูโปลู แต่เมื่อตูอิกาโนกูโปลูมีอำนาจขึ้นมามากส่งผลให้ตูอิฮาอะตากาลาอัวหันไปจงรักภักดีกับตูอิโตงาแทน
ประเด็นศึกษาปัจจุบัน
การศึกษาทางโบราณคดี มานุษยวิทยาและภาษาศาสตร์สมัยใหม่ยืนยันว่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมของตองงาแพร่กระจายได้อย่างกว้างไกล ผ่านทางตะวันออกของ ซามัวและนีอูเอ บางส่วนของไมโครนีเซีย (คิริบาสและ) วานูอาตู และนิวแคลิโดเนีย นักวิชาการบางคนนิยมใช้คำว่าอาณาจักรชนเผ่าทางทะเล (maritime cheifdom) เพื่อแสดงสถานะของดินแดนตูอิโตงา ในขณะที่โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้คำว่าจักรวรรดิมากกว่าเนื่องจากเป็นนิยามที่สะดวกในการเรียก
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . Palace Office2013, Tonga. 29 December 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2013-12-29.
- . Palace Office2013, Tonga. 4 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2014-01-04.
- "The Pacific Islands: An Encyclopedia," edited by Lal and Fortune, p. 133
- see writings of Ata of Kolovai in "O Tama a Aiga" by Morgan Tuimaleali'ifano; writings by Mahina, also coronation edition of Spasifik Magazine, "The Pacific Islands: An Encyclopedia," edited by Lal and Fortune, p. 133etc.
- "Tonga". Lonely Planet. 2001.
- St. Cartmail, Keith (1997). The art of Tonga. Honolulu, Hawai'i: University of Hawai'i Press. p. 39. ISBN .
- Kie Hingoa 'Named Mats, 'Ie Toga 'Fine Mats' and Other Treasured Textiles of Samoa and Tonga. Journal of the Polynesian Society, Special Issue 108 (2), June 1999
- see Songs and Poems of Queen Salote edited by Elizabeth Wood-Ellem
- Thomson, Basil (January 1901). "Note Upon the Natives of Savage Island, or Niue". The Journal of the Anthropological Institute of Great Britain and Ireland. Royal Anthropological Institute of Great Britain and Ireland. 31: 137.
- "The Pacific Islands: An Encyclopedia," edited by Lal and Fortune, p. 133; "Great Families of Polynesia," Journal of Pacific History; "Tongan Society," Edward Gifford; "Tongan Society at the Time of Captain Cook's Visits," Queen Salote, Bott and Tavi
- Journal of Pacific History, 32 (2), Dec. 1997, also "Deconstructing the Island Group," Australian National University
- "Great Families of Polynesia," Journal of Pacific History; "Tongan Society," Edward Gifford; "Tongan Society at the Time of Captain Cook's Visits," Queen Salote, Bott and Tavi
- see http://planet-tonga.com/language_journal/Emancipation_in_Tonga/index.shtml 2006-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน History of Tonga; 'Okusitino Mahina 2004; and journal articles
- , Tonga Islands, 1981 ed.,
- "Tonga". Christopher Buyers. 4 January 2014.
- Recent Advances in the Archaeology of the Fiji/West-Polynesia Region" 2009-09-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 2008: Vol 21. University of Otago Studies in Prehistoric Anthropology.]
- "Hawaiki, Ancestral Polynesia: An Essay in Historical Anthropology", Patrick Vinton Kirch; Roger C. Green (2001)
- "Geraghty, P., 1994. Linguistic evidence for the Tongan empire", Geraghty, P., 1994 in "Language Contact and Change in the Austronesian World: pp.236-39.
- "Monumentality in the development of the Tongan maritime chiefdom", Clark, G., Burley, D. and Murray, T. 2008. Antiquity 82 (318) : 994-1004"
- "Pacific voyaging after the exploration period", NEICH, R. 2006 in K.R. Howe (ed.) Vaka Moana, voyages of the ancestors: the discovery and settlement of the Pacific: 198-245. Auckland: David Bateman. p230
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติศาสตร์ตองงา 2006-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติศาสตร์ตองงาบนเว็บไซต์รัฐบาล 2009-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sahrb rachwngsduthi tuxiotnga ckrwrrdituxiotnga epnckrwrrdihnungthimixanacyingihymakinekhtoxechiyeniy odyckrwrrdinikxtngkhunrawpi kh s 950 odyphraecaxaohexxitu aetecriyrungeruxngthungkhidsudrawkhriststwrrsthi 12 15 odyechphaaxyangyinginrchsmykhxngckrphrrdiomomaelackrphrrdituxitatuxi sungsamarthkhbayxanacidtngaet nixuex thung ckrwrrdiniekhykhyayxanaekhtidiklthisudthungkhxngimokhrniesiy miemuxnghlwngsakhykhxngckrwrrdithimuxa sungtngxyubnekaaotngatapu odymiphramhakstriypkkhrxngmacak 3 rachwngs aelatngaetkhrisstwrrsthi 17 epntnma ckrwrrdituxiotngamirachwngspkkhrxngckrwrrdiphrxmknthung 3 rachwngsinewlaediywkn inpccubnnkwicyidphyayamkhnkhwathungbthbathkhxngckrwrrdiinkarkhathangthael rwmipthungxiththiphlkhxngckrwrrdiinbriewntang aetyngkhngkhadhlkthanechingpracksckrwrrdituxiotnga Tu i Tongakh s 950 kh s 1826xanaekhtthangthaelkhxngckrwrrdituxiotngaemuxrungeruxngthisudsthanackrwrrdi xanackremuxnghlwngmuxakarpkkhrxngsmburnayasiththirachyphramhakstriy prawtisastr karsthapnackrwrrdikh s 950 khyayxanaccnthungkhidsudstwrrsthi 12 erimtnyukhesuxmkhxngckrwrrdikh s 1250 kxtngrachwngstuxihaxatakalaxwkh s 1470 kxtngrachwngstuxikaonkuoplukh s 1600 karekhamasarwckhxngaexebl aethsmnkh s 1643 karekhamasarwckhxngecms khukkh s 1777 phayaephinkarrbtxphraecacxrc tuputhi 1kh s 1826kxnhna thdipwthnthrrmlaphita rachxanackrtxngngapccubnepnswnhnungkhxng txngnga wxlisaelafutuna otekela naxuru fici efrnchphxliniechiy hmuekaaosolmxn khiribas niwew hmuekaakhuk samwerimtnckrwrrdipraman kh s 950 tuxiotngaxaohexxituerimkhyayxanackarpkkhrxngnxkekhttxngnga odycaktanankhxngtxngngaaelasamwthielasubtxknmaklawwatuxiotngaphraxngkhaerknnepnphrarachoxrskhxngsungepnethphecadngedimkhxngchawtxngnga rwmipthungchawophliniesiynxikdwy enuxngcakhmuekaamanuxainpraethssamwpccubnepnthisthitkhxngethphecaxnidaektakaolxa exxitumatupuxa otnga fusiofnuxaaelatawatawaximanuka rwmipthungepnbanekidkhxngbrrphbrus sngphlihphramhakstriyphraxngkhaerkkhxngtxngngakahndihhmuekaaaehngniepnhmuekaaskdisiththi cnkrathngkalewlalwngelymathungtuxiotngaphraxngkhthi 10 khuxphraecaomom phraxngkhaelaphusubtxrachbllngkkhxngphraxngkh phraecatuxitatuxi idkhyayckrwrrdiodymixanaekhttngaetthangdanthistawntk cnthungnixuexthangdanthistawnxxk xanaekhtkhxngckrwrrdiyngkhrxbkhlumthung otekela tuwalu naxuru bangswnkhxngfici hmuekaamarekhss bangswnkhxnghmuekaaosolmxn khiribas hmuekaakhuk aelabangswnkhxngsamw ephuxihkarpkkhrxngdinaednswnihyepnipdwydi cungyayemuxnghlwngipxyubriewnlakunthilapaha otngatapu dwyxiththiphlthikwangkhwangkhxngtuxiotngathaihckrwrrdimichuxesiyngkhrxbkhlummhasmuthraepsifik aelathaihekidkaraelkepliynthrphyakraelaaenwkhwamkhidxyangkwangkhwangkarkhyayxanaceruxaekhnukhxngtxngnga phayitkarnakhxngtuxiotngaphraxngkhthi 10 phraecaomom aelaphrarachoxrskhuxphraecatuxitatuxi tuxiotngaphraxngkhthi 11 xanaekhtkhxngckrwrrdikhyayxanacidkwangiklthisud brrnakarkhxngckrwrrdicathuksngmacakhwhnachnephahruxphunainekhtxanac odythisngmanneriynwa xinasi aelacathuksngmaepnpracathukpi n emuxngmuxa invduekbekiyw sungkarkrathaechnniepnkarnakhxngkhwymathwaytxethpheca phusungidrbkaryxmrbepntuxiotnga odyinpi kh s 1777 kptnecms khukidbnthukekiywkbphithixinasiiwwa praephniniepnpraephnithimichawtangchatiepncanwnmakekhamainpraethstxngnga odyechphaaxyangyingchnphiwdasungmibrrphburusepnchawaexfrikncakfici hmuekaaosolmxn aela wanuxatu sahrbesuxthidikhxngsamw echn otka klaymaepnsingsakhyinphithixphiesksmrsrahwangphrarachwngstxngngafayburusaelaphrarachwngssamwfaystri yktwxyangechn othuxixa sungepnphrarachmardakhxngtuxikaonkuoplu sungmacaksafata samw esuxehlanirwmipthungmaenxafaxingaaelatasixaexxaefklaymaepnephchryxdmngkudkhxngrachwngstupuinpccubn sungidrbmathangsayaemcaksamw karthickrwrrdiprasbkhwamsaercinkarkhyaydinaednnnekidkhuncakkhwamekhmaekhngkhxngkxngthpherux odyeruxthiichoodythwipepneruxthimikhnadyaw miiberuxepnrupsamehliym khxngtxngngathiminadihythisudsamarthcukhnidmakthung 100 khn odyeruxaekhnuthisakhyidaektxngngafuexsixa xakiehxuoh olmiepexa aelatakaxiopmana odymikarklawwatakaxiopmaepneruxkhxngsamwtambnthukin Queen Salote and the Palace Records sungklawiwwaeruxlaniepneruxthinaothu xixa limaopcaksamwekhaphithixphiesksamrskbtuxihaxatakalaxw dwykarmikxngthpheruxkhnadihynithaihkxngthpheruxtxngngachwyihtxngngamikhwamrarwycakkarkhaaelabrrnakarthiidrbckrwrrdituxiotngatngaetkhriststwrrsthi 16aeminyukhkarkhyayxanacckrwrrdiodyechphaainrchsmykhxngphraecaomomaelaphraecatuxitatuxi ckrwrrdituxiotngamikhwamecriyrungeruxngsungmak xyangirktaminpi kh s 1535 chawtangchati 2 khnlxbplngphrachnmkhnathikalngwaynaxyuinlakunkhxngemuxngmuxa phramhakstriyxngkhtxmakhuxidphyayamillasngharchawtangchati 2 khnthilxbplngphrachnmphraecatakalaxw cnsamarthtamipsngharidsaercinesnthangip enuxngcakekidehtukarlxbplngphrachnmtuxiotngalaykhrng sngphlihidsthapnarachwngsihmkhuxtuxihaxatakalaxwephuxepnekiyrtiaedphrarachbidakhxngphraxngkh aelaphraxngkhidsthapnaphraxnuchakhxngphraxngkhkhuxkhundarngphraxisriyysepntuxihaxatakalaxwphraxngkhaerk phramhakstriyinrachwngsihmnimiphrarachxanacinkarbriharkickarpracawnkhxngckrwrrdi inkhnathituxiotngaepliynsthanaihmepnphunathangcitwiyyankhxngchati xyangirktamtuxiotngayngkhngmiphrarachxanacinkarsnglngothspraharchiwithruxiwchiwitbukhkhlidkid ckrwrrdituxiotngainchwngewlanimixiththiphlkhxngsamwpraktxyu cakkarthituxiotngamiechuxsaysamw sungekidcakkarxphiesksmrskbphuhyingchawsamw rwmthungyngeluxkthicaxasyxyuinsamwxikdwy phrarachmardakhxngepnchawsamwcak inkhnathiaelaepnlukkhrungsamw txngnga phramhakstriythisubthxdtaaehnngtuxiotngacakphraxngkhxyang aelamiechuxsaysamwmakyingkhun odymiechuxsaykhxngchawsamwmakkwachawtxngnga inpi kh s 1610 tuxihaxatakalaxwphraxngkhthi 6 idsthapnataaehnngihmkhuxtuxikaonkuoplusahrbphrarachoxrslukkhrungsamwkhxngphraxngkhkhux odyaebngxanackarpkkhrxngbriewntang aetemuxewlaphaniptuxxikaonkuopluklbmixanacehnuxdinaedntxngngamakyingkhun emuxrachwngstuxikaonkuoplumixanacmakidnanoybaykarpkkhrxng taaehnngaelasthabnaebbsamwekhamainckrwrrdituxiotnga aelaklaymaepnrupaebbkarpkkhrxngsungsubtxmacnthungsmyrachxanackrtxngnga thuksingthukxyangiddaeninmaechnnieruxy inpi kh s 1616 nksarwcchawdtch aelasngektehneruxaekhnukhxngchawtxngnganxkchayfngekaanixuxaotputapu aelanksarwcthimichuxesiyngxyang aexebl aethsmnkidekhamasarwcinrayaewlatxma sungkarekhamasarwckhxngnkchawyuorpinrayaniimkxihekidkarepliynaeplngidkhxngckrwrrdimaknk xyangirktamkarsarwckhrngsakhykhrnghnungthikxihekidphlkrathbxyangmaktxckrwrrdituxiotngaodytrngkhuxkarekhamasarwckhxngecms khuk inpi kh s 1773 kh s 1774 aela kh s 1777 kxihekidkarekhamainckrwrrdikhxngmichchnnarilxndxninpi kh s 1797 sungekhamaephyaephsasnakhristihaekchawphunemuxngkarlmslaykhxngckrwrrdienuxngcakekidkhwamkhdaeyngcakkarpkkhrxngaelakarlaelythrrmeniymkarsubrachsmbtikhxngphraecatukuxaoh sngphlihhlayfayinckrwrrdiimphxic kxihekidkarlxbsnghar tuxikaonduopluphraxngkhthi 14 sngphlihekidkhwamimsngbthwdinaednthngckrwrrditammacnluklamepnsngkhramklangemuxng odykarsngkhraminkhrngniepnsukrahwangmuxa tuxiotnga wawaxuaelahaxaip xulukalala kb nukuxaolfa tuxikaonkuoplu hihiof haxangata haxahaewxa odyckrwrrdituxiotngaidlmslaylnginpi kh s 1826 sungphayaephtxtuxikaonkuoplu tuxihaxaip tuxiwawaxuetafaxaehathi sungnaipsukarlmslaykhxngckrwrrdituxiotnga aetetafaxaehayngkhngtaaehnngtuxiotngaiwxyu cnkrathngphraecaelafilitxngngaswrrkhtinpi kh s 1865 xyangirktamsngkhramklangemuxngyngkhngdarngxyutxipcnkrathngphraecacxrc tuputhi 1 samarthrwmxanackrklbmaepnxnhnungxnediywidxikkhrnginpi kh s 1845karpkkhrxng 3 rachwngskaresuxmthxykhxngtuxiotngaerimtnkhuncakphawasngkhramaelaaerngkddnphayin inpramankhritstwrrsthi 13 hrux 14 samwidrbchychnaehnuxtuxiotngaphayitkarnakhxngtrakulmaliextw dwyehtunicungmikartngfaelfakhunepnphuihkhapruksathangdankaremuxngaekckrwrrdi kharachkarfaelfaprasbkhwamsaercinkarrksaxanacehnuxekaatangkhxngckrwrrdi aetkxihekidkhwamimphxicxyangkwangkhwang xnnaipsukarlxbsngharphupkkhrxngxyuhlaykhrng yktwxyangechnkrnikarlxbsngharphraecatakalaxw epntn sngphlihtxngkxtngrachwngstuxihaxatakalaxwinewlatxma sungrachwngstuxihaxatakalaxwidkxtngrachwngstuxikaonkuoplukhunmaephuxchwyinkarbriharrachkaraephndin inchwngthirachwngstuxiotngaaelatuxikaonkuoplumixanacinckrwrrdinn idaebngekhtthixyurwmknepn 2 ekhtodnichthnneliybchayfngekathichuxwahala ofnuxa omxa thnndinaehng odyphupkkhrxngthimacaktuxiotngathukeriykwaeka hala xuta inland road people inkhnathiphuthimacaktuxikaonkuoplucathukeriykwaeka hala laol low road people inkhnatuxihaxatakalaxwrayaaerkcaxyukbfaytuxikaonkuoplu aetemuxtuxikaonkuoplumixanackhunmamaksngphlihtuxihaxatakalaxwhnipcngrkphkdikbtuxiotngaaethnpraednsuksapccubnkarsuksathangobrankhdi manusywithyaaelaphasasastrsmyihmyunynwaxiththiphlthangwthnthrrmkhxngtxngngaaephrkracayidxyangkwangikl phanthangtawnxxkkhxng samwaelanixuex bangswnkhxngimokhrniesiy khiribasaela wanuxatu aelaniwaekhliodeniy nkwichakarbangkhnniymichkhawaxanackrchnephathangthael maritime cheifdom ephuxaesdngsthanakhxngdinaedntuxiotnga inkhnathiodyswnihyaelwniymichkhawackrwrrdimakkwaenuxngcakepnniyamthisadwkinkareriykduephimprawtisastrtxngngaxangxing Palace Office2013 Tonga 29 December 2013 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 05 13 subkhnemux 2013 12 29 Palace Office2013 Tonga 4 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 05 13 subkhnemux 2014 01 04 The Pacific Islands An Encyclopedia edited by Lal and Fortune p 133 see writings of Ata of Kolovai in O Tama a Aiga by Morgan Tuimaleali ifano writings by Mahina also coronation edition of Spasifik Magazine The Pacific Islands An Encyclopedia edited by Lal and Fortune p 133etc Tonga Lonely Planet 2001 St Cartmail Keith 1997 The art of Tonga Honolulu Hawai i University of Hawai i Press p 39 ISBN 0 8248 1972 1 Kie Hingoa Named Mats Ie Toga Fine Mats and Other Treasured Textiles of Samoa and Tonga Journal of the Polynesian Society Special Issue 108 2 June 1999 see Songs and Poems of Queen Salote edited by Elizabeth Wood Ellem Thomson Basil January 1901 Note Upon the Natives of Savage Island or Niue The Journal of the Anthropological Institute of Great Britain and Ireland Royal Anthropological Institute of Great Britain and Ireland 31 137 The Pacific Islands An Encyclopedia edited by Lal and Fortune p 133 Great Families of Polynesia Journal of Pacific History Tongan Society Edward Gifford Tongan Society at the Time of Captain Cook s Visits Queen Salote Bott and Tavi Journal of Pacific History 32 2 Dec 1997 also Deconstructing the Island Group Australian National University Great Families of Polynesia Journal of Pacific History Tongan Society Edward Gifford Tongan Society at the Time of Captain Cook s Visits Queen Salote Bott and Tavi see http planet tonga com language journal Emancipation in Tonga index shtml 2006 03 05 thi ewyaebkaemchchin History of Tonga Okusitino Mahina 2004 and journal articles Tonga Islands 1981 ed Tonga Christopher Buyers 4 January 2014 Recent Advances in the Archaeology of the Fiji West Polynesia Region 2009 09 18 thi ewyaebkaemchchin 2008 Vol 21 University of Otago Studies in Prehistoric Anthropology Hawaiki Ancestral Polynesia An Essay in Historical Anthropology Patrick Vinton Kirch Roger C Green 2001 Geraghty P 1994 Linguistic evidence for the Tongan empire Geraghty P 1994 in Language Contact and Change in the Austronesian World pp 236 39 Monumentality in the development of the Tongan maritime chiefdom Clark G Burley D and Murray T 2008 Antiquity 82 318 994 1004 Pacific voyaging after the exploration period NEICH R 2006 in K R Howe ed Vaka Moana voyages of the ancestors the discovery and settlement of the Pacific 198 245 Auckland David Bateman p230aehlngkhxmulxunprawtisastrtxngnga 2006 03 05 thi ewyaebkaemchchin prawtisastrtxngngabnewbistrthbal 2009 04 30 thi ewyaebkaemchchin