พะโค,บะโก (พม่า: ပဲခူးမြို့; มอญ: ဗဂေါ) หรือ หงสาวดี (พม่า: ဟံသာဝတီ; มอญ: ဟံသာဝတဳ หงสาวะโตย) เป็นเมืองหลักของภาคพะโค อยู่ห่างจากย่างกุ้ง ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 91 กิโลเมตร (57 ไมล์) นครหงสาวดีเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญ และอาณาจักรตองอูของชาวพม่า
พะโค ပဲခူးမြို့ หงสาวดี | |
---|---|
เมือง | |
พะโค ที่ตั้งเมืองพะโคในประเทศพม่า | |
พิกัด: 17°20′12″N 96°28′47″E / 17.33667°N 96.47972°E | |
ประเทศ | พม่า |
ภาค | ภาคพะโค |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1152 |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 18.45 ตร.ไมล์ (47.8 ตร.กม.) |
ความสูง | 13 ฟุต (4 เมตร) |
ประชากร (2019) | |
• ทั้งหมด | 179,505 คน |
• ความหนาแน่น | 9,700 คน/ตร.ไมล์ (3,800 คน/ตร.กม.) |
• กลุ่มชาติพันธุ์ | |
• ศาสนา | |
เขตเวลา | (เวลามาตรฐานพม่า) |
ศัพทมูลวิทยา
ชื่อภาษาพม่า พะโค (ပဲခူး) สันนิษฐานว่ามาจากชื่อสถานที่ในภาษามอญ เรียกว่า บะกอ (มอญ: ဗဂေါ, [bəkɜ̀]) จนกระทั่งรัฐบาลพม่าเปลี่ยนชื่อสถานที่เป็นภาษาอังกฤษทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2532 พะโคจึงเป็นที่รู้จักในชื่อ เปกู พะโค เดิมชื่อ ฮันตาวะดี (พม่า: ဟံသာဝတီ; มอญ: ဟံသာဝတဳ หงสาวะโตย; บาลี: Haṃsāvatī) ซึ่งเป็นชื่อของอาณาจักรหงสาวดี
ศัพทมูลวิทยาทางเลือกจากสารานุกรมพม่า พ.ศ. 2490 พะโค (ပဲခူး) มาจาก วานเปกู (พม่า: ဝမ်းပဲကူး) เป็นคำย่อของสถานที่พวกหงส์กินหญ้า (พม่า: ဟင်္သာဝမ်းဘဲများ ကူးသန်းကျက်စားရာ အရပ်) ศัพทมูลวิทยานี้ไม่ยึดตามการออกเสียงสะกดภาษาพม่าเป็นเหตุผลหลัก
ประวัติ
การก่อตั้ง
พงศาวดารภาษามอญ หลายฉบับรายงานวันที่ก่อตั้งเมืองพะโคแตกต่างกัน ตั้งแต่ ค.ศ. 573 ถึง ค.ศ. 1152 ในขณะที่ ซึ่งเป็นตำราของกองอาลักษณ์พม่าต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 ระบุว่าพะโคก่อตั้งในปี ค.ศ. 1276/77
หลักฐานแรกสุดที่ยังหลงเหลืออยู่ของพะโคมีในสมัยอาณาจักรพุกามตอนปลาย เมื่อยังเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ หลังการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม พะโคกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเมาะตะมะ ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1290
บันทึกภายนอกที่เก่าแก่สุดที่เป็นไปได้ของพะโค มีอายุถึงปี ค.ศ. 1028 แผ่นจารึก ติรุวัฬลันกาดุ (Thiruvalangadu) บรรยายถึง แห่งอาณาจักรโจฬะ จากอินเดียใต้ว่าได้พิชิต "Kadaram" ในปีที่ 14 ของรัชสมัยพระองค์ ตามการตีความครั้งแรก Kadaram อาจหมายถึงพะโค การตีความที่ทันสมัยมากขึ้นเข้าใจว่า Kadaram อาจหมายถึงเกดะห์ ในมาเลเซียปัจจุบัน แหล่งหลักฐานในจีนกล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้เพิ่มพะโคเข้าไปในอาณาเขตของอาณาจักรพระนครใน ค.ศ. 1195
การขยายตัว
ชุมชนเล็ก ๆ นี้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เนื่องจากภูมิภาคนี้มีประชากรมากที่สุดในอาณาจักรที่พูดภาษามอญ ในปี ค.ศ. 1369 พระยาอู่ ทรงตั้งเมืองพะโคเป็นเมืองหลวง ในรัชสมัยของพระเจ้าราชาธิราช พะโคและอาณาจักรอังวะ มีส่วนร่วมในสงครามสี่สิบปี รัชสมัยอันสงบสุขของพระนางเชงสอบู สิ้นสุดลงเมื่อพระองค์เลือกภิกษุหรือพระเจ้าธรรมเจดีย์ (ค.ศ. 1471–1492) ให้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ ภายใต้การปกครองของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พะโคกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าและศาสนาพุทธนิกายเถรวาท
ในปี ค.ศ. 1519 พ่อค้าในขณะนั้นจากนิคม casados ของโปรตุเกสที่โกจจิ ได้ขึ้นฝั่งที่พะโค เพื่อค้นหาตลาดใหม่สำหรับพริกไทยจากโกจจิ หนึ่งปีต่อมาผู้ว่าการรัฐโปรตุเกสอินเดีย ได้ส่งราชทูตมายังพะโค
เมืองหลวงราชวงศ์ตองอู
เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองหลวงจนกระทั่งอาณาจักรล่มสลายในปี ค.ศ. 1538 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ แห่งราชวงศ์ตองอู ได้บุกโจมตีหลายครั้ง อาณาจักรฟื้นตัวขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นเวลา 2 ปีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1550 จนพระเจ้าบุเรงนอง ผู้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เข้าควบคุมเมืองพะโคอย่างมั่งคงในปี ค.ศ. 1553
ปลายปี ค.ศ. 1553 พะโคได้เป็นเมืองหลวงใหม่โดยมีการสร้างพระราชวังใหม่ พระราชวังกัมโพชธานี และมีพิธีราชาภิเษกพระเจ้าบุเรงนองในเดือนมกราคม ค.ศ. 1554 ภายในทศวรรษหน้า พะโคค่อย ๆ กลายเป็นเมืองหลวงของดินแดนและท้ายที่สุดก็กลายเป็นอาณาจักรที่ใหญ่สุดในอินโดจีน การกบฏในปี ค.ศ. 1565 โดยชาวไทใหญ่ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพะโคได้ทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองและบริเวณพระราชวัง หลังการกบฏโดยชาวไทใหญ่ ค.ศ. 1565 ก็ไม่มีการกบฏครั้งใหม่อีกเลยในสองปีข้างหน้า (ค.ศ. 1565–1567) เนื่องจากกบฏได้เผาทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวง รวมทั้งบริเวณพระราชวังทั้งหมด จึงมีการสร้างเมืองหลวงและพระราชวังขึ้นใหม่ เมืองหลวงใหม่มีประตู 20 ประตู แต่ละประตูตั้งชื่อตามแรงงานประเทศราชที่สร้างประตูนั้น แต่ละประตูมี ปยะตะ ปิดทองสองชั้นรวมถึงประตูไม้ปิดทอง
แผนผังประตูเมืองหงสาวดีที่สร้างขึ้นใหม่ ค.ศ. 1568 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|
ตะวันตกเฉียงเหนือ | ตะนาวศรี | อยุธยา | เมาะตะมะ | พะสิม | ตะวันออกเฉียงเหนือ | |
แสนหวี | แปร | |||||
สารวดี | อังวะ | |||||
ตองอู | ||||||
เมืองนาย | ล้านช้าง | |||||
กะเล่ | ||||||
ตะวันตกเฉียงใต้ | ทวาย | โม่ก้อง | โม่ญี่น | เชียงใหม่ | ตะวันออกเฉียงใต้ |
พระราชวังกัมโพชธานีที่สร้างขึ้นใหม่เปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1568 ในมหาราชวงศ์ระบุว่าพระองค์ยังเลื่อนบรรดาศักดิ์แก่อดีตกษัตริย์สี่องค์ ได้แก่ โม่-บแยนะระปะติแห่งอังวะ, ซีตูจอทีนแห่งอังวะ, พระเมกุฏิสุทธิวงศ์แห่งล้านนา และสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งอยุธยา
เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ชาวยุโรปจึงมักมาเยือนเมืองนี้ โดยในจำนวนนี้ได้แก่ และ ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1500 ชาวยุโรปมักบรรยายถึงความยิ่งใหญ่ของเมือง พะโคยังได้สถาปนาความเชื่อมโยงทางทะเลกับจักรวรรดิออตโตมัน ในปี ค.ศ. 1545
การยึดครองพะโคของโปรตุเกส หลังล่มสลายจากกษัตริย์แห่งตองอูและยะไข่ ในปี ค.ศ. 1599 ได้รับการบรรยายโดย มานูแวล ดึ อาเบรว โมซินโญ่ (Manuel de Abreu Mousinho) ว่า "เรื่องสั้นเล่าถึงการพิชิตพะโคในอินเดียตะวันออกโดยชาวโปรตุเกสสมัยของอุปราช ไอเรส เด ซัลดานา (Aires de Saldanha) กัปตันซัลวาดอร์ รีเบย์รู ดึ โซซา (Salvador Ribeiro de Sousa) หรือเรียกกันว่า งะซีนกา ได้รับเลือกให้เป็นกษัตริย์โดยชาวพื้นเมืองในปี ค.ศ. 1600" จัดพิมพ์โดยฟือร์เนา เม็งดึช ปิงตูในคริสต์ศตวรรษที่ 18 การทำลายล้างเมืองในปี ค.ศ. 1599 และอำนาจที่ล่มสลายของพระเจ้านันทบุเรง ผู้ที่สืบตำแหน่งต่อจากพระเจ้าบุเรงนอง ทำให้ราชวงศ์ตองอูย้ายเมืองหลวงไปยังอังวะ
เมืองหลวงถูกปล้นโดย เมงเยสีหตู อุปราชแห่งตองอู จากนั้นถูกเผาโดยอุปราชแห่งยะไข่ช่วงสงครามพม่า–สยาม (ค.ศ. 1594–1605) พระเจ้าอะเนาะเพะลูนต้องการสร้างหงสาวดีให้รุ่งโรจน์อีกครั้ง ซึ่งถูกทิ้งร้างนับตั้งแต่พระเจ้านันทบุเรงละทิ้งไป อย่างไรก็ตามพระองค์สามารถสร้างพระราชวังชั่วคราวได้เท่านั้น: 151–162, 191
การฟี้นเมืองหลวงของพม่าไปยังพะโคนั้นดำรงอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากพระเจ้าตาลูนกษัตริย์องค์ต่อมาได้ย้ายเมืองหลวงไปยังอังวะอีกครั้งในปี ค.ศ. 1634 เพื่อมุ่งเน้นไปที่ศูนย์กลางอาณาจักรพม่าที่มีขนาดเล็กกว่า
การล่มสลายของราชวงศ์ตองอูและโก้นบอง
ในปี ค.ศ. 1740 ชาวมอญได้ก่อกบฏและก่อตั้งอาณาจักรหงสาวดีใหม่ อย่างไรก็ตามพระเจ้าอลองพญา กษัตริย์ชาวพม่า ได้ยึดเมืองนี้ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1757
พะโคถูกสร้างขึ้นใหม่โดยพระเจ้าปดุง (ค.ศ. 1782–1819) แต่เมื่อถึงเวลานั้นแม่น้ำได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้เมืองตัดขาดจากทะเลและไม่ได้รับความสำคัญดังเดิม หลังสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สอง อังกฤษได้ผนวกเมืองพะโคในปี ค.ศ. 1852 มณฑลพม่าได้ก่อตั้งขึ้นปี ค.ศ. 1862 และเมืองหลวงได้ย้ายไปยังย่างกุ้ง ความแตกต่างการออกเสียงพูดและและคำพม่าของชื่อเมือง เป็นสาเหตุการทุจริต "เปกู" ของอังกฤษ
ปี ค.ศ. 1911 พะโคถูกจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของภาคพะโคในพม่าตอนล่าง ซึ่งรวมอยู่ในเขตย่างกุ้ง ซึ่งเมืองนี้ถูกแยกออกมาเป็นเขตในปี ค.ศ. 1880 มีพื้นที่ 3,023 ตารางไมล์ (7,830 ตารางกิโลเมตร) มีประชากร 48,411 คนในปี ค.ศ. 1901 เพิ่มขึ้น 22% ในทศวรรษที่ผ่านมา พะโคและฮีนตาดะ เป็นสองเขตที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในภูมิภาค
พะโคที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1911 ประกอบด้วยที่ราบกว้างใหญ่แผ่ออกไปในทะเลระหว่างปากแม่น้ำอิรวดีกับทิวเขาพะโค ภูมิประเทศที่อยู่ระหว่างทิวเขาพะโคตะวันออกและแม่น้ำย่างกุ้งถูกตัดผ่านด้วยแม่น้ำหลายสาย ซึ่งหลายสายสามารถร่องได้ด้วยเรือใหญ่หรือเรือกลไฟ สำนักงานใหญ่ของเขตอยู่ที่กรุงย่างกุ้ง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของแผนกย่อยด้วย แผนกย่อยแห่งที่สองมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อี้นเซน เป็นที่ตั้งสำนักงานทางรถไฟขนาดใหญ่ การเพาะปลูกเกือบทั้งหมดจำกัดอยู่แค่ข้าว แต่ก็มีสวนผักและผลไม้ดาษดื่น
พะโคได้รับความเสียหายรุนแรงระหว่างแผ่นดินไหวในเดือนพฤษภาคมและธันวาคม ค.ศ. 1930 แผ่นดินไหวในเดือนพฤษภาคมคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 500 ราย และก่อให้เกิดสึนามิ
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ปัจจุบันพะโคเป็นหนึ่งในเขตปกครองภาคพะโค โดยภาคพะโคแบ่งออกเป็น 34 เขตปกครอง ในวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2021 ระหว่างการประท้วงในประเทศพม่า ได้เกิดการสังหารหมู่ที่พะโค ซึ่งในระหว่างนั้นกองกำลังทหารสังหารพลเรือนอย่างน้อย 82 ราย หลังการปราบปรามการประท้วง
สัญลักษณ์ของเมือง
สัญลักษณ์เป็นรูปหงส์คู่ มีตำนานของชาวมอญเล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงเมืองหงสาวดีที่สมัยก่อนยังคงเป็นชายหาดริมทะเล พระพุทธเจ้าทรงเห็นหงส์สองตัวว่ายน้ำเล่นกัน จึงทำนายออกมาว่าภายหลังจะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ชาวมอญจึงถือเอาตำนานเรื่องนี้มาเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ตำนานยังกล่าวว่าหงส์คู่นั้นตัวเมียขี่ตัวผู้ จึงมีคำทำนายว่าต่อไปผู้หญิงจะเป็นใหญ่ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือ พระนางเชงสอบู กษัตรีย์ของชาวมอญนั่นเอง
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหงสาวดี คือ เจดีย์ชเวมอดอ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระธาตุมุเตา เป็นพระธาตุที่อยู่คู่กับเมืองมานาน เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าภายในได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ เล่ากันว่าเมื่อครั้งใดที่พระเจ้าบุเรงนองจะออกทำศึกจะทรงสักการะขอพรจากพระธาตุนี้ทุกครั้ง และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จมายังที่หงสาวดีนี้ก็ได้ทำการสักการะพระธาตุนี้ด้วย
ปัจจุบัน พะโคเป็นเมืองที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศพม่าด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
ประชากร
การสำรวจสำมะโนประชากรของพม่า ค.ศ. 2014 พะโคมีประชากร 23,7619 คน คิดเป็น 48.35% ของประชากรทั้งหมดใน
ในปี ค.ศ. 2019 เมืองนี้มีประชากร 179,505 คน ตามการประมาณของกรมการปกครองพม่า 88.73% ของเมืองคือชาวพม่า และมีประชากรสำคัญคือชาวกะเหรี่ยง, มอญ, ปะหล่อง และพม่าเชื้อสายอินเดีย ผู้นับถือศาสนาพุทธ คิดเป็น 94.2% ของเมือง และศาสนาคริสต์มีประชากรมากเป็นอันดับสองที่ 4.2% มีอาราม 749 แห่ง สำนักแม่ชี 92 แห่ง และเจดีย์ขนาดต่าง ๆ 134 องค์ รวมถึงเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า เจดีย์ชเวมอดอ เมืองนี้ยังมีโบสถ์ 9 แห่ง มัสยิด 6 แห่ง วัดฮินดู 16 แห่ง และวัดมหายานของจีน 3 แห่ง
เศรษฐกิจและคมนาคม
อุตสาหกรรมหลักของเมืองพะโคคือการจ้างงานในภาคเกษตรกรรมและการบริการ เมืองพะโคมีเขตอุตสาหกรรมที่มีโรงงานหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานสิ่งทอและรองเท้า โรงงานขนาดเล็กภายในเมืองยังสร้างผลิตภัณฑ์อาหาร, พลาสติก, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องยนตร์, ผลิตภัณฑ์จากไม้, ชา และแฮลวอ พะโคยังมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเล็ก ๆ ที่ได้รับความนิยม โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากย่างกุ้งที่อยู่ใกล้เคียง คณะกรรมการพัฒนาพะโคบริหารจัดการตลาด 11 แห่งทั่วเมือง
ไม่มีสนามบินภายในเมืองและโดยส่วนใหญ่ใช้บริการจากท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง มีการเสนอสร้าง ซึ่งให้บริการในเขตย่างกุ้งและพะโค ตั้งอยู่ในอำเภอพะโค มีทางรถไฟสองสายที่วิ่งผ่านพะโค คือสายย่างกุ้ง–มัณฑะเลย์ และ สายย่างกุ้ง–มอละมไยน์ พะโคยังมีสถานีขนส่งหลายแห่งในเขตชานเมือง ซึ่งมีรถโดยสารระหว่างเมืองให้บริการเป็นประจำ พะโคยังมีบริการทางด่วนย่างกุ้ง–มัณฑะเลย์ เช่นเดียวกับทางหลวงสายเก่าที่ไปยังตองอูและมะริด พะโคมีสะพานหลักเจ็ดแห่งที่ข้ามแม่น้ำพะโคทั้งในและรอบเมือง
ภูมิอากาศ
พะโคมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน (เคิพเพิน Am) คล้ายกับพื้นที่ชายฝั่งทะเลส่วนใหญ่ของประเทศพม่า โดยมีฤดูร้อนและฤดูแล้ง ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนเมษายน และร้อนชื้นมาก มีฝนตกชุกในฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
ข้อมูลภูมิอากาศของพะโค (ค.ศ. 1991–2020) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 31.7 (89.1) | 34.0 (93.2) | 36.3 (97.3) | 37.9 (100.2) | 34.6 (94.3) | 30.9 (87.6) | 30.1 (86.2) | 30.0 (86) | 31.1 (88) | 32.6 (90.7) | 32.7 (90.9) | 31.5 (88.7) | 32.8 (91) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 24.0 (75.2) | 25.8 (78.4) | 28.5 (83.3) | 30.6 (87.1) | 29.1 (84.4) | 26.9 (80.4) | 26.5 (79.7) | 26.5 (79.7) | 27.1 (80.8) | 27.8 (82) | 26.9 (80.4) | 24.5 (76.1) | 27 (81) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 16.3 (61.3) | 17.6 (63.7) | 20.7 (69.3) | 23.3 (73.9) | 23.6 (74.5) | 23.0 (73.4) | 22.9 (73.2) | 22.9 (73.2) | 23.1 (73.6) | 23.1 (73.6) | 21.2 (70.2) | 17.6 (63.7) | 21.3 (70.3) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 5.0 (0.197) | 3.1 (0.122) | 15.2 (0.598) | 38.5 (1.516) | 333.9 (13.146) | 640.5 (25.217) | 803.4 (31.63) | 720.9 (28.382) | 475.3 (18.713) | 188.0 (7.402) | 50.2 (1.976) | 7.5 (0.295) | 3,281.5 (129.193) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 1.0 mm) | 0.8 | 0.3 | 1.1 | 2.2 | 15.2 | 26.3 | 28.3 | 28.0 | 22.7 | 12.4 | 3.2 | 0.5 | 140.8 |
แหล่งที่มา: |
อ้างอิง
- Myanmar Information Management Unit (December 19, 2019). Bago Myone Daethasaingyarachatlatmya ပဲခူမြို့နယ် ဒေသဆိုင်ရာအချက်လက်များ [Bago Township Regional Information] (PDF) (Report). MIMU. สืบค้นเมื่อ February 7, 2024.
- "ประกาศสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 139 (พิเศษ 205 ง). 1 กันยายน 2565.
- Burma Translation Society (1947). Myanma Swesone Kyan မြန်မာ့ စွယ်စုံကျမ်း [Burmese Encyclopedia]. Vol. 6. London: BStephen Austin & Sons.
- Aung-Thwin 2017, p. 332.
- (2000) [1935]. The Cōlas. Madras: University of Madras.
- Majumdar, R. C. (1937). Ancient Indian Colonies in the Far East. Vol. 2: Suvarnadvipa. Dacca: Ashok Kumar Majumdar. pp. 212–218.
- Chatterji, Bijan Raj (1939). "Jayavarman VII (1181-1201 A.D.) (The last of the great monarchs of Cambodia)". Proceedings of the Indian History Congress. 3: 377–385. JSTOR 44252387.
- Luís Filipe Tomás (1976). A viagem de António Correia a Pegu em 1519 (PDF) (ภาษาโปรตุเกส). Junta de Investigações do Ultramar.
- Malekandathil, Pius M C (2010-10-26), Origin and Growth of Luso-Indian Community in Portuguese Cochin and the maritime trade of India, 1500–6663 (PDF), Pondicherry University
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd. p. 153-157, 171.
- , U (1724). (ภาษาBurmese). Vol. 1–3 (2006, 4th printing ed.). Yangon: Ya-Pyei Publishing.
{{}}
: CS1 maint: unrecognized language () - Casale, Giancarlo (2010). The Ottoman Age of Exploration. Oxford University Press. doi:10.1093/acprof:oso/9780195377828.001.0001. ISBN .
- Prince Damrong Rajanubhab (2001). Our Wars with the Burmese. Bangkok: White Lotus. ISBN .
- British Museum collection
- ประโยคหรือส่วนของบทความก่อนหน้านี้ ประกอบด้วยข้อความจากสิ่งพิมพ์ซึ่งปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติ: Chisholm, Hugh, บ.ก. (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 12 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์. p. 932.
- "On This Day: The 1930 Earthquake Which Flattened Bago". The Irrawaddy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-05-05. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
- "Bago Township Report" (PDF). 2014 Myanmar Population and Housing Census. October 2017.
- "Myanmar coup: 'Dozens killed' in military crackdown in Bago". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2021-04-10. สืบค้นเมื่อ 2021-04-11.
- "Oversea Major Project". SUNJIN Engineering & Architecture. สืบค้นเมื่อ 23 June 2012.[]
- "World Meteorological Organization Climate Normals for 1991–2020". World Meteorological Organization. สืบค้นเมื่อ 16 October 2023.
บรรณานุกรม
- Aung-Thwin, Michael A. (2005). The Mists of Rāmañña: The Legend that was Lower Burma (illustrated ed.). Honolulu: University of Hawai'i Press. ISBN .
- Aung-Thwin, Michael A. (2017). Myanmar in the Fifteenth Century. Honolulu: University of Hawai'i Press. ISBN .
- Nyein Maung, บ.ก. (1972–1998). Shay-haung Myanma Kyauksa-mya [Ancient Burmese Stone Inscriptions] (ภาษาพม่า). Vol. 1–5. Yangon: Archaeological Department.
- Pan Hla, Nai (1968). Razadarit Ayedawbon (ภาษาพม่า) (8th printing, 2005 ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.
- (1873). "The History of Pegu". Journal of the Asiatic Society of Bengal. Calcutta. 42: 23–57, 120–159.
- (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- Schmidt, P.W. (1906). "Slapat des Ragawan der Königsgeschichte". Die äthiopischen Handschriften der K.K. Hofbibliothek zu Wien (ภาษาเยอรมัน). Vienna: Alfred Hölder. 151.
แหล่งข้อมูลอื่น
- International Dictionary of Historic Places: Asia and Oceania
ก่อนหน้า | พะโค | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
โดนวู่น | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดี (ค.ศ. 1369 – มกราคม ค.ศ. 1539) | สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (มกราคม ค.ศ. 1539 – 30 เมษายน ค.ศ. 1550) | อังวะ | ||
พะโค | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดี (มิถุนายน ค.ศ. 1550 – 12 มีนาคม ค.ศ. 1552) | สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (12 มีนาคม ค.ศ. 1552 – 19 ธันวาคม ค.ศ. 1599) | อังวะ | ||
อังวะ | อาณาจักรตองอู (14 พฤษภาคม ค.ศ. 1613 – 25 มกราคม ค.ศ. 1635) | อังวะ | ||
สถาปนา | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดีใหม่ (พฤศจิกายน ค.ศ. 1740 – 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1757) | สิ้นสุด |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phaokh baok phma ပ ခ မ mxy ဗဂ hrux hngsawdi phma ဟ သ ဝတ mxy ဟ သ ဝတ hngsawaoty epnemuxnghlkkhxngphakhphaokh xyuhangcakyangkung ipthangtawnxxkechiyngehnux 91 kiolemtr 57 iml nkhrhngsawdiekhyepnemuxnghlwngkhxngxanackrhngsawdikhxngchawmxy aelaxanackrtxngxukhxngchawphmaphaokh ပ ခ မ hngsawdiemuxngphaokhthitngemuxngphaokhinpraethsphmaphikd 17 20 12 N 96 28 47 E 17 33667 N 96 47972 E 17 33667 96 47972praeths phmaphakh phakhphaokhkxtngkh s 1152phunthi thnghmd18 45 tr iml 47 8 tr km khwamsung13 fut 4 emtr prachakr 2019 thnghmd179 505 khn khwamhnaaenn9 700 khn tr iml 3 800 khn tr km klumchatiphnthuphmamxyithihyphmaechuxsaycinphmaechuxsayxinediykaehriyng sasnaphuththhindukhristekhtewlaUTC 6 30 ewlamatrthanphma sphthmulwithyachuxphasaphma phaokh ပ ခ snnisthanwamacakchuxsthanthiinphasamxy eriykwa bakx mxy ဗဂ bekɜ cnkrathngrthbalphmaepliynchuxsthanthiepnphasaxngkvsthwpraethsinpi ph s 2532 phaokhcungepnthiruckinchux epku phaokh edimchux hntawadi phma ဟ သ ဝတ mxy ဟ သ ဝတ hngsawaoty bali Haṃsavati sungepnchuxkhxngxanackrhngsawdi sphthmulwithyathangeluxkcaksaranukrmphma ph s 2490 phaokh ပ ခ macak wanepku phma ဝမ ပ က epnkhayxkhxngsthanthiphwkhngskinhya phma ဟင သ ဝမ ဘ မ က သန က က စ ရ အရပ sphthmulwithyaniimyudtamkarxxkesiyngsakdphasaphmaepnehtuphlhlkprawtiphranxnchewtalyxng hnunginsylksnkhxngemuxngphaokh khwamyaw 177 fut 54 emtr srangpi kh s 994 smykstriymxykarkxtng phngsawdarphasamxy hlaychbbraynganwnthikxtngemuxngphaokhaetktangkn tngaet kh s 573 thung kh s 1152 inkhnathi sungepntarakhxngkxngxalksnphmatnkhriststwrrsthi 15 rabuwaphaokhkxtnginpi kh s 1276 77 hlkthanaerksudthiynghlngehluxxyukhxngphaokhmiinsmyxanackrphukamtxnplay emuxyngepnephiyngemuxngelk hlngkarlmslaykhxngxanackrphukam phaokhklayepnswnhnungkhxngxanackremaatama inchwngkhristthswrrsthi 1290 bnthukphaynxkthiekaaeksudthiepnipidkhxngphaokh mixayuthungpi kh s 1028 aephncaruk tiruwllnkadu Thiruvalangadu brryaythung aehngxanackrocla cakxinediyitwaidphichit Kadaram inpithi 14 khxngrchsmyphraxngkh tamkartikhwamkhrngaerk Kadaram xachmaythungphaokh kartikhwamthithnsmymakkhunekhaicwa Kadaram xachmaythungekdah inmaelesiypccubn aehlnghlkthanincinklawthungphraecachywrmnthi 7 idephimphaokhekhaipinxanaekhtkhxngxanackrphrankhrin kh s 1195 karkhyaytw chumchnelk nimikhwamsakhymakkhuneruxy inkhriststwrrsthi 14 enuxngcakphumiphakhnimiprachakrmakthisudinxanackrthiphudphasamxy inpi kh s 1369 phrayaxu thrngtngemuxngphaokhepnemuxnghlwng inrchsmykhxngphraecarachathirach phaokhaelaxanackrxngwa miswnrwminsngkhramsisibpi rchsmyxnsngbsukhkhxngphranangechngsxbu sinsudlngemuxphraxngkheluxkphiksuhruxphraecathrrmecdiy kh s 1471 1492 ihsubrachbllngktxcakphraxngkh phayitkarpkkhrxngkhxngphraecathrrmecdiy phaokhklayepnsunyklangthangkarkhaaelasasnaphuththnikayethrwath inpi kh s 1519 phxkhainkhnanncaknikhm casados khxngoprtueksthiokcci idkhunfngthiphaokh ephuxkhnhatladihmsahrbphrikithycakokcci hnungpitxmaphuwakarrthoprtueksxinediy idsngrachthutmayngphaokh emuxnghlwngrachwngstxngxu phrarachwngkmophchthanithisrangihm emuxngniyngkhngepnemuxnghlwngcnkrathngxanackrlmslayinpi kh s 1538 phraecataebngchaewti aehngrachwngstxngxu idbukocmtihlaykhrng xanackrfuntwkhunmaidinchwngewlasn epnewla 2 piinchwngkhristthswrrs 1550 cnphraecabuerngnxng phusubrachbllngktxcakphraecataebngchaewti ekhakhwbkhumemuxngphaokhxyangmngkhnginpi kh s 1553 playpi kh s 1553 phaokhidepnemuxnghlwngihmodymikarsrangphrarachwngihm phrarachwngkmophchthani aelamiphithirachaphieskphraecabuerngnxngineduxnmkrakhm kh s 1554 phayinthswrrshna phaokhkhxy klayepnemuxnghlwngkhxngdinaednaelathaythisudkklayepnxanackrthiihysudinxinodcin karkbtinpi kh s 1565 odychawithihythixphyphekhamatngthinthaninphaokhidthalayphunthiswnihykhxngemuxngaelabriewnphrarachwng hlngkarkbtodychawithihy kh s 1565 kimmikarkbtkhrngihmxikelyinsxngpikhanghna kh s 1565 1567 enuxngcakkbtidephathalayphunthiswnihykhxngemuxnghlwng rwmthngbriewnphrarachwngthnghmd cungmikarsrangemuxnghlwngaelaphrarachwngkhunihm emuxnghlwngihmmipratu 20 pratu aetlapratutngchuxtamaerngnganpraethsrachthisrangpratunn aetlapratumi pyata pidthxngsxngchnrwmthungpratuimpidthxng aephnphngemuxnghngsawdi kh s 1568aephnphngpratuemuxnghngsawdithisrangkhunihm kh s 1568tawntkechiyngehnux tanawsri xyuthya emaatama phasim tawnxxkechiyngehnuxaesnhwi aeprsarwdi xngwatxngxuemuxngnay lanchangkaeltawntkechiyngit thway omkxng omyin echiyngihm tawnxxkechiyngit phrarachwngkmophchthanithisrangkhunihmepidxyangepnthangkarwnthi 16 minakhm kh s 1568 inmharachwngsrabuwaphraxngkhyngeluxnbrrdaskdiaekxditkstriysixngkh idaek om baeynarapatiaehngxngwa situcxthinaehngxngwa phraemkutisuththiwngsaehnglanna aelasmedcphramhackrphrrdiaehngxyuthya enuxngcakepnemuxngthathisakhy chawyuorpcungmkmaeyuxnemuxngni odyincanwnniidaek aela inchwngplaykhristthswrrs 1500 chawyuorpmkbrryaythungkhwamyingihykhxngemuxng phaokhyngidsthapnakhwamechuxmoyngthangthaelkbckrwrrdixxtotmn inpi kh s 1545 ecaemuxngphaokhrbthut khriststwrrsthi 17 karyudkhrxngphaokhkhxngoprtueks hlnglmslaycakkstriyaehngtxngxuaelayaikh inpi kh s 1599 idrbkarbrryayody manuaewl du xaebrw omsinoy Manuel de Abreu Mousinho wa eruxngsnelathungkarphichitphaokhinxinediytawnxxkodychawoprtuekssmykhxngxuprach ixers ed sldana Aires de Saldanha kptnslwadxr riebyru du ossa Salvador Ribeiro de Sousa hruxeriykknwa ngasinka idrbeluxkihepnkstriyodychawphunemuxnginpi kh s 1600 cdphimphodyfuxrena emngduch pingtuinkhriststwrrsthi 18 karthalaylangemuxnginpi kh s 1599 aelaxanacthilmslaykhxngphraecannthbuerng phuthisubtaaehnngtxcakphraecabuerngnxng thaihrachwngstxngxuyayemuxnghlwngipyngxngwa emuxnghlwngthukplnody emngeysihtu xuprachaehngtxngxu caknnthukephaodyxuprachaehngyaikhchwngsngkhramphma syam kh s 1594 1605 phraecaxaenaaephaluntxngkarsranghngsawdiihrungorcnxikkhrng sungthukthingrangnbtngaetphraecannthbuernglathingip xyangirktamphraxngkhsamarthsrangphrarachwngchwkhrawidethann 151 162 191 aephncarukruppisacsungepntwaethnkxngthphmar wdchewkuci srangkhunodyphraecathrrmecdiy kh s 1472 92 pccubnxyuinphiphithphnthbritich karfinemuxnghlwngkhxngphmaipyngphaokhnndarngxyuidimnan enuxngcakphraecatalunkstriyxngkhtxmaidyayemuxnghlwngipyngxngwaxikkhrnginpi kh s 1634 ephuxmungennipthisunyklangxanackrphmathimikhnadelkkwa karlmslaykhxngrachwngstxngxuaelaoknbxng inpi kh s 1740 chawmxyidkxkbtaelakxtngxanackrhngsawdiihm xyangirktamphraecaxlxngphya kstriychawphma idyudemuxngniineduxnphvsphakhm kh s 1757 phaokhthuksrangkhunihmodyphraecapdung kh s 1782 1819 aetemuxthungewlannaemnaidepliynthisthang thaihemuxngtdkhadcakthaelaelaimidrbkhwamsakhydngedim hlngsngkhramxngkvs phmakhrngthisxng xngkvsidphnwkemuxngphaokhinpi kh s 1852 mnthlphmaidkxtngkhunpi kh s 1862 aelaemuxnghlwngidyayipyngyangkung khwamaetktangkarxxkesiyngphudaelaaelakhaphmakhxngchuxemuxng epnsaehtukarthucrit epku khxngxngkvs pi kh s 1911 phaokhthukcdihepnswnhnungkhxngphakhphaokhinphmatxnlang sungrwmxyuinekhtyangkung sungemuxngnithukaeykxxkmaepnekhtinpi kh s 1880 miphunthi 3 023 tarangiml 7 830 tarangkiolemtr miprachakr 48 411 khninpi kh s 1901 ephimkhun 22 inthswrrsthiphanma phaokhaelahintada epnsxngekhtthimiprachakrhnaaennthisudinphumiphakh phaokhthikxtngkhunemuxpi kh s 1911 prakxbdwythirabkwangihyaephxxkipinthaelrahwangpakaemnaxirwdikbthiwekhaphaokh phumipraethsthixyurahwangthiwekhaphaokhtawnxxkaelaaemnayangkungthuktdphandwyaemnahlaysay sunghlaysaysamarthrxngiddwyeruxihyhruxeruxklif sanknganihykhxngekhtxyuthikrungyangkung sungepnsanknganihykhxngaephnkyxydwy aephnkyxyaehngthisxngmisanknganihyxyuthixinesn epnthitngsanknganthangrthifkhnadihy karephaaplukekuxbthnghmdcakdxyuaekhkhaw aetkmiswnphkaelaphlimdasdun phaokhidrbkhwamesiyhayrunaerngrahwangaephndinihwineduxnphvsphakhmaelathnwakhm kh s 1930 aephndinihwineduxnphvsphakhmkhrachiwitphukhnipxyangnxy 500 ray aelakxihekidsunami prawtisastrsmyihm pccubnphaokhepnhnunginekhtpkkhrxngphakhphaokh odyphakhphaokhaebngxxkepn 34 ekhtpkkhrxng inwnthi 9 emsayn kh s 2021 rahwangkarprathwnginpraethsphma idekidkarsngharhmuthiphaokh sunginrahwangnnkxngkalngthharsngharphleruxnxyangnxy 82 ray hlngkarprabpramkarprathwngsylksnkhxngemuxngecdiychewmxdx hnunginsylksnkhxngemuxngphaokh sylksnepnruphngskhu mitanankhxngchawmxyelawa phraphuththecaesdcmathungemuxnghngsawdithismykxnyngkhngepnchayhadrimthael phraphuththecathrngehnhngssxngtwwaynaelnkn cungthanayxxkmawaphayhlngcaepnemuxngthiecriyrungeruxng chawmxycungthuxexatananeruxngnimaepnstwsylksnkhxngemuxng nxkcaknitananyngklawwahngskhunntwemiykhitwphu cungmikhathanaywatxipphuhyingcaepnihy sungphuhyingkhnnnkhux phranangechngsxbu kstriykhxngchawmxynnexng xikhnungsylksnkhxnghngsawdi khux ecdiychewmxdx hruxthikhnithyniymeriykwa phrathatumueta epnphrathatuthixyukhukbemuxngmanan epnphrathatuskdisiththithiechuxwaphayinidbrrcuphrabrmsaririkthatukhxngphraphuththecaiw elaknwaemuxkhrngidthiphraecabuerngnxngcaxxkthasukcathrngskkarakhxphrcakphrathatunithukkhrng aelaemuxkhrngsmedcphranerswrmharachidesdcmayngthihngsawdinikidthakarskkaraphrathatunidwy pccubn phaokhepnemuxngthitharayidihaekpraethsphmadwykhwamthiepnemuxngthxngethiyw mikhwamsakhythangprawtisastraelasilpwthnthrrmprachakrkarsarwcsamaonprachakrkhxngphma kh s 2014 phaokhmiprachakr 23 7619 khn khidepn 48 35 khxngprachakrthnghmdin inpi kh s 2019 emuxngnimiprachakr 179 505 khn tamkarpramankhxngkrmkarpkkhrxngphma 88 73 khxngemuxngkhuxchawphma aelamiprachakrsakhykhuxchawkaehriyng mxy pahlxng aelaphmaechuxsayxinediy phunbthuxsasnaphuthth khidepn 94 2 khxngemuxng aelasasnakhristmiprachakrmakepnxndbsxngthi 4 2 mixaram 749 aehng sankaemchi 92 aehng aelaecdiykhnadtang 134 xngkh rwmthungecdiythisungthisudinphma ecdiychewmxdx emuxngniyngmiobsth 9 aehng msyid 6 aehng wdhindu 16 aehng aelawdmhayankhxngcin 3 aehngesrsthkicaelakhmnakhmxutsahkrrmhlkkhxngemuxngphaokhkhuxkarcangnganinphakhekstrkrrmaelakarbrikar emuxngphaokhmiekhtxutsahkrrmthimiorngnganhlayaehng sungswnihyepnorngngansingthxaelarxngetha orngngankhnadelkphayinemuxngyngsrangphlitphnthxahar phlastik ekhruxngichiffa ekhruxngyntr phlitphnthcakim cha aelaaehlwx phaokhyngmixutsahkrrmkarthxngethiywelk thiidrbkhwamniym odyminkthxngethiywcanwnmakcakyangkungthixyuiklekhiyng khnakrrmkarphthnaphaokhbriharcdkartlad 11 aehngthwemuxng immisnambinphayinemuxngaelaodyswnihyichbrikarcakthaxakasyannanachatiyangkung mikaresnxsrang sungihbrikarinekhtyangkungaelaphaokh tngxyuinxaephxphaokh mithangrthifsxngsaythiwingphanphaokh khuxsayyangkung mnthaely aela sayyangkung mxlamiyn phaokhyngmisthanikhnsnghlayaehnginekhtchanemuxng sungmirthodysarrahwangemuxngihbrikarepnpraca phaokhyngmibrikarthangdwnyangkung mnthaely echnediywkbthanghlwngsayekathiipyngtxngxuaelamarid phaokhmisaphanhlkecdaehngthikhamaemnaphaokhthnginaelarxbemuxngphumixakasphaokhmiphumixakasaebbmrsumekhtrxn ekhiphephin Am khlaykbphunthichayfngthaelswnihykhxngpraethsphma odymivdurxnaelavduaelng tngaetklangeduxnphvscikaynthungklangeduxnemsayn aelarxnchunmak mifntkchukinvdufn tngaeteduxnphvsphakhmthungtulakhm khxmulphumixakaskhxngphaokh kh s 1991 2020 eduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudechliy C F 31 7 89 1 34 0 93 2 36 3 97 3 37 9 100 2 34 6 94 3 30 9 87 6 30 1 86 2 30 0 86 31 1 88 32 6 90 7 32 7 90 9 31 5 88 7 32 8 91 xunhphumiechliyaetlawn C F 24 0 75 2 25 8 78 4 28 5 83 3 30 6 87 1 29 1 84 4 26 9 80 4 26 5 79 7 26 5 79 7 27 1 80 8 27 8 82 26 9 80 4 24 5 76 1 27 81 xunhphumitasudechliy C F 16 3 61 3 17 6 63 7 20 7 69 3 23 3 73 9 23 6 74 5 23 0 73 4 22 9 73 2 22 9 73 2 23 1 73 6 23 1 73 6 21 2 70 2 17 6 63 7 21 3 70 3 hyadnafa mm niw 5 0 0 197 3 1 0 122 15 2 0 598 38 5 1 516 333 9 13 146 640 5 25 217 803 4 31 63 720 9 28 382 475 3 18 713 188 0 7 402 50 2 1 976 7 5 0 295 3 281 5 129 193 wnthimihyadnafaodyechliy 1 0 mm 0 8 0 3 1 1 2 2 15 2 26 3 28 3 28 0 22 7 12 4 3 2 0 5 140 8aehlngthima xangxingMyanmar Information Management Unit December 19 2019 Bago Myone Daethasaingyarachatlatmya ပ ခ မ နယ ဒ သဆ င ရ အခ က လက မ Bago Township Regional Information PDF Report MIMU subkhnemux February 7 2024 prakassanknganrachbnthityspha eruxng kahndchuxpraeths dinaedn ekhtkarpkkhrxng aelaemuxnghlwng PDF rachkiccanuebksa 139 phiess 205 ng 1 knyayn 2565 Burma Translation Society 1947 Myanma Swesone Kyan မ န မ စ ယ စ က မ Burmese Encyclopedia Vol 6 London BStephen Austin amp Sons Aung Thwin 2017 p 332 2000 1935 The Cōlas Madras University of Madras Majumdar R C 1937 Ancient Indian Colonies in the Far East Vol 2 Suvarnadvipa Dacca Ashok Kumar Majumdar pp 212 218 Chatterji Bijan Raj 1939 Jayavarman VII 1181 1201 A D The last of the great monarchs of Cambodia Proceedings of the Indian History Congress 3 377 385 JSTOR 44252387 Luis Filipe Tomas 1976 A viagem de Antonio Correia a Pegu em 1519 PDF phasaoprtueks Junta de Investigacoes do Ultramar Malekandathil Pius M C 2010 10 26 Origin and Growth of Luso Indian Community in Portuguese Cochin and the maritime trade of India 1500 6663 PDF Pondicherry University Harvey G E 1925 History of Burma From the Earliest Times to 10 March 1824 London Frank Cass amp Co Ltd p 153 157 171 U 1724 phasaBurmese Vol 1 3 2006 4th printing ed Yangon Ya Pyei Publishing a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint unrecognized language lingk Casale Giancarlo 2010 The Ottoman Age of Exploration Oxford University Press doi 10 1093 acprof oso 9780195377828 001 0001 ISBN 978 0 19 537782 8 Prince Damrong Rajanubhab 2001 Our Wars with the Burmese Bangkok White Lotus ISBN 974 7534 58 4 British Museum collection praoykhhruxswnkhxngbthkhwamkxnhnani prakxbdwykhxkhwamcaksingphimphsungpccubnepnsatharnsmbti Chisholm Hugh b k 1911 Hanthawaddy saranukrmbritanika kh s 1911 Vol 12 11 ed sankphimphmhawithyalyekhmbridc p 932 On This Day The 1930 Earthquake Which Flattened Bago The Irrawaddy phasaxngkvsaebbxemrikn 2019 05 05 subkhnemux 2020 10 14 Bago Township Report PDF 2014 Myanmar Population and Housing Census October 2017 Myanmar coup Dozens killed in military crackdown in Bago BBC News phasaxngkvsaebbbritich 2021 04 10 subkhnemux 2021 04 11 Oversea Major Project SUNJIN Engineering amp Architecture subkhnemux 23 June 2012 lingkesiy World Meteorological Organization Climate Normals for 1991 2020 World Meteorological Organization subkhnemux 16 October 2023 brrnanukrmAung Thwin Michael A 2005 The Mists of Ramanna The Legend that was Lower Burma illustrated ed Honolulu University of Hawai i Press ISBN 9780824828868 Aung Thwin Michael A 2017 Myanmar in the Fifteenth Century Honolulu University of Hawai i Press ISBN 978 0 8248 6783 6 Nyein Maung b k 1972 1998 Shay haung Myanma Kyauksa mya Ancient Burmese Stone Inscriptions phasaphma Vol 1 5 Yangon Archaeological Department Pan Hla Nai 1968 Razadarit Ayedawbon phasaphma 8th printing 2005 ed Yangon Armanthit Sarpay 1873 The History of Pegu Journal of the Asiatic Society of Bengal Calcutta 42 23 57 120 159 1883 History of Burma 1967 ed London Susil Gupta Schmidt P W 1906 Slapat des Ragawan der Konigsgeschichte Die athiopischen Handschriften der K K Hofbibliothek zu Wien phasaeyxrmn Vienna Alfred Holder 151 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phaokh International Dictionary of Historic Places Asia and Oceaniakxnhna phaokh thdipodnwun emuxnghlwngxanackrhngsawdi kh s 1369 mkrakhm kh s 1539 sinsudtxngxu xanackrtxngxu mkrakhm kh s 1539 30 emsayn kh s 1550 xngwaphaokh emuxnghlwngxanackrhngsawdi mithunayn kh s 1550 12 minakhm kh s 1552 sinsudtxngxu xanackrtxngxu 12 minakhm kh s 1552 19 thnwakhm kh s 1599 xngwaxngwa xanackrtxngxu 14 phvsphakhm kh s 1613 25 mkrakhm kh s 1635 xngwasthapna emuxnghlwngxanackrhngsawdiihm phvscikayn kh s 1740 6 phvsphakhm kh s 1757 sinsud 17 20 N 96 29 E 17 333 N 96 483 E 17 333 96 483