พระยาอู่ (มอญ: ဗညာဥူ; พม่า: ဗညားဦး; อักษรโรมัน: Binnya U; ค.ศ. 1323–1384) พระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าช้างเผือก (พม่า: ဆင်ဖြူရှင်; อักษรโรมัน: Hsinbyushin) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรหงสาวดีตั้งแต่ ค.ศ. 1348 ถึง ค.ศ. 1384 รัชกาลของพระองค์มีความวุ่นวายภายในและภายนอก เช่น จากกบฏ และการรุกรานจากล้านนา ซึ่งพระองค์ทรงผ่านมาได้ด้วยดีจนถึง ค.ศ. 1364 นับแต่นั้นเป็นต้นมา ขอบอำนาจของพระองค์กินพื้นที่เพียงภูมิภาคหงสาวดี แต่ก็เป็นพื้นที่ที่สำคัญที่สุดในทางยุทธศาสตร์ในบรรดาภูมิภาคทั้งสามของอาณาจักร นอกจากนี้ พระองค์ยังประชวรบ่อยครั้ง ทำให้ทรงอาศัยพระพี่นาง คือ พระมหาเทวี (Maha Dewi) ว่าราชการแทนเป็นนิจ ครั้น ค.ศ. 1383 พระองค์ทรงมอบหมายพระราชอำนาจทั้งปวงให้แก่พระมหาเทวีอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระราชโอรสพระองค์โต คือ พระยาน้อย (Binnya Nwe) ทรงเป็นกบฏ แต่เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พระยาน้อยก็สืบราชสมบัติต่อมาเป็นพระเจ้าราชาธิราช (Razadarit)
พระยาอู่ ဗညာဥူ | |
---|---|
กษัตริย์แห่งเมาะตะมะ–หงสาวดี | |
ครองราชย์ | ค.ศ. 1348 – 2 มกราคม ค.ศ. 1384 |
ก่อนหน้า | พระยาอายลาว |
ต่อไป | พระเจ้าราชาธิราช |
มุขมนตรี | แพรจอ (1348–1369) สมิงชีพราย (1370s–1384) |
ประสูติ | ป. พฤศจิกายน ค.ศ.1323 ป. เดือนนะดอ จ.ศ. 685 เมาะตะมะ อาณาจักรเมาะตะมะ |
สวรรคต | 2 มกราคม ค.ศ. 1384 (60 พรรษา) วันเสาร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือนตะโปแตฺว จ.ศ. 745 พะโค หงสาวดี (อาณาจักรหงสาวดี) |
ชายา | นางจันทะมังคะละที่ 2 นางอำเตียว นางมหาจันทเทวี พระนางสิริมายาเทวี |
พระราชบุตร รายละเอียด | ตะละแม่ศรี พระเจ้าราชาธิราช ตะละแม่ท้าว พ่อขวัญเมือง |
ราชวงศ์ | พระเจ้าฟ้ารั่ว |
พระราชบิดา | พระเจ้ารามมะไตย |
พระราชมารดา | นางจันทะมังคะละ |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
ในหน้าประวัติศาสตร์พม่า พระยาอู่ทรงเป็นที่จดจำในฐานะที่เป็นพระบิดาของพระเจ้าราชาธิราช ส่วนมรดกตกทอดจากรัชกาลของพระองค์ คือ การที่เมืองหงสาวดีสามารถตั้งตัวเป็นศูนย์อำนาจแห่งใหม่ในเขตพม่าตอนล่างแทนเมาะตะมะ และอยู่ในสถานะนั้นต่อไปจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16
ต้นพระชนม์
พระยาอู่ประสูติเมื่อราวปลาย ค.ศ. 1323 เป็นพระโอรสพระองค์เดียวของพระยารามมะไตย (Binnya Ran De) พระมหากษัตริย์แห่งหงสาวดีซึ่งตั้งเมืองหลวงอยู่เมาะตะมะ กับพระนางจันทะมังคละ (Sanda Min Hla) ผู้เป็นพระมเหสี พระยาอู่มีพระพี่นางสองพระองค์ คือ เม้ยเน (Mwei Ne) ซึ่งสิ้นพระชนม์แต่ยังเยาว์ กับเม้ยนะ (Mwei Na) ซึ่งภายหลังได้พระนามใหม่ว่า พระมหาเทวี นอกจากนี้ พระยาอู่มีพระอนุชาสองพระองค์ซึ่งร่วมพระบิดากัน คือ มิฉาน (Mi Ma-Hsan) กับมังลังกา (Min Linka)
ด้วยสถานะดังกล่าว พระยาอู่จึงเป็นที่คาดหมายว่า จะได้สืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา แต่เมื่อพระบิดาถูกปลงพระชนม์ใน ค.ศ. 1330 พระมารดา คือ พระนางจันทะมังคละ ก็ทรงยึดอำนาจและตั้งพระเชษฐาของพระนางเอง คือ พระยาอายลาว (Binnya E Law) ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และตั้งตนเองเป็นพระมเหสีของพระเชษฐา เพื่อจะได้อยู่ในอำนาจต่อไป ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองเรื่องผู้ใดจะสืบราชสมบัติต่อจากพระยาอายลาว ระหว่างพระยาอายลอง (Binnya E Laung) พระโอรสของพระยาอายลาว กับพระยาอู่ พระโอรสของพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน ความตึงเครียดดังกล่าวยิ่งทวีขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1340 เมื่อพระพลานามัยของพระยาอายลาวทรุดโทรมลงตามลำดับ จนที่สุดแล้ว พระยาอายลองกับพระยาอู่ก็กระทำยุทธหัตถีกัน และพระยาอู่ทรงมีชัยเหนือพระยาอายลอง ทำให้พระยาอายลาวพิโรธและรับสั่งให้จับพระยาอู่ไปฆ่า แต่พระนางจันทะมังคละทรงห้ามไว้ พระยาอายลาวจึงทรงให้ปล่อยพระยาอู่ ไม่นานหลังจากนั้น พระยาอายลองสิ้นพระชนม์เพราะไข้ทรพิษ จึงเหลือพระยาอู่เป็นผู้มีสิทธิขึ้นสืบราชบัลลังก์แต่ผู้เดียว ครั้น ค.ศ. 1348 พระยาอายลาวสิ้นพระชนม์ พระยาอู่ขณะนั้นมีพระชนม์ 25 ชันษา จึงได้สืบราชสมบัติต่อ
เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระยาอู่มีพระนามว่า "พระเจ้าช้างเผือก" เพราะทรงครอบครองช้างเผือกหนึ่งช้าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคลแห่งความเป็นราชาในคติพม่า
เชิงอรรถ
- พงศาวดาร Razadarit Ayedawbon (Pan Hla 2005: 161) ว่า พระยาอู่สิ้นพระชนม์ในวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน Tabodwe จ.ศ. 745 (ตรงกับวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1384) พระชนม์ได้ 60 ปี แสดงว่า พระองค์ประสูติ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในช่วงวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน Tabodwe จ.ศ. 684 (ตรงกับวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1323) ถึงวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน Tabodwe จ.ศ. 685 (ตรงกับวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1324) อนึ่ง พงศาวดารนี้บอกว่า (Pan Hla 2005: 40) เมื่อพระยาอู่ประสูตินั้น พระบิดาของพระยาอู่ได้ขึ้นครองราชย์แล้ว และบอก (Pan Hla 2005: 41) อีกว่า พระบิดาขึ้นครองราชย์ในเดือน Thadingyut จ.ศ. 685 (ตรงกับช่วงวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1323 ถึงวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1323) ข้อมูลทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า พระยาอู่จะต้องประสูติ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในช่วงเดือน Thadingyut (ตรงกับเดือนกันยายน ค.ศ. 1323) จนถึงวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน Tabodwe จ.ศ. 685 (ตรงกับวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1324)
อ้างอิง
- Pan Hla 2005: 40
- Pan Hla 2005: 41–42
- Pan Hla 2005: 43
- Pan Hla 2005: 44
- Phayre 1967: 67
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrayaxu mxy ဗည ဥ phma ဗည ဦ xksrormn Binnya U kh s 1323 1384 phranamxyangepnthangkarwa phraecachangephuxk phma ဆင ဖ ရ င xksrormn Hsinbyushin epnphramhakstriyaehngxanackrhngsawditngaet kh s 1348 thung kh s 1384 rchkalkhxngphraxngkhmikhwamwunwayphayinaelaphaynxk echn cakkbt aelakarrukrancaklanna sungphraxngkhthrngphanmaiddwydicnthung kh s 1364 nbaetnnepntnma khxbxanackhxngphraxngkhkinphunthiephiyngphumiphakhhngsawdi aetkepnphunthithisakhythisudinthangyuththsastrinbrrdaphumiphakhthngsamkhxngxanackr nxkcakni phraxngkhyngprachwrbxykhrng thaihthrngxasyphraphinang khux phramhaethwi Maha Dewi warachkaraethnepnnic khrn kh s 1383 phraxngkhthrngmxbhmayphrarachxanacthngpwngihaekphramhaethwixyangepnthangkar enuxngcakphrarachoxrsphraxngkhot khux phrayanxy Binnya Nwe thrngepnkbt aetemuxphraxngkhsinphrachnmaelw phrayanxyksubrachsmbtitxmaepnphraecarachathirach Razadarit phrayaxu ဗည ဥ kstriyaehngemaatama hngsawdikhrxngrachykh s 1348 2 mkrakhm kh s 1384kxnhnaphrayaxaylawtxipphraecarachathirachmukhmntriaephrcx 1348 1369 smingchiphray 1370s 1384 prasutip phvscikayn kh s 1323 p eduxnnadx c s 685 emaatama xanackremaatamaswrrkht2 mkrakhm kh s 1384 60 phrrsa wnesar khun 10 kha eduxntaopaet w c s 745 phaokh hngsawdi xanackrhngsawdi chayanangcnthamngkhalathi 2 nangxaetiyw nangmhacnthethwi phranangsirimayaethwiphrarachbutr raylaexiydtalaaemsri phraecarachathirach talaaemthaw phxkhwyemuxngrachwngsphraecafarwphrarachbidaphraecarammaityphrarachmardanangcnthamngkhalasasnaphuththethrwath inhnaprawtisastrphma phrayaxuthrngepnthicdcainthanathiepnphrabidakhxngphraecarachathirach swnmrdktkthxdcakrchkalkhxngphraxngkh khux karthiemuxnghngsawdisamarthtngtwepnsunyxanacaehngihminekhtphmatxnlangaethnemaatama aelaxyuinsthananntxipcnthungklangkhriststwrrsthi 16tnphrachnmphrayaxuprasutiemuxrawplay kh s 1323 epnphraoxrsphraxngkhediywkhxngphrayarammaity Binnya Ran De phramhakstriyaehnghngsawdisungtngemuxnghlwngxyuemaatama kbphranangcnthamngkhla Sanda Min Hla phuepnphramehsi phrayaxumiphraphinangsxngphraxngkh khux emyen Mwei Ne sungsinphrachnmaetyngeyaw kbemyna Mwei Na sungphayhlngidphranamihmwa phramhaethwi nxkcakni phrayaxumiphraxnuchasxngphraxngkhsungrwmphrabidakn khux michan Mi Ma Hsan kbmnglngka Min Linka dwysthanadngklaw phrayaxucungepnthikhadhmaywa caidsubrachsmbtitxcakphrabida aetemuxphrabidathukplngphrachnmin kh s 1330 phramarda khux phranangcnthamngkhla kthrngyudxanacaelatngphraechsthakhxngphranangexng khux phrayaxaylaw Binnya E Law khunepnphramhakstriyphraxngkhihm aelatngtnexngepnphramehsikhxngphraechstha ephuxcaidxyuinxanactxip thaihekidkhwamtungekhriydthangkaremuxngeruxngphuidcasubrachsmbtitxcakphrayaxaylaw rahwangphrayaxaylxng Binnya E Laung phraoxrskhxngphrayaxaylaw kbphrayaxu phraoxrskhxngphramhakstriyphraxngkhkxn khwamtungekhriyddngklawyingthwikhuninchwngkhristthswrrs 1340 emuxphraphlanamykhxngphrayaxaylawthrudothrmlngtamladb cnthisudaelw phrayaxaylxngkbphrayaxukkrathayuththhtthikn aelaphrayaxuthrngmichyehnuxphrayaxaylxng thaihphrayaxaylawphiorthaelarbsngihcbphrayaxuipkha aetphranangcnthamngkhlathrnghamiw phrayaxaylawcungthrngihplxyphrayaxu imnanhlngcaknn phrayaxaylxngsinphrachnmephraaikhthrphis cungehluxphrayaxuepnphumisiththikhunsubrachbllngkaetphuediyw khrn kh s 1348 phrayaxaylawsinphrachnm phrayaxukhnannmiphrachnm 25 chnsa cungidsubrachsmbtitx emuxkhunkhrxngrachyaelw phrayaxumiphranamwa phraecachangephuxk ephraathrngkhrxbkhrxngchangephuxkhnungchang sungepnsylksnmngkhlaehngkhwamepnrachainkhtiphmaechingxrrthphngsawdar Razadarit Ayedawbon Pan Hla 2005 161 wa phrayaxusinphrachnminwnkhun 10 kha eduxn Tabodwe c s 745 trngkbwnthi 2 mkrakhm kh s 1384 phrachnmid 60 pi aesdngwa phraxngkhprasuti n ewlaidewlahnunginchwngwnkhun 11 kha eduxn Tabodwe c s 684 trngkbwnthi 17 mkrakhm kh s 1323 thungwnkhun 10 kha eduxn Tabodwe c s 685 trngkbwnthi 5 mkrakhm kh s 1324 xnung phngsawdarnibxkwa Pan Hla 2005 40 emuxphrayaxuprasutinn phrabidakhxngphrayaxuidkhunkhrxngrachyaelw aelabxk Pan Hla 2005 41 xikwa phrabidakhunkhrxngrachyineduxn Thadingyut c s 685 trngkbchwngwnthi 31 singhakhm kh s 1323 thungwnthi 28 knyayn kh s 1323 khxmulthnghmdnisrupidwa phrayaxucatxngprasuti n ewlaidewlahnunginchwngeduxn Thadingyut trngkbeduxnknyayn kh s 1323 cnthungwnkhun 10 kha eduxn Tabodwe c s 685 trngkbwnthi 5 mkrakhm kh s 1324 xangxingPan Hla 2005 40 Pan Hla 2005 41 42 Pan Hla 2005 43 Pan Hla 2005 44 Phayre 1967 67