บทความนี้ไม่มีจาก |
เมืองนาย หรือ เมืองหน่าย (ไทใหญ่: မိူင်းၼၢႆး; พม่า: မိုးနဲ) ตั้งอยู่ที่ละติจูด 20 องศา 30 ลิปดา เหนือ ลองติจูด 97 องศา 52 ลิปดาตะวันออก อยู่ในพื้นที่รัฐฉานใต้ ฝั่งตะวันตกแม่น้ำสาละวิน ใกล้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในอดีตเคยเป็นเมืองลูกของเชียงใหม่สมัยพญามังราย และอดีตเมืองหลวงของรัฐฉาน
เมืองนาย เมืองหน่าย | |
---|---|
เมือง | |
เมืองนาย ที่ตั้งเมืองนายในประเทศพม่า | |
พิกัด: 20°31′N 97°52′E / 20.517°N 97.867°E | |
ประเทศ | พม่า |
รัฐ | รัฐฉาน |
เขตเวลา | (เวลามาตรฐานพม่า) |
สมัย เจ้าเมืองอังวะซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ยกทัพมาตีเมืองนายซึ่งสมัยนั้นยังขึ้นตรงต่อเชียงใหม่ ประเทศราชของอาณาจักรอยุธยา เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไพร่พล 100,000 นายไปเมืองนายและอังวะ ระหว่างเคลื่อนทัพผ่านเมืองเชียงใหม่ พระองค์ประชวรและสวรรคต ณ เมืองแหน แขวงเมืองเชียงใหม่สมเด็จพระเอกาทศรถจึงเลิกทัพและทรงนำพระบรมศพกลับมายังอยุธยา
ประวัติศาสตร์
เมืองนายเป็นเมืองเก่าแก่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต โดยอยู่ในเขตภาคใต้ของรัฐฉาน ซึ่งได้ก่อตั้งมาเมื่อก่อน ค.ศ. 441 ในปี ค.ศ. 1319 เจ้ามังรายได้ฟื้นฟูเมืองนายและแต่งตั้งให้โอรสปกครอง เจ้าที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้ามังรายได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1566 เพราะอาณาจักรตองอูเข้ายึด ค.ศ. 1567 เป็นต้นมาเมืองนายขาดเจ้าผู้ปกครอง จึงได้อัญเชิญเจ้าเมืองสี่ป้อมาปกครอง และใน ค.ศ. 1631 ได้อัญเชิญเจ้าเมืองมีดมาปกครองสืบต่อมา ในปี ค.ศ. 1772 เมืองนายเป็นศูนย์กลางของการปกครองเมืองไตสืบต่อจากเมืองแสนหวี รายชื่อเจ้าผู้ปกครองเมืองนายที่สามารถรวบรวมได้มีดังนี้
1. เจ้าเสือเผือกฟ้า (ค.ศ. 1567–1568)
2. โอรสเจ้าเสือเผือกฟ้า 2 องค์ ปกครองร่วมกัน (ค.ศ. 1568–1585)
3. กษัตริย์พม่าได้ส่งตัวแทนมาปกครอง (ค.ศ. 1585–1631)
4. เจ้าหลาคำ (โอรสเจ้าฟ้าเมืองมีด) (ค.ศ. 1631–1675)
5. เจ้าจ๋ามคำ (โอรสเจ้าหลาคำ) (ค.ศ. 1675–1678)
6. เจ้าเสือห่ม (โอรสเจ้าจ๋ามคำ) (ค.ศ. 1678–1704)
7. เจ้าขุนอ้าน (โอรสเจ้าเสือห่ม) (ค.ศ. 1704–1728)
8. เจ้าซูวคาด (โอรสเจ้าขุนอ้าน) (ค.ศ. 1728–1746)
9. เจ้าส่วย มยาด โน (โอรสเจ้าซูวคาด) (ค.ศ. 1746–1772)
- ในยุคนี้เป็นยุคที่เมืองนาย ได้เป็นศูนย์กลางของการปกครองเมืองไต
10. เจ้าส่วย มยาด จยอ (โอรสเจ้าส่วย มยาด โน) (ค.ศ. 1772–1790)
11. เจ้าขุนส่วยหว่า (โอรสเจ้าส่วย มยาด จยอ) (ค.ศ. 1790–1811)
12. เจ้าจุ่ง (ขุนเมืองเจียงตอง) (ค.ศ. 1811–1842 )
13. เจ้าขุนหนุ่ม (โอรส เจ้าขุนจุ่ง) (ค.ศ. 1842–1868)
14. เจ้าโพ (โอ้) (โอรสเจ้าขุนหนุ่ม) (ค.ศ. 1868–1874)
15. เจ้าขุนจี่ (ส่วยจี่) (อาเจ้าขุนโอ้) (ค.ศ. 1874–1884) เจ้าขุนจี่นี้ได้ฆ่าพม่าแล้วหนีไปอยู่ที่เชียงตุง
16. ทากหลู่ (เคยเป็นพระมาก่อน มีเชื้อสายปะโอ) (ค.ศ. 1884–1888)
17. เจ้าขุนจี่ (จากเชียงตุงมาปกครองอีกครั้ง) (ค.ศ. 1888–1914)
18. เจ้าขุนจ่อจ่าม (โอรสของพี่ชายเจ้าขุนจี่) (ค.ศ. 1914–1929)
19. เจ้าจ่อโฮ (โอรสเจ้าขุนจ่อจ่าม) (ค.ศ. 1929–1948)
20. เจ้าเปี้ย (โอรสเจ้าจ่อโฮ) (ค.ศ. 1948–1959)
เจ้าเปี้ย ผู้ปกครองเมืองนาย และบรรดาเจ้าฟ้าเมืองไตทั้งหมด ได้สละอำนาจให้กับรัฐบาลสหพันธรัฐฉานเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1959
อ้างอิง
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 400 ปี ของการครองราชย์. สำนักนายกรัฐมนตรี: 2533.
- มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า, มติชน 2545
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-27. สืบค้นเมื่อ 2016-06-19.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir emuxngnay hrux emuxnghnay ithihy မ င ၼ phma မ န tngxyuthilaticud 20 xngsa 30 lipda ehnux lxngticud 97 xngsa 52 lipdatawnxxk xyuinphunthirthchanit fngtawntkaemnasalawin iklkbcnghwdaemhxngsxn inxditekhyepnemuxnglukkhxngechiyngihmsmyphyamngray aelaxditemuxnghlwngkhxngrthchanemuxngnay emuxnghnayemuxngemuxngnaythitngemuxngnayinpraethsphmaphikd 20 31 N 97 52 E 20 517 N 97 867 E 20 517 97 867praeths phmarth rthchanekhtewlaUTC 6 30 ewlamatrthanphma smy ecaemuxngxngwasungepnphraoxrskhxngphraecabuerngnxng ykthphmatiemuxngnaysungsmynnyngkhuntrngtxechiyngihm praethsrachkhxngxanackrxyuthya epnehtuihsmedcphranerswrmharachthrngykthphiphrphl 100 000 nayipemuxngnayaelaxngwa rahwangekhluxnthphphanemuxngechiyngihm phraxngkhprachwraelaswrrkht n emuxngaehn aekhwngemuxngechiyngihmsmedcphraexkathsrthcungelikthphaelathrngnaphrabrmsphklbmayngxyuthyaprawtisastremuxngnayepnemuxngekaaekecriyrungeruxngmatngaetxdit odyxyuinekhtphakhitkhxngrthchan sungidkxtngmaemuxkxn kh s 441 inpi kh s 1319 ecamngrayidfunfuemuxngnayaelaaetngtngihoxrspkkhrxng ecathisubechuxsaymacakecamngrayidsinsudlnginpi kh s 1566 ephraaxanackrtxngxuekhayud kh s 1567 epntnmaemuxngnaykhadecaphupkkhrxng cungidxyechiyecaemuxngsipxmapkkhrxng aelain kh s 1631 idxyechiyecaemuxngmidmapkkhrxngsubtxma inpi kh s 1772 emuxngnayepnsunyklangkhxngkarpkkhrxngemuxngitsubtxcakemuxngaesnhwi raychuxecaphupkkhrxngemuxngnaythisamarthrwbrwmidmidngni 1 ecaesuxephuxkfa kh s 1567 1568 2 oxrsecaesuxephuxkfa 2 xngkh pkkhrxngrwmkn kh s 1568 1585 3 kstriyphmaidsngtwaethnmapkkhrxng kh s 1585 1631 4 ecahlakha oxrsecafaemuxngmid kh s 1631 1675 5 ecacamkha oxrsecahlakha kh s 1675 1678 6 ecaesuxhm oxrsecacamkha kh s 1678 1704 7 ecakhunxan oxrsecaesuxhm kh s 1704 1728 8 ecasuwkhad oxrsecakhunxan kh s 1728 1746 9 ecaswy myad on oxrsecasuwkhad kh s 1746 1772 inyukhniepnyukhthiemuxngnay idepnsunyklangkhxngkarpkkhrxngemuxngit 10 ecaswy myad cyx oxrsecaswy myad on kh s 1772 1790 11 ecakhunswyhwa oxrsecaswy myad cyx kh s 1790 1811 12 ecacung khunemuxngeciyngtxng kh s 1811 1842 13 ecakhunhnum oxrs ecakhuncung kh s 1842 1868 14 ecaoph ox oxrsecakhunhnum kh s 1868 1874 15 ecakhunci swyci xaecakhunox kh s 1874 1884 ecakhunciniidkhaphmaaelwhniipxyuthiechiyngtung 16 thakhlu ekhyepnphramakxn miechuxsaypaox kh s 1884 1888 17 ecakhunci cakechiyngtungmapkkhrxngxikkhrng kh s 1888 1914 18 ecakhuncxcam oxrskhxngphichayecakhunci kh s 1914 1929 19 ecacxoh oxrsecakhuncxcam kh s 1929 1948 20 ecaepiy oxrsecacxoh kh s 1948 1959 ecaepiy phupkkhrxngemuxngnay aelabrrdaecafaemuxngitthnghmd idslaxanacihkbrthbalshphnthrthchanemuxwnthi 25 emsayn kh s 1959xangxingsmedcphranerswrmharach 400 pi khxngkarkhrxngrachy sanknaykrthmntri 2533 mharachwngsphngsawdarphma mtichn 2545 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 27 subkhnemux 2016 06 19 bthkhwamekiywkbsthanthiinpraethsphmaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk