วัดคุ้งตะเภา เป็นวัดโบราณในเขตการปกครองของคณะสงฆ์มหานิกาย และเป็น 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ใกล้กับจุดตัดสี่แยกคุ้งตะเภา บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลขที่ 11 (ถนนสายเอเชีย) เป็นวัดประจำตำบลคุ้งตะเภา
วัดคุ้งตะเภา | |
---|---|
ภาพจากบนลงล่าง, ซ้ายไปขวา: อนุสาวรีย์คู่บารมีกู้แผ่นดินหน้าวัดคุ้งตะเภา, ซุ้มประตูวัด, อุโบสถและศาลาการเปรียญ, พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี, ซากอิฐโบราณบริเวณค่ายพระตำหนักหาดสูง, สมุดข่อยกฎหมายพระอัยการเมืองเมืองสวางคบุรีในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา | |
ชื่อสามัญ | วัดคุ้งตะเภา |
ที่ตั้ง | 285 หมู่ที่ 4 บ้านคุ้งตะเภา ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ถนนสายเอเชีย) ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000 |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย (เถรวาท) |
พระประธาน | พระพุทธสุวรรณเภตรา |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี (หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์) |
เจ้าอาวาส | พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ |
พระจำพรรษา | 15 รูป (พรรษาปี 2554) |
เวลาทำการ | 06.30 น.–18.30 น. |
จุดสนใจ | พระพุทธรูป, พระบรมสารีริกธาตุ, พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและสวนพฤกษศาสตร์สมุนไพรวัดคุ้งตะเภา |
กิจกรรม | "เทศกาลไหว้พระปิดทองสองมหาพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์วัดคุ้งตะเภา" |
หมายเหตุ | เว็บไซด์วัดคุ้งตะเภา www.watkungtapao.thmy.com |
ส่วนหนึ่งของ |
วัดคุ้งตะเภาเป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับสถาปนาขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อปี 2313 เป็นวัดแห่งเดียวในปริมณฑลเมืองพิชัยและสวางคบุรี ที่ปรากฏหลักฐานการสถาปนาวัดในปีนั้น ตำนานเล่าสืบกันมาว่า พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายคนกลับมาตั้งครัวเรือน สร้างวัดและศาลาการเปรียญขึ้นใหม่ ณ ริมคุ้งสำเภา พร้อมทั้งตรัสเรียกชื่อวัดที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ว่า "วัดคุ้งตะเภา" ปัจจุบันทางราชการได้นำชื่อคุ้งตะเภาไปใช้ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านและชื่อตำบลคุ้งตะเภาสืบมาจนปัจจุบัน
วัดเคยเป็นที่สถิตย์ของพระครูสวางคมุนี เจ้าคณะใหญ่เมืองฝางมาตั้งแต่โบราณ อีกทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ พระพุทธสุวรรณเภตรา และ พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภาเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ 3 (สำนักปฏิบัติธรรมภายใต้การกำกับของมหาเถรสมาคม) และเป็นวัดประจำตำบลที่มีสถิติพระภิกษุสามเณรจำพรรษามากที่สุดในตำบลคุ้งตะเภา เป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนศึกษาในคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่มูลนิธิ ๒๕๐ ปี วัดคุ้งตะเภา ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ สำนักศาสนศึกษาประจำตำบล และหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลคุ้งตะเภา (อปต.) ซึ่งเป็นหน่วยอบรมฯ ที่มีผลงานดีเด่นระดับจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) เป็นเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา (จร.)
ประวัติ
การตั้งวัด
วัดคุ้งตะเภาเป็นวัดโบราณ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มสร้างมาแต่สมัยใด จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบในบริเวณวัด เช่น เศษกระเบื้องหลังคาตะขอดินเผาแกร่งแบบไม่เคลือบ เศษภาชนะกระเบื้องเคลือบสมัยราชวงศ์ชิง และเศษอิฐโบราณอายุราวพุทธศตวรรษที่ 22–23 ในบริเวณวัด สันนิษฐานว่าพื้นที่ตั้งวัดคุ้งตะเภาน่าจะเริ่มมีพระภิกษุจำพรรษามาตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา ในชั้นเอกสารมีเพียงหลักฐานสืบค้นชั้นเก่าสุดระบุว่าได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดในสมัยธนบุรี พ.ศ. 2313 อันเป็นปีที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จขึ้นมาปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง ณ เมืองสวางคบุรี พร้อมโปรดเกล้าฯ ให้จัดการการปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือใหม่ ซึ่งในคราวนั้นพระองค์ได้ประทับอยู่จัดการคณะสงฆ์หัวเมืองฝ่ายเหนือ ณ เมืองสวางคบุรี ตลอดฤดูน้ำหลาก ซึ่งวัดคุ้งตะเภาเป็นวัดเพียงแห่งเดียวในแถบย่านเมืองพิชัยและสวางคบุรี ที่ปรากฏหลักฐานการสถาปนาวัดขึ้น เมื่อคราวที่พระองค์ทรงชำระคณะสงฆ์หัวเมืองเหนือใหม่ในปีศักราชนั้น ดังปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
อย่างไรก็ตามจากหลักฐานตำนานของชื่อหมู่บ้านคุ้งตะเภา ทำให้ทราบว่าวัดคุ้งตะเภามีอายุมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หากแต่เป็นวัดที่พักสงฆ์ในชุมชนขนาดเล็ก ไม่มีศาสนสถาน จึงอาจตกสำรวจการขึ้นทะเบียนของกรมการเมืองในสมัยอยุธยา หรืออาจเป็นไปได้ว่าหลักฐานได้สูญหายไปเมื่อคราวสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองแล้ว ทำให้นามวัดเพิ่งมีในทะเบียนใน พ.ศ. 2313 พระองค์สถาปนาวัดคุ้งตะเภา และสร้างศาลาบอกมูลฯ ขึ้นในคราวเดียวกันเพื่อให้เป็นศูนย์รวมชุมชนและเป็นที่พำนักสั่งสอนของพระสงฆ์ผู้ทรงภูมิธรรมที่ทรงอาราธนานิมนต์มาจากกรุงธนบุรี เนื่องจากความสำคัญยิ่งที่วัดคุ้งตะเภาเป็นวัดในชุมชนคนไทยดั้งเดิม ที่มีที่ตั้งอยู่เหนือสุด ท้ายพระราชอาณาเขตกรุงธนบุรีในสมัยนั้น ตามสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์มาแต่โบราณ
วัดคุ้งตะเภาสร้างติดอยู่ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก เดิมชื่อ "วัดคุ้งสำเภา" (หรือโค้งสำเภา) จากตำนานที่เชื่อกันมาว่าในสมัยก่อนได้เคยมีเรือสำเภาอัปปางลงในบริเวณนี้ ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าเสา ขึ้นกับเมืองพิไชย ต่อเมื่อผ่านเวลานานมาในสมัยธนบุรี จากตำนานหมู่บ้านกล่าวว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเปลี่ยนชื่อเป็น คุ้งตะเภา
สภาพวัดในอดีต
ปรากฏหลักฐานตามประวัติกรมการศาสนาว่า ในสมัยอาณาจักรธนบุรี วัดคุ้งตะเภามีศาลาการเปรียญอยู่ริมแม่น้ำหลังหนึ่ง ใช้สำหรับบำเพ็ญกุศลสำหรับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านในย่านนี้ ต่อมาภายหลังแม่น้ำน่านเปลี่ยนทิศทางเดินออกไปไกลจากวัดมากกว่า 1 เส้น จึงเกิดแผ่นดินงอกขึ้นมาหน้าวัดซึ่งเป็นท้องน้ำเดิม ขณะเดียวกันก็มีเกาะเกิดขึ้นหน้าวัดด้วยตรงบริเวณหน้าค่ายพระยาพิชัยดาบหักปัจจุบัน
ชาวบ้านย่านตำบลนี้อาศัยศาลาวัดคุ้งตะเภาเป็นสถานที่เล่าเรียนมาโดยตลอด มีพระสงฆ์เป็นอาจารย์บอกหนังสือมูลทั้งจินดามณีและมูลบทบรรพกิจรวมไปถึงเลขคณิตต่าง ๆ วัดแห่งนี้มีความเจริญมาโดยลำดับในสมัยรัตนโกสินทร์ จนในสมัยรัชกาลที่ 5 วัดคุ้งตะเภาได้กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาและปกครองของคณะสงฆ์ในแถบนี้ โดยปรากฏหลักฐานว่า ใน พ.ศ. 2431 เจ้าอธิการจัน เจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น ได้รับพระราชทานตาลปัตรพุดตาลทองแผ่ลวด ตั้งสมณศักดิ์ในราชทินนามที่ พระครูสวางคมุนี ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่เมืองฝาง พร้อมได้รับพระราชทานพัดรองโหมด ย่ามสักลาด บาตรถุงสักลาด กาน้ำถ้วยกระโถนถ้วยร่มรองเท้า เป็นเครื่องยศประกอบตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่เมืองฝางอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2442 ปรากฏรายงานการศึกษามณฑลพิศณุโลก ได้ระบุว่า วัดคุ้งตะเภา มีพระ 8 รูป ศิษย์วัด 6 คน มีเจ้าอธิการรอดเป็นเจ้าอาวาส และผู้ใหญ่ชื่น เป็นมรรคนายก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของวัดคุ้งตะเภาในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
จนต่อมาในปี พ.ศ. 2465 มีการจัดการศึกษาใหม่ วัดคุ้งตะเภาจึงมีครูเป็นฆราวาสสอนแทน เรียกว่าโรงเรียนวัดคุ้งตะเภา แต่ยังตั้งอยู่ในศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภาดุจเดิม โดยแบ่งเป็น 4 ชั้น ตั้งแต่ประถม 1 ถึง 4 ซึ่งโรงเรียนวัดคุ้งตะเภานี้นับเป็นโรงเรียนแห่งแรกของตำบลคุ้งตะเภาและแถบย่านแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก
ในช่วงหลังมา แม่น้ำน่านในฤดูน้ำหลากได้ขึ้นกัดเซาะตลิ่งวัดพังจนเกือบถึงตัวศาลาการเปรียญ ชาวบ้านเกรงศาลาจะได้รับความเสียหาย จึงปรึกษากันย้ายศาลาการเปรียญเมื่อปี พ.ศ. 2472 อย่างไรก็ดี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แม่น้ำน่านได้เปลี่ยนทิศทางจากวัดไปมากแล้ว ทำให้วัดในช่วงหลังตั้งอยู่ไกลจากแม่น้ำ ความในพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคราวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ ทำให้ทราบว่าในสมัยนั้นหาดหน้าวัดได้งอกจากตลิ่งแม่น้ำเดิมไปมากแล้ว และคงมีสะพานไม้ทอดยาวลงไปหาแม่น้ำน่านมาก่อนหน้านั้น โดยในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2444 พระองค์ทรงสังเกตว่าวัดคุ้งตะเภาแปลกกว่าวัดอื่นตรงที่มีสะพานไม้ทอดยาวมาหาแม่น้ำน่าน ทรงมีพระบรมราชาธิบายว่า
...แลเห็นพุ่มไม้วัดแลบ้านลิบ ๆ แต่ในการที่จะมาต้อนรับนั้น ต้องมาตกแต่งซุ้มแลปรำบนหาดซึ่งไม่มีต้นไม้แต่สักต้นเดียว แดดกำลังร้อนต้องมาจากบ้านไกลเปนหนักเปนหนา วัด (คุ้งตะเภา) ที่ตั้งอยู่บนตลิ่งหลังหาดต้องทำตพานยาวนับด้วยเส้น ลงมาจนถึงหาดที่ริมน้ำ แต่ถ้าน่าแล้งเช่นนี้ ตพานนั้นก็อยู่บนที่แห้ง แลยังซ้ำห่างน้ำประมาณเส้น ๑ หรือ ๑๕ วา ถ้าจะลงเรือยังต้องลุยน้ำลงมาอีก ๑๐ วา ๑๕ วา...
ด้วยเหตุที่แม่น้ำเปลี่ยนทิศไปไกลจากวัดในภายหลัง ทำให้แม่น้ำน่านหน้าวัดกลายเป็นที่งอก แต่ก็ยังคงสภาพเป็นตลิ่งเก่าที่กลายเป็นตลิ่งลำมาบของแม่น้ำน่านในฤดูฝน มีบุ่งน้ำขังในช่วงหน้าแล้งบ้าง พระสงฆ์และชาวบ้านคุ้งตะเภาในสมัยนั้นจึงสร้างสะพานไม้ยาวต่อจากวัดลงข้ามมาลงบุ่งคุ้งตะเภาและลงไปแม่น้ำน่านเพื่อการสัญจรและอุปโภคบริโภค
สภาพวัดในปัจจุบัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 หมู่บ้านคุ้งตะเภาประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายมาก ประกอบกับเส้นทางคมนาคมโดยแม่น้ำน่านได้ถูกลดความสำคัญในฐานะเส้นทางคมนาคมค้าขายสำคัญของภูมิภาคลงมาก่อนหน้านั้นแล้ว จาการตัดเส้นทางรถไฟผ่านเมืองอุตรดิตถ์ใน พ.ศ. 2459 ทำให้ชาวบ้านคุ้งตะเภาย้ายที่ตั้งหมู่บ้านขึ้นมาตั้งในที่ดอนจนถึงปัจจุบัน
และหลังจากการตัดเส้นทางรถไฟผ่านเมืองอุตรดิตถ์ที่ทำให้แหล่งชุมนุมการค้าย่านท่าเสาและท่าอิฐหมดความสำคัญลงดังกล่าว ได้มาประกอบกับการที่ทางราชการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ปิดกั้นแม่น้ำน่านในเขตอำเภอท่าปลาในปี พ.ศ. 2510 ทำให้การคมนาคมทางน้ำของชาวบ้านคุ้งตะเภายุติลงสิ้นเชิง ชาวบ้านและพระสงฆ์จึงต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางคมนาคมทางบกเป็นหลัก โดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำน่านที่ตั้งอยู่หน้าศาลาการเปรียญหลังเก่า (หลังที่ย้ายจากริมน้ำขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2472) เป็นเส้นทางสัญจร ปัจจุบันหลังจากมีการตัดทางหลวงแผ่นดินหมายเลขที่ 11 ผ่านหลังวัดคุ้งตะเภาในประมาณปี พ.ศ. 2522 ทำให้บริเวณหน้าวัดคุ้งตะเภาที่ใช้เส้นทางสัญจรมาตั้งแต่สมัยอยุธยาต้องเปลี่ยนมาเป็นหลังวัด และพื้นที่ด้านหลังวัดในสมัยก่อนกลายมาเป็นหน้าวัดดังในปัจจุบัน
ปูชนียวัตถุ
- พระพุทธสุวรรณเภตราเป็นพระประธานในอุโบสถ
- พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประดิษฐานในหอพระ บนอาคารศาลาการเปรียญ
วัดคุ้งตะเภามีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำนวน 2 องค์ และมีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 2 องค์ ได้แก่ พระพุทธสุวรรณเภตรา (หลวงพ่อสุวรรณเภตรา) เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญ 9 องค์แห่งอุตรดิตถ์ องค์พระหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 47 นิ้ว สูง 62 นิ้ว (ตลอดถึงพระรัศมี) มีพุทธลักษณะสมัยสุโขทัย สถาปนาโดยพระครูธรรมกิจจาภิบาล อดีตพระครูเกจิในอดีต องค์พระได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปประธานในอุโบสถวัดคุ้งตะเภา และ พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี (หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์) เป็นพุทธลักษณะปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์บริสุทธิ์ หน้าตักกว้างศอกเศษ มีพุทธลักษณะงดงามตามแบบอย่างสกุลช่างสุโขทัย-เชียงแสน เดิมองค์พระถูกพอกปูนลงรักปิดทองอารักขาภัยไว้ ตัวองค์พระสำริดดังปรากฏในปัจจุบันนั้นสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยแรกก่อตั้งกรุงสุโขทัยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18
พระบรมสารีริกธาตุวัดคุ้งตะเภา
- พระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงประทานให้
- บุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสามประเทศ ณ วัดคุ้งตะเภา
- ผอบหินสบู่และองค์พระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย ที่ประดิษฐานในวัดคุ้งตะเภา
วัดคุ้งตะเภามีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ภายนอกพระมหาเจดีย์ปิด โดยได้รับมอบประทานมาจากสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระสังฆนายกจากทั้งในและต่างประเทศ ทุกส่วนล้วนมีเอกสารและหนังสือกำกับพระบรมสารีริกธาตุแสดงว่าเป็นของพระบรมสารีริกธาตุส่วนดั้งเดิมแท้ที่รักษาสืบทอดมาแต่โบราณตั้งแต่สมัยพุทธกาล ปัจจุบันสถิตย์ภายในผอบแก้วภายในพระรัตนเจดีย์แก้ว ประดิษฐานบนพระแท่นบุษบกบรมคันธกุฎีภายในรัตนกุฎีพุทธวิหาร กลางอาคารอสีติวัสสายุมงคลมหาศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภา เปิดให้ประชาชนสักการบูชาได้ทุกวัน
ส่วนที่ได้รับมาจากสมเด็จพระสังฆนายกแห่งประเทศพม่านั้น วัดได้รับมอบถวายต่อมาจากพระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, เจ้าคณะภาค 11 (นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์) ซึ่งมีจำนวน 3 พระองค์ (ปัจจุบันเสด็จเพิ่มมาอีก 1 พระองค์ รวมเป็น 4 พระองค์) เป็นพระบรมสารีริกธาตุส่วนวิปปกิณณธาตุ ซึ่งเป็นของเดิมที่รัฐบาลพม่านำโดย อูนุ นายกรัฐมนตรีคนแรก ค้นพบ
ส่วนที่ได้รับมอบประทานมาจากพระสังฆราชไทย มีจำนวน 9 พระองค์ เป็นพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่รักษาสืบมาตั้งแต่เริ่มมีการเผยแผ่ศาสนาพุทธในแผ่นดินไทย
พระบรมสารีริกธาตุจากประเทศสาธารณรัฐอินเดียเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ได้จากการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระโคตมพุทธเจ้า ณ มกุฏพันธนเจดีย์ กรุงกุสินารา แคว้นมัลละ โดยวัดคุ้งตะเภาได้รับมอบถวายจาก พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ Phrakru Paladsuvatanaputthikun (Dr.Visine Vajiravungso) ประธานสงฆ์วัดไทยสิริราชคฤห์ อำเภอนาลันทา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย
สถาปัตยกรรมสำคัญ
วัดคุ้งตะเภาปรากฏหลักฐานโบราณสถานภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบไทยกลาง
สถาปัตยกรรมไทยภาคกลาง
ศาลาการเปรียญไม้เครื่องสับโบราณ
ศาลาประธานวัดคุ้งตะเภาหลังนี้เป็นอาคารทรงโรงเครื่องสับแบบภาคกลางโบราณ จากประวัติหลักฐานการสถาปนาวัดคุ้งตะเภากล่าวว่าใน พ.ศ. 2313 ระบุว่าวัดมีศาลาการเปรียญเก่าแก่อยู่หลังหนึ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ชาวบ้านคุ้งตะเภาได้ย้ายโครงสร้างศาลาดังกล่าว มา ณ ที่ตั้งปัจจุบันในปี พ.ศ. 2472 โดยคงรูปแบบเก่าแต่ครั้งธนบุรีไว้ด้วย
ภูมิสภาปัตยกรรมมีรูปแบบศาลาโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีโครงสร้างคล้ายกับศาลาการเปรียญวัดใหญ่ท่าเสา โดยความเก่าแก่ของโครงสร้างและรูปแบบศาลาลักษณะนี้ อาจารย์พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษประจำกรมศิลปากรกล่าวว่า เป็นรูปแบบโครงอาคารศาลาการเปรียญที่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
จากที่ตั้งของตัวศาลานั้น เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ ทำให้ทราบลักษณะการอยู่อาศัยและสัญจรของคนโบราณในแถบนี้ได้ เพราะที่ตั้งของตัวศาลาวัดในสมัยก่อนนั้นมักตั้งอยู่ริมแม่น้ำ (ปัจจุบันแม่น้ำน่านได้ตื้นเขินห่างจากตลิ่งศาลาวัดไปมากกว่า 1 กิโลเมตร) เป็นหลักฐานยืนยันถึงความเป็นวัดและหมู่บ้านที่มีประวัติศาสตร์อัน ยาวนานกว่าวัดและหมู่บ้านอื่นในแถบนี้ เดิมนั้น ก่อนสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ตัวศาลาเดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน อันเป็นทางสัญจรคมนาคมในสมัยก่อน ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าศาลาในที่ตั้งเดิมนั้นสร้างในสมัยใด (คาดว่าอาจจะสร้างมาแต่ครั้งแรกตั้งวัดในสมัยอยุธยาตอนปลาย)
จากหลักฐานบ่อน้ำข้างบันไดศาลาทำให้ทราบว่าศาลาหลัง นี้ย้ายที่ตั้งขึ้นมาจากริม แนวแม่น้ำน่านเดิมบริเวณต้นโพธิ์หลังวัดมาตั้งในพื้นที่ปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2472 โดยตัวโครงศาลาประธานในปัจจุบันที่ย้ายมานี้น่าจะมีอายุเกือบร้อยปีแล้ว
ศาลาการเปรียญหลังนี้ก่อนบูรณะ เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยภาคกลาง สร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง เสาทุกต้นเป็นเสาสี่เหลี่ยม เป็นอาคารทรงโรงขนาดกลาง หลังคาประดับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ปูนปั้น หน้าบันเป็นพื้นไม้เรียบ เดิมเปิดโล่งทั้งสี่ด้าน มีชายยื่นออกมารับทางขึ้นศาลาทางทิศเหนือ อักษรข้างบันไดศาลาระบุว่าสร้างในปี พ.ศ. 2483
ศาลาหลังนี้ใช้เป็นอาคารสำหรับบำเพ็ญกุศลหลักของวัด มีการบูรณะและต่อเติมจากตัวโครงศาลาเดิมมาเป็นระยะ ต่อมาได้มีการต่อเติมปิดทึบเฉพาะด้านหอพระ ห้องเก็บของของโรงครัวด้านทิศตะวันออกและตะวันตกบางส่วน และมีการสร้างบันไดใหม่ทางด้านทิศตะวันตกหลังจากมีการสร้างถนนสายเอเชีย ในยุคหลัง พ.ศ. 2500
ในปลายปี พ.ศ. 2549 ทางวัดคุ้งตะเภาได้ทำการบูรณะและต่อเติมศาลาการเปรียญครั้งใหญ่ (ปัจจุบันยังคงทำการบูรณะต่อเติมอยู่) มีการรื้ออาคารประกอบทั้งหมดออก โดยยังคงรักษาโครงไม้ตัวศาลาประธานเดิมไว้อยู่ ซึ่งหลังบูรณะเสร็จ หากมองจากภายนอกศาลาจะไม่สามารถเห็นตัวหลังคาศาลาเดิมได้อีกต่อไป เพราะการบูรณะนั้นมีการเสริมมุขและสร้างอาคารประกอบปิดรอบตัวศาลาประธานทั้งสี่ด้าน
สถาปัตยกรรมล้านนา
ซุ้มประตูโขงวัดคุ้งตะเภา
ซุ้มประตูวัดคุ้งตะเภา ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดริมทางแยกคุ้งตะเภา (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 หรือ ถนนสายเอเชีย) ลักษณะซุ้มเป็นซุ้มประตูทรงไทยประยุกต์ศิลปะล้านนาขนาดใหญ่ ออกแบบโดยสล่าเมืองเหนือ ประยุกต์จากรูปแบบเจดีย์ล้านนาผสมรูปแบบซุ้มประตูโขงแบบล้านนา บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 3 องค์บนองค์เจดีย์บนยอดซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ซุ้มจรนัมทั้ง 4 ด้าน ประดับเสาและตัวซุ้มด้วยลวดลายปูนปั้นสัตว์หิมพานต์และลายเครือเถาศิลปะล้าน นาสวยงาม โครงซุ้มประตูทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งซุ้ม ฐานเสาเข็มเทปูนแท่งเสริมเหล็กลึก 5 เมตร ขนาดกว้าง 5 เมตร สูง 19 เมตร ซุ้มประตูนี้สร้างแล้วเสร็จบริบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2545
พระธรรมเจดีย์
วัดคุ้งตะเภามีเจดีย์ก่ออิฐถือปูนเก่าแก่อยู่องค์หนึ่ง มีสัณฐานแบบเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองประยุกต์ องค์เจดีย์มีซุ้มจรนัมทั้ง 4 ทิศ ยอดปล้องไฉนนพศูรย์ ล้วนทำด้วยปูนปั้นทั้งสิ้น สัณฐานสูง 3 เมตรโดยประมาณ ซุ้มจรนัมเจาะช่องเล็ก ๆ สำหรับไว้ช้างไม้และเครื่องบูชาปิดหน้าซุ้มด้วยแผ่นกระจก ปัจจุบันคงเหลือสมบูรณ์เพียงด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ บริเวณคอองค์เจดีย์มีกรอบอักษรทำด้วยปูนมีอักษรจารึกว่า "เดือนมิถุนายน ๒๔๙๓ นายบุตร นางไฝ ก่อพระธรรมเจดีย์อุทิศให้เจ้าอธิการกอง"
เจดีย์นี้ชาวบ้านคุ้งตะเภาคนรุ่นก่อนเรียกว่าพระธรรมเจดีย์ หรือธรรมเจดีย์ ไว้สำหรับบรรจุใบลานธรรมสำหรับบูชา ผู้ที่ยังทันมาเห็นขณะสร้างเจดีย์กล่าวว่าผู้สร้างเจาะช่องบริเวณองค์เจดีย์ สำหรับไว้บรรจุพระธรรมใบลาน ปัจจุบันคาดว่าใบลานคงเปื่อยยุ่ยหมดแล้ว เนื่องจากความชำรุดและความชื้นขององค์เจดีย์
นอกจากนี้บริเวณทิศตะวันออกของพระธรรมเจดีย์ยังมีผู้มาสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิบรรพบุรุษด้วยโดยลอกแบบพระธรรมเจดีย์ไปสร้าง โดยเรียงจากทิศเหนือไปทิศใต้ ท่านเล่าว่าเจดีย์องค์แรกเป็นเจดีย์รวมสำหรับบรรจุอัฐิของบรรพบุรุษชาวบ้านคุ้งตะเภา โดยเคยมีซุ้มไม้กระดานเล็ก ๆ เขียนไล่สายบรรพบุรุษบ้านคุ้งตะเภาอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ได้สูญหายไปหมดแล้ว
สถาปัตยกรรมแบบผสม
อุโบสถวัดคุ้งตะเภา
อุโบสถวัดคุ้งตะเภา เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2492 และสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2498 อาคารอุโบสถนี้เป็นอาคารปูนหลังแรกของหมู่บ้านคุ้งตะเภา สถาปัตยกรรมเดิมเป็นรูปแบบอุโบสถทรงไทยประยุกต์ช่างฝีมือพื้นบ้าน ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานมีนามว่า "พระพุทธสุวรรณเภตรา" ผู้ดำริให้จัดสร้างคือ พระครูธรรมกิจจาภิบาล (กลม สุวณฺโณ) อธิบดีสงฆ์วัดดอยท่าเสา และเกจิอาจารย์รูปสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ในสมัยนั้น
อุโบสถหลังนี้ได้รับการบูรณะใหญ่ใน ปี พ.ศ. 2537 โดยดำริของพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน) โดยทำการบูรณะเสร็จในปี พ.ศ. 2539 มีการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมไปจากเดิมมาก โดยการบูรณะครั้งหลังสุด ได้มีการก่อสร้างเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมทั้งไทยกลางและล้านนา เพื่อแสดงให้เห็นถึงบริบทวัฒนธรรมของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่เป็นแหล่งศูนย์รวมของกลุ่มชาติพันธ์ไทที่หลากหลาย ทั้งไทยและล้านนาที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
อาคารศาลาการเปรียญเฉลิมพระเกียรติ
"อาคารศาลาการเปรียญเฉลิมพระเกียรติ" หรือ "อาคารเฉลิมพระเกียรติอสีติวัสสายุมงคล" เป็นโครงการก่อสร้างอาคารใหม่ล้อมรอบศาลาการเปรียญทรงโรงไม้เครื่องสับโบราณของวัด บนพื้นที่ตั้งรอบศาลาการเปรียญหลังเก่า โดยอาคารใหม่ได้เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2550 เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ ผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งสมัยโบราณและใหม่ มีซุ้มหน้าบันปูนปั้น พื้นปูด้วยไม้เนื้อแข็งทั้งอาคาร นับเป็นอาคารศาลาการเปรียญปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์
ปัจจุบันโครงการในส่วนอาคารคืบหน้าไปได้ร้อยละ 90 (พ.ศ. 2553) เมื่อโครงการนี้เสร็จสิ้น จะสามารถรองรับประชาชนได้ถึง 1,500 คน และพื้นที่ในอาคารจะถูกใช้เป็นสำนักงานวัดคุ้งตะเภา, ศูนย์สารสนเทศ, สำนักงานสำนักศาสนศึกษาวัดคุ้งตะเภา, หอสุวรรณเภตรามหาสังฆสมาคม (ห้องประชุมสงฆ์ปรับอากาศ), หอสังฆกิตติคุณาณุสรณ์, หอสมุดวัดคุ้งตะเภา และห้องพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดคุ้งตะเภา
สถาปัตยกรรมร่วมสมัย
หมู่กุฎิไม้วัดคุ้งตะเภา
หมู่กุฎิไม้วัดคุ้งตะเภา สร้างขึ้นในที่ตั้งปัจจุบันในช่วง พ.ศ. 2500 โดยย้ายมาจากที่ตั้งเดิมบริเวณหลังวัดริมแม่น้ำน่านเก่า เพื่อปรับทิศทางให้ต้องตามหลักทักษาวัดโบราณ หลังการสร้างอุโบสถของวัดในปี พ.ศ. 2498 เป็นอาคารกลุ่มกุฎิสงฆ์หลังคาทรงปั้นหยาไม้เนื้อแข็ง 2 ชั้น ที่ได้รับอิทธิพลต่อเนื่องมาจากยุคเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างสถาปัตยกรรมบ้านในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่มีการสร้างชานนั่งลดระดับแบบอาคารบ้านทรงไทยโบราณ ซึ่งเคยเป็นรูปแบบหมู่กุฎิสงฆ์ฝาไม้ประกนแบบภาคกลางโบราณอายุนับร้อยปีของวัดที่ถูกรื้อทิ้งเพราะความทรุดโทรม
หมู่กุฎิสงฆ์วัดคุ้งตะเภาเก่า มีการต่อเติมและสร้างมาโดยตลอด โดยอาคารหลังแรกคือกุฎิเก่าที่สร้างโดยกำนันหลง ฟักสด และมีการก่อสร้างหอสวดมนต์ และกุฎิเจ้าอาวาส มาตามลำดับ ทุกอาคารมีทางเดิมเชื่อมถึงกันหมด ทุกอาคารยังคงอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี ปัจจุบันกุฎิเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภายังได้เป็นที่ตั้งของตู้จัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภาอีกด้วย
อาณาเขตที่ตั้งวัด
วัดคุ้งตะเภาได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อ พ.ศ. 2313 ไม่มีหลักฐานระบุว่ามีพื้นที่วัดเท่าใด สันนิษฐานว่าพื้นที่ตั้งวัดเก่าอยู่ติดริมแม่น้ำน่าเก่า ปัจจุบันตัววัดที่จำพรรษาของพระสงฆ์ตั้งอยู่บนพื้นที่ดอน ห่างจากริมแม่น้ำน่านเก่าประมาณ 20 เมตร
เขตติจีวราวิปวาส
ปัจจุบันตัววัดตั้งอยู่บนพื้นที่ดอน ห่างจากริมแม่น้ำน่านเก่าประมาณ 20 เมตร มีอาณาเขตสมมุติติจีวราวิปวาส หรือเขตที่ตั้งภายในกำแพงวัด เนื้อที่ 10 ไร่เศษ เมื่อรวมกับพื้นที่อาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ตั้งวัดด้านศาลาหลังเก่านอกกำแพงทางทิศเหนือลงไปพื้นที่ท้องแม่น้ำน่านโบราณ จะมีพื้นที่กรรมสิทธิ์รวม 14 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา เป็นพื้นที่หลักของวัด สำหรับพระสงฆ์สามเณรจำพรรษาและเป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรมและกิจกรรมทางศาสนาของพระสงฆ์และชาวบ้าน
เขตติจีวราวิปวาสวัดคุ้งตะเภา มีอุโบสถเป็นจุดศูนย์กลาง มีพื้นที่ติดต่อกับที่ดินข้างเคียง ดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ จดกับที่ดินมีกรรมสิทธิ์ของชาวบ้าน (เดิมติดแม่น้ำน่านเก่า) มีกำแพงวัดกั้นเป็นเขต
- ทิศใต้ จดกับที่ดินมีกรรมสิทธิ์ของชาวบ้าน มีกำแพงวัดกั้นเป็นเขต
- ทิศตะวันออก จดกับทางสาธารณประโยชน์ มีกำแพงวัดกั้นเป็นเขต
- ทิศตะวันตก จดแม่น้ำน่าน ตรงข้ามค่ายพิชัยดาบหัก มทบ.๓๕
เขตวิสุงคามสีมา
วัดคุ้งตะเภาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา หรือพื้นที่ตั้งสำหรับทำอุโบสถสังฆกรรม เมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2490 เนื้อที่กว้าง 10 เมตร ยาว 29 เมตร มีเนื้อที่กว้าง 10 เมตร ยาว 29 เมตร ตั้งอยู่ภายในเขตติจีวราวิปวาสของวัด
ตัวอาคารที่ตั้งบนวิสุงคามสีมาหรืออุโบสถนั้น เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2492 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2498 โดยอาคารอุโบสถนี้เป็นอาคารปูนหลังแรกของหมู่บ้านคุ้งตะเภา ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานมีนามว่า "พระพุทธสุวรรณเภตรา" ผู้ดำริให้จัดสร้างคือ พระครูธรรมกิจจาภิบาล (กลม สุวณฺโณ) อธิบดีสงฆ์วัดดอยท่าเสา และเกจิอาจารย์รูปสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ในสมัยนั้น
อุโบสถหลังนี้ได้รับการบูรณะใหญ่ใน ปี พ.ศ. 2537 โดยดำริของพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน) โดยทำการบูรณะเสร็จในปี 2539 ใช้เงินบูรณะจำนวน 1.6 ล้านบาท
ที่ธรณีสงฆ์
วัดคุ้งตะเภามีที่ธรณีสงฆ์เป็นกรรมสิทธิ์จำนวน 2 แปลง ธรณีสงฆ์แปลงที่หนึ่ง มีเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 58 ตารางวา (โฉนดที่ดิน เลขที่ 5014 เล่ม 51 หน้า 14) และที่ธรณีสงฆ์แปลงที่สอง มีเนื้อที่ - ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา (โฉนดที่ดิน เลขที่ 76233 เล่ม 763 หน้า 33) ที่ธรณีสงฆ์ทั้งสองแปลง ตั้งอยู่ห่างจากตัววัดคุ้งตะเภาประมาณ 100 เมตรไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พื้นที่ธรณีสงฆ์นี้ เดิมเป็นพื้นที่สุสานของหมู่คุ้งตะเภาที่มีการกันเขตแน่นอน ต่อมาในประมาณปี พ.ศ. 2510 ชาวบ้านจึงได้ยกที่ธรณีสงฆ์นี้เป็นพื้นที่ฌาปนสถานวัดคุ้งตะเภา สำหรับใช้ประโยชน์หลักในการตั้งเมรุและศาลาธรรมสังเวช ต่อมาช่วงปี พ.ศ. 2539 มีการแบ่งพื้นที่ด้านติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 สำหรับตั้งร้านค้าชุมชน ธนาคารหมู่บ้าน ที่ธรณีสงฆ์วัดคุ้งตะเภา ปัจจุบันตั้งอยู่ติด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) ขาขึ้น มีซุ้มประตูวัดคุ้งตะเภาเป็นจุดสังเกต
พระภิกษุสงฆ์สามเณรในสังกัด
ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภามีจำนวนพระภิกษุสามเณรจำพรรษาในพรรษากาลพ.ศ. 2553 ตามทะเบียนวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนา รวมทั้งสิ้น 68 รูป แบ่งเป็นพระสังฆาธิการ 2 รูป และพระลูกวัดในสังกัดวัดคุ้งตะเภาตามพฤตินัยและตามทะเบียนสุทธิสงฆ์อีก 15 รูป โดยเป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร 1 รูป, พระฐานานุกรม 1 รูป, พระเปรียญ 1 รูป, สามเณรเปรียญ 1 รูป, พระวิปัสสนาจารย์ 3 รูป ในจำนวนนี้เป็นพระกรรมวาจาจารย์จำนวน 5 รูป, ครูสอนพระปริยัติธรรม 8 รูป, ครูสอนศีลธรรมในโรงเรียนในสังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3 รูป และครูสอนศีลธรรมในโรงเรียนในสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยจำนวน 7 รูป จบนักธรรมชั้นเอกจำนวน 9 รูป, นักธรรมชั้นโท 2 รูป และนักธรรมชั้นตรี 2 รูป มีพระนักศึกษาในระดับนักธรรมชั้นตรีจำนวน 5 รูป สามเณรนักเรียนที่เข้าสอบนักธรรมชั้นตรีในสังกัดวัดคุ้งตะเภา 52 รูป นักธรรมชั้นโท จำนวน 2 รูป และนักธรรมชั้นเอกจำนวน 2 รูป มีพระสงฆ์ที่สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญารวมทั้งที่กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาบัณฑิต (ปริญญาตรี) และปริญญามหาบัณฑิต (ปริญญาโท) ทั้งสิ้น 7 รูป
ลำดับเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา
แม้วัดคุ้งตะเภาจะมีอายุมากกว่าสองร้อยปี แต่เนื่องจากไม่ปรากฏว่ามีการบันทึกหลักฐานลำดับเจ้าอาวาสไว้ ทำให้ไม่สามารถพบรายชื่อลำดับเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาตั้งแต่แรกสร้างวัด อย่างไรก็ดีในปี พ.ศ. 2535 มีการจัดทำบัญชีลำดับเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา โดยอาศัยคำบอกเล่าจากคนรุ่นเก่าในหมู่บ้านที่ยังจำได้ สามารถสืบได้ 11 ลำดับด้วยกัน โดยไม่สามารถสันนิษฐานช่วงระยะเวลาดำรงตำแหน่งของเจ้าอาวาสแต่ละรูปได้ชัดเจน
ลำดับเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาเท่าที่สามารถสืบค้นได้มีดังต่อไปนี้ (ประมาณ พ.ศ. 2450 ถึง ปัจจุบัน)
ลำดับเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เท่าที่มีหลักฐานสืบค้นได้* | ||
รายนามเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
---|---|---|
-พระพิมลธรรม (พระราชาคณะในสมัยกรุงธนบุรี) เจ้าคณะใหญ่เมืองฝาง | พ.ศ. 2313 - (ไม่ทราบปี) | |
-พระครูสวางคมุนี (เจ้าอธิการจัน) เจ้าคณะใหญ่เมืองฝาง | ก่อน พ.ศ. 2431 - ก่อน พ.ศ. 2442 | |
-พระอธิการรอด (สมัยรัชกาลที่ 5) | ร.ศ.118 -(ไม่ทราบปี) | |
-พระอธิการโต๊ะ เลี้ยงประเสริฐ | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการตี๋ | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการเจิม | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการเพิ่ม | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการกลอง | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระสมุห์ปลาย | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระปลัดป่วน | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการสังวาล | พ.ศ. 2500 - ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการท้วน โฆสโก (นิยมเดช) | ก่อน พ.ศ. 2509 - ไม่ทราบ | |
-พระอธิการเมี้ยน ขนฺติพโล (สิทธิชัย) | ไม่ปรากฏหลักฐาน | |
-พระอธิการผลิศร์ ญาณธมฺโม | ไม่ปรากฏหลักฐาน - พ.ศ. 2530 | |
รักษาการเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา | ||
รายนามผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
พระครูไพโรจน์ธรรมสาร (อ็อด สคารโว) | พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2531 | |
พระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) | พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2532 | |
รายนามเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา | ||
รายนามเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
พระครูประดิษฐ์ธรรมธัช (ธง ฐิตธมฺโม) (อิ่มชม) | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 | |
พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554- ปัจจุบัน | |
*หมายเหตุ: พระที่รักษาวัดก่อนหน้านั้นไม่อาจทราบชื่อได้ |
ลำดับพระอุปัชฌาย์วัดคุ้งตะเภา
นับแต่องค์ปฐมเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ตามความในพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) คือ พระพิมลธรรม (พระราชาคณะในสมัยกรุงธนบุรี) ที่ได้รับอาราธนาจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโดยทางราชการ ให้ขึ้นมาอยู่ประจำสั่งสอนพระธรรมวินัยในเมืองสวางคบุรี ในปี พ.ศ. 2313 พร้อมกับการสถาปนาวัดคุ้งตะเภาขึ้นในปีนั้น ในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นนับตั้งแต่นั้น ก่อนที่จะมีกฎหมายระบุการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์โดยอนุมัติจากทางราชการไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5-6 วัดคุ้งตะเภาคงมีพระอุปัชฌาย์ไปตามพระธรรมวินัย อย่างไรก็ดีการกำหนดให้มีการแต่งตั้งพระอุปัชฌาย์โดยฝ่ายบ้านเมืองพึ่งเริ่มมีในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีประกาศเรื่องผู้จะบวชเป็นพระภิกษุให้มีประกันและการตั้งอุปัชฌาย์ จุลศักราช 1237 (พ.ศ. 2419) และพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 (พ.ศ. 2445) ประกอบกับประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง ตั้งอุปัชฌายะ พ.ศ. 2456 ในสมัยรัชกาลที่ 6 วัดคุ้งตะเภาก็ไม่เคยมีพระภิกษุรูปใดได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์โดยถูกต้องจากทางราชการอีกเลย ดังนั้นในส่วนนี้จึงเป็นการแสดงลำดับพระอุปัชฌาย์ที่ได้รับแต่งตั้งโดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และตามความในข้อ 9 แห่ง กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 ( พ.ศ. 2536 ) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ ซึ่งมีเพียงจำนวน 3 รูป ดังต่อไปนี้
ลำดับพระอุปัชฌาย์วัดคุ้งตะเภา เท่าที่สามารถสืบค้นได้มีดังต่อไปนี้ (พ.ศ. 2313 ถึง ปัจจุบัน)
ลำดับพระอุปัชฌาย์แห่งวัดคุ้งตะเภา ที่ได้รับการแต่งตั้ง* | ||
รายนามพระอุปัชฌาย์แห่งวัดคุ้งตะเภา | ได้รับแต่งตั้งเมื่อ | อ้างอิง |
---|---|---|
-พระพิมลธรรม (พระราชาคณะในสมัยกรุงธนบุรี) | พ.ศ. 2313 | |
-พระครูสวางคมุนี (เจ้าอธิการจัน) เจ้าคณะใหญ่เมืองฝาง | พ.ศ. 2431 | |
-พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ | 28 มกราคม พ.ศ. 2561 |
การปกครองวัด
คณะ (กลุ่มกุฎิ)
เนื่องจากวัดคุ้งตะเภามีพระสงฆ์จำพรรษามาก ประกอบกับพื้นที่วัดมีขนาดใหญ่ มีกลุ่มกุฎิหลายหลังตั้งอยู่ในทิศต่าง ๆ กระจายทั่วบริเวณวัด ลำบากแก่การปกครองดูแล เพื่อให้สะดวกแก่การปกครอง เพื่อแบ่งพื้นที่ในการดูแลรักษาวัด เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาจึงได้ออกคำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เรื่อง ตั้งคณะในวัดคุ้งตะเภา พ.ศ. 2553 โดยมีการกำหนดเจ้าคณะ อำนาจหน้าที่ และพื้นที่ปกครองดูแล โดยมีการแบ่งคณะออกเป็น 7 คณะ เรียงตามทิศวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากกุฎิอธิบดีสงฆ์ (เจ้าอาวาส) เป็นต้นไป มีนามคณะคล้องจองสัมผัสกัน ดังนี้ คณะ 1 นามว่า คณะสถิตย์อธิบดี, คณะ 2 นามว่า คณะวสีพุทธมนต์, คณะ 3 นามว่า คณะอนันตเภสัช, คณะ 4 นามว่า คณะวิเวกวาสี, คณะ 5 นามว่า คณะมหาศาลาวิหาร, คณะ 6 นามว่า คณะอัษฏางคกุฎิ และ คณะ 7 นามว่า คณะสันติสถาน
และหากนำศัพท์แรกของนามคณะทั้ง 7 มาเข้าสนธิศัพท์ในภาษาบาลีแล้ว จะได้เป็นคำสมาสบาลีดังนี้ "ฐิตวสิยานนฺตวิเวกมหนฺตฏฺฐมสนฺติ" (อ่านว่า: ฐิ-ตะ-วะ-สิ-ยา-นัน-ตะ-วิ-เว-กะ-มะ-หัน-ตัฏ-ฐ-มะ-สัน-ติ) แปลความว่า ความสงบอันยิ่งใหญ่ทั้ง 8 (อริยมรรคมีองค์แปด) อันเกิดจากสภาวะสงัด (สงัดจากกิเลสคือนิพพาน) อันไม่มีที่สิ้นสุดอันตั้งอยู่แล้ว
โดยทั้ง 7 คณะ มีพื้นที่และสภาพด้านกายภาพภายในคณะต่าง ๆ ดังนี้
คณะ 1 (คณะสถิตย์อธิบดี)
คณะ 1 มีเขตอุปจารคณะครอบคลุมกุฎิเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาทั้งสองชั้น อาคารห้องน้ำสงฆ์ 2 ชั้น หอระฆัง 2 ชั้นแรก บริเวณพื้นที่ใต้ทางเดินเชื่อมระหว่างคณะ 1 และคณะ 2 ซุ้มป้ายประชาสัมพันธ์ มีพื้นที่อุปจารโดยรอบ จรดบริเวณพื้นที่กุฎิทิศเหนือนับจากชายคา 2 เมตร บริเวณพื้นที่หน้ากุฎิทิศตะวันออกนับจากชายคา 6 เมตร จรดขอบถนนหลักของวัด บริเวณพื้นที่กุฎิทิศใต้นับจากชายคาห้องน้ำสงฆ์ 2 เมตร และบริเวณป้ายประชาสัมพันธ์โดยรอบนับจากชายคา 2 เมตร
คณะ 2 (คณะวสีพุทธมนต์)
คณะ 2 คณะวสีพุทธมนต์ มีเขตอุปจารคณะครอบคลุมอาคารหอสวดมนต์วัดคุ้งตะเภาทั้งสองชั้น ห้องน้ำห้องสมุด 1 ห้อง หอระฆังชั้นที่ 3 บริเวณบนทางเดินเชื่อมระหว่างคณะ 1 และ 2 แทงค์น้ำ ถนนลาดปูนเข้าคณะ 1 เส้น มีพื้นที่อุปจารโดยรอบ จรดบริเวณพื้นที่รอบอาคารหอสวดมนต์วัดคุ้งตะเภาทิศใต้ ทิศตะวันตก และทิศเหนือ 5 เมตร เว้นทิศตะวันออก ให้มีพื้นที่นับจากชายคาออกไปอีก 12 เมตร จนสุดขอบถนนหลักของวัด
คณะ 3 (คณะอนันตเภสัช)
คณะ 3 คณะอนันตเภสัช ประกอบด้วย ห้องกุฎิสงฆ์ 7 ห้อง ห้องน้ำประจำคณะ 3 ห้อง มีเขตอุปจารคณะครอบคลุมอาคารกุฎิเก่ากำนันหลงทรงปั้นหยาทั้งสองชั้น บริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างคณะ 2 และ 3 ทั้งสองชั้น ทางเดินลาดปูนเข้าคณะ 1 เส้น ถนนลาดปูนเข้าคณะ 1 เส้น มีพื้นที่อุปจารโดยรอบ จรดบริเวณพื้นที่รอบอาคารกุฎิเก่ากำนันหลงทรงปั้นหยาทิศใต้ 8 เมตร ทิศตะวันตกนับจากชายคาทางเดินเชื่อมระหว่างคณะ 2 และ 3 จนจรดสุดกำแพงวัดทิศตะวันตก ทิศเหนือ 3 เมตร สุดที่ต้นมะขามป้อมใหญ่ ทิศตะวันออก มีพื้นที่นับจากชายคากุฎิเก่ากำนันหลงทรงปั้นหยาออกไปอีก 7 เมตร ครอบคลุมป่าสมุนไพร จนสุดทางเดินเท้าเข้าคณะ 4 และนับจากทางเดินเชื่อมระหว่างคณะ 2 และ 3 ไปอีก 23 เมตร จนสุดขอบถนนหลักของวัด
คณะ 4 (คณะวิเวกวาสี)
คณะ 4 คณะวิเวกวาสี มีเขตอุปจารคณะครอบคลุมอาคารกุฎิกรรมฐานกลางป่าสมุนไพรทั้งสองชั้น มีพื้นที่อุปจารโดยรอบ จรดบริเวณพื้นที่รอบอาคารกุฎิกรรมฐานทิศใต้ 5 เมตร ทิศตะวันตก จรดสุดกำแพงวัดทิศตะวันตก และทิศเหนือ 42 เมตร จรดสุดกำแพงวัดทิศเหนือ ครอบคลุมป่าสมุนไพรทั้งหมด ทิศตะวันออก มีพื้นที่นับจากอาคารกุฎิกรรมฐาน 15 เมตร สุดที่แทงค์เครื่องกรองน้ำประจำวัด และมีอุปจารครอบคลุมพื้นที่ลานดินหน้าอาคาร และทางเดินเท้าเข้าคณะจากถนนหลักและจากถนนลาดปูนเข้าคณะ 3 ยาว 30 เมตร
คณะ 5 (คณะมหาศาลาวิหาร)
คณะ 5 คณะมหาศาลาวิหาร มีเขตอุปจารคณะครอบคลุมอาคารมหาศาลาการเปรียญของวัดคุ้งตะเภาทั้งอาคาร รวมถึงอาคารหอฉัน ห้องน้ำประจำคณะ 20 ห้อง มีพื้นที่อุปจารโดยรอบ ทิศใต้นับจากชายคาอาคาร 11 เมตร จรดถนนรอบอุโบสถ ทิศตะวันตกนับจากชายคาอาคารหอฉัน 8 เมตร ทิศเหนือนับจากชายคาจนสุดเขตกำแพงวัด และพื้นที่นอกกำแพง 1 เมตร ทิศตะวันออก นับจากชายคาอาคาร 30 เมตรจนสุดกำแพงวัดทิศตะวันออก
คณะ 6 (คณะอัษฏางคกุฎิ)
คณะ 6 คณะอัษฏางคกุฎิ มีเขตอุปจารคณะประกอบด้วย พระธรรมเจดีย์ กลุ่มกุฎิเดี่ยว 8 หลัง ห้องน้ำ 8 ห้อง ถนนลาดปูนภายในคณะ 55 เมตร ป่าสมุนไพร และป้ายประชาสัมพันธ์ ที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออกของวัด ทิศตะวันตกนับจากถนนหลักของวัดเข้ามา ทิศตะวันออกนับจากกำแพงวัดเข้ามา ทิศใต้นับจากกำแพงวัดเข้ามา ทิศเหนือนับจากถนนจุฑามาศวิถีเข้ามา รวมถึงบริเวณพื้นที่นับจากชายคาหน้าอุโบสถจนสุดกำแพงวัด ถนนหลักของวัดเส้นเหนือโบสถ์เข้ามาจนสุดกำแพงทิศใต้ และพื้นที่รอบต้นไทรใหญ่หลังอุโบสถ
คณะ 7 (คณะสันติสถาน)
คณะ 7 คณะสันติสถาน ประกอบด้วย กุฎิสงฆ์ 1 หลัง ห้องรับรองพระมหาเถระปรับอากาศ 1 หลัง ห้องน้ำประจำคณะ 2 ห้อง มีเขตอุปจารคณะดังนี้ ทิศตะวันออก จากกำแพงวัดทิศตะวันตกจรดถนนหลักของวัด ทิศเหนือจากกำแพงวัดทิศใต้จรดชายคาคณะ 1 และ 2
การบริหารวัด
เนื่องด้วยวัดคุ้งตะเภา จัดตั้งขึ้นโดยเป็นวัดพุทธศาสนานิกายเถรวาท ฝ่ายมหานิกาย จึงอยู่ในการปกครองของมหาเถรสมาคม อันเป็นองค์กรปกครองหลักของคณะสงฆ์เถรวาทในประเทศไทย วัดคุ้งตะเภาในปัจจุบันจึงดำเนินการศาสนกิจอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 โดยปัจจุบันมีบุคลากรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการภายในวัดที่ได้รับการแต่งตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของมหาเถรสมาคมจำนวน 4 คน แบ่งเป็นพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส (ซึ่งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 เจ้าอาวาสถือเป็นผู้ปกครองวัดตามมาตรา 36 เป็นผู้แทนของวัดตามมาตรา 31 วรรค 3 เป็นเจ้าพนักงานวัดตามมาตรา 45) จำนวน 1 รูป และคฤหัสถ์ผู้ทำหน้าที่ไวยาวัจกรจำนวน 3 คน
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันวัดคุ้งตะเภามีพระสงฆ์ผู้ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำนวน 3 รูป แบ่งเป็นพระฐานานุกรมจำนวน 1 รูป และพระเปรียญจำนวน 2 รูป ตำแหน่งสมณศักดิ์ดังกล่าวเป็นเพียงการยกย่องเชิดชูเช่นเดียวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการบริหารจัดการวัดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์แต่อย่างใด
พระสังฆาธิการวัดคุ้งตะเภา
รายนามพระสังฆาธิการวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน | ||||
รูป | ชื่อ | ตำแหน่ง พระสังฆาธิการ | ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ | ปีดำรงตำแหน่ง พระสังฆาธิการ |
---|---|---|---|---|
พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) น.ธ.เอก, ป.บส., พธ.บ. (การจัดการเชิงพุทธ) | เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (จร.) |
| พ.ศ. 2554 – ปัจจุบัน (ตำแหน่ง จร.วัดคุ้งตะเภา) พ.ศ. 2536 – 2553 (ตำแหน่ง รจร.วัดคุ้งตะเภา) | |
ดร.พระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี (มากคล้าย) น.ธ.เอก, ป.ธ.๔, น.บ. (นิติศาสตรบัณฑิต), รป.ม. (รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต), Ph.D (Public Administration) | รองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (รจร.) |
| พ.ศ. 2557 – ปัจจุบัน (ตำแหน่ง รจร.วัดคุ้งตะเภา) |
ไวยาวัจกรวัดคุ้งตะเภา
ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภามีไวยาวัจกร ทำหน้าที่ช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ได้รับการแต่งตั้งในเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน ตามความในข้อ 10 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2536) โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 วรรคแรก แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกร ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จำนวน 6 ตำแหน่ง แบ่งเป็นไวยาวัจกรคนที่ 1 รับผิดชอบงานฝ่ายบัญชี (บัญชีและการบริหารงบดุลภายในวัด) ไวยาวัจกรคนที่ 2 รับผิดชอบงานฝ่ายศาสนพิธี ไวยาวัจกรคนที่ 3 รับผิดชอบงานฝ่ายพุทธสาธารณสถาน ไวยาวัจกรคนที่ 4 รับผิดชอบงานฝ่ายพุทธศาสนศึกษา ไวยาวัจกรคนที่ 5 รับผิดชอบงานฝ่ายพุทธศาสนสงเคราะห์ และไวยาวัจกรคนที่ 6 รับผิดชอบงานส่งเสริมการปฏิบัติธรรม รวมเป็น 6 คน
รายนามไวยาวัจกรในตำแหน่งของวัดคุ้งตะเภาคนปัจจุบัน ในพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ | |||||
รูป | ชื่อ | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ | ตำแหน่ง | หน้าที่ | วันที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งแรก |
---|---|---|---|---|---|
1. พ.อ. สิงหนาท โพธิ์กล่ำ |
| ไวยาวัจกร คนที่ 1 | ไวยาวัจกรฝ่ายบัญชี | 12 สิงหาคม พ.ศ. 2542 | |
2. จ.ส.อ. บุญเลี่ยม แสงวิจิตร |
| ไวยาวัจกร คนที่ 2 | ไวยาวัจกรฝ่ายศาสนพิธี | 2 สิงหาคม พ.ศ. 2549 | |
3. ร.ต.ต. ณรงค์ ถิ่นประชา |
| ไวยาวัจกร คนที่ 3 | ไวยาวัจกรฝ่ายพุทธสาธารณสถาน | 1 มกราคม พ.ศ. 2553 | |
4. นายศักดิ์ตระกูล เลี้ยงประเสริฐ |
| ไวยาวัจกร คนที่ 4 | ไวยาวัจกรฝ่ายพุทธศาสนศึกษา | 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 | |
5. นายสมชาย สำเภาทอง | ไวยาวัจกร คนที่ 5 | ไวยาวัจกรฝ่ายพุทธศาสนสงเคราะห์ | 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 | ||
6. นายทรงชัย มาสูตร |
| ไวยาวัจกร คนที่ 6 | ไวยาวัจกรฝ่ายส่งเสริมการปฏิบัติธรรม | 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 | |
7. ร.อ. พรณรงค์ บุรุษานนท์ |
| ไวยาวัจกร คนที่ 7 | ไวยาวัจกรฝ่ายศาสนพิธี | 13 เมษายน พ.ศ. 2558 |
กิจกรรมหลักของวัด
ปัจุจบันวัดคุ้งตะเภา เป็นที่ตั้งของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลคุ้งตะเภา ซึ่งได้รับรางวัลเกียรติยศพัดและประกาศเกียรติคุณหน่วย อปต.ดีเด่น ระดับประเทศ ดังนั้นวัดคุ้งตะเภา นอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การจัดสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ประชาชนแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่เยาวชน (กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน) เป็นที่ตั้งศูนย์การศึกษาของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาสำหรับคฤหัสถ์ในเขตตำบลคุ้งตะเภา (สำนักศาสนศึกษาประจำตำบล) มีห้องสมุดทางพระพุทธศาสนาที่มีหนังสือเอกสารและตำราทางพระพุทธศาสนา กว่า 5000 เล่ม (สุวรรณเภตราบรรณาคาร) เป็นศูนย์กลางอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น และเป็นศูนย์รวมการจัดกิจกรรมของฝ่ายปกครองและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ทั่วไปของชุมชนคุ้งตะเภา รวมทั้งเป็นศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ (ตามโครงการของทางคณะสงฆ์) ซึ่งมีสมุนไพรหายากหลากชนิดกว่า 500 ชนิด
งานบุญประเพณี
เนื่องด้วยวัดคุ้งตะเภา ตั้งอยู่ในชุมชนโบราณอายุกว่าสามร้อยปี ที่มีความสืบเนื่องมาจากวัฒนธรรมอยุธยา ดังนั้นประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมส่วนใหญ่ของหมู่บ้านคุ้งตะเภาจึงคล้ายกับหมู่บ้านในแถบภาคกลางตอนบน เพราะโดยพื้นเพของคนคุ้งตะเภานั้นเป็น “คนไทยเหนือ” ตามคำปากของคนในสมัยอยุธยา คือเป็นคนไทยเดิมที่ตั้งถิ่นฐานแถบเมืองพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ฯ โดยคนคุ้งตะเภานั้นมีสำเนียงการพูดคล้ายคนสุโขทัย,เมืองฝางสวางคบุรีและทุ่งยั้ง มีประเพณีและวัฒนธรรมไม่แตกต่างจากชาวพุทธเถรวาทในแถบภาคกลางตอนบนของประเทศไทย โดยส่วนใหญ่การจัดประเพณีหรือกิจกรรมของหมู่บ้านมักจะจัดที่วัดประจำหมู่บ้าน
ปัจจุบัน วัดคุ้งตะเภา เป็นศูนย์กลางของชุมชนบ้านคุ้งตะเภา ในการจัดงานกิจกรรมประเพณีตลอดทั้งปี เรียกว่า ประเพณี 9 เดือน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน 2 ไปจนสิ้นสุดเดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย คือในเดือน 2 มีประเพณีก่อเจดีย์ข้าวเปลือก เดือน 3 ประเพณีวันมาฆบูชา เดือน 4 ประเพณีวันตรุษไทย เดือน 5 ประเพณีวันสงกรานต์ เดือน 6 ประเพณีวันวิสาขบูชา เดือน 7 ประเพณีสลากภัต เดือน 8 ประเพณีวันวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา เดือน 10 งานบุญมหาชาติ และประเพณีวันสารทไทย เดือน 11 ประเพณีวันออกพรรษาตักบาตรเทโว และประเพณีกฐินสามัคคี
ดูเพิ่มได้ที่ (หมู่บ้านคุ้งตะเภา#วัฒนธรรมประเพณี)
การจัดสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ประชาชน
วัดคุ้งตะเภา เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ 3 (สำนักปฏิบัติธรรมภายใต้การกำกับของมหาเถรสมาคม) มีพระภิกษุผู้ได้รับการฝึกอบรมและผ่านหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ (หลักสูตรของมหาเถรสมาคม) จำนวน 3 รูป คือ พระทองเพียร อุปสนฺโต (สำเร็จหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ รุ่น 1) และพระเที่ยง นิติสาโร (สำเร็จหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ ปี 2553) พระนพรัตน์ สุธีโร (สำเร็จหลักสูตรกัมมัฏฐานสายภัตทันตะธรรมาจาริยะ) นอกจากนี้เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน คือหลวงพ่อพระสมุห์สมชาย ท่านเป็นศิษย์สายธุดงค์พระกัมมัฏฐาน ที่เคยออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น และเคยเป็นศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อพุทธทาส หรือ พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) วัดคุ้งตะเภาจึงมีศักยภาพสูงในการจัดการสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ประชาชนในท้องถิ่น ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภามีการจัดกิจกรรมสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ประชาชนในวันหยุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดคุ้งตะเภา
วัดคุ้งตะเภาได้จัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนติดต่อกันมาทุกปีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งนับเป็นวัดแรก ๆ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้จัดให้มีโครงการนี้ขึ้น ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 15 (พ.ศ. 2555) ซึ่งทางวัดจะมีการจัดการอบรมศาสนศึกษาระยะสั้นให้แก่กุลบุตร กุลธิดา ตลอดระยะเวลาการบรรพชา 30 วันรวมทั้งมีการจัดให้มีการนำคณะสามเณรศีลจาริณีไปทัศนศึกษาตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด อีกทั้งเมื่อสิ้นสุดโครงการยังมีการจัดธุดงค์วัตร นำคณะสามเณรผู้สนใจไปธุดงค์ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ ฝึกความอดทนและความมีน้ำใจให้แก่เยาวชนอีกด้วย
ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทุนปัจจัยทั้งหมดอาศัยแรงศรัทธาความสามัคคีร่วมใจของชาวบ้านคุ้งตะเภาและใกล้เคียงที่เล็งเห็นถึงผลของการพัฒนาลูกหลานเยาวชนให้กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพต่อไป
สำนักศาสนศึกษาวัดคุ้งตะเภา
การจัดให้การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมศึกษาหรือการศึกษาวิชาธรรมของคฤหัสถ์ (ผู้ไม่ใช่นักบวช) ของวัดคุ้งตะเภา หรือ สำนักศาสนศึกษาวัดคุ้งตะเภานั้น เริ่มจัดการเรียนการสอนในปี พ.ศ. 2540 อันเป็นช่วงแรก ๆ ที่แม่กองธรรมสนามหลวงเปิดโอกาสให้มีการสอบไล่ธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ในต่างจังหวัดขึ้น โดยในช่วงแรก พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ได้ดำเนินการประสานงานไปยังโรงเรียนในเขตตำบลคุ้งตะเภาขอนำพระสงฆ์เข้าสอนจริยธรรมและธรรมศึกษาในโรงเรียน ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในครั้งนั้นประสบผลสำเร็จไปด้วยดี มีนักเรียนและผู้สนใจสอบไล่ได้ธรรมศึกษาเป็นจำนวนมาก ต่อมาเจ้าคณะตำบลในขณะนั้นได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาธรรมของคฤหัสถ์ดังกล่าว จึงได้ดำเนินการขอจัดตั้งสำนักศาสนศึกษาประจำตำบลคุ้งตะเภา ขึ้นที่วัดคุ้งตะเภาเป็นต้นมา และยังคงมีการดำเนินการต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน จนในปี พ.ศ. 2554 นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ลงนามในประกาศจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ 1/2554 จัดตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้นในวัดคุ้งตะเภาอย่างเป็นทางการ สำนักศาสนศึกษาวัดคุ้งตะเภาจึงมีภารกิจด้านการจัดแหล่งการเรียนรู้ในวัดเพิ่มเติมจากการทำการเรียนการสอนตามปกติในสถานศึกษาระดับพื้นฐาน โดยในส่วนของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดคุ้งตะเภานั้นอยู่ภายใต้ความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ห้องสมุดพระพุทธศาสนาสุวรรณเภตราบรรณาคาร
ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภามีห้องสมุดจำนวน 2 ห้อง โดยไม่มีอาคารแยกจำเพาะเป็นเอกเทศ หนังสือส่วนใหญ่ได้มาจากการรวบรวมของเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน และจากการได้รับบริจาค โดยวัดคุ้งตะเภาได้ใช้แนวคิดการปรับปรุงอาคารศาสนสถานที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเป็นตัวอย่างแก่วัดอื่น ๆ โดยวัดคุ้งตะเภาได้ใช้พื้นที่อาคารหอสวดมนต์ จัดเป็นมุมหนังสือเก่า มีตู้หนังสือพระไตรปิฎก หนังสือธรรมะ หนังสือเรียนนักธรรม-บาลี เทปคาสเซตธรรมะ และเอกสารอื่น ๆ และได้จัดพื้นที่ด้านทิศเหนือของอาคารศาลาการเปรียญเป็นห้องสมุดของวัด เรียกว่า “สุวรรณเภตราบรรณาคาร” ประกอบไปด้วยหนังสือทั้งหนังสือธรรมะทั่วไป พระไตรปิฎก อรรถกถา ธรรมะประยุกต์ หนังสือเรียนธรรม หนังสือเชิงวิชาการ ทั้งด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และวิทยานิพนธ์พระพุทธศาสนา รวมไปถึงหนังสือเชิงปกิณกะอื่น ๆ กว่า 5,000 เล่ม ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และง่ายต่อการเข้าถึงแหล่งความรู้ทางธรรมะของสาธุชนผู้เข้ามาใช้สถานที่ในวัดคุ้งตะเภาในโอกาสต่าง ๆ
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา หรือ พิพิธภัณฑ์สุวรรณเภตราภัณฑาคาร (อังกฤษ: Wat Kungtapao Local Museum ) เป็นแหล่งการเรียนรู้ท้องถิ่นขนาดเล็กของวัด จัดแสดงเอกสารโบราณและวัตถุโบราณของวัดและชุมชนหมู่บ้านคุ้งตะเภา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2549 โดยพระอาจารย์อู๋ วชิรญาโณ (แสงสิน) และพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) รองเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาในสมัยนั้น เพื่อเป็นสถานที่สำหรับรวบรวมเอกสารโบราณและวัตถุโบราณของวัดและที่ทางวัดได้รับบริจาคจากชาวบ้าน เช่น พระพุทธรูปโบราณ สมุดไทย สมุดข่อย ใบลาน นำมาจัดแสดงให้คนในท้องถิ่นได้ศึกษาขนบวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต ของบรรพบุรุษ และเพื่อให้คนในท้องถิ่นได้รับรู้และเกิดความภาคภูมิใจในมรดกและความเป็นมา ของชุมชนบ้านคุ้งตะเภาที่มีอายุความเป็นมายาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ศูนย์กลางในการจัดและเผยแพร่กิจกรรมสำคัญของชุมชน
วัดคุ้งตะเภา ในฐานะศูนย์กลางของชุมชนคุ้งตะเภา ได้มีการจัดกิจกรรมแก่ประชาชนในวัดในหลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นสถานที่ประชาชนผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเพื่อเพิ่มพูนพัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพ เช่น การพัฒนาทักษะด้านสมุนไพรไทย รวมถึงเคยเป็นที่ตั้งของศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนตำบลคุ้งตะเภาอีกด้วย ผลของการมีบทบาทดังกล่าวทำให้วัดคุ้งตะเภาเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหกรณ์สมาพันธ์เกษตรกรเพื่อการพัฒนา ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลคุ้งตะเภา (อปต.) รวมทั้งอาคารธนาคารหมู่บ้านคุ้งตะเภา ซึ่งมีที่ตั้งอาคารทำการอยู่ที่บริเวณวัดคุ้งตะเภา
นอกจากนี้วัดคุ้งตะเภายังมีหอติดตั้งเครื่องกระจายเสียงจำนวน 1 เสา มีรัศมีการกระจายเสียงประมาณ 5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ หมู่บ้านคุ้งตะเภาทั้งหมู่บ้าน และบางส่วนของหมู่บ้านหัวหาด หมู่บ้านป่าขนุน รวมทั้งบางส่วนของตำบลท่าเสา โดยใช้เป็นเครื่องประกาศกิจกรรมและการเผยแพร่ธรรมของวัด และใช้เป็นเครื่องประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของหมู่บ้าน โดยวัดคุ้งตะเภามีกองทุนเครื่องกระจายเสียงเพื่อนำเงินบูรณะซ่อมแซมให้หอกระจายข่าวใช้งานได้ตลอดเวลา
ศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์
สวนป่ารุกขชาติวัดคุ้งตะะเภา
วัดคุ้งตะเภาได้จัดพื้นที่ตั้งวัดด้านทิศเหนือ และบางส่วนของพื้นที่ตั้งวัด สำหรับเป็นพื้นที่สวนรุกขชาติ สระน้ำ แปลงสวนป่าปลูกพรรณไม้เนื้อแข็ง อาคารเพาะชำ บรรยากาศโดยทั่วไปมีพื้นที่ร่มรื่น เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางวัดใช้พื้นที่ส่วนนี้ยางส่วนสำหรับปลูกพรรณไม้ชนิดล้มลุก หรือพืชลงหัว ซึ่งจะแตกใบสวยงามในช่วงฤดูฝน ส่วนในช่วงฤดูแล้ง จะเป็นพื้นที่ลานโล่งใต้ต้นไม้ สลับกับพื้นที่เนินดินไหล่เขาขนาดเล็กสวยงามเหมาะกับการปฏิบัติธรรมและหย่อนใจ บริเวณติดกันนั้นเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน
สวนพฤกษศาสตร์สมุนไพรวัดคุ้งตะเภา
สวนพฤกษศาสตร์สมุนไพรวัดคุ้งตะเภา หรือ สวนสมุนไพรวัดคุ้งตะเภา ได้รับการจัดตั้งให้เป็น ศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ. 2547 เนื่องจากวัดคุ้งตะเภามีพระภิกษุผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรแผนโบราณ ได้เป็นผู้รวบรวมสมุนไพรหายากจากสถานที่ต่าง ๆ มารวมไว้ในวัด (ในปัจจุบันในวัดมีต้นยาสมุนไพรทั้งสิ้นกว่า 500 ชนิด) เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจและเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านในด้านการอนุรักษ์สมุนไพร
ทางวัดได้แบ่งเขตสังฆาวาสส่วนหนึ่งให้เป็นพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่รวบรวมมาได้จากที่ต่าง ๆ นำมาปลูกไว้ ทั้งชนิดต้นและชนิดไม้ลงหัว ไปจนกระทั่งไม้เลื้อยขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รวบรวมพืชสมุนไพรไทยที่หาชมได้ยากนำมาปลูกในเขตพื้นที่บริเวณวัดหลายร้อยชนิด โดยเริ่มทำการจัดหาสมุนไพรมาอนุรักษ์เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2535 ซึ่งผู้มีส่วนสำคัญในการริเริ่มการปลูกอนุรักษ์สมุนไพรในวัดคุ้งตะเภาก็คือ พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา พระอู๋ ปญฺญาวชิโร และพระธง ฐิติธมฺโม ซึ่งเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในการจำแนกพืชสมุนไพรไทย ปัจจุบันสวนสมุนไพรวัดคุ้งตะเภาเป็นสถานที่ศึกษาของสถานศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย โดยมีร่วมมือกับบุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลทางพฤษศาสตร์เพื่อการศึกษาต่อยอดทางวิชาการพืชสมุนไพรในระดับประเทศ
ในปัจจุบัน สวนป่าสมุนไพรวัดคุ้งตะเภา ยังคงปล่อยให้เป็นบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของสมุนไพร ซ่อนเร้นสมุนไพรไทยหายากอันมีคุณประโยชน์ยิ่งในบริเวณป่า เป็นพื้นที่ป่าปลูกที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญจิตตภาวนาห่างไกลจากสิ่งรบกวน สมกับคำว่า "สวนป่า" โดยแท้จริง
สำนักงานเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
ปัจจุบันวัดคุ้งตะเภาเป็นที่ตั้งสำนักงานเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ในความดูแลของพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน รับผิดชอบงานทะเบียนครูสอนพระปริยัติธรรมของพระสงฆ์อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และงานการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกนักธรรมของพระสงฆ์และธรรมศึกษาของทุกโรงเรียนและสำนักเรียนในสังกัดอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ทั้งอำเภออีกด้วย
เกียรติคุณและรางวัลที่ได้รับ
วัดคุ้งตะเภา โดยพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน มีผลงานการพัฒนาจนเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับ ทำให้วัดคุ้งตะเภา ได้รับพระราชทานรางวัลและถวายรางวัลเกียรติยศต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นวัดพัฒนาที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคมในด้านต่าง ๆ จากพระบรมวงศานุวงศ์ และจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในวาระโอกาสต่าง ๆ หลายครั้งด้วยกัน ตามลำดับดังนี้
นามรางวัลที่วัดคุ้งตะเภาได้รับ | องค์กรที่ถวายรางวัล | ผู้มอบรางวัล/องค์พระราชทานรางวัล | ปีที่ได้รับ | อ้างอิง | |
---|---|---|---|---|---|
- รางวัลประกาศเกียรติคุณ โล่และพัดวัดพัฒนา "วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๓" (อันดับที่ ๑ ระดับประเทศ: พัดวัดพัฒนา พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ) | สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ | สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช | พ.ศ. 2563 | ||
- รางวัล วัฒนคุณาธร ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ระดับประเทศ (ประเภทบุคคล) | กระทรวงวัฒนธรรม | นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | พ.ศ. 2563 | ||
- รางวัลประกาศเกียรติคุณ "ลานธรรมลานวิถีไทยตัวอย่าง" | กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม | นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา | พ.ศ. 2562 | ||
- รางวัลประกาศเกียรติคุณ "วัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๙" (อันดับที่ ๑ ระดับประเทศ) | สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ | สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช | พ.ศ. 2559 | ||
- โล่รางวัลโครงการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ชนะเลิศอันดับ ๑ ระดับจังหวัด | กองบัญชาการทหารสูงสุด | พลโท สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 | พ.ศ. 2558 | ||
- รางวัล วัฒนคุณาธร ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ด้านองค์กรเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ๑ ใน ๒ แห่ง ระดับประเทศ | สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม | นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | พ.ศ. 2558 | ||
- โล่รางวัล "การจัดการสิ่งแวดล้อมในวัดระดับดีเยี่ยม" | สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม | กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | พ.ศ. 2558 | ||
- โล่ "รางวัลเสาอโศก" โล่รางวัลประทานแด่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา | ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ | พ.ศ. 2558 | ||
- รางวัลประกาศเกียรติคุณ "วัดต้นแบบด้านควบคุมปัจจัยเสี่ยง ๑ ใน ๓๐ วัด ระดับประเทศ" | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) | พ.ศ. 2558 | ||
- รางวัลประกาศเกียรติคุณวัดพัฒนา "อุทยานการศึกษาในวัด" | สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ | สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช | พ.ศ. 2557 | ||
- โล่รางวัลเกียรติยศ "วัดส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ชนะเลิศอันดับ ๑ ระดับเขต" | ศูนย์อนามัยที่ ๙ พิษณุโลก กระทรวงสาธารณสุข | นายแพทย์วีรชัย สิทธิปิยะสกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ ๙ พิษณุโลก | พ.ศ. 2557 | ||
- รางวัลเกียรติยศพัดและประกาศเกียรติคุณ หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ระดับประเทศ | สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ | สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช | พ.ศ. 2555 | ||
- รางวัลหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ดีเด่นอันดับหนึ่ง ระดับจังหวัด (อปต.) | สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ | พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) เจ้าคณะภาค ๕ (พิษณุโลก,อุตรดิตถ์, ตาก, สุโขทัย) | พ.ศ. 2555 | ||
- รางวัลหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ระดับอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ (อปต.) | สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ | พระเทพปริยัติวิธาน (อำนวย จันฺทสโร) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ | พ.ศ. 2555 | ||
- รางวัลเสาเสมาธรรมจักรพระราชทาน | กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี | พ.ศ. 2554 | ||
- รางวัลพุทธคุณูปการรัชตเกียรติคุณ | สภาผู้แทนราษฎร | สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช | พ.ศ. 2553 | ||
- รางวัลประกาศเกียรติคุณวัดปลอดเหล้า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ | ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ | นายโยธินศร์ สมุทร์คีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ | พ.ศ. 2552 | ||
- รางวัลเกียรติยศศูนย์พัฒนาคุณธรรมตัวอย่าง ดีเด่นระดับประเทศ | กองบัญชาการทหารสูงสุด | พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | พ.ศ. 2546 | ||
- รางวัลเกียรติยศ "พิพิธภัณฑ์ต้นแบบการเรียนรู้" ประเภทวัดและชุมชน | สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (NDMI) | ดร.ราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) | พ.ศ. 2557 |
อื่น ๆ
พระเครื่องที่จัดสร้างโดยวัดคุ้งตะเภา
วัดคุ้งตะเภาจัดสร้างพระเครื่องนับแต่ พ.ศ. 2538 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 3 รุ่น ดังนี้
- พระเครื่องรุ่นบูรณะอุโบสถ (รุ่น 1) แบ่งเป็นเหรียญโลหะรมดำรูปอาร์ม และรูปไข่ และล็อกเก็ต รูปหลวงพ่อสุวรรณเภตรา สร้างในปี พ.ศ. 2538 ปลุกเสกโดย พระนิมมานโกวิท (หลวงปู่ทองดำ) เพื่อแจกแก่ผู้สมทบทุนบูรณะอุโบสถวัดคุ้งตะเภา
- พระเครื่องรุ่นสร้างซุ้มประตู (รุ่น 2) แบ่งเป็นเหรียญโลหะรมดำรูปอาร์ม (บรรจุกล่อง) รูปหลวงพ่อสุวรรณเภตรา สร้างในปี พ.ศ. 2546 ปลุกเสกโดย พระนิมมานโกวิท (หลวงปู่ทองดำ) เพื่อแจกแก่ผู้สมทบทุนก่อสร้างซุ้มประตูวัดคุ้งตะเภา
- พระเครื่องรุ่นบูรณะศาลาการเปรียญ (รุ่น 3) แบ่งเป็นเหรียญโลหะสุวรรณชาด (เหรียญทองแดง) และเหรียญทองเหลือง รูปหลวงพ่อสุวรรณเภตรา สร้างในปี พ.ศ. 2549 เพื่อแจกแก่ผู้สมทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภา
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ประวัติพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี ฯ (หลวงพ่อพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี) จากเว็บไซด์วัดคุ้งตะเภา[]
- เจ้าอาวาส (จร.) : พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์. (2554, 29 ธันวาคม). คำสั่งที่ 10/2554 เรื่อง ตราตั้งเจ้าอาวาส [พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ].
- พระครูสุจิตพัฒนพิธาน. (2554). เอกสารรายงานคณะสงฆ์-บัญชีสำรวจพระภิกษุตำบลคุ้งตะเภา ปี 2554. อุตรดิตถ์ : สำนักงานเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา. ถ่ายเอกสาร.
- วรนุชนันท์ พงศ์สุรางค์. (2555). พาเที่ยววัดในอุตรดิตถ์ : ชมความงาม 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ อุตรดิตถ์. วารสารเพื่อการประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์. 3 (12), 39.
- เทวประภาส มากคล้าย เปรียญ.. เอกสาร : เอกสารแนะนำวัดคุ้งตะเภา . อุตรดิตถ์ : วัดคุ้งตะเภา , 2549.
- _____. ประชุมพงศาวดาร เล่ม 40 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 65 - 66) พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี จดหมายเหตุรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร
- ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2558). สวางคบุรีศรีคุ้งตะเภา : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกับสมรภูมิสวางคบุรี-คุ้งตะเภา อนุสรณ์ ๒๔๕ ปี แห่งการสถาปนาวัดคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์ : สำนักงานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กระทรวงวัฒนธรรม.
- _________________. (ม.ป.ป.). พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระหว่างจลาจล จุลศักราช ๑๑๒๙-๑๑๓๐. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.). หน้า 49-51
- กรมการศาสนา. (2531). ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๗. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา. หน้า 34.
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2558). วัดคุ้งตะเภา. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [1] 2015-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2555). จำนวนวัดจังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2554. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [2] 2015-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2560). ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่างและอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี 2559. ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560
- กลุ่มงานมหาเถรสมาคม (2559). สรุปการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๙ วันจันทร์ ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ . [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [3] 2016-08-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงเมื่อ 19-8-59
- หนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ พศ ๐๐๐๙/๐๕๓๖๕ เรื่อง แจ้งมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๙ เรื่อง ขออนุมัติจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา ลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๙
- มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๙ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ๓๓๘/๒๕๕๙ เรื่อง ขออนุมัติจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดอุตรดิตถ์ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ "มูลนิธิ ๒๕๐ ปี วัดคุ้งตะเภา", เล่ม ๑๓๓ ตอน ๔๔ ง, ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙, หน้า ๔๙-๕๐
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2556). ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕. ลงวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556
- กองพุทธศาสนศึกษา. (2556). หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.) ดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๕. กรุงเทพ : โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. หน้า 154-155
- _____. ประชุมพงศาวดาร เล่ม 40 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 65 - 66) พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี จดหมายเหตุรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร
- _________________. (ม.ป.ป.). พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระหว่างจลาจล จุลศักราช ๑๑๒๙-๑๑๓๐. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.). หน้า 49-51
- กรมการศาสนา. (2531). ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๗. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา. หน้า 34.
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2558). วัดคุ้งตะเภา. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [4] 2015-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2558). วัดคุ้งตะเภา. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [5] 2015-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- จดหมายเหตุ ร.๕ ศ. เอกสารเย็บเล่ม กรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง รายงานการศึกษามณฑลพิศณุโลก (๒๒ ธันวาคม - ๒๗ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๘)
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (๒๔๖๕). พระราชหัตถเลขา คราวเสด็จมณฑลฝ่ายเหนือ ในรัชกาลที่ ๕ นับในหนังสือเรื่องเที่ยวที่ต่าง ๆเปนภาคที่ ๕. กรุงเทพ : โรงพิมพ์ไทย.
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชกฤษฎีกา กำหนดแนวทางหลวงที่จะสร้างทางหลวงแผ่นดิน สายอินทร์บุรี-บ้านหมี่-ตากฟ้า-ท่าตะโก-บ้านเขาทราย-วังทอง-อุตรดิตถ์-แพร่-ลำปาง-เชียงใหม่ ตอนพิษณุโลก-เด่นชัย พ.ศ. ๒๕๒๑, เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๓๐, ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๑, ฉบับพิเศษ หน้า ๔๔
- สำนักงานเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๑. (๒๕๕๕). หนังสือกำกับพระบรมสารีริกธาตุ จากพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร. ลงวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
- สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4. (2555). วัดคุ้งตะเภาจัดพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จาก : http://region4.prd.go.th/ewt_news.php?nid=18988 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หนังสือสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ที่ พ ๐๔๓๖/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เรื่อง ประทานพระบรมสารีริกธาตุ
- วัดคุ้งตะเภา. (2555). พระบรมสารีริกธาตุจากประเทศสาธารณรัฐอินเดีย. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จาก : https://sites.google.com/site/watkungtaphao/puchaniyawatthu/boromsaririkkathat/from_india 2020-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เทวประภาส มากคล้าย. (2553). คุ้งตะเภา จากอดีตสู่ปัจจุบัน : พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อ และภูมิปัญญาท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
- กรมการศาสนา. (2531). ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๗. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา. หน้า 34.
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศพระราชทานวิสุงคามสีมา, เล่ม ๖๔, ตอน ๔๑, ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๐, หน้า ๕๔๘
- "พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)," (2542). ใน ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 3. กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. หน้า 339.
- ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2559). "ศึกเจ้าพระฝาง พ.ศ. 2313 : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับการปราบ "พวกสงฆ์อลัชชี" ที่เมืองสวางคบุรี," ใน ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 37 ฉบับที่ 5 มีนาคม
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ ศ. เอกสารเย็บเล่ม กรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง รายงานการศึกษามณฑลพิศณุโลก (๒๒ ธันวาคม - ๒๗ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๘) ในปี ร.ศ. ๑๑๘ (พ.ศ. ๒๔๔๒) หรือเมื่อกว่า ๑๑๖ ปี ที่ผ่านมา วัดคุ้งตะเภา มีพระ ๘ รูป ศิษย์วัด ๖ คน มีเจ้าอธิการรอดเป็นเจ้าอาวาส และผู้ใหญ่ชื่น เป็นมรรคนายก
- สมพงษ์ แจ้งเร็ว. 5 ใบเถาแห่งอุตรดิตถ์ ศิษย์ร่วมสำนักพระยาพิชัยดาบหัก. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 5 (11). กันยายน 2527. หน้า 44 - 53
- สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์. (2554). คำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ 02/2554 เรื่อง ให้พระสังฆาธิการออกจากตำแหน่ง. ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
- สำนักงานเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา. (2554). คำสั่งเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา ที่ 1/2554 เรื่อง แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา. ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
- "พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)," (2542). ใน ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 3. กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. หน้า 339.
- ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2559). "ศึกเจ้าพระฝาง พ.ศ. 2313 : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับการปราบ "พวกสงฆ์อลัชชี" ที่เมืองสวางคบุรี," ใน ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 37 ฉบับที่ 5 มีนาคม
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม ๕ตอน ๑๗, ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๑, หน้า ๑๓๘
- เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ. (2561, 28 มกราคม). ตราตั้งพระอุปัชฌาย์ ที่ 20/2561 [พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ].
- เทวประภาส มากคล้าย. (2552). แผนงานการปกครองคณะสงฆ์ในเขตตำบลคุ้งตะเภา ประจำปี พ.ศ. 2552. (เอกสารประกอบการประชุม). อุตรดิตถ์ : สำนักงานเลขานุการเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา. ถ่ายเอกสาร.
- คำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เรื่อง ตั้งคณะในวัดคุ้งตะเภา พ.ศ. ๒๕๕๓. วัดคุ้งตะเภา. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก[6]. เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 26-8-53
- ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕. เล่มที่ ๗๙ ตอนที่ ๑๑๕ ก ฉบับพิเศษ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ หน้า ๒๙
- ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕. เล่มที่ ๑๐๙ ตอนที่ ๑๖ ก วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ หน้า ๕
- คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ ๑๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เรื่อง ตราตั้งรองเจ้าอาวาส (พระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี รองเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา)
- ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕. เล่มที่ ๗๙ ตอนที่ ๑๑๕ ก ฉบับพิเศษ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ หน้า ๒๙
- ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕. เล่มที่ ๑๐๙ ตอนที่ ๑๖ ก วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ หน้า ๕
- ประวัติพันเอกสิงหนาท โพธิ์กล่ำ 2009-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ศูนย์ข้อมูลการเมืองไทย (Thailand Political Base). เรียกข้อมูลเมื่อ 17-7-52
- คำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาที่ ๑/๒๕๔๙ ลงวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เรื่อง คำสั่งแต่งตั้งไวยาวัจกรวัดคุ้งตะเภาเพิ่มเติม
- ไวยาวัจกร : ________ คำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา. (2555, 29 สิงหาคม). คำสั่งที่ คสว. ๐๔๑๑๑๓/๕๕๓๒.๑ เรื่อง ตราตั้งไวยาวัจกรวัดคุ้งตะเภา [_______].
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (๒๕๕๖). ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕. ลงวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2555). แบบรายงานอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี 2555 : วัดคุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์. อุตรดิตถ์ : สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (อัดสำเนา). หน้า 1-233
- ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์. (2554, 19 มกราคม). ประกาศจังหวัดอุตรดิตถ์ เรื่อง จัดตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ประจำปี 2554.
- หนังสือกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ สธ ๐๕๑๔.๐๒/๘๖๒ ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕
- หนังสือวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ที่ ศธ ๐๕๑๒.๗๘/๕๓๗๙๓๑๐๓๕๓ ลงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-13. สืบค้นเมื่อ 2012-07-13.
- วัดคุ้งตะเภา. (2563). วัดคุ้งตะเภา รับรางวัลโล่และพัดวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๓ (อันดับที่ ๑ ระดับประเทศ) 2020-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เว็บไซต์วัดคุ้งตะเภา : เข้าถึงเมื่อ 19-10-63
- ประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง ผลการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 2020-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ลงวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
- ประกาศกรมการศาสนา เรื่อง ลานธรรมลานวิถีไทยตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๖๒ 2020-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ลงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓
- หนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ พศ ๐๐๐๓/๐๒๖๗๗ เรื่อง การจัดสรรเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2560). ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่างและอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี 2559. ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ส.ปชส.อุตรดิตถ์. (2558). ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ มอบรางวัลและโล่ประกาศเกียรติคุณ โครงการแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองจังหวัดอุตรดิตถ์ . [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://pr.prd.go.th/uttaradit/ewt_news.php?nid=2676&filename=index 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม. (2558). ผลการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวง ระดับประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ด้านการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม (ระดับประเทศ). [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.m-culture.go.th/surveillance/index.php/2013-06-07-06-47-37/2013-06-19-04-16-42/item/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เดลินิวส์. (2558). วธ.ดึงเยาวชนร่วมบริหารงานวัฒนธรรม. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.dailynews.co.th/education/351637
- หนังสือสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ ทส ๐๘๐๕/ว.๖๖๔ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2558). ยก 32 วัดต้นแบบ แก้ไขปัญหาเหล้าบุหรี่. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.thaihealth.or.th/Content/28527-%E0%B8%A2%E0%B8%81%2032%20%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%20%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%20.html
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2558). ประกาศเกียรติคุณวัดต้นแบบรูปธรรมควบคุมปัจจัยเสี่ยง ในโครงการเสริมพลังเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาเพื่อสังคมควบคุมปัจจัยเสี่ยง. ลงวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
- ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๖ ประกาศ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗
- กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2557). ปประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๖. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา [7] 2015-02-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 11-10-57
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์. (๒๕๕๗). ประกาศเกียรติคุณวัดส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ชนะเลิศระดับจังหวัด ในงานมหกรรมผู้สูงอายุสุขภาพดี ๘๐ ปี ยังแจ๋ว วัดส่งเสริมสุขภาพ และชมรมเข้มแข็ง ระดับจังหวัด ปี ๒๕๕๗. ลงวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
- วัดคุ้งตะเภา. (2557). วัดคุ้งตะเภา รับโล่รางวัลวัดส่งเสริมสุขภาพ ชนะเลิศระดับเขต ประจำปี ๒๕๕๗ . [ออนไลน์]. แหล่งที่มา [8] 2016-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หนังสือศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ อต ๐๐๓๔/๓๕๕ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง แจ้งผลการคัดเลือกหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๕
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (๒๕๕๖). ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ผลการคัดเลือกหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕. ลงวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (๒๕๕๕). ประกาศเกียรติคุณหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่นอันดับหนึ่ง ระดับจังหวัด ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕. ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (๒๕๕๕). ประกาศเกียรติคุณหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่นในระดับอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕. ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
- ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์. (๒๕๕๒). ประกาศเกียรติคุณวัดปลอดเหล้าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดอุตรดิตถ์ ปี ๒๕๕๒. ลงวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
- กองบัญชาการทหารสูงสุด. (๒๕๔๖). รางวัลเกียรติยศดีเด่น ศูนย์พัฒนาคุณธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ วัดคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานะศูนย์พัฒนาคุณธรรมตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพ ตามโครงการ กองทัพธรรม กองทัพไทย ต้านภัยยาเสพติด ประจำปี ๒๕๔๖. ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
- สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ. (๒๕๕๗). ประกาศเกียรติคุณพิพิธภัณฑ์ต้นแบบการเรียนรู้ ประเภทวัดและชุมชน ๒๕๕๗. ลงวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซด์วัดคุ้งตะเภา https://sites.google.com/site/watkungtaphao 2015-10-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ วัดคุ้งตะเภา
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdkhungtaepha epnwdobraninekhtkarpkkhrxngkhxngkhnasngkhmhanikay aelaepn 1 in 9 wdskdisiththisakhykhxngcnghwdxutrditth tngxyuthihmubankhungtaepha tablkhungtaepha xaephxemuxngxutrditth cnghwdxutrditth iklkbcudtdsiaeykkhungtaepha bnthanghlwngaephndinhmayelkhthi 11 thnnsayexechiy epnwdpracatablkhungtaephawdkhungtaephaphaphcakbnlnglang sayipkhwa xnusawriykhubarmikuaephndinhnawdkhungtaepha sumpratuwd xuobsthaelasalakarepriyy phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni sakxithobranbriewnkhayphratahnkhadsung smudkhxykdhmayphraxykaremuxngemuxngswangkhburiinphiphithphnththxngthinwdkhungtaephachuxsamywdkhungtaephathitng285 hmuthi 4 bankhungtaepha thanghlwngaephndinhmayelkh 11 thnnsayexechiy tablkhungtaepha xaephxemuxngxutrditth cnghwdxutrditth 53000praephthwdrasdrnikaymhanikay ethrwath phraprathanphraphuththsuwrrnephtraphraphuththrupsakhyphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni hlwngphxsuokhsmvththi ecaxawasphrasmuhsmchay cirpuy oyphracaphrrsa15 rup phrrsapi 2554 ewlathakar06 30 n 18 30 n cudsnicphraphuththrup phrabrmsaririkthatu phiphithphnththxngthinaelaswnphvkssastrsmuniphrwdkhungtaephakickrrm ethskalihwphrapidthxngsxngmhaphuththptimakrskdisiththiwdkhungtaepha hmayehtuewbisdwdkhungtaepha www watkungtapao thmy comswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna wdkhungtaephaepnwdobranmatngaetsmykrungsrixyuthya aelaidrbsthapnakhunihminsmysmedcphraecakrungthnburi emuxpi 2313 epnwdaehngediywinprimnthlemuxngphichyaelaswangkhburi thiprakthlkthankarsthapnawdinpinn tananelasubknmawa phraxngkhthrngphrakrunaoprdekla ihyaykhnklbmatngkhrweruxn srangwdaelasalakarepriyykhunihm n rimkhungsaepha phrxmthngtrseriykchuxwdthitngkhunihmniwa wdkhungtaepha pccubnthangrachkaridnachuxkhungtaephaipichtngepnchuxhmubanaelachuxtablkhungtaephasubmacnpccubn wdekhyepnthisthitykhxngphrakhruswangkhmuni ecakhnaihyemuxngfangmatngaetobran xikthngepnthipradisthanphrabrmsaririkthatu aelaphraphuththrupskdisiththikhxngcnghwdxutrditth phraphuththsuwrrnephtra aela phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni pccubnwdkhungtaephaepnwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn epnsankptibtithrrmpracacnghwdxutrditth aehngthi 3 sankptibtithrrmphayitkarkakbkhxngmhaethrsmakhm aelaepnwdpracatablthimisthitiphraphiksusamenrcaphrrsamakthisudintablkhungtaepha epnsunyklangthangdansasnsuksainkhnasngkhtablkhungtaepha aelamixayuekaaekthisudinekhtpkkhrxngkhnasngkhtablkhungtaepha epnthitngkhxngsanknganihymulnithi 250 pi wdkhungtaepha sunysuksaphraphuththsasnawnxathity sanksasnsuksapracatabl aelahnwyxbrmprachachnpracatablkhungtaepha xpt sungepnhnwyxbrm thimiphlngandiednradbcnghwdxutrditth odymi phrasmuhsmchay cirpuy oy aesngsin epnecaxawaswdkhungtaepha cr prawtikartngwd wdkhungtaephaepnwdobran immihlkthanaenchdwaerimsrangmaaetsmyid cakhlkthanthangobrankhdithiphbinbriewnwd echn esskraebuxnghlngkhatakhxdinephaaekrngaebbimekhluxb essphachnakraebuxngekhluxbsmyrachwngsching aelaessxithobranxayurawphuththstwrrsthi 22 23 inbriewnwd snnisthanwaphunthitngwdkhungtaephanacaerimmiphraphiksucaphrrsamatngaetsmyxanackrxyuthya inchnexksarmiephiynghlkthansubkhnchnekasudrabuwaidrbxnuyatihtngwdinsmythnburi ph s 2313 xnepnpithismedcphraecakrungthnburiesdckhunmaprabchumnumecaphrafang n emuxngswangkhburi phrxmoprdekla ihcdkarkarpkkhrxnghwemuxngfayehnuxihm sunginkhrawnnphraxngkhidprathbxyucdkarkhnasngkhhwemuxngfayehnux n emuxngswangkhburi tlxdvdunahlak sungwdkhungtaephaepnwdephiyngaehngediywinaethbyanemuxngphichyaelaswangkhburi thiprakthlkthankarsthapnawdkhun emuxkhrawthiphraxngkhthrngcharakhnasngkhhwemuxngehnuxihminpiskrachnn dngprakthlkthaninphrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim xyangirktamcakhlkthantanankhxngchuxhmubankhungtaepha thaihthrabwawdkhungtaephamixayumatngaetsmykrungsrixyuthya hakaetepnwdthiphksngkhinchumchnkhnadelk immisasnsthan cungxactksarwckarkhunthaebiynkhxngkrmkaremuxnginsmyxyuthya hruxxacepnipidwahlkthanidsuyhayipemuxkhrawsngkhramesiykrungsrixyuthyakhrngthisxngaelw thaihnamwdephingmiinthaebiynin ph s 2313 phraxngkhsthapnawdkhungtaepha aelasrangsalabxkmul khuninkhrawediywknephuxihepnsunyrwmchumchnaelaepnthiphanksngsxnkhxngphrasngkhphuthrngphumithrrmthithrngxarathnanimntmacakkrungthnburi enuxngcakkhwamsakhyyingthiwdkhungtaephaepnwdinchumchnkhnithydngedim thimithitngxyuehnuxsud thayphrarachxanaekhtkrungthnburiinsmynn tamsphaphthitngthangphumisastrmaaetobran wdkhungtaephasrangtidxyurimaemnananfngtawnxxk edimchux wdkhungsaepha hruxokhngsaepha caktananthiechuxknmawainsmykxnidekhymieruxsaephaxppanglnginbriewnni tngxyuinekhttablthaesa khunkbemuxngphiichy txemuxphanewlananmainsmythnburi caktananhmubanklawwa smedcphraecakrungthnburithrngepliynchuxepn khungtaepha sphaphwdinxdit prakthlkthantamprawtikrmkarsasnawa insmyxanackrthnburi wdkhungtaephamisalakarepriyyxyurimaemnahlnghnung ichsahrbbaephykuslsahrbhmubanthitngxyurimaemnananinyanni txmaphayhlngaemnananepliynthisthangedinxxkipiklcakwdmakkwa 1 esn cungekidaephndinngxkkhunmahnawdsungepnthxngnaedim khnaediywknkmiekaaekidkhunhnawddwytrngbriewnhnakhayphrayaphichydabhkpccubn chawbanyantablnixasysalawdkhungtaephaepnsthanthielaeriynmaodytlxd miphrasngkhepnxacarybxkhnngsuxmulthngcindamniaelamulbthbrrphkicrwmipthungelkhkhnittang wdaehngnimikhwamecriymaodyladbinsmyrtnoksinthr cninsmyrchkalthi 5 wdkhungtaephaidklayepnsunyklangkarsuksaaelapkkhrxngkhxngkhnasngkhinaethbni odyprakthlkthanwa in ph s 2431 ecaxthikarcn ecaxawaswdinsmynn idrbphrarachthantalptrphudtalthxngaephlwd tngsmnskdiinrachthinnamthi phrakhruswangkhmuni darngtaaehnngecakhnaihyemuxngfang phrxmidrbphrarachthanphdrxngohmd yamsklad batrthungsklad kanathwykraothnthwyrmrxngetha epnekhruxngysprakxbtaaehnngecakhnaihyemuxngfangxikdwy inpi ph s 2442 praktrayngankarsuksamnthlphisnuolk idrabuwa wdkhungtaepha miphra 8 rup sisywd 6 khn miecaxthikarrxdepnecaxawas aelaphuihychun epnmrrkhnayk sungaesdngihehnthungkhwamecriyrungeruxngkhxngwdkhungtaephainsmynnidepnxyangdi cntxmainpi ph s 2465 mikarcdkarsuksaihm wdkhungtaephacungmikhruepnkhrawassxnaethn eriykwaorngeriynwdkhungtaepha aetyngtngxyuinsalakarepriyywdkhungtaephaducedim odyaebngepn 4 chn tngaetprathm 1 thung 4 sungorngeriynwdkhungtaephaninbepnorngeriynaehngaerkkhxngtablkhungtaephaaelaaethbyanaemnananfngtawnxxk inchwnghlngma aemnananinvdunahlakidkhunkdesaatlingwdphngcnekuxbthungtwsalakarepriyy chawbanekrngsalacaidrbkhwamesiyhay cungpruksaknyaysalakarepriyyemuxpi ph s 2472 xyangirkdi tngaetsmyrchkalthi 5 aemnananidepliynthisthangcakwdipmakaelw thaihwdinchwnghlngtngxyuiklcakaemna khwaminphrarachhtthelkhakhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwkhrawesdcpraphasmnthlfayehnux thaihthrabwainsmynnhadhnawdidngxkcaktlingaemnaedimipmakaelw aelakhngmisaphanimthxdyawlngiphaaemnananmakxnhnann odyinwnthi 25 tulakhm ph s 2444 phraxngkhthrngsngektwawdkhungtaephaaeplkkwawdxuntrngthimisaphanimthxdyawmahaaemnanan thrngmiphrabrmrachathibaywa aelehnphumimwdaelbanlib aetinkarthicamatxnrbnn txngmatkaetngsumaelprabnhadsungimmitnimaetsktnediyw aeddkalngrxntxngmacakbaniklepnhnkepnhna wd khungtaepha thitngxyubntlinghlnghadtxngthatphanyawnbdwyesn lngmacnthunghadthirimna aetthanaaelngechnni tphannnkxyubnthiaehng aelyngsahangnapramanesn 1 hrux 15 wa thacalngeruxyngtxngluynalngmaxik 10 wa 15 wa dwyehtuthiaemnaepliynthisipiklcakwdinphayhlng thaihaemnananhnawdklayepnthingxk aetkyngkhngsphaphepntlingekathiklayepntlinglamabkhxngaemnananinvdufn mibungnakhnginchwnghnaaelngbang phrasngkhaelachawbankhungtaephainsmynncungsrangsaphanimyawtxcakwdlngkhammalngbungkhungtaephaaelalngipaemnananephuxkarsycraelaxupophkhbriophkh sphaphwdinpccubn txmainpi ph s 2493 hmubankhungtaephaprasbxuthkphykhrngihy thaihbaneruxnidrbkhwamesiyhaymak prakxbkbesnthangkhmnakhmodyaemnananidthukldkhwamsakhyinthanaesnthangkhmnakhmkhakhaysakhykhxngphumiphakhlngmakxnhnannaelw cakartdesnthangrthifphanemuxngxutrditthin ph s 2459 thaihchawbankhungtaephayaythitnghmubankhunmatnginthidxncnthungpccubn aelahlngcakkartdesnthangrthifphanemuxngxutrditththithaihaehlngchumnumkarkhayanthaesaaelathaxithhmdkhwamsakhylngdngklaw idmaprakxbkbkarthithangrachkarsrangekhuxnsirikitipidknaemnananinekhtxaephxthaplainpi ph s 2510 thaihkarkhmnakhmthangnakhxngchawbankhungtaephayutilngsineching chawbanaelaphrasngkhcungtxngepliynmaichesnthangkhmnakhmthangbkepnhlk odyichesnthangeliybaemnananthitngxyuhnasalakarepriyyhlngeka hlngthiyaycakrimnakhunmaemuxpi ph s 2472 epnesnthangsycr pccubnhlngcakmikartdthanghlwngaephndinhmayelkhthi 11 phanhlngwdkhungtaephainpramanpi ph s 2522 thaihbriewnhnawdkhungtaephathiichesnthangsycrmatngaetsmyxyuthyatxngepliynmaepnhlngwd aelaphunthidanhlngwdinsmykxnklaymaepnhnawddnginpccubn phaphphaonramawdkhungtaephain ph s 2552puchniywtthuphraphuththsuwrrnephtraepnphraprathaninxuobsth phraphuththsuokhsmvththixutrditthmunipradisthaninhxphra bnxakharsalakarepriyy wdkhungtaephamiphraphuththrupskdisiththicanwn 2 xngkh aelamibrrcuphrabrmsaririkthatu phraphuththrupskdisiththi 2 xngkh idaek phraphuththsuwrrnephtra hlwngphxsuwrrnephtra epnhnunginphraphuththrupskdisiththisakhy 9 xngkhaehngxutrditth xngkhphrahlxdwyolhapangmarwichy hnatkkwang 47 niw sung 62 niw tlxdthungphrarsmi miphuththlksnasmysuokhthy sthapnaodyphrakhruthrrmkiccaphibal xditphrakhruekciinxdit xngkhphraidxyechiymapradisthanepnphraphuththrupprathaninxuobsthwdkhungtaepha aela phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni hlwngphxsuokhsmvththi epnphuththlksnapangmarwichy hlxdwythxngsmvththibrisuththi hnatkkwangsxkess miphuththlksnangdngamtamaebbxyangskulchangsuokhthy echiyngaesn edimxngkhphrathukphxkpunlngrkpidthxngxarkkhaphyiw twxngkhphrasariddngpraktinpccubnnnsnnisthanwasranginsmyaerkkxtngkrungsuokhthyinchwngphuththstwrrsthi 18 phrabrmsaririkthatuwdkhungtaepha wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Buddha s relics at Wat Khung Taphao phrabrmsaririkthatu thismedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk thrngprathanih busbkpradisthanphrabrmsaririkthatusampraeths n wdkhungtaepha phxbhinsbuaelaxngkhphrabrmsaririkthatucakpraethsxinediy thipradisthaninwdkhungtaepha wdkhungtaephamiphrabrmsaririkthatupradisthaniwphaynxkphramhaecdiypid odyidrbmxbprathanmacaksmedcphrasngkhrachaelasmedcphrasngkhnaykcakthnginaelatangpraeths thukswnlwnmiexksaraelahnngsuxkakbphrabrmsaririkthatuaesdngwaepnkhxngphrabrmsaririkthatuswndngedimaeththirksasubthxdmaaetobrantngaetsmyphuththkal pccubnsthityphayinphxbaekwphayinphrartnecdiyaekw pradisthanbnphraaethnbusbkbrmkhnthkudiphayinrtnkudiphuththwihar klangxakharxsitiwssayumngkhlmhasalakarepriyywdkhungtaepha epidihprachachnskkarbuchaidthukwn swnthiidrbmacaksmedcphrasngkhnaykaehngpraethsphmann wdidrbmxbthwaytxmacakphrathrrmthirrachmhamuni ethiyng xkh khthm om ecaxawaswdrakhngokhsitaramwrmhawihar ecakhnaphakh 11 nkhrrachsima burirmy chyphumi surinthr sungmicanwn 3 phraxngkh pccubnesdcephimmaxik 1 phraxngkh rwmepn 4 phraxngkh epnphrabrmsaririkthatuswnwippkinnthatu sungepnkhxngedimthirthbalphmanaody xunu naykrthmntrikhnaerk khnphb swnthiidrbmxbprathanmacakphrasngkhrachithy micanwn 9 phraxngkh epnphrabrmsaririkthatuswnphraxngkhkhxngsmedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk sungepnphrabrmsaririkthatuthirksasubmatngaeterimmikarephyaephsasnaphuththinaephndinithy phrabrmsaririkthatucakpraethssatharnrthxinediyepnphrabrmsaririkthatuthiidcakkarthwayphraephlingphrabrmsphphraokhtmphuththeca n mkutphnthnecdiy krungkusinara aekhwnmlla odywdkhungtaephaidrbmxbthwaycak phrakhrupldsuwthnphuththikhun Phrakru Paladsuvatanaputthikun Dr Visine Vajiravungso prathansngkhwdithysirirachkhvh xaephxnalntha rthphihar satharnrthxinediysthaptykrrmsakhywdkhungtaephaprakthlkthanobransthanphayinwdmisthaptykrrmaebbithyklang salakarepriyywdkhungtaephakxnkarburna inpi ph s 2549sthaptykrrmithyphakhklang salakarepriyyimekhruxngsbobran salakarepriyywdkhungtaepha inpi ph s 2555 salaprathanwdkhungtaephahlngniepnxakharthrngorngekhruxngsbaebbphakhklangobran cakprawtihlkthankarsthapnawdkhungtaephaklawwain ph s 2313 rabuwawdmisalakarepriyyekaaekxyuhlnghnung tngxyurimaemnanan chawbankhungtaephaidyayokhrngsrangsaladngklaw ma n thitngpccubninpi ph s 2472 odykhngrupaebbekaaetkhrngthnburiiwdwy phumisphaptykrrmmirupaebbsalaobranthimimatngaetsmyxyuthya miokhrngsrangkhlaykbsalakarepriyywdihythaesa odykhwamekaaekkhxngokhrngsrangaelarupaebbsalalksnani xacaryphiess eciycnthrphngs phuechiywchayphiesspracakrmsilpakrklawwa epnrupaebbokhrngxakharsalakarepriyythimikhwamekaaekmatngaetsmyxyuthya mxmkhabnakhpunpnsilpalannaaeth hwbnidxuobsthwdkhungtaepha cakthitngkhxngtwsalann epnhlkthansakhythiaesdngihehnwawdaehngniepnwdobran thaihthrablksnakarxyuxasyaelasycrkhxngkhnobraninaethbniid ephraathitngkhxngtwsalawdinsmykxnnnmktngxyurimaemna pccubnaemnananidtunekhinhangcaktlingsalawdipmakkwa 1 kiolemtr epnhlkthanyunynthungkhwamepnwdaelahmubanthimiprawtisastrxn yawnankwawdaelahmubanxuninaethbni edimnn kxnsmyrchkalphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw rchkalthi 7 twsalaedimtngxyurimaemnanan xnepnthangsycrkhmnakhminsmykxn immihlkthanaenchdwasalainthitngedimnnsranginsmyid khadwaxaccasrangmaaetkhrngaerktngwdinsmyxyuthyatxnplay cakhlkthanbxnakhangbnidsalathaihthrabwasalahlng niyaythitngkhunmacakrim aenwaemnananedimbriewntnophthihlngwdmatnginphunthipccubn inpi ph s 2472 odytwokhrngsalaprathaninpccubnthiyaymaninacamixayuekuxbrxypiaelw salakarepriyyhlngnikxnburna epnsthaptykrrmaebbithyphakhklang srangdwyimenuxaekhng esathuktnepnesasiehliym epnxakharthrngorngkhnadklang hlngkhapradbchxfaibrakahanghngspunpn hnabnepnphunimeriyb edimepidolngthngsidan michayyunxxkmarbthangkhunsalathangthisehnux xksrkhangbnidsalarabuwasranginpi ph s 2483 salahlngniichepnxakharsahrbbaephykuslhlkkhxngwd mikarburnaaelatxetimcaktwokhrngsalaedimmaepnraya txmaidmikartxetimpidthubechphaadanhxphra hxngekbkhxngkhxngorngkhrwdanthistawnxxkaelatawntkbangswn aelamikarsrangbnidihmthangdanthistawntkhlngcakmikarsrangthnnsayexechiy inyukhhlng ph s 2500 inplaypi ph s 2549 thangwdkhungtaephaidthakarburnaaelatxetimsalakarepriyykhrngihy pccubnyngkhngthakarburnatxetimxyu mikarruxxakharprakxbthnghmdxxk odyyngkhngrksaokhrngimtwsalaprathanedimiwxyu sunghlngburnaesrc hakmxngcakphaynxksalacaimsamarthehntwhlngkhasalaedimidxiktxip ephraakarburnannmikaresrimmukhaelasrangxakharprakxbpidrxbtwsalaprathanthngsidan sumpratuwdkhungtaepha sumpratusthaptykrrmsilpalannakhnadihythisudaehnghnungincnghwdxutrditthsthaptykrrmlanna sumpratuokhngwdkhungtaepha sumpratuwdkhungtaepha tngxyubriewnhnawdrimthangaeykkhungtaepha thanghlwngaephndinhmayelkh 11 hrux thnnsayexechiy lksnasumepnsumpratuthrngithyprayuktsilpalannakhnadihy xxkaebbodyslaemuxngehnux prayuktcakrupaebbecdiylannaphsmrupaebbsumpratuokhngaebblanna brrcuphrabrmsaririkthatucanwn 3 xngkhbnxngkhecdiybnyxdsum pradisthanphraphuththrupthisumcrnmthng 4 dan pradbesaaelatwsumdwylwdlaypunpnstwhimphantaelalayekhruxethasilpalan naswyngam okhrngsumpratuthadwykhxnkritesrimehlkthngsum thanesaekhmethpunaethngesrimehlkluk 5 emtr khnadkwang 5 emtr sung 19 emtr sumpratunisrangaelwesrcbriburnemuxpi ph s 2545 phrathrrmecdiy busbkprasathefuxngsilpalannaphayinwdkhungtaepha wdkhungtaephamiecdiykxxiththuxpunekaaekxyuxngkhhnung misnthanaebbecdiyyxmumimsibsxngprayukt xngkhecdiymisumcrnmthng 4 this yxdplxngichnnphsury lwnthadwypunpnthngsin snthansung 3 emtrodypraman sumcrnmecaachxngelk sahrbiwchangimaelaekhruxngbuchapidhnasumdwyaephnkrack pccubnkhngehluxsmburnephiyngdanthistawntkaelathisit briewnkhxxngkhecdiymikrxbxksrthadwypunmixksrcarukwa eduxnmithunayn 2493 naybutr nangif kxphrathrrmecdiyxuthisihecaxthikarkxng ecdiynichawbankhungtaephakhnrunkxneriykwaphrathrrmecdiy hruxthrrmecdiy iwsahrbbrrcuiblanthrrmsahrbbucha phuthiyngthnmaehnkhnasrangecdiyklawwaphusrangecaachxngbriewnxngkhecdiy sahrbiwbrrcuphrathrrmiblan pccubnkhadwaiblankhngepuxyyuyhmdaelw enuxngcakkhwamcharudaelakhwamchunkhxngxngkhecdiy phrathrrmecdiyobranwdkhungtaepha nxkcaknibriewnthistawnxxkkhxngphrathrrmecdiyyngmiphumasrangecdiybrrcuxthibrrphburusdwyodylxkaebbphrathrrmecdiyipsrang odyeriyngcakthisehnuxipthisit thanelawaecdiyxngkhaerkepnecdiyrwmsahrbbrrcuxthikhxngbrrphburuschawbankhungtaepha odyekhymisumimkradanelk ekhiynilsaybrrphburusbankhungtaephaxyu aetpccubnniidsuyhayiphmdaelw sthaptykrrmaebbphsm xuobsthwdkhungtaepha xuobsthwdkhungtaepha erimsranginpi ph s 2492 aelasrangesrcemuxpi ph s 2498 xakharxuobsthniepnxakharpunhlngaerkkhxnghmubankhungtaepha sthaptykrrmedimepnrupaebbxuobsththrngithyprayuktchangfimuxphunban daninpradisthanphraphuththrupprathanminamwa phraphuththsuwrrnephtra phudariihcdsrangkhux phrakhruthrrmkiccaphibal klm suwn on xthibdisngkhwddxythaesa aelaekcixacaryrupsakhykhxngcnghwdxutrditthinsmynn xuobsthwdkhungtaepha xuobsthhlngniidrbkarburnaihyin pi ph s 2537 odydarikhxngphrasmuhsmchay cirpuy oy ecaxawaswdkhungtaepharuppccubn odythakarburnaesrcinpi ph s 2539 mikarepliynaeplngsthaptykrrmipcakedimmak odykarburnakhrnghlngsud idmikarkxsrangepnrupaebbsthaptykrrmphsmthngithyklangaelalanna ephuxaesdngihehnthungbribthwthnthrrmkhxngcnghwdxutrditth thiepnaehlngsunyrwmkhxngklumchatiphnthiththihlakhlay thngithyaelalannathixyurwmknxyangsngbsukh xakharsalakarepriyyechlimphraekiyrti salakarepriyywdkhungtaephahlngihm xakharsalakarepriyyechlimphraekiyrti hrux xakharechlimphraekiyrtixsitiwssayumngkhl epnokhrngkarkxsrangxakharihmlxmrxbsalakarepriyythrngorngimekhruxngsbobrankhxngwd bnphunthitngrxbsalakarepriyyhlngeka odyxakharihmiderimsrangkhuninpi ph s 2550 epnxakharthrngithyprayukt phsmphsansthaptykrrmthngsmyobranaelaihm misumhnabnpunpn phunpudwyimenuxaekhngthngxakhar nbepnxakharsalakarepriyypuphundwyimenuxaekhngthimikhnadihythisudincnghwdxutrditth pccubnokhrngkarinswnxakharkhubhnaipidrxyla 90 ph s 2553 emuxokhrngkarniesrcsin casamarthrxngrbprachachnidthung 1 500 khn aelaphunthiinxakharcathukichepnsanknganwdkhungtaepha sunysarsneths sankngansanksasnsuksawdkhungtaepha hxsuwrrnephtramhasngkhsmakhm hxngprachumsngkhprbxakas hxsngkhkittikhunanusrn hxsmudwdkhungtaepha aelahxngphiphithphnthphunbanwdkhungtaepha kudipnhya kudiecaxawaswdkhungtaepha sthaptykrrmrwmsmy hmukudiimwdkhungtaepha hmukudiimwdkhungtaepha srangkhuninthitngpccubninchwng ph s 2500 odyyaymacakthitngedimbriewnhlngwdrimaemnananeka ephuxprbthisthangihtxngtamhlkthksawdobran hlngkarsrangxuobsthkhxngwdinpi ph s 2498 epnxakharklumkudisngkhhlngkhathrngpnhyaimenuxaekhng 2 chn thiidrbxiththiphltxenuxngmacakyukhepliynaeplngkarkxsrangsthaptykrrmbaninsmyrchkalthi 5 aetmikarsrangchannngldradbaebbxakharbanthrngithyobran sungekhyepnrupaebbhmukudisngkhfaimpraknaebbphakhklangobranxayunbrxypikhxngwdthithukruxthingephraakhwamthrudothrm hmukudisngkhwdkhungtaephaeka mikartxetimaelasrangmaodytlxd odyxakharhlngaerkkhuxkudiekathisrangodykannhlng fksd aelamikarkxsranghxswdmnt aelakudiecaxawas matamladb thukxakharmithangedimechuxmthungknhmd thukxakharyngkhngxyuinsphaphthiichkariddi pccubnkudiecaxawaswdkhungtaephayngidepnthitngkhxngtucdaesdngkhxngphiphithphnththxngthinwdkhungtaephaxikdwyxanaekhtthitngwdwdkhungtaephaidrbxnuyatihsrangwdinsmykrungthnburi emux ph s 2313 immihlkthanrabuwamiphunthiwdethaid snnisthanwaphunthitngwdekaxyutidrimaemnanaeka pccubntwwdthicaphrrsakhxngphrasngkhtngxyubnphunthidxn hangcakrimaemnananekapraman 20 emtr ekhtticiwrawipwas phaphthaydawethiymwdkhungtaepha aesdngihehnthungphunthitngkhxngwdkhungtaephadngni ekhtwisungkhamsima aesdnginkrxbsiehliymrabaysietha klangekhtticiwrawipwas ekhtticiwrawipwas aesdnginkrxbesnsiehluxng ekhtthitngwdnxkekhtticiwrawipwas aesdnginkrxbsikhaw ekhtchapnsthan aesdnginkrxbesnsinaengin ekhtthithrnisngkh aesdnginkrxbesnsiaedng ekhtthidinthiidrbthwaythiimmihlkthanaesdngkrrmsiththi aesdnginkrxbphayinesnsiaedngnxkekhtkrxbesnsinaengin pccubntwwdtngxyubnphunthidxn hangcakrimaemnananekapraman 20 emtr mixanaekhtsmmutiticiwrawipwas hruxekhtthitngphayinkaaephngwd enuxthi 10 iress emuxrwmkbphunthixanaekhttidtxkbphunthitngwddansalahlngekanxkkaaephngthangthisehnuxlngipphunthithxngaemnananobran camiphunthikrrmsiththirwm 14 ir 3 ngan 80 tarangwa epnphunthihlkkhxngwd sahrbphrasngkhsamenrcaphrrsaaelaepnsthanthiprakxbsngkhkrrmaelakickrrmthangsasnakhxngphrasngkhaelachawban ekhtticiwrawipwaswdkhungtaepha mixuobsthepncudsunyklang miphunthitidtxkbthidinkhangekhiyng dngtxipni thisehnux cdkbthidinmikrrmsiththikhxngchawban edimtidaemnananeka mikaaephngwdknepnekht thisit cdkbthidinmikrrmsiththikhxngchawban mikaaephngwdknepnekht thistawnxxk cdkbthangsatharnpraoychn mikaaephngwdknepnekht thistawntk cdaemnanan trngkhamkhayphichydabhk mthb 35ekhtwisungkhamsima wdkhungtaephaidrbphrarachthanwisungkhamsima hruxphunthitngsahrbthaxuobsthsngkhkrrm emuxwnxngkharthi 13 singhakhm ph s 2490 enuxthikwang 10 emtr yaw 29 emtr mienuxthikwang 10 emtr yaw 29 emtr tngxyuphayinekhtticiwrawipwaskhxngwd xakharswnchapnsthanbnphunthitngthrnisngkhwdkhungtaepha twxakharthitngbnwisungkhamsimahruxxuobsthnn erimsrangemuxpi ph s 2492 aelwesrcinpi ph s 2498 odyxakharxuobsthniepnxakharpunhlngaerkkhxnghmubankhungtaepha daninpradisthanphraphuththrupprathanminamwa phraphuththsuwrrnephtra phudariihcdsrangkhux phrakhruthrrmkiccaphibal klm suwn on xthibdisngkhwddxythaesa aelaekcixacaryrupsakhykhxngcnghwdxutrditthinsmynn xuobsthhlngniidrbkarburnaihyin pi ph s 2537 odydarikhxngphrasmuhsmchay cirpuy oy ecaxawaswdkhungtaepharuppccubn odythakarburnaesrcinpi 2539 ichenginburnacanwn 1 6 lanbath thithrnisngkh wdkhungtaephamithithrnisngkhepnkrrmsiththicanwn 2 aeplng thrnisngkhaeplngthihnung mienuxthi 2 ir 1 ngan 58 tarangwa ochndthidin elkhthi 5014 elm 51 hna 14 aelathithrnisngkhaeplngthisxng mienuxthi ir 1 ngan 24 tarangwa ochndthidin elkhthi 76233 elm 763 hna 33 thithrnisngkhthngsxngaeplng tngxyuhangcaktwwdkhungtaephapraman 100 emtripthangthistawntkechiyngit phunthithrnisngkhni edimepnphunthisusankhxnghmukhungtaephathimikarknekhtaennxn txmainpramanpi ph s 2510 chawbancungidykthithrnisngkhniepnphunthichapnsthanwdkhungtaepha sahrbichpraoychnhlkinkartngemruaelasalathrrmsngewch txmachwngpi ph s 2539 mikaraebngphunthidantidthanghlwngaephndinhmayelkh 11 sahrbtngrankhachumchn thnakharhmuban thithrnisngkhwdkhungtaepha pccubntngxyutid thanghlwngaephndinhmayelkh 11 phisnuolk ednchy khakhun misumpratuwdkhungtaephaepncudsngektphraphiksusngkhsamenrinsngkdpccubnwdkhungtaephamicanwnphraphiksusamenrcaphrrsainphrrsakalph s 2553 tamthaebiynwdkhxngsanknganphraphuththsasna rwmthngsin 68 rup pccubnwdkhungtaephamicanwnphraphiksusamenrcaphrrsainphrrsakalph s 2553 tamthaebiynwdkhxngsanknganphraphuththsasna rwmthngsin 68 rup aebngepnphrasngkhathikar 2 rup aelaphralukwdinsngkdwdkhungtaephatamphvtinyaelatamthaebiynsuththisngkhxik 15 rup odyepnphrasngkhthrngsmnskdichnphrakhrusyyabtr 1 rup phrathananukrm 1 rup phraepriyy 1 rup samenrepriyy 1 rup phrawipssnacary 3 rup incanwnniepnphrakrrmwacacarycanwn 5 rup khrusxnphrapriytithrrm 8 rup khrusxnsilthrrminorngeriyninsngkdmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly 3 rup aelakhrusxnsilthrrminorngeriyninsngkdmhawithyalymhamkutrachwithyalycanwn 7 rup cbnkthrrmchnexkcanwn 9 rup nkthrrmchnoth 2 rup aelankthrrmchntri 2 rup miphranksuksainradbnkthrrmchntricanwn 5 rup samenrnkeriynthiekhasxbnkthrrmchntriinsngkdwdkhungtaepha 52 rup nkthrrmchnoth canwn 2 rup aelankthrrmchnexkcanwn 2 rup miphrasngkhthisaerckarsuksachnpriyyarwmthngthikalngsuksatxinradbpriyyabnthit priyyatri aelapriyyamhabnthit priyyaoth thngsin 7 rupladbecaxawaswdkhungtaephaaemwdkhungtaephacamixayumakkwasxngrxypi aetenuxngcakimpraktwamikarbnthukhlkthanladbecaxawasiw thaihimsamarthphbraychuxladbecaxawaswdkhungtaephatngaetaerksrangwd xyangirkdiinpi ph s 2535 mikarcdthabychiladbecaxawaswdkhungtaepha odyxasykhabxkelacakkhnrunekainhmubanthiyngcaid samarthsubid 11 ladbdwykn odyimsamarthsnnisthanchwngrayaewladarngtaaehnngkhxngecaxawasaetlarupidchdecn ladbecaxawaswdkhungtaephaethathisamarthsubkhnidmidngtxipni praman ph s 2450 thung pccubn ladbecaxawaswdkhungtaepha ethathimihlkthansubkhnid raynamecaxawaswdkhungtaepha warakardarngtaaehnng xangxing phraphimlthrrm phrarachakhnainsmykrungthnburi ecakhnaihyemuxngfang ph s 2313 imthrabpi phrakhruswangkhmuni ecaxthikarcn ecakhnaihyemuxngfang kxn ph s 2431 kxn ph s 2442 phraxthikarrxd smyrchkalthi 5 r s 118 imthrabpi phraxthikarota eliyngpraesrith imprakthlkthan phraxthikarti imprakthlkthan phraxthikarecim imprakthlkthan phraxthikarephim imprakthlkthan phraxthikarklxng imprakthlkthan phrasmuhplay imprakthlkthan phrapldpwn imprakthlkthan phraxthikarsngwal ph s 2500 imprakthlkthan phraxthikarthwn okhsok niymedch kxn ph s 2509 imthrab phraxthikaremiyn khn tiphol siththichy imprakthlkthan phraxthikarphlisr yanthm om imprakthlkthan ph s 2530rksakarecaxawaswdkhungtaepharaynamphurksakarecaxawaswdkhungtaepha warakardarngtaaehnng xangxingphrakhruiphorcnthrrmsar xxd skharow ph s 2530 ph s 2531phrakhrusucitphthnphithan smphngs smcit ot ph s 2531 ph s 2532raynamecaxawaswdkhungtaepharaynamecaxawaswdkhungtaepha warakardarngtaaehnng xangxingphrakhrupradisththrrmthch thng thitthm om ximchm 25 thnwakhm ph s 2533 7 kumphaphnth ph s 2554phrasmuhsmchay cirpuy oy aesngsin 9 kumphaphnth ph s 2554 pccubn hmayehtu phrathirksawdkxnhnannimxacthrabchuxidladbphraxupchchaywdkhungtaephanbaetxngkhpthmecaxawaswdkhungtaepha tamkhwaminphrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim khux phraphimlthrrm phrarachakhnainsmykrungthnburi thiidrbxarathnacaksmedcphraecataksinmharachodythangrachkar ihkhunmaxyupracasngsxnphrathrrmwinyinemuxngswangkhburi inpi ph s 2313 phrxmkbkarsthapnawdkhungtaephakhuninpinn insmythnburiaelartnoksinthrtxntnnbtngaetnn kxnthicamikdhmayrabukaraetngtngphuthahnathiphraxupchchayodyxnumticakthangrachkariwinsmyrchkalthi 5 6 wdkhungtaephakhngmiphraxupchchayiptamphrathrrmwiny xyangirkdikarkahndihmikaraetngtngphraxupchchayodyfaybanemuxngphungerimmiinsmyrchkalthi 5 thithrngmiprakaseruxngphucabwchepnphraphiksuihmipraknaelakartngxupchchay culskrach 1237 ph s 2419 aelaphrarachbyytilksnapkkhrxngkhnasngkh r s 121 ph s 2445 prakxbkbprakaskrathrwngthrrmkar eruxng tngxupchchaya ph s 2456 insmyrchkalthi 6 wdkhungtaephakimekhymiphraphiksurupididrbkaraetngtngepnphraxupchchayodythuktxngcakthangrachkarxikely dngnninswnnicungepnkaraesdngladbphraxupchchaythiidrbaetngtngodymihlkthanthangprawtisastraelatamkhwaminkhx 9 aehng kdmhaethrsmakhm chbbthi 17 ph s 2536 wadwykaraetngtngthxdthxnphraxupchchay sungmiephiyngcanwn 3 rup dngtxipni ladbphraxupchchaywdkhungtaepha ethathisamarthsubkhnidmidngtxipni ph s 2313 thung pccubn ladbphraxupchchayaehngwdkhungtaepha thiidrbkaraetngtng raynamphraxupchchayaehngwdkhungtaepha idrbaetngtngemux xangxing phraphimlthrrm phrarachakhnainsmykrungthnburi ph s 2313 phrakhruswangkhmuni ecaxthikarcn ecakhnaihyemuxngfang ph s 2431 phrasmuhsmchay cirpuy oy 28 mkrakhm ph s 2561karpkkhrxngwdwdkhungtaepha epnwdthimiphrasngkhxyupracaphrrsamakthisudkwawdxuninekhtpkkhrxngkhnasngkhtablkhungtaephatamsthitinbyxnhlngkwa 10 pikhna klumkudi enuxngcakwdkhungtaephamiphrasngkhcaphrrsamak prakxbkbphunthiwdmikhnadihy miklumkudihlayhlngtngxyuinthistang kracaythwbriewnwd labakaekkarpkkhrxngduael ephuxihsadwkaekkarpkkhrxng ephuxaebngphunthiinkarduaelrksawd ecaxawaswdkhungtaephacungidxxkkhasngecaxawaswdkhungtaepha eruxng tngkhnainwdkhungtaepha ph s 2553 odymikarkahndecakhna xanachnathi aelaphunthipkkhrxngduael odymikaraebngkhnaxxkepn 7 khna eriyngtamthiswnekhmnalika odyerimcakkudixthibdisngkh ecaxawas epntnip minamkhnakhlxngcxngsmphskn dngni khna 1 namwa khnasthityxthibdi khna 2 namwa khnawsiphuththmnt khna 3 namwa khnaxnntephsch khna 4 namwa khnawiewkwasi khna 5 namwa khnamhasalawihar khna 6 namwa khnaxstangkhkudi aela khna 7 namwa khnasntisthan aelahaknasphthaerkkhxngnamkhnathng 7 maekhasnthisphthinphasabaliaelw caidepnkhasmasbalidngni thitwsiyann twiewkmhn tt thmsn ti xanwa thi ta wa si ya nn ta wi ew ka ma hn tt th ma sn ti aeplkhwamwa khwamsngbxnyingihythng 8 xriymrrkhmixngkhaepd xnekidcaksphawasngd sngdcakkielskhuxniphphan xnimmithisinsudxntngxyuaelw odythng 7 khna miphunthiaelasphaphdankayphaphphayinkhnatang dngni khna 1 khnasthityxthibdi thawrwtthuphayinekhtxupcarkhxngkhna 2 wdkhungtaepha khna 1 miekhtxupcarkhnakhrxbkhlumkudiecaxawaswdkhungtaephathngsxngchn xakharhxngnasngkh 2 chn hxrakhng 2 chnaerk briewnphunthiitthangedinechuxmrahwangkhna 1 aelakhna 2 sumpayprachasmphnth miphunthixupcarodyrxb crdbriewnphunthikudithisehnuxnbcakchaykha 2 emtr briewnphunthihnakudithistawnxxknbcakchaykha 6 emtr crdkhxbthnnhlkkhxngwd briewnphunthikudithisitnbcakchaykhahxngnasngkh 2 emtr aelabriewnpayprachasmphnthodyrxbnbcakchaykha 2 emtr khna 2 khnawsiphuththmnt khna 2 khnawsiphuththmnt miekhtxupcarkhnakhrxbkhlumxakharhxswdmntwdkhungtaephathngsxngchn hxngnahxngsmud 1 hxng hxrakhngchnthi 3 briewnbnthangedinechuxmrahwangkhna 1 aela 2 aethngkhna thnnladpunekhakhna 1 esn miphunthixupcarodyrxb crdbriewnphunthirxbxakharhxswdmntwdkhungtaephathisit thistawntk aelathisehnux 5 emtr ewnthistawnxxk ihmiphunthinbcakchaykhaxxkipxik 12 emtr cnsudkhxbthnnhlkkhxngwd thawrwtthuphayinekhtxupcarkhxngkhna 6 wdkhungtaephakhna 3 khnaxnntephsch khna 3 khnaxnntephsch prakxbdwy hxngkudisngkh 7 hxng hxngnapracakhna 3 hxng miekhtxupcarkhnakhrxbkhlumxakharkudiekakannhlngthrngpnhyathngsxngchn briewnthangedinechuxmrahwangkhna 2 aela 3 thngsxngchn thangedinladpunekhakhna 1 esn thnnladpunekhakhna 1 esn miphunthixupcarodyrxb crdbriewnphunthirxbxakharkudiekakannhlngthrngpnhyathisit 8 emtr thistawntknbcakchaykhathangedinechuxmrahwangkhna 2 aela 3 cncrdsudkaaephngwdthistawntk thisehnux 3 emtr sudthitnmakhampxmihy thistawnxxk miphunthinbcakchaykhakudiekakannhlngthrngpnhyaxxkipxik 7 emtr khrxbkhlumpasmuniphr cnsudthangedinethaekhakhna 4 aelanbcakthangedinechuxmrahwangkhna 2 aela 3 ipxik 23 emtr cnsudkhxbthnnhlkkhxngwd thawrwtthuphayinekhtxupcarkhxngkhna 3 wdkhungtaepha kudiekakannhlng epnimtaekhiynthxngthnghlngkhna 4 khnawiewkwasi khna 4 khnawiewkwasi miekhtxupcarkhnakhrxbkhlumxakharkudikrrmthanklangpasmuniphrthngsxngchn miphunthixupcarodyrxb crdbriewnphunthirxbxakharkudikrrmthanthisit 5 emtr thistawntk crdsudkaaephngwdthistawntk aelathisehnux 42 emtr crdsudkaaephngwdthisehnux khrxbkhlumpasmuniphrthnghmd thistawnxxk miphunthinbcakxakharkudikrrmthan 15 emtr sudthiaethngkhekhruxngkrxngnapracawd aelamixupcarkhrxbkhlumphunthilandinhnaxakhar aelathangedinethaekhakhnacakthnnhlkaelacakthnnladpunekhakhna 3 yaw 30 emtr ekhtxupcarkhxngkhna 4 epnphumithsnaebbwdpaklangpasmuniphrkhxngwd thimiphunthikwa 10 irthawrwtthuinekhtxupcarkhna 7 wdkhungtaephapasmuniphrthrrmchatiinbriewnxupcarkhna 4 wdkhungtaephakhna 5 khnamhasalawihar khna 5 khnamhasalawihar miekhtxupcarkhnakhrxbkhlumxakharmhasalakarepriyykhxngwdkhungtaephathngxakhar rwmthungxakharhxchn hxngnapracakhna 20 hxng miphunthixupcarodyrxb thisitnbcakchaykhaxakhar 11 emtr crdthnnrxbxuobsth thistawntknbcakchaykhaxakharhxchn 8 emtr thisehnuxnbcakchaykhacnsudekhtkaaephngwd aelaphunthinxkkaaephng 1 emtr thistawnxxk nbcakchaykhaxakhar 30 emtrcnsudkaaephngwdthistawnxxk khna 6 khnaxstangkhkudi khna 6 khnaxstangkhkudi miekhtxupcarkhnaprakxbdwy phrathrrmecdiy klumkudiediyw 8 hlng hxngna 8 hxng thnnladpunphayinkhna 55 emtr pasmuniphr aelapayprachasmphnth thitngxyuthistawnxxkkhxngwd thistawntknbcakthnnhlkkhxngwdekhama thistawnxxknbcakkaaephngwdekhama thisitnbcakkaaephngwdekhama thisehnuxnbcakthnncuthamaswithiekhama rwmthungbriewnphunthinbcakchaykhahnaxuobsthcnsudkaaephngwd thnnhlkkhxngwdesnehnuxobsthekhamacnsudkaaephngthisit aelaphunthirxbtnithrihyhlngxuobsth khna 7 khnasntisthan khna 7 khnasntisthan prakxbdwy kudisngkh 1 hlng hxngrbrxngphramhaethraprbxakas 1 hlng hxngnapracakhna 2 hxng miekhtxupcarkhnadngni thistawnxxk cakkaaephngwdthistawntkcrdthnnhlkkhxngwd thisehnuxcakkaaephngwdthisitcrdchaykhakhna 1 aela 2karbriharwdenuxngdwywdkhungtaepha cdtngkhunodyepnwdphuththsasnanikayethrwath faymhanikay cungxyuinkarpkkhrxngkhxngmhaethrsmakhm xnepnxngkhkrpkkhrxnghlkkhxngkhnasngkhethrwathinpraethsithy wdkhungtaephainpccubncungdaeninkarsasnkicxyuphayitphrarachbyytikhnasngkh sungepnkdhmaysungsudkhxngkhnasngkhithy aekikhephimetimodyphrarachbyytikhnasngkh chbbthi 2 ph s 2535 odypccubnmibukhlakrthithahnathiekiywkbkarbriharcdkarkickarphayinwdthiidrbkaraetngtngodythuktxngtamkdhmayaelaraebiybkhxngmhaethrsmakhmcanwn 4 khn aebngepnphrasngkhathikarradbecaxawas sungtamphrarachbyytikhnasngkh ph s 2505 ecaxawasthuxepnphupkkhrxngwdtammatra 36 epnphuaethnkhxngwdtammatra 31 wrrkh 3 epnecaphnknganwdtammatra 45 canwn 1 rup aelakhvhsthphuthahnathiiwyawckrcanwn 3 khn xyangirkdi inpccubnwdkhungtaephamiphrasngkhphuidrbphrarachthansmnskdicakphrabathsmedcphraecaxyuhwcanwn 3 rup aebngepnphrathananukrmcanwn 1 rup aelaphraepriyycanwn 2 rup taaehnngsmnskdidngklawepnephiyngkarykyxngechidchuechnediywkbekhruxngrachxisriyaphrn sungimekiywkbkarepnphudarngtaaehnngthangkarbriharcdkarwdtamphrarachbyytikhnasngkhaetxyangid phrasngkhathikarwdkhungtaepha raynamphrasngkhathikarwdkhungtaepharuppccubnrup chux taaehnng phrasngkhathikar taaehnngthangkhnasngkh pidarngtaaehnng phrasngkhathikarphrasmuhsmchay cirpuy oy aesngsin n th exk p bs phth b karcdkarechingphuthth ecaxawaswdrasdr cr prathanhnwyxbrmprachachnpracatablkhungtaepha xpt diedn ecasankptibtithrrmpracacnghwdxutrditth aehngthi 3 phrathrrmthut phrawithyakr pracasunyphthnakhunthrrmcriythrrmcnghwdxutrditth xditelkhanukarecakhnatablkhungtaepharupthi 1 aela 4 xditrxngecaxawaswdkhungtaepha rupthi 1 ph s 2536 2553 xditelkhanukarrxngecakhnaxaephxemuxngxutrditth 19 phvscikayn 2552 1 m kh 2554 ph s 2554 pccubn taaehnng cr wdkhungtaepha ph s 2536 2553 taaehnng rcr wdkhungtaepha dr phramhaethwpraphas wchiryanemthi makkhlay n th exk p th 4 n b nitisastrbnthit rp m rthprasasnsastrmhabnthit Ph D Public Administration rxngecaxawaswdrasdr rcr phrapriytiniethskcnghwdxutrditth khrusxnphrapriytithrrm khruphrasxnsilthrrminorngeriyn phrakrrmwacacary phrathrrmthutsayshrachxanackr phrathrrmthutsaytangpraeths runthi 24 phrawipssnacary phrathrrmwithyakr ph s 2557 pccubn taaehnng rcr wdkhungtaepha iwyawckrwdkhungtaepha pccubnwdkhungtaephamiiwyawckr thahnathichwyehluxphrasngkhthiidrbkaraetngtnginecaxawaswdkhungtaepharuppccubn tamkhwaminkhx 10 aehngkdmhaethrsmakhm chbbthi 18 ph s 2536 odyxasyxanactamkhwaminkhx 7 wrrkhaerk aehngkdmhaethrsmakhm chbbthi 18 ph s 2536 wadwykaraetngtngthxdthxniwyawckr thixxktamkhwaminphrarachbyytikhnasngkh ph s 2505 aekikhephimetimodyphrarachbyytikhnasngkh chbbthi 2 ph s 2535 canwn 6 taaehnng aebngepniwyawckrkhnthi 1 rbphidchxbnganfaybychi bychiaelakarbriharngbdulphayinwd iwyawckrkhnthi 2 rbphidchxbnganfaysasnphithi iwyawckrkhnthi 3 rbphidchxbnganfayphuththsatharnsthan iwyawckrkhnthi 4 rbphidchxbnganfayphuththsasnsuksa iwyawckrkhnthi 5 rbphidchxbnganfayphuththsasnsngekhraah aelaiwyawckrkhnthi 6 rbphidchxbngansngesrimkarptibtithrrm rwmepn 6 khn raynamiwyawckrintaaehnngkhxngwdkhungtaephakhnpccubn inphrasmuhsmchay cirpuy oyrup chux ekhruxngrachxisriyaphrn taaehnng hnathi wnthiidrbkaraetngtngkhrngaerk1 ph x singhnath ophthikla ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthwitiyaphrnmngkudithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chntritaphrnchangephuxk ehriyychysmrphumi karrb n satharnrthewiydnam pradbeplwraebid ehriyyphithksesrichn chnthi 2 praephththi 2 ehriyyrachkarchayaedn ehriyyckrmala ehriyykachadsmnakhun chnthi 3 ehriyythxngaedng emxriotheriys yunith khxmmnedechin thharbk iwyawckr khnthi 1 iwyawckrfaybychi 12 singhakhm ph s 25422 c s x buyeliym aesngwicitr ehriyychysmrphumi karrb n satharnrthewiydnam ehriyyphithksesrichn chnthi 2 praephththi 2 ehriyyrachkarchayaedn iwyawckr khnthi 2 iwyawckrfaysasnphithi 2 singhakhm ph s 25493 r t t nrngkh thinpracha ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chntritaphrnmngkudithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chncturthaphrnchangephuxk ehriyyckrmala iwyawckr khnthi 3 iwyawckrfayphuththsatharnsthan 1 mkrakhm ph s 25534 nayskditrakul eliyngpraesrith ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnprathmaphrnchangephuxk ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnprathmaphrnmngkudithy ehriyychysmrphumi sngkhramxinodcin ehriyyckrphrrdimala iwyawckr khnthi 4 iwyawckrfayphuththsasnsuksa 29 singhakhm ph s 25555 naysmchay saephathxng ehriyyenginmngkudithy iwyawckr khnthi 5 iwyawckrfayphuththsasnsngekhraah 29 singhakhm ph s 25556 naythrngchy masutr ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthwitiyaphrnmngkudithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chntritaphrnchangephuxk iwyawckr khnthi 6 iwyawckrfaysngesrimkarptibtithrrm 29 singhakhm ph s 25557 r x phrnrngkh burusannth ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chntritaphrnmngkudithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chncturthaphrnchangephuxk ehriyyphithksesrichn chnthi 2 praephththi 2 iwyawckr khnthi 7 iwyawckrfaysasnphithi 13 emsayn ph s 2558kickrrmhlkkhxngwdphaphkhnasamenrphakhvdurxnwdkhungtaephathsnsuksaphuththmnthl ph s 2549 pcucbnwdkhungtaepha epnthitngkhxnghnwyxbrmprachachnpracatablkhungtaepha sungidrbrangwlekiyrtiysphdaelaprakasekiyrtikhunhnwy xpt diedn radbpraeths dngnnwdkhungtaepha nxkcakcaepnsthanthiprakxbphithikrrmthangphraphuththsasna karcdsxnwipssnakmmtthanaekprachachnaelw yngmikarcdkickrrmtang ephuxephyaephphraphuththsasnasueyawchn kickrrmsngesrimphraphuththsasnabrrphchasamenrphakhvdurxn epnthitngsunykarsuksakhxngkhnasngkhaelaphraphuththsasnasahrbkhvhsthinekhttablkhungtaepha sanksasnsuksapracatabl mihxngsmudthangphraphuththsasnathimihnngsuxexksaraelatarathangphraphuththsasna kwa 5000 elm suwrrnephtrabrrnakhar epnsunyklangxnurkspraephniwthnthrrmkhxngthxngthin aelaepnsunyrwmkarcdkickrrmkhxngfaypkkhrxngaelakickrrmsatharnpraoychnthwipkhxngchumchnkhungtaepha rwmthngepnsunysuksasmuniphrinwdpracacnghwdxutrditth tamokhrngkarkhxngthangkhnasngkh sungmismuniphrhayakhlakchnidkwa 500 chnid khbwnaehenuxnginnganbuypraephniphayinwdkhungtaephanganbuypraephni enuxngdwywdkhungtaepha tngxyuinchumchnobranxayukwasamrxypi thimikhwamsubenuxngmacakwthnthrrmxyuthya dngnnpraephniaelawthnthrrmdngedimswnihykhxnghmubankhungtaephacungkhlaykbhmubaninaethbphakhklangtxnbn ephraaodyphunephkhxngkhnkhungtaephannepn khnithyehnux tamkhapakkhxngkhninsmyxyuthya khuxepnkhnithyedimthitngthinthanaethbemuxngphisnuolk phicitr suokhthy odykhnkhungtaephannmisaeniyngkarphudkhlaykhnsuokhthy emuxngfangswangkhburiaelathungyng mipraephniaelawthnthrrmimaetktangcakchawphuththethrwathinaethbphakhklangtxnbnkhxngpraethsithy odyswnihykarcdpraephnihruxkickrrmkhxnghmubanmkcacdthiwdpracahmuban wdkhungtaephaepnsunyklangcdnganbuypraephni 9 eduxn khxngchumchnbankhungtaephamanbsamrxypi pccubn wdkhungtaepha epnsunyklangkhxngchumchnbankhungtaepha inkarcdngankickrrmpraephnitlxdthngpi eriykwa praephni 9 eduxn sungerimtngaeteduxn 2 ipcnsinsudeduxn 11 tamptithincnthrkhtikhxngithy khuxineduxn 2 mipraephnikxecdiykhawepluxk eduxn 3 praephniwnmakhbucha eduxn 4 praephniwntrusithy eduxn 5 praephniwnsngkrant eduxn 6 praephniwnwisakhbucha eduxn 7 praephnislakpht eduxn 8 praephniwnwnxasalhbucha aelawnekhaphrrsa eduxn 10 nganbuymhachati aelapraephniwnsarthithy eduxn 11 praephniwnxxkphrrsatkbatrethow aelapraephnikthinsamkhkhi duephimidthi hmubankhungtaepha wthnthrrmpraephni khnasrththawdkhungtaephathawtrswdmntinnganbuywnthrrmswnakarcdsxnwipssnakmmtthanaekprachachn wdkhungtaepha epnsankptibtithrrmpracacnghwdxutrditth aehngthi 3 sankptibtithrrmphayitkarkakbkhxngmhaethrsmakhm miphraphiksuphuidrbkarfukxbrmaelaphanhlksutrphrawipssnacary hlksutrkhxngmhaethrsmakhm canwn 3 rup khux phrathxngephiyr xupsn ot saerchlksutrphrawipssnacary run 1 aelaphraethiyng nitisaor saerchlksutrphrawipssnacary pi 2553 phranphrtn suthior saerchlksutrkmmtthansayphtthntathrrmacariya nxkcakniecaxawaswdkhungtaepharuppccubn khuxhlwngphxphrasmuhsmchay thanepnsisysaythudngkhphrakmmtthan thiekhyxxkthudngkhptibtithrrmkbxngkhphxaemkhruxacarysayhlwngpumn aelaekhyepnsisyanusisykhxnghlwngphxphuthththas hrux phrathrrmoksacary enguxm xin thpy oy wdkhungtaephacungmiskyphaphsunginkarcdkarsxnwipssnakmmtthanaekprachachninthxngthin pccubnwdkhungtaephamikarcdkickrrmsxnwipssnakmmtthanaekprachachninwnhyud ephuxxanwykhwamsadwkaekprachachn okhrngkarbrrphchasamenrphakhvdurxnwdkhungtaepha phaphhmusamenrbrrphchaphakhvdurxnwdkhungtaepha wdkhungtaephaidcdkickrrmbrrphchasamenrphakhvdurxntidtxknmathukpimatngaetpi ph s 2536 sungnbepnwdaerk incnghwdxutrditth thiidcdihmiokhrngkarnikhun pccubnepnrunthi 15 ph s 2555 sungthangwdcamikarcdkarxbrmsasnsuksarayasnihaekkulbutr kulthida tlxdrayaewlakarbrrphcha 30 wnrwmthngmikarcdihmikarnakhnasamenrsilcariniipthsnsuksatamsthanthitang thngincnghwdaelanxkcnghwd xikthngemuxsinsudokhrngkaryngmikarcdthudngkhwtr nakhnasamenrphusnicipthudngkhtamsthanthitang ephuxepnkarephimprasbkarn fukkhwamxdthnaelakhwamminaicihaekeyawchnxikdwy inkarcdkickrrmaetlakhrngphuekharwmokhrngkarimtxngesiykhaichcayid thunpccythnghmdxasyaerngsrththakhwamsamkhkhirwmickhxngchawbankhungtaephaaelaiklekhiyngthielngehnthungphlkhxngkarphthnalukhlaneyawchnihklayepnthrphyakrbukhkhlthimikhunphaphtxip sanksasnsuksawdkhungtaepha khnankeriynsngkdsanksasnsuksawdkhungtaepha karcdihkarsuksaphrapriytithrrmaephnkthrrmsuksahruxkarsuksawichathrrmkhxngkhvhsth phuimichnkbwch khxngwdkhungtaepha hrux sanksasnsuksawdkhungtaephann erimcdkareriynkarsxninpi ph s 2540 xnepnchwngaerk thiaemkxngthrrmsnamhlwngepidoxkasihmikarsxbilthrrmsuksasahrbkhvhsthintangcnghwdkhun odyinchwngaerk phrasmuhsmchay cirpuy oy aesngsin ecaxawaswdkhungtaepha iddaeninkarprasannganipyngorngeriyninekhttablkhungtaephakhxnaphrasngkhekhasxncriythrrmaelathrrmsuksainorngeriyn sungkarcdkareriynkarsxninkhrngnnprasbphlsaercipdwydi minkeriynaelaphusnicsxbilidthrrmsuksaepncanwnmak txmaecakhnatablinkhnannidelngehnkhwamsakhykhxngkarsuksathrrmkhxngkhvhsthdngklaw cungiddaeninkarkhxcdtngsanksasnsuksapracatablkhungtaepha khunthiwdkhungtaephaepntnma aelayngkhngmikardaeninkartxenuxngmacnpccubn cninpi ph s 2554 nayoythinsr smuthrkhiric phuwarachkarcnghwdxutrditth idlngnaminprakascnghwdxutrditth thi 1 2554 cdtngsunysuksaphraphuththsasnawnxathitykhuninwdkhungtaephaxyangepnthangkar sanksasnsuksawdkhungtaephacungmipharkicdankarcdaehlngkareriynruinwdephimetimcakkarthakareriynkarsxntampktiinsthansuksaradbphunthan odyinswnkhxngsunysuksaphraphuththsasnawnxathitywdkhungtaephannxyuphayitkhwamxupthmphkhxngkrmkarsasna krathrwngwthnthrrm hxngsmudphraphuththsasnasuwrrnephtrabrrnakhar swncdaesdngphiphithphnththxngthinwdkhungtaepha bnxakharxsitiwssayumngkhlmhasalakarepriyy mukhthistawnxxk pccubnwdkhungtaephamihxngsmudcanwn 2 hxng odyimmixakharaeykcaephaaepnexkeths hnngsuxswnihyidmacakkarrwbrwmkhxngecaxawaswdkhungtaepharuppccubn aelacakkaridrbbricakh odywdkhungtaephaidichaenwkhidkarprbprungxakharsasnsthanthimixyuedimihekidpraoychnsungsud aelaephuxepntwxyangaekwdxun odywdkhungtaephaidichphunthixakharhxswdmnt cdepnmumhnngsuxeka mituhnngsuxphraitrpidk hnngsuxthrrma hnngsuxeriynnkthrrm bali ethpkhasestthrrma aelaexksarxun aelaidcdphunthidanthisehnuxkhxngxakharsalakarepriyyepnhxngsmudkhxngwd eriykwa suwrrnephtrabrrnakhar prakxbipdwyhnngsuxthnghnngsuxthrrmathwip phraitrpidk xrrthktha thrrmaprayukt hnngsuxeriynthrrm hnngsuxechingwichakar thngdannitisastr rthsastr aelawithyaniphnthphraphuththsasna rwmipthunghnngsuxechingpkinkaxun kwa 5 000 elm thngni ephuxihekidpraoychnsungsud aelangaytxkarekhathungaehlngkhwamruthangthrrmakhxngsathuchnphuekhamaichsthanthiinwdkhungtaephainoxkastang thangekhaphiphithphnththxngthinwdkhungtaepha xakharxsitiwssayumngkhlmhasalakarepriyyphiphithphnththxngthinwdkhungtaepha phiphithphnththxngthinwdkhungtaepha hrux phiphithphnthsuwrrnephtraphnthakhar xngkvs Wat Kungtapao Local Museum epnaehlngkareriynruthxngthinkhnadelkkhxngwd cdaesdngexksarobranaelawtthuobrankhxngwdaelachumchnhmubankhungtaepha phiphithphnthaehngnicdtngkhunemux ph s 2549 odyphraxacaryxu wchiryaon aesngsin aelaphrasmuhsmchay cirpuy oy aesngsin rxngecaxawaswdkhungtaephainsmynn ephuxepnsthanthisahrbrwbrwmexksarobranaelawtthuobrankhxngwdaelathithangwdidrbbricakhcakchawban echn phraphuththrupobran smudithy smudkhxy iblan namacdaesdngihkhninthxngthinidsuksakhnbwthnthrrmwithichiwitkhwamepnxyuinxdit khxngbrrphburus aelaephuxihkhninthxngthinidrbruaelaekidkhwamphakhphumiicinmrdkaelakhwamepnma khxngchumchnbankhungtaephathimixayukhwamepnmayawnanmatngaetsmykrungsrixyuthyatxnplay sunyklanginkarcdaelaephyaephrkickrrmsakhykhxngchumchn wdkhungtaepha inthanasunyklangkhxngchumchnkhungtaepha idmikarcdkickrrmaekprachachninwdinhlakhlayrupaebb ephuxepnsthanthiprachachnphusnicidekhamasuksaephuxephimphunphthnaskyphaphinkarprakxbxachiph echn karphthnathksadansmuniphrithy rwmthungekhyepnthitngkhxngsunycahnayphlitphnthchumchntablkhungtaephaxikdwy phlkhxngkarmibthbathdngklawthaihwdkhungtaephaepnthitngkhxngsanknganshkrnsmaphnthekstrkrephuxkarphthna phakhehnuxtxnlang hnwyxbrmprachachnpracatablkhungtaepha xpt rwmthngxakharthnakharhmubankhungtaepha sungmithitngxakharthakarxyuthibriewnwdkhungtaepha source source source source karcdkickrrmaesdngthangpraephniaelawthnthrrmkhxngprachachninwdkhungtaepha nxkcakniwdkhungtaephayngmihxtidtngekhruxngkracayesiyngcanwn 1 esa mirsmikarkracayesiyngpraman 5 kiolemtr khrxbkhlumphunthi hmubankhungtaephathnghmuban aelabangswnkhxnghmubanhwhad hmubanpakhnun rwmthngbangswnkhxngtablthaesa odyichepnekhruxngprakaskickrrmaelakarephyaephrthrrmkhxngwd aelaichepnekhruxngprachasmphnthkhxngecahnathifaypkkhrxngkhxnghmuban odywdkhungtaephamikxngthunekhruxngkracayesiyngephuxnaenginburnasxmaesmihhxkracaykhawichnganidtlxdewla sunysuksasmuniphrinwdpracacnghwdxutrditth rahwangesnthangsuksaswnpasmuniphrphayinwdkhungtaephaswnparukkhchatiwdkhungtaaepha wdkhungtaephaidcdphunthitngwddanthisehnux aelabangswnkhxngphunthitngwd sahrbepnphunthiswnrukkhchati srana aeplngswnpaplukphrrnimenuxaekhng xakharephaacha brryakasodythwipmiphunthirmrun etmipdwyaemkimnanaphrrn odyechphaaxyangying thangwdichphunthiswnniyangswnsahrbplukphrrnimchnidlmluk hruxphuchlnghw sungcaaetkibswyngaminchwngvdufn swninchwngvduaelng caepnphunthilanolngittnim slbkbphunthienindinihlekhakhnadelkswyngamehmaakbkarptibtithrrmaelahyxnic briewntidknnnepnphunthithakarekstrkhxngprachachn swnphvkssastrsmuniphrwdkhungtaepha swnphvkssastrsmuniphrwdkhungtaepha hrux swnsmuniphrwdkhungtaepha idrbkarcdtngihepn sunysuksasmuniphrinwdpracacnghwdxutrditth inpi ph s 2547 enuxngcakwdkhungtaephamiphraphiksuphuechiywchayindansmuniphraephnobran idepnphurwbrwmsmuniphrhayakcaksthanthitang marwmiwinwd inpccubninwdmitnyasmuniphrthngsinkwa 500 chnid ephuxihkhwamruaekphusnicaelaepnkarxnurksphumipyyachawbanindankarxnurkssmuniphr nkeriynsuksaswnphvkssastrsmuniphrwdkhungtaepha thangwdidaebngekhtsngkhawasswnhnungihepnphunthipluksmuniphrthirwbrwmmaidcakthitang namaplukiw thngchnidtnaelachnidimlnghw ipcnkrathngimeluxykhnadihy odyechphaaxyangyingidrwbrwmphuchsmuniphrithythihachmidyaknamaplukinekhtphunthibriewnwdhlayrxychnid odyerimthakarcdhasmuniphrmaxnurksemuxpramanpi ph s 2535 sungphumiswnsakhyinkarrierimkarplukxnurkssmuniphrinwdkhungtaephakkhux phrasmuhsmchay cirpuy oy ecaxawaswdkhungtaepha phraxu py yawchior aelaphrathng thitithm om sungepnphumikhwamruechiywchayinkarcaaenkphuchsmuniphrithy pccubnswnsmuniphrwdkhungtaephaepnsthanthisuksakhxngsthansuksaaelahnwyngantang makmay odymirwmmuxkbbukhlakrcakhnwynganphakhrthtang echn krathrwngsatharnsukh okhrngkarsunysuksaphthnahwyhxngikhrxnenuxngmacakphrarachdari withyalywithyasastrsatharnsukh culalngkrnmhawithyaly sanknganhlkpraknsukhphaphaehngchati l odymiwtthuprasngkhephuxkarphthnaaelkepliynxngkhkhwamruaelakhxmulthangphvssastrephuxkarsuksatxyxdthangwichakarphuchsmuniphrinradbpraeths xakharsasnsthanbriewnswnphuththawasphayinwdkhungtaepha inpccubn swnpasmuniphrwdkhungtaepha yngkhngplxyihepnbrryakasthrrmchatixnrmrunehmaaaekkarecriyetibotkhxngsmuniphr sxnernsmuniphrithyhayakxnmikhunpraoychnyinginbriewnpa epnphunthipaplukthiengiybsngbehmaaaekkarecriycittphawnahangiklcaksingrbkwn smkbkhawa swnpa odyaethcring sanknganelkhanukarrxngecakhnaxaephxemuxngxutrditth pccubnwdkhungtaephaepnthitngsanknganelkhanukarrxngecakhnaxaephxemuxngxutrditth inkhwamduaelkhxngphrasmuhsmchay cirpuy oy ecaxawaswdkhungtaepharuppccubn rbphidchxbnganthaebiynkhrusxnphrapriytithrrmkhxngphrasngkhxaephxemuxngxutrditth aelangankarsuksaphrapriytithrrmthngaephnknkthrrmkhxngphrasngkhaelathrrmsuksakhxngthukorngeriynaelasankeriyninsngkdxaephxemuxngxutrditththngxaephxxikdwyekiyrtikhunaelarangwlthiidrbwdkhungtaepha odyphrasmuhsmchay cirpuy oy ecaxawaswdkhungtaepharuppccubn miphlngankarphthnacnepnthipracksaelaepnthiyxmrb thaihwdkhungtaepha idrbphrarachthanrangwlaelathwayrangwlekiyrtiystang inthanathiepnwdphthnathithakhunpraoychntxphraphuththsasnaaelasngkhmindantang cakphrabrmwngsanuwngs aelacakhnwynganrachkartang inwaraoxkastang hlaykhrngdwykn tamladbdngni namrangwlthiwdkhungtaephaidrb xngkhkrthithwayrangwl phumxbrangwl xngkhphrarachthanrangwl pithiidrb xangxing rangwlprakasekiyrtikhun olaelaphdwdphthna wdphthnatwxyangthimiphlngandiedn pracapi 2563 xndbthi 1 radbpraeths phdwdphthna phrasmuhsmchay cirpuy oy sanknganphraphuththsasnaaehngchati smedcphraxriywngsakhtyan smedcphrasngkhrach xmphr xm phor smedcphrasngkhrach ph s 2563 rangwl wthnkhunathr phuthakhunpraoychntxkrathrwngwthnthrrm radbpraeths praephthbukhkhl krathrwngwthnthrrm nayxiththiphl khunplum rthmntriwakarkrathrwngwthnthrrm ph s 2563 rangwlprakasekiyrtikhun lanthrrmlanwithiithytwxyang krmkarsasna krathrwngwthnthrrm naykittiphnth phansuwrrn xthibdikrmkarsasna ph s 2562 rangwlprakasekiyrtikhun wdphthnatwxyang pracapi 2559 xndbthi 1 radbpraeths sanknganphraphuththsasnaaehngchati smedcphraxriywngsakhtyan smedcphrasngkhrach xmphr xm phor smedcphrasngkhrach ph s 2559 olrangwlokhrngkaraephndinthrrmaephndinthxng chnaelisxndb 1 radbcnghwd kxngbychakarthharsungsud phloth sathit phithrtn aemthphphakhthi 3 ph s 2558 rangwl wthnkhunathr phuthakhunpraoychntxkrathrwngwthnthrrm danxngkhkrefarawngthangwthnthrrm 1 in 2 aehng radbpraeths sankefarawngthangwthnthrrm krathrwngwthnthrrm naywira orcnphcnrtn rthmntriwakarkrathrwngwthnthrrm ph s 2558 olrangwl karcdkarsingaewdlxminwdradbdieyiym sanksngesrimkarmiswnrwmkhxngprachachn krmsngesrimkhunphaphsingaewdlxm krathrwngthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxm ph s 2558 ol rangwlesaxosk olrangwlprathanaedphuthakhunpraoychntxphraphuththsasna sunysngesrimphraphuththsasnaaehngpraethsithy inphrasngkhrachupthmph phraecawrwngsethx phraxngkhecaosmswli phrawrrachathinddamatu ph s 2558 rangwlprakasekiyrtikhun wdtnaebbdankhwbkhumpccyesiyng 1 in 30 wd radbpraeths sankngankxngthunsnbsnunkarsrangesrimsukhphaph sss sankngankxngthunsnbsnunkarsrangesrimsukhphaph sss ph s 2558 rangwlprakasekiyrtikhunwdphthna xuthyankarsuksainwd sanknganphraphuththsasnaaehngchati smedcphramharchmngkhlacary chwng wrpuy oy phuptibtihnathismedcphrasngkhrach ph s 2557 olrangwlekiyrtiys wdsngesrimsukhphaphdiedn chnaelisxndb 1 radbekht sunyxnamythi 9 phisnuolk krathrwngsatharnsukh nayaephthywirchy siththipiyaskul phuxanwykarsunyxnamythi 9 phisnuolk ph s 2557 rangwlekiyrtiysphdaelaprakasekiyrtikhun hnwyxbrmprachachnpracatabldiedn radbpraeths sanknganphraphuththsasnaaehngchati smedcphraphuthacary ekiyw xupeson prathankhnaphuptibtihnathismedcphrasngkhrach ph s 2555 rangwlhnwyxbrmprachachnpracatabl diednxndbhnung radbcnghwd xpt sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth phraphrhmomli suchati thm mrton ecakhnaphakh 5 phisnuolk xutrditth tak suokhthy ph s 2555 rangwlhnwyxbrmprachachnpracatabldiedn radbxaephxemuxngxutrditth xpt sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth phraethphpriytiwithan xanwy cn thsor ecakhnacnghwdxutrditth ph s 2555 rangwlesaesmathrrmckrphrarachthan krmkarsasna krathrwngwthnthrrm smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari ph s 2554 rangwlphuththkhunupkarrchtekiyrtikhun sphaphuaethnrasdr smedcphraphuthacary ekiyw xupeson prathankhnaphuptibtihnathismedcphrasngkhrach ph s 2553 rangwlprakasekiyrtikhunwdplxdehla echlimphraekiyrtiphrabathsmedcphraecaxyuhw phuwarachkarcnghwdxutrditth nayoythinsr smuthrkhiric phuwarachkarcnghwdxutrditth ph s 2552 rangwlekiyrtiyssunyphthnakhunthrrmtwxyang diednradbpraeths kxngbychakarthharsungsud phlexksuryuthth culannth phubychakarthharsungsud ph s 2546 rangwlekiyrtiys phiphithphnthtnaebbkareriynru praephthwdaelachumchn sthabnphiphithphnthkareriynruaehngchati NDMI dr raems phrhmeyn phuxanwykarsthabnphiphithphnthkareriynruaehngchati sphr ph s 2557xun phraekhruxngthicdsrangodywdkhungtaepha wdkhungtaephacdsrangphraekhruxngnbaet ph s 2538 cnthungpccubn canwn 3 run dngni phraekhruxngrunburnaxuobsth run 1 aebngepnehriyyolharmdarupxarm aelarupikh aelalxkekt ruphlwngphxsuwrrnephtra sranginpi ph s 2538 plukeskody phranimmanokwith hlwngputhxngda ephuxaeckaekphusmthbthunburnaxuobsthwdkhungtaepha phraekhruxngrunsrangsumpratu run 2 aebngepnehriyyolharmdarupxarm brrcuklxng ruphlwngphxsuwrrnephtra sranginpi ph s 2546 plukeskody phranimmanokwith hlwngputhxngda ephuxaeckaekphusmthbthunkxsrangsumpratuwdkhungtaepha phraekhruxngrunburnasalakarepriyy run 3 aebngepnehriyyolhasuwrrnchad ehriyythxngaedng aelaehriyythxngehluxng ruphlwngphxsuwrrnephtra sranginpi ph s 2549 ephuxaeckaekphusmthbthunburnasalakarepriyywdkhungtaephaduephimtnbunnakhwdkhungtaephaxangxingprawtiphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni hlwngphxphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni cakewbisdwdkhungtaepha lingkesiy ecaxawas cr phrasmuhsmchay cirpuy oy khasngecakhnacnghwdxutrditth 2554 29 thnwakhm khasngthi 10 2554 eruxng tratngecaxawas phrasmuhsmchay cirpuy oy phrakhrusucitphthnphithan 2554 exksarrayngankhnasngkh bychisarwcphraphiksutablkhungtaepha pi 2554 xutrditth sanknganecakhnatablkhungtaepha thayexksar wrnuchnnth phngssurangkh 2555 phaethiywwdinxutrditth chmkhwamngam 1 in 9 wdskdisiththi xutrditth warsarephuxkarprachasmphnthxngkhkarbriharswncnghwdxutrditth 3 12 39 ethwpraphas makkhlay epriyy exksar exksaraenanawdkhungtaepha xutrditth wdkhungtaepha 2549 prachumphngsawdar elm 40 prachumphngsawdar phakhthi 65 66 phrarachphngsawdarkrungthnburi cdhmayehturaywnthphsmykrungthnburi chbbphncnthnumas ecim phimphkhrngthi 2 krungethph krmsilpakr thirawthn aesnkha 2558 swangkhburisrikhungtaepha smedcphraecataksinmharachkbsmrphumiswangkhburi khungtaepha xnusrn 245 pi aehngkarsthapnawdkhungtaepha xutrditth sankngansphawthnthrrmcnghwdxutrditth krathrwngwthnthrrm ISBN 978 616 543 334 1 m p p phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha rahwangclacl culskrach 1129 1130 krungethph m p th hna 49 51 krmkarsasna 2531 prawtiwdthwrachxanackr elm 7 krungethph orngphimphkarsasna hna 34 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2558 wdkhungtaepha xxn iln ekhathungidcak 1 2015 09 17 thi ewyaebkaemchchin ekhathungemux 30 3 55 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2555 canwnwdcnghwdxutrditth pi 2554 xxn iln ekhathungidcak 2 2015 09 17 thi ewyaebkaemchchin ekhathungemux 30 3 55 rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2560 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn wdphthnatwxyangaelaxuthyankarsuksainwd pracapi 2559 lngwnthi 16 minakhm ph s 2560 klumnganmhaethrsmakhm 2559 srupkarprachummhaethrsmakhm khrngthi 12 2559 wncnthr thi 30 phvsphakhm 2559 xxn iln ekhathungidcak 3 2016 08 16 thi ewyaebkaemchchin ekhathungemux 19 8 59 hnngsuxsanknganphraphuththsasnaaehngchati thi phs 0009 05365 eruxng aecngmtimhaethrsmakhm khrngthi 12 2559 eruxng khxxnumticdtngsankptibtithrrmpracacnghwdxutrditth aehngthi 3 wdkhungtaepha lngwnthi 16 mithunayn 2559 mtimhaethrsmakhm khrngthi 12 2559 wnthi 30 phvsphakhm 2559 sankelkhathikarmhaethrsmakhm mtithi 338 2559 eruxng khxxnumticdtngsankptibtithrrmpracacnghwdxutrditth aehngthi 3 rachkiccanuebksa prakasnaythaebiynmulnithicnghwdxutrditth eruxng cdthaebiyncdtngmulnithi mulnithi 250 pi wdkhungtaepha elm 133 txn 44 ng 9 mithunayn ph s 2559 hna 49 50 sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2556 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkhnwyxbrmprachachnpracatabldiedn pracapiphuththskrach 2555 lngwnthi 7 mkrakhm ph s 2556 kxngphuththsasnsuksa 2556 hnwyxbrmprachachnpracatabl x p t diedn pracapi 2555 krungethph orngphimphsanknganphraphuththsasnaaehngchati hna 154 155 prachumphngsawdar elm 40 prachumphngsawdar phakhthi 65 66 phrarachphngsawdarkrungthnburi cdhmayehturaywnthphsmykrungthnburi chbbphncnthnumas ecim phimphkhrngthi 2 krungethph krmsilpakr m p p phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha rahwangclacl culskrach 1129 1130 krungethph m p th hna 49 51 krmkarsasna 2531 prawtiwdthwrachxanackr elm 7 krungethph orngphimphkarsasna hna 34 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2558 wdkhungtaepha xxn iln ekhathungidcak 4 2015 09 17 thi ewyaebkaemchchin ekhathungemux 30 3 55 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2558 wdkhungtaepha xxn iln ekhathungidcak 5 2015 09 17 thi ewyaebkaemchchin ekhathungemux 30 3 55 rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 cdhmayehtu r 5 s exksareybelm krmrachelkhathikar rchkalthi 5 krathrwngsuksathikar eruxng rayngankarsuksamnthlphisnuolk 22 thnwakhm 27 singhakhm r s 118 culcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra 2465 phrarachhtthelkha khrawesdcmnthlfayehnux inrchkalthi 5 nbinhnngsuxeruxngethiywthitang epnphakhthi 5 krungethph orngphimphithy rachkiccanuebksa phrarachkvsdika kahndaenwthanghlwngthicasrangthanghlwngaephndin sayxinthrburi banhmi takfa thataok banekhathray wngthxng xutrditth aephr lapang echiyngihm txnphisnuolk ednchy ph s 2521 elm 95 txnthi 30 16 minakhm ph s 2521 chbbphiess hna 44 sanknganelkhanukarecakhnaphakh 11 2555 hnngsuxkakbphrabrmsaririkthatu cakphrathrrmthirrachmhamuni ecaxawaswdrakhngokhsitaramwrmhawihar lngwnthi 18 phvsphakhm ph s 2555 sankprachasmphnthekht 4 2555 wdkhungtaephacdphithismophchphrabrmsaririkthatu xxn iln ekhathungaehlngkhxmulidcak http region4 prd go th ewt news php nid 18988 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin hnngsuxsankelkhanukarsmedcphrasngkhrach thi ph 0436 2555 lngwnthi 16 phvsphakhm 2555 eruxng prathanphrabrmsaririkthatu wdkhungtaepha 2555 phrabrmsaririkthatucakpraethssatharnrthxinediy xxn iln ekhathungaehlngkhxmulidcak https sites google com site watkungtaphao puchaniyawatthu boromsaririkkathat from india 2020 11 03 thi ewyaebkaemchchin ethwpraphas makkhlay 2553 khungtaepha cakxditsupccubn phthnakarthangprawtisastr praephniwthnthrrm khwamechux aelaphumipyyathxngthin krungethph orngphimphaehngmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly ISBN 9789743648847 krmkarsasna 2531 prawtiwdthwrachxanackr elm 7 krungethph orngphimphkarsasna hna 34 rachkiccanuebksa prakasphrarachthanwisungkhamsima elm 64 txn 41 2 knyayn ph s 2490 hna 548 phrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim 2542 in prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elm 3 krungethph kxngwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr hna 339 thirawthn aesnkha 2559 sukecaphrafang ph s 2313 smedcphraecataksinmharach kbkarprab phwksngkhxlchchi thiemuxngswangkhburi in silpwthnthrrm pithi 37 chbbthi 5 minakhm rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 hxcdhmayehtuaehngchati r 5 s exksareybelm krmrachelkhathikar rchkalthi 5 krathrwngsuksathikar eruxng rayngankarsuksamnthlphisnuolk 22 thnwakhm 27 singhakhm r s 118 inpi r s 118 ph s 2442 hruxemuxkwa 116 pi thiphanma wdkhungtaepha miphra 8 rup sisywd 6 khn miecaxthikarrxdepnecaxawas aelaphuihychun epnmrrkhnayk smphngs aecngerw 5 ibethaaehngxutrditth sisyrwmsankphrayaphichydabhk silpwthnthrrm pithi 5 11 knyayn 2527 hna 44 53 sanknganecakhnacnghwdxutrditth 2554 khasngkhnasngkhcnghwdxutrditth thi 02 2554 eruxng ihphrasngkhathikarxxkcaktaaehnng lngwnthi 7 kumphaphnth ph s 2554 sanknganecakhnatablkhungtaepha 2554 khasngecakhnatablkhungtaepha thi 1 2554 eruxng aetngtngrksakarecaxawaswdkhungtaepha lngwnthi 9 kumphaphnth ph s 2554 phrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim 2542 in prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elm 3 krungethph kxngwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr hna 339 thirawthn aesnkha 2559 sukecaphrafang ph s 2313 smedcphraecataksinmharach kbkarprab phwksngkhxlchchi thiemuxngswangkhburi in silpwthnthrrm pithi 37 chbbthi 5 minakhm rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 rachkiccanuebksa tngtaaehnngphrasngkh elm 5txn 17 25 singhakhm ph s 2431 hna 138 ecakhnaihyhnehnux 2561 28 mkrakhm tratngphraxupchchay thi 20 2561 phrasmuhsmchay cirpuy oy ethwpraphas makkhlay 2552 aephnngankarpkkhrxngkhnasngkhinekhttablkhungtaepha pracapi ph s 2552 exksarprakxbkarprachum xutrditth sanknganelkhanukarecakhnatablkhungtaepha thayexksar khasngecaxawaswdkhungtaepha eruxng tngkhnainwdkhungtaepha ph s 2553 wdkhungtaepha xxniln ekhathungidcak 6 ekhathungkhxmulemux 26 8 53 rachkiccanuebksa phrarachbyytikhnasngkh ph s 2505 elmthi 79 txnthi 115 k chbbphiess wnthi 31 thnwakhm ph s 2505 hna 29 rachkiccanuebksa phrarachbyytikhnasngkh chbbthi 2 ph s 2535 elmthi 109 txnthi 16 k wnthi 4 minakhm ph s 2535 hna 5 khasngecakhnacnghwdxutrditth thi 19 2557 lngwnthi 29 phvscikayn 2557 eruxng tratngrxngecaxawas phramhaethwpraphas wchiryanemthi rxngecaxawaswdkhungtaepha rachkiccanuebksa phrarachbyytikhnasngkh ph s 2505 elmthi 79 txnthi 115 k chbbphiess wnthi 31 thnwakhm ph s 2505 hna 29 rachkiccanuebksa phrarachbyytikhnasngkh chbbthi 2 ph s 2535 elmthi 109 txnthi 16 k wnthi 4 minakhm ph s 2535 hna 5 prawtiphnexksinghnath ophthikla 2009 09 27 thi ewyaebkaemchchin sunykhxmulkaremuxngithy Thailand Political Base eriykkhxmulemux 17 7 52 khasngecaxawaswdkhungtaephathi 1 2549 lngwnthi 2 singhakhm ph s 2549 eruxng khasngaetngtngiwyawckrwdkhungtaephaephimetim iwyawckr khasngecaxawaswdkhungtaepha 2555 29 singhakhm khasngthi khsw 041113 5532 1 eruxng tratngiwyawckrwdkhungtaepha sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2556 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkhnwyxbrmprachachnpracatabldiedn pracapiphuththskrach 2555 lngwnthi 7 mkrakhm ph s 2556 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2555 aebbraynganxuthyankarsuksainwd pracapi 2555 wdkhungtaepha cnghwdxutrditth xutrditth sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth xdsaena hna 1 233 phuwarachkarcnghwdxutrditth 2554 19 mkrakhm prakascnghwdxutrditth eruxng cdtngsunysuksaphraphuththsasnawnxathity pracapi 2554 hnngsuxkrmkaraephthyaephnithyaelakaraephthythangeluxk thi sth 0514 02 862 lngwnthi 14 minakhm 2555 hnngsuxwithyalywithyasastrsatharnsukh culalngkrnmhawithyaly thi sth 0512 78 5379310353 lngwnthi 11 phvsphakhm 2554 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 06 13 subkhnemux 2012 07 13 wdkhungtaepha 2563 wdkhungtaepha rbrangwlolaelaphdwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn pracapi 2563 xndbthi 1 radbpraeths 2020 11 03 thi ewyaebkaemchchin ewbistwdkhungtaepha ekhathungemux 19 10 63 prakaskrathrwngwthnthrrm eruxng phlkarkhdeluxkphuthakhunpraoychntxkrathrwngwthnthrrm pracapingbpraman ph s 2563 2020 11 03 thi ewyaebkaemchchin lngwnthi 29 knyayn ph s 2563 prakaskrmkarsasna eruxng lanthrrmlanwithiithytwxyang pracapi 2562 2020 11 03 thi ewyaebkaemchchin lngwnthi 22 knyayn 2563 hnngsuxsanknganphraphuththsasnaaehngchati thi phs 0003 02677 eruxng karcdsrrenginxudhnunkarburnptisngkhrnwdaelakarphthnawd pracapingbpraman ph s 2560 lngwnthi 17 minakhm 2560 sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2560 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn wdphthnatwxyangaelaxuthyankarsuksainwd pracapi 2559 lngwnthi 16 minakhm ph s 2560 sanknganprachasmphnthcnghwdxutrditth s pchs xutrditth 2558 phubychakarkxngkalngrksakhwamsngberiybrxycnghwdthharbkxutrditth mxbrangwlaelaolprakasekiyrtikhun okhrngkaraephndinthrrm aephndinthxngcnghwdxutrditth xxn iln aehlngthima http pr prd go th uttaradit ewt news php nid 2676 amp filename index 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin sankefarawngthangwthnthrrm sanknganpldkrathrwngwthnthrrm 2558 phlkarkhdeluxkphuthakhunpraoychntxkrathrwng radbpraeths pracapingbpraman ph s 2558 dankarefarawngthangwthnthrrm radbpraeths xxn iln aehlngthima http www m culture go th surveillance index php 2013 06 07 06 47 37 2013 06 19 04 16 42 item E0 B8 9B E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 81 E0 B8 B2 E0 B8 A8 E0 B8 9C E0 B8 A5 E0 B8 81 E0 B8 B2 E0 B8 A3 E0 B8 84 E0 B8 B1 E0 B8 94 E0 B9 80 E0 B8 A5 E0 B8 B7 E0 B8 AD E0 B8 81 E0 B8 9C E0 B8 B9 E0 B9 89 E0 B8 97 E0 B8 B3 E0 B8 84 E0 B8 B8 E0 B8 93 E0 B8 9B E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B9 82 E0 B8 A2 E0 B8 8A E0 B8 99 E0 B9 8C E0 B8 95 E0 B9 88 E0 B8 AD E0 B8 81 E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 97 E0 B8 A3 E0 B8 A7 E0 B8 87 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin edliniws 2558 wth dungeyawchnrwmbriharnganwthnthrrm xxn iln aehlngthima http www dailynews co th education 351637 hnngsuxsanksngesrimkarmiswnrwmkhxngprachachn krmsngesrimkhunphaphsingaewdlxm thi ths 0805 w 664 lngwnthi 23 mithunayn 2558 sankngankxngthunsnbsnunkarsrangesrimsukhphaph sss 2558 yk 32 wdtnaebb aekikhpyhaehlabuhri xxn iln aehlngthima http www thaihealth or th Content 28527 E0 B8 A2 E0 B8 81 2032 20 E0 B8 A7 E0 B8 B1 E0 B8 94 E0 B8 95 E0 B9 89 E0 B8 99 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A 20 E0 B9 81 E0 B8 81 E0 B9 89 E0 B9 84 E0 B8 82 E0 B8 9B E0 B8 B1 E0 B8 8D E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B9 80 E0 B8 AB E0 B8 A5 E0 B9 89 E0 B8 B2 E0 B8 9A E0 B8 B8 E0 B8 AB E0 B8 A3 E0 B8 B5 E0 B9 88 20 html sankngankxngthunsnbsnunkarsrangesrimsukhphaph sss 2558 prakasekiyrtikhunwdtnaebbrupthrrmkhwbkhumpccyesiyng inokhrngkaresrimphlngekhruxkhayphrasngkhnkphthnaephuxsngkhmkhwbkhumpccyesiyng lngwnthi 3 mithunayn ph s 2558 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn wdphthnatwxyang aelaxuthyankarsuksainwd pracapi 2556 prakas lngwnthi 24 tulakhm 2557 kxngphuththsasnsthan sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2557 pprakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkwdphthnatwxyangthimiphlngandiedn wdphthnatwxyang aelaxuthyankarsuksainwd pracapi 2556 xxniln aehlngthima 7 2015 02 25 thi ewyaebkaemchchin ekhathungkhxmulemux 11 10 57 sankngansatharnsukhcnghwdxutrditth 2557 prakasekiyrtikhunwdsngesrimsukhphaphdiedn chnaelisradbcnghwd innganmhkrrmphusungxayusukhphaphdi 80 pi yngaecw wdsngesrimsukhphaph aelachmrmekhmaekhng radbcnghwd pi 2557 lngwnthi 3 mithunayn ph s 2557 wdkhungtaepha 2557 wdkhungtaepha rbolrangwlwdsngesrimsukhphaph chnaelisradbekht pracapi 2557 xxniln aehlngthima 8 2016 06 23 thi ewyaebkaemchchin hnngsuxsalaklangcnghwdxutrditth thi xt 0034 355 lngwnthi 9 mkrakhm 2556 eruxng aecngphlkarkhdeluxkhnwyxbrmprachachnpracatabldiedn pracapi 2555 sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2556 prakassanknganphraphuththsasnaaehngchati eruxng phlkarkhdeluxkhnwyxbrmprachachnpracatabldiedn pracapiphuththskrach 2555 lngwnthi 7 mkrakhm ph s 2556 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2555 prakasekiyrtikhunhnwyxbrmprachachnpracatabldiednxndbhnung radbcnghwd pracapiphuththskrach 2555 lngwnthi 14 krkdakhm ph s 2555 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2555 prakasekiyrtikhunhnwyxbrmprachachnpracatabldiedninradbxaephxemuxngxutrditth pracapiphuththskrach 2555 lngwnthi 14 krkdakhm ph s 2555 phuwarachkarcnghwdxutrditth 2552 prakasekiyrtikhunwdplxdehlaechlimphraekiyrtiphrabathsmedcphraecaxyuhw cnghwdxutrditth pi 2552 lngwnthi 5 thnwakhm ph s 2552 kxngbychakarthharsungsud 2546 rangwlekiyrtiysdiedn sunyphthnakhunthrrmpracacnghwdxutrditth wdkhungtaepha xaephxemuxngxutrditth cnghwdxutrditth inthanasunyphthnakhunthrrmtwxyangthimiprasiththiphaph tamokhrngkar kxngthphthrrm kxngthphithy tanphyyaesphtid pracapi 2546 lngwnthi 23 minakhm ph s 2546 sthabnphiphithphnthkareriynruaehngchati 2557 prakasekiyrtikhunphiphithphnthtnaebbkareriynru praephthwdaelachumchn 2557 lngwnthi 18 mkrakhm ph s 2557duephimhmubankhungtaepha sanksasnsuksawdkhungtaepha phiphithphnththxngthinwdkhungtaepha swnphvkssastrsmuniphrwdkhungtaephaaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdkhungtaepha wikikhakhmmikhakhmekiywkb wdkhungtaepha wikisxrs mingantnchbbekiywkb prawtiwdkhungtaepha ewbisdwdkhungtaepha https sites google com site watkungtaphao 2015 10 05 thi ewyaebkaemchchin aephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng wdkhungtaepha phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 17 39 12 N 100 08 24 E 17 653441 N 100 140122 E 17 653441 100 140122