พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี หรือ หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ มีพุทธลักษณะปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์บริสุทธิ์ หน้าตักกว้างศอกเศษ มีพุทธลักษณะงดงามตามแบบอย่างสกุลช่างสุโขทัย-เชียงแสน ซึ่งเป็นแบบที่พบได้น้อยมากและหายากที่สุด
พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี | |
---|---|
ชื่อเต็ม | พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี |
ชื่อสามัญ | หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์, หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์, หลวงพ่อสุโขทัย, หลวงพ่อสัมฤทธิ์ |
พระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์ | |
ศิลปะ | ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย -เชียงแสนชั้นครู (เชียงแสนแปลง หรือแบบท่านมหาสวน) |
ความกว้าง | 1 ศอก 13 นิ้ว |
ความสูง | 2 ศอก 8 นิ้ว (ตลอดถึงพระรัศมี) |
วัสดุ | สำริดโบราณ |
สถานที่ประดิษฐาน | วัดคุ้งตะเภา |
ความสำคัญ | พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ |
หมายเหตุ | เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะได้ทุกวัน |
ส่วนหนึ่งของ |
พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี เดิมองค์พระถูกพอกปูนลงรักปิดทองอารักขาภัยไว้ ตัวองค์พระสำริดดังปรากฏในปัจจุบันนั้นสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยแรกก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 181 สกุลช่างเชียงแสนยุคปลายผสมสกุลช่างสุโขทัยยุคต้น หรือในช่วงยุครอยต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย เป็นรัชสมัยระหว่างพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพญาลิไท มีอายุประมาณ 7-800 ปี มีประวัติความเป็นมาและอภินิหารที่น่าสนใจยิ่ง
หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี ประดิษฐานอยู่ที่ วัดคุ้งตะเภา หมู่บ้านคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เดิมนั้นทางวัดไม่เปิดเผยสถานที่ประดิษฐาน และไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าสักการะได้ถึงองค์พระ เนื่องด้วยปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัย โดยจะอัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีออกให้ประชาชนทั่วไปนมัสการได้ถึงตัวองค์พระเพียงในช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น
ปัจจุบัน วัดคุ้งตะเภา ได้สร้างห้องตู้กระจกนิรภัย พร้อมทั้งติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จึงทำให้สามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าสักการะได้ทุกวัน โดยปัจจุบันหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประดิษฐานอยู่ที่หอพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี บนอาคารศาลาการเปรียญเฉลิมพระเกียรติฯ วัดคุ้งตะเภา
ความสำคัญ
หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี เป็นพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่เป็นที่เคารพนับถือ 1 ใน 2 องค์ ของตำบลคุ้งตะเภา และเป็นพระพุทธรูปโบราณสำคัญคู่บ้านคู่เมือง 1 ใน 9 องค์ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์" ที่อัญเชิญมาจากวัดราชบูรณะราชวรวิหารในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
พระพุทธรูปองค์นี้มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ ของประเทศไทยหลายครั้ง และมีความเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ เนื่องจากหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีเป็นพระพุทธรูปโบราณที่มีประวัติความเป็นมาผ่านช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยกว่า 800 ปี ล่วงเลยแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีจนถึงปัจจุบัน
ศิลปะ
หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี จัดเป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยศิลปะสกุลสุโขทัย-เชียงแสนแปลง แบบท่านมหาสวน ปัจจุบันปรากฏเพียง 4 องค์ในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นปางขัดสมาธิราบ 2 องค์ (ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร) และปางมารวิชัยอีก 2 องค์ คือองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี (วัดคุ้งตะเภา) และองค์หลวงพ่อเชียงแสน (วัดธรรมาธิปไตย) แต่องค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบท่านมหาสวนเพียงองค์เดียว ที่มีพุทธลักษณะตามขนบอินเดียโบราณคือ พระหัตถ์ไม่ได้วางบนพระหนุ (เข่า) แต่วางบนพระชงค์ และนิ้วพระหัตถ์แตะพื้นดิน (ฐาน) บอกแม่พระธรณี อันเป็นพุทธลักษณะสำคัญที่เนื่องด้วยปางมารวิชัยตามความในพระไตรปิฎกตอนพระพุทธองค์ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ผศ.เขียน ยิ้มศิริ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร ศิลปินชั้นเยี่ยมสาขาจิตรกรรม กล่าวยกย่องคุณค่าทางศิลปะของพระพุทธรูปแบบหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีไว้ในหนังสือของท่านว่า พระพุทธรูปแบบท่านมหาสวนเช่นนี้ "เป็นศิลปะชั้นครู (Masterpiece)" ซึ่งนับว่าหายากมาก ทั้งหมดมีขนาดเท่ากันคือขนาดเท่าคน มีจุดเด่นที่พระพักตร์อันสงบงามยิ่ง โดย ผศ.เขียน ยิ้มศิริ ยกย่องพระพุทธรูปแบบหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีไว้ในหนังสือพุทธานุสรณ์ว่า
...อารมณ์การแสดงออกของท่านมีความสงบเป็นสำคัญ ยิ่งดูท่านนานเพียงไร ก็ยิ่งจับใจในความสง่างามของท่านยิ่งขึ้นเพียงนั้น...
— ผศ.เขียน ยิ้มศิริ
ผศ.เขียน ยิ้มศิริ กล่าวอีกว่าพระพุทธสิหิงค์ (องค์ที่ประดิษฐานในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร) ไม่สามารถอัญเชิญมาเปรียบเทียบความงดงามสู้กับพระพุทธรูปแบบหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีได้เลย เพราะพระพุทธรูปแบบหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีนับว่ามีจิตวิญญาณภายในมากกว่า ดังนั้นจึงนับได้ว่าในด้านความมีวิญญาณผุดผ่องภายในเชิงศิลปะของหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีนั้นนับได้ว่าเป็นเลิศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผศ.เขียน ยิ้มศิริ ได้สรุปสันนิษฐานไว้เป็นแนวคิดของท่านว่า พระพุทธรูปแบบหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีนั้น สร้างขึ้นโดย "ผู้มีภูมิสง่าราวกับกษัตริย์" หรือสร้างขึ้นโดยผู้มีบุญบารมีหรือโดยพระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์เพื่อประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองนั่นเอง
ประวัติ
แรกสร้างในสมัยเชียงแสน-สุโขทัย
หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี เป็นพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์ สร้างในสมัยก่อนตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เมื่อกว่า 800 ปีก่อน สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญของพระวิหารในวัดโบราณแห่งใดแห่งหนึ่งยุคนั้น
เมื่อมีข้าศึกประชิดเมือง ชาวบ้านเกรงว่าหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีจะได้รับอันตราย จึงได้พอกปูนองค์หลวงพ่อไว้เพื่อกันภัยจากข้าศึก ต่อมาเมื่อเมืองพ่ายแก่ข้าศึก และเสื่อมความสำคัญในฐานะเมืองหลวงแห่งอาณาจักรลง ทำให้วัดที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อต้องมีอันร้างพระสงฆ์และผู้คน พร้อม ๆ กับ หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ที่ข้าศึกไม่สนใจ เพราะเป็นพระพุทธรูปปูน (ที่ถูกหุ้มไว้) ไม่ใช่พระเนื้อโลหะอย่างที่ข้าศึกต้องการ องค์หลวงพ่อจึงถูกทิ้งร้างอย่างปลอดภัยอยู่กลางป่ามาตลอดช่วงสมัยอยุธยา
สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
จวบจนยุคสมัยก้าวล่วงเข้าสู่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้เสด็จไปการพระราชสงครามยังหัวเมืองเหนือ ได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปซึ่งอยู่ ณ เมืองเก่าสุโขทัย ทั้งที่เป็นพระปูน พระโลหะ ซึ่งถูกทอดทิ้งไว้ ได้ทรงมีพระราชศรัทธาที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงได้ทรงออกกระแสพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปจากสุโขทัย รวมทั้งองค์หลวงพ่อ พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี ให้มาประดิษฐานไว้ ณ กรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2337 ความว่า
“ | ...ศุภมัสดุ พระพุทธศักราชล่วงแล้ว ๒๓๒๗ พระวะษา ตยุลศักราช ๑๑๕๖ ปีขาล ฉ้อศก ณ วัน ๕ฯ๙ ค่ำ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมธรรมิกะมหาราชาธิราชเจ้า พระองค์ปรารถนาพระบรมโพธิญาณ ทรงพระราชศรัทธาธิคุณเปนอัคะสาสะนูปะถำ พกพระพุทธสาศนา ทรงพระราชกุศลจินดาไมยญาณไปว่า พระพุทธรูปพระนครใดที่ท่านผู้ทานาธิบดีศรัทธาสร้างไว้แต่ก่อน บัดนี้หามีผู้ทำนุกบำรุงปติสังขรณะไม่ ประหลักหักพังยับเยือนเปนอันมาก เปนที่หมิ่นปรมาทแห่งบุทคลอันทพาลแลมฤทาทิฐิ ทรงพระราชดำริไปก็บังเกิดสังเวดในพระบรมพุทธาวิฐารคณเปนอันมาก จึ่งมี พระราชบริหารดำหรัส สั่งให้ พญารักษมณเทียรกรมวังหลวง สมเด็จพระขรรคกรมพระแสงใน ขึ้นไปเชิญเสด็จพระพุทธรูปณะเมืองศุกโขไทย ผู้รั้งกรมการกับข้าหลวงจัดเรือขนาบมีร่มตลอดหัวท้าย มีฉัตรธงปักรายแคมแล้วเชิญเสด็จพระพุทธรูปเจ้าลงเรือล่องมายังกรุงเทพมหานคร ศรีอยุธยา จึ่งเชิญขึ้นประดิษถานไว้ ณะพระอารามพระเชตุพน มาถึง ณ วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีขาล ฉ้อศก”..."” | ” |
การอัญเชิญมารวบรวมไว้ในพระนคร ครั้งนี้ ก็เพื่อรออัญเชิญประดิษฐานไว้ในที่อันสมควรแก่การสักการบูชา โดยการอัญเชิญพระพุทธรูปจากหัวเมืองเหนือมายังกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 1,248 องค์ ซึ่งพระพุทธรูปปูนปั้นหุ้มหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ก็ได้ถูกอัญเชิญลงมาในคราวเดียวกันนี้ ในการนั้น ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปจากเมืองสุโขทัยและหัวเมืองเหนือที่ได้รวบรวมมา ประดิษฐานไว้ ณ พระวิหารคตวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ที่ทรงบูรณปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2344
ลุจุลศักราช 1855 เอกศก (พ.ศ. 2336) สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตัน กรมหลวงเทพหริรักษ์ พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางเธอในรัชกาลที่ 1 ทรงทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเลียบเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระราชทานนามวัดว่า "วัดราชบุรณราชวรวิหาร" ตามนามวัดราชบุรณะซึ่งเป็นวัดคู่เมืองราชธานีตลอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และได้มีพระบรมราชูปถัมภ์ในการบูรณปฏิสังขรณ์ด้วย
ต่อมา ในรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถอนสีมาวัดเลียบเก่า แล้วสร้างพระอุโบสถและพระวิหารใหม่ พร้อมกับทำการสร้างพระระเบียงล้อมรอบพระอุโบสถ ภายในอัญเชิญพระพุทธรูปปูนเก่า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาจากหัวเมืองเหนือรวม 162 องค์ มาประดิษฐานไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ด้วย
รอดจากระเบิดสัมพันธมิตร (สงครามโลกครั้งที่ 2)
เวลาล่วงเลยมากว่า 7 รัชสมัย จนถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดราชบุรณะได้ถูกระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรทำลาย เนื่องจากใกล้กับวัดเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าวัดเลียบที่สร้างมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2440 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นจุดสำคัญที่หมายสำหรับการทำลายของเครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร เพราะเป็นที่ตั้งของแหล่งสาธารณูปโภคสำคัญของพระนคร
โดยวัดราชบุรณะถูกระเบิดทำลายลงในเวลาประมาณ 13.15 น. ของวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2488 ทำให้พระอุโบสถ สังฆาราม พระวิหาร และ กุฏิเสนาสนะ เสียหายมาก คงเหลือแต่พระะปรางค์และพระระเบียงคตที่ประดิษฐานหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีเท่านั้นที่ไม่ถูกทำลาย แต่ด้วยความเสียหายอย่างหนักของวัดยากแก่การบูรณะให้มีสภาพดังเดิม คณะสังฆมนตรีและคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติว่าสมควรยุบเลิกวัดเสีย จึงนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ทำการยุบเลิกวัดได้ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2488
เมื่อวัดราชบูรณะถูกยุบเลิก สังฆมนตรีได้ประกาศยุบวัดราชบุรณราชวรวิหารรวมไปเข้ากับวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และบรรดาทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ของวัดราชบุรณะที่เหลือรอดจากการถูกทำลายให้โอนไปเป็นสมบัติของวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระสงฆ์และสามเณรวัดราชบุรณราชวรมหาวิหารเดิมให้เข้าถือสังกัดอยู่ในวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
เมื่อวัดราชบุรณราชวรมหาวิหารถูกยุบเลิกดังกล่าว กรมการศาสนาจึงได้อนุญาตให้วัดต่าง ๆ ในหัวเมือง อัญเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณที่พระระเบียงที่รอดจากการถูกทำลาย ไปประดิษฐานยังวัดของตนได้ตามแต่ประสงค์ ทำให้หลังจากสงครามสงบลงในปีเดียวกัน พระพุทธรูปเหล่านั้นจึงกระจายไปอยู่ตามวัดต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ
อัญเชิญขึ้นมายังอุตรดิตถ์
- อัญเชิญจากกรุงเทพมหานคร
วัดคุ้งตะเภา ซึ่งในสมัยนั้นกำลังทำการก่อสร้างอุโบสถ และยังไม่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สำหรับเป็นพระประธานเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงได้แจ้งความจำนงขอรับพระพุทธรูปเก่าจากวัดราชบุรณราชวรวิหารมาองค์หนึ่ง กรมการศาสนาจึงได้ส่งพระพุทธรูปโบราณทั้งที่เป็นพระปูนพระสัมฤทธิ์ รวมทั้งองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีที่เคยประดิษฐานที่พระระเบียงคต รวมจำนวน 8 องค์ คู่กับรูปหล่อสัมฤทธิ์พระอัครสาวกที่เคยประดิษฐานเป็นพระอสีติมหาสาวก 80 องค์ ภายในวิหารซึ่งเป็นพระที่รอดจากการทำลายจากระเบิดสัมพันธมิตรในครั้งนั้นมาด้วย
- พระพุทธรูปองค์อื่นที่อัญเชิญมาจากวัดราชบุรณะในคราวเดียวกัน
การอัญเชิญพระจากวัดราชบุรณราชวรวิหารในครั้งนั้น วัดในจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ลงไปขอพระพุทธรูปจากวัดราชบุรณราชวรวิหาร เท่าที่ทราบนามในปัจจุบันมีด้วยกันห้าวัดคือ วัดคุ้งตะเภา (อัญเชิญ หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี กลับมา) , วัดธรรมาธิปไตย (อัญเชิญ หลวงพ่อเชียงแสน กลับมา), วัดยางโทน (อัญเชิญหลวงพ่อพระพุทธโคดมศรีศากยมุนีกลับมา), วัดดอนไชย อำเภอลับแล (อัญเชิญพระพุทธรูปศิลปสุโขทัยกลับมา) และวัดดงสระแก้ว (อัญเชิญ หลวงพ่ออู่ทอง (ทองคำ) กลับมา2) โดยตอนอัญเชิญพระพุทธรูปกลับมานั้น ได้มาเพียงพระปูนปั้นธรรมดา (วัดคุ้งตะเภาได้พระปูนลงรักดำสนิทมา) แต่ต่อมาพระปูนทั้งหมดก็ได้กะเทาะแตกออกเป็นพระโลหะสำริดและทองคำดังในปัจจุบัน
- ประดิษฐาน ณ วัดธรรมาธิปไตย
สำหรับการเคลื่อนย้ายนั้น กรมการศาสนาได้ชะลอหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีและพระพุทธรูปอื่น ๆ ขึ้นมายังจังหวัดอุตรดิตถ์โดยทางรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟศิลาอาสน์ และอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่วัดธรรมาธิปไตย ซึ่งเป็นวัดของพระเดชพระคุณพระสุธรรมเมธี (บันลือ ธมฺมธโช ป.ธ.๘) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ในขณะนั้น โดยท่านได้ทำการจัดแบ่งถวายยังวัดต่าง ๆ ที่แจ้งความประสงค์มาโดยการเลือกบ้างจับสลากบ้าง พระปลัดป่วน ซึ่งยังเป็นเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาในครั้งนั้นจึงได้ส่งมัคนายกวัดคุ้งตะเภา 2 ท่าน คือทายกบุตร ดีจันทร์ และทายกอินทร์ รัตนมาโต มาที่วัดธรรมาธิปไตยเพื่อคัดเลือกและรับอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีมายังวัดคุ้งตะเภา โดยได้รับถวายรูปหล่อพระอัครสาวกมาจำนวน 2 องค์เพื่อประดิษฐานคู่กับหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีด้วย (ปัจจุบันรูปพระอัครสาวกทั้งสองได้สูญหายไปนานแล้ว)
- อัญเชิญสู่วัดคุ้งตะเภา-สำแดงปาฏิหาริย์
การเคลื่อนย้ายหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีมายังวัดคุ้งตะเภาในครั้งนั้น ทายกทั้งสองได้ชวนคนวัดและชาวบ้านร่วมกันอัญเชิญมาลงที่ท่าอิฐไม่ไกลจากวัดธรรมาธิปไตย และทวนแพมาขึ้นฝั่งหน้าวัดคุ้งตะเภาโดยทางแม่น้ำน่านในช่วงสงกรานต์ปี พ.ศ. 2489 ในครั้งนั้นเล่ากันมาว่ามีน้ำหลากสูงเต็มตลิ่งผิดปกติ ทำให้ชาวบ้านสามารถอัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีขึ้นฝั่งตรงหน้าวัดบริเวณต้นโพธิ์หน้าศาลาการเปรียญได้เป็นอัศจรรย์
ในช่วงแรก ชาวบ้านคุ้งตะเภาได้ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ไว้เป็นพระประธานบนบนศาลาการเปรียญเปิดโล่งสี่ทิศ หรืออาคารศาลาการเปรียญหลังเก่าที่สร้างมาแต่ พ.ศ. 2472 ซึ่งเป็นศาสนสถานหลักของวัดในสมัยนั้นก่อนจะมีการสร้างอุโบสถเพื่อประดิษฐานในช่วงหลัง โดยผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบมาว่าหลังอัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีมาประดิษฐานเป็นหลักชัยของวัดในปี พ.ศ. 2489 ได้มีฝนตกต้องตามฤดูกาลเสมอมา ชาวบ้านคุ้งตะเภาในช่วงนั้นหากินได้อุดมสมบูรณ์มากกว่าปกติ และต่างเชื่อกันว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากวัดราชบุรณะ ในภายหลังจึงได้การขนานพระนามถวายองค์พระว่า "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" ที่แปลว่า พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลความสุขอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จดังปรารถนามาให้ และด้วยพระพุทธลักษณะแบบเชียงแสน-สุโขทัย ทำให้ในช่วงหลังพระสงฆ์ในวัดเรียกกันคุ้นปากว่า "หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์" ที่มีความหมายถึงความสุขเช่นเดียวกัน
- การอารักขาภัย
ต่อมาในช่วงหน้าพรรษาปี พ.ศ. 2500 ได้มีลมพายุพัดรุนแรงมากจนทำให้กิ่งไม้หักถูกศาลาการเปรียญต้ององค์พระปูนปั้นหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ชำรุดจนเห็นเนื้อภายใน ทำให้พระสงฆ์วัดคุ้งตะเภาได้ทราบว่าพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาแต่วัดราชบุรณะนั้นเป็นพระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์โบราณ จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานในอุโบสถของวัดคู่กับหลวงพ่อสุวรรณเภตรา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญประจำวัดคุ้งตะเภา ปะปนกับพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ โดยไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นพระเนื้อสัมฤทธิ์โบราณ และมีพระสงฆ์วัดคุ้งตะเภาเข้าจำพรรษาเฝ้าระวังหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ทุกพรรษาในอุโบสถ ทำให้ในช่วงหลังนามหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ได้ลืมเลือนไปจากชาวบ้านรุ่นที่ทันเห็นในคราวที่ยังเป็นพระพุทธรูปปูน จนถึงกลางปี พ.ศ. 2537 มีการบูรณะอุโบสถวัดคุ้งตะเภา พระสงฆ์จึงได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์เข้าประดิษฐานยังห้องลับของวัดจนถึงปี พ.ศ. 2552 จึงได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อออกประดิษฐานให้ประชาชนสักการะเป็นการชั่วคราวในเทศกาลสงกรานต์ และในปี พ.ศ. 2553 วัดคุ้งตะเภาได้สร้างตู้กระจกนิรภัยพร้อมกับติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์บนอาคารศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภา และได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นประดิษฐานในหอพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประสิทธิมงคล เปิดโอกาสให้ประชาชนสักการะเป็นการถาวรจนถึงปัจจุบัน
- งานนมัสการหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
หลังจากที่วัดคุ้งตะเภาได้อัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี กลับมาสู่แดนมาตุภูมิ (แถบนี้เคยเป็นหัวเมืองของกรุงสุโขทัยในอดีต) ก็มิได้มีการเปิดให้สักการบูชาและเปิดเผยองค์หลวงพ่ออย่างเป็นทางการเช่นในอดีต เนื่องจากปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัย เพราะองค์หลวงพ่อเป็นโบราณวัตถุที่ประเมินค่ามิได้ และเป็นที่ปรารถนาสำหรับพ่อค้าวัตถุโบราณ ทำให้ทางวัดจำเป็นต้องเก็บงำปูชนียวัตถุโบราณสำคัญยิ่งของชาติชิ้นนี้ไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ภายในวัดโดยไม่ได้เปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบมานานกว่า 60 ปี
ในปี พ.ศ. 2552 วัดคุ้งตะเภาจึงได้ทำการเปิดเผยองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สักการะปิดทองสรงน้ำได้ถึงองค์พระ โดยจะอัญเชิญหลวงพ่อมาประดิษฐานให้ประชาชนทำการสักการบูชาได้เฉพาะในช่วง เทศกาลสงกรานต์เท่านั้น
จนในปี พ.ศ. 2553 วัดคุ้งตะเภาได้ทำการอัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นประดิษฐานเป็นการถาวรบนอาคารศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภา และเปิดโอกาสให้ประชาชนสักการะได้ทุกวัน
- ได้รับถวายพระนามและยกย่องเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์
ด้วยฤทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี และพระพุทธศิลปะแบบสุโขทัย-เชียงแสน ที่หาชมได้ยากยิ่ง ทำให้ในปี พ.ศ. 2552 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้ยกย่ององค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีเป็นพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง 1 ใน 9 องค์ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และวัดคุ้งตะเภาถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในเส้นทางทำบุญไหว้พระ 9 วัด ของจังหวัดอุตรดิตถ์อีกด้วย
และเนื่องในมหาศุภวาระมงคลดิถีสัมพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี (การฉลอง 26 พุทธศตวรรษ แห่งการตรัสรู้) ในปี พ.ศ. 2555 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร องค์พระสังฆบิดรแห่งคณะสงฆ์ไทย จึงได้มีพระเมตตาธิคุณเปลี่ยนถวายพระนามองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีใหม่ให้สอดคล้องกับชื่อจังหวัดอุตรดิตถ์ จากพระนามเดิม หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์ เป็น พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
โดยปรากฏข้อความทรงยกย่องในหนังสือตอบการประทานพระนามจากสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ว่า
...เนื่องด้วย... เป็นพระพุทธรูปโบราณสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน-สุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์...
และการที่มีพระเมตตาธิคุณประทานเปลี่ยนพระนามใหม่ให้เป็น พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี นั้น เพื่อให้คล้องกับพระนามเดิมที่รู้จักกันทั่วไป และต่อสร้อยให้คล้องกับนามจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีจึงมีพระนามใหม่ตั้งแต่นั้นมา
สำหรับประวัติโดยละเอียดของหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ วิกิซอร์ซ เก็บถาวร 2008-06-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
สถานที่ประดิษฐาน
ปัจจุบันหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประดิษฐานอยู่ที่ วัดคุ้งตะเภา หมู่บ้านคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เดิมนั้น ทางวัดเก็บรักษาไว้ที่ห้องลับของทางวัด ทำให้ปกติมิได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้านมัสการได้ถึงตัวองค์พระ เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย วัดคุ้งตะเภาจะอัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีออกให้ประชาชนทั่วไปนมัสการได้ถึงตัวองค์พระเพียงวันเดียวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น โดยหากเป็นนอกช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้ประสงค์สักการะถึงองค์พระต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากการพิจารณาของที่ประชุมพระสังฆาธิการและคณะกรรมการวัดคุ้งตะเภา ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้าชมสักการะได้เฉพาะราย และจัดชุดเข้าสักการะได้เป็นคราว ๆ ไปเท่านั้น
แต่ในปัจจุบัน วัดคุ้งตะเภาได้สร้างห้องตู้กระจกนิรภัย พร้อมทั้งติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จึงทำให้สามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าสักการะได้ทุกวัน โดยปัจจุบันหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประดิษฐานอยู่ที่หอพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีประสิทธิมงคล (อาคารทิศตะวันตก) บนอาคารศาลาการเปรียญเฉลิมพระเกียรติฯ วัดคุ้งตะเภา
คำกล่าวสักการบูชาหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
คาถาบูชาหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
- นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
- นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
- นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
- “อิมัสสะมิง เภตะระนะทีตีระอาราเม
- อัคคะสิทธัตถะโลหะมะยัง สุโขทัยยัง นาม พุทธะปะฏิมัง
- สิระสา นะมามิหัง
- อิมิสสานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ”
คำแปลคาถาบูชาหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
- “ข้าพเจ้า ขอบูชาองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
- ด้วยบุญญานุภาพ แห่งองค์หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี
- ขอความร่มเย็นเป็นสุข และความสำเร็จสัมฤทธิ์ดังปรารถนาทั้งมวล
- จงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ”
- หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี เมื่อคราวอัญเชิญออกประดิษฐานให้ประชาชนสักการะในงานเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2552
- ศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภาหลังเก่า สถานที่แรกประดิษฐานหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีในวัดคุ้งตะเภาในช่วงก่อน พ.ศ. 2500
- สถานที่แม่น้ำน่านเต็มตลิ่งเป็นอัศจรรย์ เป็นเหตุให้สามารถอัญเชิญหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีลงแพเพื่อขึ้นฝั่งแม่น้ำหน้าวัดคุ้งตะเภาได้
เชิงอรรถ
หมายเหตุ 1: อีกนัยหนึ่ง พระพุทธรูปนี้จัดเข้าในลักษณะพระพุทธรูปสำริด ศิลปะล้านนา ระยะที่ ๒ หมวด ๒ ราวครึ่งแรกพุทธศตวรรรษที่ ๑๘ สันนิษฐานว่าอาจได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ระหว่างรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระญาลิไท) ราว พ.ศ. ๑๘๙๐ - ๑๙๑๑ หรือได้รับอิทธิพลโดยตรงจากศิลปะลังกา สมัยโปโลนนารุวะ (พ.ศ. ๑๕๓๖ - ๑๗๗๙) และสมัยแยกอาณาจักรในช่วงระยะเวลาเดียวกับศิลปะสุโขทัย ซึ่งพระพุทธรูปในหมวดนี้ล้วนสร้างขึ้นอย่างปราณีตด้วยศิลปะชั้นสูง ผลงานประติมากรรมชิ้นเยี่ยมที่สะท้อนถึงลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน และสุนทรียภาพอันงดงาม
หมายเหตุ 2: หลวงพ่ออู่ทอง ถูกโจรกรรมจากวัดดงสระแก้วไปในปี พ.ศ. 2522 ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้คืน
ดูเพิ่ม
- พระพุทธสุวรรณเภตรา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญ 1 ใน 2 องค์ของวัดคุ้งตะเภา
- วัดคุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์ สถานที่ประดิษฐานในปัจจุบัน
- วัดราชบุรณราชวรวิหาร (วัดเลียบ) กรุงเทพมหานคร
อ้างอิง
- หนังสือสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ที่ พ ๐๔๓๗/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เรื่อง ประทานนามพระพุทธรูป
- สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช. (๒๕๕๕). ประทานบัตรพระนามพระพุทธรูป พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี. ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ, เล่ม 104, ตอน 235, 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530, หน้า 10-11.
- เขียน ยิ้มศิริ และมานิต วัลลิโภดม. (2500). พุทธานุสรณ์. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.).
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ, เล่ม 104, ตอน 235, 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530, หน้า 10-11.
- ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร. (2553). พระพุทธรูปคู่บ่อน้ำมันฝาง. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.npdc.mi.th/Npdc/buddha.htm 2010-06-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เทวประภาส มากคล้าย. (2552). สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น : ประเพณีวัฒนธรรมและพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของวัดและหมู่บ้านคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์ : พงษ์วิทยาการพิมพ์.
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2552). ข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์-พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดอุตรดิตถ์. [ออนไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://utt.onab.go.th/download/serviceutt/128.doc 2011-05-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เรียกข้อมูลเมื่อ 13-6-52
- สุพจน์ สิงห์สาย. (2542). 19 ศิลปินชั้นเยี่ยม (Artists of Distinction) . [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.khonnaruk.com/html/19artist/19artist_02.html 2006-03-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- _______. (ม.ป.ป.). ประวัติพระพุทธรูปบูชาฉบับพิสดาร. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ลูก ส.ธรรมภักดี. หน้า 463, 549-551.
- “เรื่องกระแสพระบรมราชโองการ ให้อัญเชิญพระพทุธรูปจากสุโขทัยมาประดิษฐานไว้ ณ กรงุเทพฯ จ.ศ. 1156 (พ.ศ. 2337),” 2337. เอกสารต้นฉบับ: สมุดไทยดา อักษรไทย ภาษาไทย เส้นรงค์สีเหลือง. เลขทะเบียน: เลขที่ 9/ก. สถานที่เก็บ: ห้องเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติ.
- วัดราชบุรณราชวรวิหาร. (2538). ประวัติวัดราชบูรณราชวรวิหาร และผลงานของพระเดชพระคุณพระราชพฤฒาจารย์ (เชียง อินฺทโชโต)[]. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สหธรรมิก. หน้า (12) - (14), 13, 21, 23-24, 81
- กระทรวงศึกษาธิการ. (2488, 30 กรกฎาคม). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ยุบเลิกพระอารามหลวง.
- หวน พินธุพันธ์. (2521). อุตรดิตถ์ของเรา. กรุงเทพฯ: กรุงสยามการพิมพ์. หน้า 90
- หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล. (๒๕๔๖). ศิลปะในประเทศไทย. กรุงเทพ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลยัยธรรมศาตร์. หน้า ๒๒
- สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. (๒๕๕๑). วัดเบญจมบพิตรและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดเบญจมบพิตร พระพุทธรุปสำคัญ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม. กรุงเทพฯ : รุ่งศิลป์การพิมพ์. หน้า ๑๕
แหล่งข้อมูลอื่น
- หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี พระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ อายุ ๘๐๐ ปี[]. เว็บไซต์สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์.
- วีดิทัศน์ ประวัติหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี (The History of Phra Buddha Sukothai Samrit). เว็บไซต์ยูทูบ (YouTube).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni hrux hlwngphxsuokhsmvththi epnphraphuththrupskdisiththisakhykhubankhuemuxngxutrditth miphuththlksnapangmarwichy hlxdwythxngsmvththibrisuththi hnatkkwangsxkess miphuththlksnangdngamtamaebbxyangskulchangsuokhthy echiyngaesn sungepnaebbthiphbidnxymakaelahayakthisudphraphuththsuokhsmvththixutrditthmunichuxetmphraphuththsuokhsmvththixutrditthmunichuxsamyhlwngphxsuokhsmvththi hlwngphxsuokhthysmvththi hlwngphxsuokhthy hlwngphxsmvththiphraphuththrupobranskdisiththisilpapangmarwichy silpasuokhthy echiyngaesnchnkhru echiyngaesnaeplng hruxaebbthanmhaswn khwamkwang1 sxk 13 niwkhwamsung2 sxk 8 niw tlxdthungphrarsmi wsdusaridobransthanthipradisthanwdkhungtaephakhwamsakhyphraphuththrupkhubankhuemuxngcnghwdxutrditthhmayehtuepidihprachachnekhaskkaraidthukwnswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni edimxngkhphrathukphxkpunlngrkpidthxngxarkkhaphyiw twxngkhphrasariddngpraktinpccubnnnsnnisthanwasranginsmyaerkkxtngkrungsuokhthyepnrachthani inchwngphuththstwrrsthi 181 skulchangechiyngaesnyukhplayphsmskulchangsuokhthyyukhtn hruxinchwngyukhrxytxkarsthapnaxanackrsuokhthy epnrchsmyrahwangphxkhunsrixinthrathitykbphyaliith mixayupraman 7 800 pi miprawtikhwamepnmaaelaxphiniharthinasnicying hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni pradisthanxyuthi wdkhungtaepha hmubankhungtaepha tablkhungtaepha xaephxemuxng cnghwdxutrditth edimnnthangwdimepidephysthanthipradisthan aelaimihbukhkhlthwipekhaskkaraidthungxngkhphra enuxngdwypyhadankarrksakhwamplxdphy odycaxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunixxkihprachachnthwipnmskaridthungtwxngkhphraephiynginchwngethskalsngkrantethann pccubn wdkhungtaepha idsranghxngtukracknirphy phrxmthngtidtngrabbrksakhwamplxdphyxielkthrxniksaelw cungthaihsamarthepidoxkasihprachachnekhaskkaraidthukwn odypccubnhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunipradisthanxyuthihxphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni bnxakharsalakarepriyyechlimphraekiyrti wdkhungtaephakhwamsakhyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni epnphraphuththrupobranskdisiththisakhythiepnthiekharphnbthux 1 in 2 xngkh khxngtablkhungtaepha aelaepnphraphuththrupobransakhykhubankhuemuxng 1 in 9 xngkh khxngcnghwdxutrditth epnphraphuththrupsakhykhubankhuemuxngkhxngcnghwdxutrditth thixyechiymacakwdrachburnarachwrwiharinchwnghlngsngkhramolkkhrngthi 2 phraphuththrupxngkhnimiprawtikhwamepnmaekiywkhxngkbchwngewlakarepliynphanaelaehtukarnsakhythangprawtisastrsakhy khxngpraethsithyhlaykhrng aelamikhwamekiywkhxngkbphramhakstriyithyhlayphraxngkh enuxngcakhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniepnphraphuththrupobranthimiprawtikhwamepnmaphanchwngewlaaehngprawtisastrchatiithykwa 800 pi lwngelyaetsmykrungsuokhthyepnrachthanicnthungpccubnsilpahlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni cdepnphraphuththrupenuxolhasmvththipangmarwichysilpaskulsuokhthy echiyngaesnaeplng aebbthanmhaswn pccubnpraktephiyng 4 xngkhinpraethsithy odyaebngepnpangkhdsmathirab 2 xngkh pccubnpradisthanxyuthiwdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar aelapangmarwichyxik 2 xngkh khuxxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni wdkhungtaepha aelaxngkhhlwngphxechiyngaesn wdthrrmathipity aetxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni epnphraphuththruppangmarwichyaebbthanmhaswnephiyngxngkhediyw thimiphuththlksnatamkhnbxinediyobrankhux phrahtthimidwangbnphrahnu ekha aetwangbnphrachngkh aelaniwphrahtthaetaphundin than bxkaemphrathrni xnepnphuththlksnasakhythienuxngdwypangmarwichytamkhwaminphraitrpidktxnphraphuththxngkhtrsruphraxnuttrsmmasmophthiyan phs ekhiyn yimsiri phuklawykyxngphraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni phs ekhiyn yimsiri xacarypracamhawithyalysilpakr silpinchneyiymsakhacitrkrrm klawykyxngkhunkhathangsilpakhxngphraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniiwinhnngsuxkhxngthanwa phraphuththrupaebbthanmhaswnechnni epnsilpachnkhru Masterpiece sungnbwahayakmak thnghmdmikhnadethaknkhuxkhnadethakhn micudednthiphraphktrxnsngbngamying ody phs ekhiyn yimsiri ykyxngphraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniiwinhnngsuxphuththanusrnwa xarmnkaraesdngxxkkhxngthanmikhwamsngbepnsakhy yingduthannanephiyngir kyingcbicinkhwamsngangamkhxngthanyingkhunephiyngnn phs ekhiyn yimsiri phs ekhiyn yimsiri klawxikwaphraphuththsihingkh xngkhthipradisthaninphrathinngsiwomkkhphiman phiphithphnthsthanaehngchatiphrankhr imsamarthxyechiymaepriybethiybkhwamngdngamsukbphraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniidely ephraaphraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuninbwamicitwiyyanphayinmakkwa dngnncungnbidwaindankhwammiwiyyanphudphxngphayinechingsilpakhxnghlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuninnnbidwaepnelis odyechphaaxyangying phs ekhiyn yimsiri idsrupsnnisthaniwepnaenwkhidkhxngthanwa phraphuththrupaebbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuninn srangkhunody phumiphumisngarawkbkstriy hruxsrangkhunodyphumibuybarmihruxodyphrabrmrachoxngkarkhxngphramhakstriyephuxpradisthanepnphrakhubankhuemuxngnnexngprawtiaerksranginsmyechiyngaesn suokhthy hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni epnphraphuththrupobranskdisiththi sranginsmykxntngkrungsuokhthyepnrachthani emuxkwa 800 pikxn snnisthanwaepnphraphuththrupsakhykhxngphrawiharinwdobranaehngidaehnghnungyukhnn emuxmikhasukprachidemuxng chawbanekrngwahlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunicaidrbxntray cungidphxkpunxngkhhlwngphxiwephuxknphycakkhasuk txmaemuxemuxngphayaekkhasuk aelaesuxmkhwamsakhyinthanaemuxnghlwngaehngxanackrlng thaihwdthipradisthanxngkhhlwngphxtxngmixnrangphrasngkhaelaphukhn phrxm kb hlwngphxsuokhsmvththithikhasukimsnic ephraaepnphraphuththruppun thithukhumiw imichphraenuxolhaxyangthikhasuktxngkar xngkhhlwngphxcungthukthingrangxyangplxdphyxyuklangpamatlxdchwngsmyxyuthya smyrtnoksinthrtxntn phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phraphuthrngxyechiyxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunimapradisthan n krungethphmhankhr cwbcnyukhsmykawlwngekhasusmytnkrungrtnoksinthr phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 idesdcipkarphrarachsngkhramynghwemuxngehnux idthxdphraentrehnphraphuththrupsungxyu n emuxngekasuokhthy thngthiepnphrapun phraolha sungthukthxdthingiw idthrngmiphrarachsrththathicathanubarungphraphuththsasnaepnxyangmak cungidthrngxxkkraaesphrabrmrachoxngkarihxyechiyphraphuththrupcaksuokhthy rwmthngxngkhhlwngphx phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni ihmapradisthaniw n krungethphmhankhr inpi ph s 2337 khwamwa kraaesphrabrmrachoxngkar ihxyechiyphraphuththrupcaksuokhthy phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni mapradisthaniw n krungethph c s 1156 ph s 2337 suphmsdu phraphuththskrachlwngaelw 2327 phrawasa tyulskrach 1156 pikhal chxsk n wn 59 kha smedcphraecaxyuhwbrmthrrmikamharachathiracheca phraxngkhprarthnaphrabrmophthiyan thrngphrarachsrththathikhunepnxkhasasanupatha phkphraphuththsasna thrngphrarachkuslcindaimyyanipwa phraphuththrupphrankhridthithanphuthanathibdisrththasrangiwaetkxn bdnihamiphuthanukbarungptisngkhrnaim prahlkhkphngybeyuxnepnxnmak epnthihminprmathaehngbuthkhlxnthphalaelmvthathithi thrngphrarachdariipkbngekidsngewdinphrabrmphuththawitharkhnepnxnmak cungmi phrarachbrihardahrs sngih phyarksmnethiyrkrmwnghlwng smedcphrakhrrkhkrmphraaesngin khunipechiyesdcphraphuththrupnaemuxngsukokhithy phurngkrmkarkbkhahlwngcderuxkhnabmirmtlxdhwthay michtrthngpkrayaekhmaelwechiyesdcphraphuththrupecalngeruxlxngmayngkrungethphmhankhr srixyuthya cungechiykhunpradisthaniw naphraxaramphraechtuphn mathung n wnkhun 14 kha eduxn 11 pikhal chxsk karxyechiymarwbrwmiwinphrankhr khrngni kephuxrxxyechiypradisthaniwinthixnsmkhwraekkarskkarbucha odykarxyechiyphraphuththrupcakhwemuxngehnuxmayngkrungethphmhankhrinkhrngni micanwnkwa 1 248 xngkh sungphraphuththruppunpnhumhlwngphxsuokhsmvththikidthukxyechiylngmainkhrawediywknni inkarnn thrngmiphramhakrunathikhun oprdekla ihpradisthanphraphuththrupcakemuxngsuokhthyaelahwemuxngehnuxthiidrwbrwmma pradisthaniw n phrawiharkhtwdphraechtuphnwimlmngkhlaram rachwrmhawihar thithrngburnptisngkhrnesrcsininpi ph s 2344 luculskrach 1855 exksk ph s 2336 smedcphrasmphnthwngsethx ecafatn krmhlwngethphhrirks phraoxrsinsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrasrisudarks phraphinangethxinrchkalthi 1 thrngthakarburnptisngkhrnwdeliybesrcaelw phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phrarachthannamwdwa wdrachburnrachwrwihar tamnamwdrachburnasungepnwdkhuemuxngrachthanitlxdmatngaetsmysuokhthy aelaidmiphrabrmrachupthmphinkarburnptisngkhrndwy txma inrchkalthi 2 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly thrngphrakrunaoprdekla ihthxnsimawdeliybeka aelwsrangphraxuobsthaelaphrawiharihm phrxmkbthakarsrangphraraebiynglxmrxbphraxuobsth phayinxyechiyphraphuththruppuneka sungphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk thrngphrakrunaoprdekla ihxyechiymacakhwemuxngehnuxrwm 162 xngkh mapradisthaniw sunghnunginnnkkhuxxngkhhlwngphxsuokhsmvththidwy rxdcakraebidsmphnthmitr sngkhramolkkhrngthi 2 ewlalwngelymakwa 7 rchsmy cnthungchwngplaysngkhramolkkhrngthi 2 wdrachburnaidthukraebidcakekhruxngbinthingraebidkhxngfaysmphnthmitrthalay enuxngcakiklkbwdepnthitngkhxngorngiffawdeliybthisrangmatngaetrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw inpi ph s 2440 sungtxmaidklayepncudsakhythihmaysahrbkarthalaykhxngekhruxngbinthingraebidkhxngfaysmphnthmitr ephraaepnthitngkhxngaehlngsatharnupophkhsakhykhxngphrankhr phaphwdrachburnrachwrwiharinpi ph s 2475 plxngorngiffaeliybxyudanhlngwd kxnthukthalayhmdthngwdcakekhruxngbinthingraebidkhxngfaysmphnthmitrinpi ph s 2488 inphaphcasngektehnphraraebiyngkhtrxbphraxuobsthwdrachburna sthanthi ekhyepnthipradisthanhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniaelaphraphuththrupobranthng 162 xngkh odywdrachburnathukraebidthalaylnginewlapraman 13 15 n khxngwnthi 14 emsayn ph s 2488 thaihphraxuobsth sngkharam phrawihar aela kutiesnasna esiyhaymak khngehluxaetphraaprangkhaelaphraraebiyngkhtthipradisthanhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniethannthiimthukthalay aetdwykhwamesiyhayxyanghnkkhxngwdyakaekkarburnaihmisphaphdngedim khnasngkhmntriaelakhnarthmntriinkhnannmimtiwasmkhwryubelikwdesiy cungnakhwamkrabbngkhmthulphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl rchkalthi 8 aelaidrbphrabrmrachanuyatihthakaryubelikwdid tamprakaskrathrwngsuksathikar lngwnthi 30 krkdakhm ph s 2488 emuxwdrachburnathukyubelik sngkhmntriidprakasyubwdrachburnrachwrwiharrwmipekhakbwdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar aelabrrdathrphysinthiepnsngharimthrphykhxngwdrachburnathiehluxrxdcakkarthukthalayihoxnipepnsmbtikhxngwdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar phrasngkhaelasamenrwdrachburnrachwrmhawiharedimihekhathuxsngkdxyuinwdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar aelawdphraechtuphnwimlmngkhlaramrachwrmhawihar emuxwdrachburnrachwrmhawiharthukyubelikdngklaw krmkarsasnacungidxnuyatihwdtang inhwemuxng xyechiyphraphuththruppunpnobranthiphraraebiyngthirxdcakkarthukthalay ippradisthanyngwdkhxngtnidtamaetprasngkh thaihhlngcaksngkhramsngblnginpiediywkn phraphuththrupehlanncungkracayipxyutamwdtang thwphumiphakhkhxngpraeths xyechiykhunmayngxutrditth xyechiycakkrungethphmhankhr wdkhungtaepha sunginsmynnkalngthakarkxsrangxuobsth aelayngimmiphraphuththrupxngkhihysahrbepnphraprathanepnthiyudehniywcitic cungidaecngkhwamcanngkhxrbphraphuththrupekacakwdrachburnrachwrwiharmaxngkhhnung krmkarsasnacungidsngphraphuththrupobranthngthiepnphrapunphrasmvththi rwmthngxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunithiekhypradisthanthiphraraebiyngkht rwmcanwn 8 xngkh khukbruphlxsmvththiphraxkhrsawkthiekhypradisthanepnphraxsitimhasawk 80 xngkh phayinwiharsungepnphrathirxdcakkarthalaycakraebidsmphnthmitrinkhrngnnmadwy sthanthiaemnananetmtlingthunghnawdepnxscrry epnehtuihsamarthxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunikhunaephyngfngaemnahnawdkhungtaephaedimid aemnananinsmynnxyuhangcaktlingwdipkwa 1 kiolemtr phraphuththrupxngkhxunthixyechiymacakwdrachburnainkhrawediywkn karxyechiyphracakwdrachburnrachwrwiharinkhrngnn wdincnghwdxutrditththilngipkhxphraphuththrupcakwdrachburnrachwrwihar ethathithrabnaminpccubnmidwyknhawdkhux wdkhungtaepha xyechiy hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni klbma wdthrrmathipity xyechiy hlwngphxechiyngaesn klbma wdyangothn xyechiyhlwngphxphraphuththokhdmsrisakymuniklbma wddxnichy xaephxlbael xyechiyphraphuththrupsilpsuokhthyklbma aelawddngsraaekw xyechiy hlwngphxxuthxng thxngkha klbma2 odytxnxyechiyphraphuththrupklbmann idmaephiyngphrapunpnthrrmda wdkhungtaephaidphrapunlngrkdasnithma aettxmaphrapunthnghmdkidkaethaaaetkxxkepnphraolhasaridaelathxngkhadnginpccubn pradisthan n wdthrrmathipity sahrbkarekhluxnyaynn krmkarsasnaidchalxhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniaelaphraphuththrupxun khunmayngcnghwdxutrditthodythangrthifmalngthisthanirthifsilaxasn aelaxyechiymapradisthanepnkarchwkhrawthiwdthrrmathipity sungepnwdkhxngphraedchphrakhunphrasuthrrmemthi bnlux thm mthoch p th 8 ecakhnacnghwdxutrditthinkhnann odythanidthakarcdaebngthwayyngwdtang thiaecngkhwamprasngkhmaodykareluxkbangcbslakbang phrapldpwn sungyngepnecaxawaswdkhungtaephainkhrngnncungidsngmkhnaykwdkhungtaepha 2 than khuxthaykbutr dicnthr aelathaykxinthr rtnmaot mathiwdthrrmathipityephuxkhdeluxkaelarbxyechiyphraphuththruphlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunimayngwdkhungtaepha odyidrbthwayruphlxphraxkhrsawkmacanwn 2 xngkhephuxpradisthankhukbhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunidwy pccubnrupphraxkhrsawkthngsxngidsuyhayipnanaelw xyechiysuwdkhungtaepha saaedngpatihariy karekhluxnyayhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunimayngwdkhungtaephainkhrngnn thaykthngsxngidchwnkhnwdaelachawbanrwmknxyechiymalngthithaxithimiklcakwdthrrmathipity aelathwnaephmakhunfnghnawdkhungtaephaodythangaemnananinchwngsngkrantpi ph s 2489 inkhrngnnelaknmawaminahlaksungetmtlingphidpkti thaihchawbansamarthxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunikhunfngtrnghnawdbriewntnophthihnasalakarepriyyidepnxscrry inchwngaerk chawbankhungtaephaidpradisthanphraphuththruppunpnhlwngphxsuokhsmvththiiwepnphraprathanbnbnsalakarepriyyepidolngsithis hruxxakharsalakarepriyyhlngekathisrangmaaet ph s 2472 sungepnsasnsthanhlkkhxngwdinsmynnkxncamikarsrangxuobsthephuxpradisthaninchwnghlng odyphuethaphuaekelasubmawahlngxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunimapradisthanepnhlkchykhxngwdinpi ph s 2489 idmifntktxngtamvdukalesmxma chawbankhungtaephainchwngnnhakinidxudmsmburnmakkwapkti aelatangechuxknwaepnephraakhwamskdisiththikhxngphraphuththrupthixyechiymacakwdrachburna inphayhlngcungidkarkhnanphranamthwayxngkhphrawa hlwngphxsmvththi thiaeplwa phraphuththrupskdisiththithibndalkhwamsukhxudmsmburnaelakhwamsaercdngprarthnamaih aeladwyphraphuththlksnaaebbechiyngaesn suokhthy thaihinchwnghlngphrasngkhinwderiykknkhunpakwa hlwngphxsuokhthysmvththi thimikhwamhmaythungkhwamsukhechnediywkn hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni emuxkhrawxyechiyxxkpradisthanchwkhrawihprachachnskkarbuchainwnsngkrant 2552karxarkkhaphy txmainchwnghnaphrrsapi ph s 2500 idmilmphayuphdrunaerngmakcnthaihkingimhkthuksalakarepriyytxngxngkhphrapunpnhlwngphxsuokhsmvththicharudcnehnenuxphayin thaihphrasngkhwdkhungtaephaidthrabwaphraphuththrupthixyechiymaaetwdrachburnannepnphraphuththrupenuxsmvththiobran cungidxyechiyippradisthaninxuobsthkhxngwdkhukbhlwngphxsuwrrnephtra phraphuththrupskdisiththisakhypracawdkhungtaepha papnkbphraphuththrupxngkhxun odyimidepidephywaepnphraenuxsmvththiobran aelamiphrasngkhwdkhungtaephaekhacaphrrsaefarawnghlwngphxsuokhsmvththithukphrrsainxuobsth thaihinchwnghlngnamhlwngphxsuokhsmvththiidlumeluxnipcakchawbanrunthithnehninkhrawthiyngepnphraphuththruppun cnthungklangpi ph s 2537 mikarburnaxuobsthwdkhungtaepha phrasngkhcungidxyechiyxngkhhlwngphxsuokhsmvththiekhapradisthanynghxnglbkhxngwdcnthungpi ph s 2552 cungidxyechiyxngkhhlwngphxxxkpradisthanihprachachnskkaraepnkarchwkhrawinethskalsngkrant aelainpi ph s 2553 wdkhungtaephaidsrangtukracknirphyphrxmkbtidtngrabbrksakhwamplxdphyxielkthrxniksbnxakharsalakarepriyywdkhungtaepha aelaidxyechiyxngkhhlwngphxkhunpradisthaninhxphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuniprasiththimngkhl epidoxkasihprachachnskkaraepnkarthawrcnthungpccubn ngannmskarhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni hlngcakthiwdkhungtaephaidxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni klbmasuaednmatuphumi aethbniekhyepnhwemuxngkhxngkrungsuokhthyinxdit kmiidmikarepidihskkarbuchaaelaepidephyxngkhhlwngphxxyangepnthangkarechninxdit enuxngcakpyhadankarrksakhwamplxdphy ephraaxngkhhlwngphxepnobranwtthuthipraeminkhamiid aelaepnthiprarthnasahrbphxkhawtthuobran thaihthangwdcaepntxngekbngapuchniywtthuobransakhyyingkhxngchatichinniiwinsthanthitang phayinwdodyimidepidephyihprachachnthwipthrabmanankwa 60 pi inpi ph s 2552 wdkhungtaephacungidthakarepidephyxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni aelaepidoxkasihthukkhnidskkarapidthxngsrngnaidthungxngkhphra odycaxyechiyhlwngphxmapradisthanihprachachnthakarskkarbuchaidechphaainchwng ethskalsngkrantethann cninpi ph s 2553 wdkhungtaephaidthakarxyechiyxngkhhlwngphxkhunpradisthanepnkarthawrbnxakharsalakarepriyywdkhungtaepha aelaepidoxkasihprachachnskkaraidthukwn idrbthwayphranamaelaykyxngepnphraphuththrupsakhykhubankhuemuxngxutrditth dwyvththanuphaphkhwamskdisiththikhxngxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni aelaphraphuththsilpaaebbsuokhthy echiyngaesn thihachmidyakying thaihinpi ph s 2552 sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth cungidykyxngxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniepnphraphuththrupobranskdisiththisakhykhubankhuemuxng 1 in 9 xngkh khxngcnghwdxutrditth aelawdkhungtaephathukbrrcuihepnhnunginesnthangthabuyihwphra 9 wd khxngcnghwdxutrditthxikdwy smedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryansngwr miphraemttathikhunprathanphranamihhlwngphxsuokhsmvththiihm ephraaepnphraphuththrupkhubankhuemuxngaelaephuxihkhlxngkbnamcnghwdxutrditth aelaenuxnginmhasuphwaramngkhldithismphuththchynti 2600 pi karchlxng 26 phuththstwrrs aehngkartrsru inpi ph s 2555 smedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryansngwr xngkhphrasngkhbidraehngkhnasngkhithy cungidmiphraemttathikhunepliynthwayphranamxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniihmihsxdkhlxngkbchuxcnghwdxutrditth cakphranamedim hlwngphxsuokhthysmvththi epn phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni odypraktkhxkhwamthrngykyxnginhnngsuxtxbkarprathanphranamcaksankelkhanukarsmedcphrasngkhrach wa enuxngdwy epnphraphuththrupobransakhykhxngcnghwdxutrditth pangmarwichy silpaechiyngaesn suokhthy epnphraphuththrupsakhykhubankhuemuxngkhxngcnghwdxutrditth aelakarthimiphraemttathikhunprathanepliynphranamihmihepn phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni nn ephuxihkhlxngkbphranamedimthiruckknthwip aelatxsrxyihkhlxngkbnamcnghwdxutrditth sungepnnamphrarachthancakphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw xngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunicungmiphranamihmtngaetnnma sahrbprawtiodylaexiydkhxnghlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni samarthduephimetimidthiwikisxrs ekbthawr 2008 06 02 thi ewyaebkaemchchinsthanthipradisthanxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunipradisthanintukracknirphy pccubnhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunipradisthanxyuthi wdkhungtaepha hmubankhungtaepha tablkhungtaepha xaephxemuxng cnghwdxutrditth edimnn thangwdekbrksaiwthihxnglbkhxngthangwd thaihpktimiidepidihprachachnthwipekhanmskaridthungtwxngkhphra enuxngcakpyhadankhwamplxdphy wdkhungtaephacaxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunixxkihprachachnthwipnmskaridthungtwxngkhphraephiyngwnediywinchwngethskalsngkrantethann odyhakepnnxkchwngethskalsngkrant phuprasngkhskkarathungxngkhphratxngthahnngsuxkhxxnuyatthungecaxawaswdkhungtaephaxyangepnthangkar sungcatxngidrbkhwamehnchxbcakkarphicarnakhxngthiprachumphrasngkhathikaraelakhnakrrmkarwdkhungtaepha sungcaidrbxnuyatihekhachmskkaraidechphaaray aelacdchudekhaskkaraidepnkhraw ipethann aetinpccubn wdkhungtaephaidsranghxngtukracknirphy phrxmthngtidtngrabbrksakhwamplxdphyxielkthrxniksaelw cungthaihsamarthepidoxkasihprachachnekhaskkaraidthukwn odypccubnhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunipradisthanxyuthihxphraphuththsuokhsmvththixutrditthmuniprasiththimngkhl xakharthistawntk bnxakharsalakarepriyyechlimphraekiyrti wdkhungtaephakhaklawskkarbuchahlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunikhathabuchahlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni naom tssa phakhawaot xarahaot smmasmphuththssa naom tssa phakhawaot xarahaot smmasmphuththssa naom tssa phakhawaot xarahaot smmasmphuththssa ximssaming ephtaranathitiraxaraem xkhkhasiththtthaolhamayng suokhthyyng nam phuththapatimng sirasa namamihng ximissanuphaewna sphphaostthi phawntu em khaaeplkhathabuchahlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni khapheca khxbuchaxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni dwybuyyanuphaph aehngxngkhhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni khxkhwamrmeynepnsukh aelakhwamsaercsmvththidngprarthnathngmwl cngbngekidmiaekkhaphecadwyethxy source source source source source source hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni emuxkhrawxyechiyxxkpradisthanihprachachnskkarainnganethskalsngkrant ph s 2552 salakarepriyywdkhungtaephahlngeka sthanthiaerkpradisthanhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuniinwdkhungtaephainchwngkxn ph s 2500 sthanthiaemnananetmtlingepnxscrry epnehtuihsamarthxyechiyhlwngphxsuokhsmvththixutrditthmunilngaephephuxkhunfngaemnahnawdkhungtaephaidechingxrrthhmayehtu 1 xiknyhnung phraphuththrupnicdekhainlksnaphraphuththrupsarid silpalanna rayathi 2 hmwd 2 rawkhrungaerkphuththstwrrrsthi 18 snnisthanwaxacidrbxiththiphlcaksilpasuokhthy rahwangrchkalphramhathrrmrachathi 1 phrayaliith raw ph s 1890 1911 hruxidrbxiththiphlodytrngcaksilpalngka smyopolnnaruwa ph s 1536 1779 aelasmyaeykxanackrinchwngrayaewlaediywkbsilpasuokhthy sungphraphuththrupinhmwdnilwnsrangkhunxyangpranitdwysilpachnsung phlnganpratimakrrmchineyiymthisathxnthunglksnaxnepnexklksnechphaatn aelasunthriyphaphxnngdngam hmayehtu 2 hlwngphxxuthxng thukocrkrrmcakwddngsraaekwipinpi ph s 2522 sungpccubnyngimidkhunduephimphraphuththsuwrrnephtra phraphuththrupskdisiththisakhy 1 in 2 xngkhkhxngwdkhungtaepha wdkhungtaepha cnghwdxutrditth sthanthipradisthaninpccubn wdrachburnrachwrwihar wdeliyb krungethphmhankhrxangxinghnngsuxsankelkhanukarsmedcphrasngkhrach thi ph 0437 2555 lngwnthi 16 phvsphakhm 2555 eruxng prathannamphraphuththrup sanknganelkhanukarsmedcphrasngkhrach 2555 prathanbtrphranamphraphuththrup phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni lngwnthi 16 phvsphakhm ph s 2555 rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobranwtthu elm 104 txn 235 18 phvscikayn ph s 2530 hna 10 11 ekhiyn yimsiri aelamanit wlliophdm 2500 phuththanusrn krungethph m p th rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobranwtthu elm 104 txn 235 18 phvscikayn ph s 2530 hna 10 11 sunyphthnapiotreliymphakhehnux krmkarphlngnganthhar 2553 phraphuththrupkhubxnamnfang xxn iln ekhathungidcak http www npdc mi th Npdc buddha htm 2010 06 17 thi ewyaebkaemchchin ethwpraphas makkhlay 2552 sarakareriynruthxngthin praephniwthnthrrmaelaphthnakarthangprawtisastrkhxngwdaelahmubankhungtaepha xutrditth phngswithyakarphimph sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth 2552 khxmulokhrngsrangphunthanekiywkbphraphuththsasnacnghwdxutrditth phraphuththrupsakhyincnghwdxutrditth xxniln aehlngkhxmul http utt onab go th download serviceutt 128 doc 2011 05 13 thi ewyaebkaemchchin eriykkhxmulemux 13 6 52 suphcn singhsay 2542 19 silpinchneyiym Artists of Distinction xxn iln aehlngkhxmul http www khonnaruk com html 19artist 19artist 02 html 2006 03 01 thi ewyaebkaemchchin m p p prawtiphraphuththrupbuchachbbphisdar krungethph sankphimphluk s thrrmphkdi hna 463 549 551 eruxngkraaesphrabrmrachoxngkar ihxyechiyphraphthuthrupcaksuokhthymapradisthaniw n krnguethph c s 1156 ph s 2337 2337 exksartnchbb smudithyda xksrithy phasaithy esnrngkhsiehluxng elkhthaebiyn elkhthi 9 k sthanthiekb hxngexksarobran hxsmudaehngchati wdrachburnrachwrwihar 2538 prawtiwdrachburnrachwrwihar aelaphlngankhxngphraedchphrakhunphrarachphvthacary echiyng xin thochot lingkesiy krungethph sankphimphshthrrmik hna 12 14 13 21 23 24 81 krathrwngsuksathikar 2488 30 krkdakhm prakaskrathrwngsuksathikar eruxng yubelikphraxaramhlwng hwn phinthuphnth 2521 xutrditthkhxngera krungethph krungsyamkarphimph hna 90 hmxmecasuphthrdis diskul 2546 silpainpraethsithy krungethph orngphimphmhawithyalyythrrmsatr hna 22 sankphiphithphnthsthanaehngchati krmsilpakr 2551 wdebycmbphitraelaphiphithphnthsthanaehngchati wdebycmbphitr phraphuththrupsakhy n wdebycmbphitrdusitwnaram krungethph rungsilpkarphimph hna 15aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni wikisxrs mingantnchbbekiywkb prawtihlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni wikisxrs mingantnchbbekiywkb btrprathanphranam phraphuththsuokhsmvththixutrditthmuni hlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni phraphuththrupobranskdisiththikhubankhuemuxngxutrditth xayu 800 pi lingkesiy ewbistsanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth widithsn prawtihlwngphxsuokhsmvththixutrditthmuni The History of Phra Buddha Sukothai Samrit ewbistyuthub YouTube