มหาอำมาตย์โท นายพลตรี เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 และองค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ (17 ตุลาคม พ.ศ. 2389 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474) และทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายแห่งเมืองนครน่าน ทรงป็นพระโอรสในเจ้าอนันตวรฤทธิเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 62 และเป็นพระอนุชาต่างเจ้ามารดากับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63
เจ้ามหาพรหมสุรธาดา | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้านครน่าน | |||||
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ | |||||
ราชาภิเษก | 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 | ||||
ครองราชย์ | 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474 | ||||
รัชกาล | 11 ปี 279 วัน | ||||
พระอิสริยยศ | เจ้าประเทศราช | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช | ||||
ถัดไป | ยกเลิกตำแหน่ง | ||||
ประสูติ | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2389 เจ้ามหาพรหม | ||||
พิราลัย | 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474 (84 ปี) | ||||
พระราชทานเพลิงพระศพ | 1 มีนาคม พ.ศ. 2475 ณ พระเมรุชั่วคราว สุสานหลวงดอนชัย | ||||
พระชายา | เจ้านางศรีโสภา (ชายาเอก) เจ้านางบัวทิพย์ เจ้านางศรีคำ | ||||
พระราชบุตร | 9 คน | ||||
| |||||
ราชสกุล | ณ น่าน สายที่ 3 | ||||
ราชวงศ์ | ติ๋นมหาวงศ์ | ||||
พระบิดา | เจ้าอนันตวรฤทธิเดช | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าขอดแก้วเทวี |
พระประวัติ
เจ้ามหาพรหมสุรธาดา มีพระนามเดิมว่า เจ้าน้อยมหาพรหม ประสูติ ณ บ้านช้างเผือก ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองน่าน เมื่อวันเสาร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2389 (แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเมีย จ.ศ. ๑๒๐๘) ทรงเป็นพระโอรสองค์โตในเจ้าอนันตวรฤทธิเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 62 ประสูติแต่แม่เจ้าขอดแก้วราชเทวี (ชายาองค์ที่ 2) และทรงมีพระโสทรขนิษฐา 1 องค์ คือ เจ้านางยอดมโนลา ครั้นเมื่อมีชนมายุได้ 17 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรจำพรรษา ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร โดยมี พระสังฆราชนันทชัย เป็นเจ้าอาวาส จนถึงปี พ.ศ. 2407 ได้ลาสิกขาออกเป็นคฤหัสถ์ ช่วยงานราชการของพระบิดาตลอดมา ครั้นมีชนมายุได้ 20 ปี ได้วิวาหมงคลเสกสมรสกับเจ้านางศรีโสภา พระธิดาในพระยาวังขวา (เจ้าคำเครื่อง ณ น่าน) กับแม่เจ้าอุสา ผู้เป็นมารดา เจ้ามหาพรหมสุรธาดา ทรงมีพระโอรสพระธิดากับเจ้านางศรีโสภา รวมทั้งสิ้น 8 พระองค์ ทรงพระโอรส 6 พระองค์ และพระธิดา 2 พระองค์
พระอิสริยยศและบรรดาศักดิ์
เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน ทรงได้รับพระราชทานพระอิสริยยศ , บรรดาศักดิ์ และพระยศทางทหาร ดังนี้
พระอิสริยยศและบรรดาศักดิ์
- เมื่อปี พ.ศ. 2433 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งเจ้าน้อยมหาพรหม ขึ้นเป็น เจ้าราชบุตร นครเมืองน่าน
- เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์ เจ้าราชบุตร (น้อยมหาพรหม) เจ้าราชบุตร นครเมืองน่าน ขึ้นเป็น เจ้าราชวงศ์ นครเมืองน่าน
- เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2443 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์ เจ้าราชวงศ์ (น้อยมหาพรหม) เจ้าราชวงศ์ นครเมืองน่าน ขึ้นเป็น เจ้าอุปราช นครเมืองน่าน และทรงดำรงตำแหน่งเสนามหาดไทยจังหวัดน่าน
- เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2461 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลตรี เจ้าอุปราช (น้อยมหาพรหม) เจ้าอุปราชนครเมืองน่าน รั้งตำแหน่ง เจ้าผู้ครองนครน่าน
- เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระอิสริยยศและบรรดาศักดิ์ เจ้าอุปราช (น้อยมหาพรหม) เจ้าอุปราชนครเมืองน่าน ขึ้นเป็น เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้รับการเฉลิมพระนามว่า เจ้ามหาพรหมสุรธาดา นันทบุราธิวาศวงศ์ บรมราชประสงค์สฤษดิรักษ์ นิตยสวามิภักดิ์อาชวาศัย ประสาสนนัยวิจิตร กิติคุณาดิเรก เอกโยนกมหานคราธิบดี เจ้านครน่าน
พระยศ
เจ้ามหาพรหมสุรธาดา | |
---|---|
รับใช้ | กองทัพบกสยาม กองเสือป่า |
ชั้นยศ | มหาอำมาตย์โท นายพลตรี นายกองเอก |
พระยศพลเรือน
- 20 สิงหาคม พ.ศ. 2454 - อำมาตย์เอก
- 9 สิงหาคม พ.ศ. 2460 - มหาอำมาตย์ตรี
- พ.ศ. 2463 - มหาอำมาตย์โท
พระยศทหาร
- 14 มิถุนายน พ.ศ. 2448 - นายพันโท
- 19 มิถุนายน พ.ศ. 2454 - นายพันเอก
- 19 มกราคม พ.ศ. 2459 - นายพลตรี
พระยศเสือป่า
- – นายหมู่เอกเสือป่า
- 13 ตุลาคม พ.ศ. 2456 - นายกองตรีเสือป่า
- 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2467 - นายกองเอกเสือป่า
ราชองครักษ์พิเศษ
- วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2463 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้ง นายพลตรี เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน เป็น "ราชองครักษ์พิเศษ"
- วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ซองบุหรี่ทองคำ ป.ป.ร. ลงยาชั้น 2 เมื่อคราวเสด็จมณฑลพายัพ พ.ศ. 2469
พิราลัย
เจ้ามหาพรหมสุรธาดา ถึงแก่พิราลัย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474 (เวลา 16:00 น.) ณ คุ้มหลวงเมืองนครน่าน ด้วยพระโรคชรา สิริพระชนมายุได้ 85 ปี ทรงปกครองเมืองนครน่านรวมระยะเวลา 11 ปี 279 วัน
การพระราชทานเพลิงศพ
พระราชทานเพลิงศพ
ในการพระราชทานเพลิงศพ เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ มหาอำมาตย์โท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทศศิริวงศ์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลพายัพ เสด็จแทนพระองค์ พร้อมด้วยเจ้าพนักงานกรมภูษามาลา กรมสนมพลเรือน แผนกพระราชกุศลและแผนกกระบวนอิสสริยยศ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475 (เวลาบ่าย) เจ้าพนักงานโดยสารรถไฟออกจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีเด่นชัย วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475 แล้วขึ้นรถยนต์ต่อไปถึงจังหวัดน่าน วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475 เจ้าพนักงานได้จัดโกศโถประกอบศพ มีฐานตั้งรองโกศ 1 ชั้น พร้อมด้วยเครื่องอิสสริยยศ ฉัตรเบญจาตั้ง 4 คัน เจ้าภาพบำเพ็ญการกุศล มีประโคมกลองชะนะ 10 จ่าปี่ 1 ตามเวลา
ต่อมาวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2475 (เวลาบ่าย) เจ้าพนักงานยกโกศศพลงเปลื้องเสร็จแล้วยกขึ้นตั้งบนจิตกาธาร ณ สุสานหลวงดอนชัย ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน มหาอำมาตย์โท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทศศิริวงศ์ เสด็จทรงทอดผ้าไตรของหลวง 10 ไตร กับพระราชทานเงิน 1 ชั่ง พระสงฆ์บังสุกุล อนุโมทนา เจ้าพนักงานอัญเชิญหีบศิลาหน้าเพลิงและเครื่องพระราชทานเพลิง เข้าไปถวายผู้เเทนพระองค์ทรงจุดเพลิงพระราชทานพร้อมด้วยเจ้านายบุตรหลานของเจ้านครน่าน เจ้าพนักงานสุมอัฏฐิไว้คืนหนึ่ง
ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2475 (เวลาเช้า) เจ้าพนักงานประมวดแปรรูปพระอัฏฐิปิดคลุมไว้ เจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสามหาบแล้ว เจ้านายบุตรหลานเก็บพระอัฐิไปทำการกุศลต่อไป เป็นเสร็จการ
พระโอรส พระธิดา
เจ้ามหาพรหมสุรธาดา ทรงมีพระชายา 3 องค์ และพระโอรสพระธิดา รวมทั้งสิ้น 9 องค์ (อยู่ในราชสกุล ณ น่าน สายที่ 3) มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
- พระชายาที่ 1 แม่เจ้าศรีโสภา อัครชายา(จ.จ.) ประสูติพระโอรส พระธิดา 4 องค์ ได้แก่
- เจ้าสุริยวงศ์นครเมืองน่าน เสกสมรสกับเจ้านางเกี๋ยง ณ น่าน มีโอรสธิดา 6 ท่าน ได้แก่
- ร้อยโท เจ้าวรญาติ เมืองนครน่าน
- เจ้านางบัวคำ ณ น่าน
- เจ้าน้อยสาร ณ น่าน
- เจ้าชื่น ณ น่าน
- เจ้าหนานบุญผาย ณ น่าน
- เจ้าน้อยข่ายแก้ว ณ น่าน
- เจ้านางบัวเขียว ณ น่าน เสกสมรสกับ เจ้าราชวงศ์ (สุทธิสาร ณ น่าน) เจ้าราชวงศ์ นครเมืองน่าน มีธิดา 3 ท่าน ได้แก่
- เจ้าดาวเรือง ณ น่าน
- เจ้าเมฆวดี ณ น่าน
- เจ้าบุญตุ้ม ณ น่าน
- รองอำมาตย์โท เจ้าบุรีรัตน์ นครเมืองน่าน เสกสมรสกับเจ้านางจันทรประภา ณ น่าน มีโอรสธิดา 3 ท่าน ได้แก่
- เจ้าประทุม ณ น่าน
- เจ้าประยูร ณ น่าน
- เจ้าประคอง ณ น่าน
- เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) เจ้าราชบุตร นครเมืองน่าน เสกสมรสกับเจ้านางบุญโสม ณ น่าน มีธิดา 3 ท่าน ได้แก่
- เจ้าจุมปี ณ น่าน
- เจ้าบัวมัน ณ น่าน
- เจ้าโคมทอง ณ น่าน
- เจ้าสุริยวงศ์นครเมืองน่าน เสกสมรสกับเจ้านางเกี๋ยง ณ น่าน มีโอรสธิดา 6 ท่าน ได้แก่
- ชายาที่ 2 แม่เจ้าบัวทิพย์ ชายา ประสูติพระโอรส 3 องค์ ได้แก่
- เจ้าธาดา ณ น่าน (นามเดิม : เจ้าแก้วพรหมา ณ น่าน) มีโอรสธิดา 6 ท่าน ได้แก่
- เจ้าธีรชาติ ณ น่าน
- เจ้าเยาวเรศ ณ น่าน
- เจ้าเกศสุดา ณ น่าน
- เจ้าธีรพล ณ น่าน
- เจ้าธานุเดช ณ น่าน
- เจ้าธานุสรณ์ ณ น่าน
- เจ้าเมืองพรหม ณ น่าน (นามเดิม : เจ้าขี้หมู ณ น่าน) ถึงแก่กรรมตั้งแต่อายุ 2 ขวบ
- เจ้าสุรพงษ์ ณ น่าน (นามเดิม : เจ้าจันต๊ะคาด ณ น่าน) มีโอรสธิดา 3 ท่าน ได้แก่
- เจ้าจุลณีย์ ณ น่าน
- เจ้าจุลพงษ์ ณ น่าน
- เจ้าจักรพงษ์ ณ น่าน
- เจ้าธาดา ณ น่าน (นามเดิม : เจ้าแก้วพรหมา ณ น่าน) มีโอรสธิดา 6 ท่าน ได้แก่
- ชายาที่ 3 แม่เจ้าศรีคำ ชายา ประสูติพระโอรสพระธิดา 2 องค์ ได้แก่
- เจ้าสนิท ณ น่าน (นามเดิม : เจ้านิด ณ น่าน) ถึงแก่กรรมตั้งแต่อายุ 2 ขวบ
- เจ้าลัดดา ณ น่าน (นามเดิม : เจ้านางหมัดคำ ณ น่าน) มีโอรสธิดา 3 ท่าน ได้แก่
- เจ้าดรุณี อรุณสิทธิ์
- เจ้าศักดา อรุณสิทธิ์
- เจ้าดรุพรรณ อรุณสิทธิ์
พระกรณียกิจที่สำคัญ
ด้านสาธารณสุข
- เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2461 เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์แห่งสภากาชาดสยาม หรือ สภากาชาดไทยในปัจจุบัน โดยได้บริจาคเงินจำนวน 3,000 บาท ให้แก่สภากาชาดสยาม
- เมื่อปี พ.ศ. 2468 เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 พร้อมด้วย เจ้าราชวงศ์เมืองนครน่าน และเหล่าเจ้านายบุตรหลานได้ร่วมกันสร้างโอสถสภาขึ้นที่จังหวัดนครน่าน เพื่ออุทิศถวายเป็นพระกุศลแด่ พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ พระเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 (ผู้เป็นพระเชษฐาต่างพระมารดา) กระทรวงมหาดไทยได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าลอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงอนุโมทนาในส่วนกุศลสาธารณประโยชน์ในคร้งนี้ด้วย
ถวายช้างเผือก
- เมื่อปี พ.ศ. 2468 ได้พบช้างสีประหลาดที่เขตเมืองนครน่าน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานกรมช้างต้นและกรมศิลปากรขึ้มาตรวจลักษณะพบว่าเป็นช้างในลักษณะจำพวกอัฐคช 8 ชื่อว่า "ดามหัศดินทร"
ด้านบ้านเมือง
สาธารณประโยชน์
แจ้งความมา ณ วันที่ ๒๗ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๑
ด้วยได้รับใบบอกพระเจ้าผู้ครองนคร แลเค้าสนามหลวงนครน่าน ที่ ๖/๑๒๕๓ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๓๑ ว่าสพานลำน้ำบั้วซึ่งได้สร้างขึ้นครั้งก่อนนั้นเปนอันสำเร็จไปตอนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่รียบร้อย ด้วยเหตุที่ลำน้ำบั้วกว้างขวางมาก ปลายสพานด้านใต้ยังตกอยู่ใน ลำห้วยต่ำกว่าระดับถนน ครั้นถึงฤดูน้ำๆ ยังท่วมอยู่ มหาชนสัญจรไป มาไม่สดวก สพานนี้ก็เปนสพานสำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งเปนทางร่วมมาบรรจบกัน หลายทาง เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ร.ศ. ๑๓๑ อำมาตย์เอก เจ้าอุปราช (น้อยมหาพรหม) เจ้าอุปราช นครเมืองน่าน และเสนามหาดไทย นครเมืองน่าน ได้ว่าเหมาช่างลงมือทำสพานต่อตามรูปเดิม กว้าง ๒ วา ยาว ๑ เส้น ๓ วา สูงจากพื้น ๔ วา ๑ คืบ ใช้ไม้จริง รวมทั้งสพานเดิมยาว ๒ เส้น ๙ วา ๒ ศอกสูงเท่ากัน แล้วเสร็จเปนเงิน ๑,๕๔๓ บาท รวมทั้งเงินที่ ได้ออกทรัพย์สร้างครั้งก่อนเปนเงิน ๙,๙๔๓ บาทถ้วน แลได้เปิดให้มหาชนสัญจรไปมาเปนสาธารณประโยชน์ แต่วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๓๑ แล้ว อำมาตย์เอก เจ้าอุปราช มีความยินดีขอพระราชทานอุทิศถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง แลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงมหาดไทยได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ทราบฝ่าลอองธุลีพระบาทแล้ว มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ ว่าการที่ อำมาตย์เอก เจ้าอุปราช เสนามหาดไทยนครน่าน มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์จัดการต่อสพานข้ามลำน้ำบั้วให้สำเร็จเรียบร้อย ให้มหาชนสัญจรไปมาเปนสาธารณประโยชน์นั้น นับว่าเปนการกุศล ต้องด้วยพระราชนิยม ทรงอนุโมทนาในส่วนกุศลนี้
— ศาลาว่าการมหาดไทยแจ้งความมาณวันที่ ๒๗ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๑
ราชปลัดทูลฉลอง เซ็นแทน
( ลงนาม ) พระยามหาอำมาตย์
การสร้างท่าอากาศยานน่าน
- ทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อซื้อเครื่องบินให้แก่กองทัพอากาศสยาม
- เมื่อปี พ.ศ. 2458 เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 ขณะดำรงพระยศ เจ้าอุปราชนครเมืองน่าน (อิสริยศในขณะนั้น) ได้ทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อซื้อเครื่องบินให้แก่กองทัพอากาศสยาม จำนวน 1 ลำ ซึ่งต่อมาพระองค์มีพระประสงค์จะชมเครื่องบินลำที่พระองค์ซื้อให้แก่กองทัพอากาศ จึงได้นำความปรึกษากับอำมาตย์เอก พระวรไชยวุฒิกรณ์ ปลัดมณฑลพายัพ เพื่อจัดสร้างสนามบินขึ้น เมื่ออำมาตย์เอก พระวรไชยวุฒิกรณ์ เห็นชอบแล้ว จึงได้เกณฑ์แรงงานราษฎรทำการถางโค่นต้นไม้ บริเวณตำบลหัวเวียงเหนือ เพื่อสร้างสนามบินขึ้น โดยใช้เวลาในการสร้างประมาณ 3 ปีเศษ จึงแล้วเสร็จ และทางกองทัพอากาศจึงได้นำเครื่องบินแบบ “เบเก้” จำนวน 3 ลำ รวมทั้งลำที่เจ้าอุปราชนครเมืองน่าน ได้ทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อให้ บินจากกองทัพอากาศดอนเมืองถึงสนามบินน่านสำเร็จและลงอย่างปลอดภัย ครั้นเมื่อเครื่องบินได้กลับไปแล้วก็มิได้ใช้สนามบินนี้อีก คงปล่อยทิ้งไว้และได้รับการบำรุงรักษาตามสมควร
- เมื่อวันที่ 23 มกราคม พุทธศักราช 2469 ทางการได้จัดพิธีทูลพระขวัญขึ้น โดยปลูกพลับพลาทองบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าและฝ่ายในพร้อมด้วย เจ้าดารารัศมี พระราชชายา เจ้านายในมณฑลพายัพตลอดจนอาณาประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระราชนกูล สมุหเทศาภิบาล กราบบังคมทูลเบิกกระบวนแห่พิธีทูลพระขวัญแล้ว จึงถึงกระบวนเครื่องพระขวัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเจ้านายฝ่ายเหนือฟ้อนนำขบวน ประกอบด้วย เจ้าแก้วนวรัฐฯ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 เป็นผู้นำพานทองพระขวัญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าจามรี ภริยาเจ้าแก้วนวรัฐ นำพานทองพระขวัญทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จพระบรมราชินี บายศรีและโต๊ะเงินเครื่องเสวย เจ้านาย ณ เชียงใหม่ ยกขึ้นไปตั้งหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับทั้ง 2 พระองค์ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา, เจ้าจามรี, เจ้ามหาพรหมสุรธาดา, เจ้าแก้วนวรัฐ, เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีทูลพระขวัญขึ้นบนพลับพลานั่งหน้าพระที่นั่งตามลำดับแล้ว เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 ซึ่งมีพระชนมายุอาวุโสที่สุดเป็นผู้อ่านคำกราบบังคมทูบเชิญพระขวัญ
- โดยในขบวนแห่เครื่องทูลเชิญพระขวัญมีเจ้าผู้ครองนครและเจ้านายฝ่ายเหนือฟ้อนนำหน้าขบวนเครื่องทูลเชิญพระขวัญ มีรายพระนามและรายนาม ดังนี้
- คู่ที่ 1 เจ้าแก้วนวรัฐฯ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 คู่กับ เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64
- คู่ที่ 2 เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ฯ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 9 คู่กับ เจ้าราชวงษ์ เมืองนครลำปาง
- คู่ที่ 3 เจ้าบุรีรัตน์ เมืองนครเชียงใหม่ คู่กับ เจ้าไชยสงคราม เมืองนครเชียงใหม่
- คู่ที่ 4 เจ้าราชภาคินัย เมืองนครเชียงใหม่ คู่กับ เจ้าราชสัมพันธ์วงศ์ เมืองนครลำพูน
- คู่ที่ 5 เจ้าไชยวรเชษฐ เมืองนครเชียงใหม่ คู่กับ เจ้าราชสัมพันธ์วงศ์ เมืองนครเชียงใหม่
- คู่ที่ 6 เจ้าประพันธ์พงศ์ เมืองนครเชียงใหม่ คู่กับ เจ้าไชยสงคราม เมืองนครลำปาง
- คู่ที่ 7 เจ้ากาวิลวงศ์ ณ เชียงใหม่ คู่กับ เจ้าวงศ์เกษม ณ ลำปาง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี เสด็จลงจากช้างพระที่นั่งแล้ว หมอช้างพระที่นั่งกราบบังคม 3 ครั้ง เสด็จพระราชดำเนินจากเกยขึ้นสู่พลับพลาทอง มีเจ้านายผู้หญิงโปรยข้าวตอกดอกไม้นำเสด็จเพื่อความเป็นสิริมงคล คือ หม่อมเจ้าหญิงฉัตรสุดา ในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงกำแพงเพชรอัครโยธิน กับเจ้าบุษบง ณ ลำปาง บุตรีในเจ้าบุญวาทวงศ์มานิตฯ เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 9 โปรยนำเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนเจ้าวงศ์จันทร์ ณ เชียงใหม่ บุตรีเจ้าราชบุตรกับเจ้าแววดาว บุตรีเจ้าราชวงศ์ โปรยนำเสด็จสมเด็จพระบรมราชินี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ประทับพระที่นั่งบนพลับพลาทอง ทอดพระเนตรกระบวนแห่ช้างหลวงเดินผ่านถวายตัว เมื่อเดินผ่านหน้าพลับพลาแล้วเลี้ยวไปเข้าเกยศาลารัฐบาลทางด้านเหนือ ฝ่ายพวกฟ้อนสำหรับต้อนรับของหลวงซึ่งจัดไว้ 4 คน ก็ออกฟ้อนรับที่หน้าพลับพลา ได้แก่ หม่อมเจ้าฉัตรสุดา ในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงกำแพงเพชรอัครโยธิน, เด็กหญิงอรอวบ บุตรีพระยาเพ็ชรพิไสยศรีสวัสดิ์, เจ้าแววดาว บุตรีเจ้าราชบุตรและเจ้าอุบลวรรณา บุตรีเจ้าบุรีรัตน์ เจ้านายชายหญิง เมื่อฟ้อนมาถึงหน้าพลับพลาแล้วจึงนั่งลงถวายบังคม เจ้านายผู้ชายเดินขึ้นนั่งบนพลับพลาที่พื้นลดทางขวาที่ประทับ เจ้านายผู้หญิงเดินขึ้นไปนั่งบนพลับพลาที่พื้นลดทางซ้ายที่ประทับ จากนั้นเจ้าแก้วนวรัฐ นำพานทองพระขวัญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าจามรีภริยา เจ้าแก้วนวรัฐ นำพานทองพระขวัญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จพระบรมราชินี แล้วเจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน จึงเป็นผู้อ่านคำกราบบังคมทูลเชิญพระขวัญ ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี เสด็จประพาสเมืองเชียงใหม่นั้น ทางราชการได้จัดเตรียมการรับเสด็จที่วัดพระสิงห์ ซึ่งสร้างปะรำพิธีขนาดใหญ่บริเวณด้านเหนือของพระวิหาร ส่วนด้านหน้าของพระวิหารจะปลูกปะรำไว้สำหรับข้าราชการนั่งเฝ้า ภายในพระวิหารหลวงยกอาสน์สำหรับให้พระสงฆ์นั่ง 200 รูป ส่วนวัดต่างๆ ที่จะเสด็จประพาสรวมถึงกำแพงเมืองซึ่งมีหญ้ารกรุงรังอยู่นั้น ก็ให้มีการแผ้วถางโดยมีหลวงพิศาลอักษรกิจ นายอำเภอช่างเคิ่ง (แม่แจ่ม) เป็นเจ้าหน้าที่ ส่วนการทำถนนไปวัดเจ็ดยอด และวัดกู่เต้านั้น ก็ให้มีการแผ้วถางบริเวณข่วงสิงห์ ข่วงช้างเผือกตลอดจนปรับปรุงถนนห้วยแก้ว โดยมีเจ้าราชสัมพันธวงศ์ นายอำเภอบ้านแม (สันป่าตอง) กับนายสนิท เจตนานนท์ เป็นเจ้าหน้าที่ ในการทำถนนแยกจากถนนลำพูนไปยังโรงพยาบาลโรคเรื้อนแมคเคน มีนายอั๋น เขียนอาภรณ์ ปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอสารภี เป็นเจ้าหน้าที่ ส่วนการแต่งพื้นที่บริเวณศาลารัฐบาล บริเวณโรงช้าง และโรงเรียนตัวอย่าง (โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย) มีนายแดง ลิลิต นายอำเภอสะเมิง เป็นเจ้าหน้าที่
ที่มา : จดหมายเหตุเสด็จเลียบมณฑลฝ่ายเหนือและเจ้าผู้ครองนครฝ่ายเหนือ พุทธศักราช ๒๔๖๙
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างๆ ดังนี้
- พ.ศ. 2435 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
- พ.ศ. 2436 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
- พ.ศ. 2443 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. 2449 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. 2451 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2454 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2459 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2467 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2469 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
เหรียญราชอิสริยาภรณ์
เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 ทรงได้รับพระราชทานเหรียญราชอิสริยาภรณ์ต่างๆ ดังนี้
- พ.ศ. 2436 – เหรียญรัชฎาภิเศกมาลา (ร.ศ.)
- พ.ศ. 2440 – เหรียญประพาสมาลา (ร.ป.ม.)
- พ.ศ. 2441 – เหรียญราชินี (ส.ผ.)
- พ.ศ. 2446 – เหรียญทวีธาภิเศก (ท.ศ.)
- พ.ศ. 2450 – เหรียญรัชมงคล (ร.ร.ม.)
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัชมังคลาภิเศก รัชกาลที่ 5 (ร.ม.ศ.5)
- พ.ศ. 2454 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 3 (ว.ป.ร.3)
- พ.ศ. 2454 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2468 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2468 – เหรียญศารทูลมาลา (ร.ศ.ท.)
- 1 มิถุนายน 2463 – เข็มข้าหลวงเดิม
สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม
พงศาวลี
พงศาวลีของเจ้ามหาพรหมสุรธาดา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ประชุมพงษาวดาร ภาคที่ ๑๐ เรื่อง ราชวงษปกรณ์ พงษาวดารเมืองน่าน ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้านครน่าน ให้แต่งไว้สำหรับบ้านเมือง
- ราชกิจานุเบกษา, เสด็จออกแขกเมืองประเทศราช เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๖
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๓
- ราชกิจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่องแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าผู้ครองจังหวัดน่านแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑
- พระราชทานสัญญาบัตรเจ้าผู้ครองนคร
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศพระบรมราชโองการ พระราชทานยศแก่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๔
- พระราชทานยศ
- ราชกิจจานุเบกษา, ส่งสัญญาบัตรทหารบกไปพระราชทาน เมื่อวันที่๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๘
- ตั้งตำแหน่งยศนายทหารบก
- พระราชทานสัญญาบัตรยศทหารบก
- ส่งสัญญาบัตรเสือป่าไปพระราชทาน
- พระราชทานยศเสือป่า (กองเสนาน้อยรักษาดินแดนมหาราษฎร์)
- แจ้งความกรมราชองครักษ์
- ราชกิจานุเบกษา,ข่าวถึงพิราลัย เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔
- ราชกิจานุเบกษา, พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๔
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 2019-05-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ตอนที่ 35 เล่ม 23, 25 พฤศจิกายน ร.ศ. 125, หน้า 893
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- "ดามหัศดินทร" อาภรณ์สำหรับช้างต้นคู่พระบารมี[]
- แจ้งความกระทรวงกลาโหม เจ้าอุปราชนครน่าน ให้เงิน ๙,๐๐๐ บาท สำหรับซื้อเครื่องบิน
- พิธีทูลพระขวัญ รับเสด็จ ร.7 ประพาสเมืองเชียงใหม่
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ เล่ม ๒๓ ตอนที่ ๓๖ หน้า ๙๒๕
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (ฝ่ายหน้า) วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๑ เล่ม ๒๕ หน้า ๑๐๑๐
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๗๙๓, 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญ, เล่ม ๓๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๘๗๑, ๑๔ มกราคม ๒๔๕๙
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญฝ่ายหน้า, เล่ม ๔๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๙๙๔, ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๙
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัตยุบัน, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๗๙๙, ๑๒ พฤศจิกายน ๑๓๐
- ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน, เล่ม ๔๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๖๐, ๒ พฤษภาคม ๒๔๖๙
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเข็มข้าหลวงเดิม
ก่อนหน้า | เจ้ามหาพรหมสุรธาดา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช | เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 และองค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ (พ.ศ. 2462 - พ.ศ. 2474) | ยกเลิกตำแหน่ง ผู้สืบตระกูล: เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mhaxamatyoth nayphltri ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 aelaxngkhthi 14 aehngrachwngstinmhawngs 17 tulakhm ph s 2389 17 singhakhm ph s 2474 aelathrngepnecaphukhrxngnkhrxngkhsudthayaehngemuxngnkhrnan thrngpnphraoxrsinecaxnntwrvththiedch ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 62 aelaepnphraxnuchatangecamardakbphraecasuriyphngsphritedch ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 63ecamhaphrhmsurthadaecankhrnanecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 aehngrachwngstinmhawngsrachaphiesk11 phvscikayn ph s 2462khrxngrachy11 phvscikayn ph s 2462 17 singhakhm ph s 2474rchkal11 pi 279 wnphraxisriyysecapraethsrachkxnhnaphraecasuriyphngsphritedchthdipykeliktaaehnngprasuti17 tulakhm ph s 2389 ecamhaphrhmphiraly17 singhakhm ph s 2474 84 pi phrarachthanephlingphrasph1 minakhm ph s 2475 n phraemruchwkhraw susanhlwngdxnchyphrachayaecanangsriospha chayaexk ecanangbwthiphy ecanangsrikhaphrarachbutr9 khnphranametmecamhaphrhmsurthada nnthburathiwaswngs brmrachprasngkhsvsdirks nityswamiphkdixachwasy prasasnnywicitr kitikhunadierk exkoynkmhankhrathibdi ecankhrnanrachskuln nan saythi 3rachwngstinmhawngsphrabidaecaxnntwrvththiedchphramardaaemecakhxdaekwethwiphraprawtiecamhaphrhmsurthada miphranamedimwa ecanxymhaphrhm prasuti n banchangephuxk tablewiyngehnux xaephxemuxngnan emuxwnesar thi 17 tulakhm ph s 2389 aerm 12 kha eduxn 11 pimaemiy c s 1208 thrngepnphraoxrsxngkhotinecaxnntwrvththiedch ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 62 prasutiaetaemecakhxdaekwrachethwi chayaxngkhthi 2 aelathrngmiphraosthrkhnistha 1 xngkh khux ecanangyxdmonla khrnemuxmichnmayuid 17 pi idbrrphchaepnsamenrcaphrrsa n wdphrathatuchangkhawrwihar odymi phrasngkhrachnnthchy epnecaxawas cnthungpi ph s 2407 idlasikkhaxxkepnkhvhsth chwynganrachkarkhxngphrabidatlxdma khrnmichnmayuid 20 pi idwiwahmngkhlesksmrskbecanangsriospha phrathidainphrayawngkhwa ecakhaekhruxng n nan kbaemecaxusa phuepnmarda ecamhaphrhmsurthada thrngmiphraoxrsphrathidakbecanangsriospha rwmthngsin 8 phraxngkh thrngphraoxrs 6 phraxngkh aelaphrathida 2 phraxngkhphraxisriyysaelabrrdaskdiecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan thrngidrbphrarachthanphraxisriyys brrdaskdi aelaphraysthangthhar dngni phraxisriyysaelabrrdaskdi emuxpi ph s 2433 thrngphrakrunaoprdekla tngecanxymhaphrhm khunepn ecarachbutr nkhremuxngnan emuxwnthi 21 kumphaphnth ph s 2436 thrngphrakrunaoprdekla eluxnbrrdaskdi ecarachbutr nxymhaphrhm ecarachbutr nkhremuxngnan khunepn ecarachwngs nkhremuxngnan emuxwnthi 9 mkrakhm ph s 2443 thrngphrakrunaoprdekla eluxnbrrdaskdi ecarachwngs nxymhaphrhm ecarachwngs nkhremuxngnan khunepn ecaxuprach nkhremuxngnan aelathrngdarngtaaehnngesnamhadithycnghwdnan emuxwnthi 22 emsayn ph s 2461 thrngphrakrunaoprdekla ihnayphltri ecaxuprach nxymhaphrhm ecaxuprachnkhremuxngnan rngtaaehnng ecaphukhrxngnkhrnan emuxwnthi 11 phvscikayn ph s 2462 thrngphrakrunaoprdekla eluxnphraxisriyysaelabrrdaskdi ecaxuprach nxymhaphrhm ecaxuprachnkhremuxngnan khunepn ecaphukhrxngnkhrnan idrbkarechlimphranamwa ecamhaphrhmsurthada nnthburathiwaswngs brmrachprasngkhsvsdirks nityswamiphkdixachwasy prasasnnywicitr kitikhunadierk exkoynkmhankhrathibdi ecankhrnanphrays ecamhaphrhmsurthadarbichkxngthphbksyam kxngesuxpachnysmhaxamatyoth nayphltri naykxngexkphraysphleruxn 20 singhakhm ph s 2454 xamatyexk 9 singhakhm ph s 2460 mhaxamatytri ph s 2463 mhaxamatyothphraysthhar 14 mithunayn ph s 2448 nayphnoth 19 mithunayn ph s 2454 nayphnexk 19 mkrakhm ph s 2459 nayphltriphraysesuxpa nayhmuexkesuxpa 13 tulakhm ph s 2456 naykxngtriesuxpa 26 phvscikayn ph s 2467 naykxngexkesuxparachxngkhrksphiess wnthi 25 phvsphakhm ph s 2463 thrngphrakrunaoprdekla tng nayphltri ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan epn rachxngkhrksphiess wnthi 2 phvscikayn ph s 2469 thrngphrakrunaoprdekla phrarachthan sxngbuhrithxngkha p p r lngyachn 2 emuxkhrawesdcmnthlphayph ph s 2469phiralyecamhaphrhmsurthada thungaekphiraly emuxwnthi 17 singhakhm ph s 2474 ewla 16 00 n n khumhlwngemuxngnkhrnan dwyphraorkhchra siriphrachnmayuid 85 pi thrngpkkhrxngemuxngnkhrnanrwmrayaewla 11 pi 279 wn karphrarachthanephlingsph phrarachthanephlingsph inkarphrarachthanephlingsph ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ih mhaxamatyoth phrawrwngsethx phraxngkhecathssiriwngs smuhethsaphibalmnthlphayph esdcaethnphraxngkh phrxmdwyecaphnkngankrmphusamala krmsnmphleruxn aephnkphrarachkuslaelaaephnkkrabwnxissriyys wnthi 24 kumphaphnth ph s 2475 ewlabay ecaphnknganodysarrthifxxkcakkrungethph thungsthaniednchy wnthi 25 kumphaphnth ph s 2475 aelwkhunrthynttxipthungcnghwdnan wnthi 29 kumphaphnth ph s 2475 ecaphnknganidcdoksothprakxbsph mithantngrxngoks 1 chn phrxmdwyekhruxngxissriyys chtrebycatng 4 khn ecaphaphbaephykarkusl mipraokhmklxngchana 10 capi 1 tamewla txmawnthi 1 minakhm ph s 2475 ewlabay ecaphnknganykokssphlngepluxngesrcaelwykkhuntngbncitkathar n susanhlwngdxnchy tablinewiyng xaephxemuxngnan cnghwdnan mhaxamatyoth phrawrwngsethx phraxngkhecathssiriwngs esdcthrngthxdphaitrkhxnghlwng 10 itr kbphrarachthanengin 1 chng phrasngkhbngsukul xnuomthna ecaphnknganxyechiyhibsilahnaephlingaelaekhruxngphrarachthanephling ekhaipthwayphueethnphraxngkhthrngcudephlingphrarachthanphrxmdwyecanaybutrhlankhxngecankhrnan ecaphnkngansumxtthiiwkhunhnung txmawnthi 2 minakhm ph s 2475 ewlaecha ecaphnknganpramwdaeprrupphraxtthipidkhlumiw ecaphaphbaephykuslsamhabaelw ecanaybutrhlanekbphraxthiipthakarkusltxip epnesrckarphraoxrs phrathidaecamhaphrhmsurthada thrngmiphrachaya 3 xngkh aelaphraoxrsphrathida rwmthngsin 9 xngkh xyuinrachskul n nan saythi 3 miphranamtamladb dngni phrachayathi 1 aemecasriospha xkhrchaya c c prasutiphraoxrs phrathida 4 xngkh idaek ecasuriywngsnkhremuxngnan esksmrskbecanangekiyng n nan mioxrsthida 6 than idaek rxyoth ecawryati emuxngnkhrnan ecanangbwkha n nan ecanxysar n nan ecachun n nan ecahnanbuyphay n nan ecanxykhayaekw n nan ecanangbwekhiyw n nan esksmrskb ecarachwngs suththisar n nan ecarachwngs nkhremuxngnan mithida 3 than idaek ecadaweruxng n nan ecaemkhwdi n nan ecabuytum n nan rxngxamatyoth ecaburirtn nkhremuxngnan esksmrskbecanangcnthrprapha n nan mioxrsthida 3 than idaek ecaprathum n nan ecaprayur n nan ecaprakhxng n nan ecarachbutr hmxkfa n nan ecarachbutr nkhremuxngnan esksmrskbecanangbuyosm n nan mithida 3 than idaek ecacumpi n nan ecabwmn n nan ecaokhmthxng n nanchayathi 2 aemecabwthiphy chaya prasutiphraoxrs 3 xngkh idaek ecathada n nan namedim ecaaekwphrhma n nan mioxrsthida 6 than idaek ecathirchati n nan ecaeyawers n nan ecaekssuda n nan ecathirphl n nan ecathanuedch n nan ecathanusrn n nan ecaemuxngphrhm n nan namedim ecakhihmu n nan thungaekkrrmtngaetxayu 2 khwb ecasurphngs n nan namedim ecacntakhad n nan mioxrsthida 3 than idaek ecaculniy n nan ecaculphngs n nan ecackrphngs n nanchayathi 3 aemecasrikha chaya prasutiphraoxrsphrathida 2 xngkh idaek ecasnith n nan namedim ecanid n nan thungaekkrrmtngaetxayu 2 khwb ecaldda n nan namedim ecananghmdkha n nan mioxrsthida 3 than idaek ecadruni xrunsiththi ecaskda xrunsiththi ecadruphrrn xrunsiththiphrakrniykicthisakhydansatharnsukh emuxwnthi 6 thnwakhm ph s 2461 ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 thrngepnsmachikkittimskdiaehngsphakachadsyam hrux sphakachadithyinpccubn odyidbricakhengincanwn 3 000 bath ihaeksphakachadsyam emuxpi ph s 2468 ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 phrxmdwy ecarachwngsemuxngnkhrnan aelaehlaecanaybutrhlanidrwmknsrangoxsthsphakhunthicnghwdnkhrnan ephuxxuthisthwayepnphrakuslaed phraecasuriyphngsphritedch phraecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 63 phuepnphraechsthatangphramarda krathrwngmhadithyidnakhwamkrabbngkhmthulphrakrunathrngthrabfalxxngthuliphrabathaelw thrngxnuomthnainswnkuslsatharnpraoychninkhrngnidwythwaychangephuxk emuxpi ph s 2468 idphbchangsiprahladthiekhtemuxngnkhrnan thrngphrakrunaoprdekla ihecaphnkngankrmchangtnaelakrmsilpakrkhumatrwclksnaphbwaepnchanginlksnacaphwkxthkhch 8 chuxwa damhsdinthr danbanemuxngsatharnpraoychn aecngkhwamma n wnthi 27 singhakhm rtnoksinthrsk 131 dwyidrbibbxkphraecaphukhrxngnkhr aelekhasnamhlwngnkhrnan thi 6 1253 lngwnthi 20 krkdakhm r s 131 wasphanlanabwsungidsrangkhunkhrngkxnnnepnxnsaerciptxnhnungaelw aetyngimriybrxy dwyehtuthilanabwkwangkhwangmak playsphandanityngtkxyuin lahwytakwaradbthnn khrnthungvduna yngthwmxyu mhachnsycrip maimsdwk sphannikepnsphansakhyaehnghnung sungepnthangrwmmabrrcbkn hlaythang emuxwnthi 1 emsayn r s 131 xamatyexk ecaxuprach nxymhaphrhm ecaxuprach nkhremuxngnan aelaesnamhadithy nkhremuxngnan idwaehmachanglngmuxthasphantxtamrupedim kwang 2 wa yaw 1 esn 3 wa sungcakphun 4 wa 1 khub ichimcring rwmthngsphanedimyaw 2 esn 9 wa 2 sxksungethakn aelwesrcepnengin 1 543 bath rwmthngenginthi idxxkthrphysrangkhrngkxnepnengin 9 943 baththwn aelidepidihmhachnsycripmaepnsatharnpraoychn aetwnthi 17 krkdakhm r s 131 aelw xamatyexk ecaxuprach mikhwamyindikhxphrarachthanxuthisthwayphrarachkuslaedphrabathsmedcphraphuththecahlwng aelphrabathsmedcphraecaxyuhw krathrwngmhadithyidnakhwamkrabbngkhmthulphrakruna thrabfalxxngthuliphrabathaelw miphrabrmrachoxngkardarsehnuxekla wakarthi xamatyexk ecaxuprach esnamhadithynkhrnan micitsrththabricakhthrphycdkartxsphankhamlanabwihsaerceriybrxy ihmhachnsycripmaepnsatharnpraoychnnn nbwaepnkarkusl txngdwyphrarachniym thrngxnuomthnainswnkuslni salawakarmhadithy aecngkhwammanwnthi 27 singhakhm rtnoksinthrsk 131 lngnam phrayamhaxamaty rachpldthulchlxng esnaethn karsrangthaxakasyannan thrngbricakhthunthrphyswnphraxngkhephuxsuxekhruxngbinihaekkxngthphxakassyam emuxpi ph s 2458 ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 khnadarngphrays ecaxuprachnkhremuxngnan xisriysinkhnann idthrngbricakhthunthrphyswnphraxngkhephuxsuxekhruxngbinihaekkxngthphxakassyam canwn 1 la sungtxmaphraxngkhmiphraprasngkhcachmekhruxngbinlathiphraxngkhsuxihaekkxngthphxakas cungidnakhwampruksakbxamatyexk phrawrichywuthikrn pldmnthlphayph ephuxcdsrangsnambinkhun emuxxamatyexk phrawrichywuthikrn ehnchxbaelw cungideknthaerngnganrasdrthakarthangokhntnim briewntablhwewiyngehnux ephuxsrangsnambinkhun odyichewlainkarsrangpraman 3 piess cungaelwesrc aelathangkxngthphxakascungidnaekhruxngbinaebb ebek canwn 3 la rwmthnglathiecaxuprachnkhremuxngnan idthrngbricakhthunthrphyswnphraxngkhsuxih bincakkxngthphxakasdxnemuxngthungsnambinnansaercaelalngxyangplxdphy khrnemuxekhruxngbinidklbipaelwkmiidichsnambinnixik khngplxythingiwaelaidrbkarbarungrksatamsmkhwremuxwnthi 23 mkrakhm phuththskrach 2469 thangkaridcdphithithulphrakhwykhun odyplukphlbphlathxngbriewnhnasalaklangcnghwd phrabrmwngsanuwngsfayhnaaelafayinphrxmdwy ecadararsmi phrarachchaya ecanayinmnthlphayphtlxdcnxanaprachachnefathullaxxngthuliphrabath phrarachnkul smuhethsaphibal krabbngkhmthulebikkrabwnaehphithithulphrakhwyaelw cungthungkrabwnekhruxngphrakhwykhxngphrabathsmedcphraecaxyuhw odymiecanayfayehnuxfxnnakhbwn prakxbdwy ecaaekwnwrth ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 9 epnphunaphanthxngphrakhwykhunthuleklathulkrahmxmthwayphrabathsmedcphraecaxyuhw ecacamri phriyaecaaekwnwrth naphanthxngphrakhwythuleklathulkrahmxmthwaysmedcphrabrmrachini baysriaelaotaenginekhruxngeswy ecanay n echiyngihm ykkhuniptnghnaphraekaxithiprathbthng 2 phraxngkh ecadararsmi phrarachchaya ecacamri ecamhaphrhmsurthada ecaaekwnwrth ecackrkhakhcrskdi sungepnphuthaphithithulphrakhwykhunbnphlbphlannghnaphrathinngtamladbaelw ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 sungmiphrachnmayuxawuosthisudepnphuxankhakrabbngkhmthubechiyphrakhwyodyinkhbwnaehekhruxngthulechiyphrakhwymiecaphukhrxngnkhraelaecanayfayehnuxfxnnahnakhbwnekhruxngthulechiyphrakhwy mirayphranamaelaraynam dngni khuthi 1 ecaaekwnwrth ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 9 khukb ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 khuthi 2 ecackrkhakhcrskdi ecaphukhrxngnkhrlaphun xngkhthi 9 khukb ecarachwngs emuxngnkhrlapang khuthi 3 ecaburirtn emuxngnkhrechiyngihm khukb ecaichysngkhram emuxngnkhrechiyngihm khuthi 4 ecarachphakhiny emuxngnkhrechiyngihm khukb ecarachsmphnthwngs emuxngnkhrlaphun khuthi 5 ecaichywrechsth emuxngnkhrechiyngihm khukb ecarachsmphnthwngs emuxngnkhrechiyngihm khuthi 6 ecapraphnthphngs emuxngnkhrechiyngihm khukb ecaichysngkhram emuxngnkhrlapang khuthi 7 ecakawilwngs n echiyngihm khukb ecawngseksm n lapang emuxphrabathsmedcphraecaxyuhwaelasmedcphrabrmrachini esdclngcakchangphrathinngaelw hmxchangphrathinngkrabbngkhm 3 khrng esdcphrarachdaenincakekykhunsuphlbphlathxng miecanayphuhyingoprykhawtxkdxkimnaesdcephuxkhwamepnsirimngkhl khux hmxmecahyingchtrsuda inphraecaphiyaethx krmhlwngkaaephngephchrxkhroythin kbecabusbng n lapang butriinecabuywathwngsmanit ecaphukhrxngnkhrlapang xngkhthi 9 oprynaesdc phrabathsmedcphraecaxyuhw swnecawngscnthr n echiyngihm butriecarachbutrkbecaaewwdaw butriecarachwngs oprynaesdcsmedcphrabrmrachini phrabathsmedcphraecaxyuhwaelasmedcphrabrmrachini prathbphrathinngbnphlbphlathxng thxdphraentrkrabwnaehchanghlwngedinphanthwaytw emuxedinphanhnaphlbphlaaelweliywipekhaekysalarthbalthangdanehnux fayphwkfxnsahrbtxnrbkhxnghlwngsungcdiw 4 khn kxxkfxnrbthihnaphlbphla idaek hmxmecachtrsuda inphraecaphiyaethx krmhlwngkaaephngephchrxkhroythin edkhyingxrxwb butriphrayaephchrphiisysriswsdi ecaaewwdaw butriecarachbutraelaecaxublwrrna butriecaburirtn ecanaychayhying emuxfxnmathunghnaphlbphlaaelwcungnnglngthwaybngkhm ecanayphuchayedinkhunnngbnphlbphlathiphunldthangkhwathiprathb ecanayphuhyingedinkhunipnngbnphlbphlathiphunldthangsaythiprathb caknnecaaekwnwrth naphanthxngphrakhwykhunthuleklathulkrahmxmthwayphrabathsmedcphraecaxyuhw ecacamriphriya ecaaekwnwrth naphanthxngphrakhwykhunthuleklathulkrahmxmthwaysmedcphrabrmrachini aelwecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan cungepnphuxankhakrabbngkhmthulechiyphrakhwy inrahwangthiphrabathsmedcphraecaxyuhwaelasmedcphrabrmrachini esdcpraphasemuxngechiyngihmnn thangrachkaridcdetriymkarrbesdcthiwdphrasingh sungsrangparaphithikhnadihybriewndanehnuxkhxngphrawihar swndanhnakhxngphrawiharcaplukparaiwsahrbkharachkarnngefa phayinphrawiharhlwngykxasnsahrbihphrasngkhnng 200 rup swnwdtang thicaesdcpraphasrwmthungkaaephngemuxngsungmihyarkrungrngxyunn kihmikaraephwthangodymihlwngphisalxksrkic nayxaephxchangekhing aemaecm epnecahnathi swnkarthathnnipwdecdyxd aelawdkuetann kihmikaraephwthangbriewnkhwngsingh khwngchangephuxktlxdcnprbprungthnnhwyaekw odymiecarachsmphnthwngs nayxaephxbanaem snpatxng kbnaysnith ectnannth epnecahnathi inkarthathnnaeykcakthnnlaphunipyngorngphyabalorkheruxnaemkhekhn minayxn ekhiynxaphrn pldxaephxrksarachkaraethnnayxaephxsarphi epnecahnathi swnkaraetngphunthibriewnsalarthbal briewnorngchang aelaorngeriyntwxyang orngeriynyuphrachwithyaly minayaedng lilit nayxaephxsaeming epnecahnathi thima cdhmayehtuesdceliybmnthlfayehnuxaelaecaphukhrxngnkhrfayehnux phuththskrach 2469ekhruxngrachxisriyaphrn ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 thrngidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrntang dngni ph s 2435 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 5 ebycmaphrnmngkudithy b m ph s 2436 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 4 cturthaphrnchangephuxk c ch ph s 2443 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 3 tritaphrnchangephuxk t ch ph s 2449 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 2 thwitiyaphrnmngkudithy th m ph s 2451 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 2 thutiyculcxmekla th c fayhna ph s 2454 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 2 thutiyculcxmeklawiess th c w fayhna ph s 2459 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 1 prathmaphrnmngkudithy p m ph s 2467 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 1 prathmaphrnchangephuxk p ch ph s 2469 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnsungsud mhaprmaphrnchangephuxk m p ch ehriyyrachxisriyaphrn ecamhaphrhmsurthada ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 thrngidrbphrarachthanehriyyrachxisriyaphrntang dngni ph s 2436 ehriyyrchdaphieskmala r s ph s 2440 ehriyypraphasmala r p m ph s 2441 ehriyyrachini s ph ph s 2446 ehriyythwithaphiesk th s ph s 2450 ehriyyrchmngkhl r r m ph s 2451 ehriyyrchmngkhlaphiesk rchkalthi 5 r m s 5 ph s 2454 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 3 w p r 3 ph s 2454 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 6 r r s 6 ph s 2468 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 7 r r s 7 ph s 2468 ehriyysarthulmala r s th 1 mithunayn 2463 ekhmkhahlwngedimsthanthixnenuxngmacakphranamphngsawliphngsawlikhxngecamhaphrhmsurthada 16 ecaichyracha 8 ecasuththa 17 ecanangethph 4 ecafahlwngxtthwrpyoy 9 ecakrrnika 2 ecaxnntwrvththiedch 5 aemecakhnaekw chayathi 4 1 ecamhaphrhmsurthada 3 aemecakhxdaekw chayathi 2 xangxingprachumphngsawdar phakhthi 10 eruxng rachwngspkrn phngsawdaremuxngnan chbbphraecasuriyphngsphritedch phraecankhrnan ihaetngiwsahrbbanemuxng rachkicanuebksa esdcxxkaekhkemuxngpraethsrach emuxwnthi 4 minakhm ph s 2436 rachkiccanuebksa phrarachthansyyabtrkhunnang emuxwnthi 13 mkrakhm ph s 2443 rachkicanuebksa aecngkhwamkrathrwngmhadithy eruxngaetngtngtaaehnngecaphukhrxngcnghwdnanaethntaaehnngthiwangxyu emuxwnthi 28 emsayn ph s 2461 phrarachthansyyabtrecaphukhrxngnkhr rachkiccanuebksa prakasphrabrmrachoxngkar phrarachthanysaekkharachkarkrathrwngmhadithy emuxwnthi 20 singhakhm ph s 2454 phrarachthanys rachkiccanuebksa sngsyyabtrthharbkipphrarachthan emuxwnthi18 mithunayn ph s 2448 tngtaaehnngysnaythharbk phrarachthansyyabtrysthharbk sngsyyabtresuxpaipphrarachthan phrarachthanysesuxpa kxngesnanxyrksadinaednmharasdr aecngkhwamkrmrachxngkhrks rachkicanuebksa khawthungphiraly emuxwnthi 30 singhakhm ph s 2474 rachkicanuebksa phrarachthanephlingsph emuxwnthi 2 minakhm 2474 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn 2019 05 08 thi ewyaebkaemchchin txnthi 35 elm 23 25 phvscikayn r s 125 hna 893 aecngkhwamsanknaykrthmntri eruxng phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn damhsdinthr xaphrnsahrbchangtnkhuphrabarmi lingkesiy aecngkhwamkrathrwngklaohm ecaxuprachnkhrnan ihengin 9 000 bath sahrbsuxekhruxngbin phithithulphrakhwy rbesdc r 7 praphasemuxngechiyngihm rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn emuxwnthi 1 thnwakhm ph s 2449 elm 23 txnthi 36 hna 925 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla fayhna wnthi 27 phvscikayn ph s 2451 elm 25 hna 1010 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn elm 28 txnthi 0 ng hna 1793 12 phvscikayn ph s 2454 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnaelaehriyy elm 33 txnthi 0 ng hna 2871 14 mkrakhm 2459 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnaelaehriyyfayhna elm 43 txnthi 0 ng hna 3994 6 kumphaphnth 2469 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrn rchkalptyubn elm 28 txnthi 0 ng hna 1799 12 phvscikayn 130 rachkiccanuebksa sngekhruxngrachxisriyaphrnipphrarachthan elm 43 txnthi 0 ng hna 460 2 phvsphakhm 2469 rachkiccanuebksa phrarachthanekhmkhahlwngedim kxnhna ecamhaphrhmsurthada thdipphraecasuriyphngsphritedch ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 64 aelaxngkhthi 14 aehngrachwngstinmhawngs ph s 2462 ph s 2474 ykeliktaaehnng phusubtrakul ecarachbutr hmxkfa n nan