สนธิสัญญาสันติภาพ (อังกฤษ: peace treaty) เป็นข้อตกลงระหว่างปรปักษ์ทั้งสองฝ่ายเพื่อยุติความขัดแย้งในการใช้กำลัง ซึ่งมักจะเป็นประเทศหรือรัฐบาล
องค์ประกอบของสนธิสัญญา
องค์ประกอบของสนธิสัญญาอาจมีได้หลายประเด็น ขึ้นอยู่กับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยที่องค์ประกอบบางประการของสนธิสัญญาสันติภาพสามารถสรุปได้ดังนี้:
- การรับรองแนวชายแดนใหม่อย่างเป็นทางการ
- กระบวนการสำหรับแก้ไขข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- การเข้าถึงและการแบ่งปันทรัพยากรร่วมกัน
- สถานะผู้ลี้ภัย
- การชำระหนี้ที่ตกค้าง
- การกำหนดพฤติกรรมการประณาม
- การแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาของสนธิสัญญาที่เคยทำเอาไว้ก่อนหน้า
สนธิสัญญาสันติภาพมักจะมีการอนุมัติในประเทศที่คงความเป็นกลางในความขัดแย้งที่ผ่านมา และมีผู้แทนจากประเทศเหล่านี้เพื่อเป็นพยานรู้เห็นให้กับผู้ลงนาม ในกรณีที่เป็นความขัดแย้งในวงกว้างระหว่างหลายฝ่าย อาจสามารถสรุปได้เป็นสนธิสัญญานานาชาติโดยมีเนื้อหาครอบคลุมไปถึงประเด็นปัญหาทั้งหมดหรือเนื้อหาในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
ในช่วงสมัยใหม่ ในสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยากจะสงบลงได้ อาจเริ่มต้นจากการหยุดยิง แล้วจึงค่อยดำเนินการตามต่อไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้ไตร่ตรองถึงเป้าหมายของการบรรลุสันติภาพร่วมกัน จนกระทั่งการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ สนธิสัญญาสันติภาพมักจะไม่ใช้เพื่อยุติสงครามกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่การแบ่งแยกดินแดนที่ประสบความล้มเหลว เนื่องจากว่าเป็นการแสดงนัยถึงการรับรองสถานะความเป็นรัฐของอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างเช่น ในกรณี สงครามกลางเมืองอเมริกัน ซึ่งยุติลงได้ก็ต่อเมื่อกองทัพของฝ่ายหนึ่งยอมจำนนหรือรัฐบาลของฝ่ายหนึ่งล่มสลายลง
ตรงกันข้ามกับการแบ่งแยกดินแดนหรือการประกาศอิสรภาพที่ประสบความสำเร็จ ดินแดนที่ตั้งขึ้นใหม่เหล่านี้จะได้การรับรองสถานะความเป็นรัฐจากสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ
บทบาทของสหประชาชาติ
นับตั้งแต่ได้มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง องค์การดังกล่าวได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นที่ประชุมในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ และเป็นตัวกลางในการประสานกระบวนการสันติภาพและสนธิสัญญาสันติภาพ โดยสนธิสัญญาระห่างประเทศและประเทศสมาชิกผูกพันได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จากความพยายามในการควบคุมและจำกัดพฤติกรรมเพื่อไม่ให้ลุกลามจนกลายเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ ซึ่งหมายความว่า การประกาศสงครามอย่างเป็นทางการมักจะไม่ได้รับการยอมรับบ่อยครั้งและไม่ได้สิ้นสุดลงด้วยการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ ยกตัวอย่างเช่น สงครามเกาหลี ซึ่งสงบลงด้วยการพักรบ แต่ไม่ใช่การลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ
ประวัติ
ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ
หนึ่งในสนธิสัญญาสันติภาพที่ได้มีการบันทึกเอาไว้เกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิและจักรวรรดิอียิปต์ หลังจาก ในปี เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ซีเรียในปัจจุบัน ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิทั้งสอง หลังจากการรบที่นองเลือดเป็นเวลาสี่วัน โดยที่ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบต่อกัน ซึ่งได้นำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคตระหว่างอียิปต์และฮิตไทท์ หลังจากฟาโรห์รามเสสที่ 2 ได้ยึดเมืองคาร์เดซและอมูร์รูในปีที่ 8 แห่งการครองราชสมบัติของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามที่จะป้องกันความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิทั้งสองในอาคต ซึ่งพระเจ้าฮัตตูซิลิที่ 3 และฟาโรห์รามเสสได้ยุติความขัดแย้งลงด้วยการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าทั้งสองฝ่ายไม่อาจจะทำสงครามต่อไปได้ ทางด้านอียิปต์ในขณะนั้นได้ประสบปัญหาจากการรุกรานของชาวเผ่าลิเบียทางชายแดนด้านตะวันตก ส่วนฮิตไทท์ได้ถูกคุกคามจากจักรวรรดิอัสซิเรียซึ่งสามารถยึดครองพื้นที่ประเทศราชของฮิตไทท์ตามแม่น้ำไทกรีสและแม่น้ำยูเฟรตีสได้
สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวได้รับการลงนามโดยราสเสสที่ 2 และฮัตตูซิลีที่ 3 ในปี 1258 ปีก่อนคริสตกาล ประกอบด้วยเนื้อหาจำนวนสิบแปดมาตราได้สร้างสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่าย และดำรงเทพอันเป็นที่เคารพในทั้งสองวัฒนธรรม จากสนธิสัญญาดังกล่าว ได้มีเนื้อหาหลายส่วนที่ได้ไปปรากฏอยู่ในสนธิสัญญาสันติภาพในเวลาถัดมาด้วย สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวได้รับการพิจารณาว่ามีความสำคัญอย่างมากในการศึกษาทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยแบบจำลองของสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวได้อยู่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย
ประวัติศาสตร์ยุคใหม่
ตัวอย่างของสนธิสัญญาสันติภาพในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ สนธิสัญญาสันติภาพที่เรียกกันว่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทูตสมัยใหม่ และระบบรัฐชาติในปัจจุบัน สงครามที่เกิดขึ้นภายหลังจากสนธิสัญญาสันติภาพดังกล่าวไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับศาสนาอีก แต่จะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐแทน
และอีกตัวอย่างหนึ่ง คือ สนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งได้ยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่ามันน่าจะเป็นสนธิสัญญาฉบับที่กระฉ่อนที่สุด เนื่องจากถูกประณามว่าเป็นการก่อให้เกิดลัทธินาซีในเยอรมนี และสืบเนื่องไปถึงการปะทุของสงครามโลกครั้งที่สองในที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของการดำเนินกระบวนการสันติภาพเพื่อให้เป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่าย
สนธิสัญญาสันติภาพที่สำคัญ
ยุติสงคราม
- สนธิสัญญาลอนดอน (1604) - ยุติสงครามอังกฤษ-สเปน (ค.ศ. 1585)
- สนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลีย - ยุติสงครามสามสิบปีและสงครามแปดสิบปี
- - ยุติสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่สอง
- - ยุติสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่สาม
- - ยุติสงครามเก้าปี
- สนธิสัญญายูเทรกต์ - ยุติสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน
- - ยุติสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย
- สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1763) - ยุติสงครามเจ็ดปี
- สนธิสัญญาก้องโตน - ยุติสงครามจีน–พม่า
- สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1783) - ยุติสงครามปฏิวัติอเมริกา
- - ยุติสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่สี่
- สนธิสัญญาอาเมียง - ยุติสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สองและสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส
- - ยุติ
- - ยุติสงคราม ค.ศ. 1812
- การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา - ยุติสงครามนโปเลียน
- สนธิสัญญารานตะโบ - ยุติสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญานานกิง - ยุติสงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติ
- - ยุติสงครามเม็กซิโก–อเมริกา
- - ยุติสงครามไครเมีย
- - ยุติ
- - ยุติสงครามฝิ่นครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาเวียนนา (ค.ศ. 1864) - ยุติสงครามชเลสวิชครั้งที่สอง
- - ยุติสงครามออสเตรีย-ปรัสเซีย
- สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต (ค.ศ. 1871) - ยุติสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย
- - ยุติสงครามรัสเซีย-ตุรกี (ค.ศ. 1877–1878)
- - ยุติ
- - ยุติ
- สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 112 - ยุติสงครามฝรั่งเศส-สยาม
- สนธิสัญญาชิโมโนเซกิ - ยุติสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติสงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติ
- พิธีสารนักมวย - ยุติกบฏนักมวย
- - ยุติสงครามบูร์ครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาพอร์ตสมัท - ยุติสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
- สนธิสัญญาอูชชี - ยุติ
- สนธิสัญญาลอนดอน (ค.ศ. 1913) - ยุติ
- - ยุติ
- สนธิสัญญาเบรสท์-ลีตอฟสก์ - ยุติแนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง)
- การประชุมสันติภาพปารีส ค.ศ. 1919 - ยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญาสันติภาพริกา - ยุติสงครามโปแลนด์–โซเวียต
- สนธิสัญญาโลซาน - ยุติสงครามประกาศอิสรภาพตุรกี
- การพักรบตางกู - ยุติการรุกรานแมนจูเรีย
- สนธิสัญญาสันติภาพมอสโก - ยุติสงครามฤดูหนาว
- อนุสัญญาโตเกียว - ยุติสงครามฝรั่งเศส-ไทย
- การสงบศึกมอสโก - ยุติสงครามต่อเนื่อง
- สนธิสัญญากรุงไทเป - ยุติสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง
- - ยุติสงครามโลกครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก - ยุติสงครามแปซิฟิกและสงครามโลกครั้งที่สอง
- - ยุติสงครามกลางเมืองกรีซ
- การประชุมเจนีวา (ค.ศ. 1954) - ยุติสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติสงครามกัมพูชา–เวียดนาม
- ความตกลงเดย์ตัน - ยุติสงครามบอสเนีย
ยุติสถานะสงคราม
- สนธิสัญญาเบรสท์-ลีตอฟสก์ - ยุติสถานะสงครามระหว่างโซเวียตรัสเซียกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างโรมาเนียกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง
- สนธิสัญญาแวร์ซาย - ยุติสถานะสงครามระหว่างเยอรมนีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919) - ยุติสถานะสงครามระหว่างออสเตรียกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญาทรียานง - ยุติสถานะสงครามระหว่างฮังการีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญาเนอยี-ซูร์-แซน - ยุติสถานะสงครามระหว่างบัลแกเรียกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างจักรวรรดิออตโตมันกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- สนธิสัญญาโลซาน - ยุติสถานะสงครามระหว่างตุรกีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- การสงบศึก 22 มิถุนายน ค.ศ. 1940 - ยุติสถานะสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับอิตาลี
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างอิรักกับจักรวรรดิบริติช
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างอิตาลีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างเยอรมนีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาสันติภาพอังกฤษ–ไทย - ยุติสถานะสงครามระหว่างไทยกับจักรวรรดิบริติช
- ความตกลงระงับกรณีระหว่างฝรั่งเศส–ไทย ค.ศ. 1946 - ยุติสถานะสงครามระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
- สนธิสัญญาสันติภาพออสเตรเลีย–ไทย - ยุติสถานะสงครามระหว่างไทยกับออสเตรเลีย
- สนธิสัญญาสันติภาพสำหรับอิตาลี ค.ศ. 1947 - ยุติสถานะสงครามระหว่างอิตาลีกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก - ยุติสถานะสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
- สนธิสัญญากรุงไทเป - ยุติสถานะสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับสาธารณรัฐจีน
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับสหภาพโซเวียต
- - ยุติสถานะสงครามระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์
- - ยุติความเกี่ยวข้องของสหรัฐในสงครามเวียดนาม
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Nicolas Grimal, A History of Ancient Egypt, Blackwell Books: 1992, pp.256-257
- Grimal, op. cit., p.256
- Grimal, op. cit., p.257
แหล่งข้อมูลอื่น
- UN Peacemaker Database on Peace Agreements 2012-11-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, UN Peacemaker
- United States Institute of Peace Digital Peace Agreements Collection 2006-11-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The First Peace Treaty in History
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
snthisyyasntiphaph xngkvs peace treaty epnkhxtklngrahwangprpksthngsxngfayephuxyutikhwamkhdaeynginkarichkalng sungmkcaepnpraethshruxrthbalxngkhprakxbkhxngsnthisyyaxngkhprakxbkhxngsnthisyyaxacmiidhlaypraedn khunxyukbkhwamkhdaeyngthiekidkhun odythixngkhprakxbbangprakarkhxngsnthisyyasntiphaphsamarthsrupiddngni karrbrxngaenwchayaednihmxyangepnthangkar krabwnkarsahrbaekikhkhxphiphaththixacekidkhuninxnakht karekhathungaelakaraebngpnthrphyakrrwmkn sthanaphuliphy karcharahnithitkkhang karkahndphvtikrrmkarpranam karaekikhprbprungenuxhakhxngsnthisyyathiekhythaexaiwkxnhna snthisyyasntiphaphmkcamikarxnumtiinpraethsthikhngkhwamepnklanginkhwamkhdaeyngthiphanma aelamiphuaethncakpraethsehlaniephuxepnphyanruehnihkbphulngnam inkrnithiepnkhwamkhdaeynginwngkwangrahwanghlayfay xacsamarthsrupidepnsnthisyyananachatiodymienuxhakhrxbkhlumipthungpraednpyhathnghmdhruxenuxhainsnthisyyasntiphaphrahwangkhukrnithngsxngfay inchwngsmyihm insthankarnkhwamkhdaeyngthiyakcasngblngid xacerimtncakkarhyudying aelwcungkhxydaeninkartamtxip sungthngsxngfaycaiditrtrxngthungepahmaykhxngkarbrrlusntiphaphrwmkn cnkrathngkarlngnaminsnthisyyasntiphaph snthisyyasntiphaphmkcaimichephuxyutisngkhramklangemuxng odyechphaaxyangying inkrnithikaraebngaeykdinaednthiprasbkhwamlmehlw enuxngcakwaepnkaraesdngnythungkarrbrxngsthanakhwamepnrthkhxngxikfayhnung xyangechn inkrni sngkhramklangemuxngxemrikn sungyutilngidktxemuxkxngthphkhxngfayhnungyxmcannhruxrthbalkhxngfayhnunglmslaylng trngknkhamkbkaraebngaeykdinaednhruxkarprakasxisrphaphthiprasbkhwamsaerc dinaednthitngkhunihmehlanicaidkarrbrxngsthanakhwamepnrthcaksnthisyyasntiphaphxyangepnthangkarbthbathkhxngshprachachatinbtngaetidmikarkxtngxngkhkarshprachachatikhunphayhlngsngkhramolkkhrngthisxng xngkhkardngklawidmicudprasngkhephuxepnthiprachuminkaraekikhpyhaekiywkbkhwamkhdaeyngrahwangpraeths aelaepntwklanginkarprasankrabwnkarsntiphaphaelasnthisyyasntiphaph odysnthisyyarahangpraethsaelapraethssmachikphukphnidekhaipekiywkhxngdwy cakkhwamphyayaminkarkhwbkhumaelacakdphvtikrrmephuximihluklamcnklayepnsngkhramebdesrc sunghmaykhwamwa karprakassngkhramxyangepnthangkarmkcaimidrbkaryxmrbbxykhrngaelaimidsinsudlngdwykarlngnaminsnthisyyasntiphaph yktwxyangechn sngkhramekahli sungsngblngdwykarphkrb aetimichkarlngnaminsnthisyyasntiphaphprawtiprawtisastryukhobran aephncarukkhxngsnthisyyachbbaerkinprawtisastr hruxsnthisyyasntiphaphkhaeds inphiphithphnthobrankhdixistnbul hnunginsnthisyyasntiphaphthiidmikarbnthukexaiwekidkhunrahwangckrwrrdiaelackrwrrdixiyipt hlngcak inpi ekidkhuninbriewnphunthisieriyinpccubn sungepnbriewnthiekidkhwamkhdaeyngrahwangckrwrrdithngsxng hlngcakkarrbthinxngeluxdepnewlasiwn odythiimmifayididepriybhruxesiyepriybtxkn sungidnaipsukhwamkhdaeynginxnakhtrahwangxiyiptaelahitithth hlngcakfaorhramessthi 2 idyudemuxngkharedsaelaxmurruinpithi 8 aehngkarkhrxngrachsmbtikhxngphraxngkh xyangirktam idmikhwamphyayamthicapxngknkhwamkhdaeyngthixaccaekidkhunrahwangckrwrrdithngsxnginxakht sungphraecahttusilithi 3 aelafaorhramessidyutikhwamkhdaeynglngdwykarlngnaminsnthisyyasntiphaph thngniepnephraawathngsxngfayimxaccathasngkhramtxipid thangdanxiyiptinkhnannidprasbpyhacakkarrukrankhxngchawephaliebiythangchayaedndantawntk swnhitiththidthukkhukkhamcakckrwrrdixssieriysungsamarthyudkhrxngphunthipraethsrachkhxnghitiththtamaemnaithkrisaelaaemnayuefrtisid snthisyyachbbdngklawidrbkarlngnamodyrasessthi 2 aelahttusilithi 3 inpi 1258 pikxnkhristkal prakxbdwyenuxhacanwnsibaepdmatraidsrangsntiphaphrahwangthngsxngfay aeladarngethphxnepnthiekharphinthngsxngwthnthrrm caksnthisyyadngklaw idmienuxhahlayswnthiidippraktxyuinsnthisyyasntiphaphinewlathdmadwy snthisyyachbbdngklawidrbkarphicarnawamikhwamsakhyxyangmakinkarsuksathangdankhwamsmphnthrahwangpraeths odyaebbcalxngkhxngsnthisyyachbbdngklawidxyuthisanknganihykhxngxngkhkarshprachachatixikdwy prawtisastryukhihm twxyangkhxngsnthisyyasntiphaphinprawtisastryukhihmthiepnthiruckkndi khux snthisyyasntiphaphthieriykknwa sungthuxidwaepncuderimtnkhxngkarthutsmyihm aelarabbrthchatiinpccubn sngkhramthiekidkhunphayhlngcaksnthisyyasntiphaphdngklawimekhymiswnekiywkhxngkbsasnaxik aetcaepnpraednthiekiywkhxngkbrthaethn aelaxiktwxyanghnung khux snthisyyaaewrsay sungidyutisngkhramolkkhrngthihnungxyangepnthangkar odykhadwamnnacaepnsnthisyyachbbthikrachxnthisud enuxngcakthukpranamwaepnkarkxihekidlththinasiineyxrmni aelasubenuxngipthungkarpathukhxngsngkhramolkkhrngthisxnginthisud sungepnkaraesdngihehnthungkhwamyaklabakkhxngkardaeninkrabwnkarsntiphaphephuxihepnthiphxicaekthukfaysnthisyyasntiphaphthisakhyyutisngkhram snthisyyalxndxn 1604 yutisngkhramxngkvs sepn kh s 1585 snthisyyasntiphaphewstfaeliy yutisngkhramsamsibpiaelasngkhramaepdsibpi yutisngkhramxngkvs enethxraelndkhrngthihnung yutisngkhramxngkvs enethxraelndkhrngthisxng yutisngkhramxngkvs enethxraelndkhrngthisam yutisngkhramekapi snthisyyayuethrkt yutisngkhramsubrachbllngksepn yutisngkhramsubrachbllngkxxsetriy snthisyyaparis kh s 1763 yutisngkhramecdpi snthisyyakxngotn yutisngkhramcin phma snthisyyaparis kh s 1783 yutisngkhramptiwtixemrika yutisngkhramxngkvs enethxraelndkhrngthisi snthisyyaxaemiyng yutisngkhramshsmphnthmitrkhrngthisxngaelasngkhramptiwtifrngess yuti yutisngkhram kh s 1812 karprachumihyaehngewiynna yutisngkhramnopeliyn snthisyyarantaob yutisngkhramxngkvs phmakhrngthihnung snthisyyananking yutisngkhramfinkhrngthihnung yuti yutisngkhramemksiok xemrika yutisngkhramikhremiy yuti yutisngkhramfinkhrngthisxng snthisyyaewiynna kh s 1864 yutisngkhramchelswichkhrngthisxng yutisngkhramxxsetriy prsesiy snthisyyaaefrngkefirt kh s 1871 yutisngkhramfrngess prsesiy yutisngkhramrsesiy turki kh s 1877 1878 yuti yuti snthisyyasyam frngess r s 112 yutisngkhramfrngess syam snthisyyachiomoneski yutisngkhramcin yipunkhrngthihnung yutisngkhramxitali xabissieniykhrngthihnung yuti phithisarnkmwy yutikbtnkmwy yutisngkhramburkhrngthisxng snthisyyaphxrtsmth yutisngkhramrsesiy yipun snthisyyaxuchchi yuti snthisyyalxndxn kh s 1913 yuti yuti snthisyyaebrsth litxfsk yutiaenwrbdantawnxxk sngkhramolkkhrngthihnung karprachumsntiphaphparis kh s 1919 yutisngkhramolkkhrngthihnung snthisyyasntiphaphrika yutisngkhramopaelnd osewiyt snthisyyaolsan yutisngkhramprakasxisrphaphturki karphkrbtangku yutikarrukranaemncueriy snthisyyasntiphaphmxsok yutisngkhramvduhnaw xnusyyaotekiyw yutisngkhramfrngess ithy karsngbsukmxsok yutisngkhramtxenuxng snthisyyakrungithep yutisngkhramcin yipunkhrngthisxng yutisngkhramolkkhrngthisxng snthisyyasanfransisok yutisngkhramaepsifikaelasngkhramolkkhrngthisxng yutisngkhramklangemuxngkris karprachumecniwa kh s 1954 yutisngkhramxinodcinkhrngthihnung yutisngkhramkmphucha ewiydnam khwamtklngedytn yutisngkhrambxseniy yutisthanasngkhram snthisyyaebrsth litxfsk yutisthanasngkhramrahwangosewiytrsesiykbfaymhaxanacklang yutisthanasngkhramrahwangormaeniykbfaymhaxanacklang snthisyyaaewrsay yutisthanasngkhramrahwangeyxrmnikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung snthisyyaaesng aechraemng xxng ael kh s 1919 yutisthanasngkhramrahwangxxsetriykbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung snthisyyathriyanng yutisthanasngkhramrahwanghngkarikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung snthisyyaenxyi sur aesn yutisthanasngkhramrahwangblaekeriykbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung yutisthanasngkhramrahwangckrwrrdixxtotmnkbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung snthisyyaolsan yutisthanasngkhramrahwangturkikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnung karsngbsuk 22 mithunayn kh s 1940 yutisthanasngkhramrahwangfrngesskbeyxrmni yutisthanasngkhramrahwangfrngesskbxitali yutisthanasngkhramrahwangxirkkbckrwrrdibritich yutisthanasngkhramrahwangxitalikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng yutisthanasngkhramrahwangeyxrmnikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng snthisyyasntiphaphxngkvs ithy yutisthanasngkhramrahwangithykbckrwrrdibritich khwamtklngrangbkrnirahwangfrngess ithy kh s 1946 yutisthanasngkhramrahwangithykbfrngess snthisyyasntiphaphxxsetreliy ithy yutisthanasngkhramrahwangithykbxxsetreliy snthisyyasntiphaphsahrbxitali kh s 1947 yutisthanasngkhramrahwangxitalikbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng snthisyyasanfransisok yutisthanasngkhramrahwangyipunkbfaysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxng snthisyyakrungithep yutisthanasngkhramrahwangyipunkbsatharnrthcin yutisthanasngkhramrahwangyipunkbshphaphosewiyt yutisthanasngkhramrahwangxisraexlkbxiyipt yutikhwamekiywkhxngkhxngshrthinsngkhramewiydnamduephimsntiphaph karthut karphkrbxangxingNicolas Grimal A History of Ancient Egypt Blackwell Books 1992 pp 256 257 Grimal op cit p 256 Grimal op cit p 257aehlngkhxmulxunUN Peacemaker Database on Peace Agreements 2012 11 26 thi ewyaebkaemchchin UN Peacemaker United States Institute of Peace Digital Peace Agreements Collection 2006 11 29 thi ewyaebkaemchchin The First Peace Treaty in History bthkhwamniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmul hmayehtu khxaenanaihcdhmwdhmuokhrngihekhakbenuxhakhxngbthkhwam duephimthi wikiphiediy okhrngkarcdhmwdhmuokhrngthiyngimsmburn dkhk