ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (อังกฤษ: Second Sino-Japanese War ; จีน: 中國抗日戰爭 ; ญี่ปุ่น: 日中戦争) เป็นความขัดแย้งทางทหารที่เป็นการสู้รบหลักระหว่างสาธารณรัฐจีนและจักรวรรดิญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 ถึงวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 จุดเริ่มด้วยเหตุการณ์ ณ สะพานมาร์โค โปโลในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างกองกำลังทหารจีนและญี่ปุ่นที่บานปลายจนต้องสู้รบกัน แหล่งข้อมูลบางแห่งในสาธารณรัฐประชาชนจีนยุคปัจจุบันได้มีการถือจุดเริ่มต้นของสงครามคือญี่ปุ่นบุกครองแมนจูเรียในปี ค.ศ. 1931
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สมัยระหว่างสงครามและแนวรบแปซิฟิกของสงครามโลกครั้งที่สอง | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
การสนับสนุนของต่างชาติ:
| |||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
เจียงไคเช็ก | จักรพรรดิฮิโรฮิโต | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ทหารจีน 5,600,000 นาย เครื่องบินสหรัฐ 900+ ลำ ที่ปรึกษาและนักบินโซเวียต 3600+ นาย | ทหารญี่ปุ่น 3,900,000 นาย , ทหารไส้ศึกจีน 900,000 นาย | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
ทหารจีน (รวมที่บาดเจ็บ, เชลย, และสูญหาย) 3,220,000 นาย, พลเมือง 17,530,000 คน | ทหารญี่ปุ่น (รวมที่บาดเจ็บ, เชลย, และสูญหาย) 1,100,000 นาย | ||||||||
1 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2485 กองบินฟลายอิ้งไทเกอร์ได้รับการยกระดับเป็นกองทัพอากาศสหรัฐกองบินที่ 14 2 สหภาพโซเวียตได้ให้ความข่วยเหลือทางทหารแก่จีนระหว่างปี พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2484 3 ทหารส่วนใหญ่มาจากประเทศแมนจูกัว ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น |
จีนได้ต่อสู้รบกับญี่ปุ่นด้วยความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา ภายหลังญี่ปุ่นเข้าโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ในปี ค.ศ. 1941 สงครามได้รวมไปถึงความขัดแย้งที่อื่น ๆ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ในฐานะที่เป็นเขตของแนวรบที่สำคัญที่ถูกเรียกว่า เขตสงครามจีน พม่า อินเดีย นักวิชาการบางคนได้ถือว่าจุดเริ่มต้นของสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองอย่างเต็มรูปแบบในปี ค.ศ. 1937 คือจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองเป็นสงครามขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียในศตวรรษที่ 20 มันได้มีการถือว่าเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนและทหารส่วนใหญ่ในสงครามแปซิฟิก กับระหว่างพลเรือนชาวจีนจำนวน 10 และ 25 ล้านคนและบุคลากรทหารชาวจีนและญี่ปุ่นที่กำลังใกล้ตายกว่า 4 ล้านนายจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องในสงคราม ความอดอยาก และสาเหตุอื่น ๆ
สงครามเป็นผลพวงจากนโยบายจักรวรรดินิยมของญี่ปุ่นที่มีมายาวนานหลายทศวรรษเพื่อขยายอิทธิพลทางการเมืองและทางทหารเพื่อความปลอดภัยในการเข้าถึงแหล่งแร่วัตถุดิบ อาหาร และแรงงาน ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง นำมาซึ่งการเพิ่มความตึงเครียดให้กับการปกครองของญี่ปุ่น นักการเมืองฝ่ายซ้ายต้องการที่จะมีสิทธิในการออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปและสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นสำหรับแรงงาน การเพิ่มผลผลิตสิ่งทอจากโรงทอผ้าจีนเป็นการส่งผลกระทบต่อการผลิตของญี่ปุ่น ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทำให้การส่งออกสินค้าชะลอตัวลงอย่างมาก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ได้สนับสนุนแก่ฝ่ายทหารชาตินิยม ซึ่งท้ายที่สุดด้วยการก้าวขึ้นสู่อำนาจของกลุ่มทหารนิยมลัทธิฟาสซิสต์ กลุ่มนี้อยู่ภายใต้การนำโดยฮิเดกิ โทโจ คณะรัฐมนตรีของ (Imperial Rule Assistance Association) ภายใต้พระบรมราชโองการของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ ในปี ค.ศ. 1931 อุบัติการณ์มุกเดนได้ช่วยจุดชนวนด้วยการบุกครองแมนจูเรียของญี่ปุ่น ฝ่ายจีนต้องพบความปราชัยและญี่ปุ่นได้ก่อตั้งรัฐหุ่นเชิดขึ้นมาใหม่, หมั่นโจวกั๋ว นักประวัติศาสตร์หลายคนได้กล่าวอ้างว่า ปี ค.ศ. 1931 เป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มุมมองเหล่านี้ได้รับการรับรองโดยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 ถึง ค.ศ. 1937 จีนและญี่ปุ่นยังคงต่อสู้รบกันอย่างต่อเนื่องในการรบที่จำกัดวง ที่ถูกเรียกว่า "เหตุการณ์"
ในช่วงแรก ญี่ปุ่นได้รับชัยชนะครั้งใหญ่, ได้เข้ายึดครองทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองหลวงของจีนคือนานกิงในปี ค.ศ. 1937 ภายหลังจากความล้มเหลวในการหยุดยั้งญี่ปุ่นในยุทธการที่อู่ฮั่น รัฐบาลกลางของจีนได้ย้ายไปยังฉงชิ่ง (จุงกิง) ในส่วนภายในของประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1939 ภายหลังจากจีนได้รับชัยชนะในฉางชาและ และด้วยเส้นสายการสื่อสารของญี่ปุ่นที่ขยายลึกเข้าไปในส่วนภายในประเทศจีน สงครามได้ทำให้เกิดจนมุม ญี่ปุ่นยังไม่สามารถเอาชนะกองทัพคอมมิวนิสต์จีนได้ในมณฑลฉ่านซี ซึ่งได้ดำเนินการทัพด้วยการก่อวินาศกรรมและรบแบบกองโจรเข้าปะทะกับผู้รุกราน ในขณะที่ญี่ปุ่นได้ปกครองเมืองขนาดใหญ่ พวกเขามีกำลังพลไม่เพียงพอที่จะควบคุมชนบทอันกว้างใหญ่ของแผ่นดินจีนได้ ในช่วงเวลานั้น, กองกำลังคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดฉากการรุกตอบโต้กลับในภาคกลางของจีน ในขณะที่กองกำลังชาตินิยมจีนได้เปิดฉากการรุกขนาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ญี่ปุ่นได้โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ และวันต่อมาสหรัฐอเมริกาได้ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือแก่จีนโดยการขนส่งวัสดุผ่านทางอากาศเหนือเทือกเขาหิมาลัย หลังจากฝ่ายสัมพันธมิตรได้พ่ายแพ้ใน เมื่อถนนเส้นสายพม่าถูกปิดกั้น ในปี ค.ศ. 1944 ญี่ปุ่นได้เปิดฉาก คือการพิชิตเหอหนานและฉางชา อย่างไรก็ตาม, ด้วยความล้มเหลวครั้งนี้ได้นำไปสู่การยอมจำนนต่อกองทัพจีน ในปี ค.ศ. 1945 กองกำลังรบนอกประเทศจีนได้เริ่มต้นด้วยการเข้ารุกในพม่า และเชื่อมโยงกับถนนเลโด (Ledo Road) จากจีนถึงอินเดียได้สำเร็จ ในเวลาเดียวกัน, จีนได้เปิดฉากการรุกตอบโต้กลับขนาดใหญ่ในจีนตอนใต้และยึดเหอหนานตะวันตกและกวางสีคืน
แม้ว่าจะยังคงครอบครองส่วนหนึ่งของแผ่นดินจีนอยู่ ญี่ปุ่นได้ยอมจำนนในที่สุด เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 ต่อกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ภายหลังจากการทิ้งระเบิดปรมณูที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิและโซเวียตบุกครองแมนจูเรียที่ญี่ปุ่นปกครองอยู่ กองกำลังยึดครองของญี่ปุ่นที่เหลืออยู่ (ยกเว้นแมนจูเรีย) ได้ยอมจำนนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1945 ภายหลังจากนั้นต่อมา, ศาลทหารระหว่างประเทศสำหรับตะวันออกไกลได้รวมตัวกัน เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1946 จากการประชุมที่กรุงไคโร เมื่อวันที่ 22-26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สองได้ตัดสินใจที่จะหยุดยั้งและลงโทษต่อการรุกรานของญี่ปุ่น โดยการส่งคืนดินแดนทั้งหมดที่ญี่ปุ่นยึดครองไปจากจีน รวมถึงแมนจูเรีย เกาะไต้หวัน/ฟอร์โมซา และเกาะเปสกาโดเรส (เผิงหู) แก่จีน และขับไล่ญี่ปุ่นออกจากคาบสมุทรเกาหลี ประเทศจีนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสี่ผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามและกลายเป็นหนึ่งในห้าสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ภูมิหลัง
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง
ความเป็นมาของสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สามารถมองย้อนหลังกลับไปเมื่อครั้งสมัย สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง ระหว่างปี ค.ศ.1894 - ค.ศ.1895
ซึ่งประเทศจีนในสมัยนั้น ปกครองโดยราชวงศ์ชิงซึ่งในขณะนั้นถือเป็นช่วงที่ราชวงศ์ชิงตกอยู่ในสภาวะตกต่ำอ่อนแอยิ่งเนื่องจากประสบปัญหาต่อเนื่องจากผลพวงของสงครามฝิ่นกับอังกฤษ ทำให้ผู้คนในประเทศอ่อนแอทั้งจากเหตุการณ์จลาจลภายในประเทศทำให้จีนไม่สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญเท่ากับชาติตะวันตกได้เท่าที่ควรทำให้เกิดความล้าหลังทางเศรษฐกิจและการทหารอีกทั้งยังถูกรุมเร้ากับภัยจากลัทธิจักรวรรดินิยมภายนอกประเทศ จนประเทศจีนถูกขนานนามว่าเป็น ขี้โรคแห่งเอเชีย อย่างดูถูกในขณะนั้น
ขณะเดียวกันในประเทศญี่ปุ่นมีการปฏิรูปเมจิ โดยจักรพรรดิเมจิ ทำให้สามารถรวบรวมอำนาจภายในประเทศให้เป็นปึกแผ่น อันเป็นผลทำให้ญี่ปุ่นสามารถปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยทางด้านเศรษฐกิจและการทหารแบบตะวันตกและมีประสิทธิภาพ เมื่อญี่ปุ่นเจริญขึ้นจึงหันมาใช้นโยบายขยายอิทธิพลแบบจักรวรรดินิยมและลัทธิล่าอาณานิคม จึงหันมายึดครองเกาหลีและเข้ารุกรานประเทศจีน เป็นการเปิดฉากสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง ประเทศจีนนำโดยราชวงศ์ชิงต้องพ่ายแพ้สงครามแก่ประเทศญี่ปุ่น จึงจำต้องทำสนธิสัญญาชิโมะโนะเซะกิ อันเป็นสนธิสัญญาไม่เป็นธรรม ซึ่งมีผลบังคับให้จีนต้องยกดินแดนเผิงหูและคาบสมุทรเหลียวตงให้แก่ญี่ปุ่น และต้องรับรองเอกราชแก่เกาหลี จากเหตุการณ์นี้ทำให้ราชวงศ์ชิงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตกต่ำอย่างยิ่ง
สาธารณรัฐจีน
ความคับแค้นไม่พอใจต่อราชวงศ์ชิงทำให้ชาวจีนจำนวนมากต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีของประเทศและลุกฮือขึ้นเปลี่ยนแปลงการปกครองจนทำให้เกิดขบวนการถงเหมิงฮุ่ย มี ดร.ซุน ยัตเซ็น เป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเกิดเหตุการณ์การปฏิวัติซินไฮ่ อันเป็นการล้มล้างราชวงศ์ชิง ทำให้ประเทศจีนได้เปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ และได้สถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้น อย่างไรก็ตามสาธารณรัฐใหม่ก็ยังคงมีความอ่อนแอกว่าสมัยก่อน ทั้งปัญหาการแย่งชิงอำนาจของขุนศึกท้องถิ่นผู้มีอำนาจ ทำให้การพยายามที่จะรวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น การขับไล่ลัทธิจักรจรรดินิยมออกไปจากจีนเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ทำให้ขุนศึกบางคนต้องใช้นโยบายใกล้ชิดกับต่างชาติ ตัวอย่างเช่น ขุนศึก จาง จัวหลิน แห่งแมนจูเรีย ได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น ในเรื่องความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และทางทหาร
การคุกคามประเทศจีนของญี่ปุ่น
ความต้องการ 21 ประการ
ในปี พ.ศ. 2458 ญี่ปุ่นได้ประกาศความต้องการ 21 ประการ ในการรีดบังคับทั้งในเรื่องการเมืองและสิทธิประโยชน์ทางการค้าจากจีน ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ญี่ปุ่นได้เข้ายึดดินแดนเขตอิทธิพลของจักรวรรดิเยอรมันในเขตมณฑลชานตง ทำให้เกิดกระแสการต่อต้านญี่ปุ่นขึ้นในแผ่นดินจีน แต่กระนั้นรัฐบาลจีนในขณะนั้น ยังคงแตกความร่วมมือกันอยู่ จึงทำให้ไม่สามารถต้านทานการบุกรุกล้ำดินแดนของญี่ปุ่นได้ เพื่อเป็นการรวบรวมจีนและกำจัดเหล่าขุนศึกตามท้องถิ่นให้หมดสิ้นไป พรรคก๊กมินตั๋งซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองกวางโจว ได้ก่อตั้งกองทัพปฏิวัติแห่งชาติ ออกเดินทางไกลขึ้นเหนือ
วิกฤตการณ์จี๋หนาน
ในปี พ.ศ. 2469 – พ.ศ. 2471 พรรคก๊กมินตั๋งและกองทัพปฏิวัติแห่งชาติ ได้ปราบปรามขยายขอบเขตอิทธิพลกระทั่งประชิดดินแดนชานตง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของขุนนศึก จาง จงชาน ผู้ได้รับการช่วยเหลือจากญี่ปุ่น กองทัพปฏิวัติแห่งชาติถูกต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพของจาง จงชาน ที่เมืองจี๋หนาน ในปี พ.ศ. 2471 เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า “” สุดท้ายพรรคก๊กมินตั๋งและกองทัพปฏิวัติแห่งชาติต้องล่าถอยออกมาจากจี๋หนาน
ในปีเดียวกัน จาง จัวหลิน ถูกลอบสังหารหลังได้รับการช่วยเหลือจากญี่ปุ่นไม่นาน จากนั้นบุตรชายของเขา จาง เฉวเหลียง ได้เข้าครอบครองดินแดนแมนจูเรียต่อจากบิดาทันที ประกาศยกเลิกการขอรับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น และประกาศยอมเข้าสวามิภักดิ์ต่อพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งในขณะนั้นนำโดย เจียง ไคเชก อันเป็นผลทำให้พรรคก๊กมินตั๋งสามารถรวบรวมดินแดนประเทศจีนได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2481
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2473 ได้เกิดเหตุการณ์จลาจลระหว่างขุนศึกผู้ที่เคยร่วมมือกับพรรคก๊กมินตั๋งในระหว่างการเดินทางไกลขึ้นเหนือ กับรัฐบาลกลางของเจียง ไคเช็ก ยกตัวอย่างเช่น พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ได้ก่อการจลาจลต่อรัฐบาลกลาง ภายหลังเหตุการณ์การสังหารหมู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ในปี พ.ศ. 2470 ดังนั้นรัฐบาลกลาง จึงได้พยายามเบี่ยงเบนความสนใจในเรื่องความไม่สงบภายในประเทศ โดยได้ประกาศ “นโยบายสงบภายในก่อนที่จะต้านทานภายนอก”
มูลเหตุของสงคราม
ญี่ปุ่นเริ่มการรุกรานแมนจูเรียและการแทรกแซงในจีน
สถานการณ์ความวุ่นวายภายในของจีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นสามารถดำเนินนโยบายรุกรานแมนจูเรียได้โดยสะดวก ญี่ปุ่นเล็งเห็นผลประโยชน์ในดินแดนแมนจูเรียหลายประการ เช่น ดินแดนแมนจูเรียมีทรัพยากรทางธรรมชาติและวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมมหาศาล และสามารถเป็นแหล่งกระจายสินค้าของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นรัฐกันชนระหว่างญี่ปุ่นกับดินแดนไซบีเรียของสหภาพโซเวียต
ญี่ปุ่นจึงเริ่มรุกรานดินแดนแมนจูเรียอย่างเปิดเผยภายหลังกรณีมุกเดน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2474 หลังจากการประทะกันนาน 5 เดือน ญี่ปุ่นได้จัดตั้งรัฐหุ่นเชิดแมนจูกัวขึ้น โดยอัญเชิญจักรพรรดิปูยี อดีตจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและจักรพรรดิแต่เพียงในนาม แต่รัฐบาลจีนไม่ให้การยอมรับรับรองดินแดนหุ่นเชิดดังกล่าว เมื่อไม่สามารถตอบโต้ทางทหารได้ จีนจึงร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังสันนิบาตชาติให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง
สันนิบาตชาติดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและออก เพื่อประณามการกระทำของญี่ปุ่นในการรุกรานแมนจูเรีย แต่ญี่ปุ่นกลับไม่รับผิดชอบต่อการรุกรานทางทหารต่อแมนจูเรียและกลับขอถอนตัวออกจากสันนิบาตชาติโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังไม่มีชาติใดกล้าดำเนินนโนบายตอบโต้ทางทหารอย่างชัดเจนกับญี่ปุ่น
ภายหลังจากกรณีมุกเดน เกิดการประทะกันอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2475 กำลังทหารของจีนและญี่ปุ่นได้เปิดการประทะกันในกรณี 28 มกราคม ผลจากการประทะกันครั้งนี้ได้เกิดการจัดตั้งเขตปลอดทหารเซี่ยงไฮ้ขึ้น ทำให้ทางกองทัพจีนไม่สามารถคงกำลังทหารไว้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของตนเองได้ ทางด้านแมนจูกัวญี่ปุ่นพยายามดำเนินตามนโยบายของตนในการทำลายกองกำลังอาสาสมัครต่อต้านญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นและกระจายเป็นวงกว้าง
ในปี พ.ศ. 2476 ญี่ปุ่นเข้าโจมตีบริเวณกำแพงเมืองจีน หลังจากนั้นได้มีการเจรจาพักรบตางกู ให้อำนาจญี่ปุ่นมีเหนือดินแดน อีกทั้งยังจัดตั้งเขตปลอดทหารบริเวณกำแพงเมืองจีนกับเมืองปักกิ่ง - เทียนจิน ในจุดนี้ญี่ปุ่นพยายามจะจัดตั้งรัฐหุ่นเชิดขึ้นอีกหนึ่งแห่งระหว่างดินแดนแมนจูกัวกับดินแดนของคณะรัฐบาลแห่งชาติจีนที่มีฐานบัญชาการอยู่ที่นานกิง
ญี่ปุ่นพยายามยุยงให้มีความแตกแยกภายในกันเองของจีน เพื่อเป็นการบั่นทอนกำลังทหารของจีนให้อ่อนแอลง ซึ่งญี่ปุ่นทราบจุดอ่อนของรัฐบาลจีนคณะชาติดีว่า ภายหลังของคณะรัฐบาลแห่งชาติจีน อำนาจการปกครองประเทศของรัฐบาลแห่งชาตินั้นจำกัดอยู่เฉพาะในดินแดนบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเท่านั้น หากแต่ดินแดนในส่วนอื่นนั้นยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเหล่าขุนศึกท้องถิ่นอยู่ ญี่ปุ่นจึงพยายามผูกไมตรีและให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าขุนศึกท้องถิ่นในการจัดตั้งรัฐอิสระขึ้นโดยให้เป็นไมตรีกับญี่ปุ่น ดินแดนเหล่านี้ได้แก่ เหอเป่ย์ ซานซี และซานตง
นโยบายของญี่ปุ่นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในดินแดนที่ปัจจุบันคือบริเวณมองโกเลียในและมณฑลเหอเป่ย์ ในปี พ.ศ. 2478 ญี่ปุ่นกดดันให้รัฐบาลจีนยอมลงนามใน ซึ่งมีเนื้อหาห้ามมิให้รัฐบาลก็กมินตั๋งเข้าไปมีอำนาจปกครองในมณฑลเหอเป่ย์ ในปีเดียวกันจีนจำต้องลงนามในอีกฉบับหนึ่ง เป็นการกำจัดอำนาจของรัฐบาลก็กมินตั๋งออกจากฉาเห่ย์ ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2478 เป็นต้นมา รัฐบาลแห่งชาติจีนจึงไม่มีอำนาจปกครองเหนือดินแดนดังกล่าวอีกต่อไป ญี่ปุ่นได้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาปกครองตนเองเหอเป่ย์ตะวันออกขึ้น ซึ่งต่อมาทางการญี่ปุ่นได้เปลี่ยนสถานะการปกครองใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นเหม่งเจียงเป็นรัฐหุ่นเชิดแห่งที่สองโดยได้ส่งเจ้าชายมองโกลไปปกครองและให้การสนับสนุนด้านการทหารและเศรษฐกิจ ทางด้านจีนได้มีการจัดตั้งกองอาสาสมัครต่อต้านญี่ปุ่นขึ้น ญี่ปุ่นจึงเริ่มเข้ารุกรานและในฉาเห่ย์ สุยหย่วน
การรุกรานจีนอย่างเต็มตัว
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนมากได้ระบุจุดเริ่มต้นของสงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 1937 ตั้งแต่เหตุการณ์สะพานมาร์โคโปโล เมื่อสงครามรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อเมืองปักกิ่งถูกโจมตีโดยกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเนื่องจากกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนที่มีการรับมือแบบไม่มีประสิทธิภาพทำให้ญี่ปุ่นเข้ายึดเมืองเป่ยผิงและเทียนจินอย่างง่ายดาย
ในโตเกียวได้เริ่มลังเลถึงการขยายความขัดแย้งที่เข้าสู่สงครามเต็มตัวเป็นความเห็นด้วยที่มีชัยชนะเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือของจีนต่อไปนี้เหตุการณ์สะพานมาร์โคโปโล อย่างไรก็ตามรัฐบาลกลางจีนได้กำหนดว่า "จุดแตกหัก" ของการรุกรานของญี่ปุ่นได้รับถึงและ เจียงไคเชกได้ระดมกองทัพอย่างรวดเร็วของรัฐบาลกลางและได้เริ่มการพัฒนากองทัพอากาศจีนคณะชาติภายใต้คำสั่งโดยตรงของเขาในการโจมตีกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในเซี่ยงไฮ้เมื่อ 13 สิงหาคม 1937 ซึ่งนำไปสู่การยุทธการเมืองเซี่ยงไฮ้กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นที่มีการระดมกำลังทหารกว่า 200,000 ควบคู่กับกองเรือและเครื่องบินจำนวนมากในการยึดเซี่ยงไฮ้หลังจากเกินสามเดือนของการต่อสู้ที่รุนแรงกับความสูญเสียที่ไกลเกินความคาดหวังตั้งแต่เริ่มต้นทำให้สร้างความยากลำบากในการที่จะยึดเซี่ยงไฮ้. กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้ายึดเมืองนานกิงเมืองหลวงของรัฐบาลกลางจีนและฉ่านซีตอนเหนือโดยปลายปี ค.ศ. 1937 ในสงครามที่เกี่ยวข้องกับทหารจำนวน 350,000 คนของญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารของแมนจูกัว
นักประวัติศาสตร์ได้ประมาณการชาวจีนถึง 300,000 คนที่ถูกสังหารหมู่ในการสังหารหมู่นานกิงซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของเมืองนานกิง ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1937 ในขณะที่นักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นบางคนได้แก้ไขปรับปรุงประวัติศาสตร์ซึ่งได้ปฏิเสธการสังหารหมู่ของญี่ปุ่น
กองกำลังเปรียบเทียบ
กองทัพปฏิวัติชาติ
กองทัพปฏิวัติชาติมีเจียงไคเช็กเป็นผู้บัญชาการสูงสุด กองทัพปฏิวัติชาติเป็นที่รับรู้ว่าเป็นกองกำลังติดอาวุธแบบครบวงจรของจีนในช่วงสงคราม กองทัพปฏิวัติชาติประกอบด้วยทหารประมาณ 4,300,000 นาย มี 370 กองพล (จีนตัวย่อ: 正式师; จีนตัวเต็ม: 正式師), 46 กองพลใหม่ (จีนตัวย่อ: 新编师; จีนตัวเต็ม: 新編師), 12 กองพลทหารม้า (จีนตัวย่อ: 骑兵师; จีนตัวเต็ม: 騎兵師), 8 กองพลทหารม้าใหม่ (จีนตัวย่อ: 新编骑兵师; จีนตัวเต็ม: 新編騎兵師), 66 กองพลชั่วคราว (จีนตัวย่อ: 暂编师; จีนตัวเต็ม: 暫編師), และ 13 กองพลสำรอง (จีนตัวย่อ: 预备师; จีนตัวเต็ม: 預備師), รวมทั้งสิ้น 515 หน่วย
แต่หลายกองพลเกิดจากการรวมกันของสองกองพลหรือมากกว่า จำนวนทหารในแต่ละกองพลมีประมาณ 4,000-5,000 นาย กำลังพลของกองทัพจีนคณะชาติถ้าเทียบกับกองพลญี่ปุ่นแล้วมีจำนวนใกล้เคียงกัน แต่เนื่องจากกองทัพจีนคณะชาตินั้นขาดแคลนด้านปืนใหญ่, อาวุธหนัก, และยานยนต์ที่ใช้ขนส่งกำลังพล ทำให้ 4 กองพลของจีนคณะชาติมีอำนาจในการรบเท่ากับ 1 กองพลของกองทัพญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการบริหารและควบคุมกองทัพอีกด้วย เนื่องจากอำนาจในการควบคุมไม่เป็นระบบ สื่อข่าวกรอง, การส่งกำลังบำรุงในการทหาร, การสื่อสาร, และการพยาบาลนั้นถือว่าย่ำแย่ อำนาจควบคุมกองทัพจีนคณะชาตินั้นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ กองทัพกลาง ซึ่งเป็นการรวมตัวของกองพลที่ฝึกในโรงเรียนทหาร ฮ่วมปั่ว ซึ่งเป็นกองพลที่จงรักภักดีต่อเจียงไคเช็ค กลุ่มที่สองคือ กองทัพรวม เป็นการรวมตัวของกองพลที่บัญชาการโดยแม่ทัพของมณฑลต่าง ๆ
หลังจากบทเรียนความพ่ายแพ้ของจีนในการรุกรานแมนจูเรียของญี่ปุ่น ทำให้พรรคก๊กมินตั๋งไม่นิ่งนอนใจต่อการคุกคามของญี่ปุ่นอีกต่อไป กองทัพปฏิวัติชาติได้พยายามก่อตั้งกองทัพขนาดใหญ่โดยซื้ออาวุธจากเยอรมันและทำการฝึกทหารใหม่ จัดซื้ออาวุธใหม่ ๆ เข้าประจำในกองทัพ กองทัพปฏิวัติชาติขยายกำลังพลอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาไม่กี่ปีก็มีจำนวนทหารส่วนใหญ่ได้รับการฝึกแบบกองทัพเยอรมัน มีการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญหรือนักการทหารกับเยอรมันอย่างต่อเนื่อง
กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นมีกำลังพลประมาณ 3,200,000 นาย ส่วนใหญ่ประจำการอยู่ที่ประเทศจีนมากกว่าที่สมรภูมิแปซิฟิค จำนวนทหารในแต่ละกองพลมีประมาณ 20,000 นาย มี 51 กองพล ซึ่ง 35 กองพลประจำการอยู่ที่จีน และ 39 กองพลน้อย คิดเป็น 80% ของกำลังพลทั้งหมดของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีหน่วยพิเศษด้านปืนใหญ่, ทหารม้า, ต่อต้านอากาศยาน, และยานเกราะ เมื่อเทียบกับกองทัพจีนคณะชาติ ทหารกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นมียุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า ทหารมีประสบการณ์ในการรบมากกว่า และมีแผนการรบที่เหนือกว่าในช่วงต้นของสงคราม
ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ประจำการอยู่ที่จีน แต่ในปี ค.ศ. 1942 ได้เริ่มส่งทหารไปประจำการที่ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, ไทย, พม่า, หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์, และ มาลายา เพื่อขยายอิทธิพลยึดครองภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกแต่ละประเทศที่บุกยึดได้ก็จะ ต้องคอยส่งเสบียง และ ช่วยในการผลิตอาวุธ รวมถึงการเกณฑ์ผู้คนและเชลยศึกไปเป็นแรงงานในการสร้างค่ายทหาร,สร้าง ถนน,สร้างทางรถไฟ เพื่อสะดวกในการขนเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ไปแนวหน้า ส่วนพวกผู้หญิงก็จะถูกจับตัวไปเป็นนางบำเรอของทหารญี่ปุ่น.
การยุทธครั้งสำคัญในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง
รายการต่อไปนี้แสดงถึงการยุทธครั้งสำคัญในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ภาพธงที่แสดงด้านหน้าหมายถึงฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ
- มุกเดน กันยายน พ.ศ. 2474
- การรุกรานแมนจูเรีย กันยายน พ.ศ. 2474
- การทัพเจียงเกียว ตุลาคม พ.ศ. 2474
- การต่อต้านที่สะพานเนินจาง พฤศจิกายน พ.ศ. 2474
- จินโจว ธันวาคม พ.ศ. 2474
- การป้องกันเมืองฮาร์บิน มกราคม พ.ศ. 2475
- เซี่ยงไฮ้ (พ.ศ. 2475) มกราคม พ.ศ. 2475
- การปราบปรามความไม่สงบในหมั่นโจวกั๋ว มีนาคม พ.ศ. 2475
- การป้องกันกำแพงเมืองจีน มกราคม พ.ศ. 2476
- ยุทธการที่เร่อเหอ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2476
- ปฏิบัติการในมองโกเลียใน (พ.ศ. 2476-79)
- การทัพซุ่ยหยวน ตุลาคม 1936
- สะพานมาร์โค โปโล 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 (จุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของสงคราม)
- เป่ย์ผิง-เทียนสิน กรกฎาคม พ.ศ. 2480
- สิงหาคม พ.ศ. 2480
- ยุทธการเมืองเซี่ยงไฮ้ สิงหาคม พ.ศ. 2480
- สิงหาคม พ.ศ. 2480
- สิงหาคม พ.ศ. 2480
- กันยายน พ.ศ. 2480
- ยุทธการนานกิง ธันวาคม พ.ศ. 2480
- ยุทธการซูโจว ธันวาคม พ.ศ. 2480
- มกราคม พ.ศ. 2481
- พฤษภาคม พ.ศ. 2481
- ยุทธการที่อู่ฮั่น มิถุนายน พ.ศ. 2481
- ตุลาคม พ.ศ. 2481
- กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2482
- มีนาคม พ.ศ. 2482
- พฤษภาคม พ.ศ. 2482
- มิถุนายน พ.ศ. 2482
- ยุทธการฉางชา กันยายน พ.ศ. 2482
- พฤศจิกายน พ.ศ. 2482
- ยุทธการช่องเขาคุนหลุน ธันวาคม พ.ศ. 2482
- การรุกในฤดูหนาว พ.ศ. 2482-83 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482
- พฤษภาคม พ.ศ. 2483
- สิงหาคม พ.ศ. 2483
- กันยายน พ.ศ. 2483
- พฤศจิกายน พ.ศ. 2483
- มกราคม พ.ศ. 2484
- มีนาคม พ.ศ. 2484
- มีนาคม พ.ศ. 2484
- พฤษภาคม พ.ศ. 2484
- กันยายน พ.ศ. 2484
- มกราคม พ.ศ. 2485
- มีนาคม พ.ศ. 2485
- เมษายน พ.ศ. 2485
- พฤษภาคม พ.ศ. 2486
- ตุลาคม พ.ศ. 2486
- พฤศจิกายน พ.ศ. 2486
- เมษายน - มิถุนายน พ.ศ. 2488
- เมษายน - กรกฎาคม พ.ศ. 2488
- การบุกครองแมนจูเรียของสหภาพโซเวียต
วัฒนธรรมสมัยนิยม
ในประเทศจีน
- ภาพยนตร์เรื่อง บนภูเขาไท่หาง (จีน: 太行山上), (อังกฤษ: On the Mountain of Tai Hang) เป็นภาพยนตร์สงครามที่สร้างในปี ค.ศ. 2005 เกี่ยวกับสงครามระหว่างจีนและญี่ปุ่นซึ่งในระหว่างที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานประเทศจีนในช่วงแรกนั้นรัฐบางสาธารณรัฐจีนที่ปกครองโดยพรรคก๊กมินตั๋ง (จีนคณะชาติ) ได้ทำการต่อต้านรับมือการรุกรานของญี่ปุ่นแต่ประสบความล้มเหลว จนฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองทัพที่แปดของนายพลจูเต๋อได้ไปตั้งหลักที่ภูเขาไท่หางและทำสงครามกองโจรกับญี่ปุ่นจนได้รับชัยชนะในที่สุด
ภาพยนตร์ตีแผ่เกี่ยวกับอาชญากรสงครามของญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์เรื่อง สะท้อนถึงเหตุการณ์ของการสังหารหมู่นานกิงโดยกองทัพญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์เรื่อง Don't Cry, Nanking หรือ เป็นภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1995 บอกเล่าเรื่องราวความอำมหิตของกองทัพญี่ปุ่นที่กระทำต่อชาวนานกิงในช่วงปี ค.ศ. 1937 จนกลายเป็นหนึ่งในโศกนาฎกรรมของโลก โดยเล่าผ่านชีวิตครอบครัวของแพทย์ชาวจีนกับภรรยาตั้งครรภ์ชาวญี่ปุ่นพร้อมลูกสาวที่เดินทางกลับมายังเมืองนานกิง ก่อนจะพบว่าบ้านเมืองได้ถูกยึดครองทำลายและฆ่าล้างอย่างโหดร้ายโดยกองทัพญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์เรื่อง หรือ Men Behind the Sun ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ปี ค.ศ. 1988 เกี่ยวกับค่ายทดลองมนุษย์หน่วย 731 ของจักรวรรดิญี่ปุ่น บริเวณดินแดนแมนจูกัวโดยอาศัยชาวจีนที่เคราะห์ร้ายมาทำการทดลองมนุษย์เพื่อวิจัยอาวุธอย่างโหดร้าย
ในประเทศญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์เรื่อง (戦争と人間) เป็นภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นได้จัดทำขึ้นมาเอง เนื้อเรื่องสะท้อนเหตุการณ์ของสงครามจากมุมมองฝ่ายญี่ปุ่นถึงความโหดร้ายของการกองทัพญี่ปุ่นที่เข้าไปรุกรานประเทศจีนและได้ก่ออาชญากรรมสงครามขึ้น
ประเทศอื่น ๆ
- นวนิยายไทยเรื่อง ลอดลายมังกร ว่าด้วยเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพหนีภัยสงครามในแผ่นดินจีนที่รุกรานโดยกองทัพญี่ปุ่นมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย
เชิงอรรถ
อ้างอิง
- Taylor, Jay, The Generalissimo, p.645.
- Chung Wu Taipei "History of the Sino-Japanese war (1937-1945)" 1972 pp 535
- Jowett, Phillip, Rays of the Rising Sun, หน้า 72.
- Clodfelter, Michael "Warfare and Armed Conflicts: A Statistical Reference", Vol. 2, pp. 956.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-13. สืบค้นเมื่อ 2008-11-02.
- Huang, Zheping; Huang, Zheping. "China is rewriting textbooks so its "eight-year war of resistance" against Japan is now six years longer". Quartz (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-04-08.
- Ferris, John; Mawdsley, Evan (2015). The Cambridge History of the Second World War, Volume I: Fighting the War (ภาษาอังกฤษ). Cambridge: .
- Förster & Gessler 2005, p. 64.
- Bix, Herbert P. (1992), "The Showa Emperor's 'Monologue' and the Problem of War Responsibility", Journal of Japanese Studies, 18 (2): 295–363, doi:10.2307/132824
- Hotta, E. (25 December 2007). Pan-Asianism and Japan's War 1931-1945. Palgrave Macmillan US. p. 40. ISBN .
- Paine, S. C. M. (20 August 2012). The Wars for Asia, 1911–1949. Cambridge University Press. p. 123. ISBN .
- A Joint Study of the Sino-Japanese War 1931-1945. Harvard University Asia Center.
- Mitter, Rana (2014). Forgotten Ally: China's World War II, 1937–1945. Mariner Books. ISBN .
- Brinkley, Douglas. The New York Times Living History: World War II, 1942–1945: The Allied Counteroffensive. สืบค้นเมื่อ 1 September 2015.
- , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มิถุนายน 2012, สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2015
- Wilson, Dick, When Tigers Fight: The story of the Sino-Japanese War, 1937-1945, p.5
- Wilson, Dick, p.4
- . . 13 August 1923. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-22. สืบค้นเมื่อ 2010-09-15.
- Palmer and Colton, A History of Modern World, p.725
- Taylor, Jay, p.57
- Taylor, Jay, p.79, p.82
- Boorman, Biographical Dictionary, vol.1, p.121
- Taylor, Jay, p.83
- Fu Jing-hui, An Introduction of Chinese and Foreign History of War, 2003, p.109–111
บรรณานุกรม
- Bayly, C. A., and T. N. Harper. Forgotten Armies: The Fall of British Asia, 1941–1945. Cambridge, MA: Belknap Press of Harvard University Press, 2005. xxxiii, 555p. ISBN .
- Bayly, C. A., T. N. Harper. Forgotten Wars: Freedom and Revolution in Southeast Asia. Cambridge, MA: Belknap Press of Harvard University Press, 2007. xxx, 674p. ISBN .
- Benesch, Oleg. "Castles and the Militarisation of Urban Society in Imperial Japan," Transactions of the Royal Historical Society, Vol. 28 (Dec. 2018), pp. 107–134.
- Buss, Claude A. War And Diplomacy in Eastern Asia (1941) 570pp online free
- (1976). The Rise of Nationalism in Vietnam, 1900–1941. Ithaca, New York: . ISBN .
- Gordon, David M. "The China–Japan War, 1931–1945" Journal of Military History (January 2006). v. 70#1, pp, 137–82. 14 มีนาคม 2020 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Historiographical overview of major books from the 1970s through 2006
- Guo Rugui, editor-in-chief Huang Yuzhang,中国抗日战争正面战场作战记 China's Anti-Japanese War Combat Operations (Jiangsu People's Publishing House, 2005) ISBN . On line in Chinese:
- Hastings, Max (2009). Retribution: The Battle for Japan, 1944–45. Vintage Books. ISBN .
- Förster, Stig; Gessler, Myriam (2005). "The Ultimate Horror: Reflections on Total War and Genocide". In Roger Chickering, Stig Förster and Bernd Greiner, eds., A World at Total War: Global Conflict and the Politics of Destruction, 1937–1945 (pp. 53–68). Cambridge: . ISBN .
- Hsiung, James Chieh; Levine, Steven I., บ.ก. (1992), China's Bitter Victory: The War with Japan, 1937–1945, Armonk, NY: M.E. Sharpe, ISBN . Reprinted 7 มีนาคม 2021 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน: Abingdon, Oxon; New York: Routledge, 2015. Chapters on military, economic, diplomatic aspects of the war.
- Huang, Ray (31 January 1994). 從大歷史的角度讀蔣介石日記 (Reading Chiang Kai-shek's Diary from a Macro History Perspective). China Times Publishing Company. ISBN .
- Annalee Jacoby and Theodore H. White, Thunder out of China, New York: William Sloane Associates, 1946. Critical account of Chiang's government by Time magazine reporters.
- Jowett, Phillip (2005). Rays of the Rising Sun: Japan's Asian Allies 1931–45 Volume 1: China and Manchukuo. Helion and Company Ltd. ISBN . – Book about the Chinese and Mongolians who fought for the Japanese during the war.
- Hsu, Long-hsuen; Chang Ming-kai (1972). History of the Sino-Japanese war (1937–1945). Chung Wu Publishers. ASIN B00005W210.
- Lary, Diana and Stephen R. Mackinnon, eds. The Scars of War: The Impact of Warfare on Modern China. Vancouver: UBC Press, 2001. 210p. ISBN .
- Laureau, Patrick (June 1993). "Des Français en Chine (2ème partie)" [The French in China]. Avions: Toute l'aéronautique et son histoire (ภาษาฝรั่งเศส) (4): 32–38. ISSN 1243-8650.
- MacKinnon, Stephen R., Diana Lary and Ezra F. Vogel, eds. China at War: Regions of China, 1937–1945. Stanford University Press, 2007. xviii, 380p. ISBN .
- Macri, Franco David. Clash of Empires in South China: The Allied Nations' Proxy War with Japan, 1935–1941 (2015) online 3 ตุลาคม 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- (2013). Forgotten Ally: China's World War II, 1937–1945. HMH. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 October 2022. สืบค้นเมื่อ 27 January 2020.
- Peattie, Mark. Edward Drea, and Hans van de Ven, eds. The Battle for China: Essays on the Military History of the Sino-Japanese War of 1937–1945 (Stanford University Press, 2011); 614 pages
- Quigley, Harold S. Far Eastern War 1937 1941 (1942) online free
- Steiner, Zara. "Thunder from the East: The Sino-Japanese Conflict and the European Powers, 1933=1938": in Steiner, The Triumph of the Dark: European International History 1933–1939 (2011) pp 474–551.
- Stevens, Keith (March 2005). "A token operation: 204 military mission to China, 1941–1945". Asian Affairs. 36 (1): 66–74. doi:10.1080/03068370500039151. S2CID 161326427.
- Taylor, Jay (2009). The Generalissimo: Chiang Kai-shek and the struggle for modern China. Cambridge, Massachusetts: Harvard University Press. ISBN .
- Van de Ven, Hans, Diana Lary, Stephen MacKinnon, eds. Negotiating China's Destiny in World War II (Stanford University Press, 2014) 336 pp. online review 26 มิถุนายน 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- van de Ven, Hans (2017). China at War: Triumph and Tragedy in the Emergence of the New China, 1937–1952. London: Cambridge, MA: Harvard University Press, 2017: Profile Books. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 October 2022. สืบค้นเมื่อ 3 January 2020.
{{}}
: CS1 maint: location () - Wilson, Dick (1982). When Tigers Fight: The story of the Sino-Japanese War, 1937–1945. New York: Viking Press. ISBN .
- Zarrow, Peter (2005). "The War of Resistance, 1937–45". China in War and Revolution 1895–1949. London: Routledge.
- China at war, Volume 1, Issue 3. China Information Committee. 1938. p. 66. สืบค้นเมื่อ 21 March 2012. Issue 40 of China, a collection of pamphlets. Original from Pennsylvania State University. Digitized 15 September 2009
แหล่งข้อมูลอื่น
- จดหมายเหตุหนังสือพิมพ์สงครามโลกครั้งที่สอง - สงครามในจีน, พ.ศ. 2480 - พ.ศ. 2488 2003-11-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บันทึกของฟลายอิง ไทเกอร์
- (จีน)/(อังกฤษ) KangZhan.org - ประวัติและรูปภาพของสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง 2005-11-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ทหารญี่ปุ่นในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง, พ.ศ. 2480 - พ.ศ. 2488 (ภาษาญี่ปุ่น)
- History and Commercial Atlas of China, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พ.ศ. 2478, โดย Albert Herrmann, Ph.D. ดูด้านล่างของรายชื่อแผนที่ พ.ศ. 2473
- Perry-Castañeda Library Map Collection, แผนที่จีน มาตราส่วน 1:250,000, Series L500, แผนที่ทหารสหรัฐฯ, พ.ศ. 2497- . แผนที่จีนประหว่างสงคราม.
- Perry-Castañeda Library Map Collection Manchuria 1:250,000, Series L542, แผนที่ทหารสหรัฐฯ, พ.ศ. 2493- . แผนที่ดินแดนแมนจูเรียระหว่างสงคราม.
- งานศึกษาร่วมสงครามจีน-ญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด. โครงการเพื่อสืบค้นและขยายการวิจัยเพื่อการพัฒนาความร่วมมือระหว่างนักวิชาการและสถาบันของจีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, และชาติอื่น ๆ [1]
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud sngkhramcin yipunkhrngthisxng xngkvs Second Sino Japanese War cin 中國抗日戰爭 yipun 日中戦争 epnkhwamkhdaeyngthangthharthiepnkarsurbhlkrahwangsatharnrthcinaelackrwrrdiyipun tngaetwnthi 7 krkdakhm kh s 1937 thungwnthi 2 knyayn kh s 1945 cuderimdwyehtukarn n saphanmarokh opolinpi kh s 1937 sungklayepnkhxphiphathrahwangkxngkalngthharcinaelayipunthibanplaycntxngsurbkn aehlngkhxmulbangaehnginsatharnrthprachachncinyukhpccubnidmikarthuxcuderimtnkhxngsngkhramkhuxyipunbukkhrxngaemncueriyinpi kh s 1931sngkhramcin yipunkhrngthisxngswnhnungkhxng smyrahwangsngkhramaelaaenwrbaepsifikkhxngsngkhramolkkhrngthisxngcakbnlnglang sayipkhwa kxngthphckrwrrdiyipunichaeksphisekhaocmtithimnthharcin thharyipunkhnaich inxinediyemux kh s 1942 kxngsphchawcinthithuksngharinkarsngharhmunanking ekhruxngbinyipunkhna rngpunklkhxngthharcininyuththkarthixuhnwnthi7 krkdakhm kh s 1937 2 knyayn kh s 1945 8 pi 1 eduxn 3 spdah aela 5 wn sthanthicinaephndinihy xinodcin phmaphlcinchna cinidrbchychnainthanaepnswnhnungkhxngfaysmphnthmitrthiidrbchychnainsngkhramaepsifik karyxmaephxyangimepnthangkarkhxngthharyipunincinaephndinihy imrwmindinaednaemncueriy ekaafxromsaaelaxinodcinfrngessehnuxesnkhnanthi 16 khunip cininthanathiepnhnunginsiphuyingihykhxngfaysmphnthmitridklayepnsmachikthawrkhxngkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachati cuderimtnihmkhxngsngkhramklangemuxngcindinaedn epliynaeplngcinidrbdinaednthiesiyipcakkarthasnthisyyachiomaonaesakiklbkhuncakyipunkhusngkhram cin phrrkhkkmintng phrrkhkhxmmiwnistkarsnbsnunkhxngtangchati ircheyxrmn 1937 1938 shphaphosewiyt 1937 1941 1945 shrth 1941 1945 ckrwrrdibritich 1942 1945 yipun aemncukw ehmngeciyng rabxbwang cingewy3phubngkhbbychaaelaphunaeciyngikhechk echin eching ehma ecxtng cu etx ephing etxhwy hlin epiyw wasili chuykhxfckrphrrdihiorhiot hiedaki othoc fumimaora okhaonaexa khngxin okhaotahiota mtsuxi xiwaena yasuci oxkhamura ckrphrrdipuyi wang cingewykalngthharcin 5 600 000 nay ekhruxngbinshrth 900 la thipruksaaelankbinosewiyt 3600 naythharyipun 3 900 000 nay thharissukcin 900 000 naykhwamsuyesiythharcin rwmthibadecb echly aelasuyhay 3 220 000 nay phlemuxng 17 530 000 khn thharosewiyt 227 naythharyipun rwmthibadecb echly aelasuyhay 1 100 000 nay1 ineduxnkrkdakhm ph s 2485 kxngbinflayxingithekxridrbkarykradbepnkxngthphxakasshrthkxngbinthi 14 2 shphaphosewiytidihkhwamkhwyehluxthangthharaekcinrahwangpi ph s 2480 thung ph s 2484 3thharswnihymacakpraethsaemncukw sungepnrthbalhunphayitkarkhwbkhumkhxngyipun cinidtxsurbkbyipundwykhwamchwyehluxcakshphaphosewiytaelashrthxemrika phayhlngyipunekhaocmtiephirlharebxrinpi kh s 1941 sngkhramidrwmipthungkhwamkhdaeyngthixun insngkhramolkkhrngthisxng inthanathiepnekhtkhxngaenwrbthisakhythithukeriykwa ekhtsngkhramcin phma xinediy nkwichakarbangkhnidthuxwacuderimtnkhxngsngkhramcin yipunkhrngthisxngxyangetmrupaebbinpi kh s 1937 khuxcuderimtnkhxngsngkhramolkkhrngthisxng sngkhramcin yipunkhrngthisxngepnsngkhramkhnadihyinphumiphakhexechiyinstwrrsthi 20 mnidmikarthuxwaepnsaehtukhxngkarbadecblmtaykhxngphleruxnaelathharswnihyinsngkhramaepsifik kbrahwangphleruxnchawcincanwn 10 aela 25 lankhnaelabukhlakrthharchawcinaelayipunthikalngikltaykwa 4 lannaycakkhwamrunaerngthiekiywkhxnginsngkhram khwamxdxyak aelasaehtuxun sngkhramepnphlphwngcaknoybayckrwrrdiniymkhxngyipunthimimayawnanhlaythswrrsephuxkhyayxiththiphlthangkaremuxngaelathangthharephuxkhwamplxdphyinkarekhathungaehlngaerwtthudib xahar aelaaerngngan inchwnghlngsngkhramolkkhrngthihnung namasungkarephimkhwamtungekhriydihkbkarpkkhrxngkhxngyipun nkkaremuxngfaysaytxngkarthicamisiththiinkarxxkesiyngkareluxktngthwipaelasiththipraoychnthimakkhunsahrbaerngngan karephimphlphlitsingthxcakorngthxphacinepnkarsngphlkrathbtxkarphlitkhxngyipun dwyphawaesrsthkictktakhrngihythaihkarsngxxksinkhachalxtwlngxyangmak ehtukarnthnghmdniidsnbsnunaekfaythharchatiniym sungthaythisuddwykarkawkhunsuxanackhxngklumthharniymlththifassist klumnixyuphayitkarnaodyhiedki othoc khnarthmntrikhxng Imperial Rule Assistance Association phayitphrabrmrachoxngkarkhxngsmedcphrackrphrrdihiorahiota inpi kh s 1931 xubtikarnmukednidchwycudchnwndwykarbukkhrxngaemncueriykhxngyipun faycintxngphbkhwamprachyaelayipunidkxtngrthhunechidkhunmaihm hmnocwkw nkprawtisastrhlaykhnidklawxangwa pi kh s 1931 epncuderimtnkhxngsngkhram mummxngehlaniidrbkarrbrxngodyrthbalsatharnrthprachachncin tngaetpi kh s 1931 thung kh s 1937 cinaelayipunyngkhngtxsurbknxyangtxenuxnginkarrbthicakdwng thithukeriykwa ehtukarn inchwngaerk yipunidrbchychnakhrngihy idekhayudkhrxngthngemuxngesiyngihaelaemuxnghlwngkhxngcinkhuxnankinginpi kh s 1937 phayhlngcakkhwamlmehlwinkarhyudyngyipuninyuththkarthixuhn rthbalklangkhxngcinidyayipyngchngching cungking inswnphayinkhxngpraethscin inpi kh s 1939 phayhlngcakcinidrbchychnainchangchaaela aeladwyesnsaykarsuxsarkhxngyipunthikhyaylukekhaipinswnphayinpraethscin sngkhramidthaihekidcnmum yipunyngimsamarthexachnakxngthphkhxmmiwnistcinidinmnthlchansi sungiddaeninkarthphdwykarkxwinaskrrmaelarbaebbkxngocrekhapathakbphurukran inkhnathiyipunidpkkhrxngemuxngkhnadihy phwkekhamikalngphlimephiyngphxthicakhwbkhumchnbthxnkwangihykhxngaephndincinid inchwngewlann kxngkalngkhxmmiwnistcinidepidchakkarruktxbotklbinphakhklangkhxngcin inkhnathikxngkalngchatiniymcinidepidchakkarrukkhnadihyinchwngvduhnaw emuxwnthi 7 thnwakhm kh s 1941 yipunidocmtiephirlharebxr aelawntxmashrthxemrikaidprakassngkhramkbyipun shrthxemrikaidihkhwamchwyehluxaekcinodykarkhnsngwsduphanthangxakasehnuxethuxkekhahimaly hlngcakfaysmphnthmitridphayaephin emuxthnnesnsayphmathukpidkn inpi kh s 1944 yipunidepidchak khuxkarphichitehxhnanaelachangcha xyangirktam dwykhwamlmehlwkhrngniidnaipsukaryxmcanntxkxngthphcin inpi kh s 1945 kxngkalngrbnxkpraethsciniderimtndwykarekharukinphma aelaechuxmoyngkbthnnelod Ledo Road cakcinthungxinediyidsaerc inewlaediywkn cinidepidchakkarruktxbotklbkhnadihyincintxnitaelayudehxhnantawntkaelakwangsikhun aemwacayngkhngkhrxbkhrxngswnhnungkhxngaephndincinxyu yipunidyxmcanninthisud emuxwnthi 2 knyayn kh s 1945 txkxngthphfaysmphnthmitr phayhlngcakkarthingraebidprmnuthiemuxnghiorchimaaelanangasakiaelaosewiytbukkhrxngaemncueriythiyipunpkkhrxngxyu kxngkalngyudkhrxngkhxngyipunthiehluxxyu ykewnaemncueriy idyxmcannxyangepnthangkar emuxwnthi 9 knyayn kh s 1945 phayhlngcaknntxma salthharrahwangpraethssahrbtawnxxkiklidrwmtwkn emuxwnthi 29 emsayn kh s 1946 cakkarprachumthikrungikhor emuxwnthi 22 26 phvscikayn kh s 1943 faysmphnthmitrinsngkhramolkkhrngthisxngidtdsinicthicahyudyngaelalngothstxkarrukrankhxngyipun odykarsngkhundinaednthnghmdthiyipunyudkhrxngipcakcin rwmthungaemncueriy ekaaithwn fxromsa aelaekaaepskaoders ephinghu aekcin aelakhbilyipunxxkcakkhabsmuthrekahli praethscinidrbkaryxmrbwaepnhnunginsiphuyingihykhxngfaysmphnthmitrinchwngsngkhramaelaklayepnhnunginhasmachikthawrkhxngkhnamntrikhwammnkhngaehngshprachachatiphumihlngeciyngikhechkh phubychakarthharsungsudkhxngcinepnphuwangaenwrbpxngknkarrukrankhxngyipunsngkhramcin yipunkhrngthihnung khwamepnmakhxngsngkhramcin yipunkhrngthisxng samarthmxngyxnhlngklbipemuxkhrngsmy sngkhramcin yipunkhrngthihnung rahwangpi kh s 1894 kh s 1895 sungpraethscininsmynn pkkhrxngodyrachwngschingsunginkhnannthuxepnchwngthirachwngschingtkxyuinsphawatktaxxnaexyingenuxngcakprasbpyhatxenuxngcakphlphwngkhxngsngkhramfinkbxngkvs thaihphukhninpraethsxxnaexthngcakehtukarnclaclphayinpraethsthaihcinimsamarthphthnapraethsihecriyethakbchatitawntkidethathikhwrthaihekidkhwamlahlngthangesrsthkicaelakarthharxikthngyngthukrumerakbphycaklththickrwrrdiniymphaynxkpraeths cnpraethscinthukkhnannamwaepn khiorkhaehngexechiy xyangduthukinkhnann khnaediywkninpraethsyipunmikarptirupemci odyckrphrrdiemci thaihsamarthrwbrwmxanacphayinpraethsihepnpukaephn xnepnphlthaihyipunsamarthptiruppraethsihthnsmythangdanesrsthkicaelakarthharaebbtawntkaelamiprasiththiphaph emuxyipunecriykhuncunghnmaichnoybaykhyayxiththiphlaebbckrwrrdiniymaelalththilaxananikhm cunghnmayudkhrxngekahliaelaekharukranpraethscin epnkarepidchaksngkhramcin yipunkhrngthihnung praethscinnaodyrachwngschingtxngphayaephsngkhramaekpraethsyipun cungcatxngthasnthisyyachiomaonaesaki xnepnsnthisyyaimepnthrrm sungmiphlbngkhbihcintxngykdinaednephinghuaelakhabsmuthrehliywtngihaekyipun aelatxngrbrxngexkrachaekekahli cakehtukarnnithaihrachwngschingtxngtkxyuinsthankarnthitktaxyangying satharnrthcin khwamkhbaekhnimphxictxrachwngschingthaihchawcincanwnmaktxngkarkxbkuskdisrikhxngpraethsaelalukhuxkhunepliynaeplngkarpkkhrxngcnthaihekidkhbwnkarthngehminghuy mi dr sun ytesn epnphunakarekhluxnihwekidehtukarnkarptiwtisinih xnepnkarlmlangrachwngsching thaihpraethscinidepliynaeplngkarpkkhrxngsurabxbprachathipityaebbsatharnrth aelaidsthapnasatharnrthcinkhun xyangirktamsatharnrthihmkyngkhngmikhwamxxnaexkwasmykxn thngpyhakaraeyngchingxanackhxngkhunsukthxngthinphumixanac thaihkarphyayamthicarwbrwmpraethsihepnpukaephn karkhbillththickrcrrdiniymxxkipcakcinepneruxngthiyaklabak thaihkhunsukbangkhntxngichnoybayiklchidkbtangchati twxyangechn khunsuk cang cwhlin aehngaemncueriy idrwmmuxkbyipun ineruxngkhwamchwyehluxthangesrsthkic aelathangthhar karkhukkhampraethscinkhxngyipun khwamtxngkar 21 prakar inpi ph s 2458 yipunidprakaskhwamtxngkar 21 prakar inkarridbngkhbthngineruxngkaremuxngaelasiththipraoychnthangkarkhacakcin phayhlngsngkhramolkkhrngthihnung yipunidekhayuddinaednekhtxiththiphlkhxngckrwrrdieyxrmninekhtmnthlchantng thaihekidkraaeskartxtanyipunkhuninaephndincin aetkrannrthbalcininkhnann yngkhngaetkkhwamrwmmuxknxyu cungthaihimsamarthtanthankarbukrukladinaednkhxngyipunid ephuxepnkarrwbrwmcinaelakacdehlakhunsuktamthxngthinihhmdsinip phrrkhkkmintngsungmithanxyuthiemuxngkwangocw idkxtngkxngthphptiwtiaehngchati xxkedinthangiklkhunehnux wikvtkarncihnan inpi ph s 2469 ph s 2471 phrrkhkkmintngaelakxngthphptiwtiaehngchati idprabpramkhyaykhxbekhtxiththiphlkrathngprachiddinaednchantng sungepnekhtxiththiphlkhxngkhunnsuk cang cngchan phuidrbkarchwyehluxcakyipun kxngthphptiwtiaehngchatithuktxtanxyanghnkcakkxngthphkhxngcang cngchan thiemuxngcihnan inpi ph s 2471 ehtukarnnithukeriykwa sudthayphrrkhkkmintngaelakxngthphptiwtiaehngchatitxnglathxyxxkmacakcihnan inpiediywkn cang cwhlin thuklxbsngharhlngidrbkarchwyehluxcakyipunimnan caknnbutrchaykhxngekha cang echwehliyng idekhakhrxbkhrxngdinaednaemncueriytxcakbidathnthi prakasykelikkarkhxrbkhwamchwyehluxcakyipun aelaprakasyxmekhaswamiphkditxphrrkhkkmintng sunginkhnannnaody eciyng ikhechk xnepnphlthaihphrrkhkkmintngsamarthrwbrwmdinaednpraethscinidsaercinpi ph s 2481 xyangirktam inpi ph s 2473 idekidehtukarnclaclrahwangkhunsukphuthiekhyrwmmuxkbphrrkhkkmintnginrahwangkaredinthangiklkhunehnux kbrthbalklangkhxngeciyng ikhechk yktwxyangechn phrrkhkhxmmiwnistcin CCP idkxkarclacltxrthbalklang phayhlngehtukarnkarsngharhmuthiemuxngesiyngih inpi ph s 2470 dngnnrthbalklang cungidphyayamebiyngebnkhwamsnicineruxngkhwamimsngbphayinpraeths odyidprakas noybaysngbphayinkxnthicatanthanphaynxk mulehtukhxngsngkhramyipunerimkarrukranaemncueriyaelakaraethrkaesngincin kxngthphkhnotkhnaedinthangekhayudemuxngechinhyanginehtukarnkrnimukedn sthankarnkhwamwunwayphayinkhxngcinepnpccyhnungthithaihyipunsamarthdaeninnoybayrukranaemncueriyidodysadwk yipunelngehnphlpraoychnindinaednaemncueriyhlayprakar echn dinaednaemncueriymithrphyakrthangthrrmchatiaelawtthudibthangxutsahkrrmmhasal aelasamarthepnaehlngkracaysinkhakhxngyipun xikthngyngepnrthknchnrahwangyipunkbdinaednisbieriykhxngshphaphosewiyt karaephkhyaydinaednkhxngckrwrrdiyipun ekaayipunaeladinaednyudkhrxngxun siaedngsm dinaednaemncueriy siekhiyw satharnrthcin siehluxngkhrim dinaednyudkhrxngkhxngyipunchwngtnsngkhram aesdngdinaednaemncueriy sungtxmaidklaymaepnaemncukw aelaekahliphayitkarpkkhrxngkhxngyipun sichmphu yipuncungerimrukrandinaednaemncueriyxyangepidephyphayhlngkrnimukedn ineduxnknyayn ph s 2474 hlngcakkarprathaknnan 5 eduxn yipunidcdtngrthhunechidaemncukwkhun odyxyechiyckrphrrdipuyi xditckrphrrdixngkhsudthayaehngrachwngsching epnphusaercrachkaraephndinaelackrphrrdiaetephiynginnam aetrthbalcinimihkaryxmrbrbrxngdinaednhunechiddngklaw emuximsamarthtxbotthangthharid cincungrxngeriynkhxkhwamchwyehluxipyngsnnibatchatiihekhamachwyaekpyhakhwamkhdaeyng snnibatchatidaeninkarsxbswnehtukarnthiekidkhunaelaxxk ephuxpranamkarkrathakhxngyipuninkarrukranaemncueriy aetyipunklbimrbphidchxbtxkarrukranthangthhartxaemncueriyaelaklbkhxthxntwxxkcaksnnibatchatiodysineching aetkyngimmichatiidkladaeninnonbaytxbotthangthharxyangchdecnkbyipun aephnthiaesdngekhtkaryudkhrxngpraethscinkhxngckrwrrdiyipuninpi kh s 1940 dinaednthithukyudkhrxngodykxngthphyipunaesdngxanaekht siaedngchmphu swnbriewnthiehluxkhuxekhtthixyuphayitkarpxngknkhxngsatharnrthcin aesdngxanaekht sikhaw phayhlngcakkrnimukedn ekidkarprathaknxyangtxenuxnginpi ph s 2475 kalngthharkhxngcinaelayipunidepidkarprathakninkrni 28 mkrakhm phlcakkarprathaknkhrngniidekidkarcdtngekhtplxdthharesiyngihkhun thaihthangkxngthphcinimsamarthkhngkalngthhariwinemuxngesiyngihkhxngtnexngid thangdanaemncukwyipunphyayamdaenintamnoybaykhxngtninkarthalaykxngkalngxasasmkhrtxtanyipunthiekidkhunaelakracayepnwngkwang inpi ph s 2476 yipunekhaocmtibriewnkaaephngemuxngcin hlngcaknnidmikarecrcaphkrbtangku ihxanacyipunmiehnuxdinaedn xikthngyngcdtngekhtplxdthharbriewnkaaephngemuxngcinkbemuxngpkking ethiyncin incudniyipunphyayamcacdtngrthhunechidkhunxikhnungaehngrahwangdinaednaemncukwkbdinaednkhxngkhnarthbalaehngchaticinthimithanbychakarxyuthinanking yipunphyayamyuyngihmikhwamaetkaeykphayinknexngkhxngcin ephuxepnkarbnthxnkalngthharkhxngcinihxxnaexlng sungyipunthrabcudxxnkhxngrthbalcinkhnachatidiwa phayhlngkhxngkhnarthbalaehngchaticin xanackarpkkhrxngpraethskhxngrthbalaehngchatinncakdxyuechphaaindinaednbriewnlumaemnaaeyngsiethann hakaetdinaedninswnxunnnyngtkxyuphayitxiththiphlkhxngehlakhunsukthxngthinxyu yipuncungphyayamphukimtriaelaihkhwamchwyehluxaekehlakhunsukthxngthininkarcdtngrthxisrakhunodyihepnimtrikbyipun dinaednehlaniidaek ehxepy sansi aelasantng noybaykhxngyipunprasbkhwamsaercepnxyangdiindinaednthipccubnkhuxbriewnmxngokeliyinaelamnthlehxepy inpi ph s 2478 yipunkddnihrthbalcinyxmlngnamin sungmienuxhahammiihrthbalkkmintngekhaipmixanacpkkhrxnginmnthlehxepy inpiediywkncincatxnglngnaminxikchbbhnung epnkarkacdxanackhxngrthbalkkmintngxxkcakchaehy dwyehtuni nbtngaetplaypi ph s 2478 epntnma rthbalaehngchaticincungimmixanacpkkhrxngehnuxdinaedndngklawxiktxip yipunidsnbsnunihmikarcdtngsphapkkhrxngtnexngehxepytawnxxkkhun sungtxmathangkaryipunidepliynsthanakarpkkhrxngihmaelaepliynchuxepnehmngeciyngepnrthhunechidaehngthisxngodyidsngecachaymxngoklippkkhrxngaelaihkarsnbsnundankarthharaelaesrsthkic thangdancinidmikarcdtngkxngxasasmkhrtxtanyipunkhun yipuncungerimekharukranaelainchaehy suyhywn karrukrancinxyangetmtw prachachncincanwnmakinnankingesiychiwitcakkarocmtikhxngyipuneciyngikhechkprasryocmtikhwabatrsinkhayipunaelaxankhaprakassngkhramtxyipunhlngcakehtukarn n saphanmarokh opol hlkthanthangprawtisastrswnmakidrabucuderimtnkhxngsngkhramcinyipunkhrngthisxngemuxwnthi 7 krkdakhm 1937 tngaetehtukarnsaphanmarokhopol emuxsngkhramrunaerngekidkhunemuxemuxngpkkingthukocmtiodykxngthphckrwrrdiyipunenuxngcakkxngthphphakhtawntkechiyngehnuxkhxngcinthimikarrbmuxaebbimmiprasiththiphaphthaihyipunekhayudemuxngepyphingaelaethiyncinxyangngayday inotekiywiderimlngelthungkarkhyaykhwamkhdaeyngthiekhasusngkhrametmtwepnkhwamehndwythimichychnaekidkhunidinphakhehnuxkhxngcintxipniehtukarnsaphanmarokhopol xyangirktamrthbalklangcinidkahndwa cudaetkhk khxngkarrukrankhxngyipunidrbthungaela eciyngikhechkidradmkxngthphxyangrwderwkhxngrthbalklangaelaiderimkarphthnakxngthphxakascinkhnachatiphayitkhasngodytrngkhxngekhainkarocmtikxngthpheruxckrwrrdiyipuninesiyngihemux 13 singhakhm 1937 sungnaipsukaryuththkaremuxngesiyngihkxngthphckrwrrdiyipunthimikarradmkalngthharkwa 200 000 khwbkhukbkxngeruxaelaekhruxngbincanwnmakinkaryudesiyngihhlngcakekinsameduxnkhxngkartxsuthirunaerngkbkhwamsuyesiythiiklekinkhwamkhadhwngtngaeterimtnthaihsrangkhwamyaklabakinkarthicayudesiyngih kxngthphckrwrrdiyipunidekhayudemuxngnankingemuxnghlwngkhxngrthbalklangcinaelachansitxnehnuxodyplaypi kh s 1937 insngkhramthiekiywkhxngkbthharcanwn 350 000 khnkhxngyipunsungswnihyepnthharkhxngaemncukw nkprawtisastridpramankarchawcinthung 300 000 khnthithuksngharhmuinkarsngharhmunankingsungekidkhunhlngcakkarlmslaykhxngemuxngnanking inwnthi 13 thnwakhm kh s 1937 inkhnathinkprawtisastryipunbangkhnidaekikhprbprungprawtisastrsungidptiesthkarsngharhmukhxngyipunkxngkalngepriybethiybkxngthphptiwtichati thngkhxngthharkhxngkxngthphptiwticinkhnachati kxngthphptiwtichatimieciyngikhechkepnphubychakarsungsud kxngthphptiwtichatiepnthirbruwaepnkxngkalngtidxawuthaebbkhrbwngcrkhxngcininchwngsngkhram kxngthphptiwtichatiprakxbdwythharpraman 4 300 000 nay mi 370 kxngphl cintwyx 正式师 cintwetm 正式師 46 kxngphlihm cintwyx 新编师 cintwetm 新編師 12 kxngphlthharma cintwyx 骑兵师 cintwetm 騎兵師 8 kxngphlthharmaihm cintwyx 新编骑兵师 cintwetm 新編騎兵師 66 kxngphlchwkhraw cintwyx 暂编师 cintwetm 暫編師 aela 13 kxngphlsarxng cintwyx 预备师 cintwetm 預備師 rwmthngsin 515 hnwy aethlaykxngphlekidcakkarrwmknkhxngsxngkxngphlhruxmakkwa canwnthharinaetlakxngphlmipraman 4 000 5 000 nay kalngphlkhxngkxngthphcinkhnachatithaethiybkbkxngphlyipunaelwmicanwniklekhiyngkn aetenuxngcakkxngthphcinkhnachatinnkhadaekhlndanpunihy xawuthhnk aelayanyntthiichkhnsngkalngphl thaih 4 kxngphlkhxngcinkhnachatimixanacinkarrbethakb 1 kxngphlkhxngkxngthphyipun nxkcakniyngmipyhainkarbriharaelakhwbkhumkxngthphxikdwy enuxngcakxanacinkarkhwbkhumimepnrabb suxkhawkrxng karsngkalngbarunginkarthhar karsuxsar aelakarphyabalnnthuxwayaaey xanackhwbkhumkxngthphcinkhnachatinnaebngxxkepnsxngklum klumaerkkhux kxngthphklang sungepnkarrwmtwkhxngkxngphlthifukinorngeriynthhar hwmpw sungepnkxngphlthicngrkphkditxeciyngikhechkh klumthisxngkhux kxngthphrwm epnkarrwmtwkhxngkxngphlthibychakarodyaemthphkhxngmnthltang hlngcakbtheriynkhwamphayaephkhxngcininkarrukranaemncueriykhxngyipun thaihphrrkhkkmintngimningnxnictxkarkhukkhamkhxngyipunxiktxip kxngthphptiwtichatiidphyayamkxtngkxngthphkhnadihyodysuxxawuthcakeyxrmnaelathakarfukthharihm cdsuxxawuthihm ekhapracainkxngthph kxngthphptiwtichatikhyaykalngphlxyangrwderw inchwngewlaimkipikmicanwnthharswnihyidrbkarfukaebbkxngthpheyxrmn mikaraelkepliynphuechiywchayhruxnkkarthharkbeyxrmnxyangtxenuxng kxngthphckrwrrdiyipun thngkhxngkxngthphckrwrrdiyipunthharkhxngkxngthphckrwrrdiyipun kxngthphckrwrrdiyipunmikalngphlpraman 3 200 000 nay swnihypracakarxyuthipraethscinmakkwathismrphumiaepsifikh canwnthharinaetlakxngphlmipraman 20 000 nay mi 51 kxngphl sung 35 kxngphlpracakarxyuthicin aela 39 kxngphlnxy khidepn 80 khxngkalngphlthnghmdkhxngkxngthphckrwrrdiyipun xikthngyngmihnwyphiessdanpunihy thharma txtanxakasyan aelayanekraa emuxethiybkbkxngthphcinkhnachati thharkxngthphckrwrrdiyipunmiyuthothpkrnthiehnuxkwa thharmiprasbkarninkarrbmakkwa aelamiaephnkarrbthiehnuxkwainchwngtnkhxngsngkhram inchwngerimtnkhxngsngkhramolkkhrngthisxng thharyipunswnihypracakarxyuthicin aetinpi kh s 1942 iderimsngthharippracakarthihxngkng filippins ithy phma hmuekaaxinediytawnxxkkhxngdtch aela malaya ephuxkhyayxiththiphlyudkhrxngphumiphakhexesiyaepsifikaetlapraethsthibukyudidkca txngkhxysngesbiyng aela chwyinkarphlitxawuth rwmthungkareknthphukhnaelaechlysukipepnaerngnganinkarsrangkhaythhar srang thnn srangthangrthif ephuxsadwkinkarkhnesbiyngaelaxawuthyuthothpkrntang ipaenwhna swnphwkphuhyingkcathukcbtwipepnnangbaerxkhxngthharyipun karyuththkhrngsakhyinsngkhramcin yipunkhrngthisxngraykartxipniaesdngthungkaryuththkhrngsakhyinsngkhramcin yipunkhrngthisxng phaphthngthiaesdngdanhnahmaythungfaythiidrbchychna mukedn knyayn ph s 2474 karrukranaemncueriy knyayn ph s 2474 karthpheciyngekiyw tulakhm ph s 2474 kartxtanthisaphanenincang phvscikayn ph s 2474 cinocw thnwakhm ph s 2474 karpxngknemuxngharbin mkrakhm ph s 2475 esiyngih ph s 2475 mkrakhm ph s 2475 karprabpramkhwamimsngbinhmnocwkw minakhm ph s 2475 karpxngknkaaephngemuxngcin mkrakhm ph s 2476 yuththkarthierxehx kumphaphnth ph s 2476 ptibtikarinmxngokeliyin ph s 2476 79 karthphsuyhywn tulakhm 1936 saphanmarokh opol 7 krkdakhm ph s 2480 cuderimtnxyangepnthangkarkhxngsngkhram epyphing ethiynsin krkdakhm ph s 2480 singhakhm ph s 2480 yuththkaremuxngesiyngih singhakhm ph s 2480 singhakhm ph s 2480 singhakhm ph s 2480 knyayn ph s 2480 knyayn ph s 2480 knyayn ph s 2480 yuththkarnanking thnwakhm ph s 2480 yuththkarsuocw thnwakhm ph s 2480 minakhm ph s 2481 mkrakhm ph s 2481 phvsphakhm ph s 2481 phvsphakhm ph s 2481 yuththkarthixuhn mithunayn ph s 2481 tulakhm ph s 2481 kumphaphnth ph s 2482 minakhm ph s 2482 minakhm ph s 2482 phvsphakhm ph s 2482 mithunayn ph s 2482 yuththkarchangcha knyayn ph s 2482 phvscikayn ph s 2482 yuththkarchxngekhakhunhlun thnwakhm ph s 2482 karrukinvduhnaw ph s 2482 83 phvscikayn ph s 2482 minakhm ph s 2483 phvsphakhm ph s 2483 singhakhm ph s 2483 knyayn ph s 2483 phvscikayn ph s 2483 mkrakhm ph s 2484 minakhm ph s 2484 minakhm ph s 2484 phvsphakhm ph s 2484 knyayn ph s 2484 mkrakhm ph s 2485 minakhm ph s 2485 emsayn ph s 2485 phvsphakhm ph s 2486 karsngharhmuchangeciyw tulakhm ph s 2486 phvscikayn ph s 2486 Operation Kogo emsayn ph s 2487 Operation Togo 1 Operation Togo 2 and Operation Togo 3 singhakhm ph s 2487 emsayn mithunayn ph s 2488 emsayn krkdakhm ph s 2488 karbukkhrxngaemncueriykhxngshphaphosewiytwthnthrrmsmyniyminpraethscin phaphyntreruxng bnphuekhaithhang cin 太行山上 xngkvs On the Mountain of Tai Hang epnphaphyntrsngkhramthisranginpi kh s 2005 ekiywkbsngkhramrahwangcinaelayipunsunginrahwangthikxngthphckrwrrdiyipunrukranpraethscininchwngaerknnrthbangsatharnrthcinthipkkhrxngodyphrrkhkkmintng cinkhnachati idthakartxtanrbmuxkarrukrankhxngyipunaetprasbkhwamlmehlw cnfayphrrkhkhxmmiwnistcin kxngthphthiaepdkhxngnayphlcuetxidiptnghlkthiphuekhaithhangaelathasngkhramkxngocrkbyipuncnidrbchychnainthisud phaphyntrtiaephekiywkbxachyakrsngkhramkhxngyipun phaphyntreruxng sathxnthungehtukarnkhxngkarsngharhmunankingodykxngthphyipun phaphyntreruxng Don t Cry Nanking hrux epnphaphyntrpi kh s 1995 bxkelaeruxngrawkhwamxamhitkhxngkxngthphyipunthikrathatxchawnankinginchwngpi kh s 1937 cnklayepnhnunginosknadkrrmkhxngolk odyelaphanchiwitkhrxbkhrwkhxngaephthychawcinkbphrryatngkhrrphchawyipunphrxmluksawthiedinthangklbmayngemuxngnanking kxncaphbwabanemuxngidthukyudkhrxngthalayaelakhalangxyangohdrayodykxngthphyipun phaphyntreruxng hrux Men Behind the Sun phaphyntrxingprawtisastrpi kh s 1988 ekiywkbkhaythdlxngmnusyhnwy 731 khxngckrwrrdiyipun briewndinaednaemncukwodyxasychawcinthiekhraahraymathakarthdlxngmnusyephuxwicyxawuthxyangohdrayinpraethsyipun phaphyntreruxng 戦争と人間 epnphaphyntrthiyipunidcdthakhunmaexng enuxeruxngsathxnehtukarnkhxngsngkhramcakmummxngfayyipunthungkhwamohdraykhxngkarkxngthphyipunthiekhaiprukranpraethscinaelaidkxxachyakrrmsngkhramkhunpraethsxun nwniyayithyeruxng lxdlaymngkr wadwyeruxngrawkhxngchawcinophnthaelthixphyphhniphysngkhraminaephndincinthirukranodykxngthphyipunmatngthinthaninpraethsithyechingxrrthxangxing Taylor Jay The Generalissimo p 645 Chung Wu Taipei History of the Sino Japanese war 1937 1945 1972 pp 535 Jowett Phillip Rays of the Rising Sun hna 72 Clodfelter Michael Warfare and Armed Conflicts A Statistical Reference Vol 2 pp 956 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 03 13 subkhnemux 2008 11 02 Huang Zheping Huang Zheping China is rewriting textbooks so its eight year war of resistance against Japan is now six years longer Quartz phasaxngkvs subkhnemux 2019 04 08 Ferris John Mawdsley Evan 2015 The Cambridge History of the Second World War Volume I Fighting the War phasaxngkvs Cambridge Forster amp Gessler 2005 p 64 Bix Herbert P 1992 The Showa Emperor s Monologue and the Problem of War Responsibility Journal of Japanese Studies 18 2 295 363 doi 10 2307 132824 Hotta E 25 December 2007 Pan Asianism and Japan s War 1931 1945 Palgrave Macmillan US p 40 ISBN 978 0 230 60992 1 Paine S C M 20 August 2012 The Wars for Asia 1911 1949 Cambridge University Press p 123 ISBN 978 1 139 56087 0 A Joint Study of the Sino Japanese War 1931 1945 Harvard University Asia Center Mitter Rana 2014 Forgotten Ally China s World War II 1937 1945 Mariner Books ISBN 978 0 544 33450 2 Brinkley Douglas The New York Times Living History World War II 1942 1945 The Allied Counteroffensive subkhnemux 1 September 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 mithunayn 2012 subkhnemux 1 knyayn 2015 Wilson Dick When Tigers Fight The story of the Sino Japanese War 1937 1945 p 5 Wilson Dick p 4 13 August 1923 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 22 subkhnemux 2010 09 15 Palmer and Colton A History of Modern World p 725 Taylor Jay p 57 Taylor Jay p 79 p 82 Boorman Biographical Dictionary vol 1 p 121 Taylor Jay p 83 Fu Jing hui An Introduction of Chinese and Foreign History of War 2003 p 109 111 brrnanukrm Bayly C A and T N Harper Forgotten Armies The Fall of British Asia 1941 1945 Cambridge MA Belknap Press of Harvard University Press 2005 xxxiii 555p ISBN 0 674 01748 X Bayly C A T N Harper Forgotten Wars Freedom and Revolution in Southeast Asia Cambridge MA Belknap Press of Harvard University Press 2007 xxx 674p ISBN 978 0 674 02153 2 Benesch Oleg Castles and the Militarisation of Urban Society in Imperial Japan Transactions of the Royal Historical Society Vol 28 Dec 2018 pp 107 134 Buss Claude A War And Diplomacy in Eastern Asia 1941 570pp online free 1976 The Rise of Nationalism in Vietnam 1900 1941 Ithaca New York ISBN 0 8014 0951 9 Gordon David M The China Japan War 1931 1945 Journal of Military History January 2006 v 70 1 pp 137 82 14 minakhm 2020 thi ewyaebkaemchchin Historiographical overview of major books from the 1970s through 2006 Guo Rugui editor in chief Huang Yuzhang 中国抗日战争正面战场作战记 China s Anti Japanese War Combat Operations Jiangsu People s Publishing House 2005 ISBN 7 214 03034 9 On line in Chinese Hastings Max 2009 Retribution The Battle for Japan 1944 45 Vintage Books ISBN 978 0 307 27536 3 Forster Stig Gessler Myriam 2005 The Ultimate Horror Reflections on Total War and Genocide In Roger Chickering Stig Forster and Bernd Greiner eds A World at Total War Global Conflict and the Politics of Destruction 1937 1945 pp 53 68 Cambridge ISBN 978 0 521 83432 2 Hsiung James Chieh Levine Steven I b k 1992 China s Bitter Victory The War with Japan 1937 1945 Armonk NY M E Sharpe ISBN 0 87332 708 X Reprinted 7 minakhm 2021 thi ewyaebkaemchchin Abingdon Oxon New York Routledge 2015 Chapters on military economic diplomatic aspects of the war Huang Ray 31 January 1994 從大歷史的角度讀蔣介石日記 Reading Chiang Kai shek s Diary from a Macro History Perspective China Times Publishing Company ISBN 957 13 0962 1 Annalee Jacoby and Theodore H White Thunder out of China New York William Sloane Associates 1946 Critical account of Chiang s government by Time magazine reporters Jowett Phillip 2005 Rays of the Rising Sun Japan s Asian Allies 1931 45 Volume 1 China and Manchukuo Helion and Company Ltd ISBN 1 874622 21 3 Book about the Chinese and Mongolians who fought for the Japanese during the war Hsu Long hsuen Chang Ming kai 1972 History of the Sino Japanese war 1937 1945 Chung Wu Publishers ASIN B00005W210 Lary Diana and Stephen R Mackinnon eds The Scars of War The Impact of Warfare on Modern China Vancouver UBC Press 2001 210p ISBN 0 7748 0840 3 Laureau Patrick June 1993 Des Francais en Chine 2eme partie The French in China Avions Toute l aeronautique et son histoire phasafrngess 4 32 38 ISSN 1243 8650 MacKinnon Stephen R Diana Lary and Ezra F Vogel eds China at War Regions of China 1937 1945 Stanford University Press 2007 xviii 380p ISBN 978 0 8047 5509 2 Macri Franco David Clash of Empires in South China The Allied Nations Proxy War with Japan 1935 1941 2015 online 3 tulakhm 2017 thi ewyaebkaemchchin 2013 Forgotten Ally China s World War II 1937 1945 HMH ISBN 978 0 547 84056 7 cakaehlngedimemux 12 October 2022 subkhnemux 27 January 2020 Peattie Mark Edward Drea and Hans van de Ven eds The Battle for China Essays on the Military History of the Sino Japanese War of 1937 1945 Stanford University Press 2011 614 pages Quigley Harold S Far Eastern War 1937 1941 1942 online free Steiner Zara Thunder from the East The Sino Japanese Conflict and the European Powers 1933 1938 in Steiner The Triumph of the Dark European International History 1933 1939 2011 pp 474 551 Stevens Keith March 2005 A token operation 204 military mission to China 1941 1945 Asian Affairs 36 1 66 74 doi 10 1080 03068370500039151 S2CID 161326427 Taylor Jay 2009 The Generalissimo Chiang Kai shek and the struggle for modern China Cambridge Massachusetts Harvard University Press ISBN 978 0 674 03338 2 Van de Ven Hans Diana Lary Stephen MacKinnon eds Negotiating China s Destiny in World War II Stanford University Press 2014 336 pp online review 26 mithunayn 2015 thi ewyaebkaemchchin van de Ven Hans 2017 China at War Triumph and Tragedy in the Emergence of the New China 1937 1952 London Cambridge MA Harvard University Press 2017 Profile Books ISBN 9781781251942 cakaehlngedimemux 12 October 2022 subkhnemux 3 January 2020 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint location Wilson Dick 1982 When Tigers Fight The story of the Sino Japanese War 1937 1945 New York Viking Press ISBN 0 670 76003 X Zarrow Peter 2005 The War of Resistance 1937 45 China in War and Revolution 1895 1949 London Routledge China at war Volume 1 Issue 3 China Information Committee 1938 p 66 subkhnemux 21 March 2012 Issue 40 of China a collection of pamphlets Original from Pennsylvania State University Digitized 15 September 2009aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhramcin yipunkhrngthisxng cdhmayehtuhnngsuxphimphsngkhramolkkhrngthisxng sngkhramincin ph s 2480 ph s 2488 2003 11 29 thi ewyaebkaemchchin bnthukkhxngflayxing ithekxr cin xngkvs KangZhan org prawtiaelarupphaphkhxngsngkhramcin yipunkhrngthisxng 2005 11 18 thi ewyaebkaemchchin thharyipuninsngkhramcin yipunkhrngthisxng ph s 2480 ph s 2488 phasayipun History and Commercial Atlas of China sankphimphmhawithyalyharward ph s 2478 ody Albert Herrmann Ph D dudanlangkhxngraychuxaephnthi ph s 2473 Perry Castaneda Library Map Collection aephnthicin matraswn 1 250 000 Series L500 aephnthithharshrth ph s 2497 aephnthicinprahwangsngkhram Perry Castaneda Library Map Collection Manchuria 1 250 000 Series L542 aephnthithharshrth ph s 2493 aephnthidinaednaemncueriyrahwangsngkhram ngansuksarwmsngkhramcin yipun mhawithyalyharward okhrngkarephuxsubkhnaelakhyaykarwicyephuxkarphthnakhwamrwmmuxrahwangnkwichakaraelasthabnkhxngcin yipun shrthxemrika aelachatixun 1 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk xangxingphidphlad mipayrabu lt ref gt sahrbklumchux lower alpha aetimphbpayrabu lt references group lower alpha gt thisxdkhlxngkn